|
suriya2513
|
|
« ตอบ #5401 เมื่อ: 23 กุมภาพันธ์ 2555, 03:08:28 » |
|
"....ถ้าเรามีสติอยู่มีสัมปชัญญะอยู่ มีความรู้ตัวอยู่เสมอแล้ว ก็คือเราได้ประพฤติปฏิบัติธรรมอยู่ตลอดกาลตลอดเวลา ดังนั้นไม่ควรคิดว่าธรรมะอยู่ไกล ถ้าเราเห็นสิ่งเหล่านี้สักแต่ว่าเป็นของไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา เท่านี้ปัญญามันก็เกิด
ถ้าอารมณ์สุขขึ้นมา ทุกข์ขึ้นมา ชอบใจขึ้นมา ไม่ชอบใจขึ้นมา เรานึกเห็นมันทุกอย่างว่ามันก็เท่านั้นแหละ สุขมันก็เท่านั้นแหละ ทุกข์มันก็เท่านั้นแหละ ก็แปลว่าเราเห็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตาแล้ว
เมื่อเห็นแล้วเราไม่ยึดไม่ถือ คลี่คลายจากราคะ โทสะ โมหะ อยู่เรื่อยไป เรียกได้ว่าเราปฏิบัติอยู่ทั้งกลางวันกลางคืน ทั้งยืนเดินนั่งนอน มีความรู้อยู่ มีความเห็นอยู่ มีความพร้อมเพรียงอยู่ มีความปฏิบัติอยู่ พิจารณาอยู่ ภาวนาอยู่ตลอดเวลา...."
หลวงปู่ชา สุภทฺโท
|
[โบราณคดี]จุดกำเนิดเริ่มต้นของ cmadong.com by : มานพ กลับดี คลิ๊ก->
|
|
|
|
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์
รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644
|
|
« ตอบ #5403 เมื่อ: 23 กุมภาพันธ์ 2555, 08:24:58 » |
|
พระปลัด ดร.ธีรศักดิ์ ไกด์บรรยายอีกรูปหนึ่ง ควบคุมรถอีกคันหนึ่ง การปฏิบัติอยู่อย่างนี้ เมื่อก่อนคิดว่าทำไม่ได้ ทั้งวันทั้งคืน ตลอดเวลา
แต่พอทำบ่อย ๆ เข้า จิตมาพาไปเอง ตราบใดที่เรามีความรู้สึกตัว เราจะพิจารณาสิ่งรอบ ๆ ตัวไปด้วย สามารถรับทุกสถานะการณ์ ไม่ยินดี ยินร้ายในสิ่งที่สัมผัสได้จากอายตนะ ทุกขณะ ปล่อยมันผ่านไปได้ ทำให้ความอยากมันหายไป จิตหมดกังวล เพราะไม่คิด อยู่กับการรู้สึกตัว คอยระวังเข้าไว้ เตือนตนเองเข้าไว้ มันจะไม่มีปมด้อยอยู่ในจิต เกิดขึ้น เพราะธรรมมันเป็นเช่นนั้น
เมื่อเช้ามืดโดนมารเล่นงานอย่างหนัก หลงติดอยู่กับมันจนยากแก่การถอนตัว จึงได้พิจารณาดูจิต ว่าเราจะแก้มันอย่างไรดี มันรุกฆาตจริงๆ ตัดความคิดไม่ขาด เลยตั้งจิตสร้างจังหวะรู้สึกตัวอย่างเดียว ยื้ออยู่เป็นชั่วโมง ในที่สุดก็สามารถถอนจิตออกจากความคิดนั้นเสียได้ เกิดปีติ เป็นอุเบกขา ไม่ปรุงแต่งถึงมันอีกแล้ว
การสร้างจังหวะรู้สึกตัวนี่ละ เราถึงจะเอาชนะความคิดปรุงแต่งได้ ขอเพียงมีศรัทธา มีวิริยา จิตมันจะคลายเอง
ต้องขอขอบคุณ ดร. สุริยา ธรรมของหลวงพ่อชา บทนี้ลึกซึ้งมีความหมายยิ่งนัก ต่อนักปฏิบัติธรรม ที่ควรสำเหนียก อยู่เป็นนิจ หรือให้มันเกิดขึ้นเองในจิตแบบอัตโนมัติ แหละจริง ๆ เมื่อเจริญสติมาก ๆ มันก็เกิดขึ้นของมันเอง ไม่ต้องไปตั้งใจนึก คิด หรือท่องจำ
สวัสดี
|
|
|
|
หนุน'21
Global Moderator
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
ซีมะโด่ง'จุฬาฯ ที่มาของผม
ออฟไลน์
คณะ: "ครุศาสตร์"
กระทู้: 26,927
|
|
« ตอบ #5404 เมื่อ: 23 กุมภาพันธ์ 2555, 08:47:43 » |
|
สวัสดีครับพี่สิงห์ครับ เข้ามาอ่านสาระดีๆ ก่อนทำงานตอนเช้าๆแบบนี้เป็นมงคลชีวิต มีโอกาสก็อยากตามพี่สิงห์ไปอินเดียสักครั้งเหมือนกันนะครับ
คุณแม่พี่สิงห์ท่านยังคงเข้มแข็งดีนะครับ
|
“สิ่งที่ล้ำค่าที่สุดในใต้หล้า ทั้งมิใช่ชื่อเสียง และไม่ใช่ทรัพย์ศฤงคาร หากแต่เป็นน้ำใจระหว่างคน ท่านหากได้มา พึงทะนุถนอมไว้ อย่าได้สร้างความผิดหวังต่อตนเองและผู้อื่น.” “วีรบุรุษสำราญ” “โกวเล้ง”
|
|
|
|
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์
รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644
|
|
« ตอบ #5406 เมื่อ: 23 กุมภาพันธ์ 2555, 09:00:27 » |
|
สวัสดีครับ คุณหนุน
ขอบคุณมากครับ
ไปอินเดีย ถ้ารวบรวมกันได้มากๆ หรือ ครบ สามสิบแปดถึงสี่สิบคนได้ยิ่งดี ผมจะคุยกับหลวงพ่อ พระมหา ดร.สุเทพ ให้เอง ในราคาที่ย่อมเยาว์ ไม่ผ่านนายหน้า เหมือนอย่างราคาที่หลวงพ่อเก็บเงินผมครับ โดยเฉพาะมีแต่พวกเรา จะทำให้สามารถดูแลกันได้ ไม่เหงา
หลวงพ่อบอกว่า เมื่อก่อนผู้ที่บรรยาย ๔ สังเวชนีย์ในอินเดียได้ดีที่สุด คือ หลวงพ่อประกาศ วัดไทยสารนารถ ท่านมรณะไปแล้ว ถ้าปัจจุบันก็ต้อง พระมหา ดร.สุเทพ อกิญฺจโณ นี่ละครับ
สวัสดี
|
|
|
|
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์
รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644
|
|
« ตอบ #5407 เมื่อ: 23 กุมภาพันธ์ 2555, 13:50:06 » |
|
สวัสดีครับ ดร.มนตรี
ขอต้อนรับกลับบ้าน ครับ
สวัสดี
|
|
|
|
KUSON
|
|
« ตอบ #5408 เมื่อ: 23 กุมภาพันธ์ 2555, 15:28:12 » |
|
ออกนอกเรื่องไปนาน พาไปดูของสวยของงามกันมากแล้ว เดี๋ยวจะโดนค่อนแคะว่าไปอินเดียทั้งทีมีแต่เรื่องวัตถุ จริงๆแล้วผมคิดว่า ถ้าจะฟังธรรมมะ ท่านควรไปเอง ฟังเอง เห็นเองดีที่สุด ผมยกให้หลวงพ่อพระครูปลัดสุวัฒนโพธิคุณเป็นอันดับ1 ในการบรรยายธรรมมะที่อินเดีย ผมจะอัดเทปมาลอกให้ท่านอ่านก็ไม่ลึกซึ้งเท่า สรุป อยากรู้ว่าอินเดีย แหล่งสังเวชนีย์สถานดีอย่างไรโปรดหาโอกาศไปฟังด้วยตนเองเหมาะสมที่สุด ขอเล่าบรรยากาศสองข้างทางที่ไปพบเห็นมาพอสังเขป เช้าวันแรกในอินเดียที่พุทธคยา ก่อนถึงวัดไทยมคธ พุทธวิปัสนาที่เราจะไปพำนัก ขณะรถวิ่งไป หลวงพ่อชี้ให้เห็นทางขวามือของพวกเรา นี่คือวัดไทยแห่งแรกที่สร้างขึ้นที่นี่ เป็นทรงไทยเห็นไหม ชื่อวัดไทยพุทธคยา(ถ้าผิดช่วยแก้ใข) จัดสร้างโดยรัฐบาลไทยแต่ปัจจุบันมีคนมาพักน้อย
|
|
|
|
KUSON
|
|
« ตอบ #5409 เมื่อ: 23 กุมภาพันธ์ 2555, 15:37:19 » |
|
ก่อนถึงที่พักผมหิวตาลายไปหมด เห็นอาบังมารอทานอาหารหน้าห้างแล้วอยากกระโดดลงไปร่วมแจม
|
|
|
|
KUSON
|
|
« ตอบ #5410 เมื่อ: 23 กุมภาพันธ์ 2555, 15:43:07 » |
|
เอ๊ะนั่นอะไรเจ้าคะหลวงพพ่อ ที่ใส่ใว้ในกะละมัง....คุณป้าขี้สงสัยถาม อ๋อขี้วัว โยม เขาเอาใว้ทำประโยชน์หลายออย่างเช่นทำฟืนหุงต้ม เด็กๆบางคนเห็นวัวถ่ายออกมาเขาก็เอามือไปรองรับก่อนตกถึงพื้น เขานำขี้วัวไปทำยา และทำประโยชน์ได้หลายอย่างจ๊ะ.......หลวงพ่ออธิบาย
|
|
|
|
KUSON
|
|
« ตอบ #5411 เมื่อ: 23 กุมภาพันธ์ 2555, 15:49:54 » |
|
เกือบถึงวัดเราแล้วนะโยม พอเลยหัวโด้งนี้ไปก็ถึงแล้ว.......หลวงพ่อบรรยาย เกือบถึงที่พักจะมีร้านขายผ้า..............กุศลท่องในใจ กลัวพี่มานพใด้ยิน
|
|
|
|
KUSON
|
|
« ตอบ #5412 เมื่อ: 23 กุมภาพันธ์ 2555, 16:01:58 » |
|
พรุ่งนี้ ผมพานิสิตไปกาญจนบุรี วันศุกร์ -วันจันทร์คงไม่ได้เข้าเว็บ ต้องขออภัย
|
|
|
|
ทราย 16
|
|
« ตอบ #5413 เมื่อ: 23 กุมภาพันธ์ 2555, 16:12:16 » |
|
แหม ... กะลังเพลินน่ะเพ่! เล่นจอดดื้อๆซะงั้นอ่ะ
|
|
|
|
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์
รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644
|
|
« ตอบ #5414 เมื่อ: 23 กุมภาพันธ์ 2555, 20:29:44 » |
|
วัดไทยพุทธคยา สร้างโดยรัฐบาลไทย ที่ พณฯ ท่านเนรูห์ ประธานาธิบดีของอินเดียขณะนั้น ได้เชิญชวนรัฐบาลไทยในฐานะเมืองพุทธศาสนา ร่วมฉลอง พุทธศาสนาดำรงมาได้ ๒๕๐๐ ปี โดยการไปสร้างวัดที่มคธ พุทธสถานที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ รู้สึกว่าจะเป็นในสมัยจอมพล ป.พิบูลย์สงคราม (ไม่แน่ใจ)
พระภิกษุ ที่จำพรรษา จะบิณฑบาตรไปตามวัด หรือไม่บิณพบาตร เลย เพราะคนอินเดียไม่ใส่บาตรพระ ดังนั้นพระท่านต้องจัดหาอาหารกันเองในวัด ซึ่งอินเดียไม่อดยากเลย ผักมีจำนวนมาก สะอาด งาม ราคาถูก น่ารับประทานครับ เพราะไม่มีสารเคมี หรือปุ๋ย พื้นดินดีมาก และขุดลงไปในดินเมตรเศษ ก็เจอน้ำใต้ดินแล้ว
สำหรับขี้วัวนั้น หญิงสาวอินเดียทุกคน จะมีหน้าที่หลักคือ เอาขี้วัวผสมฟางข้าวที่สับเป็นท่อนสั้น ๆ แล้วระเลงเป็นแผ่น เอาไปตากตามฝาผนังบ้าน กลายเป็นเชื้อเพลิงชั้นดี เอาไว้สำหรับหุงหาอาหารและปิ้งจัมปาปี เป็นภูมิปัญญาของบรรพบุรุษอินเดีย เพราะอินเดียมีต้นไม่น้อยมาก ดังนั้นฟืนหุงข้าวไม่ค่อยมี จึงใช้เชื้อเพลิงที่ทำจากขี้วัวผสมกับฟางข้าวนี่ละครับ แต่มีข้อแม้คือ จะมีควันไฟมากหน่อยเท่านั้น
วัดไทย หรือวัดทุกวัดของชาวต่างชาติ เช่น ธิเบต ศรีลังกา พม่า เกาหลี ญี่ปุ่น ลาว เขมร ไทย จะมีหน้าที่เป็นที่พัก(โรงแรม) ที่รับประทานอาหารของประเทศนั้น ๆ เพราะโรงแรมใหญ่ๆ ไม่มี ร้านอาหารใหญ่ๆ ไม่มี จึงไม่สามารถรับคณะทัวร์ได้ วัดจึงเป็นตัวเลือกอันดับหนึ่งของทัวร์จาริกแสวงบุญ ครับ
โรงแรม ต้องรออีกสิบปี รับรองเกิดขึ้นแน่นอน ครับ ใจเย็นๆ สำหรับท่านที่ยังยึดติดอยู่กับอัตตาตนเอง
ราตรีสวัสดิ์ครับ
|
|
|
|
|
suriya2513
|
|
« ตอบ #5416 เมื่อ: 23 กุมภาพันธ์ 2555, 23:41:16 » |
|
น่าจะหา iPad ติดกระเป๋าไว้บ้าง การรายงานข่าวจะได้ต่อเนื่องกว่านี้
|
[โบราณคดี]จุดกำเนิดเริ่มต้นของ cmadong.com by : มานพ กลับดี คลิ๊ก->
|
|
|
Khun28
Full Member
ดูกายเห็นจิต ดูคิดเห็นธรรม
ออฟไลน์
รุ่น: RCU2528
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์
กระทู้: 784
|
|
« ตอบ #5417 เมื่อ: 24 กุมภาพันธ์ 2555, 06:19:32 » |
|
ปีหน้า ไปกันเลยครับ พี่หนุน
|
|
|
|
Khun28
Full Member
ดูกายเห็นจิต ดูคิดเห็นธรรม
ออฟไลน์
รุ่น: RCU2528
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์
กระทู้: 784
|
|
« ตอบ #5418 เมื่อ: 24 กุมภาพันธ์ 2555, 06:23:45 » |
|
ผมไปด้วย 4 ที่ ผมตั้งใจจะพาพ่อแม่ผมไปด้วยครับ
|
|
|
|
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์
รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644
|
|
« ตอบ #5419 เมื่อ: 24 กุมภาพันธ์ 2555, 07:46:52 » |
|
ลุมพินี สถานที่พระพุทธองค์ทรงประสูติ ขออนุโมทนากับท่านขุน ๒๘ ด้วยครับ ที่พาคุณพ่อคุณแม่ไปด้วย ปีหน้า
ที่สังเวชนยสถานลุมพินี สถานที่พระพุทธองค์ประสูติ หลวงพ่อพระมหาดร.สุเทพ ท่านจะทำพิธีให้รำลึกถึงพระคุณของคุณแม่ ด้วย ให้ลูกได้กราบคุณแม่ เท่าที่ผมเห็นเกือบทุกคู่ทั้งแม่-ลูกจะดีใจจนไม่สามารถกลั้นน้ำตาจากความรู้สึกออกมาได้เลย ปีนี้ผมได้อาสาออกไปร้องเพลงค่าน้ำนมร่วมกับสุภาพสตรีท่านหนึ่ง ณ สถานที่พระพุทธเจ้าประสูติ ถ้าปีหน้าพวกเราไป ผมจะร้องเพลงค่าน้ำนมให้ดีที่สุดครับ (ดร.กุศล มาบอกผมภายหลังที่ทำพิธีเสร็จว่า คุณแม่พี่สิงห์ ต้องได้อานิสสงแน่นอน ท่านไม่จากไปแน่ๆ ในช่วงที่อยู่อินเดีย)
ปีหน้าผมจะลองพูดคุยกับหลวงพ่อ เอาไว้แต่เนิ่น ๆ ไปช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ไม่หนาวมาก และไม่ร้อน กลางเดือนมีนาคมจะร้อนมากเป็นลำดับ ผมจะรับอาสาเป็นหัวหน้าทัวร์ ดูแลพวกเราเองครับ ขอให้รวบรวมให้ได้หนึ่งคันรถ ๓๘-๔๐ ที่นั่ง แต่อย่าลืมต้องตัดสินใจประมาณเดือนพฤศจิกายน เพราะทุกอย่างต้องเตรียมการ จะทำตัวเป็นคุณนายตื่นสาย ไม่ได้ครับ เพราะหลวงพ่อจะมีคนจองคิวท่านมาก และท่านบอกว่าอีสามปี เมื่ออายุครบ ๖๐ ปี ท่านจะเลิกพาแสวงบุญ หันไปปฏิบัติธรรมแทน
ผมสังเกตมาสองปีแล้ว พระทุกรูปที่นำทัวร์ไปอินเดีย พอเห็นพระมหา ดร.สุเทพ รวมทั้งญาติโยมที่จำท่านได้ ก็จะมากราบทักทาย ท่านเสมอ ดังนั้น คงสมจริงที่ว่า พระมหา ดร.สุเทพ เป็นกระบี่มือหนึ่งในการ บรรยายสังเวชนียสถาน ๔ แห่ง จริงๆ และคณะทัวร์ไทย ส่วนมาก จะมาพัก รับประทานอาหารที่วัดของท่าน ทั้งสองแห่ง
บริษัทแลนด์ทัวร์ท้องถิ่นที่อินเดีย ที่พระมหาดร.สุเทพ ใช้บริการ เชื่อถือได้ SADA นับถือศาสนาพุทธ และยังเป็นกรรมการบริหารวัดไทยมคธพุทธวิปัสสนา ตามกฏหมายอินเดีย ร่วมกับศาสตราจารย์ อาจารย์ของท่าน ที่อินเดีย ด้วย SADA เอาใจใส่ดี เพราะถือว่า พระมหา ดร.สุเทพ ทำให้เขามีรายได้ จนตั้งตัวได้ เปิดบริษัท กุสินาคาทัวร์ มีรถไว้บริการจำนวนหลายคัน รับแลนด์ทัวร์จาก เวียตนาม อเมริกา ไทย ลาว เขมร พม่า จึงมีความพร้อมมาก และเชื่อใจพระมหา ดร.สุเทพ ในขณะเดียวกันทางพระมหา ดร.สุเทพ ก็เชื่อใจ SADA เป็นอย่างยิ่ง รวมทั้งเรื่องการเงินด้วย พระมหา ดร.สุเทพ บอกว่าเท่าที่คบกับแขกอินเดียมาหลายปี สามารถเชื่อใจได้มากว่านักธุรกิจไทย อาตมา
ปีหน้าถ้า ดร.สุริยาไป ผมจะแคะกระปุ๊กสตางค์ ออกค่าเดินทางให้ ทั้งหมด ถ้าไม่พอจะเรี่ยรายน้องชาวซีมะโด่ง ให้ด้วย
นับดู ท่านขุน ๔ ท่าน คุณหนุน น้องทราย มานพ ดร.กุศล รวม ๘ ท่านแล้วครับ ทัวร์จาริกแสวงบุญพุทธสถาน ๔ แห่งที่อินเดีย - เนปาล กุมภาพันธ์ปีหน้า ๒๕๕๖
สวัสดีครับ
|
|
|
|
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์
รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644
|
|
« ตอบ #5420 เมื่อ: 24 กุมภาพันธ์ 2555, 08:18:39 » |
|
ธรรมะสำหรับเช้าวันนี้
ไม่ว่าท่านจะประสบกับสิ่งที่รัก ที่ชอบ ยินดีพอใจ หรือ ไม่รัก ไม่ชอบ ไม่ยินดี ไม่พอใจ หรือเฉย ๆ ก็ตาม ขอให้มีสติ(ความรู้สึกตัวเสมอ) พยายามสำรวมกาย วาจา ใจ อยู่เป็นนิจ หรือ รักษาอินทรีย์ของท่านให้ปกติ เมื่อตาเห็นรูป หูได้ยินเสียง จมูกได้ดมกลิ่น ลิ้มได้ลิ้มรส กายได้สัมผัส และไม่เผลอใจคิดปรุงแต่งใด ๆ ทั้งสิ้น โดยยึดหลักอุเบกขาเข้าไว้ ไม่ยินดี ยินร้ายทั้งสิ้น รับรู้(วิญญาณ)ทุกสิ่ง พิจารณาให้เห็นตามกฏไตรลักษณ์ คือ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ความยึดมั่นถือมั่น หรืออัตตาตนเอง จะค่อยๆ หมดไปเอง เราก็จะอยู่ในสังคมได้อย่างปีติสุขที่แท้จริง ประสพความสำเร็จในการทำทุกสิ่งเพราะมีสติเกิดปัญญา พิจารณา ว่าอะไรควร ไม่ควร ที่จะกระทำ ครับ
สวัสดี
|
|
|
|
ทราย 16
|
|
« ตอบ #5421 เมื่อ: 24 กุมภาพันธ์ 2555, 08:35:00 » |
|
พี่ป๋องแนะนำดี๊ดีค่ะ
|
|
|
|
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์
รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644
|
|
« ตอบ #5422 เมื่อ: 24 กุมภาพันธ์ 2555, 10:02:38 » |
|
เป็นความคิดที่ดี แต่ต้องซื้อให้ และสอนวิธีใช้ ขนาด computer ยังไม่ซื้อเลย และใช้อะไรไม่เป็น ถึงแม้จะจบมาทางเทคโนโลยี่สื่อสารก็ตามที กรรมแท้ ๆ
แต่มีเงินไปซื้อบ้านที่สวางคนิวาส สมุทรปราการของสภากาชาดไทย เอาไว้ตอนแก่ ตาย ก็ดีจะได้มีคนคอยดูแล
สวัสดี
|
|
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #5424 เมื่อ: 24 กุมภาพันธ์ 2555, 10:33:08 » |
|
พี่สิงห์
ชาวอินเดียใช้ฟืนไปกับการเผาศพที่ริมแม่น้ำคงคา ใช้ขี้วัวผสมกับฟางข้าวเพื่อเป็นเชื้อเพลิงในบ้าน เนื่องจากมีฟางข้าวเป็นทรัพยากรที่มีเหลือเฟือในนาข้าว การไม่ต้องซื้อถ่านเป็นเชื้อเพลิง เป็นการประหยัดเงินที่ดีที่สุดวิธีหนึ่ง แต่ไทยเราเผาฟางข้าวทิ้ง สร้างมลภาวะอยู่ในภาคเหนืออยู่ในขณะนี้ รวมทั้งไม่เลี้ยงวัวเพื่อใช้ไถนาด้วย ประเทศไทย จีน และในภูมิภาคนี้ก็เคยใช้ขี้วัวผสมฟาง ดินพรุ เศษถ่าน เป็นเชื้อเพลิงในเตา
นอกจากนี้ ควันที่พี่บอกว่ามีปริมาณที่มากนั้น มีประโยชน์ครับ ?? !! คือช่วยกำจัดยุงและแมลง ซึ่งเป็นพาหะนำโรคของประเทศร้อนชื้นครับ
|
|
|
|
|