คุย กับ คุณมานพ กลับดี อดีตประธานชมรม ๓ สมัย

[kumpolcomcai]

ติดตามอ่านครับ

[Manop Klabdee]

ธรรมของพระพุทธองค์นั้น คิดเอาไม่ได้  ต้องปฏิบัติให้มันเห็นในความจริง เท่านั้น จิตมันถึงจะยอมรับด้วยตัวของมันเอง

[Manop Klabdee]

สวัสดีครับ คุณหมอตุ่น

ขอบคุณมากที่ติดตามอ่าน

พี่สิงห์  จะแพ้ใจตนเองหลายครั้งแล้ว  ไม่รู้จะเขียนอะไร เพราะผู้ปฏิบัติธรรมนั้น ต้องไม่โอ้อวด ไม่ว่าจะรู้อะไรในธรรม  แต่ก็ใช้ข้ออ้างเพื่อการสอนธรรม จึงเขียนให้ทราบ

ถ้าพี่สิงห์  ไม่เขียน  แล้วใครจะเขียน www.cmadong.com มันก็คงหมดยุคของมันแล้ว

สวัสดี

[Manop Klabdee]

สถานที่ วัดป่าศิวิไล  อำเภอภูเขียว  ชัยภูมิ


ใครรู้เรื่อง ม.๔๐ ของประกันสังคมบ้าง ตอบให้เข้าใจด้วย

พี่สิงห์ อายุ ๖๓ ปี ยังอยู่ในระบบประกันสังคม มา ๑๙ ปี ยังจ่ายเงินสมทบอยู่  จะต้องสมัคร อันใหม่นี้ไหม? เพราะไม่ได้ติดตามข่าว ไม่รู้ อะไรเลย

ขอบคุณมาก

สวัสดี

[Manop Klabdee]

ช่วงปีใหม่นี้ ปลอดจากการทำงาน  จะขอปลีกวิเวก และ www.cmadong.com ไปปฏิบัติธรรมที่วัดป่าสุคะโต สัก ๗-๑๐ วัน เพื่อให้รางวัลตนเอง ภายหลังจากทำงานมาหนึ่งปี ขอพักจิต ด้วยการเจริญสติ  มันต้องหาพื้นที่ ที่เอื้อต่อการเจริญสติ คือ มีสถานที่ มีอาหาร มีกัลยาณมิตร และมีอาจารย์คอยชี้แนะ

ดร.สุริยา  ไม่ยอมใช้เส้นที่วัดมเหยงค์  อยุธยา  จะได้ไม่ต้องไปทนหนาวที่ชัยภูมิ หรือ

ท่านขุน  ยังไม่บอกว่าจะชวนไปปฏิบัติธรรมที่สำนักไหน?

ได้แต่วางแผน เท่านั้น

จริง ๆ ที่บ้านก็ปฏิบัติธรรมได้  แต่มันไม่ต่อเนื่องทั้งวันทั้งคืน มาร มันแยะ(ความคิดตนเอง) มันต้องให้ไกลบ้าน ลืมบ้านไปเลย

สวัสดี

[Manop Klabdee]

พระก็มีสิทธิ  ออกกำลังกายได้

[Manop Klabdee]

การคืนพักแรม บนหน้าผา สงบยิ่ง

[Manop Klabdee]

สวัสดีครับ ชาวซีมะโด่ง และแขกผู้มาเยือน ที่รักทุกท่าน

พี่สิงห์  อยู่นครศรีธรรมราช

วันนี้ ลูกน้องได้นำผลเสาวรส ที่ได้ปลูกเอาไว้ มาให้ลองชิม พันธุ์เดิมเป็นของโครงการหลวงปลูกอยู่บนดอยที่เชียงใหม่ ผลจะมีสีแบบเปลือกมังคุด รสหอมหวานไม่เปรี้ยวมาก

แต่เอามาปลูกทางใต้ ในสวนมังคุด ผลใหญ่กว่าเดิมสองเท่าครึ่ง เป็นสีเหลือง เปลือกหนา มีปริมาณเนื้อและน้ำมากกว่า แต่รสชาดนั้นเปรี้ยวกว่า  คงเป็นที่สภาพอากาศ และดินที่ทางใต้แตกต่างจากทางเหนือ จึงเกิดการกลายพันธุ์ มันเป็นธรรมชาติที่ทั้งสัตว์-พืชต้องปรับตัวให้เข้ากับธรรมชาติ จึงจะมีชีวิตอยู่ได้แบบธรรมชาติ

ท่านใดเคยทำน้ำเสาวรสบรรจุขวด  โปรดเมตตาบอกกรรมวิธีในการผลิตให้ด้วย  จะได้ให้ลูกน้องทำน้ำเสวรสบรรจุขวด เพราะตอนนี้ปลูกเอาไว้มาก ล่วงจากต้นทุกวัน ในปริมาณที่พอสมควรทีเดียวกินไม่หมดแล้ว  เอาไปขายคนทางใต้ไม่ค่อยรู้จักและไม่กินกัน  ผิดกับทาง กรุงเทพฯ ไม่พอขาย

สวัสดี

[Manop Klabdee]

นิทานเซน เรื่อง ถ้วยกาแฟสอนธรรม


ที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง วันนี้ ศิษย์เก่านัดรวมตัวกันเพื่อไปเยี่ยมอาจารย์ และสถาบัน ทั้งอาจารย์และศิษย์ต่างไม่ได้เจอกันมานานจึงมีเรื่องคุยกันมากมาย แต่ไม่ช้าวงสนทนาก็เริ่มเปลี่ยนไปเป็นการพร่ำบ่นเกี่ยวกับความเครียดในเรื่องการทำงานและปัญหาชีวิต ฝ่ายอาจารย์นั่งฝั่งอย่างสงบพร้อมกันนั้นก็เสนอเลี้ยงกาแฟกลุ่มลูกศิษย์เก่า

อาจารย์เดินเข้าไปในห้องครัวแล้วกลับออกมา พร้อมกับกาแฟเหยือกโตและถ้วยกาแฟในรูปแบบต่างๆ บ้างเป็นถ้วยกระเบื้อง บ้างเป็นถ้วยพลาสติก และบ้างทำด้วยแก้ว ถ้วยบางใบเป็นแบบพื้นๆ ธรรมดา บางใบก็สวยหรูมาก เมื่ออาจารย์วางเหยือกกาแฟลง ก็บอกให้เหล่าลูกศิษย์แต่ละคนจัดการดื่มกาแฟกันเอาเอง ตามสบาย

เมื่อบรรดาลูกศิษย์ต่างมีถ้วยกาแฟในมือกันทุกคนแล้ว อาจารย์ก็กล่าวว่า “พวกเธอลองสังเกตดูกันหรือเปล่าว่า ถ้วยสวยๆ แพงๆ ถูกเลือกไปหมด เหลือไว้แต่ถ้วยธรรมดาๆ ราคาถูกๆ ก็เป็นเรื่องปกตินะที่พวกเธอต่างก็มักจะเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตนเอง ซึ่งนี้คือที่มาของความเครียดและปัญหาทั้งหลายในชีวิต ในขณะที่สิ่งที่พวกเธอต้องการแท้จริงแล้วคือ กาแฟไม่ใช่ถ้วยกาแฟ แต่จิตสำนึกกลับนำพาไปเลือกถ้วยและมิหนำซ้ำยังคอยชำเลืองมองถ้วยของคนอื่นๆ อีกด้วย”

แต่ถ้าหากชีวิต คือ กาแฟ หน้าที่การงานตำแหน่งต่างๆ ในสังคมก็คือ ถ้วยกาแฟ มันเป็นเพียงเครื่องมืออุปกรณ์ช่วยหยิบจับหรือประคองชีวิตของเรา มันไม่ได้ทำให้เนื้อหาจริงๆ ของชีวิตเปลี่ยนไป และบางครั้งการมัวไปเพ่งเล็งที่ถ้วยใส่กาแฟมากเกินไปก็ทำให้เราลืมที่จะใส่ใจกับรสชาติที่แท้จริงของกาแฟ.

วันนี้...กาแฟของคุณรสชาติเป็นยังไงบ้างล่ะ…!?

[Manop Klabdee]

ดร.สุริยา  คุณทรงเกียรติ กรรมการสมาคมซีมะโด่ง ทราบ

อย่าลืม ! วันที่ ๑๗ ธันวาคม เป็นวันเกิดท่านอาจารย์สุพพัดดา  ปวนฤทธิ์

[Manop Klabdee]

วันที่ ๑๗ มกราคม วันเกิด ดร.สุริยา !

[Manop Klabdee]

อาทิตย์อัสดงที่ป่าพงพันปี ชัยภูมิ

[Manop Klabdee]

ต้องขอภัย!

ดร.สุริยา  บอกว่าท่านอาจารย์สุพพัดดา  สุขภาพท่านไม่ดี  ลูกๆ ไม่อยากให้ออกจากบ้าน กลัวท่านอาจารย์ ไปล้ม  

ท่านอาจารย์สุพพัดดา   เลยขอให้งดจัดงานวันเกิดของท่านในปีนี้  ใครคิดถึงอาจารย์ ก็ให้ไปหาที่บ้าน ก็แล้วกัน

เอาตามนี้

สวัสดี

[Manop Klabdee]

เอาเป็นว่า พบกันวันที่ ๑๗ มกราคม 2558

ฉลองปีใหม่ และฉลองวันเกิด ดร.สุริยา ไปพร้อมกัน

เพราะวันที่ ๑๔ กุมภาพันธ์ พี่สิงห์  อยู่อินเดีย ไม่สะดวก
(ไปอินเดีย 10-20 กุมภาพันธ์)

ลืมไป มกราคม พี่ชรินทร์  อดีต สว.ตาก ก็เกิดเดือน นี้ นัดพร้อมกันเลย (อาจารย์แจ่มใส่  อีกท่านหนึ่ง)

ฝากคุณหมอตุ่น  พิจารณาเห็นตามสมควรก็แล้วกัน

สำหรับพี่สิงห์  ได้ทั้งนั้น และไม่ขัดข้องในความคิดเห็นของใครทั้งสิ้น

สวัสดี

[Manop Klabdee]

พระไพศาล  วิสาโล  ใบหน้าท่านมีแต่รอยยิ้ม เปี่ยมด้วยสติ

ดร.สุริยา

สัญโญชน์ ๑๐ ประการที่ผูกมัดสัตว์โลกให้เวียนว่ายตายเกิดอยู่ในวัฏฏะสงสาร และเมื่อเกิดทุกครั้งมีแต่สร้างกองทุกข์ขึ้นมาใหม่ และท่านให้ประกอบกรรมดี  แต่เพราะหลงอยู่ในความคิด จึงลืมประกอบกรรมดี มีแต่ตัณหา พาไปทั้งนั้น เพราะไปยึดถือว่า นี่ตัวกู  นี่ของกู  ไปสิ้น

สัญโญชน์ ๑๐ ประกอบด้วย
๑. สักกายะทิฐิ
๒. สีลัพพตปรามาส
๓. วิจิกิจฉา
๔. กามราคะ
๕. ปฏิฆะ
๖. รูปราคะ
๗. อรูปราคะ
๘. อุุจทัจจกุกุจจะ
๙. ทิฐิมานะ
๑๐. อวิชชา

ผู้ใด สามารถละ สักกายะทิฐิ  สีลัพพตปรามาส และวิจิกิจฉา ผู้นั้น ก้าวเข้าสู่พระอริยะบุคคล ชั้นที่ ๑ คือเป็นพระโสดาบัน เป็นผู้เที่ยงในนิพพาน

ผู้ใด สามารถทำให้ กามราคะ ปฏิฆะ ลดน้อยลง เพิ่มขึ้นอีก ผู้นั้นก้าวเข้าสู่พระอริยะบุคคล ชั้นที่ ๒ คือพระสกทาคามี ที่จะกลับมาเกิดเป็นมนุษย์อีกครั้งเพื่อสร้างกรรมดีเพิ่มเติม

ผู้ใด สามารถ ละกามราคะ ปฏิฆะ ได้หมดสิ้น(ละความโลภ โกรธ หลง)เพ่ิม ผู้นั้น ก้าวเข้าสู่พระอริยะบุคคล ชั้นที่ ๓ พระอนาคามี  ผู้ไม่กลับมาเกิดในโลกมนุษย์อีก แต่จะสำเร็จเป็นพระอรหันต์ในเทวดาชั้นสุทธาวาส

ผู้ใดสามารถ ละรูปราคะ อรูปราคะ อุจทัจจกุกุจจะ ทิฐิมานะ และอวิชชา ได้เพิ่ม  ผู้นั้นสำเร็จเป็นพระอรหันต์ สามารถตัดอาสวะกิเลสได้หมดสิ้นออกไปจากจิต

จะเห็นว่า ทิฐิมานะ  นั้นต้องตัดในระดับพระอรหันต์เท่านั้น  ยิ่งคนแก่ ผ่านประสพการณ์มามาก ยิ่งหลงอยู่ในความคิดตนเองมมาก  ในสมัยพุทธกาล มาจนถึงปัจจุบัน  จึงไม่อนุญาติให้ผู้สูงวัยย์มาก ๆ บวช เพราะท่านมากไปด้วยทิฐิมานะ ยกเว้นผู้ที่ไม่หลงอยู่ในความคิดตนเอง


อย่ามีทิฐิมานะ  เลย(เป็นไปไม่ได้)

สวัสดี

[Manop Klabdee]

ดร.สุริยา

ในสมัยพุทธกาล  ผู้ใดได้ฟังธรรมเฉพาะพระพักต์ของพระพุทธองค์ มีจิตปราศจากนิวรณ์ ๕ พิจารณาธรรมที่ได้ยินนั้น อย่างน้อยผู้นั้น จะสำเร็จเป็นพระอริยะบุคคลชั้นพระโสดาบัน เป็นอย่างน้อย และ

ถ้าจิตของผู้ใด เป็นเอกคตาจิต อยู่ในฌาณที่ ๔ พิจารณาธรรมที่ได้ฟังจากพระพุทธองค์ไปด้วยเห็นจริงในธรรมนั้น  จะสำเร็จเป็นพระอรหันต์

ธรรมของพระพุทธองค์นั้น เป็น
สันทิฏฐิโก - ผู้ปฏิบัติ พึงเห็นได้ด้วยตนเอง
อะกาลิโก - ไม่จำกัดกาล
ปัจจัตตัง - ผู้ปฏิบัติ จะรู้ได้ด้วยตนเอง

มันก็เป็นความจริง นะครับ แต่มันไม่เกิดขึ้นจากการอ่าน ฟัง คิด นึก ตรึกตรอง วิเคราะห์

แต่มันเป็นผลมาจากการพิจารณาธรรมในขณะที่จิตมีสติ เป็นสมาธิ ได้เห็นธรรมนั้น จากวิปัสสนาปัญญา เท่านั้น เมื่อจิตมันเห็นความจริงในธรรม มันก็เบื่อหน่าย คลายความกำหนัด ยินดีในรูป-นาม นั้นไปของมันเอง

ท่านจะรู้ด้วยตัวเอง เช่นเดียวกับ การมีอริยะทรัพย์ เกิดขึ้นในจิตท่าน

สวัสดี

[Manop Klabdee]

เมื่อวาน ขณะนั่งอยู่บนเครื่องบิน และที่ทำงาน(ว่าง) ได้อ่านจนจบ  เลยได้มีโอกาสเทียบเคียงกับตนเอง  เพราะถือคติว่า เราจะเอาหนังสือไปแจกเขา เราต้องอ่าน พิจารณาก่อนว่า ดีจริง  ถูกต้องด้วยตนเองเสียก่อนจึงจะเอาไปให้

ใครอยากได้หนังสือทั้งสามเล่ม
- ใหม่แกะกล่อง
- แด่เธอผู้รู้สึกตัว
- จิตสดใสแม้กายพิการ

พี่สิงห์  จะเอาไปให้ เมื่อคุณหมอตุ่น(สมาคม) จัดงานเดือนมกราคม เป็นของขวัญปีใหม่  จากพี่สิงห์ ครับ



อาหารเช้าวันนี้ ต้องกินอย่างราชา เพราะเลือกได้(เคล็ดลับในการกินข้าว ผู้รู้ท่านให้กินผักสดก่อนเสมอ เพราะร่างกายต้องการเอนไซด์ จากผักสดก่อน เพราะช่วงที่ลำไส้จะดูดเอนไซด์จากอาหารนั้น มันมีความยาวน้อยมากต่อจากกระเพาะอาหาร)
และเช้านี้ ฝนตกไม่หยุดเลยที่นครศรีธรรมราช ท้องฟ้ามีแต่เมฆลอยต่ำ

สวัสดี

[suriya2513]

ผมไม่สะดวกที่จะจัดเลี้ยงในวันเกิดผมสำหรับปีนี้
แต่มีคนเตรียมจัดงานฉลองวันเกิดให้คนที่เกิดเดือนมกราคมแล้ว 1 งาน
คือจะจัดในวันเสาร์ที่ 24 มกราคม 2558 ที่พาร์ 3 ลาดพร้าว วังหิน
ก็จะร่วมๆ กันฉลองไปซะพร้อมๆ กัน เดือนละหนึ่งหน ก็น่าจะดี
เพราะการเดินทางไปไหนๆ สำหรับคนอายุมากๆ ไม่ใช่เรื่องสบายนัก
ขอบคุณมากครับที่ดำริขึ้นมา

[Manop Klabdee]

คุณหมอตุ่น  

จัดการก็แล้วกัน เอาอย่างไรเอากัน  ฟังเสียงส่วนใหญ่ก็แล้วกัน แต่พี่ทองอู่  คงไปไม่ได้มันไกลไป

 5555! ดร.สุริยา  เต๊ะปี๊ปไม่ดังแล้ว

อยู่กรุงเทพฯ  แล้วครับ

สวัสดี

[Manop Klabdee]

คนกลัวผี !

คนกลัวผีเกิดจาก สมัยเด็ก ๆ ผู้ใหญ่มักหรอกเด็กให้กลัวผี บอกเล่าเกี่ยวกับผีที่หน้ากลัว มาหรอกหลอน มาบีบคอ ....ทำให้เด็กเกิดความจำ เป็นภาพที่หน้ากลัวเกี่ยวกับคนตาย

เมื่อมาอยู่กับหีบศพ  ที่เผาศพ หรือเกี่ยวข้องกับคนตาย ถ้าอยูุ่คนเดียว หรือความมืด จิตจะเกิดการปรุงแต่งไปต่าง ๆ นา ๆ เห็นภาพในความจำ ทำให้กลัว  ถ้าใครจิตไม่แข็งลืมตัวก็จะเสียสติได้  มันเป็นความจำที่ฝังใจมาจากสมัยเด็ก ๆ คนเลยกลัวผี

ประกอบกับหนังผี ทำให้น่ากลัวขึ้นไปอีก คนเลยฝังใจเรื่องผี

ดังนั้น เราต้องมีสติ  ไม่หลงไปกับจิตที่ปรุงแต่ง  ไม่กลัวความมืด ไม่กลัวถ้าไม่พบผีจริง ๆ ด้วยสัจจวาจา เราก็จะเอาชนะจิตตนเองได้

เราต้องหยุดการคิดเรื่องผี ด้วยการมีสติที่กาย ตลอดเวลาให้ได้ เมื่อมีสติ ความคิดก็หยุด

การพิจารณาความตายอยู่เนือง ๆ จะทำให้เราไม่กลัวผี  ไม่กลัวความตาย เพราะเราก็ต้องตายไม่วันใดก็วันหนึ่ง  ดังนั้น เราต้องคิดว่าความตายมันเป็นเรื่องธรรมดา เราต้องพิจารณาอยู่เนือง ๆ ว่า เราต้องตายอย่างมีสติ  อะไรที่เรายังไม่ได้ทำก็เท่าเสียอย่าให้ค้างคาใจ  ทำให้หมดห่วง  เมื่อหมดห่วงก็จะทำให้เราตายจากไปด้วยการมีสติ ไม่มีอะไรกังวลทั้งสิ้น

เราหนีความตายไม่พ้น  เรามาฝึกการไม่กลัวผี  ไม่กลัวความตายกันเถอะ  ด้วยการพิจารณาการตายทุกวัน ในบทพิจารณาสังขาร

พระท่านก็ฝึก การกลัวด้วยการไปนอนค้างแรมตามป่าช้า ที่เปาศพ เพื่อให้เกิดความเคนชิน จนเป็นปกติ ก็จะปราศจากการกละวผีได้

สมัยพุทธกาลพระพุทธองค์ ก็เคยอยู่คนเดียว ในความมืด จ ตปรุงแต่งเรื่องความกลัว  แต่พระพุทธองค์ตั้งสัจจะวาจาว่า จะไม่ไปไหน ไม่กลัวไม่ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น ถ้าไม่ประสพด้วยตาตนเองไม่ไปไหนเด็ดขาด  ผลคือ ความกลัวก็หายไป  ผี ความกลัว มันยอมแพ้สติ  ขอให้มีสติ  ความกลัวก็จะไม่เกิดขึ้น เพราะมันจะไม่หลงอยู่ในความคิด

สวัสดี

[Manop Klabdee]

ภาพแบบนี้ ในเมืองไม่มีให้เห็น  นี่ละศรัทธาขอลพุทธศาสนิกชนม์บ้านนอก ชนบทไทย

[Manop Klabdee]

คนเราเมื่อจิตมันคิดขึ้นมา  ขอให้ท่านรู้สึกตัวหรือมีสติ ความคิดนั้นก็ดับไป แต่ท่านจะรู้ในความคิดที่มันคิดขึ้นมานั้น เพราะเราเห็นความคิด เมื่อรู้ความคิด เราไม่จำเป็นต้องทำในสิ่งที่จิตมันคิด  เราเป็นผู้ดู  เราจะทำตามที่มันคิดก็ต่อเมื่อมีมรรค ๘ เป็นตัวกลั่นกรองว่าสมควรกระทำหรือไม่ จะต้องเป็นประโยชน์ ประกอบด้วยเหตุ-ผล ที่สมควรจะกระทำ

เราไม่ได้เป็นทาสของความคิด  เราเป็นผู้เห็นความคิดนั้น จะทำตาม หรือไม่ทำตามก็ได้ ถ้าเหตุ-ผล ไม่สมควรและไม่เป็นไปตามวิถีของมรรค ๘

ราตรีสวัสดิ์ทุกท่สนครับ

[Manop Klabdee]

ทุกวัน พวกเราแสวงหาแต่ความสุขภายนอก มาบำรุง บำเรอ จิตตนเอง จนประสพแด่ความทุกข์ก็มาก ได้สมใจก็มาก  ถึงจะมีเงินทอง ทรัพย์สมบัติมากมายปานใด ก็ไม่รู้จักพอ ถึงจะมีอาหารดี ๆ บ้านสวย ๆ ใหญ่ ๆ มีความสุขทางกาม ก็มาก แต่ก็ยังไม่พ้นทุกข์อยู่ดี และอาจจะทุกข์มากกว่าเดิมเสียด้วยซ้ำ

เมื่อมันยังทุกข์อยู่ ทำไม?เราไม่หาอริยะทรัพย์ คือทรัพย์ภายใน ทรัพย์ที่เกิดขึ้นในจิตกันบ้าง ที่จะทำให้เราอยู่อย่างทุกข์น้อย ๆ หรือหมดทุกข์ไปได้เลย !

[Manop Klabdee]

อริยะทรัพย์นั้น มันอยู่ในรูป-นาม ที่ท่านคิดว่าเป็นตัวตนของท่านนี่ละ

ท่านลองทำความรู้สึกตัวให้เกิดขึ้นที่กายดูซิ  ท่านจะเห็นพฤติกรรมของจิตมนุษย์  เพราะจิตของมนุษย์นั้น มีพฤติกรรมเหมือนกัน แต่ต่างกันที่ความคิด ทิฐิ  จึงมีการกระทำที่ต่างกัน และชอบต่างกัน

ผลของการเจริญสติ หรือสร้างความรู้สึกตัว ท่านจะพบความจริงในธรรมทั้งหลาย  จิตท่านจะเปลี่ยนไปเพราะเห็นความจริงในธรนมนั้น อริยะทรัพย์  จะเริ่มบังเกิดขึ้น จิตท่านจะสงบ คิดน้อยลง มีสติมากขึ้น

อย่าลืม ความสุขที่ปรุงแต่งน้อย ๆ หรือไม่ปรุงแต่งเลย มันเป็นความสุขที่ปราณีต กว่า กามสุขไหน ?

ไม่เชื่อท่านลองปฏิบัติ ดูด้วยตัวท่านเองซิครับ

สวัสดี

[Manop Klabdee]

"ผัสสะ" เป็นประตูในการรับรู้  อยู่ที่ท่านจะรู้สึกตัวหรือไม่

ถ้าท่านรู้สึกตัว มีสติ ท่านสามารถวางใจของท่านได้

แต่ถ้าท่านหลงอยู่ในความคิด  ท่านก็จะไหล กระทำไปตามความคิด ที่ผัสสะ นั้น

การผัสสะนั้น เกิดขึ้น ทางอายตนะ(ทั้งอายตนะภายในและอายตนะภายนอก)

สวัสดี