คุย กับ คุณมานพ กลับดี อดีตประธานชมรม ๓ สมัย

[Manop Klabdee]

วันหนึ่ง ๆ พระ-เณร ท่านเทศน์โปรดญาติ โยม ๓ กัณฑ์ ทำให้เณรท่านมีปัจจัยเอาไว้เรียนหนังสือ

สวัสดีครับ คุณเหยง

นึกว่าต้นฤดูพายุ

ถ้าเป็นดังนี้ ปีหน้า วุ่นวายแน่นอน ที่จะไม่มีน้ำกิน น้ำใช้

อย่างไร ขอให้ผ่านสักลูกหนึ่งก็ยังดี

แต่ดูแนวแล้วคงไม่มีเพราะความกดอากาศสูงมันไม่มีเลย พายุเลยไม่ลงมาทางประเทศไทย

สวัสดี

[Manop Klabdee]

วันนี้ ได้ให้พนักงานของ PSTC ขับรถจากสระบุรี นำหนังสือสวดมนต์แปล ไปถวายวัดหรดี ตำบลบ้านเพชร อำเภอภูเขียว  จังหวัดชัยภูมิ ที่ร้องขอผ่านมาทาง Face book มาจำนวน ๘๐ เล่ม ทางใดไม่มีเงินในการจัดพิมพ์ ที่ปีนี้ชาวบ้านมาปฏิบัติ รักษาอุโบสถย์ศีล จำนวนมาก แต่ไม่มีหนังสือสวดมนต์แปล

จึงได้รับอาสา จัดหาให้ โดยได้รับความกรุณาจากคุณบุญยง  กมลเลิศนรา  เจ้านายที่ บ.เอเซีย มอบมาให้จำนวน ๙๒ เล่ม

ต่องขอขอบคุณ คุณบุญยง  และดีใจกับชาวบ้านวัดหรดี ด้วย เพราะหนังสือเล่มนี้ราคาแพง มีครบทุกพระสูตรสำคัญ และมีแปล ด้วย ตัวหนังสือตัวโต พิมพ์กระดาษอาต อย่างดี

[Manop Klabdee]

[Manop Klabdee]

หนังสือเล่มนี้ เมื่อปีที่แล้ว บริจาคให้พระที่ถ้ำโยคี เหนือเขื่อนภูมิพล ท่านชอบมากเพราะ มีพระสูตรธัมจักรฯ อาทิตยฯ อนันตฯ แปลด้วย

จริง ๆ แปลเกือบทั้งเล่ม

ดังนั้น เมื่อสวดพร้อมคำแปลจึงได้รู้เรื่องความหมายด้วย

สวัสดี

[Manop Klabdee]

วันนี้เห็นเณรฉันอาหารเพล มีกับข้าวสองอย่าง รู้สึกสลดใจ
ได้รับคำตอบว่า ทางสำนักพุทธศาสนามีงบให้วันละ ๕๐๐ บาท ในการทำกับข้าวให้เณร จำนวน ๓๑ องค์  จึงได้บริจาคเงิน ๑ หมื่นบาท เพิ่มเป็นค่าอาหารเพลให้สามเณร แทนการทำบุญเลี้ยงพระตอนกลางวัน เณรจะได้มีงบเพิ่มเป็นวันละ ๑๐๐๐ บาท ตลอดพรรษา ที่ไม่มีคนมาทำบุญเพล

สวัสดี

[Manop Klabdee]

ชาวบ้านดีใจเปิด อ่านหนังสือสวดมนต์แปล วัดหรดี

Face book ก็มีประโยชน์เหมือนกัน ได้ทำบุญกับวัดที่ต้องการพอดี

ปีนี้ วันนี้วัดพระนอน ที่พี่สิงห์ ตั้งใจไปอยู่วัดตลอดพรรษา เพื่อชักชวนพี่ ป้า น้า อา ปฏิบัติธรรม มีอุบาสก-อุบาสิกา  ๓๐ ท่าน อยู่วัด รักษาศีล

ราตรีสวัสดิ์ ทุกท่านครับ

[พธู ๒๕๒๔]

จะไปขอได้ที่ไหนครับ อยากได้ไปที่วัดบ้างครับ

[Manop Klabdee]

สวัสดี ทุกท่านครับ

เช้าวันนี้ ได้มีโอกาสเดินจงกรมออกกำลังกายที่หน้าบ้าน
ได้หุงข้าวใส่บาตรพระที่หน้าบ้าน
และต้องเดินทางไปทำงานที่นครศรีธรรมราช

สวัสดี

[Manop Klabdee]

สวัสดรครับ ป๋าพธู

มันเหลืออีกเพียงแปดเล่มเองครับ
ถ้าต้องการพี่สิงห์จะเอาไปให้
และของพี่สิงห์ มีเหลืออีกสามสิบเล่ม ที่พี่สิงห์  พิมพ์ให้แม่



สวัสดี

[Manop Klabdee]

ต้นพระศรีมหาโพธิ์  ผ่านหน้าฝนใบเขียวขจี เป็นอีกบรรยากาสหนึ่งที่ยังไม่เคยเห็น

อาหารของ รูป-นาม นี้ มี ๔ อย่าง ที่เราต้องไม่ประมาท ต้องระวัง คือ

- อาหารสำหรับ "รูป"
- อาหารสำหรับ "ผัสสะ"
- อาหารสำหรับ "ใจ"
- อาหารสำหรับ "วิญญาณ"

ซึ่ง รูป-นาม นี้มีความต้องการยิ่ง อย่าเผลอไปหลง กับมัน เราต้องเสพอาหารทั้ง ๔ อย่างนั้นเพียงเพื่อให้ รูป-นาม คงสภาพอยู่ได้ มีชีวิตอยู่เพื่อทำความเพียรให้บรรลุพระนิพพาน อย่าไปหลงเพลิน ยินดี พอใจ ติดใจกับอาหาร ทั้ง ๔ นั้น

สวัสดี

[Manop Klabdee]

 

อาหารสำหรับรูป หรืออาหารสำหรับร่างกาย

เรากินอาหารเพื่อการมีชีวิต ปราศจากโรค จึงต้องกินอาหารให้เป็นยา กินตามความต้องการของร่างกาย

ไม่กินอาหาร เพราะหลงในรดชาดของอาหาร กินเพราะอยาก กินเพราะมันอร่อย กินเพราะมันมีรสนิยมสูง กินเพราะ...... และต้องไม่เมามันในรดของอาหารนั้น

ดังนั้น พระพุทธองค์จึง ทรงสอนให้คิดว่า เรากินอาหารที่เป็นเนื้อของบุตรตนเอง กินไปคร่ำครวญถึงลูกไป จึงกินไปเพียงเพื่อมีชีวิตอยู่เท่านั้น  ดังที่เคยบอกให้ทราบแล้ว

สวัสดี

[Manop Klabdee]

ผัสสะทางกายมีแต่นำทุกข์มาให้
ร่างกายที่ภายนอกเห็นว่าสวยนั้น แท้จริงภายในมีแต่สิ่งโสโครก เต็มไปด้วยโรค น่าขยะแขยง อย่าไปลุ่มหลงกับการผัสสะทางกายเลย มีแต่ทุกข์

อาหารสำหรับผัสสะ หรือผัสสาหาร

เพราะผัสสะ เป็นปัจจัย จึงมี เวทนา (ความสุข ความทุกข์ ความไม่ทุกข์ความไม่สุข)
เพราะเวทนา เป็นปัจจัย จึงมี ตัณหา
เพราะตัณหา เป็นปัจจัย จึงมี อุปาทาน
เพราะมีอุปาทาน เป็นปัจจัย จึงมี ภพ
เพราะมีภพ เป็นปัจจัย จึงมี เกิด ชรา มรณะ ร่ำไปมิรู้จบในวัฏฏสงสาร

เมื่อใด อายตนะภายใน(ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ) ผัสสะ(เห็น  ได้ยิน ได้ดมกลิ่น  ได้ลิ้มรส ได้สัมผัสทางกาย ได้สัมผัสทางใจ) กับอายตนะภายนอก(รูป  เสียง  กลิ่น  รส โผฏทัพพะ ธรรมารมภ์) เกิดมโนวิญญาณ ตามมาด้วย เวทนา ตัณหา อุปาทาน ภพ ชาติ ชรา มรณะ

ดังนั้น พระพุทธองค์ จึงให้ระวังอาหารทางผัสสะ จงหนัก
พระพุทธองค์ ทรงเปรียบอาหารทางผัสสะ ได้กับแม่โคนม ที่มีผิวกายเปราะบาง อยู่ในร่มเงาก็ถูกแมลงกัด อยู่ในที่แจ้งก็ถูกแดดเผา อยู่ในที่มืด ก็ถูกยุงกัด คือ ไม่มีความสุขเลย เพราะโคต้องอยู่ในที่ต่าง ๆ นั้นทุกเวลา แต่เพราะผิวหนังเปราะบาง จึงมีแต่ทุกข์ร่ำไป

เปรียบได้กับมนุษย์ต้องผัสสะทางทวารทั้งหกตลอดเวลา ถ้าวางใจของตนเองไม่ดี ไม่รู้เท่าทันจิต จะมีแต่ทุกข์ตลอดเวลา  จะมีสุขบ้างก็ชั่วครู่ ชั่วยามเท่านั้น

อาหารทางผัสสะ จึงนำทุกข์มาให้เสมอ และเราต้องผัสสะอยู่ตลอดเวลาด้วย

สวัสดี

[Manop Klabdee]

ไฟเป็นของร้อน  ไม่มีใครอยากกระโดดลงไปในเหวแห่งกองเพลิง

อาหารทางใจ หรือ มโนเจตนาหาร

อาหารทางใจ คือการตั้งใจ  จงใจ และสั่งให้กายกระทำตาม

พระพุทธองค์เปรียบอาหารใจเหมือนกับนักโทษที่นายนิรบาลจับไป เมื่อเดินทางใปถึงหุบเหวที่มีเพลิงบันไลกัล พุ่งขึ้นมาอยู่ข้างหน้า และนักโทษนั้นจะต้องกระโดดลงไปในเปลวเพลิงนั้น ก่อนกระโดดจึงเกิดความกลัวขึ้นในจิต เพราะรู้ผลที่จะตามมา นั่นเอง

การปล่อยให้ใจคิด อย่างตั้งใจ  จงใจก็เช่นเดียวกัน มันจะมีผลเช่นเดียวกัน

ดังนั้น ท่านต้องระวังใจของท่านให้ดี อย่าหลงเข้าไปในความคิด  ขอให้มีสติ ณ ปัจจุบันเข้าไว้ เพราะท่านจะเป็นทาสของจิตท่านได้  ถ้าไม่มีธรรม หรือศีลอยู่ในจิต  ใจท่านจะนำทุกข์มาให้ มีแต่ทางฉิบหายสิ้น

อย่าลืม ใจเป็นใหญ่ เหนือร่างกายเสมอ จึงต้องระวังอาหารทางใจเข้าไว้

สวัสดี

[Manop Klabdee]

สวัสดี ทุกท่านครับ

ฝนตกที่นครศรีธรรมราชหนัก ประกอบกับสนามบินสั้น เพราะกำลังซ่อม เพื่อความปลอดภัย นักบินจึงมาลงที่สนามบินสุราษฎร์ธานีแทนเพื่อเติมน้ำมัน และรอให้ฝนที่นครศรีธรรมราชหยุดตก จึงจะกลับไปลงที่นครศรีธรรมราชใหม่  คงมีเวลาทำงาน วันนี้น้อยลง แต่ก็ยังดีกว่าไม่ได้ทำงาน

สวัสดี

[Manop Klabdee]

ครูผู้สอนธรรม ให้กับคนที่ยังมีชีวิตอยู่

อาหารของวิณญาณ หรือ วิญญาณาหาร

มนุษย์ตายแล้วเกิด ตายแล้วเกิด อยู่ในวัฏฏสงสาร

เพราะเราต้องการเกิด การเกิดจึงเป็นอาหารของวิณญาณ

พระพุทธองค์ ทรงเปรียบเทียบอาหารของวิญญาณเอาไว้ว่า
เปรียบได้พระราชาสั่งลงโทษนักโทษประหาร ด้วยการพุ่งหอก ๑๐๐ เล่มจนสลบ แต่ไม่ตาย พอฟื้นพระราชาก็ให้พุ่งหอกอีก ๑๐๐ เล่ม นักโทษก็สลบไม่ตาย พอฟื้นขึ้นมาพระราชาก็สั่งให้พุ่งหอกอีก ๑๐๐ เล่มจนสลบ แต่ก็ไม่ตาย

วิณญาณ ก็เช่นเดียวกัน อยากเกิดเสมอ อยู่ในวัฏฏสงสาร ตายเกิด ตายเกิด เพราะวิญญาณมันชอบเกิด เพราะอุปาทาน หรือความยึดมั่นถือมั่นนั่นเอง

ดังนั้น ท่านเลยให้นึกถึงหอกที่ทิ้มแทง มีแต่เจ็บ หรือทุกข์เมื่อเกิด

สรุป อย่าไปยึดว่าเป็นเรา เป็นของเรา เป็นอัตตาของเรา เลย การเกิดทุกครั้งมีแต่ทุกข์

สวัสดี

ปล. พี่สิงห์  อยู่บ้าน กทม. แล้วครับ วันนี้เดินทางเหนื่อยมาก ต้องกินขนมปังแทนอาหารเพล เพราะอยู่บนเครื่องบินที่สนามบินสุราษฎร์ธานี เขาไม่ใฟ้ผู้โดยสารลงจากเครื่อง และได้แบ่งเอแคร์ให้แอร์โฮสเตส ที่ไม่มีข้าวกินเช่นเดียวกันด้วย

[Manop Klabdee]

ทางสายเอก หรือหนทางเดินสู่พระนิพพาน

๑. มีศรัทธา
๒. มีศีล
๓. อยู่ด้วยปัจจัย ๔ ที่พอเพียง
๔. มีความเพียร
๕. มีสติ
๖. ทำสติให้เป็นสมาธิ อย่างน้อยต้องละนิวรณ์ ๕ ได้
๗. ทำฌาณที่ ๑ ๒ ๓ ๔ ให้เกิดขึ้น ดำรงค์จิตให้อยู่ในฌาณที่ ๔ เป็นเอกคตาจิต

สวัสดี

[Manop Klabdee]

สวัสดี ทุกทานครับ

วันนี้ วันอาทิตย์ พีกผ่อนอยู่ที่บ้าน เพราะเดินทางมาทั้งอาทิตย์ สามุทรสาคร อุดร ส ทรสาคร สระบุรี สิงห์บุรี นครศรีธรรมราช และ กทม.

ดังนั้น วันนี้ จึงเป็นวันพักผ่อน เช้าไปตีกอล์ฟ บ่ายอยู่บ้าน ซักผ้า และถูบ้าน เสียที และได้เวลาซักผ้าห่ม มันไม่ได้ซักมานานแล้ว

ขอให้ทุกท่านมีสติรู้ตัว  จะทำอะไรก็ให้รู้สึกตัว และมีธรรมะอยู่ในจิต  ชีวิตจะไม่วุ่นวาย ครับ

สวัสดี

[Manop Klabdee]

วันนี้ ๘-๙ สิงหาคม

มีงานรำลึกถึงหลวงพ่อคำเขียน  สุวัณโณ

ที่สวนโมกข์กรุงเทพ

สวัสดี

[Manop Klabdee]

ต้นนิโครธ  วัดภูเขาทอง ตำบลบ้านท่ามะไฟหวาน ชัยภูมิ

สวัสดี ทุกท่านครับ

วันนี้ ได้รับคำเตือนจาก ดร.สุริยา  ว่าระวังเวบจะถูกปิด เพราะภาพโป้ ที่ลง

จริง ๆ ไม่มีเจตนาใด ๆ เลย เป็นภาพที่พรรคพวกโปรซีเนียร์ เอามาลงใน line นานแล้ว

พอดีเขียนเรื่องอาหารของผัสสะ  หารูปไม่ได้ดีกว่านี้
เพราะตา เห็น(ผัสสะ) รูป  ที่เคยสัมผัสและชอบอยู่ในจิต(สัญญา) นี่ละมีแต่ทุกข์ ทุกวันนี้คนทุกข์เพราะผัสสะ ทางกายนี้ทั้งนั้น

พระพุทธองค์ ท่าน ทรงสอนเอาไว้ว่า รูปที่เราว่าสวยนั้น แท้จริงภายในมีแต่สิ่งโสโครก ไม่น่ายินดี  ไม่น่าพอใจ  อย่าไปหลงไหลว่างามเลย มีแต่นำ ทุกข์มาให้ น่าขยะแขยง ไม่สวยงามอย่างที่เห็น อย่าไปลุ่มหลงมันเลย

เมื่อตายลง สิ่งที่เห็นมีแต่น่าขยะแขยง ทั้งนั้น

สวัสดี

[Manop Klabdee]

กองเพลิงนี้น่ากลัว แต่ก็ต้องประสพทุกคน

ทุกคนกลัวความตาย

แต่คนก็ลืมไปว่า เรากำลังก้าวเท้าไปสู่ความตายกันทุกคน

และไม่มีใครหนีความตายได้พ้น สักคนเลย เกิดมา ก็ต้องตาย

จงนึกถึงความตายอยู่เสมอ ๆ เพื่อเตือนให้เราอยู่อย่างไม่ประมาท

การอยู่อย่างไม่ประมาทคือ อยู่อย่างมี ศีล  สมาธิ  ปัญญา หรือ มรรคมีองค์ ๘ นั่นเอง เป็น ทางสายเอกมุ่งสู่พระนิพพาน

สวัสดี

[Manop Klabdee]

สวัสดียามค่ำ ทุกท่านครับ

วันนี้ ได้คุยกับกัลญาณมิตรทาง  Face book เป็นชาวบ้านท่ามะไฟหวาน แกร่งค้อ ชัยภูมิ ที่ลาออกจากราชการครู ออกมาดูแลบิดา-มารดา ที่ชราภาพและมีโรคประจำตัวต้องการคนดูแล โดยเฉพาะจากลูก

พี่สิงห์  ขอเทิดทูลบุคคลแบบนี้ที่ดูแลบิดา-มารดา อานิสสงค์มีแน่นอน

ขอเป็นกำลังใจ และชื่นชม ครับ

สวัสดี

[Manop Klabdee]

ลามมือหลวงพ่อคำเขียน  สุวัณโณ

ครั้งสุดท้าย "พวกเราขอให้หลวงพ่อตาย"

[Manop Klabdee]

อาจารย์กำพล   ทองบุญนุ่ม

ป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย มาบรรยายธรรมที่สวนโมกข์กรุงเทพ  บ่ายวันอาทิตย์ งานรำลึกถึงหลวงพ่อคำเขียน   สุวัณโณ

สวัสดี

[Manop Klabdee]

คำสอนสุดท้ายของหลวงพ่อคำเขียน  สุวัณโณ

"ไม่เป็นอะไร  กับอะไร !"

[Manop Klabdee]

หมายความว่า "ไม่ใช่เรา  ไม่ใช่ของเรา  ไม่ใช่ตัวตนของเรา  เราไม่ได้เป็นนั่น  นั่นไม่ใช่ของเรา"

วันนี้ ได้หุงข้าวใส่บาตรพระที่หน้าบ้าน ก่อนเดินทางไปทำงานที่สระบุรี

สวัสดี