Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์
รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644
|
|
« ตอบ #5900 เมื่อ: 08 เมษายน 2555, 21:50:52 » |
|
จริงๆ ไม่ควรต่ออายุราชการ คนรุ่นใหม่จะได้มีงานทำมากขึ้น
กลายเป็นคนแก่แย่งงานเด็กที่จบใหม่ๆ ด้วยข้ออ้าง ไม่มีความสามารถเพียงพอ บุคลากรไม่พอ
นา นา จิตตัง แล้วแต่จะคิด อย่างไรก็ถูกหมด(เมื่อคิดเหมือนเรา) นี่ละจิตมนุษย์
สวัสดี
|
|
|
|
|
|
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์
รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644
|
|
« ตอบ #5903 เมื่อ: 09 เมษายน 2555, 16:50:37 » |
|
ผมกำลังนั่งฟังสมเด็จท่านเทศน์เรื่องกฏไตรลักษณ์ งานออกพระเมรู คือ สังขารทั้งหลายไม่เที่ยง สังขารทั้งหลานเป็นทุกข์ ธรรมทั้งหลายเป็นอนัตตา ท่านได้แจงรายละเอียด เพื่อให้มองให้ออก
ท่านได้แสดงเรื่องทุกข์ ที่เกิดขึ้น
ท่านพยายามอธิบายให้เห็นว่า สังขาร(ความคิดปรุงแต่ง และรูป)เราไม่สามารถบังขับได้ ให้เป็นอย่างนั้น อย่างนี้ได้ เมื่อบังคับไม่ได้ มันย่อมเป็นอนัตตา คือต้องคิดว่ามันไม่มีตัวไม่มีตน ที่เราจะไปยึดติดกับมันให้เกิดตัณหา และทุกข์ตามมา
สวัสดี
|
|
|
|
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์
รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644
|
|
« ตอบ #5904 เมื่อ: 09 เมษายน 2555, 17:20:28 » |
|
คนไทยมีคติความเชื่อว่าพระมหากษัตริย์และพระราชวงศ์เปรียบเสมือนสมมติเทพ เมื่อเสด็จพระราชสมภพถือว่าเป็นเทพอวตาร เมื่อถึงวาระสุดท้ายของพระชนม์ชีพคือ การเสด็จกลับสู่เทวภิภพ ตามโบราณราชประเพณีจึงมีการจัดงานถวายพระเพลิงพระศพสืบต่อมาแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยาจนถึงปัจจุบัน โดยอัญเชิญพระศพไปถวายพระเพลิงบนพระเมรุที่สร้างขึ้น ณ มณฑลพิธีซึ่งสมมุติหมายเป็นพื้นที่อันศักดิ์สิทธิ์ ศูนย์กลางมณฑลจักรวาล
พระเมรุ สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี เป็นอาคารทรงสี่เหลี่ยมย่อมุมไม้สิบสอง ยอดทรงมณฑปแปลง มีมุขยื่นทั้งสี่ด้านสร้างขึ้นบนฐานชาลาใหญ่ ความสูงถึงยอดฉัตรประมาณ 35.59 เมตร โดยมุขหน้าด้านทิศตะวันตกเป็นทางเสด็จพระราชดำเนิน มุขด้านทิศเหนือมีสะพานเกรินสำหรับอัญเชิญพระโกศขึ้นประดิษฐานเหนือพระจิตกาธาน ภายในพระเมรุ มุขหลังด้านทิศตะวันออกเป็นพื้นที่วางเตาเผาพระศพบริเวณฐานชาลาทุกด้านมีบันไดทางขึ้นลง รายล้อมด้วยราชวัติ ฉัตร โคมและเทวดาอัญเชิญฉัตรประกอบพระอิสริยยศ
ก่อเกียรติ ทองผุด นายช่างศิลปกรรมชำนาญงาน สำนักสถาปัตยกรรม กรมศิลปากร กล่าวถึงลักษณะทางสถาปัตยกรรมพระเมรุ พร้อมอธิบายเพิ่มถึงการออกแบบการสร้างพระเมรุและอาคารประกอบในงานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี อีกว่า พลอากาศตรีอาวุธ เงินชูกลิ่น อดีตอธิบดีกรมศิลปากรและศิลปินแห่งชาติสาขาสถาปัตยกรรมไทยท่านได้ออกแบบพระเมรุและเรียกเครื่องยอดลักษณะนี้ว่าเป็นเครื่องยอดทรงมณฑปแปลง เนื่องจากเป็นการประยุกต์ให้ต่างจากเครื่องยอดทรงมณฑปปกติซึ่งต้องมีชั้นเหมอยู่ใต้ชั้นบัวกลุ่ม แต่ครั้งนี้ได้ออกแบบทรงมณฑปใหม่โดยไม่มีชั้นเหมจึงเรียกเป็นทรงมณฑปแปลง ในส่วนเครื่องยอดพระเมรุ ประกอบด้วยชั้นเชิงกลอนห้าชั้น กึ่งกลางแต่ละชั้นมีซุ้มบันแถลงซ้อนสองชั้นที่มุมหลังคามีนาคปัก ส่วนบนเป็นองค์ระฆังรับบัลลังก์ เหนือบัลลังก์เป็นชุดบัวกลุ่มห้าชั้น ปลียอดแบ่งเป็นสองส่วนคั่นด้วยลูกแก้วเหนือสุดประดิษฐานพระสัปตปฎลเศวต ฉัตร (ฉัตรสีขาว 7 ชั้น)
ด้านในพระเมรุตั้งพระจิตกาธานเพื่อประดิษฐานพระโกศจันทน์ การตกแต่งพระเมรุใช้งานศิลปกรรมแบบซ้อนไม้ทดแทนการแกะสลักไม้จริง ด้วยมีแนวคิดลดการใช้ไม้ซึ่งเป็นวัสดุหายากจึงเสริมบางส่วนที่เป็นงานซ้อนไม้ด้วยวิธีหล่อไฟเบอร์กลาส อีกทั้งประดับตกแต่งใช้การปิดผ้าทองย่นสาบกระดาษสีแทนการปิดทองประดับกระจก
“การออกแบบนอกจากคำนึงถึงคติ ประโยชน์การใช้สอยแล้ว อีกด้านหนึ่งคือความงามซึ่งประกอบด้วยรูปทรง สี และสัญลักษณ์องค์ประกอบทางสถาปัตยกรรม นำลวดลายดอกไม้ ลายดอกบัว ลายพฤกษามาประดับ อีกทั้งโครงสีของพระเมรุโดยรวมเป็นสีทองและสีชมพูตามสีวันพระราชสมภพคือ วันอังคาร”
นอกจากนี้ ฉากบังเพลิง ซึ่งเป็นเครื่องกั้นส่วนบนพระเมรุในพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพเขียนรูปเทวดาและลายดอกกุหลาบประณีต อีกทั้งรายรอบพระเมรุประดับเทวดาซึ่งแบ่งเป็น เทวดานั่งถือโคม เทวดานั่งถือบังแทรก เทวดายืนถือโคม เทวดายืนถือฉัตรผ้า สร้างจากหุ่นประดับลายอย่างโบราณ หล่อด้วยไฟเบอร์กลาส ทาสีประดับเลื่อมและเขียนสีตามแบบไทยและจากคติความเชื่อเกี่ยวกับพระมหากษัตริย์เป็นสมมติเทวราช เมื่อเสด็จสวรรคตจึงจัดสร้างพระเมรุโดยมุ่งหมายให้เป็นการจำลองเขาพระสุเมรุมีเขาสัตตบริภัณฑ์รายล้อมเชิงเขาคือ ป่าหิม พานต์
สัตว์หิมพานต์ประดับพระเมรุครั้งนี้สร้างด้วยเทคนิคปูนปั้นสดโดยกลุ่มช่างจากจังหวัดเพชรบุรีและเขียนสีโดยจิตรกรจากสำนักช่างสิบหมู่ กรมศิลปากรติดตั้งอยู่บริเวณเขามอหรือภูเขาหินที่จำลองเป็นป่าหิมพานต์ 160 ตัว นอกจากนี้ภายในมณฑลพิธียังมี ศาลาลูกขุน สำหรับข้าราชการชั้นผู้ใหญ่เฝ้าฯ รับเสด็จและร่วมพิธีเป็นอาคารโล่งชั้นเดียวซึ่งครั้งนี้ปรับประยุกต์ใช้เต็นท์ผ้าใบสำเร็จรูปเป็นโครงอาคารและหลังคา ออกแบบองค์ประกอบและลวดลายทางสถาปัตยกรรมไทยตกแต่งกลมกลืนเข้ากับหลังคาโค้ง
ทับเกษตร อาคารที่สร้างขึ้นเพื่อแสดงขอบเขตมณฑลพิธีเป็นอาคารโล่งมีระเบียงเรียงรายรอบพระเมรุ ทิม ที่พักของพระสงฆ์ แพทย์หลวงและเจ้าพนักงานเป็นที่ประโคมปี่พาทย์ประกอบพิธี สร้างติดแนวราชวัติเป็นอาคารชั้นเดียวตกแต่งปลายจั่วเป็นหน้าเหรายอดเป็นหน้ากาล ซ่าง อาคารที่สร้างบนฐานชาลาพระเมรุทั้ง 4 มุมเป็นที่สำหรับพระพิธีธรรม หอเปลื้อง อาคารหลังคาจั่วตกแต่งผนังสี่ด้านเป็นฝาปะกน ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของพระเมรุเป็นที่เก็บพระโกศและเครื่องประกอบหลังจากเปลื้องออกจากพระลองและสำหรับเก็บเครื่องใช้เบ็ดเตล็ดในช่วงการพระราช ทานเพลิงพระศพ พลับพลายกสนามหลวง ตั้งอยู่ด้านหน้าทางเข้าปริมณฑลท้องสนามหลวงและ พระที่นั่งทรงธรรม ซึ่งตั้งอยู่ทางด้านทิศตะวันตกของพระเมรุ
นอกจากนี้ยังมี ราชวัติ แนวกำหนดขอบเขตปริมณฑปพระเมรุสร้างต่อเนื่องไปกับทิมและทับเกษตร เป็นเหล็กโปร่งประดับดอกประจำยามหล่อด้วยไฟเบอร์กลาสตกแต่งเสารั้วด้วยโคมไฟแก้วขนาดเล็ก เสาโคม ตั้งอยู่ทางเข้าทั้งสี่ด้านและเรียงรายอยู่ในเขตมณฑลพิธียอดเสาเป็นโคมแก้วยอดโคมเป็นยอดมงกุฎสีทองแทนความหมายของพระนาม “เพชรรัตนราชสุดา” คือ “ดวงแก้วแห่งพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว” ซึ่งนอกเหนือจากความงดงามในด้านศิลปกรรม การออกแบบครั้งนี้ยังมีแนวคิดที่น่าศึกษาในเรื่องของการใช้วัสดุอย่างคุ้มค่าและรักษาธรรมชาติไม่ทำลายต้นไม้สิ่งแวดล้อม อีกทั้งสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้
ส่วนพระโกศจันทน์สร้างด้วยไม้จันทน์หอมแปรรูปไม้เป็นแผ่นบาง โกรกฉลุเป็นลวดลายตามแบบนำมาจัดประกอบโดยมีลายกว่า 50 ลักษณะลาย นิยม กลิ่นบุบผา ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านช่างศิลปกรรม (ช่างสิบหมู่) สำนักช่างสิบหมู่ กรมศิลปากรกล่าวว่า พระโกศจันทน์ครั้งนี้มีลักษณะเป็นรูปแปดเหลี่ยม บริเวณองค์พระโกศยังคงเป็นกลีบบัว ในลายกลีบบัวทุกครั้งจะเป็นดอกเทศเปลวเล็ก ๆ ในลักษณะต่อก้านดอก แต่ครั้งนี้ทำเป็นช่อดอกขึ้นมาเป็นดอกใหญ่ ในหนึ่งกลีบบัวมีช่อดอกบนและดอกล่าง ระหว่างช่องว่างแทรกด้วยดอกเล็ก ส่วนชั้นฝาพระโกศมีลักษณะเป็นฝาเปิดต่อขึ้นไปด้านบนเป็นทรงมงกุฎส่วนยอดทำเป็นพุ่มข้าวบิณฑ์
ครั้งนี้ช่างได้ผูกลายต่างจากที่ผ่านมา ลายที่ประดับพระโกศถ่ายทอดถึงงานช่างซึ่งได้ทำงานอย่างเต็มที่ด้วยความประณีต พระโกศจันทน์เปรียบเป็นฟืนเวลาที่ถวายพระเพลิง ดังนั้นเมื่อเป็นฟืนจึงไม่มีการแกะสลัก แต่จะตัดเป็นแผ่นบางจากนั้นใช้เลื่อยโกรกฉลุเป็นรูปลาย นำลายมาประกอบซ้อนกันปรากฏเป็นลายที่สมบูรณ์ซึ่งแล้วเสร็จพร้อมในงานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี
|
|
|
|
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์
รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644
|
|
« ตอบ #5905 เมื่อ: 09 เมษายน 2555, 17:37:22 » |
|
|
|
|
|
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์
รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644
|
|
« ตอบ #5906 เมื่อ: 09 เมษายน 2555, 20:01:54 » |
|
เมื่อเย็นที่ผ่านมา ผมก็นั่งดูงานพระราชทานเพลิงพระศพ จนเสร็จสิ้นไป ได้อะไรๆ หลายอย่างครับ
เมื่อเวลา 16.30 น. วันนี้ (9 เม.ย.) พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในฉลองพระองค์เต็มยศจักรีไว้ทุกข์ และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์ เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่งจากโรงพยาบาลศิริราช ไปยังราชวัติพระเมรุ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง ครั้นรถยนต์พระที่นั่งเทียบที่หลังพระที่นั่งทรงธรรม ทหารกองเกียรติยศ ถวายความเคารพ แตรวงบรรเลง เพลงสรรเสริญพระบารมี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินโดยลิฟท์พระที่นั่งขึ้นสู่พระที่นั่งทรงธรรม ในการนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ รศ.นพ.ประดิษฐ์ ปัญจวีณิน ผอ.โรงพยาบาลศิริราชปิยมหาราชการุณย์ เป็นผู้ถวายการรถเข็นพระที่นั่ง นายทหารราชองครักษ์เชิญธงชัยครุฑพ่าห์ ธงชัยราชกระบี่ยุทธ์นำเสด็จ นายทหารราชองครักษ์ตามเสด็จ
ต่อมา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ประทับพระราชอาสน์ ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทรงธรรม จากนั้นทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อย สำหรับพระศพทรงธรรมที่พระเมรุ ทรงศีล สมเด็จพระวันรัต วัดบวรนิเวศฯ ถวายศีล และถวายพระธรรมเทศนากัณฑ์ “อนัตตา” แล้ว พระสงฆ์ 50 รูปสวดศราทธพรตจบ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงประเคนจตุปัจจัยไทยธรรมบูชากัณฑ์เทศน์ และทรงทอดผ้าไตรถวายพระราชาคณะที่ถวายพระธรรมเทศนาและพระสงฆ์ 50 รูปสวดศราทธพรตสดับปกรณ์ ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก ถวายพระพรลา เวลา 17.40 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินขึ้นพระเมรุโดยลิฟท์พระที่นั่ง พร้อมด้วยสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร, สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และพระบรมวงศานุวงศ์ จากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ ทรงวางเครื่องราชสักการะพระศพ ทหารกองเกียรติยศพระศพ เป่าแตรเดี่ยวสัญญาณนอน จบแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงหยิบกระทงข้าวตอกดอกไม้จากเจ้าพนักงานพระราชพิธี วางที่พระจิตกาธานพระโกศพระศพ ทรงหยิบธูปเทียนดอกไม้จันทน์จากเจ้าพนักงานพระราชพิธี จุดไฟที่ชนวนตำรวจวังชูถวายวางที่พระจิตกาธานข้างพระโกศทองใหญ่ทรงพระศพ พระราชทานเพลิงพระศพสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี ขณะเดียวกัน ชาวพนักงานประโคมสังข์ แตรงอน แตรฝรั่ง ปี่ กลองชนะ และปี่พาทย์ กองเกียรติยศ ทหารบก ทหารเรือ ทหารอากาศ ถวายความเคารพ แตรวงบรรเลงเพลงมหาชัย และยิงปืนเล็กยาวถวายพระเกียรติ 9 นัด พร้อมกันกับทหารปืนใหญ่ยิงปืนถวายพระเกียรติ 21 นัด จากนั้นสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ กระทงข้าวตอกดอกไม้ ทรงวางดอกไม้จันทน์ ต่อจากนั้นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงวางดอกไม้จันทน์ที่พระจิตกาธานข้างพระโกศทองใหญ่ทรงพระศพ ทรงกราบ แล้วประทับยืนและทรงจับพระหัตถ์สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถไว้ จากนั้นสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี, สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี, ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี และพระบรมวงศานุวงศ์ ทรงวางดอกไม้จันทน์และทรงกราบ ตามลำดับ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินจากพระเมรุโดยลิฟท์พระที่นั่งไปประทับ ณ มุขหน้าพระที่นั่งทรงธรรม สมเด็จพระวันรัต วัดบวรนิเวศฯ ประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช, สมเด็จพระราชาคณะ, พระบรมวงศานุวงศ์, ประธานองคมนตรี, องคมนตรี, นายกรัฐมนตรี, อดีตนายกรัฐมนตรี, ประธานสภาผู้แทนราษฎร, ประธานศาลฎีกา,ประธานศาลวุฒิสภา, ผู้นำฝ่ายค้านประธานศาลรัฐธรรมนูญ, ประธานศาลปกครองสูงสุด, ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง, ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน, ประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ, ประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ, ประธานกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน, ประธานกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ, คณะรัฐมนตรี, คณะทูตานุทูต, ผู้นำศาสนา, ข้าราชการทหาร, ตำรวจ, พลเรือน และผู้มีตำแหน่งเฝ้าฯ ได้ขึ้นถวายพระเพลิงพระศพ ตามลำดับ
กระทั่งเวลา 18.35 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินกลับโดยรถยนต์พระที่นั่ง ออกหลังพระที่นั่งทรงธรรม ทหารกองเกียรติยศถวายความเคารพ แตรวงบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในส่วนของแขกผู้มีเกียรติที่มาร่วมงานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ พระฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี จะได้รับสูจิบัตรสำหรับการนำไปรับหนังสือที่ระลึกในงานพระราชทานเพลิงพระศพฯ โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำขึ้น ทั้งนี้ผู้ที่ประสงค์ที่จะรับหนังสือที่ระลึกสามารถรับได้หลังงานพระราชพิธีเสร็จสิ้นอย่างเป็นทางการ สำหรับหมายกำหนดการ งานพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี (จริง) เวลา 22.00 น.พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ จะเสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่งจากโรงพยาบาลศิริราช ไปยังพระที่นั่งทรงธรรม พระเมรุ ท้องสนามหลวง พร้อมด้วยสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร, สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และพระบรมวงศานุวงศ์ เพื่อร่วมในการพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี ครั้นประทับยังพระราชอาสน์ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงทอดผ้าไตร ถวายพระสงฆ์ 30 รูปสดับปกรณ์ ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก ถวายพระพรลา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินขึ้นพระเมรุโดยลิฟท์พระที่นั่ง แล้วเสด็จฯ ไปยังหน้าเตา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงรับมะพร้าวแก้วจากเจ้าพนักงานพระราชพิธีทูลเกล้าฯ ถวาย แล้วทรงเทน้ำมันมะพร้าวแก้วนั้นลงในหีบพระศพ จากนั้นทรงคม
ต่อมาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงหยิบธูปเทียนดอกไม้จันทน์จากเจ้าหน้าพนักงานพระราชพิธี ทรงจุดไฟที่ชนวนตำรวจวังชูถวาย พระราชทานเพลิงพระศพสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี จากนั้นทรงมีพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงวางดอกไม้จันทน์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร, สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และพระบรมวงศานุวงศ์ ทรงวางดอกไม้จันทน์ ตามลำดับ แล้วเสด็จพระราชดำเนินกลับ.
|
|
|
|
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์
รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644
|
|
« ตอบ #5907 เมื่อ: 09 เมษายน 2555, 20:33:43 » |
|
|
|
|
|
swsm
Cmadong Member
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
@@ ยาหยี @@
ออฟไลน์
รุ่น: Rcu2523
คณะ: Comm Arts
กระทู้: 28,369
|
|
« ตอบ #5908 เมื่อ: 09 เมษายน 2555, 20:50:08 » |
|
พระฉวี (ผิว) ของพระพักตร์สมเด็จพระเทพฯ คล้ำลงไปทันตาเห็นเลยนะคะ ทรงชุดดำแขนยาว กระโปรงยาวล้วนแบบนั้นด้วย คงทำให้ร้อนมากยิ่งขึ้น
แต่เห็นพระองค์เสด็จพระราชดำเนินอย่างเข้มแข็งตลอดเวลา ขอพระองค์ทรงพระเจริญ
|
.. don't play with me, cos I know how to play it too .. may be better than you do ..
|
|
|
swsm
Cmadong Member
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
@@ ยาหยี @@
ออฟไลน์
รุ่น: Rcu2523
คณะ: Comm Arts
กระทู้: 28,369
|
|
« ตอบ #5909 เมื่อ: 09 เมษายน 2555, 20:53:39 » |
|
ท่านนายกเราก็ภารกิจวุ่นตลอด แม้อยู่ในขบวนพระราชพิธี ..
การนั่งในตำแหน่งสูง ก็ต้องแลกด้วยการทำงานหนักตลอดเวลา น่าเห็นใจ ..
|
.. don't play with me, cos I know how to play it too .. may be better than you do ..
|
|
|
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์
รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644
|
|
« ตอบ #5910 เมื่อ: 10 เมษายน 2555, 16:01:00 » |
|
คออักเสบ เจ็บคอ ไอ และน้ำมูกมาเยือนพี่สิงห์อีกจนได้ สองเดือนเต็มแล้ว เป็นๆ หายๆ อากาศเมืองไทย
สงสัยพี่สิงห์จะย่ำแย่ แน่ๆ พรุ่งนี้ต้องไปอุบล สุรินทร์ Boading 06:00 น. ยังไม่รู้จะไหวหรือไม่ครับ
วันนี้ก็ต้องหอบสังขารไปที่หอพัก มิฉนั้น ดร.สุริยา คงไม่สบายใจ
สวัสดี
|
|
|
|
swsm
Cmadong Member
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
@@ ยาหยี @@
ออฟไลน์
รุ่น: Rcu2523
คณะ: Comm Arts
กระทู้: 28,369
|
|
« ตอบ #5911 เมื่อ: 10 เมษายน 2555, 17:17:52 » |
|
ช่วงอากาศเปลี่ยนแปลงค่ะ พี่สิงห์
ที่ลิสบอนก็เหมือนกัน .. บางวันอุ่น บางวันเย็น บางวันมีฝน เป็นไข้ เจ็บคอ กันเป็นทิวแถว
|
.. don't play with me, cos I know how to play it too .. may be better than you do ..
|
|
|
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์
รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644
|
|
« ตอบ #5912 เมื่อ: 10 เมษายน 2555, 20:29:02 » |
|
สวัสดีค่ะ คุณน้องยาหยี ที่รัก
แต่ละที่ ที่พี่สิงห์ไปทำงาน หนึ่งฝุ่น สองร้อนจัด ไม่เหมือนกันเลย เมื่อคืนแอร์มันติๆ ดับๆ ผลคือไม่ได้นอนเท่าที่ควร เจ็บคอเสียงไม่มีเร็วมากๆ พี่สิงห์ก็พยายามนอน ไม่คิดอะไรมากแต่อากาศมันไม่พอ มันก็จะตื่น ไม่อยากนอนห้องแอร์เลย อยากนอนห้องโล่งๆ ที่มีลมพัด
พี่สิงห์สังเกตตัวเองหลายครั้งแล้ว จะต้องไปขึ้นเครื่องบิน 06:00 น. ทีไร เป็นอย่างนี้ทุกที ส่วนลุกขึ้นปฏิบัติธรรม ตีสี่ ไม่เป็นอะไรครับ สงสัยเกิดจากแรงดันบนเครื่องบิน
วันนี้พี่สิงห์ไป ให้น้องๆ สมาคมซีมะโด่ง รดน้ำดำหัวมา ไปทั้งๆ ที่ไม่สบาย และหนีกลับมาก่อนครับ
สวัสดีค่ะ
|
|
|
|
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์
รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644
|
|
« ตอบ #5913 เมื่อ: 10 เมษายน 2555, 20:41:36 » |
|
วันนี้วันอังคารที่ ๑๐ เมษายน ทางสมาคมซีมะโด่ง โดยท่านนายกสมาคม คุณราเมศวร์ และ รศ.ประกายแก้ว ทำหน้าที่เลขาสมาคม ได้จัดให้มีการรดน้ำดำหัวในในเทศกาลสงกรานต์ประจำปี ขึ้นที่สำนักงานหอพัก จุฬาฯ
ผมเองไปถึงประมาณห้าโมงเย็น ได้ทักทาย และได้ไปนั่งคุยกับท่านอาจารย์แจ่มใส อาจารย์เพ็ญพรรณ อาจารย์เผ่า อาจารย์พินิจ พี่ติ๋ว พี่ปิ้ง เพราะไม่ได้เจอนานมากแล้ว คิดถึง ครับ
งานนี้ผมได้นำเอาหนังสือ พิศเจริญ...กำลังใจ ของท่านพุทธทาสภิกขุ และหลวงพ่อปัญญา ที่พิมพ์ขึ้นในงานฌาปนกิจพี่กุ้ง ไปแจกจำนวนยี่สิบเล่ม ครับ
เชิญชมภาพ
|
|
|
|
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์
รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644
|
|
« ตอบ #5914 เมื่อ: 10 เมษายน 2555, 20:51:21 » |
|
พี่สิงห์ และ ดร.สุริยา เป็นสองท่านสุดท้ายที่รวมทั้งหมดสิบท่านตามอาวุโส ที่จะต้องให้น้องๆ ได้รดน้ำดำหัว และให้พรแก่น้องๆ เนื่องในเทศกาลสงกรานต์ วันขึ้นปีใหม่ไทย ในปีนี้
คุณราเมศวร์ นายกสมาคมฯ ได้กล่าวรายงานและท่านอาจารย์เผ่า สุวรรศักดิ์ศรี ศิลปินแห่งชาติ เป็นผู้รดน้ำพี่ๆ อาวุโสชมรมฯ เป็นท่านแรก โดยเรียงลำดับตามอาวุโส
เชิญชมภาพ
|
|
|
|
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์
รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644
|
|
« ตอบ #5915 เมื่อ: 10 เมษายน 2555, 21:06:50 » |
|
ปีนี้ไม่ได้มีการถ่ายภาพหมู่ และพี่พงษ์ จิระโสภณ มาสายตามเคยเลยไม่ทันได้รดน้ำดำหัว
หลังจากเสร็จสิ้นพิธีก็รับประทานอาหารร่วมกัน และเปิดคาราโอเกะ
และผมหนีกลับบ้านก่อน เพราะสังขาร(รูป)ไม่ไหว ครับ
ต้องกราบขอบคุณน้องๆ ที่ได้ถ่ายภาพให้ครับ
เชิญชมภาพ
|
|
|
|
Dtoy16
Hero Cmadong Member
ออฟไลน์
รุ่น: rcu2516
คณะ: อักษรศาสตร์
กระทู้: 1,424
|
|
« ตอบ #5916 เมื่อ: 10 เมษายน 2555, 22:10:59 » |
|
ขอบคุณพี่สิงห์ที่โพสภาพในช่วงนี้ทั้ง งานพระราชพิธี และงานแสดงมุทิตาจิตในวันสงกรานต์ เห็นพีพีซีมะโด่งหลายท่านที่หน้าตาอิ่มเอิบดูมีความสุข มีราศีสมวัยโดยเฉพาะพี่ค่ะ คงต้องยึด แนวปฎิบัติในชีวิตประจำวันที่พี่เล่าให้ฟังในเวบนี้บ้างแล้วค่ะ
|
|
|
|
swsm
Cmadong Member
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
@@ ยาหยี @@
ออฟไลน์
รุ่น: Rcu2523
คณะ: Comm Arts
กระทู้: 28,369
|
|
« ตอบ #5917 เมื่อ: 11 เมษายน 2555, 05:08:41 » |
|
ขอบคุณที่นำภาพมาให้ชมค่ะ .. คนอยู่ไกล ก็คิดถึงบรรยากาศแบบนี้เช่นกัน
|
.. don't play with me, cos I know how to play it too .. may be better than you do ..
|
|
|
อ้อย17
|
|
« ตอบ #5918 เมื่อ: 11 เมษายน 2555, 08:07:19 » |
|
สวัสดีค่ะ พี่สิงห์............ เมื่อคืนเห็นพี่สิงห์แว๊บๆ...แค่เอากระเป๋าไปวาง เดินออกมาพี่สิงห์หายตัวไปแระ.. ไม่ได้คุยกับพี่สิงห์เลยสักคำเดียว...ฮือฮือ.... ไม่ใช่อะไร หนูมาตามของฝากที่พี่บอกว่าเตรียมไว้ให้หนู จากอินเดียและหนังสือสวดมนต์.. พี่สิงห์ลืมน้องไปแล้ววว...............หรือ?......
มีทวงค่ะ ...มีทวง..............
|
|
|
|
swsm
Cmadong Member
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
@@ ยาหยี @@
ออฟไลน์
รุ่น: Rcu2523
คณะ: Comm Arts
กระทู้: 28,369
|
|
« ตอบ #5919 เมื่อ: 12 เมษายน 2555, 05:08:24 » |
|
ชื่นใจจังเลยค่ะ
|
.. don't play with me, cos I know how to play it too .. may be better than you do ..
|
|
|
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์
รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644
|
|
« ตอบ #5920 เมื่อ: 12 เมษายน 2555, 06:41:42 » |
|
สวัสดีค่ะ คุณน้องอ้อย คุณน้องต้อย คุณน้องยาหยี และชาวซ๊มะโด่ง ที่รักทุกท่าน
พี่สิงห์รู้ตัวว่าไม่สบายอย่างมาก และต้องตื่นตีสี่เพื่อเดินทางไปอุบลและสุรินทร์ จึงต้องขอตัวกลับก่อน เพราะถ้าเป็นหนักแล้ว คงไม่ดีแน่ๆ เอาไว้โอกาสหน้า ครับ
ตอนนี้กำลังแย่อยู่เหมือนกัน ดีว่าได้คุณน้องนุช คุณประภาศรี และคุณพี่หมอหาญ ฃ่วยรักษา ให้ยาจึงรู้สึกว่าดีขึ้นมาก พี่สิงห์ต้องกราบขอบพระคุณ คุณประภาศรี และคุณพี่หมอหาญ เป็นอย่างยิ่ง ที่ได้ตรวจรักษา ทั้งหมดให้พี่สิงห์ที่ ยโสธร จนหมดกังวลไปทุกเรื่อง คือตรวจร่างกายทุกระบบให้ โดยไม่ได้คิดเงินเลย นี่ละความช่วยเหลือของพี่ๆ น้องๆ ชาวซีมะโด่ง จุฬาฯ ที่ไม่ทอดทิ้งกันครับ
ขอกราบขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่ง
พี่สิงห์เดินทางไกลมากคือ กทม.มาลงที่อุบล ไปดูงานที่วาริน ย้อนไปยโสธร กลับไปที่สุรินทร์ ค้างคืนที่สุรินทร์ และวันนี้บ่ายกลับ กทม. เมื่อคืนนอนค้างคืนที่สุรินทร์ ครับ
สวัสดีตอนเฃ้าครับ
|
|
|
|
|
swsm
Cmadong Member
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
@@ ยาหยี @@
ออฟไลน์
รุ่น: Rcu2523
คณะ: Comm Arts
กระทู้: 28,369
|
|
« ตอบ #5922 เมื่อ: 12 เมษายน 2555, 07:12:32 » |
|
น่ารักจังค่ะ ..
|
.. don't play with me, cos I know how to play it too .. may be better than you do ..
|
|
|
|
อ้อย17
|
|
« ตอบ #5924 เมื่อ: 12 เมษายน 2555, 07:42:56 » |
|
พี่สิงห์ อยู่ไหนคะ..ตอนนี้..
สบายดีขึ้นหรือยัง...เห็นบอกว่าเป็นหวัดเจ็บคอมาเป็นเดือนแล้วยังไม่หายหรือคะ?..
สงสัยว่าพี่คงต้องพักการเดินทางไว้สักระยะแล้วล่ะ ไม่งั้นมันจะเป็นเรื้อรัง
ขอ คุณธรรม ความดี ที่พี่ทำมาจงช่วยรักษาโรคที่พี่เป็น ให้หายเร็วๆนะคะ..
|
|
|
|
|