26 พฤศจิกายน 2567, 07:38:57
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: 1 ... 181 182 [183] 184 185 ... 681   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: คุย กับ คุณมานพ กลับดี อดีตประธานชมรม ๓ สมัย  (อ่าน 3580341 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 11 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #4550 เมื่อ: 05 ธันวาคม 2554, 20:48:20 »


สวัสดีค่ะ คุณน้องหนุ๋งหนิ๋ง ที่รัก

           ต้องขอบคุณสำหรับภาพนี้ เพราะทำให้พี่สิงห์ เห็นเสาไฟฟ้า ที่ยังเป็นไม้ สำหรับเสาไฟฟ้าเข้าตามหมู่บ้าน คงต้องสร้างระบบเสาไฟฟ้าใหม่ทั้งหมด สายหลักคงเป็น เสาไฟฟ้าขนาด 22.00 ม. สำหรับไฟฟ้าแรงสูง ตามถนนสายหลัก คงเป็นเสาไฟฟ้า 12:00 ม. และ ตามหมู่บ้านแรงต่ำ คงเป็นเสาไฟฟ้้า ขนาด 8:00 ม. พี่สิงห์ต้องออกแบบโรงงานผลิต ตามกำลังความต้องการของเขา รวมทั้งเสาตอหม้อ คานนั่งร้านหม้อแปลงไฟฟ้า และไม้คอน คอร. ทั้งหมด ครับ

           หวังว่าคงมีโอกาสได้ไปครับ  แต่ภาษาอังกฤษนี่ละตัวปัญหา คงต้องเตรียมตัวแล้วครับ ถ้าพูดเรืองทำงานสามารถพูดได้ ยกเว้นพูดเรื่องทั่วๆไป เพราะศัพท์ ไม่ได้ครับ

           เสื้อคลุมสีชมพู สวยดีครับ แล้วจะซื้อมาฝาก และคงต้องซื้อสำหรับใส่ทำงานที่นั่น

          สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #4551 เมื่อ: 05 ธันวาคม 2554, 21:06:57 »

โพธิปักขิยธรรม  ธรรมอันเป็นไปในฝ่ายแห่งการตรัสรู้ ๓๗ ประการ ประกอบไปด้วย

อิทธิบาท ธรรมที่ให้ประสบความสำเร็จ ๔
           ๑.   ฉันทะ
           ๒.   วิริยะ
           ๓.   จิตตะ
           ๔.   วิมังสา

สติปัฏฐาน ธรรมแห่งการตั้งสติ ๔
           ๑.   กายานุปัสสนา พิจารณากายในกาย
           ๒.   เวทนานุปัสสนา พิจารณาเวทนาในเวทนา
           ๓.   จิตตานุปัสสนา พิจารณาจิตในจิต
           ๔.   ธรรมมานุปัสสนา พิจารณาธรรมในธรรม

สัมมัปปธาน ธรรมตั้งความเพียรชอบ ๔
           ๑.   สังวรปธาน เพียรระวังบาปที่ยังไม่เกิด ไม่ให้เกิดขึ้น
           ๒.   ปหานปธาน เพียรละบาปที่เกิดขึ้นแล้ว
           ๓.   ภาวนาปธาน เพียรทำกุศลที่ยังไม่เกิดให้เกิดขึ้น
           ๔.   อนุรักขณาปธาน เพียรรักษากุศลที่เกิดขึ้นแล้วไว้ และเพิ่มเติมให้มากยิ่งขึ้นจนบริบูรณ์

อินทรีย์ ธรรมอันเป็นใหญ่ ๕
           ๑.   ศรัทธา
           ๒.   วิริยะ
           ๓.   สติ
          ๔.   สมาธิ
          ๕.   ปัญญา

พละ ธรรมอันเป็นกำลัง ๕
          ๑.   สัทธาพละ
          ๒.   วิริยะพละ
          ๓.   สติพละ
          ๔.   สมาธิพละ
          ๕.   ปัญญาพละ

โพชฌงค์ ธรรมอันเป็นตัวประกอบแห่งการตรัสรู้ ๗
          ๑.   สติ
          ๒.   ธัมมวิจยะ
          ๓.   วิริยะ
          ๔.   ปีติ
          ๕.   ปัสสัทธิ
          ๖.   สมาธิ
          ๗.   อุเบกขา

มรรค ข้อปฏิบัติให้ถึงความดับทุกข์ ๘
          ๑.  สัมมาทิฏฐิ
          ๒.  สัมมาสังกัปปะ
          ๓.   สัมมาวาจา
          ๔.   สัมมากัมมันตะ
          ๕.   สัมมาอาชีวะ
          ๖.   สัมมาวายามะ
          ๗.   สัมมาสติ
          ๘.   สัมมาสมาธิ


             เนื่องจากวันนี้เป็นวันพระราชสมภพครบ ๘๔ พรรษา ของในหลวง ผมจึงขอนำ "โพธิปักขิยธรรม"  ธรรมอันเป็นไปในฝ่ายแห่งการตรัสรู้ ๓๗ ประการ มาให้ทุกท่านได้นำไปใช้ปฏิบัติ สำหรับผู้ปฏิบัติธรรม ท่านต้องแทงตลอดในธรรมเหล่านี้ เพราะธรรมเหล่านี้จะเป็นตัวช่วยให้ท่านเอาชนะจิตของท่านได้ ถ้าไม่หลุดพ้นในชาตินี้ ท่านก็จะมีทุกน้อยลงแน่นอน ครับ

              สวัสดี  
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #4552 เมื่อ: 06 ธันวาคม 2554, 10:32:31 »

สถานการณ์น้ำวันนี้
 สถานการณ์น้ำ ประจำวันที่ 6 ธันวาคม 2554 (เวลา 09.00 น.)


น้ำเหนือ
 - ระดับน้ำเจ้าพระยาที่ อ.บางไทร 2.54 ม.รทก. (ลดลงจากเมื่อวาน 11 ซม.)
 
น้ำทะเลหนุนสูง
 - วันนี้เวลา 01.41 น. ระดับ +0.32 ม.รทก. และเวลา 13.20 น. ระดับ +0.99 ม.

ระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาตรวจวัดที่ปากคลองตลาด
 - ระดับน้ำสูงสุด เมื่อวานนี้ เวลา 13.00 น. ระดับ +1.77 ม.รทก. (ต่ำกว่าคันกั้นน้ำ 103 ซม.)
 - ระดับน้ำ เช้าวันนี้ เวลา 09.00 น. ระดับ +1.22 ม.รทก. (ต่ำกว่าคันกั้นน้ำ 158 ซม. น้ำกำลังขึ้น )
 - คาดการณ์จากกรมอุทกศาสตร์ วันนี้ เวลา 13.20 น. ระดับ +1.77 ม.รทก.
 
น้ำทุ่ง
 - พื้นที่ดอนเมือง (24 ชม.ที่ผ่านมา) ระดับน้ำลดลง 8 ซม.
 - ระดับน้ำคลองหกวาสายล่าง ที่ประตูระบายน้ำคลองสอง (24 ชม.ที่ผ่านมา) ระดับน้ำลดลง 2 ซม.
 - ฝั่งธนบุรี ระดับน้ำคลองมหาสวัสดิ์ ที่ประตูระบายน้ำคลองทวีวัฒนา (24 ชม.ที่ผ่านมา) ระดับน้ำลดลง 3 ซม.
 
ภาพรวมสถานการณ์ใน กทม. (24 ชั่วโมงที่ผ่านมา)
 
พื้นที่ฝั่งพระนคร ยังคงมีปัญหาน้ำท่วมขัง ในพื้นที่เขตดอนเมือง หลักสี่ สายไหม บางเขน คันนายาว คลองสามวา
 - คลองเปรมประชากร ระดับน้ำลดลง 3-5 ซม. แต่ช่วงดอนเมืองระดับน้ำยังสูง
 - คลองบางเขน ระดับน้ำลดลง 3-5 ซม.
 - คลองลาดพร้าว ระดับน้ำลดลง 2-5 ซม.
 - คลองแสนแสบ ระดับน้ำลดลง 1-3 ซม.
 - คลองประเวศน์บุรีรมย์ ระดับน้ำลดลง 1-2 ซม.
 
พื้นที่ฝั่งธนบุรี ยังคงมีปัญหาน้ำท่วมขัง ในพื้นที่เขต ทวีวัฒนา ตลิ่งชัน หนองแขม บางแค ภาษีเจริญ
 - คลองต่าง ๆ โดยทั่วไป ระดับน้ำลดลง 3-4 ซม.
 - เมื่อวันเสาร์ที่ 3 ธันวาคม เวลาประมาณ 13.30 น. เกิดเพลิงไหม้ที่สถานีสูบน้ำคลองชักพระ ทำให้ระบบไฟฟ้าเสียหาย ไม่สามารถเดินเครื่องสูบน้ำจำนวน 15 เครื่อง อยู่ระหว่างการดำเนินการแก้ไข คาดจะแล้วเสร็จใน 1-2 วันนี้ ซึ่งอาจส่งผลให้ระดับน้ำในพื้นที่ฝั่งธนบุรี ลดลงได้ช้ากว่าปกติ หรือบางพื้นที่ระดับน้ำอาจสูงขึ้นเล็กน้อย

      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #4553 เมื่อ: 06 ธันวาคม 2554, 10:33:34 »

อ้างถึง
ข้อความของ Manop  Klabdee เมื่อ 04 ธันวาคม 2554, 19:42:09
อ้างถึง
ข้อความของ Manop  Klabdee เมื่อ 03 ธันวาคม 2554, 12:38:25
              เรียนเชิญ ชาวซีมะโด่ง ทุกท่าน ร่วมทำบุญครบ ๕๐ วัน คุณฉันทนา  รวมเมฆ ที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย  วันอาทิตย์ที่ ๒๕ ธันวาคม ศกนี้

               กำหนดการ

                     08:30 น. พบกันที่บริเวณโบสถ์กลางน้ำ ไหว้พระ และท่านอาจารย์เผ่า  ดร.สุริยา ในฐานะผู้ออกแบบ จะพาชมโบสถ์กลางน้ำที่หลวงพ่อปัญญา  ได้สร้างเอาไว้ให้

                     10:00 น. พบกันที่หอฉัน ห้องพิธี ทำบุญ ๕๐ วัน คุณฉันทนา  รวมเมฆ ฟังพระสวดมนต์  ถวายปัจจัย พระให้พร กรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลไปให้ผู้เสียชีวิต คือคุณฉันทนา  รวมเมฆ

                     11:00 น. ถวายภัตตาหารเพล พระนิสิต ๑,๐๐๐ รูป

                     12:00 น. พระอธิการบดี เจ้าอาวาส แสดงปาฐกถาธรรม พระนิสิต ๑,๐๐๐ สวดมนต์ ให้พรพระ กรวดน้ำ

                     12:30 น. รับประทานอาหารกลางวัน ที่หอฉัน (ทางวัดจัดเตรียมเอาไว้ให้)


                                 ใครจะทำบุญ  ใครจะไปร่วมงาน เรียนเชิญลงชื่อด้วยครับ

                                  ถือว่าเราไปทำบุญเลี้ยงพระด้วยกัน เป็นการส่งท้ายปีเก่า สิ่งที่ไม่ดีต่างๆ ให้มันไหลไปกับน้ำที่ท้วมซึ่งผ่านไปแล้วครับ

                                  คุณน้องใหม่ อย่าลืมไปรับท่านอาจารย์สุพพัดดา  ด้วยนะครับ จักขอบพระคุณมาก ๆ

                                 สวัสดี



การทำบุญโดยการถวายภัตตาหาร แด่พระนิสิต ๑๐๐๐ รูป ที่กำลังศึกษาพระศาสนา เป็นมหาบุญ ครับ


               ขอเรียนเชิญ ทุกท่านร่วมทำบุญ ๕๐ วันการจากไปของ คุณฉันทนา  รวมเมฆ และร่วมถวายภัตตาหารเพลแด่พระสงฆ์ ร่วมกันเป็นเจ้าภาพ เลี้ยงพระนิสิต ๑๐๐๐ รูป เนื่องในเทศการปีใหม่ ครับ
               
               สวัสดี


               มูลเหุตที่คิดทำบุญ ๕๐ วัน ให้แดง เพราะพวกเราที่ไปร่วมงานตั้งใจจะร่วมทำบุญอุทิศให้แดง แต่ทางญาติงดรับซอง เลยปรารภกับพี่สิงห์ว่า งั้นเอาไว้นัดกันไปทำบุญให้แดงเมื่อครบ ๕๐ วัน จึงเป็นที่มาของงานวันอาทิตย์ที่ ๒๕ ธันวาคม ๒๕๕๔ ณ สถานที่ เวลา และ กำหนดการที่พี่สิงห์แจ้งไว้ ชาวซีมะโด่งที่มีความประสงค์จะร่วมทำบุญ สามารถโอนเงินเข้าบัญชี

                ชื่อบัญชี ชมรมนิสิตเก่าหอพักนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
                ธนาคารกสิกรไทย สาขาถนนวิทยุ เลขที่บัญชี 709-2-422245

                โอนแล้วกรุณา Fax ใบ Pay-in ไปยังคุณ กนกวรรณ (นก) ที่ 02 4363796 หรือโทรแจ้ง คุณนก ที่ 081 5845075

                รายชื่อ ผู้ที่จะเดินทางไปทำบุญ ๕๐ วันให้แดง ฉันทนา รวมเมฆ ณ มหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

                        ๑. อ. เผ่า
                        ๒. พี่สิงห์๋
                        ๓. พี่ป๋อง
                        ๔. พี่แต๋ง
                        ๕. แก้ว
                        ๖.
                        ๗.
                           ฯลฯ

                ขอเชิญชวนชาวหอไปร่วมทำบุญให้แดง กันค่ะ

                 Tang 16



 ดร.สุริยา รศ.ประกายแก้ว  สงสัยมีเพียงพวกเรา ๕ ท่าน เท่านี้แน่ๆ เอาอย่างไรดี จะจัดหรือไม่จัดดี ตอบด้วย
[/quote]
              เรียนเชิญทุกท่านทำบุญด้วยกันครับ

              สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #4554 เมื่อ: 06 ธันวาคม 2554, 10:44:17 »

สวัสดีครับ ชาวซีมะโด่ง ที่รักทุกท่าน

              สำหรับข่าวคราวน้ำท้วม ช่วงนี้คงเบาบางลงไป เพราะอย่างเช่นที่สิงห์บุรี ระดับน้ำเหลือเพียงหนึ่งในสี่ของความลึกของแม่น้ำเจ้าพระยาเอง เมื่อระดับน้ำต่ำ ตอนนี้ปลาสร้อย จึงขึ้นชุกชุมมากในแม่น้ำเจ้าพระยา และปลาก็แยะด้วย ทำให้เทศการกินปลาปีนี้ของสิงห์บุรีในช่วงปีใหม่ คึกคัก แต่สำหรับประชาชนที่ถุกน้ำท้วมทั่วไป ต้องรีบทำงานหาเงินมาซ่อมบ้าน ครับ โดยรวมสภาพต้นไม้ที่ถูกน้ำท้วมนานสามเดือนตายเกือบหมดครับ บ้านพี่สาวมะม่วงตายเกือบหมด ต้องหาพันธุ์ มาปลูกใหม่ทดแทน ดอกไม้ พืชล้มลุกแม้กระทั่งหญ้า ตายเรียบวุธ ต้องรอการเกิดขึ้นมาใหม่โดยธรรมชาติ ต้องใช้ระยะเวลา มองไปทางไหนจะมีแต่ซากต้นไม้ตาย ไม่หน้ามองเลย

              วันนี้โรงเรียนเปิดเป็นปกติ ยกเว้นเขตสายไหม ทวีวัฒนา และอีกหลายเขตที่ยังมีน้ำท้วมขังอยู่ อดใจรอครับคิดเสียว่าวันนี้มันไม่แห้งพรุ่งนี้ มะรืนนี้มันก็แห้งไปเองครับ แต่ในช่วงที่เข้าได้เข้าเข็ม คือกำลังจะแห้งนี่ละครับลำบากมากเพราะมันจะเต็มไปด้วยโคลน ครับ

              ปีใหม่นี้สำหรับทุกท่านที่น้ำท้วมบ้านแบบผม คงไม่มีงบประมาณเหลือไป เที่ยวช่วงปีใหม่ เพราะต้องจัดเตรียมเงินส่วนหนึ่งที่จะต้องซ่อมบ้าน ไม่มากก็น้อย ทุกบ้านไม่ยกเว้นครับ ถึงไปเที่ยวก็หมดสนุก ปฏิบัติธรรมดีกว่า เพื่อให้ใจมันปล่อยวาง ครับ

              สวัสดีครับ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #4555 เมื่อ: 06 ธันวาคม 2554, 11:03:09 »

รู้ประวัติพุทธสาวก อรหันต์ เอตทัคคะ

ลำดับที่ ๓๗

พระรัฐบาลเถระ

เอตทัคคะในทางผู้บวชด้วยศรัทธา



               พระรัฐบาล เป็นบุตรของเศรษฐีผู้ชื่อว่ารัฐบาลเหมือนกัน และรัฐบาลเศรษฐีผู้เป็นบิดาของท่านเป็นหัวหน้าหมู่บ้านถุลลโกฏฐิตนิคม ในแคว้นกุรุ

                 สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเสด็จจาริกไปสู่แคว้นกุรุ พร้อมด้วยภิกษุสงฆ์ สาวกเป็นบริวาร ประทับอยู่ที่ถุลลโฏฐิตนิคมนั้น ขณะนั้น ชาวบ้านซึ่งประกอบด้วยพราหมณ์และคฤหบดีจำนวนมาก ได้ทราบข่าวการเสด็จมาก็พากันไปเฝ้าพระบรมศาสดา และมีชายหนุ่มชื่อรัฐบาลไปด้วย ได้ถวายบังคมแล้วนั่งในที่อันสมควรแก่ตน ส่วนบรรดาชนอื่น ๆ เหล่านั้น บางพวกถวายบังคม บางพวกได้แต่พูดจาปราศรัย บางพวกเพียงแต่ประนมมือไหว้ และบางพวกก็ประกาศชื่อโคตรของตน พระพุทธองค์ทรงแสดงพระธรรมเทศนาโปรดชาวบ้านทั้งหลายเหล่านั้น ให้เกิดความเลื่อมใสทั่วกัน ครั้นจบพระธรรมเทศนา ประชาชนทั้งหลายพากันกราบทูลลากลับสู่บ้านของตน ๆ ส่วนนายรัฐบาลนั้นเกิดศรัทธาเลื่อมใสอย่างแรงกล้า เมื่อประชาชนกลับกันหมดแล้ว จึงได้เข้าเฝ้าพระผู้มีพระภาคกราบทูลขออุปสมบท แต่พระพุทธองค์รับสั่งให้กลับไปขออนุญาตจากบิดามารดาก่อน

       •   บวชด้วยศรัทธาแรงกล้า

              นายรัฐบาล เมื่อได้ฟังพุทธดำรัสแล้ว รีบกลับไปบ้านแล้วเข้าไปหาบิดามารดา กล่าวขออนุญาตบวช แต่ไม่ได้รับอนุญาตจึงเกิดความผิดหวังเสียไม่ยอมรับประทานอาหาร บอกกับบิดามารดาว่า “ถ้าไม่ได้บวชก็จะขอยอมตาย” บิดามารดาเห็นลูกชายทำจริงก็เกรงว่าลูกชายจะตายจึงได้ไปขอร้องเพื่อนสนิทของลูกชายให้มาช่วยพูดอ้อนวอน เพื่อให้เลิกล้มความตั้งใจแต่ก็ไม่เป็นผล ในที่สุดก็ได้รับคำแนะนำจากเพื่อนของลูกชายว่า “ถ้าไม่ยอมให้ลูกชายบวช ลูกอาจจะตายจริง ๆ แต่ถ้าลูกได้บวชเราก็ยังจะได้เห็นลูกบ้างในบางโอกาสหรือเมื่อลูกบวชแล้วได้รับความลำบากเบื่อหน่ายก็จะสึกออกมาภายหลังก็ได้” เมื่อได้รับคำแนะนำดังนี้แล้ว ก็เห็นดีด้วย จึงบอกแก่ลูกชายว่า “พ่อแม่อนุญาตแล้ว ขอให้เจ้าบวชได้ตามความปรารถนาเถิด” นายรัฐบาล ดีใจมากรีบลุกขึ้นอาบน้ำและรับประทานอาหารมีเรี่ยวแรงดีแล้ว ไปเข้าเฝ้าพระผู้มีพระภาค กราบทูลให้ทราบว่าได้รับอนุญาตจากบิดามารดาแล้ว พระพุทธองค์ประทานการอุปสมบทให้เป็นพระภิกษุ ในพระพุทธศาสนาตามประสงค์ครั้นบวชแล้วท่านเศรษฐีผู้เป็นบิดารู้สึกเศร้าโศกเสียดายลูกชาย และรู้สึกโกรธเคืองพระภิกษุสงฆ์ต้นเหตุให้เสียลูกชาย ยามใดได้พบพระภิกษุสงฆ์ จะต้องตัดพ้อต่อว่าด้วยคำว่า “เราไม่ ต้องการที่จะพบเห็นพวกท่านเลย เพราะเรามีลูกชายอยู่คนเดียวเท่านั้น พวกท่านก็มาพาเอาไปบวชเสียอีก ทำให้ตระกูลของเราต้องขาดทายาทสืบตระกูล”

        • บิดามารดาอ้อนวอนให้สึก

              พระรัฐบาล เมื่อบวชแล้ว ได้ติดตามเสด็จพระบรมศาสดา ไปที่เมืองสาวัตถี ทำความเพียรเจริญวิปัสสนากรรมฐานด้วยความไม่ประมาท ชั่วระยะเวลาไม่นานก็ได้สำเร็จพระอรหัตผล เป็นพระอริยบุคคล สิ้นกิเลสาสวะทั้งปวง จากนั้นท่านได้กราบทูลลาพระบรมศาสดาไปสู่ถุลลโกฏฐิตนิคม อันเป็นตำบลบ้านเกิดของท่าน ได้เข้าไปพักที่สวนมิคจิรวัน อันเป็นพระราชอุทยานของพระเจ้าโกรัพยะ พอรุ่งเช้าได้เข้าไปบิณฑบาตในหมู่บ้าง แต่ไม่มีผู้ใดใส่บาตรแก่ท่านเลย ท่านเดินไปเรื่อย ๆ ตามลำดับจนมาถึงบ้านบิดามารดาของท่านเอง ท่านเห็นนางทาสีเดินถือถาดขนมบูดออกมา จึงถามว่า “จะนำไปไหน ?” นางทาสีตอบว่า “จะนำขนมบูดไปทิ้ง” ท่านจึงบอก “ให้ทิ้งลงในบาตรของท่าน”นางทาสีจำท่านได้ จึงรีบกลับไปบอกเศรษฐี บิดามารดาของท่านพอได้ทราบก็ดีใจสุดประมาณ รีบออกจากบ้าน ติดตามไปพบท่านนั่งพิงฝาเรือนคนอื่นกำลังฉันภัตตาหารคือขนมบูดอยู่ จึงนิมนต์ให้ท่านไปฉันในบ้าน ท่านตอบว่า “วันนี้ฉันแล้ว” จึงนิมนต์ให้ท่านไปฉันในวันรุ่งขึ้น และท่านรับนิมนต์

               ครั้นวันรุ่งขึ้น ท่านเข้าไปฉันภัตตาหารในบ้านของเศรษฐี บิดามารดาได้ถวายอาหารอันประณีตแก่ท่านแล้ว นำทรัพย์สมบัติของมีค่าออกมาแสดงให้ท่านเห็นแล้ว ช่วยกันพูดอ้อนวอนให้ท่านสึกออกมาครอบครองทรัพย์สมบัติเหล่านี้ แต่ท่านก็ปฏิเสธอย่างไม่มีอาลัย เมื่อฉันเสร็จแล้วก็กล่าวอนุโมทนาและกลับสู่สวนมิคจิรวันที่พักตามเดิม

             • แสดงธรรมเทศแด่พระเจ้าโกรัพยะ

               วันหนึ่งพระเจ้าโกรัพยะ เสด็จประพาสราชอุทยาน ทอดพระเนตรเห็นพระรัฐบาลแล้ว ทรงจำได้เพราะเคยรู้จักท่านและตระกูลของท่านเป็นอย่างดีมาก่อน จึงเสด็จเข้าไปหาทักทายสนทนาด้วยแล้วประทับนั่ง ณ ที่อันสมควร พลางตรัสถามว่า:- “ข้าแต่พระคุณเจ้าผู้จริญ ความเสื่อม ๔ ประการที่บุคคลบางพวกประสบเข้าแล้ว จึงออกบวช ได้แก่:-

               ๑. ความแก่ชรา
               ๒. ความเจ็บป่วย
               ๓. ความสิ้นโภคทรัพย์
               ๔. ความสิ้นญาติพี่น้อง

               ก็ความเสื่อมทั้ง ๔ ประการเหล่านี้ ไม่มีแก่ท่านเลย ท่านได้ฟัง ได้รู้ ได้เห็น หรือมีความจำเป็นอย่างไรจึงออกบวช ?” พระรัฐบาลเถระ ได้ถวายพระพรว่า:- มหาบพิตร อาตมาได้ฟังธรรมมุทเทศ ๔ ประการ จากพระบรมศาสดาจึงออกบวช ธรรมุทเทศ ๔ ประการนั้น คือ :-

               ๑. โลกคือหมู่สัตว์ อันชราเป็นผู้นำ นำเข้าไปใกล้ไม่ยั่งยืน
               ๒. โลกคือหมู่สัตว์ ไม่มีผู้ป้องกัน ไม่เป็นใหญ่เฉพาะตน
               ๓. โลกคือหมู่สัตว์ ไม่มีอะไรเป็นของตน จำต้องละสิ่งทั้งปวงไป
               ๔. โลกคือหมู่สัตว์ พร่องอยู่เป็นนิตย์ ไม่รู้จักอิ่ม เป็นทาสแห่งตัณหา

                พระเจ้าโกรัพยะ ได้สดับพระธรรมเทศนาชื่อธรรมุทเทศของพระบรมศาสนาที่พระรัฐบาลแสดงให้พระองค์สดับแล้ว เกิดศรัทธาเลื่อมใส จึงตรัสสรรเสริญว่า “พระธรรมเทศนานี่น่าอัศจรรย์” และตรัสอนุโมทนาแล้วเสด็จกลับสู่พระราชนิเวศน์

            • ได้รับยกย่องในตำแหน่งเอตทัคคะ

               พระรัฐบาล นั้น นับว่าท่านเป็นพุทธสาวกที่บวชด้วยศรัทธาอย่างจริงใจ ถึงกับบอกแก่บิดามารดาว่า “ขอยอมตายถ้าไม่ได้บวช” จนกระทั่งบิดามารดาต้องยินยอม เพราะเหตุนี้พระบรมศาสดา จึงทรงยกย่องท่านในตำแหน่งเอตทัคคะเป็นผู้เลิศกว่าภิกษุทั้งหลาย ในทางผู้บวชศรัทธา

               ท่านดำรงอายุสังขาร ช่วยเหลือกิจการพระศาสนาควรแก่กาลเวลาแล้วก็ดับขันธปรินิพพาน
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #4556 เมื่อ: 06 ธันวาคม 2554, 13:56:24 »

ข้อคิดสำหรับนักปฏิบัติธรรม

              - การปฏิบัติธรรม นั้น ก่อนอื่นผู้ปฏิบัติธรรม ควรรักษาศีล ๕ หรือศีล ๘ ได้ยิ่งดี จะได้ไม่เป็นภาระเรื่องอาหารมื้อเย็น การรักษาศีลนั้น จะทำให้เราห่างไกลกิเลส และเป็นการรักษา กาย วาจา ใจ ให้สุจริตอยู่เป็นนิจ เพระพุทธองค์ทรงเน้นอยู่เสมอ คือ การสำรวมอินทรีย์อยู่เป็นนิจ จากตาที่เห็นรูป หูได้ยินเสียง จมูกได้ดมกลิ่น ลิ้นได้ลิ้มลอง กายได้สัมผัส และควบคุมจิตไม่ให้คิดนอกอิริยาบถ ดังนั้น การรักษาศีล ๕ หรือศีล ๘ จะช่วยให้ใจเรามีข้อปฏิบัติคอยควบคุม จนเราสามารถที่จะสำรวมอินทรีย์ได้ ตามที่พระพุทธองค์ทรงสั่งสอน

               - การปฏิบัติธรรม นั้น ต้องกระทำ ตลอดวัน ๒๔ ชั่วโมง รักษาจิต ไม่ให้ปรุงแต่ง ไม่ให้นึกคิดนอกอิริยาบถ ต้องมีความรู้สึกตัวตลอดเวลา ไม่เผลอ ไม่ก่อภวังค์ไปตามจิตที่นึกคิด มีใจจดจ่ออยู่ที่อิริยาบถหลักและอิริยาบถย่อย ตลอดเวลา

               - การปฏิบัติธรรมนั้น ต้องทำให้ตลอดไป ไม่ใช่ปฏิบัติธรรมเป็นพักๆ แล้วก็ไปผิดศีล ปล่อยกาย ปล่อยใจ ในสิ่งที่ตนเองปราถนา หรือประพฤติผิดมหันต์ แล้วจะกลับมาปฏิบัติธรรมให้มีความก้าวหน้านั้น มันอยาก เท่ากับเราเสียเวลาในการปฏิบัติที่ผ่านมาไปเปล่าๆ หมายความว่า เปรียบเหมือนคนขึ้นต้นไม้ ยังไม่ถึงยอดก็ลงมาสู่พื้นเสียแล้ว ดังนั้น ถ้าจะขึ้นให้ถึงยอด ก็ต้องเริ่มต้นขึ้นใหม่อีกครั้ง การปฏิบัติธรรม มันก็เป็นเช่นนั้น เราเลิกไป หรือผิดศีลไปตามความใคร่ กว่าจะปฏิับติธรรม ให้ใจปล่อยวางเหมือนเดิมได้นั้น มันต้องใช้เวลาอย่างมากจริงๆ เพราะจิตมันกลับไปอยู่ดั่งเดิมที่หลงระเริงอย่างเดิมเสียแล้ว  จิตมันลืมอารมณ์ที่เกิดขึ้นจากการปฏิบัติธรรม ลืมความสุขที่แท้จริงจากความสงบ จึงเท่ากับเริ่มต้นใหม่ ต่อไม่ติด ปัญญาไม่เกิด
                 ดังนั้น โพธิปักขิยธรรม ๓๗ ประการ มันจึงเป็นตัวช่วย ตัวกระตุ่น ให้เราต้องใช้ความวิริยะ และปัญญา เอามาชนะในสิ่งที่อาจพลั้งเผลอ เพื่อให้สามารถพ้นทุกข์ไปได้ หรือทุกข์น้อยลง ครับ

                 ปีใหม่ หรือปลายเดือน นี้ ตั้งใจ จะหาเวลาปฏิบัติธรรม สัก ๗ วัน เพื่อซ่อมแซมจิตตัวเองครั้งใหญ่ ยังไม่ได้กำหนดว่าจะไปที่ไหนดี ทางเลือกที่ดีคือ วัดป่าสุคะโต เพราะมีอาหาร สภาพแวดล้อมที่ดี ครับ

                 สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #4557 เมื่อ: 06 ธันวาคม 2554, 16:02:28 »

ซอยแอนเน็กซ์ เขตสายไหม น้ำแห้งแล้ว

วันอังคารที่ 06 ธันวาคม 2011 เวลา 12:42 น. กองประชาสัมพันธ์ กทม.


               ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยสถานการณ์น้ำภาพรวมดีขึ้นตามลำดับ ถนนสายหลักบางสายยังมีน้ำท่วมขัง คาดจะระบายได้หมดใน 2 – 3 วันนี้ ส่วนซอยแอนเน็กซ์ เขตสายไหม กทม.ได้ดำเนินการโดยใช้เครื่องสูบน้ำ 2 เครื่องระบายน้ำจนแห้งแล้ว ซึ่งจะส่งผลให้ถนนพหลโยธินสามารถระบายน้ำได้ดีขึ้น คาดว่าบริเวณหมู่บ้านและพื้นที่โดยรอบน้ำจะแห้งทั้งหมดภายในวันนี้ จากนั้น กทม.จะเข้าไปทำความสะอาดใหญ่ต่อไป
 
               ในส่วนของกรุงเทพตะวันตก ด้านถนนบรมราชชนนี เขตบางแค เขตทวีวัฒนา ยังคงมีน้ำท่วมผิวการจราจรอยู่ และที่หมู่บ้านเศรษฐกิจ เขตบางแค สถานการณ์น้ำเริ่มดีขึ้น น้ำแห้งแล้วในบางจุด ซึ่ง กทม.จะเร่งบล็อคน้ำเพื่อระบายออกเป็นพื้นที่ๆ ไปจนสุดซอย

               เมื่อวันที่ 4 ธ.ค. ที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้ที่สถานีสูบน้ำคลองชักพระ ส่งผลกระทบให้คลองต่างๆ ในด้านตะวันตกมีน้ำสูงขึ้น ขณะนี้ กทม.ได้ดำเนินการซ่อมแซมเกือบทั้งหมดแล้ว คาดว่าจะเข้าสู่สถานการณ์ปกติในวันพรุ่งนี้ (7 ธ.ค.54)
แก้ไขล่าสุด ใน วันอังคารที่ 06 ธันวาคม 2011 เวลา 15:45 น.   


วันอังคารที่ 06 ธันวาคม 2011 เวลา 12:42 น. กองประชาสัมพันธ์ กทม.

เปิดบานประตูระบายน้ำฝั่งตะวันออกเพิ่ม

 
เนื่องจากสถานการณ์น้ำด้านเหนือฝั่งตะวันออกดีขึ้น กทม.จะเพิ่มความสูงของประตูระบายน้ำอีก 20 ซม. ที่ประตูระบายน้ำคลองแสนแสบ - มีนบุรี จาก 1.50 เมตร เป็น 1.70 เมตร ประตูระบายน้ำลำบึงขวาง จาก 1.40 เมตร เป็น 1.60 เมตร ประตูระบายน้ำลาดกระบังจาก 1.20 เมตร เป็น 1.40 เมตร เพื่อช่วยเร่งระบายน้ำบริเวณลำลูกกา และคลองหกวาสายล่าง ใน จ.ปทุมธานี
 แก้ไขล่าสุด ใน วันอังคารที่ 06 ธันวาคม 2011 เวลา 15:46 น. 

เช่ารถเก็บขนขยะเพิ่มด่วน

วันอังคารที่ 06 ธันวาคม 2011 เวลา 12:41 น. กองประชาสัมพันธ์ กทม.


ช่วงที่ผ่านมา กทม.เก็บขยะได้เพิ่มขึ้น เป็น 11,600 ตัน/วัน แต่ยังมีขยะตกค้างค่อนข้างมาก ที่ประชุมคณะกรรมการสถานการณ์น้ำและการแก้ไขในพื้นที่กรุงเทพมหานคร มีมติให้เช่ารถเก็บขยะเพิ่มขึ้น เพื่อเร่งจัดเก็บขยะและรถตักที่ตกค้างให้ลดลงโดยเร็วติดตาม
 แก้ไขล่าสุด ใน วันอังคารที่ 06 ธันวาคม 2011 เวลา 15:46 น. 

เฝ้าระวังโรคไข้เลือดออก

วันอังคารที่ 06 ธันวาคม 2011 เวลา 12:40 น. กองประชาสัมพันธ์ กทม.


                 กทม.ได้ดำเนินการฉีดพ่นหมอกควันกำจัดยุงในพื้นที่ทุกวัน หมุนเวียนวันละ 2 เขต พร้อมแจกจ่ายน้ำจุลินทรีย์และทรายอะเบทให้แก่ประชาชน เพื่อกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุง อย่างไรก็ตาม การฉีดยุงเป็นการทำลายตัวแก่ยุงรำคาญเท่านั้น ยังต้องเฝ้าระวังยุงลายซึ่งเป็นพาหะนำโรคของไข้เลือดออก และฝากไปยังนักเรียนของโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร แจ้งผู้ปกครองให้ช่วยกันทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ยุงโดยการเทภาชนะที่มีน้ำขัง ส่วนสถานการณ์โรคระบาดไม่พบโรคไข้เลือดออก เนื่องจากสถิติปี 2554 ตั้งแต่เดือนมกราคม ถึง พฤศจิกายน พบผู้ป่วยโรคไข้เลือดออก จำนวน 9,285 ราย แต่ในช่วงเวลาเดียวกันของปี 2553 พบผู้ป่วยจำนวน 11,110 ราย

                 ด้านการดูแลสุขภาพและเยียวยาจิตใจผู้ประสบภัยในช่วงน้ำท่วม พบผู้ป่วยมีภาวะเครียด 1,849 ราย ผู้ป่วยโรคซึมเศร้า 152 ราย ผู้ป่วยที่มีแนวโน้มฆ่าตัวตาย 34 ราย และให้คำปรึกษาด้านสุขภาพจิต 21,928 ราย นอกจากนี้ ยังจัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ออกให้บริการประชาชนกว่า 20,000 ราย โดยโรคที่พบมาก คือ โรคทางเดินหายใจ ผื่นคัน สำหรับช่วงน้ำท่วมมีโรคติดต่อที่สำคัญและพบผู้ป่วยมากที่สุด คือ โรคไข้หวัดใหญ่ โรคอุจจาระร่วง

                 นอกจากนี้ กทม.ได้แจกจ่ายภัณฑ์และให้การดูแลสุขภาพประชาชนแล้วทั้งสิ้น 1,540,200 ราย พร้อมทั้งให้การดูแลสุนัขและแมวที่ประชาชนนำมาฝากเลี้ยง ณ ศูนย์พักพิงสัตว์ดินแดง และศูนย์พักพิงสัตว์ประเวศ ทั้งสิ้น 510 ตัว โดยมีเจ้าของมารับสัตว์เลี้ยงคืนแล้ว 168 ตัว และยังมีสัตว์เลี้ยงที่เจ้าของยังไม่มารับคืนอีก 342 ตัว จึงขอให้เจ้าของสัตว์เลี้ยงมาติดต่อรับสัตว์เลี้ยงคืนจากศูนย์พักพิงดังกล่าวด้วย
แก้ไขล่าสุด ใน วันอังคารที่ 06 ธันวาคม 2011 เวลา 15:47 น.

      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #4558 เมื่อ: 06 ธันวาคม 2554, 20:46:24 »

สวัสดียามค่ำครับ ชาวซีมะโด่ง ที่รักทุกท่าน

               - ขอรายงานผลการแข่งขันว่าบ้านใครน้ำจะลดลงสามารถเข้าบ้านได้ก่อนกัน ระหว่าง ดร.สุริยา  ณ ดอนเมือง กับอาจารย์ถาวร  โชติชื่น ณ วัดสนามใน ฝั่งธนบุรี ค่ำนี้ อาจารย์ถาวร บอกว่า ได้เข้าบ้านมาเป็นอาทิตย์แล้ว ส่วน ดร.สุริยา นั้น ผมผ่านมาเมื่อวันจันทร์ รถยังผ่านไม่ได้ เป็นไปตามที่ผมได้คาดหมายเอาไว้ ดอนเมืองเป็นพื้นที่แรกที่ถูกน้ำท้วม ของ กทม. ด้านทิศเหนือ และจะเป็นจุดสุดท้ายที่น้ำจะแห้ง เพราะเขตสายไหมแห้งหมดแล้ว

               - อาจารย์ถาวรกำลังอยู่ในช่วงเจรจา กับบริษัท ทำความสะอาดให้กับ ปตท. คิดหลังละหมื่อนสี่พันบาท ได้โทรศัพท์มาปรึกษา กับผม เท่าที่ทราบ ทำความสะอาดอย่างเดียวประมาณ ๕๐๐๐ บาท แต่ถ้าเก็บขยะ ยก-ย้ายของ หมื่นกว่าบาทนิดๆ ครับ และอาจารย์ถาวร บอกว่าปาเก้ได้รื้อออกหมดแล้ว กำลังจะทำพื้นใหม่ ผมก็ได้แนะนำไปให้แล้ว ครับ

                - น้องๆ ที่ตั้งใจไปช่วยอาจารย์ถาวร  เลยไม่มีโอกาส  อาจารย์ถาวร คงคิดแบบผม คือ เกรงใจในความเอื้ออารีย์ของพวกเราครับ ไม่มีอะไรมากไปกว่านี้

                - วันนี้ผมนั่งอ่านประวัติ พระมหากัสสปเถระ อย่างละเอียดอีกครั้งครับ เพื่อเตือนตัวเอง ไม่ให้ประมาท ที่จะต้องเร่งทำความเพียร ต่อไป เอาชนะมาร(ตัณหา)ต่างๆ ให้ได้ นั่นละสุขที่ยั่งยืนจริงๆ ไม่ใช่สุขจอมปลอมที่ประสพอยู่ทุกวันนี้

                - พรุ่งนี้เป็นวันดีเสียที ที่จะได้ทำครอบฟันให้เสร็จ ฟันซี่เดียวเสียเวลากับมันเกือบครึ่งปีครับ ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร มันก็ผ่านไปหมดแล้ว

                - ดร.สุริยา  รศ.ประกายแก้ว  ถ้ามีรายชื่อเพียงเท่าที่เห็น ผมว่าเรางดดีกว่า ผมทำบุญ ใส่บาตรพระ ก็อุทิศส่วนกุศลให้น้องแดง อยู่แล้ว เราเหมารวมเอาไปทำบุญหอเลยดีกว่าไหม ครับ ตอบด้วย

                  ราตรีสวัสดิ์ทุกท่านครับ
      บันทึกการเข้า
suriya2513
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,457

« ตอบ #4559 เมื่อ: 06 ธันวาคม 2554, 21:03:51 »

ผมขอมอบให้ รศ.ประกายแก้ว ตอบแทนครับ
      บันทึกการเข้า

[โบราณคดี]จุดกำเนิดเริ่มต้นของ cmadong.com by : มานพ กลับดี  คลิ๊ก->
khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #4560 เมื่อ: 06 ธันวาคม 2554, 23:27:02 »

อ้างถึง
ข้อความของ Manop  Klabdee เมื่อ 06 ธันวาคม 2554, 20:46:24
สวัสดียามค่ำครับ ชาวซีมะโด่ง ที่รักทุกท่าน

               - ขอรายงานผลการแข่งขันว่าบ้านใครน้ำจะลดลงสามารถเข้าบ้านได้ก่อนกัน ระหว่าง ดร.สุริยา  ณ ดอนเมือง กับอาจารย์ถาวร  โชติชื่น ณ วัดสนามใน ฝั่งธนบุรี ค่ำนี้ อาจารย์ถาวร บอกว่า ได้เข้าบ้านมาเป็นอาทิตย์แล้ว ส่วน ดร.สุริยา นั้น ผมผ่านมาเมื่อวันจันทร์ รถยังผ่านไม่ได้ เป็นไปตามที่ผมได้คาดหมายเอาไว้ ดอนเมืองเป็นพื้นที่แรกที่ถูกน้ำท้วม ของ กทม. ด้านทิศเหนือ และจะเป็นจุดสุดท้ายที่น้ำจะแห้ง เพราะเขตสายไหมแห้งหมดแล้ว

             
                             ราตรีสวัสดิ์ทุกท่านครับ



ตกลงว่าบ้านพี่ป๋องยังท่วมไช่มั้ยคะ?
ล้างบ้านหลังสุด?
ชาวคณะต้องยกทัพมั้ยพี่?
ไปช่วยล้าง..ขัดถู...ปัดกวาดโคลน

อาหารคาว-หวาน ยินแว๊บๆจากห้อง13
ว่าอาจได้ส่งตรงจากหนองบัวลำภูค่า..
      บันทึกการเข้า


suriya2513
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,457

« ตอบ #4561 เมื่อ: 07 ธันวาคม 2554, 00:45:20 »

หลานข้างบ้านเขามาล้างให้เรียบร้อยแล้ว แต่พี่ป๋องยังเดินทางเข้าไปไม่ได้
อีกสัก 10 วันคงขับรถเข้าไปได้ครับ
      บันทึกการเข้า

[โบราณคดี]จุดกำเนิดเริ่มต้นของ cmadong.com by : มานพ กลับดี  คลิ๊ก->
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #4562 เมื่อ: 07 ธันวาคม 2554, 05:53:38 »

อรุณสวัสดิ์ครับ ชาวซีมะโด่ง ที่รักทุกท่าน

               อากาศ กทม.เย็นสบายดีในช่วงนี้ครับ เหมาะที่ทุกท่านจะตื่นเช้ามาเจริญสติให้ยิ่งๆ ขึ้นไปครับ ผมเองก็พยายามปฏิบัติให้ได้ทุกวัน วันนี้อยู่บ้านไม่มีกิจจะไปไหนในช่วงเช้า เจริญสติเสร็จ ก็อาบน้ำ หุงข้าวเตรียมใส่บาตรพระ-เณร เดินจงกรมออกกำลังกายยามเช้า เดินไปซื้อกับข้าวมาใส่บาตร และรับประทานเป็นอาหารเช้า-กลางวัน

               ทีแรกตั้งใจจะเขียนเรื่องคุณสมบัติของพระโสดาบันให้ทุกท่านได้ทราบ พอดีมีเวลาน้อยขอย่อๆ ไปก่อน

               คุณสมบัติที่เป็นเกณฑ์ในการพิจารณาความป็นโสดาบันคือ ประกอบด้วย ศรัทธา ศีล สุตะ  จาคะ และปัญญา และนอกจากนี้ ยังมีคุณสมบัติที่จะต้องละสังโยชน์ หรือละกิเลสที่ผูกมัดจิต ๓ อย่างให้ได้คือ สักกายทิฏฐิ วิจิกิจฉา และสีลัพพตปรามาส

               ขออนุญาติไป กระทำกิจที่พึงทำสำหรับเช้านี้

               อย่าลืมเช้านี้ทำจิตให้ผ่องใส ด้วยการมีจิตอยู่กับอิริยาบถหลัก และอิริยาบถย่อย คือไม่ส่งจิตออกนอก หรือคิดนอกการกระทำของกาย-ใจ ณ ปัจจุบัน นั่นเอง สร้างความรู้สึกตัวอันนี้เข้าไว้ จิตท่านก็จะผ่องใส เป็นสุข ไม่ทุกข์ แล้วครับ

               สวัสดี
               
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #4563 เมื่อ: 07 ธันวาคม 2554, 17:21:01 »

"อานนท์"แจงกมธ.งบฯเหลือน้ำขังในฝั่งตะวันตก พื้นที่ 1 ล้านไร่ ชี้ระบบระบายน้ำห่วย เล็งปรับโครงสร้างใหม่รับมืออนาคต
วันที่ 07 ธันวาคม พ.ศ. 2554 เวลา 15:59:28 น.

 
ที่รัฐสภา มีการประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2555 ในส่วนของสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (สทอภ.) สังกัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี วงเงินงบประมาณจำนวน 324,200,700 บาท โดยมีนายอานนท์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ สทอภ.มาชี้แจงถึงการบริหารจัดการน้ำในช่วงวิกฤตน้ำท่วม

นายอานนท์ กล่าวว่า มวลน้ำล่าสุดโดยประมาณเมื่อ 1-2 วันที่ผ่านมาพบว่ามีน้ำคงค้างทั้งหมดตั้งแต่ภาคกลางตอนบนจนถึงกทม.ประมาณ 8,000 ล้าน ลบ.ม. โดยครึ่งหนึ่งค้างอยู่ในทุ่งที่ต้องเก็บไว้ในการทำการเกษตร และอีกส่วนไหลลงมาตามลำคลองในระบบ ดังนั้น น้ำเหล่านี้จะไม่ใช่น้ำที่หลากเข้ามา ซึ่งน้ำที่จะหลากเข้ามานั้นแทบจะไม่มีแล้ว ในการคำนวณมวลน้ำใช้ภาพถ่ายดาวเทียมเป็นหลักและคาดการณ์ความลึกของน้ำจากสถานีวัดระดับน้ำของกรมชลประทาน ยอมรับว่าอาจมีความผิดพลาดบ้างและเราได้รับบทเรียนจากการทำงานในครั้งนี้ ซึ่งได้มีการพูดคุยกับกรมทรัพยากรน้ำ กรมชลประทาน เพื่อให้ในปี 2555 มีการทำงานร่วมกันเพื่อให้มีการประเมินได้ดีขึ้น

นายอานนท์ กล่าวว่า ล่าสุด ตอนนี้น้ำส่วนใหญ่ในฝั่งตะวันออกของ กทม.ลดลงเกือบทั้งหมดแล้ว และเมื่อวันที่ 12 พ.ย.ที่ผ่านมาเรามีพื้นที่น้ำท่วม 2.7 ล้านไร่ แต่ตอนนี้เหลือเพียงประมาณ 1 ล้านไร่ เท่ากับว่าผ่านไปประมาณ 1 เดือนสามารถลดปริมาณน้ำออกไปได้เป็นจำนวนมาก และ 1 ล้านไร่ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่นาและทุ่งโดยเฉพาะฝั่งตะวันตก ด้านฝั่งตะวันออกเหลือพื้นที่น้ำท่วมน้อยมากแล้วเพราะสามารถระบายน้ำออกทางแม่น้ำบางปะกงได้เร็วกว่าที่คาดการณ์เอาไว้ และเลี้ยงน้ำไม่ให้เข้ามาในพื้นที่ลาดกระบังและสนามบินสุวรรณภูมิ

"คาดว่าในระยะยาว ดังนั้น ทางคณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อวางระบบการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ (กยน.) ต้องมีการจัดวางโครงสร้างการจัดการทำในพื้นที่ฝั่งตะวันตกและตะวันออกใหม่ และคาดว่าในระยะยาวหลังจากเหตุการณ์น้ำท่วมได้คลี่คลายแล้วจะทำให้เกิดกรณีที่ประชาชนจำนวนมากต่างคนต่างสร้างพนังกั้นน้ำและถมที่ดินให้สูงขึ้นเพื่อป้องกันน้ำท่วม ซึ่งในส่วนนี้ กยน.กำลังจะมีมาตรการระยะเร่งด่วนเพื่อให้การดำเนินการที่มีมาตรฐานเพื่อมากำหนดหลักเกณฑ์ในการดำเนินการโดยจะยึดตาม พ.ร.บ.สิ่งแวดล้อมเป็นหลัก" นายอานนท์กล่าว


 
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1323247196&grpid=00&catid=&subcatid=
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #4564 เมื่อ: 07 ธันวาคม 2554, 20:03:56 »

สวัสดียามค่ำครับ ชาวซีมะโด่ง ที่รัก และดร.สุริยา

               วันนี้ผมได้คุญกับ รศ.ประกายแก้ว  และเมื่อไม่มีผู้สนใจลงชื่อไปทำบุญ ๕๐ วัน คุณน้องแดง เพิ่ม เป็นอันว่างดจัดดีกว่า หลายท่านคงมัวยุ่งอยู่กับบ้านที่น้ำท้วมต้องทำความสะอาดเลยไม่มีเวลา จึงขอเลื่อนดีกว่า และจะไปรวบยอดจัด พร้อมกับงานทำบุญที่หอพักในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ แทน จึงเรียนให้ทุกท่านได้ทราบทั่วกัน ตามนี้

               สำหรับผม คงทำบุญใส่บาตรไปให้ เมื่อครบ ๕๐ วัน คุณน้องแดง แทน ในวันเสาร์ที่ ๒๔ ธันวาคม ครบ ๕๐ วัน พอดี จะไปถวายสังฆทานที่วัด นครศรีธรรมราช ครับ

               สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #4565 เมื่อ: 07 ธันวาคม 2554, 20:10:35 »

กทม.เร่งระบายน้ำหลายพื้นที่ให้แห้งภายในวันที่ 31 ธ.ค. 54

วันพุธที่ 07 ธันวาคม 2011 เวลา 08:38 น. กองประชาสัมพันธ์ กทม.


               (6 ธ.ค. 54) เวลา15.30น. : ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ตรวจน้ำท่วมและให้กำลังผู้ประสบอุทกภัยบริเวณหมู่บ้านอยู่เจริญ และหมู่บ้านพรรณพฤกษา เขตทวีวัฒนา ซึ่งได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมขังตั้งแต่วันที่ 25 ต.ค. มีประชาชนได้รับความเดือดร้อนกว่า 370 ครัวเรือน โดยขณะนี้สถานการณ์เริ่มเข้าสู่สภาวะปกติ จากเดิมระดับน้ำท่วมสูง 1 ม. ลดลงเหลือเพียง 10-20 ซม.  และประชาชนได้เริ่มทยอยย้ายกลับเข้าที่พักอาศัยรวมทั้งเริ่มทำความสะอาดบ้านเรือนที่ได้รับความเสียหาย ส่วนพื้นที่ที่น่าเป็นห่วงคือหมู่บ้านเศรษฐกิจ และถนนบรมราชชนนี ซึ่งยังมีระดับน้ำท่วมสูง โดยกทม. จะเร่งระบายน้ำในพื้นที่ยังมีน้ำท่วมขังให้แห้งภายในวันที่ 31 ธ.ค. 54
                                                                            -------------------

ผู้ว่าฯ กทม.นัดหารือผู้นำหมู่บ้านเศรษฐกิจแก้ปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่โดยเร็ว

วันพุธที่ 07 ธันวาคม 2011 เวลา 12:26 น.

 
                (7 ธ.ค.54) ที่ศาลาว่าการกทม. เวลา 11.45 น. : ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร แถลงสถานการณ์น้ำและการแก้ไขปัญหากรุงเทพฯ ว่า สถานการณ์น้ำทั่วไปดีขึ้นตามลำดับ คลองในพื้นที่ส่วนใหญ่ระดับน้ำลดลงอย่างชัดเจน และคลองรังสิต ระดับน้ำอยู่ที่ 2.42 เมตร ส่วนคลองทวีวัฒนาระดับน้ำลดลงเยอะมากเมื่อเทียบกับวันที่ 3 ธ.ค. โดยภายนอกประตูระบายน้ำคลองทวีวัฒนาระดับน้ำลดลง 18 ซม. และภายในประตูระบายน้ำลดลง 15 ซม. ทั้งนี้ กทม.ได้ดำเนินการระบายน้ำจากพื้นที่เฉพาะ ได้แก่ ถ.พหลโยธินตอนบน บริเวณอนุสรณ์สถานแห่งชาติ และบริเวณถ.บรมราชชนนี คาดว่าบนถ.บรมราชชนนีจะแห้งภายใน 2 วัน ส่วนหมู่บ้านแอนเน็กซ์และหมู่บ้านโฮมการ์เด้น เขตสายไหม ภายหลังจากกทม.เข้าไปกู้พื้นที่ดังกล่าวปรากฎว่าขณะนี้น้ำแห้งแล้ว
 

                 ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวด้วยว่า ในส่วนของการกู้พื้นที่หมู่บ้านเศรษฐกิจนั้น เมื่อ 2 วันที่ผ่านกทม.ได้เข้าไประบายน้ำจากพื้นที่ส่วนหนึ่งแล้ว แต่เนื่องจากเมื่อวานนี้ (6 ธ.ค.) มีประชาชนประมาณ 50-100 คน คัดค้านไม่ให้เจ้าหน้าที่กทม.เข้าไปปฏิบัติงานแก้ไขปัญหาน้ำท่วมภายในหมู่บ้านเศรษฐกิจโดยไม่มีเหตุผลเป็นที่ประจักษ์ อย่างไรก็ตาม กทม.จะยังคงใช้วิธีการอื่นๆ โดยการดึงน้ำจากคลองโดยรอบหมู่บ้านเข้าสู่คลองทวีวัฒนา แต่วิธีดังกล่าวจะช้ากว่าการเข้าไปปิดล้อมพื้นที่ภายในเพื่อสูบน้ำออกจากหมู่บ้านเศรษฐกิจโดยตรง โดยวันพรุ่งนี้ (8 ธ.ค.) ตนเองจะเข้าไปหารือกับผู้นำชุมชนในหมู่บ้านเศรษฐกิจด้วยตนเอง ถึงความร่วมมือในการระบายน้ำในพื้นที่ดังกล่าว เพื่อประโยชน์ของประชาชนโดยส่วนรวม
 

                  ในส่วนของการจัดเก็บขยะเมื่อวันที่ 5 ธ.ค. จัดเก็บขยะได้น้อยกว่าปกติ เนื่องจากเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครไปปฏิบัติภารกิจอื่น โดยสามารถจัดเก็บได้ 10,645 ตันจากที่จัดเก็บได้ดสูงสุด 11,600 ตัน จากปริมาณขยะในสภาวะปกติ 8,500 ตัน  โดยในวันนี้ (7 ธ.ค.) เวลา 15.00 น. กทม.จะดีเดย์เก็บขยะตกค้างบริเวณ ถ.สรงประภา เขตดอนเมือง ซึ่งมีประชาชนนำขยะจากน้ำท่วมมากองทิ้งไว้บนผิวจราจรเป็นจำนวนมากให้แล้วเสร็จภายใน 24 ชั่วโมง โดยระดมรถขยะมาจัดเก็บให้เร็วที่สุด อีกทั้งกทม.จะประชาสัมพันธ์จุดวางกระสอบทรายของประชาชนที่ไม่ใช้แล้ว 75 จุดใน 50 สำนักงานเขต ให้ประชาชนได้รับทราบต่อไป

กทม. จัดกิจกรรมฟื้นฟูพื้นที่ประสบอุทกภัย 6 เขต 7 – 11 ธ.ค. 54

วันพุธที่ 07 ธันวาคม 2011 เวลา 16:39 น.


                 (7 ธ.ค. 54) เวลา 14.30 น. พญ.มาลินี สุขเวชชวรกิจ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการ “ฟื้นฟูกรุงเทพฯ รวมกันเราทำได้ เพื่อชุมชนน่าอยู่อย่างยั่งยืน” โดยมีคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ร่วมพิธีเปิด ณ บริเวณลานกิจกรรมหน้าห้างสรรพสินค้า ไอทีสแควร์ เขตหลักสี่
สำนักพัฒนาสังคม กรุงเทพมหานคร กำหนดจัดโครงการ “ฟื้นฟูกรุงเทพฯ รวมกันเราทำได้ เพื่อชุมชนน่าอยู่อย่างยั่งยืน” ในพื้นที่ประสบอุทกภัยที่ประกาศเป็นพื้นที่อพยพ จำนวน 12 เขต โดยแบ่งการจัดกิจกรรมเป็น 2 ครั้งๆ ละ 6 เขต ซึ่งครั้งนี้กำหนดจัดขึ้นที่ห้างสรรพสินค้าไอทีสแควร์ เขตหลักสี่ สำนักงานเขตภาษีเจริญ โรงเรียนบางชัน เขตคลองสามวา สวนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 เขตมีนบุรี วัหนังราชวรวิหาร เขตจอมทอง และศูนย์การค้าโลตัส คุ้มค่า เขตหนองจอก ระหว่างวันที่ 7 – 11 ธ.ค. 54 ตั้งแต่เวลา 11.00 – 20.00 น. เพื่อช่วยเหลือ ฟื้นฟู และบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่กรุงเทพมหานคร

               กิจกรรมในงาน ประกอบด้วย กิจกรรมฟื้นใจ เป็นกิจกรรมฟื้นฟูด้านสุขภาพใจ อาทิ หัวเราะบำบัด ศิลปะบำบัด ฉายภาพยนต์แอนนิเมชั่นให้ความรู้เรื่องการดูแลตนเองหลังน้ำลด กิจกรรมเส้นทางอาชีพ เป็นการจัดอบรมอาชีพต่างๆ จากโรงเรียนฝึกอาชีพกรุงเทพมหานคร และตลาดนัดแรงงานเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่ว่างงาน รวมถึงธนาคารและสถาบันการเงินมาให้คำปรึกษาและสนับสนุนเรื่องเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ กิจกรรมจุดบริการข้อมูลจากสำนักงานเขต บริการรับคำร้องขอความช่วยเหลือด้านต่างๆ กิจกรรมบ้านคิดดี จัดแสดงนิทรรศการและการสาธิตความรู้ด้านต่างๆ ที่สามารถทำเองได้ในระดับครัวเรือนและชุมชนยามเกิดวิกฤติ เช่น การแยกขยะ การทำน้ำ EM สิ่งประดิษฐ์ที่ใช้ในภาวะน้ำท่วม และการจัดแสดงนวัตกรรมสิ่งประดิษฐ์ที่สร้างสรรค์แบบพึ่งพาตนเองโดยใช้วัสดุเหลือใช้

               นอกจากนี้องค์กรภาครัฐ และภาคเอกชนได้ร่วมจัดกิจกรรมให้ความรู้เกี่ยวกับการดูแลซ่อมแซมรถยนต์ โครงการอ่านสร้างชาติและบ้านอาสาใจดี ให้ความรู้เกี่ยวกับการทำความสะอาดบ้าน ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับไฟฟ้าและสาธารณูปโภคหลังน้ำท่วม กิจกรรมลานรอยยิ้มเป็นเวทีการแสดง อาทิ โฟล์คซอง ละครหุ่นจากคลองบางหลวง ลิเกเด็ก และกิจรรม “รวมกันเรา (แบ่งปันรอยยิ้ม) ทำได้”

               รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า การจัดกิจกรรมดังกล่าวจะช่วยฟื้นฟูทางกายภาพ อาทิ ถนน อาคารบ้านเรือน เครื่องใช้ไฟฟ้า และด้านสุขภาพกายและใจของผู้ประสบภัยให้กลับมาเข้มแข็งและมีสุขภาพดีขึ้น เพื่อที่จะก้าวผ่านวิกฤติครั้งนี้ได้ด้วยดี สามารถปรับสภาพและดำเนินชีวิตต่อไปได้ตามปกติ อีกทั้งสามารถพึ่งพาตนเองได้ในยามเกิดภาวะวิกฤติต่างๆ ซึ่งกรุงเทพมหานครจะเร่งคืนรอยยิ้มให้ชาวกรุงเทพฯ โดยเร็ว ทั้งนี้ คาดว่าทุกพื้นที่ของกรุงเทพฯ จะกลับสู่ภาวะปกติก่อนปีใหม่เพื่อเป็นของขวัญให้ชาวกรุงเทพฯ ต่อไป

               สำหรับกิจกรรมครั้งต่อไปกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 15 – 19 ธ.ค. 54 ณ สำนักงานเขตคันนายาว แมคโครจรัญสนิทวงศ์ เขตบางกอกน้อย โลตัสบางแค เขตบางแค ลานตรงข้ามสวนสุขภาพเขตทวีวัฒนา วัดหนองใหญ่ เขตสายไหม และสำนักงานเขตหนองแขม
                                                                        -------------------

กทม.เร่งระดมเก็บขยะย่านดอนเมือง ให้แล้วเสร็จใน 24 ชั่วโมง

วันพุธที่ 07 ธันวาคม 2011 เวลา 17:25 น. กองประชาสัมพันธ์ กทม.


                  (7ธ.ค.54) นายพรเทพ เตชะไพบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ตรวจการจัดเก็บขยะ บริเวณถนนสรงประภา เขตดอนเมือง ซึ่งมีประชาชนนำขยะจากน้ำท่วมมาทิ้งไว้บนผิวจราจรเป็นจำนวนมาก โดยกรุงเทพมหานครได้ระดมเจ้าหน้าที่ พร้อมทั้งรถขยะ รถตัก รถบรรทุก จาก 20 สำนักงานเขตที่ไม่ประสบปัญหาน้ำท่วม รวมทั้งหน่วยงานในสังกัดกรุงเทพมหานครมาช่วยในการจัดเก็บขยะ โดยจะเร่งจัดเก็บให้แล้วเสร็จภายใน 24 ชั่วโมง จากนั้นจะทำความสะอาดบริเวณที่ประชาชนนำขยะมาทิ้ง ด้วยการใช้น้ำยาฆ่าเชื้อโรคฉีดล้างทำความสะอาด นอกจากนี้กรุงเทพมหานครจะกำหนดจุดให้ประชาชนนำขยะจากน้ำท่วมมาทิ้ง เพื่อความสะอาดเป็นระเบียบและความสะดวกในการจัดเก็บต่อไป
                                                                 ------------------------------



      บันทึกการเข้า
khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #4566 เมื่อ: 07 ธันวาคม 2554, 20:13:36 »

พี่สิงห์คะ,
24 ธค.วันดีค่ะของที่โน่น!
Heiligabendที่ชาวเยอรมัน,
ชาวสวิส,ชาวลิกเท่นชไตน์
และชาวออสเตรียนถือเป็น...
โอ้ลั่ลล้า,วันเปิดของขวัญค่ะ.

แต่เพราะวันนี้ไม่ถือเป็นวันหยุดงาน
กระนั้น,สถานที่ราชการ ร้านค้า
เปิดแค่ครึ่งวันค่ะ
      บันทึกการเข้า


Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #4567 เมื่อ: 07 ธันวาคม 2554, 20:14:00 »

วันพุธ ที่ 7 ธันวาคม 2554 เวลา 20.10 น.
 สถานการณ์น้ำวันนี้
 สถานการณ์น้ำ ประจำวันที่ 7 ธันวาคม 2554 (เวลา 08.00 น.)


น้ำเหนือ
 - ระดับน้ำเจ้าพระยาที่ อ.บางไทร 2.29 ม.รทก. (ลดลงจากเมื่อวาน 11 ซม.)
 
น้ำทะเลหนุนสูง - วันนี้เวลา 14.33 น. ระดับ +0.96 ม.

ระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาตรวจวัดที่ปากคลองตลาด
 - ระดับน้ำสูงสุด เมื่อวานนี้ เวลา 14.00 น. ระดับ +1.43 ม.รทก. (ต่ำกว่าคันกั้นน้ำ 128 ซม.)
 - ระดับน้ำ เช้าวันนี้ เวลา 08.00 น. ระดับ +1.31 ม.รทก. (ต่ำกว่าคันกั้นน้ำ 149 ซม. น้ำกำลังขึ้น )
 - คาดการณ์จากกรมอุทกศาสตร์ วันนี้ เวลา 14.33 น. ระดับ +1.53 ม.รทก.
 
น้ำทุ่ง
 - พื้นที่ดอนเมือง (24 ชม.ที่ผ่านมา) ระดับน้ำลดลง 8 ซม.
 - ระดับน้ำคลองหกวาสายล่าง ที่ประตูระบายน้ำคลองสอง (24 ชม.ที่ผ่านมา) ระดับน้ำลดลง 5 ซม.
 - ฝั่งธนบุรี ระดับน้ำคลองมหาสวัสดิ์ ที่ประตูระบายน้ำคลองทวีวัฒนา (24 ชม.ที่ผ่านมา) ระดับน้ำลดลง 4 ซม.
 
ภาพรวมสถานการณ์ใน กทม. (24 ชั่วโมงที่ผ่านมา) โดยทั่วไปสถานการณ์ดีขึ้นตามลำดับ

 พื้นที่ฝั่งพระนคร ยังคงมีปัญหาน้ำท่วมขังบางส่วน ในพื้นที่เขตดอนเมือง หลักสี่ สายไหม บางเขน คันนายาว คลองสามวา
 - คลองเปรมประชากร ระดับน้ำลดลง 2 ซม.
 - คลองบางเขน ระดับน้ำลดลง 1-2 ซม.
 - คลองลาดพร้าว ระดับน้ำลดลง 2-6 ซม.
 - คลองแสนแสบ ระดับน้ำลดลง 3-5 ซม.
 - คลองประเวศน์บุรีรมย์ ระดับน้ำลดลง 1 ซม.
 
พื้นที่ฝั่งธนบุรี ยังคงมีปัญหาน้ำท่วมขัง ในพื้นที่เขต ทวีวัฒนา ตลิ่งชัน หนองแขม บางแค ภาษีเจริญ
 - คลองต่าง ๆ โดยทั่วไป ระดับน้ำลดลง 4-5 ซม.

 สำนักการระบายน้ำ กรุงเทพมหานคร ได้ดำเนินการเร่งระบายน้ำ และ***พื้นที่หมู่บ้าน ชุมชน ถนนสายหลัก ในพื้นที่ต่าง ๆ
 - ถนนพหลโยธิน ซอยแอนเน็กซ์ ขณะนี้น้ำแห้งเป็นปกติแล้ว
 - ถนนบรมราชชนนี ช่วงพุทธมณฑลสาย 2-3 (อยู่ระหว่างดำเนินการ)
 - หมู่บ้านเศรษฐกิจ เขตบางแค (อยู่ระหว่างดำเนินการ)
 
      บันทึกการเข้า
suriya2513
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,457

« ตอบ #4568 เมื่อ: 07 ธันวาคม 2554, 20:19:02 »

วันนี้ไปทำงานที่ softsquare เมืองเอก ต้องนั่งเรือเข้าไป
      บันทึกการเข้า

[โบราณคดี]จุดกำเนิดเริ่มต้นของ cmadong.com by : มานพ กลับดี  คลิ๊ก->
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #4569 เมื่อ: 07 ธันวาคม 2554, 20:27:47 »

อ้างถึง
ข้อความของ suriya2513 เมื่อ 07 ธันวาคม 2554, 20:19:02
วันนี้ไปทำงานที่ softsquare เมืองเอก ต้องนั่งเรือเข้าไป

             สำหรับเมืองเอก เป็นพื้นที่จังหวัดปทุมธานี พรรคเพื่อไทย ทั้งหมด ประชาชนเขายอมรับชตากรรม ครับ

             เมืองเอกเป็นพื้นที่ใหญ่ และทางหมู่บ้านมีเงินกองกลางน้อย จึงไม่สามารถที่จะสูบน้ำออกเองได้ มหาวิทยาลัยรังสิตก็เหมือนกัน จึงต้องรอให้ระดับน้ำลดลงเอง น้ำไหลกลับคลองรังสิต คลองเปรมประชากร น้ำยังล้นตลิ่งช่วง สน.ดอนเมือง คงใช้เวลาอีกหนึ่งอาทิตย์สำหรับเมืองเอก ตอนนี้ก็มีเจ้าภาพไปสูบน้ำออกแล้วครับ ระดับน้ำเหลือไม่เกิน ๑ เมตรแล้วสำหรับเมืองเอก

             สวัสดี
      บันทึกการเข้า
pusadee sitthiphong
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

คณะ: พาณิชยศาสตร์และการบัญชี
กระทู้: 4,689

« ตอบ #4570 เมื่อ: 07 ธันวาคม 2554, 20:29:50 »

พี่ป๋องคะ ราเมศวร เป็นไงมั่ง ไม่ยอมอพยพเลย
      บันทึกการเข้า

pom shi 2516
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #4571 เมื่อ: 07 ธันวาคม 2554, 20:35:13 »

สวัสดีค่ะ คุณน้องหนุ๋งหนิ๋ง ที่รัก

            วันที่ ๒๕ ธันวาคม อย่าลืมทำไก่งวงอบนะครับ

            แต่สำหรับพี่สิงห์วันที่ ๒๕ ธันวาคม ถ้าไม่มีอะไรพิเศษ คงต้องไปสูงเนินโคราช เพราะเป็นวันเกิด เฒ่าแก่ของ แสงไทยกรุ๊ป ครับ และไหนๆก็ไปโคราชแล้ว

            อาจจะเลยไปปฏิบัติธรรมที่วัดป่าสุคะโต จนถึงสิ้นปีไปเลย แต่ยังไม่แน่เพราะอากาศที่วัดป่าสุคะโต หนาวมาก ระดับไม่เกิน ๑๐ องศา ในเวลากลางคืน และที่พักเป็นศาลาวัด ไม่มีกำแพง ต้องเอาชนะจิตตัวเองเป็นอย่างมาก เพราะมันหนาวจนนอนไม่หลับ ครับ

             สวัสดีค่ะ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #4572 เมื่อ: 07 ธันวาคม 2554, 20:42:54 »

สวัสดีครับ ชาวซีมะโด่ง ที่รักทุกท่าน

              วันนี้ผมไปทำฟันที่คณะทันตแพทย์ มาครับ ฟันซี่เดียว ผมใช้เวลาในการรักษารากฟัน ทำครอบฟัน รู้สึกว่าจะเกินหกเดือนแล้ว ยังไม่เสร็จครับ ต้องไปใส่ครอบฟันอีกครั้งเดือนมกราคม หมดเงินไปแล้วห้าหมื่นบาท เจ็บแล้วเจ็บอีก เวลาคุณหมอทำ ก็ต้องปฏิบัติธรรมไปเอาชนะเวทนาที่เกิดขึ้น เหงือเปียกขากางเกงทุกทีครับเวลารักษารากฟัน (แนะนำถอนทิ้ง ดีที่สุด)

              ข้อแนะนำ ขอให้ทุกท่านพยายามอมน้ำเกลือ ภายหลังรับประทานอาหารเสร็จ สัก ๕-๑๕ นาที ฟันจะได้ไม่ผุ กร่อน จนต้องมาเสียเงินมากมายแบบผมครับ

              ราตรีสวัสดิ์ทุกท่านครับ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #4573 เมื่อ: 07 ธันวาคม 2554, 20:44:35 »

อ้างถึง
ข้อความของ pusadee sitthiphong เมื่อ 07 ธันวาคม 2554, 20:29:50
พี่ป๋องคะ ราเมศวร เป็นไงมั่ง ไม่ยอมอพยพเลย

สวัสดีค่ะ คุณน้องป้อมที่รัก

            เธอสบายดีหรือเปล่า ไปเที่ยวงานพืชสวนมาหรือยัง ครับ พี่สิงห์ว่าจะไปเดือนมกราคม ครับ

            สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #4574 เมื่อ: 07 ธันวาคม 2554, 20:49:52 »

รู้ประวัติพุทธสาวก อรหันต์ เอตทัคคะ

ลำดับที่ ๓๙

พระมหาโกฏฐิตเถระ

เอตทัคคะในทางผู้แตกฉานในปฏิสัมภิทา ๔

                พระมหาโกฏฐิตะ เป็นบุตรพราหมณ์ชื่ออัสสลายนะกับพราหมณีชื่อจันทวดี ในเมืองสาวัตถี เดิมชื่อว่า “โกฎฐตะ” ตระกูลของท่านจัดว่าอยู่ในระดับมหาเศรษฐี ท่านจึงได้รับการเลี้ยงดูอย่างดี แต่บิดาของท่านมีทิฏฐิแรงกล้ายึดมั่นในลัทธิศาสนาพราหมณ์อย่างมั่นคง เมื่อท่านเจริญวัยได้ศึกษาศิลปวิทยาตามลัทธิศาสนาพราหมณ์จบไตรเพท เมื่อพระบรมศาสดาตรัสรู้แล้ว เที่ยวจาริกเผยแผ่หลักธรรมคำสอนไปตามคามนิคมต่างๆทั้งในเมืองและชนบท ได้เสด็จถึงหมู่บ้านที่อัสสลายนพราหมณ์ตั้งนิวาสสถานอยู่ ได้ทรมานอัสสลายนพราหมณ์ จนละทิฏฐิมานะ และแสดงตนเป็นพุทธมามกะปวารณาตนเป็นอุบาสก ขอถึงพระรัตนตรัยเป็นสรณะตลอดชีวิต

          • ทิ้งพราหมณ์ถือพุทธ

                โกฏฐิตมาณพ เห็นบิดาหันมายอมรับนับถือพระรัตนตรัยก็เกิดศรัทธาเลื่อมใสขึ้นบ้าง ต่อมาได้ฟังพระธรรมเทศนาก็ยิ่งเกิดศรัทธามากขึ้น ถึงกับมีจิตน้อมไปในการออกบวชเพื่อปฏิบัติตามพระธรรมวินัย จึงกราบทูลขอบวชต่อพระบรมศาสดา พระพุทธองค์ทรงมอบหมายให้พระสารีบุตรเถระ เป็นพระอุปัชฌาย์ให้พระมหาโมคคัลลานเถระเป็นพระอาจารย์ ในขณะที่ท่านกำลังโกนผมอยู่นั้นท่านได้พิจารณาในกรรมฐานไปเรื่อย ๆ พอผลัดเปลี่ยนผ้าสาฎกของคฤหัสถ์ออกแล้วนุ่งห่มผ้ากาสาวพัสตร์ ก็ได้บรรลุพระอรหัตผล ในขณะนั้น พร้อมด้วยปฏิสัมภิทาญาณ ๔ วิชชา ๓ และวิโมกข์ ๓

                 พระมหาโกฏฐิตะ นั้น แม้ท่านจะบรรลุเป็นพระอรหันต์แล้ว แต่ท่านก็ยังมีปกติฝักใฝ่ในการศึกษา ไม่ว่าท่านจะเข้าเฝ้าพระบรมศาสดาหรือเข้าไปหาพระเถระรูปอื่น ๆ ท่านก็มักจะถามปัญหาในปฏิสัมภิทาอยู่เสมอ ๆ จนมีความเชี่ยวชาญแตกฉานในปฏิสัมภิทาเป็นพิเศษ มีเรื่องปรากฏในมหาเวทัลลสูตรมัชฌิมนิกายว่าเป็นผู้แตกฉานเพราะชอบถามปัญหา

                 สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระเชตวันมหาวิหาร พร้อมด้วยพระภิกษุสงฆ์ พระมหาโกฏฐิตเถระ ได้ขอโอกาสกราบเรียนถามข้อข้องใจกับพระสารีบุตรเถระผู้เป็นพระอุปัชฌาย์ว่า” “ข้าแต่พระอุปัชฌาย์ คนเช่นไร ที่เรียกว่าคนทุปัญญา ขอรับ ?” “ดูก่อนมหาโกฏฐิติ คนทุปัญญา ก็คือ คนไม่มีปัญญา”

                 “เพราะเหตุไร จึงเรียกว่า คนไม่มีปัญญา ขอรับ ?” “คนไม่มีปัญญา ก็คือคนไม่รู้ความจริงว่าสิ่งนี้เป็นทุกข์ สิ่งนี้ทำให้เกิดทุกข์ สิ่งนี้เป็นความดับทุกข์ และสิ่งนี้เป็นหนทางให้ถึงความดับทุกข์ ส่วนคนอีกพวกหนึ่งที่รู้ความจริงเหล่านี้  ท่านเรียกว่า คนมีปัญญา” พระมหาโกฏฐิตเถระ ได้กราบเรียนถามต่อไปว่า:- “ข้าแต่พระอุปัชฌาย์ ที่เรียกว่า วิญญาณ นั้น หมายความว่าอย่างไร ขอรับ ?” “ดูก่อนมหาโกฏฐิติ ที่เรียกว่า วิญญาณ นั้น ก็เพราะรู้สึกสุขบ้าง ทุกข์บ้าง ไม่สุขไม่ทุกข์บ้าง” “ท่านขอรับ ปัญญากับวิญญาณนี้ รวมกันหรือแยกกัน ขอรับ ?” “ดูก่อนมหาโกฏฐิติ ปัญญากับวิญญาณนี้ อยู่รวมกัน ไม่อาจแยกกันได้กล่าวคือ บุคคลรู้ในสิ่งใดก็รู้สึกในสิ่งนั้น บุคคลรู้สึกในสิ่งใดก็รู้สิ่งนั้นเป็นต้น” พระเถระทั้งสองนั้น ได้สนทนาธรรมในข้อสงสัยต่าง ๆ กันต่อไป พอสมควรแก่กาลเวลาแล้ว พระมหาโกฏฐิตเถระ ได้กล่าวแสดงความชื่นชม ยินดีในปรีชาความรู้ของพระอุปัชฌาย์ (พระสารีบุตรเถระ) แล้วจึงกราบลากลับสู่ที่พักของตน
 
                  ด้วยเหตุแห่งการฝักใฝ่ในการศึกษา จนเป็นผู้เชี่ยวชาญในปฏิสัมภิทาเป็นพิเศษนี้ พระบรมศาสดาจึงทรงยกย่องท่านในตำแหน่งเอตทัคคะ เป็นผู้เลิศกว่าภิกษุทั้งหลาย ในทางผู้แตกฉานในปฏิสัมภิทา ๔

                  ท่านดำรงอายุสังขาร ช่วยกิจการพระศาสนาสมควรแก่กาลเวลาแล้วก็ดับขันธปรินิพพาน

ปฏิสัมภิทา ๔
              ๑. อัตถปฏิสัมภิทา ปัญญาแตกฉานในอรรถ
              ๒. ธัมมปฏิสัมภิทา ปัญญาแตกฉานในธรรม
              ๓. นิรุตติปฏิสัมภิทา ปัญญาแตกฉานในนิรุตติ
              ๔. ปฏิภาณปฏิสัมภทา ปัญญาแตกฉานในปฏิภาณ

วิชชา ๓
              ๑. ปุพเพนิวาสานุสสติญาณ รู้จักระลึกชาติได้
              ๒. จุตูปปาตญาณ รู้จักกำหนดจุติและเกิด
              ๓. อาสวักขยญาณ รู้จักทำอาสวะให้สิ้น

วิโมกข์ ๓
              ๑. สุญญตวิโมกข์ ความพ้นโดยเป็นสภาพว่าง คือว่างจาก ราคะ โทสะ โมหะ
              ๒. อนิมิตรวิโมกข์ ความพ้นโดยหาเครื่องหมายมิได้เพราะไม่มีราคะ โทสะ โมหะ เป็นเครื่องหมาย
              ๓. อัปปณิหิตวิโมกข์ ความพ้นโดยหาที่ตั้งมิได้ คือไม่มีราคะ โทสะ โมหะ เป็นที่ตั้ง
      บันทึกการเข้า
  หน้า: 1 ... 181 182 [183] 184 185 ... 681   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

สมาคมนิสิตเก่าหอพักนิสิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มวลสมาชิกสมาคม คณาจารย์ และนิสิตเก่าทุกคน ขอน้อมเกล้าถวายความอาลัย  พระผู้เสด็จสู่สวรรคาลัย ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ <;))))><