22 พฤศจิกายน 2567, 23:23:27
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: [1]   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: วันนี้ คุณกอดใครแล้วหรือยัง ? ถ้ายังไม่มีใคร ก็กอดคุณพ่อ คุณแม่ พี่ๆ น้องๆ และ ลูกๆ ได้  (อ่าน 13699 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
****


จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915

« เมื่อ: 06 มกราคม 2554, 07:02:40 »


ได้มาจาก Fw.mail ขอนำมาเก็บไว้ และ ให้พวกเราได้ดูด้วย
เขียนโดย ไพลิน ถาวรวิจิตร และ GTH Team
เคยสังเกตไหม... เวลาคุณ *"กอด" *ใคร
คุณมักซบไปทางด้านซ้ายของอีกฝ่าย
อาจเป็นเพราะนั่นคือตำแหน่งที่ตั้งของหัวใจ
หากคุณ *"กอด"* เขาไว้นานเพียงพอ
จังหวะการเต้นของหัวใจ 2 ดวง ก็จะเปลี่ยนเป็นจังหวะเดียวกัน ในที่สุด



*"กอด"* คือเสื้อกันหนาวที่มีหัวใจ ?
*Hugging* is a jacket which has a heart.

ถึงแม้คอมพิวเตอร์จะทำได้แทบทุกอย่าง แต่ข้อเสียของมันก็คือ ลุกขึ้นมา *"กอด"* คุณไม่ได้
Although a computer can do almost everything but certainly, it cannot give you *?a hug?*.

ถ้าวันหนึ่งไม่มีเธอให้ *"กอด"* แล้วฉันจะโทษใครได้ ?
If one day you are not here to *hug*, who else should I blame?



*"กอด"* คือ การแสดงความเป็นเจ้าของที่น่ารัก ?
*Hugging* is a cute expression between lovers.



แม้ชีวิตนี้คุณจะมีใครให้ *"กอด"* แม้เพียงคนเดียว นั่นก็เพียงพอแล้วสำหรับการดำรงชีวิต ?
Even though you?ve got only one person in your life to *hug*, that?s enough.



*"กอด"* คือ การได้ให้และการได้รับพร้อม ๆ กัน ?
*Hugging* is at the same time, the giving and receiving.



ในอนาคต *"กอด"* อาจหายากพอ ๆ กับเวลา ?
In the near future, *?hug?* might be as hard to find as ?time?.



*"กอด"* ทำให้รู้ว่าเมื่อหัวใจอีกดวงมาเต้นอยู่ที่อกด้านขวาบ้างจะเป็นไง ?
*Hugging* displays that ?there will be a heart beat of others which keeps beating while you hug?



เมื่อคุณถูก *"กอด"* คุณจะตัวเล็กลง ?
When you are being *hugged*, you will be smaller.



แต่เมื่อคุณ *"กอด"* คนอื่น คุณจะตัวใหญ่ขึ้น ?
BUT When you *hug* someone, you will be bigger.



*"กอด"* คือคำว่า "ฉันอยู่นี่" ?
*Hugging* is ? I am here?.



*"กอด"* ทำให้รู้ว่าเราไม่ได้อยู่คนเดียวบนโลก ?
*Hugging* displays that we are not alone in the planet.



ภาษาพูดแทนความรู้สึกได้ดี แต่สำหรับบางเวลา *"กอด"* อาจเป็นตัวช่วยที่ดีกว่า ?
Speaking is the good way of feeling communication
but sometime *?hug?* might be a better assistance.



*"กอด"* คือ การแลกเปลี่ยน "ความลับทางอารมณ์" ระหว่างกัน ?
*Hugging* is the exchange of two people?s secret feelings and emotions.



*"กอด"* ช่วยสลายทิฐิบางอย่างในใจเรา ?
*?Hugging?* disintegrates some conviction in our minds.



เมื่อคุณกลับบ้าน สิ่งที่ควรทำหลังจาก ?สวัสดี? คือ เข้าไป *"กอด"* คนที่คุณรัก ?
When you are arrived home, thing you should do besides saying ?hello? is *hugging* the one you love.



บางครั้งเราไม่รู้หรอกว่าเราต้องการ *"กอด"* มากแค่ไหน จนกว่าจะได้เห็นคนอื่นเค้ากอดกัน ?
Sometime you may not realize to *hug* someone, once you observe it from others.



*"กอด"* คือ ทางสายกลางของการแสดงออกซึ่งความรัก ?
*Hugging* is a mind average of expression.



*"กอด"* คือ การเต้นรำในจังหวะเดียวกัน ?
*Hugging* is the some rhythm of heart beating.



*"กอด"* ทำให้รู้ว่ายังมีคนอ้วนกว่าเรา ?
*Hugging* defines that ?there will be someone who has more weight than you?.



สุดท้ายแล้วคนเราก็ต้อง *"กอด"* ตัวเองในที่แคบ ๆ



วันนี้คุณกอดใครแล้วหรือยัง ?


                    
<a href="http://www.youtube.com/watch?v=R6H_TMbqT3A" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=R6H_TMbqT3A</a>

<a href="http://www.youtube.com/watch?v=_42awhGYQsk" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=_42awhGYQsk</a>

รักนะ รักนะ รักนะ
      บันทึกการเข้า

3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #1 เมื่อ: 07 มกราคม 2554, 17:42:27 »

พี่หมอที่เคารพ,
ในฐานะที่หนิงใช้ชีวิตกับฝรั่ง
ในแวดวงฝรั่ง...

ขอcommentเรื่องนี้ตามที่ได้ประสบด้วยตัวเอง.

สังคมไทยมีการไหว้ (bowing)
มีระยะห่าง...
การสัมผัส touching...การกอด hug
เป็นสิ่งที่ดูเหมือนผูกขาดไว้ในบางวัย
เช่นวัยเด็ก พ่อแม่กอดลูกทารก ลูกเล็กๆ
พอเริ่มโต,การสัมผัส กอดรัด ดูจะร้างราไป
จะด้วยเหตุผลอะไรก็ตามแต่
มาผนวกกะการแสดงความรักในที่สาธารณะ
ดูจะเอียงอายขัดเขินกันทั้งสองฝ่ายว่าจะดูไม่ดี
หนิงไม่ได้พูดถึงวัยรุ่น ตอนเป็นแฟนกัน
แต่หมายถึงทุกช่วงวัย....เพราะการแสดงความรัก
ไม่ได้จำกัดว่าเฉพาะคนที่กำลังตกอยู่ในห้วงรัก
เพิ่งรู้จัก.
เวลาไปนั่งในที่สาธารณะ-->ตาและใจต้องสาธารณะด้วย!
 oopst,excuse me!
หมายถึงว่าสังเกตคนรอบๆ หนิงพบว่ากิริยา
ที่ชายแสดงต่อหญิง บ่งบอกหรือเดาได้เลย
ว่าเค้าๆมีสถานะใดต่อกันและกัน!
ถ้านั่งชิดแนบ งุบงิบ hand in hand
เค้ายังไม่แต่ง!แต่ถ้านั่งตรงกันข้าม ไม่พูดกันสักคำ
แม่นแหง,แต่งมานานหลายปีดีดัก!

ทำไมเป็นยังงั้นคะ?

บางทีผู้ชายเดินทางนึง ผู้หญิงเดินอีกทางนึง
เหมือนไม่ได้มาด้วยกัน ทั้งๆที่เรารู้ว่าเค้าเป็นคู่กัน
ถาม,ก็จะว่า...ไม่เห็นต้องโชว์ ไม่เห็นต้องแสดง
belong toกันและกัน
      บันทึกการเข้า


khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #2 เมื่อ: 07 มกราคม 2554, 17:51:05 »

รึว่าการแสดงความรักเป็นสิ่งที่ต้องทำใน
ที่มิดชิดมีรั้วรอบ มีบังตา?
ถามเราๆว่าได้กอดใครมั่งปีที่แล้ว?
กอดจริงๆคะ ชั่วระยะแบบดื่มด่ำในสัมพันธภาพ
ไม่มีจิตคิดไปในทางอื่น...
อูววว คำตอบจะ bluffเราให้เห็นว่า
เราห่างเหินกันมากคะ!

ก็ไม่ไช่วัฒนธรรมไทย--->เสียงส่วนใหญ่แย้ง
ก็ร้อน กอดได้ไงตัวเหนียวๆ--->ผู้รักสุขลักษณะแย้งอีก
อายเค้า มีอายุกันแล้ว--->สว.หลายคนแถวๆนี้คิดในใจ
ฮ้าย,ไม่เห็นจำเป็น ถัวด้วยอากัปอย่างอื่นแล้วนี่--->พวกว่า
..
..
Ausreden!
      บันทึกการเข้า


khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #3 เมื่อ: 07 มกราคม 2554, 17:59:59 »

รู้เรื่องนี้เมื่อไปอยู่ไปใช้ชีวิตในที่อื่น
สังคมอื่น ที่อาการที่คนแสดงต่อกัน
"herzlich"เผลอๆไม่ต้องพูดกันมาก
แต่อ่าน body languageกันได้

สถานะไหน เมื่อไหร่จึงจะจับมือเท่านั้น
เมื่อไหร่กอดกันเป็นการทักทาย
เมื่อไหร่จูจุ๊บแก้ม...

ไม่ไช่เจอะปุ๊บกระโดดกอด จ๊วบฟอดใหญ่
ยิปปี้ดีใจจัง ได้หอมแก้มคนนั้น คนนี้
ไม่นะคะ!

ใช้เวลาของการขยับ เลื่อนขั้น
จากคนรู้จัก ไปรู้จักมาก,ติดเนื้อต้องใจ
ไปเป็นเพื่อน...หญิง-ชายไม่เกี่ยง
วัยไม่เกี่ยง

อูฮ้า,sheสนใจไคร่รู้ว่าหญิงไทยหลายๆผู้
ผู้มาจากเมืองไทย มาจากความความคิด
ความเชื่อเดียวกัน เค้าเห็นธรรมเนียม
วัฒนธรรมใหม่เป็นอย่างไร
      บันทึกการเข้า


Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
****


จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915

« ตอบ #4 เมื่อ: 07 มกราคม 2554, 18:06:21 »

อ้างถึง
ข้อความของ khesorn mueller เมื่อ 07 มกราคม 2554, 17:42:27
พี่หมอที่เคารพ,
ในฐานะที่หนิงใช้ชีวิตกับฝรั่ง
ในแวดวงฝรั่ง...

ขอcommentเรื่องนี้ตามที่ได้ประสบด้วยตัวเอง.

สังคมไทยมีการไหว้ (bowing)
มีระยะห่าง...
การสัมผัส touching...การกอด hug
เป็นสิ่งที่ดูเหมือนผูกขาดไว้ในบางวัย
เช่นวัยเด็ก พ่อแม่กอดลูกทารก ลูกเล็กๆ
พอเริ่มโต,การสัมผัส กอดรัด ดูจะร้างราไป
จะด้วยเหตุผลอะไรก็ตามแต่
มาผนวกกะการแสดงความรักในที่สาธารณะ
ดูจะเอียงอายขัดเขินกันทั้งสองฝ่ายว่าจะดูไม่ดี
หนิงไม่ได้พูดถึงวัยรุ่น ตอนเป็นแฟนกัน
แต่หมายถึงทุกช่วงวัย....เพราะการแสดงความรัก
ไม่ได้จำกัดว่าเฉพาะคนที่กำลังตกอยู่ในห้วงรัก
เพิ่งรู้จัก.
เวลาไปนั่งในที่สาธารณะ-->ตาและใจต้องสาธารณะด้วย!
 oopst,excuse me!
หมายถึงว่าสังเกตคนรอบๆ หนิงพบว่ากิริยา
ที่ชายแสดงต่อหญิง บ่งบอกหรือเดาได้เลย
ว่าเค้าๆมีสถานะใดต่อกันและกัน!
ถ้านั่งชิดแนบ งุบงิบ hand in hand
เค้ายังไม่แต่ง!แต่ถ้านั่งตรงกันข้าม ไม่พูดกันสักคำ
แม่นแหง,แต่งมานานหลายปีดีดัก!

ทำไมเป็นยังงั้นคะ?

บางทีผู้ชายเดินทางนึง ผู้หญิงเดินอีกทางนึง
เหมือนไม่ได้มาด้วยกัน ทั้งๆที่เรารู้ว่าเค้าเป็นคู่กัน
ถาม,ก็จะว่า...ไม่เห็นต้องโชว์ ไม่เห็นต้องแสดง
belong toกันและกัน


น้องหนิง  รักนะ

         เรื่องกอดกันนี้ เป็นวัฒนธรรมฝรั่ง แต่ให้ความรู้สึกที่ดี

พี่ ไม่ได้โพสต์ ให้ คู่สามี ภรรยา ไปกอดกันในที่สาธารณะ

         ถ้าจะกอดกัน ควรทำให้ที่ส่วนตัว เพื่อเพิ่มความผูกพัน

และ ให้ความอบอุ่นแก่กันและกันมากขึ้น

                             ปิ๊งๆ ปิ๊งๆ ปิ๊งๆ

                 

         และ เพื่อมุ่งหวังให้ พ่อ แม่ ลูก ได้กอดกัน ในที่ส่วนตัว

เพิ่มจากการยกมือไหว้แบบไทย จะได้มีความอบอุ่น ผูกพันกันมากยิ่งขึ้น

ตามเนื้อหาในบทความ ที่นำมาโพสต์ ครับ
  หลั่นล้า หลั่นล้า หลั่นล้า

                            win win win
      บันทึกการเข้า

3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #5 เมื่อ: 07 มกราคม 2554, 18:11:41 »

จริงด้วยคะพี่หมอ,
เค้าๆไว้ตัว ขัดเขิน
ทำไม่เป็น ตัวแข็งทื่อ
peinlich!อิตาบร้าาาา
ว้าย,อะไรก็ไม่รู้ จั๊กกะเดี๋ยม!

นานคะ กว่าจะปรับตัว เรียนรู้
พี่คนนึงถึงบอกหนิงว่า
เธอรู้สึกว่าสังคมที่โน่นดูเหมือน
ไม่มีใครแคร์ใคร แต่มองลึกๆ
เค้าเดินกัน เค้าทักทายกัน!
ค่ะ,ในที่สาธารณะ เกิดมาไม่เคยรู้จัก
แต่สวนทางกัน เค้า greetingกันค่ะ
ต้อง möö,ต้อง mäee,ต้องbowwow
กันล่ะ เราเป็นมนุษย์สังคมนี่! เค้าๆว่า

การทักทายตรงนี้...แปลกใหม่อีกเหมือนกัน!
แถบที่sheอยู่ หูต้องคม ปากต้องไว
เค้าทักมา เราตอบทันที,เราทักไป เค้าว่าอะไร
ทำให้เป็นนิสัย,คุยกันระหว่างทาง
เรื่องหมูหมากาไก่ หิมะ ลูกเห็บ พืชผล
แตกฟองแล้ว แยกทางกันเผลอๆshake handคะ
เป็นbody languageที่อบอุ่นในใจค่ะ
      บันทึกการเข้า


khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #6 เมื่อ: 07 มกราคม 2554, 18:23:16 »

ทีนี้มาพูดถึงการกอดรัด สัมผัสที่พี่หมอหมายถึง
ในครอบครัว,ขอหนิงย้อนกลับไปคะว่าพ่อแม่
กอดหนิงครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่!
กอดจริงๆ กอดแน่นๆ

หนิงมองลูกๆหนิง
เหอๆ!
กอดทุกวัน 15ปีเต็มคนโต
13ปีเต็มๆคนเล็ก...
สามีต่อภรรยา...อูฮ้า!
ไม่กอดดีกว่าดูจะนับง่ายกว่า!!
คิกๆ
แต่เป็นแบบนั้นจริงๆคะพี่
ตอนแรกนึกว่าเฉพาะเรา
แต่สังเกตรอบๆ...พ่อแม่ 87-88 กอดลูก 57-58
เหมือนเป็นกิจวัตรที่คุ้นเคย เมื่อมามองว่า
ลูกชายน่ะห่างอกออกไปสู่โลกภายนอกตั้ง40ปีแล้ว!
หรือหนิงเห็นบาทหลวงทำพิธี Konfirmation
เสร็จสิ้นหน้าแป้น เอ๊ะทำไม 14 จาก 15 คน
แค่ shake hand แต่ 1 ใน Konfirmantบาทหลวงกอดแถม!
แน่น...จริงใจ...แขกในโบสถ์งึมงำ..
ลูกชายเค้าค่ะ!มีพ่อซึ่งในฐานะนึงคือบาทหลวง
ทำพิธีให้,กับอีกสถานะนึง เป็นพ่อ
คนทั้งโบสถ์ถึงปรบมือให้การแสดงที่"herzlich"
hearty...ของเค้า
      บันทึกการเข้า


khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #7 เมื่อ: 07 มกราคม 2554, 18:33:28 »

พี่หมอคะ,
หนิงจำได้ว่ากลับมาเมืองไทยเมื่อปี 2007
หนิงลืมตัว ขอกอดพี่ๆหลายๆคน
อุเหม่,ถ้าไม่กลัวเค้าจะรังเกียจรังงอน
เผลอๆจะกอดพี่ผู้ชายด้วย!!
ไม่คะ,ไม่ได้เว่อร์ตามฝรั่ง
แต่เพราะการกอดกันนั้น
แทนความรู้สึกได้ดีกว่าคำพูด!!
ภาษากายปิดกันไม่ได้คะ.
หนิงจะบอกพี่หมอว่า...
อยากให้ทุกคนฝึกทำให้เป็นนิสัย
กะทุกคนในครอบครัวคะ
หลายๆครั้งบ่อยๆ..
ความไม่เข้าใจ ความเหินห่าง
ความขัดแย้ง....มลายลง
มีกำลังที่จะมองไปข้างหน้า.

เดี๋ยว,ขอหนิงไปอาบน้ำก่อน
กอดใครตอนนี้...เป็นได้โดนผลัก!
คิกๆ


nn.27
      บันทึกการเข้า


ดร.มนตรี
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,540

« ตอบ #8 เมื่อ: 07 มกราคม 2554, 23:40:30 »

สงสัยกอดแรงไปหน่อย  เหอๆๆ เหอๆๆ

      บันทึกการเข้า
ดร.มนตรี
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,540

« ตอบ #9 เมื่อ: 07 มกราคม 2554, 23:50:27 »

นิดนึง  เขินน๊า!!



      บันทึกการเข้า
khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #10 เมื่อ: 08 มกราคม 2554, 00:01:11 »

ม่ายคะ,
กอดแบบกอด
กอดจริงๆ
ไม่ไช่"เกี่ยว" อย่างในรูปคะ
      บันทึกการเข้า


เอมอร 2515
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu 2515
คณะ: รัฐศาสตร์(นิติศาสตร์)
กระทู้: 4,562

« ตอบ #11 เมื่อ: 08 มกราคม 2554, 08:37:27 »

ใช่น้องหนิงในรูปเรียกว่าเกี่ยวได้จริงๆ
พี่ออกความเห็นหน่อย  ส่วนใหญ่คนไทยเป็นคนที่เขินมากในการกอดหรือถูกกอด เพราะไม่ใช่วัฒนธรรม ของเรา เราต้องเก็บกิริยาอาการจะแสดงรักออกนอกหน้าไม่ได้ แต่ก่อนพ่อแม่กอดลูกน้อยมาก โดยเฉพาะพี่เท่าที่จำความได้ ไม่เคยถูกพ่อแม่กอดเลยอย่างเก่งก็เดินโอบเอวกับพ่อเวลาเดินดูต้นไม้เท่านั้น ( พี่เป็นคนโอบเองนะไม่ใช่พ่อ)แต่พอพี่มีลูกกอดลูกบ่อยมาก ( ลูกเป็นคนกอดเป๋นส่วนใหญ่)เดี๋ยวนี้ลูก    ๑๗ แล้ว ก็ยังกอดกันวันละมากกว่า ๒ ครั้งกอดแบบได้ใจเลย เรียกว่า ถ้ากระดูกพรุนคงหักไปข้างหนึ่ง แต่พี่สนับสนุน นะ เป็นการให้ความอบอุ่นในครอบครัว ตั้งกระทู้ดีนะคะสนับสนุนค่ะ
      บันทึกการเข้า
ดร.มนตรี
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,540

« ตอบ #12 เมื่อ: 08 มกราคม 2554, 08:57:58 »

555+ ครับพี่หนิง พี่เอมอร ... รูปกอดแล้วมาโพส ออกสื่อนี่มันเขิล อยู่นา ...ครับ
  เขินน๊า!!
ปล.

เกี่ยว ... แล้วก็...ใกล้  รักนะ





      บันทึกการเข้า
ดร.มนตรี
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,540

« ตอบ #13 เมื่อ: 08 มกราคม 2554, 09:08:40 »

แต่สนับสนุนเรื่องกอด นะครับ ... ครอบครัวผมตั้งแต่รุ่นพ่อแม่ จนถึงรุ่นลูกๆ ก็แทบจะกอดกัน หอมแก้มกัน เป็นอาชีพ ...

ลูกชายผมเป็นหนุ่มแล้ว ... ไปเดินห้างด้วยกัน ยังกอดยังหอมแก้มกันกลางห้างอยู่บ่อยๆ   บ่ฮู้บ่หัน


... จนลูกชายต้องแอบกระซิบ ... พ่อๆ ใครๆเขาจะนึกว่าเราเป็นคู่เกย์กันมั้ยเนี่ย
 เหอๆๆ





      บันทึกการเข้า
khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #14 เมื่อ: 08 มกราคม 2554, 21:24:37 »

น้องมนตรี!
อีกกี่รูป...ก็ยัง"เกี่ยว"อยู่นั่นเอง!
รอแป๊บ
พี่ล่ะชักรำคาญ




(รู้นะว่าพี่ล้อเล่น!เดี๋ยวไปตั้งกล้องกอดกันกลม
มาลงล่ะ...ได้อยากกอดมั่งกันทั้งเวบ.....ฮี้)
      บันทึกการเข้า


khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #15 เมื่อ: 08 มกราคม 2554, 21:38:56 »

อ้างถึง
ข้อความของ เอมอร 2515 เมื่อ 08 มกราคม 2554, 08:37:27
ใช่น้องหนิงในรูปเรียกว่าเกี่ยวได้จริงๆ
พี่ออกความเห็นหน่อย  ส่วนใหญ่คนไทยเป็นคนที่เขินมากในการกอดหรือถูกกอด เพราะไม่ใช่วัฒนธรรม ของเรา เราต้องเก็บกิริยาอาการจะแสดงรักออกนอกหน้าไม่ได้ แต่ก่อนพ่อแม่กอดลูกน้อยมาก โดยเฉพาะพี่เท่าที่จำความได้ ไม่เคยถูกพ่อแม่กอดเลยอย่างเก่งก็เดินโอบเอวกับพ่อเวลาเดินดูต้นไม้เท่านั้น ( พี่เป็นคนโอบเองนะไม่ใช่พ่อ)แต่พอพี่มีลูกกอดลูกบ่อยมาก ( ลูกเป็นคนกอดเป๋นส่วนใหญ่)เดี๋ยวนี้ลูก    ๑๗ แล้ว ก็ยังกอดกันวันละมากกว่า ๒ ครั้งกอดแบบได้ใจเลย เรียกว่า ถ้ากระดูกพรุนคงหักไปข้างหนึ่ง แต่พี่สนับสนุน นะ เป็นการให้ความอบอุ่นในครอบครัว ตั้งกระทู้ดีนะคะสนับสนุนค่ะ

เมื่อปี 1994ที่หนิงจัดพิธีแต่งงาน
น้องแฟนหนิง+น้องสะใภ้มาด้วย
ความที่พวกเค้าไม่ไช่จะคุ้นเคย
โลกภายนอกมากเหมือนแฟนหนิง
น้องสะใภ้เค้าจึงเหน็ดเหนื่อยต่อการ
ต้องสัมผัส-ร่วมกะคนแปลกหน้า
เธอไม่คุ้นเคย...หนิงก็พูดภาษาเยอรมันไม่เป็น
เธอก็พูดอังกฤษไม่คล่อง...เห็นใจค่ะ
ที่เห็นเธอต้องหลบไปยืนรอบนอกเดียวดาย.


สามีเค้าจะคอยออกไปคุย
ไม่คุยเปล่าคะ!
เค้ากอดรวบภรรยาเค้าแน่น
ไม่เคยเห็นแบบนั้นมาก่อนคะ
เป็น body language ที่บอกว่า
"I'm here by you..everything 's gonna be alright"


จำได้ว่าพวกสาวโสดวี้ดว้าย
กรี้ดสลบ!
ไช่ค่ะพี่เอมอร พี่หมอ น้องมนตรี
มันเป็นภาษากายที่งดงาม ไม่โป๊.

บางที,ไม่กอดคะ he.... kiss!
อูว้าววว คนไทยมองแล้วเขินจัง.

ถามว่าเดี๋ยวนี้,
17ปีให้หลัง
เค้าๆยังปฏิบัติต่อกันแบบนั้นมั้ย?
ไม่เปลี่ยนแปลงคะ.

หนิงน่ะเห็นพ่อแฟนกอดหรือจูบภรรยา
ต่อหน้าลูกหลานบ่อยไป....86-87กันแล้วคะ
ใครบอกว่ามีขีดขั้นทางเพศ-อายุ?
เค้าๆสมรสกันมาจะครบ 60 ปี ตุลาปีนี้!
สิ่งปลีกย่อยเหล่านี้คะ ที่ทำให้เค้าๆแข็งแรง.
      บันทึกการเข้า


เอมอร 2515
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu 2515
คณะ: รัฐศาสตร์(นิติศาสตร์)
กระทู้: 4,562

« ตอบ #16 เมื่อ: 09 มกราคม 2554, 09:31:54 »

น้องหนิง พี่สนับสนุนว่า(สรุปชาติอื่นๆในอมเริกาและยุโรปว่าฝรั่งแล้วกันนะ)ฝรั่งอายุมากยังคงแสดงความรัก ความห่วง ดูแลซึ่งกันและกันอย่างดี เห็นแล้วน่ารักน่าชื่นชม คู่ของคนไทยน้อยนักที่จะเห็นคู่ที่น่าชื่นชมอย่างนั้น
 กลับมาเรื่องกอดอีกครั้ง คนไทยรุ่นพี่ไม่นิยมการกอดเท่าไรนัก  ตอนที่พี่ทำงานกับชาวต่างประเทศ และคงไม่ชินกับการถูกกอด หลายปีมาแล้วตอนถูกกอดครั้งแรกๆ พี่มีเพื่อนชาวฟิลิปปินส์แม้จะเป็นผู้หญิงทุกครั้งที่พบเขาจะกอดแล้วแนบแก้ม ก็ยังอึดอัด พอจะเจอต้องตั้งใจว่าเมื่อเขากอดมือเราจะวางที่ตัวเขาตรงไหน ยีงไม่เป็นธรรมชาติ แต่ตอนนี้สบายมาก กอดกับลุกบ่อยๆ
 อีกครั้งเพื่อนผู้หญิงผู้ชาวออสเตรเลียมาเมืองไทยพี่เลยนัดพบกันที่ทำงานพี่พอพบกันเขาเข้ามากอด น้องๆที่ทำงานพี่จ้องกันใหญ่เลย เขาคงรู้สึกประหลาด พี่เองก็เขินนิดหน่อยเพราะคนมองมาก ตอนพบกันที่ออสเตรเลีย ก็กอดกันเป็นปกติพี่ก็ไม่รู้สึกอะไรรู้สึกถึงความดีใจของเขา แต่พออยู่เมืองไทย เราก็รู้ว่าเราสิ่งที่เราทำไม่ปกติ คงต้องมั่นใจในสิ่งที่เราทำแล้วเรามั่นใจว่าถูกต้องให้มากกว่า
นี้
      บันทึกการเข้า
มีนา
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2515
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 1,865

« ตอบ #17 เมื่อ: 09 มกราคม 2554, 12:59:59 »

อ้างถึง
ข้อความของ เอมอร 2515 เมื่อ 09 มกราคม 2554, 09:31:54
น้องหนิง พี่สนับสนุนว่า(สรุปชาติอื่นๆในอมเริกาและยุโรปว่าฝรั่งแล้วกันนะ)ฝรั่งอายุมากยังคงแสดงความรัก ความห่วง ดูแลซึ่งกันและกันอย่างดี เห็นแล้วน่ารักน่าชื่นชม คู่ของคนไทยน้อยนักที่จะเห็นคู่ที่น่าชื่นชมอย่างนั้น
 

เจอข้อความส่วนนี้ นึกถึงเรื่องเพื่อนเล่าให้ฟัง ว่าไปเที่ยวยุโรป 18 คน (เพื่อนสิงห์ดำนี่แหละ)
ไกด์จำวันกลับผิด  เช็คเอาท์ไปถึงสนามบินแล้วกลายเป็นกลับวันรุ่งขึ้น รถที่มาส่งก็กลับไปแล้ว
ต้องกลับโรงแรม หารถขนกระเป๋ากันวุ่นวายทุกคนต้องช่วยตัวเองรถ(2 คัน)ก็จอดไกล ถามกันแล้วว่าคนครบ
ถึงโรงแรมหายไปคนนึง ไปบอกสามีว่าภรรยาหายไปยังหัวเราะนึกว่าเพื่อนล้อเล่น ปกติคู่นี้เขาหวานแหวว
ดูแลกันดีมาก เพื่อนฝูงชื่นฃม วุ่นอีกรอบที่สุดติดต่อได้กลายเป็นยังอยู่ที่สนามบิน เจอตัวฝ่ายหญิงเสียใจ น้อยใจสามีมาก..ร้องไห้ ...
คงต้องกอดเพื่อให้รู้สึกว่าปลอดภัย ความผิดพลาดเกิดขึ้นได้เสมอ  (นึกถึงระบบเช็คลิสท์ ของพี่สิงห์ซะแล้ว)
      บันทึกการเข้า
ดร.มนตรี
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,540

« ตอบ #18 เมื่อ: 09 มกราคม 2554, 13:01:53 »

อ้างถึง
ข้อความของ khesorn mueller เมื่อ 08 มกราคม 2554, 21:24:37
น้องมนตรี!
อีกกี่รูป...ก็ยัง"เกี่ยว"อยู่นั่นเอง!
รอแป๊บ
พี่ล่ะชักรำคาญ




(รู้นะว่าพี่ล้อเล่น!เดี๋ยวไปตั้งกล้องกอดกันกลม
มาลงล่ะ...ได้อยากกอดมั่งกันทั้งเวบ.....ฮี้)

ล้อเล่น ... แต่ทำจริงๆ ก็ได้ครับ พี่หนิง ... รอชมๆๆๆๆ   หึหึ
      บันทึกการเข้า
khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #19 เมื่อ: 10 มกราคม 2554, 13:03:09 »

อ้างถึง
ข้อความของ เอมอร 2515 เมื่อ 09 มกราคม 2554, 09:31:54
น้องหนิง พี่สนับสนุนว่า(สรุปชาติอื่นๆในอมเริกาและยุโรปว่าฝรั่งแล้วกันนะ)ฝรั่งอายุมากยังคงแสดงความรัก ความห่วง ดูแลซึ่งกันและกันอย่างดี เห็นแล้วน่ารักน่าชื่นชม คู่ของคนไทยน้อยนักที่จะเห็นคู่ที่น่าชื่นชมอย่างนั้น
 กลับมาเรื่องกอดอีกครั้ง คนไทยรุ่นพี่ไม่นิยมการกอดเท่าไรนัก  ตอนที่พี่ทำงานกับชาวต่างประเทศ และคงไม่ชินกับการถูกกอด หลายปีมาแล้วตอนถูกกอดครั้งแรกๆ พี่มีเพื่อนชาวฟิลิปปินส์แม้จะเป็นผู้หญิงทุกครั้งที่พบเขาจะกอดแล้วแนบแก้ม ก็ยังอึดอัด พอจะเจอต้องตั้งใจว่าเมื่อเขากอดมือเราจะวางที่ตัวเขาตรงไหน ยีงไม่เป็นธรรมชาติ แต่ตอนนี้สบายมาก กอดกับลุกบ่อยๆ
 อีกครั้งเพื่อนผู้หญิงผู้ชาวออสเตรเลียมาเมืองไทยพี่เลยนัดพบกันที่ทำงานพี่พอพบกันเขาเข้ามากอด น้องๆที่ทำงานพี่จ้องกันใหญ่เลย เขาคงรู้สึกประหลาด พี่เองก็เขินนิดหน่อยเพราะคนมองมาก ตอนพบกันที่ออสเตรเลีย ก็กอดกันเป็นปกติพี่ก็ไม่รู้สึกอะไรรู้สึกถึงความดีใจของเขา แต่พออยู่เมืองไทย เราก็รู้ว่าเราสิ่งที่เราทำไม่ปกติ คงต้องมั่นใจในสิ่งที่เราทำแล้วเรามั่นใจว่าถูกต้องให้มากกว่า
นี้


หนิงก็ไม่รู้สึกคะพี่
เพราะปฏิบัติทุกวันจนเป็นกิจวัตร
พอมาเมืองไทย ก็ลืม!
จะแยก จะลา จะห่าง
เป็นธรรมเนียมที่แฟนหนิงจะกอด-จูบลา
เหวอ-วงแตก!
ยิ่งห้อมล้อมด้วยสาวๆ
วี้ดว้ายกันตรงนั้นแหละ.
อะไรก็ไม่รู้...เขินง่ะ...สาวๆว่า
      บันทึกการเข้า


khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #20 เมื่อ: 10 มกราคม 2554, 13:10:59 »

อ้างถึง
ข้อความของ ดร.มนตรี เมื่อ 09 มกราคม 2554, 13:01:53
ล้อเล่น ... แต่ทำจริงๆ ก็ได้ครับ พี่หนิง ... รอชมๆๆๆๆ   หึหึ

เคยลงในGFG---> EM2008
เมื่อนักฟุตบอลทีมชาติเยอรมัน Podolski
กอดnational trainer ...Löw
เป็นภาพการกอดที่perfect!
พี่หาไม่เจอคะ.
เผลอๆ GFGภาคนี้แหละ หน้าที่40-50
      บันทึกการเข้า


  หน้า: [1]   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

ทำไมหอพักนิสิตจุฬาจึงเป็นดินแดนมหัศจรรย์            " ไม่ได้เป็นแค่หอให้นอนพัก  แต่เป็นบ้านอบอุ่นรักให้อาศัย  ไม่เป็นแค่ที่ซุกหัวยามหลบภัย  แต่สร้างใจให้เข้มแข็งแกร่งการงาน"  <))))><