วณิพกพเนจร..สู่ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน (โปรตุเกส-สเปน) ..ปลายทางฝันของนักเดินทาง

[หนุน'21]

เวลาท่องเที่ยว..ใกล้เข้ามาทุกทีขอให้มีความสุขกันทุกคน
ในวันแห่งความรักเช่นนี้

 

[seree_60]

หวัดดีทุกคน
พอย่างเข้าเดือน มิย. คณะทัวร์จะเช็คยอดผู้ร่วมคณะว่า สุดท้าย จะรอด หรือจะล่ม
เป็นธรรมดาของการวางแผนระยะยาว สมาชิกก็จะหดหายไปเรื่อยๆตามภารกิจของแต่ละคน
ตอนนี้ ยอดสุดท้าย มี8 คน คือ
หนุน และคณะ 5 คน+พี่เหน่ง 13+พี่แจ๋ว13+ตะวัน15=8คน
น้องหยี ณ.ลิสบอน มาแจม อีก 1 คน
รวมทั้งหมด 9 คน
กำหนดการเดินทางคือ 7-19ตค2011
ออกเดินทาง 7ตค. ถึงที่หมาย 8 ตค.
ขากลับ เดินทาง 18 ตค. ถึง กทม.ด้วยสวัสดิภาพในวันที่ 19 ตค.2011

ตอนนี้จะทะยอย หาข้อมูลมายั่งน้ำลายคนที่พลาดโอกาสนี้

[Leam]

รอข้อมูลจนน้ำลายแห้งแล้วครับ.....พี่ตะวัน

[seree_60]

		อ้างถึง			ข้อความของ Leam เมื่อ 01 มิถุนายน 2554, 23:37:38
	รอข้อมูลจนน้ำลายแห้งแล้วครับ.....พี่ตะวัน

แต่คนหาข้อมูล ยังนอนหยอดน้ำข้าวต้ม อยู่ครับ

[seree_60]

น้องหยี
ช่วงสงกรานต์ อากาศร้อนถึง 30 เชียวหรือครับ
แล้วช่วงนี้ น่าจะไปเที่ยวได้ไหม ( ถามเผื่อปีหน้า ผบทบ.อยากไป)
แล้ว อากาศ สวิง จาก เท่าไหร่ถึงเท่าไหร่  มีฝนไหมครับ?

ระหว่างเมย. กับ ตค. น้องหยีคิดว่า ช่วงไหน น่าจะประทับใจในการเที่ยวมากกว่ากัน
หรือจะแนะนำช่วงไหน ที่น่าประทับใจมากที่สุด

ถามเยอะมาก..งานนี้พลาดไม่ได้ด้วยประการทั้งปวง
ตอบคำถามพี่ตะวันค่ะ ..
   
March-May Or September-October..    Hotel rate are cheaper and there are fewer crowds, than in summer
Winters in Lisbon are warm for europe,in the 50s an average.




    more info : http://travel.usnews.com/Lisbon_Portugal/

[seree_60]

When to Visit Lisbon

The best time to visit Lisbon is either from March to May or September to October, because the weather is still warm, hotel rates are cheaper and there are fewer crowds than in summer. In those seasons you might also be able to squeeze in a few beach days. The summer sees hot temperatures and crowded shores. Winters in Lisbon are warm for Europe, in the 50s on average.
March-May
Hotel rates and crowd density drops in these shoulder months, with the exception of Carnaval in March. There is a slightly higher chance of rain, but the pleasant temperatures hover in the 60s and 70s.

Key Events:

    Carnaval (March)
    Lisbon Fish & Flavours (April)
    IndieLisboa (May)

September-October    

Similar to the spring, fall is less expensive and less crowded. Temperatures begin to drop into the low 60s and high 50s, so be sure to pack your windbreaker.

Key Events:

    Red Bull Air Race World Series (September)
    MotelX (Late September-Early October)

[seree_60]

Best Things to Do in Lisbon

Lisbon is probably best known for its colonialist history, ornate Manueline architecture and tradition of Fado music. But some of its best features are in the every day -- spectacular hilltop vistas, pleasant year-round weather, friendly people and a true "café culture." To enjoy these, bring some comfortable footwear and a pocket map of the public transit system. Plan on spending a half day to a full day exploring the waterfront neighborhood of Belém, or maybe plan a day trip to Sintra, located 20 miles west of Lisbon.

Best Things To Do in Lisbon

    #1Tram 28
    #2Belem
    #3Alfama
    #4Santa Justa Elevator (Elevador de Santa Justa)
    #5Sintra


Itinerary Suggestions
One Day in Lisbon

If you're staying in Alfama, Bairro Alto or the lower neighborhoods sandwiched in between them, you'll be able to walk to many nearby sites. The medina-like Alfama is most visitors' first stop, with a visit to St. George's Castle (Castelo de São Jorge) to tour historic ramparts and get 360-degree views of Lisbon from the hilltop perch. After a little wandering, consider a stroll through either Baixa and Chiado or an afternoon visit to Belém, five miles west of downtown. Finish the day with traditional Portuguese fare and a night out in Bairro Alto (preferably at a non-tourist Fado club).

    If You Have 1 Day Take a stroll through the Alfama, the most interesting district of Lisbon. Visit the 12th-century Se (cathedral), and take in a view of the city and the river Tagus from the Santa Luzia Belvedere. Climb up to the Castelo de Sao Jorge (St. George's Castle). Take a taxi or bus to Belém to see the Mosteiro dos Jeronimos (Jeronimos Monastery) and the Torre de Belém." -- Frommer's

Two Days in Lisbon

Two days is still rushed if you want to get to know the city. If ticking off the major sites is your top priority, add a day trip to Sintra to the "One Day in Lisbon" itinerary.

A slightly easier (but still action packed) itinerary would skip Sintra and stick to one section of town per day. For example, Lonely Planet suggests "a rollercoaster ride of Lisbon on Tram 28" for Day 1, taking you to St. George's Castle, from where you can explore the Alfama district and Sé Cathedral. The guidebook recommends spending Day 2 visiting the sites of Belém.

[seree_60]

Sintra

With its bounty of parks and castles, the town of Sintra is an extremely popular day trip from Lisbon. Many consider it a must-see, even if you're on a tight schedule. The top attractions, in addition to strolling through the town itself, you can visit the National Palace of Sintra (Palacio Nacional de Sintra), the National Palace of Pena (Palacio Nacional da Pena) and the Moors' Castle (Castelo dos Mouros), a fortified castle built by the Moors.

    Souvenirs and Porto wine are all on sale in the Sintra historic district. There are a number of shops that sell standard tourist items (post cards, t-shirts, etc.) and a number of shops that sell ceramics, pieces of art and hand crafts." -- Wikitravel

[seree_60]

    Why Visit Spain in September & October?
    Plenty going on in Catalonia in September, with the Festa de Santa Tecla in Tarragona and the Festa de Mercé in Barcelona.

    In October, catch the Bienal de Flamenco, Spain's biggest flamenco festival, every two years (2008, 2010, etc) as well as a whole host of film festivals

    More:
        Events in September in Spain
        Events in October in Spain

    Weather:
    The weather gets steadily cooler during September and October. It can still be quite warm in September (and far more bearable than in August) but the later you get the more unreliable the weather is likely to be. Weather-wise, this is one of the best time to visit central cities such as Madrid and Salamanca.

    More: Weather in September & October in Spain
For those who like sunshine but don't like intense heat, October might be the best time for you to visit Spain.

October tends to be warm but not excessively hot. There's no guarantee that it will be dry all month long, so bring an umbrella.

Remember that we're talking averages here. Weather anywhere is unpredictable, so don't take what you read on this page as gospel.

If you're planning just a short trip to Spain in October, check out this page on Weekend

[Leam]

ผมก็พอมีข้อมูลอยู่บ้าง....

ไว้มีโอกาสจะโพสท์ครับ.

[หนุน'21]

เข้ามา update  ข้อมูลครับ
ขอบคุณพี่ตะวันที่หาข้อมูลมาให้อ่าน
แต่ต้องอาน นาน...ภาษาไม่แข็งแรง เหอ เหอ

รอเพิ่มเติมจาก น้องเสี่ยแหลมนะครับ

[seree_60]

ช่วงนี้จะเป็นช่วงข้อมูลล้วนๆ ไม่มีภาพประกอบครับ

Asturia........ ขอเรียกส่วนนี้ของสเปนว่า "Unseen Spain"
เพราะคนมักจะมองข้ามแคว้นนี้ในการทำทริปไปสเปน จริงๆแล้วแคว้นนี้มีอะไรน่าดูเยอะมาก ดูได้ที่นี่

http://www.trekkingthai.com/cgi-bin/webboard/generate.pl?board=backpacker&content=1097

เทือกเขา Picos de Europa เป็นเทือกเขาที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรป
 ยิ่งถ้ามาช่วงใบไม้เปลี่ยนสี ไม่ต้องพูดถึง จิ่วไจ้โกวก็จิ่วไจ้โกวเถอะ
เมือง Covadonga และ Cangas de Onis เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวของย่านนี้

เมือง Oviedo เมืองหลวงของแคว้นนี้ บ้านเกิดของเจ้าหญิง Letizia ซินเดอเรลล่าสเปน
เมืองนี้ได้รับการโหวตว่าเป็นเมืองที่สะอาดที่สุดในยุโรป
จะมากแค่ไหนมาดูเอาเอง ชานเมืองมีโบสถ์แบบ Pre-Romanesque ที่ได้เป็นมรดกโลก อยู่หลายแห่ง
 ใครที่เบื่อโบสถ์แบบ Gothic, Baroque, Byzentine ลองมาดูโบสถ์แบบนี้ดูบ้าง

ทิวทัศน์สองข้างทางของแคว้นนี้จะเป็นทุ่งหญ้าเลี้ยงวัว เหมือนสวิตเซอร์แลนด์เลย

การเดินทางทำได้ง่ายมาก โดยรถบัสจากมาดริดแค่คืนเดียว

[seree_60]

Barcelona.......
.หลายคนเมื่อพูดถึงสเปน มักจะนึกถึงเมืองนี้เป็นเมืองแรก อาจเป็นเพราะอิทธิพลของละคร F4
หรืออาจเป็นเพราะเป็นเมืองที่จัดกีฬาโอลิมปิกส์เมื่อปี 1992
จริงๆ แล้วเมืองบาร์เซโลนา เป็นหนึ่งในเมืองที่มีความเป็นสเปนน้อยที่สุด
เพราะแคว้น Cataluna เป็นแคว้นที่มีความเป็นชาตินิยมสูงมาก
 มีภาษาและวัฒนธรรมเป็นของตัวเอง แต่ก็เป็นเมืองที่ไม่ควรพลาดหากได้มาสเปน

สัญลักษณ์ของเมืองนี้ ที่ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวงคือ โบสถ์ La Sagrada Familia
ขอเรียกสั้นๆว่า "จอมปลวก" สร้างโดยสถาปนิกชาวกาตาลัน ที่มีชื่อเสียงชื่อ Antoni Gaudi สร้างยังไม่เสร็จ
 เกาดี้ก็ไปอยู่กับพระเจ้าเสียก่อน รัฐบาลกาตาลันก็เลยมาสร้างต่อ กะว่าจะเสร็จในปี 2020
แต่เท่าที่ดูแล้ว คงยังเป็นจอมปลวกไปอีกนาน สงสัยคงยื้อเวลาเก็บค่าเข้าราคาแพงไว้นานๆ (ค่าเข้าจอมปลวก9 ยูโร)
แต่แนะนำว่าดูอยู่ข้างนอกก็พอแล้ว ไม่จำเป็นต้องเสียเงินขนาดนั้นเข้าไปดูกองเหล็ก กองอิฐ หรอกครับ
แต่ข้างในก็มีลิฟท์ขึ้นไปถึงยอดจอมปลวก ถ้าอยากชมวิวราคาแพงก็ได้ ไม่มีใครว่า
 การเดินทางไปถึงจอมปลวกทำได้สะดวกโดยรถใต้ดิน

อีกแห่งที่ห้ามพลาดเมือมาที่นี่คือถนน La Rambla
เป็นถนนคนเดินที่มีชีวิตชีวาที่สุดในยุโรป ตัวถนนร่มรื่นไปด้วยต้นไม้สองข้างทาง
 ศิลปินทุกแขนง ร้านค้าทุกประเภท คาเฟ่น่านั่ง จะรวมอยู่ที่ถนนยาวเกือบ 1 กม.แห่งนี้

สำหรับพวกชอบสถาปัตยกรรมแบบ Modernism ที่นี่คือสววรค์
อย่าพลาด La Padera (Casa Mila) , Casa Batllo, Parc Guell ,
 Palau Musica Catalana, Hospital San Pau

หากมีเวลาขอแนะนำให้ขึ้นกระเช้าขึ้นป้อมปราการบน Mont Juic
จากที่นี่จะเห็นวิวเมืองทั้งเมืองพร้อมทะเลเมดิเตอราเนียน

การท่องเที่ยวในบาร์เซโลนาทำได้สะดวกด้วยรถบัส Turistic เปิดประทุนสีเขียว
 ซึ่งจะขึ้นหรือลงกี่รอบก็ได้ภายใน 1 หรือ 2 วันแล้วแต่ประเภทของตั๋ว
 ดูรายละเอียดได้ที่นี่ http://www.tmb.net/en_US/turistes/busturistic/rutesiparades.jsp

[seree_60]

Cordoba.....
.เมืองใน Andalucia ที่น่าสนใจ ในอดีตสมัยอาณาจักร Al Andalus รุ่งเรืองช่วงคริสศตวรรษที่ 7
 เมืองนี้เป็นเมืองหลวงที่วิจิตรงดงามที่สุดในยุโรป
 หากใครชอบศิลปะมุสลิมและย่านเมืองเก่าเล็กๆที่มีบ้านสีขาวที่ะเบียงประดับดอกไม้จะต้องหลงรักเมืองนี้....
.La Mesquita มหาวิหารประจำเมือง ในอดีตเคยเป็นสุเหร่ามาก่อน
ค่าเข้าชม7.5 ยูโร แต่คุ้มมาก เข้าไปเลยไม่ต้องเสียดายเงิน
เมื่อเข้าไปข้างในแล้วให้ตรงไปที่แท่นบูชาของมุสลิมที่เรียกว่า Miharb
ที่นี่คุณจะพบกับศิลปะมุลสิมที่งดงามที่สุดแห่งหนึ่งในโลก.....
.ย่านเมืองเก่าที่นี่ น่ารักมาก บ้านสีขาวในตรอกเล็กๆ ได้บรรยากาศอันดาลุซอย่างแท้จริง...
.ที่นี่มีสวนน้ำพุสวยชื่อ Alcazar de los Cristianos ไม่ควรพลาดอีกเช่นกัน.....
. เมืองนี้เดินทางสะดวกด้วยรถไฟ AVE รถไฟด่วน
 (แนะนำว่าถ้าใครไปเที่ยว Sevilla โดยรถไฟด่วน ควรแวะเที่ยวเมืองนี้สัก 2 ชม. ก่อน)

[seree_60]

Sevilla......
.เมืองหลวงของแคว้นอันดาลูเซีย มีอะไรให้ดูมากมาย เพราะที่นี่คือ"สเปนแท้ๆ" .....
 มหาวิหารของเมือง Sevilla ได้รับการบันทึกไว้ในกินเนสบุ๊คว่าเป็นโบสถ์ที่มีพื้นที่มากที่สุดในโลก
หอระฆังของที่นี่สร้างโดยมุสลิม ภายในสวยมากๆ มีหลุมศพของ คริสโตเฟอร์ โคลัมบัสด้วย...
.Real Alcazar ของที่นี่ก็สวย สร้างโดยกษัตริย์คริสเตียน
แต่ศิลปะมุสลิมที่เรียกว่า Mudejar......Plaza de Espana ของเมืองนี้สวยที่สุดในสเปน
 สร้างได้แบบ "โคตรสเปน" เป็นยังไงมาดูเอาเอง...
..Plaza de Toros ที่เมืองนี้เก่าแก่เกือบที่สุดในสเปน นักสู้วัวดังๆมักมาสู้วัวที่นี่.....
.ถ้ามีเวลาควรล่องแม่น้ำ Guadaquivir ซึ่งเป็นเส้นทางเดินเรือที่สำคัญมากในอดีต
 เพราะเมืองนี้ผูกขาดทางการค้ากับทวีปอเมริกา

[seree_60]

Granada.....

.สถาปัตยกรรมแบบมุสลิมที่งดงามที่สุดในยุโรปตั้งอยู่ที่นี่
นั่นคือ La Alhambra พระราชวังของกษัตริย์มุสลิมราชวงศ์สุดท้ายของอาณาจักร Al Andaluz

ไม่รู้ว่าจะอธิบายยังไงกับความละเอียด สาวยงามของศิลปะมุสลิมที่พระราชวังแห่งนี้
 Boabdilกษัตริย์องค์สุดท้ายของ Al Andaluz ยอมแพ้กษัตริย์คริสเตียนโดยสงบเพราะไม่ต้องการให้พระราชวังแห่งนี้ถูกทำลาย
.... เพื่อเป็นการปกป้องพระราชวังแห่งนี้จากการท่องเที่ยว
จึงมีการจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวให้เข้าชมได้วันละ 9000 คน
หากในไปเที่ยวช่วงเดือน ก.ค.-ส.ค. แนะนำว่าให้ซื้อตั๋วไปก่อน ที่ธนาคาร BBVA สาขาไหนก็ได้ในสเปน

นอกจากพระราชวัง Alhambra แล้ว
ย่าน Albaizin ย่านชาวยิวในอดีต ก็ไม่ควรพลาด เพราะบ้านเรือนในย่านนี้ทาสีขาว ประตูเป็นสีสัน น่ารักมาก

อีกที่ที่ไม่ควรพลาดคือสุสานกษัตริย์คริสเตียน ซึ่งมีพระศพของพระเจ้า Fernando
และพระราชินี Isabel สองกษัตริย์ผู้รวมราชอาณาจักรสเปน

หากใครมาที่นี่ช่วงปลายเดือน พ.ย.-เม.ย.
ก็ควรจะนั่งรถไปเที่ยว Sierra Nevada แหล่งสกีที่อยู่ใต้สุดของยุโรป ซึ่งอยู่ห่างจากกรานาดา 33 กม.

.

[seree_60]

Valencia.....
.บ้านเกิดของ Paella ข้าวผัดสเปน อาหารประจำชาติ
เมืองนี้นอกจากมีทีมบอลที่เก่งแล้ว ยังมีพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ที่ทันสมัย
Aquarium ของที่นี่มีปลาวาฬขาวให้ดูด้วย
 หาดทรายอยู่ชานเมือง ไม่สวย ไม่ต้องไปก็ได้

ในจังหวัด Valencia มีเมืองชายทะเลที่น่าแวะอยู่ 2 แห่งคือ
 Alicante กับ Benidorm ถ้ามีเวลาก็น่าไปเที่ยว
โดยเฉพาะที่ Benidorm คุณจะนึกว่าตัวเองอยู่ใน Honolulu หรือ Rio de Janeiro

[seree_60]

Toledo......
 เมืองนี้เป็นเมืองสำคัญมากในอดีต จะให้อธิบายว่าสำคัญยังไงคงยืดยาว ไปหาอ่านเอาเอง
แต่ที่สำคัญคือเป็น Side trip ที่ควรทำเป็นอย่างยิ่งเมื่อมามาดริด
เพราะไม่ว่าใครก็ตามที่มาที่นี่ก็ต้องหาทางไปToledo กันทุกคน
 โดยส่วนตัวแล้ว ผมรู้สึกว่าเมืองเก่าก็ไม่ได้สวยอะไรมากมาย
เมือง Segovia สวยกว่าอีก
แต่สถานที่ที่ที่ทำให้คนมาเมืองนี้ คือ Toledo Cathedral เข้าไปเถอะครับ ไม่ต้องเสียดายค่าเข้า เพราะสวยจริงๆ

[seree_60]

Madrid.....
.เมืองหลวงของสเปน เมืองนี้เป็นเมืองใหญ่ที่ดูอลังการ(กว่าเมืองอื่นๆในประเทศ)
ต้นไม้เยอะ น้ำพุสวยๆหลายแห่งตามวงเวียน
 พิพิธภัณฑ์ศิลปะ 3 แห่งสำคัญ Prado, Thyssen, Reina Sofia เป็นสถานที่ที่น่าไปดู หากชอบศิลปะ....
.สำหรับคอบอลก็ต้องห้ามพลาดชมสนาม Santiago Bernabeu
สนามฟุตบอลของ Real Madrid ซึ่งมีพิพิธภัณฑ์ของสโมสร เสียค่าเข้า 9 ยูโร
 แต่ได้เข้าไปชมห้องแต่งตัวและได้นั่งบนม้านั่งของนักเตะด้วย
 ถ้าอยากดูการแข่งขัน หากนัดสำคัญต้องซื้อล่วงหน้า ซุ้มขายตั๋วจะเปิดเช้าๆ ช่วง 10 โมงเป็นต้นไป.....
.สถานที่อื่นๆก็มี Plaza Mayor จตุรัสใจลางเมือง, Royal Palace ข้างในก็สวยดี.....
 สำหรับขาช้อปไม่ควรพลาด El Rastro ตลาดนัดวันอาทิตย์ ที่นี่มีขายของทุกอย่าง ขนาดต้นหม้อข้าวหม้อแกงลิงยังมีขาย
 แต่ระวังกระเป๋าตังค์ให้ดี
สำหรับพวกชอบเสื้อผ้าแฟชั่น MNG และ ZARA กำลังรอท่านอยู่ ใจกลางกรุงมาดริดมี outlet ของทั้งคู่
ใครออกมามือเปล่าก็ดูจะใจแข็งไปหน่อย
(ของ MNG อยู่ที่ถนน Fuencarral ของ ZARA อยู่ที่ Gran Via)......
 การสู้วัว เป็นสัญลักษณ์ของสเปนไปแล้ว สามารถดูได้ที่ Plaza de Toros
ในช่วงปลายเดือนมีนาคมถึงปลายเดือนตุลาคม ถ้าโชคดีจะเห็นวัวไล่ขวิดมาธาดอร์จนเลือดสาด(เคยเห็นมาแล้ว)
 ค่าตั๋วไม่แพงเท่าไหร่ แต่ระวัง ถ้าเห็นแล้วจะรู้สึกหดหู่จนอยากทานเนื้อน้ำตก.....
.ใครที่พาแฟนไปที่นั่น อยากหาช่วงเวลาโรแมนติกใต้ต้นไม้ในสวน ขอแนะนำสวน Retiro มีบึงให้พายเรือด้วย
ระวัง ถ้าไปตอนกลางคืนอาจมีคนมาถามราคา.......

[seree_60]

โปรตุเกส..เมืองเป้าหมาย

เมืองคาสเคส (Cascais) ที่ ครั้งหนึ่งเคยเป็นเมืองท่าที่สำคัญมาก
 มีการสร้างทางรถไฟขนส่งสินค้าเป็นเส้นทางแรกในโปรตุเกส
 ปัจจุบันเป็นเมืองตากอากาศที่มีชื่อเสียง เต็มไปด้วยสีสัน เช่นเดียวกับเมืองเอสโตริล
 พระเจ้าอุมแบร์โตแห่งอิตาลี, กษัตริย์คารอลที่ 2 แห่งโรมาเนีย
และเจ้าชายฮวนแห่งสเปน แม้กระทั่วเชื้อพระวงศ์ฮับสเบิร์ก
 ล้วนแต่เคยหลบลี้ภัยมาประทับที่นี่เช่นเดียวกัน
เดินเที่ยวชมความน่ารักของเมือง
 และไปถ่ายภาพกับพระราชวังเก่าที่ตกแต่งอย่างสวยงาม
และสนามสู้วัวกระทิง
 ก่อนจะออกเดินทางสู่แหลมโรก้า (Capo Da Roca) จุด ตะวันตกสุดของยุโรป
 ชายฝั่งทะเลมีหมู่บ้านชาวประมงเรียงราย
 เมืองต่างๆเหล่านี้มีโบราณสถานและโบราณวัตถุจำนวนมาก
 ล้วนได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลกทั้งสิ้น

[seree_60]

เมืองเอสโตริล (Estoril)

เดินทางเลาะเลียบชายฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติก
 ผ่านเมืองเล็กๆ น่ารักแถบชานเมืองลิสบอนสู่เมืองเอสโตริล (Estoril)
 ที่ได้รับสมญานามร่วมกับอีกสองเมือง คือ คาสเคส และซินทร้า
ว่าเป็น Golden Triangle
เมือง ตากอากาศที่เต็มไปด้วยความสวยงาม ไม้ดอก  และแนวต้นปาล์ม
 แลดูคลาสสิคด้วยรีสอร์ทตากอากาศสีพาสเทล
 ในยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 กษัตริย์ทั่วยุโรปได้หลบลี้ภัยมาประทับอยู่ที่นี่
คฤหาสน์บางหลังเป็นมรดกตก ทอดจากราชวงศ์นั้นๆ
ได้กลายเป็นแห่งท่องเที่ยวชายทะเลที่โด่งดัง
จนได้รับฉายา นามว่า ปอร์ตุกีส ริเวียร่า เลยทีเดียว

[seree_60]

เมืองโอปอร์โต้ หรือ ปอร์โต้ PORTO .
ของชาวโปรตุเกส ซึ่งมาจากคำว่า “ พอร์ต ” ในภาษาอังกฤษนั่นเอง
 เนื่องจากเมืองนี้เป็นเมืองท่าในอดีต และยังเป็นแหล่ง ผลิตพอร์ตไวน์อันเลื่องชื่อของโลกมีชื่อว่า Port
ปัจจุบันเป็นเมือง ใหญ่อันดับสองของโปรตุเกส ซึ่งตั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำดูโร

นับว่าเป็นเมืองที่ สวยงามด้วย ศิลปะแบบบาโรค
เที่ยว ชมย่านเมืองเก่าซึ่งเต็มไปด้วยสีสันและสถาปัตยกรรม จนได้รับการ ประกาศให้เป็นมรดกโลก
 และในปี 2001 ยังได้รับการขนานนามให้เป็น “ เมืองศูนย์กลางแห่งวัฒนธรรมของยุโรป ”

เที่ยวชมย่าน Avenida do Aliados ซึ่งเป็นที่ตั้งของศาลาว่าการเมือง หอระฆัง
ย่าน Praa da Liberdade ซึ่งมี อนุสาวรีย์กษัตริย์ เปโดร ที่ 4
โบสถ์สไตล์บาโรค ซึ่งสร้างขึ้นใน สมัยศตวรรษที่ 18

ไปเดินเล่น เพื่อความ สวีท ณ.บริเวณถนนที่ขึ้น ชื่อว่าโรแมนติคที่สุด Rua das Flores
   

[seree_60]

"รอนด้า" SPAIN

เป็นเมืองเก่าที่มีเสน่ห์มากช่วงที่ผมเดินทางไปนั้นอากาศกำลังเย็นสบาย ใส่เสื้อหนาวตัวเดียวก็อุ่นพอ ขอแนะนำนักท่องเที่ยวที่ชอบชมวิวจากที่สูงแบบพาโนราม่า มีให้เห็นเต็มตา ท่านจะได้มองลงมาเห็นเทือกเขาแถบตอนใต้ของสเปน บ้านเรือนสวยๆตามเชิงผา และการปลูกต้นมะกอกซึ่งเป็นสินค้าสำคัญอย่างหนึ่งของสเปนทางตอนใต้ ซึ่งมีอากาศแบบเมดิเตอร์เรเนียน เหมาะสมกับการผลิตน้ำมันมะกอก ไวน์ ชีส อาหารทะเล และเนื้อสัตว์ชั้นดีต่างๆ
       
       ในรอนด้านั้นจะแบ่งเป็นย่านเมืองเก่าและเมืองใหม่ครับ ย่านเมืองเก่านั้นสถานที่สำคัญซึ่งต้องไปเยี่ยมชมก็คือประตูเมืองอันเก่าแก่ โบสถ์ซานตา มาเรีย ลา มายอร์ (Santa Maria La Mayor) และพลาโช่ เดอ ซาน ฮวน บอสโก้ (Palacio De San Juan Bosco) หรือว่าจะเดินเล่นชมบ้านเมืองอันเก่าแก่ของเขาก็เพลินตาแล้วล่ะ แน่นอนมีร้านขายของที่ระลึกน่ารักๆให้เลือกซื้อมากมาย แต่สนนราคาก็แพงหน่อยตามประสาเมืองท่องเที่ยวล่ะครับ
       
       ส่วนแถบเมืองใหม่นั้นบริเวณที่สวยมากหรือไฮไลท์ของรอนด้า อยู่ตรงสะพานที่เรียกว่า "The New Bridge" สาเหตุที่เขาเรียกชื่อสะพานอย่างนั้นก็เพราะ สะพานแห่งนี้ได้มีการก่อสร้างใหม่หลังแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ พอก่อสร้างเสร็จเรียบร้อยแต่ยังไม่ทันเปิดใช้ เกิดพังถล่มเอาดื้อๆซะก่อน สงสัยว่าจะไม่ได้ดูฤกษ์ดูยามในการสร้าง ก็เลยต้องมีการลงทุนสร้างกันใหม่อีกครั้ง พอเปิดใช้งานก็เลยเรียกว่า "The New Bridge" หรือย่านสะพานใหม่ (ไม่เกี่ยวข้องกับแถวดอนเมืองบ้านเรานะ HA HA )


 ใต้ของสะพานนี้ถือเป็นภูมิทัศน์ที่สวยงามมาก แต่ก่อนเคยเป็นน้ำตกนะครับ แต่หลังจากแผ่นดินไหวใหญ่ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 แผ่นดินก็แยกออกจากกัน ทำให้น้ำตกค่อยๆเหือดแห้งไป ทิ้งไว้แต่เพียงลำธารเล็กๆกับเชิงผาสูงชัน ปัจจุบันกลายเป็นสถานที่สำหรับการฆ่าตัวตายของผู้คนในเมืองนี้ที่ผิดหวังและ พ่ายแพ้ต่อชีวิต
      นักท่องเที่ยวที่ไปเยือนรอนด้า และต้องการชอปปิ้ง ขอแนะนำร้านบริเวณรอบๆสะพานใหม่นั่นแหล่ะครับดีที่สุด มีมากมายให้เลือกสรร ส่วนสินค้าขึ้นชื่อก็คือเครื่องหนัง ทั้งเข็มขัด หมวก กระเป๋าสตางค์ นอกจากนั้นก็มีของที่ระลึกต่างๆ ประเภทแม็กเน็ต เข็มกลัด ภาพวาด จาน ถ้วย
       
       ที่ต้องระวังก็คือไม่ใช่ขโมย ขโจรอะไรหรอกครับ ที่นี่ค่อนข้างปลอดภัย แต่คือเรื่อง "เซียสต้า" หรือการนอนกลางวันของคนสเปนนั่นเอง ร้านขายของที่นี่จะปิดช่วงบ่ายสองถึงห้าโมงเย็นเพื่อให้คนนอนกลางวันหลัง มื้อเที่ยงนะครับ เพราะฉะนั้นจะต้องจัดสรรเวลาให้ดี


 หลังเดินชอปจนเหน็ดเหนื่อยลองแวะพักโดยเลือกร้านบริเวณเชิงผานั่งจิบ กาแฟหรือรับประทานอาหารหนักก็ตามใจ เพื่อชมวิวทิวทัศน์และเก็บบรรยากาศของรอนด้าส่งท้ายก่อนอำลา
       
       ขากลับนั่งรถลงมารับรองว่าจะสบายกว่าขาขึ้นแน่นอน เพราะทุกคนจะหมดแรงพิซซ่าจากการเดินชอปและเที่ยวมาทั้งวัน เพื่อนร่วมทริปของผมหลับปุ๋ยกันเป็นแถว เผลอแป๊บเดียวมารู้สึกตัวอีกทีก็ตีนเขา ได้แต่เผลอใจหายว่าถึงเวลาต้องจาก "รอนด้า" ไปจริงๆแล้ว แต่คงไม่ลืมที่จะเก็บความประทับใจเอาไว้ตลอดกาล
       
       *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *
       
      "รอนด้า" เป็น เมืองเก่าอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของเมืองมาลาก้า อยู่ในแคว้นอันดาลูเชีย ทางตอนใต้ของประเทศสเปน อยู่สูงจากระดับน้ำทะเล 1,640 เมตร มีภูมิอากาศและภูมิประเทศแบบเมดิเตอร์เรเนียน อากาศดีตลอดปี รอนด้าสินค้าขึ้นชื่อคือเครื่องหนัง กระเป๋า รองเท้า เข็มขัด หมวก

[หนุน'21]

ขอบคุณครับพี่ตะวัน

[หนุน'21]

เข้ามาตามอ่านอีกที
ดูแผนที่ google ตามไปด้วย
เมื่อกลางวันอ่านแบบผ่านๆ เร็วๆ ด้วย ipad
ยังใช้ไม่ค่อยเป็น
เอิ๊ก เอิ๊ก

ขอบคุณพี่ตะวันอีกทีครับ