25 พฤศจิกายน 2567, 21:48:30
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: 1 ... 674 675 [676] 677 678 ... 681   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: คุย กับ คุณมานพ กลับดี อดีตประธานชมรม ๓ สมัย  (อ่าน 3579356 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 71 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #16875 เมื่อ: 09 มิถุนายน 2561, 16:18:43 »


พี่ท่าน,
เข้ามาติดตามผลค่ะ
ช่วงนี้จะเข้าหน้าร้อน หนิงมักจะมีกิจกรรมมากมาย
ทุกสัปดาห์มีโปรแกรมอะไรตลอด สุดสัปดาห์หน้า
ไปเดินป่ากะพวกผู้หญิง7-8คน สัปดาห์ถัดไปจะขับ
ไปDresdenเยี่ยมลูกสาวที่เรียนมหาลัยปี1จะขึ้นปี2
เมื่อหลายสัปดาห์ที่แล้วมีเดินทางทั้งเที่ยว ทั้งเดินทางไกล
ก็ต้องเตรียมตัวเองคะ ไปว่ายน้ำทุกสัปดาห์ ไปถีบจักรยาน
อากาศดีก็มักมีอะไรนอกบ้าน เวลาพักจึงยาวนานกว่าปกติ
เหนื่อยพี่! อายุเพิ่มมากขึ้นต้องออกกำลังมากขึ้นคะร่างกาย
จะได้มีพละกำลัง ระยะหลังเพิ่มเวลา/ระยะทางว่ายน้ำคะ
ปกติ120ลู่ 3000เมตรหนิงใช้เวลา 74-75นาที
ก็เริ่มเพิ่มเวลาว่ายเป็น 80นาทีคะ!ผลทางอ้อมคือสุขภาพจิตหนิง
จะแจ่มใสเป็นผลมาจากการได้ออกกำลังได้เสียเหงื่อแบบในน้ำ
..ไม่รู้เท่าไหร่
หลังไปออกกำลังกายจะชื่นบาน สมองผ่องใส บอกไม่ถูกค่ะ

ลูกชายหนิงเรียนจบแล้วนะพี่ 3ปีครึ่งคะ
งานเขียนจบbachelorแกได้รับเลือกจากProfessor
ให้ไปร่วมงานspace conferenceที่เดนเวอร์คะ
แกบินเมื่อวาน อยู่ที่นั่น2อาทิตย์ กลับมาแล้วเดือนกรกฎา
แกจะบินมาเมลเบริ์น-ออสเตรเลียค่ะ เรียนที่มหาลัยเมลเบริ์น
คณะวิศวกรรม 1 ภาคเป็นforeign Semester จนกุมภาพันธ์2562
จึงจะกลับมาต่อmaster ที่มหาลัยที่Stuttgart ได้รับการตอบรับแล้ว

หนิงกะแฟนจึงมีเวลาร่วมทำกิจกรรมอะไรๆเท่าที่มี
มีความสุขสนุกดีค่ะ.
      บันทึกการเข้า


Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #16876 เมื่อ: 11 มิถุนายน 2561, 19:08:35 »

สวัสดีค่ะ คุณน้องหนุ๋งหนิ๋ง ที่รัก

ลูก ๆ โตกันหมดแล้ว ก็เหลือสองคนตา-ยาย อยากจะไปไหน? ก็ไป เป็นความสุขของคนมีครอบครัว

แต่ต้องระวัง อาหาร ออกกำลังกาย และนอนให้พอ

พี่สิงห์  นอนไม่พอ เพราะต้องเข้าห้องน้ำคืนละ 3-4 ครั้ง พยายาทเข้านอน ไม่เกิน 20:30 น. แต่มันตื่นตั้งแต่ 04:00 น. ร่างกายมันจึงมีโรคตามมามากมาย ก็รักษากันไป ครับ

พยายามรักษาใจของเราให้ปกติ เป็นพอ
ยังใช้ชีวิตปกติในการดำรงชีวิต และทำงานครับ

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #16877 เมื่อ: 12 มิถุนายน 2561, 13:08:37 »



วันที่ 11-12 มิถุนายน มาสอนหนังสือที่ PPS concrete จอมทอง เชียงใหม่
หมดง่นแล้วก็มาออกกำลังกายที่สนามอินทนนท์กอล์ฟคลับ และพักที่สนามกอล์ฟ

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #16878 เมื่อ: 14 มิถุนายน 2561, 13:15:33 »



ผลตรวจร่างกาย ที่คุณหมอประเสริฐ  แห่งสถาบันประสาทแนะนำคือ
- ต้องผ่าตัด เพราะหมอนรองกระดูทรุด มันยังทับเส้นประสาทอยู่ ต้องแก้ที่ต้นเหตุ ท่านแนะนำแบบนั้น

- คุณหมอทางกายภาพบำบัด ก็ไม่ยอมทำกายภาพบำบัด เพราะมันจะไม่ได้ผล ให้แก้ที่เหตุ คือการผ่าตัด

ตอนนี้ ยังใช้ชีวิตปกติ ไม่มีอาการชาที่ขาหรือส่วนใดเลย ยังเดินตีกอล์ฟได้ 18 หลุม  ยังทำงานได้ดี ยังขับรถได้ดี ยังไม่ได้กินยาแก้ปวดอันใด

ขอไม่ผ่าตัด แต่ขอดูแลร่างกายให้มากขึ้น ลดน้ำหนักลง ให้เหลือ 66-67 กิโลกรัม  ตอนนี้ 68.7 กิโลกรัม ส่วนสูง 172cm.
ทุกครั้งที่ไปทำงานที่นครศรีธรรมราช จะต้องว่ายน้ำเพิ่ม

การฝึกโยคะ-รำมวยจีน ต้องทำให้ได้ 5 วัน ในหนึ่งอาทิตย์ เป็นอย่างน้อย  คุมอาหาร และนอนสองทุ่ม

รวมทั้งถ้าอยู่บ้าน ต้องขี่จักรยาน 30 นาที

เมื่อทำครบหมดแล้วก็ปล่อยเป็นเรื่องของกรรม ครับ
เรารักษาใจของเราให้เป็นปกติ มีสติให้มาก เป็นพอ

ขอบคุณทุกท่านที่เป็นห่วง ครับ
สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #16879 เมื่อ: 14 มิถุนายน 2561, 13:27:39 »



อาหารเพล เมื่อวานนี้ เตรียมไปจากบ้าน
และตั้งใจงดกาแฟ  ถ้าไม่ต้องขับรถ

สวัสดีครับ
      บันทึกการเข้า
manzac007
Newbie
*

ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1

« ตอบ #16880 เมื่อ: 17 มิถุนายน 2561, 11:55:57 »

เป็นข้อคิดที่ดีมากเลยครับดูดวงแม่น ผมกำลังเจออะไรเข้ามามากมายพออ่านบทความนี้มีกำลังใจและเข้าใจชีวิตมาขึ้นเลยครับ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #16881 เมื่อ: 18 มิถุนายน 2561, 08:44:45 »

อ้างถึง
ข้อความของ manzac007 เมื่อ 17 มิถุนายน 2561, 11:55:57
เป็นข้อคิดที่ดีมากเลยครับดูดวงแม่น ผมกำลังเจออะไรเข้ามามากมายพออ่านบทความนี้มีกำลังใจและเข้าใจชีวิตมาขึ้นเลยครับ

สวัสดีครับ

เราต้องดูกาย  ดูใจของเราให้ออก มันมีระบบทำงานอย่างไร? คอยดูมัน บางสิ่งเราคุมได้  บางสิ่งเราคุมไม่ำด้ เพราะมันเป็นอนัตตา

เราจะคุมมันได้ ต้องรู้เร็ว เท่ากัยความคิด และอารมภ์ ที่เกิดขึ้น ด้วยสติ นี่ละ มันฝึกได้

เมื่อมีสติรู้เท่าทันความคิด-อารมภ์ เราก็ใช้ปัญญา ทำในสิ่งที่ถูกต้อง ไม่เบียดเบียนผู้อื่น และตนเอง  อยู่กับความเป็นจริง ตามหบักอริยสัจ 4
คือ รู้ในสิ่งที่กระทำ  รู้ต้นเหตุ  แก้ที่เหตุ และมีวิธีทำที่ถูกต้อง ทุกสิ่งทำให้เป็นวิทยาศาสตร์(ความจริง) อย่าหลงไปกับความคิด

ขอให้มีปัญญา

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #16882 เมื่อ: 18 มิถุนายน 2561, 08:47:31 »



ช่วงนี้ยังพอมีกำลัง
ได้ถวายข้าวสาร 60 กระสอบ ทุนการศึกษา 50 ทุน เป็นเงิน 100000 บาทให้กับโครงการต้นกล้าธรรม ของพระอุปปัฐฌา พระธรรมโพธิ์วงศ์ หัวหน้าพระธรรมฑูต สายอินเดีย-เนปาล บริจาคให้กับฌรงเรียนพระปริยัติธรรม วัดสระเรียง นครศรีธรรมราช

มีสามเณร เรียนอยู่ เกือบ 300องค์ ใช้ข้าวสารวันละ 1 กระสอบ

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #16883 เมื่อ: 18 มิถุนายน 2561, 08:50:26 »



งดงามแห่งศรัทธา สามัคคีกล้าธรรม นำสู่เรือน ปี 4

กราบขอบพระคุณ พระเดชพระคุณหลวงพ่อ พระธรรมโพธิวงศ์ เจ้าอาวาสวัดไทยพุทธคยา,หัวหน้าพระธรรมทูต สายประเทศอินเดีย-เนปาล ประธานอำนวยการโครงการแตกหน่อโพธิปัญญา กล้าธรรม นำสู่เรือน ปีที่ 4

และขอเจริญพรท่านทานบดี ผู้ใจบุญทุกๆ ท่าน ที่ได้ร่วมเดินทาง และถวายการอุปถัมภ์โครงการในครั้งนี้ ด้วยปัจจัยอันบริสุทธิ์ที่จัดถวายพระอารามตามศรัทธาปรากฎดังนี้

#วัดสวนโมกขพราราม 20,000 บาท

#วัดพระธาตุไชยา 20,000 บาท

#วัดพระมหาธาตุนครศรีธรรมราช 20,000 บาท

#วัดบุญนารอบ นครศรีธรรมราช 20,000 บาท

#วัดสระเรียง (โรงเรียนพระปริยัติธรรมสามัญวัดสระเรียง นครศรีธรรมราช)
>กองทุนข้าวสาร 300,000 บาท
>กองทุนการศึกษา 100,000 บาท
>กองทุนอุปกรณ์การศึกษาคอมพิวเตอร์ จำนวน 9 เครื่อง 105,000 บาท
>บริจาคแอร์ประจำอาคารปฎิบัติธรรม จำนวน 18 เครื่อง ๆ ละ 30,000 บาท รวม 540,000 บาท

รวมทั้งสิ้น 1,125,000 บาท (หนึ่งล้านหนึ่งแสนสองหมื่นห้าพันบาทถ้วน)


โดยมีวัตถุประสงค์ ดังนี้

1. เพื่อเป็นกองทุนถวายภัตตาหารแด่พระภิกษุสามเณรที่ได้ศึกษาเล่าเรียน

2. เพื่อเป็นทุนการศึกษาและขวัญกำลังใจแด่พระภิกษุสามเณร

3. เพื่อส่งเสริมการศึกษาแก่โรงเรียนพระปริยัติธรรมสามัญวัดสระเรียง

4. เพื่อทำนุบำรุงพระศาสนา

มาบัดนี้ปัจจัยของทุกท่านได้ถึงลูกพระลูกเณร เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพื่อนำไปใช้ตามวัตถุประสงค์ต่อไป

ขอพระรัตนตรัย พร้อมด้วยสิ่งอันเป็นอุดมมงคลสูงสุดในดินแดนพุทธภูมิ และองค์พระธาตุไชยา องค์พระธาตุเจดีย์นครศรีธรรมราช ได้ปกปักรักษาทุกท่าน ขอความสมหวัง จงเป็นบำเหน็จ ขอความสำเร็จ จงเป็นบำนาญ จงชนะตลอด ปลอดภัยตลอด โชคดีตลอด ทุกท่านไปด้วยเทอญ.
 

ขออำนวยพร
คณะพระธรรมทูตสายประเทศอินเดีย-เนปาล
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #16884 เมื่อ: 18 มิถุนายน 2561, 08:51:37 »



สวัสดี ทุดท่านครับ

ตอนนี้ พี่สิงห์  เป็นผู้ป่วยคนหนึ่ง ที่ต้องระวังกาย เวลาเหลือน้อย  ทำในสิ่งที่ต้องทำ  เมื่อถึงเวลานั้น คงปล่อยวางทุกสิ่ง ให้กับคนรุ่นหลังแล้ว เพราะตนเอง ตัวเองก็คงต้องพึงคนอื่น ทั้งที่ไม่มีความประสงค์จะพึ่งใคร

ตอนนี้ระวังใจตนเอง  ไม่หลงไปกับความคิด อารมภ์  ทำในสิ่งที่ต้องทำ ตามความเป็นจริง  ใช้ชีวิตปกติ

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
chacow
Newbie
*

ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1

« ตอบ #16885 เมื่อ: 18 มิถุนายน 2561, 13:36:43 »

เป็นบทความที่สุดยอดมากครับความรู้รอบโลก ตอนนี้ระวังใจตนเอง  ไม่หลงไปกับความคิด อารมภ์  ทำในสิ่งที่ต้องทำ ตามความเป็นจริง  ใช้ชีวิตปกติ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #16886 เมื่อ: 19 มิถุนายน 2561, 08:34:51 »



สวัสดี ทุกท่านครับ

มีสิ่งหนึ่งที่อยากจะบอกความจริง ไม่ต้องใช้ความคิดในการพิจารณา สิ่งนั้นคือ ความเชื่อเรื่องสิ่งศักดิ์สิทธิ์

เมื่อท่านเป็นนักภาวนา เมื่อท่านสามารถผ่านด่านที่เรียกว่า แยกรูป แยกนาม ออกมาได้ จนเห็นพฤติกรรมของจิต เห็นความคิดตนเอง เห็นอารมภ์ที่จะเกิดขึ้นจากการผัสสะ รูป เสียง กลิ่น รส โผฏทัพพะ และธัมมารมภ์ ทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ เหมือนท่านมีสองคนในหนึ่งร่าง แต่เลยไปอีกขั้นหนึ่ง จิตของท่านมันจะปล่อยวาง ในเรื่องความเชื่อเรื่องสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ไปเอง ท่านไม่ต้องไปบังคับมันแต่อย่างไร? มันจะจืดไปเลย
ณ สภาวะนี้ ท่านจะมีศรัทธา ในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ท่านจะมีศีล จะมีสติมาก เชื่อเรื่องกรรม ทำดีได้ดี ทำไม่ดีได้ไม่ดี ทุกสิ่งเกิดขึ้นจากเหตุ-ปัจจัย ท่านจะมีความรู้เป็นของตนเอง อยู่กับความจริง ไม่เชื่อใคร เห็นสิ่งที่เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป หรือความคิด อารมภ์ ที่เกิดขึ้น เมื่อท่านอุเบกขา มันก็ดับไปเอง ตลอดเวลา  ทุกสิ่งเป็นธรรมดา  ถ้าท่านไม่ไปเป็นตัวกู ของกู  จะรู้ว่า ความฝัน ก็คือความคิดนั่นเอง  และจะรู้กาย รู้ใจ สิ่งต่าง ๆ อีกมากมาย

ไม่ต้องไปบังคับ  จิตมันรู้ของมันเอง สิ่งศักดิ์สิทธิ์  จะหายไปเลย
 และรู้ทางสายเอกที่ ถึงซึ่งพระนิพพาน ประกอบไปด้วย
- ศรัทธา
- อยู่อย่างพอเพียงในปัจจัย 4
- ระวัง ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ
- มีศีล
- มีวิริยะในการสร้างกุศล ละอกุศล
- มีสติ
- ทำสติให้เป็นสมาธิ
- เกิดปัญญา

ลองภาวนา ให้ถึงจุดนี้นะครับ ท่านจะเป็นครูของตนเอง

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #16887 เมื่อ: 19 มิถุนายน 2561, 13:08:25 »



ของฝากสำหรับผู้สูงอายุ แบบพี่สิงห์   เป็นผลจากการรู้สึกตัว ดูกาย  ดูใจ ตนเอง

ท่านสังเกตุไหม ? ทำไมเวลากลางคืน  ท่านตื่นมาเข้าห้องน้ำ มันจะมึน เส ถ้าท่านรีบลุกมาจากเตียงเข้าห้องน้ำ หรือนอนเล่นเวลากลางวัน!

ที่เป็นอย่างนั้นเพราะเลือดมันข้นเกินไป จึงไปเลี้ยงสมองไม่ทัน ทำให้มึนพาลจะล้มลงได้ หายใจอึดอัด

ท่านต้องระวังตนเอง เมื่อลุกจากท่านอนเป็นท่านั่ง ไม่ลุกยืน ท่านต้องเตือนตนเอง คือรู้ว่า จะต้องนั่งสักพักหนึ่งให้เลือดไปเลี้ยงสมอง แล้วจึงลุกยืน เดินได้

ห้ามลุกจากเตียง แล้วยืน เดิน ทันที ท่านอาจจะล้มได้ มันไม่คุ้ม

และเวลากลางคืน อย่ากลัวเข้าห้องน้ำมาก เพื่อป้องกันเลือดข้น  ตื่นขึ้นมาก่อนเข้าห้องน้ำ ให้ดื่มน้ำก่อน แล้ว เข้าห้องน้ำ เมื่อเข้าห้องน้ำเสร็จ ก็มาเข้านอน ภาวนาให้หลับทันที  อย่าทำอะไรทั้งสิ้น  การภาวนาท่านอน จะทำให้ไม่คิด จิตสงบ และหลับต่อได้ลึก เพราะจิตมันก็อยากพักเช่นกัน

พี่สิงห์   ต้องเข้าห้องน้ำบ่อยในเวลากลางคืน เพราะต่อมลูกหมากโต จึงต้องสังเกตุกายตนเอง  ดูแลตนเอง และนอนให้พอ

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #16888 เมื่อ: 21 มิถุนายน 2561, 11:46:11 »



วิทยาศาสตร์ VS พุทธศาสนา
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #16889 เมื่อ: 25 มิถุนายน 2561, 17:15:59 »



ถ้า"รู้หลัก"แล้ว "ศาสนา"ก็อยู่ที่"ตัวเรา"
ไม่ต้องเอาศาสนาไปแขวนไว้กับใคร

"อย่าว่าแต่บุคคลที่เกิดขึ้นในยุคสมัยหนึ่งๆ เลย แม้แต่องค์พระพุทธเจ้าเองก็ไม่ผูกมัดใครและไม่ผูกขาดอะไร พระพุทธเจ้าก็ตรัสไว้แล้วนี่ เราฟังพระสวดอยู่เสมอว่า " อุปฺปาทา วา ภิกฺขเว ตถาคตานํ อนุปฺปาทา วา ตถาคตานํ " พระพุทธเจ้าตรัสบอกว่า "ตถาคตคือพระพุทธเจ้าทั้งหลายจะเกิดขึ้นหรือไม่ก็ตาม หลักความจริงก็เป็นอยู่อย่างนั้นๆ ตถาคตเพียงแต่ค้นพบความจริงนั้นแล้วนำมาเปิดเผยแสดง แนะนำ ทำให้เข้าใจง่ายว่าความจริงเป็นอย่างนี้ๆ"

หน้าที่ของพระพุทธเจ้า คือเป็นผู้เปิดเผยความจริง และด้วยความสามารถก็ทรงสอนแนะนำทำให้เราเข้าใจหลักความจริงนั้น คือทรงพาให้เราเข้าถึงความจริงที่มีเป็นธรรมดาอยู่แล้วนั้นแหละ

ตัวความจริงที่เป็นอยู่ตามธรรมดานี่ซิสำคัญ แม้แต่พระพุทธเจ้าเกิดขึ้นมาแล้ว พระองค์ก็ผ่านไป แต่ตัวหลักความจริงนั้นก็คงอยู่ หมายความว่า ความจริงเป็นธรรมชาติ มีอยู่ตามธรรมดาตลอดเวลา พระพุทธเจ้ามาช่วยให้เราเข้าถึงความจริงนั้น เราเข้าถึงความจริงแล้วเราก็อยู่กับความจริงนั้น พระพุทธเจ้าทำหน้าที่ของพระองค์แล้ว พระองค์ก็ผ่านไป ความจริงก็อยู่นั่น ไม่หายไปไหน พระพุทธเจ้าไม่ได้พาเอาความจริงดับไปด้วย เรารู้ความจริงถึงความจริงแล้ว ความจริงก็อยู่กับเรา พระศาสนาก็อยู่กับเรา เป็นของเรา

ครูอาจารย์รุ่นหลังนี้ไม่ถึงพระพุทธเจ้าด้วยซ้ำ ท่านเป็นพระสาวกหรือลูกศิษย์ของพระพุทธเจ้า ท่านมาช่วยแนะนำให้เรารู้เข้าใจหลักธรรมที่พระพุทธเจ้าสอนไว้ อาจจะเรียกว่ามาพาเราเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า พระอาจารย์ทำหน้าที่พาเราเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าเสร็จก็หมดหน้าที่ เรื่องของเราก็คือฟังพระพุทธเจ้าต่อไป เมื่อฟังพระพุทธเจ้าเสร็จเราเข้าถึง"หลักความจริง" เราก็ไปอยู่กับ"หลักความจริง"นั้น ก็จบ ตัวหลักความจริงนั้นเป็นมาตรฐาน เป็นของจริงแท้แน่นอน เป็นตัวธรรม เป็นธรรมชาติ เมื่อเราจับหลักนี้ได้แล้ว ก็ไม่แกว่งไม่ไกวไปไหน

เวลานี้คนไม่มีหลัก แกว่งไกวไปตามกระแสข่าวเล่าลือ และกระแสค่านิยม เอาตัวไปผูกติดไว้กับบุคคลที่ผ่านไป ผ่านมา เอาศาสนาไปแขวนไว้กับบุคคลนั้น ก็เลยเลื่อนลอยไป หรือถูกชักลากไปเรื่อยๆ พอบุคคลนั้นมีอันเป็นไป ไม่ใช่ของแท้ของจริงที่มั่นคง คนเหล่านี้ก็ถูกซัดเหวี่ยงกลิ้งกระดอนกระทบกระแทกช้ำชอกไป หรือไม่ก็หล่นหลุดกระเด็นไปเลย

เป็นอันว่าเวลานี้พุทธศาสนิกชนได้บทเรียน สำหรับท่านที่มีหลักอยู่บ้างแล้ว ก็ได้บททดสอบ ถ้าหากเรารู้จักใช้เหตุการณ์นี้ให้เป็นประโยชน์ มันก็กลับดี เพราะเป็นการกระแทกหรือกระตุกอย่างแรงให้เรารู้ตัวหรือตื่นขึ้นมา แล้วหันมาหาหลัก มาเข้าสู่ทางที่ถูกต้อง ดีกว่าจะช้านานไป จนเตลิดกันไปไกล ซึ่งอาจจะสายไปเสียแล้ว อย่างน้อยก็ทำให้เรามีความเข้มแข็งมั่นคงขึ้น และรู้จักที่จะปฏิบัติต่อพระพุทธศาสนาให้ถูกต้อง

พระพุทธเจ้าตรัสนักหนาให้เราอยู่กับหลัก เช่น ตรัสสอนไม่ให้เอาศรัทธาไปขึ้นต่อบุคคล ถ้าศรัทธาขึ้นต่อตัวบุคคล บุคคลนั้นมีอันเป็นไป เช่น ตายบ้าง ต้องอาบัติหนักบ้าง หรือมีอันเป็นอะไรไปอย่างใดอย่างหนึ่ง เขาก็จะไม่ยอมฟังใครแสดงธรรมอีกต่อไป แล้วเขาก็จะพลาดจากประโยชน์ที่ควรจะได้

สำหรับพระสงฆ์ พระพุทธเจ้าเตือนหนักยิ่งกว่านั้นอีก ทรงเตือนว่า ถ้าพระประพฤติตัวไม่ดีจะเป็นมหาโจร มหาโจรมี ๕ ประเภท แต่อาตมภาพจะไม่นำมาแสดงในที่นี้ เดี๋ยวจะกลายเป็นว่ามาพูดอะไรที่ไม่เป็นสิริมงคล ในโอกาสนี้ที่โยมอาจจะถือว่าเป็นเวลามงคล โยมต้องไปค้นคว้าเอา เพราะฉะนั้น พระจะต้องไม่ประมาท ต้องระวังตัว ต้องประพฤติปฏิบัติอยู่ในหลัก ต้องทำหน้าที่ของตัวให้ถูกต้อง หน้าที่ของพระก็คือพาโยมให้เข้าไปสู่หลักความจริง แล้วตัวก็หมดหน้าที่ ถ้ามิฉะนั้นก็จะเอาพระศาสนามาแขวนไว้กับตัวเอง

พระพุทธเจ้าทรงสอนให้เราพึ่งตัวเองได้ ให้เราเป็นอิสระ พระพุทธเจ้าไม่ยอมให้ใครมาขึ้นต่อพระองค์ ตอนแรกเราอาจจะไปศรัทธาต่อพระองค์ เพื่อจะได้ให้พระองค์นำเราเข้าสู่คำสอน เข้าสู่ความจริง แต่ในที่สุดเราจะต้องพึ่งตัวเองได้ เป็นอิสระ จะเห็นได้ว่า ศรัทธาไม่เป็นคุณสมบัติของพระอรหันต์ ท่านเชื่อไหม"

สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์
( ป. อ. ปยุตฺโต )
ที่มา : ธรรมนิพนธ์ "เมืองไทยจะวิกฤต ถ้าคนไทยมีศรัทธาวิปริต"
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #16890 เมื่อ: 29 มิถุนายน 2561, 07:20:37 »



€พุทธศาสนสุภาษิตประจำวันที่ 29 มิย 2561
***จากแดนพุทธภูมิ***

ทูรํคมํ  เอกจรํ                    
อสรีรํ  คุหาสยํ
เยจิตฺตํ  สญฺญเมสฺสนฺติ      
โมกฺขนฺติ   มารพนฺธนา

ผู้ใดจักสำรวมจิตที่ไปไกล
เที่ยวไปดวงเดียว ไม่มีรูปร่าง มีถ้ำ (คือกาย)
เป็นที่อาศัย
ผู้นั้นจักพ้นจากเครื่องผูกของมารได้.

ขุ.ธ.๒๕/๓๗.

€...แก้ว เป็นภาชนะรองรับน้ำหรือของเหลวที่ใส่ลงไป จึงจะถือว่าใช้งานได้ถูกประเภท ชีวิตคนก็เช่นกัน ต้องใส่คุณความดี ลงไปจึงจะเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์...#
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #16891 เมื่อ: 10 กรกฎาคม 2561, 18:23:36 »



บทเรียนที่ได้ จากทีมหมูป่าอะคาดามี่ คือ "การภาวนา"

เมื่อสิ้นหวัง หมดหนทาง หยุดการคิด วิตก กังวล ความกลัว ด้วยการเจริญสติ ทำให้สติเกิด เพราะมันจะไม่คิด และกายได้พัก จิตได้พัก ทำให้เป็นกบจำศีล  จนกว่าจะมีคนมาช่วย หรือให้มันหมดลมหายใจไปกับสติ นี่ละนิพพาน

แต่ต้องระวังจงหนัก  จิตมันจะแสดงตัวตน ให้เห็น ถ้าไม่หลงไปกับมัน เราสามารถเอาชนะมันด้วยการมีสติ  แต่ถ้าเป็นมัน ท่านจะพ่ายแพ้ จนวิปราศ ได้ ซึ่งต้องมีคนระวังให้

แบบโคชเอก ที่ควบคุมเด็ก ๆ จนผ่านช่วงวิกฤตของจิตมาได้

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #16892 เมื่อ: 10 กรกฎาคม 2561, 19:19:58 »

      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #16893 เมื่อ: 10 กรกฎาคม 2561, 19:24:44 »

      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #16894 เมื่อ: 10 กรกฎาคม 2561, 20:53:08 »

หมูป่า ทั้ง 13 คน ถึงโรงพยาบาลเชียงราย หมดแล้วครับ

ขอบคุณทุกท่าน ที่ช่วย เอาใจช่วย ครับ

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #16895 เมื่อ: 11 กรกฎาคม 2561, 06:55:54 »



ภาระกิจเสร็จสิ้นสมบูรณ์ คุณหมอภาคน์ และหน่วยซีล ๓ ท่าน ที่ไปอยู่เป็นเพื่อนกับเด็ก ๆ หนึ่งอาทิตย์
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #16896 เมื่อ: 12 กรกฎาคม 2561, 13:23:53 »



ขั้นตอนการขนย้าย จากเอยหนุ่มสาว ออกมาจากถ้ำ ใช้มืออาชีพจากนักดำน้ำนานาชาติ อังกฤษ-ออสเตเรีย เพราะเขาเป็นทีมเดียวกัน เคยทำงานด้วยกัน ที่เหลือ เป็นตัวช่วย

เราต้องยอมรับความจริง ว่าซีลไม่มีประสพการณ์ และใช้เวลาดำน้ำ นามกว่าพวกมืออาชีพ เกือบสามเท่า

ครั้งนี้ หน่วยซีลได้เรียนรู้จากนักดำน้ำ กู้ชีพ พวกนี้มากมาย ที่จะฝึกฝนตนเอง ให้เป็นมืออาชีพ แท้จริง ในอนาคต

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #16897 เมื่อ: 12 กรกฎาคม 2561, 13:29:40 »



การทำให้น้อง ๆ เพียงนอนหายใจ จึงเป็นหนทางในการช่วยเหลือที่ถูกต้อง ไม่ต้องรับรู้ จะทำให้การช่วยเหลือง่ายขึ้น เพราะมันยากจริง ๆ จึงถูกต้องแล้ว ปล่อยให้มืออาชีพเขาจัดการ วางแผน ตัดสินใจ และลงมือดำเนินการเอง ซีลเป็นผู้ช่วย

บทเรียนนี้ เป็นความรู้ใหม่ ในการช่วยชีวิต
เป็นบทเรียนที่ดีสำหรับ ซีล เพราะเราดำน้ำไม่รวดเร็ว ไม่ชำนาญแบบพวกเขา มีเครื่องมือ-ตัวช่วยน้องกว่าเขา ไม่มีถังอากาศสำรอง จึงต้อง ใช้เวลามากกว่าเขาถึงสามเท่า จึงทำให้อากาศหมด

ซีลเราจะดีขึ้นในอนาคต เพราะรู้ข้อผิดพลาดของตนเอง เมื่อเปรียบเทียบกับนักดำน้ำชั้นแนวหน้าของโลก  ที่ง ๆ ที่อายุก็มากด้วย แต่ดำได้รวดเร็วกว่ามาก

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #16898 เมื่อ: 13 กรกฎาคม 2561, 19:36:42 »

จำสี่ชื่อนี้ให้ดีครับ

Vern Unsworth
John Volanthen
Rick Stanton
Dr. Richard Harris

เพราะสี่ท่านนี้คือผู้ที่โชคชะตาพาให้เข้ามาเกี่ยวข้องกับภารกิจนี้อย่างไม่น่าเชื่อ ที่ TAF จะมาเล่าให้ฟังกันครับ

-----------------------------------------------------------

Vern Unsworth

นักสำรวจถ้ำชาวอังกฤษ ผู้มีภรรยาเป็นคนไทย และอาศัยอยู่ในจังหวัดเชียงรายมา 7 ปี หลังจากทราบข่าวว่าเด็ก ๆ หายเข้าไปในถ้ำหลวง เขาก็รีบมาเสนอความช่วยเหลือทันที เพราะตัวเขาเองเข้าออกถ้ำหลวงมาแล้วหลายครั้ง เขารู้จักซอกมุมในนั้นเป็นอย่างดี

แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ โน้ตกระดาษแผ่นเล็ก ๆ ที่เขียนส่งให้เจ้าหน้าที่ไทย

Time is running out! (เวลาใกล้หมดแล้ว!)

1. Rob Harper
2. Rick Stanton MBE (MBE คือเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้น The Order of the British Empire)
3. John Volanthen

They are the world's best cave diver (พวกเขาคือนักดำน้ำในถ้ำที่เก่งที่สุดในโลก)
Please contact them through (กรุณาติดต่อพวกเขาผ่าน)
UK EMBASSY ASAP (สถานทูตสหราชอาณาจักร อย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้)

ต้องขอบคุณที่เจ้าหน้าที่ไทยฟังเขา และติดต่อไปยังกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งติดต่อไปยังสถานทูตสหราชอาณาจักร ที่ก็รีบติดต่อไปยัง Derbyshire Cave Rescue Organization ซึ่งทั้งสามท่านตกลงที่จะเดินทางมาประเทศไทย กระทรวงการต่างประเทศไทยจึงออกตั๋วเครื่องบินของการบินไทยให้อย่างเร่งด่วน

-----------------------------------------------------------

John Volanthen และ Rick Stanton

คู่บัดดี้ดำน้ำในถ้ำสองท่านนี้คือนักดำน้ำในถ้ำที่เก่งที่สุดในโลก เจ้าของสถิติโลกการดำน้ำในถ้ำที่ยาวที่สุดกว่า 9 กิโลเมตรในสเปนเมื่อปี 2011

Rick Stanton เป็นนักดับเพลิงในโคเวนทรี ผู้ซึ่งได้ได้แรงบันดาลใจในการดำน้ำในถ้ำจากการดูสารคดี Underground Eiger เกี่ยวกับนักดำน้ำสองคนที่พยายามทำสถิติโลกการดำน้ำในถ้ำในตอนนั้น และทำให้เขาตัดสินใจได้ว่า การดำน้ำในถ้ำคือสิ่งที่เขาอยากจะทำ

John Volanthen วิศวกรคอมพิวเตอร์ที่ก็ได้แรงบันดาลใจจากการดำน้ำในถ้ำมาตั้งแต่ยังเป็นวัยรุ่น ด้วยบุคลิคที่มุ่งมั่นและเอาจริงเอาจัง เขารักการดำน้ำในถ้ำมาก มากถึงขนาดที่ในวันแต่งงาน เขาตัดสินใจไปดำน้ำในถ้ำเพื่อแก้เครียด

แม้ว่าพวกเขาจะไม่ชอบการเป็นจุดสนใจ และยืนยันว่าการดำน้ำในถ้ำเป็นแค่กิจกรรมยามว่างและงานอาสาสมัครเท่านั้น แต่พวกเขาทั้งสองคนสร้างวีรกรรมที่กล้าหาญที่ช่วยชีวิตคนมาแล้วหลายคน

หนึ่งในภารกิจที่มีชื่อเสียงที่สุดของ Rick Stanton ก็คือการดำน้ำเข้าไปช่วยเหลือทหารอังกฤษที่ติดอยู่ในถ้ำนานถึง 8 วันในเม็กซิโกเมื่อปี 2004 ซึ่งเขาดำไปพบและได้ช่วยให้กำลังใจและสร้างแรงผลักดันให้ทหารรายหนึ่งที่กลัวน้ำให้กล้าที่จะดำน้ำความยาวกว่า 180 เมตรออกมาจากถ้ำได้สำเร็จ

และเมื่อเขามาพบกับ John Volanthen ทั้งสองคนก็กลายมาเป็นคู่บัดดี้ที่เก่งที่สุดในโลก ที่รัฐบาลฝรั่งเศสเชิญพวกเขาไปค้นหานักดำน้ำในถ้ำที่หายไปในถ้ำลึกกว่า 1 กิโลเมตร โดยสมาคมกู้ภัยและช่วยชีวิตของอังกฤษ Royal Humane Society บอกว่าพวกเขาเป็น "นักดำน้ำในถ้ำเพียงไม่กี่คนในโลกที่มีทักษะและอุปกรณ์ และอยู่ใกล้ที่สุด" ซึ่งพวกเขาใช้เวลา 8 วันในการค้นหาร่างผู้เสียชีวิตจนพบ รวมถึงในปี 2014 ที่รัฐบาลนอร์เวย์ขอให้เขาทั้งสองช่วยค้นหาศพของนักดำน้ำในถ้ำสองรายที่เสียชีวิตในถ้ำอีกด้วย

พวกเขาไม่ต้องการมีชื่อเสียง ชอบอยู่เงียบ ๆ และทำกิจกรรมที่เขารัก แต่เมื่อมีเหตุการณ์เกิดขึ้น พวกเขาก็พร้อม พวกเขามาถึงประเทศไทยและเริ่มปฏิบัติงานทันที ทักษะและประสบการณ์ของเจ้าของสถิติโลกการดำน้ำในถ้ำนั้นช่วยให้ #หน่วยซีล ของไทยปฏิบัติงานได้ง่ายและปลอดภัยขึ้น

แม้ต้องล่าถอยออกจากถ้ำทั้งหมดจากฝนที่ตกกระหน่ำเมื่อราววันที่ 28 มิถุนายน จนมีภาพที่ผู้สื่อข่าว #BBC พยายามถามพวกเขาทั้งสองที่เดินออกมาจากถ้ำเพราะน้ำท่วมกระหน่ำว่า มีอะไรอัพเดตกับ BBC ไหม แต่ได้คำตอบเป็นบูด ๆ และสายตาที่ไม่แม้แต่จะมองนักข่าว BBC คนนั้น

เมื่อสภาพอากาศเป็นใจ พวกเขาวางแผนกลับเข้าไปอีกครั้ง และครั้งนี้เป็นการวาง "ค่ายกล" ที่ประกอบด้วยเชือกนำทางและถังอากาศทุก ๆ 25 เมตรตลอดทางที่พวกเขาไป

ซึ่งก็เป็นทั้งสองคนนั่นเองที่พบเด็ก ๆ ทั้ง 13 คน ที่พวกเขาเล่าว่า เชือกที่นำทางนั้นหมดลง ทำให้เขาต้องขึ้นสู่ผิวน้ำ และพบกับสายตาทั้ง 13 คู่ที่มองลงมา

"How many of you?" ในวิดีโอของหน่วยซีลของไทยก็คือเสียงของ John Volanthen นั่นเอง

แม้ว่าพวกเขาจะพบเด็ก ๆ แล้ว แต่นั้นก็นำมาสู่ปัญหาต่อไปว่าจะพาเด็ก ๆ ออกมาอย่างไร เมื่อทางเลือกอย่างการเจาะถ้ำนั้นยังไกลจากความเป็นจริง และระดับของออกซิเจนในถ้ำที่ลดลงจนเป็นส่วนหนึ่งที่นำมาสู่การเสียชีวิตของจ่าเอกสมาน กุนัน อดีตนักทำลายใต้น้ำ/จู่โจมของกองทัพเรือไทย ประกอบกับ #พยากรณ์อากาศ ที่เชื่อว่าจะมีฝนตกลงมามากกว่านี้ในอีกไม่กี่วัน ทำให้พวกเขาต้องเลือกทางที่เสี่ยงที่สุด เป็นทางเลือกที่ทุกคนไม่เชื่อว่าจะเป็นไปได้ และไม่เคยมีใครทำมาก่อนในโลกนี้

คือการให้เด็ก ๆ ดำน้ำออกมาทางเดิม!

-----------------------------------------------------------

Dr. Richard Harris

นั่นทำให้ทั้งสองได้ร้องขอไปยังเจ้าหน้าที่ของไทย ให้เชิญ Dr. Richard Harris วิสัญญีแพทย์ชาวออสเตรเลีย นักดำน้ำในถ้ำที่มีประสบการณ์ 30 ปี ผู้ถือสถิติการดำน้ำในถ้ำน้ำเย็นจัดลึก 194 และ 221 เมตร ที่เชื่อกันว่าคือสถิติที่ลึกที่สุดในการดำน้ำในถ้ำในน้ำเย็นจัด เพื่อตามหาต้นกำเนิดของแม่น้ำ Pearse ในนิวซีแลนด์ ที่พวกเขาต้องวางแผนที่สลับซับซ้อนในการจัดตั้งแคปซูลกู้ภัยในถ้ำเพื่อปรับความดันและหยุดพักในน้ำที่อุณหภูมิใกล้ศูนย์องศา ซึ่งการดำน้ำของเขาในครั้งนี้เมื่อปี 2011 และ 2012 ได้นำไปทำเป็นสารคดีโดย National Geographic ด้วย

Dr. Richard Harris คือผู้ที่ประเมินสุขภาพของเด็ก ๆ ทั้ง 13 คน และตัดสินใจเปลี่ยนแผนในถ้ำเป็นการนำเด็กที่อ่อนแอและมีปัญหาสุขภาพที่สุดออกมาก่อนเด็กที่แข็งแรงที่สุด Dr. Richard Harris คู่บัดดี้ และตำรวจออสเตรเลียอีก 6 นาย ถือเป็นหนึ่งในหลายสิบชีวิตของทีมดำน้ำในถ้ำที่ดีที่สุดทั่วโลกที่ถูกเรียกตัวมายังจังหวัดเชียงรายเพื่อปฏิบัติภารกิจที่ยากที่สุด เสี่ยงอันตรายที่สุด และไม่เคยมีใครทำมาก่อนในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ!

จากการประชุมและวิเคราะห์ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ของไทย ประกอบกับการประเมินปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ ทำให้ทุกคนตกลงใจที่จะเลือกวันที่ 8 กรกฎาคม เป็นวันปฏิบัติการครั้งประวัติศาสตร์ที่นักดำน้ำในถ้ำที่ดีที่สุดในโลก 50 คน จะร่วมมือกับนักทำลายใต้น้ำ/จู่โจมของกองทัพเรือไทยอีก 40 คน ปฏิบัติภารกิจนำทีม #หมูป่า ดำน้ำในถ้ำที่เต็มไปด้วยหินที่แหลมคม กระแสน้ำที่รุนแรง ทัศนวิสัยที่เป็นศูนย์ ความมืดที่มีเพียงแสงไฟที่พวกเขาถืออยู่เป็นเพียงแสงสว่างเดียว นำเด็กที่อายุไม่ถึงเกณฑ์ที่จะดำน้ำในถ้ำ ไม่มีแม้แต่ประสบการณ์ในการดำน้ำ ออกจากถ้ำหลวงที่ผู้สื่อข่าวของ CNN กล่าวว่าเกือบจะเป็นโลงศพของพวกเขา มาสู่แสงสว่างและโลกภายนอก กลับสู่ครอบครัว สู่บ้าน และสร้างประวัติศาสตร์การกู้ภัยที่ยิ่งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งที่คนเป็นร้อยเป็นพันล้านคนทั่วโลกต่างต้องกลั้นหายใจเพื่อลุ้นว่าปฏิบัติการจะสำเร็จหรือไม่

และผลลัพธ์ของปฏิบัติการ ก็คือวินาทีนี้ ของวันนี้ วันนี้ Mission Impossible ถูกเปลี่ยนเป็น Mission Possible ด้วยความสามารถ การวางแผน ความพยายาม และการร่วมมือร่วมใจกันของทุกคน/TAF

#พาทีมหมูป่ากลับบ้าน #ถ้ำหลวง #ThaiCaveRescue
-----------------------
TAF เรียบร้องข้อมูล
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #16899 เมื่อ: 24 กรกฎาคม 2561, 06:52:35 »



การตระหนักถึงความสำคัญของการตายดี จะทำให้เราไม่เพียงทำความดี ใช้ชีวิตอย่างมีคุณค่าเท่านั้น แต่ยังเห็นความสำคัญของอีกสิ่งหนึ่ง นั้นคือการรู้จักปล่อยวาง เพราะถ้าเรายังยึดติดลูก พ่อ แม่ ทรัพย์สิน เงินทอง รวมทั้งการงาน ก็ตายดีได้ยาก มีตัวอย่างมากมายของคนที่ตายไม่ดี เพราะห่วงลูก ห่วงทรัพย์สมบัติ  มีบางคนอายุมากและป่วยหนัก ใกล้จะตายแล้ว แทนที่จะนึกถึงบุญกุศล หรือนึกถึงพระรัตนตรัย กลับนึกถึงเงินที่ถูกยืมไป  ถึงกับส่งจิตไปทวงเงินเพื่อนบ้าน  ตัวป่วยอยู่ที่โรงพยาบาล แต่เพื่อนบ้านเห็นเขามาทวงเงิน จึงรีบมาหาที่โรงพยาบาลทันที เพื่อบอกว่าจะคืนเงินให้
      บันทึกการเข้า
  หน้า: 1 ... 674 675 [676] 677 678 ... 681   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

สมาคมนิสิตเก่าหอพักนิสิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มวลสมาชิกสมาคม คณาจารย์ และนิสิตเก่าทุกคน ขอน้อมเกล้าถวายความอาลัย  พระผู้เสด็จสู่สวรรคาลัย ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ <;))))><