swsm
Cmadong Member
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
@@ ยาหยี @@
ออฟไลน์
รุ่น: Rcu2523
คณะ: Comm Arts
กระทู้: 28,369
|
|
« ตอบ #6500 เมื่อ: 06 กรกฎาคม 2555, 16:52:21 » |
|
หมายถึง 8 ส.ค. นะคะ พี่สิงห์
ขอบคุณมากค่ะ จดบันทึกไว้เรียบร้อยแล้ว ..
|
.. don't play with me, cos I know how to play it too .. may be better than you do ..
|
|
|
khesorn mueller
|
|
« ตอบ #6501 เมื่อ: 06 กรกฎาคม 2555, 17:28:44 » |
|
พี่สิงห์คะ, อ่านมาถึงตรงนี้.. ทำให้คิดอะไรตามไปด้วย ที่ว่า..จิต/ขวัญ ของคนเรา อยู่ที่ไหนสักที่ค่ะ ที่เจ้าตัวรู้สึก สบายเนื้อตัว สบายใจ..
บ้าน & วัด ?
บางคนเค้าหาความสงบสุขทางจิตที่บ้านไม่ได้ เค้าก็อาจต้องไปล่องลอยที่นั่น ที่นี่ ที่เค้าคิดว่า จะช่วยให้จิตเค้าสงบสุขลงได้..
บางคนหาความสงบสุขทางใจ ทางจิต วิปัสนา กรรมฐาน praktiziertอย่างจริงจัง..ที่วัด ที่สำนักสงฆ์ จนจะเป็นแฟชั่น ที่นิยมกัน
แต่จะบ้าน รึวัดคะพี่สิงห์ หนิงหวังว่าพวกเค้าจะเจอ ในสิ่งที่เค้าค้นหานะคะ.
ดีจริงๆที่ทราบว่าพี่ก็มีความรู้สึกนี้.
|
|
|
|
|
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์
รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644
|
|
« ตอบ #6503 เมื่อ: 07 กรกฎาคม 2555, 05:57:32 » |
|
รักตัวเอง ! สวัสดียามเช้า ทุกท่านครับ
พี่สิงห์ต้องแอบมาเข้าเวบก่อนที่จะไปออกกำลังกายยามเช้า เพราะแขกโรงแรมมีแยะในการใช้ internet
เมื่อวานได้โอกาส ภายหลังจากที่คุณดลย์นภา มาสวัสดีพี่สิงห์
เลยถามว่า "คุณดลย์นภาคิดอย่างไร มีคติธรรมอย่างไร? จึงสามารถมาออกกำลังกายได้ทุกวัน อย่างสม่ำเสมอ"
คุณดลย์นภา ตอบว่า "เพราะรักตัวเอง และไม่อยากอ้วน"
พี่สิงห์ ถามกลับไปว่า "ทุกคนก็รักตัวเอง"
คุณดลย์นภา ตอบว่า "รักไม่จริง ส่วนใหญ่ดีแต่พูด"
มันก็จริงดังที่คุณดลย์นภาตอบครับสั้นๆ เพราะ "รักตัวเอง"
ดังนั้นเช้านี้ พี่สิงห์อยากจะเชิญชวนทุกท่าน ให้ "รักตัวเอง" อย่างแท้จริง ตอบแทนรูป-นาม ของเราที่รับใช้เรามายาวนานแล้ว ให้คงสภาพการใช้งานต่อไปอีกนาน ไม่ให้เป็นโรคเรื้อรัง
ถ้าท่าน "รักตัวเองจริง" ท่านต้อง
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ อาทิตย์ละอย่างน้อย ๓ วัน และแต่ละครั้งต้องไม่น้อยกว่าหนึ่งชั่วโมง
- รับประทานอาหารแต่พออิ่ม ไม่หลงระเริงตามลิ้นที่รับรู้รสชาด และกินตรงเวลา-ขับถ่ายตรงเวลา
- ทำจิตให้ขาวรอบด้วยการ "รู้สึกตัว หรือ มีสติ" ตลอดเวลา ไม่ส่งจิตออกนอกกาย
- พักผ่อนให้เพียงพอ ด้วยการเข้านอนแต่หัวค่ำ
กระทำเพียงเท่านี้ ถ้าท่าน "รักตัวเองจริง"
สวัสดี
|
|
|
|
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์
รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644
|
|
« ตอบ #6504 เมื่อ: 07 กรกฎาคม 2555, 10:01:50 » |
|
สวัสดีค่ะ คุณน้องยาหยี ที่รัก
ใช่ค่ะ วันพุธที่ ๘ กรกฎาคม เอาที่ไหนดีล่ะ พี่สิงห์สะดวก เซ็นทรัลลาดพร้าว โลตัสลาดพร้าว (ร้านฟูจิ) ร้านวีระสุ(คุณสุภาณ๊) ร้านเพลิน ถนนวิภาวดี-รังสิต รู้จักเพียงเท่านี้จริงๆ ครับ เธอเลือกเอา ที่ไหนก็ได้ จะชวนใครบ้าง
สวัสดี
|
|
|
|
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์
รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644
|
|
« ตอบ #6505 เมื่อ: 07 กรกฎาคม 2555, 10:04:31 » |
|
เห็นภาพที่แสดงท่าเรียนแบบ "มด X" แล้ว ลืมหมดแล้วครับ
แต่ก็ขอบคุณมาก ที่คุณเหยง นำภาพมาลง ให้ดู
สวัสดี
|
|
|
|
swsm
Cmadong Member
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
@@ ยาหยี @@
ออฟไลน์
รุ่น: Rcu2523
คณะ: Comm Arts
กระทู้: 28,369
|
|
« ตอบ #6506 เมื่อ: 07 กรกฎาคม 2555, 10:08:06 » |
|
หยีขอเป็น Central ลาดพร้าวค่ะ เพราะเดินทางสะดวกดี ตัวเองก็ไม่ค่อยรู้จักที่ไหนเหมือนกัน
อยากชวนพี่ป๋อง พี่ปี๊ดไปด้วย ไม่ทราบว่าจะว่างหรือไม่
ขอบคุณอีกครั้งค่ะ พี่สิงห์
|
.. don't play with me, cos I know how to play it too .. may be better than you do ..
|
|
|
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์
รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644
|
|
« ตอบ #6507 เมื่อ: 07 กรกฎาคม 2555, 11:39:57 » |
|
ตกลงเอาตามนี้
วันพุธที่ ๑๑ กรกฎาคม ครับ
ดูเดือนผิดครับ เพราะวันที่ ๖-๑๐ สิงหาคม ต้องไปแข่งขันกอล์ฟอาชีพ ที่สนามกอล์ฟวินเทจคันทรีคลับ ครับ
และเรียนเชิญ ดร.สุริยา คุณรองรัตน์ ด้วย แต่เนื่องจากเซ็นทรัล คนแยะ ผมจะไปจองโต๊ะเอาไว้ก่อนตอน 11:30 น. ครับ ที่ร้านฟูจิ
ขอบคุณมากค่ะ
|
|
|
|
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์
รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644
|
|
« ตอบ #6508 เมื่อ: 07 กรกฎาคม 2555, 12:47:26 » |
|
สวัสดีค่ะ คุณน้องหนุ๋งหนิ๋ง ที่รัก
"บางคนเค้าหาความสงบสุขทางจิตที่บ้านไม่ได้ เค้าก็อาจต้องไปล่องลอยที่นั่น ที่นี่ ที่เค้าคิดว่า จะช่วยให้จิตเค้าสงบสุขลงได้.."
กรณีนี้ แสดงว่า มีปัญหาในครอบครัว ต่างไม่เข้าใจ มันก็เป็นเช่นนั้น เพราะจิตคนคิดไม่เหมือนกัน คนเราจะอยู่ด้วยกัน มันต้องปรับทั้งสองฝ่าย คือลดความถือมั่น ยึดมั่นในแต่ละคน นั่นเอง ให้เหลือในจุดที่ยอมรับกันได้ มันก็สามารถอยู่กันได้ ปัญหานี้ถ้าเกิดใน ผัว-เมีย รับรองไปเจอคนที่เอาใจเป็น มีผัวน้อย-เมียน้อยแน่นอน
บ้านมันต้องเป็นบ้านที่แท้จริง ที่เมื่อเราเข้ามาอยู่ หรือถึงบ้าน มันควรจะมีแต่สิ่งที่เป็นสุข เพราะเราต้องอยู่กับมันทุกวัน เราต้องสร้างบรรยากาศให้สุข สงบให้ได้ เรื่องไหนที่มันไม่มีสุข ให้กองเอาไว้นอกบ้าน เข้ามาบ้านต้องมีความสุข เราจะทำอย่างไรให้สุข ก็ต้องไปลดความต้องการของแต่ละคนลงมา(ความยึดมั่น) ให้ได้นั่นเอง แต่ถ้าแต่ละคนยังมีความต้องการอย่างนั้น อย่างนี้ ก็ไปอยู่คนเดียงซิ เพราะเราทำอะไรแล้วมันไม่ขัดใจเราถูกหมด จิตมันเป็นเช่นนี้
"บางคนหาความสงบสุขทางใจ ทางจิต วิปัสนา กรรมฐาน praktiziertอย่างจริงจัง..ที่วัด ที่สำนักสงฆ์ จนจะเป็นแฟชั่น ที่นิยมกัน"
เฉพาะบางวัดเท่านั้น ไม่ใช่ทั้งหมด เป็นการหารายได้หลักของวัดเลยละ นี่คือความจริง เพราะคน ขอใช้คำว่าโง่ อยู่นั่นเอง (มันคงรุนแรงไป แบบที่บอก วัดดีๆ ทางวิปัสสนา ยังมีอีกมาก เราต้องเลือกเอาเอง อย่าโง่ก็แล้วกัน) เราอย่าไปเห่อตามเขาเลย จงใช้ปัญญาของเราพิจารณา ตามที่พระพุทะองค์ทรงสอน
"แต่จะบ้าน รึวัดคะพี่สิงห์ หนิงหวังว่าพวกเค้าจะเจอ ในสิ่งที่เค้าค้นหานะคะ."
การจะปฏิบัติธรรมที่แท้จริงนั้น ในสมัยพุทธกาล ก็ออกบวช ไปอยู่ตามป่า ตามเขา นั่นกรณีที่ตัดขาดทางโลกแน่นอนแล้ว
ถ้าไปอยู่ตามวัด สงบ กลับมาบ้านมีแต่ความวุ่นวาย เหมือนเดิม อย่าไปเสียดีกว่า ครับ
กรณีอย่างเราๆ ที่ยังต้องดูแลครอบครัว อยู่นั้น แนะนำปฏิบัติที่บ้าน ยังทำงานบ้าน ยังทำงาน แต่ขอให้ทำอะไรก็แล้วแต่ ให้มีความระลึก(สติ) หรือรู้สึกตัวว่าเรากำลังทำอะไรอยู่ ณ เวลานั้น และไม่คิดนอกการกระทำ เช่นคิดนอกกายที่อวัยวะไม่ได้ทำ
พระพุทธเจ้าท่านทรงสอนให้เรามีสติ มีความรู้สึกตัวกับการยืน เดิน นั่ง นอน และการเหยียดแขน คู้แขน ต่าง ๆที่เกี่ยวกับขา เท้า ให้รู้สึกตัว หรือมีอะไรมากระทบร่างกายก็ให้รู้สึกตัว ไม่ปล่อยใจคิดเรื่อยเปื่อย เพียงแค่นี้เท่านั้น
เมื่อเรารู้สึกตัว และมีความสังเกตพอสมควร เราจะแยกความรู้สึกตัว(สติ) และความคิดของเราออกได้ คือ รูป-นาม รูปก็คือร่างกายที่เราเคลื่อนไหว เรารู้สึกตัว นาม คืออาการของจิตที่มันรับรู้ นึก คิด ดังนั้นเราจึงมีทั้ง รูป-นาม อยู่
ความรู้สึก อยู่ในรูป คือตาชั่งถ่วงด้านหนึ่ง ความคิดของจิตคือตาชั่งถ่วงอีกข้างหนึ่ง รูป-นามคือคาน ทำอย่างไรจะให้คานมันรักษาระดับอยู่ได้ ก็คือ ให้รูป คือความรู้สึกตัว มันเร็ว มันทัน ในสิ่งที่นาม คือความคิด คานก็จะสามารถรักษาสมดุลย์ได้ ฉันใด ฉันนั้น
เมื่อเราดูกาย(รูป) ดูจิต (นาม) ออกอย่างนี้ เราจะเข้าใจอะไร ๆ หลายอย่าง คือรู้พฤติกรรมของจิตว่า มันคิดอะไร เราควบคุมมันได้ไหม เราจะทันมันได้อย่างไร ต่างๆ นาๆ มันจะรู้หมด ตามที่พระพุทธองค์ ได้ให้พิจารณาในสติปัฏฐาน ๔ คือ พิจารณากายในกาย เวทนาในเวทนา จิตในจิต ธรรมในธรรม ไม่ต้องไปหาที่ไหน สามารถหาได้เองจากการเอาสติมาดู รูป-นาม ในตัวเราเองนี่ละ มันจะค่อยๆ รู้ไปเรื่อยๆ เราไม่จำเป็นต้องบรรลุอรหันต์ เราก็ได้ประโยชน์จากมันมหาศาลแล้ว
การปล่อยวาง ความโกรธ ความโลภ ความหลง ไม่ต้องไปหามัน มันไม่มีตัวตน ปล่อยให้เป็นธรรมชาติของมัน ตัดทิ้งก็ไม่ได้ โยนทิ้งก็ไม่ได้ แต่เราสามารถอยู่เหนือมันได้ เท่าทันมันได้ ด้วยปัญญาภายใน ที่เรารู้จากการมีสติ หรือรู้สึกตัว ครับ
ทุกสิ่งทุกอย่าง เราสามารถค้นพบด้วยตัวของเราเอง ที่บ้านได้ ไม่ต้องไปวัด เพราะไปวัดที่ไม่ดี มีแต่มารแยะ ครับ จะมีแต่คำถามมากมาย มันก็ตกอยู่ในความคิดอีก ซึ่งผิด
การรู้สึกตัวไม่ใช่ความคิด
ความสุขที่แท้จริง ไม่ใช่อย่างที่เธอเข้าใจ
ความสุขที่แท้จริงมันสว่าง สงบมากกว่าที่เราง่วงนอนจัด แล้วหลับ ตื่นขึ้นมาจิตแจ่มใส มันมากกว่านั้น ครับ พี่สิงห์สัมผัสได้เพียงชั่วครู่ ชั่วยามเท่านั้น มันไม่ถาวร จึงบอกได้แค่นี้ โดยย่อ
หลวงพ่อเทียนท่านเน้นย้ำหลัก กาลามสูตร และให้หาเอาเอง อย่าไปจำมาจากการอ่าน การได้ฟัง แล้วเอามาเขียน ให้หาเอาเองจากตัวเองที่มันเกิดขึ้น นั่นละความจริงถูกต้องแท้แน่นอน ที่สามารถหาได้ ใครก็เอาไปไม่ได้
สวัสดี
|
|
|
|
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์
รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644
|
|
« ตอบ #6509 เมื่อ: 07 กรกฎาคม 2555, 13:06:26 » |
|
ดร.สุริยา
งานณาปนกิจ พระราชทางเพลิงศพ คุณแม่ ของคุณอ้อย(จารุวรรณ) วันอาทิตย์ บ่ายสองโมง ที่วัดธาตุทอง ใช่หรือไม่ เพราะผมไม่ทราบอะไรเลยจริงๆ และขอบคุณที่เตือน-แจ้งให้ทราบ
สำหรับงานสวดพระอภิธรรม เย็นนี้ คงไปไม่ทัน เพราะถึงบ้านก็หกโมงเย็นแล้ว และมีคนมาดักรอที่สนามบินดอนเมือง เพื่อให้เซ้นแบบ ของ มอก.เสาเข็ม จากเชียงราย ครับ
งาน วศ. ๑๓ ไม่ได้ไป เพราะไปไม่ทันเช่นกัน
ยังอยู่นครศรีธรรมราช Boarding 15:55 น.
ขอไปงานเผา เวลาบ่ายสองโมงแทน ก็แล้วกัน
สวัสดี
|
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #6510 เมื่อ: 07 กรกฎาคม 2555, 13:11:36 » |
|
|
|
|
|
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์
รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644
|
|
« ตอบ #6511 เมื่อ: 07 กรกฎาคม 2555, 13:16:23 » |
|
|
|
|
|
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์
รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644
|
|
« ตอบ #6512 เมื่อ: 07 กรกฎาคม 2555, 21:06:05 » |
|
สวัสดีค่ะ คุณน้องยาหยี ที่รัก
วันพุธที่ ๑๑ กรกฎาคม ที่จะถึงนี้นะจ๊ะ พี่สิงห์ ต้องขอโทษ ดูเดือนผิดครับ
ราตรีสวัสดิ์ค่ะ
|
|
|
|
|
suriya2513
|
|
« ตอบ #6514 เมื่อ: 09 กรกฎาคม 2555, 10:51:03 » |
|
‘คนดี’ หรือนักปฏิบัติธรรมจำนวนไม่น้อย กลายเป็นคนเห็นแก่ตัว เจ้าโทสะ หรือทำตัวจู้จี้น่ารำคาญก็เพราะเก็บกดกิเลสของตนเอาไว้ จนมันต้องหาทางระบายออกมาในรูปอื่นโดยเจ้าตัวไม่รู้ตัว ในหลายกรณี การเก็บกดทำให้มัน ‘หลบใน’ แทนที่จะโผล่มาให้เรารู้ กลับฝังตัวอยู่จิตไร้สำนึกและคอยบงการให้เราทำบางสิ่งบางอย่างโดยไม่รู้ตัว - พระไพศาล วิสาโล
|
[โบราณคดี]จุดกำเนิดเริ่มต้นของ cmadong.com by : มานพ กลับดี คลิ๊ก->
|
|
|
too_ploenpit
|
|
« ตอบ #6515 เมื่อ: 09 กรกฎาคม 2555, 11:22:16 » |
|
...เห็นด้วยค่ะ...พี่ป๋อง...
...ตู่เลยไม่กล้าเข้าไปอยู่วัดนานๆค่ะ...
...ไปๆกลับๆ...เพราะเราก็คงเป็นคนประเภทนี้เหมือนกัน...
...ตัดกิเลสมันยากค่ะ...โดยเฉพาะกิเลส...แค่รักษาศีลข้อ 6..7..8...
...อดอาหารในยามวิกาล...ทรมานมากๆ...
...บางคนเก่งอดได้...แต่เค้าก็จะเครียดกับเรื่องอื่นๆแทน...
...เวลาเข้าไปสัมผัสด้วยตัวเองก็จะรับรู้ได้ค่ะ...
|
i love pink, you are pink = i love you
|
|
|
suriya2513
|
|
« ตอบ #6516 เมื่อ: 09 กรกฎาคม 2555, 11:51:04 » |
|
ธรรมะ สวัสดี ตอนเที่ยงครับน้องตู่ เพลินพิศ
|
[โบราณคดี]จุดกำเนิดเริ่มต้นของ cmadong.com by : มานพ กลับดี คลิ๊ก->
|
|
|
ทราย 16
|
|
« ตอบ #6517 เมื่อ: 09 กรกฎาคม 2555, 12:15:44 » |
|
|
|
|
|
suriya2513
|
|
« ตอบ #6518 เมื่อ: 09 กรกฎาคม 2555, 12:40:46 » |
|
เผลอๆ อาจารย์ทรายอาจโดนลูกหลง เจ้าของห้องเขาจะปลื้มไปด้วยกับพวกเราหรือเปล่าก็ไม่รู้ เพราะนักปฏิบัติธรรมล้วนมีอัตตาตัวตนสูงส่งทั้งนั้น ไม่งั้นจะต้องปฏิบัติเพื่อ "ลด ละ เลิก" ทำไม
|
[โบราณคดี]จุดกำเนิดเริ่มต้นของ cmadong.com by : มานพ กลับดี คลิ๊ก->
|
|
|
สมชาย17
|
|
« ตอบ #6519 เมื่อ: 09 กรกฎาคม 2555, 13:26:19 » |
|
ชอบมาก สัจจะวัจนะ จากพี่ป๋อง LIKEๆๆๆๆๆๆๆๆ
|
|
|
|
KUSON
|
|
« ตอบ #6520 เมื่อ: 09 กรกฎาคม 2555, 13:34:23 » |
|
พี่ป๋องครับ อ่านธรรมมะที่ยกมาแล้วผมไม่อยากเข้าวัดเลยครับ กลัวเก็บกด กลัวเป็นคนน่ารำคาญ กลัวเป็นคนเห็นแก่ตัว นั่งวิเคราะห์ตัวเองแล้วผมมีทุกเรื่อง ทุกวันนี้ผมยังอาศัยที่วัดอยู่ฟรีๆมา36ปีแล้ว ผมจึงตอบแทนวัดด้วยการไปใส่บาตรหลวงพ่อที่พิการเดินไปใหนไม่สดวก ตื่นเช้าก็ใส่บาตรเช้า แล้วไปเปลี่ยนน้ำที่องค์พระธาตุ จนแม่ชีรู้จักผมทุกคน ตื่นสายก็ไปใส่บาตรเพล ทุกข์ สุขก็ไประบายกับหลวงพ่อ แล้วไปเปลี่ยนนน้ำที่พระธาตุ ทำอย่างนี้ทุกวัน เพื่อนๆที่สนิท 1.คือชาวหอ 2.คือเพื่อนสมัยอยู่ประจำ เพื่อนๆนักเรียนรู้ว่าผมเป็นคนบ้ายอ พอจะใช้งานก็เรียกผมว่าที่รักต่อหน้าลูกเมียจนลูกเมียมันหัวเราะท้องคัดท้องแข็ง กระซิบให้ผมฟังว่าขนาดเดี๊ยนเป็นเมีย อยู่บ้านพอฉุนเฉียวเพื่อนผมเรียกเขาว่า อีห.... สรุป ที่พึ่งผมคือวัด เพื่อนฝูง ตอนนี้จะให้ผมเลิกไปวัด พอถูกเพื่อนฝูงทอดทิ้งตามมา ผมจะเป็นคนแก่มีปัญหาใหมครับพี่ป๋อง.......ใครก็ได้ ตอบด่วนที่สุด
|
|
|
|
สมชาย17
|
|
« ตอบ #6521 เมื่อ: 09 กรกฎาคม 2555, 14:45:48 » |
|
พี่ ดร.กุศล เข้าวัดนะดีแล้ว จะไปวิตกทำไม ทำบุญ ตักบาตร เป็นการรู้จักให้ รู้จักบริจาค ศึกษา ธรรม เพื่อเข้าใจธรรม และนำไปปฏิบัติ แต่ไม่ให้แบกความดีบนบ่า และคิดว่าตัวเองเป็นตัวแทนและสัญญลักษณ์ แห่งความดี ก็จะไม่เก็บกด และแสดงออกในสิ่งที่เก็บกด โดยไม่รู้ตัว เข้าวัด ปฏิบัติธรรมเถอะครับ
|
|
|
|
suriya2513
|
|
« ตอบ #6522 เมื่อ: 09 กรกฎาคม 2555, 16:12:39 » |
|
ทำไงได้หละขรับ สมชาย พี่ป๋องมันเป็นสัญญลักษณ์ ของคุณงามความดีไปซะแล้ว (ใคร ๆ เขาก็ว่ากันอย่างงั้น)
|
[โบราณคดี]จุดกำเนิดเริ่มต้นของ cmadong.com by : มานพ กลับดี คลิ๊ก->
|
|
|
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์
รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644
|
|
« ตอบ #6523 เมื่อ: 09 กรกฎาคม 2555, 20:39:02 » |
|
ถ้าใครปฏิบัติธรรม แล้วเห็นแก่ตัว เจ้าโทสะ ก็หมดกัน เลิกเถอะครับ แสดงว่าธรรมะไม่ได้เกิดขึ้นในใจท่านเลย เพราะคนที่เห็นแก่ตัวนั้น เป็นคุณสมบัติของผู้ที่จะสำเร็จธรรมทีเดียว เพราะเพียงแค่ระดับโสดาบันก็ต้องเป็นผู้มีจิตใจเป็นผู้ให้เกิดขึ้นโดยอัตโนมัติแล้ว มันจะเกิดขึ้นเอง โดยมิต้องเสแสร้งทั้งสิ้น
ส่วนโทสะ นั้นเกิดจากการประสบกับสิ่งที่ไม่รัก ไม่ชอบ ไม่ถูกใจ ไปทุกเรื่อง คือยังยึดมั่น ยังยึดติดอยู่ ที่เป็นแก่นของการปฏิบัติธรรมเลย คือต้องไม่มีการยึดติดอะไรๆ ทั้งสิ้น ปล่อยให้มันเป็นธรรมชาติ
ส่วนคนจู้จี้นั้น ก็ในทำนองเดียวกัน คืออยากให้คนอื่น คิด ทำ ชอบเหมือนตน ก็ติดอยู่กับการยึดมั่น ถือมั่น และไม่สำรวมกาย วาจา จบสิ้นกัน อย่าปฏิบัติธรรมเลย เพราะธรรมะ มันตรงกันข้ามทั้งสิ้น
ถ้ามันแสดงออกมาอย่างนั้น ยิ่งแย่เข้าไปใหญ่ คือขาดสติ ไม่รู้ตัวว่ากำลังกระทำอะไรอยู่ จึงไม่สามารถควบคุมได้ แต่ถ้ามีสติ มันจะเห็น รู้ความคิดของตัวเองเสมอ อย่างน้อยก็ก่อนที่เราจะตัดสินใจสั่งให้รูปกระทำ เราจะรู้ได้เองว่าสมควรที่จะกระทำหรือไม่ เพราะสติมันจะทำให้เราคิดได้ว่า สิ่งนั้นวิญญูชนม์ทั่วไปเขาจะทำกันหรือไม่ ถ้าไม่สมควรกระทำ เราจะปล่อยวางเองตามธรรมชาติ ความคิดนั้นมันจะดับหายไปเอง แต่ถ้าสิ่งที่จะกระทำนั้นสมควร เราก็จะทำแต่รู้ตัวว่าจะทำ ผมรับรู้ได้แบบนี้ ก็ขอตอบแบบนี้เพราะประสบอยู่แบบนี้ประจำ
หลวงพ่อเทียน บอกว่าอย่าตอบ พูด เขียน ตามที่เรียนรู้จากการอ่าน ฟังและจำเอาไว่ในความคิด ให้รู้จากภายใน ที่เราประสบ นั่นละถูกต้องที่สุด เพราะเราประสบมาแบบนั้น ก็บอก เขียน ไปแบบนั้น
สวัสดี
|
|
|
|
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์
รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644
|
|
« ตอบ #6524 เมื่อ: 09 กรกฎาคม 2555, 20:47:44 » |
|
สำหรับ ดร.กุศล นั้นเข้าวัดนั่นละดีแล้ว ยิ่งเป็นผู้ให้ด้วย ยิ่งดีไปใหญ่ เพียงแต่สำรวมกาย วาจา ใจ ให้มากเข้าไว้ คือมีสติก่อนที่จะพูด ทำ คิด เท่านั้น อย่าพูด-ทำตามที่จิตมันต้องการ ต้องทำอย่างวิญญูชนม์คิด
ส่วนเพื่อนฝูงใครจะว่าอย่างไร อย่าไปสนใจทั้งสิ้น เพราะไม่ใช่ตัวเรา เราเพียงระวังตัวของเราด้วยการสำรวมกาย วาจา ใจ ให้เป็นปกติ ใครก็มาว่าเราไม่ได้ เพราะเราไม่ได้ทำอะไร ให้ใครเดือดร้อนเพราะเรา เพียงแค่นี้เท่านั้น ครับ
การเป็นผู้ให้บ่อยๆ ใส่บาตร เข้าวัด นั้นจะทำให้เราเป็นคนแก่ที่จะปล่อยวางได้ ไม่ยึดติดได้ แต่ถ้าเป็นคนแก่ที่ยังยึดติดอยู่ อยู่ลำบากครับ เพราะมันจะไม่ถูกใจเป็นส่วนใหญ่ เมื่อไม่ถูกใจ ก็จะหงุดหงิด จู้จี้ คนรอบข้างจะทุกข์เพราะเรา และเราก็จะทุกข์ไปด้วย
ยิ่งคนที่เคยประสบความสำเร็จในชีวิตด้วย ยิ่งแล้วใหญ่ เถียงไม่ตกฝาก ผมขอหนีดีกว่าครับ ไม่ขอเถียงใครเอาแพ้ เอาชนะ ขอเป็นผู้แพ้สบายใจกว่าครับ ชนะเอาไปทำไม?
อย่าลืม คนเรานั้น มองตัวเองไม่ออก เพราะหลงอยู่ในความคิดตัวเองมาตั้งแต่เกิด และตัวเองถูกเสมอ
สวัสดี
|
|
|
|
|