28 พฤศจิกายน 2567, 00:48:55
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: 1 ... 416 417 [418] 419 420 ... 681   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: คุย กับ คุณมานพ กลับดี อดีตประธานชมรม ๓ สมัย  (อ่าน 3584713 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #10425 เมื่อ: 03 ตุลาคม 2556, 19:26:10 »

อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 03 ตุลาคม 2556, 17:28:56
พี่สิงห์


ใช้เวลาของค่ำนี้ ไปเดินในงานสาร์ทเดือนสิบซีครับ เผื่อจะได้พบเห็นสิ่งที่มันแปลกตาของชาวใต้

สวัสดีครับ คุณเหยง

ไปกลางคืน มันก็เป็นฆ่าศึกแห่งพรหมจรรย์ เพราะมันมีการละเล่น
มีรำโนราห์ และ หนังตะลุง เป็นหลัก  จะไปยืนดูก็น่าเกลียด
ส่วนใหญ่มีแต่ขนมก็ไม่กินครับ

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #10426 เมื่อ: 03 ตุลาคม 2556, 21:05:42 »



อาจารย์ถาวร   โชติชื่น

ส่งมาบอกบุญ ครับ

                  พี่สิงห์  จะหาเวลาไปโรงพยาบาลจุฬาฯ  จะไปบริจาค
                  เพื่อระลึกถึงพระองค์มีพรรษา ๘๐ พรรษา และทรงมีอายุครบ ๑๐๐ ปี
                  จะไปวันไหนนั้น เอาวันที่สะดวก  อยู่กรุงเทพฯ เพียงนั่งรถไฟฟ้าไปลงที่จุฬาฯ

                  สวัสดี
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #10427 เมื่อ: 03 ตุลาคม 2556, 21:41:43 »

บางมุมของ “พระสังฆราช” ที่ชาวพุทธยังไม่รู้
2 ตุลาคม 2556 21:11 น.


       วันนี้ (3 ตุลาคม) เป็นวันที่เหล่าพุทธศาสนิกชนชาวไทย ล้วนปลาบปลื้มปีติเป็นล้นพ้น เนื่องด้วยสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช ทรงเจริญพระชันษา 100 ปี พระองค์ทรงได้รับพระราชทานสถาปนาเป็นสมเด็จพระสังฆราช ในราชทินนามที่สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เมื่อวันที่ 21 เม.ย. 2532 นับเป็นสมเด็จพระสังฆราชพระองค์ที่ 19 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์
       
       ด้วยพระองค์ทรงมีพระเมตตาต่อพุทธศาสนิกชนไทยเป็นล้นพ้น ทรงประกอบศาสนกิจเป็นคุณประโยชน์เอนกอนันต์ มิเพียงแต่ชาวพุทธในประเทศไทยเท่านั้น แต่ยังทรงแผ่พระเมตตาบารมีไปทั่วโลก พระองค์ท่านจึงได้รับการยกย่องจากทั้งชาวพุทธในประเทศไทยและในต่างประเทศ
       
       พระประวัติชีวิตและผลงานของพระองค์ จึงมีผู้นำมาเขียนเผยแพร่อยู่มากมาย แต่ก็ยังมีบางมุมในพระประวัติ ที่เชื่อว่าชาวพุทธหลายคนยังอาจจะไม่เคยรับทราบมาก่อน โอกาสนี้ กองบรรณาธิการ เอเอสทีวี ผู้จัดการรายวัน ได้รับความกรุณาจาก พระ ดร.อนิลมาน ศากยะ ผู้ช่วยเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช ได้เมตตาเล่าถึงพระประวัติส่วนพระองค์ ที่สะท้อนถึงพระจริยวัตรอันงดงาม มีคุณค่าแก่ชาวพุทธ ให้ได้ยึดถือเป็นแบบอย่างสืบเนื่องต่อไป
       
       อนึ่ง พระ ดร.อนิลมาน ศากยะ เป็นชาวเนปาล สมเด็จพระสังฆราชทรงรับอุปถัมภ์ตั้งแต่เป็นสามเณรอายุ 14 ปี ทรงสั่งสอนหลักธรรม และส่งเสริมให้เรียนรู้จนจบปริญญาเอก จากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ ประเทศอังกฤษ ด้วยพระ ดร.อนิลมาน รับใช้สมเด็จพระสังฆราชมาตั้งแต่ยังเป็นเด็กจนเจริญวัยในปัจจุบัน จึงเป็นท่านหนึ่งที่ทราบถึงพระประวัติส่วนพระองค์ทุกเรื่องได้เป็นอย่างดี
       
       พระจริยวัตรประจำวัน
       
       พระ ดร.อนิลมาน เล่าว่า สมเด็จพระสังฆราชทรงตื่นบรรทมทุกเช้าเวลา 03.30 น. จากนั้นจะทรงนั่งสวดมนต์ภาวนาไปจนถึงเวลา 05.00 น. บทสวดมนต์ที่พระองค์ท่องประจำ มีตั้งแต่สวดพระปาติโมกข์ ท่องพระสูตรและพระคาถาต่างๆ
       
       “ถ้าวันไหนมีกิจกรรมเยอะๆ จะต้องทำ พระองค์จะรับสั่งกับอาตมาว่า...วันนี้สวดยังไม่จบคอร์สเลย...เพราะทรงพระอารมณ์ดี”
       
       หลังจากสวดมนต์เสร็จ พระองค์จะทรงนั่งสมาธิเพื่อฝึกจิตให้นิ่งและมั่นคง ต่อไปจนถึง เวลา06.00 น. จากนั้นจึงเสด็จออกจากพระตำหนัก เพื่อรับแขกที่มาเข้าเฝ้าหรือเสด็จบิณฑบาต แม้ตอนที่พระองค์เป็นพระสังฆราชก็ยังเสด็จออกบิณฑบาตเป็นประจำ
       
        “พระสังฆราชทรงพระเมตตามาก หลังจากบิณฑบาตกลับมาทรงเห็นเณรน้อยหลายรูป ที่ไม่ค่อยมีใครใส่บาตร ส่วนพระองค์ของเต็มบาตรเพราะมีประชาชนมาถวายกันเยอะ พระองค์จะทรงแบ่งอาหารจากบาตรให้แก่เณรด้วย หรือบางทีพระรอบกุฏิที่ไม่ออกบิณฑบาต พระองค์ทรงกลัวว่าพระเหล่านั้นจะไม่มีอาหารฉัน ก็จะทรงแบ่งอาหารในบาตรให้ พร้อมพูดติดตลกว่า แทนที่ลูกศิษย์จะเลี้ยงอุปัชฌาย์ กลายเป็นอุปัชฌาย์เลี้ยงลูกศิษย์แทน”
       
       ในทุกๆ วัน จะมีทั้งแขก ผู้มีชื่อเสียงและเหล่าพุทธศาสนิกชน มาเข้าเฝ้าสมเด็จพระสังฆราชเป็นจำนวนมาก พระองค์ทรงอนุญาตให้เข้าเฝ้าตั้งแต่ 07.00 น. เป็นต้นไป จนถึง 09.30น. จึงจะเสวยพระกระยาหาร โดยเสวยมื้อเดียวมาตลอด
       
       พระ ดร.อนิลมาน เล่าว่า แขกที่มาเข้าเฝ้าพระองค์ บางวันมีจำนวนมากจนบางครั้งขณะที่พระองค์ทรงเสวยก็ยังมีมาเข้าเฝ้า
       
       “วันหนึ่งสมเด็จพระเทพฯ เสด็จมา ทอดพระเนตรเห็นมีแขกมาเข้าเฝ้า ขณะที่ สมเด็จพระสังฆราชกำลังเสวย สมเด็จพระเทพฯ ทรงเขียนป้ายบอกว่า ห้ามเข้าเฝ้าจนกว่าจะเสวยเสร็จ...เพราะทรงเห็นว่า พระองค์มีเวลาเสวยเพียงวันละมื้อเท่านั้น”
       
       สมเด็จพระสังฆราชจะบรรทมอีกทีประมาณ 1 ชั่วโมงหลังเสวยเสร็จ เมื่อตื่นบรรทมแล้วถ้ามีงานนิมนต์ก็จะเสด็จไป หรือถ้าเป็นช่วงเข้าพรรษา พระองค์จะเสด็จไปสอนพระใหม่ แต่ถ้าไม่ได้เสด็จไปไหน พระองค์จะใช้เวลาตลอดช่วงบ่าย ค้นคว้าตำรา ทรงอ่านหนังสือหรือทรงพระนิพนธ์
       
       ช่วงเวลา 16.00-18.00 น. ทรงเปิดพระตำหนักให้ญาติโยมได้เข้าเฝ้าอีกครั้ง จากนั้นถ้ามีเวลาเหลือ จะทรง
       ค้นคว้าและทรงพระนิพนธ์งาน หรือทรงเตรียมงานสำหรับวันต่อไป
       
       สมเด็จพระสังฆราชจะเข้าบรรทมทุกวันในเวลา 21.00 น. โดยก่อนบรรทมจะสวดมนต์เจริญภาวนาอีกครั้ง
       
       ทรงเป็นนักสื่อสารมวลชน
       
       หลายคนอาจจะไม่เคยทราบว่า สมเด็จพระสังฆราชเคยเป็น “นักจัดรายการวิทยุ” ด้วย โดย พระ ดร.อนิลมาน เล่าว่า ครั้งหนึ่งสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี หรือ สมเด็จย่า ทรงเคยขอให้สมเด็จพระสังฆราชจัดรายการวิทยุ ที่สถานี อส. เกี่ยวกับเรื่องธรรมะเมื่อปี 2510 เป็นต้นมา
       
       “พระองค์จะทรงเขียนบทวิทยุเอง เป็นบทสั้นๆ ประมาณ 10 นาที แล้วทรงอ่านอัดเทปเพื่อนำไปเปิดในรายการ ครั้งหนึ่งสมเด็จย่าทรงให้พระองค์ทรงเขียนเรื่องธรรมะสำหรับผู้ใหญ่ เพื่อนำไปออกอากาศ พระองค์จึงทำบทวิทยุเรื่อง “การบริหารจิตสำหรับผู้ใหญ่” โดยทำเป็นตอนๆ และในช่วงท้าย พระองค์กทรงนิพนธ์เรื่องจิตตนครขึ้นมา”
       
       นอกจากนี้ พระ ดร.อนิลมาลยังเปิดเผยว่า สมเด็จพระสังฆราชทางเป็นคนทันสมัยมาก เพราะครั้งหนึ่งพระองค์เคยเป็นคอลัมนิสต์เขียนบทความลงใน “ศรีสัปดาห์” ซึ่งเป็นนิตยสารของผู้หญิง
       
       ทรงเป็นกวีเอก
       
       อีกเรื่องหนึ่งที่น้อยคนนักจะรู้ว่า สมเด็จพระสังฆราชทรงเป็นกวีที่เก่งมาก ทรงแต่งโคลง ฉันท์ กาพย์ กลอนทุกประเภท ทั้งภาษาบาลีและภาษาไทยได้อย่างสละสลวย โดยเฉพาะ วันคล้ายวันพระราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระสังฆราชทรงพระนิพนธ์กลอนถวายทุกปี
       
       เมื่อสมัยที่ทรงผนวชเป็นพระใหม่ สมเด็จพระสังฆราชเดินทางมายังกรุงเทพฯ เพื่อศึกษาพระปริยัติธรรมที่วัดบวรนิเวศวิหาร พระองค์ทรงสอบได้นักธรรมชั้นตรีได้เมื่อ พ.ศ. 2472 และทรงสอบได้นักธรรมชั้นโท และเปรียญธรรม 3 ประโยค ในปี พ.ศ. 2473
       
       แต่ครั้นสอบเปรียญธรรม 4 ประโยค ผลปรากฏว่า ทรงสอบตกทั้งๆ ที่ทรงตั้งพระทัยมาก ทำให้ทรงรู้สึกท้อแท้มาก พระ ดร.อนิลมาน เล่าว่า ทรงระบายความรู้สึกผิดหวังออกมาเป็นกลอน หลังจากนั้น พระองค์ก็ทรงใช้ความผิดหวังเป็นพลังกลับไปสอบใหม่จนจบเปรียญ 9
       
       รับสั่งได้ถึง 4 ภาษา
       
       พุทธศานิกชนมักจะเห็นว่า เหล่าแขกที่มาเข้าเฝ้าสมเด็จพระสังฆราชนั้น มีทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติมากมาย คำถามคือ สมเด็จพระสังฆราชทรงรับสั่งภาษาอังกฤษได้หรือไม่ เรื่องนี้ พระ ดร.อนิลมาน ได้เล่าว่า พระองค์มีพระปรีชามาก ทรงฝึกหัดภาษาต่างประเทศด้วยพระองค์เอง จนสามารถรับสั่งอย่างคล่องแคล่ว และทรงเขียนได้ 4 ภาษาคือ ภาษาอังกฤษ, ฝรั่งเศส, เยอรมัน และ จีน นอกจากนี้ ตัวอักษรที่ทรงอ่านและเขียนได้คล่องคืออักษรขอมโบราณ อักษรพม่า อักษรสิงหล และอักษรเทวนาครี
       
       พระนิพนธ์อันทรงคุณ
       
       พระ ดร.อนิลมาน เล่าว่า สมเด็จพระสังฆราชทรงนิพนธ์เรื่องต่างๆ ไว้เป็นอันมาก ทั้งที่เป็นตำรา พระธรรมเทศนา นิยายทั่วไป โดยพระนิพนธ์ล่าสุดเรื่อง “จิตตนคร” โดย พระธีรโพธิ ภิกขุ ได้จัดพิมพ์เป็นหนังสือภาพในชื่อ “จิตรกรรมเล่าเรื่องจิตตนคร” เพื่อฉลองพระชันษา 100 ปี
       
       “พระนิพนธ์มีมหาศาลมากที่กำลังจัดพิมพ์ขณะนี้ มีถึง 32 ซีรีย์ แต่ละเล่มหนาถึง 500หน้า ซึ่งเป็นธรรมะทุกระดับ”
       
       ครั้งหนึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงสดับฟังเทปของสมเด็จพระสังฆราชเรื่อง “สัมมาทิฏฐิ” ซึ่งเป็นธรรมะที่ลึกซึ้ง และทรงสนพระทัยมากจนขอประทานอนุญาตสมเด็จพระสังฆราช เพื่อพิมพ์ถวาย โดยในหลวงทรงพิสูจน์อักษรด้วยพระองค์เอง
       
       ส่ง”พระธรรมทูต”เผยแผ่ศาสนา
       
       สมเด็จพระสังฆราชทรงทันสมัยและมีวิสัยทัศน์ในเรื่องพระศาสนาอย่างกว้างไกล ปัจจุบันเราจะเห็นว่า มีพระไทยและวัดไทยที่ไปเผยแผ่พระพุทธทั่วโลก อันเนื่องมาจากพระดำริที่มองการณ์ไกลของพระองค์นั่นเอง
       
       เมื่อปี พ.ศ.2509 สมเด็จพระสังฆราชเป็นพระองค์แรก ที่ทรงดำริที่จะเผยแผ่พระพุทธศาสนาไปยังต่างประเทศ พระองค์จึงทรงเป็นประธานกรรมการอำนวยการ ฝึกอบรมพระธรรมทูตในต่างประเทศ
       
       “ตอนนั้นพระองค์ท่านทรงริเริ่มฝึกพระธรรมทูต โดยเลือกจากพระเณรให้ฝึกพูดภาษาอังกฤษก่อน จากนั้นก็ฝึกให้ใช้ชีวิตที่เปลี่ยนตามสภาพแวดล้อมได้ เพื่อง่ายต่อการส่งไปเผยแพร่ศาสนายังวัดในต่างประเทศ”
       
       จากพระธรรมทูตองค์แรกเมื่อปี 2509 จนถึงปัจจุบัน มีพระธรรมทูตที่ไปเผยแผ่พระพุทธศาสนา และสร้างวัดทั่วโลกถึง 200 แห่ง และในโอกาสฉลองพระชันษา 100 ปี เหล่าพระธรรมทูตก็ได้กลับมาที่วัดบวรฯ เพื่อสัมมนาตรวจสอบจิตวิญญาณแห่งพระธรรมทูตครั้งใหญ่ร่วมกัน
       
       เนื่องในวโรกาสที่ใต้ฝ่าพระบาทเจริญพระชนมายุ 100 พรรษา กองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ เอเอสทีวี ผู้จัดการรายวัน ขอตั้งจิตอธิษฐาน ขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัย และอำนาจพระกุศลบารมี ที่ใต้ฝ่าพระบาททรงกระทำบำเพ็ญมา จงอภิบาลรักษาใต้ฝ่าพระบาทให้เสด็จสถิตเป็นบุญยฐานและประทีปธรรมของปวงพุทธบริษัทตลอดไป
       
       ข่าวโดยทีมข่าว Celeb-Online
       
       

 
จาก http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrView.asp?NewsID=9560000124143
 
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #10428 เมื่อ: 04 ตุลาคม 2556, 05:46:38 »

สวัสดียามเช้า ครับคุณเหยง

ต้องกด like ให้ครับ
พี่สิงห์ ได้ฟังประวัติของท่านจากรายการ
อาทิตย์สโมสร ของ ดร.วิษณุ  เครืองาม เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมาแล้ว
จึงไม่ได้นำมาไว้  ต้องขอบคุณยิ่ง

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #10429 เมื่อ: 04 ตุลาคม 2556, 05:52:46 »

สวัสดีครับ ชาวซีมะโด่ง และแขกผู้มาเยือน ที่รักทุกท่าน

วันนี้เป็นวันพระ  เป็นวันสารท
จงทำจิตของตนให้รู้สึกตัว หรือมีสติ
การปรุงแต่ง หรือคิด มีแต่ก่อทุกข์
ถ้าจะคิด ให้คิดทางธรรม ไม่มีทุกข์
เมื่อมีสติ หรือรู้สึกตัว ความคิดจะหยุด
เมื่อความคิดหยุด ทุกข์ก็ไม่มี

ขอจงพิจราณาให้เห็นความจริงอันนี้ ท่านจะพ้นทุกข์ได้

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #10430 เมื่อ: 04 ตุลาคม 2556, 07:38:14 »

      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #10431 เมื่อ: 04 ตุลาคม 2556, 07:42:56 »



สวัสดีครับ ชาวซีมะโด่ง และแขกผู้มาเยือน ที่รักทุกท่าน

เช้านี้ ได้สวดมนต์ทำวัตรเช้า นั่งภาวนาเจริญสติ
เดินจงกรมออกกำลังกาย  ฝึกชิกง-โยคะ
และรับประทานอาหารเช้า ที่โรงแรม อยู่นคนศรีธรรมราช
ไม่ได้ไปทำบุญเทศกาลสารทไทยที่วัด ที่บ้าน
และไม่ได้กินกระยาสารท

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #10432 เมื่อ: 04 ตุลาคม 2556, 09:01:44 »


เทศการกินเจ นั้นดี
แต่ขอให้กินแบบใช้ปัญญา ไม่กินผัดด้วยน้ำมัน
ไม่กินของทอด และ
อย่ากินแป้งมาก

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #10433 เมื่อ: 04 ตุลาคม 2556, 09:25:34 »


ฝนมากขึ้นในภาคกลาง ภาคตะวันออก กทม.และปริมณฑล ถึงร้อยละ 80 ของพื้นที่

พยากรณ์อากาศ ประจำวันศุกร์ที่ 4 ตุลาคม 2556
ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น.  ร่องมรสุมกำลังค่อนข้างแรงจะยังคงพาดผ่านภาคกลางตอนล่าง ภาคใต้ตอนบน และภาคตะวันออก อย่างต่อเนื่องจนถึงวันที่ 5 ตุลาคม 2556 ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคกลางตอนล่าง ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีฝนหนาแน่นและมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณจังหวัดลพบุรี สระบุรี พระนครศรีอยุธยา กาญจนบุรี สุพรรณบุรี ราชบุรี กรุงเทพมหานครรวมทั้งปริมณฑล นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด เพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักในช่วงวันที่ 4-5 ตุลาคม 2556 ไว้ด้วย
อนึ่ง พายุโซนร้อน “ฟิโทว์” (FITOW) บริเวณมหาสมุทรแปซิฟิก กำลังเคลื่อนตัวทางทิศเหนือเช้าใกล้เกาะโอกินาว่า ประเทศญี่ปุ่น โดยพายุนี้ไม่มีผลกระทบต่อประเทศไทย
 
พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.

ภาคเหนือ  มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัด
ตาก สุโขทัย พิษณุโลก กำแพงเพชร พิจิตร และเพชรบูรณ์

อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
 
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ  มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัด
เลย ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี

อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
 
ภาคกลาง  มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 80 ของพื้นที่และมีฝนตกหนักบางแห่ง
บริเวณจังหวัดลพบุรี สระบุรี พระนครศรีอยุธยา กาญจนบุรี สุพรรณบุรี และราชบุรี

อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส
ลมแปรปรวน ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
 
ภาคตะวันออก  มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
บริเวณจังหวัดนครนายก ฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี สระแก้ว ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด

อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-31 องศาเซลเซียส
ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
 
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)  มีเมฆมากกับมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่
และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดเพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์

อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
 
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีเมฆมากกับมีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 80 ของพื้นที่
และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดระนอง พังงา และภูเก็ต

อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-32 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
 
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล  มีเมฆมาก โอกาสมีฝนตก ร้อยละ 80 และมีฝนตกหนักบางแห่ง
อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-31 องศาเซลเซียส
ลมแปรปรวน ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
 
 
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #10434 เมื่อ: 04 ตุลาคม 2556, 11:16:41 »









สวัสดีครับ ชาวซีมะโด่ง และแขกผู้มาเยือน ที่รักทุกท่าน

                   ถ้าเราพิจารณษจากสถานีวัดน้ำของกรมชลประทาน ในราบลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นหลัก

                   น้ำยังไม่ท้วมจังหวัดชัยนาท  สิงห์บุรี  อ่างทอง  อยุธยา  ปทุมธานี  นนทบุรี  กทม. และสมุทรปราการ

                   น้ำจะท้วมเฉพาะที่ลุ่มริมแม่น้ำจริง ๆ หรือที่ลุ่มมาก เช่นบางปะหัน  บางบาน

                   จะมีปัญหาท้วมก่อนก็ที่อยุธยา เพราะต้องรับการระบายน้ำจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ที่น้ำเต็มอ่าง

                   เขื่อนป่าสักระบายมาทางแม่น้ำป่าสัก ผ่านเขื่อนพระรามหก (ท่าหลวง สระบุรี) มาออกทางอำเภอท่าเรือ อำเภออุทัย และลงเจ้าพระยาที่อยุธยา บางปะหัน ที่ระดับน้ำปริ่มตลิ่งมาก  แต่มันก็จำเป็นเพราะเขื่อนป่าสักน้ำเต็มเขื่อน  จำเป็นต้องระบายออกอย่างยิ่ง

                   แต่หน้าที่จะลดความเดือนร้อนของประชาชนริมแม่น้ำได้  ด้วยการลดปริมาณการปล่อยน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยาลง เพราะน้ำในเขื่อนภูมิพลไม่มี  และน้ำที่ท้วมอยู่ที่พิษณุโลก พิจิต  ไม่สูงมาก (ปริมาณน้ำไม่มากมายอะไร พอที่จะทำให้เขื่อนเจ้าพระยารับไม่ได้ ในเวลานี้) พิษณุโลก พิจิต มันต้องท้วมอยู่แล้วเพราะเป็นพื้นที่ต่ำ และแม่น้ำสองสาย ไม่มีเขื่อนรองรับ  ยังสร้างเขื่อนไม่ได้ มันก็ต้องท้วมเป็นเรื่องธรรมดา แต่สร้างเขื่อนแล้วดูแลไม่ดี มันก็ท้วมได้เช่นกัน

                    นิคมอุตสาหกรรม  กทม. เชื่อขนมกินได้  ไม่ท้วมเด็ดขาด

                    ระวังแล้งหน้า ชาวนาจะไม่มีน้ำปลูกข้าวนาปรัง เพราะเขื่อนไม่มีน้ำ

                    เป็นผม จะขอร้องให้รัฐบาลปล่อยน้ำเข้าไปเก็บไว้เป็นแก้มลิง อยู่ในนาที่ราบลุ่มเจ้าพระยา ๕ ล้านไร่ ทั้งสองฝั่ง

                    เป็นการเพิ่มปุ๋ยให้กับนาข้าว  ปลาได้มีโอกาสแวกว่ายไปมาโดยอิสสระ และปลาสามารถขยายพันธุ์อยู่ในนาข้าว เป็นอาหารของคน

                    ดีกว่าปล่อยทิ้งทะเล  เสียดายของ  สถานการจริง  ไม่ได้ไม่ดีร้ายอะไรเลย

                    ผมจะมองตรงข้ามกับ นายกรัฐมนตรี  คุณปลอดประสพ  ที่มองด้านการเมืองเป็นหลัก  ผมดูตามความเป็นจริง

                
                    สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #10435 เมื่อ: 04 ตุลาคม 2556, 12:05:23 »






                     ตอนนี้คุณเหยง ต้องหาหย่อมความกดอากาศต่ำ หรือดีเพลสชั่น

                     มาหย่อนลงที่ เขื่อนภูมิพล  เขื่อนสิริกิตติ์ และเขื่อนลำตะคอง

                     แต่ต้องหย่อนให้แม่นด้วย
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #10436 เมื่อ: 04 ตุลาคม 2556, 12:19:46 »



วันจันทร์ที่ ๑๔ ตุลาคม ไปสอนหนังสือเรื่อง 5ส. ที่โรงงานคุณมิ้ง มหาชัย สมุทรสาคร ช่วงบ่าย

วันอังคารที่ ๑๕ ตุลาคม  ไปโรงงานของ SIW ที่อำเภอปลวกแดง  ระยอง ออกเดินทาง 06:30 น. 

      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #10437 เมื่อ: 04 ตุลาคม 2556, 13:07:13 »


สวัสดีครับ ชาวซีมะโด่ง และแขกผู้มาเยือน ที่รักทุกท่าน

                   วันนี้เป็นวันสารท ทีชาวนครศรีธรรมราชเขาจะไปทำบุญที่วัด เป็นการทำบุญเพล

                   ดังนั้น สถานที่ทำงานจะปิด  ทุกคนจะไม่ทำงาน จะไปอยู่กันที่วัด เพื่อทำบุญให้บรรพบุรุษ

                    เมื่อวานมีชายหนุ่มคนหนึ่งมาปรึกษา พี่สิงห์ ว่า ได้ฝึกเล่นกล้ามออกกำลังกายมาหลายปีแล้ว กล้ามเนื้อเป็นมัด ๆ โดยมีวัตถุประสงค์ว่าจะลดความดัน  แต่ปรากฏว่า ยังต้องกินยาลดความดัน ตลอดเวลา ทำอย่างไรดีครับ อาจารย์ ?

                   ผมก็บอกว่า ในเมื่อทดลองมานานแล้วมันไม่ได้ผล ลองมาฝึกโยคะ และรำชิกง  ดูบ้างอาจจะดีกว่าเดิมก็ได้

                   จริง ๆ แล้ว อยากจะแนะนำให้เขาขี้จักรยานท่องเที่ยวทุกวัน ให้ได้วันละ หนึ่งชั่วโมงขึ้นไป จากวันจันทร์ - ศุกร์ และทุกวันศุกร์มาฝึกโยคะ - ชิกง กับพี่สิงห์  เชื่อว่าความดันน่าจะลดลง

                   เท่าที่สอบถามดู เป็นคนชอบกิน  และกินจุ

                   มันก็ต้องแก้ที่นิสัยการกินด้วย  ต้องเอาชนะจิตตนเองในเรื่องการกินให้ได้ก่อน  ได้แนะนำไปมาก

                   ใครจะแนะนำเพิ่มเติมบ้างครับ  ทำอย่างไรจะลดความดัน

                    ผมอยากให้เขาทำ เช้าวัน จันทร์ พุธ ศุกร์ ขี่รถจักรยานไปกินข้าวเช้าที่ อำเภอท่าศาลา

                    อังคาร พฤหัสบดี ขี่จักรยานไปกินข้าวเช้าที่อำเภอทุ่งสง

                    วันศุกร์ มาฝึกโยคะ - ชิกง

                    ผมเชื่อว่า ความดันมันจะลดลงได้  ดีกว่าไปฝึกสร้างกล้ามเนื้อแบบที่ผ่านมา จนเป็นนักกล้าม แต่ความดันไม่ลดลงเลย

                    สวัสดี
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #10438 เมื่อ: 04 ตุลาคม 2556, 17:14:01 »

พี่สิงห์


ลมหนาวเริ่มมาเยือนภาคเหนือแล้ว
คาดว่ากลางเดือนนี้ ประเทศไทยจะเริ่มเข้าสู่ฤดูหนาว จะมีฝนก็เพราะอากาศเย็นปะทะกับไอน้ำ
จากนั้นฝนก็จะเริ่มน้อยลง
นาปรังปีหน้า ชาวนาก็คงบังคับรัฐบาลทำฝนเทียม หรือเจาะหาน้ำบาดางมาปลูกข้าวเหมือนเดิมครับ
ประชานิยมจนเลิกไม่ได้แล้ว ++++!!!!!!!++++
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #10439 เมื่อ: 04 ตุลาคม 2556, 18:42:22 »



สวัสดีครับ คุณเหยง

เจาะน้ำบาดาลมาทำนา จนน้ำใต้ดินไม่มีแล้ว
เป็นผลเสีย มากกว่าผลดี  ไม่คุ้มกันเลย ไม่ควรปล่อยแบบนี้
วันนี้เย็นไม่มีอะไรทำเลย  คนนครเขาไปเที่ยวเป็นวันครอบครัวภายหลังจากทำบุญเพล  ไม่มีใครมาเรียนโยคะ และเต้นอาโรบิค ทั้งนั้น

ในทีสุด พี่สิงห์ ก็ไม่ได้ไปดูงานสารทเดือนสิบ วันนี้คนมาก และรถโรงแรมไม่ว่าง ก็เลยไม่ไปไหน  อยู่แต่โรงแรม

ฝนไม่ตก  แสงแดดจ้าตั้งแต่เช้าจนเย็น

เปิดทีวีช่องไหนมีแต่ข่าวน้ำท้วม  ถ้าใครหาข่าวน้ำท้วมไม่ได้ แสดงว่าตกข่าว  ไม่อยู่กับความเป็นจริงเลย  พายุก็ไม่มี ลมหนาวจะมาแล้ว  ตามที่คุณเหยงบอก  ฝนมันก็หาย ยกเว้นหนาวมาทางใต้มีฝน

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #10440 เมื่อ: 04 ตุลาคม 2556, 19:00:01 »

มีเพื่อนอยู่กับเขาคนหนึ่ง  ก็หายหน้าหายตาไปเลย
สงสัยมีงานหนัก  

มีเพื่อนรุ่นน้องเกษียร คนหนึ่งก็หายหน้าหายตาไปเหมือนกัน

สงสัยมีเพื่อนเป็น ดร.นี่ไม่ดีเลย
เราระลึกถึงเขา  แต่เขาไม่ระลึกถึงเราเลย

วันนี้ มีมารมาผจญทางจิตมาก  มี ถีนมิตถะ สูง

นิวรณ์ ๕  มาผจญอีกแล้วเรา

วันนี้วันพระ  ต้องสวดมนต์ให้มาก

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #10441 เมื่อ: 04 ตุลาคม 2556, 20:43:01 »

ขอฟ้องคุณเหยง !

                    อาทิตย์ที่ผ่านมา  มีการแข่งเรือยาวที่อำเภอเสาให้ แม่น้ำป่าสัก สระบุรี เรือที่ชนะ คือเรือจักรนารายณ์ ชนะ เทพนรสิงห์ 88 น้ำในแม่น้ำป่าสักมีเพียงครึ่งแม่น้ำ เท่านั้น แทบจะแข่งเรือยาวไม่ได้

                     แต่มาอาทิตย์นี้ ขณะนี้น้ำในแม่น้ำป่าสักกำลังท้วม อำเภอท่าเรือ  อุทัย และเสนา

                     รวมทั้ง น้ำกำลังจะท้วมอยุธยา มาจากการปล่อยน้ำที่เขื่อนป่าสัก อย่างมากมาย ด้วยเหตุผล น้ำเต็มเขื่อน ต้องระบายทิ้ง

                      ผมได้บอกไปแล้ว เขื่อภูมิพล  ไม่มีน้ำ พายุไม่มี แต่เขื่อนเจ้าพระยาใจร้าย ก็ยังปล่อยน้ำมาอีก ไม่ลดปริมาณน้ำลง เพื่อชดเชยเขื่อนป่าสักเลย  อยุธยาจึงต้องท้วม

                      นาข้าว ๕ ล้านไร่ ริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ท่านปล่อยน้ำเข้าไป  ข้าวก็ยังอยู่ได้ เพราะมีพื้นที่มากมหาศาล ท่านก็ไม่ทำ

                      คุณเหยงครับ เหมือนกับว่ามีคนสั่งการให้น้ำมันท้วมอยุธยา  ชาวกทม. ปทุมธานี และเมืองนนทบุรี จะได้ผวา กลัว

                      งบประมาณ สามแสนล้าน เพื่อป้องกันน้ำท้วมจะได้คลอด งบสองล้านล้านบาทจะได้คลอดอย่างไรอย่างนั้น

                      พึ่งใครไม่ได้ก็ต้องพึงคุณเหยง  ช่วยจัดการให้ด้วย

                      ประชาชนที่ถูกน้ำท้วมที่ท่าเรือ อุทัย เสนา และอยุธยา เขาเดือดร้อน

                      สิ่งที่ควรทำ ท่านก็ไม่ทำ  สิ่งที่ไม่ควรทำ ท่านก็ทำ  ระวังกรรมจะตามสนอง

                      ราตรีสวัสดิ์ทุกท่าน  ขอสวดมนต์  ทำจิตให้มีสติดีกว่า  วันนี้ขาดสติไปอย่างมาก

                      สวัสดี
      บันทึกการเข้า
pusadee sitthiphong
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

คณะ: พาณิชยศาสตร์และการบัญชี
กระทู้: 4,689

« ตอบ #10442 เมื่อ: 04 ตุลาคม 2556, 23:00:47 »

อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 04 ตุลาคม 2556, 17:14:01
พี่สิงห์


ลมหนาวเริ่มมาเยือนภาคเหนือแล้ว
คาดว่ากลางเดือนนี้ ประเทศไทยจะเริ่มเข้าสู่ฤดูหนาว จะมีฝนก็เพราะอากาศเย็นปะทะกับไอน้ำ
จากนั้นฝนก็จะเริ่มน้อยลง
นาปรังปีหน้า ชาวนาก็คงบังคับรัฐบาลทำฝนเทียม หรือเจาะหาน้ำบาดางมาปลูกข้าวเหมือนเดิมครับ
ประชานิยมจนเลิกไม่ได้แล้ว ++++!!!!!!!++++

เมื่อเช้านี้ตื่นมามีหมอกแล้วค่ะ
      บันทึกการเข้า

pom shi 2516
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #10443 เมื่อ: 05 ตุลาคม 2556, 07:37:57 »

สวัสดียามเช้าค่ะ คุณป้อม ที่รัก

นครศรีธรรมราช มีเมฆ อยู่มาสามวันไม่มีฝน
เช้านี้สิงห์บุรี ฝนตก
กทม.ยังไม่ทราบ
เชียงใหม่อากาศดีเริ่มเย็นแล้ว
ดูแลตนเองด้วย

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #10444 เมื่อ: 05 ตุลาคม 2556, 08:43:45 »



สวัสดียามเช้าครับ ชาวซีมะโด่ง และแขกผู้มาเยือน ที่รีักทุกท่าน

อาหารเช้าวันนี้ครับ

เช้านี้ได้สวดมนต์ทำวัตรเช้า เจริญสติสร้างการรู้สึกตัว
เดินจงกรมออกกำลังกาย  ฝึกชิกง-โยคะ  รับแสงแดดอ่อนๆ ยามเช้า

ท่านล่ะทำหรือยัง !

กายดูแลร่างกาย จิตใจ เป็นสิ่งแรกที่เราจะต้องทำครับ
ให้ความสำคัญกับมัน   เราจะทำได้เอง

จิตทุกคน  มันนจะทำเพื่อตนเอง
เพราะมันก็กลัวเหมือนกัน

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #10445 เมื่อ: 05 ตุลาคม 2556, 12:22:07 »

พี่สิงห์


วันนี้เป็นวันแรกของการทานเจ อย่างเป็นทางการ
อาหารเจ ไม่จำเป็นต้องทอดด้วยน้ำมันทั้งหมด ต้นก้ได้ ทานสดเช่นพวกผักก็มี
แต่การผัดด้วยน้ำมันเพื่อแต่งรสชาติให้รสจัด เข้มข้น
จึงกลายเป็นการรับอาหารพวกแป้ง น้ำมัน เพิ่มขึ้นมากกว่าการรับไขมัน โปรตีนจากสัตว์
จะอ้วน น้ำหนักขึ้นเพราะพวกแป้ง ไขมันจากน้ำมันพืชครับ
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #10446 เมื่อ: 05 ตุลาคม 2556, 12:55:51 »

หย่อมความกดอากาศต่ำจากเวียตนามมาถึงเขมร บวกร่องมรสุมตะวันตกเฉียงใต้
ทำให้ประทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้นในภาคกลางตอนล่สง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน กทม.และปริมาณฑล
ช่วงนี้ไม่มีพายุก่อตัวในทะเลจีนใต้ครับ

(จะมีก็แต่พายุใหญ่อยู่ในสภาฯ ถนนอู่ทองใน ที่ถาโถมกันด้วยน้ำลายแบบไม่มีหยุดมียั้ง โปรดหลีกหนีบริเวณนี้)
  บรึ๋ยยย  เหนื่อย
พยากรณ์อากาศ ประจำวันเสาร์ที่ 5 ตุลาคม 2556
ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา
"ฝนตกหนักบริเวณภาคกลางตอนล่าง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน และคลื่นลมแรงบริเวณอ่าวไทยตอนบน"

ฉบับที่ 5 ลงวันที่ 05 ตุลาคม 2556

ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 10:00 น.  หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงที่ปกคลุมบริเวณประเทศกัมพูชาได้เคลื่อนเข้ามาปกคลุมบริเวณอ่าวไทยตอนบนแล้ว ประกอบกับร่องมรสุมยังคงพาดผ่านภาคใต้ตอนบน และภาคตะวันออก ลักษณะเช่นนี้
ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนตกชุกหนาแน่นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณ
จังหวัด ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ และชุมพร ระวังอันตรายจาก
ฝนตกหนักในช่วงวันที่ 5-7 ตุลาคม 2556 ไว้ด้วย
สำหรับคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนบนจะมีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กที่มีขนาดความยาวน้อยกว่า 10 เมตร หรือ 5 วา ควรงดออกจากฝั่งในช่วง
วันที่ 5-8 ตุลาคม 2556
 
พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 12:00 วันนี้ ถึง 12:00 วันพรุ่งนี้. 

ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดน่าน อุตรดิตถ์
พิษณุโลก ตาก กำแพงเพชร พิจิตร และเพชรบูรณ์

อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส ณหภูมิสูงสุด 29-31 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม. 

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ  มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดมุกดาหาร
อำนาจเจริญ ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี

อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-33 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
 
ภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่
และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดลพบุรี สระบุรี พระนครศรีอยุธยา และราชบุรี

อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศาเซลเซียส
ลมแปรปรวน ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
 
ภาคตะวันออก  มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
บริเวณจังหวัดนครนายก สระแก้ว ฉะเชิงเทรา จันทบุรี ตราด

อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส
ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
 
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)  มีเมฆมากกับมีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่
และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดเพชรบุรี

อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
 
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีเมฆมากกับมีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่
และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดระนอง ตรัง และสตูล

อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-33 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร 

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล  มีเมฆมาก โอกาสมีฝนตก ร้อยละ 80 และมีฝนตกหนักบางแห่ง
อุณหภูมิต่ำสุด 26-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-32 องศาเซลเซียส
ลมแปรปรวน ความเร็ว 10-30 กม./ชม. 
 
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #10447 เมื่อ: 05 ตุลาคม 2556, 13:11:52 »

อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 05 ตุลาคม 2556, 12:22:07
พี่สิงห์


วันนี้เป็นวันแรกของการทานเจ อย่างเป็นทางการ
อาหารเจ ไม่จำเป็นต้องทอดด้วยน้ำมันทั้งหมด ต้นก้ได้ ทานสดเช่นพวกผักก็มี
แต่การผัดด้วยน้ำมันเพื่อแต่งรสชาติให้รสจัด เข้มข้น
จึงกลายเป็นการรับอาหารพวกแป้ง น้ำมัน เพิ่มขึ้นมากกว่าการรับไขมัน โปรตีนจากสัตว์
จะอ้วน น้ำหนักขึ้นเพราะพวกแป้ง ไขมันจากน้ำมันพืชครับ


สวัสดีครับ คุณเหยง

                  ความเป็นจริง ไปดูที่โรงเจ เลย มีแต่แป้ง ผัดน้ำมัน และของทอดเป็นพื้น

                  เสียสุขภาพ  กินแบบผมดีกว่า

                  สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #10448 เมื่อ: 05 ตุลาคม 2556, 13:29:33 »






      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #10449 เมื่อ: 05 ตุลาคม 2556, 13:35:03 »

อ้างถึง
ข้อความของ Manop  Klabdee เมื่อ 05 ตุลาคม 2556, 13:11:52
อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 05 ตุลาคม 2556, 12:22:07
พี่สิงห์


วันนี้เป็นวันแรกของการทานเจ อย่างเป็นทางการ
อาหารเจ ไม่จำเป็นต้องทอดด้วยน้ำมันทั้งหมด ต้นก้ได้ ทานสดเช่นพวกผักก็มี
แต่การผัดด้วยน้ำมันเพื่อแต่งรสชาติให้รสจัด เข้มข้น
จึงกลายเป็นการรับอาหารพวกแป้ง น้ำมัน เพิ่มขึ้นมากกว่าการรับไขมัน โปรตีนจากสัตว์
จะอ้วน น้ำหนักขึ้นเพราะพวกแป้ง ไขมันจากน้ำมันพืชครับ


สวัสดีครับ คุณเหยง

                  ความเป็นจริง ไปดูที่โรงเจ เลย มีแต่แป้ง ผัดน้ำมัน และของทอดเป็นพื้น

                  เสียสุขภาพ  กินแบบผมดีกว่า

                  สวัสดี


พี่สิงห์


ราคาแพงขึ้นอีกต่างหาก
เพราะการทอดมีค่าใช้จ่ายเรื่องน้ำมันพืช ก็าซหุงต้มที่แพงขึ้นมาในช่วงนี้ด้วย
      บันทึกการเข้า
  หน้า: 1 ... 416 417 [418] 419 420 ... 681   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

สมาคมนิสิตเก่าหอพักนิสิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มวลสมาชิกสมาคม คณาจารย์ และนิสิตเก่าทุกคน ขอน้อมเกล้าถวายความอาลัย  พระผู้เสด็จสู่สวรรคาลัย ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ <;))))><