24 พฤศจิกายน 2567, 10:27:59
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: 1 ... 570 571 [572] 573 574 ... 681   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: คุย กับ คุณมานพ กลับดี อดีตประธานชมรม ๓ สมัย  (อ่าน 3571837 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 27 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #14275 เมื่อ: 28 มีนาคม 2558, 06:00:53 »


เจดีย์พุทธคยา  รัฐพิหาร  อินเดีย

กรรม คือการกระทำ
ทำดีย่อมได้ดี  ทำชั่วย่อมได้ชั่ว  
ใครทำกรรมอันใดไว้ย่อมได้รับผลของกรรมนั้น
ไม่มีใครหนีกรรมชั่วที่ตนเองเคยกระทำเอาไว้ได้
เพียงแต่กรรมชั่วนั้น  ผลยังไม่เกิด เพราะมีเหตุ-ปัจจัยของกรรมดีในอดีตชาติให้ผลอยู่ แต่เมื่อใดกรรมดีนั้นหมดลง กรรมที่เคยกระทำกรรมชั่วนั้น ก็จะส่งผลให้เห็นได้ทันที

อย่างพระเทวฑัต มีกรรมดีในอดีตชาติค้ำจุน ทั้ง ๆที่ คิดมุ่งร้ายต่อพระพุทธองค์ ต้องการเป็นพระพุทธเจ้า ประกอบกรรมชั่ว เช่น

ได้ขอให้พระพุทธองค์ ขวนขวายน้อย มอบคณะสงค์ให้ท่านปกครองแทน
ใช้คำสอนว่า ให้เชื่อพระธรรม  ไม่ให้เชื่อพระพุทธองค์ ทำให้สงฆ์แตกแยก
ส่งนายขมังธนูรอบปลงพระชนม์ พระพุทธองค์
กลิ้งก้อนหิน หมายปลงพระชนม์ พระพุทธองค์
ส่งช้างนาคาคิรี ให้มาปลงพระชนม์ พระพุทธองค์
ได้ตั้งคณะสงฆ์นิกายใหม่  ไม่ขึ้นอยู่กับพระพุทธองค์

พระพุทธองค์ ก็ไม่ได้ใชัพุทธนุภาพจัดการแต่ประการใด ปล่อยเป็นเรื่องของเวรกรรม  สุดท้ายพระเทวฑัตก็หนีกรรมชั่วไม่พ้น เมื่อกรรมดีในอดีตชาติหมดไป ก็ถูกธรณีสูบ เสียชีวิตลง

ขอทุกท่านจงอย่าเกิด วิจิกิจฉา - ความลังเลสงสัยเลย

จงมีศรัทธา ในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์

เพราะเมื่อท่านปฏิบัติธรรม ไปถึงจุด ๆ หนึ่ง ความลังเลสงสัยต่าง ๆ มันจะหมดไปจากจิตท่าน  ท่านจะไม่เชื่อใคร ท่านจะเชื่อด้วยตัวของท่านเอง ไม่ต้องให้ใครสอน ไม่ใช่ทิฏฐิ  แต่เป็นสัมมาทิฏฐิ รู้ได้ด้วยตนเอง

อรุณสวัสดิ์ทุกท่านครับ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #14276 เมื่อ: 28 มีนาคม 2558, 07:56:57 »


ตลาดสด ข้าง ๆ พุทธคยา  พระนพ  ธีรวโร  ส่งมาให้ดู

สวัสดีทุกท่านครับ

วันนี้เป็น วันแรกที่เราต้องช่วยตนเองในเรื่องอาหาร

เช้าวันนี้ ได้หุงข้าวใส่บาตรเณรที่หน้าบ้าน ดังที่เคยปฏิบัติมา

และได้เดินไปหลังการบินไทย เพื่อซื้อกับข้าว  ถึงแม้เราจะฝึกเดินจงกรมมามากแล้วก็ตาม  แต่ความแข็งแรงที่เรามีหายหมดเลย ระยะทางมันแลดูไกล เราก็เดินไปเรื่อย ๆ ให้รู้สึกตัวในการเดิน เดินช้า ๆ จนคนที่รู้จักกันถาม เพราะผิดสังเกตุ ก็ตอบให้เข้าใจว่าเราไปผ่าตัดใส้เลื่อนมา ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวว่า อย่าเดินมาก ก็ตอบไปว่า ถ้าไม่เดินก็ไม่มีกับข้าวกิน คงอดตาย

ต้องยอมรับความจริง เรายังป่วย

เมื่อคืนลำบากพอสมควร เพราะเราไม่มีเตียงนอนที่บ้าน นอนพื้น
ดังนั้น เวลาจะนั่งพื้น นอนพื้น ลุกจากพื้น มันเกิดเวทนาพอสมควร ต้องค่อย ๆ ตั้งท่า เพื่อไม่ให้ออกกำลังกายที่หน้าท้อง มากนัก  จะไปซื้อเตียง ก็ไม่มีใครช่วยยก ทำไม่ได้ ก็ต้องระมัดระวังตนเอง ให้มาก

เมื่อซื้อกับข้าวแล้ว  เดินหิ้วสองข้าง มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับเรา เหมือดังแต่ก่อน  ได้แต่คิดว่า ถ้าอาหารแค่นี้ยกไม่ได้  มันก็ไม่ใช่ชีวิต เพราะคนมันต้องกิน ต้องช่วยตนเอง ของหนักแค่นี้ ไม่น่าทำให้แผล ไม่ติดกัน คนมันต้องกิน ต้องช่วยตนเอง  ก็เลยทำใจได้เป็นอะไรเป็นกัน

ผลจากการเดินถือกับข้าว ทำให้ได้คิดว่า เราจะเดินทางไปนครศรีธรรมราชได้หรือไม่ ในวันจันทร์-อังคาร ต้องเดินไกล  มี computer สะพายไหล่ ทำให้ลังเลใจ มันเร็วเกินไปหรือเปล่า แต่ขับรถทางไกล  คงไม่ได้แน่ ๆ

ขับรถไปบ้านแพ้ว  รถติดมาก  คงขับไม่ได้

นี่ละชีวิต  อยู่เฉย ๆ มันก็ไม่ดี กล้ามเนื้อลีบหมด ออกกำลังก็ไม่ได้  เดินมากก็ไม่ได้  ลุกนั่งพื้นก็ลำบาก

ความเจ็บ  ความแก่  มันเป็นอย่างนี้ ทุกข์อย่างนี้

ดังนั้น ต้องดูแลร่างกาย ให้มากเข้าไว้  จะได้ช่วยตัวเองได้นาน ๆ

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #14277 เมื่อ: 28 มีนาคม 2558, 08:07:57 »



จากผลของกรรม ของพระเทวฑัต  ที่ต้องการเป็นศาสดา เป็นเจ้าลัทธิ  ตั้งตนเป็นใหญ่ ทำให้สงฆ์แตกแยก ตู่คำสอนของพระพุทธองค์

มันน่าจะเป็นข้อคิดเตือนใจ

ให้บรรดาเจ้าสำนัก ที่อ้างตนเป็นพุทธศาสนิกชนม์ เป็นพระภิกษุ  พระภิกษุณี สามเณร  แม่ชี  อุบาสก  อุบาสิกา  ได้สะกิดใจเอาไว้บ้างว่า
กรรม นั้น มันมีผลจริง เราตู่คำสอน  กระทำผิด เรารู้ดีว่าผิด แต่เพราะทิฏฐิ ที่จะเอาชนะนี่เอง เกิดอวิชชา เลยทำให้ตาบอดไม่เห็นความจริง  
แต่สุดท้ายก็ต้องรับผลของกรรมนั้นอยู่ดี  เพียงแต่ว่า กรรมนั้นมันยังมาไม่ถึง อย่าดื่อดึงไปเลย หนีกรรมที่เราก่อนั้นไม่พ้น และกรรมนั้นมันยังจะติดตัวไปในภพหน้า อยู่ดี เมื่อตายลง และชาตินี้ก็ไม่ถึงซึ่ง "พระนิพพาน" แล้จะก่อกรรมทำให้สงฆ์แตกแยกทำไม !

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #14278 เมื่อ: 28 มีนาคม 2558, 08:21:55 »



ทรัพย์สิน เงินทอง ความมีเชื่อเสียง มีคนกราบไหว้บูชา ยศฐาบรรดาศักดิ์

เมื่อท่านตายลง  ท่านเอาไปไม่ได้  ไม่มีใครอยากได้ร่างท่านเลย  ต้องเผาทิ้ง เพราะมันเหม็น มันเน่า เหม็นเพราะกรรมชั่ว ที่ได้กระทำเอาไว้

พระพุทธองค์ ทรงสอนเอาไว้ ใครมาด่าเรา  มาว่าเรา มาสอนเรา มาเตือนเรา นั้น เขาคือผู้ชี้ขุมทรัพย์ให้เรา เพราะเรามีทิฏฐิ  หลงอยู่ในความคิด มองไม่เห็นการกระทำของเรา ว่าเราทำไม่ถูกต้องทำนองครองธรรม  แต่คนอื่นเขามองเห็น เพราะเขาไม่ใช่ตัวเรา  เขาหวังดี  จึงมาเตือนให้เรารู้ตัว  เราต้องกราบขอบคุณเขา

แต่ถ้าคนหลงอยู่ในทิฏฐิ หลงอยู่ในความคิดมาก ๆ  นั่งอยู่บนหลังสือแล้วมันลงไม่ได้  สุดท้ายท่านก็ต้องได้รับผลของกรรมอยู่ดี  ดังการกระทำของพระทวฑัต ก็มีตัวอย่างให้เห็น

การหลงอยู่ในความคิด  ทิฏฐิ  ขี่หลังสือ นั้น สุดท้าย ก็หนี "นรกอเวจี" ไม่พ้น

ไม่ต้องมีใครลงโทษท่าน  แต่กรรมที่ท่านทำ มันจะลงโทษท่านเอง และติดจิตท่านไปในภพหน้า จนกว่าจะหมด การเกิดทุกครั้งมีแต่ทุกข์
ปิดประตู "พระนิพพาน" เสียสิ้น

เมื่อเป็นดังนี้  จะดื่อดึงไปทำไม พระนิพพาน ก็ไม่พบ มีแต่นรกที่เปิดประตูรอรับ ท่านกำลังก้าวไปหาที่ละก้าว ๆ ในอีกไม่นานนี้

คนเราผิด-ถูก ชั่ว-ดี ท่านรู้อยู่แก่ใจ

แต่เป็นเพราะท่านลืมว่า "คนนั้นคิดเข้าข้างตนเองเสมอ" เพราะอวิชชา ท่านจึงมองไม่เห็นความคิดตนเอง  และความจริงในข้อนี้ ของจิตมนุษย์

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #14279 เมื่อ: 28 มีนาคม 2558, 14:59:29 »



คุณสมบัติอย่างหนึ่ง ของผู้ปฏิบัติธรรม ที่ผู้ปฏิบัติธรรม ทุกท่านจะทราบได้เองคือ

ต้องประกอบด้วย ศืล  สมาธิ  ปัญญา หรือ มรรคทั้ง ๘ องค์ ต้องสมบูรณ์ นั่นเอง จึงจะมีคุณสมบัติครบถ้วนที่จะบรรลุธรรมได้  ตัวของท่านเท่านั้นจะรู้ได้เองว่า คุณสมบัตินั้นสมบูรณ์ หรือไม่ ท่านจะรู้ด้วยตัวของท่านเอง

มันเป็นเรื่องสำคัญ เรื่องจริง

สิ่งที่เกิดขึ้นกับพระพุทธศาสนา นั้น มันเกิดจากทิฏฐิ ของพุทธบริษัทเอง ทั้งสิ้น

ส่วนพระธรรมคำสอน นั้นเป็นจริงเสมอ สำหรับผู้ปฏิบัติธรรม ท่านก็จะรู้ได้ด้วยตนเอง เช่นกัน  ถ้าใครปฏิบัติแล้ว เห็นเป็นอย่างอื่นนั้น ท่านควรจะทราบว่า ไม่ใช่ทางสายเอกแน่นอน เพราะทางสายเอกมีเส้นทางเดียวท่านนั้น พระพุทธองค์ จึงใช้คำว่าทางสายเอก

เพราะ อวิชชา  จึงทำให้เกิดทิฏฐิ  หลงอยู่ในความคิด มันจึงเป็นข่าวดังที่ทุกท่านทราบดีอยู่แล้ว

กรรมเท่านั้นจะลงโทษ ตัวมันเอง  ขอให้อดทน  เท่านั้น

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #14280 เมื่อ: 28 มีนาคม 2558, 17:32:56 »



พระนพ  ธีรวโร

ท่านกลับมาถึงสนามบินสุวรรณภูมิ เรียบร้อยแล้ว

ปีนี้เดิน 1370  กิโลเมตร

ปีหน้าจะจัดธุดงค์ แดนพุทธภูมิ 2000 กิโลเมตร ๔ สังเวชนีย์ และพุทธสถานที่สำคัญ

สาธุ  สาธุ  สาธุ

ขอต้อนรับ กลับวัดครับ

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #14281 เมื่อ: 28 มีนาคม 2558, 17:43:14 »



ยังเก็บไว้  ไม่ได้ใช้เลย



ถ้าเป็นสมัยโบราณ
 
เวลาล้างหน้าตอนเช้า ต้องใช้ขันเงิน หรือ ขันทอง ในการตักน้ำล้างหน้า

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #14282 เมื่อ: 29 มีนาคม 2558, 07:38:52 »



สวัสดียามเช้า ทุกท่านครับ

เช้าวันนี้ ฝนตก ดีครับฝุ่นระอองในอากาศ จะได้เบาบางลง อากาศดีขึ้น และไม่ร้อน

ฝนตก ทำให้ต้นไม้ สัตว์ต่าง ๆ ได้ดำรงชีวิตอยู่ได้  ขอให้ตามต่างจังหวัดฝนตกมาก ๆ เพราะมันแล้งมานานแล้ว ทั้ง ๆ ที่ยังไม่ถึงเดือนเมษายน เลย

เช้าวันนี้ ได้หุงข้าวใส่บาตรพระ ที่หน้าบ้าน

กิจของสงฆ์ คือต้องบิณฑบาตร พระพุทธองค์ก็ทรงกระทำ
วัตถุประสงค์ เพื่อให้พระภิกษุ กับชาวบ้าน ได้เห็นหน้า ได้สอบถามความเป็นอยู่สุข-ทุกข์
ชาวบ้านได้ทำบุญให้อาหาร พระภิกษุ ก็มีข้าวฉัตร สังคมพระ สังคมชาวบ้านรอบวัด จะได้มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน เกื้อกูรกัน นั่นคือวัตถุประสงค์ในพุทธศาสนา

พระพุทธองค์  จึงบัญญััติไม่ให้สะสมอาหาร ให้พระบิณฑบาตร วันต่อวัน เป็นกิจที่พระภิกษุต้องกระทำทุกวัน  จะเห็นว่าพระธรรม พระวินัย นั้น ทรงตรัสไว้ดีแล้วจริง ๆ

แต่ปัจจุบัน หาได้ยากมากที่ พระภิกษุเจ้าอาวาส เจ้าคณะจังหวัด เจ้าคณะภาค ....ท่านรับเฉพาะกิจนิมนต์  ท่านมีปิ่นโต มีคนทำอาหารถวาย ท่าน จึงห่างเหิร หรือไม่บิณฑบาตรเลย นั่นละเป็นจุดเสื่อมที่คนศรัทธา ต่อพระภิกษุ น้อยลง

ทำไมวัดบ้านนอก กับ ชาวบ้าน  รอบวัดจึงดี เพราะพระท่านบิณฑบาตร ทุกวัน

พระในเมือง(พระผู้ใหญ่) กับ ชาวบ้านรอบวัด สังคมไม่ดี เพราะพระท่านไม่บิณฑบาตร

นี่ละจุดเสื่อม

พระท่านบิณฑบาตร ทุกวัน วันไหนโยมหายหน้าหายตาไป ท่านก็จะไตร่ถาม

เช่นเดียวกัน วันไหนพระท่านหายหน้าไป ชาวบ้านก็จะไตรถาม เช่นเดียวกัน

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #14283 เมื่อ: 29 มีนาคม 2558, 17:05:50 »

พี่สิงห์
พระท่านหายหน้า-หายตา โดยเฉพาะในวันพระครับ
เพราะชาวบ้านจะไปทำบุญที่วัด.
แต่ปัจจุบัน คนเมืองไม่ไปทำบุญที่วัด
เว้นแต่คนเฒ่า คนแก่เท่านั้น
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #14284 เมื่อ: 30 มีนาคม 2558, 05:57:29 »


หลานสาว ล้างเท้าให้ ปู่-ย่า

สวัสดีครับ คุณเหยง

ขอบคุณมาก

มันก็เป็นจริงตามที่คุณเหยง  ว่าเอาไว้

ปัจจุบัน ขอใช้คำว่ามีพระส่วนมาก(พระที่ปฏิบัติดีก็มี) ท่านไม่ได้บวชเพื่ออุทิศตนเเองเพื่อพระพุทธศาสนา ท่านบวชเพื่อตนเอง ไปยึดถือ ว่า เป็นเรา เป็นตัวตนของเรา เราเป็นนั่น นั่นเป็นของเรา หรือไปยึดว่า นี่ตัวกู ของกู  เมื่อไปยึด ผลคือมีแต่ทิฏฐิ หลงอยู่ในความคิด  กิจที่พึงกระทำคือ บิณฑบาตร วันพระต้องอยู่วัด ให้ชาวบ้านมาทำบุญ  ท่านก็กระทำตามความคิดตนเองเสียสิ้น ลืมกิจนั้นไป มันเป็นอย่างนี้

เมื่อพระท่านไม่อยู่ในพระวินัย  ในกิจที่ต้องกระทำ  ชาวบ้านก็เสื่อมศรัทธาในพระสงฆ์ มันก็เป็นอย่างนี้  แต่ไม่ได้เสื่อมในพระธรรม และหน้าที่ของอุบาสก  อุบาสิกา

สวัสดียามเช้าครับ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #14285 เมื่อ: 30 มีนาคม 2558, 07:33:04 »



สวัสดี ทุกท่านครับ

วันนี้ พี่สิงห์  เช้าได้หุงข้าวใส่บาตรพระที่หน้าบ้าน ดร.พระมหาอมรินทร์  รองเจ้าอาวาสวัดลาดพร้าว ถามหาว่า โยมมานพ  หายไปไหน? พอท่านรู้ว่าไปผ่าตัดมา วันนี้ท่านเลยให้พรให้หายเจ็บ มีสุขภาพแข็งแรง

ตอนนี้ อยู่สนามบินดอนเมือง เพื่อเดินทางไปทำงานที่นครศรีธรรมราช  คุณหมอสมเจตต์  ศีลยแพทย์ ผู้ผ่าตัดบอกว่า เดินทางขึ้นเครื่องบินได้ ก็เลยทดลองดู เพราะงานสร้างโรงงาน hollow core slab ที่นครศรีธรรมราช ล่าช้ากว่ากำหนดแล้ว  ต้องไปติดตามสอบถาม และดูงาน  เราลงทุนมาก สามสิบล้านบาท โรงงานต้องเสร็จ โดยเร็ว  ดอกเบี้ยมันเกิดขึ้นทุกวัน

ขณะเดียวกัน พี่สิงห์  ต้องติดตามดูกาย  ตลอดเวลา  ระลึกเสมอว่า เรายังเป็นผู้ป่วย อยู่  

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #14286 เมื่อ: 30 มีนาคม 2558, 08:11:05 »



ตอนนี้ สนามบินดอนเมือง ต้องขยาย สร้างความสะดวกสะบาย ให้ผู้โดยสารเพิ่มมากขึ้นแล้ว เพราะมีผู้โดยสารมาใช้บริการมาก ต้องเร่งซ่อมอาคารผู้โดยสาร และหลุมจอดเครื่องบินให้มาก  หรือเปิดทุกอาคาร ทุกหลุมจอดนั่นเอง เพราะ มันแออัดแล้ว

บางช่วงเวลา เครื่องบินต้องรอลง รอขึ้นแล้ว

การแข่งขันของสายการบินต้นทุนต่ำ ขยายตัวมาก  แต่สิ่งที่น่ากลัวคือ มาตรฐานการบิน เพราะนักบินไม่พอ ทุกคนก็เอาเงินไปล่อบรรดาผู้ช่วยนักบินของการบินไทย ให้มาเป็นกัปตัน และการซ่อมบำรุงไม่ทั่วถึง  รวมทั้งการล่าช้า

ตอนนี้นกแอร์  ล่าช้าประจำ

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #14287 เมื่อ: 30 มีนาคม 2558, 08:21:57 »



คุณมิค  เจ้านายที่สุรินทร์  ส่งภาพมาอวด  นี่คือลูกศิษย์ที่ดีท่านหนึ่ง ที่สอนให้ดูแลลูก พ่อ-แม่ ญาติผู้ใหญ่

ให้หัดลูก ๆ เอาไว้ ทำให้ลูกเห็นตั้งแต่เล็ก
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #14288 เมื่อ: 30 มีนาคม 2558, 08:23:21 »



ลูกสาว  ล้างเท้าให้ พ่อ-แม่ (มิค-เยียร์)
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #14289 เมื่อ: 30 มีนาคม 2558, 08:27:12 »



มิค พาพ่อ ไปทำบุญครบรอบวันเกิดที่วัดบุปผาราม สุรินทร์
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #14290 เมื่อ: 30 มีนาคม 2558, 08:28:16 »



ครอบครัว คูย่งฮวด สุรินทร์

แม่เป็นนักการตลาด  ค้าขายเก่ง

เวลาสอนเรื่องการตลาด  จะให้มิค  ศึกษาวิธีการขายของ จากแม่
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #14291 เมื่อ: 30 มีนาคม 2558, 08:45:06 »



เดินทางไปทำงานที่ นครศรีธรรมราช ครับ

ทุกท่านอย่าลืม แปลงเครื่องจักร ให้เป็นเงินทุน ในการค้าขาย ได้อีกทางหนึ่ง นะครับ

วันนี้
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #14292 เมื่อ: 30 มีนาคม 2558, 20:20:47 »



สวัสดียามค่ำ ทุกท่านครับ

พี่สิงห์ อยู่นครศรีธรรมราช
ฝนไม่ตก แสงแดดจ้ามาก อากาศร้อน แห้งแล้ง ปีนี้ที่แน่ ๆ คือ น้ำประปาในเขตเทศบาลนครศรีธรรมราช คงจะไม่เพียงพอ

ได้รับทราบข่าวร้าย จากผู้จัดการฝ่ายผลิต ลูกชาย และพรรคพวก ไปทำงานติดตั้งระบบไฟฟ้าที่สมุย ทำสระว่ายน้ำ ทำเสร็จก็กระโดดน้ำเล่น ผลคือ คอหักตายสามคน ส่วนลูกชายเขา กระดูกคอข้อที่สามเคลื่อน ต้องนำไปผ่าตัดที่ภูเก็ต คุณหมอช่วยชีวิตได้ แต่คงเป็นคนพิการ เดินได้ แต่แขนยกไม่ได้ เพราะปราสาทมันไม่สั่งงาน

เป็นแบบเดียวกับท่านอาจารย์กำพล   ทองบุญนุ่ม  แต่เดินได้

การโดดน้ำสระที่ระดับตื่น มันเป็นอย่างนี้  
ดังนั้น จะโดดน้ำเล่นต้องระวังคอหักด้วย  ได้ให้ทำใจว่า เราต้องเลี้ยงเขาจนกว่าเราจะตายจากไป  จึงให้ลูกชายเขาอ่านหนังสือของอาจารย์กำพล   จะได้ยอมรับความจริง ในผลที่มันต้องเป็น ให้ถือว่าเป็นกรรมเก่า  ชดใช้ให้หมดในชาตินี้ จะได้สบายใจ

ตอนเพล ไปกินข้าวที่ร้านอาหารท่าศาลาซีฟู๊ด สั่งสามอย่างกินสามคน ๑ พันบาท ยำผักกูด แกงส้มปลากระพง  กุ้งมะขาม(น้องสาวให้กินกุ้ง มันจะช่วยให้แผลผ่าตัดหายเร็ว) เสียดายเงิน มันแพงจริง ๆ คงไม่กล้ากินอีกแล้ว ปล่อยให้คนรวยเขากินกัน ดีกว่า เรากินผักของเราไป

วันนี้เผลอตัว ไปมากในการใช้ร่างกายทำงาน ลืมไปว่าเราเป็นคนป่วย ยังต้องพักต่ออีกหนึ่งเดือนเต็ม  จึงจะใช้ร่างกายได้ปกติทั่วไป

สวัสดีครับ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #14293 เมื่อ: 31 มีนาคม 2558, 06:06:41 »



อรุณสวัสดิ์ ทุกท่านครับ

สิ่งที่ควรคำนึงสำหรับนักปฏิบัติธรรม คือ อย่าปล่อยให้ความคิดร่องลอย เมื่อท่านตื่น อย่าปล่อยให้ฝัน เมื่อท่านนอนหลับ

การปล่อย่ให้จิตมันคิดร่องลอย นั้นจิตมันชอบคิด เมื่อมันคิด ท่านจะต้องรู้สึกตัวให้เร็ว ความคิดจะดับไป  ท่านต้องไม่คิดต่อถึงแม้สิ่งที่คิดนั้น ท่านจะชอบก็ตาม แต่ถ้าจิตมันฟุ้งมาก ไม่สงบมันอยากคิด ก็ให้เฟ้นธรรม ข้อใดข้อหนึ่งมาให้จิตมันคิด  หรือถ้าจะคิดเรื่องการทำงาน ท่านต้องตั้งใจคิด ให้รู้ตัวเข้าไว้

เช่นเดียวกัน เมื่อใดท่านฝัน ท่านต้องรู้สึกตัวให้เร็ว ความฝันจะดับไปทันที จะไม่ปล่อยให้ฝันต่อ ความฝันเป็นส งอันตราย เพราะจิตมันชอบ และเกิดจินตนาการง่าย ไม่ดี

การคิด การฝัน  จิตมันชอบ เราต้องป้องกันมันด้วยการฝึกการรู้สึกตัวให้เร็วเข้าวแบบหนูเห็นแมวปั๊ป ตระครุบปุ๊ป ทันที

ทำไมคนนนั่งเจริญสติ แล้วชอบนั่งหลับ

สาเหตุที่เวลานั่งภาวนา  มันหลับ เพราะจิตมันหลงไปคิดไง เมื่อหลงคิดท่านไม่รู้สึกตัว มันก็เกิดภวังค์และหลับสัปหงกทันที

นอกจากนี้บางคนหนักไปใหญ่ เกิดนิมิต ไปเห็นสี แสง นรก สวรรค์ ไปใหญ่เลย เป็นเพราะท่านหลงคิดต่อ และไม่รู้ตัวอันใด  กลับเห็นเป็นเรื่องจริงขึ้นมา  อันนี้ละยุ่งตายห่าเลย มันเป็นเพียงจินตนาการ ไม่จริง เป็นวิปัสสนูกิเลส ไม่ใช่หนทางของพระนิพพาน

สรุป ห้ามหลงคิด  ห้ามหลงฝัน เมื่อคิดต้องรู้สึกตัวให้เร็ว เมื่อฝันต้องรู้สึกตัวให้เร็ว ความคิด -ความฝัน มันจะดับไปเอง เพราะจิตมันรับรู้อารมณ์ ได้อย่างเดียวเท่านั้น ท่านฝึกบ่อย ๆ ในการรู้สึกตัว ให้จิตมันเคยชิน ความคิด ความรู้สึกตัวมันจะเร็วพอ ๆ กัน

เมื่อเป็นดังนี้ ท่านจะมีความรู้สึกตัว หรือสติมากขึ้น ๆ นั่นเอง ประกอบกับท่านมีธรรม อยู่ในจิต ท่านจะประกอบแต่กุศล ไม่เบียดเบียนสัตว์ กระทำแต่สิ่ง เป็นประโยชน์  มันก็จะมีแต่ความสงบ สุข ตามเหตุ-ปัจจัย เป็นการดำรงชีวิตอยู่ในมรรค มีองค์ ๘ ประการแล้ว

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #14294 เมื่อ: 31 มีนาคม 2558, 07:03:00 »



อาหารเช้า ต้องกินอย่างราชา (ถ้าเลือกได้)

ไม่ได้กินผัก กับข้าวต้มมาเดือนหนึ่งแล้ว  คิดถึงเหมือนกัน

รวมทั้งไม่ได้ดื่มกาแฟ มาหนึ่งเดือน ก็เลยงดกาแฟไปเลยเหมือนกัน เพราะดื่มกาแฟทุกครั้ง หัวใจมันเต้นแรง  ก็เลยงดไปดีกว่า อย่าไปดื่มมันเลย จะเป็นอีกทางในการงดหวานไปในตัว ขนมไม่กิน กินแต่ผลไม้ตามฤดูกาลเป็นส่วนใหญ่

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #14295 เมื่อ: 31 มีนาคม 2558, 07:33:34 »



สัมมาทิฏฐิ - ความเห็นชอบ

สัมมาทิฏฐิ คือ
- ความเห็นชอบตามทำนองคลองธรรม
- เห็นชอบในปฏิจจสมุปาบาท เห็นชอบว่าทุกสิ่งล้วนเกิดขึ้นจากเหตุ-ปัจจัย
- เห็นชอบในอริยสัจ ๔ นี่ทุกข์ นี่เหตุแห่งการเกิดทุกข์ นี่วิธีดับทุกข์ และนี่คือวิธีปฏิบัติเพื่อความพ้าทุกข์ ให้ถึงซึ่งพระนิพพานได้
- เห็นชอบในขันธ์ ๕ ที่ประกอบไปด้วยรูป-นาม
- เห็นชอบในพระไตรลักษณ์ คือทุกสิ่งล้วนอนิจจัง คือไม่เที่ยง สิ่งใดไม่เที่ยงมีแต่ทุกข์ สิ่งใดเป็นทุกข์ ต้องคิดว่ามันไม่มีตัวมีตน ไม่ไปยึดถือมันว่าเป็นตัวกู ของกู
- เห็นชอบในการที่จะละความเป็นเรา เป็นตัวตนของเรา เราเป็นนั่น นั่นเป็นของเรา ลงเสีย
- เห็นจริงในธรรม ที่พระพุทธองค์ทรงสอนว่า ธรรมนั้นเป็นจริงเสมอ

ทิฏฐิ คือ ความเห็นผิด  มีนัยตรงกันข้ามกับ สัมมาทิฏฐิ
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ทิฏฐิ ในความเห็นเป็นเรา เป็นตัวตนของเรา เราเป็นนั่น นั่นเป็นเรา  จึงไปยึดเป็นตัวกู ของกู จึงนำมาซึ่งความอิจฉา ริษยา ความโลภ ความโกรธ ความหลง หรือกิเลส - ตัณหา นั่นเอง

เพราะอวิชชา และความไม่ได้สดับคำสอนของพระพุทธองค์ จึงหลงอยู่กับตัวกู  ของกู หลงอยู่แต่ในความคิดตนเอง  จึงหลง แต่การกระทำทางกาย วาจา ใจ ไปในทางอกุศลเสียสิ้น เพื่อนตนเอง เพื่อตัวกู ของกู ซึ่งเป็นทางนำพาไปสู่นรกอเวจี  ไม่ใช่ทางสายเอก คือหนทางสู่พระนิพพาน

ดังนั้น จงทำทิฏฐิ  ให้เป็นสัมมาทิฏฐิ ด้วยการเจริญสติภาวนา แล้วท่านจะพบ รู้ได้ด้วยตนเอง ไม่ต้องเชื่อใคร เพราะเห็นจริงในธรรมทั้งหลายว่า พระพุทธองค์ทรงตรัสดีแล้ว เพราะมันเป็นจริงตามธรรมนั้น เพราะมันเป็นธรรมชาติ เป็นปรมัตถ์

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #14296 เมื่อ: 31 มีนาคม 2558, 08:31:50 »


พุทธศาสนิกชนม์ชาวศรีลังกา จะบูชาพระพุทธองค์ด้วยดอกไม้

สวัสดี ทุกท่านครับ

วันนี้ ก็ยังทำงานอยู่ที่นครศรีธรรมราช  ติดตามการเขียนแบบโรงงานให้เสร็จ และเร่งรัดลงมือก่อสร้าง มีเวลาอีกห้าเดือนเท่านั้น

กลับบ่าน กทม. Boarding 15:45 น. ถ้า Nok Air ถ้าออกตรงเวลา ปกติเที่ยวนี้จะล่าช้าเป็นนิสัยสำหรับ  Nok Air

ข้ออ้างของ Nok Air คือเพื่อความปลอดภัย  แต่จริง ๆ มันเป็นที่ระบบปฏิบัติการที่หย่อนยาน มากกว่า ไม่รักษาเวลาที่กำหนดในการทำงาน จนเป็นที่รู้กันเทีายวบ่าย จะล่าช้าเสมอ และแก้ไขไม่ได้ด้วย

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #14297 เมื่อ: 31 มีนาคม 2558, 12:07:05 »



จิตที่ฝึกดีแล้ว ย่อมนำสุขมาให้
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #14298 เมื่อ: 31 มีนาคม 2558, 15:01:49 »



คาดการณ์เอาไว้แล้วว่า Nok Air ต้องล่าช้า มันก็เป็นจริงเสมอ

แต่ก็ต้องยอมรับ เพราะมันาดประสิทธิภาพในการทำงาน จนเสียภาพลักษณ์ ได้ฉายาใหม่ Nok Air ล่าช้าเสมอ

ดูซิเราจะอดทน ต่อ Nok Air ได้นานแค่ไหน? เพราะคนอื่นเขาก็หนีไปขึ้น  Air Asia กันแล้วที่เขาโฆษณาเกทับ  Nok Air คือ
Air Asia บินตรงเวลา ประหยัด เครื่องใหม่ 5555!

สวัสดีครับ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #14299 เมื่อ: 01 เมษายน 2558, 06:48:59 »



อรุณสวัสดิ์ ทุกท่านครับ

วันนี้ ทดลองขับรถมาทำงานที่โรงงานบ้านแพ้ว สมุทรสาคร  พอขับได้ ออกจากบ้านตอนตีห้าครึ่ง จะได้มีรถไม่มากขับสบาย  มาถึงโรงงาน หกโมงยิ่สิบนาที  ก็เปิดวิทยุ ฟังการบรรยายพระธรรม ตลอดทางจนจบรายการ

พระธรรมนั้น ฟังแล้วเข้าใจ เพราะเรารู้เรื่องรูป จิต เจตสิก นิพพาน  จากการปฏิบัติมาแล้ว จึงเห็นความเป็นอนัตตา ในธรรมทั้งหลาย ความไม่มีตัวตน ไม่มีตัวกู ของกู ทุกคำถามที่เขาถามกัน และทางท่านอาจารย์ ได้ตอบ ไม่มีวิจิกิจฉาใด ๆ สำหรับเรา  ทั้ง ๆ ที่พระธรรมยังไม่ได้อ่านจากพระไตรปิฎกเลย และไม่ได้ศึกษามาก่อน

เนื่องจาก ไม่สามารถเดินไกล ๆ ไปซื้อกับข้าวได้ ก็กินตามที่มี คือเพื่อนบ้านพี่โส  ให้ปลาทูสดทอด มีผักสด  แม่บ้านที่โรงงานให้แตงกวา-มะเขือเทศ  เราก็กินเป็นอาหารเช้าได้ และไม่ลืมที่จะกินกล้วยหนึ่งผลก่อน กินข้าวเช้าเสมอ เพื่อทดลองตนเองใน ผลลัพย์ของการกินกล้วยทุกวัน

วันนี้ ต้องทำงานทั้งวันเริ่มตั้งแต่ เจ็ดโมง เป็นต้นไป ประชุม morning talk  พนักงานควบคุมแพล้นคอนกรีต ที่เป็นหัวใจของการผลิตคอนกรีต  ต้องสร้างคนให้มีความรู้ รับผิดชอบ เป็นคนดี ก็ต้องประชุม สม่ำเสมอโดยเริ่มที่เรา

ต่อด้วยประชุม morning talk  คนงานประจำแท่นผลิต ตอน 07:30  น.

มีเวลาเดินตามแท่นผลิต ดูความเรียบร้อยในการผลิต ๑.๕ ชั่วโมง ก่อนประชุม

และประชุม โรงงานเวลา 10:00 น.

หนักสำหรับคนป่วยอย่างเรา  ตอนขับรถมาก็ รู้สึกเจ็บแผลภายในได้ เป็นบางครั้งคราว  แต่เชื่อว่าธรรมชาติมันจะเยียวยาตัวมันเอง เพราะคนเราต้องกิน ต้องทำงาน  อยู่เฉย ๆ นิ่ง ๆ ตามหลักการที่คุณหมอ  สั่งเอาไว้ มันก็เป็นง่อย เท่านั้นเอง

สบายดีครับ ขอบคุณทุกท่านที่เป็นห่วง

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
  หน้า: 1 ... 570 571 [572] 573 574 ... 681   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

ทำไมหอพักนิสิตจุฬาจึงเป็นดินแดนมหัศจรรย์            " ไม่ได้เป็นแค่หอให้นอนพัก  แต่เป็นบ้านอบอุ่นรักให้อาศัย  ไม่เป็นแค่ที่ซุกหัวยามหลบภัย  แต่สร้างใจให้เข้มแข็งแกร่งการงาน"  <))))><