กลับมาดำเนินภาระกิจให้จบสิ้น ด้วยตอนสุดท้ายแล้วครับ
5. เรื่องความประทับใจที่หอแห่งนี้มีมากมายจนคิดว่า คุยกันไม่จบง่ายๆ แน่ๆ งั้นเอาแต่เฉพาะ
กิจกรรมที่จำได้แม่นๆหน่อยก็แล้วกันนะครับ อย่างที่เล่าไปเมื่อตอนที่แล้วว่า กิจกรรมที่ชอบที่สุด
คือกิจกรรมคอนเสิร์ตหาทุน ซึ่งน้องรุ่นหลังๆอาจไม่มีโอกาสได้สัมผัสกับมัน ความประทับใจแรก
ที่สุดก็คือ ได้ไปทำกิจกรรมร่วมกับคนอื่น ทำให้ได้รู้จักคนอื่นๆ ในมุมมองที่ต่างออกไป นอกจาก
เฉพาะที่หอพัก แล้วเรื่องต่างๆที่ไม่เคยทำ ก็ได้ทำ อย่างเช่น เต้นกันกลางตลาดเพื่อประชาสัมพันธ์
คอนเสิร์ต เดินหาสปอนเซอร์ (อันนี้เป็นอันที่ไม่ชอบที่สุด) เพราะถูกไล่เหมือนหมูเหมือนหมาก็มี
รู้สึกแย่มากๆ การเข้าไปติดต่อสถานที่ราชการต่างๆ ขอติดประกาศ ขอประชาสัมพันธ์ ทำเอกสาร
พูดหน้าเสาธงโรงเรียน ฯลฯ ได้อะไรเยอะแยะ ปีแรกเป็น staff จังหวัดนครปฐม (ตอนจบปี 1)
ปีที่ 2 ไปช่วย staff จังหวัดพิษณุโลก พักนึง แล้วกลับมาทำส่วนกลาง (เป็นฝ่ายฉาก) ปีนี้ต้องขอ
ขอบคุณพี่โอภาสมากๆ ที่ช่วยผมได้เยอะ ตอนแรกเราทำฉากไปเพื่อจะติดกับม่านบนเวที
(ส่วนมากสถานที่แสดงคอนเสิร์ตของเราจะเป็นโรงหนัง) แต่พอไปถึงสถานที่จริง บางโรงหนัง
ไม่มีม่ามบ้าง บางโรงหนัง ไม่ให้ติดบ้างเพราะกลัวม่านเค้าชำรุด ก็คิดกันว่าเอาไงดี พี่โอภาสเกิดปิ๊ง
ไอเดีย ให้ใช้เชือกมัดฉาก แล้วพาดผ่านรางเหล็ก ห้อยออกมาหน้าจอหนัง ตอนนั้นก็เล่นเอาเกือบ
แย่เหมือนกัน เพราะต้องปีนขึ้นไปที่ขอบบนสุดของจอหนัง ลองนึกภาพโรงหนังตามนะครับ ว่าจอ
มันสูงขนาดไหน สมัยนั้น ไม่มีการป้องกันความปลอดภัยอะไรทั้งสิ้น ปีนกันขึ้นไปมือเปล่าๆ
ถือฉากขึ้นไปด้วย เรียกได้ว่าถ้าหล่นลงมาล่ะก็ มีพิการแน่ๆ แต่โชคดีที่ตลอดคอนเสิร์ตทุกจังหวัด
ในปีนั้น ผ่านพ้นไปด้วยดี พอปีสุดท้ายก็คิดไว้ว่า ถ้ามีอีก ปีนี้จะขอเป็นนักร้องบ้างละ อิอิ
แต่แล้วก็ต้องถูกยกเลิกไป ด้วยเหตุผลหลายๆประการ แต่ในปีสุดท้ายนั้น ก็เป็นที่น่าภูมิใจที่ได้มี
ส่วนร่วมในการคิดกิจกรรมหาทุนใหม่ให้กับน้องๆ (ไม่แน่ใจว่าปัจจุบันยังมีอยู่ไหม)
คือกิจกรรม พี่จุฬาฯ พาน้องติว ซึ่งในปีแรก ถือว่าประสบความสำเร็จพอสมควร และหลังจากที่ผม
จบไปแล้ว ก็ยังได้ยินชื่อกิจกรรมนี้อยู่อีกหลายปีทีเดียว
อีกกิจกรรมนึงที่รู้สึกว่า ได้ทำให้ผมได้พัฒนาการพูดในที่ชุมชน การนำเสนอที่สำคัญอีกอันนึง
ก็คือกิจกรรมแนะแนว ซึ่งจะเป็นกิจกรรมที่ออกไปแนะแนวการศึกษาต่อให้กับน้องๆ ม. ปลาย
ตามจังหวัดต่างๆ ที่เราได้ไปเล่นคอนเสิร์ตในช่วงปิดภาคเรียนเดือนพฤษภาคม เหมือนเป็นการ
ตอบแทนน้องๆ ที่มาช่วยอุดหนุน ดูคอนเสิร์ตเราให้เราได้มีรายได้เพื่อใช้ทำกิจกรรมได้ตลอดทั้งปี
กิจกรรมอีกอันนึงที่เป็นความภาคภูมิใจคือ ฟุตบอลประเพณี คณะหอได้มีโอกาสอันดีที่ได้เข้า
ไปมีส่วนร่วมทำหน้าที่สวัสดิการให้กับกิจกรรมนี้ตลอดทั้ง 4 ปีที่ผมอยู่ในรั่วจามจุรี
โดยเฉพาะในปีสุดท้าย มีโอกาสได้เข้าไปทำงานใน อบจ. ได้มีส่วนร่วมในการวางรูปแบบทั้งหมด
ของงาน และในปีนั้นเป็นปีเดียวในรอบ 4 ปี ที่ stand จุฬาฯ เต็มก่อน ธรรมศาสตร์ เป็นปีเดียว
ในรอบ 4 ปี ที่ฟุตบอล จุฬาฯ ชนะ ธรรมศาสตร์ ในปีนั้นมีเพื่อนผมที่ชื่อวิรัช ทำหน้าที่เป็น
ประธานเชียร์ซะด้วย โก้จริงๆ เพื่อนเรา
และยังอีกหลายๆกิจกรรม โดยเฉพาะกิจกรรมที่หอเอง ไม่ว่าจะเป็น รับน้อง ประกวด Miss & Mr.
RCU freshy night Bye Nior ฯลฯ ส่วนใหญ่จะลงมาคนแรกๆ และกลับขึ้นไปเป็นคน
ท้ายๆ พร้อมๆกับเพื่อน น้องๆ ชมรมแสงเสียงตลอด เก็บงานเสร็จก็ตีสอง ตีสาม เดินไปกินโจ๊ก
หรือไม่ก็เกาเหลาเลือดหมูที่สามย่าน กว่าจะได้นอนก็ฟ้าสว่าง เป็นความทรงจำ และความผูกพันธ์
ที่แสนวิเศษที่บ้านหลังนี้ของผม แม้ว่าผมจะมีโอกาสได้อยู่ทีบ้านหลังนี้เพียงแค่ 4 ปี
แต่มันก็ถือเป็นช่วงเวลาที่วิเศษที่สุดในช่วงชีวิตนี้ของผม และผมจะจดจำมันไปตลอดกาล
ขอ tag อย่างเป็นทางการล่ะนะ
1. คุณวิรัช จำรูญวงศ์ (มาเขียนได้แล้วเมิง) จริงๆ เค้าต้องเป็นหัวหอชาย ปี 42 ไม่ใช่ผม
2. หมี ผู้มีส่วนอย่างมากที่ทำให้เกิดกิจกรรม พี่จุฬาฯ
3. มานพ เพื่อนที่มัวแต่แอบอ่านของชาวบ้าน ไม่เปิดเผยตัวซะที โปรดมาเล่าเรื่องเด็ดๆ ด่วน
4. ปิ๋ม (ภรรยาผมเอง) อยากรู้ว่าปิ๋มอยากเล่าเรื่องอะไร แต่ไม่รู้ว่าเธอจะมีเวลามาเขียนไหม
5. เปิ้ล หัวหอหญิงคู่ยาก ที่ทำงานกับมันแล้วยากทุกที (ล้อเล่น)