24 พฤศจิกายน 2567, 11:01:00
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: 1 ... 236 237 [238] 239 240 ... 681   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: คุย กับ คุณมานพ กลับดี อดีตประธานชมรม ๓ สมัย  (อ่าน 3572181 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 10 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
suriya2513
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,457

« ตอบ #5925 เมื่อ: 12 เมษายน 2555, 10:39:25 »



พอพิจารณาเขาเสร็จเรียบร้อย ผมจะรีบปล่อยวาง เพื่อกลับมาอยู่กับปัจจุบันขณะครับหลวงพ่อ
คนอย่าง ดร.กุศล นี่ต้องรีบพิจารณาครับ ยิ่งปล่อยไว้ยิ่งเวียนหัว
      บันทึกการเข้า

[โบราณคดี]จุดกำเนิดเริ่มต้นของ cmadong.com by : มานพ กลับดี  คลิ๊ก->
KUSON
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,125

« ตอบ #5926 เมื่อ: 12 เมษายน 2555, 13:42:38 »

สระผมบ่อยๆ หายเวียนหัวไปเอง
      บันทึกการเข้า
KUSON
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,125

« ตอบ #5927 เมื่อ: 12 เมษายน 2555, 13:55:54 »

พี่สิงห์ครับ
โด่งฝากถามเรื่องสมุนไพรที่ใช้ต้มรับประทานแก้หลอดเลือดหัวใจตีบตัน
พี่สิงห์กรุณานำมาลงใหม่ได้ไหมครับ......ขอบคุณมาก
      บันทึกการเข้า
Dtoy16
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: อักษรศาสตร์
กระทู้: 1,424

« ตอบ #5928 เมื่อ: 12 เมษายน 2555, 14:26:40 »

            ดีใจด้วยค่ะที่พี่สิงห์ได้ตรวจเชคร่างกาย คุณหมอหาญ พี่แอ๊ะ น้องนุชน่ารักจริงๆ
            โพสรูปให้ดูด้วย real time มากมาก
      บันทึกการเข้า

Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #5929 เมื่อ: 12 เมษายน 2555, 20:16:05 »

อ้างถึง
ข้อความของ อ้อย17 เมื่อ 12 เมษายน 2555, 07:42:56

    พี่สิงห์ อยู่ไหนคะ..ตอนนี้..

    สบายดีขึ้นหรือยัง...เห็นบอกว่าเป็นหวัดเจ็บคอมาเป็นเดือนแล้วยังไม่หายหรือคะ?..

   สงสัยว่าพี่คงต้องพักการเดินทางไว้สักระยะแล้วล่ะ ไม่งั้นมันจะเป็นเรื้อรัง

   ขอ คุณธรรม ความดี ที่พี่ทำมาจงช่วยรักษาโรคที่พี่เป็น ให้หายเร็วๆนะคะ..

สวัสดีค่ะ คุณน้องอ้อย ที่รัก

                             เมื่อเช้าอยู่สุรินทร์  ช่วงเช้าไปทอดผ้าป่ากับชาวบ้านที่วัดบ้านสว่าง บ่ายโมงครึ่งมาขึ้นเครื่องบินที่อุบลราชธานี  และตอนนี้อยู่ กทม. เรียบร้อยดีแล้ว

                             พรุ่งนี้ออกจากบ้านตีสี่ไปทำบุญ ที่วัดพระนอน  สิงห์บุรี

                             ตอนนี้โรคหวัด เจ็บคอ ไอ ไซนัส และแพ้อากาศ  มันเป็นเพื่อนคู่กายพี่สิงห์เสียแล้ว

                             สวัสดีค่ะ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #5930 เมื่อ: 12 เมษายน 2555, 20:29:21 »

พิพิธภัณฑ์กัมมัฏฐาน และโบสถ์

หลวงปู่ดุลย์  อตุโล

วัดบูรพาราม  อำเภอเมือง  จังหวัดสุรินทร์

























                           เมื่อเย็นวันที่ ๑๑ เมษายน  ผมได้แวะไปกราบรูปเหมือนหลวงปู่ดุลย์  อตุโล  ที่วัดบูรพาราม  ได้ไปกราบสารีริกธาตุ ในโบสถ์ และขอซื้อหนังสือของหลวงปู่ดุลย์  มาทดแทนที่ได้ให้คุณน้องจันทร์ฉายไปแล้ว หนึ่งเล่ม

                           ขอนำภาพมาให้ทุกท่านได้ชม ครับ

                           สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Khun28
Full Member
**


ดูกายเห็นจิต ดูคิดเห็นธรรม
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: RCU2528
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์
กระทู้: 784

« ตอบ #5931 เมื่อ: 12 เมษายน 2555, 20:42:32 »

ขอบคุณครับพี่สิงห์ ที่นำรูปวัดบูรพารามมาให้ชมครับ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #5932 เมื่อ: 12 เมษายน 2555, 20:44:25 »

ทำบุญกับชาวบ้าน บ้านสว่าง จังหวัดสุรินทร์ เนื่องในเทศกาลสงกรานต์










































                          วันนี้ผมได้มีโอกาสไปร่วมทำบุญเนื่องในเทศกาลสงกรานต์ของชาวบ้าน  บ้านสว่าง จังหวัดสุริน์  ได้ไปดูการไหว้ผีบรรพบุรุษ  เครื่องเส้นไหว้ ต่างๆ ทำให้ได้รับความรู้พอสมควร  ชาวบ้านที่นี่พูดภาษาเขมร  

                          ผมได้ทำบุญทอดผ้าป่าไป ๑๐๐๐ บาท เพื่อสมทบทุนสร้างซุ้มประตูวัดสว่างธรรม และได้ถวายหลวงพ่อไป ๕๐๐ บาท เป็นการทำบุญเนื่องในเทศกาลสงกรานต์

                           ได้รับประทานขนมข้าวต้มมัดแบบชาวบ้านที่นี่ อร่อยไปอีกหย่างหนึ่ง  ใส่มะพร้าว เกลือ กล้วย เป็นใส้ ครับ

                           หมู่บ้านส่วางนี้  เมื่อคราวประชุม APEC ที่ประเทสไทย  ได้รับเกียรติให้ทอผ้าไหม  มอบให้ผู้นำที่มาประชุม  และวันนี้ชาวบ้านได้มอบผ้าไหม  ให้ผมมาหนึ่งผืน โดยชาวบ้ารทอด้วยมือตนเอง  แต่มันคงไม่เหมาะกับผม เพราะเป็นลายสุภาพสตรี ครับ

                           วันนี้ วันที่ ๑๒ เมษายน  ตลอดเส้นทางจากสุรินทร์มาอุบล ชาวบ้านเล่นสงกรานต์กันตลอดทาง  ทำให้ผมเสียเวลาเป็นอย่างมาก ดีที่ว่าได้ Check in ทางโทรศัพท์ มาถึงสนามบินก็ขึ้นเครื่องเลยทันที  ไม่ได้รับประทานอาหารกลางวันเลย อุตส่าห์ได้โทรศัพท์ไปจองที่ร้านอินโดจีนเอาไว้ก่อนแล้ว เลยต้องงด  จึงไม่ได้ไปพบกับคุณส่าย  เอาไว้คราวหน้าครับ

                           มาอุบล  ยโสธร  สุรินทร์  ศรีษะเกศ  ครั้งนี้ คุ้มครับ เพราะได้ไปพบคุณประภาศรี และพี่หมอหาญ  ที่บ้านด้วยความระลึกถึง  ได้ไปกราบรูปเหมือนหลวงปู่ดุลย์ ได้ไปทำบุยกับชาวบ้านเนื่องในเทสกาลสงกรานต์  ได้เห็นพื้นที่ปลุกข่าวที่ทุ่งกุลาร้องให้  ธรรมชาติที่นี่ดูสวยงามไปหมด ถึงจะเป็นหน้าร้อนก็ตาม  และมีฝนตกที่อุบลราชธานีตอนบ่ายโมง  ทำให้อากาศไม่ร้อน  แต่เด้กๆ หมดสนุกในการเล่นสงกรานต์

                           สวัสดีครับ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #5933 เมื่อ: 12 เมษายน 2555, 21:10:12 »



                            อย่างที่พระพุทธองค์ ได้ทรงสอนเอาไว้ เราไม่ต้องสนใจคนอื่นทั้งสิ้น  ขอให้ระวังกาย  วาจา  ใจ  ให้สำรวมอยู่เป็นนิจเท่านั้น  สังคม  ประเทศชาติ  จะมีแต่ความสงบทั้งสิ้น

                             ตัวอย่างที่พระพุทธองค์ทรงแสดงเอาไว้  หลวงพ่อไพศาล  ชอบเอาไปอ้างอิงคือ

                             มีนักแสดงกายกรรมเล่นกระดานหกสองคนเป็นศิษย์กับอาจารย์  ก่อนแสดงผู้เป็นอาจารย์จะบอกศิษย์ว่า เจ้าจงแสดงเราจะระวังเจ้าให้เอง  ส่วนลูกศิษย์ตอบว่า อาจารย์ท่านจงระวังตัวของท่านให้ดี  ส่วนข้าพเจ้าจะระวังตัวของเราเองในขณะแสดงเอง

                             ชี้ให้เห็นว่า เราไม่ต้องไประวังให้ใครทั้งสิ้น  ให้ระวังตัวเราเองเท่านั้น ทุกอย่างจะสำเร็จด้วยดี เพราะคนอื่นนั้นจะมาระวังให้เรานั้น  มันสู้เราระวังตัวเองไม่ได้ทั้งสิ้น

                             สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #5934 เมื่อ: 12 เมษายน 2555, 21:12:06 »

อ้างถึง
ข้อความของ KUSON เมื่อ 12 เมษายน 2555, 13:55:54
พี่สิงห์ครับ
โด่งฝากถามเรื่องสมุนไพรที่ใช้ต้มรับประทานแก้หลอดเลือดหัวใจตีบตัน
พี่สิงห์กรุณานำมาลงใหม่ได้ไหมครับ......ขอบคุณมาก

                        ดร.กุศล  ให้กลับไปค้นเอาเอง  หรือไม่ ไปสอบถามคุณสุภาณี  เพราะว่าคุณสุภาณี  ได้ทดลองเอาไปทำดื่มรับประทานดูแล้วครับ

                          สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #5935 เมื่อ: 12 เมษายน 2555, 21:15:43 »

อ้างถึง
ข้อความของ Khun28 เมื่อ 12 เมษายน 2555, 20:42:32
ขอบคุณครับพี่สิงห์ ที่นำรูปวัดบูรพารามมาให้ชมครับ

สวัสดีครับ ท่านขุน๒๘

                       เนื่องในเทศกาลสงกรานต์ ปีใหม่ไทย  ขอให้การเจริญสติก้าวหน้า  และประความสำเร็จในทุกสิ่งครับ

                       สวัสดี
      บันทึกการเข้า
ประทาน14
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2514
คณะ: เภสัชศาสตร์
กระทู้: 999

« ตอบ #5936 เมื่อ: 12 เมษายน 2555, 22:15:31 »

พี่สิงห์ครับ

เป็นอย่างไรบ้างครับ อาการดีขึ้นหรือยัง พักผ่อนให้มากพอนะครับ น่าเป็นห่วงว่าพี่ยังทำไม่ได้เพราะทราบว่าพี่เดินทางไปสุรินทร์ อุบลฯ ยโสธร
ต่อหลังจากพบกันที่หอเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา สำหรับอาการไอพี่ลองใช้ยาน้ำแก้ไอตราลูกกตัญญูประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ ละลายน้ำอุ่นๆ จิบวันละ
3 - 4 ครั้ง สิครับ ตำรับนี้ผมได้รับคำแนะนำจากน้องทิปปี้ ผมใช้แล้วได้ผลดีครับ
ขอให้พี่สิงห์หายไวๆนะครับ
      บันทึกการเข้า
supanee
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 605

« ตอบ #5937 เมื่อ: 13 เมษายน 2555, 09:12:08 »

อ้างถึง
ข้อความของ Manop  Klabdee เมื่อ 03 เมษายน 2555, 10:03:22



หามาให้แล้วค่ะ ทดลองดูนะคะ ทุกอย่างหาซื้อได้ในซุปเปอร์มาร์เก็ต
      บันทึกการเข้า
TU14
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 342

« ตอบ #5938 เมื่อ: 13 เมษายน 2555, 13:02:02 »

สวัสดีวันสงกรานต์ค่ะ พี่สิงห์
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #5939 เมื่อ: 13 เมษายน 2555, 20:03:51 »

อ้างถึง
ข้อความของ supanee เมื่อ 13 เมษายน 2555, 09:12:08
อ้างถึง
ข้อความของ Manop  Klabdee เมื่อ 03 เมษายน 2555, 10:03:22



หามาให้แล้วค่ะ ทดลองดูนะคะ ทุกอย่างหาซื้อได้ในซุปเปอร์มาร์เก็ต

                   ขอขอบคุณ คุณสุภาณี  ที่ไปตามมาให้ได้ 

                   หวังว่าคุณโด่ง  คงไปให้ภรรยาจัดหาและปรุงให้ดื่ม  แบบที่คุณหมอท่านว่า  ในส่วนผสมนั้นไม่มีอะไรที่เป็นอันตรายเลย  ทดลองไม่เสียหาย  แต่ขอให้ใช้เวลาต่อเนื่องสักหนึ่งเดือนขึ้นไปครับ  ค่อยพิจารณาว่าดี ไม่ดี

                   สวัสดีครับ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #5940 เมื่อ: 13 เมษายน 2555, 20:06:05 »

อ้างถึง
ข้อความของ ประทาน14 เมื่อ 12 เมษายน 2555, 22:15:31
พี่สิงห์ครับ

เป็นอย่างไรบ้างครับ อาการดีขึ้นหรือยัง พักผ่อนให้มากพอนะครับ น่าเป็นห่วงว่าพี่ยังทำไม่ได้เพราะทราบว่าพี่เดินทางไปสุรินทร์ อุบลฯ ยโสธร
ต่อหลังจากพบกันที่หอเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา สำหรับอาการไอพี่ลองใช้ยาน้ำแก้ไอตราลูกกตัญญูประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ ละลายน้ำอุ่นๆ จิบวันละ
3 - 4 ครั้ง สิครับ ตำรับนี้ผมได้รับคำแนะนำจากน้องทิปปี้ ผมใช้แล้วได้ผลดีครับ
ขอให้พี่สิงห์หายไวๆนะครับ






สวัสดีครับ คุณประธาน

                            พี่สิงห์ ต้องขอขอบคุณที่เป็นห่วง และได้แนะนำมาให้ปฏฺบัติ  จะพยายามกระทำครับ  แต่พี่สิงห์  ต้องกระทำควบคู่ไปกับการรับประทานยา ตามที่พี่หมอหาญ  ได้กรุณา ตรวจ รักษา และให้ยามารับประทานครับ

                            สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #5941 เมื่อ: 13 เมษายน 2555, 20:13:01 »

อ้างถึง
ข้อความของ TU14 เมื่อ 13 เมษายน 2555, 13:02:02
สวัสดีวันสงกรานต์ค่ะ พี่สิงห์

สวัสดีปีใหม่ ครับ คุณอรสา  ที่รัก

                                    เนื่องในวันปีใหม่ไทย คือวันสงกรานต์  พี่สิงห์ขอให้เธอไม่เจ็บ ไม่จน  มีความสุข และอย่าลืมดูแลตัวเองให้ดีๆ เพราะเธอก็อยู่คนเดียวแบบพี่สิงห์  เป็นโรคประจำตัวขึ้นมามีแต่ทุกข์ 

                                    ดังนั้นป้องกันเอาไว้ดีกว่า  ด้วยการดูแลเรื่องอาหาร  ออกกำลังกาย และมีจิตที่ผ่องใส ครับ

                                    สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #5942 เมื่อ: 13 เมษายน 2555, 20:35:09 »

ทำบุญสงกรานต์ วัดพระนอน  อำเภออินทร์บุรี  จังหวัดสิงห์บุรี
























สวัสดีปีใหม่ (วันสงกรานต์) ครับ ชาวซีมะโด่ง ที่รักทุกท่าน

                            วันนี้ผมเดินทางไปทำบุญที่วัดพระนอน สิงห์บุรีตั้งแต่ตีสี่ โดยหุงข้าวไปใส่บาตร ซื้อส้มไปใส่บาตรเพราะพระชอบ และแวะซื้อต้มเลือดหมูนายเล็ก ก่อนถึงสิงห์บุรี เอาไปใส่บาตรและไปแจกญาติผู้ใหญ่ เนื่องในเทศกาลสงกรานต์ เพราะผมไม่ได้ทำกับข้าวเอง

                            ผมไปถึงวัดตอนหกโมงครึ่งก็ได้ใส่บาตรทั้งคาว หวาน ไปกราบพระพุทธรูปบนศาลา  เมื่อถึงเวลา ทางมัคกทายกได้เชิญผมให้เป็นประธาน ในการจุดธูปเทียนบูชาพระพุทธ  ในฐานะอุบาสกที่มาทำบุญบ่อยๆ และพอจะมีหน้าตาบ้างในสังคม

                            และตอนพระฉันอาหาร ก็ถูกบังคับให้พูดกับชาวบ้าน  ผมก็เลยพูดให้ทุกคนรักษาประเพณีสงกรานต์ต่อไป  ถ้าเราไม่ทำให้เป็นตัวอย่าง ลูกหลานก็คงไม่กระทำและไม่สามารถรักษาประเพณีสงกรานต์ได้สืบไป และนอกจากนี้ผมก็ได้พูดถึงเรื่องการปฏิบัติธรรม ด้วยการรักษากาย วาจา ใจ  ของเราให้เป็นปกติอยู่เป็นนิจ และจบลงด้วยเรื่องการซ่อมศาลาวัด

                            วันนี้กิจกรรมที่วัดมี บ่ายสามโมงเย็นมีสงน้ำพระ และผู้อาวุโสประจำหมู่บ้าน มีการละเล่น รำกลองยาว  รำวงย้อนยุค การประกวดยาย-หลาน  ย่า-หลาน และรำวงในตอนค่ำ  ซึ่งผมไม่ได้ร่วมกิจกรรมด้วยเพราะต้องไปรดน้ำคุณพ่อ-คุณแม่ ของคุณหมอวิทิต และให้หลานๆ รดน้ำที่โรงเรียนอินทโมลีประทาน ซึ่งเวลาตรงกัน

                            และเนื่องในวันสงกรานต์ปีใหม่ไทยนี้ ตอนพระยถาให้พร  ผมก็ได้อุทิศส่วนกุศลให้กับชาวซีมะโด่งและครอบครัวทุกท่านด้วย เพราะอาจจะมีบางท่านไม่ได้มีโอกาสทำบุญแบบผม ผมได้ขอให้ทุกท่าน ไม่เจ็บ  ไม่จน  ประสพแต่ความสำเร็จ ทุกประการครับ

                            สวัสดีปีใหม่ครับ
       
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #5943 เมื่อ: 13 เมษายน 2555, 20:50:50 »

 ทำบุญบังสุกุลให้พ่อ












                          สงกรานต์ปีนี้ พี่สาวได้ทำขนมจีน-น้ำพริก เอาไว้ให้หลานๆ ได้รับประทานเช่นทุกปี  เพราะว่าในสมัยโบราณนั้น จะได้กินขนมจีนก็วันตรุษ-สงกรานต์นี่ละ และขนมจีนสมัยนั้นทำอยาก ต้องใช้เวลาห้าวันในการหมักข้าว และเสียเวลาในการทำขนมจีนมากกว่าแปดชั่วโมง ต้องทำร่วมกันหลายบ้าน จึงจะมีขนมจีนรับประทาน  ถ้าปีไหนไม่ทำ บรรพบุรุษจะมาเข้าฝัน หรือได้กลิ่นขนมจีน เพราะคนโบราณชอบรับประทานขนมจีนเป็นอย่างมาก แต่ปัจจุบันขนมจีนใช้วิธีซื้อ มันจึงไม่อร่อย และไม่มีคุณค่าทางวัฒนธรรม ครับ

                          และเช่นทุกปีในวันสงกรานต์  สิ่งที่เราจะต้องทำให้บรรพบุรุษคือ การนิมนต์พระไปบังสุกุล ที่อนุสาวรีย์บรรพบุรุษ  เพื่อนึกถึงท่านที่มีอุปาระคุณแก่เราอย่างมหาศาล  ถ้าเราไม่ทำให้ลูกหลานเห็น เราตายไปคงไม่มีใครมาทำให้เราเหมือนกัน  ดังนั้นต้องกระทำทุกปี และเป็นวัฒนธรรมที่ดี ของประเทศไทยด้วยครับ

                          บ่ายสามโมงเย็นผมไปรดน้ำคุณพ่อ-คุณแม่ของคุณหมอวิทิต และให้หลานๆ รดน้ำขอพร  ปีนี้หลานชาย-หลานสาว ซื้อเสื้อให้หนึ่งตัว เอาไว่ใส่ทำบุญสงกรานต์  สวยดีครับ

                          ผมอยู่กรุงเทพฯ เพื่อพักให้หายเสียที

                          วันที่ ๑๕-๑๖ ต้องไปทำบุญกระดูกประจำหมู่บ้าน มีการสวดมนต์เย็นและทำบุยเช้าด้วย

                          ตอนนี้แม่อยู่ที่โรงพยาบาล มีหลานสาวไปช่วยเฝ้า เพราะปิดเทอม  ผมเลยไม่ต้องไปเฝ้าแม่ และกลัวเอาไข้หวัดไปติดแม่  จึงรอให้หายก่อนค่อยไปเยี่ยม คงเป็นวันที่ ๑๕-๑๖ นี้ และตอนนี้มีคนไปเยี่ยมมากคือพี่ๆ ครับ

                          สวัสดี
      บันทึกการเข้า
pornchaiketlek
มือใหม่หัดเมาท์
*


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 134

« ตอบ #5944 เมื่อ: 14 เมษายน 2555, 19:28:57 »

     
          ขอบคุณครับพี่อี๊ด ที่ช่วยค้นกระทู้ของพี่สิงห์ย้อนหลัง วันก่อนพี่อี๊ดบอก ผมก็กลับมาค้นเหมือนกันแต่หาไม่เจอเลยถาม

       กุศลว่าเคยอ่านเจอไหม ให้ช่วยหาอีกคน ขอขอบคุณพี่สิงห์ด้วยครับที่โพสต์ในกระทู้เป็นวิทยาทานกับผู้สนใจ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #5945 เมื่อ: 14 เมษายน 2555, 21:01:18 »

สวัสดีครับ ชาวซีมะโด่ง ที่รักทุกท่าน

                            วันที่ ๑๔-๑๕ เมษายน  ทางรัฐบาลกำหนดให้เป็นวันครอบครัว  ผมก็หวังว่าชาวซีมะโด่งทุกท่านที่มีครอบครัว  คงอยู่กับครอบครัวอย่างพร้อมหน้า ไปหาอาหารรับประทานร่วมกัน หรือไปท่องเที่ยวกันนะครับ

                            สำหรับคนไม่มีครอบครัวอย่างผมนั้น  ถ้าปล่อยใจเผลอคิด ก็มีแต่เรื่องเสียดายทั้งนั้น  เลยไม่ขอคิด  ขออยู่กับความรู้สึกตัวในสิ่งที่มือ เท้า กำลังทำหน้าที่ของมันอยู่ตลอดเวลา  จะได้ไม่มีเรื่องต้องคิดมาก

                            วันนี้ผมพักผ่อนอยู่บ้าน ได้นำพระพุทธรูปมาสงน้ำ  ชำระฝุ่นออกเสียบ้างประจำปี  ทำความสะอาดโตีะหมู่บูชา   

                            ทำความสะอาดห้องนอน ซักผ้าห่ม ผ้าปูที่นอน  ปลอกหมอน  ให้ดูดีขึ้น

                            เนื่องจากช่วงนี้อาหารการกิน กทม. ลำบากสำหรับผม อย่างวันนี้เลยไปหาอาหารกลางวันที่ร้านฟูจิรับประทาน และพระท่านไม่มาบิณฑบาตรที่หน้าบ้าน จนถึงวันที่ ๑๗ เมษายน เพราะกลัวว่าญาติโยมจะไม่อยู่กัน  ดังนั้น ๑๕-๑๖ เมษายน  ผมไปทำบุญสงกรานต์ที่วัดพระนอนต่อ  หาโอกาสปฏิบัติธรรม หรือไปอยู่กับแม่ดีกว่าอยู่ที่กรุงเทพฯ เป็นไหนๆ

                            สำหรับทุกท่านที่ไปพักผ่อน  ขอให้มีความสุข  สำหรับวันหยุดสงกรานต์

                            สำหรับผู้ที่พักผ่อน อยู่ที่บ้าน ขอให้มีความสุขยิ่งๆ ขึ้นไปครับ สงกรานต์ปีนี้

                            ราตรีสวัสดิ์ทุกท่าน ครับ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #5946 เมื่อ: 14 เมษายน 2555, 21:15:04 »

ความเป็นมาและเกร็ดน่ารู้ของ วันสงกรานต์









ตำนานนางสงกรานต์

                             ตามจารึกที่วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม กล่าวตามพระบาลีฝ่ายรามัญว่า ครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีเศรษฐีคนหนึ่ง รวยทรัพย์แต่อาภัพบุตร ตั้งบ้านอยู่ใกล้กับนักเลงสุราที่มีบุตรสองคน วันหนึ่งนักเลงสุราต่อว่าเศรษฐีจนกระทั่งเศรษฐีน้อยใจ จึงได้บวงสรวงพระอาทิตย์ พระจันทร์ ตั้งจิตอธิษฐานอยู่กว่าสามปี ก็ไร้วี่แววที่จะมีบุตร อยู่มาวันหนึ่งพอถึงช่วงที่พระอาทิตย์ยกขึ้นสู่ราศีเมษ เศรษฐีได้พาบริวารไปยังต้นไทรริมน้ำ พอถึงก็ได้เอาข้าวสารลงล้างในน้ำเจ็ดครั้ง แล้วหุงบูชาอธิษฐานขอบุตรกับรุกขเทวดาในต้นไทรนั้น รุกขเทวดาเห็นใจเศรษฐี จึงเหาะไปเฝ้าพระอินทร์ ไม่ช้าพระอินทร์ก็มีเมตตาประทานให้เทพบุตรองค์หนึ่งนาม "ธรรมบาล" ลงไปปฏิสนธิในครรภ์ภรรยาเศรษฐี ไม่ช้าก็คลอดออกมา เศรษฐีตั้งชื่อให้กุมารน้อยนี้ว่า ธรรมบาลกุมาร และได้ปลูกปราสาทไว้ใต้ต้นไทรให้กุมารนี้อยู่อาศัย

                              ต่อมาเมื่อธรรมบาลกุมารโตขึ้น ก็ได้เรียนรู้ซึ่งภาษานก และเรียนไตรเภทจบเมื่ออายุได้เจ็ดขวบ เขาได้เป็นอาจารย์บอกมงคลต่าง ๆ แก่คนทั้งหลาย อยู่มาวันหนึ่ง ท้าวกบิลพรหม ได้ลงมาถามปัญหากับธรรมบาลกุมาร 3 ข้อ ถ้าธรรมบาลกุมารตอบได้ก็จะตัดเศียรบูชา แต่ถ้าตอบไม่ได้จะตัดศีรษะธรรมบาลกุมารเสีย ท้าวกบิลพรหมถามธรรมบาลกุมารว่า ตอนเช้าศรีอยู่ที่ไหน ตอนเที่ยงศรีอยู่ที่ไหน และตอนค่ำศรีอยู่ที่ไหน ทันใดนั้นธรรมบาลกุมารจึงขอผัดผ่อนกับท้าวกบิลพรหมเป็นเวลา 7 วัน

                               ทางธรรมบาลกุมารก็พยายามคิดค้นหาคำตอบ ล่วงเข้าวันที่ 6 ธรรมบาลกุมารก็ลงจากปราสาทมานอนอยู่ใต้ต้นตาล เขาคิดว่า ขอตายในที่ลับยังดีกว่าไปตายด้วยอาญาท้าวกบิลพรหม บังเอิญบนต้นไม้มีนกอินทรี 2 ตัวผัวเมียเกาะทำรังอยู่ นางนกอินทรีถามสามีว่า พรุ่งนี้เราจะไปหาอาหารแห่งใด สามีตอบนางนกว่า เราจะไปกินศพธรรมบาลกุมาร ซึ่งท้าวกบิลพรหมจะฆ่าเสีย ด้วยแก้ปัญหาไม่ได้ นางนกจึงถามว่า คำถามที่ท้าวกบิลพรหมถามคืออะไร สามีก็เล่าให้ฟัง ซึ่งนางนกก็ไม่สามารถตอบได้ สามีจึงเฉลยว่า ตอนเช้า ศรีจะอยู่ที่หน้า คนจึงต้องล้างหน้าทุก ๆ เช้า ตอนเที่ยง ศรีจะอยู่ที่อก คนจึงเอาเครื่องหอมประพรมที่อก ส่วนตอนเย็น ศรีจะอยู่ที่เท้า คนจึงต้องล้างเท้าก่อนเข้านอน ธรรมบาลกุมารก็ได้ทราบเรื่องที่นกอินทรีคุยกันตลอด จึงจดจำไว้

                             ครั้นรุ่งขึ้น ท้าวกบิลพรหมก็มาตามสัญญาที่ให้ไว้ทุกประการ ธรรมบาลกุมารจึงนำคำตอบที่ได้ยินจากนกไปตอบกับท้าวกบิลพรหม ท้าวกบิลพรหมจึงตรัสเรียกธิดาทั้งเจ็ดอันเป็นบาทบาจาริกา พระอินทร์มาประชุมพร้อมกัน แล้วบอกว่า เราจะตัดเศียรบูชาธรรมบาลกุมาร ถ้าจะตั้งไว้ยังแผ่นดิน ไฟก็จะไหม้โลก ถ้าจะโยนขึ้นไปบนอากาศ ฝนก็จะแล้ง ถ้าจะทิ้งในมหาสมุทร น้ำก็จะแห้ง จึงให้ธิดาทั้งเจ็ดนำพานมารองรับ แล้วก็ตัดเศียรให้นางทุงษะ ผู้เป็นธิดาองค์โต จากนั้นนางทุงษะ ก็อัญเชิญพระเศียรท้าวกบิลพรหมเวียนขวารอบเขาพระสุเมรุ 60 นาที แล้วเก็บรักษาไว้ในถ้ำคันธุลี ในเขาไกรลาศ

                              จากนั้นมาทุก ๆ 1 ปี ธิดาของท้าวกบิลพรหมทั้ง 7 ก็จะผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนมาทำหน้าที่อัญเชิญพระเศียรท้าวกบิลพรหม แห่ไปรอบเขาพระสุเมรุ เป็นเวลา 60 นาที แล้วประดิษฐานตามเดิม ในแต่ละปีนางสงกรานต์ แต่ละนางจะทำหน้าที่ผลัดเปลี่ยนกันตามวันมหาสงกรานต์ ดังนี้

                              1. ถ้าวันอาทิตย์เป็นวันมหาสงกรานต์ นางสงกรานต์นาม ทุงษะเทวี ทรงพาหุรัดทัดดอกทับทิม อาภรณ์แก้วปัทมราช ภักษาหารอุทุมพร (ผลมะเดื่อ) พระหัตถ์ขวาทรงจักร พระหัตถ์ซ้ายทรงสังข์ เสด็จมาบนหลังครุฑ

                              2. ถ้าวันจันทร์เป็นวันมหาสงกรานต์ นางสงกรานต์นาม โคราคะเทวี ทรงพาหุรัดทัดดอกปีบ อาภรณ์แก้วมุกดา ภักษาหารเตลัง (น้ำมัน) พระหัตถ์ขวาทรงขรรค์ พระหัตถ์ซ้ายทรงไม้เท้า เสด็จมาบนหลังพยัคฆ์ (เสือ)

                              3. ถ้าวันอังคารเป็นวันมหาสงกรานต์ นางสงกรานต์นาม รากษสเทวี ทรงพาหุรัดทัดดอกบัวหลวง อาภรณ์แก้วโมรา ภักษาหารโลหิต พระหัตถ์ขวาทรงตรีศูล พระหัตถ์ซ้ายทรงธนู เสด็จมาบนหลังวราหะ (หมู)

                              4. ถ้าวันพุธเป็นวันมหาสงกรานต์ นางสงกรานต์นาม มณฑาเทวี ทรงพาหุรัดทัดดอกจำปา อาภรณ์แก้วไพฑูรย์ ภักษาหารนมเนย พระหัตถ์ขวาทรงเข็ม พระหัตถ์ซ้ายทรงไม้เท้า เสด็จมาบนหลังคัทรภะ (ลา)

                              5. ถ้าวันพฤหัสบดีเป็นวันมหาสงกรานต์ นางสงกรานต์นาม กิริณีเทวี ทรงพาหุรัดทัดดอกมณฑา อาภรณ์แก้วมรกต ภักษาหารถั่วงา พระหัตถ์ขวาทรงขอช้าง พระหัตถ์ซ้ายทรงปืน เสด็จมาบนหลังคชสาร (ช้าง)

                              6. ถ้าวันศุกร์เป็นวันมหาสงกรานต์ นางสงกรานต์นาม กิมิทาเทวี ทรงพาหุรัดทัดดอกจงกลนี อาภรณ์แก้วบุษราคัม ภักษาหารกล้วยน้ำ พระหัตถ์ขวาทรงขรรค์ พระหัตถ์ซ้ายทรงพิณ เสด็จมาบนหลังมหิงสา (ควาย)

                              7. ถ้าวันเสาร์เป็นวันมหาสงกรานต์ นางสงกรานต์นาม มโหธรเทวี ทรงพาหุรัดทัดดอกสามหาว อาภรณ์แก้วนิลรัตน์ ภักษาหารเนื้อทราย พระหัตถ์ขวาทรงจักร พระหัตถ์ซ้ายทรงตรีศูล เสด็จมาบนหลังมยุรา (นกยูง)

สำหรับความเชื่อทางล้านนานั้นจะมีว่า

                              1. วันอาทิตย์ ชื่อ นางแพงศรี

                              2. วันจันทร์ ชื่อ นางมโนรา

                              3. วันอังคาร ชื่อ นางรากษสเทวี

                              4. วันพุธ ชื่อ นางมันทะ

                              5. วันพฤหัส ชื่อ นางัญญาเทพ

                              6. วันศุกร์ ชื่อ นางริญโท

                              7. วันเสาร์ ชื่อ นางสามาเทวี


                             สำหรับคำว่า "สงกรานต์" มาจากภาษาสันสฤกตว่า "สํ-กรานต" ซึ่งแปลว่า ก้าวขึ้น ย่างขึ้น หรือการย้ายที่ เคลื่อนที่ โดยหมายความอีกนัยนึงว่า เป็นการเข้าสู่ศักราชราศีใหม่ หรือวันขึ้นปีใหม่นั้นเอง ส่วนเทศกาลสงกรานต์นั้น เป็นประเพณีเก่าแก่ของคนไทยสืบทอดกันมาตั้งแต่โบราณคู่กันมากับประเพณีตรุษจีน จึงมีการเรียกรวมกันว่า "ประเพณีตรัษสงกรานต์" ซึ่งหมายถึง ประเพณีส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ นั่นเอง
ทั้งนี้ วันหยุดสงกรานต์ เป็นวันหยุดราชการ แบ่งออกเป็น 3 วัน ได้แก่ วันที่ 13 เมษายน เรียกว่า วันมหาสงกรานต์, วันที่ 14 เมษายน เรียกว่า วันเนา, วันที่ 15 เมษายน เรียกว่า วันเถลิงศก ส่วนกิจกรรมหลัก ๆ ที่ทำในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ก็จะเป็นการทำความสะอาดบ้านเรือน การร่วมกันทำบุญทำทาน สรงน้ำพระ รดน้ำของพรผู้ใหญ่ และเล่นสาดน้ำคลายร้อนกัน เป็นต้น

เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับวันสงกรานต์

                            ในสมัยโบราณ คนไทยถือเอาวันขึ้น 1 ค่ำ เดือนอ้าย ซึ่งตกราว ๆ เดือนพฤศจิกายนหรือธันวาคม เป็นวันขึ้นปีใหม่ เพราะถือว่าเป็นช่วงฤดูหนาว ต่อมาในปี พ.ศ. 2432 ในสมัยรัชกาลที่ 5 ได้เปลี่ยนวันขึ้นปีใหม่ให้เป็นวันที่ 1 เมษายน แต่เมื่อในยุคสมัยของ จอมพล ป. พิบูลสงคราม ปี พ.ศ. 2483 ได้เปลี่ยนวันปีใหม่ให้เป็นสากล คือวันที่ 1 มกราคม แต่กระนั้น คนไทยส่วนมาก็คุ้นเคยกับวันปีใหม่ไทยในเดือนเมษายน จึงกำหนดให้วันที่ 13 เมษายน เป็นวันขึ้นปีใหม่ตามปฏิทิน เกรกอรี่

                             นอกจากประเทศไทยได้ถือเอาวันสงกรานต์เป็นวันขึ้นปีใหม่แล้ว รู้หรือไม่ว่า ประเทศมอญ พม่า ลาว ก็นำเอาวันดังกล่าว เป็นเทศกาลฉลองวันขึ้นปีใหม่ของเขาด้วยเช่นกัน

สำหรับภาษาและความเชื่อของวันสงกรานต์ในแต่ละภาคก็จะมีความแตกต่างกันออกไป ดังนี้ ...

ภาคกลาง
                       วันที่ 13 เมษายน เรียกว่า "วันมหาสงกรานต์" และเป็นวันผู้สูงอายุแห่งชาติ

                       วันที่ 14 เมษายน เรียกว่า "วันเนา" ซึ่งในสมัยพลเอกชาติชาย ชุณหะวัณ ได้ประกาศให้เป็นวันครอบครัว

                       วันที่ 15 เมษายน เรียกว่า "วันเถลิงศก" คือวันเริ่มจุลศักราชใหม่

ภาคเหนือ
 
                       วันที่ 13 เมษายน เรียกว่า "วันสังขารล่อง" ซึ่งมีความหมายว่า อายุสิ้นไปอีกปี

                       วันที่ 14 เมษายน เรียกว่า "วันเน่า" เป็นวันห้ามพูดจาหยาบคาย เพราะเชื่อว่าจะทำให้ปากเน่าและไม่เจริญ

                       วันที่ 15 เมษายน เรียกว่า "วันพญาวัน" คือวันเปลี่ยนศกใหม่

ภาคใต้

                       วันที่ 13 เมษายน เรียกว่า "วันเจ้าเมืองเก่า" หรือ "วันส่งเจ้าเมืองเก่า" เพราะเชื่อว่าเทวดารักษาบ้านเมืองกลับไปชุมนุมกันบนสวรรค์

                       วันที่ 14 เมษายน เรียกว่า "วันว่าง" คือวันที่ปราศจากเทวดาที่รักษาเมือง ชาวบ้านก็จะงดงานอาชีพต่าง ๆ แล้วไปทำบุญที่วัด

                       วันที่ 15 เมษายน เรียกว่า "วันรับเจ้าเมืองใหม่" คือวันรับเทวดาองค์ใหม่ที่ได้รับมอบหมายให้มาดูแลเมืองแทนองค์เดิมที่ย้ายไปประจำเมืองอื่น

                              คำว่า "ดำหัว" ปกติแปลว่า "สระผม" แต่ประเพณีสงกรานต์ล้านนา หมายถึง การแสดงความเคารพ และขออโหสิกรรมที่ตนอาจจะเคยล่วงเกิน รวมทั้งขอพรจากผู้ใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นญาติผู้ใหญ่ ผู้อาวุโส ครูบาอาจารย์ หรือผู้บังคับบัญชา ส่วนมากจะใช้น้ำขมิ้นส้มป่อยนำไปไหว้ และผู้ใหญ่ก็จะจุ่มเอาน้ำแปะบนศีรษะก็เป็นอันเสร็จพิธี

                              อย่างไรก็ตาม พิธีสงกรานต์ เป็นพิธีกรรมที่เกิดขึ้นในสมาชิกครอบครัว หรือชุมชนบ้านเรือนละแวกใกล้เคียง แต่ปัจจุบันได้เปลี่ยนแปลงไปตามสมัย และค่านิยม จากเดิมชาวบ้านจะใช้น้ำเป็นตัวแทนในการประกอบพิธีสำคัญต่าง ๆ โดยถือว่า น้ำจะแก้ความร้อนของฤดูร้อน และใช้ช่วงเวลาดังกล่าวขอพรจากผู้ใหญ่ รวมไปถึงระลึกบุญคุณต่อบรรพบุรุษที่ล่วงลับ ส่วนประเพณีสงกรานต์ในสมัยใหม่นั้น จะเป็นประเพณีกลับบ้านเกิดเสียมากกว่า หรือถือว่าเป็นวันครอบครัว



นางสงกรานต์ 55 ทายประเทศเกิดเพลิงกลางเมือง


คำทำนาย นางสงกรานต์ ปี พ.ศ.2555

                            วันมหาสงกรานต์ ประจำปี พ.ศ.2555 ตรงกับวันศุกร์ที่ 13 เมษายน 2555 เวลา 19.46 น. 12 วินาที นางสงกรานต์ มีนามว่า "กิมิทาเทวี" ทรงพาหุรัด ทัดดอกจงกลนี อาภรณ์แก้วบุษราคัม ภักษาหารกล้วยน้ำ หัตถ์ขวาทรงขรรค์ หัตถ์ซ้ายทรงพิณ เสด็จไสยาสน์ลืมเนตร (นอนลืมตา) มาเหนือหลังมหิงส์ (กระบือ) เป็นพาหนะ ทำนายว่า ประชาชนจะอยู่เย็นเป็นสุข

                            เกณฑ์พิรุณศาสตร์ ปีนี้ พฤหัสบดี เป็นอธิบดีฝน บันดาลให้ฝนตก 500 ห่า ตกในเขาจักรวาล 200 ห่า ตกในป่าหิมพานต์ 150 ห่า ตกในมหาสมุทร 100 ห่า ตกในโลกมนุษย์ 50 ห่า

                            เกณฑ์ธาราธิคุณ ชื่อ วาโย (ธาตุลม) น้ำพอประมาณ พายุจัด เกณฑ์นาคราชให้น้ำ ปีมะโรง นาคราช ให้น้ำ 3 ตัว ทำนายว่า ฝนต้นปีมาก กลางปีงาม แต่ปลายปีน้อยแล

                            เกณฑ์ธัญญาหารชื่อ วิบัติ ข้าวกล้าในไร่นา จะเกิด กิมิชาติ คือ มีด้วงแมลงรบกวน ข้าวกล้า จะได้ผล 1 ส่วน เสีย 5 ส่วน บ้านเมืองจะเกิดยุทธสงคราม จะฆ่าฟันกัน จะนิราชจากกัน จะฉิบหายเป็นอันมากแล

                             ทั้ง นี้ วันมหาสงกรานต์ 2555 ตรงกับวันศุกร์ ทำนายว่า ข้าวน้ำ ลูกหมากรากไม้ทั้งหลายจะอุดม แต่จะแพ้เด็ก ฝนและพายุชุมจะเจ็บตากันมากนักแลฯ

                             วันเนา ตรงกับวันเสาร์ ทำนายว่า ข้าวปลาจะแพง จะเกิดเพลิงกลางใจเมือง ขุนนางจะต้องโทษ ข้าวจะตายฝอย น้ำจะน้อยกว่าทุกปี สมณชีพราหมณ์ จะร้อนใจนัก ผักปลาจะแพงแลฯ

                             วันเถลิงศก ตรงกับวันอาทิตย์ ทำนายว่า พระมหากษัตริย์จะรุ่งเรือง ด้วยพระเดชานุภาพ จะมีชัยชนะแก่ศัตรูทั่วทิศาทั้งปวงแลฯ
      บันทึกการเข้า
พธู ๒๕๒๔
Administrator
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ซื่อต่อนายไม่หน่ายมิตรใกล้ชิดลูกน้องคุ้มครองชาวBan
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 64
คณะ: niti
กระทู้: 7,842

เว็บไซต์
« ตอบ #5947 เมื่อ: 14 เมษายน 2555, 21:22:05 »



สุขภาพใจแข็งแรง แกร่งหนักหนา

สุขภาพกายสมบูรณ์ ปลอดโรคา

มีเงินตราพอใช้ ไม่ขาดมือ
      บันทึกการเข้า

เว้นชั่ว ประพฤติชอบประกอบแต่สิ่งดีงาม ทำจิตใจให้ผ่องแผ้ว
pusadee sitthiphong
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

คณะ: พาณิชยศาสตร์และการบัญชี
กระทู้: 4,689

« ตอบ #5948 เมื่อ: 14 เมษายน 2555, 22:54:55 »

อ้างถึง
ข้อความของ Manop  Klabdee เมื่อ 14 เมษายน 2555, 21:01:18
สวัสดีครับ ชาวซีมะโด่ง ที่รักทุกท่าน

                            วันที่ ๑๔-๑๕ เมษายน  ทางรัฐบาลกำหนดให้เป็นวันครอบครัว  ผมก็หวังว่าชาวซีมะโด่งทุกท่านที่มีครอบครัว  คงอยู่กับครอบครัวอย่างพร้อมหน้า ไปหาอาหารรับประทานร่วมกัน หรือไปท่องเที่ยวกันนะครับ

                            สำหรับคนไม่มีครอบครัวอย่างผมนั้น  ถ้าปล่อยใจเผลอคิด ก็มีแต่เรื่องเสียดายทั้งนั้น  เลยไม่ขอคิด  ขออยู่กับความรู้สึกตัวในสิ่งที่มือ เท้า กำลังทำหน้าที่ของมันอยู่ตลอดเวลา  จะได้ไม่มีเรื่องต้องคิดมาก

                            วันนี้ผมพักผ่อนอยู่บ้าน ได้นำพระพุทธรูปมาสงน้ำ  ชำระฝุ่นออกเสียบ้างประจำปี  ทำความสะอาดโตีะหมู่บูชา   

                            ทำความสะอาดห้องนอน ซักผ้าห่ม ผ้าปูที่นอน  ปลอกหมอน  ให้ดูดีขึ้น

                            เนื่องจากช่วงนี้อาหารการกิน กทม. ลำบากสำหรับผม อย่างวันนี้เลยไปหาอาหารกลางวันที่ร้านฟูจิรับประทาน และพระท่านไม่มาบิณฑบาตรที่หน้าบ้าน จนถึงวันที่ ๑๗ เมษายน เพราะกลัวว่าญาติโยมจะไม่อยู่กัน  ดังนั้น ๑๕-๑๖ เมษายน  ผมไปทำบุญสงกรานต์ที่วัดพระนอนต่อ  หาโอกาสปฏิบัติธรรม หรือไปอยู่กับแม่ดีกว่าอยู่ที่กรุงเทพฯ เป็นไหนๆ

                            สำหรับทุกท่านที่ไปพักผ่อน  ขอให้มีความสุข  สำหรับวันหยุดสงกรานต์

                            สำหรับผู้ที่พักผ่อน อยู่ที่บ้าน ขอให้มีความสุขยิ่งๆ ขึ้นไปครับ สงกรานต์ปีนี้

                            ราตรีสวัสดิ์ทุกท่าน ครับ


ป้อมอ่านหนังสือเล่มหนึ่ง เขาว่าคนไม่มีครอบครัวนั้นดีแล้ว เพราะไม่ได้สร้างกรรมคือทำให้เกิดมาแล้วก็แก่เจ็บตายซึ่งเป็นทุกข์ทั้งนั้น เมื่อเราไม่มีลูกก็จะตัดวงจรตัวนี้ไป ลูกเราก็ไม่ต้องมาเกิดแก่เจ็บตาย หลานเราก็ไม่ต้องมาเกิดแก่เจ็บตาย
น่าคิดนะคะ
      บันทึกการเข้า

pom shi 2516
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #5949 เมื่อ: 15 เมษายน 2555, 20:47:37 »

อ้างถึง
ข้อความของ pusadee sitthiphong เมื่อ 14 เมษายน 2555, 22:54:55
อ้างถึง
ข้อความของ Manop  Klabdee เมื่อ 14 เมษายน 2555, 21:01:18
สวัสดีครับ ชาวซีมะโด่ง ที่รักทุกท่าน

                            วันที่ ๑๔-๑๕ เมษายน  ทางรัฐบาลกำหนดให้เป็นวันครอบครัว  ผมก็หวังว่าชาวซีมะโด่งทุกท่านที่มีครอบครัว  คงอยู่กับครอบครัวอย่างพร้อมหน้า ไปหาอาหารรับประทานร่วมกัน หรือไปท่องเที่ยวกันนะครับ

                            สำหรับคนไม่มีครอบครัวอย่างผมนั้น  ถ้าปล่อยใจเผลอคิด ก็มีแต่เรื่องเสียดายทั้งนั้น  เลยไม่ขอคิด  ขออยู่กับความรู้สึกตัวในสิ่งที่มือ เท้า กำลังทำหน้าที่ของมันอยู่ตลอดเวลา  จะได้ไม่มีเรื่องต้องคิดมาก

                            วันนี้ผมพักผ่อนอยู่บ้าน ได้นำพระพุทธรูปมาสงน้ำ  ชำระฝุ่นออกเสียบ้างประจำปี  ทำความสะอาดโตีะหมู่บูชา   

                            ทำความสะอาดห้องนอน ซักผ้าห่ม ผ้าปูที่นอน  ปลอกหมอน  ให้ดูดีขึ้น

                            เนื่องจากช่วงนี้อาหารการกิน กทม. ลำบากสำหรับผม อย่างวันนี้เลยไปหาอาหารกลางวันที่ร้านฟูจิรับประทาน และพระท่านไม่มาบิณฑบาตรที่หน้าบ้าน จนถึงวันที่ ๑๗ เมษายน เพราะกลัวว่าญาติโยมจะไม่อยู่กัน  ดังนั้น ๑๕-๑๖ เมษายน  ผมไปทำบุญสงกรานต์ที่วัดพระนอนต่อ  หาโอกาสปฏิบัติธรรม หรือไปอยู่กับแม่ดีกว่าอยู่ที่กรุงเทพฯ เป็นไหนๆ

                            สำหรับทุกท่านที่ไปพักผ่อน  ขอให้มีความสุข  สำหรับวันหยุดสงกรานต์

                            สำหรับผู้ที่พักผ่อน อยู่ที่บ้าน ขอให้มีความสุขยิ่งๆ ขึ้นไปครับ สงกรานต์ปีนี้

                            ราตรีสวัสดิ์ทุกท่าน ครับ


ป้อมอ่านหนังสือเล่มหนึ่ง เขาว่าคนไม่มีครอบครัวนั้นดีแล้ว เพราะไม่ได้สร้างกรรมคือทำให้เกิดมาแล้วก็แก่เจ็บตายซึ่งเป็นทุกข์ทั้งนั้น เมื่อเราไม่มีลูกก็จะตัดวงจรตัวนี้ไป ลูกเราก็ไม่ต้องมาเกิดแก่เจ็บตาย หลานเราก็ไม่ต้องมาเกิดแก่เจ็บตาย
น่าคิดนะคะ

สวัสดีค่ะ คุณน้องป้อม ที่รัก

                             หนังสือก็คือหนังสือ มันขึ้นอยู่กับความคิดของผู้เขียนที่พยายามหาเหตุผลมาอธิบายในสิ่งที่ตนเองคิดเอาไว้  อย่าไปเชื่อตามหลักกาลามสูตร จะดีกว่า

                             ยกเว้นผู้ที่ไม่มีครอบครัว  ตายไปแล้วและมาบอกเราอีกทีหนึ่ง ซึ่งมันก็เป็นไปไม่ได้  แต่ถ้าอ่านแล้วมีความสบายใจ  ไม่ทำให้ใครเดือดร้อน  ไม่เป็นไรครับ

                              ความคิดคนมันนาๆ  จิตตัง  ไม่เหมือนกัน  วันหนึ่งๆ พี่สิงห์เองพบสิ่งที่ไม่รักไม่ชอบมาก แต่เดี๋ยวนี้ตัวสติ มันไวทำให้ยังรักษากาย  วาจา  ใจ เป็นปกติได้  สามารถประสบได้แต่มีปัญญาเพียงพอที่จะพิจารณาได้ว่า จะทำอย่างไร  ถ้าทำไปแล้วมีผู้ได้รับทุกข์หรือไม่เป็นผลดี  ขอเก็บไว้เองดีกว่าแบบที่เรียกว่า "นิ่งเสียตำลึงทอง" คืออดทนอดกลั้น  ไม่โต้ตอบทั้งสิ้น  มันก็หายไปเอง

                               สวัสดีปีใหม่เมืองเจ้า
      บันทึกการเข้า
  หน้า: 1 ... 236 237 [238] 239 240 ... 681   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

ทำไมหอพักนิสิตจุฬาจึงเป็นดินแดนมหัศจรรย์            " ไม่ได้เป็นแค่หอให้นอนพัก  แต่เป็นบ้านอบอุ่นรักให้อาศัย  ไม่เป็นแค่ที่ซุกหัวยามหลบภัย  แต่สร้างใจให้เข้มแข็งแกร่งการงาน"  <))))><