คุย กับ คุณมานพ กลับดี อดีตประธานชมรม ๓ สมัย

[Manop Klabdee]

สัตว์แพทย์โต้ง  ซีมะโด่ง 2524

ป่วยทุกโรค ที่เป็นโรคเรื้อรัง กำลังรอความเมตตาจากชาวซีมะโด่ง ทุกท่าน ที่ไม่ทิ้งกัน

สตพ.โต้ง  ตัวคนเดียว ไม่มีลูกเมีย เคยอยู่อย่างประมาท ในการกิน สังสรรค์กับเพื่อนฝูง  เป็นผู้มีน้ำใจดีกับชาวซีมะโด่ง เสมอมา จึงเป็นที่รักใคร่ของรุ่น 2524

แต่ตอนนี้ ต้องได้รับการผ่าตัดฝหญ่ ใช้เงินประมาณ 700,000 บาท  ตอนนี้เพื่อนฝูง ผู้ใจบุญ ก็ได้เมตตาบริจาคให้จำนวนมาก

ซีมะโด่ง 2513 โดย ดร.สุริยา  ก็ได้บอกบุญเพื่อนฝูง คงได้จำนวนหนึ่ง สองหมื่นกว่าบาท

ชาวซีมะโด่ง ท่านใดมีจิตเมตตา  รวบรวมกันในรุ่น มอบให้ผู้ป่วยเป็นค่ารักษา ผ่าตัดในครั้งนี้ ก็ขอเรียนเชิญ ครับ

ตอนนี้ สตพ.โต้ง  ได้รับการดูแล  จากเพื่อนซีมะโด่ง 2524 ที่ไม่ทิ้งกัน

ขอบคุณมากครับ

สวัสดี

[Manop Klabdee]

สวัสดี ทุกท่านครับ
วันนี้ เดินทางไปทำงานที่นครศรีธรรมราช และวันศุกร์บ่าย มีสอนหนังสือให้นักศึกษา ม.วลัยลักษณ์  วิศวกรรมโยธา  วันนี้สอนการออกแบบ ครับ

ชีวิต มันต้องมีอะไรทำบ้าง ขอเลือกสิ่งที่เป็นประโยชน์ ที่เราทำได้ คือการสอนหนังสือ

สวัสดี

[Manop Klabdee]

สวัสดี ทุกท่านครับ

วันนี้วันเสาร์ เมื่อเช้าไปออกกำลังกายเดินตีกอล์ฟ มาครับ
ฤดูนี้เป็นฤดูฝน เป็นฤดูเพาะปลูกข้าวของชาวชนบท ชาวนา ฝนตก น้ำท้วมเราอย่าไปกลัวมันเลย ฝนมาความอุดมสมบูรณ์ของดิน มันก็มา ทุกชีวิตต้องการน้ำ

ในภาพฝนตกที่ป่าภูหลง  วัดป่ามหาวัน ที่ปีนี้แล้งมากจนไฟเผาป่าเสียสิ้น  

หลวงพ่อพระไพศาล  เลยต้องระดมกำลังช่วยกันปลูกป่า  ปลูกถั่ว กันขึ้นมาใหม่ เพราะป่าภูหลงเป็นต้นน้ำลำปะทาว  ชัยภูมิ ครับ

สวัสดี

[Manop Klabdee]

อาหารเพลวันนี้ ราเม็งต้มยำกุ้ง

วันก่อน เห็นในทีวีมีร้านราเม็งอาหารทะเล ประกอบกับน้ำซุ๊ปที่เขาเอาใส่ซองมานั้น รสชาติแบบญี่ปุ่น และเค็ม ไม่ดีต่อสุขภาพ เพราะเกลือคือศัตรูของของโรคความดันโลหิต

หลานสาว"แพรว"  เอาราเม็งมาให้จากญี่ปุ่น ก็เลยไปสั่งต้มยำกุ้งน้ำข้น และพอเดือดก็ให้เขาเอาเส้นราเม็งใส่ลงไปจนสุก แล้วเอามารับประทาน

บอกได้เลย อร่อยครับ ราเม็งต้มยำกุ้ง

สวัสดี

[Manop Klabdee]

สวัสดี ทุกท่านครับ

เช้าวันนี้ พี่สิงห์ มาเดินออกกำลังกายตีกอล์ฟ ที่สนามเมืองเอก เป็นสิ่งจำเป็น เพราะขีวิตเรามีเวลาน้อย ที่ต้องเจ็บ ต้องแก่  ต้องตาย  การได้เดินอย่างต่อเนื่อง อากาศยามเข้า และแสงแดดอ่อน ๆ จำเป็นต่อร่างกายครับ

แปดโมงครึ่งก็ตีเสร็จแล้ว 18 หลุม สบาย ๆ

ตีกอล์ฟไป  ก็พยายามมีสติในการเดิน การเคลื่อนไหวร่างกายไป  ตัวชี้วัดคือ ไม่คิด นั่นเอง หรือไม่ปล่อยจิตออกนอก(กาย เวทนา จิต ธรรม) และถ้าจะคิดต้วคิดแบบสัมมาทิฐิ ครับ

สวัสดี

[Manop Klabdee]

นักปฏิบัติธรรม ทุกท่านเมื่อถึงจุด ๆ หนึ่งไม่ต้องเชื่อใคร เพราะสามารถเห็นความจริงด้วยปัญญาตนเอง !

คำสอนที่หลวงพ่อคำเขียน  สุวัณโณ  ท่านสอนมานั้น มันเป็นความจริงเสมอ เพราะสามารถรู้ความจริงในธรรม

แต่มีคำถามที่คนถาม กรณีของวัดพระธรรมกาย จัดการภาวนา ไปในทางที่สมควร หรือ?

ความจริงก็คือ นักปฏิบัติธรรม เหล่านั้น ท่านยังไปไม่ถึงจุดนั้นต่างหาก  จึงไม่สามารถแยกแยะ กุศล  อกุศล ได้ และไปไม่ถึงไหนในธรรม นั่นเอง

สวัสดี

[Manop Klabdee]

อรุณสวัสดิ์ ทุกท่านครับ

การสร้างความรุ้สึกตัว หรือสติ ให้เกิดขึ้นที่กาย ที่เป็นกรรมฐานใหญ่ที่เราสามารถเอาจิตไปเกาะให้แน่นหนาเป็นฐานได้นั้น เป็นสิ่งจำเป็น
เพราะจะทำให้เรา รู้ความคิด รู้พฤติกรรมของจิต และพัฒนาเป็นการเห็นความคิด เห็นสภาวธรรมที่เกิดขึ้นทางทวารทั้งหก อันได้แก่ทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ที่เรียกว่าเจตสิก มาย้อมใจให้หลง ให้ไหล ไปกับมัน

ท่านต้องหมั่นฝึกสร้างความรู้สึกตัว หรือสติให้มาก ๆ สติมันจะเจริญขึ้น ๆ เหมือนต้นไม้ที่ท่านปลูกมีการรดน้ำ พรวนดิน ใส่ปุ๋ย ทุกวันฉันใด สติมันก็เจริญขึ้นทุกวันเช่นกัน ถ้าท่านฝึกมันทุกวัน ทุกเวลา เช่นกัน

เมื่อท่านรู้ความจริง ในรูป-นาม แล้ว ท่านจะมีธรรม เกิดขึ้นเอง เห็นว่าทุกสิ่งเกิดขึ้นเป็นธรรมดา และก็ดับไปเป็นธรรมดา เช่นนั้นเอง

สวัสดี

[Manop Klabdee]

อรุณสวัสดิ์ ทุกท่านครับ

อย่าลืม!
การภาวนาแต่ละครั้ง ท่านต้องภาวนาใช้เวลาให้นานพอ มันจะฟุ้ง  มันจะคิด ก็ปล่อยมันไป ประเดียวจิตมันก็สงบ จนตั้งเป็นสมาธิได้ ละนิวรณ์ 5 ได้ ทำฌาณที่ ๑ ๒ ๓ ๔ ดำรงค์จิตให้เป็นเอกคตาจิตได้


ท่านต้องเอาชนะจิตท่านให้ได้  ต้องไม่ไปบังคับจิต เพราะท่านบังคับจิต บังคับความคิดท่านไม่ได้ เมื่อจิตท่สนอยู่ที่กรรมฐานกาย จิตมีที่เกาะ ท่านจะรู้ความคิด เห็นความคิด มันเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ก็ดับไป ตลอดเวลา ของมันเป็นปกติ ท่านทำเพียง ปล่อยมันไป ไม่ไปยินดี ไม่ไปยินร้ายกับมัน  ดำรงค์จิตเป็นผู้ดู เท่านั้น

วันนี้ได้หุงข้าวใส่บาตรพระที่หน้าบ้าน ก่อนออกเดินทางไปทำงานที่ภูเก็ต ที่ บ.ฉลองคอนกรีต โรงงานโคกกลอย  พังงา ครับ

สวัสดี

[Manop Klabdee]

ถึงจะอยู่ริมป่าภูหลง แต่ก็สุขใจ ครอบครัวมีสุข ได้ใส่บาตร หลวงปู่พระไพศาล

ความสุข อยู่ที่ใจ ไม่ใช่การมีทรัพย์สิน เงินทองมาก ๆ จึงจะสุขได้

เห็นคนรวยมีแต่ทุกข์

สวัสดี

[Manop Klabdee]

หลวงพ่อเทียน  จิตตฺสุโภ
พระสุปฏิปัณโณ ที่สอนกรรมฐานตามแนวทางเคลื่อนไหวสร้างความรู้สึกตัว ด้วยมือ

อรุณสวัสดิ์ ทุกท่านครับ
นักภาวนา จะไม่ปล่อยให้จิตฟุ้งซ่านคิด หวัง ปล่อยอารมณ์ไปในอนาคต ถึงจะรู้ว่าคิดคือรู้สึกตัว มีสติ ในการคิด ก็ตาม เพราะการคิดนั้นเป็นทิฐิ

ถ้าจะปล่อยจิตให้คิด ต้องคิดในทางสัมมาทิฐิ คือคิดในทางธรรม เห็นจริงในธรรม หรือยกธรรมของพระพุทธองค์มาพิจารณาให้เห็นความจริงในธรรม นั้น หรือคิดในทางสร้สงสรรค์ การทำงาน เป็นประโยชน์ เป็นกุศล

การคิดเป็นกุศล คือคิดแบบไม่ผิดศีลทางกาย ทางวาจา ทางใจ(ทางใจนั้นลำบากมากเพราะ คุมความคิดตนเองไม่ได้)

อย่าลืมว่า โจร ขโมย เขาก็รู้สึกตัวเวลากระทำผิด  แต่เพราะการกระทำนั้น จิตเป็นทิฐิ  จึงไม่ใช่สติหรือความรู้สึกตัวในการภาวนา เพราะไม่เป็นไปในทางมรรคมีองค์ ๘

สวัสดี

[Manop Klabdee]

มันก็เป็นความจริง
เพราะคนหลงอยู่ในความคิดตนเอง
แต่พอรู้สึกตัว(มีสติ)กลับมา มันก็ออกจากความคิด คือไม่คิด เมื่อไม่คิดก็ปล่อยวาง มันเป็นเรื่อง ธรรมดา ๆ ที่เกิดขึ้นนั่นเอง เพียงแต่ มีสติไม่มากก็กลับหลงไปกับความคิดอีก

ดังนั้นต้องภาวนา รู้สึกตัวให้มาก ๆ ตลอดเวลา จิตนั้นฝึกได้แน่นอนครับ จงฝึกมีสติหรือความรู้สึกตัว แล้วท่านจะแล่อยวาง ลงได้ เพราะหลุดออกมาจากความคิดตนเอง เป็นผู้ดู

สวัสดี

[Manop Klabdee]

..ถ้าผู้ใดเข้าใจว่าสมาธิ เราทำได้ตลอดเวลา ทุกลมหายใจ ผู้นั้นเข้าใจถูก สมาธิ คือ การกำหนดสติรู้อยู่ในชีวิตประจำวัน ในปัจจุบันตลอดเวลา เมื่อเรามีสติรู้อยู่ตลอดเวลาว่าเราทำอะไร มันไม่ใช่ความประมาท..

หลวงพ่อพุธ ฐานิโย


สติ คือความระลึกได้
สมาธิ คือการตั้งมั่นอยู่ในอารมณ์เดียว

ดังนั้นเราต้งภาวนาจนให้มีสติตลอดเวลา และต้องทำสติเจริญให้เป็นสมาธิ ละนิวรณ์ ๕ ได้ อยู่ในฌาณ ๑ ๒ ๓ และ ๔

สมาธิคือการทำสติให้อยู่ในอารมณ์เดียว คือ ฌาณ ที่ ๑ ๒ ๓ ๔ นั่นเอง

สวัสดี

[Manop Klabdee]

[Manop Klabdee]

อรุณสวัสดิ์ ทุกท่านครับ

อย่าลืม เช้ามืด เป็นช่วงเวลาอมฤติกาล ที่เหมาะแก่การภาวนา เจริฐสติ ยิ่ง

เพราะร่างกายได้พักจากการนอน และการนอนแบบมีสติ(นอนแบบไม่ฝัน หลับสนิท) เมื่อตื่น ล้างหน้าให้สดชื่น ภาวนา จิตจะละนิวรณ์ ๕ ได้เร็ว ทำฌาณ ให้เกิดขึ้นได้

สวัสดี

[Manop Klabdee]

ม้ามืดคือทีม โครเอเชีย

[Manop Klabdee]

สวัสดี ทุกท่านครับ

วันนี้ ไปทำงานที่โรงงานบ้านแพ้ว สมุทรสาคร

พรุ่งนี้ ต้องไปทำงานที่นครศรีธรรมราช

ชีวิตมันก็แบบนี้ เรายังต้องอยู่ นับวันต่อวัน เพราะอนาคตเราไม่ทราบ

ก็ทำกิจของเราไป มีหน้าที่อะไรก็ทำไป แต่ต้องเป็นประโยชน์ เป็นกุศล ไม่ทำให้ใครเดือดร้อน

ราตรีสวัสดิ์ครับ

[Manop Klabdee]

โรงสีข้าวเล็ก ๆ ของพ่อแก้ว-แม่อิม  กลับดี  ที่ท่านทำงานเลี้ยงดูลูกๆ จากเรือเอี้ยมจุ้น ที่มีบ้านเป็นเรือ เพราะกลัวลูกจะไม่ได้เรัยนหนังสือ เลยขายเรือ ขึ้นบก หาอาชีพใหม่

เดือนหน้าเข้าพรรษา ตั้งใจอยู่วัดพระนอน ทุกวันพระ ตลอดพรรษา และปีนี้ จะเป็นเจ้าภาพทอดกฐินที่วัดพระนอน คงเป็นเจ้าภาพกฐิน วัดสุดท้าย เพราะจะเลิกทำงาน ไม่มีรายได้อีกแล้ว ก็งดเป็นเจ้าทอดกฐิน คงพอแล้ว

ปีนี้ ใครมีจิตศรัทธา  จะร่วมทำบุญทอดกฐินกับพี่สิงห์  เรียนเชิญครับ ทอดที่วัดพระนอน  ตำบลทับยา อำเภออินทร์บุรี  จังหวัดสิงห์บุรี

กราบขอบพระคุณทุกท่านครับ

สวัสดี

[Manop Klabdee]

โรงสีข้าวโรงนี้พ่อทำเอง ลักจำมาจากทางบางกอก สมัยที่พ่อมีอาชีพเดินเรือในลำแม่น้ำเจ้าพระยา บรรทุกกรวดไปขาย รับจ้างบรรทุกข้าวสารไปขาย ใช้วิธีแจวหัวท้าย-ถ่อค้ำชายตลิ่ง ในการเดินเรือ จึงใช้เวลานานมากในการเดินทางจากสิงห์บุรี-บางกอก เพราะไม่มีนาทำ จึงต้องยึดอาชีพเดินเรือ

เมื่อพ่อขึ้นบก ก็ทำโรงสีเล็กริมแม่น้ำเจ้าพระยาใต้วัดพระนอน ทำเลดีมากสมัยนั้น  แต่ปัจจุบันเป็นที่ตาบอด หมดยุคเสียแล้ว  โชคดีที่พ่อมีปัญญาดี เมื่อทางการคิดทำถนน จึงย้ายโรงสี มาให้ติดถนน ยังจำภาพได้ตอนที่พ่อ-แม่ มาขอซื้อที่ได้พาเรามาด้วย ประมาณ ป.๑

มองย้อนไปจะพบว่า คนในแต่ละยุคนั้น ธรรมชาติมันสร้างของมันมาให้อยู่ได้เอาตัวรอด มีอาชีพ อยู่ในแต่ละช่วง ต่างคนต่างก็ต้องสร้างอาชีพของตน เรียกว่ายุคใครยุคมัน ใชนช่วงชีวิตที่เกิดมาเป็นมนุษย์

กรณีมนุษย์มีอายุมากกว่านี้อยู่ยาก
จงสำนึกว่าเราเมื่อเกิดมาแล้ว ยังต้องแก่ ต้องเจ็บ และตายจากไป  จงทำความดีให้คนระลึกถึง เถิด

สวัสดี

[Manop Klabdee]

ยังจำได้ เช้าวันหนึ่ง คงเรียนอยู่ระดับ ม.ศ.๑ ปกติเช้าพ่อจะเปิดวิทยุสถานีประเทศไทยฟังเสมอเพื่อให้เรื่องของรัฐบาล

หลังข่าวภาคเช้า ทางผู้ประกาศแจ้งว่า ได้มีข้อเสนอแนะถามรัฐบาล ผ่านทางกรมประชาสัมพันธ์ คือนายแก้ว  กลับดี  จากสิงห์บุรี  ได้ถามรัฐบาลว่า ในหน้าแล้ง แม่น้ำเจ้าพระยาตื่นเขินไม่มีน้ำ เดินเรือไม่ได้ ไม่มีน้ำเพาะปลูกพืช  ในหน้าน้ำ น้ำมากเกินไป ท้วมบ้านและต้องปล่อยน้ำทิ้ง  จึงขอเสนอให้รัฐบาลสร้างเขื่อนในแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นช่วง ๆ ที่สิงห์บุรี และปลายอ่างทอง แม่น้ำเจ้าพระยาจะได้มีน้ำใช้ตลอดทั้งปี  ดีกว่าจะปล่อยน้ำทิ้งในหน้าน้ำหลาก

ทางรัฐบาล ได้ตอบขอบคุณในการแสดงความคิดเห็นครั้งนี้ ดีมาก ๆ ที่รัฐบาล(จอมพล...)อยากจะทำให้  แต่รัฐบาลยังไม่มีงบประมาณ

จนถึงบัดนี้ เกือบเท่าอายุของผม ก็ยังไม่มีการสร้างเขื่อน ในแม่น้ำเจ้าพระยา ผลคือ

-หน้าแล้ง ไม่มีน้ำใช้ รวมทั้งกทม. ด้วย
-หน้าน้ำหลาก น้ำท้วม

สมควรที่จะต้องมีเขื่อนสักสองแห้ง ตามความคิดของพ่อ คือที่อำเภอพรหมบุรี  สิงห์บุรี เพราะแม่น้ำกว้างมาก จะช่วยทำให้มีน้ำใช้ตลอดปี  ดีกว่าปล่อยทิ้งทะเล น้ำท้วม ที่อยุธยา เงเช่นทุกปีที่ผ่านมา

สวัสดี

[Manop Klabdee]

เริ่มต้น ด้วยผู้นำร่วม!

[Manop Klabdee]

ฝั่ง LPGA เริ่มต้นไม่เลว โปร.หญิงของประเทศไทย รายการนี้

[Manop Klabdee]

ธรรมชาติของมนุษย์ ในช่วงอายุคนนั้น ต่างกัน ยุคใครยุคมัน มันไม่เที่ยงเปลี่ยนแปลงเป็นธรรมดาของมัน

พี่ป้าน้าอาในภาพ ถ้าท่านยังมีชิตวิตอยู่ ท่านก็คงอยู่ลำบาก เพราะในยุคของท่าน ไม่ใช้เงิน  เงินไม่เป็นใหญ่ ท่านเลี้ยงครอบครัวของท่านแบบพอเพียง ครอบครัวอบอุ่น ท่านิยู่ของท่านแบบธรรมชาติ ไม่ใช้เงิน เพราะเงินหายาก ท่านปลูกผัก ทำนา ทำพอกินแล้วแต่ครอบครัวใหญ่ หรือไม่

ทุกท่านช่วยกันแบกไตร หวังเกาะผ้าเหลือง ตามความเชื่อในสมัยนั้น ในการบวชลูก-หลาน

ย่ารอดท่านตาบอด ไม่แต่งงาน เป็นคนทำคลอด(หมอตำแย) ท่านก็เดินถือผ้าไตรวนรอบโบสถ์ และร่วมพิธีบวช

เมื่อเห็นภาพนี้แล้ว ทำให้มีกำลังใจที่จะอยู่ในธรรม ภาวนาให้มาก เพือ่อานิสสง  จะได้ถึงพวกท่านด้วย ย่ารอด

ราตรีสวีสดิ์ ทุกท่านครับ

[Manop Klabdee]

อุเบกขาแบบสัมมาทิฐิ ไม่ใช่ อุเบกขาแบบทิฐิ

อุเบกขา คือการปล่อยวาง
แต่ต้องปล่อยวางแบบมรรคมีองค์ ๘ หรือ ปล่อยวางแบบสัมมาทิฐิ
ต้องวางจิตไม่ให้ปรุงแต่งต่อเมื่อผัสสะทางอายตนะ คือ ไม่ยินดี และไม่ยินร้าย หยุดเพียงแค่การรู้แจ้งเท่านั้น นั่นเอง

อุเบกขาแบบสัมมาทิฐิ คือ มีความดำริที่จะวางจิตของตนเอง ไม่ปรุงแต่ง(คิด)ชอบ หรือไม่ชอบ เมื่ออายตนะภายใน ผัสสะอายตนะภายนอก เกิดวิญญาณ หยุดเพียงนั้น พูดให้ง่ายขึ้นแบบชาวบ้านคือไม่ยินดี ไม่ชอบในรูป สียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ และธัมมารมณ์ นั่นเอง อยู่แบบธรรมชาติที่ต้องเป็นไปตามกาล ปกติในการดำรงชีวิต หรือ
อุเบกขาที่จิตประกอบไปด้วยกุศล ทำกุศลให้ยิ่ง ๆ ขึ้นไป คือคิดดี ไม่ทำให้ใครเดือดร้อน แม้ตนเอง หรือ คิดดีไปในทางไม่ผิดศีล ไม่ผิดธรรม นั่นเอง

ส่วนอุเบกขาทิฐิ นั่นมีนัยยะตรงกันข้ามกับ อุเบกขาสัมมาทิฐิ หรือจะเรียกว่า อุเบกขาควาย ตามหลวงพ่อชา  ท่านกล่าวเอาไว้ก็ถูกต้อง แล

อรุณสวัสดิ์ ทุกท่านครับ

[Manop Klabdee]

อาหารเช้าวันนี้ ที่โรงแรมทวินโลตัส นครศรีธรรมราช ครับ

[Manop Klabdee]

ศักยภาพ โปร.หญิงไทย ใน LPGA ยังดีครับ
รายการนี้มีลุ้น ถ้าะรุ่งนี้ทำ -5 สำหรับ โปร.โมริยา

สวัสดี