คุย กับ คุณมานพ กลับดี อดีตประธานชมรม ๓ สมัย

[Khun28]

เรียนพี่สิงห์
       หนังสือที่พี่ต้องการใช่เล่มสีฟ้าด้านขวาหรือเปล่าคร้บ  หนาประมาณ ๒๕ หน้าครับ

[Manop Klabdee]

		อ้างถึง			ข้อความของ Khun28 เมื่อ 10 กันยายน 2555, 20:17:45
	เรียนพี่สิงห์        หนังสือที่พี่ต้องการใช่เล่มสีฟ้าด้านขวาหรือเปล่าคร้บ  หนาประมาณ ๒๕ หน้าครับ

สวัสดีครับ ท่านขุน

                        ไม่ใช่เล่นนี้  แต่ท่าทางเล่มนี้น่าสนใจมาก ครับ เขามีจำนวนมากๆ ไหม? จะขอทำบุญ แบ่งเอาไปแจกเพื่อนฝูง  ชาวบ้านครับ เพราะเล่มไม่หนามาก  คงมีแต่แก่น เท่านั้นจริงๆ

                        ขอบคุณมากครับ

                        สวัสดี

[Manop Klabdee]

		อ้างถึง			ข้อความของ too_ploenpit เมื่อ 10 กันยายน 2555, 10:34:16
	อ้างถึง ข้อความของ Manop  Klabdee เมื่อ 10 กันยายน 2555, 07:43:40 อ้างถึง ข้อความของ too_ploenpit เมื่อ 06 กันยายน 2555, 08:22:54 อ้างถึง ข้อความของ Manop  Klabdee เมื่อ 05 กันยายน 2555, 20:08:58 อ้างถึง ข้อความของ too_ploenpit เมื่อ 05 กันยายน 2555, 09:39:14 ...สวัสดีค่ะ...พี่สิงห์... ...ชดใช้กรรมไปในชาตินี้บ้างก็ดีนะคะ... ...เผื่อเกิดชาติหน้า...กรรมจะได้ติดตัวน้อยหน่อย... ...เลี้ยงสัตว์เพื่อให้เขาเอาไปฆ่า...เป็นหนึ่งในบาปที่ไม่ได้เลี้ยงชีวิตตามมรรค 8... ...คือไม่ใช่สัมมาอาชีวะ... ...เมื่อก่อนนี้พี่สาวตู่เค้าก็มีอาชีพเลี้ยงไก่ค่ะ...ทำฟาร์มไก่... ...พอสามเดือนที...ก็ส่งขายทีนึง...รายได้ดีมาก... ...แต่ครอบครัวอยู่ไม่สุข...อยู่ๆสามีก็ไปอยู่กับเมียน้อย... ...ตู่เลยบอกให้เค้าเลิกเลี้ยงไก่ค่ะ...แต่ชีวิตก็ยังลุ่มๆดอนๆเพราะต้องชดใช้กรรม... ...ก็ยังดีไม่งั้นจะบาปหนักกว่านี้...ตอนนี้ก็ได้เงินบำนาญจากสามีบ้าง...ลูกส่งเสียบ้างค่ะ... สวัสดีค่ะ คุณน้องตู่ ที่รัก                          เพราะ "อวิชชา" คือความไม่รู้ใน อริยสัจ ๔  กฏไตรลักษณ์  ปฏิจจสมุปาบาท และสติปัฏฐาน ๔ คนจึงได้รับทุกข์ และต้องชดใช้กรรมที่ตนเองกระทำไว้ ดังนี้แล                         แต่ยังดี ที่ยังสำนึกได้  ในชาตินี้ขณะมีชีวิตอยู่  ยอมรับการชดใช้กรรมบางส่วน หรือทั้งหมด  กรรมมันจะได้หมดไป  ไม่เหลือตกค้าง  จะได้สิ้นทุกข์กันเสียที                          การชดใช้กรรมที่เราก่อ  มันไม่เสียหายอะไรเลย  เมื่อเราทราบความจริงแล้ว  ยอมรับมัน เราก็ไม่ทุกข์ เพราะตัวทุก คือ รูป-นาม  ไม่ใช่ตัวตนของเรา เพราะเราไม่มีตัวตน                          ราตรีสวัสดิ์ค่ะ ...สวัสดีค่ะ...พี่สิงห์...พี่ป๋อง... ...สมัยเด็กๆตู่ก็ได้เคยทำบาปโดยไม่รู้เหมือนกันค่ะ... ...เช่น...จับตั๊กแตนมาต่อยมวยกัน...จับปลาจับปูมาใส่ในกระป๋องแล้วทิ้งไว้จนมันตาย... ...จับแมลงทับ...เต่าทองมาดูเล่นเพราะสวยงามแล้วมันก็เฉามือตายในที่สุด... ...อาจเป็นเพราะเวลาเราเล่น...เราอยู่ห่างจากผู้ใหญ่ไม่มีใครคอยสอน...คอยบอก... ...เราเลยทำบาปโดยไม่ได้ตั้งใจค่ะ... ...แต่พอโตขึ้นมาหน่อยนึง...เราก็พอจะเรียนรู้ด้วยตัวเราเองได้... ...จำได้ว่าเคยขอชีวิตปลาที่พ่อเค้าจับได้...เกิดความเมตตาขึ้นมาในขณะนั้นว่าไม่น่าจะไปเบียดเบียนเค้า... ...ไม่ได้เห็นดีด้วย...แต่บางครั้งชีวิตเราก็จำเป็นต้องดำเนินไปตามแบบที่ผู้ใหญ่กำหนดไว้... ...หรืออาจเป็นกรรมที่ผูกพันกันไว้ในอดีตทำให้เราต้องมาอยู่ในสภาพเช่นนั้น... ...พอได้มาอ่านหนังสือธรรมะแล้วถึงได้เข้าใจความเป็นมาเป็นไปที่เกิดขึ้น... ...ตู่ว่าสมควรอย่างยิ่งเลยที่พ่อแม่ควรจะพาลูกเข้าวัดตั้งแต่ยังเด็กๆ... ...หรือให้เด็กๆได้มีโอกาสฟังธรรมตั้งแต่ยังพอรู้เรื่องได้... ...ชีวิตจะได้บริสุทธิ์สะอาดตั้งแต่วัยเยาว์และไม่เผลอทำกรรมตั้งแต่ยังเด็กๆค่ะ... สวัสดีค่ะ คุณน้องตู่ ที่รัก                          นั่นละเป็นหนทางปฏิบัติที่พ่อ-แม่ควรกระทำอย่างยิ่งต่อบุตร-ธิดา ที่ตนรัก                          พี่สิงห์ แนะนำเสมอกับบุคคลที่เรามีความปราถนาดีต่อเขา คือแนะนำให้เขาพา บุตร-ธิดา ได้ใส่บาตรพระ ตอนเช้า เพื่อว่าเขาจะได้มีจิตใจเป็นผู้ให้  มีเมตตา  ไม่อิจฉา ริษยา หรืออยากได้ขอผู้อื่น นี่ละพื้นฐานของมนุษย์ อย่างหนึ่ง ที่มีความจำเป็น  ต้องสอนและกระทำในสิ่งที่เป็นกุศล (ไม่ใช่ ดร.กุศล) เขาจะได้ซึมทราบสิ่งดีๆ ไปเอง ครับ                          สวัสดีค่ะ ...สวัสดีค่ะ...พี่สิงห์... ...ชีวิตในวัยเด็ก...ถึงแม้ได้ทำกรรมบางอย่างไปโดยไม่รู้เรื่อง... ...แต่ก็มีบางช่วงที่ได้ทำบุญโดยไม่รู้เรื่องอีกเหมือนกันค่ะ... ...อย่างวันนักขัตฤกษ์...ที่สำคัญๆ...คุณพ่อคุณแม่ก็ได้ทำกับข้าวใส่ปิ่นโตแล้วพาตู่ไปทำบุญพร้อมๆกับเพื่อนๆบ้านในสนามบิน... ...ตอนวัยรุ่น...คุณป้าจะเตรียมอาหารให้ใส่บาตรทุกเช้าค่ะ...เรามีหน้าที่ไปนั่งรอพระท่านมาบิณฑบาตร... ...ซึ่งเราไม่รู้หรอกว่ามันได้บุญมากขนาดไหน...แถวๆสนามบินไม่มีวัดด้วยค่ะ... ...มีแต่สำนักสงฆ์เล็กๆ...เรียกได้ว่าตู่ได้สะสมบุญมาตั้งแต่เด็กๆด้วยค่ะ... ...แล้วสิ่งที่เราได้อธิษฐานไว้มันก็ได้ทุกอย่างสมปรารถนาเลยค่ะไม่น่าเชื่อจริงๆ...

สวัสดีค่ะ คุณน้องตู่ ที่รัก

                          นั่นละอานิสสงฆ์ ของการใส่บาตรพระมาตั้งแต่เล็กๆ ละ

                          พี่สิงห์ ก็ใส่บาตรพระมาตั้งแต่เล็กๆ และกินข้าวก้นขันใส่บาตรทุกวันเพราะพ่อ-แม่ บอก กินข้านก้นขัน จะมีสมองดี  เรียนเก่ง  มาเลิกใส่ตอนที่น้องสาวมาทำหน้าที่ใส่บาตรพระแทน  แต่ทุกวันพระก็ไปทำบุญ  แต่พอมาอยู่กรุงเทพฯเพื่อเรียนหนังสือ ไม่ได้ทำบุญเลย เพราะเราเองก็ต้องซื้อข้าวกิน  เงินมีจำกัด ครับ

                         ใครที่มีหลานๆ หน้าที่จะหุงข้าวให้หลานได้ใส่บาตรพระทุกเช้า ครับ

                         สวัสดีครับ

[Manop Klabdee]

		อ้างถึง			ข้อความของ khesorn mueller เมื่อ 10 กันยายน 2555, 17:37:31
	พี่สิงห์กลับจากเวียตนามรึยังคะ? มีรูปมาฝากที่นี่รึปล่าว? พี่กุศลคงกลับถึงเมืองไทยแล้ว! หนิงหมุนเข้าเบอร์พี่ช่วงพี่อยู่ออสเตรียคะ หรืออยู่มิวนิคแหละ...พี่นำโทรศัพท์ไทย ไปด้วยรึปล่าวคะ? nn.

สวัสดีค่ะ คุณน้องหนุ๋งหนิ๋ง ที่รัก

                          พี่สิงห์  กลับจากเวียตนามแล้ว

                          รูปถ่ายมีไม่มาก เพราะว่าเคยไปมาแล้ว

                           สิ่งที่เห็นคือ รถมอเตอร์ไซค์มากกว่าเดิม มีประมาณ ๔ ล้านคันเฉพาะในกรุงฮานอย(ไกด์ บอก)

                           รถเก๋งมีมากขึ้น และมีรถ Taxi ด้วย ซื่งเมื่อก่อนไม่มี

                           รถเก๋ง  รถทัวร์  รถโดยสาร  ใหม่หมด เพราะว่าผลิตที่เวียตนาม โดยต่างชาติ คือ ฮุนได และโตโยต้า

                           สาว ๆ ขายบริการมากขึ้น เพราะเศรษฐกิจ  เวียตนามยังไม่ฟื้นตัว  คนยังไม่มีงานทำ  ตึกศูนย์การค้า  โรงแรม  คอนโด ตึกแถว  ยังไม่ได้ก่อสร้างต่อให้เสร็จ  ปล่อยล้างเป็นโครงการๆ  มีให้เห็นจำนวนมาก แสดงว่า เศรษฐกิจยังไม่ฟื้น

                            ตอนนี้ใครไปลงทุนในเวียตนาม  ยกเว้นภาษีทั้งหมด และรัฐบาลแจกที่ดินให้ด้วย เพราะต้องการให้ต่างชาติมาลงทุน  คนเวียตนามจะได้มีงานทำ

                             เอาไว้จะมาเล่าให้ฟังภายหลังครับ

                             ราตรีสวัสดิ์ค่ะ

[Manop Klabdee]

สวัสดีครับ ชาวซีมะโด่ง และแขกผู้มาเยือน ที่รักทุกท่าน

                               แปลก แต่จริง !

                               แม่เข้าโรงพยาบาลตั้งแต่วันศุกร์  ด้วยอาการที่ไม่น่ารอดมาได้ เพราะ หัวใจล้มเหลว จนมีน้ำขังในปอด  แม่ไม่เคลื่อนไหว  นิ่ง  หายใจอ่อนๆ พี่ๆ ทุกคนไปเยี่ยมแม่ ครบ ยกเว้นผมและพี่สาวที่อยู่อเมริกา  คุณหมอวิทิต  เองซึ่งเป็นผู้รักษาแม่  ยังมีน้ำตาให้เห็น เพราะรู้ว่าแม่ต้องจากไปแน่นอนคราวนี้

                               แต่แม่ที่ผมเห็นวันนี้  กลับเป็นอีกคนหนึ่ง  แม่พูด กับผม  มีสติสมบูรณ์  จำได้หมด ว่าจะให้ผมทำอะไรให้  แม้แต่ขนมหม้อแกง ก็ทวง  และผมก็ซื้อเอาไปด้วย  แต่ไม่สามารถให้กินได้ เพราะแม่กลืนไม่ได้  แม่ทวงแพรวให้พาไปนั่งรถใหม่ เพราะแพรวได้รถใหม่  เคยบอกยายไว้ว่า ซื้อรถใหม่เมื่อไร จะพายายไปนั่งรถเที่ยว  แต่ก็ไปไม่ได้ เพราะคุณหมอวิทิต  ไม่ให้เคลื่อนย้ายยายไปไหนทั้งสิ้น  ให้อยู่โรงพยาบาลเท่านั้น

                               แม่กลับมาหายใจเป็นปกติ  ไม่ติดขัด  แต่ยังใช้เครื่องช่วยหายใจ  

                               ผมถามพยาบาลว่า "ปอดยายเป็นอย่างไรบ้าง"  พยาบาลบอกว่า "ใช้งานได้ ๕๐%"

                               แต่น้องสาวก็บอกว่า  มันเป็นอาการที่กลับมาดีชั่วคราวเท่านั้น  เพราะหัวใจได้ล้มเหลวไปแล้ว และจะกลับมาอีก มันอ่อนหล้าเต็มที  ต้องยกให้คุณหมอวิทิต  ที่สามารถดูแลแม่  ให้กลับมาพูดคุยได้อีกครั้ง

                               วันนี้ผมก็ถามแม่ว่า "กลัวตายไหม ?" แม่ก็ตอบทันที พร้อมทั้งส่ายหน้าว่า "ไม่กลัวตาย" ผมก็บอกแม่ว่า "เมื่อไม่กลัวตาย ก็อยู่กันต่อไป  จนกว่าร่างกายมันจะหมดสภาพจริงๆ เพราะแขนแม่ก่อนที่ผมจะไปเวียตนาม กับตอนนี้ มันเล็กลงกว่าเดิมมาก มีแต่หนังหุ้มกระดูก  ผมยืนพิจารณาดูแล้ว ก็ได้แต่เรียนรู้ เตือนตัวเอง นี่ละ อนิจจัง  ทุกขัง  อนัตตา ละ บังคับอะไรไม่ได้เลย  ดังนั้นเราอย่าลงไปยึดมั่นถือมั่นในตัวตนเราเลย  ตัวตนเราไม่มี  มีแต่รูป-นามเท่านั้น  รูปก็มีแต่ธาตุทั้ง ๔ ประกอบกัน  นามก็ไม่มีตัวตน  รูป-นาม บังคับให้ตรงตามใจเราไม่ได้เลย  แล้วเราจะไปหลงว่ามีตัวตนของเราไปทำไม  ปล่อยวางมันไปเสียที  ตัวทุกข์ คือ รูป-นาม ไม่มีตัวตนที่แสดงเป็นเราเลย  

                               ดังนั้น วันนี้ผมจึงกลับมานอนกรุงเทพฯ

                               พรุ่งนี้เช้าภายหลังผมใส่บาตรพระที่หน้าบ้านแล้ว ค่อยไปอยู่กับแม่ใหม่ ที่สิงห์บุรี ครับ

                               ขอบคุณทุกท่าน ที่เป็นห่วง  เป็นกำลังใจให้แม่ ครับ

                               ค่ำนี้ ราตรีสวัสดิ์ทุกท่าน ครับ

[พธู ๒๕๒๔]

เยี่ยมจริง ๆ อยู่อย่างมีสติ รู้ตัว รู้ตน พร้อมที่จะก้าวไปอย่างมีสติ

[Manop Klabdee]

		อ้างถึง			ข้อความของ พธู ๒๕๒๔ เมื่อ 10 กันยายน 2555, 22:58:11
	เยี่ยมจริง ๆ อยู่อย่างมีสติ รู้ตัว รู้ตน พร้อมที่จะก้าวไปอย่างมีสติ

สวัสดียามเช้าครับ ป๋าทู

                        หวังว่าคงสบายดีนะครับ

                        ถ้ามีเวลา กลับมาดู รูป-นาม บ้าง ดูดีๆ  พิจารณาดีๆ จพทราบความต้องการของมันด้วยตัวเอง

                        ทุกสิ่งทุกอย่างนั้น เราทราบด้วยตัวเองทั้งสิ้น  ยกเว้นผู้ที่หลงอยู่ในโมหะ(เป็นทาสความคิด) และยังยึดมั่นว่า รูป-นาม มีตัวตน แสดงเป็นตัวของเราอยู่ เท่านั้น  จึงต้องวนเวียนอยู่อย่างนั้น  ไม่เห็นธรรมชาติที่แท้จริงของ รูป-นาม

                        อย่าลืมรูป-นาม เป็นตัวทุกข์  เราจึงต้องมาโยนิโสมนสิการ  รูป-นาม นั้น เพื่อให้ รูป-นาม  เกิดการเบื่อหน่าย ของมันเอง จนถึงวิราคะ พ้นทุกข์ถาวร

                        สวัสดีครับ

[Manop Klabdee]

สวัสดีครับ ชาวซีมะโด่ง และแขกผู้มาเยือน ที่รักทุกท่าน

                              ผมใส่บาตรพระ  รับประทานอาหารเช้า เรียบร้อยแล้ว  กำลังจะออกเดินทางไปเฝ้าแม่ที่โรงพยาบาลสิงห์บุรี ครับ

                              สำหรับทุกท่านที่อยากจะเริ่มต้นปฏิบัติธรรม   หรือทุกท่านที่ไม่รู้จะทำอะไร  และมีเวลา

                              ขอให้ลองพิจารณาแบบ "โยนิโสมนสิการ" ถึงข้อปฏิบัติ  ข้อห้ามทั้งหลาย ในศีล ๕ ซึ่งทุกท่านทราบกันดีอยู่แล้ว  ท่านจะเห็นประโยชน์อย่างมหาศาลจริงๆ  ท่านไม่ต้องไปพะวงคนอื่น เริ่มที่ตัวท่าน อยู่กับศีล ๕ นั่นละคือการปฏิบัติธรรม  ปฏิบัติตามคำสอนของ "สมณโคดม" ที่แท้จริง  ท่านจะถึงนิพพาน  ด้วยตัวของท่านเอง  รู้ด้วยตัวของท่านเอง  ไม่เชื่อลองดูครับ

                               นอกจากนี้ขอให้ท่าน ไปหาหนังสือสวดมนต์พร้อมคำแปล นำมาสวดมนต์ตอนตื่นนอนเช้า และก่อนเข้านอน เป็นประจำทุกวัน

                               ทั้งสองสิ่งนี้ ถ้าท่านกระทำได้  อย่างน้อยท่านจะได้เป็นพระโสดาบัน ในชาตินี้แน่นอนครับ  ผมมีความเชื่ออย่างนี้จริงๆ

                               แต่อย่าลืมทั้งสองสิ่งนี้มันอยาก หนักหนาจริงๆ สำหรับปุถุชนม์ คนธรรมดาอย่างเราๆ ท่านๆ ทั้งหลาย

                               แต่ก็ไม่เกินความสามารถที่ท่านจะกระทำได้

                               บทสวดมนต์ทำวัตรเช้า-เย็น นั้น จะทำให้ท่านได้รับทราบคำสอนที่เป็นแก่นของพุทธศาสนาของ สมณโคดม (โดยเฉพาะ บทสวดมนต์ทำวัตรเช้า)

                               ศีล ๕ จะทำให้ท่านรักษากาย  วาจา  ใจ  ให้เป็นปกติ  อยู่อย่างเป็นสุข

                               ทุกท่านเปรียบเสมือนเป็นบัวปริ่มน้ำ  รอการชี้แนะ และลงมือปฏิบัติ เท่านั้น

                               ลองดูครับ  ท่านจะรู้ด้วยตัวของท่านเอง  ตามที่ผมชี้แนะทุกประการ  ทดลองสักสามเดือนดูนะครับ

                               สวัสดี

[Manop Klabdee]

 

สวัสดีครับ ชาวซีมะโด่ง และแขกผู้มาเยือน ที่รักทุกท่าน

                            สำหรับทุกท่านที่เกิดความวิตกกังวล ต่างๆ กลัวน้ำท้วมนั้น !

                             ขอให้อยู่กับความจริง ครับ

                             ยังไม่มีพายุ พัดผ่านประเทศไทยเลยที่ผ่านมา เป็นเพียงหย่อมความกดอากาศต่ำ  ร่องมรสุมพัดผ่าน ในฤดูฝนที่มาช้าเท่านั้น

                             ปริมาณน้ำในเขื่อน  ยังมีประมาณ ไม่เกินเฉลี่ย 50% เลย ในภาคกลาง

                             สิ่งที่ท่านเห็นตาม TV  และรับทราบจากนักการเมือง นั้น เป็นสิ่งที่เขารู้ไม่จริง  หวังผลตามความคิดของเขามากกว่าความเป็นจริง  คาดเดาเอาทั้งนั้น 

                             บ้านที่ท่านเห็นว่าน้ำท้วมนั้น บ้านปลูกอยู่ในพื้นที่ลุ่มมากๆ  อยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา  ชาวบ้านเขาทราบของเขาดีอยู่แล้ว  แต่ทาง TV ไปช่วยประโคมข่าว ก็ดี เขาจะได้รับการดูแลจากรัฐบาล

                             ส่วนใหญ่น้ำที่ท้วมที่ท่านเห็นตามภาคเหนือ มีสาเหตุจากฝนตกติดต่อกันเกินสองวัน น้ำไม่มีทางระบายเพราะถูกถนนกั้น ไหลลงแม่น้ำ  ที่ลุ่ม ตามธรรมชาติได้ช้า  ย่อมท้วมเป็นธรรมดาของมันอยู่แล้ว  ไม่เกินสามวัน สี่วันถ้าฝนไม่ตกซ้ำมันก้แห้งของมัน  ยกเว้นที่ราบลุ่มจริงๆ เช่นที่บางระกำ หรือพิจิตร

                              ทางรถไฟที่โดนน้ำเซาะนั้น  ถึงฝนไม่ตกมันก็จะโดนเซาะอยู่แล้ว เพราะผมเห็นมาแล้วเมื่อสี่ปีก่อนตอนนั่งรถไฟไปเชียงใหม่ เพราะ ไม่เคยได้รับการบำรุงที่ดีเลย มันจึงต้องโดนน้ำเซาะเป็นธรรมดา

                              ระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยา ยังเหลือตลิ่งอีก ๖ เมตร  ที่สิงห์บุรี ที่เห็นเมื่อวานนี้  ดังนั้นน้ำที่ท้วมอยุธยา ต้องเป็นที่ลุ่มมากๆ เท่านั้น

                               ท่านดู ท่านว่าน้ำท้วมนครศรีธรรมราช  แต่เทศบาลนครศรีธรรมราชขาดน้ำดิบทำน้ำประปา  ต้องไปหาน้ำจากจังหวัดใกล้เคียงมาใช้ แจกจ่ายให้ประชาชน ต้องมีเครื่องบินทำฝนเทียมขึ้นปฏิบัติการทุกวัน    มันอะไรกันแน่  พิจารณาให้ดีๆ ครับ เพราะถนน ตัวดีที่ไปกั้นทางน้ำไหลตามธรรมชาติ  ทำให้น้ำไม่มีทางไป หรือไปได้น้อย  อย่าลืมมนุษย์เป็นคนสร้างปัญหา  มนุษย์ย่อมรับกรรมที่ตนสร้างอยู่แล้ว

                               ต้องอยู่กับความจริง  ยึดหลัก "กาลามสูตร" ด้วยตัวของท่านเอง

                               สวัสดี

[too_ploenpit]

...สวัสดี่ค่ะพี่สิงห์และสมาชิกทุกท่าน...

...ตามอ่านทุกความเห็นแล้วค่ะ...

...ดีใจที่คุณแม่ของพี่สิงห์ท่านแข็งแรงขึ้นนะคะ...

...พี่สิงห์จะมาถือศีลที่วัดถ้ำเมื่อไรคะ...มาได้เลยค่ะ...

...ที่นี่คนมาทำบุญกันเยอะค่ะ...ไม่ต้องกลัวเรื่องขาดแคลนอาหาร...

...ยิ่งตอนนี้เข้าพรรษา...ถ้าไม่ใช่วันพระ...ทางโรงครัวก็ทำอาหารเสริม...

...เพียงแต่ว่าวัดจะดูเงียบเหงา...เพราะไม่มีการสอนการปฎิบัติธรรม...

...แต่ตอนนี้ทางวัดกำลังปรับปรุงสถานที่เพื่อเตรียมรับงานปิดทองฝังลูกนิมิตเจดีย์ตอนตรุษจีนปีหน้า...

...ก็พอจะมีเจ้าหน้าที่จากกรมศิลปและคนงานให้เห็นอยู่บ้างไม่เงียบจนเกินไปค่ะ...

[KUSON]

หลักฐานสำคัญว่ากุศลพานิสิตป.โทและเอก ไปอบรมที่ออสเตรียจริง แต่วันแรกเราแวะที่แฟรงค์เฟิร์ท เยอรมันก่อนครับ

[KUSON]

ไม่อยากจะเอ่ยชื่อพระราชวังมิราเบล เดี๋ยวจะหาว่ามาเที่ยวรวมทั้งบ้านเกิดโมสารทสรุปว่านำนิสิทไปอบรมที่ม.เวียนนา 4วัน
ส่วนอาจารย์ก็สำรวจที่อื่นๆบ้าง  จะให้ไปนั่งสัปหงกฟังฝรั่งพูดก็ใช่ที่

[KUSON]

ส่งอาจารย์เด็กๆและนิสิตเข้าอบรมเสร็จครูก็ต้องเหน็ดเหนื่อกับการชมที่โน่น ที่นี่ อ๋อโดยเฉพาะสถานที่ถ่ายทำ เดอะซาวออฟมิวซิกควรเรียนรู้นะครับ

[KUSON]

เหน็ดเหนื่อยแค่ใหนก็ต้องอดทนกว่าจะถึงแต่ละเมือง รู้งี้นั่งฟังบรรยายในมหาวิทยาลัยก็ดีเหมือนกัน(สำนึกได้ก็สายเสียแล้ว)

[KUSON]

นิสิตอบรมอยู่ตั้งห้าวันกว่าจะไดหนังสือรับรองจากมหาวิทยาลัย ต่อจากนั้นครูก็พาไปทัศนศึกษาที่อื่นๆ



เช่นพิพิธภัณฑ์ซิกมันฟรอยด์เป็นต้น

[KUSON]

ย้อนกลับมาที่มิวนิก เยอรมัน พอเข้าที่พัก กุศลนอนไม่หลับจึงชวนรูมเมตตระเวนราตรี

คนซ้ายชื่อ ดร.ธีรภาพจบวิศวะจุฬา เป็นรุ่นน้องชาวหอ และเป็นอาจารย์ในคณะเดียวกันสอนแผนกจิตวิทยา

ส่วนคนขวามือก็จบวิศวะจุฬาเช่นเดียวกันและเป็นรุ่นน้องวชิราวุฒ ตามแฟนมาอบรมค้วย 

คืนนั้น3คนพี่น้องนั่งรถใต้ดินตระเวนราตรี ไม่ได้หลับกันทั้งคืนยันสว่าง

[KUSON]

กลับมาถึงโรงแรมก็ไม่ได้นอนอีกเหนื่อยแทบตาย



ต้องไปดูสนามฟุตบอลฝรั่งเศส  และอีกหลายอย่าง เล่าวันหลังแล้วกัน

[ดร.มนตรี]

		อ้างถึง			ข้อความของ Manop  Klabdee เมื่อ 10 กันยายน 2555, 20:53:27
	อ้างถึง ข้อความของ khesorn mueller เมื่อ 10 กันยายน 2555, 17:37:31 พี่สิงห์กลับจากเวียตนามรึยังคะ? มีรูปมาฝากที่นี่รึปล่าว? พี่กุศลคงกลับถึงเมืองไทยแล้ว! หนิงหมุนเข้าเบอร์พี่ช่วงพี่อยู่ออสเตรียคะ หรืออยู่มิวนิคแหละ...พี่นำโทรศัพท์ไทย ไปด้วยรึปล่าวคะ? nn. สวัสดีค่ะ คุณน้องหนุ๋งหนิ๋ง ที่รัก                           พี่สิงห์  กลับจากเวียตนามแล้ว

ลงชื่ออ่าน ... พร้อมพาเพื่อนสาว ชาวเวียดนาม คนเก่ง ของผม มาสวัสดีพี่สิงห์ ...พี่หนิง ครับ

เธอ ทำงานเป็น Project Manager .... ของ รัฐวิสาหกิจ ด้านโทรคมนาคม ในเวียดนาม






ตอนมาประชุมที่เมืองไทย ... ปีที่แล้ว

[khesorn mueller]

น้องมนตรี,
หมวกเธอสวยคะ..
สาวญวนคนนี้!

[khesorn mueller]

ตามชมรูปพี่กุศลอยู่คะ
สมบุกสมบันสุดขีด..
คงเหนื่อยสุดๆนึกภาพออกเลยพี่.

[KUSON]

น้องหนิงจ๊ะ เหนื่อยแค่ใหนพี่ก็ต้องสู้  ในภาพ ซิ่งรถบีเอ็มโชว์ครับกะบี้พี่ป๋องแหลกเป็นกุ้งฝอย

[KUSON]

ส่วนบีเอ็มคันหรู  จะเอามาฝากพี่สิงห์กับพี่ป่องคนละคันจ๊ะ

[khesorn mueller]

		อ้างถึง			ข้อความของ KUSON เมื่อ 11 กันยายน 2555, 16:15:47
	น้องหนิงจ๊ะ เหนื่อยแค่ใหนพี่ก็ต้องสู้  ในภาพ ซิ่งรถบีเอ็มโชว์ครับกะบี้พี่ป๋องแหลกเป็นกุ้งฝอย

โอ๊ะ โอ๊ะ..อย่าไปชนพี่ป๋องเค้านะพี่!
ช่วงนี้พี่เค้ายิ่งนอนน้อย ไม่ค่อยพัก
พี่ไปดูรูปดิ...พี่เค้าไม่เหลือความหล่อแร่ว.

[khesorn mueller]

BMW สีอันทราไซท์..anthrazit สวยเฉียบคะ
serie ใหม่เหรอพี่?
แต่ 3 ประตูรูปล่าง...สวยค่ะ

[KUSON]

พี่กุศลเป็นคนสมัตถะ  แค่อยู่บ้านหลังเล็กๆก็กวาดถูกันไม่หวัดไม่ไหวแล้วจ๊ะ

เดี่ยวจะไปซื้อวังแวร์ซาย กับ นาฬิการ์โรเล็กซ์ที่สวิส..มาฝากน้องๆอีกหลายคน