รอยพระบาทของพระพุทธองค์ ที่รัตนจงกรม
สร้างโดยพระเจ้าอโศกมหาราช
อริยะมรรคมีองค์ ๘ ประการ
อริยะมรรคมีองค์ ๘ ประการ คือหนทางอันประเสริฐ ๘ ประการ เป็นหนทางที่พระอริยะสงฆ์ใช้ประกอบความเพียรในการดำรงค์ชีวิต ที่เป็นทางสายเอกอันอุดม ที่ผู้ปฏิบัติสามารถ ถึงซึ่งพระนิพพานได้ แต่ถ้ายังไม่ถึง ก็จะประสพแด่ความสุข ความเจริญ เป็นทางสายกลางในการดำรงค์ชีวิต ที่พระพุทธองค์ ทรงตรัสรู้
พระพุทธองค์ ตอนเป็นเจ้าชายสิทธัตถะ พระองค์มีประสาท ๓ ฤดู เพรียบพร้อมด้วยนางกำนัล บริวาร และปัจจัย ๔ บริบูรณ์ แต่ก็ยังต้องแก่ ต้องเจ็บ ต้องตาย คือได้รับทุกข์ อยู่ดี หนีไม่พ้น เมื่อตายไปแล้วก็กลับมาเกิดอีก ทนทุกข์อีก ตามคติของพราหมณ์ สมัยนั้น มิรู้จบ
เมื่อทรงเสด็จออกบวช ท่านได้ลองทรมารพระวรกาย ให้ทนทุกข์สาหัส ตามความเชื่อในสมัยนั้นว่า ความทุกข์ทรมารทางกาย จะทำให้บรรลุธรรมอันวิเศษได้(ยังไม่รู้จัก พระนิพพาน) พระองค์ได้ทรมารกายยิ่งกว่าผู้ใดจะเสมอเหมือนไม่ พระองค์ก็ยังไม่บรรลุธรรมอันใด ยังต้องแก่ ต้องเจ็บ แถมเกือบจะสิ้นชีวิต ถ้ายังฝืนกระทำต่อไป
พระองค์ได้ยินคนสอนพิณ มาสอนว่าสายพิณนั้น ตึงเกินไป เสียงก็ไม่ไพเราะ ถ้าตึงมากๆ สายขาดได้ หย่อนเกินไป เสียงก็ไม่ไพเราะ ต้องตึงพอดี ๆ จึงจะมีเสียงเพราะ
คำสอนง่าย ๆ เช่นนี้เอง และ
พระองค์จึงได้คิด ชีวิตที่มีความสุขเกินไป เปรียบได้ด้วยพิณสายหย่อนยาน เสียงไม่ไพเราะฉันใด ก็ย่อมไม่บรรลุธรรม เพราะมีแต่สุขเกินไป ฉันนั้น
ชีวิตที่อยู่ด้วยการทรมารกายยิ่ง เปรียบได้ด้วยพิณขันตึงมาก เสียงไม่ไพเราะ และอาจขาดได้ถ้าตึงเกินไป เปรียบได้กับชีวิตกายลำบากมาก จะบรรลุธรรมได้อย่างไร และอาจตายได้ ก็เสียชาติเกิด
ทางสายกลางเท่านั้น ไม่ตึง ไม่หย่อน คือ อยู่ด้วยปัจจัย พอเพียง จึงมีคุุณสมบัติที่จะบรรลุธรรมได้ คือตรัสรู้นั่นเอง
และก็เป็นจริง ตามนั้น ในเวลาต่อมา
ทางสายกลางที่พระพุทธองค์ทรงตรัสรู้แล้ว ประกอบไปด้วย
อริยะมรรค มีองค์ ๘ ประการ
- สัมมามิฏฐิ ความเห็นชอบ
- สัมมาสังกัปปะ ความดำหริชอบ
- สัมมาวาจา การพูดจาชอบ
- สัมมากัมมันตะ การประพฤติทางกายชอบ
- สัมมาอาชีวะ การมีอาชีพที่ชอบ
- สัมมาวายามะ ความเพียรชอบ
- สัมมาสติ การตั้งสติชอบ หรือการระลึกชอบ
- สัมมาสมาธิ การตั้งใจมั่นชอบ
หรือ สรุป ให้ได้ใจความสั้น ๆ คือ
ดำรงชีวิตอยู่ด้วย ศีล สมาธิ ปัญญา นั่นเอง
สวัสดี