23 พฤศจิกายน 2567, 06:23:28
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: 1 ... 378 379 [380] 381 382 ... 681   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: คุย กับ คุณมานพ กลับดี อดีตประธานชมรม ๓ สมัย  (อ่าน 3552216 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 7 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
suriya2513
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,457

« ตอบ #9475 เมื่อ: 03 กรกฎาคม 2556, 00:44:36 »



Somchai Sunshine Laowattana ท่านเป็นหมอจบจุฬาฯ ทำงานที่  Johns Hopkins Hospital สหรัฐ
ท่านวิจารณ์มาแรงจริงๆ
ส่วนพี่ชัยโรจน์ จักรไพศาล เป็น ECU2511

ในขณะที่ cmadong.com ไม่มีการตอบรับเลย
แต่ใน FaceBook มีการตอบรับ ทำให้คึกคักกว่ากันมาก
      บันทึกการเข้า

[โบราณคดี]จุดกำเนิดเริ่มต้นของ cmadong.com by : มานพ กลับดี  คลิ๊ก->
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #9476 เมื่อ: 03 กรกฎาคม 2556, 05:38:43 »

สวัสดี ดร.สุริยา

                   คุณมิตซุโอะ  เขียนนั้น ผมเคยอ่านอยู่หนึ่งเล่ม มันก็เป็นเรื่องพื้น ๆ เกี่ยวกับจิตทั่วไป ผมเคยตอบไปแล้ว ว่าไม่มีอะไรใหม่เลยสำหรับผมในสิ่งที่คุณมิตซุโอะ  เขียน หรือเทศน์ ในขณะเป็นพระมิตซุโอะ เป็นเรื่องพื้น ๆ เท่านั้น เพียงแต่มันถูกใจคนอ่าน  คนฟัง  เท่านั้น ที่ไม่รู้มาก่อน  จึงตามมาด้วยเสียงสรรเสริญ  ลาภสักการะ และความมีชื่อเสียง - ศรัทธา

                    เณรคำ  ไม่เคยอ่าน  ไม่เคยพบ (ตอนที่ทางหอไปแห่เทียนที่อุบล และต้องแวะที่วัดของเณรคำ   ผมไม่มีวาสนา  เลยไม่ได้ไปกราบเณรคำที่วัด  ได้แต่นั่งรอบนรถ เพราะไม่มีความศรัทธา)

                    ตามที่ผมเคยบอกเอาไว้  หนังสือที่พระเขียน  หรือเทศน์  ไปพิจารณาเอาเอง โดยเฉพาะพระดัง ๆ ท่านเทศน์ เขียน พื้น ๆ แต่ถูกใจคนอ่าน  คนฟัง  ที่ไม่รู้ความจริงในพุทธศาสนา และก็เหมารวมเอาว่าดี

                    คำสอนของพระสมณโคดม  นั้น พระพุทธองค์ท่านสอนแต่ทุกข์ หนทางปฏิบัติให้พ้นทุกข์  สังคมอยู่ด้วยความสุข  สงบ ไม่เบียดเบียนกัน

                    อย่าไปอ่านหนังสือที่เขียนจากพระมากนัก  มันออกมาจากความคิดของพระ แต่ไม่ใช่พระสูตร ของพระพุทธองค์

                    พุทธศาสนา ต้องใช้ปัญญา  อย่าหลงเชื่อ  พิสูจน์ด้วยตนเอง ได้ เพราะเป็นวิทยาศาสตร์

                    สวัสดี
      บันทึกการเข้า
สมชาย17
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,300

« ตอบ #9477 เมื่อ: 03 กรกฎาคม 2556, 09:00:23 »

 
อ้างถึง   
อ้างถึง
ข้อความของ suriya2513 เมื่อ 02 กรกฎาคม 2556, 23:16:37


เดิมมีอยู่เล่มเดียว พอมีเรื่องก็เลยไปหาซื้อมาคู่กันซะ
เป็นหนังสือชุดเดียวกัน ของอัมรินทร์ฯ
ใครยังไม่ได้จับจองเป็นเจ้าของ ไปหามาซะนะครับ
ผมไม่ให้ยืม กลัวไม่ได้คืน เพราะอีกหน่อยจะเป็นของหาค่ามิได้
เนื่องจากสำนักพิมพ์ไหนๆ ก็คงไม่กล้าพิมพ์ซ้ำ


ชอบนะ ชอบนะ ชอบนะ
ชอบ วิธีการ โพสต์ ของพี่ป๋องจริงๆครับผม
      บันทึกการเข้า
สมชาย17
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,300

« ตอบ #9478 เมื่อ: 03 กรกฎาคม 2556, 09:08:44 »

ระยะนี้มีเรื่อง ของพระ เป็นข่าวหน้า 1 อยู่เป็นประจำ

ผมเอง คิดว่า ทุกคนมี วิบากกรรม เป็นของตัวเองทั้งสิ้น หนีไม่พ้นจึงต้องเดินทางตามวิบากกรรม ที่ติดตัวมา

ดังนั้น  ขอให้ทำวันนี้ให้ดีที่สุด และดีต่อๆไปทุกๆวัน  แล้วอดีตมันจะดีเอง ครับ
      บันทึกการเข้า
suriya2513
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,457

« ตอบ #9479 เมื่อ: 03 กรกฎาคม 2556, 10:11:05 »

อ้างถึง
ข้อความของ สมชาย17 เมื่อ 03 กรกฎาคม 2556, 09:08:44
ระยะนี้มีเรื่อง ของพระ เป็นข่าวหน้า 1 อยู่เป็นประจำ

ผมเอง คิดว่า ทุกคนมี วิบากกรรม เป็นของตัวเองทั้งสิ้น หนีไม่พ้นจึงต้องเดินทางตามวิบากกรรม ที่ติดตัวมา

ดังนั้น  ขอให้ทำวันนี้ให้ดีที่สุด และดีต่อๆไปทุกๆวัน  แล้วอดีตมันจะดีเอง ครับ

คงเป็นเพราะเหตุนี้กระมังครับ พวกเราถึงต้องพยายามไปอยู่ในที่ๆ มีสิ่งแวดล้อมที่ดี จะได้ทำความดีได้ไม่ยากนัก
      บันทึกการเข้า

[โบราณคดี]จุดกำเนิดเริ่มต้นของ cmadong.com by : มานพ กลับดี  คลิ๊ก->
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #9480 เมื่อ: 04 กรกฎาคม 2556, 10:24:34 »

พี่สิงห์ครับ


ทราบจากคุณมิ้ง 17 ว่าน้อง Tippy พาคุณพ่อเข้ามารักษาตัวที่ กทม. ตั้งแต่วันจันทร์แล้ว
โดยพักอยู่ที่บ้านเนสซิ่งโฮมของหมอเรก (ชาวหอ) ซึ่งใช้บ้านของคุณมิ้งที่ซื้อจากโด่ง-พรชัย 2516
เป็น Senior Home Care ครับ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #9481 เมื่อ: 04 กรกฎาคม 2556, 10:52:32 »

อ้างถึง
ข้อความของ สมชาย17 เมื่อ 03 กรกฎาคม 2556, 09:08:44
ระยะนี้มีเรื่อง ของพระ เป็นข่าวหน้า 1 อยู่เป็นประจำ

ผมเอง คิดว่า ทุกคนมี วิบากกรรม เป็นของตัวเองทั้งสิ้น หนีไม่พ้นจึงต้องเดินทางตามวิบากกรรม ที่ติดตัวมา

ดังนั้น  ขอให้ทำวันนี้ให้ดีที่สุด และดีต่อๆไปทุกๆวัน  แล้วอดีตมันจะดีเอง ครับ


                 สาธุ  คิดได้อย่างนี้  มีแต่สุข - สงบ  ขออนุโมทนา

                 สวัสดีครับ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #9482 เมื่อ: 04 กรกฎาคม 2556, 10:56:03 »

อ้างถึง
ข้อความของ suriya2513 เมื่อ 03 กรกฎาคม 2556, 10:11:05
อ้างถึง
ข้อความของ สมชาย17 เมื่อ 03 กรกฎาคม 2556, 09:08:44
ระยะนี้มีเรื่อง ของพระ เป็นข่าวหน้า 1 อยู่เป็นประจำ

ผมเอง คิดว่า ทุกคนมี วิบากกรรม เป็นของตัวเองทั้งสิ้น หนีไม่พ้นจึงต้องเดินทางตามวิบากกรรม ที่ติดตัวมา

ดังนั้น  ขอให้ทำวันนี้ให้ดีที่สุด และดีต่อๆไปทุกๆวัน  แล้วอดีตมันจะดีเอง ครับ

คงเป็นเพราะเหตุนี้กระมังครับ พวกเราถึงต้องพยายามไปอยู่ในที่ๆ มีสิ่งแวดล้อมที่ดี จะได้ทำความดีได้ไม่ยากนัก

               มันมองได้สองด้าน

               อยู่ในที่ ที่สงบ  จิตมันสงบจากสิ่งภายนอกจริง  แต่ภายในมันอาจจะไม่สงบจริงก็ได้  พอมาอยู่โลกภายนอก  ยิ่งแย่ใหญ่เลย  ก็มีให้เห็นทั่วไป

               อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ไม่ดี  แต่จิตสงบได้  ยิ่งสุขกว่า

               ระยะนี้มีมารมารบกวนมาก จริง ๆ

               สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #9483 เมื่อ: 04 กรกฎาคม 2556, 11:00:34 »

อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 04 กรกฎาคม 2556, 10:24:34
พี่สิงห์ครับ


ทราบจากคุณมิ้ง 17 ว่าน้อง Tippy พาคุณพ่อเข้ามารักษาตัวที่ กทม. ตั้งแต่วันจันทร์แล้ว
โดยพักอยู่ที่บ้านเนสซิ่งโฮมของหมอเรก (ชาวหอ) ซึ่งใช้บ้านของคุณมิ้งที่ซื้อจากโด่ง-พรชัย 2516
เป็น Senior Home Care ครับ


สวัสดีครับ คุณเหยง

                       ยังไม่ได้คุยกับคุณน้อง Tippy เลย ช่วงนี้

                       คงมีความจำเป็นบางอย่าง  จึงต้องนำมารักษากรุงเทพฯ  แสดงว่าอาการดีขึ้น เพราะยังต้องใช้สิทธิ ๓๐ บาทอยู่  โรคพวกนี้มันใช้เงินแยะ และต้องมีคนเสียสละ หรือมีเงินจ้างคนมาดูแล

                       ผมถึงคอยเตือนทุกท่าน ว่า อย่าประมาท  อย่าทำให้ลูกหลาน  ต้องเสียเวลามาดูแลเราเลย  ดูแลตัวเองขณะนี้  ที่ยังไม่เป็นอะไรมากนี่ละ ด้วยการกินอาหารให้เป็นยา  กินอาหารอย่างที่ลิงกิริลล่ากิน  ไม่กินเนื้อสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม  ออกกำลังกาย  นอนหัวค่ำ และเจริญสติ  ก็สามารถห่างไกลโรคเรื้อรังได้แล้ว

                       สวัสดี
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #9484 เมื่อ: 04 กรกฎาคม 2556, 11:08:45 »

อ้างถึง
ข้อความของ Manop  Klabdee เมื่อ 23 มิถุนายน 2556, 20:48:26
อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 23 มิถุนายน 2556, 16:19:25

พี่สิงห์

ศรีษะเกษ สุรินทร์ เป็นพื้นที่ของทุ่งกุลาร้องไห้ ปลูกข้าวหอมมะลิเป็นเลิศในโลก
ซึ่งจะต้องเริ่มปลูกในเดือนสิงหาคม ไปเก็บเกี่ยวในฤดูหนาว
แต่ที่กำลังปลูกนี้เป็นข้าวนาปรังสำหรับจำนำครับ ปล่้อยให้มันตายไปบ้าง
จะได้มีพื้นที่ปลูกข้าวดีๆ ขึ้นชื่อของคนไทย ได้ทานบ้าง ??


สวัสดีครับ คุณเหยง

                        ขอให้ผลตรวจร่างกาย จงปกติ

                        ในฐานะคุณเหยงมีสตางค์ แนะนำให้ทำ ซีทีสะแกน ครับ

                        ข้าวมันตาย  ชาวนาก็ไม่มีเงินไปซื้อพันธ์ข้าวมาปลูกใหม่ได้ เห็นสภาพแล้ว มันไม่มีน้ำจนแห้งตายจริง ๆ

                        ฝนมาจากอิทะธิพลพายุลูกนี้ คงทำให้ข้าวฟื้นได้

                        สำหรับรูปภาพงานเผาศพ พี่เปรม  ต้องรอคุณหมอตุ่น เพราะเป็นมือถ่ายภาพ

                        สำหรับพี่สิงห์  มันต้องสำรวมกาย  วาจา  และใจ  จึงมีภาพน้อยไปหน่อย

                        สวัสดี


พี่สิงห์

ผลการส่องกล้อง ไม่พบเนื้อร้ายทั้งที่กระเพาะอาหารและลำไส้ใหญ่
คุณหมอได้ตัดชิ้นเนื้อในกระเพาะ ไปตรวจพิสูจน์เพื่อยืนยันด้วย

แต่คุณหมอพบว่า อาการป่วยน่าจะมาจากเชื้อแบคทีเรียในกระเพาะที่สร้างกรดมากเกินปกติ
และมีผลทำให้เกิดก๊าซในกระเพาะอาหารเพิ่มขึ้น จนเกิดอาการจุกเสียด
และเมื่อกรดลงไปในลำไส้จะมีปฎิกริยากับด่างในลำไส้และน้ำดีจากตับ
จนเกิดอาการท้องเสียอย่างรุนแรง ซึ่งต้องให้ยารักษาอาการไปก่อน
จนกว่าผลพิสูจน์ทางแล็ปกลับมา จึงจะทราบชนิดของเชื้อแบคทีเรีย เพื่อเลือกใช้ยารักษาต่อไป



      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #9485 เมื่อ: 04 กรกฎาคม 2556, 12:09:24 »

อัพเดทเรื่องคาวที่กำลังดังอยู่ในขณะนี้

หญิงหม้าย ชายบวชนาน

ขบวนการโปรโมตพระอรหันต์ ทำมาหาเงินแบ่งกันทั้งคนโกนหัวไม่โกนหัว และมักลงท้าย ก็มักกลายเป็นอรหอย เพราะถูกจับได้ว่าแอบไปมีเมีย ไม่ใช่จะเพิ่งมาเกิดถี่ในสมัยนี้ มีมานานแสนนานแล้ว

สมัยสมบูรณาญาสิทธิราชย์ ฝ่ายอาณาจักรกับฝ่ายศาสนจักรใกล้กันมาก ยิ่งพระเจ้าแผ่นดิน อย่างรัชกาลที่ 4 ท่านเคยผนวชมานานถึง 27 พรรษา เวลาเกิดปัญหาเรื่องอรหอย...ท่านเห็นเป็นเรื่องขนมผสมน้ำยา

สั่งลงโทษไม่ละเว้นทั้งตัวพระ ทั้งสีกา คฤหัสถ์ ลองอ่านพระราชโองการ ต่อไปนี้ (ศาลไทยในอดีต ประยุทธ สิทธิพันธ์)

อนึ่ง สตรีที่เป็นหม้าย ผัวหย่า ผัวตาย ร้างมานาน ขึ้นคานอยู่ หรือหญิงสะเทิ้นที่ตั้งแต่เล็กยังไม่เคยพบชาย ขึ้นคานอยู่นานๆ ย่อมสืบเสาะหาผัวที่ไม่มีภรรยา วิสัยคนที่เป็นคฤหัสถ์ ก็มีภรรยาทุกคนด้วยกัน ไม่ใคร่มีใครว่างเปล่าอยู่

ฝ่ายพระสงฆ์ บวชอยู่นาน ไม่มีภรรยา เป็นคนว่างเปล่าอยู่ ถ้าให้สึกออกมาได้เป็นผัวจะดี

พระสงฆ์เล่าบวชอยู่นาน ได้ยศถาบรรดาศักดิ์แต่ในหลวงทรงตั้งให้เป็นพระราชาคณะ ฐานานุกรม เปรียญ รับนิตยภัตไตรปีได้ แลเทศนาบ้าง บังสุกุลบ้าง แลรับนิมนต์ไปในการพิธีอื่นๆบ้าง

หรือเป็นพระครู เจ้าอธิการ แลอนุจรก็ดี ได้เทศนาบังสุกุลรวบรวมเฟื้องสลึงตำลึงบาทไว้ได้มาก

ถ้าเราเกลี้ยกล่อมให้สึกออกมาเป็นผัว คงจะมอบหมายเงินทองที่เก็บไว้ให้แก่เรา คงอยู่ในอำนาจเรา จะใช้อย่างไรก็คงได้ดังปรารถนาทุกอย่าง ด้วยคนชาววัดบวชอยู่นาน ไม่เคยพบการชำเราชำเขา ได้พบเข้าแล้วก็ตื่นไป งมเซอะไปดังนี้

จึงคิดอุบายเอาบุตรชายไปฝากไว้บ้าง ชักโยงพวกพ้องพี่น้องให้ไปอยู่บ้าง พอได้ไปมาเป็นสนสื่อ แลได้ส่งคาวหวานเปรี้ยวเค็ม ถวายพระสงฆ์ที่ตนชอบใจ อยากได้เป็นผัว หรือเป็นเขยนั้นเนืองๆ

ฝ่ายพระสงฆ์เล่า เป็นชาววัด ได้อุปการะเกื้อหนุนสมดังที่คิดไว้ เมื่อยังไม่ได้สึกมักอ้อๆแอ้ๆ เข้าประจ๋อประแจ๋ประจบประแจง ฝากตัวเป็นญาติเป็นโยม เรียกโยมที่บ้าน โยมที่แพ โยมที่ตึก บ้านล่าง บ้านบน ดังนี้ ก็โดยมาก

ครั้นสึกออกมากินอยู่ด้วยกัน หรือชำเรากันเสียก่อน แต่ยังไม่สึกบ้าง

หญิงพอใจหาพระสงฆ์ชาววัดเป็นผัว พระสงฆ์ชาววัดที่สึกออกมาพอใจหาหญิงหม้าย หญิงขึ้นคานเป็นภรรยา อย่างนี้มีมากนัก ชุกชุมทุกหนทุกแห่ง จะระบุว่าคนนี้คนนั้นคู่นี้คู่นั้น จะพรรณนาไปก็ไม่สิ้นสุดลง แลเป็นเครื่องเคืองหูรำคาญใจ

ท่านที่ไม่แผล ไม่พอใจฟัง

เพราะฉะนั้น ข้าพเจ้าขอเตือนสติท่านทั้งปวง...ให้รู้ว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าแผ่นดิน มีพระราชหฤทัยประสงค์ จะทะนุบำรุงพระพุทธศาสนาให้บริสุทธิ์ มิให้มัวหมองเป็นมลทิน แลให้รุ่งเรืองเป็นประโยชน์แก่ไพร่ฟ้าข้าแผ่นดิน

จึงโปรดเกล้าฯ ให้ระวังตัวกลัวผิดด้วยกันทั้งชาววัดชาวบ้านว่า ตั้งแต่นี้สืบไป ถ้าผู้หญิงหาพระเป็นผัว หรือพระหาผู้หญิงหม้ายหญิงขึ้นคานเป็นภรรยา แลทำการสนสื่อไปมาเพื่อเมถุนสังวาสแล้ว มีผู้มาโจทนาว่ากล่าว สืบได้ความเป็นสัจ

จะให้ปรับไหมมีโทษตามพระราชบัญญัติ แลจะปรับพระสงฆ์ที่อยู่ใกล้เคียงในที่รังวัด 3 เส้น 15 วา ได้รู้เห็น ให้ทำวัดถากหญ้ารื้อขนอิฐปูนไปใช้ในการบุญ กว่าจะครบกำหนดตามกำหนดรังวัดที่ใกล้แลไกลตามสมควร

เมื่อสตรีใดๆ มีความเกี่ยวข้องด้วยเรื่องพระสงฆ์ หรือพระสงฆ์มีความเกี่ยวข้องด้วยเรื่องผู้หญิง คือหาภรรยาแต่ยังเป็นพระสงฆ์อยู่ก็ดี มีอยู่สักกี่แห่งกี่ราย

ก็ให้มาลุกะโทษเสียโดยตรง อย่าให้ปิดบังไว้ให้เนิ่นช้าเกิน 15 วัน จะโปรดยกโทษให้

ถ้ามีคดีเกี่ยวข้อง แลแกล้งปิดบังไว้ ไม่มาลุกะโทษ (หาก) มีปากโจทก์หรือผู้มาฟ้องร้องว่ากล่าว หรือกราบทูลพระกรุณาให้ขุ่นเคืองฝ่าละอองธุลีพระบาทก็ดี จะให้ปรับไหมมีโทษจงหนัก มีโทษเสมอกับคนที่เป็นปาราชิก

ทั้งชาววัดแลชาวบ้าน จะให้เสียรังวัดกึ่งผู้ผิด

ประกาศรัชกาลที่ 4 ฉบับนี้ จบเพียงเท่านี้...โทษเท่าผู้ปาราชิก ผมจำได้ระดับเดียวกับโทษขุนนางฉ้อราษฎร์บังหลวง...ต้องเอาตัวไปตระเวนบก 3 วัน ตระเวนน้ำ 3 วัน แล้วเอาตัวไปเป็นตะพุ่นหญ้าช้าง

กฎหมายนี้ ถ้าใช้ในสมัยนี้ ช้างมีมากแถวเมืองสุรินทร์ จุดขายให้คนไปเที่ยวสุรินทร์ คงเพิ่มจากไปดูการละเล่นช้าง...เป็นไปดูเนื้อตัวหน้าตา อรหอย ไฮโซ ไฮซ้อ ที่เป็นตะพุ่นหญ้าช้าง

คงน่ารักน่าชังนะครับ ถ้ามีให้ดูในยูทูบ คงมีคนคลิกเข้าไปดูกันเป็นแสนเป็นล้าน.


http://www.thairath.co.th/column/pol/chuckthong/354507
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #9486 เมื่อ: 04 กรกฎาคม 2556, 12:11:06 »

เขตวัด สตรีห้ามเข้า

พระญี่ปุ่นบางนิกายมีเมียได้ครับ เมื่อไทยจัดงานฉลอง 25 พุทธศตวรรษ นิมนต์ท่านมาไม่ทันรู้ว่า ท่านต้องเอาเมียมานั่งข้างๆด้วย ต้องเจรจาสิ้นหลายกระแสความ...กว่าที่นั่งพระหลายๆประเทศที่นิมนต์มาจะลงตัว

แต่นิกายเซน ที่คนไทยคุ้นมากกว่า พระไม่มีเมีย บางสำนักยังมีกลิ่นอาย ไม่อยากให้ผู้หญิงเข้าใกล้

หนังสือปกหนาเล่มเล็ก “เล่านิทานเซน” (อ.อภิปัญโญ เล่า เขมานันทะ เขียนภาพฝีพู่กัน) นพ.จำนง ตัณฑิกุล กรุณาส่งมาให้ เรื่องที่ 3 ชื่อ พุทธศาสนาอย่างเซน ไม่มีผู้หญิง

สาวน้อยงามเป็นเลิศในปฐพีญี่ปุ่นคนหนึ่ง เกิด พ.ศ.2340 ชื่อโยเน็น เป็นบุตรสาวนักรบซามูไรผู้ยิ่งใหญ่ ในแผ่นดินสมเด็จพระเจ้าจักรพรรดิ นอกจากความงาม เธอได้รับการศึกษา ทั้งด้านเขียนภาพ บทกวี จนชื่อเสียงเลื่องลือ

อายุ 17 ปี องค์จักรพรรดิโปรดปราน เรียกเข้าไปรับใช้ใกล้ชิด

ตำแหน่งท่านผู้หญิงสูงศักดิ์ในราชสำนัก ไม่เพียงทำให้เธอมีความสุขใจ ยังเผื่อแผ่ไปทำให้ครอบครัวมีหน้ามีตา

แล้ววันหนึ่ง...วันที่องค์จักรพรรดิสิ้นพระชนม์ ลาภยศสุขสรรเสริญ ที่เธอเคยได้ ก็มลายหายไป ระหว่างความทุกข์โศก เธอใช้พื้นฐานจากการอ่านหนังสือ จึงพอรู้ว่าพระพุทธศาสนา สอนเรื่องเหล่านี้ไว้

แต่สอนอย่างไร ปฏิบัติตามแล้วเกิดผลประการใด...เธอไม่รู้ จึงประกาศจะทิ้งทางโลกเข้าวัด

แต่ทางครอบครัว...ขอร้องให้เธอแต่งงาน มีลูกสืบตระกูล 3 คน อายุ 25 ปี เธอก็โกนหัว หันหน้าเข้าวัด แต่ไม่มีวัดใดยอมรับ...สาวงามโยเน็น สงสัย เพราะเหตุใด

จาริกไปถึงเขตมณฑลอีโด เข้าไปกราบอาจารย์เทตสุยุ เจ้าสำนัก เมื่อเธอเงยหน้า ก็ได้ยินเสียงปฏิเสธลั่น “สำนักนี้รับเธอไว้ไม่ได้” “ทำไม หรือ” “เพราะเธอยังสาวนัก ยังสวยนัก ความสาวความสวย ไม่เป็นผลดีต่อคนส่วนใหญ่ในสำนัก”

เป็นความรู้ใหม่ แม่ชีโยเน็น อดีตสาวงามเพิ่งรู้ ความสาว ความสวย เป็นอุปสรรคสำคัญในเส้นทางธรรม...เหนื่อยล้าเต็มที แต่เธอก็ยังซมซานต่อไป ถึงสำนักเซนใหญ่...มีภิกษุ และแม่ชีจำนวนมาก พระอาจารย์ใหญ่ชื่อ ฮากูโอะ

เธอเริ่มมีความหวัง แต่ก็ยังไม่แน่ใจ เลี่ยงเข้าไปดูลาดเลาทางแม่ชี

คืนนั้นโยเน็นนอนไม่หลับกังวลว่า เจ้าสำนักจะไม่ยอมรับ ยิ่งคิดเธอก็ร้องไห้ เหตุใดหนทางฝึกปฏิบัติธรรม...จึงตีบตันถึงเพียงนี้ นึกถึงคำอาจารย์เทตสุยุ “เธอสาวเกินไป เธอสวยเกินไป”

โยเน็นก็ตัดสินใจ เอาเหล็กเผาไฟมานาบเข้าที่หน้า ฉับพลันสาวงามกลายเป็นสาวอัปลักษณ์

ณ นาทีนั้น เธอก็เกิดแรงบันดาลใจ หยิบพู่กันมาเขียนบทกวี

“ครั้งเราสนองพระโอษฐ์ ในพระบรมจักรพรรดิ ณ วังหลวงอยู่นั้น เรามีแต่เผากำยานและของหอม อบร่ำพัตราภรณ์เพื่อให้สวมใส่ผ่องผิว

รมย์รื่นชื่นนาสา ครั้นมาบัดนี้เล่า ตกอยู่ในที่ยากไร้ ทั้งทรัพย์สิน ญาติพี่น้อง แลบ้านเรือนที่พักพิง

เราได้เผาเหมือนกัน แต่เผาผิวหน้าของตนเอง เพื่อขอเข้าศึกษาในสำนักเซน

เช้าวันรุ่งขึ้น โยเน็นได้เข้าไปหาหลวงพ่อ ทุกอย่างผิดคาด หลวงพ่อรับเข้าสำนัก ทั้งยังตำหนิการที่เธอเผาหน้า

“เซนที่แท้จริง ไม่มีความเป็นผู้หญิงผู้ชาย ความเป็นหญิงเป็นชายนั้น มีทีหลังการปฏิสนธิในครรภ์มารดา แต่จิตแท้ๆนั้น มันก่อนการมาได้ชาติความเกิดนั่นเสียอีก

ความคิดไปว่าตนเป็นเพศนั้นเพศนี้ ยังเป็นมายา สัตว์ทั้งหลายถูกกักขังอยู่ด้วยเรื่องนี้”

โยเน็นฟังคำท่านเจ้าสำนักแล้ว ก็...ซาโตริ บรรลุธรรมพื้นฐาน เพียรฝึกปฏิบัติอยู่ในสำนักอาจารย์อีก 13 ปี ก็แยกตัวไปเป็นเจ้าสำนักชีอยู่ที่ภูเขาเขตจังหวัดบันชู มีชื่อเสียงโด่งดัง มีลูกศิษย์ลูกหามากมาย เธอตายเมื่ออายุ 66 ปี

นี่คือประวัติเจ้าสำนักชี พุทธศาสนาแบบเซน ที่สอนว่า ผู้หญิงสวยนั้น บางมิติก็เป็นที่รังเกียจของผู้แสวงหาโมกขธรรม แต่หากมองทะลุมิติไปได้ ไม่ติดมายาภาพหญิงชาย จึงจะถือว่า ได้บรรลุธรรม...เข้าถึงความสุขสงบเย็นที่เป็นจริง

แต่พระส่วนใหญ่ ผ่านไม่พ้นมิติผู้หญิงสวย มักจะติดหนึบอยู่กับผู้หญิงสวย...สึกหาลาเพศไปรูปแล้วรูปเล่า พระไทยพรรษาอ่อนก็ไม่เว้น กระทั่งพระญี่ปุ่นพรรษา 38...ก็ไม่เว้น

อย่าว่าแต่พระเซนท่านจะกลัวผู้หญิง พระต้นแบบในสมัยพุทธกาล อย่างพระอานนท์ ท่านก็ยังกลัวผู้หญิง ทูลถามวิธีปฏิบัติ พระพุทธเจ้าทรงแนะไว้ว่า เจอผู้หญิงก็อย่ามอง ถ้าต้องมองก็อย่าพูด แต่ถ้าจำเป็นต้องพูด ก็ต้องมีสติ

สำหรับพระ ผู้หญิง (สวย) เป็นอันตราย เผลอสติพูดด้วย

เมื่อไร เป็นเสร็จผู้หญิงทุกที.


กิเลน ประลองเชิง
http://www.thairath.co.th/column/pol/chuckthong/354932
      บันทึกการเข้า
too_ploenpit
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2514
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 7,778

เว็บไซต์
« ตอบ #9487 เมื่อ: 04 กรกฎาคม 2556, 13:42:30 »

...สวัสดีค่ะ...พี่สิงห์...เหยง...
...ตามอ่านจ้า...
...กรณีพระสึกออกมาอยู่กินกับหญิง...
...ตู่ได้เห็นตัวอย่างเยอะแล้วค่ะ...
...เพียงแต่ว่าพระเหล่านั้นไม่ดังเท่านั้นเอง...
...ถ้าท่านอยู่ในสมณเพศไม่ได้จริงๆ...
...สึกออกมาก็ถูกต้องแล้ว...
      บันทึกการเข้า

i love pink, you are pink = i love you
สมชาย17
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,300

« ตอบ #9488 เมื่อ: 04 กรกฎาคม 2556, 13:53:16 »

ขอบคุณครับ พี่เหยง ที่เอาบทความดีๆมาให้อ่านกัน
      บันทึกการเข้า
สมชาย17
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,300

« ตอบ #9489 เมื่อ: 04 กรกฎาคม 2556, 15:05:58 »

 
อ้างถึง   
อ้างถึง
ข้อความของ Manop  Klabdee เมื่อ 04 กรกฎาคม 2556, 10:56:03
อ้างถึง
ข้อความของ suriya2513 เมื่อ 03 กรกฎาคม 2556, 10:11:05
อ้างถึง
ข้อความของ สมชาย17 เมื่อ 03 กรกฎาคม 2556, 09:08:44
ระยะนี้มีเรื่อง ของพระ เป็นข่าวหน้า 1 อยู่เป็นประจำ

ผมเอง คิดว่า ทุกคนมี วิบากกรรม เป็นของตัวเองทั้งสิ้น หนีไม่พ้นจึงต้องเดินทางตามวิบากกรรม ที่ติดตัวมา

ดังนั้น  ขอให้ทำวันนี้ให้ดีที่สุด และดีต่อๆไปทุกๆวัน  แล้วอดีตมันจะดีเอง ครับ

คงเป็นเพราะเหตุนี้กระมังครับ พวกเราถึงต้องพยายามไปอยู่ในที่ๆ มีสิ่งแวดล้อมที่ดี จะได้ทำความดีได้ไม่ยากนัก

               มันมองได้สองด้าน

               อยู่ในที่ ที่สงบ  จิตมันสงบจากสิ่งภายนอกจริง  แต่ภายในมันอาจจะไม่สงบจริงก็ได้  พอมาอยู่โลกภายนอก  ยิ่งแย่ใหญ่เลย  ก็มีให้เห็นทั่วไป

               อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ไม่ดี  แต่จิตสงบได้  ยิ่งสุขกว่า

               ระยะนี้มีมารมารบกวนมาก จริง ๆ

               สวัสดี


สวัสดีครับ พี่สิงห์
อ่านข้อคิด และ วิธีการปฏิบัติตัว ของ พี่สิงห์ แล้วรู้สึกชื่นชม
พี่สิงห์มีความเป็น สมณะ มากกว่า พระสงฆ์หลายๆรูปที่เป็นพระแท้ๆและยังอยู่ในเพศ บรรพชิต  เสียอีก (ไม่นับรวมพระปลอม)


การที่พี่สิงห์ ถ่ายทอดแนวคิด และวิธีปฏิบัติตน ในกระทู้นี้ เป็นอานิสงค์ แก่ผู้ที่ได้มาอ่านไม่มาก ก็น้อย
เป็นแบบอย่างให้ น้องๆ เดินตามได้เป็นอย่างดี

      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #9490 เมื่อ: 04 กรกฎาคม 2556, 16:47:41 »

สวัสดีครับคุณน้องตู่  คุณเหยง  คุณสมชาย และชาวซีมะโด่ง ที่รักทุกท่าน

                           ต้องขอขอบคุณ  คุณเหยง  ที่นำเรื่องดี ๆ มาช่วยลงขัดตาทัพ  ยามที่ไม่รู้จะเขียนอะไรดี

                           ต้องขอขอบคุณ คุณน้องตู่ที่เข้ามาแวะเยี่ยม  ทำให้ไม่เหงา

                           ต้องขอขอบคุณ  คุณสมชาย ที่สรรเสริญ เยินยอ  ทำให้ได้เรียนรู้จิตตนเอง เมื่อปีติ

                           ขณะนี้พี่สิงห์ อยู่สนามบินดอนเมือง  รอขึ้นเครื่องไปนครศรีธรรมราช

                           ระยะนี้  ต้องซ้อมกอล์ฟ เพื่อสร้างกล้ามเนื้อที่หายไปให้กลับคืนมา ในช่วงอดอาหารล้างพิษตับ

                           วันที่ ๘ เป็นวันที่ทางสนามกอล์ฟ และสมาคมกอล์ฟอาชีพ จัดให้เป็นวันซ้อมสนามจริงของ Pro.

                           วันที่ ๙ กรกฎาคม พี่สิงห์ มีแข่งกอล์ฟอาชีพของ Super Senior Pro. ที่สนามบลูซัลไฟท์

                           วันที่ ๙-๑๐ กรกฎาคม พี่สิงห์มีแข่งกอล์ฟของ Senior Pro. ที่สนามบลูซัลไฟท์

                           ตอนนี้กล้ามเนื้อ กำลังจะกลับมาแต่ไม่สมบูรณ์  พยายามออกกำลังกาย แต่อาหารนั้น งดเนื้อสัตว์ที่เลี้ยงลูกด้วยน้ำนม  เลยทำให้ไม่มีโปรตีนจากเนื้อสัตว์  ไม่เป็นไร เล่นได้เท่าไรก็เอาเท่านั้น  ตอนนี้กำลังมีอารมณ์การเล่นกอล์ฟ ที่สามารถกลับมาเล่นได้ดีอีกครั้ง ไปสู้กับ โปร.หนุ่ม ๆ ดู ในฐานะเราก็นักกอล์ฟอาชีพ เหมือนกัน

                            เดี๋ยวนี้เวลาสวดมนต์ทำวัตรเช้า-เย็น  ต้องสวดทบทวนอุโบสถศีล เพื่อเตือนตัวเอง  ไม่ให้พลั้งเผลอ แต่บางทีมันเป็นหน้าที่ ที่จะต้องกระทำ เลยเผลอไปบ้าง ก็ทบทวนใหม่เอา เรายังเป็นฆราวาสมันก็อย่างนี้ละ แต่ก็ยังยึดถือมั่น  ไม่ทำให้ใคร และตัวเองต้องเดือดร้อน เป็นใช้ได้ ส่วนใหญ่มาจาก รับใช้พรรคพวกในเรื่องการทำงานมากเกินไป  พรรคพวกเองก็เรียกใช้งานมากเกินไป  ความเกรงใจคนนี่ละ  ทำให้เราละเมิดศีลไปบ้าง  แต่ไม่มีใครรับผลจากเรา  ก็พอรับได้

                             นับไปทีละวัน  ชีวิตมีเพียงแค่นี้  เห็นโลกมามากพอแล้ว  ปล่อยวางให้มากที่สุด

                             เมื่อวานเจ้านายคนเล็ก ที่เอเซียคอนกรีต มาเล่าให้ฟังในสิ่งที่แนะนำไป คือ เมื่ออยู่บ้าน  ห้ามคุยเรื่องงาน  นำไปใช้แล้ว พบว่ามีความสุขในครอบครัวเพิ่มขึ้น  มีเวลาอยู่กับลูกและภรรยามากขึ้น  สมองได้พักจริง ๆ จากงาน ต้องขอขอขอบคุณอาจารย์เป็นอย่างมากที่แนะนำสิ่งดี ๆ ให้

                             และขณะอยู่กับลูก หรือบุคคลอื่น หรือการประชุม สามารถวางอุเบกขาได้  สามารถไม่โกรธ  รับฟังทุกคนได้ และสามารถไม่คิด  ดังเมื่อก่อนได้  พบว่าการไม่คิดนั้น มันสุขดี  ทำให้รู้อารมณ์ที่ไม่เคยรู้มาก่อน  ต้องขอขอบคุณอาจารย์ ที่ได้แนะนำให้ตามจิตตนเองให้ทันเป็นปัจจุบัน อยู่กับการรู้ตัว  มันเป็นสุขอย่างที่ไม่เคยได้รับมาก่อน

                             พี่สิงห์  ในฐานะที่ปรึกษา ก็พลอยสุขไปด้วย ที่เขาสามารถนำไปใช้ได้จริง

                             ต้องเตรียมตัวขึ้นเครื่องบินแล้วครับ

                             สวัสดี
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #9491 เมื่อ: 04 กรกฎาคม 2556, 17:43:58 »

พี่สิงห์


เดินทางปลอดภัยครับ

ไข่เป็นอาหารที่เสริมสร้างกล้ามเนื้อได้นะครับ แต่ทานมากฟองแล้วจะเบื่อหรือเปล่าเท่านั้น
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #9492 เมื่อ: 04 กรกฎาคม 2556, 19:57:37 »

อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 04 กรกฎาคม 2556, 17:43:58
พี่สิงห์


เดินทางปลอดภัยครับ

ไข่เป็นอาหารที่เสริมสร้างกล้ามเนื้อได้นะครับ แต่ทานมากฟองแล้วจะเบื่อหรือเปล่าเท่านั้น


สวัสดีครับ คุณเหยง

                      ขอบคุณมากที่แนะนำ

                     จากภาพลำไส้ของคุณเหยง ที่เห็นเมื่อเปรียบเทียบกับลำไส้ ที่เคยดู ที่คุณหมอเคนย่า ส่องกล้องดูบรรดาผู้ป่วย โรคเรื้อรัง และมะเร็ง  ลำไส้คุณเหยง สะอาดมาก ไม่ดำ ไม่มีสิ่งสกปรก รกรุงรังใดๆ คงไม่มีโรคร้ายอะไรทั้งสิ้น

                      กรณีที่เป็นกรด ขอบังอาจแนะนำให้คุณเหยง รับประทานน้ำดื่มที่เป็นด่าง ไปทดแทน  คุณหมอเคนย่าก็แนะนำให้ดื่มน้ำด่างป้องกันโรค  ตอนนี้เวลาอยู่บ้าน ผมก็ผสมหัวเชื้อน้ำด่าง กับน้ำสุก ใส่ขวดเป็นน้ำดื่ม ให้มากเข้าไว้ เพราะคนไข้ที่เป็นโรค  โรคเรื้อรัง  มะเร็งสภาวะเลือดเป็นกรด  จึงต้องดื่มน้ำด่าง

                     สามารถหาซื้อหัวเชื้อน้ำด่างทาง internet ได้ โดยเข้าไปหาที่ Google พิมพ์คำว่า ชุมชนศรีษะอโศก จะสามารถสั่งซื้อได้เลย ส่งทางไปรษณีย์ถึงบ้าน

                     พี่สิงห์  อยู่นครศรีธรรมราช เรียบร้อยแล้วครับ

                     สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #9493 เมื่อ: 04 กรกฎาคม 2556, 20:06:01 »

อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 04 กรกฎาคม 2556, 12:11:06
เขตวัด สตรีห้ามเข้า

พระญี่ปุ่นบางนิกายมีเมียได้ครับ เมื่อไทยจัดงานฉลอง 25 พุทธศตวรรษ นิมนต์ท่านมาไม่ทันรู้ว่า ท่านต้องเอาเมียมานั่งข้างๆด้วย ต้องเจรจาสิ้นหลายกระแสความ...กว่าที่นั่งพระหลายๆประเทศที่นิมนต์มาจะลงตัว

แต่นิกายเซน ที่คนไทยคุ้นมากกว่า พระไม่มีเมีย บางสำนักยังมีกลิ่นอาย ไม่อยากให้ผู้หญิงเข้าใกล้

หนังสือปกหนาเล่มเล็ก “เล่านิทานเซน” (อ.อภิปัญโญ เล่า เขมานันทะ เขียนภาพฝีพู่กัน) นพ.จำนง ตัณฑิกุล กรุณาส่งมาให้ เรื่องที่ 3 ชื่อ พุทธศาสนาอย่างเซน ไม่มีผู้หญิง

สาวน้อยงามเป็นเลิศในปฐพีญี่ปุ่นคนหนึ่ง เกิด พ.ศ.2340 ชื่อโยเน็น เป็นบุตรสาวนักรบซามูไรผู้ยิ่งใหญ่ ในแผ่นดินสมเด็จพระเจ้าจักรพรรดิ นอกจากความงาม เธอได้รับการศึกษา ทั้งด้านเขียนภาพ บทกวี จนชื่อเสียงเลื่องลือ

อายุ 17 ปี องค์จักรพรรดิโปรดปราน เรียกเข้าไปรับใช้ใกล้ชิด

ตำแหน่งท่านผู้หญิงสูงศักดิ์ในราชสำนัก ไม่เพียงทำให้เธอมีความสุขใจ ยังเผื่อแผ่ไปทำให้ครอบครัวมีหน้ามีตา

แล้ววันหนึ่ง...วันที่องค์จักรพรรดิสิ้นพระชนม์ ลาภยศสุขสรรเสริญ ที่เธอเคยได้ ก็มลายหายไป ระหว่างความทุกข์โศก เธอใช้พื้นฐานจากการอ่านหนังสือ จึงพอรู้ว่าพระพุทธศาสนา สอนเรื่องเหล่านี้ไว้

แต่สอนอย่างไร ปฏิบัติตามแล้วเกิดผลประการใด...เธอไม่รู้ จึงประกาศจะทิ้งทางโลกเข้าวัด

แต่ทางครอบครัว...ขอร้องให้เธอแต่งงาน มีลูกสืบตระกูล 3 คน อายุ 25 ปี เธอก็โกนหัว หันหน้าเข้าวัด แต่ไม่มีวัดใดยอมรับ...สาวงามโยเน็น สงสัย เพราะเหตุใด

จาริกไปถึงเขตมณฑลอีโด เข้าไปกราบอาจารย์เทตสุยุ เจ้าสำนัก เมื่อเธอเงยหน้า ก็ได้ยินเสียงปฏิเสธลั่น “สำนักนี้รับเธอไว้ไม่ได้” “ทำไม หรือ” “เพราะเธอยังสาวนัก ยังสวยนัก ความสาวความสวย ไม่เป็นผลดีต่อคนส่วนใหญ่ในสำนัก”

เป็นความรู้ใหม่ แม่ชีโยเน็น อดีตสาวงามเพิ่งรู้ ความสาว ความสวย เป็นอุปสรรคสำคัญในเส้นทางธรรม...เหนื่อยล้าเต็มที แต่เธอก็ยังซมซานต่อไป ถึงสำนักเซนใหญ่...มีภิกษุ และแม่ชีจำนวนมาก พระอาจารย์ใหญ่ชื่อ ฮากูโอะ

เธอเริ่มมีความหวัง แต่ก็ยังไม่แน่ใจ เลี่ยงเข้าไปดูลาดเลาทางแม่ชี

คืนนั้นโยเน็นนอนไม่หลับกังวลว่า เจ้าสำนักจะไม่ยอมรับ ยิ่งคิดเธอก็ร้องไห้ เหตุใดหนทางฝึกปฏิบัติธรรม...จึงตีบตันถึงเพียงนี้ นึกถึงคำอาจารย์เทตสุยุ “เธอสาวเกินไป เธอสวยเกินไป”

โยเน็นก็ตัดสินใจ เอาเหล็กเผาไฟมานาบเข้าที่หน้า ฉับพลันสาวงามกลายเป็นสาวอัปลักษณ์

ณ นาทีนั้น เธอก็เกิดแรงบันดาลใจ หยิบพู่กันมาเขียนบทกวี

“ครั้งเราสนองพระโอษฐ์ ในพระบรมจักรพรรดิ ณ วังหลวงอยู่นั้น เรามีแต่เผากำยานและของหอม อบร่ำพัตราภรณ์เพื่อให้สวมใส่ผ่องผิว

รมย์รื่นชื่นนาสา ครั้นมาบัดนี้เล่า ตกอยู่ในที่ยากไร้ ทั้งทรัพย์สิน ญาติพี่น้อง แลบ้านเรือนที่พักพิง

เราได้เผาเหมือนกัน แต่เผาผิวหน้าของตนเอง เพื่อขอเข้าศึกษาในสำนักเซน

เช้าวันรุ่งขึ้น โยเน็นได้เข้าไปหาหลวงพ่อ ทุกอย่างผิดคาด หลวงพ่อรับเข้าสำนัก ทั้งยังตำหนิการที่เธอเผาหน้า

“เซนที่แท้จริง ไม่มีความเป็นผู้หญิงผู้ชาย ความเป็นหญิงเป็นชายนั้น มีทีหลังการปฏิสนธิในครรภ์มารดา แต่จิตแท้ๆนั้น มันก่อนการมาได้ชาติความเกิดนั่นเสียอีก

ความคิดไปว่าตนเป็นเพศนั้นเพศนี้ ยังเป็นมายา สัตว์ทั้งหลายถูกกักขังอยู่ด้วยเรื่องนี้”

โยเน็นฟังคำท่านเจ้าสำนักแล้ว ก็...ซาโตริ บรรลุธรรมพื้นฐาน เพียรฝึกปฏิบัติอยู่ในสำนักอาจารย์อีก 13 ปี ก็แยกตัวไปเป็นเจ้าสำนักชีอยู่ที่ภูเขาเขตจังหวัดบันชู มีชื่อเสียงโด่งดัง มีลูกศิษย์ลูกหามากมาย เธอตายเมื่ออายุ 66 ปี

นี่คือประวัติเจ้าสำนักชี พุทธศาสนาแบบเซน ที่สอนว่า ผู้หญิงสวยนั้น บางมิติก็เป็นที่รังเกียจของผู้แสวงหาโมกขธรรม แต่หากมองทะลุมิติไปได้ ไม่ติดมายาภาพหญิงชาย จึงจะถือว่า ได้บรรลุธรรม...เข้าถึงความสุขสงบเย็นที่เป็นจริง

แต่พระส่วนใหญ่ ผ่านไม่พ้นมิติผู้หญิงสวย มักจะติดหนึบอยู่กับผู้หญิงสวย...สึกหาลาเพศไปรูปแล้วรูปเล่า พระไทยพรรษาอ่อนก็ไม่เว้น กระทั่งพระญี่ปุ่นพรรษา 38...ก็ไม่เว้น

อย่าว่าแต่พระเซนท่านจะกลัวผู้หญิง พระต้นแบบในสมัยพุทธกาล อย่างพระอานนท์ ท่านก็ยังกลัวผู้หญิง ทูลถามวิธีปฏิบัติ พระพุทธเจ้าทรงแนะไว้ว่า เจอผู้หญิงก็อย่ามอง ถ้าต้องมองก็อย่าพูด แต่ถ้าจำเป็นต้องพูด ก็ต้องมีสติ

สำหรับพระ ผู้หญิง (สวย) เป็นอันตราย เผลอสติพูดด้วย

เมื่อไร เป็นเสร็จผู้หญิงทุกที.


กิเลน ประลองเชิง
http://www.thairath.co.th/column/pol/chuckthong/354932

                  สิ่งที่ได้จากการอ่าน คือ

                  คุณโยเนน  เธอคิด  กังวลไปในอนาคต  ในสิ่งที่ยังมาไม่ถึง  คือ กลัวว่าทางสำนักเซน จะไม่ให้บวช เลยทำลายใบหน้าตนเอง  ทำให้ได้ทุกข์ หวังว่าเขาจะรับให้บวช  ทั้งที่จริง เมื่อได้พบเจ้าสำนัก ท่านกลับไม่มีข้ออ้างอะไรเลย ไม่ว่าผู้หญิง-ชาย  รับเข้าบวชทั้งนั้น  ไม่เกี่ยงความสวย

                   ดังนั้น คนเราอย่ารีบไปตัดสิ้นใจอะไร  หรือกังวล ในสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้นเลย

                   กระทำแต่สิ่งที่อยู่ตรงหน้า เป็นปัจจุบันนี่ละ  มันไม่ทุกข์

                    หมายเหตุ

                                การทำใบหน้าให้อัปลักษณ์ของเธอก็มีผลดี คือ ทำให้พระท่านรังเกียจ  มิฉะนั้น  อาจจะมีพระคิดมาก......เป็นผลเสียกับการปฏิบัติธรรม ทั้งเธอและพระ

                   ราตรีสวัสดิ์ทุกท่านครับ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #9494 เมื่อ: 05 กรกฎาคม 2556, 10:53:41 »

สวัสดีครับ ชาวซีมะโด่ง และแขกผู้มาเยือน ที่รักทุกท่าน

                      เช้านี้ทางนครศรีธรรมราช ท้องฟ้ามีเมฆมาก โดยเฉพาะทางด้านทิศตะวันตก ทางเขาหลวง คงเป็นอิทธิพลของฝนทางฝั่งอันดามัน ที่กำลังอาระวาดหนักอยู่ที่ภูเก็ต  กระบี่ และพังงา

                      ผมมองไปรอบ ๆ ตัวเวลาพบปะคนส่วนมาก อายุตั้งแต่ ๓๐ ปี ขึ้นไปทั้งผู้หญิง และผู้ชาย ที่นครศรีธรรมราช จะพบว่า ค่าดรรชนีมวลกาย มากกว่ามาตรฐาน ๒๕ ทั้งนั้น แสดงว่าระบบ Metabolic บกพร่อง คือมีปริมาณ น้ำตาล ไขมัน ความดัน ในเลือดสูง

                      ยิ่งเป็นผู้สูงอายุ ๔๐ ปีขึ้นไป ไม่ต้องพูดถึง จะพุงป่อง ดังเช่นรูปไอ้เท่ง ในหนังตะลุงเป็นส่วนมาก  และถ้าไปถามดูในรายละเอียด เป็นโรค  ความดัน  เบาหวาน  หลอดเลือดอุดตัน และตับ

                      มันเป็นปัญหาระดับชาติ ระดับโลก ที่ปล่อยเอาไว้ไม่ได้แล้ว เพราะอายุมนุษย์จะสั้นลง ทั้งนี้สาเหตุมาจาก

                      ๑). อาหารที่รับประทานอยู่ทุกวัน  ทุกมื้อ มันเป็นอาหาร-เครื่องดื่ม ที่ก่อเกิดโรคทั้งสิ้น แต่คนส่วนใหญ่ก็ยังกินอย่างนั้น  ชอบอย่างนั้น  บางคนรู้  และบางคนไม่รู้มาก่อน แต่เพราะสภาพเศรษฐกิจ คือรายได้น้อย  จึงต้องกินอาหารขยะ โดยเฉพาะคนในวัยทำงาน และเด็ก

                      ๒). สภาพแวดล้อม ทางอากาศ ที่เต็มไปด้วยฝู่น และเชื้อโรค เพราะความสกปรกของบ้านเมือง ที่ไม่รู้จะเก็บขยะให้หมด และทำลายให้หมด ได้ เพราะมนุษย์ช่วยกันทิ้ง  จึงต้องสูดอากาศที่มีเชื้อโรคเข้าไป

                      ๓). การที่ไม่รู้จักกินอาหารให้เป็นยา  เอาแต่กินตามใจตนเอง  กินตามปาก  กินตามความอยาก กินตามแฟชั่น กินตามที่มีเงินมาก-น้อย

                      ๔). ไม่ออกกำลังกาย  ทั้ง ๆที่รู้ว่าการออกกำลังกายนั้นดี  แต่ก้ไม่ทำ ด้วยข้ออ้างสารพัด  ขนาดจะต้องตายถ้าไม่ออกกำลังกาย ก็ยอมที่จะตายดีกว่า เป็นเสียอย่างนั้น

                      ๕). นอนดึก พักผ่อนไม่เพียงพอ เพราะติดละคร  ติด Net ติดถ่ายทอดสดทางกีฬา

                      ๖). ระบบขับถ่าย  ทำงานไม่เป็นเวลา เพราะไม่ยอมตื่นเช้า และไม่ยอมกินอาหารที่มีกากใยมาก

                      ๗). หลงอยู่แต่ในความคิดตนเอง  มีความยึดมั่นถือมั่นสูง  ไม่สามารถแยกจิตออกมาจากความคิดได้ เป็นทาสความคิดแบบไม่รู้ตัว  จึงกระทำตามที่จิตตนเองคิด  ลืมความถูกต้อง  ลืมความจริงที่ควรจะกระทำทั้งหมด

                           ยังมีอีกมากมายครับ

                          ดังนั้น  สังคมมนุษย์  จึงมีแต่โรค  เสียเงินกับการรักษาจำนวนมาก  และไม่สำนึก

                          สวัสดี
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #9495 เมื่อ: 05 กรกฎาคม 2556, 13:01:31 »

ตะกั่วป่า จ.พังงา จมน้ำตั้งแต่เมื่อวานนี้แล้วครับ

วันที่ 05 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 เวลา 10:17 น.  ข่าวสดออนไลน์
ระดมเรือ-อาหาร-น้ำดื่มเร่งช่วยคนตะกั่วป่า

      เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 5 ก.ค. ที่ จังหวัดระนอง มูลนิธิระนองสงเคราะห์ ได้เตรียมเรือท้องแบน 2 ลำ ข้าวสารอาหารแห้งพร้อมน้ำดื่ม จำนวน 400 ชุด เพื่อเร่งเข้าช่วยเหลือชาวบ้านที่ อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา อย่างเร่งด่วน ภายหลังได้รับการประสานงานจาก มูลนิธิสว่างเมฆา จ.พังงา ร้องขอสนับสนุนข้าวสารอาหารแห้ง กำลังพล พร้อมเรือท้องแบน ที่ยังขาดแคลนในพื้นที่

      นายชำนิ แสงทอง รอง หน.กู้ภัยมูลนิธิระนองสงเคราะห์ กล่าวว่า กำลังจะลงพื้นที่ อ.ตะกั่วป่า ที่บ้านหัวไทร บ้านกรูด และบ้านคลองใหญ่ โดยจะนำข้าวสารอาหารแห้งพร้อมน้ำดื่ม จำนวน 400 ชุด ซึ่งจะนำไปช่วยเหลือและแจกจ่ายให้ถึงชาวบ้านพื้นที่ชั้นในที่ประสบปัญหาน้ำหลาก โดยใช้เรือท้องแบน จำนวน 2 ลำ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก สนง.ปภ.ระนอง   และมีการประสานงานกับมูลนิธิสว่างเมฆา จ.พังงา คาดว่าเที่ยงนี้น่าจะเข้าถึงพื้นที่อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา

http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNM01qazVORE16TlE9PQ==&subcatid=
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #9496 เมื่อ: 05 กรกฎาคม 2556, 16:19:53 »

สวัสดีครับ ชาวซีมะโด่ง และแขกผู้มาเยือน ที่รักทุกท่าน

                       วันนี้ นครศรีธรรมราช (ตัวเมือง) ฝนไม่ตก แดดจัดทั้งวัน อากาศร้อน ครับ

                       ผมเอง อยู่นครศรีธรรมราช ไม่ได้ไปไหนเลยทั้งสิ้น อยู่แต่โรงแรม และโรงงาน เท่านั้น จึงไม่รู้อะไรเลย

                       เมื่อไม่รู้อะไรเลย  ก็ไม่มีอะไรเขียนเหมือนกัน  มันก็เป็นอย่างนี้

                       วัตถุดิบในการเขียนมีเพียง จิตตนเอง  ซึ่งตอนนี้มันก็ทรง ๆ ของมันตามเดิม อยู่กับการรู้ และไม่รู้(หลงอยู่ในความคิด) สลับกันทั้งวัน  เวลานอนช่วงแรก สามทุ่มครึ่ง ถึงตีสองครึ่งจะหลับสนิท ไม่มีการฝัน ไม่มีมารมาผจญ แต่หลังจากนั้น จิตมันจะให้ตื่นมานั่งภาวนา แต่เนื่องจากยังต้องทำงานอยู่  จึงภาวนาในท่านอน มีสติ เกิดภวังค์ หลับ มีมารมาผจญ รู้ตัวบ้าง ไม่รู้ตัวบ้าง คือฝันนาน หรือไม่นาน(รู้ตัว ว่ามันไม่ใช่) กลับมามีสติอีก ตีสี่ครึ่งจะตื่นมาภาวนา  สวดมนต์ทำวัตรเช้า  และภาวนาต่อ  จนได้เวลาออกกำลังกายที่ตอนหกโมงเช้า คือเดินจงกรมออกกำลังกาย ตามด้วย ชิกง - โยคะ  และกินข้าวเช้าตอนเจ็ดโมง นี่คือสิ่งที่กระทำ  ในช่วงทำงานตามต่างจังหวัด และนอนโรงแรม

                       ข่าวสารไม่ต้องพูดถึง คือ ไม่รู้  จะรู้เมื่อเดินผ่าน TV หรือ คนมาพูดให้ฟังเท่านั้้น

                       ผิด ถูก ไม่ทราบทั้งนั้น  นี่ละชีวิตผม

                       Inter Net  ก็ท่องไม่เป็น Face book ก็ท่องไม่เป็น You Tube ก็ท่องไม่เป็น  ชีวิตหมดกัน

                       สำหรับอาหารอร่อย คงไม่ได้กินทานานแล้ว  กินแต่สิ่งที่รู้ว่าต้องกิน เพื่อร่างกายไร้โรค เท่านั้น

                       ถามว่า เวลาเห็นอาหารดี ๆ น่ารับประทาน เกิดความอยากไหม ? เกิด แต่พอรู้ตัวก็ไม่อยาก ก็ไม่ได้กินสักที และมันก็หมดความอยาก ไปเอง เราก็กินของเราตามที่ต้องกิน

                       นี่ก็จวนได้เวลา ต้องไปออกกำลังกายยามเย็น คือเดินจงกรมออกกำลังกาย ฝึกโยคะ และจบด้วยซาวน่า หนึ่งรอบ

                        สวัสดีครับ


                        หมายเหตุ  ตอน เวบน่าจะโหลดรูปไม่ได้  ผมลองมาตั้งแต่เช้าแล้ว ไม่ได้เลย

                       
      บันทึกการเข้า
suriya2513
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,457

« ตอบ #9497 เมื่อ: 05 กรกฎาคม 2556, 17:05:24 »



ทดลอง upload รูป
      บันทึกการเข้า

[โบราณคดี]จุดกำเนิดเริ่มต้นของ cmadong.com by : มานพ กลับดี  คลิ๊ก->
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #9498 เมื่อ: 05 กรกฎาคม 2556, 20:25:38 »


                        สงสัย เครื่อง Toshiba i7 Ultrabook Window 7  ของผมไม่ดี มันก็โหลดรูปยังไม่ได้

                         รูปที่เคยโหลดได้ ก็ไม่ได้

                         เอวัง
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #9499 เมื่อ: 05 กรกฎาคม 2556, 20:45:08 »

สวัสดียามค่ำครับ ชาวซีมะโด่ง และแขกผู้มาเยือน ที่รักทุกท่าน

                      วันนี้ตอนบ่าย ได้เข้าไปทบทวนการปฏิบัติธรรมของตนเอง ที่เวบของ วัดป่าสุคะโต ทำให้ได้พบอะไรที่เพิ่มเติมจากเดิม  ได้รับทราบการป่วยของท่านหลวงพ่อคำเขียน   ทำให้เกิดความอยาก จะกลับไปปฏิบัติธรรมที่นั่นอีกครั้ง ตามคำเชิญของอาจารย์ทรงศิลป์ หลวงพ่อไพศาล และหลวงพ่อคำเขียน

                      คงต้องจัดหาเวลาไปสัก ๕-๖ วัน ก่อนหน้าหนาวจะมาถึง

                      วัดป่าสุคะโต เหมาะแก่การปฏิบัติธรรมมาก  ไม่วุ่นวาย  ถึงจะมีคนมากก็ตาม เพราะทุกท่านมาปฏิบัติธรรม มีแต่มิตรทั้งนั้น

                      การงานนี่ละเป็นตัวถ่วงของเรา  แต่ถ้าไม่ทำงานเราก็อยู่ลำบากเหมือนกัน  ยังต้องทำงานไปอีกสักระยะหนึ่ง

                       สมัยนี้ ถ้าไม่มีเงินอยู่ลำบาก  รัฐบาลกำลังจะขึ้น VAT อีก ๑%

                       ข้าวของปัจจุบันแพงมาก รากหญ้าอยู่ไม่ได้กันแล้ว ขึ้น VAT อีก ลำบากเพิ่มขึ้น 

                       ค่าแรงขั้นต่ำที่เพิ่มขึ้นนั้น มันขึ้นไม่ทันสินค้าที่เพิ่มขึ้นมาก  สู้ไม่ขึ้นค่าแรงเสียจะดีกว่า เพราะการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำที่ผ่านมา ผลคือ แรงงาน  รากหญ้า เจอของแพง จนมีแต่ข่าวอาชญากรรมเพิ่มขึ้น  ขนยาเสพติดเพิ่มมากขึ้น เพราะไม่รู้จะไปหาเงินจากที่ไหน มันอดอยาก จริง ๆ

                       สังคมปัจจุบัน มันต้องซื้อทุกอย่าง จึงต้องมีเงิน ทุกวันต้องใช้เงิน  มันเป็นอย่างนี้  ลำบาก

                       ต้องทำงาน  อยู่อย่างพอเพียง  ถือศีล ๘ ปฏิบัติธรรม ไปด้วย เพื่อให้จิตมันสงบ ตัดความอยากไปได้มาก สุขย่อมมี

                       ผมก็ยังโหลดรูปไม่ได้ อยู่ดี

                        ราตรีสวัสดิ์ทุกท่านครับ
      บันทึกการเข้า
  หน้า: 1 ... 378 379 [380] 381 382 ... 681   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

สมาคมนิสิตเก่าหอพักนิสิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มวลสมาชิกสมาคม คณาจารย์ และนิสิตเก่าทุกคน ขอน้อมเกล้าถวายความอาลัย  พระผู้เสด็จสู่สวรรคาลัย ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ <;))))><