22 พฤศจิกายน 2567, 11:45:53
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: 1 ... 174 175 [176] 177 178 ... 681   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: คุย กับ คุณมานพ กลับดี อดีตประธานชมรม ๓ สมัย  (อ่าน 3544785 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 12 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #4375 เมื่อ: 24 พฤศจิกายน 2554, 21:15:06 »


สถานการณ์น้ำวันนี้
 สถานการณ์น้ำ ประจำวันที่ 24 พฤศจิกายน 2554 (เวลา 12.00 น.)


น้ำทะเลหนุนสูง
 - วันนี้เวลา 06.45 น. ระดับ +1.05 ม.รทก. และเวลา 15.48 น. ระดับ +1.17 ม.
- วันพรุ่งนี้เวลา 07.52 น. ระดับ +1.22 ม.รทก. และเวลา 16.31 น. ระดับ +1.18 ม.

ระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาตรวจวัดที่ปากคลองตลาด
- ระดับน้ำสูงสุด เช้าวานนี้ เวลา 04.45 น.) ระดับ +1.91 ม.รทก. (ต่ำกว่าคันกั้นน้ำ 89 ซม. )
 - ระดับน้ำสูงสุด เย็นวานนี้ เวลา 15.00 น.) ระดับ +2.01 ม.รทก. (ต่ำกว่าคันกั้นน้ำ 79 ซม. )
 - ระดับน้ำสูงสุด เช้าวันนี้ เวลา 05.45 น.) ระดับ +2.02 ม.รทก. (ต่ำกว่าคันกั้นน้ำ 78 ซม. )
 - คาดการณ์จากกรมอุทกศาสตร์ วันพรุ่งนี้ เวลา 07.52 น. ระดับ +2.22 ม.รทก.

น้ำทุ่ง
- พื้นที่ดอนเมือง (6 ชม.ที่ผ่านมา) ระดับน้ำลดลง 1 ซม.
- ระดับน้ำคลองหกวาสายล่าง ที่ประตูระบายน้ำคลองสอง ( 6 ชม.ที่ผ่านมา) ระดับน้ำลดลง 2 ซม.
- ฝั่งธนบุรี ระดับน้ำคลองมหาสวัสดิ์ ที่ประตูระบายน้ำคลองทวีวัฒนา ( 6 ชม.ที่ผ่านมา) ระดับน้ำลดลง 1 ซม.
 
ภาพรวมสถานการณ์ใน กทม. (6 ชั่วโมงที่ผ่านมา)
 - คลองเปรมประชากร ระดับน้ำทรงตัว
 - คลองบางเขน ระดับน้ำทรงตัว ช่วงใกล้คลองบางบัว ระดับน้ำเพิ่มขึ้น 1 ซม.
 - คลองลาดพร้าว ระดับน้ำเพิ่มขึ้น 1-5 ซม.
 - คลองบางซื่อ ระดับน้ำลดลง 1 ซม.
 - คลองแสนแสบ ช่วงบางชัน-มีนบุรี ระดับน้ำลดลง 1-2 ซม.
 - คลองประเวศน์บุรีรมย์ ระดับน้ำลดลง 1 ซม.
 - คลองสายหลักพื้นที่ฝั่งธนบุรีตอนบน แนวคลองมหาสวัสดิ์ที่มีการเปิดประตูเพิ่มเติม ระดับน้ำสูงขึ้น 1 ซม. และยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
 
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #4376 เมื่อ: 24 พฤศจิกายน 2554, 21:16:41 »

อ้างถึง
ข้อความของ Manop  Klabdee เมื่อ 24 พฤศจิกายน 2554, 21:06:34
ข่าวดี ข่าวด่วน!

              ชาวซีมะโด่งท่านใดที่น้ำท้วมบ้าน และน้ำได้แห้งแล้ว ยังไม่ได้ทำความสะอาดบ้าน โปรดแจ้งอาจารย์เผ่า   สุวรรณศักดิ์ศรี  ศิลปินแห่งชาติ ทางอาจารย์เผ่า จะจัดนิสิตอาสาสมัคร และแม่บ้านของหอพัก กับเครื่องมือทำความสะอาด เครื่องฉีดยาฆ่าเชื้อ จากชมรมฯ ไปบริการล้างบ้านให้ท่านฟรี  ขอเพียงให้ท่านแจ้งมายังกระทู้นี้ ที่นี่พร้อมทั้งเบอร์โทรศัพท์ติดต่อกลับ ผมจะช่วยประสานกับทางอาจารย์เผ่าให้ครับ

               เช่น บ้านอาจารย์ถาวร  ดร.สุริยา คุณน้องเอมอร เป็นต้น อย่าลืมท่านทำไม่ไหวหรอกครับ ต้องหาคนมาช่วยทำความสะอาดครับ

               สวัสดี

               อาจารย์เผ่า ได้โทรศัพท์มาหาผม ขณะนั่งรถไฟฟ้ากลับบ้านจากการไปงานสพที่วัดธาตุทอง
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #4377 เมื่อ: 24 พฤศจิกายน 2554, 21:21:28 »

อ้างถึง
ข้อความของ Manop  Klabdee เมื่อ 24 พฤศจิกายน 2554, 21:06:34
ข่าวดี ข่าวด่วน!

              ชาวซีมะโด่งท่านใดที่น้ำท้วมบ้าน และน้ำได้แห้งแล้ว ยังไม่ได้ทำความสะอาดบ้าน โปรดแจ้งอาจารย์เผ่า   สุวรรณศักดิ์ศรี  ศิลปินแห่งชาติ ทางอาจารย์เผ่า จะจัดนิสิตอาสาสมัคร และแม่บ้านของหอพัก กับเครื่องมือทำความสะอาด เครื่องฉีดยาฆ่าเชื้อ จากชมรมฯ ไปบริการล้างบ้านให้ท่านฟรี  ขอเพียงให้ท่านแจ้งมายังกระทู้นี้ ที่นี่พร้อมทั้งเบอร์โทรศัพท์ติดต่อกลับ ผมจะช่วยประสานกับทางอาจารย์เผ่าให้ครับ

               เช่น บ้านอาจารย์ถาวร  ดร.สุริยา คุณน้องเอมอร เป็นต้น อย่าลืมท่านทำไม่ไหวหรอกครับ ต้องหาคนมาช่วยทำความสะอาดครับ

               สวัสดี

                ขณะที่ผมนั่งรถไฟฟ้ากลับจากงานศพที่วัดธาตุทอง ท่านอาจารย์เผ่า ได้โทรศัพท์ มาถามว่าผมทำความสะอาดบ้านหรือ ยัง ถ้ายัง ทางอาจารย์เผ่า และชมรมฯ จะจัดอาสาสมัครไปช่วยจัดการให้ ผมบอกว่าผมทำเรียบร้อยแล้ว

               สำหรับชาวซีมะโด่งทุกท่านที่น้ำท้วมบ้าน ทางอาจารย์เผ่าจะจัดนิสิต แม่บ้านหอพักไปช่วย ครับ
      บันทึกการเข้า
khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #4378 เมื่อ: 24 พฤศจิกายน 2554, 22:15:49 »

อ้างถึง
ข้อความของ Manop  Klabdee เมื่อ 24 พฤศจิกายน 2554, 20:59:50
สวัสดีค่ะ คุณน้องหนุ๋งหนิ๋ง ที่รัก

             ...                  - แน่นอนตอนนี้มีแต่ประชาชนด่ารัฐบาล เพราะน้ำท้วมมาเป็นเดือน น้ำเหม็น สกปรก เงินหมด ของยังชีพก็หมด และไม่มีคำตอบว่าน้ำจะแห้งเมื่อไร บรรดา "น้ำเหลือเดน" ที่ท้วมขังอยู่ ต้องรอสูบทิ้ง ยังหาเจ้าภาพไม่ได้ รัฐบาลท่านต้องรอให้ประชาชนปิดถนน ถึงจะมาดำเนินการ ครับ นี่ละรัฐบาลไทย ท่านนายกไม่ต้องพูดถึง  ดร.สุริยา เป็นนายกยังดีเสียกว่าอีกครับ              ...
                  สวัสดีค่ะ


พี่สิงห์คะ,
เห็นด้วยค่ะ!
ถ้าดร.ท่านนี้เป็นนายก
สงสัยได้สร้างใหม่หมดทั้งเมือง
ก็ที่รกๆร้ายๆพังแหล่มิพังแหล่ยังมีอีกแยะ
งบ?ก็อายัดเอาจากบ้านอดีตปลัดคมนาคมฯ
      บันทึกการเข้า


suriya2513
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,457

« ตอบ #4379 เมื่อ: 24 พฤศจิกายน 2554, 22:21:50 »

อ้างถึง
ข้อความของ khesorn mueller เมื่อ 24 พฤศจิกายน 2554, 22:15:49
อ้างถึง
ข้อความของ Manop  Klabdee เมื่อ 24 พฤศจิกายน 2554, 20:59:50
สวัสดีค่ะ คุณน้องหนุ๋งหนิ๋ง ที่รัก

             ...                  - แน่นอนตอนนี้มีแต่ประชาชนด่ารัฐบาล เพราะน้ำท้วมมาเป็นเดือน น้ำเหม็น สกปรก เงินหมด ของยังชีพก็หมด และไม่มีคำตอบว่าน้ำจะแห้งเมื่อไร บรรดา "น้ำเหลือเดน" ที่ท้วมขังอยู่ ต้องรอสูบทิ้ง ยังหาเจ้าภาพไม่ได้ รัฐบาลท่านต้องรอให้ประชาชนปิดถนน ถึงจะมาดำเนินการ ครับ นี่ละรัฐบาลไทย ท่านนายกไม่ต้องพูดถึง  ดร.สุริยา เป็นนายกยังดีเสียกว่าอีกครับ              ...
                  สวัสดีค่ะ


พี่สิงห์คะ,
เห็นด้วยค่ะ!
ถ้าดร.ท่านนี้เป็นนายก
สงสัยได้สร้างใหม่หมดทั้งเมือง
ก็ที่รกๆร้ายๆพังแหล่มิพังแหล่ยังมีอีกแยะ
งบ?ก็อายัดเอาจากบ้านอดีตปลัดคมนาคมฯ

ดร.ท่านที่ว่านี้ แค่ตำแหน่งนายก อ.บ.ต. ยังไม่มีความสามารถที่จะเป็นได้เลยครับ
      บันทึกการเข้า

[โบราณคดี]จุดกำเนิดเริ่มต้นของ cmadong.com by : มานพ กลับดี  คลิ๊ก->
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #4380 เมื่อ: 25 พฤศจิกายน 2554, 07:40:20 »

สวัสดีครับ ชาวซีมะโด่ง ที่รักทุกท่าน

                วันนี้เป็นวันพระธรรมสวนะ แรม ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๒  เมื่อเช้าภายหลังจากนั่งเจริญสติเสร็จ อาบน้ำ หุงข้าว เดินจางกรมออกกำลังกายที่หน้าบ้าน ไปซื้อกับข้าวที่ตลาดหลังการบินไทย เตรียมเอามาใส่บาตรและเป็นอาหารเช้า สำหรับวันนี้ ครับ

                วันนี้ขอให้ทุกท่านสำรามกาย วาจา และใจ ให้เป็นปกติด้วยการรักษาศีล ๕ ให้บริสุทธิ์ จิตใจของเราก็ผ่องใส แล้วครับ นอกจากนั้น สำหรับผู้ปฏิบัติธรรม ท่านต้องสำรวมอินทรีย์ของท่าน (ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ) ให้จิตของท่านอยู่เหนือในสิ่งที่ได้สัมผัส ได้รับรู้ ด้วยการไม่ปรุงแต่ง หรือคิดต่อ ด้วยการใช้ปัญญาพิจารณา คือ เห็นสักแต่ว่าเห็น ได้ยินสักแต่ว่าได้ยิน ได้กลิ่นสักแต่ว่าได้กลิ่น ได้ลิ้มรสสักแต่ว่าได้ลิ้มรส สัมผัสสักแต่ว่าได้สัมผัส และไม่ปล่อยให้ใจนึกคิดไปต่างๆ นาๆ นอกอิริยาบถที่กาย ใจไม่ได้ตั้งใจกระทำ

                นอกจากนี้ท่านต้องพิจารณาด้ววยปัญญาตามที่พระพุทธองค์ทรงสอน คือ สังขารทั้งหลายไม่เที่ยง สังขารทั้งหลายเป็นทุกข์ ธรรมทั้งหลายเป็นอนัตตา เพราะว่าคนเรานั้นประกอบขึ้นด้วย รูป-นาม หรือขันต์ ๕ เราไม่สามารถบังคับทั้งรูป-นาม ให้เป็นในสิ่งที่เราปราถนาให้เป็นไม่ได้ เมื่อมันเป็นไปไม่ได้ สั่งมันไม่ได้ ก็ให้คิดว่า ขันธ์ ๕ หรือ รูป-นาม ของเรานั้น มันเป็นอนัตตา ไม่มีตัวไม่มีตน ดังนั้น เราอย่าไปอยากมี อยากเป็น เพื่อก่อทุกข์ให้กับตัวเราอีกเลย เพราะเมื่อมันเป็นอนัตตา ไม่มีตัวไม่มีตน มันไม่สามารถยืนยงอยู่ได้ชั่วนาตาปี (เป็นอนิจจัง) เมื่อมันไม่ยืนยงอยู่ได้ มันย่อมเกิดความไม่สะบายกาย-ใจ เป็นทุกข์  ถ้าเราพิจารณาและเข้าใจได้ด้วยปัญญาอย่างนี้ จิตของเรามันจะปล่อยวาง ความอยากต่างๆ มันจะค่อยๆ จางไปๆ ความทุกข์ก็จะค่อยๆ หายไปๆ จิตของเราจะผ่องใสขึ้น มองโลกในแง่ดี สามารถมีจิตเหนือเวทนา ไม่ไปยึดติดกับทุกสิ่ง หรือพูดง่ายๆ ขึ้นคือ เราจะอยู่ในสังคมที่เป็นสุขขึ้น ไม่ทุกข์ไม่ร้อนใดๆ เลย มีสติอยู่กับอิริยาบถ ไม่ปรุงแต่งใดๆ หรือปรุงแต่งน้อยลง จิตก็จะสงบ ผ่องใส ครับ

                สวัสดียามเช้าทุกท่านครับ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #4381 เมื่อ: 25 พฤศจิกายน 2554, 07:52:32 »

              วันนี้ เราได้รับทราบ ความเดือดร้อนของผู้ประกอบอุตสาหกรรม ออกมาโวยรัฐฐาลที่ไม่มากอบกู้นิคมอุตสาหกรรม อย่างที่ผมบอก มันต้องมีการชุมนุม ให้ข่าว มันถึงจะเป็นสิ่งบอกให้รัฐบาลทำงาน เพราะรัฐบาลท่านไม่มีความคิดทั้งสิ้น เราต้องโทษตัวเราเองที่ประชาชนเลือกบุคคลพวกนี้เข้าไปเป็นรัฐบาล และปัญหาค่าแรงขั้นต่ำ ๓๐๐ บาท ก็เป็นทุกข์ของรัฐบาล ที่ผู้ประกอบการอุตสาหกรรม จะย้ายไปกัมพูชา หมดแล้ว เพราะรับไม่ได้กับค่าแรงจำนวนนี้ ของรัฐฐาลพรรคเพื่อไทย อันนี้สำคัญมาก การลงทุนจะหายไปจากชาวต่างชาติครับ

                นอกจากนี้ทางรัฐบาลที่ไม่มีสมอง เช่นคุณกิตติรัตน์ รองนายก จะให้นิคมอุตสาหกรรมต่างๆ ทำเขื่อนกั้นน้ำถาวร ทุกนิคม ท่าลืมคิดไปว่า ราคาค่าก่อสร้างเขื่อนต่างๆ นั้น เมตรละ 60,000-80,000 บาท ต่อเมตร ครับ แต่ละนิคมต้องสร้างยาวไม่ต่ำกว่า ๕ กิโลเมตร ขึ้นไปทั้งนั้น จะเอาเงินที่ไหนมา และไม่สามารถป้องกันได้ 100% และจะเป็นการบังคับให้น้ำต้องท้วม กทม. นนทบุรี ปทุมธานี อยุธยา อ่างทอง สิงห์บุรี มากขึ้นเพราะน้ำไม่มีที่ไป น้ำจะท้วมหรือไม่ มันอยู่ที่การบริหารจัดการน้ำที่ มองเห็นปัญหาจริงๆ เท่านั้น อย่าไปทำเขื่อนให้ประชาชนส่วนใหญ่ต้องน้ำท้วมมากขึ้นเลยครับ มันยังมีวิธีที่ดีกว่าอีกมาก ตามที่ผมเคยเสนอไปแล้ว หรืออย่างน้อย ให้ผมมีส่วนร่วมในการบริหารน้ำซิครับ ไม่เอาเงินเดือนทั้งสิ้น เพื่อประชาชนจะไม่น้ำท้วม หรือถ้ามีจะน้อยที่สุดครับ

                 วันนี้ผมต้องเดินทางไปนครศรีธรรมราช ครับ boarding 10:30 น. ที่สุวรรณภูมิ ครับ

                 สวัสดี
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #4382 เมื่อ: 25 พฤศจิกายน 2554, 08:04:52 »

พี่สิงห์

รัฐบาลปูคงคิดเพียงว่า น้ำหยุดท่วมแล้ว ทุกอย่างเป็นปกติ ตัวใคร-ตัวมัน ครับ
งบฯ ถูกถลุงไปเยอะแล้ว เดี่ยวจะมีไม่พอใช้ทำประชานิยม ในโครงการของตัวเอง
ใครเดือดร้อนอย่างไร ก็แก้ไข เอาตัวรอดเองก็แล้วกัน
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #4383 เมื่อ: 25 พฤศจิกายน 2554, 08:08:03 »

ลงใต้ระมัดระวังเรื่องสภาพอากาศด้วยครับ
ภาคใต้ 8 จังหวัดเป็นพื้นที่เฝ้าระวัง ส่วนพัทลุง เป็นพื้นที่ประสบภัยไปแล้ว

ประกาศเตือนภัย
"ฝนตกหนักและคลื่นลมแรงบริเวณภาคใต้ "

ฉบับที่ 15 ลงวันที่ 25 พฤศจิกายน 2554
 
     มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมภาคใต้และอ่าวไทยมีกำลังแรง ทำให้ภาคใต้ฝั่งตะวันออกตั้งแต่จังหวัดสุราษฏร์ธานีลงไป ยังคงมีฝนตกชุกหนาแน่นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ จึงขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยตามที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน และพื้นที่ลุ่มริมน้ำ บริเวณจังหวัดสุราษฏร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ตรัง และสตูล ระวังอันตรายจากสภาวะน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง ส่วนคลื่นลมในอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไปมีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือและเรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง สำหรับประชาชนที่อาศัยตามแนวชายฝั่งภาคใต้ฝั่งตะวันออก ให้ระวังอันตรายจากคลื่นสูงที่ซัดเข้าหาฝั่ง
อนึ่ง บริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงจากประเทศจีนยังคงแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยประกอบกับคลื่นกระแสลมตะวันตกเคลื่อนผ่านภาคเหนือของประเทศไทยแล้ว ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณภาคเหนืออุณหภูมิจะลดลงอย่างรวดเร็ว โดยมีอากาศหนาวเย็นลงอย่างต่อเนื่อง และจะมีน้ำค้างแข็งเกิดขึ้นได้ในบริเวณภูเขาสูงของภาคเหนือ
ประกาศ ณ วันที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554
ออกประกาศ เวลา 04.30 น.



สำนักพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา
กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร

 
 
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #4384 เมื่อ: 25 พฤศจิกายน 2554, 09:36:50 »

สวัสดีครับ คุณเหยง

               ขอบคุณมากที่เตือน เมื่อเช้าดูทาง TV ท่าศาลา แหลมตะลุมพุก โดนคลื่นสัดเข้าฝั่งระดับความสูง ๓ เมตร ทำให้ชายหาด ต้นไม่ เรือ เสียหายจำนวนมากครับ ธรรมชาติลงโทษ ประชาชนคนไทยหนักจริงๆ ปีนี้ ถ้วนหน้า ไม่รู้ธรรมชาติโกรธใครมา จึงมาลงโทษที่ประชาชนแทนครับ

               ผมอยู่สนามบินสุวรรณภูมิ รอขึ้นเครื่องครับ

               เมื่อเช้าอากาศที่ กทม. เย็น มีกระแสลมหนาวมาถึงแล้วครับ

               สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #4385 เมื่อ: 25 พฤศจิกายน 2554, 14:07:06 »


ผู้ว่าฯ กทม.สั่ง สนน.และเขตสำรวจพื้นที่กระทบเปิดประตูระบายน้ำ 3 แห่ง หลังพบบางจุดมีน้ำเพิ่ม

วันศุกร์ที่ 25 พฤศจิกายน 2011 เวลา 10:31 น. กองประชาสัมพันธ์ กทม.


                (25 พ.ย.54) ที่ศาลาว่าการกทม. เวลา 10.00 น. : นายวสันต์ มีวงษ์ โฆษกกรุงเทพมหานคร เปิดเผยผลการประชุมสรุปสถานการณ์น้ำและการแก้ไขปัญหากรุงเทพฯ ซึ่งมี ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทมหานคร เป็นประธานการประชุม โดยในวันนี้ ระดับน้ำทะเลหนุนเมื่อเวลา 07.52 น. อยู่ระดับ +1.22 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาในเวลาเดียวกันสูงที่ระดับ 2.22 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง และน้ำทะเลจะหนุนสูงอีกครั้งในเวลา 16.31 น. ที่ระดับ +1.18 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ส่วนน้ำที่อ.บางไทร 3.28 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ลดลงจากเมื่อวาน 8 ซม.
 
               ในส่วนของน้ำทุ่งดอนเมือง คลองหกวาสายล่างที่ประตูระบายน้ำคลองสอง และคลองมหาสวัสดิ์ที่ประตูระบายน้ำคลองทวีวัฒนา ลดระดับลง 2-3 ซม. ระดับน้ำในคลองสายต่างๆ ยังมีระดับสูงและล้นตลิ่ง ส่วนคลองสายหลัก ระดับน้ำลดลง 2-5 ซม. ได้แก่ คลองแสนแสบ คลองประเวศบุรีรมย์ คลองลาดพร้าว คลองเปรมประชากร คลองบางเขนช่วงใกล้คลองบางบัว และคลองบางซื่อ ขณะเดียวกันคลองช่วงบนทั้งหมดฝั่งธนบุรี เริ่มลดลง 1- 2 ซม.

                สำหรับสถานการณ์น้ำด้านพื้นที่ตะวันตก นั้น กทม.ได้ระดมเครื่องสูบน้ำจำนวนมากเพื่อเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ ซึ่งทำให้หลายพื้นที่ด้านตะวันตกระดับน้ำลดลงและบางแห่งแห้งจนเกือบเป็นปกติ แต่ภายหลังจากที่กทม.เปิดประตูระบายน้ำ 3 แห่งตามข้อเรียกร้องของชาวนนทบุรี ได้แก่ คลองขุนศรีบุรีรักษ์ คลองควาย และคลองซอย ที่ระดับ 1 เมตร แม้ระดับในคลองมหาสวัสดิ์จะลดลง 3 ซม. แต่ส่งผลกระทบให้พื้นที่แขวงศาลาธรรมสพน์ เขตทวีวัฒนา โดยเฉพาะหมู่บ้านและชุมชนในซอยย่อย มีระดับน้ำเพิ่มขึ้น 5-10 ซม. ซึ่งจะต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ กทม.จะติดตั้งเครื่องสูบน้ำคลองศาลเจ้าและคลองสวนแดน เพื่อเร่งระบายน้ำในบริเวณถนนทุ่งมังกร และถนนฉิมพลี  และเพิ่มการสูบน้ำบริเวณคลองทวีวัฒนาตัดเพชรเกษม เพื่อลงคลองภาษีเจริญให้เร็วขึ้น
 
                 ทั้งนี้ ผู้ว่าฯ กทม. มอบหมายให้สำนักการระบายน้ำ สำนักงานเขตทวีวัฒนา หนองแขม และภาษีเจริญ สำรวจพื้นที่ภายในชุมชนและหมู่บ้านที่ได้รับผลกระทบจากระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้นจากการเปิดประตูระบายน้ำ ทั้ง 3 แห่ง รวมถึงประตูระบายน้ำฉิมพลี ตลอดจนติดตามอิทธิพลของระดับน้ำทะเลหนุนสูงที่อาจส่งผลกระทบให้น้ำเข้าท่วมพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา และฝั่งตะวันตกด้วย

 
กทม.เก็บขยะน้ำท่วมได้เกิน 100%

วันศุกร์ที่ 25 พฤศจิกายน 2011 เวลา 10:29 น. กองประชาสัมพันธ์ กทม.


                 (25 พ.ย.54) นายพรเทพ เตชะไพบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร รายงานผลการจัดเก็บขยะต่อที่ประชุมคณะผู้บริหารเพื่อติดตามสถานการณ์น้ำว่า ปริมาณขยะภาพรวมของกทม. 50 เขต เมื่อวันที่ 23 พ.ย.จัดเก็บได้ 9,507 ตัน คิดเป็น 111.8% ของปริมาณขยะในสภาวะปกติ 8,500 ตัน โดยศูนย์กำจัดมูลฝอยหนองแขม กำจัดโดยวิธีฝังกลบ 3,093 ตัน ศูนย์กำจัดมูลฝอยอ่อนนุช กำจัดโดยวิธีฝังกลบ 5,363 ตัน และนำไปหมักทำปุ๋ย 1,051 ตัน เฉพาะในส่วนของการเก็บขยะ 25 เขตน้ำท่วม จัดเก็บได้ 4,396 ตัน คิดเป็น 102% ของปริมาณขยะในสภาวะปกติ 4,313 ตัน โดยเขตที่จัดเก็บได้สูงสุด คิดเป็น 189% ได้แก่ เขตบางพลัด เก็บได้จำนวน 260 ตัน และเขตที่จัดเก็บได้น้อยที่สุด คิดเป็นร้อยละ 68% ได้แก่ เขตบางแค จำนวน 175 ตัน ด้านการบำบัดกลิ่นและน้ำเสีย วานนี้ (24 พ.ย.) ดำเนินการฉีดพ่นน้ำจุลินทรีย์ในพื้นที่เขตทวีวัฒนา ปริมาณ 12,000 ลิตร โดยในวันนี้สำนักสิ่งแวดล้อมกทม.จะลงพื้นที่เพื่อฉีดพ่นน้ำจุลินทรีย์ในพื้นที่เขตดอนเมือง
 

 
 

      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #4386 เมื่อ: 25 พฤศจิกายน 2554, 14:35:51 »


               - สิงห์บุรี ระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่ง ๑.๙๖ ม.
                - อ่างทอง ระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่ง ๒.๔๐ ม.
                - อยุธยา ระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่ง ๐.๓๐ ม.
                - บางไทร ระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่ง ๐.๘๑ ม.

                   ดังนั้น พื้นที่จังหวัด สิงห์บุรี อ่างทอง อยุธยา บางไทร ถ้าท่านเห็นยังมีปริมาณน้ำค้างทุ่งอยู่จำนวนมาก นั้น นั่นแสดงว่าเป็น "น้ำเหลือเดน" ที่ไม่สามารถระบายลงแม่น้ำเจ้าพระยาได้ ทั้งๆที่ตลิ่งโผล่หมดแล้ว น้ำจำนวนนี้ต้องรอให้ ระเหยไปในอากาศ ซึมลงดิน หรือรอให้กรมชลประทานสูบทิ้ง ต่อไปครับ อย่างลืม ประชาชนที่น้ำยังท้วมอยู่ท่านต้องชุมนุมประท้วง หรือปิดถนน ถ้าท่านไม่ทำ รัฐบาลท่านจะนึกว่าท่านไม่เดือดร้อน ก็จะไม่ทำอะไรเหมือนกัน ครับ

                - ปทุมธานี ระดับน้ำยังสูงกว่าตลิ่ง ๐.๒๕ ม.
                - ปากเกล็ด ระดับน้ำยังสูงกว่าตลิ่ง ๐.๐๕ ม.

                  ดังนั้น หมู่บ้านไหน เช่น บ้านอาจารย์ถาวร ยังสูงเหนือเข่า ๑๐ ซม. ในเขต ปทุมธานี และปากเกล็ด แสดงว่า น้ำไม่มีที่ไปเป็น "น้ำเหลือเดน" เช่นกัน ต้องรอสูบทิ้งอย่างเดียว ถ้าหมู่บ้านไหนไม่สูบทิ้ง ประชาชนในหมู่บ้านต้องปิดถนนประท้วงรัฐบาล รัฐบาลจึงจะมาสูบน้ำออกให้ครับ สำหรับบ้านอาจารย์ถาวร นั้น ท่านบอกว่า ไม่อยากสร้างทุกข์เพิ่มอีกแล้วในชาตินี้ ปล่อยมันไป มันจะต้องท้วมนานก็ปล่อยมันไปจะได้สิ้นเวรกรรมในชาตินี้ครับ ไม่มีเวรกรรมเหลืออีกแล้ว

                  เราลองมาดูกันครับ ระหว่างบ้าน ดร.สุริยา และบ้านอาจารย์ถาวร บ้านไหนจะสามารถเข้าบ้านได้ก่อนกัน จริงอยู่บ้าน ดร.สุริยา หมู่บ้านสูบน้ำทิ้งและแห้งแล้ว แต่ ดร.สุริยา ก็ยังไม่สามารถเข้าบ้านได้ ครับ จึงหน้าที่จะสูสีกันครับ ต้องมีอย่างน้อยอีกหนึ่งอาทิตย์ขึ้นไปแน่นอนครับ
 
                  เช่นกัน วันนี้ได้ข่าวว่า ประชาชนทางรามอินทรา จะประท้วง ที่ระดับน้ำไม่ยอมลดลง น้ำท้วมมาเกินหนึ่งเดือนแล้ว ก็ต้องว่ากันไป ตามนี้ กทม. รัฐบาล ท่านถึงจะมาจัดการให้ครับ

                   โดยรวมสิ้นปีน้ำก็ยังแห้งไม่หมดครับ โดยเฉพาะ ดอนเมือง เมืองเอก(หมู่บ้านไม่มีเงินมาจัดการสูบน้ำทิ้ง เพราะพื้นที่ใหญ่มาก และสนามกอล์ฟเมืองเอกจมน้ำทั้งสามสนาม โอกาสฟื้นริบหรี่เต็มทีครับ ต้องมีเงิน ๓๐๐ ล้านบาท Banks ไม่ให้กู้เรื่องทำสนามกอล์ฟแน่นอน ครับ) สายไหม รามอินทรา ลำลูกกา สามวา ต้องทนน้ำท้วมไปก่อนครับ เพราะน้ำลดลงวันละ ๒-๓ ซม.เองครับ ท่านก็หารเอาเองจะรู้ว่ามันจะแห้งเมื่อไร ครับ

                    วันนี้ผมลงเครื่องบินที่นครศรีธรรมราช ท้องฟ้ามีแต่เมฆมืดไปหมด ไม่เห็นพระอาทิตย์ แต่ฝนไม่ตก ครับ

                    สวัสดีครับ            
     
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #4387 เมื่อ: 25 พฤศจิกายน 2554, 14:41:01 »

สรุป สถานะการณ์น้ำท้วม

ณ วันนี้ พื้นที่ไหน หมู่บ้านไหน บ้านใคร ระดับน้ำสูงกว่า ๒๕ ซม.

ท่านต้องเข้าใจว่า เป็นพื้นที่ต่ำ และน้ำไม่มีทางไป ต้องสูบทิ้งอย่างเดียว

ท่านต้องชุมนุมประท้วง กทม. รัฐบาล จึงจะมีคนมาจัดการให้

ถ้าท่านอยู่เฉยๆ ก็รอไปก่อน  หลังปีใหม่แล้ว น้ำถึงจะแห้ง

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #4388 เมื่อ: 25 พฤศจิกายน 2554, 18:18:29 »

พี่สิงห์ถึงนครฯโดยสวัสดิภาพรึยังคะ?
หนิงฟังเตือนพายุฟ้าคะนองเข้าทางใต้
ยังห่วงๆอยู่คะ.

วันนี้วันพระเหรอพี่?
หว่าย,ว่าจะไปดื่มไวน์ร้อน(Glühwein)
เค้าเริ่มงานคริสต์มาสกันแล้ว
มีให้ดื่มหลายที่แก้วละ 1,50 €-2,00 €
ต้มไวน์แดงใส่เครื่องเทศใส่น้ำตาล..
อ่ะร้อยยอร่อยคะพี่สิงห์!

มีนา 2012ที่พี่จะไปอิตาลี/สวิสนั้น
คงทันงานcarneval...ขอบอก,ว่าน้ำผลไม้ต้มนี้
อร่อยดีแท้แก้หนาวค่าาาาา
พี่สิงห์เตรียมตัวกรึ๊บ.
      บันทึกการเข้า


เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #4389 เมื่อ: 25 พฤศจิกายน 2554, 20:26:36 »

ประกาศฉบับที่ 17 ยังเตือนภัยอยู่ครับ

 
ประกาศเตือนภัย
"ฝนตกหนักและคลื่นลมแรงบริเวณภาคใต้"

ฉบับที่ 17 ลงวันที่ 25 พฤศจิกายน 2554
 
     มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมภาคใต้และอ่าวไทยยังคงมีกำลังค่อนข้างแรง ทำให้ภาคใต้ ฝั่งตะวันออกตั้งแต่จังหวัดสุราษฏร์ธานีลงไป มีฝนตกอยู่ในเกณฑ์กระจายถึงเกือบทั่วไปและมีฝนตกหนักบางพื้นที่ จึงขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยตามที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน และพื้นที่ลุ่มริมน้ำ บริเวณจังหวัด นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ตรัง และสตูล ระวังอันตรายจากสภาวะ น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง ส่วนคลื่นลมในอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราช ลงไปมีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือและเรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง สำหรับประชาชนที่อาศัยตามแนวชายฝั่งภาคใต้ฝั่งตะวันออก ให้ระวังอันตรายจากคลื่นสูงที่ซัดเข้าหาฝั่งในระยะ 1-2 วันนี้
อนึ่ง บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนยังคงปกคลุมประเทศไทย ประกอบกับคลื่นกระแสลมตะวันตกพาดผ่านประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวอากาศหนาวเย็นลงอย่างต่อเนื่อง และ อุณหภูมิจะลดลงอีก 2-4 องศา กับมีน้ำค้างแข็งเกิดขึ้นได้ในบริเวณภูเขาสูงของภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 26-28 พ.ย. 2554

ประกาศ ณ วันที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554
ออกประกาศ เวลา 16.30 น.
 

สำนักพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา
กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร

 
 

      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #4390 เมื่อ: 25 พฤศจิกายน 2554, 20:38:36 »

สวัสดีครับ คุณเหยง

               ที่นครศรีธรรมราช วันนี้มันไม่ได้เป้นอย่างที่ประกาศ ฉบับที่ ๑๗ เลย คือ ท้องฟ้ามีเมฆจริง แต่ฝนตกเปาะแปะ ไม่มาก ตกแบบฝนไล่ช้างเสียด้วยซ้ำ ตอนเย็นมีแสงแดดจ้าเป็นพักๆ มองลงมาจากเครื่องบิน ทะเลมีคลื่นแต่ไม่สูงมาก ชายฝั่งเป็นปกติ แต่ไม่มีเรือเล็กออกจากฝั่ง อาจจะเป็นเพราะประกาศ ชาวปะมงชายฝั่งจึงไม่ออกเรือ พายุไม่มี ครับ

               สวัสดีครับ
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #4391 เมื่อ: 25 พฤศจิกายน 2554, 20:45:45 »

พี่สิงห์ครับ

มีพยากรณ์อากาศ และมีคนอยู่ในพื้นที่ ซึ่งรู้ความในประกาศ ย่อมสามารถแปรค่าได้ว่า ถูกหรือผิด
เสียดายที่ไม่สามารถสื่อสารกับผู้พยากรณ์ได้ว่า ผลพยากรณ์กับความจริง แตกต่างกันอย่างไร
เพื่อจะได้มีการปรับปรุง หรือพัฒนา ให้มีการพยากรณ์อากาศที่ถูกต้องมากที่สุดในอนาคตครับ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #4392 เมื่อ: 25 พฤศจิกายน 2554, 20:48:59 »

สวัสดีค่ะ คุณน้องหนุ๋งหนิ๋ง ที่รัก

                พี่สิงห์ อยู่นครศรีธรรมราช ตอนเครื่องบิน Landing มีลมพัดส่ายไปมานิดหน่อย ไม่นิ่ง แต่พอล้อแตะรันเวย์นิ่งครับ

                ไวน์แดงต้มกับพี่สิงห์ไม่ถูกกัน ปีที่แล้วพยายามทดลองสองครั้ง ดื่มไม่ได้จริงๆ แต่ปีนี้ รักษาศีล ๕ คงงดครับ

                แต่ได้บอกคุณสุดสาครไปแล้ว ว่าจะหาไวน์อร่อยๆ ราคาไม่แพงมาฝาก ถึงแม้คุณ John Skinner จะจากไปไม่มีวันกลับแล้วก็ตาม

                วันนี้พี่สิงห์ออกกำลังกายตอนเย็น เดินเร็วๆ ให้หัวใจเต้น 110-120 ครั้งต่อนาที ใช้เวลาหนึ่งชั่วโมง และฝึกโยคะต่ออีกพัก จึงไปซาวน่า  เพราะสองสามวันที่ผ่านมา รับประทานสะเต็กทุกวัน เพราะอยู่ปากช่อง สระบุรีแดนสะเต็ก ครับ

                อาหารมื้อเย็นวันนี้ จึงเป็นส้มตำไทย กระเทียมสดหนึ่งถ้วยเล็ก และแอปเปิล หนึ่งผล ครับ

                สวัสดีค่ะ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #4393 เมื่อ: 25 พฤศจิกายน 2554, 20:54:51 »

รู้ประวัติพุทธสาวก อรหันต์ เอตทัคคะ

ลำดับที่ ๓๑

พระโสณภิตเถระ

เอตทัคคะในทางระลึกปุพเพนิวาสานุสติญาณ

                พระโสภิตะ เกิดในตระกูลพราหมณ์ เมืองสาวัตถี ชื่อบิดามารดาของท่านไม่ปรากฏ เมื่อท่านเจริญเติบโตขึ้นได้ศึกษาศิลปะวิทยา คือ วิชาไตรเพทตามลัทธิพราหมณ์ ต่อมาท่านได้มีโอกาสเข้าเฝ้าพระบรมศาสดาที่พระเชตะวันมหาวิหาร ได้ฟังพระธรรมเทศนาแล้วเกิดศรัทธาเลื่อมใสกราบทูลขออุปสมบทในพระธรรมวินัย ครั้นได้อุปสมบทแล้วศึกษาพระกรรมฐานบำเพ็ญสมณธรรมเจริญวิปัสสนากรรมฐาน ไม่นานนักก็สำเร็จพระอรหัตผลพร้อมด้วย

ปฏิสัมภิทาทั้ง ๔ ประการ กล่าวคือ

                ๑. อัตถปฏิสัมภิทา ปัญญาอันแตกฉานในอรรถ (ผล)
                ๒. ธัมมปฏิสัมภิทา ปัญญาอันแตกฉานในธรรม (เหตุ)
                ๓. นิรุตติปฏิสัมภิทา ปัญญาอันแตกฉานในนิรุต (นิรุตติ คือ ภาษาที่จะพูดให้คนอื่นเข้าใจ)
                ๔. ปฏิภาณปฏิสัมภิทา ปัญญาอันแตกฉานในปฏิภาณ (ปฏิภาณ คือ การโต้ตอบ)

      นอกจากนี้ท่านยังมีปกติสั่งสมวสี ๕ ประการ คือความชำนาญแคล่วคลองในปุพเพนิวาสานุสสติญาณ ได้แก่ ญาณเป็นเครื่องระลึกชาติในอดีตได้

วสี ๕ ประการ คือ:-

                 ๑. อาวัชชนวสี ความชำนาญในการนึก
                 ๒. สมาปัชชนวสี ความชำนาญในการเข้า
                 ๓. อธิษฐานวสี ความชำนาญในการหยุด
                 ๔. วุฏฐานวสี ความชำนาญในการออก
                 ๕. ปัจจเวกขณวสี ความชำนาญในการพิจารณา

ได้รับยกย่องในทางระลึกบุพเพนิวาสานุสสติ

               ด้วยความชำนาญแคล่วคล่องดังกล่าวนี้ ครั้งหนึ่งท่านนั่งพิจารณาการระลึกชาติในอดีตของท่านเองได้มากมายหลายแสนชาติแล้วเกิดปีติโสมนัส ขึ้นว่า “เราเป็นผู้มีสิตปัญญาระลึกชาติในอดีตได้ถึง ๕๐๐ กัป อย่างรวดเร็ว เหมือนนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในคืนเดียว ทั้งนี้ก็เพราะเราเจริญสติปัฎฐาน ๔ โพชฌงค์ ๗ และมรรคมีองค์ ๘ นั่นเอง”

               นับว่าท่านเป็นพระขีณาสพผู้ประเสริฐ เลิศด้วยความรู้ความสามารถ พระบรมศาสดา จึงทรงยกย่องท่านว่าเป็นผู้มีความสามารถในการระลึกชาติได้ เสมอกับพระองค์ และทรงแต่งตั้งท่านในตำแหน่งเอตทัคคะ เป็นผู้เลิศกว่าภิกษุทั้งหลาย ในทาง ระลึกปุพเพนิวาสานุสสติญาณ

               ท่านดำรงอายุสังขารช่วยกิจการพระพุทธศาสนาสมควรแก่กาลเวลาแล้วก็ดับขันธปรินิพพาน
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #4394 เมื่อ: 25 พฤศจิกายน 2554, 21:00:32 »

วันศุกร์ ที่ 25 พฤศจิกายน 2554 เวลา 20.56 น.
 สถานการณ์น้ำวันนี้
 สถานการณ์น้ำ ประจำวันที่ 25 พฤศจิกายน 2554 (เวลา 08.00 น.)



น้ำเหนือ
 - ระดับน้ำเจ้าพระยาที่ อ.บางไทร 3.28 ม.รทก. (ลดลงจากเมื่อวาน 8 ซม.)
 
น้ำทะเลหนุนสูง
 - วันนี้เวลา 07.52 น. ระดับ +1.22 ม.รทก. และเวลา 16.31 น. ระดับ +1.18 ม.
 - วันพรุ่งนี้เวลา 08.59 น. ระดับ +1.31 ม.รทก. และเวลา 17.16 น. ระดับ +1.17 ม.

ระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาตรวจวัดที่ปากคลองตลาด
 - ระดับน้ำสูงสุด เช้าวานนี้ เวลา 05.45 น. ระดับ +2.02 ม.รทก. (ต่ำกว่าคันกั้นน้ำ 78 ซม. )
 - ระดับน้ำสูงสุด เย็นวานนี้ เวลา 15.45 น. ระดับ +1.99 ม.รทก. (ต่ำกว่าคันกั้นน้ำ 81 ซม. )
 - ระดับน้ำสูงสุด เช้าวันนี้ เวลา 07.00-08.00 น. ระดับ +2.07 ม.รทก. (ต่ำกว่าคันกั้นน้ำ 73 ซม. )
 - คาดการณ์จากกรมอุทกศาสตร์ วันนี้ เวลา 07.52 น. ระดับ +2.22 ม.รทก.

น้ำทุ่ง
 - พื้นที่ดอนเมือง (24 ชม.ที่ผ่านมา) ระดับน้ำลดลง 2 ซม.
 - ระดับน้ำคลองหกวาสายล่าง ที่ประตูระบายน้ำคลองสอง ( 24 ชม.ที่ผ่านมา) ระดับน้ำลดลง 3 ซม.
 - ฝั่งธนบุรี ระดับน้ำคลองมหาสวัสดิ์ ที่ประตูระบายน้ำคลองทวีวัฒนา ( 24 ชม.ที่ผ่านมา) ระดับน้ำลดลง 3 ซม.
 
ภาพรวมสถานการณ์ใน กทม. (24 ชั่วโมงที่ผ่านมา)
 - คลองเปรมประชากร ระดับน้ำลดลง 2-5 ซม.
 - คลองบางเขน ระดับน้ำลดลง 5-6 ซม. ช่วงใกล้คลองบางบัว ระดับน้ำลดลง 1-2 ซม..
 - คลองลาดพร้าว ระดับน้ำลดลง 1-3 ซม.
 - คลองบางซื่อ ระดับน้ำลดลง 3-5 ซม.
 - คลองแสนแสบ ระดับน้ำลดลง 3-4 ซม.
 - คลองประเวศน์บุรีรมย์ ระดับน้ำลดลง 2-3 ซม.
 - คลองสายหลักพื้นที่ฝั่งธนบุรีตอนบน แนวคลองมหาสวัสดิ์ที่มีการเปิดประตูเพิ่มเติม ระดับน้ำลดลง 1-2 ซม.
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #4395 เมื่อ: 25 พฤศจิกายน 2554, 21:02:59 »

วันนี้ ราตรีสวัสดิ์ทุกท่านครับ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #4396 เมื่อ: 26 พฤศจิกายน 2554, 05:40:07 »

อรุณสวัสดิ์ครับ ชาวซีมะโด่ง ที่รักทุกท่าน

               เมื่อคืนที่ผ่านมาเวลาประมาณตีสามถึงตีสี่ครึ่ง ที่นครศรีธรรมราช มีลมแรงมาก ผมนอนอยู่ที่โรงแรมชั้นสิบเอ็ด ได้ยินเสียงลมพัดกระทบโรงแรมเป็นเสียงหวีดหวิว ดังมาก และรับรู้ได้เลยถึงการสั่นไหวของโรงแรม และมีฝนตกด้วย ขระนี้ยังมีฝนตกพรำๆ อยุ่เลย

               ดังนั้น เช้านี้ผมคงไม่สามารถ เดินจงกรมออกกำลังกายที่เทอเรสได้ คงต้องออกกำลังกายในห้องฟิตเนส แทนครับ

               เช้านี้ ผมได้นำ วาทะการโต้ตอบระหว่างพระพุทธองค์กับสัจจกนิครนถ์ มาฝากทุกท่าน เป็นปรัชญาของศาสนาพุทธ คือ "อนัตตา" ขอให้ทุกท่านพิจารณาด้วยปัญญาครับ

               สวัสดี


๓๕. จูฬสัจจกสูตร
สูตรว่าด้วยสัจจกนิครนถ์ สูตรเล็ก

   ๑. พระผู้มีพระภาคประทับ ณ ศาลาเรือนยอดในป่าใหญ่ ใกล้กรุงเวสาลี(แคว้นวัชชี) ในสมัยนั้น สัจจกนิครนถ์อยู่ในกรุงเวสาลี เป็นผู้ชอบโต้เถียง ยกตนว่าฉลาด ชนหมู่ใหญ่ยกย่องว่าดี. สัจจกนิครนถ์พูดในที่ประชุมชนกรุงเวสาลีว่า ไม่เห็นใครแม้ที่จะปฏิญญาตนว่าเป็นพระอรหันต์ ตรัสรู้ชอบด้วยตนเอง ที่ตนโต้ตอบด้วยแล้วจะไม่หวั่นไหว ไม่มีเหงื่อไหลออกมาจากรักแร้ อย่าว่าแต่มนุษย์เลย แม้ตนจะโต้ตอบกับต้นเสา ต้นเสาก็ยังหวั่นไหว.

   ๒. สัจจกนิครนถ์พบพระอัสสชิเถระ เช้าวันหนึ่ง จึงเข้าไปหาปราศรัยแล้วถามว่า พระสมณโคดมแนะนำสาวกอย่างไร  คำสอนส่วนใหญ่คืออะไร  พระอัสสชิตอบว่า ทรงสอนว่า ขันธ์ ๕ คือ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ไม่เที่ยง ไม่ใช่ตัวตน สังขารทั้งปวงไม่ใช่ตัวตน. สัจจกนิครนถ์ก็กล่าวว่า ท่านฟังมาไม่ดีแล้ว ที่ได้ฟังพระสมณโคดมผู้มีวาทะอย่างนี้ ตนพบพระสมณโคดมคราวใดคราวหนึ่งก็จะถ่ายถอนจากความเห็นอันชั่วนี้ให้ได้ สัจจกนิครนถ์จึงเข้าไปยังที่ประชุมของเจ้าลิจฉวีประมาณ ๕๐๐ เล่าความที่โต้ตอบกับพระอัสสชิให้ฟัง และอวดอ้างว่าจะฟัดพระสมณโคดมเสียด้วยวาทะเหมือนดึงขนแกะเล่นเป็นต้น.

   ๓. สัจจกนิครนถ์จึงพร้อมด้วยเจ้าลิจฉวี ๕๐๐ ไปยังศาลาเรือนยอดป่ามหาวัน เมื่อพบพระพุทธเจ้าแล้วก็กล่าว ขอโอกาสเพื่อให้ตอบปัญหา พระผู้มีพระภาคทรงอนุญาตให้ถามได้ ก็ถามว่า ทรงแนะนำสาวกอย่างไร คำสอนส่วนใหญ่คืออะไร ตรัสตอบอย่างที่พระอัสสชิเถระตอบ. สัจจกนิครนถ์แย้งว่า พืชพันธุ์ไม้ และคน สัตว์ อาศัยแผ่นดินฉันใด คนเราก็อาศัยรูปเวทนา เป็นต้น ได้ประสบบุญและมิใช่บุญ (เท่ากับว่า ถ้าปฏิเสธ ขันธ์ ๕ ว่าเป็นอัตตาเสียแล้ว ก็คล้ายกับไม่มีมูลฐาน เหมือนคน สัตว์ ต้นไม้ เมื่อไม่มีดิน ก็ไม่มีที่ตั้ง).

   ๔. ตรัสย้อนถามว่า ถ้าอย่างนั้น ท่านกล่าวว่า ขันธ์ ๕ เป็นตนของท่านใช่ไหม. สัจจกนิครนถ์ตอบว่า ใช่ ประชุมชนใหญ่นี้ก็ว่าอย่างนั้น. ตรัสตอบว่า ประชุมชนใหญ่นี้จะทำอะไร  ท่านจงแก้วาทะของตนเองเถิด สัจจกนิครนถ์จึงยืนยันว่า ข้าพเจ้ากล่าวว่า ขันธ์ ๕ เป็นตนของข้าพเจ้า.

   ๕. ตรัสถามว่า กษัตริย์ผู้ได้รับมูรธาภิเษก มีอำนาจต่างๆ ในแว่นแคว้นของพระองค์ เช่น การฆ่า การริบทรัพย์ การเนรเทศใช่หรือไม่ ทูลรับว่าใช่.  ตรัสถามว่า ท่านกล่าวว่า รูป (ส่วนหนึ่งใน ๕ ส่วนของขันธ์ ๕) เป็นตัวตนของท่าน ท่านจะมีอำนาจในรูปนั้นว่า จงเป็นอย่างนี้เถิด อย่าเป็นอย่างนั้นเลยได้หรือไม่. สัจจกนิครนถ์นิ่ง ตรัสถามย้ำถึง ๓ ครั้งก็นิ่ง ในที่สุดก็ยอมรับว่าไม่มีอำนาจให้รูปเป็นอย่างนั้นอย่างนี้. จึงตรัสถามไปทีละข้อจนถึงวิญญาณ  ซึ่งสัจจกนิครนถ์ก็ยอมรับว่า ไม่มีอำนาจเป็นอย่างนั้นอย่างนี้เช่นเดียวกันทุกข้อ

   ๖. ตรัสถามว่า ขันธ์ ๕ เที่ยงหรือไม่เที่ยง. ตอบว่า ไม่เที่ยง. ตรัสถามว่า สิ่งใดไม่เที่ยง สิ่งนั้นเป็นทุกข์หรือเป็นสุข. ตอบว่า เป็นทุกข์. ตรัสถามว่า สิ่งใดไม่เที่ยง เป็นทุกข์ มีความแปรปรวนไปเป็นธรรมดา ควรหรือที่จะตามเห็นว่า นั่นของเรา เราเป็นนั่น นั่นเป็นตัวตนของเรา ตอบว่า ไม่ควร. ตรัสถามว่า ผู้ใดติดทุกข์ ยึดทุกข์ ตามเห็นว่า ทุกข์นั้นเป็นของเรา เราเป็นนั่น นั่นเป็นตัวตนของเรา ผู้นั้นจะกำหนดรู้ทุกข์ หรือทำทุกข์ให้สิ้นไปได้หรือไม่. ตอบว่า ไม่ได้. ตรัสถามว่า ท่านติดทุกข์ ยึดทุกข์ ตามเห็นว่าทุกข์นั้นเป็นของเราเป็นตนใช่หรือไม่ สัจจกนิครนถ์ยอมรับว่าเป็นเช่นนั้น.

   ๗. ตรัสเปรียบว่า คนที่ต้องการแก่นไม้  แต่ไปตัดต้นกล้วย จึงไม่ได้แม้แต่กะพี้ไม้ จึงไม่จำเป็นต้องกล่าวถึงแก่น ตัวท่านที่อวดตนในเรื่องการโต้ตอบว่า ผู้ที่พูดกับท่านจะต้องหวั่นไหว เหงื่อแตก แม้แต่เสาก็หวั่นไหว บัดนี้เหงื่อของท่านไหลเอง ตถาคตไม่มีเหงื่อไหลเลย สัจจกนิครนถ์ก็นั่งนิ่งเก้อเขิน.  บุตรเจ้าลิจฉวีชื่อทุมมุขะ ก็กราบทูลพระผู้มีพระภาคถึงสัจจกนิครนถ์ว่าเหมือนปูถูกหักก้าม  สัจจกนิครนถ์ก็ว่าบุตรเจ้าลิจฉวีว่าเป็นเรื่องของการสนทนาระหว่างพระสมณโคดมกับตน (คนอื่นไม่ควรเกี่ยว)

   ๘. แล้วสัจจกนิครนถ์จึงทูลถามว่า สาวกของพระองค์จะข้ามความสงสัย ไม่ต้องพึ่งผู้อื่น (ในเรื่องความเชื่อ) ด้วยเหตุเพียงเท่าไร. ตรัสตอบว่า สาวกนั้นเห็นด้วยปัญญาอันชอบตามเป็นจริงว่า ขันธ์ ๕ ทุกชนิด ไม่เป็นของเรา เราไม่เป็นนั่น นั่นไม่เป็นตัวตนของเรา. ทูลถามว่า ภิกษุจะเป็นพระอรหันต์ขีณาสพด้วยเหตุเพียงเท่าไร ก็ตรัสตอบอย่างเดียวกับตอนแรก คือไม่ยึดถือขันธ์ ๕ ว่าเป็นของเรา เป็นต้น แล้วตรัสสรุปว่า ภิกษุผู้หลุดพ้นแล้วอย่างนี้ ย่อมประกอบด้วย อนุตตริยะ (สิ่งยอดเยี่ยม) ๓ ประการ คือ ทัสสนานุตตริยะ (ความเห็นอย่างยอดเยี่ยม) ปฏิปทานุตตริยะ (ความปฏิบัติอย่างยอดเยี่ยม) วิมุตตานุตตริยะ (ความหลุดพ้นอย่างยอดเยี่ยม) ย่อมเคารพบูชาตถาคตว่า ตรัสรู้, ฝึกพระองค์, ข้ามพ้น, ดับเย็น, ด้วยพระองค์เองแล้วจึงแสดงธรรมเพื่อให้ผู้อื่นเป็นเช่นนั้น.

   ๙. สัจจกนิครนถ์กราบทูลยอมรับว่าตนผิด และนิมนต์พระผู้มีพระภาค พร้อมด้วยภิกษุสงฆ์ไปฉันภัตตาหาร ซึ่งพระผู้มีพระภาคก็ทรงรับนิมนต์ และเสด็จไปฉัน ณ อารามของนิครนถ์นั้นในวันรุ่งขึ้น.


                  สมัยที่นายชวน  หลีกภัย เป็นนายกรัฐมนตรี ครั้งแรก หลวงพ่อเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายองค์ปัจจุบัน ก็เป็นเช่น สัจจกนิครนถ์ คือ ได้สอนว่า ขันธ์ ๕ ซึ่งประกอบไปด้วย รูป เวทนา สัญญา สังขาร และวิญญาณ นั้น เป็น "อัตตา" ตรงกันข้ามกับพระพุทธองค์ หรือผิดหลักปรัชญาทางศาสนาพุทธ จนพระพรหมคุณาภรณ์ (ประยุต   ปยุตฺโต ) ต้องออกมาชี้แจงตอบโต้เพื่อปกป้องพระศาสนา จนเกือบถูกอิทธิพลของวัดธรรมกายลงโทษ แต่ผลสุดท้าย ท่านก็ทรงปกป้องพระศาสนาเอาไว้ได้ คือท่านได้ชี้แจงปรัชญาของศาสนาพุทธตามที่พระพุทธองค์ทรงสอนเอาไว้ ว่าขันธ์ ๕ เป็นอนัตตา เพราะเราไม่สามารถบังคับให้เป็นอย่างนั้น ไม่เป็นอย่างนี้ได้ มันเป็นเรื่องของจิต ที่ไม่มีตัวไม่มีตน ครับ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #4397 เมื่อ: 26 พฤศจิกายน 2554, 08:09:25 »


               - คลองเปรมประชากร ช่วงวัดเทวสุนทร ระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่ง ยังผลให้น้ำที่ถนนแจ้งวัฒนะ สี่แยกหลักสี่ แห้งแล้วนะครับ รถสามารถวิ่งได้ ยังเหลือช่วงสน.ดอนเมืองเท่านั้น ดังนั้น น้ำในเขตดอนเมือง จนถึงเมืองเอกรังสิต น้ำยังท้วมขังอยู่ ยังห่ทางออกไม่ได้ คือต้องรอค่อยๆ ระบายลงคลองเปรมประชากร แล้วสูบออกไปเรื่อยๆ หรือช่วยสูบกลับไปลงคลองรังสิต ลงแม่น้ำเจ้าพระยา อีกนานครับ คงสองสัปดาห์เป็นอย่างน้อย

                - เช่นเดียวกันระดับน้ำเขตสายไหม ยังมีน้ำท้วมอยู่ ต้องค่อยๆ ปล่อยระบายออกไป ระบายมากก้ไม่ได้ เพราะ กทม. กลัวน้ำท้วมนิคมบางชัน จึงต้องค่อยๆ ระบาย อีกสองสัปดาห์ขึ้นไปเหมือนกันครับ

                - สำหรับฝั่งธนบุรี คงสิ้นปีเป็นอย่างเร็วครับ กว่าจะระบายน้ำออกได้หมด เพราะต้องรอสูบทิ้งอย่างเดียว กับปริมาณที่มีน้ำมาเติมตลอดเวลา อย่าลืม ทางอยุธยา ปทุมธานี ตามนิคมอุตสาหกรรม และหมู่บ้านจัดสรรค์ กำลังสูบน้ำลงเจ้าพระยา ดังนั้นระดับน้ำปทุมธานี นนทบุรี ลดลงน้อยครับ ผมหวังว่าปีใหม่ หน้าที่จะระบายออกได้หมดครับ ต้องอดทนหน่อยครับสำหรับทุกท่านที่อยู่ฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยา ท่านต้องสนับสนุนความคิดของผมให้ทำแม่น้ำเจ้าพระยาสายสองฝั่งตะวันตก อย่าไปทำฝั่งตะวันออก นะครับ มันจะไม่ช่วยอะไรเลยเพราะเป็นพื้นที่สูงกว่าฝั่งตะวันตก น้ำจะท้วมบ้านท่านเหมือนเดิม ครับ

                - อย่าลืมพื้นที่ไหนที่ระดับน้ำสูงกว่า ๒๕ ซม. น้ำไม่มีทางไปต้องสูบทิ้งอย่างเดียวครับ

                - ทุกท่านต้องทำใจแบบอาจารย์ถาวร  ว่ามันเป็นกรรมเก่าที่เกิดกับเรา เราต้องชดใช้มันให้หมดในชาตินี้ จึงจะหลุดพ้นจากทุกข์ ครับ

                  สวัสดี
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #4398 เมื่อ: 26 พฤศจิกายน 2554, 09:36:45 »

พี่สิงห์

อุตุนิยมวิทยา งดประกาศเตือนภัยฉุกเฉินลงแล้ว คงมีแต่รายงานพยากรณ์อากาศปกติออกมา....


พยากรณ์อากาศ ประจำวันที่ 26 พฤศจิกายน 2554
ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น.  มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังค่อนข้างแรง ที่พัดปกคลุมภาคใต้และอ่าวไทยมีกำลังอ่อนลง ยังคงทำให้ภาคใต้ฝั่งตะวันออกตั้งแต่จังหวัดสุราษฏร์ธานีลงไป
มีฝนตกอยู่ในเกณฑ์กระจายถึงเกือบทั่วไปและมีฝนตกหนักบางพื้นที่ บริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ส่วนคลื่นลมในอ่าวไทย มีกำลังอ่อนลง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือในระยะนี้
อนึ่ง บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนยังคงปกคลุมประเทศไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวอากาศหนาวเย็นอย่างต่อเนื่อง และอุณหภูมิจะลดลงอีก 1-2 องศา กับมีน้ำค้างแข็งเกิดขึ้นได้ในบริเวณภูเขาสูงของภาคเหนือ ในช่วงวันที่
26-28 พ.ย. 2554
 
พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้. 
ภาคเหนือ  ทางตอนบนสุดของภาค อากาศหนาว โดยอุณหภูมิจะลดลงอีก 1-2 องศา อุณหภูมิต่ำสุด 14-16 องศา อุณหภูมิสูงสุด 28-30 องศา ทางตอนล่างของภาค อากาศเย็น และอุณหภูมิจะลดลงอีกเล็กน้อย อุณหภูมิต่ำสุด 17-20 องศา อุณหภูมิสูงสุด 28-32 องศา สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 4-11 องศา และมีน้ำค้างแข็งบางพื้นที่ ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
 
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ  อากาศเย็น และอุณหภูมิจะลดลงอีก 1-2 องศา อุณหภูมิต่ำสุด 16-19 องศา อุณหภูมิสูงสุด 29-31 องศา สำหรับบริเวณยอดภู อากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10-14 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม.
 
ภาคกลาง  อากาศเย็นในตอนเช้า และอุณหภูมิจะลดลงอีกเล็กน้อย อุณหภูมิต่ำสุด 19-22 องศา อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
 
ภาคตะวันออก อากาศเย็น และอุณหภูมิจะลดลงอีกเล็กน้อย อุณหภูมิต่ำสุด 20-24 องศา อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1 เมตร ห่างฝั่ง 1-2 เมตร
 
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) จังหวัดชุมพรขึ้นมา มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไป มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางพื้นที่ บริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 28-32 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
 
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)  มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดกระบี่ ตรัง และสตูล
อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศา ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่ง 1-2 เมตร
 
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล  อากาศเย็นในตอนเช้า โดยอุณหภูมิจะลดลงอีกเล็กน้อย อุณหภูมิต่ำสุด 22-23 องศา อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.

 
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #4399 เมื่อ: 26 พฤศจิกายน 2554, 10:12:03 »

                ขอบคุณมากครับคุณเหยง ที่รายงานให้ทราบ

                เช้านี้ที่นครศรีธรรมราช มีแสงแดดจ้า สลับกับเมฆฝนที่พัดมาจากทะเลดำมืดสลับกันไปสลับกันมา ฝนตกพรำๆ ไม่แรง สามารถทำงานกันได้ไม่มีอุปสรรคทั้งสิ้น  งวดนี้เปลี่ยนนายกเทศมนตรีนครศรีธรรมราชใหม่ จึงมีการเตรียมพร้อมการระบายน้ำในเขตเทศบาลเอาไว่ล่วงหน้า ป้องกันน้ำท้วมฉับพลัน ครับ ก้ดีไปอย่างที่เตรียมตัวรับสถานะการณ์น้ำท้วม

                วันนี้ผมกลับ กทม. Boarding 18:10 น. มีเมฆหนาแน่นอน เครื่องบินอาจจะลงไม่ได้ ครับ

                สวัสดี
      บันทึกการเข้า
  หน้า: 1 ... 174 175 [176] 177 178 ... 681   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

ทำไมหอพักนิสิตจุฬาจึงเป็นดินแดนมหัศจรรย์            " ไม่ได้เป็นแค่หอให้นอนพัก  แต่เป็นบ้านอบอุ่นรักให้อาศัย  ไม่เป็นแค่ที่ซุกหัวยามหลบภัย  แต่สร้างใจให้เข้มแข็งแกร่งการงาน"  <))))><