หน้าแรกเว็บบอร์ด
แนะนำตัว
เพิ่ม/แก้.ข้อมูลส่วนตัว
ห้องโถงรวมรุ่น
Webสมาคมฯ
ปฏิทินนัดหมาย
สมัครสมาชิก
22 พฤศจิกายน 2567, 09:45:15
ยินดีต้อนรับคุณ,
บุคคลทั่วไป
กรุณา
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
1 ชั่วโมง
1 วัน
1 สัปดาห์
1 เดือน
ตลอดกาล
เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน
[สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A
A
A
A
ระเบียบปฎิบัติ
Entire Forum
This board
This topic
Members
Entire Site
Languages
Cmadong Chula
|
เรือนรับแขก เมาท์แหลกไม่เลือกรุ่น
|
ห้องสุขภาพและความงาม
| หัวข้อ:
เตรียมรับมือผู้สูงอายุล้นเมืองในอนาคต
หน้า: [
1
]
ลงล่าง
ผู้เขียน
หัวข้อ: เตรียมรับมือผู้สูงอายุล้นเมืองในอนาคต (อ่าน 8542 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์
รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915
เตรียมรับมือผู้สูงอายุล้นเมืองในอนาคต
«
เมื่อ:
15 ตุลาคม 2553, 12:37:06 »
ปี 2568 เตรียมรับมือผู้สูงอายุล้นเมือง
เปิดแผนพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับท้องถิ่น (สกู๊ปแนวหน้า)
http://www.naewna.com/news.asp?ID=232303
วิวัฒนาการของเทคโนโลยีด้านการแพทย์และสาธารณสุข
ทำให้คนไทยมีอายุยืนยาวขึ้น จำนวนผู้สูงอายุก็เพิ่มมากขึ้น อีกไม่นานสังคมไทยจะเป็นสังคมผู้สูงอายุเต็มตัว
ดังที่สำนักงานสถิติแห่งชาติประมาณการว่า
ในปี 2568 หรืออีก 15 ปีข้างหน้า ไทยจะมีจำนวนผู้สูงอายุจะเพิ่มขึ้น
จากปัจจุบันที่ 7.6 ล้านคน เป็น 14.5 ล้านคน
XXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXX
การสาธารณสุขมุลฐาน จะเป็นกลไกในการแก้ปัญหา ผู้สูงอายุในอนาคตได้
ด้วยสุขภาพดีในราคาถูก ที่มี 4 ตัวชี้วัด
คือ
1.การที่ประชาชนต้องได้รับสิ่งจำเป็นพื้นฐานในชีวิตถ้วนหน้าทุกคน
2.การที่ประชาชนร่วมรับผิดชอบต่อการมีสุขภาพดีด้วย
3.การที่ประชาชนเข้าถึงบริการสุขภาพได้อย่างสะดวกสบายใกล้บ้าน
4.การที่สถานพยาบาลทุกแห่งต้องเป็นสถานพยาบาลคุณภาพ มีป้ายรับรองคุณภาพทุกแห่ง
ส่วนรายการซีมะโด่งเสวนา ครั้งที่ 3 ในวันพุธที่ 17 พฤศจิกายน 2553 จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับ
การสาธารณสุขมูลฐาน แขกปราศัยรับเชิญ คือ น.พ.สำเริง ไตรติลานันท์ แพทย์ศาสตร์ RCU 17
http://www.cmadong.com/board/index.php/topic,6694.msg423621.html#new
เชิญชวนพวกเราที่สนใจ และ อยากซักถาม ปัญหา เข้าร่วมฟังการบรรยายได้ โดยสามารถ
อ่านกระทู้ ล่วงหน้าก่อนฟัง จะได้เข้าใจ และ เตรียมคำถามที่สงสัยมาล่วงหน้า
พบกันวันนั้นครับ
การสาธารณสุขมูลฐาน ที่กระทู้
http://www.cmadong.com/board/index.php/topic,3394.0.html
บันทึกการเข้า
3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์
รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915
Re: เตรียมรับมือผู้สูงอายุล้นเมืองในอนาคต
«
ตอบ #1 เมื่อ:
21 ตุลาคม 2553, 15:42:40 »
สธ.เร่งพัฒนาพยาบาล ดูแลผู้สูงอายุ พิการ ป่วยเรื้อรัง
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 21 ตุลาคม 2553
http://www.manager.co.th/Qol/ViewNews.aspx?NewsID=9530000148431
สธ.เผยมีพยาบาลประจำสถานพยาบาลทุกระดับ 90,000 คน เร่งพัฒนามาตรฐานพยาบาลในปี 2554 จัดโครงการพัฒนาพยาบาลประจำ รพ.สต. เพื่อเดินหน้างานสร้างสุขภาพ การดูแลผู้สูงอายุ ผู้พิการ และผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ประมาณ 8 ล้านคนถึงบ้าน ลดอาการป่วยแทรกซ้อน ไม่ต้องไปโรงพยาบาล
วันนี้ (21 ต.ค.) ดร.พรรณสิริ กุลนาถศิริ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานในพิธีวางพานพุ่ม ถวายราชสักการะสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ณ พระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร์ อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก และสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี กระทรวงสาธารณสุข เนื่องในวันพยาบาลแห่งชาติ ประจำปี พ.ศ.2553 ว่า
วันนี้เป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี มีความสำคัญยิ่งต่อวิชาชีพการพยาบาล ในฐานะที่พระองค์ท่านทรงสำเร็จการศึกษาวิชาการพยาบาล และตลอดพระชนม์ชีพทรงปฏิบัติพระราชภารกิจในการพัฒนาสุขภาพอนามัยและคุณภาพชีวิตของประชาชนเปี่ยมล้นด้วยพระเมตตา วิริยะอุตสาหะ นำสิริสุขแก่ปวงชนทุกก้าวพระบาทที่เสด็จไปถึงแม้ในถิ่นทุรกันดาร กระทรวงสาธารณสุข สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่านที่ทรงมีต่อวิชาชีพพยาบาล
ดร.พรรณสิริกล่าวว่า ในปี 2554 นี้ สธ.มีโครงการพัฒนาพยาบาลใน 2 เรื่องใหญ่ คือ
เรื่องที่ 1 คือ การพัฒนามาตรฐานพยาบาลของพยาบาลประจำ รพ.สต. ซึ่งขณะนี้มี 2,000 แห่ง จะเพิ่มในปี 2554 อีก 7,000 แห่ง ขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดทำมาตรฐานโดยผู้ทรงคุณวุฒิ จะเน้นหนักการทำงานส่งเสริมสุขภาพ ป้องกันการเจ็บป่วยของประชาชน ให้ประชาชนดูแลสุขภาพตนเองได้ โดยจะจัดอบรมให้ครอบคลุมพยาบาลทั่วประเทศต่อไป
เรื่องที่ 2 คือ การจัดมาตรฐานการดูแลผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ผู้สูงอายุ และผู้พิการ ที่บ้าน หรือที่เรียกว่า โฮมวอร์ด (Home Ward) เนื่องจาก 3 กลุ่มนี้ในประเทศไทยมีประมาณ 8 ล้านคนและแนวโน้มเพิ่มขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดโรคแทรกซ้อน เช่น แผลกดทับ ปอดติดเชื้อไม่ให้ทะลักเข้าโรงพยาบาลใหญ่ ลดอัตราการเสียชีวิต ซึ่งขณะนี้มีใช้ในหลายประเทศทั่วโลก ถือว่าเป็นมาตรการเชิงรุกที่มีประสิทธิภาพ เป็นที่พึ่งของครอบครัวที่ประสบปัญหาเป็นอย่างดี
ดร.พรรณสิริกล่าวต่อว่า ขณะนี้ทั่วประเทศมีพยาบาลและผดุงครรภ์ ทั้งระดับต้นและระดับวิชาชีพ ที่ขึ้นทะเบียนใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ กับสภาพยาบาล
ในปี 2553 จำนวน 162,620 คน ในจำนวนนี้ ปฏิบัติงานในสถานพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุขทั่วประเทศประมาณ 90,000 คน
ซึ่งยังขาดแคลนอีก 30,000 คน ได้เพิ่มกำลังผลิตทุกปี
อย่างไรก็ตาม การบรรจุพยาบาลจบใหม่เข้าเป็นข้าราชการมีขีดจำกัด ทำให้ส่วนหนึ่งไหลออกไปสู่ภาคเอกชนอย่างต่อเนื่อง
กระทรวงสาธารณสุขจะเร่งประสานงานกับสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) ขออัตรากำลังเพิ่ม เพื่อบรรเทาภาระของพยาบาลที่มีในปัจจุบัน
โดยขณะนี้พยาบาล 1 คนต้องดูแลประชากร 900 คน ขณะที่ตามมาตรฐานโลกกำหนดให้พยาบาล 1 คน ดูแล 500 คน อีกทั้งพยาบาลบางภูมิภาคยังมีภาระงานสูงกว่าภูมิภาคอื่น เช่น ภาคตะวันออกเฉียงเหนือดูแลประชากร 1 ต่อ 1,400-1,500 คน กทม. 1 ต่อ 400 คน
บันทึกการเข้า
3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์
รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915
กุศโลบาย ในการรับมือกับ ภาระค่าใช้จ่าย ที่จะต้องให้กับ ผู้สูงอายุ
«
ตอบ #2 เมื่อ:
23 มกราคม 2554, 13:46:19 »
การประกันชีวิตแบบบำนาญ
โดยเวบฐานเศรษฐกิจออนไลน์ วันพุธ ที่ 15 ธ.ค.2553
http://www.thanonline.com/index.php?option=com_content&view=article&id=50365:2010-12-15-03-18-34&catid=206:2010-06-21-06-14-52&Itemid=578
คอลัมนิสต์ผู้ทรงคุณวุฒิ - สาธิต รังคสิริ
เขียนโดย กอง บก.ฐานเศรษฐกิจ
ท่านผู้อ่านครับ หากท่านติดตามข่าวสารเกี่ยวกับเรื่องเศรษฐกิจท่านจะทราบว่า
สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ได้อนุมัติ
ให้บริษัทประกันภัยออกผลิตภัณฑ์ประเภทใหม่ที่เรียกว่า
"ประกันชีวิตแบบบำนาญ"
ผู้สูงอายุ ที่จะเป็นภาระค่าใช้จ่ายในอนาคตของรัฐ
มาเป็นทางเลือกเพิ่มเติม สำหรับผู้ซื้อประกันที่ต้องการผลตอบแทนมาใช้เมื่อตนเองชราภาพ
ซึ่งต่อมากระทรวงการคลังโดยกรมสรรพากร ได้เสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาให้สิทธิประโยชน์
ทางภาษีเพิ่มเติมแก่ประกันชีวิตดังกล่าวนี้ โดยได้มีมติเมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2553 เห็นชอบ
หลักการของมาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการออมในรูปแบบของการประกันชีวิตแบบบำนาญไปแล้ว
ดังนั้น วันนี้ผมจะขอกล่าวรายละเอียดในเรื่องนี้ครับ
ทุกวันนี้หากท่านซื้อประกันชีวิต ท่านสามารถนำมาหักเป็นค่าลดหย่อนทางภาษี ได้เท่าที่จ่ายจริง
แต่ต้องไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี โดยต้องเป็นกรมธรรม์ที่มีกำหนดเวลาไม่ต่ำกว่า 10 ปี และ
ต้องซื้อจากบริษัทที่ประกอบกิจการในประเทศไทยเท่านั้น
สำหรับประกันชีวิตแบบบำนาญ (Annuity Life Insurance) นั้น จะมีลักษณะแตกต่าง ที่มุ่งเน้น
การออมเงินในขณะที่ผู้ออมกำลังอยู่ในวัยทำงานและมีรายได้
ทั้งนี้ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเก็บออมไว้เป็นรายได้ในยามชราภาพหรือเกษียณอายุ
ดังนั้น จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการมีรายได้ภายหลังเกษียณอายุ หรือ ผู้ที่ต้องการสร้าง
เงินบำนาญไว้เพื่อใช้จ่ายในยามชรา
อนึ่ง การกำหนดวงเงินประกันนั้น มี 2 แบบ
ได้แก่ แบบ
1.DC (Define Contribution)
คือ เก็บออมเท่าไหร่ ทั้งหมดถือเป็นเงินบำเหน็จที่ได้หลังเกษียณ
2.DB (Define Benefit)
จะเป็นการคำนวณตามความต้องการของลูกค้า เช่น
ต้องการบำเหน็จ 1.5 ล้านบาท หลังเกษียณ ก็จะมีการคำนวณการจัดเก็บเบี้ยในแต่ละปี
เพื่อให้ได้เงินก้อนตามต้องการใช้จ่ายหลังเกษียณ
สำหรับสิทธิประโยชน์ทางภาษีของประกันชีวิตแบบบำนาญนั้น ได้มีการให้สิทธิประโยชน์
ทางภาษีเพิ่มเติมมากกว่าการประกันชีวิตแบบทั่วไป กล่าวคือ
ให้ผู้ซื้อประกันชีวิตแบบบำนาญนอกจากจะสามารถนำไปหักลดหย่อนในการคำนวณภาษีเมื่อสิ้นปี
ได้ในวงเงินเดียวกันกับประกันชีวิตแบบทั่วไป เป็นจำนวน 100,000 บาทต่อปีแล้ว
กฎหมายยังอนุญาตให้สามารถหักลดหย่อนได้เพิ่มเติมเป็นกรณีพิเศษสำหรับ
เบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญอีกปีละ 200,000 บาท แต่ต้องไม่เกินร้อยละ 15 ของเงินได้
และเมื่อรวมกับการหักลดหย่อนของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ
กองทุนสงเคราะห์ครู และกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพแล้ว จะต้องไม่เกิน 500,000 บาทต่อปี
XXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXX
การใช้กุศโลบายนี้ทำให้รัฐไม่ต้องเสียเงินในการดูแลผู้สูงอายุ ฝ่ายเดียว จะมีประชาชน
ที่ได้รับเงินจากการประกันชีวิตแบบบำนาญ ร่วมด้วยจึงลดค่าใช้จ่ายของรัฐ ซึ่งเตรียมไว้
ให้เฉพาะ สิ่งจำเป็นพื้นฐานต่อการมีชีวิตอยู่ จปฐ. ตามตัวชี้วัดตัวที่ 1 สุขภาพดีถ้วนหน้า
กระทู้สุขภาพดีถ้วนหน้าด้วย
สาธารณสุขมูลฐาน ตาม Ottawa Charter
ที่
http://www.cmadong.com/board/index.php/topic,3394.0.html
บันทึกการเข้า
3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
เอมอร 2515
Cmadong พันธุ์แท้
ออฟไลน์
รุ่น: rcu 2515
คณะ: รัฐศาสตร์(นิติศาสตร์)
กระทู้: 4,562
Re: เตรียมรับมือผู้สูงอายุล้นเมืองในอนาคต
«
ตอบ #3 เมื่อ:
01 กุมภาพันธ์ 2554, 10:20:50 »
หากผู้สูงอายุมากขึ้น
ต่อไปการบริการของโรงพยาบาลก็ต้องเป็นงานที่หนักมากขึ้น
เพราะคนสูงอายุเป็นช่วงอายุที่ใช้บริการมากและต่อเนื่อง
ที่สำคัญคือต้องให้ความรู้ในการดูแลตัวเองได้ในระดับหนึ่ง
ก็จะลดภาระของรพ.ได้บ้าง
รพ.ก็จะได้บริการคนไข้ที่หนัก
หรือ คนไข้ที่ไม่สามารถดูแลตัวเองได้อย่างมีคุณภาพ
บันทึกการเข้า
Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์
รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915
Re: เตรียมรับมือผู้สูงอายุล้นเมืองในอนาคต
«
ตอบ #4 เมื่อ:
01 กุมภาพันธ์ 2554, 11:55:40 »
อ้างถึง
ข้อความของ
เอมอร 2515
เมื่อ 01 กุมภาพันธ์ 2554, 10:20:50
หากผู้สูงอายุมากขึ้น
ต่อไปการบริการของโรงพยาบาลก็ต้องเป็นงานที่หนักมากขึ้น
เพราะคนสูงอายุเป็นช่วงอายุที่ใช้บริการมากและต่อเนื่อง
ที่สำคัญคือต้องให้ความรู้ในการดูแลตัวเองได้ในระดับหนึ่ง
ก็จะลดภาระของรพ.ได้บ้าง
รพ.ก็จะได้บริการคนไข้ที่หนัก
หรือ คนไข้ที่ไม่สามารถดูแลตัวเองได้อย่างมีคุณภาพ
การสาธารณสุขมูลฐาน ดูแลโดยมีญาติพี่น้องผู้ป่วย ร่วมดูแลด้วย บุคลากรสาธารณสุขเป็นที่ปรึกษา และ ให้การรักษาตามแนวทางมาตรฐาน ที่กำหนดโดยผู้เชี่ยวชาญกำหนดขึ้นเพื่อให้การดูแลเป็นมาตรฐานคุณภาพเดียวกัน
ขอบคุณพี่เอมอร ที่ห่วงว่างานจะหนัก ถ้ามีการเขียนเป็นเอกสารคุณภาพ แล้วบุคลากร ร่วมมือกันทำตามแนวทาง งานจะไม่หนัก คนไข้ได้รับบริการคุณภาพ ครับพี่
บันทึกการเข้า
3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
เอมอร 2515
Cmadong พันธุ์แท้
ออฟไลน์
รุ่น: rcu 2515
คณะ: รัฐศาสตร์(นิติศาสตร์)
กระทู้: 4,562
Re: เตรียมรับมือผู้สูงอายุล้นเมืองในอนาคต
«
ตอบ #5 เมื่อ:
01 กุมภาพันธ์ 2554, 12:36:39 »
เมื่อ๒ เดือนที่แล้วมาพี่ไปขอรับการบริการของร.พ.รามา
พี่ได้เห็นการทำงานของหมอแล้ว เห็นใจมากๆ
หมอปัจจุบันทำงานหนักมากๆ
และหากคนไข้รู้จักวิธีดูแลตัวเองที่ดีกว่านี้
หมอจะไม่ต้องทำงานหนักมากเช่นปัจจุบัน
พี่เห็นแล้วรู้สึกดีใจว่าไม่ได้เรียนหมอ หรือพยาบาลหรีอบุคคากรทางการแพทย์มา
เพราะหากเขาเหล่านั้น ไม่อดทน ไม่อุทิศ ไม่อึดแล้ว
ย่อมมีความทุกข์ในการทำงานแน่
( พี่มีคำถาม ขอความรู้มาด้วยนะคะ)
พี่จะลดภาระของหมอที่ดูแลพี่
เลยหาความรู้จากคนแถวนี้แหละค่ะ
ขอบคุณ
บันทึกการเข้า
Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์
รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915
ต้องออกกฏระเบียบสุขภาพดี บังคับให้คนต้องปฏิบัติตาม และ ต้องมีบทลงโทษของชุมชน
«
ตอบ #6 เมื่อ:
01 กุมภาพันธ์ 2554, 14:17:58 »
อ้างถึง
ข้อความของ
เอมอร 2515
เมื่อ 01 กุมภาพันธ์ 2554, 12:36:39
เมื่อ๒ เดือนที่แล้วมาพี่ไปขอรับการบริการของร.พ.รามา
พี่ได้เห็นการทำงานของหมอแล้ว เห็นใจมากๆ
หมอปัจจุบันทำงานหนักมากๆ
และหากคนไข้รู้จักวิธีดูแลตัวเองที่ดีกว่านี้
หมอจะไม่ต้องทำงานหนักมากเช่นปัจจุบัน
พี่เห็นแล้วรู้สึกดีใจว่าไม่ได้เรียนหมอ หรือพยาบาลหรีอบุคคากรทางการแพทย์มา
เพราะหากเขาเหล่านั้น ไม่อดทน ไม่อุทิศ ไม่อึดแล้ว
ย่อมมีความทุกข์ในการทำงานแน่
( พี่มีคำถาม ขอความรู้มาด้วยนะคะ)
พี่จะลดภาระของหมอที่ดูแลพี่
เลยหาความรู้จากคนแถวนี้แหละค่ะ
ขอบคุณ
การสาธารณสุขมูลฐาน เป็นคำตอบช่วยให้งานสาธารณสุขลดลง เมื่อทำครบ
ตัวชี้วัด 4 ตัวชี้วัด ที่ขอนำมากล่าวอีกครั้งคือ
ตัวที่ 1.
ประชาชนทุกคนได้รับสิ่งจำเป็นพื้นฐานสำหรับชีวิตโดยถ้วนหน้าตามเกณฑ์
ตัวที่ 2.
ประชาชนร่วมมือในการทำให้เกิดสุขภาพดีของชุมชน เช่น
2.1อาสาสมัครมาช่วยงานสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน หรือ อสม. ทำหน้าที่
"แก้ข่าวร้ายกระจายข่าวดีชี้บริการประสานงานสาธารณสุขบำบัดทุกข์ประชาชนทำตนเป็นตัวอย่างที่ดี"
2.2ประชาชนร่วมมือในการปฏิบัติตัวเพื่อสุขภาพดีตามที่ อสม.แนะนำด้วยความเต็มใจ เป็นต้น
ตัวที่ 3.
การมีสถานพยาบาลเข้าถึงได้ง่ายใกล้บ้าน ใกล้ใจ ปรึกษาได้เป็นกันเอง
ตัวที่ 4.
สถานพยาบาลใกล้บ้าน เป็นสถานพยาบาลที่ได้รับการรับรองคุณภาพ จาก
สถาบันพัฒนาและรับรองคุณภาพ Hospital Accreditation : HA
http://www.ha.or.th/ha2010/th/home/index.php
จึงขอประชาสัมพันธ์ให้พวกเรา และ ประชาชน ได้ร่วมรู้ เป็น
ด้านที่ 1
ร่วมสร้างวัฒนธรรมการมีสุขภาพดี ร่วมปฏิบัติเอง เป็น
ด้านที่ 2
และ ชุมชน เสนอให้
ออกกฏระเบียบ ตาม ตัวชี้วัดสุขภาพดีถ้วนหน้า ข้อ 2 ที่ว่าถึง การมีส่วนร่วมในการมีสุขภาพดี
บังคับให้ทุกคนต้องทำตามวัฒนธรรมการมีสุขภาพดี มีบทลงโทษของชุมชน เป็น
ด้านที่ 3
เมื่อมีครบสามด้านของสามเหลี่ยมฯ นอกจากได้ประโยชน์เองแล้ว
ยังช่วยให้
งานด้านสาธารณสุขลดน้อยลงด้วย
ตามแนวทางสามเหลี่ยมเขยื้อนภูเขา ของ
ศ.น.พ.ประเวศ วะสี
ช่วยให้เกิดได้
บันทึกการเข้า
3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
หน้า: [
1
]
ขึ้นบน
Cmadong Chula
|
เรือนรับแขก เมาท์แหลกไม่เลือกรุ่น
|
ห้องสุขภาพและความงาม
| หัวข้อ:
เตรียมรับมือผู้สูงอายุล้นเมืองในอนาคต
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
กระโดดไป:
เลือกหัวข้อ:
-----------------------------
"กิจกรรมสมาคมนิสิตเก่าหอพักนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย"
-----------------------------
=> ข่าวประชาสัมพันธ์ของสมาคม
=> ข่าวประกาศทั่วไป
=> งานคืนสู่เหย้า ๒๕๕๗
=> โครงการรินน้ำใจเพื่อหอพักนิสิตจุฬาฯ
=> กิจกรรมเพื่อสังคม
=> กิจกรรมวิชาการ
=> กิจกรรมสมาชิกสัมพันธ์
=> กิจกรรมชาวหอ
=> กิจกรรมแกนนำและกิจกรรมรุ่น
=> ข้อบังคับสมาคม และกฎ ระเบียบ
=> การประชุมของสมาคม
-----------------------------
เรือนรับแขก เมาท์แหลกไม่เลือกรุ่น
-----------------------------
=> เรื่องนี้มีพี่บอก
=> โบราณคดี Cmadong
=> ปฏิทินนัดหมายชาวหอ
=> ห้องซีมะโด่งสัมพันธ์
=> ซีมะโด่งเพื่อสังคม
=> ห้องสนทนาประสาพี่น้อง
=> ห้องชาวค่ายหอ
=> ห้องชมรมแสงเสียง
=> ห้องธรรมะ...สาธุ....
=> ห้องวิชาการ ช่วยกันสร้างสรรค์สังคม
=> ห้องแสงทองของชีวิต
=> ห้องสุขภาพและความงาม
=> ห้องท่องเที่ยวไร้พรมแดน
=> ห้องซื้อ - ขาย แลกเปลี่ยน
-----------------------------
เรือนประจำรุ่น อบอุ่นทุกสมัย
-----------------------------
=> รุ่น 2507
=> รุ่น 2510
=> รุ่น 2511
=> รุ่น 2513
=> รุ่น 2514 รุ่นนี้มหาอำนาจ
=> รุ่น 2515
=> รุ่น 2516
=> รุ่น 2517
=> รุ่น 2518
=> รุ่น 2519
=> รุ่น 2520
=> รุ่น 2521
=> รุ่น 2522
=> รุ่น 2523
=> รุ่น 2524
=> รุ่น 2525
=> รุ่น 2526
=> รุ่น 2527
=> รุ่น 2528
=> รุ่น 2529
=> รุ่น 2530
=> รุ่น 2531
=> รุ่น 2532
=> รุ่น 2533
=> รุ่น 2534
=> รุ่น 2535 ซี้ปึ๊ก
=> รุ่น 2536
=> รุ่น 2537
=> รุ่น 2538
=> รุ่น 2539
=> รุ่น 2540
=> รุ่น 2541
=> รุ่น 2542
=> รุ่น 2543
=> รุ่น 2544
=> รุ่น 2545
=> รุ่น 2546
=> รุ่น 2547
=> รุ่น 2548
=> รุ่น 2549
=> รวมรุ่น 90-96 รหัส 2550-2556
-----------------------------
ข่าวประกาศ
-----------------------------
===> Countdown งานคืนสู่เหย้า 94 ปีซีมะโด่ง : เสาร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ 2555
===> "รวมภาพงาน" ผูกพัน วันเก่า ๙๔ ปี ซีมะโด่ง
ทำไมหอพักนิสิตจุฬาจึงเป็นดินแดนมหัศจรรย์ " ไม่ได้เป็นแค่หอให้นอนพัก แต่เป็นบ้านอบอุ่นรักให้อาศัย ไม่เป็นแค่ที่ซุกหัวยามหลบภัย แต่สร้างใจให้เข้มแข็งแกร่งการงาน" <))))><
กำลังโหลด...