27 พฤศจิกายน 2567, 06:38:47
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: 1 ... 203 204 [205] 206 207 ... 681   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: คุย กับ คุณมานพ กลับดี อดีตประธานชมรม ๓ สมัย  (อ่าน 3583447 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 10 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
supapon
มือใหม่หัดเมาท์
*

ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 90

« ตอบ #5100 เมื่อ: 17 มกราคม 2555, 16:27:45 »

มาเป็นกำลังใจให้พี่สิงห์

และมากล่าว สุขสันต์วันคล้ายวันเกิดกับพี่ป๋อง ค่ะ

miew 18.
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #5101 เมื่อ: 17 มกราคม 2555, 17:12:35 »


             
                คุณอดิศร  ได้ออกแบบหนังสือสวดมนต์ ที่ผมจะจัดพิมพ์เป็นพุทธบูชาให้แม่ ครับ

                น้องสาวนำแม่สวดมนต์เย็น  แม่พยายามสวดมนต์ตาม และแม่ บอกว่าเหนื่อยมาก  ร่างกายแย่ลง ๆ คงเป็นเพราะการปวด อักเสบ จากบาดแผล เพิ่มขึ้น เป็นอะไรที่ ไม่ดีเลย จริงๆ

                สวัสดี
      บันทึกการเข้า
swsm
Cmadong Member
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
****


@@ ยาหยี @@
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: Rcu2523
คณะ: Comm Arts
กระทู้: 28,369

« ตอบ #5102 เมื่อ: 17 มกราคม 2555, 17:34:38 »

รูปนี้ คุณแม่หน้าตาสดใส งามมากค่ะ พี่สิงห์     รักนะ
      บันทึกการเข้า

.. don't play with me, cos I know how to play it too .. may be better than you do ..
ทราย 16
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,838

« ตอบ #5103 เมื่อ: 17 มกราคม 2555, 20:06:11 »

อ้างถึง
ข้อความของ Manop  Klabdee เมื่อ 17 มกราคม 2555, 17:12:35

              
                คุณอดิศร  ได้ออกแบบหนังสือสวดมนต์ ที่ผมจะจัดพิมพ์เป็นพุทธบูชาให้แม่ ครับ

                น้องสาวนำแม่สวดมนต์เย็น  แม่พยายามสวดมนต์ตาม และแม่ บอกว่าเหนื่อยมาก  ร่างกายแย่ลง ๆ คงเป็นเพราะการปวด อักเสบ จากบาดแผล เพิ่มขึ้น เป็นอะไรที่ ไม่ดีเลย จริงๆ

                สวัสดี

ขออนุโมทนาค่ะพระเชษฐาสิงห์
ข้าน้อย ขอเข้าคิวรอรับแจกหนังสือสวดมนต์เล่มนี้ด้วยน่ะคะ
 ปิ๊งๆ ปิ๊งๆ
      บันทึกการเข้า
swsm
Cmadong Member
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
****


@@ ยาหยี @@
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: Rcu2523
คณะ: Comm Arts
กระทู้: 28,369

« ตอบ #5104 เมื่อ: 17 มกราคม 2555, 20:20:30 »

พี่สิงห์เห็นไหมคะ  .. หยียืนอยู่ข้างหลังพี่ทราย เข้าคิวรอเหมือนกันค่ะ    บ่ฮู้บ่หัน
      บันทึกการเข้า

.. don't play with me, cos I know how to play it too .. may be better than you do ..
pusadee sitthiphong
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

คณะ: พาณิชยศาสตร์และการบัญชี
กระทู้: 4,689

« ตอบ #5105 เมื่อ: 17 มกราคม 2555, 20:51:41 »

คุณน้องป้อมด้วยค่ะ
      บันทึกการเข้า

pom shi 2516
swsm
Cmadong Member
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
****


@@ ยาหยี @@
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: Rcu2523
คณะ: Comm Arts
กระทู้: 28,369

« ตอบ #5106 เมื่อ: 17 มกราคม 2555, 20:58:32 »

พี่สิงห์คะ .. มีรายงานภาพข่าวสด ๆ จากงานเลี้ยงของพี่ป๋องค่ะ    บ่ฮู้บ่หัน

http://www.cmadong.com/board/index.php/topic,939.msg548944.html#msg548944
      บันทึกการเข้า

.. don't play with me, cos I know how to play it too .. may be better than you do ..
Khun28
Full Member
**


ดูกายเห็นจิต ดูคิดเห็นธรรม
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: RCU2528
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์
กระทู้: 784

« ตอบ #5107 เมื่อ: 17 มกราคม 2555, 21:04:34 »

อ้างถึง
ข้อความของ Manop  Klabdee เมื่อ 17 มกราคม 2555, 17:12:35

             
                คุณอดิศร  ได้ออกแบบหนังสือสวดมนต์ ที่ผมจะจัดพิมพ์เป็นพุทธบูชาให้แม่ ครับ

                น้องสาวนำแม่สวดมนต์เย็น  แม่พยายามสวดมนต์ตาม และแม่ บอกว่าเหนื่อยมาก  ร่างกายแย่ลง ๆ คงเป็นเพราะการปวด อักเสบ จากบาดแผล เพิ่มขึ้น เป็นอะไรที่ ไม่ดีเลย จริงๆ

                สวัสดี


พี่เล็กออกแบบได้สวยมากครับ
      ผมต่อท้ายพี่ป้อม รอรับหนังสือสวดมนต์อยู่นะครับ
      บันทึกการเข้า
ทราย 16
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,838

« ตอบ #5108 เมื่อ: 17 มกราคม 2555, 21:08:40 »

คิวรอรับแจกหนังสือสวดมนต์
1. น้องทราย
2. น้องหยี
3. น้องป้อม
4. น้องขุน
5.
      บันทึกการเข้า
เอมอร 2515
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu 2515
คณะ: รัฐศาสตร์(นิติศาสตร์)
กระทู้: 4,562

« ตอบ #5109 เมื่อ: 18 มกราคม 2555, 08:31:11 »

มารอคิวรับหนังสือด้วยคนค่ะ พี่สิงห์
ขอให้คุณแม่สบายกาย สบายใจมากขึ้นนะคะ
พี่สิงห์ก็ต้องดูแลสุขภาพด้วยเช่นกันนะคะ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #5110 เมื่อ: 18 มกราคม 2555, 10:45:22 »



              
                น้องสาว  อยากได้รูปนี้  ขึ้นหน้าปกครับ

                ทุกท่านที่ต้องการหนังสือสวดมนต์ นั้น ได้รับทุกคนครับ จะจัดส่งไปให้ ภายหลัง  และขอขอบคุณทุกท่านเป็นอย่างมาก ที่เป็นห่วงให้กำลังใจ ครับ

                 อาการแม่ดีขึ้น ในเรื่องของจิตใจ และใบหน้า มีสติ คุยกันรู้เรื่อง แผลเก่าๆ ดีขึ้น แต่แผลใหม่ก็เพิ่มขึ้น เช่นเดียวกัน เป็นการยื้อกันระหว่าง รูป และการรับรู้(วิญญาณ) แม่มีจิตที่เข้มแข็ง คงต้องยื้อกันไปอีกนาน  ตราบใดที่แม่ยังมีสติ มีความรับรู้ได้(วิญญาณ) ก็ต้องรักษาตามอาการต่อไป
              
                 เมื่อวานเย็น พี่สิงห์ ปล่อยให้อารมณ์พาไป  เกิดการปรุงแต่งเกิดขึ้น  ในขณะเดียวกันก็มีสติ ดูจิตตนเองอยู่ เห็นในสิ่งที่เห็นคือความผูกพันธ์ระหว่างแม่และน้องสาว ที่สวดมนต์เย็นกัน แม่พยายามสวดมนต์ แต่ไม่มีแรง ไม่แสดงอาการเจ็บให้เห็น ทั้งๆที่เรารู้ว่าท่านเจ็บมาก มันเป็นอะไรที่ยากต่อการทำใจไม่ให้ปรุงแต่งได้ เลยจริงๆ จนผมต้องเตือนตัวเอง สิ่งที่เห็นนั้นคืออาจารย์ใหญ่ที่จะเป็นตัวสอนเรา ให้ระวังจิตของตนเอง ให้ดีอยู่เป็นนิจ เห็นสักแต่ว่าเห็น  ได้ยินสักแต่ว่าได้ยิน อย่าปล่อยจิตนึกคิดตาม ให้วางอุเบกขา มีสติรู้สึกตัว อยู่เสมอ  ถึงจะเอาชนะจิตตนเองได้

                  มันเป็นบรรยากาศผูกพันธ์ที่ ไม่ดีเลยจริงๆ ที่รู้ว่าแม่ต้องจากไป ไม่ช้าก็เร็ว

                  วันนี้แม่ยัง อยู่ได้ ต่อไปครับ

                  สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #5111 เมื่อ: 18 มกราคม 2555, 12:58:33 »

                 ผมนั่งดูแล แม่อยู่ไม่รู้จะทำอะไร  ขอนำ "ธรรมะหลับสบาย  ของท่าน ว.วชิรเมธี" มาเขียนลงให้ทุกท่านได้ศึกษา เป็นการฆ่าเวลาให้กับตัวเอง  ได้มีงานทำครับ

                 สวัสดี



พินิจดูธรรมชาติของความโกรธ


ปราณ

             เธออาจจะสงสัยว่า ในจดหมายฉบับที่แล้วมา  ทำไมครูไม่เอ่ยถึง “ธรรมชาติและกระบวนการของความโกรธ” เสียก่อน  ทั้ง ๆ ที่เป็นเรื่องความรู้ในอันดับต้น ๆ  แต่กลับยกมาไว้ในฉบับที่ ๓  ซึ่งออกจะดูพิกลยังไงอยู่

              ครูขอชี้แจงว่า  เมื่อเธอตกอยู่ในอารมณ์โกรธนั้น  เธอคงมีสติไม่มากพอที่จะมานั่งเรียนรู้ธรรมชาติของความโกรธอย่างละเอียดหรอก  ก็เหมือนกับเมื่อบ้านของเธอถูกไฟไหม้นั่นแหละ  สิ่งแรกที่เธอควรจะทำก็คือ ต้องเร่งดับไฟก่อน  ไม่ใช่มามัวตั้งข้อสงสัยว่า ใครเป็นคนจุดไฟเผาบ้านของเธอ  เพราะถ้าเธอมัวค้นหาต้นเพลิงโดยละเลยไม่สนใจที่จะดับไฟเสียก่อน  พอรู้ตัวอีกทีหนึ่ง บ้านของเธอก็จะเหลือแต่เพียงเถ้าถ่านไว้ดูต่างหน้าเท่านั้นเอง

              เรื่องความโกรธก็เช่นกัน  เมื่อเธอตกอยู่ใต้อิทธิพลความโกรธนั้น  สิ่งแรกที่จำต้องทำก่อนอื่นใดทั้งสิ้นก็คือ  ต้องจัดการปฐมพยาบาลความโกรธของเธอให้อยู่หมัดในระดับหนึ่งก่อน  จากนั้นจึงค่อยเรียนรู้การแก้ไขความโกรธไปตามลำดับ

              ทีนี้เธอพอจะมองเห็น เหตุผลของครูที่ต้องยกเอาธรรมชาติ และกระบวนการของความโกรธมาไว้ในจดหมายฉบับที่ ๓ แล้วหรือยัง

              ความโกรธนั้นมีไวพจน์ของมันอีกคำหนึ่งว่า “โทสะ” หมายความว่า  ความขุ่นเคือง  ขัดข้องหมองใจ  รวมไปถึงความประทุษร้ายที่แสดงออกมาภายนอกด้วย  เจ้าโทสะหรือความโกรธนี้เป็นกิเลสระดับ “หัวหน้าพรรค” ของปวงกิเลสทั้งหมดเลยทีเดียว  กิเลสระดับหัวหน้าพรรคทั้งสามนี้ประกอบด้วย

                          ๑. ราคะ คือ ความกำหนัด  ความใคร่  ความติดใจในรูป  รส  กลิ่น  เสียง  สัมผัส  และความคิดคำนึงอันน่ารัก  น่าปรารถนา  น่าอภิรมย์

                          ๒. โทสะ (โกธะ) คือ ความขัดเคือง  ความโกรธ  ความประทุษร้าย  ความอาฆาต  ความพยายามจองเวร

                          ๓. โมหะ คือ ความหลงผิด  ไม่รู้จักโลกและชีวิต ตามความเป็นจริง หรือความโง่นั่นเอง
          
                          กิเลสทั้งสามตัวนี้เป็นบิดามารดาของกิเลสอีกนานัปการซึ่งมีมากมายเหลือเกิน  จนท่านเรียกเป็นสำนวนว่า “กิเลส ๑,๕๐๐ ตัณหา ๑๐๘”  ปลีกย่อยทั้งหลายบรรดามีล้วนแตกหน่อต่อยอดออกไปจากกิเลสสามตัวนี้ทั้งสิ้น

                           ราคะ  โทสะ (โกธะ) และโมหะ  มีลักษณะที่เหมือนกันคือ เป็นกิเลสขั้นรากฐานของกิเลสทั้งปวง  ส่วนลักษณะที่แตกต่างกันนั้น พระพุทธองค์ทรงจำแนกไว้ว่า

                             ราคะ   มีโทษน้อย      แต่คลายช้า
                             โทสะ   ทีโทษมาก      แต่คลายเร็ว
                             โมหะ   มีโทษมากด้วย   คลายช้าด้วย

                กิเลสทั้งสามตัวนี้ “โมหะ” นับว่าร้ายที่สุด  เรารู้จักโมหะในอีกชื่อหนึ่งว่า “อวิชชา” นั่นเอง  พอเรียกว่า “อวิชชา”  เธอคงร้องอ๋อขึ้นมาละสิท่า  เพราะคำนี้น่ะ  คนไทยทั้งหลายได้ยินบ่อยและใช้กันจนชินแล้ว  (แต่ที่ใช้บ่อยนั้นไม่ได้หมายความว่าใช้ด้วยความเข้าใจไปทั้งหมดหรอกนะ) ดังมีเรื่องเล่าอยู่เรื่องหนึ่งว่า  สมภารรูปหนึ่งเทศน์ให้ญาติโยมฟัง  โดยตั้งเป็นคำถามเชิงปุจฉาวิสัชนาว่า

                “มีใครรู้บ้าง  อวิชชา แปลว่าอะไร”

                “ไม่รู้ เจ้าค่ะ”  ยายแม้นซึ่งนั่งอยู่ใกล้ธรรมาสน์ตอบเสียงฉะฉานก่อนใคร  เพราะนางไม่รู้คำตอบจริง ๆ

                “แหม  ยายแม้นนี่เก่งจริง ๆ  ฉันคาดไม่ถึงมาก่อนเลยนะว่า  ชาวบ้านอย่างยาย จะเข้าใจธรรมะชั้นสูง”

                  สมภารยกย่องยายแม้นออกนอกหน้า  ทำเอาประสกสีกาคนอื่นนั่งงงไปตาม ๆ กัน  ตายายแม้นกลับงงหนักยิ่งกว่าคนอื่นเสียอีก  เพราะที่นางตอบส่งเดชไปนั้น  ก็ตอบไปตามประสาซื่อด้วยความ “ไม่รู้” จริง ๆ  แล้วมันกลายเป็นคำตอบที่ถูกได้อย่างไรหว่า  แล้วทุกคนก็มาถึงบางอ้อเมื่อท่านสมภารอธิบายต่ออย่างชัดถ้อยชัดคำว่า

                  “อวิชชา แปลว่า ความไม่รู้ (โลกและชีวิตตามความเป็นจริง) มาจากคำว่า อะ สมาสกับคำว่า วิชชา แปลว่า ความรู้ รวมกันเป็น  อวิชชา  จึงแปลว่า  ความไม่รู้

                   เท่านั้นเอง  ที่ประชุมก็ฮากันครืนด้วยความขบขัน  ครานี้ยายแม้นถึงกับเกาหัวแกรก ๆ  ไม่รู้จะน้อมรับคำชมหรือจะตำหนิตัวเองดีที่เผลอตอบไปอย่างนั้น

                   กลับมาเรื่องโทสะหรือโกธะกันต่อ  ความโกรธนั้นแม้จะเกิดขึ้นเร็ว  แต่ก็หายเร็วเช่นกัน  อาการที่มันเกิดขึ้นเร็วและหายเร็วนั้นไม่ได้หมายความว่า  มันไม่มีพิษสงอะไรร้ายแรงก็หาไม่  ตรงกันข้าม  ความโกรธนั้นเกิดขึ้นเร็วด้วยมีโทษมากด้วยและหายเร็วด้วย  อุปมาของความโกรธที่เห็นชัดที่สุดก็คือ ไฟไหม้ ตามปกติไฟนั้นจะไหม้เชื้ออย่างรวดเร็ว  ขณะที่ไหม้ก็ก่อความเสียหายอย่างมหาศาล  จากนั้นก็จะดับไปอย่างรวดเร็วเพราะสิ้นเชื้อ  คนไทยแต่โบราณท่านจึงผูกเป็นสำนวนเอาไว้ว่า

                    “โจรปล้นสิบครั้ง  ไม่เท่าไฟไหม้บ้านครั้งเดียว”

                    นี่แหละคือธรรมชาติของความโกรธละ  “เกิดขึ้นเร็ว”  หายนะเร็ว  ดับเร็ว  แต่พิษสงของมันร้ายพอ ๆ กับไฟไหม้บ้าน”

                     แต่คำว่า “หายเร็ว”  นี้  เฉพาะเมื่อนำไปเทียบกับราคะและโมหะ เท่านั้นนะ  เพราะสำหรับบางคนนั้น  ความโกรธเกิดขึ้นแล้ว  ยังคงตกตะกอนอยู่ในใจนับได้เป็นสิบ ๆ ปี  หรือทั้งชีวิตก็ยังเคยมีมาแล้ว  แต่สำหรับคนบางคนก็หายเร็วจริง ๆ  ถ้าเขามีสติรู้เท่าทันมายาการของความโกรธ ว่ามันเป็นเพียง “อารมณ์” ที่ไม่เที่ยง  เป็นทุกข์  และเป็น อนัตตา คือ ไม่มีตัวตนอยู่จริง  เกิดขึ้นมาได้  มันก็หายไปได้เช่นกัน

                     ความโกรธเกิดขึ้นมาได้อย่างไร  ครูอธิบายให้เห็นกระบวนการของความโกรธด้วยถ้อยคำง่ายๆ ที่ครูคิดขึ้นมาเอง  ดังนี้

                      กระทบ  --------------->  กระเทือน  ----------------->  กระทำ

                เมื่อมีใครก็ตามทำอะไรที่ “ไม่ได้ดั่งใจ”  ของเธอขึ้นมาสักอย่างหนึ่ง  อาการ “ไม่ล่ายหลั่งจายแล้ว”  ซึ่งทำให้เธอหงุดหงิด  ใจเต้นแรงขึ้นมานั่นแหละ  ครูเรียกว่าเกิดการ “กระทบ”

                 เมื่อกระทบแล้ว  ความโกรธซึ่งตามปกติก็จะเป็นตะกอนนอนก้นอยู่ในจิตถูกกวนให้ขุ่นขึ้นมาเหมือนไฟสุมขอน  พอถูกลมรำเพยพัดก็ฉานโชนวูบวาบขึ้นมาแปล๊บปล๊าบอย่างรวดเร็ว  อาการอย่างนี้ครูเรียกว่า “กระเทือน”

                  ภายหลังจากความโกรธถูกปลุกให้ตื่นจนฟุ้งขึ้นมาแล้ว  เมื่อเจ้าตัวขาดสติไม่สามารถยับยั้งตัวเองไว้ได้จนกระทั่งลุแก่โทสะ  แสดงความโกรธออกมาทางสีหน้า  ท่าทาง  คำพูด  หรือถึงขั้นลงมือทำร้ายคนอื่น  ทุบทำลายข้าวของเป็นต้น  ด้วยวิธีการอย่างใดอย่างหนึ่ง  อาการอย่างนี้ ครูเรียกว่า “กระทำ”

                  กระบวนการของความโกรธจะพัฒนาความเข้มข้นขึ้นมาตามลำดับ ตามภาพที่ครูวาดให้เธอดูคร่าว ๆ ข้างต้นนั้น  ทีนี้ ถ้าเธอกำลังโกรธ  ครูขอให้เธอลองสังเกตสภาพจิตของตัวเองดูสิ  ว่าจะเป็นไปตามกระบวนการที่ครูกล่าวเอาไว้หรือเปล่า  ถ้าพบว่าไม่ตรงหรือเห็นแตกต่างไปจากนี้  ก็เขียนมาแลกเปลี่ยนทัศนะกับครูได้เลย  ครูยินดีรับฟังเสียงที่ต่างออกไปเสมอ

                                                                                                                    ครูเอง
      บันทึกการเข้า
ดร.มนตรี
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,540

« ตอบ #5112 เมื่อ: 18 มกราคม 2555, 17:08:27 »

อ้างถึง
ข้อความของ Manop  Klabdee เมื่อ 18 มกราคม 2555, 12:58:33
                ผมนั่งดูแล แม่อยู่ไม่รู้จะทำอะไร  ขอนำ "ธรรมะหลับสบาย  ของท่าน ว.วชิรเมธี" มาเขียนลงให้ทุกท่านได้ศึกษา เป็นการฆ่าเวลาให้กับตัวเอง  ได้มีงานทำครับ

                 สวัสดี



การดูแลบุพการี ดังที่่พี่สิงห์ ได้ทำ ณ ปัจจุบัน ... ผมคิดว่าเป็นงานที่ยิ่งใหญ่ ... ยิ่งกว่างานใดๆ ที่อภิชาติบุตร พึงปฏิบัติ แล้วครับ ...


      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #5113 เมื่อ: 18 มกราคม 2555, 18:14:44 »

เมื่อ 15.30 น. ผมกลับจากพระนครศรีอยุธยา ได้แวะเข้าไปที่ รพ.สิงห์บุรี
คุณแม่ของพี่สิงห์พักฟื้นอยู่ที่ตึก 80 ปี หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง ห้อง 301 ชั้น 3
ทักทายและเข้าเยี่ยมไข้อยู่ครึ่งชั่วโมง ผมจึงขอลากลับ ในขณะที่พี่สิงห์จะเดินทางเข้า กทม.
เนื่องจากนำยาไปให้หลานที่บ้านลาดพร้าว
จากนั้นผมจึงออกเดินทางกลับนครสวรรค์ และถึงบ้านในเวลานี้ครับ
      บันทึกการเข้า
swsm
Cmadong Member
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
****


@@ ยาหยี @@
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: Rcu2523
คณะ: Comm Arts
กระทู้: 28,369

« ตอบ #5114 เมื่อ: 18 มกราคม 2555, 18:31:18 »

อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 18 มกราคม 2555, 18:14:44
เมื่อ 15.30 น. ผมกลับจากพระนครศรีอยุธยา ได้แวะเข้าไปที่ รพ.สิงห์บุรี
คุณแม่ของพี่สิงห์พักฟื้นอยู่ที่ตึก 80 ปี หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง ห้อง 301 ชั้น 3
ทักทายและเข้าเยี่ยมไข้อยู่ครึ่งชั่วโมง ผมจึงขอลากลับ ในขณะที่พี่สิงห์จะเดินทางเข้า กทม.
เนื่องจากนำยาไปให้หลานที่บ้านลาดพร้าว
จากนั้นผมจึงออกเดินทางกลับนครสวรรค์ และถึงบ้านในเวลานี้ครับ


พี่สิงห์คงดีใจ  ที่พี่เหยงไปเยี่ยมคุณแม่ ..
   
      บันทึกการเข้า

.. don't play with me, cos I know how to play it too .. may be better than you do ..
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #5115 เมื่อ: 18 มกราคม 2555, 20:59:33 »

               ผมต้องขอขอบคุณ  คุณเหยงที่แวะมาเยี่ยมแม่ และผมที่โรงพยาบาลสิงห์บุรี เป็นอย่างมากครับ วันนี้

                หลังจากคุณเหยงกลับ ผมก็ขับรถกลับกรุงเทพฯ เพื่อเอายาแก้ไขหวัดมาให้หลานสาวที่นอนป่วยอยู่ที่บ้าน ไม่ได้ไปเรียนหนังสือ  เมื่อคืนวานหลานสาวได้โทรศัพท์ ไปหาผม  บอกว่าไม่สบายมาก  ร้องให้ไปด้วย  เนื่องจากอยู่คนเดียวคงคิดมาก  ต้องการยาแก้เจ็บคอ ยาแก้อักเสบ และยาแก้ไอ  ผมให้พยายามหาที่บ้านในที่สุดก็มี 2-3  พอประทังไปได้หนึ่งวัน เดิมทีตั้งใจจะกลับตอนบ่ายสองโมง พอดี คุณดิเรก  และคุณเหยง  จะแวะมาเยี่ยมที่โรงพยาบาล จึงต้องอยู่คอบต้อนรับ

                ผมมาถึงกรุงเทพฯ 18:00 น. เอายามาให้หลาน ถามว่ากินข้าวหรือยัง ปรากฏว่ายัง  ผมเลยต้มข้าวต้ม  ไปซื้อไข่เจียว และคะน้าผัดปลาเค็ม  รวมกับผัดวุ้นเส้นที่เหลือในตู้เย็น รับประทานเป็นอาหารเย็นกับหลานสาว เพื่อให้เขาสามารถกินยาได้ หลังอาหาร

                ช่วงนี้เลยต้องขึ้นล่อง กทม. - สิงห์บุรี  เพื่อให้ได้ทั้งสองงานครับ เพื่อความอบอุ่นของครอบครัว

                พรุ่งนี้เช้าภายหลังจากใส่บาตรพระ แล้วคงเดินทางไปหาแม่ที่ สิงห์บุรี ครับ เพื่อเอาใจน้องสาว  จะได้มีความอุ่นใจ

                สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #5116 เมื่อ: 18 มกราคม 2555, 21:08:02 »

              ต้องขอขอบคุณ ดร.มนตรี และคุณน้องยาหยี ที่รัก ที่อุตสาห์เข้ามาเป็นเพื่อนพี่สิงห์ ครับ


                ผมลืมแสดงความยินดี  ที่มีอาจารย์ รุ่นพี่ เพื่อนร่วมรุ่น และน้องๆ ชาวซีมะโด่ง ที่ไปร่วมงานฉลอง อายุครบ ๖๐ ปี ของ ดร. สุริยา   ทัศนียานนท์  อย่างหนาแน่น อบอุ่น เมื่อคืนวาน ที่ผ่านมา  ทำให้พลอยดีใจไปด้วย ครับ

                สงสัยคุณน้อง Tippy and Tooky คงโกรธผม เพราะผมได้โทรศัพท์ไปหาทั้งสองคนเมื่อคืนนี้  แต่ไม่ยอมโทรศัพท์ กลับมาครับ   พี่สิงห์ต้องขอโทษเธอทั้งสองด้วย ที่ทำให้ผิดหวัง  คงเป็นงานสุดท้าย และคงไม่เจ้ากี่้เจ้าการหาเรื่องแบบนั้นอีกแล้วครับ  คงหมดศรัทธาต่อผมแล้ว

                ราตรีสวัสดิ์ทุกท่าน ครับ
      บันทึกการเข้า
ดร.มนตรี
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,540

« ตอบ #5117 เมื่อ: 18 มกราคม 2555, 22:50:21 »

อ้างถึง
ข้อความของ Manop  Klabdee เมื่อ 18 มกราคม 2555, 21:08:02
             
                สงสัยคุณน้อง Tippy and Tooky คงโกรธผม เพราะผมได้โทรศัพท์ไปหาทั้งสองคนเมื่อคืนนี้  แต่ไม่ยอมโทรศัพท์ กลับมาครับ   พี่สิงห์ต้องขอโทษเธอทั้งสองด้วย ที่ทำให้ผิดหวัง  คงเป็นงานสุดท้าย และคงไม่เจ้ากี่้เจ้าการหาเรื่องแบบนั้นอีกแล้วครับ  คงหมดศรัทธาต่อผมแล้ว

               

ผมมั่นใจว่าไม่ได้เป็นอย่างที่พี่สิงห์คิดแน่นอน เพราะ ...จากรูป ของน้องสน น้องเต้ ... ทั้งพี่ทิปปี้ และพี่ตุ๊กกี้ น่าจะกำลังติดพันอยู่กับงาน ประกอบกับเสียงคาราโอเกะ ... คง Miss call ครับพี่สิงห์ ...


แต่พูดก็พูดเถอะ ครับ ... งานนี้ พี่ป๋อง ท่านหนุ่มฟ้อ หล่อเฟี้ยว มากๆ เลยครับ


 ... ถ้ามีวลี " 30+ Young แจ๋ว" ... สำหรับ สาวๆ ได้

ต่อไป... พวกเราหนุ่มๆ ก็คงต้องเป็น "30+ Young ป๋อง"

โดยนัยเดียวกัน ได้เหมือนกัน ... นี่ผมก็มั่นใจครับ ^_^

      บันทึกการเข้า
khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #5118 เมื่อ: 19 มกราคม 2555, 04:18:38 »

พี่กุ..collectionนี้
แด่พี่!




      บันทึกการเข้า


khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #5119 เมื่อ: 19 มกราคม 2555, 04:20:19 »

พี่ทิ้ปปี้ร้องเพลงอะไรนะ
พี่ถึงสดชื่นรื่นเริงดีแท้
 



      บันทึกการเข้า


khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #5120 เมื่อ: 19 มกราคม 2555, 04:21:47 »

ดูดู๋



      บันทึกการเข้า


khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #5121 เมื่อ: 19 มกราคม 2555, 04:25:42 »





      บันทึกการเข้า


khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #5122 เมื่อ: 19 มกราคม 2555, 04:26:29 »





Quelle: น้องเต้ 40
      บันทึกการเข้า


Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #5123 เมื่อ: 19 มกราคม 2555, 10:10:34 »

อ้างถึง
ข้อความของ ดร.มนตรี เมื่อ 18 มกราคม 2555, 22:50:21
อ้างถึง
ข้อความของ Manop  Klabdee เมื่อ 18 มกราคม 2555, 21:08:02
             
                สงสัยคุณน้อง Tippy and Tooky คงโกรธผม เพราะผมได้โทรศัพท์ไปหาทั้งสองคนเมื่อคืนนี้  แต่ไม่ยอมโทรศัพท์ กลับมาครับ   พี่สิงห์ต้องขอโทษเธอทั้งสองด้วย ที่ทำให้ผิดหวัง  คงเป็นงานสุดท้าย และคงไม่เจ้ากี่้เจ้าการหาเรื่องแบบนั้นอีกแล้วครับ  คงหมดศรัทธาต่อผมแล้ว

               

ผมมั่นใจว่าไม่ได้เป็นอย่างที่พี่สิงห์คิดแน่นอน เพราะ ...จากรูป ของน้องสน น้องเต้ ... ทั้งพี่ทิปปี้ และพี่ตุ๊กกี้ น่าจะกำลังติดพันอยู่กับงาน ประกอบกับเสียงคาราโอเกะ ... คง Miss call ครับพี่สิงห์ ...


แต่พูดก็พูดเถอะ ครับ ... งานนี้ พี่ป๋อง ท่านหนุ่มฟ้อ หล่อเฟี้ยว มากๆ เลยครับ


 ... ถ้ามีวลี " 30+ Young แจ๋ว" ... สำหรับ สาวๆ ได้

ต่อไป... พวกเราหนุ่มๆ ก็คงต้องเป็น "30+ Young ป๋อง"

โดยนัยเดียวกัน ได้เหมือนกัน ... นี่ผมก็มั่นใจครับ ^_^


สวัสดี ดร.มนตรี

                    ผมก็เขียนไปตามความจริง อย่างนั้
อ้างถึง
ข้อความของ ดร.มนตรี เมื่อ 18 มกราคม 2555, 22:50:21
อ้างถึง
ข้อความของ Manop  Klabdee เมื่อ 18 มกราคม 2555, 21:08:02
             
                สงสัยคุณน้อง Tippy and Tooky คงโกรธผม เพราะผมได้โทรศัพท์ไปหาทั้งสองคนเมื่อคืนนี้  แต่ไม่ยอมโทรศัพท์ กลับมาครับ   พี่สิงห์ต้องขอโทษเธอทั้งสองด้วย ที่ทำให้ผิดหวัง  คงเป็นงานสุดท้าย และคงไม่เจ้ากี่้เจ้าการหาเรื่องแบบนั้นอีกแล้วครับ  คงหมดศรัทธาต่อผมแล้ว

               

ผมมั่นใจว่าไม่ได้เป็นอย่างที่พี่สิงห์คิดแน่นอน เพราะ ...จากรูป ของน้องสน น้องเต้ ... ทั้งพี่ทิปปี้ และพี่ตุ๊กกี้ น่าจะกำลังติดพันอยู่กับงาน ประกอบกับเสียงคาราโอเกะ ... คง Miss call ครับพี่สิงห์ ...


แต่พูดก็พูดเถอะ ครับ ... งานนี้ พี่ป๋อง ท่านหนุ่มฟ้อ หล่อเฟี้ยว มากๆ เลยครับ


 ... ถ้ามีวลี " 30+ Young แจ๋ว" ... สำหรับ สาวๆ ได้

ต่อไป... พวกเราหนุ่มๆ ก็คงต้องเป็น "30+ Young ป๋อง"

โดยนัยเดียวกัน ได้เหมือนกัน ... นี่ผมก็มั่นใจครับ ^_^


สวัสดีครับ ดร.มนตรี

              พี่สิงห์ ก็เขียนไปตามความจริง  ไม่ได้ปรุงแต่งอะไรทั้งสิ้น  เดี๋ยวนี้ใจปล่อยวาง ลงมากแล้ว เมื่อสักครู่ คุณน้อง Tippy ได้โทรศัพท์มาหา ก็บอกไปแล้ว เธอไม่ได้โทรศัพท์ตอบ  ทำให้มีเรื่องที่จะเขียนไปวันหนึ่งๆ

               นี่ได้ข่าวว่าคุณน้อง Tooky ก็ไม่สบาย อยู่ตัวคนเดียวด้วย แบบพี่สิงห์  เป็นห่วงเหมือนกัน คุณน้อง Tooky เธฮไม่เหมือนพี่สิงห์ เธอยังอยู่ในความประมาท เกินไป พี่สิงห์ เคยบอกไว้แล้วว่า ถ้าไม่สบายมาก ต้องการความช่วยเหลือโทรศัพท์ หาพี่สิงห์ ได้เลย  ยินดีช่วยเหลือเสมอไม่ต้องเกรงใจ ทั้งสิ้น

               ดร. มนตรี  ต้องเรียกว่า "๖๐ ยังหนุ่ม  ยังแน่น  ยังเต๊ะปีปดัง" สำหรับพี่ป๋อง

               สวัสดี   
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #5124 เมื่อ: 19 มกราคม 2555, 10:22:49 »


               - ขอขอบคุณ คุณน้องหนุ๋งหนิ๋ง มาก ที่นำภาพมาให้ชมทำให้รู้วาามีใครมาบ้าง

               - ได้เห็น ดร.สุริยา และทุกคนที่มาร่วมงาน สนุก มีความสุข ก็ขอยินดีด้วยครับ

               - พี่สิงห์ ได้รู้จักคุณน้องแจง 24 ในภาพแล้ว ขอบคุณมากค่ะ สำหรับขนมเค็ก ไม่ทราบใครรับประทานเผื่อพี่สิงห์ บ้าง?

               - พี่สิงห์ กำลังสงสัยว่า สุภาพบุรุษที่ยืนข้างคุณรองรัตน์ คือคุณเจียม ใช่หรือไม่  ถ้าใช่จะได้จำเอาไว้ครับ ถ้าผิดต้องขออภัย เพราะ ๖๑ ปีแล้ว

               - ผมหวังว่า ท่านอาจารย์ พินิจ  คงให้ศีล  ให้พร ดร.สุริยาไปแล้วครับ  คงไม่ต้องว่ากล่าวอะไรกันมาก

                 สวัสดีครับ
      บันทึกการเข้า
  หน้า: 1 ... 203 204 [205] 206 207 ... 681   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

ทำไมหอพักนิสิตจุฬาจึงเป็นดินแดนมหัศจรรย์            " ไม่ได้เป็นแค่หอให้นอนพัก  แต่เป็นบ้านอบอุ่นรักให้อาศัย  ไม่เป็นแค่ที่ซุกหัวยามหลบภัย  แต่สร้างใจให้เข้มแข็งแกร่งการงาน"  <))))><