บ่นได้ทุกเรื่อง..

[khesorn mueller]

อีกแล้วเหรอคะ?
จังหวัดข้างเคียงเป็นไงมั่งคะ?
อุทัย,สิงห์บุรี??
p.nn

[Aj.O]

ฟังนโยบายของไอ่สุชาติ นาคบางไซ หนึ่งในผู้สมัครผู้ว่า กทม.แล้วตลกปนสมเพชว่ะ
คิดว่าคน กทม.เป็นควายหรือไงวะ?
จะหาวัตถุมากั้นรถถัง ป้องกันรัฐประหาร
ตูว่าอีตาชูวิทย์ยังดูเข้าท่ากว่า

หมายเหตุ สุชาติ นาคบางไซ จริงๆมันชื่อ วราวุธ ฐานังกรณ์ ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมมันต้องใช้นามแฝงตอนเป็นแกนนำกลุ่ม นปก.หว่า?

[khesorn mueller]

อย่าว่าแต่คนกทม.เลยค่ะ
คนภาคไหนๆก็ควรที่จะคิดเอง รู้เท่าทัน...
อย่าให้ใครมา manipulateได้!
p.nn

ps.ตกลงท่วมหรือไม่ท่วม postข้างบนน่ะ

[ppornson]

ไม่ใช่ว่าดูถูกนะครับ..เอ่อ..

แบบว่าเจ๊ใส่แหวนแวววับแต่บ๊องๆ..หรือทำรถไฟใต้น้ำลอดใต้คลอง..หรือทำอุโมงค์รถใต้แม่น้ำเจ้าพระยาทุกสะพาน..ยกเลิกสัญญาณไฟจราจร..ออก กม. ให้รถเปิดไฟเลี้ยวเป็นทางเอก..ทำทางเดินลอยฟ้าให้แม่ค้าขายของข้างล่าง..ทำตีเส้นห้ามรถถังออกปฏิวัติ
โอ้ ฟลักกลิ้ง..แมน..

[หลิม 81]

เมื่อวานก็ดูอยู่เหมือนกัน...เหมือนเอาัตัวตลกมาแก้เครียดกันเลยคับ...

คิดเล่น ๆ ถ้าเค้าได้กันจริง ๆ คงมีรถไฟฟ้าใต้น้ำแน่ ๆ ครับ...

เครียดเลยตู 

[telek78]

ดูเหมือนกัน คิดว่าโทรทัศน์ที่บ้านเสียซะอีก

คิดว่าเผลอเปิด สภาโจ๊ก ซะอีก

คุยไม่อยู่กะร่องกะรอย

ถ้าสุดยอด ต้องแนวคิดที่ว่า จะยกเลิกการใช้

สัญญาณไฟจราจร เพราะทำให้รถติด

ให้ใช้วิธีเลี้ยวซ้ายกันให้หมด แล้วไป U-Turn

สนุกกันเข้าไป

แล้วอีกแนวคิดนึง ที่ว่าจะปลูกพืชผัก

ตามแนวเกาะกลางถนน ปลูกเยอะๆ ชาวบ้านก็สามารถเก็บกินได้

ลดเรื่องเศรษฐกิจที่ผืดเคือง

แล้วอาวุธของแต่ละคนที่ถือมาด้วยก็แปลกๆ

บางคนถือมีด บางคนใส่งอบ บ้างก็ถือรูปถ่ายเด็กน้อยที่น่าสงสารมา

ต่อไป คงมีคนถือ ถั่วงอก ผักคะน้า มาหาเสียง

ต้องขอบคุณผู้สมัครแต่ละท่านนะ

เพราะทำให้พวกเราได้ใช้สมองข้างขวา ในการตินตนาการ

ฟังไป ร้องอุทานไป เฮ้ยสุดยอด มันคิดกันได้อย่างไรวะ

สมองข้างขวาทำงานตลอดเวลาเลย

สนุกดี

[ppornson]

ผมชอบเจ๊แหวนแวววับที่สุดเลย...เยี่ยม..

[khesorn mueller]

ยังไม่จบอีกเหรอคะ?
p.nn

[Mr.EggMan]

 

มูลนิธิปวีณา vs ปดส.

ศึกกำจัดมารคลิปอาบน้ำ

ทีเรื่องนี้อ่ะไวกันจังเนอะ

[Apirat T.]

		อ้างถึง			ข้อความของ Mr.EggMan เมื่อ 24 กันยายน 2551, 19:43:41
	มูลนิธิปวีณา vs ปดส. ศึกกำจัดมารคลิปอาบน้ำ ทีเรื่องนี้อ่ะไวกันจังเนอะ

เมื่อคืนดูข่าว ปดส. ออกมาโต้ การแถลงข่าวของ ปวีณา ว่าไม่เป็นเรื่องจริง
เล่าเป็นฉากๆ นึกว่าดู คินดะอิจิ กับคดีฆาตรกรรมปริศนาซะอีก

ตาแคม

[Aj.O]

		อ้างถึง			ข้อความของ Mr.EggMan เมื่อ 24 กันยายน 2551, 19:43:41
	มูลนิธิปวีณา vs ปดส. ศึกกำจัดมารคลิปอาบน้ำ ทีเรื่องนี้อ่ะไวกันจังเนอะ

กระต่ายของน้องมดมีขนปุกปุยมาก

[ppornson]

เห็นแล้วเศร้า..ช่วยๆกันลบเถอะครับ..

[telek78]

เห็นด้วยกับโต้งร้อยเปอร์เซ็นต์

จริงๆแล้วถือเป็นอาชญากรรมได้เลยนะ

ที่ต่างประเทศ เช่น ญี่ปุ่น แค่รายการเกมโชว์ไปถ่ายทำ

ตามตลาด แล้วแพนกล้องผ่านหน้าคนอื่นๆ แล้วเห็นหน้า

เค้ายังต้องขออนุญาติก่อนนำภาพไปใช้เลย

เค้าใจว่า สามารถฟ้องร้องได้

แล้วนี่ ไปแอบถ่ายภาพ โฟว์มด น่ะ

น่าจะลงโทษแรงๆหน่อย


หมายเหตุ
คิดแบบนี้จริงๆนะ ไม่ได้สร้างภาพนะ

[Aj.O]

		อ้างถึง			ข้อความของ telek_kritsada เมื่อ 29 กันยายน 2551, 12:36:11
	เห็นด้วยกับโต้งร้อยเปอร์เซ็นต์ จริงๆแล้วถือเป็นอาชญากรรมได้เลยนะ ที่ต่างประเทศ เช่น ญี่ปุ่น แค่รายการเกมโชว์ไปถ่ายทำ ตามตลาด แล้วแพนกล้องผ่านหน้าคนอื่นๆ แล้วเห็นหน้า เค้ายังต้องขออนุญาติก่อนนำภาพไปใช้เลย เค้าใจว่า สามารถฟ้องร้องได้ แล้วนี่ ไปแอบถ่ายภาพ โฟว์มด น่ะ น่าจะลงโทษแรงๆหน่อย หมายเหตุ คิดแบบนี้จริงๆนะ ไม่ได้สร้างภาพนะ

แต่ในญี่ปุ่นเอง ก็มี"อาชญากร"ประเภทนี้เยอะ ม่ะใช่เหรอ?
เห็นพวกคลิปดักถ่าย ตามยูทูป ที่มาจากญี่ปุ่นก็มาก

[khesorn mueller]

		อ้างถึง			ข้อความของ ppornson เมื่อ 25 กันยายน 2551, 22:28:36
	เห็นแล้วเศร้า..ช่วยๆกันลบเถอะครับ..

อะไรๆ??
clipอะไร พี่ยังไม่เห็น!
p.nn

[ชาร์ป]

 

 

		อ้างถึง
	กรรมของคนรู้มาก กรรมของคนรู้มาก > คัดลอกจาก นิตยสาร สารกระตุ้น ฉบับเดือนสิงหาคม 2549, หน้า 130 > ผู้เขียน : สุรศักดิ์ กาญจนภูษิต > >อ่านแล้วชอบมากเลย > ----------------------------------- > ก่อนเรียนสถาปัตย์ฯ ผมเห็นบ้านเมืองสวยงามดี ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขไม่มีปัญหา > พอได้เรียนสถาปัตย์ฯ เริ่มรู้ว่าความงามคืออะไร รสนิยมที่ดีคืออะไร ทันใดนั้นเอง > บ้านเมืองที่เคยสวยงามก็เปลี่ยนไป กลายเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยความเกะกะ ทั้งเสาไฟ เสาทางด่วน > ป้ายโฆษณา บ้านที่มีเสาโรมันนั่นก็ห่วย ตึกสูงโด่เด่ในเขตเมืองเก่านั่นก็แย่ ลามไปถึงวัดที่สร้างอุโบสถ > ผิดสัดส่วนก็ไม่งามตา เห็นแล้วก็ยิ่งหงุดหงิดรำคาญใจไม่ใช่น้อย > แบบที่เรียกว่ายิ่งรู้ก็ยิ่งทุกข์หรือเปล่า > > ก่อนจะสนใจการเมือง บ้านเมืองดูเหมือนไม่มีปัญหา ผมเองก็มีความสุขกับชีวิตดี > แต่เมื่อได้เริ่มเสพข้อมูลทางการเมืองมากขึ้น ได้รู้ได้เห็นถึงความชั่วร้ายของคนขี้ > โกงที่ทำไว้กับบ้านเมืองที่เรารัก ย่ำยีผลประโยชน์ส่วนรวมเอาไปเขมือบกันเอง แถมยังปันหน้าเป็นคนดี > อยู่ในสังคมได้ด้วยเล่ห์เหลี่ยมที่รู้ๆ กันแต่จับไม่ได้คาหนังคาเขา ก็ยิ่งสร้างความอึดอัดใจให้กับชีวิตมากขึ้น > แต่ละวันก็มีข่าวใหม่ๆ มาให้รู้ ยิ่งรู้ก็ยิ่งเครียดขึ้นไปอีก > แบบนี้เรียกว่าเป็นกรรมของคนรู้มากได้ไหม ไม่รู้ก็มีความสุขดีอยู่แล้ว > > ก่อนจะรู้จักกับติ๋ม ติ๋มก็ดูเป็นคนติ๋มๆ ดี จนกระทั่งผมรักติ๋ม ทุกสิ่งทุกอย่างก็เปลี่ยนไป > > ผมโทรคุยกับติ๋มเป็นประจำ คลุกคลีเอาใจใส่ติ๋มจนได้รู้ธาตุแท้ของความเป็นติ๋มมาก > ขึ้น ติ๋มเปลี่ยนแฟนเหมือนเปลี่ยนถุงเท้า ติ๋มให้ความหวังกับผู้ชายทุกคนที่หลงเข้ามา บ่อยครั้งที่ติ๋มต้อง > โกหกเพื่อสับรางรถไฟ หลังจากหัวปักหัวปำอยู่ได้พักใหญ่ ผมก็รู้ว่าติ๋มเป็นคนเห็นแก่ตัว ใจร้าย หลายใจ > และติ๋มก็มีวิธีป้องกันตัวเองให้ดูดีในสายตาคนอื่นเสมอ > ยิ่งรู้ก็ยิ่งช้ำ ยิ่งรักก็ยิ่งเกลียด มันอาจจะดีกว่าหรือเปล่าถ้าเราจะไม่รู้อะไรเสียบ้าง > เพื่อให้ชีวิตไม่ต้องจมอยู่กับความทุกข์ที่ได้รู้ได้เห็นในเรื่องที่ไม่อยากรู้ไม่อยากเห็น > > ความคิดนี้ทำให้ผมนึกไปถึงคำพูดของนักปราชญ์เชนท่านหนึ่งที่ว่า "ก่อนเรียนเชน ฉัน > เห็นภูเขาเป็นภูเขา เมื่อได้เรียนเชน ฉันเห็นภูเขาไม่เป็นภูเขา เมื่อเข้าใจเชน ฉันเห็นภูเขากลับมา > เป็นภูเขา" > > เมื่อความเข้าใจเกิดขึ้น ภูเขาที่เคยไม่ใช่ภูเขาก็กลายเป็นภูเขาเหมือนเดิมได้ ดู > เผินๆ อาจเหมือนการเล่นคำให้วกวน แต่มันกลับทำให้ผมมสนใจคำว่า "เข้าใจ" มากเป็นพิเศษ ไม่ใช่ > เพราะใคร ก็เพราะติ๋มนั่นเอง > > หลังจากที่เจ็บมาพอสมควร จนจวนจะทนไม่ได้ ก็ควรจะถึงเวลาที่ผมจะตัดใจเสียที > แต่ยิ่งตัดใจก็ยิ่งฝืนความรู้สึกตัวเอง ยิ่งฝืนก็ยิ่งฝืด ผมจึงเปลี่ยนยุทธิวีธีรับมือเสียใหม่ แทนที่จะตัดใจก็ > เปลี่ยนมาทำความเข้าใจติ๋มแทน ติ๋มเป็นผู้หญิงกำพร้าพ่อมาตั้งแต่เกิด แม่ต้องออกจากบ้านไปหารายได้ > ทำให้ติ๋มรู้สึกขาดแคลน ต้องการเติมเต็มให้กับชีวิต โชคดีที่ติ๋มเป็นคนหน้าตาดี ก็เลยมีคนอาสามาช่วยกัน > เติมเต็มให้กับติ๋มมากมาย และการที่ติ๋มไม่เคยปฏิเสธคนเหล่านั้น ไม่ได้หมายความว่าติ๋มเป็นคนไม่ดี > เพียงแต่ติ๋มรู้สึกกลัวที่จะต้องคอยอยู่คนเดียวเท่านั้น ในขณะที่ผมเป็นทุกข์เพราะเห็นติ๋มเปลี่ยนแฟนเป็นว่า > เล่น ติ๋มเองกำลังเป็นทุกข์ที่ไม่สามารถหาจุดลงตัวให้กับตัวเองได้เหมือนกัน > > เมื่อเข้าใจติ๋ม ผมก็ไม่เหลือความโกรธเกลียดติ๋มอีกต่อไป ติ๋มก็เป็นเช่นนี้เอง มี > ความสุข มีความทุกข์ในแบบของติ๋ม ยิ่งผมอยากให้ติ๋มเปลี่ยนไปเพื่อความพอใจของตัวเองเท่าไร ผมเอง > นั่นแหละที่จะยิ่งเจ็บ "ก่อนที่ผมจะรู้จักติ๋ม ผมเห็นติ๋มเป็นติ๋ม เมื่อผมได้รู้จักติ๋ม ผมเห็นติ๋มไม่ใช่ติ๋ม จนผม > ได้เข้าใจติ๋ม ติ๋มก็กลับมาเป็นติ๋มอีกครั้ง" > > วันหนึ่ง อาจารย์สถาปัตย์ฯ ท่านหนึ่งเดินเข้ามาในห้องเรียนด้วยสีหน้าอิ่มเอิบแทบจะ > ร้องยูเรก้าออกมาแล้วบอกว่า "ผมค้นพบแล้ว เมืองไทยก็คือเมืองรกๆ เมืองหนึ่งนี่เอง ถ้าเมืองไทยไม่มี > ป้ายโฆษณางานวัด ไม่มีแผงลอยข้างทาง ไม่มีความไม่มีระเบียบให้เห็นเต็มถนน เมืองนี้คงไม่ใช่เมือง > ไทย พอเข้าใจแบบนี้แล้วก็เลยรู้สึกสบายใจอย่างบอกไม่ถูก" > > นี่แหละคือประโยชน์ของความเข้าใจ ในระยะหลังผมจึงเอาใจใส่กับการทำความ > เข้าใจเป็นพิเศษ เพราะความเข้าใจในทุกสิ่ง เป็นการเรียนรู้ที่จะพาเราทะลุความซับซ้อนสับสนของ > เปลือกนอก ไปสู่ความเรียบง่ายที่รวมกันเป็นเอกภาพได้จนน่าแปลกใจ > > ถ้าเรามีความเข้าใจให้ใครสักคน เราคงไม่รู้สึกหงุดหงิดรำคาญเขาได้ลงคอ คนรู้ > มากจึงไม่ใช่คนมีกรรม ถ้าเราสามารถพัฒนาความรู้นั้นมาเป็นความเข้าใจลึกซึ้ง ชนิดที่รู้ไต๋กันเป็นอย่างดี > เราก็จะอยู่ร่วมกับปัญหานั้นๆ ได้อย่างสงบสุข เหมือนกับตอนที่เรายังไม่ได้รู้จักมันเลย เข้าทำนอง > "สูงสุดคืนสู่สามัญ" นั่นแหละ > > สุดท้ายปัญหาก็ตกอยู่ที่ว่า ในช่วงชีวิตหนึ่ง คนเราจะสามารถทำความเข้าใจสิ่งที่ตัว > เองเกลียด โกรธ กลัว ได้มากแค่ไหน พระท่านว่าไม่ยากเลย เพียงแค่เริ่มทำความเข้าใจตัวเราเอง > ให้ได้ก่อน แล้วทุกสิ่งในโลกนี้ก็จะไม่ใช่เรื่องยากเกินทำความเข้าใจ มีเรื่องน่าตื่นเต้นอีกเรื่องหนึ่งที่ > อยากจะบอก พระอาจารย์ "ติช นัท ฮันห์" พระเชนผู้ยิ่งใหญ่ชาวเวียดนามเคยอธิบายคำว่า "นิพพาน" > ด้วยภาษาง่ายๆ ว่า มันคือเรื่องของ "ความเข้าใจ" นั่นเอง

[Max]

ตั้งแต่เรียนจิตวิทยา ตอน ป.ตรี

มุมมองของผมก็เปลี่ยนนะ เช่นแต่ก่อนมองว่า ทำไมไอ้นี่มันเป็นแบบนี้วะ, เห็นแก่ตัว,  ขี้เบ่ง, ผู้นำจัง, เอาแต่ใจ ฯลฯ

คือถ้ามองให้ลึกไปถึงในวัยเด็กของเค้า เช่นพื้นฐานครอบครัว

ความที่ได้รับการเอาใจใส่ เป็นลูกคนที่เท่าไหร่ พ่อแม่อยู่ด้วยกันไหม....

ก็จะให้ผมเข้าใจในพฤติกรรมของคนนั้นๆ มากขึ้น

ยิ่งตอนมาทำงาน พวกคนที่ทำงานด้วยก็อายุ ก็เยอะกันมากขึ้นรวมทั้งตัวผมเองด้วย

พฤติกรรมที่เป็นตัวตนเค้าก็ยิ่งชัดเจน เพราะมันแก่กันแล้วความเป็นอัตตาของตัวเองก็สูง

ก็ยิ่งเข้าใจ คนรอบข้างมากขึ้น  แม้บางครั้งจะไม่อยากเข้าใจใครเลยก็ตาม

[Aj.O]

 

		อ้างถึง
	กรรมของคนรู้มาก > ก่อนจะสนใจการเมือง บ้านเมืองดูเหมือนไม่มีปัญหา ผมเองก็มีความสุขกับชีวิตดี > แต่เมื่อได้เริ่มเสพข้อมูลทางการเมืองมากขึ้น ได้รู้ได้เห็นถึงความชั่วร้ายของคนขี้ > โกงที่ทำไว้กับบ้านเมืองที่เรารัก ย่ำยีผลประโยชน์ส่วนรวมเอาไปเขมือบกันเอง แถมยังปันหน้าเป็นคนดี > อยู่ในสังคมได้ด้วยเล่ห์เหลี่ยมที่รู้ๆ กันแต่จับไม่ได้คาหนังคาเขา ก็ยิ่งสร้างความอึดอัดใจให้กับชีวิตมากขึ้น > แต่ละวันก็มีข่าวใหม่ๆ มาให้รู้ ยิ่งรู้ก็ยิ่งเครียดขึ้นไปอีก > แบบนี้เรียกว่าเป็นกรรมของคนรู้มากได้ไหม ไม่รู้ก็มีความสุขดีอยู่แล้ว

เออจริงว่ะ..............

[khesorn mueller]

แต่ไม่รู้เลยนี่...แบ๊ะๆเลยนะ
p.nn

[Aj.O]

มองเหน.น..น   ควายตัวผู้ตัวเมีย...
คลอเคลีย  แล้วให้คิดอิจฉา...
เปนควาย.ย..ย   มันม่ะมีปัญญา
ปัญหาเล้ยไม่มี

เพลงคับเพลง ของคาราบาว

[khesorn mueller]

แปะด้วยจึงจะperfect!
บอกรายละเอียดมาเดี๋ยวพี่แปะห้ายยย..
p.nn

[ppornson]

เพลงคาราบาวสมัยก่อนเขียนเนื้อได้ดีมากๆเลยหลายเพลง..

ราชาเงินผ่อน..ทุกวันนี้ยังเป็นเรื่องจริงอยู่เลย..ไม่ว่าจะนานกี่ปี

[Mr.EggMan]

ขอบ่นครับ

เมื่อไหร่ประเทศชาติ จะยุติความแตกแยกได้ซะทีครับ
อยากเห็นคนไทยรักกันๆครับ

 

ป.ล. การรู้มาก อาจจะทำให้เกิดทุกข์หรือเหมือนกับว่า ปัญหายิ่งมาก นั้นเพราะเราเพียงแต่รับรู้ โดยปราศจากความเข้าใจ        นักปราชญ์ทางเซนเชื่อว่า วิถีที่จะพาไปสู่การหลุดพ้น คือ การทำเข้าใจในกับความเป็นไปของสรรพสิ่ง

[Max]

		อ้างถึง			ข้อความของ ppornson เมื่อ 08 ตุลาคม 2551, 17:09:53
	เพลงคาราบาวสมัยก่อนเขียนเนื้อได้ดีมากๆเลยหลายเพลง.. ราชาเงินผ่อน..ทุกวันนี้ยังเป็นเรื่องจริงอยู่เลย..ไม่ว่าจะนานกี่ปี

เราชอบเพลงลูกหิน อ่ะ

[ppornson]

มันก็ยังเป็นพื้นที่ที่เราต้องยืนกันอยู่ในขอบเขตประเทศนี้กันต่อไป..