22 พฤศจิกายน 2567, 23:40:16
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: 1 ... 364 365 [366] 367 368 ... 681   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: คุย กับ คุณมานพ กลับดี อดีตประธานชมรม ๓ สมัย  (อ่าน 3548652 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 14 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #9125 เมื่อ: 21 พฤษภาคม 2556, 21:11:17 »

นาฬิกาแห่งชีวิต



สวัสดีครับ ชาวซีมะโด่ง และแขกผู้มาเยือน ที่รักทุกท่าน

              นาฬิกาแห่งชีวิต นั้นผมทราบมานานแล้วเพราะตามโรงพยาบาลทางเลือก เช่นโรงพยาบาลจอมทอง ที่ผมไปเข้าคอสสร้างความเป็นหนุ่มเป็นสาวนั้น เขาก็สอนมาให้ทั้งหมด จนผมต้องปฏิวัติตัวเอง ปรับเวลาให้เป็นธรรมชาติยิ่งขึ้นตาม นาฬิกาแห่งชีวิต

              มาทำความเข้าใจกันหน่อยครับ

              มนุษย์ก็เป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ ที่บังเกิดขึ้น ประกอบด้วยธาตุทั้ง ๔ มีอวัยวะ ๓๒ ที่เขาสมมติว่าเรียกมนุษย์ เมื่อมนุษย์เป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ  ธรรมชาติได้สร้างมนุษย์ให้มีพฤติกรรมตามแบบที่ควรจะเป็นเพื่อว่ามนุษย์สามารถอยู่รอดมีชีวิตได้ตามอายุไข  ไม่เจ็บไม่ป่วยมากนัก แต่มนุษย์ ต้องทำมาหากิน  มีเวลาพักผ่อนน้อย และรับประทานอาหารเข้าไปแบบไม่เป็นไปตามที่ธรรมชาติกำหนด  ผลคือ มนุษย์เลยเกิดการเจ็บป่วยขึ้นมา

               สัตว์เดรฉาน ธรรมชาติได้สร้างขึ้นมาให้เป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ  มันก็มีชีวิตรอดของมันไปได้ตามที่ธรรมชาติได้ออกแบบไว้  ไม่เจ็บไม่ป่วย  ยกเว้นแก่เฒ่า หาอาหารไม่ได้ ก็จะต้องตายไปตามที่ธรรมชาติกำหนด

                แต่มนุษย์เป็นสัตว์ที่ประเสริฐ ธรรมชาติได้สร้างให้มีสมอง  จึงหาวิธีเอาตัวรอด และดำรงค์อยู่แบบฝืนธรรมชาติ  ผลคือความเจ็บป่วยก็มาเยือน ไม่เว้น  ท่านพิจารณาเอาเองก็แล้วกัน

                ธรรมชาติได้ออกแบบวงจรชีวิตในแต่ละวันของมนุษย์เอาไว้ (จากการรวบรวมข้อมูล  สังเกตพฤติกรรมของมนุษย์เป็นเวลานาน จึงสรุปออกมา) คือ

                 เริ่มต้น 07:00 - 09:00 น. ต้องกิน เป็นช่วงของเวลารับประทานอาหารเช้า  ที่เป็นมื้อสำคัญที่ต้องรับประทาน เพราะไม่ได้รับประทานมาทั้งคืน  ร่างกายต้องการพลังงานจากอาหาร ดังนั้น ต้องรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ในปริมาณที่มากพอสมควร แต่น่าเสียดายมนุษย์ส่วนใหญ่ไม่กระทำตาม จึงเป็นสาเหตุแห่งโรคต่าง ๆ ตามมา

                  เวลา 09:00 - 11:00 น. ห้ามนอน เป็นเวลาที่กระเพาะอาหารทำงานย่อยอาหารมื้อเช้า จึงจำเป็นต้องงดการนอนเด็ดขาด จึงต้องมีอะไรทำ คือเป็นเวลาทำงานนั่นเอง  ถ้าใครฝืนนอนตื่นสาย  ท่านก็พบเองว่า  สุขภาพท่านไม่ดี ขี้โรค

                   เวลา 11:00 - 13:00 น. ห้ามเครียด เป็นเวลารับประทานอาหารกลางวัน ซึ่งก็เป็นมื้อสำคัยเช่นกัน เพราะร่างกายยังต้องทำงาน จึงจำเป็นต้องใช้พลังงานที่ได้จากการรับประทานอาหาร อย่าลืมกินอย่างไร  ได้อย่างนั้น (คุณภาพชีวิต) และช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่ต้องไม่เคร่งเครียด เพราะถ้าเครียด จะรับประทานอาหารไม่ลง  ร่างกายจะไม่ได้สารอาหาร

                  เวลา 13:00 - 15:00 น. ห้ามกิน เป็นเวลาของการย่อยอาหารกลางวัน  ห้ามนอน  ห้ามกินอาหารกลางวันเด็ดขาด เพราะมันเลยเวลากินมื้อกลางวันแล้ว เพราะน้ำย่อยมันจะไม่ออกมาทำหน้าที่ตามปกติของมัน  ธรรมชาติมันสร้างระบบย่อยอาหารมาแบบนั้น  พวกที่ชอบกินอาหารกลางวันในช่วงนี้ จึงมีแต่โรค  ไม่เชื่อลองไปพิจารณาดูเอาเอง  จะพบ

                   เวลา 15:00 - 17:00 น.เป็นช่วงของการออกกำลังกาย  ที่ธรรมชาติสร้างให้ต้องกระทำ  ถ้าไม่ออกกำลังกายโดยมีข้ออ้างสาระพัด โรคต่าง ๆ ก็ตามมาเหมือนกัน

                   เวลา 17:00 - 19:00 น. ห้ามนอน เพราะถ้านอน จะตื่นกลางดึกและเป็นช่วงของการรับประทานอาหารเย็น  พักผ่อนจากการออกกำลังกาย เป็นช่วงโผล้เพล้ ที่โบราณว่า ผีจะออกมาตากผ้าอ้อม ห้ามนอนเด็ดขาด และเป็นช่วงของการย่อยอาหาร มื้อเย็น  สังเกตใครนอนช่วงนี้ มีแต่โรคตามมา

                   เวลา 19:00 - 21:00 น. เป็นช่วงที่ห้ามออกกำลังกาย  เพราะถ้าออกกำลังกายมาก  จะนอนไม่หลับ  เกิดอาการกล้ามเนื้อเกร็ง และเป็นช่วงการย่อยอาหารมื้อเย็น  ควรจะพักผ่อนอยู่ในบ้าน

                    เวลา 21:00 - 03:00 น. เป็นช่วงเวลาของการนอน  ต้องนอนให้หลับ ธรรมชาติต้องการซ่อมแซมตนเองด้วยการพักผ่อนจริง ๆ หยุดทุกอย่าง  ถ้าใครไม่นอน โรคต่าง ๆ ตามาแน่นอน เพราะพักผ่อนไม่เพียงพอ

                    เวลา 03:00 - 05:00น. เป็นช่วงที่ควรจะตื่นนอนได้แล้ว ในสมัยพุทธกาล  เรียกว่าช่วงอมฤติกาล ผู้ที่ต้องการพ้นทุกข์  จะตื่นขึ้นมาภาวนา  ทำความเพียรกัน เพราะได้พักผ่อน  ร่างกายได้รับการซ่อมแซม  สดชื่น เหมาะแก่การเจริญปัญญา  พระพุทธองค์ท่านก็ตื่นเวลานี้เหมือนกัน เพื่อมาพิจารณาตรวจดูสัตว์โลก  ว่าใครจะมีโอกาสบรรลุธรรมของพระองค์  พระองค์ก็จะไปโปรดทันที

                    เวลา 05:00 - 07:00 น. เป็นเวลาของการขับถ่ายของเสีย  ดังนั้นเราต้องฝึกถ่ายอุจจาระในช่วงนี้

                    ทั้งหมดนั้น สำหรับผม กระทำตามนั้นเป็นปกติส่วนใหญ่  มานานแล้ว จนเป็นปกตินิสัย

                     แต่  ดร.สุริยา  ยังห่างไกลนัก กับ นาฬิกาแห่งชีวิต  น่าเศร้าชะมัด  แต่อย่างน้อย ก็เป็นตัวเตือนว่า อยู่หรือใช้ชีวิต ที่ผิดจากที่ธรรมชาติได้ออกแบบวงจรชีวิตเอาไว้  ก็จงระวังคือ โรคต่าง ๆ จะตามมาไม่ละเว้น เพราะธรรมชาติเขาสร้างมาแบบนั้น  อย่าไปบิดเบือนธรรมชาติ  ด้วยข้ออ้างต่าง ๆ นาๆ ตามความคิดของตนเองเลย  วิญญูชนม์เขาไม่คิดแบบนั้น มีแต่พวกหลงอยู่ในความคิด  ถ้าอ้างเรื่องงาน  เราหาอาชีพใหม่ได้

                      ก็สรุปแบบนี้ละครับ  ดังนั้น เมื่อธรรมชาติออกแบบมนุษย์ให้มีวงจรแบบนี้  ก็จงทำตามเถิด  ถ้าไม่กระทำตาม ผลคือ ความเจ็บป่วยจะตามมาไม่ช้าไม่นาน เมื่อร่างกายอ่อนแอถึงที่สุดแล้ว

                      โรคต่าง ๆที่หาสาเหตุไม่ได้นั้น มันเกิดจากพฤติกรรมของมนุษย์ที่ผิดไปจาก นาฬิกาแห่งชีวิต นี่ละ เช่นสาเหตุแห่งการเกิดมะเร็ง เป็นต้น ก็มาจากการดำเนินชีวิตผิดไปจาก นาฬิกาแห่งชีวิต  นี้ละ

                       ราตรีสวัสดิ์ทุกท่านครับ
         
      บันทึกการเข้า
เอมอร 2515
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu 2515
คณะ: รัฐศาสตร์(นิติศาสตร์)
กระทู้: 4,562

« ตอบ #9126 เมื่อ: 22 พฤษภาคม 2556, 17:29:59 »

อ้างถึง
ข้อความของ Manop  Klabdee เมื่อ 20 พฤษภาคม 2556, 20:36:31
อ้างถึง
ข้อความของ เอมอร 2515 เมื่อ 20 พฤษภาคม 2556, 12:43:52
สวัสดีค่ะ พี่สิงห์
ตามอ่่านค่ะ
พี่สบายดีนะคะ

สวัสดีค่ะ คุณน้องเอมอร ที่รัก

             พี่สิงห์  สบายดี  เธอไม่ต้องเป็นห่วงทั้งสิ้น  

             ถ้าจะห่วงพี่สิงห์  ขอให้เธอห่วงตัวเองมาก ๆ แทนก็แล้วกัน  มีผลเสมอกัน

             เพราะพี่สิงห์  ต้องการแบบนั้น

            วันที่ ๒๓ - ๒๖ พฤษภาคม เธอว่างไหม ?

            ถ้าว่างเรียนเชิญไปบวชชีพราหมณ์ และปฏิบัติธรรม ที่วัดสมานราษฎร์ หนองรี ชลบุรี

            เนื่องในเทศกาบวิสาขะบุชา เพื่อรำลึกถึงพระพุทธองค์

            พี่สิงห์ จะไปวันที่ ๒๓ บ่าย หลวงพ่อ ให้ไปสอนชิกง - โยคะ  กับผู้ปฏิบัติธรรมที่วัด  คาดว่าจะมีญาติโยมไป ไม่ต่ำกว่า ๒๐๐ ท่านขึ้นไป  และมีรถบัสออกจาก กทม. สำหรับญาติโยม ที่อยู่ กทม. ที่สถานียานเกราะ บางกระบือ  มีที่พัก อาหารเลี้ยง  ไม่ต้องเสียสตางค์  ทราบว่าวันที่ ๒๖  มีการเททองหล่อพระพุทธรูป ด้วย

            อย่าลืมดูแลตัวเอง  แทนพี่สิงห์  ด้วย

            สวัสดีค่ะ


สวัสดีค่ะพี่สิงห์

ขอบคุณค่ะที่กรุณานึกถึงเสียดายหากอยู่ที่บ้านมี่ชลบุรีไม่ไกลหนองรีเลยค่ะ
แต่พอดีวิสาขบูชานี้ไปพิจิตรค่ะ
หวังว่าคราวหน้าคงมีโอกาสได้ไปร่วมบุญกับพี่นะคะ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #9127 เมื่อ: 22 พฤษภาคม 2556, 20:00:44 »

สวัสดีค่ะ คุณน้องเอมอร ที่รัก

                    ไม่เป็นไรเอาไว้โอกาสหน้าก็แล้วกัน

                    พี่สิงห์ ไปกับ ดร.กุศล  เพราะว่า หลวงพ่อให้เชิญ ดร.กุศล ไปด้วย  ที่วัดยังขาดมัคคะทายก

                    จะไปวันพฤหัสบดีที่ ๒๓ พฤษภาคม ตอนบ่ายโมง ไปรับ ดร.กุศล  แล้วไปที่วัดสมานราษฎร์ เลย  ตอนเย็น มีบวชชีพราหมณ์

                     วันวิสาขะบูชา  ได้ทำบุญที่วัด  ปฏิบัติธรรม  สอนชิกง - โยคะ

                     วันอาทิตย์ มีพิธีเททองหล่อพระพุทธรูป ที่วัด

                     สวัสดีค่ะ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #9128 เมื่อ: 22 พฤษภาคม 2556, 20:27:14 »

มาตั้งนาฬิกาชิวิตกันดีกว่า




                         การตั้งนาฬิกาชีวิต  คือ การปฏิบัติตนเอง ในเรื่อง การกิน  การทำงาน(เวลาที่ไม่นอน) การนอนหลับ  มีสติ  การออกกำลังกาย และการขับถ่าย  ให้ตรงเวลากับ ที่ธรรมชาติได้ออกแบบเอาไว้ให้กับมนุษย์ปฏิบัติ  ถ้าไม่ทำตามนั้น  โรคภัยจะถามหา

                         วันนี้ฟังรายการคุณหมอปัญญา    ไข่มุก  ท่านพูดให้ฟังเรื่อง อนุมูลอิสสระ สารตัวร้ายในการก่อมะเร็งและโรคต่าง ๆ เกิดจาก การแตกตัวของ O2 ที่แตกตัวเป็น O1 + O1  เจ้าตัว O1 นี่ละเรียกอนุมูลอิสสระมีกำลังมาก ที่จะไปดึงเซล ต่าง ๆ มาเป็นตัวเอง จนกลายเป็นมะเร็ง  หรือไปทำลายเซล  หรือไปฆ่าเซล  แต่ธรรมชาติได้สร้างสารต่อต้านอนุมูลอิสสระ เอาไว้ให้มากมายอยู่แล้ว คือ อยู่ที่เราต้องรับประทานผักและผลไม้ให้มาก ๆ บวกกับการพักผ่อนหลับนอนให้ตรงตามที่ธรรมชาติได้สร้างเอาไว้ให้ คือ ประพฤติตามนาฬิกาชีวิต นั่นเอง  ก็จะห่างไกลจากโรคมะเร็ง  โรคที่ไม่ทราบสาเหตุต่าง ๆ ได้

                         เรามาทบทวนกันอีกครั้ง  สำหรับการตั้งนาฬิกาชีวิต (คือการปฏิบัติตน ตามระยะเวลาที่กำหนด ในแต่ละช่วงเวลาของวัน)

                         เวลา 07:00 - 09:00 น. เป็นเวลาต้องกิน  มันเป็นช่วงของการรับประทานอาหารเช้า

                         เวลา 09:00 - 11:00 น. เป็นเวลาห้ามนอน  ให้ทำงาน

                         เวลา 11:00 - 13:00 น. เป็นเวลาห้ามเครียด ให้มีสติ และเป็นเวลารับประทานอาหารกลางวัน

                         เวลา 13:00 - 15:00 น. เป็นเวลาห้ามกิน  ให้ทำงาน

                         เวลา 15:00 - 17:00 น. เป็นเวลาของการออกกำลังกาย

                         เวลา 17:00 - 19:00 น. เป็นเวลาห้ามนอน  รับประทานข้าวเย็น  ให้กินแต่พอประมาณ  อย่ากินตามปาก หรือชอบ

                         เวลา 19:00 - 21:00 น. เป็นเวลาห้ามออกกำลังกาย

                         เวลา 21:00 - 03:00 น. เป็นเวลานอน  ต้องนอนหลับให้ลึกอย่างมีสติ

                         เวลา 03:00 - 05:00 น. เป็นเวลาต้องตื่นนอน  ให้เจริญสติภาวนา

                         เวลา 05:00 - 07:00 น. เป็นเวลาที่ต้องขับถ่ายของเสียคืออุจจาระ ออกจากร่างกาย

                         ใครทำได้ตามนี้  จะมีสุขภาพที่แข็งแรง  ปราศจากโรคภัยมาเบียดเบียน

                         ราตรีสวัสด์ครับ

                      
      บันทึกการเข้า
suriya2513
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,457

« ตอบ #9129 เมื่อ: 23 พฤษภาคม 2556, 00:33:46 »

<a href="http://www.youtube.com/watch?v=N-uhx8WTVH4" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=N-uhx8WTVH4</a>

ลูกวงผมเองครับ คุณน้องตุ๊ก ชุติมา กิจประยูร
      บันทึกการเข้า

[โบราณคดี]จุดกำเนิดเริ่มต้นของ cmadong.com by : มานพ กลับดี  คลิ๊ก->
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #9130 เมื่อ: 23 พฤษภาคม 2556, 05:54:04 »

อ้างถึง
ข้อความของ suriya2513 เมื่อ 23 พฤษภาคม 2556, 00:33:46
<a href="http://www.youtube.com/watch?v=N-uhx8WTVH4" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=N-uhx8WTVH4</a>

ลูกวงผมเองครับ คุณน้องตุ๊ก ชุติมา กิจประยูร

               ละได้แล้ว  ต้องมีริริยะ  มีความเพียร  ประคองตั้งจิตไว้  ไม่กลับไปยินดีแบบนั้นอีก  ต้องเอาชนะจิตตนเองให้ได้ ไม่หลงมัวเมาในกามคุณ  มันเป็นความสุขเพียงชั่วครู่  ชั่วยาม  เมื่อเราประสบ  หรือปรุงแต่งขึ้นมาเท่านั้น  พอมันดับไป  ก็ไม่มีอะไร  ไม่ใช่ความสุขยั่งยืน

                อย่าไปหลงอยู่ในความคิด หลงทางกาม มันเลย

                เช้านี้ หุงข้าว  ใส่บาตรพระที่หน้าบ้าน  สุขกว่ากันแยะ  เพราะได้ทำให้จิตมันรู้ถึงอารมณ์การให้ ที่เป็นปรมัติธรรม

                สวัสดี
      บันทึกการเข้า
suriya2513
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,457

« ตอบ #9131 เมื่อ: 23 พฤษภาคม 2556, 09:17:30 »

เยี่ยมจริงๆ ผมคาดเดาไว้ไม่ผิดไปกี่มากน้อยเลย
      บันทึกการเข้า

[โบราณคดี]จุดกำเนิดเริ่มต้นของ cmadong.com by : มานพ กลับดี  คลิ๊ก->
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #9132 เมื่อ: 23 พฤษภาคม 2556, 09:54:44 »

ทรงสอนให้มีตนเป็นเกราะมีตนเป็นสรณะ

                         พระผู้มีพระภาคตรัสว่า  ดูก่อนอานนท์  ก็ภิกษุสงฆ์จะยังอะไรในเราตถาคตอีกเล่า  ดูก่อนอานนท์  ธรรมที่ตถาคตแสดงแล้ว  ได้ทำมิให้มีใน  มิให้มีนอก  ดูก่อนอานนท์  ตถาคตมิได้มีกำมือของอาจารย์ในธรรมทั้งหลาย  ดูก่อนอานนท์  ผู้ใดพึงมีความคิดอย่างนี้ว่า "เราจักบริหารภิกษุสงฆ์"  ก็ดี  "ภิกษุสงฆ์พึงยกย่องเรา"  ก็ดี  ดูก่อนอานนท์ เขาผู้นั้นพึงปรารภภิกษุสงฆ์แล้วกล่าวถ้อยคำอย่างใดอย่างหนึ่งแน่นอน  ดูก่อนอานนท์  ตถาคตมิได้มีดำริอย่างนี้ว่า  "เราแลจักบริหารภิกษุสงฆ์  หรือว่าภิกษุสงฆ์พึงยกย่องเราตถาคต"  แล้วเพราะเหตุไร  ตถาคตนั้นจักปรารภภิกษุสงฆ์แล้วกล่าวถ้อยคำอย่างหนึ่งอย่างใดเล่า  ดูก่อนอานนท์  ก็บัดนี้  เราตถาคตเป็นผู้ชรา  แก่เฒ่าแล้ว  เป็นผู้ใหญ่  ล่วงกาลผ่านวัยโดยลำดับแล้ว  วัยของตถาคตก็กำลังดำเนินเข้าถึง ๘๐ ปีอยู่  ดูก่อนอานนท์  เกวียนเก่าคร่ำคร่ายังเดินไปได้ด้วยการซ่อมแซมด้วยไม้ไผ่  แม้ฉันใด  ร่างกายของตถาคตก็ดำเนินไปได้เหมือนด้วยการแซมด้วยไม้ไผ่  ฉันนั้นแล  ดูก่อนอานนท์  ในกาลใด  ตถาคตเข้าถึงเจโตสมาธิอันหานิมิตมิได้อยู่เพราะไม่มนสิการนิมิตทั้งปวง  เพราะเวทนาทั้งหลายบางอย่างดับไปในกาลนั้น  ร่างกายของตถาคตมีความผาสุกยิ่ง 

                         ดูก่อนอานนท์  เพราะเหตุนั้นแหละ   เธอทั้งหลายจงมีตนเป็นเกราะ  มีตนเป็นสรณะอยู่เถิด  อย่ามีสิ่งอื่นเป็นสรณะเลย  จงมีธรรมเป็นเกราะ  มีธรรมเป็นสรณะอยู่  อย่ามีสิ่งอื่นเป็นสรณะเลย

                         ดูก่อนอานนท์  ก็ภิกษุมีตนเป็นเกราะ  มีตนเป็นสรณะ  ไม่มีสิ่งอื่นเป็นสรณะ  มีธรรมเป็นเกราะ  มีธรรมเป็นสรณะ  ไม่มีสิ่งอื่นเป็นสรณะอยู่  คือ

                         ดูก่อนอานนท์  ภิกษุในพระศาสนานี้

                         (๑)  เป็นผู้พิจารณาเห็นกายในกายเนือง ๆ  อยู่  มีความเพียร  มีสัมปชัญญะ  มีสติ  พึงกำจัดอภิชฌาและโทมนัสในกายเสียได้

                         (๒)  เป็นผู้พิจารณาเห็นเวทนาในเวทนาทั้งหลายเนือง ๆ  อยู่  มีความเพียร  มีสัมปชัญญะ  มีสติ  พึงกำจัดอภิชฌาและโทมนัสในกายเสียได้

                         (๓)   เป็นผู้พิจารณาเห็นจิตในจิตเนือง ๆ  อยู่  มีความเพียร  มีสัมปชัญญะ  มีสติ  พึงกำจัดอภิชฌาและโทมนัสในกายเสียได้

                         (๔)  เป็นผู้พิจารณาเห็นธรรมในธรรมทั้งหลายเนือง ๆ  อยู่  มีความเพียร  มีสัมปชัญญะ  มีสติ  พึงกำจัดอภิชฌาและโทมนัสในกายเสียได้

                          ดูก่อนอานนท์  ก็ภิกษุเป็นผู้มีตนเป็นเกราะ  มีตนเป็นสรณะอยู่  ไม่มีสิ่งอื่นเป็นสรณะ  มีธรรมเป็นเกราะ  มีธรรมเป็นสรณะ  ไม่มีสิ่งอื่นเป็นสรณะอยู่  อย่างนี้แล

                          ดูก่อนอานนท์  เพราะว่า  ในกาลบัดนี้ก็ดี  ในกาลที่เราตถาคตล่วงลับไปแล้วก็ดี  ภิกษุทั้งหลายเหล่าใด ๆ จักเป็นผู้มีตนเป็นเกราะ  มีตนเป็นสรณะ  ไม่มีสิ่งอื่นเป็นสรณะ  มีธรรมเป็นเกราะ  มีธรรมเป็นสรณะ  ไม่มีสิ่งอื่นเป็นสรณะอยู่  ภิกษุทั้งหลายเหล่านั้นจักอยู่ในความเป็นผู้เลิศกว่าเหล่าภิกษุผู้ใคร่ต่อการศึกษา
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #9133 เมื่อ: 23 พฤษภาคม 2556, 15:21:50 »



สวัสดีครับ ชาวซีมะโด่ง  และแขกผู้มาเยี่ยมเยือน ที่รักทุกท่าน

                                ผมกับ ดร.กุศล  อยู่วัดสมานราษฎร์  ตำบลหนองรี  อำเภอเมือง  ชลบุรี

                                มาถึงตอนบ่าย  ได้ไปกราบหลวงพ่อ ดร.พระมหาสุเทพ  และได้พบกับ หลวงพี่ ดร.พระปลัดธีระศักดิ์ ที่มาจากอินเดีย

                                  สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #9134 เมื่อ: 23 พฤษภาคม 2556, 15:29:42 »



                               ดร.กุศล  และหลวงพี่ ดร.พระปลัดธีระศักดิ์

                               ท่าน.เพิ่งเดินทางมาจากอินเดียเมื่อคืน

                               ท่านบอกว่า อาทิตย์หน้า ท่านจะไป แคชเมีย  น่าสนใจ  ที่จะไปด้วยใช้เวลาไม่มาก  กำลังรอ ดร.กุศล   ตัดสินใจ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #9135 เมื่อ: 23 พฤษภาคม 2556, 16:07:38 »



                        อาคารชั้นสอง และ สามทำเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมของวัดสมานราษฎร์
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #9136 เมื่อ: 23 พฤษภาคม 2556, 16:10:07 »



                       ดร.กุศล   กำลังกวาดห้องนอน  หน้าห้องเป็นลานกว้าง เหมาะะแก่การฝึกโยคะ - ชิกง
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #9137 เมื่อ: 23 พฤษภาคม 2556, 16:17:11 »

      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #9138 เมื่อ: 23 พฤษภาคม 2556, 16:18:40 »



                      กำลังหลอมทอง หล่อพระต้องใช้เวลามากกว่าสามวัน
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #9139 เมื่อ: 23 พฤษภาคม 2556, 16:22:42 »



                            อาคารที่พัก
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #9140 เมื่อ: 23 พฤษภาคม 2556, 19:37:31 »



                          เวลาสองทุ่ม จะมีการบวชชีพราหมณ์  สวดมนต์ทำวัตรเย็น  สวดธรรมจักรฯ และพระสูตรที่สำคัญ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #9141 เมื่อ: 23 พฤษภาคม 2556, 21:43:55 »


         
                         หลวงพ่อ ดร.พระมหาสุเทพ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #9142 เมื่อ: 23 พฤษภาคม 2556, 21:46:55 »



                             คืนนี้สวดมนต์ พิธี ๕ บท มากกว่า ๔ ชั่วโมง

                             เสียสุขภาพแน่ ๆ  ตีสี่ตื่น และสอนโยคะ ตีห้า
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #9143 เมื่อ: 23 พฤษภาคม 2556, 21:58:44 »

      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #9144 เมื่อ: 23 พฤษภาคม 2556, 21:59:39 »



                     พระจากบังคลาเทศ และอินเดีย  ที่หลวงพ่อ  อุปถัมภ์  ส่งเรียนที่มหาจุฬาฯ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #9145 เมื่อ: 24 พฤษภาคม 2556, 08:13:18 »



                      เมื่อคืนนั่งสวดมนต์  ไล่ตั้งแต่ทำวัตรเย็น  ชินบัญชร  ธัมมะจักรกัปปวัตนสูตร  อนันตลักขณสูตร และมหาสมัยสูตรหลวง

                   สวดมนต์ จบเมื่อเวลาตีสอง ใช้เวลามากกว่าสี่ชั่วโมง

                         ตอนเช้าภายหลังจากสวดมนต์ทำวัตรเช้าเสร็จ  ได้สอนชิกง และโยคะ  ให้กับผู้ปฏิบัติธรรม  ร้อยกว่าท่าน  ทุกท่านตั้งใจพร้อมเพรียง  จริง ๆ  ภายหลังสอยเสร็จ  ได้มาญาติธรรรม  มาหาผม  อยากจะขอให็เปิดสอนชิกง - โยคะ  แบบนี้อีกให้มาก เพราะรู้ว่ามีวิธีดูแลสุขภาพอยู่  ผมเลยตอบว่าผมยินดีสอน  ขอให้บอกหลวงพ่อ

                        หลายคนมีอาการปวดตามร่างกาย  หายขึ้น  และหลายคนมาสอบถามเพื่อแก้ปัญหาตัวเอง  เพราะรู้แล้ว  ว่าสิ่งที่สอนให้ฝึกนั้นดี  ถูกใจ  แก้ปัญหาได้

                      ผมก็ชื่นใจเป็นธรรมดา ครับ  ลืมบอกไป ดร.กุศล  ทำหน้าที่  บรรยาย ขณะฝึกชิกง - โยคะ

                       วันนี้วันวิสาขะบูชา  ทำจิตให้ขาวรอบ  ระลึกถึงพระธรรมของพระพุทธองค์  และอย่าลืมเวียนเทียน ตอนเย็นนะครับ

                            สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #9146 เมื่อ: 24 พฤษภาคม 2556, 08:15:04 »



                         กิจกรรมวันนี้ ฟังเทศน์  ปฏิบัติธรรม  บ่ายสอนโยคะ-ชิกง เย็นเวียนเทียน และกลางคืนปฏิบัติธรรม
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #9147 เมื่อ: 24 พฤษภาคม 2556, 08:42:25 »



                        หลวงพ่อได้นำเด็กวัด  จากอินเดีย  มาทำจัมปาตี  ให้รับประทาน

                        คนทางซ้ายกำลังเรียนวิศวกรรมโยธา ปี ๒
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #9148 เมื่อ: 24 พฤษภาคม 2556, 08:51:37 »



                         ทุกคนที่มาที่วัดสามารถมารับประทาน จัมปาตี  ได้หมด

                        เมื่อสักครู่ อาจารย์ไพจิตร  มาชวนว่า  มาฆะบูชา  ปีหน้าไปอินเดียกันไหม  ผมตอบว่าไป ครับ

                         ดังนั้น ใครอยากไปอินเดียกับผมเรียนเชิญ
                        พล.ร.ต.  สิริพร   ทราบ  ผมจะไปอินเดีย สี่สังเวชนีย์ ช่วงวันมาฆะบูชาปีหน้า ครับ

                          สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #9149 เมื่อ: 24 พฤษภาคม 2556, 08:56:05 »



                         ชาวบ้าน มาทำบุญที่วัดเสร็จ ก็รับประทานอาหารเช้าที่วัด
      บันทึกการเข้า
  หน้า: 1 ... 364 365 [366] 367 368 ... 681   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

ทำไมหอพักนิสิตจุฬาจึงเป็นดินแดนมหัศจรรย์            " ไม่ได้เป็นแค่หอให้นอนพัก  แต่เป็นบ้านอบอุ่นรักให้อาศัย  ไม่เป็นแค่ที่ซุกหัวยามหลบภัย  แต่สร้างใจให้เข้มแข็งแกร่งการงาน"  <))))><