24 พฤศจิกายน 2567, 01:30:04
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: 1 ... 640 641 [642] 643 644 ... 681   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: คุย กับ คุณมานพ กลับดี อดีตประธานชมรม ๓ สมัย  (อ่าน 3566614 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 23 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #16025 เมื่อ: 25 สิงหาคม 2559, 05:30:16 »



อรุณสวัสดิ์ ทุกท่านครับ

เกิด แก่ เจ็บ ตาย มันเป็นธรรมดาของโลก(มนุษย์)

มนุษย์เกิดมา ทำงานเพื่อปัจจัย 4 ที่มากเกินไป น่ำรวยเงินทองสมบัติมากมาย แต่ตอนตายกลับเอาอะไรไปไม่ได้เลย มาตัวเปล่า ก็ไปตัวเปล่า มีเพียงความดี ให้คนระลึกถึง ความเลวมาก ๆ ให้คนเกียจชัง มันเป็นอย่างนี้

บางคนตายเมื่ออายุยังไม่สมควร

อย่ากระนั้นเลย เราทำงานเพียงเพื่อปัจจัย ๔ ที่พอเพียง  แต่อย่าลืมว่า ตอนแก่ โรคเรื้อรังมันมาก ต้องใช้เงิน ต้องมีคนดูแล ไม่มีเงินรักษา มันก็แย่

ดังนั้น เราไม่มีเงินมาก สู้เตรียมใจของเราเอาไว้ดีกว่า ด้วยการภาวนาเจริญสติ  ให้เห็นควาใจริงในชีวิต เห็นความจริงในธรรม ถึงยังไม่ลรรลุธรรมถึงซึ่งพระนิพพาน กายทุกข์  แต่ใจไม่ทุกข์ได้  เพราะเราจะวางใจของเราให้เป็นผู้ดู ด้วยสติ ไม่เป็นผู้เป็น ด้วยการหลงอยู่ในความคิดในตัวกู ของกู

ทุกท่านสามารถพบได้จริงครับ

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #16026 เมื่อ: 25 สิงหาคม 2559, 05:37:30 »



เมื่อวานวันที่ ๒๔ สิงหาคม พี่สิงห์ ไปร่วมงานสวดพระอภิธรรมศพ คุณไพโรจน์  มณีโรจน์ ซีมะโด่งรุ่นน้อง วศ.59 สามีของคุณน้องปนัดดา (อ้อย) ชาวซีมะโด่ง เช่นกัน

สามี-ภรรยา คู่นี้ตอนแต่งงาน พี่สิงห์  ก็ไป ที่เชียงใหม่ หรือลำพูน จำไม่ได้แล้ว

พี่สิงห์  ได้เป็นตัวแทนชาวหอพักฯ วางผ้าบังสุกุล และถวายปัจจัยแด่พระผู้สวดพระอภิธรรม ด้วย

เกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นเรื่องธรนมดา  แต่ความอาลัย ความสังเวชใจย่อมเกิดขึ้นเสมอ ขอให้ดวงวิญญน้องเพียวไปสู่สุคติภพที่ดี

วันนี้เป็นวันฌาปนกิจศพ  คงไม่ได้ไปร่วมงาน เพราะต้องไปทำงานที่นครศรีธรรมราช

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #16027 เมื่อ: 25 สิงหาคม 2559, 12:37:08 »



พี่สิงห์  ทำงานอยู่นครศรีธรรมราช
มาติดตามงานก่อสร้างโรงงาน Hollow Core Slabs ที่พระพรหม  ล่าช้ามาหนึ่งปีเต็ม ๆ แล้ว

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #16028 เมื่อ: 25 สิงหาคม 2559, 20:28:13 »



“จับทางความหลงให้ได้”

เมื่อใดที่มีสติ  ใจจะไม่เผลอพุ่งออกไปข้างนอก
และโทษสิ่งรอบตัวว่าเป็นตัวการทำให้เราทุกข์ 
แต่จะกลับมารู้เท่าทันตนเอง ไม่เปิดทาง
หรือยินยอมให้ใครหรืออะไรมายัดเยียด
ความทุกข์แก่เราได้  เมื่อใจเราไม่เปิดทาง
หรือยินยอมเสียอย่าง  ไม่ว่าใครจะทำอะไรเรา
ก็มิอาจสร้างความทุกข์ใจแก่เราได้
เพราะตบมือข้างเดียวจะมีเสียงดังได้อย่างไร

เสียงธรรมจากพระอ.ไพศาล วิสาโล
บรรยายหลังทำวัตรเช้าที่วัดป่าสุคะโต
ตามลิงค์นี้เข้าไปฟังหรือดาวน์โหลดได้เลย
https://archive.org/details/Visalo2016
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #16029 เมื่อ: 25 สิงหาคม 2559, 20:29:04 »



ท่านอาจารย์ถาวร   โชติชื่น  ได้กรุณาส่งหนังสือมาให้อ่านศึกษา
ขอขอบพระคุณมากครับ

ในบทนำผู้เขียน เชิญชวนให้อ่าน

พี่สิงห์  เลยขอวางจิตให้เป็นกุศล ตั้งใจอ่าน พิจารณาเนื้อหาในหนังสือ  ตามที่อุปติสสะ กล่าวกับพระอัสชิเมื่อได้ฟังธรรมครั้งแรก คือพระอัสชิ สอนธรรมในใจความ ส่วนอุปติสสะ สามารถเข้าใจได้เอง ว่าจริงหรือไม่ในธรรมนั้น

ส่วน จะผิด  จะถูก  นั้น พี่สิงห์  อ่านจบสามารถพิจารณาเองได้

ก็ต้องขอบคุณผู้เขียนที่กล้าเขียน  กล้าเปิดเผย

เพราะส่วนมาก หนังสือที่เขียนในทางธรรมนั้น  ไม่กล้าเปิดเผยความจริงในผลของการปฏิบัติภาวนา

พระที่เขียน ท่านจะเขียนโดยมโน ในความคิดตนเอง หรือไม่ก็ขยายความในพระไตรปิฎก เป็นหลัก

เท่าที่เคยผ่านตามา มีเพียงสามท่านเท่านั้นที่กล้าเปิดเผยผลของการภาวนา

ดังนั้น หนังสือเล่มนี้เป็นอีกเล่มหนึ่งที่ผู้เขียนกล้า ให้อ่าน
พี่สิงห์  ไม่ใช่หนอนหนังสือ  แต่ก็จะอ่าน ตามเจตนาของผู้เขียน อาจารย์อัจฉราวดี   วงศ์สกุล  ที่เขียนจากผลการปฏิบัติธรรมของท่านจนบรนลุธรรม และอาจารย์ถาวร  โชติชื่น  ที่มีเมตตาต่อผม

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #16030 เมื่อ: 25 สิงหาคม 2559, 21:17:32 »

พี่สิงห์ครับ

ในห้องเภสัช จุฬาฯ 2516
เพื่อนไลน์เอาไว้ครับ
พิจารณาก่อนนะครับ

ต่อมลูกหมาก
รู้ไว้ใช่ว่าใส่ใจเรื่อง"ต่อมลูกหมาก"
จากหนังสือ ประสบการณ์ จากภูมิปัญญาชาวบ้าน ในการรักษาโรคภัยไข้เจ็บ
โดย นายศุภกิจ นิมมานนรเทพ
อดีตรองอธิบดีกรมทะเบียนการค้าและอดีตรองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ ...

“เมื่อประมาณเกือบ 10 ปีมาแล้ว ผู้เขียนมีอาการปวดในท่อปัสสาวะมาก ถ่ายปัสสาวะไม่ค่อยออก นอกจาก จะถ่ายออกมาเป็นหยด ๆ แล้ว ภายในท่อปัสสาวะก็ปวดมาก
จึงต้องไปพึ่งหมออีก ก็เป็นหมอเจ้าเก่า คือคุณหมอสุดชาย ปันยารชุน ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ (ในขณะนั้น) ซึ่งเป็นผู้มีเมตตาต่อผู้เขียนเป็นอย่างดี มาช้านาน
คุณหมอได้ตรวจแล้วบอกว่า  เป็นโรคต่อมลูกหมากโต  แต่เป็นในระยะเริ่มต้น  ควร จะผ่าตัดเอาออกเสียเลย ผู้เขียนก็ต่อรองว่าตอนนั้นอีกสองวันจะเข้าพรรษา รอให้เข้าพรรษาแล้ว
จะนัดมา ผ่าตัด ซึ่งทางหมอบอกว่าโรคนี้ยังไม่มียารักษา มีแต่การผ่าตัดอย่างเดียวเท่านั้น
ก่อนที่จะกลับสำนักที่ราชบุรี  ก็ได้โทรศัพท์ไปคุยกับท่านเจ้าคุณพระธรรมปิฎก  ซึ่งเป็นที่เคารพของผู้เขียน ทุกครั้งที่โทร.ไป ท่านก็มักจะถามถึง สุขภาพอยู่เสมอ
ครั้งนี้ก็เช่นกัน พอโทร.ถึงท่าน  ท่านก็ถามถึงสุขภาพก่อนอื่นเหมือนจะรู้ใจ  ก็ได้กราบเรียนท่านว่า ได้มาโรงพยาบาลเพื่อ จะผ่าตัดต่อมลูกหมากโต ท่านก็ได้พูดขึ้นทันทีว่า
"เมื่อสองวันมานี้ คุณโยมยุพนา ธรรมโกวิท ได้บอกวิธีรักษาต่อมลูกหมากโตให้ (โดยไม่ต้องผ่าตัดฯ) โดยใช้ผักบุ้งจีนกับน้ำผึ้งแท้ ท่านถามว่าจะลองดูไหม?  "ผู้เขียนก็ได้ตอบท่านไปโดยไม่ลังเลว่าเต็มใจที่จะลองดู!! เพราะมั่นใจว่า ถึงโรคต่อมลูกหมากโตจะไม่หาย ก็คงจะไม่เป็นอะไร เพราะทั้งผักบุ้งจีนและน้ำผึ้งก็เคยฉัน (กิน) อยู่แล้ว

ผักบุ้งแท้  น้ำผึ้งแท้
ก่อนกลับที่พักจึงได้ซื้อผักบุ้งจีนมาด้วย 1 กิโล โดยแบ่งกินเป็น 3 วัน กินวันละ 1 มื้อก็หมดพอดี  พอมาถึงกุฎิก็เริ่มทำ โดยเอาผักบุ้งจีนไปล้างให้สะอาด แล้วตัดเอารากออก หั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ ใส่กาน้ำต้ม โดยใส่น้ำเพียงเล็กน้อย พอสุกแล้วยกลง ตักออก เอาน้ำผึ้งแท้ใส่ ลงไป 2 ช้อนแกง คนให้เข้ากันดีแล้วก็ฉัน(กิน) จนหมดทั้งเนื้อทั้งน้ำ เหลืออีกสองส่วนก็เอาไว้ฉัน(กิน) ในวันต่อไป
พอตอนเช้ามืดตื่นขึ้นมาปัสสาวะ เอ๊ะ ! รู้สึก ว่าถ่ายปัสสาวะได้คล่องขึ้นอาการปวดแสบในลำกล้องก็น้อยลง ดูน่าจะเข้าท่า!!! ก็เลยทำฉัน(กิน) อีกสองวันก็หายเป็นปกติ เลยสั่งให้เขาซื้อมาอีก 1 กิโล ทำฉัน(กิน) เช่นเดิมอีก 3 วัน ก็หายมาเป็นเวลา 1 ปี  ก็เริ่มมาเป็นอีก ก็ทำฉัน(กิน) อย่างเดิมก็หายอีก จนครั้งที่สามเมื่อ 2 ปีมานี้เริ่มจะเป็นอีก ก็ทำฉัน (กิน) อีกก็หายมาจนบัดนี้ ***
คุณหมอได้กล่าวว่า  ชายที่สูงอายุจะต้องเป็นโรคต่อมลูกหมากโตแทบทุกคน  และในปัจจุบันยารักษาโรคนี้ก็ยังไม่มี มีแต่ยาระงับปวด  ทางหายของโรคนี้จึง มีทางเดียวคือผ่าตัดเอาออกเท่านั่นเอง
ข้อควรอนุสติคือ น้ำผึ้ง จะต้องเป็นน้ำผึ้งแท้ ไม่ใช่น้ำผึ้งมิ้น น้ำผึ้งที่แท้และราคาถูก คือ น้ำผึ้งของโครงการหลวง  มีขายตามโกลเด้น เพลส และร้านค้าทั่วไป”
วันเสาร์และอาทิตย์ ผมจึงแปรการกินอาหารคน เป็น “อาหารเต่า” คือกินผักบุ้งต้มใส่น้ำผึ้งตลอด 2 วัน โดยภรรยาของผมไปซื้อผักบุ้งจีนวันละ 1 กิโลกรัม นำมาล้างให้สะอาด ตัดรากทิ้งไป แล้วหั่นเป็นชิ้น ๆ ยาวราว 1 เซนติเมตร ใส่หม้อต้มโดยมีน้ำสัก 40-50 ซี.ซี. ปิดฝาให้เดือด 2-3 นาที แล้วยกลง ไอร้อนจะอบให้ผักบุ้งซึ่งสุกง่ายอยู่แล้วพากันสุกทั่วถึง แล้วใส่น้ำผึ้งแท้ลงไป 2-3 ช้อนโต๊ะ คน ๆ จนเข้ากันดีแล้ว ผมก็แบ่งมากิน 3 มื้อ เช้า กลางวัน เย็น ทั้งวันเสาร์และวันอาทิตย์
เช้าวันจันทร์ ผมตื่นเช้าเข้าห้องส้วมก็รับรู้อย่างดีใจ ว่า  อาการก๊อกอุดตัน และก๊อกรั่วหยด หายไปอย่างน่ามหัศจรรย์
ผมอาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อยแล้ว รายงานผลของการกินยา พระบอก  ให้ญาติทราบว่า  ยาขนานนี้ดีกว่า ยาผีบอกแน่นอน !!!



      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #16031 เมื่อ: 26 สิงหาคม 2559, 12:00:58 »

ขอบพระคุณมากครับ คุณเหยง

พี่สิงห์  ยังไม่เป็นอะไรเลย ฉี่ปกติ ไม่มีหยด และต่อมลูกหมากยังไม่โต

ปกติรับประทานน้ำผึ้งประจำอยู่แล้ว กับกาแฟ สามารถไปหาผักบุ้งจีนมาต้มกินได้สบาย เพราะทำง่าย  จะลองดูครับ
- ผักบุ้งก็มีประโยชน์  จะขอทำกะบะ ปลูกเองที่บ้าน
- น้ำผึ้งก็มีประโยชน์

ต้องกินแล้วครับ

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #16032 เมื่อ: 26 สิงหาคม 2559, 19:52:58 »

วันนี้ ทำบุญ อยู่วัดพระนอน  สิงห์บุรี

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #16033 เมื่อ: 27 สิงหาคม 2559, 08:49:27 »



สวัสดี ทุกท่านครับ
วันนี้อยู่บ้าน กทม. เช้ามาเดินออกกำลังกายที่สนามกอล์ฟเมืองเอก รังสิต

สวัสดีครับ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #16034 เมื่อ: 27 สิงหาคม 2559, 12:10:54 »

      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #16035 เมื่อ: 27 สิงหาคม 2559, 19:21:11 »



วันนี้ พี่สิงห์  ยอมเสียเงิน 12,500 บาท จ้างคนมาดูแลปลวก ให้อาหารมันกิน มันไม่ไหวแล้ว กินเกือบหมดบ้านแล้ว จนฝ้ามันจะล่วงมาทับเวลานอน และสวดมนต์ ทำวัตรเช้า-เย็น

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #16036 เมื่อ: 27 สิงหาคม 2559, 19:25:55 »



ช่วงนี้ พี่สิงห์  ห่างเหินจาก computer ไม่ได้มีอะไรใหม่ ๆ เลย อาจจะเป็นเพราะเราแก่แล้ว ใช้แต่ประสพการณ์ในการทำงาน โดยยึดหลักในการทำงาน
- ยึดหลักอริยสัจจะ ๔ ในการทำงาน
- ทำดี ต้องได้ดี
- ทุกสิ่งเกิดจากเหตุ-ปัจจัย เราเพียงทำเหตุ-ปัจจัยให้ถูกต้อง ผลมันต้องออกมาดี
- ไม่ทำให้ใครเดือดร้อนเพราะเรา
- มีสติในการทำงาน ไม่หลงอยู่ในความคิด
- สอนคนให้รักษาศีล ๕ ในการทำงาน

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #16037 เมื่อ: 28 สิงหาคม 2559, 05:48:39 »



วันนี้ ทางลูก-หลาน
ได้ทำบุญอุทิศส่วนกุศล ครบ ๑๐๐ วัน ให้กับ
คุณปู่ทวี   บรรจง
ผู้ก่อตั้ง โรงเรียนอินทโมลีประทาน

พี่สิงห์  ไปสิงห์บุรี ร่วมทำบุญให้กับ ปู่ทวี   บรรจง ด้วยครับ

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #16038 เมื่อ: 28 สิงหาคม 2559, 05:53:02 »



ทุกสรรพสิ่งล้วนเกิดขึ้น ด้วยเหตุ-ปัจจัย
และทุกสรรพสิ่งล้วนดับไป เมื่อเหตุ-ปัจจัย ไม่มี

ทำดี  ต้องได้ดี
เมื่อเราทำเหตุ-ปัจจัย ดี ถูกต้อง  ผล ย่อมดีเสมอ

วันนี้เช้า ได้หุงข้าวเตรียมใส่บาตรพระที่หน้าบ้าน ในเวลา 07:00 น. ก่อนเดินทางไปสิงห์บุรี

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #16039 เมื่อ: 28 สิงหาคม 2559, 18:42:47 »



วันนี้ ทำบุญครบ ๑๐๐ วัน คุณปู่ทวี   บรรจง
ที่โรงเรียนอินทโมลีประทาน สิงห์บุรี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #16040 เมื่อ: 28 สิงหาคม 2559, 18:44:21 »



หลังจากทำบุญเสร็จ ก็ไปลอยอังคาร ที่กลางแม่น้ำเจ้าพระยา หน้าวัด

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #16041 เมื่อ: 29 สิงหาคม 2559, 05:26:16 »



โปร..เอริยา  จุฑานุการ



โปร.เมย์  ที่ต้องตัวจากริโอเกมส์ เพราะบาดเจ็บ แต่มาคว้าแช้มป์ Canadian Open ที่ถือว่าเป็นรายการ Major ที่ ๕ ได้ และเป็นแช้มป์ ที่ ๕ ในปีนี้ อีกด้วย ใกล้ตำแหน่งมือหนึ่งของโลกเข้าไปแล้ว
ปลายปี ถ้าคว้าแช้มป์เพิ่ม คงขยับเป็นมือหนึ่ง LPGA ครับ

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #16042 เมื่อ: 29 สิงหาคม 2559, 08:55:01 »



การรู้ทันความคิดนั่นแหละคือตัวปฏิบัติ คือเครื่องมือในการทำอริยมรรคให้เป็นหนึ่งเดียวคือการทำสติปัฏฐาน
แต่การที่จะรู้ทันความคิดและไม่เข้าไปในความคิดต้องมีความรู้สึกตัวที่ฐานกายเป็นอย่างดี เป็นเบื้องต้น
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #16043 เมื่อ: 30 สิงหาคม 2559, 09:54:29 »



เจริญสติในชีวิตประจำวันแบบง่ายๆ

การเจริญสตินี้ ต้องทำมากๆ ทำบ่อยๆ นั่งทำก็ได้ นอนทำก็ได้ ขึ้นรถลงเรือทำได้ทั้งนั้น เวลาเรานั่งรถเมล์ นั่งรถยนต์ก็ตาม เราเอามือวางไว้บนขา พลิกขึ้นคว่ำลงก็ได้ หรือเราไม่อยากพลิกขึ้นคว่ำลง เราเพียงเอานิ้วมือสัมผัสนิ้วอย่างนี้ก็ได้ สัมผัสอย่างนี้ให้มีความตื่นตัว ทำช้าๆ หรือจะกำมือเหยียดมืออย่างนี้ก็ได้ ไปไหนมาไหนทำเล่นๆ ไป ทำมือเดียว อย่าทำพร้อมกันสองมือ ทำมือขวา มือซ้ายไม่ต้องทำ ทำมือซ้าย มือขวาไม่ต้องทำ
เราทำการทำงานอะไรให้มีความรู้สึกตัว เช่น เราเป็นครูสอนหนังสือ เวลาเราจับดินสอเอามาเขียนหนังสือ เรามีความรู้สึกตัว เขียนหนังสือไปแล้วเราก็รู้ อันนี้เป็นการเจริญสติแบบธรรมดาๆ เป็นการศึกษาธรรมะกับธรรมชาติ เวลาเราทานอาหาร เราเอาช้อนเราไปตักเอาข้าวเข้ามาในปากเรา เรามีความรู้สึกตัว ในขณะที่เราเคี้ยวข้าว เรามีความรู้สึกตัวว่ากลืนข้าวเข้าไปในลำคอไปในท้อง เรามีความรู้สึกตัว อันนี้เป็นการเจริญสติ
คำว่า "ให้ทำอยู่ตลอดเวลานั้น" (คือ) เราทำความรู้สึกตัว ซักผ้า ถูบ้าน กวาดบ้าน ล้างถ้วยล้างจาน เขียนหนังสือหรือซื้อขายก็ได้ เพียงเรามีความรู้สึกเท่านั้น แต่ความรู้สึกอันนี้แหละมันจะสะสมเอาไว้ทีละเล็กละน้อย เหมือนกับเราที่มีขันหรือมีโอ่งน้ำ ฝนตกลงมา ตกทีละนิด ทีละนิด เม็ดฝนน้อยๆ ตกลงนานๆ แต่มันเก็บได้ดี น้ำก็เลยเต็มโอ่งเต็มขันขึ้นมา
อันนี้ก็เหมือนกัน เราทำความรู้สึก ยกเท้าไปยกเท้ามา ยกมือไปยกมือมา เรานอนกำมือ เหยียดมือ ทำอยู่อย่างนั้น หลับแล้วก็แล้วไป เมื่อตื่นนอนขึ้นมาเราก็ทำไป เรียกว่าทำบ่อยๆ อันนี้เรียกว่า เป็นการเจริญสติ
จากหนังสือคู่มือการทำความรู้สึกตัว
หลวงพ่อเทียน จิตตสุโภ (พันธ์ อินทผิว)
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #16044 เมื่อ: 31 สิงหาคม 2559, 20:01:38 »



สวัสดี ทุกท่านครับ

วันนี้ พี่สิงห์ ทำงานที่โรงงานบ้านแพ้ว สมุทรสาคร บ.เอเซีย 1999 จำกัด

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #16045 เมื่อ: 01 กันยายน 2559, 12:32:21 »



วันนี้ วันพระแรม ๑๔ ค่ำเดือน ๙
พี่สิงห์ ทำบุญ รักษาอุโบสถย์ศีล อยู่วัดพระนอน
ปีนี้ พี่สิงห์ เป็นประธานทอดกฐินสามัคคี วันเสาร์ที่ ๑๒ พฤศจิกายน ณ วัดพระนอน ตำบลทับยา อำเภออินทร์บุรี  จังหวัดสิงห์บุรี เวลาเพล

เรียนเชิญทุกท่านครับ

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #16046 เมื่อ: 02 กันยายน 2559, 05:41:25 »



โรงเรียนพระปริยัติธรรม

วัดพระนอน มีโรงเรียนทางด้านธรรม และสายสามัญ
สำหรับโรงเรียนทางธรรมนั้น มีคนท้องที่ ๑ องค์ เรียนหนังสือ นอกนั้นเป็นคนต่างถิ่นคืออิสาน และชาวเขาภาคเหนือ มาบวชเณรเพื่อเรียนหนังสือ

ช่วงเทศกาลเข้าพรรษา ทุกวันพระจะให้เณรหัดเทศน์ช่วงบ่าย และเทศน์มหาชาติ เพราะพระมีเพียง ๗ องค์ แต่มีเณร ๓๐ กว่าองค์

อาหารนั้นทางราชการมีงบให้วันละ ๕๐๐ กว่าบาท ที่เหลือชาวบ้านต้องใส่บาตร แต่มีเหลือเฟือ

เณรส่วนใหญ่ชอบ ผัดกระเพา และไข่เจียว

สวัสดีครับ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #16047 เมื่อ: 02 กันยายน 2559, 05:53:45 »



น้ำตาชาวนาลำแม่ลา การ้อง ดอนแฝก ปากแรด และ...

ปีนี้ฝนแล้ง นาไม่มีน้ำมายาวนาน ทำให้การหว่านข้าวนาปีล่าช้ากว่ากำหนด เมื่อชาวนาหว่านข้าว เสร็จต้นข้าวยังโยไม่เกินคืบ ฝนมา เพราะมอรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ติดต่อกันผลคือ น้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยามีมากเกินไปต้องระบายทิ้ง

ประวัติศาสตร์ น้ำท้วมใหญ่ครั้งที่ผ่านมาเกิดจากการระบายน้ำผิด คือชะลอน้ำอยู่ในแม่น้ำ ผลคือน้ำท้วมวินาศสันตะโร ดังที่ทราบกันมา เพราะกรมชลประทานไม่ระบยเข้าทุ่ง

แต่ปีนี้กรมชลประทานกลัวหัวขาดจาก คสช. จึงระบายน้ำลงแม่น้ำเจ้าพระยาน้อย เพื่อป้องกันน้ำท้วม

กรมชลประทานจึงระบายน้ำ ออกทางทุ่งตะวะนตก ทุ่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยาสู่นาข้าว จำนวนมาก และเร็วเกินไป ผลคือต้นข้าว ที่กำลังงอก จมน้ำสนิท ไม่มีเหลือ และไม่มีใครโทษกรมชลประทาน

แต่น้ำตาชาวนาแก่ ๆ ที่ต้นข้าวเสียหายจะไปร้องเรียนกับใคร เพราะเท่ากับสูญเสียทั้งหมด รัฐบาลท่านก็ไม่ได้ช่วย  ไม่รู้เรื่องนี้ กลับสรรเสริญกรมชลประทาน ที่สามารถบริหารจัดการไม่ให้น้ำท้วม กทม.-อยุธยาได้

แต่ชาวนา ข้าวจมน้ำตาย และต้องอดตายเพราะไม่มีรายได้จากข้าว ถ้าน้ำลดต้องหว่านข้าวใหม่ เอาเงินที่ไหนไปซื้อข้าวปลูกล่ะ คราวนี้

จริง ๆ ถ้ากรมชลประทาน คสช. ไม่กลัวจนหัวหด มันค่อย ๆ เป็น ค่อย ๆไปในการระบายน้ำได้ ไม่ใช่ปล่อยลงท้องนาแบบนี้ทำให้ต้นข้าวตาย เพราะปีนี้พายุยังไม่มา ยังมีเวลาระบายน้ำ น้ำไม่มีทางท้วม กทม.

แต่เพราะความหลงอยู่ในความคิดตนเอง ไม่มองให้รอบครอบ น้ำเหนือนิดหน่อยเอง แต่ชาวนา  น้ำตาตก เพราะข้าวน้ำท้วมหมด

ใครทำกรรมเอาไว้  ย่อมได้ผลกรรมนั้นเสมอ

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #16048 เมื่อ: 02 กันยายน 2559, 06:44:21 »



นี่คือภาพเมื่อวันที่ ๒๘ สิงหาคม
และเมื่อวานนี้ ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มขึ้นประมาณ 1.00-2.00 ม. ยังเหลืออีกมากกว่าห้าเมตร ที่สิงห์บุรี  กรมชลประทานสามารถ ระบายน้ำลงแม่น้ำเจ้าพระยาได้ ค่อยๆ ระบาย เพราะ ยังไม่มีพายุพัดผ่านประเทศไทยตอนบน มีเพียงมรสุม เท่านั้น เวลายังมี

แต่ชาวนาสิงห์บุรี เพิ่งหว่านข้าว กรมชลประทานระบายน้ำลง ท้องทุ่งนาทั้งสองฝั่งไปมาก รวดเร็ว ผลคือข้าวจมน้ำหมดเลย  ใครจะรับผิดชอบ  ชาวนามีแต่น้ำตา ต้องรับกรรม ที่ผู้อื่นจงใจให้น้ำท้วมนาของท่าน

มันสามารถจะบริหารจัดการได้ดีกว่านี้ ถ้าท่านผู้มีอำนาจ ไม่หลงอยู่ในความคิดตนเอง ไม่อยู่กับความถูกต้อง เป็นจริง

ผมยังยืนยันกรรมจะตามสนอง

สวัสดี

ตอนอยากให้ปล่อยน้ำลงทุ่งนาทั้งสองฝั่ง ท่านก็ไม่ปล่อยลงไป ผลน้ำท้วมวินาศสันตะโร

เวลานี้ยังไม่สมควรปล่อยน้ำลงทุ่ง  ท่านก็กลัวจนหัวหด รีบปล่อยลงทุ่ง ผลชาวนาน้ำตาตก ต้นข้าวจมน้ำ

กรรมจริง ๆ ชาวนาไทย คนไทย
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #16049 เมื่อ: 02 กันยายน 2559, 07:42:59 »



วันนี้ เดินทางไปทำงานที่ นครศรีธรรมราช ครับ

สำหรับที่ราบลุ่มอยุธยานั้น ส ยโบราญ กองทัพพม่ายังรู้เลยว่า หน้าน้ำหลากท้วมแน่นอน  แต่เรากลับฝืนธรรมชาติ เอาโรงงานอุตสาหกรรมไปอยู่ โดยถมดินให้สูง ทำถนนปิดกั้นทางระบายน้ำ  ผลคืน ฝนตกน้อยน้ำก็ท้วมอยุธยา เพราะมันระบายไปไหนไม่ได้มีแต่ทางตัน น้ำมันก็ท้วม

ประวัติศาสตร์ ธรรมชาติ เราต้องเอามาเป็นบทเรียนที่ดี
กองทัพพม่ายังรู้  แต่ทำไมคนไทยแกล้งทำเป็นไม่รู้

ดารแก้ปัญหาระยะยาว คือขุดแม่น้ำเจ้าพระยาสายสองจากสิงห์บุรี อำเภอพรหมใหม่  น้ำจะไม่ทเวม เพราะ แม่น้ำเจ้าพระยาเลยอ่างทองลงไปถึงตัวเมืองอยุธยา แม่น้ำเจ้าพระยามันแคบ อย่างไรน้ำก็ต้องท้วม นี่คือธรรมชาติที่ต้องรู้

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
  หน้า: 1 ... 640 641 [642] 643 644 ... 681   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

สมาคมนิสิตเก่าหอพักนิสิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มวลสมาชิกสมาคม คณาจารย์ และนิสิตเก่าทุกคน ขอน้อมเกล้าถวายความอาลัย  พระผู้เสด็จสู่สวรรคาลัย ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ <;))))><