27 พฤศจิกายน 2567, 07:42:46
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: 1 ... 647 648 [649] 650 651 ... 681   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: คุย กับ คุณมานพ กลับดี อดีตประธานชมรม ๓ สมัย  (อ่าน 3583523 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 5 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #16200 เมื่อ: 31 ตุลาคม 2559, 17:27:21 »



สิบสาม ตุลา น้ำตารินหรั่ง
รับฟัง ข่าวสวรรคต พ่อหลวง
ประชาไทย โศกสลด หมดทั้งปวง
พ่อดวงแก้ว เสด็จสู่สวรรค์ คาลัย
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #16201 เมื่อ: 31 ตุลาคม 2559, 17:31:47 »



ลูกขอ ทำดีดังที่ พ่อสอน
พ่อเว้าวอน อบรม บ่มนิสัย
เศรษฐกิจ พอเพียง ทฤษฎีใหม่
จะทำให้ ประชาไทย สมบูรณ์เอย
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #16202 เมื่อ: 31 ตุลาคม 2559, 17:38:06 »



ขอน้อมส่งเสด็จสู่สวรรคาลัย

ข้าพระพุทธเจ้า นายมานพ   กลับดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #16203 เมื่อ: 31 ตุลาคม 2559, 17:38:59 »



ขอดำรงชีวิตตนเองตามพระราชดำรัช แบบพอเพียง
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #16204 เมื่อ: 01 พฤศจิกายน 2559, 19:56:43 »



ขอเรียนเชิญทุกท่าน
ร่วมทำบุญใหญ่ ทอดกฐิน ด้วยกันครับ

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #16205 เมื่อ: 03 พฤศจิกายน 2559, 08:00:05 »



มนุษย์ เกิดมานั้น ถ้าได้ทำทาน
- ได้บรรพชา
- ได้ทอดกฐิน
- ได้ภาวนา เจริญสติ
ถือได้ว่า ได้ลาภอันประเสริฐ

สาธุ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #16206 เมื่อ: 03 พฤศจิกายน 2559, 08:02:30 »



สวีสดี ทุกท่านครับ
ทุกท่านที่มีจิตศรัทธา อยากทำบุญ ทอดกฐิน กับพี่สิงห์  ไม่สะดวกไปที่วัดสามารถ ทำบุญด้วยการโอนเงินผ่านทางบัญชี ของพระที่วัดพระนอน ได้ครับ

สาธุ อนุโมทามิ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #16207 เมื่อ: 03 พฤศจิกายน 2559, 08:03:30 »

ท่านใดต้องการใบอนุโมทนาบัตร เอาไปลดหย่อนภาษี  ขอชื่อ-ที่อยู่ จะจัดส่งไปให้ครับ

สวัสดี



พุทธศาสนา จะสอนตามลำดับ

- ทาน การให้ เป็นการชำระจิต เพื่อลดการตระหนี่ ที่เป็นต้นเหตุ ความโลภ ความโกรธ ความหลง
- ศีล การสำรวมทางกาย วาจา ใจ ไม่ทำฝห้ใครเดือดร้อน
- สวรรค์ ผู้ที่ประพฤติ ดำรงชีวิต ตามศีล ๕ อย่างน้อย เมื่อตาย จะมีสุคตภพที่ดี  ยามมีชีวิตจะมีแต่สุข สงบ
- นรก ผู้ที่ประพฤติ ดำรงชีวิต ไม่เป็นไปตามศีล ๕ ตายไปจะตกนรกอเวจี  สถานเดียว ยามมีชีวิตอยู่จะมีแต่ทุกข์
- ภาวนา คือการมีสติ หรือการรู้สึกตัวเป็นเครื่องอยู่  จะมีแต่สงบปราศจากกิเลส จนถึงพระนิพพาน
- อริยสัจจ ๔ ความจริงอันประเสริฐ ๔ ประการ อ้นได้แก่ ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค
- ปัญญา ดำรงชีวิตด้วยปัญญา ทำดี ย่อมได้รับผลดี ทำไม่ดีย่อมได้รับผลไม่ดี ทุกสิ่งเกิดขึ้นด้วยมีเหตุ-ปัจจัย และทุกสิ่งดับไปเมื่อเหตุ-ปัจจับดับ และทุกสรรพสิ่งบนโลกเป็นไปตามกฏไตรลักษณ์ อันได้แก่ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา

สาธุ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #16208 เมื่อ: 04 พฤศจิกายน 2559, 07:36:56 »



สวัสดี ทุกท่านครับ
อาหารเช้า มีความจำเป็นสำหรับร่างกาย

เหตุที่ทรงบัญญัติขันธ์ ๕ เพราะมีธาตุ ๔ เป็นปัจจัย
เพราะมีธาตุ ๔ เป็นปัจจัย จึงมี วิญญาณขันธ์
เพราะมีวิญญาณขันธ์ เป็นปัจจัย  จึงมีนามรูป
เพราะมีนามรูป เป็นปัจจัย จึงมี สฬายตนะ
เพราะมีสฬายตนะ เป็นปัจจัย จึงมีผัสสะ
เพราะมีผัสสะ เป็นปัจจัย จึงมี เวทนา สัญญา สังขาร
เพราะมีอุปาทาน หรืออุปาทานในขันธ์ ๕ คือการยึดถือว่าเป็นตน เป็นตัวตน มีตนเข้าไปเป็น เข้าไปอยู่

ความสุขกาย สุขใจ คือการพอใจในขันธ์ ๕

ถ้าละอุปาทานขันธ์ ๕ ลงได้ ก็สามารถละความหลงว่าเป็นตน เป็นตัวตน มีตนเข้าไปอยู่ มีตนเข้าไปเป็น ก็สามารถที่จะละ ความพอใจ ความถือตัว ละกิเลสลงได้ ละ.... เพราะไม่ยึดถือ นั่นเอง

แต่ทุกวันนี้ ยังนึดถือ อยู่มาก เลยต้องสอนตนเองให้มาก ทำในสิ่งที่จิตมันไม่ชอบ ไม่ทำตามความคิดตนเองเข้าไว้

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #16209 เมื่อ: 05 พฤศจิกายน 2559, 05:28:28 »



คนเรานั้น จะต้องตาย และเมื่อตายไปแล้ว เอาทรัพย์สมบัติที่อุตส่าห์หามาทั้งชีวิตนั้น เอาไปไม่ได้เลย

เอาไปได้แต่กรรมดี และกรรมไม่ดี ติดวิญญาณไปในภพหน้าเท่านั้น

ดังนั้น จงทำแต่กุศลกรรม หรือการทำดี นั่นเอง อย่างน้อยสุด ประกอบด้วย
- ให้ทาน
- รักษาศีล
- ภาวนาเจริญสติ
- ดำเนินชีวิตด้วย มรรคมีองค์ ๘ ประการ ที่ประกอบไปด้วย สัมมาทิฐิ สัมมาสังกัปโป สัมมาวาจา สัมมากัมมันโต สัมมาอาชีโว สัมมาวายาโม สัมมาสติ สัมมาสมาธิ

สาธุ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #16210 เมื่อ: 05 พฤศจิกายน 2559, 17:02:59 »



หน้านี้ อยู่ในช่วงอาทิตย์สุดท้ายของการทอดกฐิน ตามวัดต่าง ๆ วันที่ ๑๔ พฤศจิกายน เป็นวันสุดท้าย

วันที่ ๑๔ พฤศจิกายน เป็นวันลอยกระทง  เป็นวันที่พระสารีบุตร ปรินิพพาน

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #16211 เมื่อ: 05 พฤศจิกายน 2559, 17:08:23 »


หลังผ่าตัด ๑ เดือน ยกของหนักมาก ไม่ได้

ทางสายเอก

ทางสายเอก คือทางสายเดียว ที่เราปฏิบัติตามแล้ว จะถึงฝั่งพระนิพพาน ได้

ทางสายเอกประกอบไปด้วย
- ศรัทธา
- ศีล สำรวมตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ
- มีปัจจัย ๔ ที่พอเพียง ไม่เห็นแก่กิน
- มีความเพียรเป็นเครื่องตื่น เพียรสร้างกุศล
- มีสติ เพียรมีสติจนสามารถละ นิวรณ์ ๕ ได้
- ทำสติ ให้เป็นสมาธิ อยู่ใน ฌาณที่ ๑ ๒ ๓ และ ๔ เป็นเอกคตาจิต
- ใช้ปัญญา เห็นความเกิด ดับ(ธรรม)ที่เกิดขึ้นในจิต เป็นอนัตตา

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
พธู ๒๕๒๔
Administrator
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ซื่อต่อนายไม่หน่ายมิตรใกล้ชิดลูกน้องคุ้มครองชาวBan
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 64
คณะ: niti
กระทู้: 7,842

เว็บไซต์
« ตอบ #16212 เมื่อ: 05 พฤศจิกายน 2559, 22:19:21 »

พี่สิงห์มีคนโทรมาหาผมครับบอกว่าอ่านข้อเขียนเรื่องเครื่องรีดคอนกรีตของพี่สิงห์ ในซีมะโด่งดอทคอม อยากจะขอรายละเอียดเพิ่มเติมกับพี่สิงห์จะขอเบอร์พี่สิงห์ครับผมจะให้ได้หรือเปล่า เขาชื่อ เอ็กซ์

นายระบิล  ศิริวัฒน์
บริษัท ศิริวัฒน์คอนกรีตจำกัด
อำเภอหาดใหญ่  จังหวัดสงขลา
โทร.08-154#-####
      บันทึกการเข้า

เว้นชั่ว ประพฤติชอบประกอบแต่สิ่งดีงาม ทำจิตใจให้ผ่องแผ้ว
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #16213 เมื่อ: 06 พฤศจิกายน 2559, 06:03:05 »

อ้างถึง
ข้อความของ พธู ๒๕๒๔ เมื่อ 05 พฤศจิกายน 2559, 22:19:21
พี่สิงห์มีคนโทรมาหาผมครับบอกว่าอ่านข้อเขียนเรื่องเครื่องรีดคอนกรีตของพี่สิงห์ ในซีมะโด่งดอทคอม อยากจะขอรายละเอียดเพิ่มเติมกับพี่สิงห์จะขอเบอร์พี่สิงห์ครับผมจะให้ได้หรือเปล่า เขาชื่อ เอ็กซ์

นายระบิล  ศิริวัฒน์
บริษัท ศิริวัฒน์คอนกรีตจำกัด
อำเภอหาดใหญ่  จังหวัดสงขลา
โทร.08-154#-####

สวัสดีครับ

มันทำยากนะครับ
ยากตรงที่เจ้าของกิจการต้องเข้าใจความต้องการของมันก่อน เพราะความรู้เรื่องการมีประสพการณ์การทำโรงงาน การผลิตคอนกรีต ที่มีมานั้น มันนำมาใช้กับเครื่องจักรตัวนี้ไม่ได้  ต้องโยนทิ้ง

รับสิ่งใหม่ ๆ ที่มันต้องการ ทำให้มัน มันก็จะทำได้ง่าย ๆ  แต่ถ้าไม่เข้าใจ รั้นคิดว่า...ได้ มันจะทำไม่ได้ ดังเช่นโรงงาน แห่งหนึ่งทางใต้ที่ไม่เชื่อ ยังทำไม่ได้เลย

สุดท้ายพี่สิงห์  จะเหนื่อย จึงขอยุติไม่แนะนำใครอีก  ถ้าไม่เข้าใจจริง  ยากก็ยาก  ง่ายก็ง่ายสำหรับคนที่เข้าใจมัน
เพราะ
- ต้องออกแบบโรงงานให้มันทำง่นได้รวดเร็ว ใช้เวลาในการผลิต ขนส่ง เทคอนกรีตให้เครื่องเร็วที่สุด ไม่เกิน 10 นาที ต่อโม่
- ต้องมีแท่นผลิตที่ได้รับการออกแบบจริง ๆ ได้ทั้งระดับ การรับแรง และ rigidity ที่เพียงพอ
- คุณภาพคอนกรีตสำคัญที่สุด ต้องควบคุม slumps อยู่ที่ 1.5-2.5 cm.ให้ได้ และส่วนผสมต้งคงที่

ถ้าเข้าใจมัน มันทำได้ง่าย  ถ้าไม่เข้าใจมัน ยากมาก ๆ

พี่สิงห์  ไม่ใช่ผู้แทนขาย ไม่ได้เป็นพนักงานของเสปญ ไม่มีผลประโยชน์ทางการค้า เครื่องจักร  ที่ผ่านมาแนะนำให้เพื่อนฝูง ทำให้เพื่อนฝูงเท่านั้น เพราะเขาเชื่อมั่น ศรัทธา  จึงทำให้ครับ

เบอร์พี่สิงห์  0917977878
พี่สิงห์  ไม่มีเวลาทำงานมากนัก ต้องใช้ชีวิตที่เหลือไปในทางธรรม ภาวนา  แล้วครับ

ขอบคุณมาก

สวัสดี

      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #16214 เมื่อ: 06 พฤศจิกายน 2559, 06:04:42 »



อีกสามปี ประเทศไทย จะขาดแคลนแรงงานในการทำงานก่อสร้าง และโรงงานคอนกรีตออกแรง

ดังนั้น พี่สิงห์ ต้งหาทางเลือกให้กับพรรคพวก
- นำเครื่องจักรมาใช้ในการผลิตให้มากขึ้น
- ลดแรงงานให้เหลือเพียง 10% จากที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน ด้วยการออกแบบระบบโรงงานใหม่ ทั้งหมด

ตอนนี้กำลังทดลองอยู่ ๒ ระบบ คือผลิตแบบเดิม และผลิตแบบใช้เคริ่องจักร ดังที่เห็นในภาพ  ขอเวลาอีก ๑ ปี ครับ

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #16215 เมื่อ: 06 พฤศจิกายน 2559, 06:05:43 »



ที่หาดใหญ่  พี่สิงห์  เคยไปบรรยายมาแล้ว เขาน่าจะมีเบอร์และรู้วิธีติดต่อ ครับ

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #16216 เมื่อ: 06 พฤศจิกายน 2559, 06:07:19 »



ถ้าเข้าใจมัน ทำง่ายครับ
เหตุ-ปัจจัย ที่จะทำให้ได้ผลที่ดี คือ
- การออกแบบโรงงาน แท่นผลิต steel beds และ lay out โรงงาน
- การควบคุม ส่วนผสมคอนกรีต และการขนส่งคอนกรีตให้เร็วที่สุด
- มีขั้นตอนการทำงานที่ถูกต้อง
- การบำรุงรักษาเครื่องจักรด้วยระบบ 5ส. และ check list

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #16217 เมื่อ: 06 พฤศจิกายน 2559, 06:08:42 »



สวยแบบนี้ เจ้าของเครื่องยังทำไม่ได้  ต้องมาขอรูปไปโชว์ ครับ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #16218 เมื่อ: 06 พฤศจิกายน 2559, 18:21:44 »



วันนี้ ได้ไปทอดกฐิน ที่วัดสนามชัย  ชัณสูตร
มีน้าเฉยียว  แสงมณี(นามสกุลเดิม) เป็นประธาน เป็นกฐินสามัคคี เพื่อรวบรวมปัจจัย ทำซุ้มประตูวัด
วัดสนามชัย มีพระนอนองค์ใหญ่อยู่กลางแจ้ง อายุร้อยกว่าปี เป็นวัดเก่าแก่ ได้เงินทอดกฐิน สามแสนเศษ ๆ

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #16219 เมื่อ: 07 พฤศจิกายน 2559, 09:19:32 »



วันนี้ เราทำอะไรเพื่อพ่อหลวง บ้าง?

สร้างกุศล  รับผิดชอบตนเอง  ระวังตนเอง ไม่ทำให้เกิดความแตกแยกในชาติ เพียงแค่นี้ก็พอแล้ว ไม่ต้องไประวังใคร ห่วงใคร กังวลว่าใครจะไม่ทำดีให้พระองค์  อย่าห่วงคนอื่นจงระวังจิตของตนเองก็พอ

สำหรับพี่สิงห์  
ก็ภาวนาให้มาก ให้จิตสงบ เห็นความเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป ในเวทนา ความคิด อารมภ์ที่มากระทบ อารมภ์ที่เกิดขึ้นกับจิต ระวังจิตตนเองไม่ให้หลงไปกับความคิด อารมภ์  
ทำในสิ่งที่ต้องทำ เป็นกุศล  ไม่ทำให้ใครเดือดร้อน  เพราะยังต้องมีชีวิตอยู่

เราเกิดมา  ไม่รู้ว่ามาจากไหน?
เราเกิดมาแล้วไม่รู้ว่าเราจะตายเมื่อไร?
เมื่อตายไป ก็เอาอะไรไปไม่ได้เลยนอกจาก กรรมที่ตนเคยทำเอาไว้ เท่านั้น
เมื่อตายจากโลกนี้ไปแล้ว ก็ไม่รู้ว่าตายไปแล้วจะไปที่ไหน?

เมื่อเป็นอย่างนี้ เห็นความจริง อย่างนี้แล้ว จงใช้มรรคมีองค์ ๘ ในการดำเนินชีวิต แบบพอเพียงเถิด

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #16220 เมื่อ: 07 พฤศจิกายน 2559, 14:57:08 »



คุณราเมศวร์  ศิลปพรหม
มีจิตใจกุศล  ร่วมทำบุญทอดกฐินกับพี่สิงห์ ในครั้งนี้ ทำให้ มีวิริยะเพิ่มขึ้นในการภาวนา

สาธุ อนุโมทนามิ ครับ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #16221 เมื่อ: 08 พฤศจิกายน 2559, 06:01:01 »


อรุณสวัสดิ์ ทุกท่านครับ

อริยะมรรค มีองค์ ๘ ประกอบด้วย
- สัมมาทิฏฐิ             ความเห็นชอบ
- สัมมาสังกัปโป       ความดำริชอบ
- สัมมาวาจา            การพูดจาชอบ
- สัมมากัมมันโต      การทำการงานชอบ
- สัมมาอาชีโว          การเลี้ยงชีวิตชอบ
- สัมมาวายาโม        ความพากเพียรชอบ
- สัมมาสติ                ความระลึกชอบ
- สัมมาสมาธิ            ความตั้งใจมั่นชอบ

สัมมาทิฏฐิ  ความเห็นชอบ
คือความเห็นชอบในธรรม อริยสัจ ๔ เห็นจริงตามนั้นแน่วแน่
เห็นจริงอย่างไร? หรือ

ทุกข์ เห็นจริงว่า ความรู้อันใดเป็นความรู้ในทุกข์ ให้รู้จักทุกข์  ทุกข์คือความไม่สบายใจ ความไม่สบายใจ ความคับแค้นใจ ความร่ำไรรำพัน ความโศก การเกิดก็เป็นทุกข์ ความแก่ก็เป็นทุกข์ ความตายก็เป็นทุกข์ การประสพกับสิ่งไม่รักไม่ชอบก็เป็นทุกข์ ความปราถนาสิ่งใดไม่ได้สิ่งนั้นนั่นก็เป็นทุกข์ การพลัดพรากจากสิ่งที่รักที่พอใจก็เป็นทุกข์
เมื่อเรารู้จักทุกข์แล้ว เวลาเราประสพทุกข์ คือมีอารมณ์ปรุงแต่งเกิดขึ้นในจิตจากการผัสสะทางทวารทั้งหก อันได้แก่ ตาเห็นรูป หูได้ยินเสียง จมูกได้ดมกลิ่น ลิ้นได้ลิ้มรส กายได้สัมผัสทางกายเกิดโผฏทัพพะ ได้สัมผัสทางใจเกิดธัมมารมภ์ เมื่อเรารู้สึกตัว ก็จะสามารถวางอุเบกขาได้ เพราะรู้ว่านี้คือทุกข์ เป็นธรรมชาติที่ต้องประสพ ก็จะยังประคองจิตตนเองเอาไว้ได้ไม่ให้หลง ไม่ให้ไหล ไปกับทุกข์นั้นได้

สมุทัย เห็นจริงในความรู้ที่เป็นเหตุให้เกิดทุกข์ อันได้แก่ตัณหา ความทะยานอยาก ที่เกิดขึ้นในจิต จากการผัสสะในทวารทั้งหก ซึ่งประกอบไปด้วย
กามตัณหา ความทะยานอยากในรูป เสียง กลิ่น รส โผฏทัพพะ
ภวตัณหา ความทะยานอยากแห่งจิตที่อยากมี อยากเป็น
วิภวตัณหา ความทะยานอยากแห่งจิตที่ไม่อยากหลุดพ้น ไม่อยากมี ไม่อยากเป็น

ทุกขะนิโรธ คือเห็นจริงในความรู้ในความดับทุกข์ คือต้องดับที่เหตุ-ปัจจัยในการเกิดทุกข์ เหตุ-ปัจจัยในการเกิดทุกข์ คือตัณหา และเหตุ-ปัจจัยในการเกิดตัณหา คือ อุปาทาน
อุปาทาน คือการเข้าไปยึดถือว่าเป็นเรา เป็นตัวตนของเรา เราเป็นนั่น นั่นเป็นตัวเรา ดังนั้น ต้องละความเป็นสัตว์ บุคคล ตัวตน เราเขา สิ่งของ ให้จงได้ ไม่มีตัว ไม่มีตน มันเป็นเพียงรูป-นาม หรือขันธ์ ๕ ตามธรรมชาติ

ทุกขะนิโรธะคามินิยา คือเห็นจริงในความรู้ในทางดำเนินชีวิตตาม มรรคมีองค์ ๘ ประการ จนสามารถดำเนินชีวิตให้ถึงความดับแห่งทุกข์ หรือให้เข้าใจง่ายขึ้นคือ การดำรงชีวิต ไม่ทำให้ใครเดือดร้อนเพราะเรานั่นเอง ทุกสิ่งเกิดจากเหตุ-ปัจจัย และทุกสิ่งดับเมื่อเหตุ-ปัจจัยไม่มี ดังนั้น เราต้องเดินตามมรรคมีองค์ ๘  และมีวิธีทำงานที่ถูกต้อง

ความจริงอันประเสริฐ ๔ ประการ นี้เกิดขึ้นในจิตของผู้ใด คนนั้นจะประสพความสำเร็จในการอยู่อย่างสุข สงบ ทำงานแก้ไขปัญหาได้ทุกชนิด จนถึงพระนิพพาน
เพราะรู้ว่า
นี่คือทุกข์ นี่คืองานที่ต้องทำ นี่คือการดำรงชีวิตในสังคม
นี่คือต้นเหตุแห่งการเกิดทุกข์ นี่คือต้นเหตุแห่งการเกิดอุปสรรคในการทำงาน นี่คือต้นเหตุแห่งการเกิดอุปสรรคการดำรงค์ชีวิต
นี่คือการแก้ปัญหาในการเกิดทุกข์ นี่คือการแก้ปัญหาในการทำงาน นี่คือการแก้ปัญหาในการดำรงชีวิตในสังคม คือแก้ที่ต้นเหตุ ต้องหาต้นเหตุแห่งการเกิดปัญหานั้นให้พบ
นี่คือหนทางการดำรงชีวิต นี่คือวิธีปฏิบัติที่ถูกต้องในการทำงาน นี่คือวิธีการดำรงค์ชีวิต หรือให้เข้าใจง่ายคือ วิธีการกระทำในทางตรงกันข้ามกับต้นเหตุ-ปัจจัยในการเกิดทุกข์ ปัญหา การดำเนินชีวิต  นั่นเอง

จงเห็นจริงตามนี้แล จากการภาวนา ไม่ใช่จากการเข้าใจ ท่อง บ่น พิจารณาตรึกตรอง

สวัสดีครับ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #16222 เมื่อ: 09 พฤศจิกายน 2559, 12:27:00 »



วันอังคารที่ ๘ พฤศจิกายน



ยืนรออยู่ในสนามหลวง 9.5 ชั่วโมง เพื่อเข้าแถว ไปกราบพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท



วันอังคารที่ ๘ พฤศจิกายน

พี่สิงห์ ออกจากบ้านเวลา 11:30 น. ขึ้นรถใต้ดินไปลงที่สีลม ต่อรถ BTS ไปลงสถานีตากสิน นั่งเรือด่วนจากท่าเรือสาธร ไปขึ้นที่ท่าช้าง เดินไปเข้าคิวอยู่ในแถวกลางสนามหลวง เวลา 12:30 น.

ใช้เวลาอยู่ในแถว กว่าจะได้เข้าไปในเขตพระราชวัง ก็เกือบสามทุ่ม

เวลา 22:00 น. จึงได้มีโอกาสขึ้นไปบนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท  ขึ้นกราบบังคมพระบรมศพพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ ต่อหน้าพระโกศ ตามที่ได้ตั้งใจเอาไว้

การยืน 9.5 ชั่วโมง เข้าห้องน้ำ ๒ ครั้ง ไม่ใช่เรื่งง่ายเลยสำหรับคนอายุ 65 ปี กลับถึงบ้านเวลา 23:30 น. พอดี เสียเวลาไป ๑๒ ชั่วโมง  ถ้าร่างกายไม่แข็งแรง และไม่มีศรัทธา  ทำไม่ได้ครับ

สวัสดี

      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #16223 เมื่อ: 10 พฤศจิกายน 2559, 05:53:30 »



อริยะมรรค มีองค์ ๘
องค์ที่ ๒ สัมมาสังกัปโป   ตวามดำหริชอบ

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ความดำหริชอบ เป็นอย่างไรเล่า?
สัมมาสังกัปโป  ความดำหริชอบ คือการคิดในทางที่ชอบ เป็นกุศล เป็นมงคล สมควรที่จะกระทำ อันประกอบไปด้วย
- เนกขัมมะสังกัปโป        ความดำหริในการออกจากกาม
- อะพยาปาทะสังกัปโป   ความดำหริในการไม่มุ่งร้าย
- อะวิหิงสาสังกัปโป         ความดำหริในการไม่เบียดเบียน

ความดำหริในการออกจากกาม คือการคิดที่จะออกบวชประพฤติพรหมจรรย์ ไม่ข้องแวะในทางโลก สวมรวมกาย วาจา ใจ ไม่ยินดีในรูป รส กลิ่น เสียง โผฏฐัพพะ ธัมมารมณ์ หรือถ้ายังเป็นปุถุชนม์อยู่ก็มีความคิดที่จะ ระวังตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ไม่ยินดีใน รูป รส กลิ่น เสียง โผฏฐัพพะ ธัมมารมณ์

ความดำหริในการไม่มุ่งร้าย คือการคิดที่จะไม่ทำร้ายใคร ไม่คิดทำร้ายสัตว์ให้ถึงกับได้รับบาดเจ็บ และตาย

ความดำหริในการไม่เบียดเบียน คือการคิดที่จะไม่กระทำให้ใครเดือดร้อน ทั้งตนเอง ผู้อื่น และสัตว์
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #16224 เมื่อ: 12 พฤศจิกายน 2559, 05:22:05 »



อรุณสวัสดิ์ ทุกท่านครับ

เรียนเชิญทุกท่าน ร่วมอนุโมทนาบุญ ทอดกฐิน ร่วมกันครับ

สาธุ  สาธุ  สาธุ
      บันทึกการเข้า
  หน้า: 1 ... 647 648 [649] 650 651 ... 681   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

สมาคมนิสิตเก่าหอพักนิสิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มวลสมาชิกสมาคม คณาจารย์ และนิสิตเก่าทุกคน ขอน้อมเกล้าถวายความอาลัย  พระผู้เสด็จสู่สวรรคาลัย ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ <;))))><