คุย กับ คุณมานพ กลับดี อดีตประธานชมรม ๓ สมัย

[Manop Klabdee]

กำนันสุเทพ  ปิดห้าแยกลาดพร้าว  เป็นผลดีกับคนที่อยู่ใกล้เคียงแบบผม คือ ถนนโล่งอย่างเช้าวันนี้ เวลา 07:15 น.มานั่ง Taxi ไปดอนเมือง ถนนโล่ง ดีมาก

ส่วนร้านค้า ขายของไม่ดี เพียงแค่ไม่กี่วัน  ไม่อดตายหรอกครับ
เซ็นทรัลเปิด  คนน้อยก็ดีเซ็นทรัลไม่เจ้ง  คนมา Shopping น้อย เป็นการประหยัดเงินในกระเป๋า เป็นผลดีในการเก็บออม ไม่จ่ายก็อยู่ได้ดี

ตอนอยู่บนสะพานลอย มีหญิงชรามาก มาขอทาน พี่สิงห์ เลยให้ทานด้วยความเต็มใจ ก็ได้รับพรอย่างดีจากใจเช่นกัน เพราะต่างฝ่ายต่างเป็นผู้ให้ด้วยใจจริงทั้งสองฝ่าย

สวัสดี

[สมชาย17]

ขอ Happy birthday พี่ป๋อง ที่กระทู้นี้ด้วยครับ

ขอให้พี่ป๋อง มีสุขภาพกายที่แข็งแรง และจิตใจเบิกบานแจ่มใส

เป็นขวัญใจของน้องๆ ต่อไปนานๆ นะครับ. ขอให้มีความสุข มากๆนะครับ

[Manop Klabdee]

สวัสดีครับ ชาวซีมะโด่ง และแขกผู้มาเยือน ที่รักทุกท่าน

วันนี้ขณะนั่ง Taxi มาดอนเมือง ได้ฟังเพลงคาราบาว ที่มีเนื้อร้องเป็นที่มาของธงไตรรงค์ สีน้ำเงิน สีขาว สีแดง ที่เน้นความสามัคคีของคนในชาติ

แต่หลายปีที่ผ่านมาสังคมไทยแตกเป็นฝักฝ่ายชัดเจน ไม่ฟังเหตุผล ไม่รู้ว่าควรไม่ควร ไม่สนใจความจริง มีแต่ศรัทธาในคน แต่ขาดศีลธรรม ในการศรัทธานั้น

เพราะคน คนเดียว ที่จิตประกอบไปด้วย ลาภ  ยศ  สุข  สรรเสริญ

เพราะคน คนเดียวถึงทำให้ประเทศไทย แตกแยกทางความคิดร้าวลึก ไม่มีใครยอมใคร

เพราะคน คนเดียว ถึงกับทำให้ประเทศชาติไม่ก้าวไปข้างหน้า

 เพราะคน คนเดียว ประเทศไทยจึงเป็นเช่นนี้

เพราะคน คนเดียว .... อีกมากมายนักที่เป็นปัจจัยแห่งความฉิบหาย

ถ้าอยู่ในยุคโบราณ เราคงเสียกรุงเป็นครั้งที่สามไปแล้ว เพราะคน คนเดียวจริง ๆ

ก็ต้องเชื่อเรื่องกรรม

ใครทำกรรมดีก็ตาม  ทำกรรมชั่วก็ตาม  ย่อมได้รับผลของกรรมนั้นเสมอ

เมื่อกรรมเก่าหมดลง  กรรมใหม่ก็จะบังเกิดผลในเร็ววันนี้

คิดได้อย่างนี้ จิตก็สงบ

สวัสดี

[Manop Klabdee]

		อ้างถึง			ข้อความของ Manop  Klabdee เมื่อ 16 มกราคม 2557, 21:14:08
	วันที่ ๑๗ มกราคม วันเกิด ดร.สุริยา  ทัษนียานนท์ เนื่องในวาระ ครบรอบวันเกิดของ ดร.สุริยา  ทัศนียานนท์ วันที่ ๑๗ มกราคม ดร.สุริยา  มีคุณูปการ กับ www.cmadong.com เป็นอย่างมาก ผมก็ขออวยพรให้ ดร.สุริยา  มีอายุ  วรรณะ  สุขะ  พละ  มีเงิน-มีทอง งานอะไรที่ไปรับเขามาละลงได้ก็จงละเสีย จงรักชีวิตให้มาก เหลือเวลาไม่มากนักแล้ว   จงหาสิ่งที่ตัวเองรัก  ตัวเองชอบ  และปล่อยวางได้แล้ว ขอให้มีความสุข  ครับ

วันนี้เป็นวันเกิด ดร.สุริยา  
เรามาระลึกถึง ดร.สุริยา กันครับ

สวัสดี

[Manop Klabdee]

พี่สิงห์  อยู่นครศรีธรรมราช เรียบร้อยแล้ว การเดินทางปลอกภัย

นครศรีธรรมราช มีฝนตก  แดดแรง

อากาศร้อน  ผิดกับกรุงเทพฯ ที่อากาศเย็น

วันนี้กินข้าวเพลที่โรงแรมทวินโลตัส

สวัสดี

[Manop Klabdee]

มหาธัมมสมาทานสูตร

ความไม่สมหวังเกิดจากอะไร ?

ครั้งหนึ่งที่วัดเชตวัน  พระพุทธองค์ตรัสเรียกภิกษุทั้งหลายมาเข้าเฝ้า  ทรงถามภิกษุเหล่านั้นว่า คนส่วนมากต้องการให้สิ่งที่ไม่พึงประสงค์เสื่อมสิ้นไป  ต้องการให้สิ่งที่พึงประสงค์เจริญพอกพูนแทนที่  แต่ทั้ง ๆ ที่ตั้งความหวังไว้อย่างนั้น คนเราก็ไม่สมหวัง  สิ่งที่ไม่ต้องการกลับเจริญพอกพูน  สิ่งที่ต้องการกลับไม่มี  ทราบไหมว่า เป็นเพราะอะไร ?

ภิกษุเหล่านั้นทูลขอให้ทรงอธิบายโปรด

ทรงให้คำตอบว่า ปุถุชนผู้ไม่ได้สดับ  ไม่เข้าใจคำสอนของพระอริยเจ้า หรือคำแนะนำของสัตบุรุษ  ไม่รู้จักสิ่งที่ควรเสพ-ไม่ควรเสพ  ควรคบ-ไม่ควรคบ  เมื่อไม่รู้ก็เสพที่ไม่ควรเสพ  ไม่เสพสิ่งที่ควรเสพ  คบสิ่งที่ไม่ควรคบ  เมื่อเป็นอย่างนั้น  สิ่งที่ไม่พึงประสงค์ก็เจริญพอกพูน  สิ่งที่พึงประสงค์กลับไม่มี  นั่นก็เพราะเขาไม่รู้ตามความเป็นจริงว่าอะไรเป็นอะไร(ยถาตํ  อวิทฺทสุโน)

ส่วนอริยสาวก...ไม่เป็นอย่างนั้น  รู้ว่าอะไรควรเสพ-ไม่ควรเสพ  ควรคบ-ไม่ควรคบ  เมื่อรู้ก็เลือกเสพเลือกคบอย่างถูกต้อง  ดังนั้น สิ่งที่พึงประสงค์จึงเจริญพอกพูน  สิ่งที่ไม่พึงประสงค์จึงไม่มี  ทั้งนี้ เพราะท่านรู้ตามความเป็นจริง(ยถาตํ  วิทฺทสุโน)

[Manop Klabdee]

สำหรับการรู้ว่าอะไรควรเสพ-อะไรไม่ควรเสพ
และอะไรควรคบ-อะไรไม่ควรคบ นั้น ตามความเห็นของพี่สิงห์ นั้น รู้ได้สองทางคือ

รู้จากการภาวนาเจริญสติ  คอยติดตามจิตหรือความคิด ด้วยตนเอง  ก็สามารถที่จะรู้ได้ว่าอะไรควรเสพ-อะไรไม่ควรเสพ และรู้ว่าอะไรควรคบ-อะไรไม่ควรคบ นั้น ประการหนึ่ง

และอีกประการหนึ่งนั้น นำคำสอนของพระพุทธองค์ ไปปฏิบัติ ก็สามารถที่จะรู้ได้ว่าอะไรควรเสพ-อะไรไม่ควรเสพ และอะไรควรคบ-อะไรไม่ควรคบ  

ดังนั้นจึงมีความจำเป็นที่เราจะต้องศึกษาจากพระไตรปิฎก ให้จิตมันรู้ เมื่อรู้แล้วก็สามารถนำไปใช้ได้เวลาประสบ

สวัสดี

[Manop Klabdee]

		อ้างถึง			ข้อความของ Manop  Klabdee เมื่อ 17 มกราคม 2557, 16:52:48
	มหาธัมมสมาทานสูตร ความไม่สมหวังเกิดจากอะไร ? ครั้งหนึ่งที่วัดเชตวัน  พระพุทธองค์ตรัสเรียกภิกษุทั้งหลายมาเข้าเฝ้า  ทรงถามภิกษุเหล่านั้นว่า คนส่วนมากต้องการให้สิ่งที่ไม่พึงประสงค์เสื่อมสิ้นไป  ต้องการให้สิ่งที่พึงประสงค์เจริญพอกพูนแทนที่  แต่ทั้ง ๆ ที่ตั้งความหวังไว้อย่างนั้น คนเราก็ไม่สมหวัง  สิ่งที่ไม่ต้องการกลับเจริญพอกพูน  สิ่งที่ต้องการกลับไม่มี  ทราบไหมว่า เป็นเพราะอะไร ? ภิกษุเหล่านั้นทูลขอให้ทรงอธิบายโปรด ทรงให้คำตอบว่า ปุถุชนผู้ไม่ได้สดับ  ไม่เข้าใจคำสอนของพระอริยเจ้า หรือคำแนะนำของสัตบุรุษ  ไม่รู้จักสิ่งที่ควรเสพ-ไม่ควรเสพ  ควรคบ-ไม่ควรคบ  เมื่อไม่รู้ก็เสพที่ไม่ควรเสพ  ไม่เสพสิ่งที่ควรเสพ  คบสิ่งที่ไม่ควรคบ  เมื่อเป็นอย่างนั้น  สิ่งที่ไม่พึงประสงค์ก็เจริญพอกพูน  สิ่งที่พึงประสงค์กลับไม่มี  นั่นก็เพราะเขาไม่รู้ตามความเป็นจริงว่าอะไรเป็นอะไร(ยถาตํ  อวิทฺทสุโน) ส่วนอริยสาวก...ไม่เป็นอย่างนั้น  รู้ว่าอะไรควรเสพ-ไม่ควรเสพ  ควรคบ-ไม่ควรคบ  เมื่อรู้ก็เลือกเสพเลือกคบอย่างถูกต้อง  ดังนั้น สิ่งที่พึงประสงค์จึงเจริญพอกพูน  สิ่งที่ไม่พึงประสงค์จึงไม่มี  ทั้งนี้ เพราะท่านรู้ตามความเป็นจริง(ยถาตํ  วิทฺทสุโน)

ถือปฏิบัติอย่างผู้รู้กับผู้ไม่รู้ มีผลต่างกัน

ทรงยกหลักแห่งธรรมสมาทาน ๔ อย่าง เป็นแนวทางอธิบายเรื่องต่อไปนี้ว่า

๑. การถือปฏิบัติสิ่งที่ปัจจุบันเป็นทุกข์  และต่อไปก็ให้ผลเป็นทุกข์ก็มี  คนที่ไม่รู้หลักข้อนี้ตามความเป็นจริง  ก็เสพมัน ไม่งดเว้นมัน  ผลก็คือ สิ่งที่ไม่พึงประสงค์เจริญพอกพูน  สิ่งที่พึงประสงค์เสื่อมสิ้นไป

๒. การถือปฏิบัติสิ่งที่ปัจจุบันเป็นสุข  แต่ต่อไปให้ผลเป็นทุกข์ก็มี  คนที่ไม่รู้หลักข้อนี้ตามความเป็นจริง ก็เสพมัน ไม่งดเว้นมัน  ผลก็คือ สิ่งที่ไม่พึงประสงค์เจริญพอกพูน สิ่งที่พึงประสงค์เสื่อมสิ้นไป

๓. การถือปฏิบัติสิ่งที่ปัจจุบันเป็นทุกข์ แต่ต่อไปให้ให้ผลเป็นสุขก็มี คนที่ไม่รู้หลักข้อนี้ตามความเป็นจริง ก็เสพมัน ไม่งดเว้นมัน  ผลก็คือ สิ่งที่ไม่พึงประสงค์เจริญพอกพูน สิ่งที่พึงประสงค์เสื่อมสิ้นไป

๔. การถือปฏิบัติสิ่งที่เป็นปัจจุบันเป็นสุข และต่อไปก็ให้ผลเป็นสุขอีกก็มี คนที่ไม่รู้หลักข้อนี้ตามความเป็นจริง ก้เสพมัน ไม่งดเว้นมัน ผลก็คือ สิ่งที่ไม่พึงประสงค์เจริญพอกพูน สิ่งที่พึงประสงค์เสื่อมสิ้นไป

สำหรับผู้รู้ตามความเป็นจริงในเรื่องธรรมสมาทาน ดังกล่าว ก็เสพมัน งดเว้นมัน เขาย่อมสมหวังในสิ่งที่ปราถนา

[Manop Klabdee]

กุศลกรรมบถ 10


ประพฤติดีด้วยกาย 3 ประเภท
ประพฤติดีด้วยกาย นั้นชื่อว่า กายกรรม คือ ทำกิจการงานด้วยกายอย่าให้ทุกข์เกิดขึ้นแก่ผู้อื่น กายกรรมที่ให้เกิดทุกข์แก่ผู้อื่นนั้น มี 3 ประการ
1.   คือ อย่าเบียดเบียนร่างกายของท่าน คือ อย่าฆ่า อย่าฟัน อย่าทุบ อย่าตี ร่างกายของท่านผู้อื่นโดยที่สุด เว้นถึงสัตว์ติรัจฉานได้ยิ่งเป็นการดี ตรงภาษาบาลีที่ว่า ปาณาติปาตาเวรมณี ฯ
2.   คือ อย่าเบียดเบียนทรัพย์สมบัติข้าวของของท่านผู้อื่น คืออย่าลักขโมย อย่าฉ้อโกง อย่าเบียดบังเอาข้าวของของท่านผู้อื่น ตรงภาษาบาลที่ว่า อทินฺนาทานาเวรมณี ฯ
3.   คือ อย่าแย่งชิงลักลอบด้วยอำนาจของกายในหญิงที่ท่านหวงห้าม ตรงภาษาบาลีที่ว่า กาเมสุมิจฉาจาราเวรมณีฯ

ประพฤติดีด้วยวาจา 4 ประเภท
ประพฤติดีด้วยวาจา 4 ประเภท (วจีกรรม 4 ประเภท) นั้นได้แก่
1.   คือ ให้กล่าวแต่วาจาถ้อยคำที่สัตย์ที่จริง ให้เว้นจากวาจาที่เท็จไม่จริงเสีย ตรงกับภาษาบาลีที่ว่า มุสาวาทาเวรมณี ฯ
2.   คือ ให้กล่าวแต่วาจาถ้อยคำอันสมานประสานสามัคคีให้ท่านดีต่อกัน ให้เว้นวาจาส่อเสียดยุยงเสีย ตรงกับภาษาบาลีที่ว่า ปิสุณายาวาจาเวรมณีฯ
3.   คือ ให้กล่าวแต่วาจาถ้อยคำอันอ่อนโยน ให้เกิดความยินดีแก่ผู้ฟัง ให้งดเว้นวาจาที่หยาบคายขึ้นกูขึ้นมึง บริภาษตัดพ้อหยาบๆ คายๆ ให้ผู้ฟังได้รับความเดือดร้อนต่างๆ เสีย ตรงกับภาษาบาลีที่ว่า ผรุสฺสายวาจายเวรมณี ฯ
4.   คือ ให้กล่าวแต่วาจาถ้อยคำที่เป็นไปกับด้วยประโยชน์ ให้เว้นวาจาที่เหลวไหล คือพูดเล่นหาประโยชน์มิได้เสีย ตรงกับภาษาลีที่ว่า สมฺผปฺปลาปาวาจายเวรมณี ฯ

ประพฤติดีด้วยใจ 3 ประเภท
ประพฤติดีด้วยใจ 3 ประเภท (มโนกรรม 3 ประเภท) นั้นคือ
1.   คือ ให้ระวังเจตนากรรม ให้สัมประยุตต์ด้วยเมตตาอยู่เสมอ คือ ความดำริของใจ อย่าให้ลุอำนาจแห่งโลภะ คืออย่าเพ่งเอากิเลสกามและวัตถุกามของท่านผู้อื่น ตรงกับภาษาบาลีที่ว่า อนภิชฺฌา โหติฯ
2.   คือ ให้ระวังเจตนากรรมให้สัมประยุตต์ด้วยกรุณาอยู่ทุกเมื่อ อย่าให้โทสะ พยาบาท เข้าครอบงำได้ ตรงกับภาษาบาลีที่ว่า อพฺพยาปาโท โหติฯ
3.   คือ ให้ระวังเจตนากรรมให้สัมประยุตต์ด้วย มุทิตา อุเบกขา อยู่ทุกเมื่อ อย่าให้ไหลไปในทางผิด ให้เห็นตรงตามคลองธรรมทั้ง 10 นี้อยู่ทุกเมื่อ ตรงกับภาษาบาลีที่ว่า สมฺมทิฎฺฐิโก โหติฯ


อกุศลกรรมบถ 10

มีนัยตรงกันข้ามกับกุศลบถ 10

[Manop Klabdee]

คุณน้องหนุ๋งหนิ๋ง  กลับถึงบ้านที่เยอรมันนี เรียบร้อยแล้ว

เดินทางปลอดภัยแล้ว

สวัสดี

[Manop Klabdee]

มองเห็นธงไตรรงค์แล้ว ฉุกคิดขึ้นมา เพราะคนไทย มองธงชาติไทยไม่ออก ไม่เห็นธรรม หลงผิด ไม่สำนึกในสิ่งที่กว่าจะมาเป็นชาติไทย ทั้งๆ ที่ตนเอง เกิดในแผ่นดินไทย ไม่สำนึกในสิ่งที่บรรพบุรุษ สร้างเอาไว้  

สีแดงคือชาติไทย กว่าจะมีชาติไทยได้มั่นคงมาถึงปัจจุบันเราเสียเลือดเนื้อไปเท่าไร และการขาดความสามัคคีของคนในชาติ ทำให้เราต้องเสียกรุง เสียดินแดน  เราได้สำนึกบ้างไหม? กับบุญคุณของคนที่เสียสละ ที่ได้ตายไปเพื่อสร้างชาติไทยให้มั่งคง

สีขาวคือ พุทธศาสนา เมื่อใดที่ประชาชนคนไทย ขาดศีลธรรม ละศีล๕ เมื่อนั้นจะมีแต่ความริษยา ตระหนี่ อันเป็นสาเหตุแห่งความฉิบหาย แตกแยกทางความคิด วิวาท ก่อให้เกิดความร้าวฉานในสังคม ไม่เชื่อใจซึ่งกันและกัน เห็นแต่ประโยชน์ส่วนรวม ไม่คำรพกฏหมายและประเพณีวัฒนธรรมที่เคยกระทำกันมา  มีแต่ความชิงดีชิงเด่น ขอให้ได้เปรียบ ขอให้ได้มประสงค์ โดยไม่คำนึงถึงแนวทางที่ได้มาว่าอยู่ในศีลธรรมหรือไม่ จงนำพุทธศาสนากลับมาเถิด คนไทยจะได้สุขดังเดิม ทุกวันนี้คนไทยหลงอยู่กับสิ่งศักดิ์สิทธิ์  หลงอยู่ในความคิด ศรัทธาไปในสิ่งที่ไม่สมควร ละเลยศีลธรรมอันดี พุทธาสนาเท่านั้นที่จะแก้ได้

สีน้ำเงิน คือพระมหากษัตริย์ ทุกประเทศต้องมีเสาหลักแห่งจิตใจนอกจากศาสนา กษัตริย์ไทยแต่โบราณ พระองค์ทรงเป็นผู้นำในการปกครอง ปกป้องแผ่นดิน ให้ประชาชนอยู่สุข ไม่เห็นแก่ตัว

แต่ระบอบประชาธิปไตย เป็นเรื่องของคนที่เห็นประโยชน์ส่วนตน คือลาภ ยศ สุข สรรเสริญ อิจฉา  ริษยา ตระหนี่ โดยมีประโยชน์ส่วนรวม และประชาชน เป็นข้ออ้างให้ได้มาด้วยอำนาจ แต่แฝงไปด้วยจิตที่เป็นอกุศล เห็นประโยชน์ส่วนตนและพวกพ้อง และดูถูกประชาชนเสียด้วยซ้ำ

จริงอยู่ผู้นำที่ดีก็มี  แต่มีน้อยเหลือเกินในโลกของประชาธิปไตย

ขอให้พิจารณาธงไตรรงค์ให้เห็นธรรมด้วยเถิด

สวัสดี

[Manop Klabdee]

ขอเพียงนักการเมืองไทย  ข้าราชการไทย คนไทย มีเพียง ศีล ๕ หรือ กุศลบถ ๑๐ เท่านั้น

ประชาธิปไตยที่แท้จริง ที่ทุกคนยอมรับ จะบังเกิดขึ้น

ความแตกแยกทางความคิด  การวิวาท การเห็นประโยชน์ส่วนตน จะหมดไป

ความสงบสุข จะบังเกิดขึ้นทันที

ลองพิจารณาดู

[Manop Klabdee]

อาหารเช้า วันนี้ ที่โรงแรมทวินโลตัส

อาทิตย์ที่ผ่านมา ครูปุ๊ก  เป็นครูสอนเต้นอาโรบิก ป่วยเป็นไข้หวัด ไม่มาสอนหนึ่งอาทิตย ที่ฟิตเนสของโรงแรมทวินโลตัส

ครูปุ๊ก สอนแอร์โรบิก ทั้งเช้า-เย็น แต่ก็ยังเป็นไข้หวัด  แสดงว่าการออกกำลังกายแบบครูปุ๊ก ทุกวันเช้า-เย็น  ก็ยังไม่ใช่คำตอบทางด้านสุขภาพ

พี่สิงห์  ออกกำลังกายแบบชิกง-โยคะ เดินจงกรม นอนหัวค่ำ กินสองมื้อ แบบที่เห็น  ร่างกายยังแข็งแรงกว่าครูปุ๊ก เสียอีก ทั้งๆ ที่พี่สิงห์ อายุมากกว่าครูปุ๊ก สามสิบปี

ลองพิจารณาดูครับ

พี่สิงห์ อยู่สนามบินนครศรีธรรมราช รอขึ้น Nok Air กลับ กทม.

สวัสดี

[khesorn mueller]

		อ้างถึง			ข้อความของ Manop  Klabdee เมื่อ 17 มกราคม 2557, 09:00:45
	อ้างถึง ข้อความของ Manop  Klabdee เมื่อ 16 มกราคม 2557, 21:14:08 วันที่ ๑๗ มกราคม วันเกิด ดร.สุริยา  ทัษนียานนท์ เนื่องในวาระ ครบรอบวันเกิดของ ดร.สุริยา  ทัศนียานนท์ วันที่ ๑๗ มกราคม ดร.สุริยา  มีคุณูปการ กับ www.cmadong.com เป็นอย่างมาก ผมก็ขออวยพรให้ ดร.สุริยา  มีอายุ  วรรณะ  สุขะ  พละ  มีเงิน-มีทอง งานอะไรที่ไปรับเขามาละลงได้ก็จงละเสีย จงรักชีวิตให้มาก เหลือเวลาไม่มากนักแล้ว  จงหาสิ่งที่ตัวเองรัก  ตัวเองชอบ  และปล่อยวางได้แล้ว ขอให้มีความสุข  ครับ วันนี้เป็นวันเกิด ดร.สุริยา  เรามาระลึกถึง ดร.สุริยา กันครับ สวัสดี

แล้ว,พี่ดร.สุริยาไปไหนเหรอคะ?
หนิงจะได้ขอร่วมอวยชัยให้พี่เค้า
ว่า,หากปราศจากพี่ป๋อง
เวบบอร์ดก็ไม่มี,ไม่มีเวบบอร์ด
พี่สิงห์ก็ไม่ได้เขียนอะไรดีๆให้พวกเราอ่าน
หนิงก็จะอดแปะหนัง แปะฟิล์ม แปะรูป..
อดเจอะพี่เหยง พี่ติ๋ม พี่ต้อย พี่สมชาย
เห็นมั้ยคะ...ว่าความสำคัญของพี่ป๋อง
ต่อเนื่องขนาดไหน!

สุขสันต์วันเกิดคะพี่ป๋อง
ตัวเลขที่เพิ่มขึ้น หมายถึงอะไรดีๆที่เพิ่มขึ้นคะ
หาworryไม่...เชื่อหนิง!

[khesorn mueller]

พี่สิงห์ที่เคารพ,
ตอนนั่งเครื่อง TG Airbus 380กลับเยอรมันนี
หนิงชมหนัง นเรศวร I+II ทั้งสองภาค
แล้วฉุกคิดอะไรๆหลายๆอย่าง..เช่น,ถ้าพม่าเกรียงไกร
เก่งจริง พม่าก็ควรมีประเทศที่พัฒนาสืบทอดมาจนทุกวันนี้?
ทำไมจึงถอยหลังลงสู่ความล้าหลัง พลเมืองยากแค้นต้อง
อพยพหนีไปทำงานในเมืองไทย
ในหนังเค้าพูดถึงไทยยุคคศ.1500-sถูกคะว่าหักหลังกันเอง
ทรยศกันเอง แก่งแย่งกันเอง จึงเสียกรุงฯ และก็แปลกคะ
ที่ล่มสลายก็สร้าง ก็ฟื้นฟูสู่อิสรภาพได้อีก
คนไทยช่วงนี้, 500ปีให้หลัง กำลังแบ่ง กำลังแยกกันคะ
มีความเกลียดชังเป็นที่ตั้ง น่ากลัวคะ ต่างชาติคอยจ้อง!
ทั้งจ้องเข้าชุบมือเปิบ หรือจ้องสมน้ำหน้า..อะไรก็แล้วแต่
ต้องขบคิดคะ คิดเพื่อส่วนรวมให้มาก
หนิงท่องอยู่ที่ภูเก็ต ได้เห็นอะไรมากมายว่าบางทีคนเรา
มองกันที่เปลือกนอก ที่ผิวพรรณหน้าตา คนที่นั่นบางทีรูปชั่ว
ตัวดำ อัปลักษณ์ แต่พูดด้วย คุยด้วย เค้าคมมากคะ!รู้อะไร
ไม่กลัวไม่เกรง ไม่ป้อ ไม่แห่แหน  เจ้าของรถเช่าบังกาโล
โทรมๆตัวดำๆคุยกะแกทุกวันหนิงทึ่งจัด แกนั่งเครื่องTG
ขึ้นมาประท้วงสองรอบแล้วคะ!!แกบอกจะขึ้นมาอีก รอเมียมารับงาน
ต่อก่อน เมียแกไปเที่ยวกะเพื่อนสาววัยปลาย50จึงขาดคนดูแล...
เดี๋ยวนี้มองหน้าสวยๆอย่างเดียวไม่พอคะ ตัวจริงยิ่งอัปลักษณ์
ยิ่งลักยิ่งขโมย ข้ออ้างทำมาหากินเก่งอย่างเดียว...ใช้ไม่ได้คะ!

[khesorn mueller]

เมื่อวันที่ 1 ที่ไปเยี่ยมแม่ที่บางบัวทอง
พี่ไข่-กมล พี่ชายหนิง,ที่เป็นรุ่นพี่อำนวยศิลป์พี่สิงห์
ทั้งยังเป็นรุ่นพี่วิศวกรรม จุฬาฯพี่ด้วย,ได้มาเยี่ยมแม่
พี่ไข่เปิดclipการเมืองที่สำนักข่าวลาว แถลงให้คนเค้าฟัง
เกี่ยวกะสถานการณ์เมืองไทย...ฟังแล้ว,แทนที่เราจะโมโห
กลับหัวเราะจนงอหาย ไม่ใช่ในเนื้อข่าว..แต่เป็นภาษาคะ!!
ภาษาที่เรียบง่าย ทว่าตรงๆจริงใจของพี่น้องลาว..
ทำให้สถานการณ์ แทนที่จะเครียดserious กลายเป็นยืดเส้น
ผ่อนคลายกล้ามเนื้อท้อง

<a href="http://www.youtube.com/v/LxDGiLt1Q5c?hl=de_DE&amp;amp;version=3" target="_blank">http://www.youtube.com/v/LxDGiLt1Q5c?hl=de_DE&amp;amp;version=3</a>

http://www.youtube.com/watch?v=LxDGiLt1Q5c
http://youtu.be/LxDGiLt1Q5c

[Manop Klabdee]

Nok Air พาพี่สิงห์  กลับถึงบ้านเรียบร้อยแล้ว ล่าช้ากว่ากำหนดสิบห้านาที

Taxi จากดอนเมืองมาบ้าน รถไม่ติดและผู้โดยสารไม่มี ไม่ต้องยืนรอรถ Taxi เลย

ถึงบ้านแล้วครับ

สวัสดี

[Manop Klabdee]

สวัสดีค่ะ คุณน้องหนุ๋งหนิ๋ง ที่รัก

พี่ ดร.สุริยา  เข้าไม่เข้าเวบ เขากำลังฝึกการปล่อยวาง

เปิดฟังแล้ว เป็นเรื่องขำ ๆ แบบภาษาลาว

สวัสดีค่ะ

[khesorn mueller]

พี่สิงห์ที่เคารพ,
หนิงเจอะพี่กุศลที่ข้างกำแพง..แถวท่าพระจันทน์
รีบถ่ายรูป ขอพี่เค้านำมาแปะในเวบแล้วด้วยคะ

[Manop Klabdee]

สวัสดีค่ะ คุณน้องหนุ๋งหนิ๋ง ที่รัก

รู้สึกว่า ดร.กุศล  จะไปวัดมหาธาตุ กำแพงวัดพระแก้ว บ่อยมาก  ไม่รู้ไปทำอะไร  ไม่กล้าถาม

เห็นภาพเธอไปชมวัดใน กทม. แล้ว กลับมาถามตัวเองทำไมเวลาว่างอยู่กรุงเทพฯ ไม่ปชมบ้าง

ครั้งสุดท้ายที่ไปวัดพระแก้ว  แต่ไม่ได้ไปกราบคือ ไปไหว้สมเด็จย่า  ซึ่งมันก็นานมาแล้ว

ยิ่งไปกราบพระแก้วมรกต น่าจะมี ๒๐ ปี ขึ้นไป แต่ตั้งใจไว้แล้วว่า วันที่ ๕ กุมภาพันธ์ จะไปวัดพระแก้วไปสวดมนต์เย็น ๗ ตำนาน ที่กรมศาสนาจัดขึ้นที่วัดพระแก้ว เพื่อถวายในหลวง และเพื่อเป็นสิริมงคล  เขาจะจัดทุกวันที่ ๕ เวลา สี่โมงเย็น มีการถ่ายทอดสดทางทีวี ด้วย

ค่ำนี้ราตรีสวัสดิ์ทุกท่านครับ

สวัสดี 

[khesorn mueller]

พี่สิงห์ที่เคารพ,
แวะกรุงเทพทุกที เราจะไปชมวัดทุกครั้งคะ
กวามที่หนิงว่าวัดคล้ายๆกัน เลยจำไม่ได้วัดไหนเป็นวัดไหน
อย่างวัดพระแก้ว มีพระแก้วมรกต ไปเมื่อมกรา 1994
วัดอรุณฯปีนขึ้นโบสถ์เพราะเขาให้ปีนได้..
วัดโพธิ์ 3-4รอบพาแฟนหนิงไปนวดคะ..
วัดราชบพิตรที่โบสถ์สวยๆ..
ทุกวัดที่เค้าแนะนำฝรั่งให้ไป แฟนหนิงตามเก็บทีละวัดละวัด
ไปเดินกะเค้านี่ เดินจริง เดินครบ เดินเก็บละเอียดคะ
หลายชั่วโมง!

[เหยง 16]

อากาศยังหนาวเย็นอยู่ แถมด้วยลมพัดแรง ด้วยแรงกดอากาศสูงจากจีนที่แผ่ลงมาถึงปลายสัปดาห์นี้
สุขภาพจึงสำคัญยิ่งในช่วงนี้

พยากรณ์อากาศ ประจำวันอาทิตย์ที่ 19 มกราคม 2557
ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น.  บริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงจากประเทศจีนแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนอย่างต่อเนื่องจนถึงวันที่ 23 มกราคม 2557 ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศหนาวเย็นลงโดยทั่วไป อุณหภูมิจะลดลง 6-8 องศาเซลเซียส และมีน้ำค้างแข็งได้บางพื้นที่บริเวณเทือกเขาสูงในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่วนคลื่นลมในอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้นโดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและเรือเล็กในบริเวณอ่าวไทยตอนล่างควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่ 19-22 มกราคม 2557 นี้ไว้ด้วย
 
พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.

ภาคเหนือ อากาศหนาวกับมีหมอกในตอนเช้า และอุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิต่ำสุด 11-15 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 25-29 องศาเซลเซียส
สำหรับบริเวณยอดดอย อากาศหนาวจัดถึงหนาวจัดกับมีน้ำค้างแข็งในบางพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 2-9 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม. 

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ  อากาศหนาวกับมีลมแรง อุณหภูมิจะลดลง 3-5 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิต่ำสุด 11-15 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 25-27 องศาเซลเซียส
สำหรับบริเวณยอดภู อากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 2-9 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
 
ภาคกลาง  อากาศเย็นถึงหนาวกับมีลมแรง อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิต่ำสุด 13-15 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27-29 องศาเซลเซียส
สำหรับบริเวณเทือกเขา อากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10-14 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. 

ภาคตะวันออก  อากาศเย็นถึงหนาวกับมีลมแรง อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิต่ำสุด 14-20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-30 องศาเซลเซียส
สำหรับบริเวณเทือกเขา อากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10-14 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร 

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)  อากาศเย็นในตอนเช้า โดยมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่
ส่วนมากทางตอนล่างของภาค
อุณหภูมิต่ำสุด 17-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-30 องศาเซลเซียส
อ่าวไทยตอนบนตั้งแต่จังหวัดสุราษฏร์ธานีขึ้นมา : ลมตะวันออกเฉียงเหนือ
ความเร็ว 20-35 กม/ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
ส่วนอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป : ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม/ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร 

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) อากาศเย็นในตอนเช้า
อุณหภูมิต่ำสุด 22-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร 

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล  อากาศเย็นกับมีลมแรง อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิต่ำสุด 17-19 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27-29 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. 

[Manop Klabdee]

สวัสดีครับ คุณเหยง  คุณน้องหนุ๋งหนิ๋ง ชาวซีมะโด่ง และแขกผู้มาเยือน ที่รักทุกท่าน

เช้าวันนี้ พี่สิงห์ มาออกกำลังกายยามเช้าด้วยการตีกอล์ฟที่สนาม President มาถึงสนาม 05:50 น. ยิ่งสายอากาศยิ่งหนาว และมีลมแรง หนาวมากเช้านี้ ขนาดพี่สิงห์ ใส่เสื้อลองจอห์นเป็นเสื้อในยังหนาวเลยครับ

อยู่นครศรีธรรมราช อากาศร้อนชื้น ฝนตก มาเจออากาศหนาว กทม. เลยแพ้อากาศ จมูกบวมหายใจลำบาก มีน้ำมูกด้วย ต้องกินยา CPM แก้แพ้อากาศ หายใจลำบากครับ บางทีอาจจะเป็นหวัดเจ็บคอผสมโรงได้เหมือนกัน อากาศมันเปลี่ยนมากสำหรับพี่สิงห์  กลางคืนหายใจจมูกเดียว เพราะโรคเก่ากำเริบ คือโพรงจมูกมันบวมปิดรูจมูก รักษามาไม่หาย ก็ต้องทนเอาเท่านั่นครับ

อากาศหนาว ลมแรง อยู่กลางแดดยังหนาวลมครับ

สวัสดี

[เหยง 16]

พี่สิงห์


เมื่อวันศุกร์ที่ 17 ผมไปที่อำเภออู่ทอง สุพรรณบุรีมา
คนที่นั่นบอกว่า เวลานี้เมื่อปีหลายปีก่อน จนถึงปี 2555 มีฝนตก, ปีที่แล้ว 2556 มีฝนเป็นละออง,
แต่ปีนี้หนาวเฉียบ เพราะลมแรง และไม่เคยเกิดมาก่อนด้วย
นี่คือสิ่งที่ชาวบ้านจับสังเกตุไว้ ซึ่งก็ตรงกับที่รับรู่และสัมผัสมาว่า อากาศเปลี่ยนแปลงไปครับ

[Manop Klabdee]

อากาศหนาว มีแสงแดด ลมแรง ทำให้นึกถึงสมัยเป็นเด็ก จะไปกลางทุ่งนา ไปเก็บพุดทราที่ล่วง(ลมแรงทำให้พุดทราล่วง กลางทุ่งนาตามหัวคันนาจะปลูกพุดทราพื้นเมืองเอาไว้ในนา) เก็บข้าวตก (ข้าวที่ชาวนาเก็บเกี่ยวไม่หมด คนไม่มีไร่นา คนแก่ ก็มาเก็บข้าวตกเอาไปกิน ถ้าอยู่คนเดียวแบบชาดทับ ข้าวตกสามารถกินได้ทั้งปีแต่มีข้อเสียคือ มันมีหลายพันธ์) นอกจากนี้ก็เก็บดอกงิ้วเอาไปตากแห้งทะธูป และขึ้นมาขามเทศตามชายคลองรับประทาน

สาเหตุต้องมีวิถีชีวิตแบบนี้เพราะ ตลาดไม่มีขนมปัง ไม่มีอะไรเยอแยะ มีแต่ขนทกรกกล้วยแขก แต่ต้องใช้สตางค์ แม่ไม่มี ดังนั้นการหาปลไม้ตามฤดูกาลเอามารับประทาย จึงทำให้ท้องอิ่ม ทุกคนเขาก็ทำกันแบบนี้ เก็บของตกดิน ไม่มีใครว่า แต่ถ้าขึ้นเจ้าของเขาว่าได้ ไม่ดีและก็ไม่มีใครทำแบบนั้น

มันเป็ววิถีชาวบ้าน อยู่แบบพอเพียง ไม่ต้องใช้เงิน แต่มันไม่มีแล้ว ณ ปัจจุบัน

สวัสดี