คุย กับ คุณมานพ กลับดี อดีตประธานชมรม ๓ สมัย

[Manop Klabdee]

สวัสดีครับ คุณน้องตู่ และชาวซีมะโด่ง ที่รักทุกท่าน

                           สนามบินดอนเมืองคึกคักขึ้น เมื่อสายการบิน Air Asia ย้ายมาอยู่ด้วย

                           มีร้านค้าเกิดขึ้นมากมาย  สามารถเดินชม เลือกซื้อได้

                           มีอยู่มุมหนึ่ง  พี่สิงห์ เห็นเด็กๆ  สาว ๆ หนุ่ม ๆ เขาไปยืนถ่ายภาพกัน  พิจารณาอยู่นานเลยเข้าใจ

                           พี่สิงห์ ไปชมภูเขาไฟฟูจิ  ที่สนามบินดอนเมืองมา  ให้ Nok Air ที่พี่สิงห์รู้จัก เพราะเห็นหน้าบ่อย ถ่ายภาพให้ครับ

                            สวัสดี

[เหยง 16]

“แกมิ” นัดใหม่ 7 ตุลาฯ ถึงอยุธยาเร็วขึ้น ถล่มเวียดนามศุกร์นี้
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 4 ตุลาคม 2555 01:12 น.

แผนภูมิพยากรณ์ของศูนย์อุตุนิยมวิทยาและอุทกศาสตร์กลางในกรุงฮานอย เวลา 21.30 น. วันพุธที่ 3 ต.ค. แสดงให้เห็นพายุลูกใหญ่ ที่ตั้งหน้าจะพุ่งเข้าถล่มภาคกลางในอีก 72 ชั่วโมงข้างหน้า แกมิ (Gaemi) กำลังจะสปีดตัวเองขึ้นเป็น "พายุโซนร้อนรุนแรง" (Severe Tropical Storm) และ เป็นไต้ฝุ่นระดับ 1 ขณะขึ้นฝั่งในคืนวันที่ 5 ต.ค. ศูนย์อุตุนิยมวิทยาชั้นนำหลายแห่งมองไกลออกไป อีก 4 วันข้างหน้าแกมิจะพัดเข้าถึงที่ราบใหญ่ภาคกลางของไทยในระดับพายุโซนร้อน ก่อนจะกลายเป็นดีเปรสชั่นที่จะทำให้เกิดฝนตกหนักกินอาณาบริเวณกว้าง. 

   
ASTVผู้จัดการออนไลน์ - พายุโซนร้อนแกมิ (Gaemi) ยังแรงคงเส้นคงวา และยังมุ่งหน้าทิศตะวันตกไม่เปลี่ยนแปลง ภาพอินฟราเรดจากดาวเทียม MTSAT ในเวลา 16.30 น. วันพุธ 3 ต.ค.ได้เปิดเผยให้เห็นพายุลูกใหญ่กำลังหมุนคว้างในทะเลจีนใต้ ฟาดหางไอน้ำของมันให้เห็นเป็นทางยาว
       
       ศูนย์อุตุนิยมวิทยาและอุทกศาสตร์กลางในกรุงฮานอย ได้ออกแผนภูมิพยากรณ์ฉบับใหม่ เวลา 21.30 น. แสดงให้เห็นพายุขนาดใหญ่ลูกหนึ่งที่กำลังพัดเข้าฝั่ง และกำลังจะกลายเป็นไต้ฝุ่นระดับ 1 อีก 72 ชั่วโมงข้างหน้า
       
       ขณะเดียวกัน ศูนย์ร่วมเตือนภัยไต้ฝุ่น หรือ JTWC ซึ่งเป็นหน่วยงานสังกัดกองทัพเรือสหรัฐฯ ได้ออกแผนภูมิพยากรณ์ในบ่ายวันเดียวกันมองไกลออกไป แสดงให้เห็นพายุลูกเดียวกันพัดทะลุทะลวงถึงที่ราบลุ่มภาคกลางของไทยในวันอาทิตย์ 7 ต.ค.2555 เร็วขึ้นอีกราว 24 ชั่วโมง จากที่เคยพยากรณ์ในเช้าวันเดียวกัน
       
       แผนภูมิพยากรณ์ที่ออกโดยสำนักงานเตือนภัยความเสี่ยงจากพายุในเขตร้อน (Tropical Storm Risk) ซึ่งตั้งอยู่ในกรุงลอนดอนบ่ายวันเดียวกัน ได้แสดงเส้นทางเคลื่อนตัวของพายุแกมิในทิศทางเดิมไม่เปลี่ยนแปลง พายุลูกนี้จะทวีความเร็วใกล้ศูนย์กลางขึ้นเป็น “พายุโซนร้อนรุนแรง” (Severe Tropical Storm) ตั้งแต่คืนวันพฤหัสบดี 4 ต.ค.นี้เป็นต้นไป ขณะอยู่ในทะเลจีนใต้
       
       พายุใหญ่แกมิจะกลายเป็นไต้ฝุ่นระดับ 1 ตั้งแต่วันศุกร์ 5 ต.ค. เมื่อใกล้จะขึ้นฝั่งในภาคกลาง ด้วยความเร็วลมใกล้ศูนย์กลางที่คาดว่าจะสูงเกินกว่า 125 กม./ชม.
       
       ไต้ฝุ่นแกมิจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อนอีกครั้งหนึ่ง ขณะพัดจากดินแดนลาวเข้าสู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย ไปจนถึงที่ราบใหญ่ภาคกลางระหว่าง จ.พระนครศรีอยุธยา กับ จ.นครสวรรค์ และจะอ่อนกำลังลงอีกที่นั่นเป็นดีเปรสชัน ทำให้เกิดฝนตกหนักครอบคลุมอาณาบริเวณกว้าง
       
       แม้ว่าไต้ฝุ่นระดับ 1 จะไม่สามารถทำลายอาคาร หรือสิ่งปลูกสร้างถาวรได้ แต่ด้วยลมแรงระหว่าง 119-153 กม./ชม. มันสามารถโค่นต้นไม้ขนาดใหญ่ลงได้ เช่นเดียวกับบ้านเรือนทั่วไปที่ก่อสร้างไม่มั่นคงแน่นหนา รวมทั้งท่าเทียบเรือทั่วไปด้วย

 

ทำวงกลมสีดำเอาไว้ให้เห็นชัดๆ พายุโซนร้อนแกมิ (Gaemi) นัดหมายกับชาวไทยอีกครั้งในบริเวณท้องนากรุงเก่า-นครสวรรค์ คราวนี้เร็วขึ้นอีก 24 ชั่วโมง ในแผนภูมิพยากรณ์ที่ออกใหม่โดยศูนย์ร่วมเตือนภัยไต้ฝุ่น (TJWC) หน่วยงานในสังกัดกองทัพเรือสหรัฐฯ ที่ขึ้นชื่อในเรื่องเทคโนโลยีก้าวหน้าสำหรับการพยากรณ์ลมฟ้าอากาศ ซึ่งในทางกลาโหมจะผิดพลาดมิได้. 

แผนภูมิพยากรณ์โดยสำนัก TSR ในกรุงลอนดอน ซึ่งเป็นหน่วยพยากรณ์อากาศที่มีประสบการณ์สูงมากอีกแห่งหนึ่ง ออกในบ่ายวันพุธ 3 ต.ค.นี้ แสดงเส้นทางเคลื่อนตัวของพายุโซนร้อนแกมิ (Gaemi) ในอีก 92 ชั่วโมงข้างหน้า พายุลูกนี้จะสปีดตัวเองขึ้นเป็นไต้ฝุ่นระดับ 1 (C-1) ในทะเลจีนใต้ขณะมุ่งหน้าพะดเข้าถล่มภาคกลางเวียดนาม ก่อนจะอ่อนตัวลงเป็นพายุโซนร้อนอีกครั้งหนึ่งเมื่อพัดเข้าสู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทยไปจนถึงเขตที่ราบใหญ่ภาคกลาง. 

ภาพจำลองที่ทำขึ้นจากข้อมูลดาวเทียม MTSAT เวลา 16 น. วันพุธที่ 3 ต.ค.2555 พายุแกมิกำลังฟาดงวงฟาดงาอยู่กลางทะเลจีนใต้ มันกำลังสปีดตัวเองขึ้นเป็น "พายุโซนร้อนรุนแรง" ใน 48 ชั่วโมงข้างหน้าและเป็นไต้ฝุ่นในที่สุด.

พายุแฝดแกมิ (Gaemi) ในทะเลจีนใต้ กับ มาลิกซี (Maliksi) ที่อยู่ไกลออกไปในทะเลแปซิฟิก หลายร้อยกิโลเมตรทางทิศตะวันออกของหมู่เกาะฟิลิปปินส์ พายุทั้งสองลูกไม่ได้ส่งอิทธิพลถึงกัน และเคลื่อนตัวในทิศทางต่างกัน.

       แต่สิ่งที่เวียดนามหวั่นเกรงมากที่สุดนั้นไม่ใช่ระดับของไต้ฝุ่น แต่หากเป็นความแรงของลมที่พัดเพิ่มทวี ที่เรียกกันว่า Storm Surge ขณะไต้ฝุ่นเข้าใกล้ชายฝั่ง ซึ่งมักจะหอบเอาน้ำทะเลปริมาณมหาศาลขึ้นฝั่งด้วย และอาจจะทำให้เกิดความเสียหายแก่หมู่บ้านชาวประมง รวมทั้งอ่าวจอดเรือที่อยู่ด่านแรก
       
       ตัวอย่างชัดเจนที่สุดในเรื่องนี้คือ กรณีเฮอริเคนคาทรินา (Katrina) ในสหรัฐฯ เมื่อปี 2548 ซึ่งสำนักงานอุตุนิยมวิทยาประกาศให้เป็นเฮอริเคน (ไต้ฝุ่น) ระดับ 2 แต่แรงลมทวีของมันมีความรุนแรงเทียบได้กับเฮอริเคนระดับ 5 หรือ “ซูเปอร์เฮอริเคน” ซึ่งทำความเสียหายอย่างใหญ่หลวง เมืองเล็กๆ หลายเมืองในเขตที่ราบลุ่มมิสซิสซิปปี พังทลายราบคาบ
       
       เวียดนามหวั่นว่า พายุแกมิอาจจะทวีความรุนแรงในลักษณะเดียวกันนี้ในช่วง 2-3 วันข้างหน้า
       
       เมื่อเวลา 19.00 น.วันพุธ 3 ต.ค. พายุลูกใหญ่ได้ไต่ระดับขึ้นเป็น “พายุโซนร้อนรุนแรง” อยู่ห่างออกไปหลายร้อยกิโลเมตร ความเร็วลมใกล้ศูนย์กลางระหว่าง 89-102 กม./ชม. ศูนย์อุตุนิยมวิทยาฯ เวียดนามพยากรณ์ว่า พายุแกมิจะเคลื่อนตัวลงใต้เล็กน้อย ก่อนจะเชิดหัวมุ่งหน้าสู่ทิศตะวันตกเช่นเดิม และเคลื่อนตัวด้วยความเร็ว 5-10 กม./ชม. แต่มีแนวโน้มที่จะแรงขึ้นอีกในระยะ 24 ชั่วโมงข้างหน้า
       
       ศูนย์อุตุนิยมวิทยาฯ แห่งนี้กล่าวว่า ในระยะ 2-3 วันถัดไป พายุยังจะเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตก และตะวันตกเฉียงเหนือ และด้วยความเร็วระหว่าง 15-20 กม./ชม. มีโอกาสที่จะทวีความเร็วลมใกล้ศูนย์กลางขึ้นเป็นไต้ฝุ่น.



http://www.manager.co.th/IndoChina/ViewNews.aspx?NewsID=9550000121606

[too_ploenpit]

		อ้างถึง			ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 04 ตุลาคม 2555, 13:06:13
	พี่ตู่ครับ รับฟังมาตลอดเวลา ขอบอกว่า เป็นนิกายของชาวไต้หวันครับ ที่คนไทยงี่เง่าไปตาม โดยเชื่อว่าหากหาสมชิกได้จะเป็นบุญ เป็นกุศล หลายๆ ทั้งที่ความจริงคือ เขาจะมีรายได้จากการบริจาคทุกครั้งที่จัดกิจกรรมเพิ่มเติมจากสมาชิกที่เพิ่มขึ้นด้วยนั่นเอง นครปฐมก็มีสำนักอยู่ที่ตำบลตาก้อง ตำบลมาบแค (ที่ตั้งของวัดพะเนียงแตก และวัดตาก้อง) ทางไปอำเภอดอนตูมนั่นเองครับ แต่งขาว กินเจ สวดและมีองค์ลงสั่งสอน เหมือนกันไม่มีผิด และที่สุดจะให้ลงชื่อบริจาคทรัพย์สินที่มีให้กับนิกายนี้ครับ เขาจะเชิดชูองค์ลง หรือเจ้าของนิกายเป็นเสมือนเทพเจ้าทีเดียว มีการ์ดดังที่พี่ตู่บอกมาข้างต้น เชื่อว่า ตะเวนตั้งสาขา เพื่อหาสมาชิกเพิ่ม เพื่อรายได้ของนิกายนี้ครับ เรื่องมาแตกก็ตอนที่ มีสาวกของนิกายนี้เสียชีวิต โดยนิกายนี้จะเข้ามาจัดงานศพแทนญาติ แบบกีดกันญาติออกไปจากงาน อ้างว่าเป็นคำสั่งเสียของสมาชิก จากนั้นก็อ้างเอกสารดังกล่าวเพื่อบังคับเอาทรัพย์สินของผู้ตาย ตามเอกสารที่ลงชื่อไว้ ซึ่งญาติไม่ยอม จนต้องตามกำนันผู้ใหญ่บ้านมาช่วย พินัยกรรมหรือหนังสือต้องเป็นแบบที่ชัดเจน หรือเป็นพินัยกรรมฝ่ายเมือง ซึ่งกำนันผู้ใหญ่บ้านจะรู้อยู่แล้ว ครั้งต่อไป หากมีมาอีก พี่ตู่บอกปฎิเสธทั้งการให้ที่พักและการไปร่วมงานได้เลยครับ...นิกายอุบาทแบบนี้ เรื่องแบบนี้ เชื่อว่าอยู่ในการจับตาของส่วนราชการที่เกี่ยวกับความมั่นคงของไทย

...คงเป็นแบบที่เหยงว่าค่ะ...คือให้สมาชิกหาสมาชิกใหม่เพิ่มมาเยอะๆก็จะได้บุญเยอะ...

...รู้สึกว่าจะมีญาติๆมาด้วยอีกสองสามคนค่ะ...

...และพยายามจะให้พี่ตู่เป็นสมาชิกให้ได้...

...เพราะว่าญาติคนที่ว่านี้มีลูกสาวซึ่งก็คือหลานของพี่ตู่ค่ะ...เค้าป่วยเป็นมะเร็งที่เต้านมและตัดไปแล้ว...

...กำลังรักษาอยู่...ญาติเชื่อว่าต้องให้ญาติพี่น้องมาเป็นสมาชิก...ลูกสาวเค้าก็อาจจะหายป่วยได้ค่ะ...

...แต่ตอนนี้ได้เผาไปปีกว่าๆแล้วนะคะ...ไม่รู้ว่าญาติจะโทษพี่ตู่อีกหรือเปล่าที่ไม่ยอมเป็นสมาชิก...ลูกสาวเค้าเลยตายค่ะ...

...และหลังจากนั้นก็โทรมาหาพี่ตู่อีกค่ะ...บอกว่าโรงเรียนเก่าไม่ว่าง...ให้พี่ตู่หาห้องประชุมโรงเรียนใหม่ให้...

...พี่ตู่ก็ถามว่าแล้วคนที่เคยติดต่อเค้าไปไหนล่ะ...

...ญาติบอกว่าคนนั้นเค้าไม่ค่อยว่าง...และไม่ได้อยู่ที่พัทยา...

...พี่ตู่ก็บอกว่าให้คนนั้นแหล่ะที่เคยมาติดต่อน่ะ...ให้เค้าเป็นคนติดต่อเอง...

...ถ้าไม่ว่างก็ไม่ต้องมา...รอให้มีว่างแล้วค่อยมา...

...เค้าก็บอกว่าถ้างั้นขอมาใช้ห้องประชุมโรงพยาบาลได้มั้ย...เค้ายินดีจ่ายค่าเช่าให้...

...พี่ตู่บอกไม่ได้เพราะว่าเฉพาะคนไข้เข้าๆออกๆก็ยุ่งอยู่แล้ว...

...ถ้าขืนมาจัดอบรมกันอีก...มันจะมีปัญหาเรื่องที่จอดรถค่ะ...

...หลังจากนั้นอีกเป็นปี...เค้าก็มาขอพักที่คอนโดอีกค่ะ...

...พี่ตู่ก็ให้พักและ...มาเยี่ยมที่บ้านและทำท่าจะชวนให้เข้าเป็นสมาชิกอีก...

...แต่เราก็ปัดไปคุยเรื่องอื่นๆค่ะ...

...แล้วหลังจากที่คณะที่มาอบรมกลับไปแล้ว...ญาติจะมาขอพักต่อที่บ้านอีกแต่บังเอิญช่วงนั้นเราติดไปต่างจังหวัด...

...ก็เลยบอกปัดไปค่ะ...

[สมชาย17]

 

		อ้างถึง
	อ้างถึง ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 04 ตุลาคม 2555, 13:25:42 พี่สิงห์ ประเทศเรามีหลายนิกายเหลือเกิน ส่วนใหญ่มักจ้องดูดทรัพย์ของสาวก ไปเป็นของตัวเอง ดังเช่นนิกายดาวเทียม ที่ปทุมธานี เราเคยเห็น สะพาน โรงเรียน สถานีอนามันหลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง มีเห็นทั่วไปทั้งในจังหวัดสิงห์บุรีและใกล้เคียง แต่เราไม่เคยเห็นของวัดนิกายดาวเทียม แม้แต่ที่เดียว เว้นแต่ในวัดนั้นที่ใหญ่โตโอฬารแห่งเดียวเท่านั้น ทั้งที่ยอดบริจาคมากมายเหลือคณานับ...ไม่ทราบเอาไปลงทุนในตลาดหุ้นหรือเปล่า ??

สวัสดีครับ พี่เหยง

วัดนิกายดาวเทียมที่พี่ว่า  เริ่มมีวัดสาขาที่เป็นเครือข่ายแล้ว เพียงแต่ชื่อวัดยังเป็นชื่อของวัดท้องถิ่น
เรื่องแบบนี้ คงเป็นวิวัฒนาการของพุทธศาสนารวมถึงวิวัฒนาการของสังคมในบ้านเราก็เป็นได้ (ลงทุนหุ้นหรือเปล่า ไม่รู้เหมือนกัน)
เพราะศาสนาพุทธเราผ่านกาลเวลามากว่า 2500 ปีแล้ว เลยมีการแตกหน่อเป็นหลายๆหน่อ หลายสาย
ตรงทาง ถูกทาง ก็ดูกันต่อไป   เพราะสังคม ค่านิยมของคนไทยเรา ก็เปลี่ยนไปมากด้วย

ปล.สมัยผมเป็นเด็กๆอยู่ สังคมตำบล อำเภอ สมัยนั้นยังเล็กๆ รู้จัก กันเกือบหมด
คนที่ค้าไม้เถื่อน เปิดซ่อง  ไปบริจาคเงินให้วัด และบริจาคเงินให้โรงเรียน
สมัยนั้น วัด และ โรงเรียน ไม่รับนะครับ ถือว่าเงินของคนๆนั้น เป็นเงินไม่ถูกต้อง เป็นเงินบาป
สังคมสมัยนั้น รังเกียจ ไม่ต้อนรับ ไม่คบค้ากับคนที่หากินแบบ มิจฉาอาชีวะ

ผ่านมาสมัยนี้ บริจาค แสนบาท หรือ ล้านบาท  รับทันที่
แถมขึ้นชือ หน้าวัด หรือหน้าโรงเรียน เป็นการยกย่อง ให้เป็นตัวอย่าง อีกด้วย
ใครไปถามประเด็นนี้ จะได้รับคำตอบ ว่า คุณว่าเขาเป็นคนไม่ดี เขายังบริจาคเลย คุณคนดีทำไม ไม่บริจาค
หรือบริจาคไม่เท่าเขา ฉะนั้นอย่าไปว่าเขา

นี่เป็นตัวอย่าง บริบทหนึ่ง ของ วิวัฒนาการของสังคมไทย รวมถึงศาสนาด้วย 
ดีขึ้น หรือแย่ลง  แล้วแต่จะคิด ก็ต้องคิดกันต่อเอง   

[too_ploenpit]

		อ้างถึง			ข้อความของ Manop  Klabdee เมื่อ 04 ตุลาคม 2555, 13:31:48
	สวัสดีครับ คุณน้องตู่ และชาวซีมะโด่ง ที่รักทุกท่าน                            สนามบินดอนเมืองคึกคักขึ้น เมื่อสายการบิน Air Asia ย้ายมาอยู่ด้วย                            มีร้านค้าเกิดขึ้นมากมาย  สามารถเดินชม เลือกซื้อได้                            มีอยู่มุมหนึ่ง  พี่สิงห์ เห็นเด็กๆ  สาว ๆ หนุ่ม ๆ เขาไปยืนถ่ายภาพกัน  พิจารณาอยู่นานเลยเข้าใจ                            พี่สิงห์ ไปชมภูเขาไฟฟูจิ  ที่สนามบินดอนเมืองมา  ให้ Nok Air ที่พี่สิงห์รู้จัก เพราะเห็นหน้าบ่อย ถ่ายภาพให้ครับ                             สวัสดี

...โปสเตอร์เหรอคะ...พี่สิงห์...

...สวยดีค่ะ...

...เหมือนโปสเตอร์ที่จิวจ่ายโกวเลยค่ะ...

[เหยง 16]

		อ้างถึง			ข้อความของ สมชาย17 เมื่อ 04 ตุลาคม 2555, 14:00:57
	อ้างถึง     อ้างถึง ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 04 ตุลาคม 2555, 13:25:42 พี่สิงห์ ประเทศเรามีหลายนิกายเหลือเกิน ส่วนใหญ่มักจ้องดูดทรัพย์ของสาวก ไปเป็นของตัวเอง ดังเช่นนิกายดาวเทียม ที่ปทุมธานี เราเคยเห็น สะพาน โรงเรียน สถานีอนามันหลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง มีเห็นทั่วไปทั้งในจังหวัดสิงห์บุรีและใกล้เคียง แต่เราไม่เคยเห็นของวัดนิกายดาวเทียม แม้แต่ที่เดียว เว้นแต่ในวัดนั้นที่ใหญ่โตโอฬารแห่งเดียวเท่านั้น ทั้งที่ยอดบริจาคมากมายเหลือคณานับ...ไม่ทราบเอาไปลงทุนในตลาดหุ้นหรือเปล่า ?? สวัสดีครับ พี่เหยง วัดนิกายดาวเทียมที่พี่ว่า  เริ่มมีวัดสาขาที่เป็นเครือข่ายแล้ว เพียงแต่ชื่อวัดยังเป็นชื่อของวัดท้องถิ่น เรื่องแบบนี้ คงเป็นวิวัฒนาการของพุทธศาสนารวมถึงวิวัฒนาการของสังคมในบ้านเราก็เป็นได้ (ลงทุนหุ้นหรือเปล่า ไม่รู้เหมือนกัน) เพราะศาสนาพุทธเราผ่านกาลเวลามากว่า 2500 ปีแล้ว เลยมีการแตกหน่อเป็นหลายๆหน่อ หลายสาย ตรงทาง ถูกทาง ก็ดูกันต่อไป   เพราะสังคม ค่านิยมของคนไทยเรา ก็เปลี่ยนไปมากด้วย ปล.สมัยผมเป็นเด็กๆอยู่ สังคมตำบล อำเภอ สมัยนั้นยังเล็กๆ รู้จัก กันเกือบหมด คนที่ค้าไม้เถื่อน เปิดซ่อง  ไปบริจาคเงินให้วัด และบริจาคเงินให้โรงเรียน สมัยนั้น วัด และ โรงเรียน ไม่รับนะครับ ถือว่าเงินของคนๆนั้น เป็นเงินไม่ถูกต้อง เป็นเงินบาป สังคมสมัยนั้น รังเกียจ ไม่ต้อนรับ ไม่คบค้ากับคนที่หากินแบบ มิจฉาอาชีวะ ผ่านมาสมัยนี้ บริจาค แสนบาท หรือ ล้านบาท  รับทันที่ แถมขึ้นชือ หน้าวัด หรือหน้าโรงเรียน เป็นการยกย่อง ให้เป็นตัวอย่าง อีกด้วย ใครไปถามประเด็นนี้ จะได้รับคำตอบ ว่า คุณว่าเขาเป็นคนไม่ดี เขายังบริจาคเลย คุณคนดีทำไม ไม่บริจาค หรือบริจาคไม่เท่าเขา ฉะนั้นอย่าไปว่าเขา นี่เป็นตัวอย่าง บริบทหนึ่ง ของ วิวัฒนาการของสังคมไทย รวมถึงศาสนาด้วย  ดีขึ้น หรือแย่ลง  แล้วแต่จะคิด ก็ต้องคิดกันต่อเอง

มีพระที่รับและอนุโมทนาบุญ แล้วตั้งชื่อวัดว่า "วัดคณิกาผล" แสดงถึงความจริงที่เกิดขึ้น ผู้คนก็ยอมรับได้

[Manop Klabdee]

สวัสดีค่ะ คุณน้องตู่ ที่รัก

                            มันเป็นมอร์นิเตอร์ฉายภาพออกมา แต่ถ้าเราไปยืนในพื้นที่หน้าจอ ภาพเราจะไปปรากฏบนจอทันที ทำเหมือนเรากำลังดูภูเขาฟูจิ และภาพ Black Ground ข้างหลัง จะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ครับ

                            มันจึงเป็นจุดขายอย่างดี  เพราะเป็นสิ่งใหม่  ให้คนได้ถ่ายภาพเหมือนไปยืนดูภูเขาไฟฟูจิ จริงๆ ที่ญี่ปุ่น ครับ

                            ราตรีสวัสดิ์ค่ะ

[Manop Klabdee]

สวัสดีครับ ชาวซีมะโด่ง ที่รัก ทุกท่าน

                                  เห็นความจริงไหมครับ เวลาพายุจะเกิดแต่ละครั้ง และจะพัดผ่านประเทศไทย นั้น เรามีเวลาเตรียมตัวมากกว่าหนึ่งอาทิตย์  ในหนึ่งอาทิตย์เราสามารถเตรียมการได้หลายๆ อย่าง ถ้าจะกระทำ  ผมถึงบอกว่าการบริหารน้ำนั้นไม่ยากเลย

                                  แต่ปัจจุบันมันยุ่งยาก เพราะมีแต่คนไม่รู้เรื่องมาตัดสินใจ และการก่อสร้างเขื่อนต่างๆ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา  การเสริมถนนให้สูงขึ้น  การทำผนังกั้นน้ำ ตามนิคมอุตสาหกรรม ชุมชน ต่าง ๆ นั้น มันทำให้พื้นที่รับน้ำหายไป และเป็นทางอุดทางน้ำตามธรรมชาติ สิ่งต่างๆ เหล่านี้จะเป็นตัวทำให้น้ำท้วมทั้งนั้น เพราะน้ำไม่มีที่ไปครับ

                                 นอกจากนี้การที่ไปอุดทางระบายน้ำกันเสียหมดนั้น ผล คือพอฝนตกน้ำมันระบายไม่ได้มันก็ท้วมซิครับ  สูบน้ำออกมันไม่ทันกับน้ำฝนหรอกครับ  น้ำมันก็ต้องท้วมแน่นอน คอยดูตามนิคม ที่สร้างผนังกั้นน้ำ เขื่อน ในเขตตัวเมืองต่าง ๆ มันจะท้วมเช่นเดียวกับ สุโขทัย  ศาลากลางสิงห์บุรี และ กทม. ที่ไปปิดทางระบายน้ำเสียหมด

                                 ตอนนี้เครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ เล็ก ขายดี เพราะผลิตออกมาเท่าไรซื้อหมดเอาไปสูบน้ำออก ท่านคิดเอาเอง งามหน้าเชียว

                                 ราตรีสวัสดิ์ทุกท่าน ครับ

[เหยง 16]

พี่สิงห์

ต่างคน-ต่างทำ ต่างคนต่างมีเงินที่หามา(จะด้วยวิธีการใดก็ตาม) ก็ทำกันไป ไม่มีการปรึกษาหารือครับ
เงินไม่เข้าใคร-ออกใคร !! น้ำใจจึงไม่มีให้กัน ??

[Manop Klabdee]

		อ้างถึง			ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 04 ตุลาคม 2555, 20:36:33
	พี่สิงห์ ต่างคน-ต่างทำ ต่างคนต่างมีเงินที่หามา(จะด้วยวิธีการใดก็ตาม) ก็ทำกันไป ไม่มีการปรึกษาหารือครับ เงินไม่เข้าใคร-ออกใคร !! น้ำใจจึงไม่มีให้กัน ??

สวัสดีครับ คุณเหยง

                           ตัวอย่างอาทิตย์ที่ผ่านมา ฝนตกเช้ามืดที่สิงห์บุรี ผลคือ ศาลากลาง ศูนย์ราชการมีน้ำท้วมสูง 20-30 ซม. เพราะไปอุดท่อป้องกันน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยา ทั้งที่แม่น้ำเจ้าพระยาระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่ง 3-5 เมตร แต่น้ำไหลลงไม่ได้เพราะท่ออุดตัน  ทางจังหวัดบอกไม่มีเครื่องสูบน้ำเพียงพอ และไม่มีงบประมาณ ต้องรอเครื่องสูบน้ำจากส่วนกลางมาช่วย

                          แต่งบน้ำท้วม 30 ล้านที่ให้เอาไปลอกคลองลำแม่ลานั้น ทั้งที่เพิ่งทำไปเมื่อปีที่แล้วก็ไปยัดเยียดให้เอางบไปทำ เพราะถ้าไม่เอา  จะโดนตัดงบ  ก็เอากันไป ไม่รู้เอาไปทำอะไรเพราะลอกไปแล้ว ก็ทำเป็นพิธี

                         จะเห็นว่างบได้มาง่ายมันก็หายไปง่ายๆ เหมือนกัน  ทั้งๆ ที่ไม่จำเป็น

                         มันก็เป็นอย่างนี้แหละ รัฐบาลไทย

                         ผมถึงบอกว่าไปรับรู้มาก ก็มีแต่ทุกข์  ตัดขาดไปให้มากจะได้มีสิ่งรกใจน้อยหน่อย

                         ใครจะว่าไม่รับผิดชอบก็ช่าง เพราะผมทำอะไรไม่ได้มากไปกว่านี้ นี่ครับ

                          สวัสดีตอนเช้าครับ

[Manop Klabdee]

สวัสดีครับ ชาวซีมะโด่ง และแขกผู้มีเกียรติ ที่รักทุกท่าน

                                 ยังเดินจงกรมออกกำลังกายยามเช้ากันอยู่หรือเปล่าครับ เช้านี้

                                 เช้านี้อากาศที่นครศรีธรรมราชดี  มีแสงแดดจ้ายามเช้า เหมาะแก่การรำมวยจีน  โยคะท่านมัสการพระอาทิตย์ และได้อาบแสงแดดอ่อน ๆ เป็นอะไร ๆ ที่ดีต่อร่างกาย

                                  อย่าลืมอากาศหนาวเริ่มมา  พายุฝนก็กำลังจะมา ท่านต้องรักษาสุขภาพ ด้วยการ นอนหัวค่ำ  ออกกำลังกายเดินจงกรมยามเช้า  รับประทานอาหารเช้า-กลางวันตรงเวลา และมีสติ-สัมปชัญญะ อยู่ที่กาย-ใจ สม่ำเสมอ ท่านจะสู้กับโรคที่มากับฝน และหนาวได้

                                   ท่านอย่าลืมนะครับ ในการปฏิบัติธรรม "ดูจิต" นั้น มีสภาวะธรรม(อารมณ์) หรือไม่มีก็ตาม ท่านต้องแยกให้ออกระหว่าง ความรู้สึกตัวที่กาย สภาวะธรรม (อารมณ์)ที่เกิดขึ้น และความคิดที่เกิดขึ้นแยกแยะให้ออก ท่านเป็นเพียงผู้ดู  อย่าตกไปเป็นธาตุของความคิด ให้รูป-นาม มันรู้จัก ความรู้สึกตัว และอารมณ์ ให้มาก  ความคิดมันจะน้อยลงไป

                                   ท่านสังเกตดู ท่านอยู่กับความรู้สึกตัว  ท่านจะไม่คิด  มีแต่ความว่าง ๆ ความวิตก กังวล ความเสียดายไม่เกิด มันก็ไม่ทุกข์ และท่านก็จะเห็นเองว่า ความรู้สึกตัวก็ดี  อารมณ์ก็ดี  ความคิดก็ดี  ท่านบังคับมันไม่ได้  มันเกิดขึ้น  ตั้งอยู่  และดับไปขอมันเอง เป็นอย่างนี้ตลอดเวลา ท่านพิจารณาให้ออกนะครับ

                                   นั่นละความเป็นไตรลักษย์ อนิจจัง  ทุกขัง  อนัตตา ละ

                                   อย่าลืมจิตท่านต้องเป็นมหากุศลจิต  หรือญาณที่ ๔ จึงเหมาะแก่การงานในทางวิปัสสนากรรมฐาน  ซึ่งมันจะเกิดของมันเอง รูป-นาม มันจะเรียนรู้ของมันเอง เพื่อจะกลับไปเป็นธรรมชาติ เหมือนกับ เนื้อ  หนัง  ตามธรรมชาติที่ปราศจากการปรุงแต่งใดๆ ทั้งสิ้น ครับ

                                   เช้านี้ทำจิตให้ผ่องใส  มีอะไรเกิดขึ้น ไม่ว่าจะทุกข์  จะสุข  หรือไม่ทุกข์ไม่สุข  ก็อุเบกขาเข้าไว้ อย่าไปยินดียินร้ายใดๆ ทั้งสิ้น ครับ

                                   สวัสดี

[too_ploenpit]

...สวัสดีค่ะ...พี่สิงห์และสมาชิกทุกท่านค่ะ...

...ตามอ่านหมดแล้วค่ะ...

...วันนี้อากาศที่พัทยาก็ดีค่ะเหมือนเมื่อวาน...

...แดดเริ่มมาแรงแล้ว...วันนี้คงร้อนทั้งวันค่ะ...

[Manop Klabdee]

		อ้างถึง			ข้อความของ Manop  Klabdee เมื่อ 02 ตุลาคม 2555, 19:11:30
	อ้างถึง ข้อความของ Manop  Klabdee เมื่อ 28 กันยายน 2555, 09:53:16 อ้างถึง ข้อความของ Manop  Klabdee เมื่อ 27 กันยายน 2555, 10:19:53 ชาวซีมะโด่ง ขอเชิญพบกัน วันอังคารที่ ๙ ตุลาคม เวลา ๑๘:๐๐ น. เป็นต้นไป วันเกิด พี่ทองอู่  จักรสิงห์ ณ ภัตตาคารกุหลาบ ซอยราชครู ครับ สวัสดีครับ ชาวซีมะโด่ง ที่รักทุกท่าน                           ผมได้ปรึกษากับทาง ท่านอาจารย์เผ่า  สุวรรณศักดิ์ศรี และท่านอาจารย์เผ่า ได้เรียนให้พี่ทองอู่  จักรสิงห์ รับทราบและยินดีมาร่วมงานเป็นอย่างยิ่ง ที่จะได้พบน้องๆ ชาวซีมะโด่ง                           ผมได้เรียนให้พี่กาญจนา  รับทราบและขอให้พี่กาญจนา รับเป็นธุระจองห้องให้ ที่ภัตตาคารกุหลาบ เป็นห้องเดิมเมื่อปีที่แล้ว ส่วนอาหารนั้น จะจองเป็นบางส่วนก่อน และไปสั่งเพิ่มเติมในงานเอาเอง                           ส่วนค่าใช้จ่าย หารยาว ตามธรรมเนียม                           ส่วนที่ว่า อาจจะตรงกับวันที่กรรมการสมาคมฯประชุมนั้น  อาจารย์เผ่า  บอกว่า  ก็ให้เขาประชุมเสร็จเร็วหน่อย  ใครอยากมาร่วมงานเขาก็มาเองแหละ  เอาตามนี้                           ผมก็ขอเรียนเชิญทุกท่านที่ทราบข่าว  ช่วยกระจายข่าวให้ด้วยว่า วันอังคารที่ ๙  ตุลาคม  ศกนี้ เป็นวันเกิดของพี่ทองอู่  จักรสิงห์ มีอายุครบ ๘๕ ปี  ขอเรียนเชิญทุกท่านที่ยังระลึกถึงพี่ทองอู่  จักรสิงห์   อยู่มาร่วมงานด้วยครับ ในเวลา ๑๘:๐๐ น.เป็นต้นไป                            ใครอยากหาอะไรติดมือมาก็เรียนเชิญ ตามสะบาย เพราะผมคงไม่มีสุรา ให้ ครับ                           เรียนเชิญทุกท่าน ครับ                           สวัสดี ได้แจ้งให้ รศ.ประกายแก้ว   เลขาสมาคมฯ และคุณราเมศวร์ นายกสมาคมฯ  ทราบแล้ว สวัสดีครับ ชาวซีมะโด่ง ที่รักทุกท่าน                               อย่าลืมพวกเรามีนัดที่ ร้านอาหารกุหลาบ วันอังคารที่ ๙ ตุลาคม เวลาหกโมงเย็นเป็นต้นไป เพื่อแสดงมุฑิตาจิตต์ กับพี่ทองอู่  จักรสิงห์  ครบรอบวันเกิด ๘๕ ปีครับ                               คุณกนกวรรณ  แจ้งว่า ยังมีเงินเหลือจากการจัดงานเมื่อปีที่แล้ว สามพันกว่าบาท จะเอามาใช้จ่ายครั้งนี้ด้วย                               ผมได้ขอร้องให้คุณสุภาณี  จัดเตรียมนำเค็กวันเกิด มาให้พี่ทองอู่ เป่าเทียนให้ด้วย พวกเราจะได้มีขนมเค็กรับประทานครับ                               สวัสดี สวัสดครับ ชาวซีมะโด่ง ที่รักทุกท่าน                                   รายชื่อผู้ที่จะไปร่วมงาน วันครบรอบวันเกิดพี่ทองอู่  จักรสิงห์                                   ๑. พี่ทองอู่  จักรสิงห์                                   ๒. พี่สันทัศน์ (พี่ตัน)                                   ๓. อาจารย์เผ่า- อ.แจ่มใส   สุวรรณศักดิ์ศรี                                   ๕. รศ.พินิจ - จันทร์แจ่ม  เพิ่มพงศ์พันธ์                                   ๗. มานพ  กลับดี                                   ๘. คุณราเมศว์   ศิลปพรหม  นายกสมาคมฯ                                   ๙. รศ.ประกายแก้ว - คุณวัฒนา   โอภานนท์อมตะ                                 ๑๑. พี่กาญจนา  ว่งชวานิช                                 ๑๒. คุณสุภาณี      นาคฤทธิ์                                 ๑๓. คุณกนกวรรณ    สิกขโกศล                                 ๑๔. คุณ Tooky                                 ๑๕. คุณอดิสร                                 ๑๖. คุณหนุ๋น                                 ๑๗. คุณนันทิกา                                 ๑๘. คุณทรงเกียรติ                                 ๑๙. ดร.สุริยา                                 ๒๐. คุณวิทิดา                                 ๒๑. ดร.กุศล                                 ๒๒. คุณแหลม                                 ๒๓. คุณน้องยาหยี                                 ๒๔. คุณประทาน                                 ๒๕. ท่านสว.ชรินทร์                                 ๒๖. พี่พงษ์  ปริญญโรจน์                                 ใครที่ไม่อยากลงชื่อ ไปเจอกันที่ร้านอาหารกุหลาบ  วอยราชครู เลยครับ                                 สวัสดี

        อย่าลืมพบกันวันอังคารที่ ๙ ตุลาคม ที่ร้านกุหลาบ ซอยราชครู ครับ

[เหยง 16]

อัพเดทเรื่องพายุครับ..เผื่นเย็นวันที่ 9 ตุลาคม ฟ้าน่าจะสดใสขึ้นบ้าง ??

“แกมิ” ฆ่าไม่ตาย ไล่จับยาก โงหัวใหม่อีสานใต้-เขมรมีสิทธิ์เละ
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 5 ตุลาคม 2555 12:43 น. 

นัดครั้งใหม่ที่เสียมราฐ -- แผนภูมิพยากรณ์ของศูนย์อุตุนิยมวิทยาและอุทกศาสตร์กลางในกรุงฮานอย ต้องอัพเดทข้อมูลตลอดเวลา พายุแกมิ (Gaemi) ตายยากตายเย็น โงหัวอีกครั้งหลังจากเฉื่อยไปเกือบ 24 ชั่วโมง จากทะเลจีนใต้เข้าถึงฝั่งเสาร์นี้ตามคาดหมาย แต่ก้มหัวลงต่ำไปเขมร มีปลายทางที่ปราสาทนครวัดในอีก 2 วันถัดไป ขณะอ่อนตัวลงเป็นดีเปรสชั่นซึ่งจะทำให้เกิดฝนตกถึงตกหนักตามรายทางที่ผ่าน หลายจังหวัดในภาคอีสานตอนล่างของไทยพอลยฟ้าพลอยฝนไปด้วย เวียดนามแจ้งให้จังหวัดต่างๆ ตามรายทางเตรียมรับมือและติดตามความเคลื่อนไหวของพายุลูกนี้อย่างใกล้ชิดในช่วง 12 ชั่งโมงข้างหน้า.

 
     
       ASTVผู้จัดการออนไลน์ - พายุ “แกมิ” ซึ่งปั่นตัวเองขึ้นเป็นพายุโซนร้อนรุนแรง (Severe Tropical Storm) อีกครั้งหนึ่งในชั่วเวลาข้ามวัน เริ่มส่อเค้าความร้ายกาจครั้งใหม่ในวันศุกร์ 5 ต.ค.นี้ และถ้าหากเป็นไปตามนี้ พายุลูกนี้จะเคลื่อนผ่านเวียดนามในวันเสาร์ และทะลุเข้ากัมพูชากับเขตอีสานใต้ของไทยในอีก 2 วันถัดไป ซึ่งจะทำให้เกิดฝนตกหนักกินอาณาบริเวณกว้าง
       
       แกมิกำลังเดินตามเส้นทางไต้ฝุ่นเกดสะหนาดังที่ศูนย์อุตุนิยมวิทยาและอุทกศาสตร์กลางในกรุงฮานอยคาดการณ์เอาไว้ ซึ่งจะเป็นเรื่องที่น่าสะพรึงกลัวสำหรับประชาชนที่อาศัยตามรายทางที่พัดผ่าน เนื่องจากผ่านเข้าไปในเขตป่าเขาต้นน้ำ ก่อนจะเข้าสู่ทุ่งราบใหญ่ ซึ่งจะส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากรุนแรง ดินเลื่อนดินถล่ม ฯลฯ ติดตามมา
       
       แผนภูมิพยากรณ์ของสำนักอุตุนิยมวิทยาชั้นนำของโลกหลายแห่งได้ชี้เส้นทางใหม่ของพายุลูกนี้ หลังจากรีรออยู่นาน 12 ชั่วโมงในทะเลจีนใต้ ทางตะวันออกของเกาะลูซอน ฟิลิปปินส์ แกมิเคลื่อนตัวด้วยความเร็วมากกว่าเดิมเป็นประมาณ 14-15 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในช่วง 12 ชั่วโมงที่ผ่านมา โดยหันหัวเข้าสู่ภาคกลางเวียดนามแถบนครด่าหนัง (Danang) กับเมืองญาจาง (Nha Trang) เมืองท่องเที่ยวตากอากาศในวันเสาร์ 6 ต.ค.นี้ ก่อนจะเข้าสู่เขตที่ราบสูง จ.ดั๊กลัก Dak Lak) และ จ.กงตูม (Con Tum)
       
       ตามรายงานของ JTWC หน่วยงานอุตุนิยมวิทยาของกองทัพเรือสหรัฐฯ เวลาเที่ยงวันศุกร์นี้ พายุแกมิอยู่ห่างจากฝั่งเวียดนามราว 470 กม. และเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกด้วยความเร็ว 14 กม./ชม.
       
       ทางการเวียดนามเองยอมรับ พายุ “แกมิ” เป็นอีกลูกหนึ่งที่ “ไล่จับ” ยากที่สุดในช่วงหลายปีมานี้ เนื่องจากมีความผันผวนอยู่ตลอดเวลา ตอนค่ำวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สื่อต่างๆ ได้ออกเตือนให้ประชาชนในภาคกลาง แถบ จ.กว๋างนาม (Quang Nam) กว๋างหงาย (Quang Nghai) และ จ.บี่งดีง (Binh Dinh) ให้เตรียมรับมือ แต่แล้วแกมิได้เปลี่ยนเส้นทางอีกครั้งหนึ่งในช่วงเวลาก่อนสว่างวันศุกร์นี้
       
       คาดว่าพายุแกมิจะเคลื่อนตัวเร็วขึ้นในอีก 12 ชั่วโมงข้างหน้า เป็นประมาณ 16-17 กม./ชม. ขณะ “เร่งเครื่อง” เข้าสู่แผ่นดินใหญ่ และจะช้าลงเมื่อพัดผ่านเขตภูเขาในที่ราบสูงภาคกลาง และจะอ่อนตัวลงเป็นดีเปรสชันเมื่อเคลื่อนเข้าสู่เขตแดนกัมพูชา
       
       สถานการณ์ในวันนี้บ่งบอกว่า พายุแกมิจะไปสิ้นฤทธิ์ลงในแถบ จ.เสียมราฐ ของกัมพูชา ในอีก 3 วันข้างหน้า แต่จะต้องติดตามความเคลื่อนไหวต่อไป.

แผนภูมิพยากรณ์โดย JTWC ของกองทัพเรือสหรัฐ หน่วยงานที่มีเทคโนโลยีทันสมัยที่สุดในการอ่านใจพายุ ชี้ชัดตรงกัน ถ้าหากสถานการณ์ยังเป็นไปตามนี้ สุดสัปดาห์พายุแกมิ (Gaemi) มีนัดกับชาวเขมรตามรายทาง ตั้งแต่ จ.รัตนคีรี สตึงแตร็ง กัมปงจม กัมปงธม จนถึง จ.เสียมราฐ อุดรมีชัยและบ้านใต้มีชัย จังหวัดในแถบอีสานใต้ของไทยพลอยฟ้าพลอยฝนไปด้วย ลมไม่แรงแต่ฟ้ารั่วแบบดีเปรสชั่น.  

เร็วและแรงขึ้น เพียง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา พายุแกมิ (Gaemi) เคลื่อนตัวไปไกลในทะเลจีนใต้ ภาพดาวเทียม MTSAT โดย "หอสังเกตุการณ์" ในฮ่องกงที่เผยแพร่ตอนเที่ยงวันศุกร์ 5 ก.ย.นี้ แสดงให้เห็นพายุลูกใหญ่อยู่ห่างจากฝั่ง 460 กม. มีนัดกับเวียดนามตั้งแต่บ่ายพรุ่งนี้ และถ้าหากสถานการณ์เป็นไปตามนี้ แกมิจะเคลื่อนเข้าเขมรในวันอาทิตย์ ปลายทางที่ จ.เสียมราฐในวันจันทร์ แต่จะต้องติดตามต่อไป.

เข้าไปดูใกล้ๆ ภาพอินฟราเรดที่เผยแพร่โดย "หอสังเกตุการณ์" ในฮ่องกง (Hong Kong Observatory) ตอนเที่ยงวันศุกร์ 5 ก.ย.นี้ แสดงให้เห็นความปั่นป่วนในทะเลจีนใต้ หลังจากพายุแกมิ (Gaemi) ฮึดระดมพลังครั้งใหม่ ขนาดใหญ่โตขึ้น เคลื่อนที่เร็วและแรงขึ้น ขณะมุ่งหน้าเข้าภาคกลางตอนล่างของเวียดนาม ก่อนทะลุทะลวงสู่กัมพูชา และถ้าหากทุกอย่างไม่เปลี่ยนแปลง มันก็จะไปสิ้นฤทธิ์ใน จ.เสียมราฐ ในวันจันทร์.

http://www.manager.co.th/IndoChina/ViewNews.aspx?NewsID=9550000122243
 

[Manop Klabdee]

สวัสดีตอนเช้าครับ ชาวซีมะโด่ง และแขกผู้มีเกียรติ ที่รักทุกท่าน

                                Inter net ที่โรงงานเสีย ตั้งแต่วันพฤหัสบดี เพราะฟ้าลง ยังใช้การไม่ได้ เลยต้องอาศัยของโรงแรม ครับ

                                ขอขอบคุณ คุณเหยงที่นำข้อมูล พายุ แกมี่ มาฝาก

                                ทำให้ความหวังของผมที่อยากจะเห็นนาข้าวในประเทศไทย ภาคอิสาน ภาคกลาง ที่กำลังรอน้ำฝนจากพายุ แกมี่ ต้องอันตรธาน ไปทันที นาข้าวจะขาดน้ำ ปีหน้าขโมยจะมาก บรรดาอ่างเก็บน้ำในภาคอิสาน จะไม่มีน้ำใช้ในปีหน้า รวมทั้งเขื่อนลำตะคองด้วย

                                นอกจากนี้เขื่อนเก็บน้ำในภาคกลาง ที่ทางรัฐบาล สั่งให้ปล่อยน้ำทิ้ง ก็จะมีปริมาณน้ำแทบจะไม่พอใช้ในปีหน้า

                                เนื่องจากมีอากาศหนาวแผ่เข้ามาตั้งแต่วันจันทร์ที่ผ่านมา (ความกดอากาศสูง) ผลคือ มันเลยดันแนวเดินทางของพายุ แกมี่ ให้ลงต่ำ และจะไปสลายตัวที่เมืองเสียมเรียบ หรือนครวัด  ไม่เข้ามาในประเทศไทย

                               ประเทศไทยเพียงแค่มีฝนตกชุกทางอิสานใต้ และภาคตะวันออก ส่วนภาคกลาง อิสานกลาง ที่ต้องการน้ำ คงแห้วไปครับ

                               เป็นข่าวดี หรือข่าวร้าย มันขึ้นอยู่กับว่าใครได้ประโยชน์ และเสียประโยชน์

                               แต่ที่แน่ๆ ปีหน้า  แล้งหน้า ประเทศไทย  จะไม่มีน้ำอุปโภค-บริโภค ที่เพียงพอ แน่นอน ต้องงดทำนาเพราะไม่มีน้ำ แล้วประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ จะอยู่อย่างไร  ความเดือดร้อนจะเกิดขึ้น  สินค้าจะแพงขึ้นเพราะปรับค่าแรงขั้นต่ำทั่วประเทศ 300 บาท บันดารากหญ้าที่หาเช้ากินค่ำ จะอยู่ลำบาก  การจ้างงานจะน้อยลง  คอยดูกัน !

                               เช้านี้อากาศที่นครศรีธรรมราช ร้อน แสงแดดจัด ฝนไม่ตก

                               ผมกลับ กทม.ตอนเย็น

                               สวัสดีครับ

[Manop Klabdee]

กลุ่มเมฆที่ 1 :
     กลุ่มเมฆฝนปกคลุมภาคเหนือโดยมีฝนฟ้าคะนองปกคลุมทางตอนบนของภาคและแนวโน้มทวีกำลังแรงขึ้น
กลุ่มเมฆที่ 2 :
     กลุ่มเมฆฝนปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือโดยมีฝนฟ้าคะนองปกคลุมงทางตอนกลางและทางตอนล่างของภาคและแนวโน้มทวีกำลังแรงขึ้น
กลุ่มเมฆที่ 3 :
     กลุ่มเมฆฝนปกคลุมภาคตะวันออกและอ่าวไทยตอนบนโดยมีฝนฟ้าคะนองปกคลุมภาคตะวันออกและบริเวณชายฝั่ง
กลุ่มเมฆที่ 4 :
     กลุ่มเมฆฝนปกคลุมภาคใต้โดยมีฝนฟ้าคะนองปกคลุมภาคใต้ ชายฝั่งทะเลอันดามันและบริเวณชายฝั่งอ่าวไทย
กลุ่มเมฆที่ 5 :
     พายุโซนร้อน “แกมี” (GAEMI) บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง มีศูนย์กลางอยู่ห่างประมาณ 450 กิโลเมตร ทางตะวันออกของเมืองดานัง ประเทศเวียดนาม พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกด้วยความเร็วประมาณ 10 กม./ชม.และ คาดว่า พายุนี้จะทวีกำลังแรงขึ้น

ลักษณะอากาศทั่วไป      เมื่อเวลา 04:00 น.วันนี้    
   
เมื่อเวลา 01.00 น. วันนี้ (6 ต.ค. 2555) พายุโซนร้อน “แกมี” (GAEMI) บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง มีศูนย์กลางอยู่ห่างประมาณ 450 กิโลเมตร ทางตะวันออกของเมืองดานัง ประเทศเวียดนาม หรือที่ ละติจูด 14.0 องศาเหนือ และ ลองจิจูด 113.0 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 80 กม./ชม. พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกด้วยความเร็วประมาณ 20 กม./ชม. คาดว่า พายุนี้จะจะมีกำลังแรงขึ้นและเคลื่อนขึ้นฝั่งตอนกลางของประเทศเวียดนามในวันที่ 6 ตุลาคม 2555 จากนั้นจะอ่อนกำลังลงและเคลื่อนผ่าน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออก และภาคกลาง ของประเทศไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ในช่วงวันที่ 6-8 ตุลาคม 2555 บริเวณพื้นที่ตามเส้นทางเดินพายุและพื้นที่ใกล้เคียง มีฝนหนาแน่นเพิ่มมากขึ้น และมีฝนตกหนักถึง หนักมากในหลายพื้นที่ กับมีลมแรง โดยเริ่มในภาคตะวันออกเฉียงเหนือบริเวณจังหวัดอำนาจเจริญ อุบลราชธานี ศรีษะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ นครราชสีมา และภาคตะวันออกบริเวณจังหวัด สระแก้ว และปราจีนบุรีก่อน ส่วนภาคกลางและภาคเหนือตอนล่างจะได้รับผลกระทบในระยะต่อไป ขอให้ประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและลมแรงในช่วงระยะนี้ สำหรับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น ส่งผลให้ภาคใต้ฝั่งตะวันตกมีฝนเพิ่มมากขึ้น ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนบน และทะเลอันดามันจะมีกำลังแรงขึ้นในช่วงวันที่ 7-9 ตุลาคม 2555 โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือเพิ่มความระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือ และ เรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในช่วงเวลาดังกล่าวไว้ด้วย อนึ่ง ร่องมรสุมกำลังปานกลางยังคงพาดผ่านภาคกลาง และภาคตะวันออกเข้าสู่พายุ “แกมี”


                           จะเห็นว่าคำพยากรณ์ของไทยนั้น  แทงกั๊กเพื่อป้องกันตัวเอง  จริงๆ มันไม่เป็นไปตามที่คาดหมายแล้วครับ (อ้างตามตามข้อมูลที่คุณเหยง นำมาโพสต์) เพราะพายุแกมี่จะสลายตัวที่นครวัด ไม่เข้าไทย  ส่วนประเทศไทยเพียงมีฝนเพิ่มขึ้น เท่านั้น

                            สวัสดี

[too_ploenpit]

...สวัสดีค่ะ...พี่สิงห์...

...วันนี้เพิ่งจะมีเวลาเข้าเว็บค่ะ...

...เมื่อเช้าไปทำบุญที่วัดมาค่ะ...มีคนพอประมาณไม่มากไม่น้อย...

...ส่วนใหญ่คนจะมาทำบุญกันวันอาทิตย์ค่ะ...

...ตู่และหมอจะพยายามเลี่ยงวันที่คนมาทำบุญกันเยอะๆค่ะ...

...ของทำบุญเยอะก็จริง...แต่หลังจากเวลาที่พระให้พรแล้ว...

...ของก็จะหมดเกลี้ยงไปในพริบตาค่ะ...

...เดี๋ยวนี้เวลาญาติโยมเค้าจะตักอาหารที่เหลือจากพระ...

...เค้าจะยกกันเป็นจานๆเลยค่ะ...

...แต่บางวัดก็ดี...ถ้าจัดระเบียบดีๆ...ให้มีการเข้าคิว...อันนั้นก็จะเป็นระเบียบหน่อยค่ะ...

...พายุไม่ถล่มไทยน่าจะเป็นข่าวดีนะคะ...พี่สิงห์...

...เพราะรัฐบาลกลัวมากว่าน้ำจะท่วมกรุงเทพฯค่ะ...

...ส่วนปัญหาอีสานแล้งเพราะขาดน้ำ...

...เห็นว่าจะตกลงสร้างเขื่อนเพิ่มไม่ใช่เหรอคะ...

[เหยง 16]

พี่สิงห์ครับ

พายุเกมี่ Gaemi ปรับเปลี่ยนทิศทางอีกแล้วในวันนี้ (ช่วง 9.00 น. เวลากรีนนิส)



ภาพดาวเทียมแสดงจุดที่อยู่ของพายุ




คาดว่า เมื่อเที่ยงวันที่ผ่านมา พายุเกมี่ ขึ้นฝั่งเวียตนามแล้ว โดยหกโมงเย็นของวันนี้จะเข้าถึงริมชายแดนระหว่างเวียตนามกับเขมร

[เหยง 16]

เมื่อถึงกลางประเทศเขมรในช่วงเที่ยงของวันพรุ่งนี้ พายุจะสลายตัวเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำ

และหากเคลื่อนต่อ จะลงน้ำอีกครั้งที่ระยอง จันทร์ ชลบุรี

หากยังสามารถอุ้มน้ำต่อ จะกลับมามีฤทธิอีกครั้งหนึ่ง

พายุจะสามารถพัดต่อ โดยผ่านราชบุรี เพชรบุรี เลยออกไปสู่พม่าได้อีก ??!!!

[เหยง 16]

พี่สิงห์

ไม่อยากมองไปในแง่ร้ายมากนัก ปีหน้าแล้งก็ดีน่ะ (ต่เราต้องดูแลบ้านและทรัพย์สินให้ดีกว่านี้ ??)

หากเกิดภัยแล้ง น้ำขาด ทำให้การปลูกข้าวลดลง การรับจำนำในปีหน้าจะได้ไม่ต้องเกิดมาล้างผลาญเงินของประเทศ

ข้าวสารในตลาดโลกจะขาดสมดุล ข้าวสารในโกดังจะได้ขายได้เสียที ??

กลัวแต่ว่า พวกมันจะขายถูก ให้พรรคพวกเอาไปทำกำไรเข้ากระเป๋า แทนให้ประเทศครับ


สภาพัฒน์ฯ เสนอให้รัฐบาลระบายข้าวสาร โดยต้องมีกำไรเพื่อชดเชยรายจ่ายของรัฐ

อาทิ ค่าใช้จ่ายของเจ้าหน้าที่ อคส. ค่าฝากคลัง ค่าอบรมยารักษาคุณภาพ ดอกเบี้ยของ ธกส. ฯลฯ



แต่ยังไม่เคยมีครั้งใด และรัฐบาลใดทำตามข้อเสนอของสภาพัฒน์ฯ เลย ??

เพราะหากราคาข้าวในตลาดโลกมีราคาสูงขึ้น รัฐบาลจะตั้งราคาค่าปรับปรุงคุณภาพให้สูงไว้

เพื่อดูดเงินส่วนนี้ให้บริษัทปรับปรุงข้าวเอาไป ??

เรียกว่า มีกลโกง เอาทุกรูปแบบครับ ??!!!!

[Manop Klabdee]

		อ้างถึง			ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 06 ตุลาคม 2555, 17:32:56
	พี่สิงห์ ไม่อยากมองไปในแง่ร้ายมากนัก ปีหน้าแล้งก็ดีน่ะ (ต่เราต้องดูแลบ้านและทรัพย์สินให้ดีกว่านี้ ??) หากเกิดภัยแล้ง น้ำขาด ทำให้การปลูกข้าวลดลง การรับจำนำในปีหน้าจะได้ไม่ต้องเกิดมาล้างผลาญเงินของประเทศ ข้าวสารในตลาดโลกจะขาดสมดุล ข้าวสารในโกดังจะได้ขายได้เสียที ?? กลัวแต่ว่า พวกมันจะขายถูก ให้พรรคพวกเอาไปทำกำไรเข้ากระเป๋า แทนให้ประเทศครับ สภาพัฒน์ฯ เสนอให้รัฐบาลระบายข้าวสาร โดยต้องมีกำไรเพื่อชดเชยรายจ่ายของรัฐ อาทิ ค่าใช้จ่ายของเจ้าหน้าที่ อคส. ค่าฝากคลัง ค่าอบรมยารักษาคุณภาพ ดอกเบี้ยของ ธกส. ฯลฯ แต่ยังไม่เคยมีครั้งใด และรัฐบาลใดทำตามข้อเสนอของสภาพัฒน์ฯ เลย ?? เพราะหากราคาข้าวในตลาดโลกมีราคาสูงขึ้น รัฐบาลจะตั้งราคาค่าปรับปรุงคุณภาพให้สูงไว้ เพื่อดูดเงินส่วนนี้ให้บริษัทปรับปรุงข้าวเอาไป ?? เรียกว่า มีกลโกง เอาทุกรูปแบบครับ ??!!!!

สวัสดีครับ คุณเหยง

                        ผมจำได้ว่าผมเคยบอกให้ทราบเอาไว้แล้ว รัฐบาลจะขายข้าวในราคาขาดทุนให้กับพ่อค้า ที่เป็นคนของรัฐบาล  โดยมีข้ออ้างว่า ต้องยอมขาดทุนจะได้ขายได้ในตลาดโลก

                        จะต้องมีข้าวส่วนหนึ่งที่มีแต่จำนวน แต่ข้าวไม่มี  ผมก้อยากรู้ว่าจะมีข้อแก้ตัวอย่างไร  เพราะท่านนายกบอกว่า นโยบายรับจำนำข้าวเป็นนโยบายที่ดี  แต่เรื่องทุจริตมันเป็นอีกเรื่องหนึ่ง  ซึ่งจริงๆ มันเป็นเรื่องเดียวกัน เพราะส่วนใหญ่พ่อค้าโรงสีร่วมกับนักการเมืองฝ่ายรัฐบาล ในการจำนำข้าว

                         กรรมใดใครทำไว้  สักวันต้องได้รับผลกรรมอันนั้น

                         หน้าแล้วปีหน้าจงระวัง  สาระพัดปัญหา  ดีไม่ดี รัฐบาลจะอยู่ไม่ได้ครับ

                         สวัสดี

[Manop Klabdee]

สวัสดีค่ะ คุณน้องตู่ ที่รัก

                          ดีแล้วละที่เธอและพี่ประสิทธิ์ ไปทำบุญวันที่เขาไม่ไปกัน มันจะได้บุยกว่า เพราะเราจะไม่เห็นในสิ่งที่ไม่สมควร  จิตใจจะได้เป็นมหากุศล ครับ

                          วัดที่บ้านพี่สิงห์ก็เป็นแบบนั้น  จนภายหลังหลวงพ่อท่านก็บอกบนศาลาวัดเลยว่า อนุญาติให้นำอาหาร ข้าว ที่เหลือ กลับบ้านไปรับประทานได้  จะได้ไม่มีข้อครหานินทากัน ว่าคนนั้นเอาไปได้  คนนี้เอาไปไม่ได้ ซึ่งไม่ดีเลย

                           คนที่ต้องการอาหารมันก็ยังมีอยู่ เพราะรายได้น้อย และอาหารตามวัดมันก็เหลือจริงๆ แต่ควรจะตั้งกฏขึ้นมาจัดระเบียบ และต้องช่วยเก็บ กวาด ทำความสะอาดภาชนะด้วย มันจึงถูกต้อง และแบ่งอาหารเฉลี่ยๆ กันไป

                           พี่สิงหืกลับถึง กทม. แล้วครับ

                           สวัสดี

[Manop Klabdee]

กลุ่มเมฆที่ 1 :    กลุ่มเมฆฝนปกคลุมประเทศไทยตอนบน โดยมีฝนกระจายถึงเกือบทั่วไปเนื่องจากอิทธิพลพายุโซนร้อน “แกมี” (GAEMI) บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง

กลุ่มเมฆที่ 2 :    กลุ่มเมฆฝนปกคลุมภาคใต้ โดยมีฝนกระจายปกคลุมทางตอนล่างของภาค

กลุ่มเมฆที่ 3 :    พายุโซนร้อน “แกมี” (GAEMI) ได้เคลื่อนขึ้นฝั่งที่ประเทศเวียดนามตอนกลาง เคลื่อนตัวทางตะวันตกเข้าปกคลุมบริเวณใกล้ชายฝั่งเมืองกวีนอน ประเทศเวียดนาม เคลื่อนตัวทางตะวันตกเคลื่อนผ่านประเทศลาวตอนล่าง กัมพูชา และจะเข้าสู่ประเทศไทยบริเวณจังหวัดสระแก้วในระยะต่อไป พายุนี้จะเริ่มมีผลกระทบต่อประเทศไทย โดยมีฝนตกหนาแน่นเพิ่มมากขึ้นกับมีลมกระโชกแรงและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ดังนี้

ในช่วงวันที่ 6-7 ต.ค. 55 ผลกระทบโดยตรงบริเวณจังหวัดอุบลราชธานี ศรีษะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ นครราชสีมา สระแก้ว ปราจีนบุรี และนครนายก ผลกระทบโดยอ้อมบริเวณจังหวัดเลย ชัยภูมิ พิจิตร พิษณุโลก เพชรบูรณ์ นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท ลพบุรี สระบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง อยุธยา กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด

ในช่วงวันที่ 7-8 ต.ค. 55 ผลกระทบโดยตรงบริเวณจังหวัดสุรินทร์ บุรีรัมย์ นครราชสีมา เพชรบูรณ์ปราจีนบุรี สระแก้ว นครนายก ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท ลพบุรี สระบุรี สุพรรณบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง อยุธยา นครปฐม สมุทรสาคร สมุทรสงคราม กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ผลกระทบโดยอ้อมบริเวณจังหวัดกาญจนบุรี ราชบุรี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร ระนอง และพังงา

ในช่วงวันที่ 8-9 ต.ค. 55 มีผลกระทบต่อบริเวณจังหวัดอุทัยธานี นครสวรรค์ กาญจนบุรี ราชบุรี สุพรรณบุรี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร ระนอง และพังงา


ลักษณะอากาศทั่วไป เมื่อเวลา 16:00 น.วันนี้   
   

เมื่อเวลา 16.00 น. วันนี้ (6 ต.ค. 55) พายุโซนร้อน “แกมี” (GAEMI) บริเวณใกล้ชายฝั่งเมืองกวีนอน ประเทศเวียดนาม หรือที่ ละติจูด 13.4 องศาเหนือ และ ลองจิจูด 109.6 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 80 กม./ชม. พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกด้วยความเร็วประมาณ 25 กม./ชม. คาดว่า พายุนี้จะเคลื่อนขึ้นฝั่งในเย็นนี้ (6 ต.ค. 55) ต่อจากนั้นจะเคลื่อนผ่านประเทศลาวตอนล่าง กัมพูชา และจะเข้าสู่ประเทศไทยบริเวณจังหวัดสระแก้วในระยะต่อไป พายุนี้จะเริ่มมีผลกระทบต่อประเทศไทย โดยมีฝนตกหนาแน่นเพิ่มมากขึ้นกับมีลมกระโชกแรงและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ดังนี้

 ในช่วงวันที่ 6-7 ต.ค. 55 ผลกระทบโดยตรงบริเวณจังหวัดอุบลราชธานี ศรีษะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ นครราชสีมา สระแก้ว ปราจีนบุรี และนครนายก ผลกระทบโดยอ้อมบริเวณจังหวัดเลย ชัยภูมิ พิจิตร พิษณุโลก เพชรบูรณ์ นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท ลพบุรี สระบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง อยุธยา กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด

 ในช่วงวันที่ 7-8 ต.ค. 55 ผลกระทบโดยตรงบริเวณจังหวัดสุรินทร์ บุรีรัมย์ นครราชสีมา เพชรบูรณ์ปราจีนบุรี สระแก้ว นครนายก ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท ลพบุรี สระบุรี สุพรรณบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง อยุธยา นครปฐม สมุทรสาคร สมุทรสงคราม กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ผลกระทบโดยอ้อมบริเวณจังหวัดกาญจนบุรี ราชบุรี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร ระนอง และพังงา

 ในช่วงวันที่ 8-9 ต.ค. 55 มีผลกระทบต่อบริเวณจังหวัดอุทัยธานี นครสวรรค์ กาญจนบุรี ราชบุรี สุพรรณบุรี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร ระนอง และพังงา สำหรับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือเพิ่มความระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือ และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่ 7-9 ต.ค. 55 ไว้ด้วย

[Manop Klabdee]

อรณวิภังคสูตร

สูตรว่าด้วยการแจกธรรมที่ไม่มีข้าศึก

   พระผู้มีประภาคประทับ ณ เชตวนาราม  ตรัสแสดงอรณวิภังค์  คือการแจกธรรมที่ไม่มีข้าศึก  มีใจความสำคัญคือ:-

   ไม่พึงประกอบเนืองๆ ซึ่งกามสุข และการทรมานตัวให้ลำบาก  พระตถาคตตรัสรู้ทางสายกลางที่ไม่อาศัยส่วนสุดทั้งสอง  อันทำให้เกิดดวงตา  เกิดวิญญาณ  เป็นไปเพื่อตรัสรู้และนิพพาน.  พึงรู้การยกย่อง การรุกราน  แล้วไม่พึงแสดงธรรมยกย่องหรือรุกรานบุคคล.  ไม่พึงกล่าววาจาในที่ลับ (ไม่พูดส่อเสียด), ไม่พึงกล่าววาจาเลอะเทอะเมื่ออยู่ในที่พร้อมหน้า, พึงพูดโดยไม่รีบด่วน, ไม่พึงยึดถือถ้อยคำในชนบท  ไม่พึงข้ามบัญญัติทางโลก (คือไม่ยึดมั่นถือมั่นโวหารทางโลก  แต่ในขณะเดียวกัน  ก็ไม่ขวางโลก โดยไม่ยอมพูดรู้เรื่องกับชาวโลก).  พร้อมทั้งตรัสอธิบายโดยละเอียดว่า ข้อปฏิบัติหรือธรรมะที่กล่าวมานี้เป็นธรรมที่ไม่มีข้าศึก.

   ตรัสสอนภิกษุทั้งหลายให้รู้จักธรรมทั้งที่มีข้าศึกและไม่มีข้าศึก  และให้ปฏิบัติข้อปฏิบัติที่ไม่มีข้าศึก. แล้วตรัสสรรเสริญ  กุลบุตรชื่อสุภูติเป็นผู้ปฏิบัติข้อปฏิบัติที่ไม่มีข้าศึก.


สวัสดีครับ ชาวซีมะโด่ง และแขกผุ้มาเยือน ที่รักทุกท่าน

                              พระสูตรนี้ เปรียบเสมือน หัวใจของพุทธศาสนา เลยก็ได้  ขอให้ท่านพิจารณาแบบ โยนิโสมนสิการ 

                              ท่านก็จะเห็นความจริง ว่า พุทธศาสนา ไม่กล่าวล่วงเกินศสนาอื่น หรือลัทธิอื่น หรือบุคคลอื่น

                              พุทธศาสนา ไม่สุดโต่ง หรือขวางโลก พูดง่ายๆ คือ ตัวเองถูกหมด คนอื่นผิด นั่นคือผู้ขวางโลก

                              พุทธศาสนา เป็นมิตรกับทุกศาสนา นั่นเอง

                              นอกจากนี้ยังไม่ลบหลู่คนบ้านนอก ที่อยู่ห่างไกลความเจริญ คือยังมีวัฒนธรรมหล้าหลัง

                              อย่าลืมพระพุทะองค์สอนให้ปฏิบัติในทางสายกลาง ไม่ทรมานตน และไม่สูขสบายเกินไปแบบทางโลก

                              สวัสดี

[สมชาย17]

 

		อ้างถึง
	อ้างถึง ข้อความของ Manop  Klabdee เมื่อ 06 ตุลาคม 2555, 20:42:59 อ้างถึง ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 06 ตุลาคม 2555, 17:32:56 พี่สิงห์ ไม่อยากมองไปในแง่ร้ายมากนัก ปีหน้าแล้งก็ดีน่ะ (ต่เราต้องดูแลบ้านและทรัพย์สินให้ดีกว่านี้ ??) หากเกิดภัยแล้ง น้ำขาด ทำให้การปลูกข้าวลดลง การรับจำนำในปีหน้าจะได้ไม่ต้องเกิดมาล้างผลาญเงินของประเทศ ข้าวสารในตลาดโลกจะขาดสมดุล ข้าวสารในโกดังจะได้ขายได้เสียที ?? กลัวแต่ว่า พวกมันจะขายถูก ให้พรรคพวกเอาไปทำกำไรเข้ากระเป๋า แทนให้ประเทศครับ สภาพัฒน์ฯ เสนอให้รัฐบาลระบายข้าวสาร โดยต้องมีกำไรเพื่อชดเชยรายจ่ายของรัฐ อาทิ ค่าใช้จ่ายของเจ้าหน้าที่ อคส. ค่าฝากคลัง ค่าอบรมยารักษาคุณภาพ ดอกเบี้ยของ ธกส. ฯลฯ แต่ยังไม่เคยมีครั้งใด และรัฐบาลใดทำตามข้อเสนอของสภาพัฒน์ฯ เลย ?? เพราะหากราคาข้าวในตลาดโลกมีราคาสูงขึ้น รัฐบาลจะตั้งราคาค่าปรับปรุงคุณภาพให้สูงไว้ เพื่อดูดเงินส่วนนี้ให้บริษัทปรับปรุงข้าวเอาไป ?? เรียกว่า มีกลโกง เอาทุกรูปแบบครับ ??!!!! สวัสดีครับ คุณเหยง                         ผมจำได้ว่าผมเคยบอกให้ทราบเอาไว้แล้ว รัฐบาลจะขายข้าวในราคาขาดทุนให้กับพ่อค้า ที่เป็นคนของรัฐบาล  โดยมีข้ออ้างว่า ต้องยอมขาดทุนจะได้ขายได้ในตลาดโลก                         จะต้องมีข้าวส่วนหนึ่งที่มีแต่จำนวน แต่ข้าวไม่มี  ผมก้อยากรู้ว่าจะมีข้อแก้ตัวอย่างไร  เพราะท่านนายกบอกว่า นโยบายรับจำนำข้าวเป็นนโยบายที่ดี  แต่เรื่องทุจริตมันเป็นอีกเรื่องหนึ่ง  ซึ่งจริงๆ มันเป็นเรื่องเดียวกัน เพราะส่วนใหญ่พ่อค้าโรงสีร่วมกับนักการเมืองฝ่ายรัฐบาล ในการจำนำข้าว                          กรรมใดใครทำไว้  สักวันต้องได้รับผลกรรมอันนั้น                          หน้าแล้วปีหน้าจงระวัง  สาระพัดปัญหา  ดีไม่ดี รัฐบาลจะอยู่ไม่ได้ครับ                          สวัสดี

ผมขะนำเสนอ กรรมการหอ  ในวาระซีมะโด่งเสวนา
ให้เชิญพี่เหยง มาพูดเรื่อง การรับขำนำข้าว ประเทศได้ประโยชน์/เสียประโยชน์อย่างไร
สวัสดี