23 พฤศจิกายน 2567, 15:55:57
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: 1 ... 325 326 [327] 328 329 ... 681   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: คุย กับ คุณมานพ กลับดี อดีตประธานชมรม ๓ สมัย  (อ่าน 3560441 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 60 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #8150 เมื่อ: 24 มกราคม 2556, 12:36:08 »

      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #8151 เมื่อ: 24 มกราคม 2556, 17:18:34 »

สวัสดีครับ ชาวซีมะโด่ง และแขกผู้มีเกรียติ ที่รักทุกท่าน

                               การบรรยายเชิงวิชาการได้จบลงแล้ว  เหนื่อยมาก ๆ

                           โดยเฉพาะเหนืื่อยจากจิตตนเอง  ความขัดแย้งในจิต  ที่มันต้องการให้เรากระทำ

                            ได้มีผู้ที่เห็นด้วยที่ผมได้นำหลักธรรมของพระพุทธองค์ มาใช้ในการทำงาน  โดยเฉพาะการรักษาศีล ๕  ช่วยป้องกันการลักขะโมยสิ่งของในโรงงาน  เคยมีผู้นำไปใช้แล้วได้ผล

                                     พี่สิงห์อยู่ที่สนามบินเชียงใหม่  รอขึ้นเครื่อง Nok Air  กลับกรุงเทพฯ

                             อากาศไม่หนาวครับ

                           สวัสดี

      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #8152 เมื่อ: 24 มกราคม 2556, 21:10:56 »

สวัสดียามค่ำครับ ชาวซีมะโด่ง แขละแขกผู้มีเกียรติ ที่รักทุกท่าน

                      พี่่สิงห์ อยู่บ้านที่กรุงเทพฯ เรียบร้อยแล้ว

                      พรุ่งนี้ ต้องเดินทางไปทำงานที่นครศรีธรรมราช Boarding 09:15 น. โดย Nok Air

                      ชักรู้ตัวว่าแก่จริง ๆ แล้ว ไม่สามารถสอนหนังสือได้ทั้งวันเหมือนเมื่อก่อนแล้ว หายใจไม่ทัน  สงสัยปอดจะพิการ ไม่เต็มร้อย  ต้องไปตรวจเสียแล้ว ครั้งหลังสุดที่ X-Ray ปอด คือเมื่อกลางปีที่แล้วโดยคุณหมอพี่หาญ  ที่ยโสธร  ไม่มีอะไร

                      คุณน้องป้อม  คุณสุภาณี  บอกว่าบ้านคุณน้องสวย  พี่สิงห์  บอกว่า สวนหน้าบ้านก็น่าเดิน  ออกกำลังกาย  หรือนั่งดูดาวเป็นยิ่งนัก  เวลาคุณสุภาณี  ไปเยี่ยมหลาน เธอลองชวนให้ไปกินข้าวเย็นที่บ้านด้วยซิ

                       ได้เวลาสวดมนต์ทำวัตรเย็นแล้วครับ

                       ราตรีสวัสดิ์ทุกท่าน ครับ
      บันทึกการเข้า
pusadee sitthiphong
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

คณะ: พาณิชยศาสตร์และการบัญชี
กระทู้: 4,689

« ตอบ #8153 เมื่อ: 24 มกราคม 2556, 21:44:22 »

ส่วนมากได้ข่าวพี่อี๊ดมาก็ตอนพี่อี๊ดกลับแล้ว แล้วโพสท์ภาพหลานให้ดูค่ะ ถ้าพี่อี๊ดมาเชียงใหม่อยากทานปิ้งๆย่างๆโทรฯหาหนูนะคะ หนูจะขอคุณสามีเตรียมน้ำจิ้มให้ค่ะ เขาทำอร่อย จริงจิ๊ง อิๆๆ
      บันทึกการเข้า

pom shi 2516
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #8154 เมื่อ: 25 มกราคม 2556, 08:31:53 »

สวัสดียามเช้าครับ ชาวซีมะโด่ง และแขกผู้มีเกียรติ ที่รักทุกท่าน

                        เมื่อเช้าได้หุงข้าวใส่บาตรพระที่หน้าบ้าน กับข้าวที่ซื้อเอามาใส่บาตรพระและรับประทานเองมีผัดวุ้นเส้นใส่กระเทียมดอง แกงมัสมั่นไก่  แกงเทโพผักบุ้ง

                        ขณะนี้อยู่ที่สนามบินดอนเมือง กำลังรอขึ้น Nok Air ไปนครศรีธรรมราช

                        พระพุทธองค์สอนว่า "กรรม คือการกระทำ  ใครทำกรรมดีก็ตาม ทำกรรมชั่วก็ตาม ย่อมได้รับผลของกรรมนั้น ไม่ละเว้น"

                        พระโมคคัลลานะ เคยคิดฆ่าบิดา-มารดา ตามคำยุยงของภรรยา  ถึงแม้จะไม่ได้ฆ่า แต่ก็ได้ทำกรรมไว้แล้ว ผลคือ ถึงแม้ท่านจะมีฤทธิ์มาก สามารถหนีได้  ถึงจะบรรลุเป็นพระอรหันต์ก็ตาม  สุดท้ายท่านต้องยอมรับกรรมนั้น เพื่อให้สิ้นกรรมไป  ท่านจึงโดนทำร้ายร่างกายจนถึงแก่กรรม

                        พระองค์คุลิมาร  ได้ก่อกรรมไว้มหันต์ ฆ่าคนไปถึง ๙๙๙ คน  ถึงจะกลับใจ บรรลุพระอรหันต์ก็ตาม ท่านก็ต้องรับกรรมที่ได้ก่อเอาไว้ เวลาไปบิณฑบาตร มีแต่คนไล่ตี  ไล่ขว้างด้วยก้อนหินตลอดเวลา ท่านก็ยอมรับกรรมนั้น

                        พระพาหิยะ  ผู้ที่ได้ชื่อว่าสำเร็จเป็นพระอรหันต์เร็วที่สุดเมื่อได้ฟังธรรมจากพระพุทธองค์ จะขอบวช แต่ก่อนบวชนั้น ท่านหลอกลวงชาวบ้านว่าเป็นพระอรหันต์ ได้ก่อกรรมไว้มาก  ท่านจึงไม่ได้เครื่องอัตถะบริขาร  ต้องออกไปหาสุดท้ายถูกวัวชนตาย  หนีกรรมที่ก่อเอาไว้ไม่พ้น

                         กรรม ไม่สามารถแก้กรรมได้  ใครสอนว่าแก้กรรมได้คือ ตู่คำสอนของพระพุทธองค์

                         ส่วนใครทำกุศลกรรม  ก็เป็นสิ่งที่ดี ทำให้เพิ่มมากขึ้น เมื่อหมดกรรมที่ตนเองเคยก่อจะได้เสพสุข   

                         ก็ขอให้พิจารณาแบบโยนิโสมนสิการ และตามหลักกาลามสูตร

                         จำง่าย ๆ การทำกรรมดี(กุศล)คือ ตนเองและคนอื่นไม่เดือดร้อน(ทุกข์) ด้วยกาย  วาจา  ใจ

                          การทำกรรมชั่ว(อกุศล) คือ ตนเอง และคนอื่นได้รับความเดือดร้อน(ทุกข์) ด้วย กาย  วาจา  ใจ

                          ได้เวลาพอสมควรที่จะต้องขึ้นเครื่องแล้วครับ


                           สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #8155 เมื่อ: 25 มกราคม 2556, 12:35:54 »

ดร.สุริยา และท่านใฝ่รู้  ใฝ่ศึกษา ทั้งหลาย ขอให้พอจารณษตามหลักกาลามสูตร ครับ

                   - การคิดเพื่อการทำมาหากิน  การคิดในการทำกิจวัตรประจำวัน  การคิดล่วงหน้าในการวางแผนงาน  เป็นการคิดที่เราตั้งใจมั่นคิด มีทั้งสติ สัมปชัญญะ  จนเป็นสมาธิ  เป็นการคิดที่สมควร เพื่อการดำรงอยู่ของชีวิตเรา  เป็นการคิดที่ถูกต้อง

                   - การคิดในทางธรรมเพื่อศึกษารูป-นามตัวเองนั้น ท่านบอกว่าปล่อยให้มันคิด  แต่ที่สำคัญท่านจะต้องรู้ หรือเป็นผู้ดู ว่าจิตของเรามันคิดเรื่องอะไร มีความระลึกได้ที่กายอยู่หรือเปล่าที่เป็นปัจจุบัน  และเมื่อมีอารมณ์เกิดขึ้นก็ต้องรู้ตัว ไม่ตกอยู่ในอารมณ์นั้น สุขก็ไม่เอา  ทุกข์ก็ไม่เอา ให้รู้อยู่เฉยๆ แล้วดูว่าจิตเรามีปฏิกิริยาอย่างไร  มันสามารถเป็นผู้ดูได้ไหม  ถ้าไม่ได้ก็แย่หน่อย คือไม่มีสติที่กาย-ใจ เพราะถ้ามีสติมันจะรู้ได้ จะเห็นการเกิดดับ ๆ ทั้งอารมณ์  สติที่กาย  สติที่ใจ  และความคิด เกิดขึ้น  ตั้งอยู่  ดับไป  โดยมีจิตเป็นผู้ดู  เป็นอุเบกขา  ไม่เข้าไปเป็นทั้งสิ้น

                    - ความแตกต่างของการคิดทั้งสองอย่างคือ อย่างที่ ๑ คิดเพื่อการทำงาน  วางแผนการทำงาน มีสติ - สัมปชัญญะ เป็นสมาธิ  อย่างที่ ๒ นั้น มีสติ เป็นสมาธิ แต่คอยศึกษา รูป - นามตนเองเท่านั้น  คือแนวทางที่พระพุทธองค์ให้ศึกษา

                    - ส่วนการปล่อยใจลอย  ไม่มีสติ  ลืมตนเองทั้งกาย-ใจ นั้น ท่านให้ละเสีย

                    - ความวิตกกังวลไปในอนาคต  ท่านก็ให้ละเสีย เพราะมันยังไม่เกิดขึ้น  ความวิตกกังวลมันทำให้เครียด  ความเครียดเป็นตัวก่อมะเร็ง โดยตรง เพราะผลของความเครียด ทำให้จิตเป็นอกุศล  เศร้าหมอง  หดหู่  ปรุงแต่ง  นอนไม่หลับ...... ทุกข์กาย  ทุกข์ใจ

                    - ความวิตกกังวล ทำให้เราหลงอยู่ในโมหะ  เป็นทาสของความคิด ท่านจึงให้ละ

                    **** ทางแก้การวิตกกังวล คือการระลึกได้ที่กาย ให้เป็นปัจจุบันนี่ละ คือรู้ตัวที่กาย  รู้ตัวที่จิต****

                      ***** ความวิตกกังวลมันคือการคิด มันก็ทุกข์  จะไม่ให้คิด มันต้องรู้ตัว คือมีสติ มันก็ไม่คิด  ไม่คิดก็ไม่ทุกข์****

                        ******แต่เราสั่งมันไม่ได้  มันต้องสร้างจากการภาวนาให้มาก ๆ แล้วมันจะเป็นของมันเองโดยอัตโนมัติ  *****

                     - มันเป็นแบบนี้ของมันเอง  มันปล่อยวางของมันเอง  มันมีสติของมันเอง  มันไม่คิดของมันเอง  ข้อสำคัญอย่าหลงอยู่ในโมหะเด็ดขาด ครับ (มันหลงเพราะไม่รู้ตัว  คิดว่าคิดดีแล้ว แยกรูป  แยกนามไม่ออก ไม่เห็นความเกิดดับ มีแต่ความคิด มันก็จบกันเท่านั้น  เพราะคนส่วใหญ่มันเป็นเช่นนั้น)

                     - ตัวอย่าง ใครไปถามคนบ้าดูซิ  เขาว่าเขาไม่บ้า เราต่างหากที่บ้า เพราะเราหลงอยู่ในความคิดเป็นหลัก  ไม่รู้ตัวเลย ลืมตนไปสิ้น มีแต่โลกของความคิด และจิตมันก็ชอบ

                     - ทำในสิ่งที่ต้องกระทำ  ทำไปทีละอย่างที่เป็นปัจจุบัน  ใช้ปัญญา  มีวิริยะในการให้เกิดก่อกุศลกรรม เท่าที่เราพึงทำได้  ไม่ทำเกินตัว  ไม่ปรุงแต่งใด ๆ เท่านั้น เป็นพอ  ความวิตกกังวล มันจะไม่มารังควาญ

                       สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #8156 เมื่อ: 25 มกราคม 2556, 19:12:16 »

สวัสดียามค่ำครับ ชาวซีมะโด่ง และแขกผู้มาเยือน ที่รักทุกท่าน

                          อากาศที่นครศรีธรรมราชมีลมพัดเย็นสบายเหมาะแก่การเดินจงกรมออกกำลังกาย ชิกง และโยคะเป็นอย่างยิ่ง พี่สิงห์เลยใช้เวลาไปหนึ่งชั่วโมงครึ่งในการออกกำลังกาย และต่อด้วยซาวน่า ให้สบายตัว

                          ที่ห้องซาวน่าอาจารย์อ๊อดได้บอกว่า อาจารย์มานพ  ตอนที่ผมเฉียดตามนั้น มีแต่ทุกข์กังวลต่าง ๆนา ๆ เพราะกลัวความตายเนื่องจากป่วยหนักหลายโลกเกี่ยวกับภายในเป็นหมด(ผมเป็นคนหนึ่งที่ให้กำลังใจ และคอยชี้แนว ให้ออกกำลังกายโดยสม่ำเสมอ จนอาจารย์อ๊อดเห็นความจริงของชีวิต) เดี๋ยวนี้ผมไม่เอาอะไรทั้งสิ้น ของมีชีวิตที่มีความสุข  ออกกำลังกายให้มาก  เมื่อก่อนนอนดึก ลองสังเกตตัวเองวันไหนนอนดึกตื่นเช้าส่องกระจก ใบหน้าไม่มีราศรีเลย  แต่ถ้าวันไหนนอนหัวค่ำ ตื่นมาตอนเช้าส่องกระจก ใบหน้าจะสดใส  ผมเลยไม่นอนดึกอีกแล้ว สามทุ่มนอน หรือเกรงใจเพื่อนฝูงก็สี่ทุ่มเท่านั้นเอง  และไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว ขอมีชีวิตที่ยืนยาวดีกว่า

                          ผมก็บอกอาจารย์อ๊อดว่า คิดได้แบบนั้นดีแล้ว นั่นละสุขที่แท้จริง แต่ถ้าจะให้ดียิ่งขึ้น รักษาศีล ๕ ให้มั่น และดูจิตตัวเองไปด้วย สุข ทุกข์ มีอารมณ์ ก็ให้รู้ตัวเข้าไว้เท่านั้นเอง อาจารย์อ๊อดจะพบความสุขอีกอย่างหนึ่งที่ ไม่ปรุงแต่งทางความคิด มีแต่รู้ตัวเป็นส่วนใหญ่

                           รายของอาจารย์อ๊อดนี่ ยังคิดได้ เลยสามารถมีชีวิตต่อไปได้

                           แต่เจ้านายผม เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ผมได้พูดให้ฟังจนน้ำตาไหล แต่ก็ยังปลงไม่ตก  ยังหลงอยู่ในตัวเอง วันนี้ไปหาหมอที่กรุงเทพฯ  คงโดนหมดเล่นงานเอาอีก เพราะไตมันชำรุดจากการกินยามาก ทั้งความดัน  เบาหวาน  หลอดเลือด เดินแบบคนไม่มีแรงแล้ว และหายใจไม่ทันคือเลือดไปเลี้ยงสมองน้อย มีสิทธิที่จะล้มทั้งยืน  ผมบอกว่าให้รักตัวเอง  ทุกสิ่งไม่สำคัญแล้วขณะนี้ ต้องหยุดรักษาตัวเอง ก่อนที่ทุกสิ่งจะพังทะลายลง เพราะเราซึ่งจะมีผลต่อลูกและสามีเป็นอย่างมาก เพราะมันเห็นโลงศพอยู่ไม่ไกลแล้ว ผมแนะนำให้ ห้ามลูกเรียนพิเศษวันอาทิตย์ และห้ามเรียนพิเศษเลยหกโมงเย็น เด็กรับไม่ไหว  ยิ่งเรียนมากผลการเรียนยิ่งแย่ เพราะจิตเด็กมันไม่เอาด้วยแล้ว เอาเวลามาอยู่บ้าน หาอะไรกิน หรือออกกำลังกายกันดีกว่า และผมแนะนำให้นอนหัวค่ำไม่เกินสามทุ่ม (ปกติเที่ยงคืน ตีหนึ่ง ดู net) ออกกำลังกายเดินยามเช้าหรือเย็น  ติดต่อให้ได้สามเดือน ถ้าไม่ดีขึ้นให้มาด่าผมได้เลย  มันจำเป็นจริง ๆ เพื่ออนาคตของลูกสาวสองคน  แต่ก็ยังหลงอยู่ในความคิดตัวเองอยู่ดีว่า งานสำคัญกว่า ไม่มีเวลา  

                           เศร้าชะมัดเลย คนหนอคนจะตายอยู่แล้ว เรือมันจะล่มทั้งครอบครัว ยังตกอยู่ในความคิดที่ผิด อะไรจะสำคัญเท่าชีวิตตนเอง  (สงสัยจะเป็นอย่างพี่ไพโรจน์ เมียขอให้แต่งงานทันทีกับน้องสาวถ้าเผาเสร็จ  รายนี้คงต้องเป็นอย่างนั้น เพราะสามี  ลูกสาวจะลำบาก และพี่สาวตนเองก็ดูแลลูกทั้งสามมาตลอด และยังโสด)

                            ก็เล่าสู่กันฟัง ทั้งสองด้านเลย คนหนึ่งผมพูดให้ฟังเชื่อ ปฏิบัติตามจนเห็นความจริง  แต่อีกคนตรงกันข้ามเลย

                            ราตรีสวัสดิ์ทุกท่านครับ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #8157 เมื่อ: 26 มกราคม 2556, 08:28:45 »

สวัสดียามเช้าครับ ชาวซีมะโด่ง และแขกผู้มาเยือน ที่รักทุกท่าน


                          วันนี้เป็นวันพระขึ้น ๑๕ ค่ำ เพราะเมื่อวานเห็นพระจันทร์เกือบเต็มดวง

                           เช้านี้อากาศที่นครศรีธรรมราช มีลมเย็น ๆ พัดเหมาะกับการออกกำลังกาย เดินจงกรม  ชิกง  โยคะ และมีแสงแดด สีเงิน สีทองจับท้องฟ้า  ฝนไม่ตก  สบายกาย สบายใจ ครับ

                           ตามธรรมดาวันพระต้องหาพระสูตร มาเล่าสู่กันฟัง   แต่ยังคิดไม่ออกว่าจะเอาพระสูตรไหนดี

                           เอาตามที่จิตมันคิดก็แล้วกันครับ

                           วันนี้เย็นกลับ กทม.ครับ

                           สวัสดี


เร็วเท่ากับแมวจับหนู


                            วันนี้ขอนำคำสอนของหลวงพ่อเทียน  จิตตฺสุโภ  มาอธิบายเพิ่มเติมครับ

                            หลวงพ่อเทียน ท่านสอนให้เรา ให้เรามีความรู้สึกตัวจากการเคลื่อนไหวมือ จนจิตตั้งเป็นจิตผู้รู้  ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน เมื่อคิดให้รู้ทันทีเร็วเท่ากับแมวเวลาเห็นหนูจะวิ่งตะครุบปั๊ปทันที โดยสัญชาติญาณ

                            ความคิดเกิดขึ้นก่อน และรู้ตามมาทีหลัง  แต่ถ้าเรารู้สึกตัวเร็วว่าเราคิด ถึงจะเป็นอดีตก็ตาม แต่พอรู้ปั๊ป ความคิดนั้นก็ดับทันที หรือบางครั้งมันอาจจะเกิดดับ ๆ ๆ คือ คิด-ดับ  คิด-ดับ  สลับกันไปก็ยังดี  

                            การรู้สึกตัวนั้น จะทำให้เรามีสัมปชัญญะ คือรู้ตัวว่าสิ่งที่คิดนั้น เราจะกระทำตามความคิดหรือไม่  ถ้ากระทำจะต้องใช้ปัญญา เพื่อให้ก่อประโยชน์ต่อตนเองและครอบครัว หรือสังคม และต้องเป็นไปในทางกุศลกรรม  ไม่ทำให้ตนเองและผู้อื่นเดือดร้อนทั้งกาย  วาจา  และใจ

                             แต่น่าเสียดายคนส่วนใหญ่ ล้วนตกอยู่ในความคิดตนเอง  จนหลงตนลืมตัว คือ จิตไม่รู้อยู่กับกาย  จิตไม่รู้อยู่กับใจเลย  เพราะมันเป็นความเคยชินมาตั้งแต่เกิด จนตาย จิตมันคิดก็กระทำตามความคิดทั้งสิ้น เพราะหลงว่าเป็นตัวเรา  พอหลงว่าเป็นตัวเราคิด  จิตมันก็บอกว่าเราคิดถูกต้องแล้ว เพราะเราเป็นคนคิด  มันก็ต้องคิดถูกต้องเสมอ  จิตคนมันเป็นธรรมชาติเช่นนั้น  เรียกว่าหลงอยู่ในโมหะ หรือหลงอยู่ในความคิด

                             อย่าง ดร.สุริยา  ตอนนี้ก็หลงอยู่ในความคิด  วิตกกังวลไปต่าง ๆ นาๆ กลัวคนโน้นจะเป็น....... กลัวคนนี้ไม่มีจะ.......... ทั้งๆ ที่ ดร.สุริยา  ยังไม่รู้เลยว่าคนนั้น  คนนี้  เขาคิดเหมือนเราหรือเปล่า  เขาจะทุกข์เหมือนเราหรือเปล่า  ทั้งๆ ที่เขาก็มีความสุขของเขา  ยิ่งตอนนี้พอวิตกกังวลมาก ก็กลัวว่าตัวเองจะเป็นมะเร็งเข้าไปอีก  มีแต่ความเครียดไปหมด ถ้ามันเป็นอย่างนี้มะเร็งมันก็ถามหาเร็วเท่านั้นเอง  เพราะตัวเองปรุงแต่งทางความคิด ไปคิดแทนคนอื่น คิดเอง หาคำตอบเอง ไปต่าง ๆ นา ๆ ไม่หยุด  ไม่อยู่ในโลกปัจจุบัน  คือไม่รู้สึกตัวหลงตนลืมกาย ไม่มีสติ (แต่จิตมันคิดเข้าข้างตนเองว่า เราก็รู้สึกตัว  มีสติ  ไอ้สิงห์ มันไม่รู้หรอก  นั่นยิ่งแล้วไปใหญ่เลย หลงตัวเองหนักขึ้น  มันเป็นเสียอย่างนั้น)

                              ทางแก้คือ มาอยู่กับโลกปัจจุบัน ที่อยู่ตรงหน้าไปทุกนาที ทุกชั่วโมง ทุกวัน...ให้รู้กาย  ให้รู้ใจตนเองนี่ละ

                              จะยืน  จะเดิน  จะนั่ง  จะนอน เพราะทุกนาทีเราก็อยู่ในอิริยาบถนี้  ขอให้รู้ตัวเร็วเท่ากับแมวจับหนู

                              จะหายใจเข้า  จะหายใจออก  จะหยุดหายใจชั่วคราว  ก็ให้รู้ตัว เพราะทุกนาทีเราก็อยู่กับลมหายใจเข้า  ลมหายใจออก และบางครั้งก็หยุดหายใจชั่วคราว  ให้รู้เร็วเท่ากับแมวจับหนู

                              จะเคลื่อนไหวอวัยวะร่างกาย  จะหยุดเคลื่อนไหวอวัยวะร่างกายก็ให้รู้ตัว เพราะทุกนาทีเราก็เคลื่อน-หยุด อวัยยวะร่างกายตลอดเวลา ขอให้เรารู้เร็วเท่ากับแมวจับหนู

                              เวลาจิตเป็นกุศล  เวลาจิตเป็นอกุศล ก็ให้รู้สึกตัว เพราะทุกนาที จิตมันก็เป็นกุศลและอกุศลทั้งนั้น และให้รู้เร็วเท่ากับแมวจับหนู

                              เวลามีอารมณ์เกิดขึ้น(ธรรม) เช่น ความโกรธ  ความโลภ  ความหลง นิวรณ์ ความสุข  ความทุกข์ ไม่สุขไม่ทุกข์  ก็ให้รู้สึกตัว เพราะทุกนาที  จิตเราก็เป็นอยู่อย่างนี้  ที่สำคัญให้รู้เร็วเท่ากับแมวจับหนู

                              จะเห็นว่าถ้าจิตของเรารู้เร็วเท่ากับแมวจับหนู  เราก็จะไม่หลงอยู่ในโลกของความคิด  และเราก็ไม่หลงอยู่ในสิ่งที่เกิดขึ้นกับจิต  นั่นละความสุขที่แท้จริง ที่ปราศจากการปรุงแต่ง  ที่ท่านจะต้องภาวนา หาด้วยตนเอง  ด้วยวิริยะ  ที่จิตเป็นกุศล  ซึ่งหาได้ยากยิ่ง

                              สิ่งที่หลวงพ่อเทียน ท่านสอนนั้น ให้เรารู้สึกตัวเร็วเท่ากับแมวจับหนู  มันก็ในทำนองเดียวกับสามเณรสอนพระใบลาน ให้ปิดอุโมงค์ทั้งห้า  เข้าไปในอุโมงค์ที่หก คือ ตามรู้ใจตนเองให้ทันให้เร็วเหมือนแมวเห็นหนูปั๊ป  จะวิ่งตระครุบปุ๊ปทันที โดยสัญญชาติญาณ มันเป็นเช่นนี้แล

                              หวังว่า ดร.สุริยา  และทุกท่าน คงจะเห็นความจริงได้ ด้วยตัวของท่านเอง  ลองหาที่สงบ ๆ แล้วภาวนา ดู  จะสามารถค้นพบด้วยตัวท่านเอง

                              เมื่อค้นพบแล้ว มันต้องเอามาใช้กับชีวิตประจำวันของเรา มันถึงจะทุกข์ น้อยลง ๆ ๆ ๆ

                              วันพระนี้ ขอให้ท่านนำหลักคำสอนของหลวงพ่อเทียน  จิตตฺสุโภ  เอาไปใช้ปฏิบัติในการทำงาน ในชีวิตประจำวัน  ท่านจะมีแต่ความสงบสุข  ปล่อยวางลงได้  ความคิดปรุงแต่งจะน้อยลง (ความคิดปรุงแต่ง มีแต่ทุกข์ทั้งสิ้น  จงละเสีย ด้วยการรู้ให้เร็วเท่าแมวจับหนู เห็นปั๊ป ตะครุบปุ๊ป)
      บันทึกการเข้า
too_ploenpit
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2514
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 7,778

เว็บไซต์
« ตอบ #8158 เมื่อ: 26 มกราคม 2556, 09:15:19 »


...สวัสดีค่ะ...พี่สิงห์...

...ได้มาแล้วค่ะ...แกแล็คซี่โน๊ต 10.1...

...รูปใหญ่ดีค่ะ...แต่ตัวหนังสือยังเล็กอยู่เลย...

...พยายามดูแต่รูปค่ะ...

...ส่วนตัวหนังสือถ้าขยายได้ก็ขยาย...

...กำลังเรียนรู้ไปเรื่อยๆค่ะ...

...แต่เวลาอยู่บ้านเล่นพีซีดีที่สุด...
      บันทึกการเข้า

i love pink, you are pink = i love you
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #8159 เมื่อ: 26 มกราคม 2556, 09:53:50 »

อ้างถึง
ข้อความของ too_ploenpit เมื่อ 26 มกราคม 2556, 09:15:19

...สวัสดีค่ะ...พี่สิงห์...

...ได้มาแล้วค่ะ...แกแล็คซี่โน๊ต 10.1...

...รูปใหญ่ดีค่ะ...แต่ตัวหนังสือยังเล็กอยู่เลย...

...พยายามดูแต่รูปค่ะ...

...ส่วนตัวหนังสือถ้าขยายได้ก็ขยาย...

...กำลังเรียนรู้ไปเรื่อยๆค่ะ...

...แต่เวลาอยู่บ้านเล่นพีซีดีที่สุด...

สวัสดีค่ะ คุณน้องตู่ ที่รัก

                        พยายามเรียนรู้ให้มาก แล้วเอามาบอกพี่สิงห์ บ้าง

                       Galaxy 10.1 จริง ๆ มันเหมาะกับผู้บริหาร เอามาเป็นเลขา เอามาใช้ในการประชุม แต่ถ้าเรายังมีโทรศัพท์  มีเลขา  ยังมีสมุดโน๊ต  มันก็ไร้ค่าไป  เพราะเขาทำม่ให้เป้นผู้ช่วยนักบริหารในทุกเรื่องอยู่ในนั้นแล้ว แต่เราใช้ไม่คุ้มค่า หรือใช้ประโยชน์ไปเพียงประมาณ 10% ของความสามารถของมันเอง

                        อย่างพี่สิงห์ ไม่ควรมีโทรศัพท์มือถือ  ไม่ควรโน๊ตนัดหมายในโทรศัพท์ มือถือ ทุกอย่างในการทำงานมันสามารถอยู่ใน Galaxy 10.1 ได้หมดเหลือเพียงหนึ่งเท่านั้น รวมทั้งความบันเทิงด้วย  จึงจะคุ้มค่า

                        สวัสดีค่ะ
      บันทึกการเข้า
suriya2513
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,457

« ตอบ #8160 เมื่อ: 26 มกราคม 2556, 10:42:47 »

ทุกข์จริงๆ ครับ กลัวจะทำงานออกมาได้ไม่ดี กลัวถูกตำหนิ
และทำให้ผู้ที่เกี่ยวข้องเดือดร้อน
      บันทึกการเข้า

[โบราณคดี]จุดกำเนิดเริ่มต้นของ cmadong.com by : มานพ กลับดี  คลิ๊ก->
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #8161 เมื่อ: 26 มกราคม 2556, 13:32:34 »

อ้างถึง
ข้อความของ suriya2513 เมื่อ 26 มกราคม 2556, 10:42:47
ทุกข์จริงๆ ครับ กลัวจะทำงานออกมาได้ไม่ดี กลัวถูกตำหนิ
และทำให้ผู้ที่เกี่ยวข้องเดือดร้อน


                          ก็มันยังไม่เกิดขึ้นเลย ในสิ่งที่กังวลนั้น

                         ทำได้คือ  ออกแบบให้ถูกต้องตามหลักวิศวกรรม เผื่อเอาไว้บ้าง  รับทำเท่าที่เราสามารถที่จะกระทำได้ทันเวลา  มันอยู่ที่เรา และเพื่อนร่วมงานต้องรับผิดชอบร่วมกัน  รับงานมาแล้วตัวเองต้องทุกข์  วิตกกังวล  สู้ไม่รับดีกว่าสุขกว่ากันแยะเลย

                                จะเห็นว่ามันอยู่ที่ตัวเรา  หรือที่หลวงพ่อไพศาล  วิสาโล ท่านสอนว่า   ต้องรู้จักวางใจของเราให้ถูกที่  มันก็ไม่ทุกข์

                             สวัสดี
 
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #8162 เมื่อ: 26 มกราคม 2556, 21:10:31 »

สวัสดียามค่ำครับ ชาวซีมะโด่ง และแขกผู้มีเกียรติ ที่รักทุกท่าน

                       พี่สิงห์ อยู่กรุงเทพฯ ครับ 

                       รู้สึกว่าจากการเดินทางไปเหนือ-ลงใต้ ใช้เสียงมาก  ตอนนี้ก็กำลังระวังเรื่องเจ็บคอจากคอบวมเพราะใช้เสียงมาก  ซึ่งเป็นปัญหามานานแล้ว  ไม่สามารถใช้เสียงสอนหนังสือทั้งวันได้  แต่ก็ฝืนสอนไปตามโปรแกรม ที่เขากำหนด  ก็ต้องรับผลกระทบที่เกิดขึ้น ตามมาไม่สอนก็ไม่ได้  ตอนนี้พยายามอมน้ำเกลือช่วย  ไม่ได้รับประทานยาแต่อย่างใด

                       ปัญหารถ Taxi สาธารณะ และการจัดการที่สนามบินดอนเมือง เป็นปัญหาหนัก คือปริมาณรถ Taxi มีไม่เพียงพอต่อผู้โดยสาร ต้องเข้าแถวสี่แถว ต่อกันยาวมาก ทุกครั้งที่ผมใช้รถ Taxi ไม่รู้ใครเป็นแบบผมบ้าง ก็ต้องจำยอมรอจนกว่าจะถึงคิว เสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์  กำลังพิจารณาว่า ถ้าเอารถเราไปจอด จะปลอดภัย และเสียค่าจอดคุ้มหรือไม่ อยู่  แสดงว่าผู้โดยสารนิยมใช้สนามบินดอนเมืองมาก และสายการบินต้นทุนต่ำเป็นที่นิยม ฝรั่งก็มาก คนจีนยิ่งแยะใหญ่เลย  ถ้าการบินไทยไม่ปรับตัวสู้  จะรอดหรือ ?

                        ได้เวลาสวดมนต์ทำวัตรเย็นแล้ว

                         ราตรีสวัสดิ์ทุกท่านครับ
      บันทึกการเข้า
kumpolcomcai
Global Moderator
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
*****


คิดดี พูดดี ทำดี คบคนดี อยู่ในสถานที่ดีดี
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2525
คณะ: สัตวแพทยศาสตร์
กระทู้: 10,307

เว็บไซต์
« ตอบ #8163 เมื่อ: 26 มกราคม 2556, 21:44:01 »

พี่สิงห์ครับ
วันจันทร์ที่ 28 มกราคม 2556
เรามีประชุม โครงการรินน้ำใจสู่จุฬาฯเพื่อสร้างอาคารหอพักนิสิตและอาคารอเนกประสงค์ ครั้งที่ 2
ที่ห้องประชุม 2 สำนักงานหอพัก เวลา 18.00 น.-21.00 น.
ขอเรียนเชิญพี่ด้วยนะครับ ถ้าพี่สิงห์อยู่กรุงเทพฯและไม่ติดงานที่ไหน
      บันทึกการเข้า
too_ploenpit
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2514
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 7,778

เว็บไซต์
« ตอบ #8164 เมื่อ: 27 มกราคม 2556, 07:54:02 »

อ้างถึง
ข้อความของ Manop  Klabdee เมื่อ 26 มกราคม 2556, 09:53:50
อ้างถึง
ข้อความของ too_ploenpit เมื่อ 26 มกราคม 2556, 09:15:19

...สวัสดีค่ะ...พี่สิงห์...

...ได้มาแล้วค่ะ...แกแล็คซี่โน๊ต 10.1...

...รูปใหญ่ดีค่ะ...แต่ตัวหนังสือยังเล็กอยู่เลย...

...พยายามดูแต่รูปค่ะ...

...ส่วนตัวหนังสือถ้าขยายได้ก็ขยาย...

...กำลังเรียนรู้ไปเรื่อยๆค่ะ...

...แต่เวลาอยู่บ้านเล่นพีซีดีที่สุด...

สวัสดีค่ะ คุณน้องตู่ ที่รัก

                        พยายามเรียนรู้ให้มาก แล้วเอามาบอกพี่สิงห์ บ้าง

                       Galaxy 10.1 จริง ๆ มันเหมาะกับผู้บริหาร เอามาเป็นเลขา เอามาใช้ในการประชุม แต่ถ้าเรายังมีโทรศัพท์  มีเลขา  ยังมีสมุดโน๊ต  มันก็ไร้ค่าไป  เพราะเขาทำม่ให้เป้นผู้ช่วยนักบริหารในทุกเรื่องอยู่ในนั้นแล้ว แต่เราใช้ไม่คุ้มค่า หรือใช้ประโยชน์ไปเพียงประมาณ 10% ของความสามารถของมันเอง

                        อย่างพี่สิงห์ ไม่ควรมีโทรศัพท์มือถือ  ไม่ควรโน๊ตนัดหมายในโทรศัพท์ มือถือ ทุกอย่างในการทำงานมันสามารถอยู่ใน Galaxy 10.1 ได้หมดเหลือเพียงหนึ่งเท่านั้น รวมทั้งความบันเทิงด้วย  จึงจะคุ้มค่า

                        สวัสดีค่ะ

 


...แล้วพี่สิงห์ยังใช้อยู่หรือเปล่าคะ...

...พยายามเรียนรู้ไปเรื่อยๆค่ะ...
      บันทึกการเข้า

i love pink, you are pink = i love you
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #8165 เมื่อ: 27 มกราคม 2556, 13:57:16 »

อ้างถึง
ข้อความของ too_ploenpit เมื่อ 27 มกราคม 2556, 07:54:02
อ้างถึง
ข้อความของ Manop  Klabdee เมื่อ 26 มกราคม 2556, 09:53:50
อ้างถึง
ข้อความของ too_ploenpit เมื่อ 26 มกราคม 2556, 09:15:19

...สวัสดีค่ะ...พี่สิงห์...

...ได้มาแล้วค่ะ...แกแล็คซี่โน๊ต 10.1...

...รูปใหญ่ดีค่ะ...แต่ตัวหนังสือยังเล็กอยู่เลย...

...พยายามดูแต่รูปค่ะ...

...ส่วนตัวหนังสือถ้าขยายได้ก็ขยาย...

...กำลังเรียนรู้ไปเรื่อยๆค่ะ...

...แต่เวลาอยู่บ้านเล่นพีซีดีที่สุด...

สวัสดีค่ะ คุณน้องตู่ ที่รัก

                        พยายามเรียนรู้ให้มาก แล้วเอามาบอกพี่สิงห์ บ้าง

                       Galaxy 10.1 จริง ๆ มันเหมาะกับผู้บริหาร เอามาเป็นเลขา เอามาใช้ในการประชุม แต่ถ้าเรายังมีโทรศัพท์  มีเลขา  ยังมีสมุดโน๊ต  มันก็ไร้ค่าไป  เพราะเขาทำม่ให้เป้นผู้ช่วยนักบริหารในทุกเรื่องอยู่ในนั้นแล้ว แต่เราใช้ไม่คุ้มค่า หรือใช้ประโยชน์ไปเพียงประมาณ 10% ของความสามารถของมันเอง

                        อย่างพี่สิงห์ ไม่ควรมีโทรศัพท์มือถือ  ไม่ควรโน๊ตนัดหมายในโทรศัพท์ มือถือ ทุกอย่างในการทำงานมันสามารถอยู่ใน Galaxy 10.1 ได้หมดเหลือเพียงหนึ่งเท่านั้น รวมทั้งความบันเทิงด้วย  จึงจะคุ้มค่า

                        สวัสดีค่ะ

 


...แล้วพี่สิงห์ยังใช้อยู่หรือเปล่าคะ...

...พยายามเรียนรู้ไปเรื่อยๆค่ะ...


สวัสดีค่ะ คุณน้องตู่ ที่รัก

                              พี่สิงห์  ยังใช้อยู่  เอาติดตัวไว้เสมอ  แต่ไม่ได้ท่องเวบ  หรือฟังเพลง  ดูหนัง  มันไม่สมควร

                          เอาไว้อ่านว่าใครส่ง mail  มาหรือเปล่า เท่านั้น  ถ้าต้องเขียนมาก ๆ  ใช้ computer ดีกว่า  สะดวกกว่า

                             สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #8166 เมื่อ: 27 มกราคม 2556, 14:04:51 »

อ้างถึง
ข้อความของ kumpolcomcai เมื่อ 26 มกราคม 2556, 21:44:01
พี่สิงห์ครับ
วันจันทร์ที่ 28 มกราคม 2556
เรามีประชุม โครงการรินน้ำใจสู่จุฬาฯเพื่อสร้างอาคารหอพักนิสิตและอาคารอเนกประสงค์ ครั้งที่ 2
ที่ห้องประชุม 2 สำนักงานหอพัก เวลา 18.00 น.-21.00 น.
ขอเรียนเชิญพี่ด้วยนะครับ ถ้าพี่สิงห์อยู่กรุงเทพฯและไม่ติดงานที่ไหน



                       ขอบคุณมากที่เชิญ  ถ้าไม่ติดอะไรก็จะไป  แต่อยากให้เป็นภาระของคนรุ่นใหม่  พี่สิงห์ ปล่อยวางแล้ว  เพราะอยากอยู่อย่างสงบ พอเพียง  ไม่ต้องการชื่อเสียง  เกียรติยศใด ๆ  อีกแล้ว  และไม่มีบารมีแล้ว  สู้คนที่กำลังมีตำแหน่งหน้าที่การงานสูง ๆ  ไม่ได้

                      อย่าลืม  การรับศีล ๘  นั้นเพื่อเตรียมจิตออกจากกามย์คือ การละความยินดีใน ตา  หู  จมูก  ลิ้น  กาย  และใจ

                      สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #8167 เมื่อ: 27 มกราคม 2556, 18:20:48 »

สวัสดีครับ ชาวซีมะโด่ง และแขกผู้มีเกียรติ ที่รักทุกท่าน
                 
                               วันนี้บ่ายทำความสะอาดบ้าน  ไม่กล้าไปไหนไกล  กำลังดูอาการของรถ และตัวเอง

                           รถเก่ามันก็อย่างนี้ซ้อมแล้วก็ยังไม่ดี คือน้ำมันพาวเวอร์พวงมาลัยมันรั่วไปซ้อมมาแล้วแต่มันยังซึม  กำลังจะตัดสินใจเข้าไปให้ honda ดูใหม่เพราะเขารับประกันการซ่อม  เวลาเลี้ยวแคบๆ มันจะดังและมีน้ำมันหายไป มีรอยหยดที่พื้น

                             ดังนั้นอาทิตย์นี้อยู่ กทม. ไม่กล้าไปต่างจังหวัด ก็ดีจะได้พักบ้าง

                            สวัสดีจ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #8168 เมื่อ: 28 มกราคม 2556, 09:25:42 »


สวัสดีครับ ชาวซีมะโด่ง และแขกผู้มาเยือน ที่รักทุกท่าน

                  วันนี้อยู่บ้าน ได้หุงข้าวใส่บาตรพระยามเช้าที่หน้าบ้าน  ถึงแม้จะแย่หน่อยที่พ่ายแพ้มารในวันนี้  นี่ละจิตคน  มันไม่ได้เอาชนะได้เสมอไปย่อมพ่ายแพ้เป็นธรรมดา

                  จิตคนนั้นศึกษาได้ไม่สิ้นสุด  จนกว่าจะปล่อยวาง  ไม่ยึดมั่นในรูป-นามได้อย่างสมบูรณ์จนเป็น "พุทธะ" เท่านั้น มันเป็นความจริง

                  วันนี้คุณทรงเกียรติ  ส่งช่างมาล้างแอร์ที่บ้าน แบบทำสัญญาดูแลล้างแอร์ทั้งปี เหมารวมทั้งสามเครื่อง สามครั้งต่อปี

                  อากาศยามเช้าไม่แจ่มใส  ระวังสุขภาพกันด้วยครับ  อาจจะเป็นไข้หวัดได้ง่าย มันเป็นช่วงรอยต่อของอากาศหนาว-ร้อน

                  ตอนนี้พี่สิงห์  พยายามออกกำลังกายให้มากเตรียมความพร้อมที่จะต้องไปเผชิญที่อินเดีย เป็นเวลา ๑๓ วัน เพราะตามโปรแกรมโหดมากเรื่องการเดินทาง  ต้องนอนบนรถ  ถ้าร่างกายไม่สมบูรณ์  ความเจ็บป่วยมาเยือน  จิตดีแค่ไหน ก็ทุกข์จนได้ครับ เพราะเรายังเป็นปุถุขนม์ธรรมดา  ยังต้องประสบกับความสุข  ประสบกับความทุกข์  สลับกันอยู่อย่างนี้

                   วันที่ ๑๖ - ๒๘  กุมภาพันธ์  พี่สิงห์  ไปแสวงบุญที่ ๔ สังเวชนีย์ และชมถ้ำรอล่า-อจันต้า ด้วยครับ

                   เช้านี้ขอแนะนำกรรมฐานง่ายๆ ให้ทุกท่านได้ทบทวนตนเองครับ

                  ทุกคนในแต่ละนาทีย่อมประสบกับความสุข  ทุกคนในแต่ละนาทีย่อมประสบกับความทุกข์ ไม่ละเว้น 

                  ขอให้ทุกท่านพิจารณาว่า ถ้าเราสุขก็รู้ว่านี่คือความสุข  รู้เหตุที่ทำให้สุข  รู้เหตุที่ทำให้สุขดับไป  ไม่มีความสุขที่ยั่งยืน เป็นความสุขชั่วคราวที่เกิดจากเหตุปัจจัยทั้งสิ้น  ไม่ควรที่เราจะต้องไปยึดมั่นในความสุขนั้นเลย มันเป็นความสุขที่เกิดขึ้นกับรูป กับนาม  ที่ทำให้นามพลอยยินดี  ไม่ใช่ตัวตนที่แท้จริงของเราเลย  เพราะตัวตนที่แท้จริงของเรามันไม่มีมีแต่รูปกับนาม เท่านั้น

                   ขอให้ทุกท่านพิจารณาว่า ถ้าเราทุกข์ก็รู้ว่านี่คือความทุกข์  รู้เหตุที่ทำให้ทุกข์  รู้เหตุที่ทำให้ทุกข์ดับไป  ไม่มีความทุกข์ที่ยั่งยืน เป็นความทุกข์ชั่วคราวที่เกิดจากเหตุปัจจัยทั้งสิ้น  ไม่ควรที่เราจะต้องไปยึดมั่นในความทุกข์นั้นเลย มันเป็นความทุกข์ที่เกิดขึ้นกับรูป กับนาม  ที่ทำให้นามไม่ชอบ  ไม่ใช่ตัวตนที่แท้จริงของเราเลย  เพราะตัวตนที่แท้จริงของเรามันไม่มีมีแต่รูปกับนาม เท่านั้น

                   สังเกต รูป-นามเราให้เป็นไปตามนี้ ท่านก็จะพบความจริง ต่าง ๆ ในรูป-นาม ด้วยตัวท่านเอง ทุกสิ่งในรูป-นามที่แสดงนั้น ล้วนเป็นไปตามกฏไตรลักาณ์ทั้งสิ้น เกิดขึ้น ดับไป  ตลอดเวลา ไม่ยั่งยืนเลย ไม่ควรที่เราจะต้องไปยึดมั่นในรูป-ในนามเลย

                   สวัสดีครับ
      บันทึกการเข้า
swsm
Cmadong Member
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
****


@@ ยาหยี @@
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: Rcu2523
คณะ: Comm Arts
กระทู้: 28,369

« ตอบ #8169 เมื่อ: 28 มกราคม 2556, 09:27:43 »

สวัสดีค่ะ  พี่สิงห์

ฝนตกหนักเมื่อคืนนี้  อากาศของเช้าวันนี้จึงเย็นลงไปเยอะค่ะ
      บันทึกการเข้า

.. don't play with me, cos I know how to play it too .. may be better than you do ..
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #8170 เมื่อ: 28 มกราคม 2556, 10:45:40 »

อ้างถึง
ข้อความของ swsm เมื่อ 28 มกราคม 2556, 09:27:43
สวัสดีค่ะ  พี่สิงห์

ฝนตกหนักเมื่อคืนนี้  อากาศของเช้าวันนี้จึงเย็นลงไปเยอะค่ะ


สวัสดีค่ะ คุณน้องยาหยี  ที่รัก

                          จริงของเธอ เมื่อคืนฝนตกหนัก เพราะมีมวลอากาศเย็นจากจีน แผ่อีกระลอกเข้ามาทางภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พอมากระทบอากาศร้อน มันก็เป็นฝน และตกลงมาทำให้อากาศเย็นลง  ธรรมชาติมันเป็นอย่างนี้  เราก็ต้องยอมรับสภาพ และคอยดูแล รูป-นาม ที่เราหลงว่าเป็นตัวตนของเราให้ดีเข้าไว้ ด้วยความไม่ประมาท

                          พี่สิงห์  หวังว่าเธอคงสบายดีนะค่ะ

                          ขอบคุณมาก ที่เข้ามาทักทาย ทำให้ไม่หลงอยู่คนเดียว  ไม่ดีเลย

                          สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #8171 เมื่อ: 28 มกราคม 2556, 16:33:51 »




                      วันนี้มีการประชุมกรรมการผู้ก่อการ ในการหาทุนสมทบสร้างหอพัก 17 ชั้น  ต้องหาเงินให้ได้ 300 ล้านบาท

                      ผมไม่สะดวกที่จะไปร่วมประชุม  แต่ยินดีที่จะช่วย  เท่าที่จะกระทำได้โดยที่ตัวเอง และผู้อิ่นไม่เดือดร้อน  อย่าลืมมันหมดยุคของผมแล้ว  และอยู่อย่างพอเพียง  ไม่ต้องการอะไรที่มากไปกว่าปัจจัย ๔  ที่จำเป็นในการดำรงชีวิตที่เหลือเท่านั้น

                      หวังว่า ประชุมเสร็จแล้วมีข้อสรุปอย่างไร ดร.สุริยา  คงจะเอามาแจ้งให้ทุกท่านได้ทราบ แทนผม

                      คุณทรงเกียรติ  ได้โทรศัพท์ มาตาม  ได้เรียนให้ทราบไปแล้ว

                      ส่วนแนวทางในการหาเงินนั้น  ก็ได้เรียนให้ ดร.สุริยา  ทราบไปบ้างแล้ว  ได้แค่ไหน เอาเท่านั้น

                      สวัสดี
               
      
      บันทึกการเข้า
too_ploenpit
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2514
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 7,778

เว็บไซต์
« ตอบ #8172 เมื่อ: 28 มกราคม 2556, 20:08:06 »

อ้างถึง
ข้อความของ Manop  Klabdee เมื่อ 27 มกราคม 2556, 13:57:16
อ้างถึง
ข้อความของ too_ploenpit เมื่อ 27 มกราคม 2556, 07:54:02
อ้างถึง
ข้อความของ Manop  Klabdee เมื่อ 26 มกราคม 2556, 09:53:50
อ้างถึง
ข้อความของ too_ploenpit เมื่อ 26 มกราคม 2556, 09:15:19

...สวัสดีค่ะ...พี่สิงห์...

...ได้มาแล้วค่ะ...แกแล็คซี่โน๊ต 10.1...

...รูปใหญ่ดีค่ะ...แต่ตัวหนังสือยังเล็กอยู่เลย...

...พยายามดูแต่รูปค่ะ...

...ส่วนตัวหนังสือถ้าขยายได้ก็ขยาย...

...กำลังเรียนรู้ไปเรื่อยๆค่ะ...

...แต่เวลาอยู่บ้านเล่นพีซีดีที่สุด...

สวัสดีค่ะ คุณน้องตู่ ที่รัก

                        พยายามเรียนรู้ให้มาก แล้วเอามาบอกพี่สิงห์ บ้าง

                       Galaxy 10.1 จริง ๆ มันเหมาะกับผู้บริหาร เอามาเป็นเลขา เอามาใช้ในการประชุม แต่ถ้าเรายังมีโทรศัพท์  มีเลขา  ยังมีสมุดโน๊ต  มันก็ไร้ค่าไป  เพราะเขาทำม่ให้เป้นผู้ช่วยนักบริหารในทุกเรื่องอยู่ในนั้นแล้ว แต่เราใช้ไม่คุ้มค่า หรือใช้ประโยชน์ไปเพียงประมาณ 10% ของความสามารถของมันเอง

                        อย่างพี่สิงห์ ไม่ควรมีโทรศัพท์มือถือ  ไม่ควรโน๊ตนัดหมายในโทรศัพท์ มือถือ ทุกอย่างในการทำงานมันสามารถอยู่ใน Galaxy 10.1 ได้หมดเหลือเพียงหนึ่งเท่านั้น รวมทั้งความบันเทิงด้วย  จึงจะคุ้มค่า

                        สวัสดีค่ะ

 


...แล้วพี่สิงห์ยังใช้อยู่หรือเปล่าคะ...

...พยายามเรียนรู้ไปเรื่อยๆค่ะ...


สวัสดีค่ะ คุณน้องตู่ ที่รัก

                              พี่สิงห์  ยังใช้อยู่  เอาติดตัวไว้เสมอ  แต่ไม่ได้ท่องเวบ  หรือฟังเพลง  ดูหนัง  มันไม่สมควร

                          เอาไว้อ่านว่าใครส่ง mail  มาหรือเปล่า เท่านั้น  ถ้าต้องเขียนมาก ๆ  ใช้ computer ดีกว่า  สะดวกกว่า

                             สวัสดี



...พี่สิงห์ใช้โปรโมชั่นอินเตอร์เน็ทของอะไรคะ...

...ราคาเท่าไหร่...
      บันทึกการเข้า

i love pink, you are pink = i love you
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #8173 เมื่อ: 28 มกราคม 2556, 20:14:42 »

สวัสดียามค่ำครับ ชาวซีมะโด่ง และแขกผู้มาเยือน ที่รักทุกท่าน

                       เมื่อค่ำที่ผ่านมา คุณอดิสร  ได้เล่าให้ฟังในสิ่งที่ดี ๆ ให้ทราบ  อะไรก็ตามที่ได้ฟัง  ได้รับทราบ ถึงจะเป็นเพียงความฟัน  แต่ถ้ามันเป็นไปในทางกุศลกรรม  ตามหลักกาลามสูตร มันเป็นเรื่องที่ดีทั้งนั้น เพียงแต่ว่าเราอย่าไปยึดถือมันมากเท่านั้น  เราเองมีหน้าที่ ที่จะต้องมีวิริยะในทางสร้างกุศลที่ยังไม่เกิดให้เกิดขึ้น  ทำกุศลที่เกิดขึ้นแล้วให้ยิ่ง ๆ ขึ้นไป คือการทำดีนั่นเอง และในขณะเดียวกันก็ต้องพยายามละอกุศลที่เกิดขึ้นแล้วให้หมดไป และพยายามป้องกันอกุศลที่ยังไม่เกิดไม่ให้เกิดขึ้นกับเรา

                        ผมเองนั้น ไม่ได้ไปยุ่งอะไร ๆ มากนัก มีเพียงการทำงานที่ยังต้องทำเพื่อจะได้มีเงินมาเป็นค่าใช้จ่าย ๆ ในการดำรงชีวิตอยู่  ไม่ได้มากมายอะไรเลย  เขาให้ก็รับ  เขาไม่ให้ก็ไม่เรียกร้อง เอาเพียงขอไม่ให้ติดลบเท่านั้นเป็นพอ  ผมไม่ได้โง่  แต่มันเป็นความพอใจของผมแบบนี้ และเราก็ไม่เดือดร้อนอะไรมากมาย

                        ข่าวสาร ไม่ต้องพูดถึงไม่รู้อะไรเลย  คนที่ผมจะโทรศัพท์ไปคุยด้วยมากสุดก็มีเพียง ดร.สุริยา  ก็ไม่ได้โทรศัพท์มากมายอะไรเลยทั้งสิ้น  ดร.สุริยา    ทราบดี  นั่นคือมากสุดลองลงมาก็อดิสร เท่านั้น ในหมู่ชาวซีมะโด่ง

                        การทำงานก็โทรศัพท์เท่าที่จำเป็นจริง ๆ เท่านั้น เพราะไม่ต้องการไปรบกวนทั้งสิ้น

                        ผมไม่ได้อยู่ในโลกของความคิดมากมายนักเท่าไร  พยายามรู้ตัว  ซึ่งมันก็รู้ของมันเอง  ไม่ได้ตั้งใจให้เป็น

                        ใครอยากบอกอะไรให้ผมทราบยินดีทั้งนั้น ครับ  จะได้รู้เท่าทันโลกรอบตัวบ้าง

                        ได้เวลาสวดมนต์ทำวัตรเย็นแล้วครับ เพราะไม่มีอะไรต้องเขียนวันนี้

                         ราตรีสวัสดิ์ทุกท่านครับ

                       
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #8174 เมื่อ: 28 มกราคม 2556, 20:21:02 »

สวัสดีค่ะ คุณน้องตู่ ที่รัก

                         ที่บ้านมี Wifi  ที่ทำงานก็มี Wifi ที่สนามบินดอนเมืองก็มี Nok wifi และพี่สิงห์  ไม่ได้เป็นนักท่อง net หรือข่าวสารมากมายอะไร  ดังนั้น  จึงซื้อ 3G ของ TOT เดือนละ 99 บาท ก็เพียงพอแล้ว เพราะส่วนมากก็อยู่บ้าน และที่ทำงานเท่านั้น

                         ส่วนเธอคงใช้มากกว่าพี่สิงห์  เพราะมีพรรคพวกใน net มาก ก็เลือกเอาตามชอบใจเธอก็แล้วกัน  ไม่รู้จะแนะนำอะไร  แต่โดยรวม AIS  คนใช้มาก ดังนั้น จึงไม่ค่อยดี  ส่วน DTAC หลานชายก็เชียร์เพราะเขาเป็นผู้บริหารอยู่ด้วย  ส่วน  TOT มันถูกดี ครับ

                         สวัสดี
      บันทึกการเข้า
  หน้า: 1 ... 325 326 [327] 328 329 ... 681   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

สมาคมนิสิตเก่าหอพักนิสิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มวลสมาชิกสมาคม คณาจารย์ และนิสิตเก่าทุกคน ขอน้อมเกล้าถวายความอาลัย  พระผู้เสด็จสู่สวรรคาลัย ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ <;))))><