Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์
รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644
|
|
« ตอบ #5000 เมื่อ: 12 มกราคม 2555, 19:10:57 » |
|
สวัสดีครับ ชาวซีมะโด่ง ที่รักทุกท่าน
พี่สิงห์ ถึงนครศรีธรรมราชเรียบร้อยแล้ว และตามปกติของ Nok Air คือล่าช้ากว่าเวลาไปครึ่งชั่วโมง เป็นผลดี คือที่นครศรีธรรมราชฝนตกหนักเมื่อตอนเที่ยง จนกระทั่งบ่ายกว่า มาหยุดตกก่อนที่เครื่องบินจะลงสักหนึ่งชั่วโมง ท้องฟ้าแจ่มใส ไม่มีลมเลย แต่ยังมีฝนนิดหน่อยเท่านั้น
ช่วงนี้โรงแรมเงียบเหงาครับ นักข่าวติดตามน้ำท้วมไม่มี มูลนิธิมาแจกของน้ำท้วมไม่มี รู้สึกเงียบดีครับ
ช่วงที่ผ่านมาอากาศเปลี่ยนแปลงมากโดยเฉพาะผม เจอร้อน หนาว ฝน แย่ไปเหมือนกัน ไอมาสามวันแล้ว ไม่มีไข้ แพ้อากาศ คอแห้ง แต่ยังไม่ถึงกับอักเสป จึงไม่ได้รับประทานยาแก้อักเสบ ได้แต่กินยาแพ้อากาศ ซึ่งเป็นโรคประจำตัวผมเลย อาจจะเป็นเพราะเดินตีกอล์ฟน้อยไป จึงแพ้อากาศง่ายๆ ครับ ช่วงนี้
พรุ่งนี้เช้าจะแวะไปดู ซ่อมพระที่วัดพระธาตุ ที่จะบรรจุกระดูก คุณพ่อบัญญัติ อิสดุลย์ คุณพ่อของ ดร.กุศล ว่าทำการซ่อมแซมไปถึงไหนแล้ว จะเสร็จทันวันที่ ๒๐ มกราคม ตามที่ได้ตกลงไว้หรือไม่ เพราะวันที่ ๒๑ มกราคม ดร.กุศลจะเอากระดูกพ่อมาบรรจุที่ฐานพระพุทธรูป
สวัสดีครับ
|
|
|
|
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์
รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644
|
|
« ตอบ #5001 เมื่อ: 12 มกราคม 2555, 19:40:08 » |
|
กฏไตรลักษณ์ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ซึ่งพระพุทธองค์เรียกว่า ขันธ์ ๕ ซึ่งสมมติบัญญัติให้เป็นร่างกาย จิตใจของมนุษย์ นั้นล้วนเป็นสังขาร(คิด นึก ตรึก ตรอง)ปรุงแต่งเสียทั้งหมด สังขารปรุงแต่งทั้งหลายตกอยู่ภายใต้กฏไตรลักษณ์ คือ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ตามที่พระพุทธองค์ทรงสอนว่า
สังขาร ทั้งหลาย เป็นอนิจจัง
สังขาร ทั้งหลาย เป็นทุกข์
ธรรม ทั้งหลาย เป็นอนัตตา
(ธรรม ในที่นี้รวมทั้ง สังขตะธรรม และอสังขตะธรรม)
อนิจจัง คือ ไม่เที่ยง หรือเกิดขึ้นแล้วในเบื้องต้น แปรปรวนเปลี่ยนแปลงในท่ามกลาง และดับไปในที่สุด
ทุกขัง คือ ความไม่สะบายกาย ความไม่สะบายใจ หรือ คือ สภาวะที่ไม่อาจดำรงสภาพเดิมได้ ต้องมีสุขบ้าง มีทุกข์บ้าง เฉยๆบ้าง(ไม่สุข ไม่ทุก) สลับสับเปลี่ยนหมุนเวียนไปตลอดเวลา ไม่สามารถบังคับให้เหลือแต่ความสุขอย่างเดียวได้ หรือความทุกอย่างเดียวได้ ไม่มีผู้ใดที่จะสามารถแยกทุกข์ออกจากสุขหรือแยกสุขออกจากทุกข์ ให้เหลือแต่สุขเพียงอย่างเดียวได้ ต้องมีความดับไป มีความเสื่อมไปในที่สุด
อนัตตา คือ ไม่มีใครจะเข้าไปบังคับให้เป็นอยู่หน้าเดียวได้อย่างนั้นตลอดไป ไม่มีใครเป็นเจ้าของ ไม่ใช่เรา ไม่ใช่ตัวเรา หรือไม่ใช่เราเป็นสิ่งเหล่านั้น แต่ที่เราเข้าใจว่าเป็นตัวเรานั้น มันเป็นเรื่องของ เจตสิก (เวทนา สัญญา สังขาร) ที่เราไปยึดติด ไปหลง อยู่กับมัน ทั้งๆที่เจตสิกเป็นอนัตตา เพราะอวิชชาที่เกิดขึ้นกับจิตเรานั่นเอง จึงมองไม่เห็น
ว่าโดยย่อ "อุปทานขันธ์ ๕ เป็นอนัจจัง ทุกขัง อนัตตา" ดังนั้น เราอย่าไปหลงผิด ยึดมั่น ถือมั่น หลงอยู่กับขันธ์ ๕ ของเราจนเป็นทิฏฐิ ต้องเปลี่ยนให้เป็นสัมมาทิฏฐิ เห็นตามความเป็นจริงในอริยะสัจ ๔ ความจริง ๔ ประการ
ขอย้ำสิ่งที่เราหลงคิดว่าเป็น "อัตตา" นั้น มันคือ อุปาทานที่เกิดขึ้นจาก "เจตสิก" ทั้งสิ้น ทั้งๆที่ เจตสิก(เวทนา สัญญา สังขาร) เป็น "อนัตตา"
สวัสดี
|
|
|
|
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์
รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644
|
|
« ตอบ #5002 เมื่อ: 12 มกราคม 2555, 19:47:46 » |
|
พระน้องนางทราย ที่รัก พระเชษฐา ไม่ได้จบเปรียญ อะไรเลย มีเพียงประกาศนียบัตรธรรมศึกษาชั้นตรี สำนักวัดโบสถ์ อำเภออินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี เท่านั้น
อาศัยความเข้าใจที่เกิดจากการปฏิบัติธรรมดูกาย ดูใจ ตนเอง และการอ่านในพระไตรปิฎกฉบับประชาชนเท่านั้น ที่เกิดความเข้าใจขึ้นมาในจิต เข้าใจในสิ่งที่พระพุทธองค์ทรงสอน เท่านั้น เมื่อเข้าใจมันก็จำได้เองของมัน เพราะมันเป็นความจริงตามธรรมชาติทั้งนั้น
พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต) ท่านสอนว่า ปุถุชนม์สามารถอยู่อย่างพระโสดาบันได้ ขอเพียงให้มีคุณสมบัติ ดังนี้ คือ ศัทธา ศีล สูต(รับฟังคำสอน อ่านพระสูตร ได้ดวงตาเห็นธรรม) จาคะ(เป็นผู้ให้ หรือให้ทานที่เกิดขึ้นโดยจิต) และมีปัญญา(คืออยู่ด้วยเหตุ-ปัจจัย ไม่งมงายไร้เหตุผล)เกิดขึ้น
สวัสดี
|
|
|
|
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์
รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644
|
|
« ตอบ #5003 เมื่อ: 12 มกราคม 2555, 20:16:20 » |
|
ว่างๆ จะนำเสนอ ปรมัติธรรม ๔ (ธรรมสูงสุด) คือ จิต เจตสิก รูป นิพพาน ตามความเข้าใจของผม สำหรับผู้ปฏิบัติธรรม เรื่องนี้ ทันตแพทย์กัลญาณี เคยถามผม มานานแล้ว เพราะนักปฏิบัติธรรมที่โรงพยาบาลนครศรีธรรมราชเขาใฝ่ฝันอยากจะเข้าไปสัมผัส อยากจะรู้มาก แต่ถ้าเป็นผม รู้ก็ดี ไม่รู้ก็ดี สามารถหาได้เองจากการปฏิบัติธรรมดูกาย ดูจิต ของเรานี่ละ ดีที่สุด เพียงแต่เราไม่ได้เป็นพหูสูตรอย่างพระพุทธองค์ จึงสามารถแยกแยะอารมณ์ เกิดเป็น ปรมัติธรรม ๔ ได้โดยละเอียด เป็นสมมติบัญญัติ จนเราไม่สามารถจะจำได้ ถ้าไม่เข้าใจในธรรมนั้น
พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต) ย้ำเสมอว่า ศาสนาพุทธนั้น เน้นที่การใช้ปัญญาในการดำรงชีวิต ตามหลักเหตุ-ปัจจัย ทั้งสิ้น การปฏิบัติธรรม เป็นเรื่องของการใชปัญญาดูกาย - จิต ตนเอง ด้วย "สติ" ปัญญาย่อมเกิดเสมอ
ราตรีสวัสดีครับ
|
|
|
|
Kaimook
|
|
« ตอบ #5004 เมื่อ: 12 มกราคม 2555, 23:27:05 » |
|
สวัสดีค่ะพี่สิงห์ ขอให้พี่สิงห์มีความสุขตลอด2555 ค่ะและตลอดไปนะคะ.... มาตามอ่านธรรม จากพี่สิงห์ค่ะ ขอให้คุณแม่พี่สิงห์หายไวๆนะคะ...
|
|
|
|
|
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์
รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644
|
|
« ตอบ #5006 เมื่อ: 13 มกราคม 2555, 08:12:45 » |
|
สวัสดีคุณน้อง Tippy ที่รัก
เธอช่วยจัดการเรื่องการสั่งอาหาร จัดการเรื่องสถานที่ให้เพียงพอ เอาไว้ต้อนรับพวกเรา อย่าให้ขาดตกบกพร่องทั้งสิ้น ในวันอังคารที่ ๑๗ มกราคม ๒๕๕๕ เป็นวันครบรอบวันเกิด ๖๐ ปี ของ ดร.สุริยา ทัศนียานนท์ ที่ Par 3 ซอยเสือใหญ่ ลาดพร้าว เวลาแดดร่มลมตกไปแล้ว ถึงเวลาที่เขาไล่เพราะพนักงานจะกลับบ้าน ปิดร้าน
ขอบคุณมาก
สวัสดี
|
|
|
|
wannee
Global Moderator
Cmadong พันธุ์แท้
ออฟไลน์
รุ่น: จุฬาฯรุ่นประวัติศาสตร์ 2516
คณะ: ทันตแพทยศาสตร์
กระทู้: 4,806
|
|
« ตอบ #5007 เมื่อ: 13 มกราคม 2555, 09:34:42 » |
|
... เมื่ออตอนตีห้ากว่าๆ วันนี้ น้องสาวได้โทรศัพท์มาถามว่า อยู่ไหน ? ผมตอบว่าอยู่นครศรีธรรมราช น้องสาวบอกว่า แม่ท้องอืดมาก คงมีสาเหตุมาจากเลือดไปเลี้ยงอวัยวะภายในน้อย เป็นสัญญาณอันตราย จะเอาอย่างไรดี ? พี่สิงห์ จึงบอกน้องสาวว่า ให้เอาแม่ไปอยู่โรงพยาบาลก็แล้วกัน เพื่อความสบายใจของคนอื่นๆ ในวาระสุดท้ายนี้ และพี่สิงห์จะกลับกรุงเทพฯ เย็นนี้ที่มีเที่ยวบิน วันเสาร์คงสามารถไปหาแม่ได้ และจะบอกกับพี่ๆ ทุกคน ให้ทราบ ความทุกข์ มันจะไม่เกิดขึ้นกับเรา ถ้าเราไม่เผลอไปปรุงแต่งมัน ต้องมีความรู้สึกตัวในอิริยาบถ ของเราอยู่เสมอ ถึงมันจะเผลอไปบ้างก็กลับมาได้ จริงอยู่ ความพลัดพรากจากสิ่งที่รักเป็นทุกข์ โดยเแพาะแม่ ที่เลี้ยงเรามา ให้การศึกษาเราอย่างดี ทั้งๆที่แม่ต้องลำบาก แม่ทนได้ทุกอย่าง แม่ได้สอนหลานสาวเอาไว้ว่า "เวลายายขายของได้เงิน ไม่ว่าจะขายขนม หรือทำโรงสีเล็กๆ ที่มีรายได้ ยายจะแบ่งออกเป็นสามส่วน ส่วนที่หนึ่งเก็บเอาไว้ให้ลูก ไม่นำมาใช้เลยทุกกรณี ส่วนที่สองเอาไว้เป็นทุนในการทำมาหากิน และส่วนที่สามเอาไว้ใช้จ่ายในครอบครัว" ยายทำมาแบบนี้เสมอ ยายเรียนหนังสือเพียงแค่ ป.๔ อาชีพเริ่มต้น ปลูกผักที่เกาะกลางแม่น้ำเจ้าพระยาไปขายที่ตลาดอินทร์บุรี บ้านเป็นเกาะอยู่หลังวัดโบสถ์(ปัจจุบันไม่มีแล้ว) อาชีพแจวเรือจ้างข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา อาชีพร่อนกรวดในหน้าแล้ง และเอาไปขาย กรุงเทพฯในหน้าน้ำหลาก อาชีพทำขนมไทยขาย และอาชีพสุดท้าย คือทำโรงสีเล็กๆ ขายแกลบ ลำ ปลายข้าว และข้าวสาร อาชีพเสริมคือนำข้าวที่หกๆ ในโรงสีเลี้ยงหมูเพื่อส่งลูกเรียนหนังสือ ถือศีล ๘ ทุกวันพระ ไม่ใช้จ่ายอะไรเลยนอกจากปัจจัย ๔ ที่จำเป็น ขนมก็ทำเองหมดถ้าลุกๆต้องการจะกินขนม เวลาลาซื้อปลามาทำกับข้าว แม่จะซื้อปลาที่คนขายทำเสร็จแล้ว เพราะแม่จะไม่ฆ่าสัตว์ แม่เป็นคนประหยัดมาก จนชาวบ้านคิดว่าแม่ขี้เหนี๋ยว(ไม่ใช้เงินเลย) แม่ไม่เคยไปดูหนังดูละครที่วัดเวลามีงานประจำปี หรือหนังขายยา ทั้งสิ้นอยู่แต่บ้าน เพราะไม่อยากเสียเงิน
ปรุงแต่งมากเกินไปเสียแล้วจิตเรา [/quote] ...ความผูกพัน.... ความที่พี่สิงห์ปฏิบัติธรรมมา ประกอบกับมีหลานชายที่เป็นแพทย์อยู่ใกล้ๆคอยให้คำปรึกษาในการดูแลคุณแม่ที่อยู่ในวัยสูงอายุ(ชรา)ของพี่สิงห์ พวกเรา(หมอบุญเลิศ-เสียด)ติดตามข่าวที่นี่อยู่ค่ะ
|
"เสียด" ภาษาจีนฮากกา แปลว่า หิมะ
|
|
|
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์
รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644
|
|
« ตอบ #5008 เมื่อ: 13 มกราคม 2555, 10:38:28 » |
|
สวัสดีค่ะ คุณน้องเสียด - หมอบุญเลิศ ดร. สุริยา ที่รัก
ขอบคุณมาก
พี่สิงห์ อยู่ที่สนามบินนครศรีธรรมราช รอ Boarding 11:20 น. เพื่อเดินทางกลับ กทม. ไปอยู่กับแม่ และพาแม่กลับบ้านที่อินทร์บุรี ระบบหายใจเริ่มติดขัด อ่อนลง เพราะเลือดไปเลี้ยงอวัยวะต่างๆ ลำบาก ไม่ได้เอาไปโรงพยาบาล เพราะไม่จำเป็นแล้ว พี่สิงห์ ได้เรียนให้พี่ๆ ทุกคนทราบหมดแล้ว
สวัสดี
|
|
|
|
nok15
Full Member
ออฟไลน์
กระทู้: 529
|
|
« ตอบ #5009 เมื่อ: 13 มกราคม 2555, 13:12:45 » |
|
สวัสดีค่ะสิงห์ นกเคยทราบจากครูบาอาจารย์ว่าถ้าสวดโพชฌงค์ให้ผู้ป่วยฟัง จะทำให้ผู้ป่วยคลายทุกข์จากโรคภัยไข้ เจ็บได้ พี่สิงห์ลองสวดหรือยังคะ Nok15
|
|
|
|
KUSON
|
|
« ตอบ #5010 เมื่อ: 13 มกราคม 2555, 14:23:25 » |
|
ผมคอยติดตามข่าวคุณแม่ของพี่สิงห์ด้วยความเป็นห่วง นึกถึงตัวเอง ตอนคุณพ่อยังอยู่ เวลาเราไปเยี่ยมท่านๆดีใจมาก ด้วยความผูกพัน ในขณะนั้น ถึงจะเดินทางลำบากอย่างไรเราก็ไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อยเลย อะไรที่เราทำให้ท่านได้ เป็นสุขไปหมด เป็นพลังที่ได้รับมาจากใหนก็ไม่ทราบ ผมเชื่อว่า พี่สิงห์ ซึ่งมีประสพการณ์มามากกว่าผม ท่านใกล้ชิดคุณแม่มากๆคงรู้ดีกว่าผมมาก ขอคุณพระศรีรัตนไตรจงคุ้มครองให้คุณแม่บังเกิดพลังแห่งพุทธคุณคุ้มครองให้ท่านจงเป็นปกติโดยเร็วไว และมีกำลังใจที่ดี ได้ใกล้ชิดลูกหลานด้วยความสุขตราบนานเท่านาน
|
|
|
|
swsm
Cmadong Member
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
@@ ยาหยี @@
ออฟไลน์
รุ่น: Rcu2523
คณะ: Comm Arts
กระทู้: 28,369
|
|
« ตอบ #5011 เมื่อ: 13 มกราคม 2555, 16:53:54 » |
|
ยังติดตามอยู่เสมอค่ะ พี่สิงห์ .. พูดอะไรไม่ออกแล้วค่ะ
|
.. don't play with me, cos I know how to play it too .. may be better than you do ..
|
|
|
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์
รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644
|
|
« ตอบ #5012 เมื่อ: 13 มกราคม 2555, 18:00:23 » |
|
รูปมันไม่เที่ยง ย่อมที่จะเลื่อมสลายไปเป็นธรรมดา จิตใจแม่ ดีมาก คุยรู้เรื่อง แต่ร่างกายมันไม่ไหว บวมคงมีสาเหตุมาจากระบบภายในเช่นไต ไม่ทำงาน และคงติดเชื้อจากบาดแผลที่นิ้วเท้า ได้แต่ให้ยาตามอาการ ตอนนี้แม่หลับ น้องสาวนั่งสวดมนต์ให้แม่ฟัง ครับ
สวัสดี
|
|
|
|
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์
รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644
|
|
« ตอบ #5013 เมื่อ: 13 มกราคม 2555, 18:04:06 » |
|
การสวดโพชฌงค์ ๗ ต้องสวดพร้อมคำแปลให้ฟัง ความหมายแล้วทำจิตให้แน่วแน่กับความหมาย มันจะทำให้จิตอยู่เหนือเวทนาที่ได้รับได้ ถึงจะได้ผลครับ ขอบคุณมาก
|
|
|
|
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์
รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644
|
|
« ตอบ #5014 เมื่อ: 13 มกราคม 2555, 18:08:58 » |
|
ขอขอบคุณ ทุกๆ ท่านที่เป็นห่วง และเอาใจช่วยครับ
ถึงจะเจ็บแต่แม่ไม่ได้เจ็บ หรือร้องครวญอะไรเลยทั้งนั้น ยังมีสติดี ถาม จะตอบได้พอสมควรกับความจำที่ยังพอมีฝังใจอยู่ อย่างเมื่อเย็นแม่บอกว่าเขามารับแล้ว ผมก็ถามว่าใครมารับ แม่ไม่ตอบ แม่บอกว่าจะไปอยู่กับพ่อ
สวัสดีครับ
|
|
|
|
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์
รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644
|
|
« ตอบ #5015 เมื่อ: 13 มกราคม 2555, 18:53:09 » |
|
อริยะสัจ ๔
ความจริงที่มีอยู่ในธรรมชาติ ๔ ประการ อริยะสัจ ๔ ประการนี้ พระพุทธองค์ทรงสอนว่า พระองค์จะตรัสรู้หรือไม่ มันก็มีอยู่ก่อนแล้ว แต่ด้วยอวิชชามนุษย์จึงมองไม่เห็นไม่เข้าใจในธรรมชาตินั้น จึงมองข้ามไปตกอยู่ในวัฏสงสารไม่มีสิ้นสุด
อริยสัจ ๔ ประกอบไปด้วย ทุกข์ สมุทัย นิโรธ และ มรรค
ทุกข์ คือ สภาวะที่เกิดความไม่สบายกาย ความไม่สบายใจ ขึ้นกับรูป-นาม ของมนุษย์ พระพุทธองค์ จำแนกทุกข์ได้ ๗ ประการคือ - การเกิด ก็เป็นทุกข์ - การแก่ ก็เป็นทุกข์ - การเจ็บ ก็เป็นทุกข์ - การตาย ก็เป็นทุกข์ - การประสบกับสิ่งที่ไม่รัก ไม่ปรารถนา ไม่ชอบ ก็เป็นทุกข์ - ปรารถนาสิ่งใด ไม่ได้สิ่งนั้น ก็เป็นทุกข์ - ความพลัดพรากจากสิ่งที่รัก ก็เป็นทุกข์
พระพุทธองค์ทรงสอนให้เรากำหนดรู้ในทุกข์นั้นๆ แต่พระองค์ไม่ให้เราเอา รูป-นาม ของเราไปเป็นทุกข์เสียเอง อย่างผมตอนนี้ มีความกังวลต่างๆ เกิดขึ้นมากมายเรื่องแม่ เรื่องบวชตลอดชีวิต ถ้าผมขาดสติปล่อยให้จิตมันปรุงแต่ง มีแต่ทุกข์ ทั้งๆ สิ่งเหล่านั้นมันยังไม่เกิด แต่ถ้าผมไม่คิดถึงมันเลย ด้วยการมีสติอยู่กับปัจจุบัน มันก็ไม่คิด ไม่คิดก็ไม่ทุกข์ ผมจึงต้องระวังจิตอยู่ตลอดเวลาไม่ให่เผลอไปปรุงแต่งใดๆทั้งสิ้นในสิ่งที่ยังมาไม่ถึง
สมุทัย คือ ต้นเหตุแห่งทุกข์ พระพุทธองค์ทรงสอนว่า ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นล้วนมีเหตุ เป็นปัจจัยทั้งสิ้น ไม่สามารถเกิดขึ้นเองได้ ต้นเหตุแห่งทุกข์นั้น มาจาก "ตัณหา" คือความทะยายอยากต่าง ของจิตที่ปรุงแต่งนั่นเองเพราะเคยได้รับรู้จากอายตนะ ๖ ไปเก็บไว้ในความจำ และรู้สึกชอบจึงอยากอยู่เสมอ เมื่อจิตปรุงแต่งเมื่อประสบอีกครั้งก็จำได้เลยติดใจอยู่เสมอๆ ตัณหา ประกอบไปด้วย กามตัณหา คือความอยากที่เกิดจากอายตนะ ๕ คือ ตาเห็นรูป หูได้ยินเสียง จมูกได้ดมกลิ่น ลิ้นได้ลิ้มรส และกายได้สัมผัส เลยเกิดความอยากจากความจำเพราะติดใจอยากได้อีกเสมอ ภวะตัณหา คือความอยากแห่งจิต ที่คิดปรุงแต่งขึ้น ตามสิ่งที่รักที่ชอบ วิภวะตัณหา คือ ความไม่อยากแห่งจิตที่จะหลุดพ้น เพราะเคยชินกับสิ่งที่ได้รับมาก่อน จะเห็นได้ง่ายๆ เวลาท่านจะปฏิบัติธรรม ทีไร จะมีมารมาผจญทันทีไม่ยอมให้ท่านกระทำ ต้องคิดโน่นคิดนี้ คัน อยู่ไม่สุข ทั้งๆที่ไม่เคยเป็นมาก่อน จะเป็นเช่นนี้ทุกครั้ง เพราะจิตมันไม่ชอบ มันอยากให้เลิก
นิโรธ คืองการดับทุกข์ คือต้องดับที่ต้นเหตุจริงๆ จึงจะพ้นทุกข์ได้ ถ้าเป็นทุกข์ทั่วๆ ไปที่เกิดกับเราเป็นประจำนั้น ต้องหาสาเหตุให้พบ และกระทำตรงกันข้ามกับสาเหตุนั้นเราก็จะพ้นทุกข์ แต่ทุกข์ส่วนใหญ่เกิดจากการปรุงแต่งแห่งจิต คือตัณหา เราก็ต้องละตัณหาให้ได้ ด้วยการปฏิบัติธรรม บังคับจิตให้จิตมันคลายความอยาก เบื่อหน่าย เป็นไปตามกฏไตรลักษณ์ ในขั้นต้นเราต้องพยายามสอนจิตเราอยู่เสมอว่า ธรรมทั้งหลายล้วนเป็น อนัตตา ไม่มีสิ่งไหนเลยในรูป-นามที่เป็นอัตตา มีแต่ความคิดปรุงแต่งทั้งสิ้น เราอย่าไปยึดถือมันเลย ความต้องการต่างๆ ก็จะคลายลงไปเอง
มรรค คือ แนวทางการปฏิบัติเพื่อชำระจิตให้พ้นทุกข์ เป็นหนทางอันประเสริฐที่พระพุทธองค์ปรารถนาให้มนุษย์กระทำตามนั้น แล้วจะพ้นทุกข์ หรือถ้าปฏิบัติตามแล้วทุกข์จะเกิดขึ้นน้อยลง สามารถดำรงค์อยู่ในสังคมได้สงลสุข มรรคมีองค์ ๘ ประกอบด้วย - สัมมาทิฏฐิ คือความเห็นชอบตามหลักอริยสัจ ๔ - สัมมาสังกับปะ คือ คือความดำริชอบที่จะคิดในทางสุจริต กุศลธรรม คือสุจริตทางใจ - สัมมาวาจา คือ มีวาจาชอบ ไม่พุดเท็จ ส่อเสียด คำหยาบ เพ้อเจ้อ หรือพูดแล้วเกิดวิวาท คือ สุจริตทางวาจา - สัมมากัมมันตะ คือ การกระทำชอบ คือไม่ฆ่าสัตว์ เบียดเบียนสัตว์ ไม่ลักทรัพย์เป็นต้น คือ สุจริตทางกาย - สัมมาอาชีวะ คือ มีอาชีพชอบ หากินโดยสุจริต ไม่เอาเปรียบคนและสังคม - สัมมาวายามะ คือ มีความเพียรชอบ ต้องมีวิริยะในสิ่งที่กล่าวมาข้างต้นโดยสม่ำเสมอตลอดไป - สัมมาสติ คือ มีความระลึกอยู่เสมอ คือรู้สึกตัวตลอดเวลา โดยเฉพาะการตั้งสติปัฏฐาน ๔ คือกาย เวมนา จิต ธรรม อยู่เป็นนิจ - สัมมาสมาธิ คือ ความตั้งใจมั่นชอบ คือ ต้องกระทำให้เกิดอารมณ์เดียว ในทุกสิ่งที่กล่าวมาข้างต้น โดยเฉพาะการตั้งสติปัฏฐาน ๔
ซึ่งมรรคองค์ ๘ นี่ สามารถสรุปรวมอยู่เป็นไตรสิกขา คือ ศีล สมาธิ ปัญญา เพื่อให้เข้าใจได้ง่ายๆ เพื่อเป็นหลักในการดำรงอยู่ของมนุษย์ ให้ทุกข์น้อยๆ หรือทำที่สุดแห่งทุกข์ได้
ผมต้องทบทวนตัวเอง อยู่เป็นนิจเพื่อเตือนตัวเอง ให้อยู่ในความไม่ประมาท
เมื่อเย็นที่ผ่านมาแม่นอนฟังน้องสาวสวดอิติปิโสเท่าอายุแม่ จิตแม่ตามฟังและบางครั้งก็สวดตาม แต่จบสุดท้ายแม่สวดตามด้วยครบพอดีครับ ค่ำนี้
สวัสดี
|
|
|
|
swsm
Cmadong Member
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
@@ ยาหยี @@
ออฟไลน์
รุ่น: Rcu2523
คณะ: Comm Arts
กระทู้: 28,369
|
|
« ตอบ #5016 เมื่อ: 13 มกราคม 2555, 19:29:28 » |
|
ขอร่วมส่งกำลังใจค่ะ พี่สิงห์
|
.. don't play with me, cos I know how to play it too .. may be better than you do ..
|
|
|
แจง-24
|
|
« ตอบ #5017 เมื่อ: 13 มกราคม 2555, 21:24:05 » |
|
ขอเอาใจช่วยและเป็นกำลังใจให้พี่สิงห์และครอบครัวด้วยค่ะ
|
อยู่อย่างต่ำ กระทำอย่างสูง
|
|
|
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์
รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644
|
|
« ตอบ #5018 เมื่อ: 14 มกราคม 2555, 07:50:44 » |
|
สวัสดียามเช้าครับ ชาวซีมะโด่ง ที่รักทุกท่าน
วันนี้เป็นวันเด็กแห่งชาติ ครับ ผมจำได้ว่าในสมัยที่เป็นเด็กนั้น วันเด็กจะตรงกับ "วันเด็กจันทร์แรกตุลา ทุกคนเริงร่ายิ้มแย้มแจ่มใส" เป็นเนื้อเพลงวันเด็กเพลงหนึ่ง นอกเหนือจากเพลง "เด็กเอ่ยเด็กดีต้องมีหน้าที่สิบอย่างด้วยกัน"
วันนี้ขอเพียงเด็กทุกคนกระทำตาม "หน้าที่ สิบอย่าง" ในเนื้อเพลงนั้น อนาคตของชาติไทยต้องรุ่งเรืองแน่นอนครับ แต่ความจริงมันไม่เป็นเช่นนั้นเลยนะครับ เกือบตรงกันข้าม จึงหน้าห่วงมากอนาคตของชาติไทย ไม่รู้ว่าจะเดินไปในทิศทางใด เพราะขาดวินัยและการยอมรับแบบวิญญูชนม์ที่ควรพึงกระทำ
อย่างไรก็ดี ผมหวังว่าทุกท่านที่มีหลาน เหลน คงจะพาหลาน เหลน ไปเที่ยวหรือไปรับประทานอาหารร่วมกันเพื่อความอบอุ่นภายในครอบครัว ครับ
สวัสดี
|
|
|
|
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์
รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644
|
|
« ตอบ #5019 เมื่อ: 14 มกราคม 2555, 07:52:03 » |
|
พี่สิงห์ ขอขอบคุณ คุณน้องแจง24 มากค่ะ สวัสดี
|
|
|
|
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์
รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644
|
|
« ตอบ #5020 เมื่อ: 14 มกราคม 2555, 07:53:39 » |
|
ขอบคุณมากค่ะ ราตรีสวัสดิ์ค่ะ
|
|
|
|
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์
รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644
|
|
« ตอบ #5021 เมื่อ: 14 มกราคม 2555, 08:05:23 » |
|
แปลกมาก ทุกครั้งที่ผมมาเยี่ยมแม่ อาการของแม่จะดีเสมอ ถ้าดูแต่ใบหน้าและสติ แล้วจะรู้ได้เลยว่า สามารถอยู่ได้อีกนาน เมื่อวานครูอู๊ด ถามยายว่า ยายเป็นอะไรหรือเปล่า ยายตอบว่า "จิตใจยายดี แต่ร่างกายมันไปไม่ไหว" มันก็จริง ร่างกายบวมไปด้วยน้ำ หรือน้ำเหลือง ที่เราทำอะไรไม่ได้เลย แต่แปลกทำไมแม่ไม่เจ็บ หรือร้องครวญครางเลย เมื่อคืนท่านนอนหลับได้ดี และเช้านี้ก็นอนหลับได้ดี ผิดกับเมื่อวานตอนเช้าที่อาการไม่ดีเอาเลย จนน้องสาวต้องนำรูปพ่อ พระพุทธรูป และหลวงพ่อรอดมาคล้องคอให้แม่ จนหลายคนคิกว่าท่านจะไม่อยู่แล้ว
สำหรับผมรับได้ทั้งนั้น เมื่อเช้าตั้งใจนำข้าวไปใส่บาตรพระที่ข้างโรงเรียนอินทโมลี ปรากฏว่าพระท่านวันนี้ไม่มาบิณฑบาตร ผมเลยต้องเอาข้าวมารับประทานเป็นอาหารเช้าแทน แสดงว่าความสม่ำเสมอในการใส่บาตร มีน้อยพระท่านเลยมาบ้าง ไม่มาบ้าง ไม่เป็นไรไม่ได้ใส่ก้ดี ได้ใส่ก็ดีครับ
ผมเจออากาศที่เปลี่ยนแปลงมาก จากฝนตกทางใต้ มาเจอหนาวที่สิงห์บุรี ร้อนที่ กทม. เมื่อคืนนอนไอทั้งคืนเลย และคอเจ็บ แสบ ต้องหายายฆ่าเชื้อมารับประทานแล้ว
ช่วงนี้ผมคงยังอยู่กับแม่ที่สิงห์บุรี ครับ
สวัสดี
|
|
|
|
อ้อย 14
|
|
« ตอบ #5022 เมื่อ: 14 มกราคม 2555, 09:09:55 » |
|
สวัสดีปีใหม่ค่ะพี่สิงห์...พี่สิงห์เป็นลูกที่ดี ยากที่จะหาหาใครเท่า ขอให้พี่มีความสุขมากๆ และเป็นที่รักของทุกคนอย่างนี้นะคะ...
|
|
|
|
TU14
Full Member
ออฟไลน์
กระทู้: 342
|
|
« ตอบ #5023 เมื่อ: 14 มกราคม 2555, 09:11:01 » |
|
เป็นกำลังใจให้พี่สิงห์เสมอค่ะ
|
|
|
|
ตี้ถาปัด
|
|
« ตอบ #5024 เมื่อ: 14 มกราคม 2555, 11:47:30 » |
|
ขอเป็นกำลังใจให้พี่สิงห์และครอบครัวด้วยครับ
|
2437041
|
|
|
|