27 พฤศจิกายน 2567, 20:53:28
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: 1 ... 443 444 [445] 446 447 ... 681   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: คุย กับ คุณมานพ กลับดี อดีตประธานชมรม ๓ สมัย  (อ่าน 3584595 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #11100 เมื่อ: 25 พฤศจิกายน 2556, 18:38:49 »

สวัสดีครับ ชาวซีมะโด่ง และแขกผู้มาเยือน ที่รักทุกท่าน

มีอะไรเกิดขึ้นกับบ้านเมืองบ้าง  ผมไม่รู้เลยครับ  ผมอาจจะเป็นคนเห็นแก่ตัว

แต่ผมก็ไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่รัฐบาล และ สส.พรรคเพื่อไทย กระทำ  อะไรที่ผิดกฏหมาย ประเพณี ทำเพื่อประโยชน์ส่วนตนผมไม่เห็นด้วย

แต่ในฐานะผู้ปฏบัติธรรม รักษาศีล ก็ต้องปล่อยวางบ้าง แต่ถ้ามันจำเป็นต้องแสดงออก  ผมก็จะไม่รีรอเลยเหมือนกัน  แต่มันยังไม่ถึงเวลา ได้แต่เอาใจช่วย

ผมพยายามไม่ทำให้ใครเดือดร้อนเพราะผม  ผมไม่ดูทีวี  เพราะไม่อยากรับรู้อะไรมากนัก  หนังสือพิมพ์ก็ไม่อ่าน  ไม่อยากรับรู้ เพราะเมื่อรับรู้มันอดที่จะคิดไม่ได้

ขออยู่แบบไม่รับรู้ ถึงมันจะเป็นเพียงก้อนหินทับหญ้าก็ตาม

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #11101 เมื่อ: 25 พฤศจิกายน 2556, 21:04:48 »

อ้างถึง
ข้อความของ Manop  Klabdee เมื่อ 25 พฤศจิกายน 2556, 16:50:50
อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 25 พฤศจิกายน 2556, 15:31:55
อ้างถึง
ข้อความของ Manop  Klabdee เมื่อ 25 พฤศจิกายน 2556, 08:03:16


ยืนเอียงมาครึ่งวัน ก็ดีเหมือนกัน  ขอบคุณมากครับ


สำหรับรถ Toyota Yaris คันที่ผมซื้อ
เพื่อยุติผลกระทบที่ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน จากผลที่ผมไม่ยอมรับรถ
มีด้วยกันหลายท่านมาก และเพื่อนฝูงก็เป็นกังวลกับผมมาก
ผมจึงขอยุติปัญหาทั้งหมด ที่ตัวผม

ผมยินดีรับคืน  ไม่เอาเรื่อง ถือว่าเป็นกรรมเก่า ที่ผมได้เคยกระทำไว้
ขอรับกรรมนั้นแทน  วันอังคาร หวังว่าคงจะไปรับรถมาได้
เพราะไม่มีรถใช้มาเกือบสองอาทิตย์แล้ว

ไม่ก่อประโยชน์เลย

สวัสดี

พี่สิงห์


ไม่ใช่จนมุมครับ หากเอากลับบ้านแล้ว เกิดอาการแบบนี้อีก อะไรจะเกิดขึ้นต่อไป
เมื่อไม่ประสงค์จะเึคลม เกิดแบบนี้อีก ก็คือ รับสภาพ ออกค่าซ่อมครับ
ขอหนังสือรับรอง ก็ต้องได้ มีอายุรับประกับ 2 หรือ 30,000 กม. ก็ต้องมี
ผมไม่เห็นมีใครมันเดือดร้อน กรณีที่พี่ร้องเรียนเลย
หากเป็นพนักงานของ Toyota เดือดร้อน ก็เพราะมันเอาของไม่ดีมาขายให้เราไง ??
และถูกจับได้ รถเกิดอาการเร็วกว่าที่คาดคิด มันก็ต้องรับกรรมไป ทำไมต้องเป็นเรา ??

หรือพี่สิงห์ จนมุมเองต่างหาก เพราะอยากใช้รถ ไช่หรือไม่ ??

รอมาแล้ว ต้องรอต่อครับ แต่ช่วงรอ ต้องร้องเรียน
มันขายรถไม่ออก มันต้องแก้ปัญหาครับ


สวัสดีครับ คุณเหยง

ขอบคุณมากที่ติชม บอกข้อเสนอแนะ มา

Toyota เขาประกัน 100,000 กิโลเมตร หรือ ๓ ปี อยู่แล้ว

แต่ผมขอให้ทางโรงงาน Toyota มาตรวจสอบอีกครั้งให้ใหม่ อะไรที่แก้ไขไปนั้นเปลี่ยนให้ใหม่หมด ให้อยู่ในสภาพเดิม เหมือนออกมาจากโรงงาน และขอให้ทาง Toyota ทำหนังสือรับรอง เรื่องความปลอดภัย และรับรองว่าเหตุการณ์แบบนั้นมันจะไม่เกิดขึ้นมาอีก

พี่สิงห์  ไม่ได้จนมุม  ไม่ได้ทุกข์  เพราะไม่ได้คิวิตกกังวลใด ๆ
จะไปตีกอล์ฟ ก็นั่ง Taxi  ไปได้
จะไปทำงานที่สระบุรี ก็มีคนมารับ 
จะไปทำงานที่สมุทรสาคร ก็มีคนมารับ 
จะไปสนามบินดอนเมืองเพื่อไปทำงานที่นครศรีธรรมราช ก็ไป Taxi
ผิดจากนี้ไม่มีที่ไป และไม่รู้จะไปทำไม ไม่มีอะไรต้องทำอีกทั้งสิ้น ใครอยากให้ทำอะไรเขาก็มารับ

อยู่บ้านจนชินแล้วได้เวลากิน เราก็หุงข้าวของเรากิน เราก็เดินออกกำลังกายที่หน้าบ้านของเราได้
ทีวี  ก็ไม่ได้ดู  หนังสือพิมพ์ ก็ไม่อ่าน  internet ก็ไม่ใช่นักท่อง net เพลงก็ไม่ได้ฟัง

ได้ถามตัวเองว่า เราปฏิบัติธรรมเพื่ออะไร? เพื่อคลายความยึดมั่นถือมั่น ไม่ใช่หรือ  นี่เรากำลังหลงอยู่ในความคิด ยังอยากมี อยากเป็นอยู่อีกหรือ เราเห็นคนที่เดือดร้อน คือพนักงานของ Toyota ขนาดรองผู้จัดการดูแลการซ่อมก็โดนนายต่อว่า หาว่าไม่ควรตอบอย่างนั้น เห็นพนักงานที่ทำผิดโดนลงโทษ เห็นพนักงานฝ่ายขายที่ไม่รู้อะไรเลย ก็โดนเจ้านายตำหนิ เห็นแต่ความวุ่นวาย ไม่จบไม่สิ้น ทั้งหมดนั้น มามาจบที่เราได้  ถ้าเราไม่เอาเรื่องเสียคน

วันพุธ ไปทำงานก็มีคนมารับ วันพฤหัสบดี-ศุกร์ไป นครศรีธรรมราช กลับมาก็ไปอินเดีย อีก ๑๓ วัน ไม่ได้ใช้รถเลย ทุกวันนี้ไม่ได้ไปไหนเลย  ถ้าไม่ไปทำงาน  ไม่ไปแข่งกอล์ฟ ก็ไม่เป็นไร

อยากจะหยุดความวุ่นวาย  ไม่อยากให้ใครเดือดร้อนเพราะเรา  เลยถือว่ามันเป็นกรรมของเราเท่านั้น
ก็ได้บอกทุกท่านไปว่า ขอให้เอาสิ่งที่เกิดขึ้นกับผมนี้เป็นบทเรียน  อย่าให้ไปเกิดกับใครเลย เพราะจะไม่มีใครให้อภัยแบบผม แน่นอน

มันก็มีเท่านี้จริง  ๆคุณเหยง  ผมไม่อย่าให้ใครเดือดร้อน  ผมเดือดร้อนคนเดียวไม่เป็นไร  ยอมรับได้

คุณบุญยงค์  เจ้านายที่เอเซีย ก็บอกจะเอารถมาให้ แต่ผมไม่รับ  หลานชาย รถก็ว่าง ผมก็ไม่รับ Toyota จะให้รถผมใช้ ผมก็ไม่รับ  ผมถือว่า ถ้าไม่มีรถ ผมอยู่ไม่ได้  ก็ไม่ต้องถือศีล ปฏิบัติธรรม เสียดีกว่า

มีเท่านี้จริง ๆ ครับ คุณเหยง  ขอหยุดที่ตัวเอง  ใครจะเอารัดเอาเปรียบ ถ้าเราอยู่ได้ ก็ปล่อยมันไป มีแต่ทุกข์ ครับ

ขอบคุณมาก ๆ ที่คิดแทนผม เพียงแต่ผมพอแล้ว

วันนี้อยู่บ้านก็ได้แต่ดูจิตตนเอง พวกแดงมานั่งคุยกันทั้งวัน  ผมก็รับฟัง แต่ก้ไม่รู้เขาคุยอะไรกัน ผมก็รีดผ้าของผมไป ฟังเสียงธรรมหลวงพ่อชาของผมไป  เพื่อให้เสียงมันไปกลบเสียงพวกแดง และมันก็ไม่ได้ยินที่เขาพูดคุยกัน เพราะผมไม่ได้ไปฟังมัน

นี่ก็ได้เวลาออกกำลังกายแล้วครับ

สวัสดี


พี่สิงห์ครับ

เจ้านายมันด่าลูกน้อง แล้วทำไมมันไปมาพูดกับพี่สิงห์เองล่ะว่าเกิดอะไรขึ้น แก้ไขได้อย่างไร
มันด่าเพราะมันเห็นว่า ช่างไม่สามารถโน้มน้าวพี่สิงห์ได้
ให้อ้ายคนที่ด่ามันมาคุยกับพี่สิงห์ซิ มันจะกล้าไหม??
มันด่าทำไม ?? ให้อ้ายคนนั้นมันพูดโน้มน้่าวพี่ซิว่า สมควรรับรถเพราะอะไร
อย่าไปมองว่าคนอื่นเดือดร้อนเพราะพี่สิงห์
ถ้าที่ยอมมันน คนอื่นที่ซื้อรถรุ่นนี้ จะได้รับผลที่เลวร้ายกว่าที่คาดคิด
ขนาดพี่สิงห์ยังยอม คนอื่นมันก็ไม่กลัวแล้ว ??
อย่า ไป ยอม มัน เด็ด ขาด
ช่างมันกินเงินเดือน Toyota ยังไงมันก็คนของเขา มันอาจเล่นละครตบตาพี่อยู่
เราซื้อรถตามคำพรรณา (ในโบชัวร์) ก็สมควรได้รถตามนั้น ผิดจากนั้น มันต้องรับผิดชอบครับ

การทำดีคือเป็นตัวแทนของฝ่ายคุณธรรมปกป้องผู้บริดภคคนถัดๆ ไป ไม่ให้ถูกมันเอาเปรียบ
ลูกน้องของ Toyota ไม่ใช่ฝ่ายคุณธรรมแล้วครับ อย่าไปเห็นใจมัน
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #11102 เมื่อ: 25 พฤศจิกายน 2556, 21:08:46 »

ทิฏฐิ แปลว่า ความเห็น หรือความเชื่อมันในตนเองว่า... (ในทางพุทธศาสนา)

ความเชื่อของมนุษย์ในทางพุทธศาสนา นั้น แยกออกได้ คือ เป็นสัมมาทิฏฐิ พวกหนึ่ง และ ทิจฉาทิฏฐิ อีกพวกหนึ่ง


สัมมาทิฏฐิ 10 ประการ ได้แก่

1. ทานที่ให้แล้วมีผลจริง
2. ยัญที่ทำแล้วมีผลจริง
3. การเซ่นสรวงหรือการบูชามีผลจริง
4. วิบากแห่งกรรมดีกรรมชั่วมีผลจริง
5. โลกนี้มีจริง
6. โลกหน้ามีจริง
7. มารดามีคุณจริง
8. บิดามีคุณจริง
9. สัตว์ที่ผุดเกิดขึ้นมีจริง
10. พระอรหันต์ผู้ สามารถรู้แจ้งโลกนี้โลกหน้ามีอยู่จริง

สัมมาทิฏฐิ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้ใน อังคุตตรนิกาย ทสกนิบาต ว่า

        "ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สมบัติแห่งการงานทางใจ 3 อย่าง ที่มีความตั้งใจเป็นกุศล ย่อมมีสุขเป็นกำไร มีสุขเป็นวิบาก คือ เป็นผู้ไม่โลภอยากได้ของผู้อื่นประการ 1 เป็นผู้ไม่มีจิตคิดปองร้ายต่อคนอื่นประการ 1 เป็นผู้มีความเห็นชอบ มีความเห็นไม่วิปริตว่า ทานที่ให้แล้วมีผล การเซ่นสรวงมีผล การบูชามีผล ผลวิบากแห่งกรรมที่บุคคลทำดีทำชั่วมีอยู่  โลกนี้มีอยู่ โลกหน้ามีอยู่ มารดามีอยู่ บิดามีอยู่ สัตว์ทั้งหลาย   ผู้เป็นโอปปาติกะมีอยู่ สมณพราหมณ์ผู้ดำเนินไปโดยชอบ   ผู้ปฏิบัติชอบ ผู้ทำโลกนี้และโลกหน้าให้แจ้งชัดด้วยปัญญา     อันยิ่งด้วยตนเอง แล้วสอนผู้อื่นให้รู้ตาม มีอยู่ในโลกประการ 1   ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สมบัติแห่งการงานทางใจ 3 อย่าง อันมีความตั้งใจเป็นกุศล ย่อมมีสุขเป็นกำไร มีสุขเป็นวิบาก อย่างนี้แล"  
 
        *การที่เราจะได้มนุษย์สมบัติ ทิพยสมบัติ และนิพพานสมบัติ เบื้องต้นจะต้องมีสัมมาทิฏฐิ 10 ประการ สัมมาทิฏฐิ หมายถึง มีความเห็นชอบ เห็นถูกต้องตามทำนองคลองธรรม เห็นว่าทานที่ให้แล้วมีผลจริง ยิ่งให้ทานกับทักขิไณยบุคคลย่อมเกิดผลอันไพบูลย์ และการให้ยังสามารถกำจัดความตระหนี่ ความเห็นแก่ตัวออกจากใจได้ ขณะเดียวกันก็เป็นการเพิ่มพูนความปรารถนาดีต่อกัน ระหว่างผู้ให้กับผู้รับ ซึ่งจุดหมายที่แท้จริง เพื่อมุ่งให้เราเป็นคนไม่ตระหนี่ ไม่เห็นแก่ตัวนั่นเอง

        ยัญที่ทำแล้วมีผลจริง คำว่ายัญมีความหมายหลายอย่าง ในที่นี้หมายถึงการทำสังคมสงเคราะห์  เมื่อเราสงเคราะห์คนที่ด้อยโอกาส ทำให้เขากลายเป็นผู้ได้โอกาส ตัวเราก็ปลื้มปีติที่ได้ช่วยเหลือเพื่อนร่วมโลก และยิ่งได้อนุเคราะห์พระภิกษุสามเณรผู้ประพฤติธรรม เราจะยิ่งปลื้มปีติ เพราะได้ให้อายุพระพุทธศาสนา ให้ท่านมีโอกาสทำหน้าที่ของท่านอย่างแท้จริง คืองานสอนศีลธรรม แก่ชาวโลก นับเป็นสิ่งที่สมควรทำอย่างยิ่ง เพราะหากโลกนี้ขาดสมณะแท้ ผู้คอยปลูกฝังชาวโลกให้มีสัมมาทิฏฐิแล้ว โลกจะต้องวุ่นวายมากกว่านี้อย่างแน่นอน

        การเซ่นสรวงหรือการบูชามีผลจริง การบูชา คือ การนำสิ่งของที่สมควรไปสักการะ หรือมอบให้ผู้ที่ควรบูชา ซึ่งเป็นบุคคลที่ได้ทำคุณงามความดีทั้งแก่ตนและผู้อื่น จุดมุ่งหมายของการบูชา เพื่อแสดงความกตัญญูกตเวทีผู้มีพระคุณต่อเรา เป็นการยอมรับนับถือ ประกาศเกียรติคุณของท่านเหล่านั้นให้โลกรู้ และยึดไว้เป็นแบบอย่าง เป็นการส่งเสริมให้เกิดกำลังใจในการทำความดียิ่งๆ ขึ้นไป และการบูชาบุคคลผู้ควรบูชา ถือเป็นมงคลอันสูงสุดอย่างหนึ่งในชีวิตอีกด้วย

        วิบากแห่งกรรมดีกรรมชั่วมีผลจริง กรรม แปลว่า การกระทำโดยเจตนา คือการกระทำทางกาย วาจา และใจ ไม่ว่าดีหรือชั่ว ที่เกิดจากความตั้งใจของผู้กระทำ ถือว่าเป็นกรรมทั้งสิ้น มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาความสุข การที่เราตั้งใจศึกษาวิชาการต่างๆ นั้น เพื่อเป็นเครื่องมือสร้างความมั่นคงและความสุขให้กับชีวิต แต่หากไม่รู้เรื่องกฎแห่งกรรม ก็อาจจะนำความรู้ที่ศึกษามาใช้ในทางที่ผิด หากเข้าใจเรื่องกฎแห่งกรรมดีแล้ว เราจะได้เลือกทำแต่ความดี ละเว้นจากความชั่วและบาปอกุศลทุกชนิด

        โลกนี้มีจริง โลกตามหลักพระพุทธศาสนามีความหมาย กว้างมาก คือ ครอบคลุมไปถึง 3 เรื่อง ตั้งแต่สัตวโลก หมายถึง จิตใจของหมู่สัตว์ทั้งหลาย ขันธโลกหรือสังขารโลก หมายถึง สังขารร่างกาย ขันธ์ 5 ของคนและสัตว์ทุกชนิดที่ประกอบด้วยกายและใจ และโอกาสโลก หมายถึง สถานที่สัตวโลกได้อยู่อาศัย และที่ทำมาหากิน รวมถึงบรรยากาศรอบตัวด้วย

        เนื่องจากโลกมีความสำคัญต่อเรา เพราะทำให้เราได้อาศัยสร้างบารมี และโลกใบนี้ก็เป็นโลกแห่งการแสวงบุญ ไม่ใช่โลกแห่งการเสวยบุญ  ดังนั้นเราจะต้องเร่งรีบสั่งสมบุญกุศลให้มากๆ ไม่ประมาทหลงไปทำบาปอกุศลอีกต่อไป ต้องใช้เวลาที่มีอยู่อย่างจำกัดนี้ทำความดีให้เต็มที่

        สัมมาทิฏฐิประการต่อไป คือ โลกหน้ามีจริง หมายถึง เชื่อว่าชีวิตหลังความตายมีจริง ไม่ได้ขาดสูญ หากจะสูญ ก็สูญเฉพาะสังขารร่างกายนี้เท่านั้น แต่ถ้ายังไม่หมดกิเลส เราจะได้รูปกายใหม่ที่มีใจดวงเดิมเข้าไปครอง จะไปเป็นอะไรนั้น ย่อมขึ้นอยู่กับบุญและบาปที่ได้ทำไว้ในภพชาตินี้ เพราะกรรมจะเป็นเครื่อง แบ่งแยกสัตว์ให้แตกต่างกัน เมื่อเข้าใจเช่นนี้ จะได้เตรียมตัวตายให้ถูกหลักพุทธวิธี เป็นการเตรียมตัวเดินทางไปสู่โลกหน้าอย่างปลอดภัยและมีชัยชนะ

        มารดามีคุณจริง ถ้าหากเรามีความเห็นที่ถูกต้องว่า มารดามีคุณต่อเราอย่างน้อย 3 ประการ คือ ให้ชีวิตแก่บุตร ให้ต้นแบบร่างกายที่เป็นมนุษย์ ซึ่งเหมาะต่อการทำความดี และให้ต้นแบบทางจิตใจแก่บุตร โดยสรุปคือ ท่านได้เปิดโลกให้บุตร  ฉะนั้นเราย่อมต้องหาโอกาสตอบแทนคุณท่านอย่างเต็มที่

        บิดามีคุณจริง โดยทั่วไปบิดามีพระคุณต่อบุตร 3 ประการ เช่นเดียวกับมารดา แต่มักมีผู้สงสัยว่า บิดาที่ไม่ได้ให้การเลี้ยงดูบุตร ไม่ได้ทำหน้าที่ของความเป็นพ่อนั้น จะยังมีคุณต่อลูกหรือไม่ หลวงพ่อขอตอบแทนพ่อทุกคนว่า ท่านมีคุณต่อเรามาก เพราะเราต้องเกิดแบบชลาพุชะ คือ เกิดในครรภ์ จำเป็นจะต้องอาศัยพ่อและแม่เป็นผู้ให้กำเนิด โดยเริ่มที่พ่อ ก่อที่แม่ แล้วกลายมาเป็นเรา จะขาดบิดาไม่ได้ ดังนั้นถ้าไม่มีพ่อ เราก็ไม่อาจเกิดมาได้ ในเมื่อท่านอนุญาตให้เป็นทางผ่านเพื่อให้เรามาเกิดเป็นมนุษย์ เพื่อสร้างบารมี เช่นนี้นับว่ามีบุญคุณอย่างเหลือล้นแล้ว

        สัตว์ที่ผุดเกิดขึ้นมีจริง คือ เกิดแบบไม่ต้องอาศัยครรภ์มารดา สัมมาทิฏฐิข้อนี้เป็นสิ่งที่วิทยาศาสตร์ยังพิสูจน์ไม่ได้ ต้องอาศัยหลักพุทธศาสตร์ คือ ศาสตร์แห่งใจหยุดนิ่งอย่างเดียวเท่านั้น ถึงจะรู้ว่าชาวสวรรค์หรือเหล่าสัตว์นรกที่ไปเกิดในอบาย เขาเกิดแบบโอปปาติกะกันอย่างไร แม้ตอนนี้เรายังพิสูจน์ไม่ได้ ขอให้รับฟังไว้ก่อนว่า สิ่งเหล่านี้มีอยู่ เป็นความจริงที่ไม่เกี่ยวกับเรื่องความเชื่อใดๆ

        สัมมาทิฏฐิประการสุดท้ายคือ สมณพราหมณ์ผู้ประพฤติดี ปฏิบัติชอบ ชนิดที่ทำให้แจ้งเองด้วยความรู้ยิ่ง และประกาศโลกนี้โลกหน้ามีจริง หมายความว่า พระอรหันต์ผู้ สามารถรู้แจ้งโลกนี้โลกหน้ามีอยู่จริง ความเห็นที่ถูกต้องนี้ จะนำไปสู่ความศรัทธาเลื่อมใส และอยากทำบุญกับผู้หมดกิเลส หรืออย่างน้อยให้ได้ทำบุญกับพระสงฆ์ที่ท่านกำลังฝึกหัดขัดเกลาตนให้หลุดพ้น จากกิเลส เราย่อมจะได้บุญใหญ่ ละโลกแล้ว ย่อมจะมีสุคติโลกสวรรค์เป็นที่ไป


ส่วน มิจฉาทิฏฐิ   คือความเห็นผิดไปจากความเป็นจริง

มีความหมายไปในทางตรงกันข้ามกับ สัมมาทิฏฐิ คือ

     ๑. เห็นว่า   การให้ทานไม่ได้รับผลแต่อย่างใด

     ๒. เห็นว่า   การบูชาต่างๆ ไม่ได้รับผล

     ๓. เห็นว่า   การต้อนรับเชื้อเชิญไม่ได้รับผล

     ๔. เห็นว่า   การทำดี ทำชั่วไม่ได้รับผลแต่อย่างใด

     ๕. เห็นว่า   ผู้มาเกิดในภพนี้ไม่มี

     ๖. เห็นว่า    ผู้ไปเกิดในภพหน้าไม่มี

     ๗. เห็นว่า   คุณมารดาไม่มี

     ๘. เห็นว่า   คุณบิดาไม่มี

     ๙. เห้นว่า   สัตว์ที่ผุดเกิดเติบโตในทันที คือ สัตว์นรก เปรต เทวดา พรหม ไม่มี

    ๑๐. เห็นว่า  สมณะพราหมณ์ ที่รู้แจ้งโลกนี้ และโลกหน้าด้วยตนเอง และสามารถแนะนำชี้แจงสมณะพราหมณ์ ที่ถึงพร้อมความสามัคคี ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ นั้นไม่มี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #11103 เมื่อ: 25 พฤศจิกายน 2556, 21:33:29 »


เมื่อตอนค่ำ นายกรัฐมนตรี เรียกคณะรัฐมนตรีประชุมด่วน ที่สโมสรกรมตำรวจ

ไม่ทราบว่ามีอะไรเร่งด่วน  จึงต้องขอความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #11104 เมื่อ: 26 พฤศจิกายน 2556, 07:29:22 »

ทิฐิ (อ่านว่า ทิดถิ) (บาลี: ทิฏฺฐิ) แปลว่า ความเห็น ในพระพุทธศาสนาใช้ในความหมายเดียวกับ "มิจฉาทิฐิ" คือความเห็นผิด มี 2 ประการ ได้แก่ สัสสตทิฐิ (ความเห็นว่าเที่ยง) อุจเฉททิฐิ (ความเห็นว่าขาดสูญ) เป็นต้น

หากเป็นความเห็นถูก เรียกว่า สัมมาทิฐิ หรือ ปัญญา

นอกจากนี้ในภาษาไทยมักใช้ในความหมายว่า ความอวดดื้อถือดี ความดื้อรั้น ความตะแบงทั้งที่รู้ว่าผิดแต่ไม่ยอมรับและไม่ยอมแก้ไข เช่นที่ใช้ว่า "เขามีทิฐิมาก ไม่ยอมลงใคร ทิฐิมานะของเขาทำให้เขาเข้ากับใครไม่ได้เลยในที่ทำงาน"
เป็นตัน

และยิ่งใครมีศรัทธา ที่เป็นมิจจาทิฏฐิในทางโลก  ด้วยแล้ว  อย่าไปข้องแวะ พูดคุยด้วยเด็ดขาด เพราะจะทะเลาะวิวาทกัน โดยเฉพาะความเชื่อที่มีต่อผู้นำ คือการเมือง และศาสนา  ยิ่งดื่มสุราด้วยแล้ว ห้ามพูดเรื่องการเมือง และศาสนา เพราะคนส่วนใหญ่จะมี มิจฉาทิฏฐิ  ที่แตกต่างกัน และไม่รับฟังเหตุผลต่อกัน จึงต้องแตกแยกเป็นฝักฝ่ายดังที่เห็นอยู่ปัจจุบันของประเทศไทย
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #11105 เมื่อ: 26 พฤศจิกายน 2556, 07:56:03 »

สัมมาทิฏฐิ ในทางโลก คือความเห็นที่เป็นจริงโดยธรรม ก่อประโยชน์ส่วนรวม  เป็นไปในทางก่อกุศล (อยู่ในอย่างน้อยศีล ๕)

คนจะมี สัมมาทิฏฐิได้ต้อง เป็นคนที่น้ำไม่เต็มแก้ว (คือถ้าน้ำเต็มแก้วเติมน้ำเข้าไปใหม่ก็ล้น  แต่ถ้าน้ำไม่เต็มแก้ว มันก็จะใส่น้ำได้อีก) นอกจากนี้ต้องมีธรรมของพระพุทธองค์อยู่ในจิตคือ ธรรมที่ว่า ใครก็ตามที่มาด่า  มาว่า มาติเตียนเรานั้น  คือผู้ที่ชี้ขุมทรัพย์ให้เรา เพราะเรามองไม่เห็นความบกพร่องของเรา แต่คนอื่นเขามองเห็นเขาจะด่าเรา  ว่าเรา  ตำหนิเรา  ดังนั้นเมื่อเขาบอกจุดบกพร่องของเรา เราต้องขอบคุณเขา  เราจะได้เอามาแก้ไขตัวเราได้ และถ้าให้ดี ถ้าเราไม่มีความยึดมั่นถือมั่นในขันธ์ ๕ ของเราแล้ว นั่นละจะพบความสุขที่ปราณ๊ต เป็นสัมมาทิฏฐิสมบูรณ์
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #11106 เมื่อ: 26 พฤศจิกายน 2556, 08:05:10 »

สวัสดียามเช้าครับ ชาวซีมะโด่ง และแขกผู้มาเยือน ที่รักทุกท่าน

เช้านี้ได้สวดมนต์ทำวัตรเช้า  หุงข้าว  เดินจงกรมออกกำลังกายที่หน้าบ้าน เดินไปซื้อกับข้าวที่ตลาดลุงเพิ่ม ใส่บาตรพระที่หน้าบ้าน วันนี้เณรมาบิณฑบาตร และได้รับประทานอาหารเช้าเรียบร้อยแล้ว

วันนี้อยู่บ้าน

อย่าลืมครับ การปฏิบัติธรรมแต่ละครั้งนั้น อย่างน้อยท่านต้องให้เวลาพอสมควร(มากกว่าหนึ่งชั่วโมง) คือกระทำให้ต่อเนื่องจนจิตมันสงบ สามารถเอาชนะนิวรณ์ ๕ ได้ คือ ไม่มีความยินดีในตา หู จมูก ลิ้น กาย (ชั่วคราว) ไม่พยาบาท ไม่พลุ่งพล่านเดือดดาลใจ ไม่เซื่องซึม หงอยเหงา หดหู่ ง่วงนอนและไม่ลังเลสงสัย นั่นหมายความว่าจิตของท่านจะสงบ แต่ยังมีวิตก วิจารย์ มีปีติ มีสุข มีทุกข์ เพราะจิตมันเป็นอย่างนั้น นั่นละท่านได้ทำสติให้เป็นสมาธิ และเข้าญาณที่ ๑ แล้วครับ รักษาอารมณ์เบื้องต้นนี้ให้มากไว้  ฝึกจิตของท่านให้มาก ๆ ในอารมณ์นี้เอาไว้ เพราะมันเป็นมูลฐานในการปฏิบัติธรรมในแต่ละครั้งที่จะเป็นเหตุให้เกิดวิปัสสนาปัญญา ตามมาจากภายในจิตของมันเอง

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #11107 เมื่อ: 26 พฤศจิกายน 2556, 13:10:11 »

สวัสดีครับ ชาวซีมะโด่ง และแขกผู้มาเยือน ที่รักทุกท่าน

                ผลจากการที่รัฐบาลไม่กระทำในสิ่งที่ถูกต้อง  เห็นประโยชน์ส่วนตน  ออกกฏหมายไม่เป็นธรรม และกระทำหลายอย่างที่ไม่เกรงใจ ระบบที่ดีเลย  ผลมันจึงไม่มีใครเคารพกฏหมายเหมือนกัน  แล้วมันจะอยู่กันได้อย่างไร  ความวุ่นวายย่อมเกิดขึ้น

                เศรษฐกิจของประเทศกำลังตกต่ำ ด้วยนโยบายประชานิยม   มันชักออกลายตอนนี้ผสมโรงออกไปอีก  สิงค้าอุปโภคบริโภคแพงไปจากเดิมมาก และควบคุมไม่ได้  หรือจงใจให้มันเป็นอย่างนี้เพราะ ไม่ตามที่ปราถนากันแน่  ย่อยยับจริง ๆ

                ถ้าคน ๆเดียวรู้จักคำว่าตัวเองต้องเสียสละ เท่านั้นทุกอย่างจบหมด มีแต่คนสรรเสริญ สาธุทั่วหน้า  แต่ด้วยทิฏฐิที่ต้องชนะอย่างเดียว ได้คืนหมด กูไม่ผิดตั้งแต่ต้น ผลคือ ประชาชน ประเทศชาติฉิบหาย และฉิบหายทั้งหมด

                เมื่อไรคน คนนั้นจะเห็นแสงสว่าง เห็นธรรม  ทำเพื่อประชาชน ลาภ ยศ สุข ความยิ่งใหญ่  ตายไปก็เอาไปไม่ได้ พอเผาเสร็จเขาก็ลืมหมดแล้ว  เอาไปทำไม เงิน ลาภ ยศ  สุข เสียงสรรเสริญของคน นำมาซึ่งทุกข์ทั้งสิ้น ละ

                 ได้ข่าวเมื่อคืน มีการยึดกระทรวงการคลิง  ต่างประเทศ  มหาดไทย.... โดยกองทัพประชาชน

                 เมื่อไรความวุ่นวายจะจบสิ้น เพราะคน คนเดียวที่มีแต่ "มิจฉาทิฏฐิ"

                 สวัสดี
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #11108 เมื่อ: 26 พฤศจิกายน 2556, 13:12:15 »

ตอนบนของประเทศจะมีอากาศหนาวเย็นเพิ่มขึ้น จากความกดอากาศสูงจากจีน
ส่วนภาคใต้เริ่มมีฝนเพิ่มขึ้นอีกครั้ง จากหย่อมความกดอากาศต่ำ (LOW) จากเกาะบอร์เนียวพัดเข้ามา








พยากรณ์อากาศ ประจำวันอังคารที่ 26 พฤศจิกายน 2556
ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 10:00 น.  บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางยังคงปกคลุมประเทศไทยตอนบน และทะเลจีนใต้ ทำให้ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกมีอุณหภูมิลดลง 1-2 องศาเซลเซียส และในช่วงวันที่ 28-30 พฤศจิกายน 2556 บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงอีกระลอกหนึ่งจากประเทศจีนจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอากาศหนาวเย็นลงอีก โดยอุณหภูมิจะลดลง 3-5 องศาเซลเซียส สำหรับหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณเกาะบอร์เนียวจะเคลื่อนเข้ามาบริเวณชายฝั่งประเทศมาเลเซียตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (27 พ.ย. 56) เป็นต้นไป ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มมากขึ้น ส่วนคลื่นลมในอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร


อนึ่ง พายุไซโคลน “เลฮาร์” (LEHAR) บริเวณอ่าวเบงกอลตอนกลาง คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณประเทศอินเดียตอนกลางในวันที่ 28 พฤศจิกายน 2556

 
พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 12:00 วันนี้ ถึง 12:00 วันพรุ่งนี้. 

ภาคเหนือ  อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส โดยมีฝนเล็กน้อยเป็นแห่งๆ
ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ตาก และกำแพงเพชร

อุณหภูมิต่ำสุด 20-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-31 องศาเซลเซียส
สำหรับบริเวณยอดดอย อากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 11-15 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว10-25 กม./ชม.
 
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า
โดยมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค

อุณหภูมิต่ำสุด 20-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส
สำหรับบริเวณยอดภู อากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 9-13 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
 
ภาคกลาง  มีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิจะลดลงเล็กน้อย โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ
ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดกาญจนบุรี ราชบุรี นครปฐม สมุทรสงคราม และสมุทรสาคร

อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส
สำหรับบริเวณเทือกเขา อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 18-23 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
 
ภาคตะวันออก  มีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ
ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด

อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส
สำหรับบริเวณเทือกเขา อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 18-23 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
 
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีเมฆเป็นส่วนมากกับมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่
บริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และสุราษฎร์ธานี

อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-32 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
 
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)  มีเมฆเป็นส่วนมากกับมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่
บริเวณจังหวัดตรัง และสตูล

อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
 
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล  มีเมฆเป็นส่วนมาก อุณหภูมิจะลดลงเล็กน้อย โอกาสมีฝนตก ร้อยละ 40
อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
 
 
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #11109 เมื่อ: 26 พฤศจิกายน 2556, 13:20:53 »

สวัสดีครับ คุณเหยง

ขอบคุณมากสำหรับข้อมูลอากาศ

เมื่อ กทม. ต้องหนาวขึ้น เป็นสูตรสำเร็จว่า ภาคใต้จะมีฝนเพิ่มขึ้น แท้จริงมาจากหย่อมความกดอากาศต่ำจากบอร์เนียว

ก็ต้องให้ลุกน้องเตรียมตัว ตั้งเครื่องสูบน้ำเพิ่ม  อุดรอยรั่วที่น้ำไหลเข้าโรงงานทั้งหมด เพราะชาวบ้านถมที่ทำอาคารปิดทางน้ำ ทำให้น้ำรอไหลลงทะเลเป็นคอขวด น้ำจึ้งทะลักเข้าโรงงานทั้ง ๆที่อยู่ใกล้ทะเลแต่น้ำไปไม่ถึง  ต้องทำคันกั้นน้ำเพิ่มและอุดรอยรั่วให้ได้ คราวที่แล้วนับว่าโชคดี ที่ฝนหยุดตก จึงไม่ท้วมมากมายอะไรแต่ก็ไม่ได้ทำงานทั้งอาทิตย์

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #11110 เมื่อ: 26 พฤศจิกายน 2556, 20:51:31 »

สวัสดีครับ ชาวซีมะโด่ง และแขกผู้มาเยือน ที่รักทุกท่าน

พรุ่งนี้ วันพุธต้องไปทำงานที่โรงงาน บริษัท เอเซียคอนกรีต (1999) จำกัด บ้านแพ้ว  สมุทรสาคร โดบมีวิศวกรผู้จัดการโรงงานขับรถผ่าน ซอย ๒๒ ถนนวิภาวดี-รังสิต แวะมารับ เพราะเขาขับมาจากรังสิตคลอง ๒ พี่สิงห์ ก็ไปยืนคอยตรงปากซอย เวลา 06:30 น.

วันนี้ผ่านไปอีกวันหนึ่ง บ้านเมืองเราเป็นอย่างไรหนอ ? ไม่ทราบเลย  รัฐบาลจะอยู่ หรือจะไป ไม่รู้จะไปถามใครเหมือนกัน

ได้ยินแต่พวกท่านข้างบ้าน เขาบ่นกันว่า คนท่านมาน้อย  สู้เขาไม่ได้  และก็บอกว่า คนที่ออกมาชุมนุมมันเป็นคนกรุงเทพฯ นี่หว่า ไม่ใช่คนต่างจังหวัด  หาว่าคนกรุงเทพฯ โง่  พี่สิงห์ ก็ได้รับฟังแล้วก็ให้มันผ่านไป  ได้ยินจนชาชินแล้ว  พวกที่มาบ่น มาคุย ไม่เห็นไปชุมนุมกับเขาสักที  บ้านผมจะได้เงียบ  พวกนี้ไม่ได้ทำงานกัน กินบำนาญบางคนทำงานเป็นช่างซ่อม ชอบมาสุมหัวข้างบ้านในเวลากลางวันตั้งแต่เก้าโมงเช้า ตกเย็นก็กินเหล้า อยู่อย่างนี้ทุกวัน  ร่างกายมันก็ทนดีแท้ ไม่เป็นอะไรสักที

วันนี้ได้จัดกระเป๋าเรียบร้อยเกือบ 100% พร้อมที่จะเดินทางไปสาธยายพระไตรปิฎก ที่พุทธคยา อินเดียแล้ว เตรียมแต่เสื้อผ้า ของกินไม่เอาไปเลย มีอย่างไรกินอย่างนั้น ๑๓ วัน น้ำหนักหายไปแน่ ๆ ๒ กิโลกรัม เพราะอาหารหลักคือ ผัดกะหร่ำ มันฝรั่งฮะรู  มีทุกมื้อ เพราะเป็นผักพื้นเมืองที่คนอินเดียปลูกกินกัน  นอกจากนี้บางวันอาจจะมีไข่เจียว ถั่วลิสงทอด กินกับข้าวต้มตอนเช้า  และตอนเย็นบางวันอาจจะมีมันต้มขิง ซึ่งผมไม่ได้กิน กับข้าวคงมีเท่านี้ครับ เพราะหมู ไก่ ปลา คนอินเดียเขาไม่กิน  จึงไม่มีขาย  คนอินเดียกินมังสะวิรัส  หรือไม่บางวันตอนเช้าจะมีจัมปาตี ทั้งทอดและปิ้ง  แต่ก็อร่อย เพราะกินรวม ๆ กัน มันสนุก  แย่งกันตัก ต้องเข้าแถวเป็นเด็กนักเรียน ใช้ถาดหลุมใส่อาหาร และต้องช่วยตัวเอง ทุกอย่าง เพราะอยู่วัด นอนวัด

ไปคราวนี้ไม่ซื้ออะไรทั้งนั้น คงซื้อแต่ถั่ว(จำชื่อไม่ได้แล้ว)  เอาไว้กินโปรตีนแทนเนื้อสัตว์

ลืมไป จะคุยกับ ดร.ซานโตส อนัน  ขอจ้างให้เขามาสอนพิเศษโยคะเพิ่มให้ ท่าใหม่ ๆ ที่ยังไม่เคยสอน ไม่รู้เขาจะรับสอนไหม ?

จะพยายามปฏิบัติธรรมให้มาก  ด้วยการมีสติ

ราตรีสวัสดิ์ครับ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #11111 เมื่อ: 26 พฤศจิกายน 2556, 21:06:26 »

วันนี้บ่ายสามโมงเย็น ได้ไปรับรถ TOYOTA  YARIS มาเรียบร้อยแล้ว ในที่ประชุม มีผู้จัดการ K MOTOR  ผู้จัดการ ABTECH ผู้ทำให้เกิดปัญหา ผู้จัดการฝ่ายขาย ผู้จัดการ K MOTOR สาขาลาดพร้าว ฝ่ายรับเรื่องร้องทุกข์ตัวแทนกรรมการรองผู้จัดการ TOYOTA MOTOR และวิศวกรจากโรงงาน TOYOTA MOTOR ที่คุณเอกชัย  ส่งมาให้เป็นผู้ตรวจสอบ รถใหม่ทั้งหมด ที่ได้เปลี่ยนอุปกรณ์ที่ทาง ABTEH ได้ปรับแต่งใหม่ทั้งหมด และได้ทำหนังสือยืนยัน ว่ารถคันนี้มีคุณภาพเทียบเท่าตอนที่ออกมาจากโรงงานทุกประการ รับประกันสามปี 100,000 กิโลเมตร ตรวจเช็คฟรีค่าแรง เพื่อให้มั่นใจในรถคันนี้กลับคืนมา

อย่างที่เรียนให้ทราบ หยุดที่ตัวเรา  ให้อภัยในสิ่งที่เกิดขึ้น ทุกคนก็ไม่เดือดร้อน  หมดทุกข์กันไปเสียที  ใข้กรรมที่เคยทำให้หมดได้บ้าง  ยังไม่รู้มีกรรมอะไรค้างอยู่อีก ก็ต้องชดใช้กันไป

ผมก็บอก ผู้จัดการ ABTech ว่าให้เอาล๊อคเบรก อันที่ติดให้ผม ไปตั้งเป็นอนุสาวรีย์ที่บริษัท  ให้ช่างทุกคนตระหนัก ในส่งที่ผิดพลาดกับลูกค้า และขอให้เกิดกับผมเป็นคันสุดท้าย

 แต่ก็ประทับใจวิศวกรของ TOYOTA MOTOR ที่มาจากโรงงานยอมรับในความผิดพลาด ขอโทษ ที่ทำให้เสียเวลา  เดือดร้อน และได้อธิบายให้เกิดความมั่นใจในคุณภาพของ TOYOTA YARIS คันนี้

ก็เรียนให้ทุกท่านทราบ

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
lek_adisorn
Hero Cmadong Member
***

ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,595

« ตอบ #11112 เมื่อ: 26 พฤศจิกายน 2556, 21:59:14 »

สวัสดีครับพี่สิงห์ และพี่น้องซีมะโด่งทุกท่าน  วันนี้ตอนประมาณ ห้าโมงครึ่ง ประกาศได้รับการคัดเลือกอย่างเป็นทางการทางเวปไซด์แล้วครับ วันที่ 3 ธ.ค.นี้ น้องนัทจะไปเล่นระนาดเอก ที่สนามหลวง เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษาครับ พี่ไม่อยู่พอดี
      บันทึกการเข้า
lek_adisorn
Hero Cmadong Member
***

ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,595

« ตอบ #11113 เมื่อ: 26 พฤศจิกายน 2556, 22:06:40 »

มีข่าวน่าสนใจครับ จากเวป Mthai.comครับ

วันนี้(26 พ.ย.) เนชั่นแนล จีโอกราฟฟิค รายงานว่าที่มหาวิหารมายาเทวี ในสวนลุมพินี ทางภาคใต้ของเนปาล
ซึ่งมีความเชื่อกันว่าเป็นสถานที่ประสูติของพระพุทธเจ้า นักโบราณคดีนานาชาติได้ขุดค้นพบเจดีย์ไม้โบราณที่อยู่ภายใต้ซาก
มหาวิหารที่สร้างขึ้นจากอิฐ



รูปทรงของเจดีย์ไม้ดังกล่าวคล้ายกับวิหารของพระเจ้าอโศกมหาราชที่ถูกอิฐครอบไว้ โดยภายในมีช่องว่างพื้นที่โปร่ง คล้ายจะเป็นเจดีย์ที่ครอบต้นสาละ ต้นไม้ที่พระนางสิริมหามายาให้กำเนิดเจ้าชายสิทธัตถะ

หลักฐานดังกล่าวสันนิษฐานว่าจะช่วยยืนยันช่วงเวลาการประสูติของพระพุทธเจ้าตามหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ได้ โดยทีมวิจัยเชื่อว่า พระพุทธเจ้าอาจประสูติก่อนหน้ายุคสมัยตามความเชื่อถึง 200 ปี  เนื่องจากเทคนิควิทยาศาสตร์ระบุว่า เจดีย์ไม้ดังกล่าวสร้างขึ้นก่อนคริสตกาลถึง 600 ปี

รายละเอียดของการค้นพบและงานวิจัยครั้งนี้จะถูกสร้างเป็นภาพยนตร์สารคดีชื่อ “Buried Secrets of the Buddha” หรือ “ความลับของพระพุทธเจ้าที่ฝังไว้” เปิดเผยพร้อมกันทั่วโลก ในปีหน้า





มีคลิปให้ดูตามลิงค์ด้านล่างครับ
http://player.d.nationalgeographic.com/players/vplayer-feed/?guid=9FEBDA47-AA03-958C-398D-7C48AA2534AD&feed=cARxpXbCU3QT
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #11114 เมื่อ: 26 พฤศจิกายน 2556, 22:15:28 »

อ้างถึง
ข้อความของ lek_adisorn เมื่อ 26 พฤศจิกายน 2556, 21:59:14
สวัสดีครับพี่สิงห์ และพี่น้องซีมะโด่งทุกท่าน  วันนี้ตอนประมาณ ห้าโมงครึ่ง ประกาศได้รับการคัดเลือกอย่างเป็นทางการทางเวปไซด์แล้วครับ วันที่ 3 ธ.ค.นี้ น้องนัทจะไปเล่นระนาดเอก ที่สนามหลวง เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษาครับ พี่ไม่อยู่พอดี

น้องเล็ก

สนามหลวงอาจจะไม่ใด้ใช้จัดงานเฉลิมฯ ในปีนี้นะครับ
เพราะม๊อบใช้พื้นที่อยู่
หากม๊อบยุติก่อน 1 ธ.ค. ก็ โอ เค
ติดตามข่าวต่อไปด้วยครับ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #11115 เมื่อ: 27 พฤศจิกายน 2556, 05:23:27 »

สวัสดียามเช้าครับ ชาวซีมะโด่ง และแขกผู้มาเยือน ที่รักทุกท่าน

การปฏิบัติธรรมของพระพุทธองค์นั้น คือการมีสติ-สัมปชัญญะ เพราะถ้ามีสติ มันรู้ตัว ไม่ตกอยู่ในความคิด ไม่หลงตัดสินใจที่จะกระทำตามความคิด และถ้ามีธรรมะของพระพุทธองค์อยู่ในจิต มีศีล ๕ อยู่ในจิต จะตัดสินใจกระทำในสิ่งที่เป็นประโยชน์ เป็นกุศล

และถ้าโชคดี มันจะเกิดวิปัสสนาภายใน จิตมันจะแยกรูป แยกนาม เห็นความเป็นไตรลักษณ์ จิตมันจะปล่อยวาง ได้มากขึ้น จะมีแต่ความสงบ ปรุงแต่งน้อยลง

อย่างน้อย เมื่อท่านมีสติ  ท่านจะทำอะไร ท่านจะใช้ปัญญาไตร่ตรอง เกิดความรอบครอบในการคิด-ตัดสินใจ

สติหรือการรู้ตัวเท่านั้น คือสิ่งที่เราต้องกระทำให้เกิดขึ้น
รูปแบบในการมีส ติคือฝึกนั้น มันไม่สำคัญเลย พระพุทธองค์ จึงไม่ได้กำหนดเอาไว้ให้ มีแต่เดินจงกรมที่พระพุทธองค์กล่าวถึงเท่านั้น และก็ไม่ได้บอกว่าเดินอย่างไร

พิธีการ  รูปแบบ เป็นสิ่งที่ไม่จำเป็น ถ้าท่านแยกสติ กับความคิดได้แล้ว จิตท่านจะจำอารมณ์ของการรู้สึกเดิน ยืน นั่ง นอน เคลื่อนไหว หยุด หายใจเข้า-ออก กิน ถ่าย..อีกมาก ขึ้นอยู่กับว่า ท่านจะฝึกตัวท่านให้จิตมันรู้อารมณ์ จากวิธีการอย่างไร ท่านจะรู้ได้เองทั้งสิ้น

แต่นั้นเป็นเพียงสติ ที่จะทำให้ท่านอยู่อย่างสงบในสังคม รู้พฤติกรรมของจิต เท่านั้น และเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของเหตุที่จะทำให้ก่อวิปัสสนาปัญญา ที่จิตท่านจะรู้ต่อไป

และการปฎิบัติธรรมต้องทำต่อเนื่อง ระลึกรู้ที่จิตท่านให้มาก ให้จิตมันจำความรู้สึกได้ ทำให้นานจนมันสามารถละนิวรณ์ทั้ง ๕ ได้ ท่านจะเจ้าญาณที่ ๑ เป็นสมาธิ

สวัสดียามเช้าทุกท่านครับ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #11116 เมื่อ: 27 พฤศจิกายน 2556, 05:48:04 »

สวัสดีครับ อดิสร

ยินดียิ่งที่ได้ทราบข่าว หลานนัท สามารถเป็นนิสิตจุฬาฯ ได้เรียบร้อย

ขอบคุณมากสำหรับข้อมูล  ปีที่แล้วเขาขุดจริง และกั้นไม่ให้ดู

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #11117 เมื่อ: 27 พฤศจิกายน 2556, 16:43:37 »

ตอนบนของประเทศอากาศจะเริ่มหนาวเย็นลงอีกครั้ง ส่วนภาคใต้ก็จะมีฝนชุกหนาแน่นขึ้นด้วยเช่นกัน


จุดที่พายุไซโคลนเลฮอร์ อยู่ในมหาสมุทรอินเดีย


หย่อมความกดอากาศต่ำ ที่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศอินโดนีเซีย มาเลเซีย, และอีกลูกคือ LOW ด้านทิสเหนือของออสเตรเลีย


แนวทางเดินของพายุไซโคลนเลฮอร์ จะพัดเข้าฝั่งประเทสอินเดีย ในวันที่ 28 นี้

พยากรณ์อากาศ ประจำวันพุธที่ 27 พฤศจิกายน 2556
ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 10:00 น.  บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงอีกระลอกหนึ่งได้แผ่ลงมาปกคลุมประเทศจีนตอนใต้แล้ว คาดว่าจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมถึงประเทศไทยในวันพรุ่งนี้ (28 พ.ย. 56) ทำให้ในช่วงวันที่ 28-30 พฤศจิกายน 2556 ประเทศไทยจะมีอากาศหนาวเย็นลง โดยอุณหภูมิจะลดลง 3-5 องศาเซลเซียส กับมีลมแรง และมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทย และภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้นด้วย ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มมากขึ้น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งส่วนคลื่นลมในอ่าวไทยจะมีกำลังแรง ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร เรือเล็กในอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดชุมพรลงไปควรงดออกจากฝั่งในช่วงนี้
อนึ่ง พายุไซโคลน “เลฮาร์” (LEHAR) บริเวณอ่าวเบงกอล จะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณประเทศอินเดียตอนกลางในวันพรุ่งนี้ (28 พ.ย. 56) โดยพายุนี้ไม่มีผลกระทบต่อประเทศไทย
 
พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 12:00 วันนี้ ถึง 12:00 วันพรุ่งนี้. 

ภาคเหนือ  อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา น่าน และตาก

อุณหภูมิต่ำสุด 20-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-32 องศาเซลเซียส
สำหรับบริเวณยอดดอย อากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 11-15 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.
 
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ  อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิต่ำสุด 18-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส
สำหรับบริเวณยอดภู อากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 9-13 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
 
ภาคกลาง  อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า
โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค

อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศาเซลเซียส
สำหรับบริเวณเทือกเขา อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 18-23 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
 
ภาคตะวันออก  อากาศเย็นทางตอนบนของภาคกับมีหมอกบางในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ
ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดระยอง จันทบุรี และตราด

อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศาเซลเซียส
สำหรับบริเวณเทือกเขา อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 18-23 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
 
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีเมฆมากกับมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส

อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
อ่าวไทยตอนบน ตั้งแต่จังหวัดชุมพรขึ้นมา ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
อ่าวไทยตอนล่าง ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไป ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
 
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีเมฆเป็นส่วนมากกับมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล

อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร
 
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีเมฆบางส่วน โอกาสมีฝนตก ร้อยละ 20
อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
 
 
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #11118 เมื่อ: 27 พฤศจิกายน 2556, 20:14:44 »

สวัสดีครับ คุณเหยง

ขอบคุณมากสำหรับข่าวอากาศ
พายุไซโคลน ไม่มีผลต่อการเดินทางไปเมืองโกลกัลต้า ในวันที่ ๑ ธันวาคม Boarding 06:50 น. ไปถึงอินเดีย 07:50 น.(เวลาในอินเดีย)

กทม.เริ่มหนาว นครศรีธรรมราชฝนตกแน่นอน  ก็ต้องรุ่นตอนเครื่องบินลง และบินผ่านเมฆ เพราะท้องไฟเต็มไปด้วยไอน้ำ

วันนี้บาปอีกแล้ว เพราะปลวกมันขึ้นบ้าน  จำเป็นต้องกำจัด เพราะถ้าไม่กำจัด บ้านมันก้พัง เขามาเบียดเบียนเรา เราก็ต้องป้องกัน กรรมชั่วก็กรรมชั่ว  กรรมดีก็กรรมดี  ต่างวาระกัน

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #11119 เมื่อ: 27 พฤศจิกายน 2556, 20:37:11 »

สวัสดีครับ ชาวซีมะโด่ง และแขกผู้มาเยือน ที่รักทุกท่าน

ผมยังต้องสอนคนงานให้รู้จัก "การนอนหัวค่ำ ตื่นเช้า และ 3อ." และพบว่าคนงานส่วนใหญ่มีโรคประจำตัวเรื้อรัง ทั้งนั้น เพราะความยากจน  ใช้แรงงาน และไม่รู้เรื่องการป้องกันโรคภัยไข้เจ็บ โดยเฉพาะเรื่องอาหารการกิน จึงต้องเจ็บตัวเสียสตางค์ให้หมอหมด

ผมก็เชื่อว่าคนไทยส่วนใหญ่ของประเทศก็เป็นแบบนี้

คุณหมอเฉก  ท่านก็พยายามสร้างกระแสให้ให้บรรดาคุณหมอ ในกระทรวงสาธารณสุข หาวิธีป้องกัน  ดีกว่าไปรักษาเมื่อเจ็บป่วย  ค่าใช้จ่ายมีเท่าไรก็ไม่พอ  แต่ก็ไม่มีใครสนใจที่จะทำให้เกิดขึ้น

ผมก็ขอทำเพื่อลูกน้องตัวเอง  จะได้สุขสบายขึ้น  ให้รู้กิน  รู้โรค  ตามภูมิที่มี  ทำได้เท่าไรก้พอใจทั้งนั้น และต่อไปจนชักชวนคนงาน รำชิกงตอนเย็น เพื่อไม่ให้เจ็บป่วย

พรุ่งนี้ต้องไปทำงานที่นครศรีธรรมราช Boarding 09:15 น. ไปเจอฝน แน่นอน

ราตรีสวัสดิ์ทุกท่านครับ

      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #11120 เมื่อ: 27 พฤศจิกายน 2556, 20:48:34 »



ต้องไปเผชิญ อุณหภูมิ ๑๐ องศาเซียลเซียส
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #11121 เมื่อ: 28 พฤศจิกายน 2556, 06:10:41 »



สวัสดียามเช้าครับ ชาววซีมะโด่ง และแขกผู้มาเยือน ที่รัก

วัันนี้ต้องกินข้าวเช้าก่อนใส่บาตรพระ มีเวลาจำกัด
ต้องไปซื้อกับข้าว อาบน้ำ ล้างภาชนะหุงข้าว ใส่บาตรพระ และรีบไปสนามบินดอนเมืองภายหลังใส่บาตรเสร็จทันที
ดูแล้วกระชั้นชิดเกินไปภายในหนึ่งชั่งโมง ที่ว่างก่อนไปซื้อกับข้าวใส่บาตร ก็ต้องกินอาหารเช้าก่อน

อย่าาลืมเช้านี้มีสติ สร้างความรู้สึกตัว
เมื่อรู้สึกตัว  มันไม่คิด
เมื่อไม่คิด ก็ไม่ทุกข์
เมื่อระลึกรู้หรือทำบ่อยๆในอารมณ์ จิตมันจะจำได้
และเมื่อจิตจำได้ มันจะสร้างดารรู้สึกตัวทันที คือระลึกได้เอง
เมื่แท่าน ยืน เดิน นั่ง นอน หายใจ กิน ท่านจะรู้สึกตัวได้
และออะไรดีๆ ทางวิปัสสนาปัญามันเกิดการรู้จากจิตของมันเอง
และโชคดีท่านจะเห็นรูป-นาม และความเป็นไตรลักษณ์
และท่านจะเห็นธรรม และศรัทธาเห็นจริงในธรรมนั้น

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #11122 เมื่อ: 28 พฤศจิกายน 2556, 06:40:37 »



พี่สิงห์  ต้องพึ่งกับข้าวร้านนี้เป็นส่วนใหญ่เมื่ออยู่บ้าน
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #11123 เมื่อ: 28 พฤศจิกายน 2556, 08:18:03 »



วันนี้ท่านพระมหาอมรินทร์  รองเจ้าอาวาสวัดลาดพร้าว ท่านมาบิณฑบาตร และให้พรขอให้เดินทาง ไปสาธยายพระไตรปิฎก และเดินทางไปทำงานที่นครศรีธรรมราช ด้วยความปลอดภัย

พระมหาอมรินทร์ ท่านดูแลทางด้านอมรมศีลธรรม  ปฏิบัติธรรมให้แก่ญาติโยมที่ไปทำบุญวัดลาดพร้าว และกิจกรรมของวัดเช่น อบรมเด็กนักเรียน  บวชเณร ประจำปี เป็นต้น

พี่สิงห์อยู่สนามบินดอนเมือง

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #11124 เมื่อ: 28 พฤศจิกายน 2556, 10:51:00 »

พี่สิงห์

ในขณะที่เว็ปเรา มีผู้คนและสมาชิกเข้ามากันน้อยลงไปทุกๆ วัน
ผมอยากให้สมาชิกผู้ที่ซ่อนตัว ออกมาปรากฏตัว เพื่อกระตุ้นให้ชาวหอเข้ามามากๆ
แต่ไม่รู้ว่าจะเอ่ยได้อย่างไร
การเป็นผู้ซ่อนตัวในสายตาของผม ชักจะไม่ช่วยเว็ปนี้แต่อย่างใดแล้ว ??!!!!~
เห็นด้วยกับผม ไหมครับ ??
      บันทึกการเข้า
  หน้า: 1 ... 443 444 [445] 446 447 ... 681   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

ทำไมหอพักนิสิตจุฬาจึงเป็นดินแดนมหัศจรรย์            " ไม่ได้เป็นแค่หอให้นอนพัก  แต่เป็นบ้านอบอุ่นรักให้อาศัย  ไม่เป็นแค่ที่ซุกหัวยามหลบภัย  แต่สร้างใจให้เข้มแข็งแกร่งการงาน"  <))))><