23 พฤศจิกายน 2567, 21:06:29
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: 1 ... 500 501 [502] 503 504 ... 681   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: คุย กับ คุณมานพ กลับดี อดีตประธานชมรม ๓ สมัย  (อ่าน 3563872 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 33 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #12525 เมื่อ: 25 พฤษภาคม 2557, 09:40:22 »

อ้างถึง
ข้อความของ Manop  Klabdee เมื่อ 23 พฤษภาคม 2557, 18:14:04




คุณยาย ท่านนี้อายุ ๘๗ ปี อยู่บ้านคนเดียว ตัวคนเดียว วันนี้คุณยายแก  เผลออะไรไม่ทราบ ทำไฟไหม้บ้าน แต่แกก็มีสติสามารถหนีไฟออกมาจากบ้านได้ มีแต่ตัว ทุกอย่างไฟไหม้หมด

ทางโรงพยาบาลสิงห์บุุรีั คุณหมอพีร์(หลานชาย) และคุณวีรยา(น้องสาว) และะเจ้าหน้้าที่โรงพยาบาล ได้ไปเยี่ยมคุณยาย  และช่วยเท่าที่จะสามารถให้ได้  ตอนนี้ไม่มีที่อยู่

พี่สิงห์ เลยบอกน้องสาว ว่า จะขอช่วยเป็นเงิน  ถ้าคุณยายรับ  ก็จะขอบริจาคเงิน

ถ้าตัวเราแก่แบบนี้ก็คงมีโอกาส ไฟไหม้บ้านได้้ 
ใครจะช่วยคุณยาย ท่านนี้เรียนเชิญครับ  เหตุเกิดเมื่อช่วงเช้าวันนี้

ข่าวล่า ทางภาครัฐ จะสร้างบ้านให้  ตอนนี้กาชาดจังหวัดเข้ามาดูแล และนายทหารข้าราชการบำนาญให้มาอยู่บ้านชั่วคราว

คุณยาย  เสียดายเชี่ยนหมากเก่าแก่ของแกมาก ได้แต่คร่ำครวญ  ทางโรงพยาบาลเลยเข้ามาดูแลทางจืิต

สวัสดี

คุณยาย เขาใช้ชุดเชี่ยนหมากชุดนั้นมาเกินครึ่งชีวิต ย่อมต้องผูกพัน
อีกทั้งจะหาชุดใหม่ก็ยากเย็น เพราะคนไทยรุ่นใหม่ไม่นิยมกินหมาก-พลูแล้ว
เสียดายครับ ที่ผมไม่ได้สะสมเอาไว้ หากมีจะยกให้ครับ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #12526 เมื่อ: 25 พฤษภาคม 2557, 13:12:05 »

สวัสดีครับ คุณเหยง

กรณีแบบ ดร.สุริยา  นี้เกิดขึ้นบ่อยมาก ในยุโรป

นานมากกว่าสิบปี ผมไปบาเซโลน่า พรรคพวกโดนขโมย มาฉกกระเป็าที่สะพายไหล่ไป โดยมาหลายคน  คนหนึ่งทำทีขอความช่วยเหลือ อีกคนก็เอากระเป๋าไปเฉยเลย ในนั้นมีเงิน Passport นามบัตรโรงแรม และอะไรอีกหลายอย่างที่สำคัญ  ไปแจ้งสถานกงศุลเพื่อทำ Passport ใหม่ ไปแจ้งตำรวจ  ตำรวจบอกว่าไม่ต้องกังวล ขโมยที่ยุโรปจะเอาแต่เงิน เอกสาร Passport เขาจะคืนให้ ก็เป็นจริง ตกเย็น Taxi เอาเอกสารมาคืนที่โรงแรม และขอค่า Taxi

มันคงจะ case เดียวกัน เอาแต่เงิน เอกสารคืน

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #12527 เมื่อ: 25 พฤษภาคม 2557, 13:18:29 »

อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 25 พฤษภาคม 2557, 09:40:22
อ้างถึง
ข้อความของ Manop  Klabdee เมื่อ 23 พฤษภาคม 2557, 18:14:04




คุณยาย ท่านนี้อายุ ๘๗ ปี อยู่บ้านคนเดียว ตัวคนเดียว วันนี้คุณยายแก  เผลออะไรไม่ทราบ ทำไฟไหม้บ้าน แต่แกก็มีสติสามารถหนีไฟออกมาจากบ้านได้ มีแต่ตัว ทุกอย่างไฟไหม้หมด

ทางโรงพยาบาลสิงห์บุุรีั คุณหมอพีร์(หลานชาย) และคุณวีรยา(น้องสาว) และะเจ้าหน้้าที่โรงพยาบาล ได้ไปเยี่ยมคุณยาย  และช่วยเท่าที่จะสามารถให้ได้  ตอนนี้ไม่มีที่อยู่

พี่สิงห์ เลยบอกน้องสาว ว่า จะขอช่วยเป็นเงิน  ถ้าคุณยายรับ  ก็จะขอบริจาคเงิน

ถ้าตัวเราแก่แบบนี้ก็คงมีโอกาส ไฟไหม้บ้านได้้  
ใครจะช่วยคุณยาย ท่านนี้เรียนเชิญครับ  เหตุเกิดเมื่อช่วงเช้าวันนี้

ข่าวล่า ทางภาครัฐ จะสร้างบ้านให้  ตอนนี้กาชาดจังหวัดเข้ามาดูแล และนายทหารข้าราชการบำนาญให้มาอยู่บ้านชั่วคราว

คุณยาย  เสียดายเชี่ยนหมากเก่าแก่ของแกมาก ได้แต่คร่ำครวญ  ทางโรงพยาบาลเลยเข้ามาดูแลทางจืิต

สวัสดี

คุณยาย เขาใช้ชุดเชี่ยนหมากชุดนั้นมาเกินครึ่งชีวิต ย่อมต้องผูกพัน
อีกทั้งจะหาชุดใหม่ก็ยากเย็น เพราะคนไทยรุ่นใหม่ไม่นิยมกินหมาก-พลูแล้ว
เสียดายครับ ที่ผมไม่ได้สะสมเอาไว้ หากมีจะยกให้ครับ


สวัสดีครับ คุณเหยง

เชี่ยนหมากชุดโบราญ  จะทำด้วยหวาย และเครื่องเงิน  เมื่อก่อนของแม่ก็มี  คนแก่ย่อมผูกพันกับเชี่ยนหมาก เพราะมันต่องเคี้ยวหมากตลอดเวลา เพราะมันติด  ถ้าไม่เคี้ยวหมากมันจะหาว หรือที่เรียกว่ายันหมาก

ตอนนี้ทางจังหวัดกำลังสร้างบ้านให้คุณยาย  ทางโรงพยาบาลก็แวะไปเยี่ยมเพื่อไม่ให้ซึมเศร้า หรือเหงา  

นี่ละชีวิตผู้สูงอายุที่อยู่ตัวคนเดียว  ต้องระวังฟืนไฟ  ต้องหัดฝึกตนเองให้มีวินัย คือ ต้องปิดไฟ ปิดประตู  ถอดปลั๊กไฟ  ฝึกให้จิตมันรู้ หรือทำ Check List กับตัวเองให้เป็นนิสัย  ในสิ่งเหล่านี้ คือสิ่งที่จำเป็นในการดำรงชีวิต ประจำวัน เช่นกุญแจ  แว่นตา กระเป๋าสตางค์  ต้องเก็บเป็นที่ ที่เดิมเสมอ เพราะเราต้องแก่  เราต้องลืม  ถ้าไม่ฝึกเอาไว้ มีแต่ทุกข์

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #12528 เมื่อ: 25 พฤษภาคม 2557, 16:05:54 »



แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นที่จังหวัดน่าน ๒ ครั้งนั้น ผลสรุป ไม่ได้เกิดขึึ้นจากรอยเลื่อนปัว  แต่เป็นรอยเลื่อนที่เกิดขึ้นใหม่ยังไม่มีการตั้งชื่อ  กำลังส่งเจ้าหน้าที่ไปสำรวจรอยเลื่อนดังกล่าวอยู่

สิ่งที่น่ากลัวคือ รอยเลื่อนใหม่  แสดงว่าประเทศไทยนั้น คงไม่สุขเหมือนเดิมเสียแล้ว เพราะใต้พิภพประเทศไทย มีการสะสมพลังงานพร้อมที่จะเกิดแผ่นดินไหวได้ตลอดเวลา

ต้องระวังแล้วครับ

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #12529 เมื่อ: 26 พฤษภาคม 2557, 07:37:55 »



สวัสดีครับ ชาวซีมะโด่ง และแขกผู้มาเยือน ที่รักทุกท่่าน

วันนี้อยู่บ้าน ได้หุงข้าวใส่บาตรพระที่หน้าบ้าน

ช่วงนี้ ทุกท่านก็สุขใจที่สมใจจากคณะ คสช.

บางท่านก็ทุกข์ใจ ไม่สมใจจากคณะ คสช.

จะเห็นว่าความทุกข์ที่เกิดขึ้นนั้น มันเกิดจากความคิด ที่ท่านคิดกังวล  ปริวิตก เดือดร้อน ไปเองทั้งสิ้น เพราะไม่ได้สมดังใจที่ตนเองปราถนา  ทั้ง ๆ ที่ คสช. เขาก็ไม่ได้มาทำอะไรให้ท่านทางกายเลย

จะเห็นว่าความทุกข์เกิดจากจิตของตนเองที่ปรุงแต่งทั้งสิ้น และประกอบกับท่านหลงอยู่ในความคิดของท่าน มันก็จะออกมาทางการกระทำทางกาย วาจา และใจ ท่านทันที มีแต่ทุกข์

แต่ถ้าท่านเห็นความจริงจากจิตท่าน ท่านก็สามารถที่จะวางอุเบกขาลงได้ เพราะท่านรู้เท่าทันจิตของท่าน  ว่ามัันเป็นเช่นนี้เอง ท่านก็จะไม่ไปทุกข์กับสิ่งที่เกิดขึ้น อย่าลืม โลกธรรม ๘

มียศ  ก็เสื่อมยศ
ได้ลาภ  ก็เสื่อมลาภ
มีคนสรรเสริญ  ก็มีคนอิจฉา-ริษยา และนินทา
มีสุข  ก็ต้องได้รับทุกข์

ทุกอย่างมีสองด้านเสมอ  ไม่มีใครได้รับด้านเดียวไปจนตาย เพราะมันจะต้องเป็นไปตามกฏไตรลักษณ์ และตามเหตุ-ปัจจัย เสมอ

ใครเห็นธรรมในความจริงอันนี้ ก็สามารถที่จะวางอุเบกขาเสียได้

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #12530 เมื่อ: 26 พฤษภาคม 2557, 08:28:21 »



ข่าวเศรษฐกิจ

ต้องยอมรับความจริง หกเดือนที่ผ่านมาเศรษฐกิจของประเทศไทย ติดลบทำให้ประชาชนขาดกำลังซื้อ ไร้ทิศทางในการทำมาหากิน เพราะเมื่อรัฐบาลขาดอำนาจ กำลังซื้อของประชาชนมีน้อยก็ต้องใช้เงินเท่าที่จำเป็น นักลงทุนก็ไม่กล้ลงทุน ผลคือเศรษฐกิจติดลบ ไม่ขยายตัว

แต่ตอนนี้มีอนาคตที่ดีขึ้น คือ รัฐบาลของ คสช.กระตุ่นเศรษฐกิจทันทีจาก

๑. จ่ายเงินให้ค่าจำนำข้าวที่ค้างจ่าย เก้าหมื่นล้านบาท เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจภาคครัวเรือน กระจายรายได้ดีที่สุดจากกำลังซื้อของรากหญ้าที่เป็นประชากรส่วนใหญ่ของประเทศ

๒. มีนโยบาย ไม่ขึ้น Vat ให้คงอยู่ที่ 7% และไม่ขึ้นภาษีรายได้บุคคล

๓. รัฐบาล คสช. จะจัดทำงบประมาณปี ๒๕๕๘ ให้เสร็จทันก่อน ๑ ตุลาคม ๒๕๕๗ และโครงการรถไฟรางคู่ในโครงการ ๒ ล้านล้านบาท ที่ก่อประโยชน์จะทำทันที เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ  รวมทั้งเส้นทางคมนาคมระหว่างภาค(มอเตอร์เวย์)

๔. จะไม่กู้เงินเกินตัว สร้างภาระให้ลูกหลานในอนาคต จะกู้เท่าที่เต็มเพดานวงเงินกู้เท่านั้น

๕. จะตั้งสภาปฏิรูปมาควบคุมรััฐบาล  และตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูุญ มาดำเนินการให้มีรัฐธรรมนูญในการปกครองประเทศ และไม่มีธงแดงในแผ่นดินไทยมีแต่ธงไตรรงค์

๖. เร่งระบายข้าว รัฐต่อรัฐ  ขายขาดทุนก็ต้องยอมเพื่อเอาเงินมาใช้หนี้ ดีกว่าเก็บข้าวเอาไว้ให้เสื่อมคุณภาพ

นับเป็นทิศทางที่ดี  เศรษฐกิจของประเทศ จะได้เริ่มเคลื่อนตัวได้ มีทิศทางเสียทีไม่อึมคลึมอีกต่อไป

เราภาคเอกชนก็ต้องขยับ  เตรียมตัวแล้ว มิฉนั้นจะพลาดโอกาส เป็นรถไฟตกราง

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #12531 เมื่อ: 26 พฤษภาคม 2557, 10:20:00 »

พี่สิงห์


ช่วงนี้ไม่อยู่ในช่วงเลือกตั้ง การทำงานไม่ต้องผ่าน กกต. ก็ถือว่าโชคดีไปอย่างหนึ่ง ผ่านอะไรก็คงง่ายขึ้น
คสช.ยกอำนาจสภาผู้แทน และ วุฒิสภา ให้ประธาน คสช. จึงผ่านกฎหมายง่ายขึ้น
งบฯ ปี 2558 คงไม่ยากครับ สำนักงบทำ ประธาน คสช. ผ่านให้เป็นกฎหมายได้เลย

ระบายข้าวต้องทำต่อ เพื่อมิให้ข้าวสารในโกดังเสื่อมสภาพ และเอาเงินมาใช้หนี้ ดีกว่ากู้เงินซึ่งต้องเสียดอก
ส่วนราคาข้าวฤดูใหม่ ต้องทำใจ เว้นแต่"สต็อกข้าวจำนำ"มีปริมาณลดลงไปมาก ทุกอย่างก็จะกลับเข้าที่
หรือเกษตรกรชาวนาลดการปลูกลงไปบ้าง ก็ตะเป็นการควบคุมราคาไปในตัว
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #12532 เมื่อ: 26 พฤษภาคม 2557, 10:21:00 »

อ้างถึง
ข้อความของ Manop  Klabdee เมื่อ 25 พฤษภาคม 2557, 13:18:29
อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 25 พฤษภาคม 2557, 09:40:22
อ้างถึง
ข้อความของ Manop  Klabdee เมื่อ 23 พฤษภาคม 2557, 18:14:04




คุณยาย ท่านนี้อายุ ๘๗ ปี อยู่บ้านคนเดียว ตัวคนเดียว วันนี้คุณยายแก  เผลออะไรไม่ทราบ ทำไฟไหม้บ้าน แต่แกก็มีสติสามารถหนีไฟออกมาจากบ้านได้ มีแต่ตัว ทุกอย่างไฟไหม้หมด

ทางโรงพยาบาลสิงห์บุุรีั คุณหมอพีร์(หลานชาย) และคุณวีรยา(น้องสาว) และะเจ้าหน้้าที่โรงพยาบาล ได้ไปเยี่ยมคุณยาย  และช่วยเท่าที่จะสามารถให้ได้  ตอนนี้ไม่มีที่อยู่

พี่สิงห์ เลยบอกน้องสาว ว่า จะขอช่วยเป็นเงิน  ถ้าคุณยายรับ  ก็จะขอบริจาคเงิน

ถ้าตัวเราแก่แบบนี้ก็คงมีโอกาส ไฟไหม้บ้านได้้ 
ใครจะช่วยคุณยาย ท่านนี้เรียนเชิญครับ  เหตุเกิดเมื่อช่วงเช้าวันนี้

ข่าวล่า ทางภาครัฐ จะสร้างบ้านให้  ตอนนี้กาชาดจังหวัดเข้ามาดูแล และนายทหารข้าราชการบำนาญให้มาอยู่บ้านชั่วคราว

คุณยาย  เสียดายเชี่ยนหมากเก่าแก่ของแกมาก ได้แต่คร่ำครวญ  ทางโรงพยาบาลเลยเข้ามาดูแลทางจืิต

สวัสดี

คุณยาย เขาใช้ชุดเชี่ยนหมากชุดนั้นมาเกินครึ่งชีวิต ย่อมต้องผูกพัน
อีกทั้งจะหาชุดใหม่ก็ยากเย็น เพราะคนไทยรุ่นใหม่ไม่นิยมกินหมาก-พลูแล้ว
เสียดายครับ ที่ผมไม่ได้สะสมเอาไว้ หากมีจะยกให้ครับ


สวัสดีครับ คุณเหยง

เชี่ยนหมากชุดโบราญ  จะทำด้วยหวาย และเครื่องเงิน  เมื่อก่อนของแม่ก็มี  คนแก่ย่อมผูกพันกับเชี่ยนหมาก เพราะมันต่องเคี้ยวหมากตลอดเวลา เพราะมันติด  ถ้าไม่เคี้ยวหมากมันจะหาว หรือที่เรียกว่ายันหมาก

ตอนนี้ทางจังหวัดกำลังสร้างบ้านให้คุณยาย  ทางโรงพยาบาลก็แวะไปเยี่ยมเพื่อไม่ให้ซึมเศร้า หรือเหงา 

นี่ละชีวิตผู้สูงอายุที่อยู่ตัวคนเดียว  ต้องระวังฟืนไฟ  ต้องหัดฝึกตนเองให้มีวินัย คือ ต้องปิดไฟ ปิดประตู  ถอดปลั๊กไฟ  ฝึกให้จิตมันรู้ หรือทำ Check List กับตัวเองให้เป็นนิสัย  ในสิ่งเหล่านี้ คือสิ่งที่จำเป็นในการดำรงชีวิต ประจำวัน เช่นกุญแจ  แว่นตา กระเป๋าสตางค์  ต้องเก็บเป็นที่ ที่เดิมเสมอ เพราะเราต้องแก่  เราต้องลืม  ถ้าไม่ฝึกเอาไว้ มีแต่ทุกข์

สวัสดี


พี่สิงห์

คนแก่อายุมากทำ check list ไม่ได้แล้วครับ ความหลง ตาฝ้าฟาง อ่านหนังสือไม่ออก เป็นอุปสรรค
เขาจึงนิยมให้ลูกหลานมาอยู่เป็นเพื่อน คอยช่วยเหลือเกื้อกูลยามจำเป็น
รายที่ยังพอมีเงิน ก็อุปการะส่งเสีย หรือจะยกทรัพย์ให้เมื่อวายชนม์
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #12533 เมื่อ: 26 พฤษภาคม 2557, 11:41:50 »

สวัสดีครับ คุณเหยง

การทำ check list ไม่จำเป็นต้องใช้กระดาษจดบันทึก  

เราทำได้ด้วยการกำหนดในใจในสิ่งที่ต้องทำในการดำรงชีวิต เช่น รีดผ้าเสร็จ ต้องถอดปลั๊กเตารีดเก็บทันที และเคลื่อนอุปกรณ์ออกมาจากปลั๊ก  กุญแจบ้าน  กระเป็าสตางค์  แว่นตา ของใช้ประจำตัวอื่น ๆ  ต้องวางที่เดิมเสมอ  ก่อนออกจากบ้านต้องสำรวจสวิสไฟฟ้าว่าปิดหรือยัง ปิดประตูให้เรียบร้อย  ทำแบบนี้ทุกวัน  จนเป็นนิสัย  ถึงแก่มาก  แต่ฝึกจิตไว้้ดีแล้ว มันไม่ลืม มันจะคิดทำเองโดยอัตโนมัติเอง

ไม่เชื่อลองฝึกจิตตนเองดู  แล้วจะรู้ว่า สามารถทำได้จริง

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
ประทาน14
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2514
คณะ: เภสัชศาสตร์
กระทู้: 999

« ตอบ #12534 เมื่อ: 26 พฤษภาคม 2557, 18:02:27 »

คำแนะนำของพี่สิงห์ดีจริงๆครับคุณเหยง ผมลองฝึกทำแล้ว ช่วยลดการหลงลืมได้ครับ
แถมช่วยสร้างระเบียบให้ตัวเองด้วย..5555

 ชอบนะ ชอบนะ ชอบนะ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #12535 เมื่อ: 26 พฤษภาคม 2557, 18:51:00 »

อ้างถึง
ข้อความของ ประทาน14 เมื่อ 26 พฤษภาคม 2557, 18:02:27
คำแนะนำของพี่สิงห์ดีจริงๆครับคุณเหยง ผมลองฝึกทำแล้ว ช่วยลดการหลงลืมได้ครับ
แถมช่วยสร้างระเบียบให้ตัวเองด้วย..5555

 ชอบนะ ชอบนะ ชอบนะ

สวัสดีครับ คุณประทาน

ขอบคุณมาก

จิตมนุษย์นั้นฝึกได้ พระพุทธองค์ทรงตรัสเอาไว้

เราต้องสอนให้จิตมันรู้ จนเป็นนิสัยครับ

คุณเหยง  ไม่เคยบอกว่าตนเองต้องสีฟันเลย  แต่จิตมันทำเองโดยอัตโนมัติ เพราะฝึกจนเป็นนิสัย จิตมันจำได้แล้ว

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #12536 เมื่อ: 26 พฤษภาคม 2557, 19:46:47 »

สวัสดีครับคุณสมชาย

ช่วงนี้เป็นช่วงยุ่งยากมาก  พญามารต่างมารุมเร้าจิต

จึงเข้าใจแล้วว่า ทำไหม? หลวงพ่อ  ต่าง ๆ ท่านจึงเปิดสำนักสอนการปฏิบัติธรรม หรือสร้างวัด แทนที่จะปฏิบัติธรรมให้พ้นทุกข์ถาวร

ส่วนพี่สิงห์  ไม่มีโอกาสแบบหลวงพ่อท่านต่าง ๆ จึงยุ่งยากเป็นอย่างมาก

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #12537 เมื่อ: 26 พฤษภาคม 2557, 19:53:48 »

อ้างถึง
ข้อความของ Manop  Klabdee เมื่อ 26 พฤษภาคม 2557, 11:41:50
สวัสดีครับ คุณเหยง

การทำ check list ไม่จำเป็นต้องใช้กระดาษจดบันทึก 

เราทำได้ด้วยการกำหนดในใจในสิ่งที่ต้องทำในการดำรงชีวิต เช่น รีดผ้าเสร็จ ต้องถอดปลั๊กเตารีดเก็บทันที และเคลื่อนอุปกรณ์ออกมาจากปลั๊ก  กุญแจบ้าน  กระเป็าสตางค์  แว่นตา ของใช้ประจำตัวอื่น ๆ  ต้องวางที่เดิมเสมอ  ก่อนออกจากบ้านต้องสำรวจสวิสไฟฟ้าว่าปิดหรือยัง ปิดประตูให้เรียบร้อย  ทำแบบนี้ทุกวัน  จนเป็นนิสัย  ถึงแก่มาก  แต่ฝึกจิตไว้้ดีแล้ว มันไม่ลืม มันจะคิดทำเองโดยอัตโนมัติเอง

ไม่เชื่อลองฝึกจิตตนเองดู  แล้วจะรู้ว่า สามารถทำได้จริง

สวัสดี


พี่สิงห์

คนแก่มากแล้ว มักจะหลง-จะลืม ลืมแม้เชี่ยนหมากที่เพิ่งกิน แต่จะตามหา
จึงจำเป็นต้องมีเด็กคอยช่วยดูแล
การหุงต้ม คงต้อมี แต่คงไม่รัดผ้าเอาไว้ใส่แล้ว
เปิด / ปิด ไฟฟ้า เปิด / ปิด ทีวี ยังพอเป็นครับ เว้นแต่เผลอหลับไปก่อน
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #12538 เมื่อ: 26 พฤษภาคม 2557, 20:23:46 »

สวัสดีครับ คุณเหยง

ผมต้องช่วยตัวเอง  คงไม่ต้องให้ใครมาดูแลตอนแก่

ดังที่ได้ตั้งความปราถนาเอาไว้ ขอตายแบบพี่โฉม  ที่ยังเดินได้  ทำอะไรได้  บทจะตายเพียงล้มตัวนอนบนเตียงก็ตายไม่ร้องขอความช่วยเหลืออะไรเลย  หรือดิ้นรนทั้งสิ้น หน้าตาพี่โฉม  ไม่ได้ทรมารเลย เหมือนคนหลับธรรมดานี่ละ แต่ไม่หายใจเท่านั้น เพียงแต่ช่วงวาระสุดท้าย พี่สิงห์ขอมีสติว่าง ๆ เท่านั้น

จึงต้องฝึกตัวเองเอาไว้มาก ๆ เพื่อช่วยเหลือตนเอง  ไม่ร้องขอทั้งสิ้น

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #12539 เมื่อ: 27 พฤษภาคม 2557, 12:00:46 »



สวัสดีครับ ชาวซีมะโด่ง และแขกผู้มาเยือน ที่รักทุกท่าน

วันนี่อยู่บ้าน เช้าไปออกกำลังกายเดินตีกอล์ฟ ๑๘ หลุม เสร็จในเวลา 08:30 น.

เวลา10:30 น. ก็กลับมาถึงบ้าน ซักเสื้อผ้า และเดินไปตลาดลุงเพิ่ม ไปซื้ออาหารเพลมารับประทาน

อากาศร้อน และช่วงนี้ไม่มีอะไรต้องกระทำ  ไม่ได้ไปไหน เพราะต้องคิดเสมอ  ออกนอกบ้านก็ต้องใช้เงิน  จึงขออยู่บ้าน

เมื่อสักครู่ คุณหลาว  พี่ชาย ดร.มานะ  ที่ศรีษะเกษ ที่เคยเปิดคอร์สล้างพิษตับ  ได้ line มาคุยด้วย เพราะตั้งแต่มีม๊อป  ก็ไม่ไดจัดคอร์สล้างพิษตับอีกเลย  ก็ได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันในการดูแลร่างกาย  คุณหลาวตอนนี้มีปัญหา ไขมัน  แต่พี่สิงห์ไม่มี

คุณหลาว  ก็ได้ดูจิต  พี่สิงห์  แต่จริง ๆ ยังไม่เชื่อเรื่องนี้ นอกเสียจากประสพด้วยตนเองเท่านั้น

หน้าฝนยังไม่มา อากาศประเทศไทยจึงร้อนมาก  ผลตามมาคือ ใจเราก็จะวุ่นวายไปด้วย ก็ต้องมีสติ จะได้สงบ

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #12540 เมื่อ: 27 พฤษภาคม 2557, 14:13:20 »



ดร.สุริยา  และคุณสมชาย

หลวงพ่อสุรศักดิ์  ท่านอาศัยการสอนกรรมฐานปฏิบัติธรรม และการสร้างวัด ขยายสาขา เป็นเครื่องอยู่

หลวงพ่อ นักสายนักปฏิบัติธรรม ทั้งหลาย ท่านก็อาศัยการสอนการปฏิบัติธรรม และการสร้างวัด  ขยายสาขา เป็นเครื่องอยู่

ผมไม่มีโอกาสแบบท่าน  ผมต้องใช้ สูตตะ ในการเอาชนะมาร  กับการทำงาน ว่างก็เล่นกอล์ฟเพื่อรักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงตามเหตุ-ปัจจัย และการมีสติ-สัมปชัญญะ เป็นเครื่องอยู่

ชีวิตในแต่ละวัน มันเป็นไปไม่ได้ที่จะปฏิบัติธรรมเจริญสติ เป็นสมาธิ อยู่ทั้งวัน  แต่ทำให้มีสติ-สัมปชัญญะทั้งวันเป็นไปได้  ชีวิตนักปฏิบัติธรรม  จึงต้องหาอะไรมาทำ เป็นเครื่องอยู่บ้างในแต่ละวัน

จะเห็นว่างทางออกของนักปฏิบัติธรรม มีมากมายแล้วแต่จะเลือก เพราะมารมันผจญหนัก นั่นเองและเอาชนะมันไม่ได้

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #12541 เมื่อ: 27 พฤษภาคม 2557, 21:08:44 »

สวัสดียามค่ำครับ ชาวซีมะโด่ง ที่รักทุกท่าน

ช่วงนี้ ดร.สุริยา  ไม่มีกิจที่ต้องไปร่วมกับ กปกส. อีกแล้ว คงมีเวลาที่จะมาดูแลเวบของเราบ้าง และสมองของ ดร.สุริยา  ไม่ต้องคิดมาก เพราะสมใจที่ทางทหารยึดอำนาจการปกครองจากรัฐบาล  ดร.สุริยา  ก็ไม่ต้องเครียด  คงจะห่างไกลมะเร็งไปสักพักหนึ่งได้

ผมเอง Face book ไม่ถนัด ไม่ได้เข้าไปมากมายอะไรนัก

line ก็เหมือนกัน มีเฉพาะทักทายพี่-น้อง-หลาน-เหลน ในวงศ์ตระกูลทุกวันเท่านั่นเพียงแค่บอกให้รู้ว่าไปทำงานที่ไหน  อยู่อย่างไร และกล่าวคำว่าสวัสดี  ลืมไปพยายามสอดแทรกธรรม ไปด้วย

นอกนั่นจะสั่งงาน สอบถามการทำงาน และทำงานโดยใช้ทาง Line เป็นหลัก เพราะสามารถแก้ปัญหาได้เร็ว และมีรูปให้ดู ทันเหตุการ  ถึงจะอยู่ห่างกันก็ตาม

ผมพยายามให้แต่ละแผนกจัดกลุ่มทำงาน แก้ปัญหาใช้ line เป็นหลักเพราะสื่อสารได้รวดเร็ว เป็นลายลักษณ์อักษร และมีภาพประกอบ(เอกสารก็ส่งมาให้ดูทาง line ได้) จึงทำงานง่ายขึ้นมาก

ผมจะไม่เอา line ไปค้นอะไรมาแล้วก็ส่งต่อเด็ดขาด เพราะผมไม่เชื่อตามหลักกาลามสูตร และไม่เปิดดูด้วย เพราะมันสู้พระไตรปิฎกไม่ได้ จะส่งอะไรไปให้ จะเขียนเองเป็นหลักในสิ่งที่เราได้ทดลองกระทำแล้ว เห็นผลแล้วจึงบอก

พรุ่งนี้ ไปทำงานที่โรงงานบ้านแพ้ว  สมุทรสงคราม  มี morning talk กับคนงานพม่า คนงานแผนก Precast , Hollow core slab และ Plant Concreteเริ่มต้นที่ 07:00 น. เป็นต้นไป จึงต้องไปถึงโรงงานไม่เกิน 06:30 น. จะได้มีเวลารับประทานอาหารเช้า ที่เตรียมไปจากบ้าน เวลา 08:30 น. ต้องสอนหนังสือให้นักศึกษาที่มาฝึกงานให้มีความรู้ทางด้านคอนกรีตอัดแรง และ 10:00 น. ประชุม จึงไม่มีเวลาเลยทั้งสิ้น

ราตรีสวัสดิ์ทุกท่านครับ
      บันทึกการเข้า
สมชาย17
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,300

« ตอบ #12542 เมื่อ: 27 พฤษภาคม 2557, 21:28:02 »


สวัสดีครับ พี่สิงห์

การที่เราไม่ได้ปลีกวิเวก แต่เราสามารถ มีสติ สัมปชัญยะ ได้ตลอดวัน มันยากมาก

ผมฝึกปฏิบัติธรรม ไม่มีสิ่งเร้าภายนอกมารบกวน อาจจะมีสติรู้ตัวอยู่ 20% ก็มากแล้ว

พอเริ่มกลับเข้าสู่งาน ปกติ สิ่งรบกวนมันแยะ มีสติ รู้ตัวผมว่าเหลือแค่ 5%

นั่งสมาธิ ช่วงปฏิบัติธรรม 40รอบ เกิดปิติ 2-3 รอบ. มีสติรู้ตัวตลอดเวลา จิตไม่ส่งออกนอกเลย 1 รอบ
ที่เหลืออีก 36 รอบ ก็หลุดบ้าง สมาธิอยู่ไม่อยู่บ้าง สติหายไปบ้างไม่รู้ว่าจิตส่งออกนอกเมื่อไหร่ แต่รวมๆ ก็ สงบ สบาย

เดี๋ยวนี้ เมื่อกลับมาทำงาน  นั่งสมาธิ ที่บ้าน. ไม่มีสมาธิ สติตามรู้จิตก็น้อยลง
คิดฟุ้งซ่าน เรื่องอื่นๆ ที่ผ่านเข้ามา สติไม่ตามรู้ เลยครับ
ทำอะไรให้รู้ตลอดเวลามีสติกำกับตลอด ก็ไม่มี. ทำตามสัญชาตญาณ ชะเป็นส่วนใหญ่ เช่นเดิน หรือกินข้าว

ไม่ง่าย เลยนะครับ พี่สิงห์
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #12543 เมื่อ: 28 พฤษภาคม 2557, 04:53:12 »



สวัสดียามเช้าครับ ชาวซีมะโด่ง ที่รักทุกท่าน

เมื่อวานได้ line คุยกับบุคคล  คนหนึ่ง รู้เรื่องอริยะทรัพย์  รู้เรื่องการดูจิต มีพระไตรปิฎกฉบับมหามงกุฎฯ ได้ line มาถามการแยก ฌาน ที่ ๑ ๒ ๓ ๔

พี่สิงห์  ก็ได้ line ตอบคำถามนั้นไปและอธิบายในสิ่งที่เกิดขึ้น  
แทบไม่น่าเชื่อว่า บุคคลนั้น ยังไม่รู้เรื่อง สติ กับ ความคิด  
ไม่รู้ว่าสติ-ความคิดนั้น สามารถแยกออกจากกันได้  
ไม่รู้ว่า ถ้ามีสติิ มันจะไม่คิด  ถ้าหลงอยู่ในคิดจะมีแต่ทุกข์

นี่ละนักปฏิบัติธรรม  ส่วนมากจะเป็นอย่างนี้ละ
ก้าวแรกยังไม่รู้เลย ได้แต่หลงในความคิด
จึงเป็น ตัวเรา  ของเรา  เราเป็นนั่น  นั่นเป็นของเรา ไปหมด เศร้า

แต่ก็ยังดี   ได้ปฏิบัติธรรม  ได้ความสงบ  และช่วงที่ปฏิบัติธรรมก็ละอกุศล ชั่วคราว

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #12544 เมื่อ: 28 พฤษภาคม 2557, 06:25:17 »




 สวัสดีครับ ชาวซีทะโด่ง ที่รักทุกท่าน

พี่สิงห์  ถึงโรงงานบ้านแพ้วเรียบร้อยแล้ว ในเวลา 06:20 น. รถไม่ติด ใช้เวลาเดินทางเกือบหนึ่งชั่วโมง ก็มีเวลากินข้าวเช้า

ทุกครั้งที่จะกินข้าว ตักข้าวเข้าปาก จิตมันก็จะเตือนทันที ต้องกินอย่างมีสติ เวลาเคี้ยวให้รู้สึกตัว

สวัสดี




เจ้านาย ได้ซื้ออาโวกาโด สั่งแม่บ้านเอาไว้ให้เอามาให้อาจารย์มานพ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #12545 เมื่อ: 28 พฤษภาคม 2557, 06:50:58 »

สวัสดีครับ คุณสมชาย

พี่สิงห์  ว่าคุณสมชาย ถ่อมตนหรือเปล่า !
การกฏิบัติธรรม  มันเป็นปัจจัตตัง คือรู้ได้เฉพาะตน  คนอื่นไม่สามารถรู้ได้ ว่าเกิดอะไรขึ้นกับตน มองภายนอกไม่ออก  แต่ตนเองรู้ดี

ฉันใดฉันนั้น เวลาเราโกหก  พูดเท็จ  ทำอะไรผิด  คนอื่นไม่รู้  แต่ตัวเราเองจะรู้  ยกเว้นพวกหลงอยู่ในความคิดมาก ๆ ก็ไม่รู้ตัวเหมือนกัน

ต้องไป morning talk แล้วครับ

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #12546 เมื่อ: 28 พฤษภาคม 2557, 21:10:49 »

สวัสดียามค่ำครับ ชาวซีมะโด่ง ที่รักทุกท่าน

การทำงานนั้น ถ้าจะทำให้เกิดความสุข และประสพความสำเร็จ  เราต้องรักงานที่เราทำ พระพุทธองค์ท่านทรงสอนไว้ในอิทธิบาท ๔ ย่อมเป็นจริงเสมอ

แต่มีอีกสิ่งหนึ่งในทางปฏิบัติ ที่พี่สิงห์  ใช้กับตนเอง และสอนให้พนักงานเอาไปปฏิบัต้ คือ เราต้องทำงานแบบเราเป็นเจ้าของกิจการ  ไม่ทำงานแบบเจ้านาย(นายจ้าง) และไม่ทำงานแบบลูกน้อง

การทำงานแบบเราเป็นเจ้าของนั้น เราจะรู้ได้เองว่าจะต้องกระทำอะไรบ้าง  และในคณะเดียวกันเราก็จะรู้ว่าเราจะปฏิบัติตนที่ดีกับลูกน้องได้อย่างไร ที่จะทำให้เขาทำงานให้เราอย่างเต็มกำลังความสามารถ  มันเป็นแง่คิดหรือทัศนคติในการทำงานแบบหนึ่ง

ส่วนการทำงานแบบลูกน้ันคือ ทำงานแบบรอรับคำสั่งอย่างเเดียว และไม่รับผิดชอบในการทำงาน มันก็เป็นทัศนคติที่ไม่สมควร

ส่วนการทำงานแบบนายจ้างนั้น  สั่งอย่างเดียว  ทำตามใจตนเอง มัก็เป็นอีกทัศนคติหนึ่ง ในการทำงาน

ท่านเลืือกเอาเอง ว่าท่สนจะทำงานแบบไหน

แต่ทำงานแบบผม มันเหนื่อยมาก ครับ

ราตรีสวัสดิ์ทุกท่านครับ
      บันทึกการเข้า
สมชาย17
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,300

« ตอบ #12547 เมื่อ: 28 พฤษภาคม 2557, 21:18:12 »


สวัสดีครับ พี่สิงห์

ผมไม่ได้ถ่อมตัว. แต่ผมมีสติรู้ตัว ว่ากำลังทำอะไรอยู่ ไม่มาก เผลอบ่อย
เช่นเดิน จะเดินไปใหน รู้จุดหมายปลายทาง เพราะกำหนดจิตไว้แล้ว
แต่ขณะเดิน ก้าวเท้าซ้าย ขวา ส่วนใหญ่ไม่รู้ตัว ไม่มีสติกำกับ จิตไม่อยู่กับการเดินเลย คิดอะไรไปเรื่อย
บางครั้งจะเดินชนกับผู้อื่นด้วยซ้ำ
เวลากินข้าวเหมือนกัน ช้อนตักข้าวใส่ปากบางครั้งรู้ บางครั้งไม่รู้ตัว. การเคี้ยวอาหาร การรับรู้รสชาด การกลืนอาหาร
เรียกได้ว่า ทำตาม สัญชาตญาน ก็ว่าได้

จึงบอกได้ว่ามีสติกำกับทุกอิริยาบท น้อยมาก

เห็นผู้หญิงสวย เดินผ่าน  จิตคิดไปไกลเลย กว่าสติจะตามมากำกับ. คิดไปไกลแล้ว

ผมจึงสรุปตามที่ผมประเมินตัวเอง เรื่องสติ รู้ตัวทั้วพร้อม  ผมเองน้อยมากครับ  ไม่ได้ถ่อมตัวเองครับ
      บันทึกการเข้า
สมชาย17
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,300

« ตอบ #12548 เมื่อ: 28 พฤษภาคม 2557, 21:22:32 »


เรื่องการกินข้าวแบบมีสติ

ที่พี่สิงห์ เคยแนะนำไว้ ได้ผลดี โดยให้ใช้มือข้างที่ไม่ถนัดตักข้าวกิน
ถ้าไม่ใช้สติกำกับ ข้าว กับข้าว หกหมด

การใช้มือข้างไม่ถนัด ทำให้มีสติ ดีขึ้นมากครับ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #12549 เมื่อ: 29 พฤษภาคม 2557, 05:01:22 »

สวัสดีครับ คุณสมชาย

อย่างที่ว่ามันเป็นปัจจัตตัง  คือรู้ได้เฉพาะตน
แต่พี่สิงห์  เชื่อในคำสอนของพระพุทธองค์  จิตมนุษย์นั้นฝึกได้ 
ขอให้มีศรัทธา  ตั้งใจจริง ฝึกสติระลึกที่สติปัฏฐาน ๔ เรื่อย ๆ จิตมันก็มีที่เกาะเอง คือจิตมันรู้  จิตมันตื่น  แยกออกมาจากกาย สามารถเห็นความคิด มีความรู้สึกตัว แยกสติ-คิดออกจากกัน หรือ เห็นด้วยจิตภายในว่า ไม่ใช้ตัวกู ไม่ใช่ของกู กูไม่ได้เป็นนั่น และนั่นไม่ใช่ของกู (กู ในที่นี้คือ รูป  เวทนา  สัญญา  สังขาร  วิญญาณ)

ลองพยายามฝึกความรู้สึกตัวเจริญสติให้มาก ๆ ย่อมสามารถมีสติมากขึ้นได้

สวัสดียามเช้าครับ
      บันทึกการเข้า
  หน้า: 1 ... 500 501 [502] 503 504 ... 681   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

ทำไมหอพักนิสิตจุฬาจึงเป็นดินแดนมหัศจรรย์            " ไม่ได้เป็นแค่หอให้นอนพัก  แต่เป็นบ้านอบอุ่นรักให้อาศัย  ไม่เป็นแค่ที่ซุกหัวยามหลบภัย  แต่สร้างใจให้เข้มแข็งแกร่งการงาน"  <))))><