27 พฤศจิกายน 2567, 11:05:06
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: 1 ... 643 644 [645] 646 647 ... 681   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: คุย กับ คุณมานพ กลับดี อดีตประธานชมรม ๓ สมัย  (อ่าน 3583925 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 3 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #16100 เมื่อ: 17 กันยายน 2559, 04:55:38 »



สวัสดี ทุกท่านครับ

วันเสาร์ที่ ๑๒ พฤศจิกายน เวลา 10:00 น.
เรียนเชิญ ทุกท่านไปร่วมงานทอดกฐิน สามัคคี ที่วัดพระนอน ตำบลทับยา อำเภออินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี

พี่สิงห์  เป็นประธาน
ไปกินปลาช้อนแม่ลา รับประทานข้าวหอมมะลิแม่ลา

ขอบพระคุณมาก
สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #16101 เมื่อ: 18 กันยายน 2559, 06:10:45 »



อรุณสวัสดิ์ ทุกท่านครับ
พี่สิงห์ อยู่นครศรีธรรมราช
เทศกาลสารทเดือนสิบ ของชาวนครศรีธรรมราช จะเริ่มอาทิตย์หน้าแล้ว นะครับ
ใครที่มีบรรพบุรุษ หรือพ่อ-แม่ ยังอยู่ เช่น ดร.กุศล  ที่เอาอัฏฐิ คุณพ่อ  บรรจุไว้ที่ใต้ฐานพระพุทธรูป  ในศาลารายรอบพระมหาธาตุ  ก็ต้องมาบังสุกุลให้ท่าน และ
ชาวนครศรีธรรมราช เชื่อว่า เป็นวันเปิดโลกที่วิญญาณของบรรพบุรุษ จะกลับมาเยี่ยม จึงต้องกลับไปรับหน้าท่าน ทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ท่าน และเตรียมสะเบียงให้ท่านเดินทางกลับ คือทำขนมลา ขนมไข่ปลา ขนมพอง  ขนมบีซัม ให้ท่านด้วยการเอาไปทำบุญที่วัด แจกทานที่เรียกว่าให้เปรต ที่วัด ตามสี่แยก สามแยก คือทำบุญให้บรรพบุรุษ มันเป็นประเพณีที่ดี ควรรักษาเอาไว้

ส่วนท่านใดละเลย ว่าติดธุระ อย่าลืม คุณพ่อ-คุณแม่ คือพระอรหันต์ในบ้านของลูก ๆ  สมควรที่เราจะไปทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับท่าน จะมีอานิสสงมาก ทันตาเห็น คือเราสุขใจ พบพระนิพพาน

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #16102 เมื่อ: 18 กันยายน 2559, 07:05:56 »



 รู้ชนะหลง

นักศึกษาคนหนึ่ง ไม่พอใจอาจารย์ ขุ่นมัวกับเรื่องนี้ทั้งวัน ตกค่ำก็ยังไม่หายคับข้องใจ   วันรุ่งขึ้นอาจารย์ที่ปรึกษามาหาเขา  เขาจึงระบายความโกรธใส่อาจารย์ ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้รู้เรื่องอะไรด้วย  แต่เขาไม่สนใจ อาจารย์พยายามอธิบายอย่างไรเขาก็ไม่ฟัง  มีช่วงหนึ่งอาจารย์ทักเขาว่า “ คิ้วของเธอผูกเป็นโบว์เลยนะ”

ได้ยินเท่านี้เขาก็ชะงัก คำพูดของอาจารย์ทำให้เขาเพิ่งรู้ตัวว่ากำลังหน้านิ่วคิ้วขมวดด้วยความโกรธ  ทันทีที่เห็นความโกรธพลุ่งพล่านในใจ  ความโกรธก็หลุดหายไปทันที  เกิดความรู้สึกโปร่งเบา แตกต่างจากความรู้สึกเมื่อสักครู่อย่างชัดเจน  ประสบการณ์ครั้งนั้นทำให้เขาประจักษ์ชัดถึงพลังแห่งสติว่าสามารถปลดเปลื้องอารมณ์ไปจากใจได้อย่างน่าอัศจรรย์

 เสียงธรรมจากพระอ.ไพศาล วิสาโล
บรรยายหลังทำวัตรเช้าที่วัดป่าสุคะโต
ตามลิงค์นี้เข้าไปฟังหรือดาวน์โหลดได้เลย
https://archive.org/details/Visalo2016
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #16103 เมื่อ: 18 กันยายน 2559, 07:08:04 »



ว่าง ๆ ก็อ่านธรรม ของหลวงพ่อพระไพศาล ท่านเขมานันทะ และให้เห็นความจริงในธรรมนั้นทางตาใน
ประเสริฐนัก ค่อย ๆ สะสม ชำระจิตของตนเองไปทีละเล็ก ทีละน้อย

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #16104 เมื่อ: 18 กันยายน 2559, 07:09:44 »





พี่สิงห์ บวชพระ วันที่ ๙ กุมภาพันธุ์ ๒๕๖๐ เพื่อปฏิบัติธรรม เจริญสติปัฏฐาน ๔ ใน ๔ สังเวชนีย์ ที่อินเดีย ตามรอยพระบาทขององค์พระศาสดา

ใครที่อยากจะมีส่วนร่วม ทำบุญ เป็นปัจจัย จะได้มอบให้ทางวัดไทยพุทธคยา เพราะจะให้ทางวัดจัดหาเครื่องอัฏฐะบริขารและสิ่งประกอบในการบวชทั้งหมดให้  จะได้สะดวกทั้งสองฝ่าย



ขออนุโมทนาบุญทุกท่านครับ
และอย่าลืมแจ้งให้ทราบ ด้วยครับ

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #16105 เมื่อ: 18 กันยายน 2559, 20:03:00 »



สวัสดี ทุกท่านครับ

วันนี้เที่ยง พี่สิงห์  ไปร่วมงานฌาปนกิจศพของ คุณวรงค์ หรือตะวัน หรือสหายเสรี  รุ่งรุจิไพศาล ซีมะโด่ง 2515 ณ วัดธาตุทอง

พี่สิงห์  เกือบเดินเลยนึกว่าเป็นเมรุเก่าด้านหลัง บังเอิญ คุณน้องฟ้า (วิภา) เห็นเลยเดินออกมาเชิญว่าเป็นเมรุหลังด้านหน้า ได้พบชาวซีมะโด่งหลายท่าน ได้ทักทายกัน

สักครู่คุณเหน่ง พล.ร.ต.ศิริพร  มาบอกว่า ชาวซีมะโด่งที่มาร่วมงานวันนี้ รุ่นเราอาวุโสสูงสุด  ขอให้สิงห์ เป็นตัวแทน พวกเราชาวนิสิตเก่าหอพักนิสิต จุฬาฯ ขึ้นทอดผ้าไตรหน้าหีบศพ สิงห์  เหมาะที่สุด

พี่สิงห์  จึงรับทำหน้าที่เป็นตัวแทนสมาคมนิสิตเก่าหอพักนิสิต จุฬาฯ ขึ้นทอดผ้าไตรหน้าหีบศพ เป็นคนแรก ในบรรดา ๑๐ ท่าน ที่ได้รับเชิญ  โดนมีคุณศุกรี  อดีต ผู้จัดการ กลต. เป็นประธาน
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #16106 เมื่อ: 18 กันยายน 2559, 20:06:08 »



ประเพณีการทอดผ้าไตร หน้าหีบศพ มีขั้นตอน ดังนี้

- เมื่อเดินขึ้นไปบนเมรุหน้าหีบศพ แล้ว ให้ยืนตรงคำนับศพ
- รับผ้าไตรที่จะทอดมาถือ ยืนพนมมือ
- สวดมนต์บท ปุพพภาคนมการ "นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ" ๓ จบ
- กล่าวคำพิจารณา " นามมะรูปัง  อะนิจจัง  นามมะรูปัง ทุกขัง  นามมะรูปัง อะนัตตา"
- ยกผ้าขึ้นจบอุทิศส่วนกุศล ให้ไปสู่สุคติภพ
- วางผ้าไตรที่จะทอดบังสุกุล ลงบนพาน หรือโต๊ะทีาจัดเอาไว้ให้และต้องอยู่บนผ้าสายสินธุ์
- ถอยออกมาหลบอยู่ด้านข้าง ข้างรูปผู้ตาย ยืนพนมมือ ฟังพระท่านผิจารณาผ้าไตรบังสุกุล
- พระท่านจะจับผ้าด้วยมือขวา มือซ้ายท่านจะจับตะละปัต พระพิจารณาว่า "อะนิจจา  วะตะสังขารา อุปปัชชิตตะวา นิรุชฌันติ  เตสังวู ปะสะโมสุโข สัพเพ สัตตา มะรันติจะ มะริงสุจะ มะริสสะเร ตะเถวาหัง มะริสสามิ นัตถิเม เอตถะ สังสะโย"
- พระจะยกผ้าเอาไป เป็นเสร็จพิธี

สวัสดีครับ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #16107 เมื่อ: 18 กันยายน 2559, 20:22:31 »



คำแปล

สำหรับผู้ทอดผ้าไตรบังสุกุล กล่าว
"รูปนามนี้ ไม่เที่ยงหนอ  รูปนามนี้ เป็นทุกข์  รูปนามนี้ เป็นอนัตตา"

สำหรับ พระที่ท่านพิจารณา
"สังขารทั้งหลายไม่เที่ยงหนอ,  มีความเกิดขึ้นแล้วมีความเสื่อมไปเป็นธรรมดา, ครั้งเกิดขึ้นแล้ว ย่อมดับไป, ความเข้าไปสงบระงับสังขารทั้งหลายเป็นสุขอย่างยิ่ง,
สัตว์ทั้งหลายทั้งสิ้น ตายอยู่ด้วย, สัตว์ทั้งหลาย ตายแล้วด้วย, สัตว์ทั้งหลาย จักตายด้วย, ตัวเราจักตายอย่างนั้นนั่นเทียว, ความสงสัย ในเรื่องตายนี้ ไม่มีแก่เรา ดังนี้"

จะเห็นว่า ท่านต้องการให้มนุษย์ที่ยังอยู่ เห็นความจริงในชีวิต เอาศพผู้ตายเป็นครู  อยู่อย่างไม่ประมาท ครับ

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #16108 เมื่อ: 18 กันยายน 2559, 20:36:29 »



ขอบคุณ ดร.กุศล  ที่ไปเอารูปมาให้ครับ
สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #16109 เมื่อ: 19 กันยายน 2559, 17:07:22 »


บวชครั้งนี้ ไม่มีญาติไป เพราะบวชเพื่อตนเอง

ดร.สุริยา

หัวสมองมันชัก ไม่จดจำ เกิดความกังวล จะท่องขานนาคไม่ได้เหมือนกัน ไม่เหมือนตอนบวชครั้งนั้น ในหัวมันไม่มีบทสวดมนต์มากมายนัก สองวันจำได้หมดแล้ว

แต่ตอนนี้ในหัวมันมีภาษาบาลีมากมาย มันเลยจำยาก อันไหนที่เราเข้าใจความหมายมันก็จำง่าย เช่น เวลาพระอุปัชฌาท่านถาม จะตอบได้เพราะเข้าใจความหมาย แต่ในส่วนอื่นที่ไม่เข้าใจความหมาย มันก็จำยาก

สงสัยต้องเรียนภาษาบาลี จะได้จำได้

วัดไทยพุทธคยาบวชแบบ "อุกาสะ" ไม่ใช่บวชแบบ "เอสาหังภันเต"

ส่วนการเตรียมเครื่องอัตฐบริขาร และเครื่องประกอบในการบวช นั้น ให้ทางวัดจัดให้ทั้งหมดแบบเบ็ดเส็จ พี่สิงห์ จ่ายเป็นเงินก้อนเดียวให้กับทางวัดเลย เพื่อความสะดวก ทุกประการสำหรับค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ในการบวชทั้งหมด และจะขอถวายปัจจัยยพิเศษ ทำบุญกับทางวัดอีกด้วย

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #16110 เมื่อ: 19 กันยายน 2559, 17:16:23 »



สำหรับการออกบิณฑบาตร เนื่องจากคนอินเดีย ไม่นิยมใส่บาตรพระ คงต้องบิณฑบาตร ตามวัดไทย และบริเวรต้นพระศรีมหาโพธิ์ ที่มีชาวพุทธ นิยมไปใส่บาตรพระกัน  คงพอจะมีข้าวฉัน ได้ แต่เชื่อว่าที่วัดไทยพุทธคยา ก็มีอาหารสำหรับพระเอาไว้ให้ฉัน

บวชพระก็ต้องบิณฑบาตร โปรดสัตว์ มันเป็นกิจที่พระจะต้องพึงปฏิบัติ ในชีวิตประจำวัน การดำรงชีวิตของพระภิกษุ ในพุทธศาสนา

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #16111 เมื่อ: 19 กันยายน 2559, 20:23:54 »



อาจารย์มานพ  ไม่อยู่เขาจะทำกันได้ไหมหนอ ?

เพื่อนฝูงเกิดความวิตกกังวล ทั้ง ๕ โรงงาน ว่าถ้าอาจารย์มานพ  ไปบวช เกิดปัญหา จะแก้ไขกันอย่างไร
๓ โรงงานแรก เอเซียคอนกรีต  PSTC และ Ku-con คงไม่มีปัญหา เพราะผลิตได้มานานแล้ว มีข้อมูลที่ให้เก็บมากพอ ที่จะแก้ไขกันได้

แต่อีก ๒ โรงงาน คือ ฉลองคอนกรีต และ SICON น่าเป็นห่วงโดยเฉพาะรายหลัง ยังไม่ได้ Start-up โรงงานเลย มันล่าช้ามาปีกว่าแล้ว

ได้แต่คิดในแง่บวก ว่าน่าจะทำได้ เพราะมีถึง ๕ โรงงาน ที่ฝึกให้ดีแล้ว ชอให้ทำตามขั้นตอนที่กำหนด ที่สอน ที่ทำให้ดู เท่สนั้น ก็จะทำกันได้ หรือ

การสอน การแนะนำ ให้กับคนมีอาชีพ ที่สุจริต ก็ไม่ผิดในพระวินัยของพระ เช่นกัน เพราะเป็นการทำดี

กังวลในสิ่งที่ยังมาไม่ถึง  มีแต่ทุกข์
การบวชที่พุทธคยา  ไม่มีวาสนาก็บวชไม่ได้เช่นกัน
กรรมของใคร คนนั้นก็ต้องรับกรรม หนีไม่พ้น

ราตรีสวัสดิ์ ทุกท่านครับ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #16112 เมื่อ: 19 กันยายน 2559, 20:50:22 »



ความคิดปิดบังความจริง

อันที่จริงแม้ความตายยังไม่ถึงกับประชิดตัว  แต่ในส่วนลึกของคนส่วนใหญ่นั้นไม่เชื่อว่าตนจะต้องตายด้วยซ้ำ ทั้ง ๆ ที่ได้ยินได้ฟังว่ามีคนตายอยู่เนือง ๆ   หรือถึงแม้รู้ว่าตัวเองจะต้องตายไม่วันใดก็วันหนึ่ง แต่ใจก็ไม่ได้เชื่ออย่างนั้น  ดังนั้นเมื่อถึงคราวที่จะต้องตาย จึงยอมรับไม่ได้ พยายามปฏิเสธผลักไสและต่อต้าน ซึ่งเท่ากับเพิ่มความทุกข์ทรมานให้แก่ตนมากขึ้น

ปัญหาใด ๆ ก็ไม่ร้ายแรงหรือน่ากลัวเท่ากับใจที่ปฏิเสธปัญหา เพราะนั่นหมายถึงความประมาท นิ่งดูดาย งอมืองอเท้า ปล่อยให้ปัญหานั้นจู่โจมโดยไม่ทันตั้งตัว   ถึงตอนนั้นแล้วหากใจยังปฏิเสธผลักไส ตีโพยตีพาย ไม่ยอมรับความจริง ก็ยิ่งเจ็บปวดเพราะถูกความจริงโบยตี  จะดีกว่ามากหากยอมรับความจริงเสียแต่ต้น แม้จะเจ็บปวดทีแรก แต่ก็มีโอกาสที่จะรับมือกับมันได้ดีขึ้น ยิ่งยอมรับแต่เนิ่น ๆ เท่าไร ก็ยิ่งมีเวลาเตรียมการมากเท่านั้น อีกทั้งสามารถใช้ประโยชน์จากมันได้  ดังผู้ที่เจริญมรณสติอยู่เสมอ ไม่เพียงจะตื่นตระหนกน้อยลงเมื่อความตายมาประชิดตัวเท่านั้น แต่ยังสามารถใช้ประโยชน์จากมัน  คือเห็นธรรมจากความตาย ทำให้ปล่อยวางและเผชิญความตายด้วยใจสงบ

พระไพศาล วิสาโล

เสียงธรรมจากพระอ.ไพศาล วิสาโล
บรรยายหลังทำวัตรเย็นที่วัดป่าสุคะโต
ตามลิงค์นี้เข้าไปฟังหรือโหลดเลย
https://archive.org/details/Visalo2016
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #16113 เมื่อ: 20 กันยายน 2559, 10:33:03 »

พี่สิงห์ครับ

ลูกศิษญ์ของพี่ทุกโรงงานคงไม่เป็นคนหวงวิชาอย่างแน่นอน
พี่ให้เบอร์โฟรแมนของทั้ง 3 โรงแรก เพื่อให้โรงงานสุดท้ายได้ถามไถ่ แก้ไขปัญหา ช่วงพี่ไปบวช
และหากทั้ง 5 โรงงานไม่ได้แข็งขันกัน เขาน่าจะช่วยกันได้เพราะมีครูบาอาจารย์คนเดียวกันครับ
บอกเขา เราต้องรวมตัวกัน มันถึงจะเจริญขึ้น-ไม่ใช้มากีดกันซึ่งกันและกัน

ไม่ทราบพอจะเป็นไปได้ไหม
ถ้าเป็นไปได้ ต้องเริ่มบอกให้โฟร์แมน 3 โรงแรกทราบเป็นการล่วงหน้าแล้วครับ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #16114 เมื่อ: 20 กันยายน 2559, 11:00:58 »



ดร.สุริยา
ทำไม? ท่านเขมานันทะ ท่านสึกออกมาเป็นฆารวาส

การพึ่งชาวบ้านให้มาดูแลอาหารการกิน ทั้งที่ชาวบ้าน อยู่ในฐานะที่แย่กว่าเรา เป็นสิ่งที่ไม่อยากรบกวนเลย สงสารชาวบ้าน

ชีวิตฆาราวาส ก็สุขสงบจากกิเลสได้ ถ้าใจมันหมดความอยาก เห็นตามจริงในธรรม

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #16115 เมื่อ: 20 กันยายน 2559, 11:08:15 »

สวัสดี ครับคุณเหยง

ขอบคุณมาก

ทั้ง ๕ โรงงานนั้น อยู่สมุทรสาคร  สระบุรี  อุดรธานี นครศรีธรรมราช และพังงา

จะมีทับพื้นที่กันบ้างก็เพียงสระบุรี VS สมุทรสาคร  แต่ทุกโรงงาน พยายามให้คบกันเป็นเพื่อน ร่วมธุรกิจกัน ช่วยเหลือเกิ้อกูลกัน ช่วยกันทำ ไม่มีการแย่งงานกัน และถ่ายทอดองค์ความรู้ต่อกัน เพราะเราต้องช่วยตนเองในการ ซ่อม-ดูแลเครื่องจักร  เพราะสเปนมามันไกล เสียค่าใช้จ่าย เครื่องจักรเขา มันก็ธรรมดา ไม่ซับซ้อนมากมาย ทำกันได้ ปัญหาอยู่ที่ องค์ความรู้ใหม่ ๆ ทางวิศวกรรม เท่านั้น

ไม่แนะนำให้ใครอีกแล้ว ถ้าไม่เข้าใจมัน เพราะคนชอบดื้อรั้นโดยเฉพาะคนไทย ชอบทำเองแก้ไข มันมีองค์ประกอบมาก อยากก็อยาก ง่ายก็ง่าย ถ้ารู้จักมันจริง ๆ

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #16116 เมื่อ: 20 กันยายน 2559, 15:55:37 »

ดีครับ

พื้นที่ไม่ทับซ้อน ช่วยกันแก้ไข ให้เครื่องเดินไปได้ win-win ด้วยกันทั้งหมด
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #16117 เมื่อ: 20 กันยายน 2559, 19:15:10 »

อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 20 กันยายน 2559, 15:55:37
ดีครับ

พื้นที่ไม่ทับซ้อน ช่วยกันแก้ไข ให้เครื่องเดินไปได้ win-win ด้วยกันทั้งหมด

ขอบคุณครับ

คุณเหยง
วันเสาร์ที่ ๑๒ พฤศจิกายน เรียนเชิญไปทอดกฐินด้วยกัน ที่วัดพระนอน ตำบลทับยา อำเภออินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี ครับ

ขอบคุณมากครับ
สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #16118 เมื่อ: 20 กันยายน 2559, 19:25:12 »



 ขอน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้  ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ

วันที่ 20 กันยายน ของทุกปี  เป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพของ "พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว"

ทั้งนี้  วันที่ 20 กันยนยน ยังเป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล เช่นกัน    พระมหากษัตริย์ทั้งสองพระองค์ต่างทรงเป็นองค์พระบรมราชูปถัมภกแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและทรงมีพระมหากรุณาธิคุณแก่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยอย่างหาที่สุดมิได้ ปวงข้าพระพุทธเจ้าขอรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณจนกว่าชีวิตจะหาไม่.
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #16119 เมื่อ: 21 กันยายน 2559, 18:15:38 »

Tags: การเจริญสติต้องวางใจอย่างไร?

การเจริญสติต้องวางใจให้ถูก ดังนี้

1. ปฏิบัติด้วยความผ่อนคลายสบาย ๆ
ไม่เอาจิตไปเกาะติดกับกายเกินไป

2. ไม่ไหลเข้าไปในความคิดนานเกินไป
การเห็นรูปแบบเคลื่อนตัวสบาย ๆ
จะเห็นเป็นแต่เพียงอาการ
ไม่มีเราอยู่ในนั้น

ฝึกให้คุ้นเคยกับสภาพการรู้แบบนี้
ตั้งแต่ตื่นนอนจนถึงเวลาหลับ

ไม่ว่าจะทำกิจกรรมใดๆให้รู้สึกตัว
"กายเคลื่อนไหว ให้ใจรู้ด้วย"

ตามย้ำตามซ้ำ
ให้เกิดความคุ้นชินอันนี้ก่อน
เผลอไปไม่เป็นไร
กลับมารู้สึกตัวใหม่

ให้รู้น้อยๆ ทีละขณะ
รู้ทิ้ง รู้ทิ้ง รู้เบาๆ ผ่อนคลายๆ

เวลาความคิดเกิดขึ้น
ให้รู้ปล่อย รู้ปล่อย

สภาวะใดเกิดขึ้น
อย่าไปเค้นว่ามันคืออะไร
ไม่ต้องเอาเหตุเอาผลอะไร
นั่งก็เพียงเพื่อจะนั่ง

ไม่ต้องคิดว่าเมื่อไหร่จะสงบ
เมื่อไรจะหยุดฟุ้งซ่าน
เมื่อไรจะหายง่วง

ในการฝึก ให้ “รู้สึก” ลงไป
ไม่ใช่แค่ “รู้ว่า”

“รู้ว่า” กับ “รู้สึก” คนละเรื่องกัน
ล้างชามให้รู้ว่าล้างชาม
กระพริบตาให้รู้ว่ากระพริบตา
อันนี้ไม่ใช่ ต้องรู้สึกลงไปด้วย

ขณะกระทบสัมผัสนี่
เวลานั่งตะโพกกระทบพื้นรู้สึกไหม

ถ้าวางใจถูก
ไม่นานจิตจะรู้จัก
กับสภาพเปล่าๆ ล้วนๆ
ที่อยู่ตรงหน้า

เรื่องง่าย ๆ อย่าทำให้มันยาก
มันยากเพราะเราพยายามเกินไป
หรือไม่พยายามเลย

การเจริญสติคือการซ้อมสร้างความตื่นรู้
ถ้ามันยังไม่พอ มันจะยังไม่แสดงตน

อย่าอยาก ยิ่งอยากรู้ ยิ่งไม่รู้

ถ้าวางใจถูก กายกับใจจะสัมพันธ์กัน
ไม่นานจะเกิดความตื่นโพลงขึ้น
จะมีอาการโปร่งเบา เป็นอิสระ
จิตจะคลี่คลาย
ดวงตาเห็นธรรมจะเปิดออก

Direk Saksith
www.buddhayanando.com
Fb: พระพุทธยานันทภิกขุ, พลิกใจให้ตื่นรู้,
หลวงพ่อมหาดิเรก พุทธยานันโท, เซนสยาม
.......................................
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #16120 เมื่อ: 21 กันยายน 2559, 19:35:27 »



สาธุครับ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #16121 เมื่อ: 21 กันยายน 2559, 19:38:32 »

      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #16122 เมื่อ: 21 กันยายน 2559, 19:57:21 »



 เมื่อเราไม่ให้ค่า

มันก็ไม่มีค่า

แม้กระทั่งความสัมพันธ์ทางเพศ
ที่ใครๆ คิดว่าเป็นยอดของความสุข
ยิ่งกว่าได้ฟังเพลงไพเราะ กินอาหารอร่อย
แต่ถ้าไม่มีความอยาก ไม่มีอารมณ์เสียแล้ว
เสพไปก็ไม่มีความสุข อาจรู้สึกเบื่อด้วยซ้ำ

คู่สมรสบางคนมีเพศสัมพันธ์
เพียงเพราะเห็นว่าเป็นหน้าที่
บางคนชอบเพศเดียวกัน
แต่ต้องหลับนอนกับคู่ครองที่เป็นเพศตรงข้าม
 เขาย่อมไม่รู้สึกมีความสุขเพราะไม่มีความอยาก

ความทุกข์ใจก็เช่นเดียวกัน
 ต้องอาศัยทั้งปัจจัยภายนอกและปัจจัยภายใน

 นั่นหมายความว่า คำต่อว่าด่าทอ เสียงดัง
แดดร้อน ทำให้ทุกข์ใจไม่ได้
ถ้าใจเราไม่ไปร่วมมือด้วย

หากว่ามีคนตะโกนด่าแต่เราไม่สนใจ
ไม่นำพา เข้าหูซ้ายทะลุหูขวา
 จะเกิดความโกรธได้ไหม

ความโกรธเกิดขึ้นไม่ได้
ถ้าใจเราไม่เอาคำเหล่านั้นมาเป็นอารมณ์
หรือหวนระลึกนึกถึงคำเหล่านั้น

การกระทำก็เช่นเดียวกัน
แม้จะมีคนมากลั่นแกล้ง เอาเปรียบ
รบกวน รังควาน แต่ถ้าเราไม่เก็บเอามาคิด
 ไม่นำพาไม่สนใจ ความทุกข์ใจก็เกิดขึ้นไม่ได้

ดังนั้นเมื่อไรก็ตามที่เรามีความทุกข์ใจ
จะโทษรูปที่เห็น โทษเสียงที่ได้ยิน
โทษใครต่อใครที่รู้จักอย่างเดียวไม่ได้

 มันต้องโทษที่ใจเราด้วย
เป็นเพราะใจเรามีส่วนร่วม
ไปสมยอมเปิดทางอนุญาตให้สิ่งเหล่านั้นเข้ามา
สร้างความทุกข์ใจให้กับเรา

---------------------------

#ดูแลใจให้ดี ตอน ๓
#หนังสือใบไม้ไหวใจสงบนิ่ง
พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #16123 เมื่อ: 22 กันยายน 2559, 05:39:10 »

อรุณสวัสดิ์ ทุกท่สนครับ

ทุกสิ่งล้วนเป็นธรรมชาติ เป็นธาตุ
แต่ธาตุ ธรรมชาตินั้นจะเป็นธรรมะ เมื่อท่านผัสสะมันทางทวารทั้งหก คือตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ เกิดวิญญาณ การรู้แจ้งทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ นั่นละตัวธรรมะ ละ ไม่มีตัวตน ไม่ใช่สัตว์ บุคคล ตัวตน เราเขา เป็นเพียงธาตุรู้ เป็นอนัตตา
แต่เพราะไปหลงยึดติดว่าเป็นตัวตน สัตว์ บุคคล เรา เขา จึงเกิดการปรุงแต่ง(เจตสิก) ล้วนนำมาด้วยทุกข์ จะสุขบ้างก็ชั่วครั้งชั่วคราว
ธรรมะนั้น ท่านสามารถพบด้วยตัวของท่านเองจากการภาวนา ในชั่วเพียงอึดใจเดียว เมื่อท่านสามารถแยกรูป แยกนาม ให้เป็นอิสสระแก่กัน ท่านเป็นผู้ดู ด้วยสติ  ไม่เป็นผู้เป็น แต่ยังมิใช่การบรรลุธรรม  แต่เราเอาธรรมะนั้นมาปฏิบัติ ระวังใจตนเอง ต่างหาก จะพบแต่สุขสงบตามอัตภาพ

ธาตุ หรือ ธรรมชาติ นั้น ประกอบไปด้วย มหาธาตุทั้ง ๔ คือ ดิน น้ำ ไฟ ลม และวิญญาณธาตุ(ธาตุรู้) ท่านจงมองดูรอบตัวท่าน มันเป็นเช่นนั้นจริง ๆ ธาตุ ธรรมชาติ มันก็เป็นของมันอย่างนั้น แต่เพราะจิตท่านไปผัสสะ มันจึงเป็นธรรมะ และภ้าท่านหลง ไปคิด มันก็มีแต่ทุกข์ตามมา เหตุที่ไปคิด เพราะหลงว่าเป็นเรา เป็นตัวตนของเรา

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #16124 เมื่อ: 22 กันยายน 2559, 06:08:49 »



ทางสายเอกที่ประกอบด้วย
- ศรัทธา
- ศีล
- อยู่ด้วยปัจจัย ๔ แบบพอเดพียง
- มีวิริยะในการสร้างกุศล
- มีสติ
- ทำสติให่เป็นสมาธิ
- มีปัญญา เห็นการเกิดดับ

จะทำให้จิตของท่าน ละจากนิวรณ์ เห็นการเกิดดับในสังขารแยกรูป-นาม "เห็นธรรมะ" ได้

เมื่อเห็น ธรรมะ เอาธรรมนั้นมาปฏิบัติ จะพบแต่ความสงบสุข

สวัสดี

      บันทึกการเข้า
  หน้า: 1 ... 643 644 [645] 646 647 ... 681   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

สมาคมนิสิตเก่าหอพักนิสิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มวลสมาชิกสมาคม คณาจารย์ และนิสิตเก่าทุกคน ขอน้อมเกล้าถวายความอาลัย  พระผู้เสด็จสู่สวรรคาลัย ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ <;))))><