หน้าแรกเว็บบอร์ด
แนะนำตัว
เพิ่ม/แก้.ข้อมูลส่วนตัว
ห้องโถงรวมรุ่น
Webสมาคมฯ
ปฏิทินนัดหมาย
สมัครสมาชิก
22 พฤศจิกายน 2567, 17:41:23
ยินดีต้อนรับคุณ,
บุคคลทั่วไป
กรุณา
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
1 ชั่วโมง
1 วัน
1 สัปดาห์
1 เดือน
ตลอดกาล
เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน
[สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A
A
A
A
ระเบียบปฎิบัติ
Entire Forum
This board
This topic
Members
Entire Site
Languages
Cmadong Chula
|
เรือนรับแขก เมาท์แหลกไม่เลือกรุ่น
|
ห้องธรรมะ...สาธุ....
| หัวข้อ:
ประวัติพระเทวทัต
หน้า: [
1
]
ลงล่าง
ผู้เขียน
หัวข้อ: ประวัติพระเทวทัต (อ่าน 65807 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์
รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915
ประวัติพระเทวทัต
«
เมื่อ:
05 กันยายน 2553, 20:40:21 »
[narongsak.com] ประวัติพระเทวทัต
To Cmadong member and Co.
พระเทวทัต ในสมัยพระพุทธกาลเป็นพี่ของพระนางยโสธรา (พิมพา) พระชายาของเจ้าชายสิทธัตถะราชกุมาร ที่มาเป็นพระพุทธเจ้า และเป็นลูกของลุงพระพุทธเจ้าเอง พระเทวทัตนั้นตามจองล้างพระพุทธ เจ้ามานานหลายชาติ อดีตชาตินานมาแล้วนั้น พระเทวทัตเป็นพ่อค้า วานิช มีจิตละโมบทุจริต และในชาตินั้น พระพุทธองค์ได้เสวยพระชาติเป็นพ่อค้าวานิชด้วยเช่นกันแต่เป็นฝ่ายสุจริต
วันหนึ่ง หญิงชราซึ่งเป็นผู้ดีตกยาก มีถาดทองคำของต้นตระกูลเหลืออยู่ จึงนำออกมาขาย พระเทวทัตเห็นเช่นนั้นจึงลวงด้วยเล่ห์ต่อหญิงชรานั้นว่า ถาดนั้นมิใช่ทองคำแท้เป็นทองปลอม จึงเสนอขอซื้อราคาถูกแต่หญิงชรานั้นรู้ดีว่าถาดที่แกนำออกมาขายนั้นทำด้วยทองคำแท้จึงมิยอมขายให้ ในเวลาเดียวกันนั้น พระพุทธองค์ซึ่งเสวยพระชาติ เป็นพ่อค้ามาพบเข้า เห็นเป็นถาดทำด้วยทองคำแท้ก็ให้ราคาตามความเป็นจริง สร้างความโกรธแค้นให้แก่พระเทวทัตเป็นยิ่งนัก ถ้าไม่มีพระพุทธองค์มาซื้อถาดทองคำนั้น ในมิช้าหญิงชราก็จักต้องนำถาดทองคำมาขายแก่ตนเพราะความยากจน ด้วยเหตุนี้พระเทวทัตจึง ผูกพยาบาทด้วยการกอบเม็ดทรายขึ้นมา ๑ กำมือหว่านลงกับพื้นดินประกาศว่า .. เราจะจองล้างจองผลาญท่านต่อไปเท่าเม็ดทรายในกำมือ ๑ เม็ด เท่ากับ ๑ ชาติ จึงตามเบียดเบียนพยาบาทจองเวรกันมานับภพชาติไม่ถ้วนเรื่อยมา จนกระทั่งพระชาติสุดท้ายก่อนจะที่จะมาตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า คือได้เสวยพระชาติเป็นพระเวสสันดร พระเทวทัตได้มาเกิดเป็นพราหมณ์นามว่า “ ชูชก ” จนกระทั่งมาถึงพระชาติที่ได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า พระเทวทัตมีจิตริษยาพระพุทธเจ้า นับตั้งแต่เยาว์วัย ต่อมาเมื่อพระพุทธเจ้าทรงบรรลุสัมมาสัมโพธิญาณ เจ้าชายเทวทัตได้ออกบวชด้วยเช่นกัน
พระเทวทัตกลับได้แต่ญาณขั้นต่ำ แค่สำแดงฤทธิ์ได้เพียงบางอย่าง พระเทวทัตมีใจอิจฉาพระพุทธเจ้าที่ทรงเหนือกว่าตนทุกอย่างจึงมุ่งร้ายและคิดทำลายพระพุทธองค์ถึง ๓ ครั้ง
ครั้งแรกพระเทวทัตได้ว่าจ้างพรานธนูให้ไปลอบสังหารพระพุทธเจ้ายังที่ประทับ แต่เมื่อแลเห็นพระพุทธองค์ พรานธนูก็มีอาการอ่อนเปลี้ย ยกธนูไม่ขึ้น จิตใจอันเหี้ยมโหดของพรานนั้นก็กลับกลายเป็นอ่อนโยนด้วยอำนาจพุทธบารมี ทิ้งธนูคลานเข้าไปกราบบาท พระพุทธองค์จึง แสดงเทศนาจนพรานนั้นแลเห็นทางธรรม
ครั้งที่สองพระเทวทัตวางแผนให้พนักงานเลี้ยงช้างปล่อยช้างดุร้ายซึ่งกำลังตกมันชื่อ นาฬาคีรี ออกไปหมายให้เหยียบและใช้งาทิ่มแทงพระพุทธเจ้าในขณะออกบิณฑบาตร แต่ช้างนาฬาคีรีกลับไม่ทำร้ายและยังหมอบชูงวงถวายความเคารพพระพุทธองค์
ครั้งที่สามพระเทวทัตขึ้นไปบนเขาคิชฌกูฏแล้วกลิ้งหินลงมาหมายให้หล่นทับพระพุทธเจ้าขณะทรงดำเนินผ่านช่องเขาข้างล่าง แต่หินนั้นเกิดไปกระแทกกับก้อนหินตามทางลาดแตกกระจายเป็นก้อนเล็กก้อนน้อย และสะเก็ดหินก้อนหนึ่งปลิวลอยมากระทบข้อพระบาทของพระองค์จนช้ำห้อพระโลหิต พระเทวทัตแค้นใจยิ่งนักที่แผนปองร้ายพระพุทธเจ้าของตนล้มเหลวลงหมด และด้วยผลกรรมที่มีจิตคิดมุ่งทำร้ายพระพุทธองค์จึงทำให้ญาณเสื่อมสำแดงฤทธิ์ใด ๆ ไม่ได้อีก แต่พระเทวทัตก็ยังหาสำนึกไม่ กลับสร้างความสำคัญแก่ตนด้วยการเสนอข้อปฏิบัติสำหรับพระสงฆ์ขึ้นมาใหม่ ๕ ข้อ โดยอ้างว่าเพื่อจะให้ภิกษุเคร่งครัดยิ่งขึ้นคือ
๑. ให้พระสงฆ์ใช้ชีวิตอยู่เฉพาะในป่า
๒. เลี้ยงชีวิตด้วยการบิณฑบาตรเพียงอย่างเดียว
๓. จีวรนุ่งห่มนั้นให้นำมาจากผ้าบังสกุลใช้ห่อศพเท่านั้น
๔. อาศัยตามโคนต้นไม้
๕. ห้ามฉันเนื้อสัตว์
บทบัญญัติที่พระเทวทัตเสนอมานี้พระพุทธองค์ไม่ทรงอนุญาตให้นำมาใช้ พระเทวทัตจึงประกาศแยกตัวออกไปทั้งปลุกปั่นยุยงพระสงฆ์จำนวนหนึ่งให้เห็นด้วยและไปกับตน แต่ต่อมาพระสงฆ์เหล่านั้นก็รู้ว่าตนหลงผิดพากันผละหนีพระเทวทัตกลับมาหาพระพุทธเจ้าเกือบหมด มีสาวกที่ยังหลงผิดอยู่ด้วยไม่กี่ราย
ด้วยความแค้นใจทำให้พระเทวทัตอาพาทล้มป่วยจนกระอักโลหิตไม่สามารถเยียวยาได้ เมื่อรู้ว่ามีอาการหนักใกล้เสียชีวิต พระเทวทัตได้สำนึกบาปที่ตนได้ทำเอาไว้ จึงให้บริวารแบกแคร่ไปขอขมาพระพุทธเจ้าที่พระเชตวันมหาวิหาร แต่พอถึงสระน้ำทางเข้าวัด พระเทวทัตก็เกิดร้อนรุ่มใคร่จะอาบน้ำ จึงให้วางแคร่ลง ทันทีที่พระเทวทัตก้าวเท้าเหยียบพื้นดิน แผ่นดินตรงนั้นก็แยกออกสูบร่างพระเทวทัตจมหายลงไปสู่นรกอเวจีขั้นต่ำสุด ต้องทนทุกข์ทรมานจนชั่วกัปชั่วกัลป์ ด้วยผลกรรมที่สร้างไว้กับพระพุทธเจ้านั้นเป็นบาปมหันต์
บันทึกการเข้า
3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
Leam
Cmadong Member
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
ออฟไลน์
กระทู้: 23,776
Re: ประวัติพระเทวทัต
«
ตอบ #1 เมื่อ:
06 กันยายน 2553, 11:26:50 »
เพิ่มเติมครับ.....
พระเทวทัตแม้จะตกลงไปในอเวจีมหานรก ได้รับทุกขเวทนา แสนสาหัส ซึ่งปกติต้องได้รับโทษยาวนานมาก แต่อาศัยบุญกุศลที่พระพุทธองค์มีพระเมตตาทรงชี้แนะ สอนจนได้ฌาณ และวารจิตก่อนที่จะตกอเวจีมหานรก ได้ระลึกถึงพระพุทธเจ้าขอถวายกระดูกคางเป็นพุทธบูชา บุญกุศลในการทรงฌาณ,ระลึกถึงพระพุทธเจ้าก่อนตาย ทำให้พระเทวทัตอยู่ในอเวจีมหานรก แค่ช่วงพุทธศาสนาประดิษฐานอยู่บนโลก คือ 5,000 ปี
หลังจากนั้นช่วงที่ว่างจากพุทธศาสนา พระเทวทัตจะมาเกิดแล้วบำเพ็ญบารมี จนสำเร็จเป็นพระปัจเจกพุทธเจ้าองค์หนึ่ง
บันทึกการเข้า
whatzup_will
บุคคลทั่วไป
Re: ประวัติพระเทวทัต
«
ตอบ #2 เมื่อ:
14 กันยายน 2553, 20:23:35 »
ขอบคุณที่นำมาให้อ่านค่ะ รวบรวมและเรียบเรียงตั้งแต่ต้นจนจบครบถ้วนจริงๆ ^ ^
บันทึกการเข้า
จุ๊ง2522
Full Member
ออฟไลน์
กระทู้: 781
Re: ประวัติพระเทวทัต
«
ตอบ #3 เมื่อ:
14 กันยายน 2553, 21:58:47 »
สาธุ
บันทึกการเข้า
khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
ออฟไลน์
รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885
Re: ประวัติพระเทวทัต
«
ตอบ #4 เมื่อ:
15 กันยายน 2553, 13:30:27 »
ยังอ่านไม่จบคะ
แป๊บ
บันทึกการเข้า
galayanee
บุคคลทั่วไป
Re: ประวัติพระเทวทัต
«
ตอบ #5 เมื่อ:
22 กันยายน 2553, 20:28:10 »
ขอบคุณ ได้ทราบประวัติเทวทัต ชัดเจน
บันทึกการเข้า
jitwang
มือใหม่หัดเมาท์
ออฟไลน์
กระทู้: 37
Re: ประวัติพระเทวทัต
«
ตอบ #6 เมื่อ:
21 กุมภาพันธ์ 2554, 16:45:44 »
ขอบคุณครับขอแบ่งปันนะครับ
บันทึกการเข้า
หน้า: [
1
]
ขึ้นบน
Cmadong Chula
|
เรือนรับแขก เมาท์แหลกไม่เลือกรุ่น
|
ห้องธรรมะ...สาธุ....
| หัวข้อ:
ประวัติพระเทวทัต
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
กระโดดไป:
เลือกหัวข้อ:
-----------------------------
"กิจกรรมสมาคมนิสิตเก่าหอพักนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย"
-----------------------------
=> ข่าวประชาสัมพันธ์ของสมาคม
=> ข่าวประกาศทั่วไป
=> งานคืนสู่เหย้า ๒๕๕๗
=> โครงการรินน้ำใจเพื่อหอพักนิสิตจุฬาฯ
=> กิจกรรมเพื่อสังคม
=> กิจกรรมวิชาการ
=> กิจกรรมสมาชิกสัมพันธ์
=> กิจกรรมชาวหอ
=> กิจกรรมแกนนำและกิจกรรมรุ่น
=> ข้อบังคับสมาคม และกฎ ระเบียบ
=> การประชุมของสมาคม
-----------------------------
เรือนรับแขก เมาท์แหลกไม่เลือกรุ่น
-----------------------------
=> เรื่องนี้มีพี่บอก
=> โบราณคดี Cmadong
=> ปฏิทินนัดหมายชาวหอ
=> ห้องซีมะโด่งสัมพันธ์
=> ซีมะโด่งเพื่อสังคม
=> ห้องสนทนาประสาพี่น้อง
=> ห้องชาวค่ายหอ
=> ห้องชมรมแสงเสียง
=> ห้องธรรมะ...สาธุ....
=> ห้องวิชาการ ช่วยกันสร้างสรรค์สังคม
=> ห้องแสงทองของชีวิต
=> ห้องสุขภาพและความงาม
=> ห้องท่องเที่ยวไร้พรมแดน
=> ห้องซื้อ - ขาย แลกเปลี่ยน
-----------------------------
เรือนประจำรุ่น อบอุ่นทุกสมัย
-----------------------------
=> รุ่น 2507
=> รุ่น 2510
=> รุ่น 2511
=> รุ่น 2513
=> รุ่น 2514 รุ่นนี้มหาอำนาจ
=> รุ่น 2515
=> รุ่น 2516
=> รุ่น 2517
=> รุ่น 2518
=> รุ่น 2519
=> รุ่น 2520
=> รุ่น 2521
=> รุ่น 2522
=> รุ่น 2523
=> รุ่น 2524
=> รุ่น 2525
=> รุ่น 2526
=> รุ่น 2527
=> รุ่น 2528
=> รุ่น 2529
=> รุ่น 2530
=> รุ่น 2531
=> รุ่น 2532
=> รุ่น 2533
=> รุ่น 2534
=> รุ่น 2535 ซี้ปึ๊ก
=> รุ่น 2536
=> รุ่น 2537
=> รุ่น 2538
=> รุ่น 2539
=> รุ่น 2540
=> รุ่น 2541
=> รุ่น 2542
=> รุ่น 2543
=> รุ่น 2544
=> รุ่น 2545
=> รุ่น 2546
=> รุ่น 2547
=> รุ่น 2548
=> รุ่น 2549
=> รวมรุ่น 90-96 รหัส 2550-2556
-----------------------------
ข่าวประกาศ
-----------------------------
===> Countdown งานคืนสู่เหย้า 94 ปีซีมะโด่ง : เสาร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ 2555
===> "รวมภาพงาน" ผูกพัน วันเก่า ๙๔ ปี ซีมะโด่ง
ทำไมหอพักนิสิตจุฬาจึงเป็นดินแดนมหัศจรรย์ " ไม่ได้เป็นแค่หอให้นอนพัก แต่เป็นบ้านอบอุ่นรักให้อาศัย ไม่เป็นแค่ที่ซุกหัวยามหลบภัย แต่สร้างใจให้เข้มแข็งแกร่งการงาน" <))))><
กำลังโหลด...