ppornson
|
|
« ตอบ #50 เมื่อ: 02 พฤษภาคม 2550, 12:15:49 » |
|
นั่นล่ะ..ถึงบอกว่างานหน้าให้ใส่เสื้อแขนยาวมา..
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Ton(Poodle)
บุคคลทั่วไป
|
|
« ตอบ #51 เมื่อ: 09 พฤษภาคม 2550, 13:32:24 » |
|
ยินดีกับเพื่อนป้อม และ น้องกิ๊บด้วยครับ แล้วนัดเลี้ยงเพื่อนฝูงเมื่อไหร่อย่าลืมส่งข่าวด้วยนะ รออยู่
แต่ว่างานต่อไปจะเป็นใครเนี๊ย มีข่าวหลุดมาบ้างหรือป่าว หรือว่าคู่เซฟ กับน้องลูกหว้า (เห็นซ่อมถ่ายรูปกันแล้ว) อิอิอิ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Mr.EggMan
|
|
« ตอบ #52 เมื่อ: 09 พฤษภาคม 2550, 19:36:09 » |
|
ว่าแต่เค้า
แล้วนายล่ะ วัตร
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ppornson
|
|
« ตอบ #53 เมื่อ: 10 พฤษภาคม 2550, 15:55:45 » |
|
หายไปอยู่ไหนมาลูกพี่..
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
หลิม 81
|
|
« ตอบ #54 เมื่อ: 10 พฤษภาคม 2550, 17:06:14 » |
|
หายไปอยู่ไหนมาลูกพี่.. หายไปหนี.... :shock: :shock:
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
@ ปีนี้ปีของผม @
|
|
|
ppornson
|
|
« ตอบ #55 เมื่อ: 11 พฤษภาคม 2550, 06:07:37 » |
|
เอาอีกแล้ว..เด็กจันทบูรณ์....
เด็กหาดใหญ่ใสซื่อ..
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
khesorn mueller
|
|
« ตอบ #56 เมื่อ: 12 พฤษภาคม 2550, 04:10:59 » |
|
หมูกัดกันอีกแร้วววว... คนดีของหาดใหญ่.. then we are a relatives! p.nn
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
gamo
Full Member
ออฟไลน์
กระทู้: 621
|
|
« ตอบ #57 เมื่อ: 12 พฤษภาคม 2550, 20:23:03 » |
|
ยินดีด้วยนะครับ มีความสุขมากๆ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
khesorn mueller
|
|
« ตอบ #58 เมื่อ: 12 พฤษภาคม 2550, 23:25:50 » |
|
Pondnoi, from the picture you are the first from the right...who said you are fat :evil: ? p.nn
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
iamfrommoon
|
|
« ตอบ #59 เมื่อ: 13 พฤษภาคม 2550, 17:08:25 » |
|
Pondnoi, from the picture you are the first from the right...who said you are fat :evil: ? p.nn P.NN
น้องว่า ชุดดำมันพรางได้มากค่ะ ตอนนี้คงป่วน ฮามากไปไม่ได้แล้วค่ะน้องว่า เพราะมีคนมาสืบแล้ว ฮ่าๆๆๆ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
@@ธรรมชาติสร้างความขัดแย้ง เพื่อให้คนเรียนรู้ซึ่งกันและกันได้ดียิ่งขึ้น@@@
|
|
|
Jan_Waraporn
บุคคลทั่วไป
|
|
« ตอบ #60 เมื่อ: 14 พฤษภาคม 2550, 16:44:19 » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ชาร์ป
|
|
« ตอบ #61 เมื่อ: 04 กรกฎาคม 2550, 02:10:11 » |
|
ช่วย ๆ เดี๋ยวกระทู้หาย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
portpatt
บุคคลทั่วไป
|
|
« ตอบ #62 เมื่อ: 04 กรกฎาคม 2550, 04:05:49 » |
|
พี่ป้อม... เจ้าสาวสวยมากค่ะ เจ้าบ่าวก็หล่อค่ะ(เดี๋ยวน้อยใจ)ยินดีด้วยค่ะ อวยพรช้าไปหน่อยคงไม่ว่ากันนะค่ะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
|
Apirat T.
|
|
« ตอบ #65 เมื่อ: 05 กรกฎาคม 2550, 08:11:13 » |
|
ถ้าจะใช่แฮะ อุตส่าห์ไปหาเจออีกนะจารย์โอ ตาแคม
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
mmwindoo_79
Full Member
ออฟไลน์
กระทู้: 254
|
|
« ตอบ #66 เมื่อ: 05 กรกฎาคม 2550, 13:58:28 » |
|
ไอ้ปอปลา อาร้ายยยยย กรูเพิ่งแต่งงานว้อยยยยยย ไม่ใช่ปลากัดปลาทอง อีก2ปี มีแน่ ตอนนี้ขอเที่ยวก่อน ซึ่งยังไม่ได้เที่ยวเลย ทำงานอย่างเดียว ขนาดว่าได้ไปหัวหินบ่อยๆ แต่ก็ไปเพราะงาน นอนริมทะเลเลยนะ ฮ่วย
ใครอยากสังสรรค์ตอนไหน เรียกร้องมาเลยครับ จะได้ซาวเสียงกันในนี้ ไม่อยากให้ไปสังสรรค์ซ้อนเอาอีตอนงานแต่งคนอื่นครับ แฮ่ม
ปล. จานโอ กรูเอง ถูกต้อง ไปราชดำเนินเลย ฮ่าฮ่า
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Aj.O
|
|
« ตอบ #67 เมื่อ: 05 กรกฎาคม 2550, 23:12:07 » |
|
คุณป้อมครับ ผมมีเรื่องจะเปรึกษาต่อจากวันนั้น(ที่คุยโทรศัพท์)
ผมทำงานที่โรงพยาบาลชุมชนแห่งหนึ่งที่อำเภอนอกเมืองสุรินทร์ ทำมา 5 ปีแล้ว ตอนมาทำตอนแรกก็มีไฟอยู่มาก แต่ตอนนี้ไฟมอดเกือบหมดแล้ว...ครั้งจะย้ายก็ไม่มั่นใจในตัวเองว่าจะไปที่ไหนดี? ที่ใหม่จะเวิร์คกว่าเดิมหรือไม่? ถ้าเกิดมันแย่กว่าจะผิดหวังมากมั้ย?...บางครั้งผมก็คิดถึงสมัยที่เพิ่งบรรจุว่า มีงานทำ มีรายได้เป็นของตัวเอง นก็นับว่าโชคดีถมไปแล้ว...แต่บางครั้งผมก็นึกเซ็ง ว่าถ้าผมอยู่ที่นี่ตลอดไปชีวิตคงดักดาน ไม่มีอะไรใหม่ๆขึ้นมา แต่ตอนนี้เบื่องานประจำโคตรๆเลยว่ะ...แบบว่าไม่เคยรู้สึกเครียดขนาดนี้มาก่อน! แม้ว่าผมเคยเหนื่อยกับงานที่ รพ.นี้มาหลายครั้ง แต่ไม่เคยเซ็งหรือหมดหวังขนาดนี้เลย ตอนนี้ถ้าจะเปรียบเทียบ ผมรู้สึกว่า ผมเกลียดเสือ(ปัญหาปัจจุบัน) จนไม่รู้สึกกลัวจระเข้(อุปสรรคที่อาจจะเกิดในภายหลัง หากเปลี่ยนชีวิต)แล้ว แบบว่ามันมีงานใหม่มาเพิ่ม(สั่งยาให้ผู้ป่วยที่นอน รพ....ซึ่งแต่ก่อนพยาบาลประจำห้องผู้ป่วยในเป็นผู้สั่ง)...จริงๆก็ยอมรับว่ามันควรเป็นหน้าที่ของฝ่ายห้องยาอ่ะนะ แต่แม่ง! ห้องยามีเภสัชกรแค่ 3 คนเอง ไหนจะต้องเช็คสต็อกยา จ่ายยาผู้ป่วยนอก ออกไปจ่ายยาตามสถานีอนามัยแทบทุกวัน...เก็บสถิติคนไข้ที่จ่ายยาผิดฯลฯ ใช้งานเป็นควายเลยฟ่ะ!...แล้วตอนนี้คนที่คุ้นเคย แบบว่าพูดกันเข้าใจ ก็ย้ายไปที่อื่น หรือไม่ก็ไปเรียนต่อหมดแล้ว เลยรู้สึกว่ามันยิ่งน่าเบื่อ ส่วนบุคคลระดับหัวหน้าที่ยังเหลืออยู่(ทั้งฝ่ายแพทย์ พยาบาล และฝ่ายเภสัชกรรมของผมเอง)ก็มีนโยบายไม่ค่อยตรงกับสไตล์ของผม เพราะผมแทบไม่มีโอกาสเสนอแนะความคิดของตัวเองเลย เพราะถูกหัวหน้างานคนปัจจุบันปฏิเสธตลอด อ้างว่าไม่เหมาะอย่างนั้นอย่างนี้ ได้แต่ทำตามๆเค้าไปแม่งลูกเดียว ไร้ศักดิ์ศรีว่ะ :x ต่างกับปีแรกที่มาอยู่ หัวหน้าคนเก่าเค้าเป็นประชาธิปไตยกว่าเยอะ เค้ายอมรับจุดเด่นจุดด้อยที่ต่างกันในแต่ละคน :twisted: (แต่เค้าย้ายไปแล้ว)
ตอนนี้ผมจมอยู่กับอารมณ์แบบ หัวเดียวกระเทียมลีบ! ครับ นี่แหละคือสาเหตุสำคัญของอาการ หมดไฟ! ผมกำลังคิดว่าจะทำอย่างไร ระหว่าง...หาทางไปเรียนต่อ(แต่ยังมีสถานภาพทางราชการ)...หรือหาทางย้ายโรงพยาบาล ไปหาที่ๆมีบุคลากรพร้อมกว่านี้?(เช่นโรงพยาบาลประจำจังหวัดที่ไหนก็ได้)...หรือ>ลาออกจากระบบราชการซะ แล้วไปหางานนอกระบบเอาเอง! ตอนนี้ผมมีรายได้ที่เก็บออมไว้พอที่จะใช้ชีวิตได้อย่างน้อย 3 ปี...ผมเลยรู้สึกว่ามันน่าจะมีทางเลือกทางอื่นได้ จริงอยู่ที่งานนอกระบบ เราก็ไม่รู้ว่าจะเข้าท่าแค่ไหน? แต่อย่างน้อย ถ้าต้องจมอยู่ตรงนี้ต่อไป มันก็ยิ่งแย่ลงเรื่อยๆ จริงอยู่ที่ว่า ในระบบราชการ ถึงแม้ผมจะทำงานแบบสั่วๆไม่ครบขั้นตอน หรือแม้แต่ต่อให้ผมโดดงานซัก 4-5 วัน ผมก็คงไม่โดนปรับออกหรือไล่ออกหรอก(พวกเจ้าหน้าที่ตามสถานีอนามัยบางคนโดดงานเป็นประจำ ยังไม่เกิดอะไรขึ้น!) แต่ผมหน้าไม่ด้านพอจะทำอย่างนั้น! ผมหน้าไม่ด้านพอที่จะยอมเอาเปรียบบุคลากรในฝ่ายมากอย่างนั้น ขนาดที่ทำทุกวันนี้ ช่วยงานหนักทุกวัน ไม่เคยอู้งาน สักวันเดียว ก็ยังถูกบางคนวิจารณ์ว่าทำงานไม่เท่าพวกเขา...ทั้งๆที่...ไอ้พวกที่ไปเรียนต่อ โดยยังรับเงินเดือนอยู่ พวกนี้ก็ไม่ต้องทำงาน แล้วทำไมไม่ถูกวิจารณ์บ้าง!...หรือพวกคณะกรรมการบริหาร รพ.เห็นช้างขี้แล้วอยากขี้ตามช้าง(เห็น รพ.ขนาดใหญ่ทำระบบที่ดี ก็อยากทำบ้าง โดยไม่สนใจเลยว่าบุคลากรพอไหม?) ระบบเอกชนมันอาจจะหนัก แต่เคยได้ยิน(ยังไม่เคยสัมผัสงานแบบนั้น)ว่ามันเที่ยงกว่ากัน คือใครทำมากได้มาก ทำน้อยได้น้อย ใครห่วยหรือสร้างปัญหา ก็โดนเด้งทันที...ผมเคยถามคนอื่นบางคน เขาว่าระวังหนีเสือปะจระเข้? ผมสงสัยว่าตกลงจะยอมโดนเสือเขมือบหรือ บางครั้งมันถึงจุดที่ว่า มันจะเจอจระเข้หรือเจองูก็ให้มันเจอเถอะวะ! เพราะมันจำเจเกินไปแล้ว
เรื่องเรียนต่อยังไม่มั่นใจ เพราะผมยังไม่รู้เลยว่าจะไปเรียนอะไร? แต่บอกตรงๆว่าผมไม่ค่อยอยากต่อสายเภสัชกรรมแล้ว...ผมอยากเรียนชีววิทยาของสัตว์เฉพาะด้าน อย่างอาจารย์จุฬาฯ(คณะวิทย์)บางท่านที่เคยสอนผมตอนสมัยเรียนปี 1(ที่ตึกแถบ)มากกว่า แต่มันคงเป็นไปได้ยากหรือแทบเป็นไปไม่ได้เลย :!: เพราะผมไม่ได้จบ ป.ตรี ทางนั้น
จริงๆตอนที่เรียนมัธยม ผมไม่แน่ใจว่าจะไปทางไหนด้วยซ้ำ ผมสนใจเกี่ยวกับธรรมชาติของสัตว์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกนก ตอนเด็กๆสมัยที่ยังไม่เคยสัมผัสกับโลกออนไลน์ ผมนึกว่าจะหาคนที่สนใจในสิ่งเดียวกันไม่ได้ด้วยซ้ำ สำหรับเรื่องที่ว่า ทำไมผมไม่ไปเรียนเป็นนักวิชาการด้านนี้โดยตรงเลยล่ะ? ก็เพราะ"บัญชาสวรรค์" อย่างที่บางคนพอจะทราบอยู่บ้าง แต่ก็เข้าใจบ้างเหมือนกันน่ะ...เพราะผู้ปกครองเรามักจะกลัวเรื่องหางานทำยาก อะไรเทือกนั้น เลยพยายามให้ผมเรียนในสายที่มีวิชาชีพรองรับชัดเจนจะดีกว่า...แต่พอเราได้เข้ามาคุยกับพวกนักวิชาการเฉพาะด้านเกี่ยวกับสัตว์(ในเวบพันทิพย์) ทำให้เรานึกเสียดายอยู่บ้าง ที่ทำไมไม่เลือกทางนั้น ...แต่จากที่ผมเคยถามตัวเอง(ตามคำแนะนำ)ว่ายังพอใจจะทำอาชีพนี้ต่อไปไหม? คำตอบคือ ยังพอทำได้ เพราะผมค้นสาเหตุของปัญหาดู เป็นเรื่องของสิ่งแวดล้อมอยู่มากกว่า...แต่...ถ้าจะให้เรียนต่อ ป.โท สายนี้(เภสัชกรรม) คงทำไม่ได้ เพราะไม่ได้มีใจรักมากขนาดนั้น อาจมีฝีมือพอจะเรียนจบ ป.ตรี และทำงานในวิชาชีพนี้(ในเบื้องต้น)ได้...แต่ถ้าจะให้เราคิดค้นวิทยานิพนธ์เองนั่น มันต้องอาศัยศรัทธาที่เหนือกว่านั้นหลายเท่าครับ :|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
...
|
|
|
Apirat T.
|
|
« ตอบ #68 เมื่อ: 06 กรกฎาคม 2550, 08:19:36 » |
|
เป็นคนนึงครับ ที่อยากทำในสิ่งที่รัก แต่ทุกอย่างรอบข้าง รวมทั้งตัวเองด้วย กลัวว่าทำสิ่งที่ตัวเองรัก แล้วจะมีงานทำเหรอ ไม่รู้ว่าเรากลัวไปเอง หรือ สภาพแวดล้อม และ ความเป็นจริง ของเมืองไทย มันเป็นแบบนั้นจริงๆ
ดูรายการทีวีมากมาย ที่มีคนเค้าไปทำในสิ่งที่ตัวเองรัก ถึงแม้ มันจะผิดแปลก แหวกแนว ไปมากมาย แต่ก้อประสบความสำเร็จ เห็นแล้วก้ออิจฉา อยากเป็นอิสระด้านความคิดแบบนั้นจังเลย
แต่ก้อกลับเข้ามาสู่วังวนความคิดเหมือนเดิม
ตาแคม :arrow:
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Mr.EggMan
|
|
« ตอบ #69 เมื่อ: 06 กรกฎาคม 2550, 09:23:20 » |
|
เพื่อนโอ
คิดนอกกรอบไปเลย
ยังคงทำงานที่เดิม หรือจะย้ายที่ใหม่ก็ได้
แต่ลองทำอาชีพเสริม เช่น เพาะพันธุ์สัตว์หายากขาย
ถ้า work ก็ลาออกจากงานประจำได้ ไม่มีใครว่า
รู้ไหมบางคนทำงานอดิเรกแล้วรวยกว่างานประจำอีก
เพราะทำในสิ่งที่ตัวเองรักและมีความรู้
เครียดจากงานประจำ ช่างหัวมัน
กลับมาบ้านมาดูแลกิ่งก่า แต่ต้องรู้จักใช้ประโยชน์
ในเชิงพานิชย์นะ หัดค้าขายบ้าง
ลองดูดิ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
A79
บุคคลทั่วไป
|
|
« ตอบ #70 เมื่อ: 06 กรกฎาคม 2550, 10:16:12 » |
|
อ. โอ ชีวิตต้องเสี่ยง กล้าได้กล้าเสีย อยากทำไร ทำเลย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Max
|
|
« ตอบ #71 เมื่อ: 06 กรกฎาคม 2550, 10:19:49 » |
|
เพื่อนโอ
คือเราเห็นด้วยกับตาไข่ กับตาแคมน่ะ อย่างทำในสิ่งที่เรารักมันก็จะมีความสุข
แต่ว่าเราก็ต้องดูด้วยว่ามันจะพอยังชีพเราไหม
เรียนต่อก็ดีนะ แต่ต้องเป็นสิ่งที่เราสนุกกับมันนะ ไม่งั้นมันไม่มีแรงบันดาลใจในการเรียนน่ะ
เรียนอย่างมากก็ได้แค่ผ่านๆ ไป อาจจะได้ใบปริญญามาเพิ่ม แต่ไม่รู้คุ้มกับเวลาชีวิต
ที่ผ่านไปเปล่า
อย่างพวกสัตว์ที่ถนัดเลี้ยงได้ถึงขนาดเพาะพันธุ์ออกจากไข่ได้นี่ เราว่า มีไม่กี่คนนะ
ที่ทำได้อย่างจริงจังขนาดนี้ ลองเปิด web ไม่ก็ลองหาวิธีขายตาม web ต่างๆ
ที่ไม่ต้องอาศัยเช่าแพงหน้าร้านดูไหม เผื่อ มันทำรายได้ ให้แบบเลี้ยงดูตัวเองได้
จะได้มีแนวทางเลือกให้กับชีวิต เพิ่มขึ้นมาอีกเส้นทางน่ะ ทั้งขายในประเทศ
และต่างประเทศนะ
สู้ๆ :wink:
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
mmwindoo_79
Full Member
ออฟไลน์
กระทู้: 254
|
|
« ตอบ #72 เมื่อ: 10 กรกฎาคม 2550, 11:05:30 » |
|
อย่างที่แม็คบอก และเรากรูเคยบอกเน้อ
ชีวิตมันต้องชั่ง มีเรื่องให้ทำสามแบบ คือ เรื่องที่ต้องทำ เรื่องที่ควรทำ กับเรื่องที่อยากทำ คือ มันเลือกทำอย่างใดอย่างหนึ่งไม่ได้ มันต้องคละเคล้ากันไป แต่ด้วยสัดส่วนที่พอเหมาะ เรื่องที่ต้องทำ มักหมายถึงภาระหน้าที่ในความเป็นจริง ซึ่งทำให้เราสามารถดำรงชีวิตได้ เช่น อาชีพ ซึ่งมักตรงกับที่ร่ำเรียนมา ไม่ทำ ก็อดตาย
เรื่องที่ควรทำ คือ สิ่งที่อำนวยประโยชน์แก่ส่วนรวม เช่น คุณธรรมและจรรยาบรรณในวิชาชีพของตน ไม่ทำ ก็ยังชีพได้ แต่เสื่อม และกัดกินตัวเอง
เรื่องที่อยากทำ คือ สิ่งที่ตอบสนองความใฝ่ฝัน มักไม่เกี่ยวกับสองข้อข้างบน ไม่ทำ ก็ไม่ถึงกับตาย แต่ชีวิตมันจะแห้งๆ ขาดเครื่องชุบชูหัวใจ
สามเรื่องนี้ น้อยคนที่จะจูงมันเข้ามาเป็นเรื่องเดียวกันได้ ในขณะที่คนส่วนใหญ่ มักเหวี่ยงตัวเองไปมาระหว่างเรื่องทั้งสาม คนที่ใช้ชีวิตอย่างพอดี จึงมักสามารถแบ่งชีวิตของตัวเองออกเป็นส่วนๆได้ ตามเรื่องที่ทำ บางช่วง ก็ทำเรื่องแบบหนึ่ง อีกช่วงก็ทำเรื่องแบบหนึ่ง แต่สำคัญ จอาานโอต้องลำดับให้ถูก ว่าอันไหนมาก่อนหลัง เราจะไม่แนะนำอาจานโอจู่ๆให้กระโจนลงไปในที่มืด โดยอาศัยความกล้าเพียงอย่างเดียว เพราะในหนึ่งวัน มันมีทั้งมืดทั้งสว่าง ไม่ต้องรีบตามหาดวงอาทิตย์หรอก เพราะมันมาในตอนเช้าแน่ๆ
คนที่ฮึดขึ้นมาเปลี่ยนชีวิตจากหน้าเป็นหลังอันนั้นเค้าเรียกว่า บ้าบิ่น คนที่บ้าบิ่นอาจประสบความสำเรจอย่างยิ่งใหญ่ แต่น้อยคน ที่เหลือเจ็บปวดและเหลือแต่คำปลอบใจตัวเอง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
mmwindoo_79
Full Member
ออฟไลน์
กระทู้: 254
|
|
« ตอบ #73 เมื่อ: 10 กรกฎาคม 2550, 11:19:37 » |
|
ทีนี้ เรื่องปัญหาในที่ทำงาน มันค่อนข้างซับซ้อน และเราก็มีประสบการณ์เฉพาะในวิชาชีพตัวเอง
เราก็เคยมีปัญหาแบบนี้แหละ มีปัญหากับระบบ ในขณะที่เราก็มีความคิดของตัวเองอยู่
สมมุติว่า เรามีภาระงานอย่างหนึ่งอยู่ คือดูแลสุภาพชาวบ้าน แต่ระหว่างทำงาน เราก็เที่ยวเอาคนอื่นมาเปรียบเทียบกับตัวเอง คนนั้นไม่ทำงาน คนนั้นอู้ แต่ก็กรูทำงาน ตายพอดี การเปรียบเทียบไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้นเลย ที่แย่กว่านั้น เรามัวเปรียบเทียบจนแทบจะไม่ต้องทำงานของตัวเอง คือดูแลสุขภาพของชาวบ้าน ติดลบทุกอย่าง ดังนั้น ทำหน้าที่ของเราไปเรื่อยๆให้ดีทีสุด การเปรียบเทียบไม่ได้มีไว้เพื่อแค่จำแนกกว่าเราแตกต่างจากคนอื่นอย่างไร แต่มีไว้เพื่อให้รู้ว่า เราต้องพัฒนาตัวเองอย่างไร
ส่วนเรื่องหัวหน้า สมัยบรรจุที่กรมใหม่ๆเราก็มีปัญหาประมาณนี้แหละ เลยเอาไปบ่นให้อาจารย์ผู้ใหญ่ท่านหนึ่งฟัง ว่าเบื่ออย่างงั้นอย่างงี้ อยากเปลี่ยนงานบ้าง อยากลาออกบ้าง อาจารย์ถามว่า หัวหน้ามันเปลี่ยนบ่อย หรือตัวเรามันเปลี่ยนบ่อยกว่ากัน เราก็ตอบว่า หัวหน้าเปลี่ยนบ่อยกว่า อาจารย์บอกว่า ก็แหง ตัวตนของเรามันไม่ได้เปลี่ยนกันง่ายๆ อายุการทำงานของเรา สมมุติว่าได้อีก25ปี อีกเดี๋ยว หัวหน้าก็เปลี่ยน เกษียน หรือเป็นมะเร็งตาย แต่เรายังอยู่อีกนาน
เราก็ร้องอ๋อ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Max
|
|
« ตอบ #74 เมื่อ: 10 กรกฎาคม 2550, 11:51:23 » |
|
เข้ามารับฟังด้วยคน
ได้ความคิดดีๆ จากท่านป้อม เลยนะเนี่ย :wink:
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|