khesorn mueller
|
|
« ตอบ #4350 เมื่อ: 22 พฤศจิกายน 2554, 00:40:44 » |
|
ถึงว่าสิคะ, พี่เค้าหายไป!
พี่ทราย-จินตนา16เปิดกระทู้ สำรวจสถิติชาวหอที่รับผล น้ำท่วม 2554 เห็นลงรายชื่อ หลายคนอยู่ค่ะ หนิงคันมือยิบๆอยากลงชื่อพี่ทั้งคู่ ก่อนจิตใต้สำนึกจะกระซิบ.. "ให้พี่เค้าลงเองสิ! เธอจะไปยุ่งอะไร"
พี่เหยง,น่าจะติดหมุดกระทู้นี้คะ เพราะชาวหอที่มาเห็น จะได้มีส่วนร่วม.
พี่ทราย,หากลงภาพได้ด้วย จะดีแจ๋วคะ.
|
|
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #4352 เมื่อ: 22 พฤศจิกายน 2554, 12:26:02 » |
|
|
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #4353 เมื่อ: 22 พฤศจิกายน 2554, 14:39:11 » |
|
ป.ป.ช.มีมติอายัดเงิน 15 ล้าน "สุพจน์" พร้อมตั้งอนุฯสอบทรัพย์สิน22 พฤศจิกายน 2554 14:26 น. คณะกรรมการ ป.ป.ช.มีมติ อายัดเงิน 15 ล้านบาท "สุพจน์ ทรัพย์ล้อม" อดีต ปลัดฯคมนาคม ที่ตำรวจยึดได้จากการโจรกรรมภายในบ้าน พร้อมตั้งคณะอนุกรรมการตรวจสอบทรัพย์สิน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อพิจารณาตั้งคณะอนุกรรมการตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินของนายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม อดีตปลัดกระทรวงคมนาคม ที่อาจจะมีเกินกว่าที่แจ้งต่อ ป.ป.ช.หลังจากที่ผู้ต้องหาที่ปล้นบ้านให้การว่า มีเงินสดอยู่ในบ้านถึงพันล้านบาท มีรายงานว่าที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มีมติตั้งคณะอนุกรรมการตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินของ นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม โดยมี นายใจเด็ด พรไชยา และ นายปรีชา เลิศกมลมาศ กรรมการป.ป.ช.เป็นผู้รับผิดชอบ หลังจากที่ประชุม ป.ป.ช.ได้พิจารณาข้อมูลจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยคณะอนุกรรมการฯจะสอบสวนใน 3 ประเด็นคือ 1.ตรวจสอบว่านายสุพจน์ยื่นทรัพย์สินเป็นเท็จหรือไม่ เพราะบัญชีทรัพย์สินที่ยื่นมาไม่มีการแสดงเงินสดตามที่ปรากฎในข้อมูลของตำรวจ 2.ตรวจสอบว่านายสุพจน์ร่ำรวยผิดปกติหรือไม่ โดยต้องตรวจสอบว่าทรัพย์สินที่ได้มาชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ และ 3. ตรวจสอบว่ามีการทุจริตต่อหน้าที่หรือไม่ ทั้งนี้แม้ที่ประชุมป.ป.ช.จะยังไม่มีการกำหนดกรอบเวลาในการตรวจสอบ แต่ก็ให้มีการดำเนินการโดยเร็วที่สุด ซึ่งจะมีการเริ่มประชุมนัดแรกในวันที่ 23 พ.ย.นี้ โดยจะมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.ยังมีมติให้อายัดเงินของกลางที่เจ้าหน้าที่ตำรวจยึดคืนมาได้จากคนร้ายจำนวน 15 ล้านบาทเอาไว้ก่อนอีกด้วยจาก http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrView.asp?NewsID=9540000148824
|
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #4354 เมื่อ: 22 พฤศจิกายน 2554, 17:08:34 » |
|
|
|
|
|
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์
รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644
|
|
« ตอบ #4355 เมื่อ: 22 พฤศจิกายน 2554, 20:25:20 » |
|
เตรียมย้ายผู้ประสบภัยในโรงเรียนกทม.ไปยังศูนย์พักพิงอื่น เพื่อเตรียมพร้อมเปิดเทอมกลุ่มแรก 6 ธ.ค.นี้ วันอังคารที่ 22 พฤศจิกายน 2011 เวลา 12:32 น. (22 พ.ย.54) นายวสันต์ มีวงษ์ โฆษกกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า ปัจจุบัน มีผู้ประสบภัยพักพิงของกทม. จำนวน 15,204 คน ทั้งนี้กทม.จะเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัยซึ่งพักพิงภายในโรงเรียนสังกัดกทม.ไปยังศูนย์พักพิงที่ปลอดภัย ศูนย์เยาวชนในสังกัดของกทม. และที่ค่ายลูกเสือกรุงธนฯ ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของ ศปภ. เพื่อทำความสะอาดโรงเรียนและให้พร้อมเปิดเทอมกลุ่มแรก 6 ธ.ค. 54 ในส่วนของพื้นที่ที่ยังมีน้ำท่วมขังสูง เช่น ดอนเมือง สายไหม หลักสี่ ทวีวัฒนา หนองแขม บางแค และบางบอน จะรอให้ระดับน้ำลดลงก่อนจากนั้นจึงจะทำความสะอาดและเปิดเรียนเป็นกลุ่มที่สองในวันที่ 13 ธ.ค.54
ผู้ว่าฯ กทม.ย้ำผู้เกี่ยวข้องจัดเก็บขยะไม่ให้ตกค้าง และเฝ้าระวังโรคภัยต่างๆ วันอังคารที่ 22 พฤศจิกายน 2011 เวลา 12:31 น. นายวสันต์ มีวงษ์ โฆษกกทม. กล่าวด้วยว่า ผู้ว่าฯ กทม.ย้ำให้ทุกพื้นที่จัดเก็บขยะให้มากที่สุดและเร็วที่สุด เพื่อไม่ให้มีขยะตกค้างในพื้นที่ ไม่เช่นนั้นจะเก็บไม่ทันอีกทั้งมีปริมาณขยะตกค้างเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในทุกวัน อีกทั้งแก้ไขปัญหาน้ำเน่าเสียในพื้นที่ที่มีท่วมขังเกิน 1 สัปดาห์โดยเร่งด่วน โดยนำจุลินทรีย์น้ำไปฉีดพุ่นในพื้นที่พร้อมทั้งแจกจ่ายให้กับประชาชนเพื่อบำบัดน้ำเสียในบ้านของตนเองอย่างทั่วถึง เนื่องจากหากดำเนินการภายหลังน้ำลดจะแก้ไขปัญหาได้ยากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังกำชับหน่วยงานเร่งหาวิธีเยียวยาเพิ่มเติมแก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมขังระดับสูงและยาวนานอย่างเป็นธรรม นอกจากนี้ปัญหาสำคัญอีกประการ คือ ปัญหายุงชุม ซึ่งจำเป็นต้องเร่งกำจัดโดยมอบหมายให้นายพีระพงษ์ สายเชื้อ รองปลัดกรุงเทพมหนคร และสำนักอนามัยกทม. หารือถึงวิธีการที่เหมาะสม และหากจำเป็นต้องใช้วิธีการฉีดพ่นหมอกควันเพื่อกำจัดยุงตัวแก่ก็ขอให้ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนในพื้นที่ทราบอย่างทั่วถึง เพื่อให้ประชาชนและสัตว์เลี้ยงหลีกเลี่ยงการสูดกลิ่นควันซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อร่างกายและปกปิดทรัพย์สินไม่ให้มีกลิ่นควันติดตามทรัพย์สินด้วย รวมถึงดูแล 4 โรคอันตรายที่มากับน้ำท่วมขัง ได้แก่ โรคฉี่หนู โรคท้องเดิน ไข้หวัด และไข้เลือดออก เร่งจัดเก็บขยะไม่ให้ตกค้าง และแจกจุลินทรีย์ให้เข้าถึงประชาชนมากที่สุด วันอังคารที่ 22 พฤศจิกายน 2011 เวลา 12:29 น. (22 พ.ย.54) นายวสันต์ มีวงษ์ โฆษกกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า สำหรับภาพรวมการจัดเก็บขยะใหนพื้นที่กทม. 50 เขต เมื่อวันที่ 20 พ.ย. จัดเก็บได้ 7,473 ตัน คิดเป็น 87.92% ของปริมาณขยะในสภาวะปกติ 8,500 ตัน โดยศูนย์กำจัดมูลฝอยหนองแขม กำจัดโดยวิธีฝังกลบ รวม 2,068 ตัน ศูนย์กำจัดมูลฝอยอ่อนนุช กำจัดโดยวิธีฝังกลบ 4,361 ตัน และหมักทำปุ๋ย 1,044 ตัน รวมเป็นจำนวนทั้งสิ้น 5,405 ตัน ทั้งนี้ ภายหลังน้ำลดในพื้นที่พื้นที่ ทำให้ประชาชนเริ่มทยอยเข้าบ้าน พร้อมทั้งทำความสะอาดบ้านเรือนและนำสิ่งของซึ่งถูกน้ำท่วมภายในบ้านมาทิ้งเพิ่มเติม ส่งผลปริมาณขยะในการจัดเก็บเพิ่มสูงขึ้น แต่ กทม.จะเร่งดำเนินจัดเก็บให้มากที่สุดและเร็วที่สุด
ส่วนปริมาณการจัดเก็บขยะของ 25 เขตน้ำท่วมขัง การจ้างอาสาสมัครชักลากขยะ25 เขตมีจำนวนอาสาสมัคร 915 คน โดยเมื่อวันที่ 20 พ.ย. จัดเก็บได้ 3,379 ตัน คิดเป็น 78.4% ของปริมาณขยะในสภาวะปกติ 4,313 ตัน ทั้งนี้เขตที่จัดเก็บขยะได้น้อยกว่า 50% มีจำนวน 5 เขต ประกอบด้วย สายไหม ทวีวัฒนา หนองแขม ดอนเมือง และบางแค เนื่องจากระดับน้ำในพื้นที่ยังท่วมสูง นอกจากนี้ กทม.ได้ดำเนินการบำบัดกลิ่นและน้ำเสีย โดยฉีดพ่นจุลินทรีย์ปริมาณ 12,000 ลิตรที่เขตบางแค และวันที่ 22 พ.ย.จะดำเนินการในพื้นที่เขตพญาไท ทั้งนี้ ประชาชนยังสามารถขอรับน้ำจุลินทรีย์ที่สวนลุมพินีได้ตลอด แต่จำเป็นต้องนำภาชนะมาบรรจุด้วยตนเอง นอกจากนี้สำนักงานเขตยังมีถังน้ำอีเอ็มซึ่งประชาชนสามารถนำภาชนะไปบรรจุได้เลย
ระดับน้ำหลายพื้นที่เริ่มลดลง แต่เฝ้าระวังน้ำทะเลหนุนสูงอีกครั้งปลายเดือนนี้ วันอังคารที่ 22 พฤศจิกายน 2011 เวลา 12:27 น. (22พ.ย.54) ที่ศาลาว่าการกทม. เวลา 11.45 น. : นายวสันต์ มีวงษ์ โฆษกรุงเทพมหานคร เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำและการแก้ไขปัญหากรุงเทพฯ ว่า วันนี้ปริมาณน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยา 1,826 ลบ.ม./วินาที (ลดลงจากเมื่อวาน 101 ลบ.ม./วินาที) ระดับน้ำอ.บางไทร 3.47 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง (ลดลงจากเมื่อวาน 5 ซม.) น้ำทะเลหนุนสูงสุด เวลา 03.30 น. ระดับ +0.53 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง และจะขึ้นอีกครั้งเวลา 14.25 น. ระดับ +1.08 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ทำให้ระดับน้ำสูงสุดวันนี้ที่บริเวณปากคลองตลาด คาดการณ์โดยกรมอุทกศาสตร์ เวลา 14.25 น. จะอยู่ที่ระดับ +2.14 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง สำหรับระดับน้ำบริเวณประตูระบายน้ำคลองมหาสวัสดิ์ ระดับน้ำลดลง ประตูระบายน้ำจุฬาลงกรณ์ ลดลง 4 ซม.บริเวณคลองหก น้ำลดลง 7 ซม. คลองแสนแสบและคลองประเวศบุรีรมย์ ลดลง 1-2 ซม.คลองลาดพร้าว ลดลง 2-4 ซม. คลองเปรมประชากร ช่วงดอนเมืองลดลง 2 ซม. ในเมืองลด 4 ซม. คลองบางเขน ลดลง 2 ซม. บริเวณมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ถึงคลองลาดยาว รถเล็กผ่านได้ชิดเกาะกลาง ซึ่งกทม.จะเร่งเคลียร์น้ำบริเวณคลองบางบัว เพื่อลดระดับน้ำในพื้นที่ดังกล่าว โดยติดตั้งเครื่องสูบน้ำและเครื่องผลักดันน้ำเพิ่ม ในส่วนของถ.แจ้งวัฒนะ จาก ถ.วิภาวดีรังสิต ถึงคลองถนนน้ำแห้ง ทั้งสองฝั่ง คลอมอญ 78 ซม. ลดลงเหลือ 70 ซม. คลองบางกอกใหญ่ 52 ซม. ลดลงเหลือ 50 ซม. ลาดพร้าว 56 อยู่ในเกณฑ์ปกติ จะถอนเครื่องสูบน้ำบริเวณนี้เพื่อไปกู้พื้นที่อื่นๆ บริเวณหน้า นสพ.เดลินิวส์ลดลงไปอีก 20 ซม. ทั้งนี้กทม.ยังคงเฝ้าระวังการเปิดกระสอบทรายและเปิดประตูระบายน้ำเพิ่มเติม ซึ่งจะส่งผลให้ปัญหาน้ำท่วมในกทม.ยาวนานขึ้น รวมถึงเฝ้าระวังแนวริมน้ำเจ้าพระยาทุกจุดเนื่องจากระดับน้ำทะเลจะหนุนสูง ช่วงปลายเดือนนี้ หรือประมาณวันที่ 27 พ.ย. บวกกับฐานน้ำเดิมมีระดับสูงอยู่แล้ว อาจส่งผลกระทบต่อประชาชนริมแม่น้ำดังที่ผ่านมา
ผู้ว่าฯ กทม.ยืนยันเปิดประตูระบายน้ำเพิ่มตามข้อสรุปร่วม ศปภ.และจ.นนทบุรี วานนี้ วันอังคารที่ 22 พฤศจิกายน 2011 เวลา 18:00 น. (22 พ.ย.54) ที่ศาลาว่าการกทม. เวลา 17.20 น. : ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยถึงผลการหารือถึงการแก้ไขปัญหากรณีข้อเรียกร้องของประชาชน จ.นนทบุรี ขอให้กทม.เปิดประตูระบายน้ำคลองทวีวัฒนาเพิ่มเติมจาก 50 ซม. เป็น 1 เมตร เพื่อให้การระบายน้ำจากคลองมหาสวัสดิ์ด้าน จ.นนทบุรี สะดวกยิ่งขึ้น และลดความเดือดร้อนของประชาชน
ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า กทม.ตระหนักเสมอว่าประชาชนจังหวัดนนทบุรีและปทุมธานีเดือดร้อนจากภัยน้ำท่วมมาเป็นเวลานาน และกทม.พร้อมที่จะหารือกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเพื่อหาวิธีที่จะลดความเดือดร้อนของประชาชน เช่นเดียวกับการแก้ไขปัญหาบริเวณคลองหกวาสายล่างซึ่งประสบความสำเร็จด้วย โดยกทม.พร้อมจะเจรจาบนพื้นฐานของเหตุและผล รวมถึงหาทางออกร่วมกัน โดยเมื่อวันที่ 21 พ.ย.54 มีการประชุมหารือร่วมกับ ศปภ. จ.นนทบุรี โดยตัวแทนกทม.ร่วมประชุมด้วย มีข้อสรุปอย่างเป็นทางการว่า 1. ให้กทม.เปิดช่องประตูระบายน้ำริมคลองมหาสวัสดิ์ ได้แก่ ประตูระบายน้ำคลองขุนศรีบุรีรักษ์ ประตูระบายน้ำคลองควาย และประตูระบายน้ำคลองซอย เพิ่มเป็น 1 เมตรตามที่ร้องขอ โดยการเปิดประตูระบายน้ำจะดำเนินการในลักษณะขั้นบันได ซึ่งในระยะแรกจะเปิดบานประตูจาก 50 ซม. เป็น 75 ซม. โดยจะใช้เวลประเมินผลกระทบภายใน 48 ชั่วโมง หากผลกระทบอยู่ในเกณฑ์ที่ยอมรับได้ จะพิจารณาเปิดช่องประตูระบายน้ำเพิ่มขึ้นอีกตามความเหมาะสม ส่วนประตูระบายน้ำคลองทวีวัฒนา จะเปิดที่ระดับ 50 ซม.เหมือนเดิมไม่มีการเปลี่ยนแปลง เนื่องจากอาจเกิดผลกระทบในวงกว้าง รวมทั้งน้ำท่วมขยายบน ถ.เพชรเกษมและบริเวณต่อเนื่องได้ 2. เปิดช่องประตูระบายน้ำเพื่อลดผลกระทบในพื้นที่บางกรวย บริเวณคลองที่เชื่อมต่อกับเขตบางพลัดรวม 3 คลอง คือ คลองบางพลัด คลองบางอ้อ และคลองบางบำหรุ โดยเพิ่มประตูในลักษณาขั้นบันได ในเบื้องต้นจะเปิดเพิ่มบานประตูคลองบางพลัด และคลองบางอ้อ เป็น 70 ซม. ส่วนคลองบางบำหรุ จะพิจารณาเพิ่มการเปิดบานประตูภายหลังจากที่ได้ทำการซ่อมและติดตั้งเครื่องสูบน้ำทดแทนแล้วเสร็จ โดยคาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในน 2 วัน ทั้งนี้ ที่ประชุมเห็นตรงกันว่า การเปิดเพิ่มบานประตูระบายน้ำจะต้องพิจารณาผลกระทบจากปริมาณน้ำที่ไหลผ่านประตูระบายน้ำให้สัมพันธ์กับขีดความสามารถของคลองดังกล่าวด้วย หากประเมินผลกระทบแล้วอยู่ในเกณฑ์ที่ยอมรับได้และไม่กระทบต่อประชาชนมากนักจะพิจารณาเปิดประตูระบายน้ำเพิ่มขึ้นอีก
ทั้งนี้ ในช่วงเช้าวันนี้ 22 พ.ย. กทม.ได้ลงนามในหนังสือถึงผู้ว่าราชการจ.นนทบุรี เพื่อยืนยันดำเนินการตามข้อตกลงตามแนวทางข้อสรุปที่ประชุมหารือเรื่องการเปิดประตูระบายน้ำในแนวพื้นที่เชื่อต่อระหว่างกรุงเทพมหานครและจังหวัดนนทบุรี ณ ห้องประชุม ศปภ. เมื่อวันที่ 21 พ.ย. ดังกล่าว นอกจากนี้ กทม.ได้ประสานงานกับกรมชลประทานให้เปิดประตูระบายน้ำคลองมหาสวัสดิ์และคลองภาษีเจริญในส่วนที่อยู่ในความรับผิดชอบของกรมชลประทาน เพื่อช่วยระบายน้ำจากคลองมหาสวัสดิ์สู่ทะเลให้สัมพันธ์กับการระบายน้ำของกรุงเทพมหานคร อย่างไรก็ตามเพื่อลดผลกระทบของประชาชนจังหวัดนนทบุรี กทม.ได้พิจารณาลดช่วงเวลาการประเมินสถานการณ์ภายหลังจากเปิดประตูระบายน้ำคลอง 3 สาย ได้แก่ คลองขุนศรีบุรีรักษ์ คลองควาย และคลองซอย จาก 48 ชั่วโมง เป็น 24 ชั่วโมงหรือประมาณเช้าวันพรุ่งนี้ เพื่อเร่งประเมินสถานการณ์โดยคำนึงถึงความเดือดร้อนของประชาชนชาวนนทบุรีเป็นที่ตั้ง ทั้งนี้ การดำเนินการดังกล่าวเป็นไปผลการระชุมร่วมกับศปภ.
---------------------
กทม.ขอความร่วมมือประชาชนดูแลคันกั้นน้ำชั่วคราว วันอังคารที่ 22 พฤศจิกายน 2011 เวลา 15:33 น. กองประชาสัมพันธ์ กทม. ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร แจ้งว่า กรุงเทพมหานครได้ดำเนินการวางแนวกระสอบทรายเป็นคันกั้นน้ำชั่วคราวในหลายพื้นที่ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน และป้องกันความเสียหายแก่กรุงเทพมหานครชั้นใน ซึ่งเป็นเขตเศรษฐกิจสำคัญ ดังนั้นกรุงเทพมหานครจึงขอความร่วมมือจากประชาชน ให้ช่วยกันดูแลรักษาคันกั้นน้ำชั่วคราว หากคันกั้นน้ำชั่วคราวถูกทำลายหรือทำให้เสียหาย จะส่งผลกระทบก่อให้เกิดน้ำท่วมในพื้นที่สำคัญ ทั้งนี้กรุงเทพมหานครจะดำเนินการตามอำนาจหน้าที่อย่างสุดความสามารถ ในการแก้ไขสถานการณ์และช่วยเหลือประชาชน หากประชาชนพบเห็นคันกั้นน้ำชั่วคราวถูกทำลาย ขอให้แจ้งได้ ที่สำนักงานเขต หรือศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมกรุงเทพมหานคร (ศปภ.กทม.) ตลอด 24 ชั่วโมง โทร. 1555 หรือ 0 2221 1212 หรือเว็บไซต์ www.bangkok.go.th -----------------------------
|
|
|
|
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์
รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644
|
|
« ตอบ #4356 เมื่อ: 22 พฤศจิกายน 2554, 20:52:42 » |
|
สวัสดีครับ คุณน้องหนุ๋งหนิ๋ง และชาวซีมะโด่ง ที่รักทุกท่าน
- วันนี้ตื่นเช้ามาเดินจงกรมออกกำลังกายบนดาดฟ้าของฉัตรทิพย์รีสอร์ท เจ็ดโมงตรงตั้งใจจะไปใส่บาตรไปรอประมาณ ๑๕ นาทีพระท่านก็ไม่มาบิณฑบาตร จึงไปรับประทานอาหารเช้า และไปทำงานที่ ST Group สูงเนิน
- 11:00 น. ไปตีกอล์ฟกับคุณนิรันดร์ที่ โวยาจพานอรามา และรับประทานอาหารเย็นที่ ร้าน Outlet ปากช่อง เป็นสะเต็ก หลังจากนั้นก็เดินทางต่อไปที่ PSTC เพื่อนอนค้างที่โรงงานครับ
- ลืมบอกไปเมื่อเย็นวานไปนั่งรับประทานอาหารเย็นที่ริมเขื่อนลำตะคอง เป็นปลานิลเผา กับมะเขือยาว อร่อยมากครับ ต้มยำปลาบึก และทอดมันปลากราย เขื่อนลำตะคองมีน้ำเต็มเขื่อนครับปีนี้ บรรยากาศเย็นสบาย ในยามค่ำ ครับ
- พี่สิงห์คงพักอยู่ที่สระบุรี ๒ คืน ครับ เป็นนกขมิ้นเหลืองอ่อนไปอีกหนึ่งอาทิตย์ ครับ
ดูข่าวทาง TV มีแต่ประชนประท้วงเรื่องน้ำท้วมขังนาน และเงินชดเชย จากรัฐบาล และคนงานตกงานจากนิคมอุตสาหกรรม ที่ปิดโรงงานไปแล้ว ๑๘ แห่ง และย้ายโรงงานไปอยู่เขมร เพราะค่าแรง ๓๐๐ บาท รับไม่ได้ ครับจึงต้องย้ายฐานการผลิตไปยังประเทศที่ค่าแรงต่ำกว่า
ประชาชนดอนเมือง ที่มี ดร.สุริยา หนุนหลัง ประท้วง ขอให้รัฐบาลเร่งสูบน้ำจากดอนเมืองลงคลองรังสิต และคลองเปรมประชากร ใหม้มากกว่านี้ และมีการรื้อ Big Bag เพิ่มอีกเป็นแปดเมตร เพื่อระบายน้ำให้ระดับลดลงบ้าง ผมยังยืนยันอย่างน้อยสามอาทิตย์เป็นอย่างเร็วสำหรับบ้าน ดร.สุริยา อยู่ทัพทันคราวนี้ กลับมา กทม. น้ำหนักลดลงแน่นอนเพราะได้ขี่จักรยานทุกวัน ครับ
ราตรีสวัสดิ์ครับ
|
|
|
|
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์
รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644
|
|
« ตอบ #4357 เมื่อ: 22 พฤศจิกายน 2554, 21:00:56 » |
|
- ระดับน้ำที่สถานีปทุมธานี ยังอยู่ที่ ระดับ ๔๓ ซม.เหนือตลิ่งครับ ดังนั้น ดร.สุริยา ยังต้องรอไปอีก ไม่สามารถสูบน้ำจากดอนเมืองลงคลองรังสิตได้ในช่วงนี้ครับ
- ระดับน้ำที่สถานีปากเกล็ด นนทบุรีเพิ่มขั้น แสดงว่าน้ำทะเลหนุนสูง หรือ มีน้ำจากบางบัวทอง บางใหญ่ ไหลกลับมาลงในแม่น้ำเจ้าพระยา ครับ เพราะน้ำจำนวนนี้ต้องรอไปลงทางแม่น้ำท่าจีนบางส่วนซึ่งช้ามาก และไหลกับมาเจ้าพระยา ครับ
ผมว่าสถานการณ์น้ำ แห้งทั้ง กทม. คงเลยปีใหม่แน่ๆ ครับ ตอนนี้ที่มีปัญหามากนอกจากขยะแล้ว ก็คือยุงชุมจริงๆ ครับ
สวัสดี
|
|
|
|
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์
รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644
|
|
« ตอบ #4358 เมื่อ: 22 พฤศจิกายน 2554, 21:10:32 » |
|
รู้ประวัติพุทธสาวก เอตทัคคะ อรหันต์
ลำดับที่ ๓๐
พระโสณโกฬิวิสเถระ
เอตทัคคะในทางผู้ปรารภความเพียร พระโสณโกฬิวิสะ เกิดในตระกูลเศรษฐี เมืองจำปา แคว้นอังคะ มีชื่อเต็มว่า “โสณะ” ซึ่งแปลว่า “ทองคำ” เพราะท่านมีผิวพรรณสวยงาม มาแต่กำเนิดส่วนคำว่า “โกฬิวิสะ” เป็นชื่อโคตรตระกูล บิดาชื่ออุสภเศรษฐี
• มีขนสีเขียวขึ้นที่ฝ่าเท้า
ท่านโสณะ เป็นผู้มีความชำนาญในการดีดพิณสามสาย เป็นคนสุขุมมาลชาติ มีความละเอียดอ่อน ได้รับการเลี้ยงดูอย่างดี บิดาได้สร้างปราสาท ๓ หลัง เพื่อเป็นที่พักอยู่อันเหมาะสมกับภูมิอากาศใน ๓ ฤดูกาล ให้บริโภคเฉพาะอาหารที่ประณีตซึ่งหุงจากข้าวสาลีชนิดเลิศ และที่ฝ่าเท้าทั้งสองของท่านมีขนสีเขียวเหมือนแก้วมณีงอกออกมาด้วยขณะที่พระบรมศาสดาประทับอยู่ที่เขาคิชกูฎ เมืองราชคฤห์ ครั้งนั้นพระเจ้าพิมพิสารรับสั่งให้พสกนิกรของพระองค์ในหมู่บ้าน ๘๐,๐๐๐ ตำบล ในแคว้นอังคะ มาประชุมกันที่ลานบริเวณพระราชวัง เพื่อรับฟังพระราโชบายพร้อมกันนี้ได้รับสั่งให้อุสภเศรษฐี ส่งโสณโกฬิวิสะบุตรของตนเฝ้าด้วยเพื่อจะทอดพระเนตรฝ่าเท้าที่มีขนสีเขียวเหมือนแก้วมณีงอกออกมาตามที่มีข่าวเล่าลือ อุสภเศรษฐีได้อบรมบุตรของตนให้ทราบถึงระเบียบมารยาทในการเข้าเฝ้าโดยห้ามเหยียดเท้าไปทางที่ประทับ อันเป็นการไม่สมควร แต่ให้นั่งขัดสมาธิซ้อนเท้าทั้งสองไว้บนตักหงายฝ่าเท้าขึ้น เพื่อให้ทอดพระเนตรโสณโกฬิวิสะ เมื่อเข้าเฝ้า ก็ได้ปฏิบัติตามที่บิดาสั่งสอนทุกประการ พระเจ้าพิมพิสารทอดพระเนตรแล้วหายสงสัย จากนั้นได้ประทานโอวาท และชี้แจงพระราโชบายเกี่ยวกับกิจการบ้านเมืองให้พสกนิกรทราบแล้ว ทรงนำพสกนิกรเหล่านั้นพร้อมทั้งโสณโกฬิวิสะ ไปเข้าเฝ้าสมเด็จพระบรมศาสดาถึงที่ประทับขณะนั้น พระสาคตะ รับหน้าที่เป็นพุทธอุปัฏฐาก เมื่อพระเจ้าพิมพิสารทรงพาพสกนิกร มาขอโอกาสเพื่อเข้าเฝ้าพระบรมศาสดา ท่านได้แสดงฤทธิ์ โดยดำดินลงไปแล้วโผล่ขึ้นที่หน้าพระคันธกุฎีบนยอดภูเขาคิชฌกูฏนั้น ประชาชนทั้งหลายเห็นแล้วก็เกิดศรัทธาเลื่อมใสต่างพากันคิดว่า “พระพุทธสาวก ยังมีความสามารถึงเพียงนี้ พระบรมศาสดาจะต้องมีความสามารถมากกว่านี้อย่างแน่นอน” แล้วพากันเข้าเฝ้าพระผู้มีพระภาค ได้รับฟังพระธรรมเทศนาอนุปุพพิกถา และอริยสัจ ๔ แล้วได้บรรลุเป็นพระโสดาบัน แสดงตนเป็นอุบาสกอุบาสิกา ขอถึงพระรัตนตรัย เป็นที่พึ่งที่ระลึกตลอดชีวิตแล้ว กราบทูลลากลับนิวาสถานของตน ๆ ส่วน โสณโกฬิวิสะ ก็เกิดศรัทธาเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาเหมือนกันได้พิจารณาเห็นว่าการอยู่ครองเพศฆราวาสนั้น ยากนักที่จะประพฤติพรหมจรรย์ให้บริสุทธิ์บริบูรณ์ได้ จึงกราบทูลขออุปสมบท ซึ่งพระบรมศาสดารับสั่งให้กลับไปขออนุญาตจากบิดามารดาก่อน เมื่อโสณโกฬิวิสะ ปฏิบัติตามเรียบร้อยแล้ว จึงประทานการอุปสมบทให้ตามความประสงค์
• ทรงแนะให้ทำความเพียรเหมือนพิณ ๓ สาย
ครั้นบวชแล้ว ได้ไปบำเพ็ญเพียรที่ป่าสีตวัน เขตเมืองราชคฤห์ ท่านเดินจงกรมอย่างหนักจนฝ่าเท้าแตก เลือดไหล เมื่อเดินด้วยเท้าไม่ได้ ท่านจึงใช้วิธีคลานด้วยเข่าและฝ่ามือทั้งสอง จนกระทั่งเข่าและฝ่ามือทั้งสองแตกอีกแม้กระนั้น ท่านก็ยังไม่บรรลุมรรคผลอันใด ท่านจึงเกิดความท้อแท้น้อยใจในวาสนาบารมีของตนว่า “บรรดาสาวกของพระพุทธเจ้า ผู้บำเพ็ญเพียรอย่างหนักนั้น เราก็เป็นผู้หนึ่งที่มิได้ย่อหย่อนกว่าผู้อื่น ๆ ถ้ากระไรเราควรลาสิกขาออกไปครองเพศฆราวาส ทำบุญสร้างกุศลตามสมควรแก่ฆราวาสวิสัยจะดีกว่า”
พระบรมศาสดา ทรงทราบดำริขอท่านเช่นนั้น จึงเสด็จมาตรัสสอนให้บำเพ็ญเพียรแต่พอปานกลาง อย่าให้ตึงเกินไปหรือหย่อนเกินไปแล้วทรงยกพิณสามสายซึ่งท่านมีความชำนาญในการดีดพิณอยู่ก่อนแล้ว ขึ้นมาแสดงเป็นเครื่องเปรียบเทียบให้เห็นว่า “พิณที่สายตึงเกินไป เมื่อดีดแล้วสายก็จะขาด พิณที่สายหย่อนเกินไป เมื่อดีดแล้วเสียงก็ไม่ไพเราะ ต้องสายที่ตึงพอปานกลางจึงจะไม่ขาดและมีเสียงไพเราะ ”ท่านโสณโกฬิวิสะ ปฏิบัติตามพระดำรัสที่ทรงแนะนำ ไม่ตึงเกินไป หรือไม่หย่อนเกินไป ปรับอินทรีย์ให้เสมอกันได้แล้ว ไม่นานนักก็ได้บรรลุพระอรหัตผล เป็นพระอริยบุคคลในพระอริยบุคคลในพระพุทธศาสนา ณ ป่าสีตวันนั้น
• มูลเหตุทรงอนุญาตให้ภิกษุสวมรองเท้าได้
เพราะท่านโสณโกฬิวิสะ ทำความเพียรจนฝ่าเท้า เข่า มือแตก เลือดไหลได้รับทุกขเวทนาอย่างหนัก ทรงปรารภเหตุนี้ จึงทรงอนุญาตให้เธอสวมรองเท้าชั้นเดียวได้ แต่ท่านได้กราบทูลขอโอกาสให้ทรงมีพระบรมพุทธานุญาต แก่พระสาวกรูปอื่น ๆ ด้วย พระพุทธองค์ประทานให้ตามที่ขอโดยรับสั่งให้ประชุมสงฆ์แล้วตรัสอนุญาตว่า:-“ภิกษุทั้งหลาย ตถาคตอนุญาตให้พวกเธอสวมรองเท้าชั้นเดียวได้ แต่ไม่อนุญาตรองเท้า หลายชั้น” (ต่อมาภายหลัง พระมหากัจจายนะ กราบทูลขออนุญาตรองเท้าหลายชั้นในปัจจันตชนบท ตั้งแต่นั้นมาพระภิกษุสงฆ์จึงสวมรองเท้ามีพื้นหลายชั้นได้) ด้วยเหตุที่ท่านทำความเพียงอย่างหนักดังกล่าวมา พระบรมศาสดาจึงทรงยกย่องท่านในตำแหน่งเอตทัคคะ เป็นผู้เลิศกว่าภิกษุทั้งหลาย ในทางผู้ปรารภความเพียร
ท่านดำรงอายุสังขาร สมควรแก่กาลเวลาแล้ว ก็ดับขันธปรินิพพาน
|
|
|
|
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์
รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644
|
|
« ตอบ #4359 เมื่อ: 23 พฤศจิกายน 2554, 08:54:58 » |
|
สวัสดียามเช้า ครับชาวซีมะโด่ง ที่รักทุกท่าน
- ผมเองยังตื่นตั้งแต่ตีห้ามาปฏิบัติธรรมยามเช้าตรู่ซึ่งอากาศเย็นสดชื่อนเหมาะกับการเจริญสติมาก วันนี้ผมพิจารณาเรื่อง "อนัตตา" และการสำรวมอินทรีย์ เพื่อเป็นการทบทวน จิตให้มันจดจำบ่อยๆ มันก็จะคลายความกำหนีดไปเอง เพราะมันก็เป็นความจริงตามธรรมชาติอยู่แล้วครับ
- ช่วงนี้กรมชลประทานได้คิดแล้วนะครับ ดังที่ผมได้เตือนไว้นานแล้ว คือ ปัญหาการระบายน้ำทุ่ง เพราะประชาชนที่ถูกน้ำท้วมอยู่นั้นเขาเดือดร้อนมามากพอแล้ว แต่ขระเดียวกัน กรมชลประทานก็ต้องไม่ให้ไปซ้ำเติมประชาชนที่น้ำแห้งแล้ว และไม่ไปทำให้ประชาชนที่ถุกน้ำท้วมอยู่ต้องขยายเวลาน้ำท้วมออกไปอีกเกินความจำเป็นครับ วันนี้จะมีการเปิดประตูน้ำพระอินทร์ แน่นอนมีผลกระทบทั้งดีและไม่ดีครับ ผลดี ระดับทางรังสิตฝั่งตะวันออกจะลดลง แต่น้ำจะกลับมาเพิ่มที่เจ้าพระยา อย่าลืมน้ำมวลนี้มีจำนวนมหาศาล ทางกรมชลประทานต้องระวัง อย่ามาซ้ำเติม ครับ
- การซ้ำเติมคือ ขณะนี้น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยากำลังลดลง ทำให้น้ำทุกแห่งที่เชื่อมต่อกับแม่น้ำเจ้าพระยาจะไหลลงมาที่เจ้าพระยา แต่ถ้าน้ำทุ่งมาเติมทำให้น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาไม่ลดลงและจะเพิ่มขึ้นอีก ระดับน้ำต่างๆ เช่น บางบัวทอง ไทรน้อย นนทบุรีที่ละลงแล้ว จะไม่ลดลงหรือบางทีอาจจะเพิ่มขึ้น คราวนี้ละทุกข์ลาภกับรัฐบาลตามที่ผมเคยบอกไว้นานแล้ว จะเกิดขึ้นแน่นอนครับ และน้ำทุ่งต่างๆ มันก็จะเป็นไปในแนวทางนี้ทั้งสิ้น เพราะน้ำทุ่งยังมีปริมาณอีกครึ่งหนึ่งของน้ำทั้งหมด ครับ
- ยิ่งบ้าน ดร.สุริยา แล้ว ไม่มีทางเลยจริงๆ ต้องหลังปีใหม่แน่นอน เพราะระดับน้ำเจ้าพระยาจะสูงกว่าในคลองรังสิต ไม่สามารถเปิดคลองรังสิตได้ ต้องรอระบทยทางคลองเปรมประชากรอย่างเดียว ซึ่งคลองเปรมประชากรเองก็มีน้ำล้นทั้งสองช่วงคือช่วง สน.ดอนเมืองท้วมจนเครื่องวัดระดับน้ำอัตโนมัติเสีย และช่วงวัดเทวสุนทร ซึ่งจะเห็นว่า กทม. มีคลองใหม่เกิดขึ้นคือ คลอง "แจ้งวัฒนะ" ตั้งแต่หลักสี่ถึงศูนย์ราชการ ครับ
สวัสดีคลองเปรมประชากร
|
|
|
|
suriya2513
|
|
« ตอบ #4360 เมื่อ: 23 พฤศจิกายน 2554, 18:41:20 » |
|
วันนี้หมู่บ้านอยู่เจริญดอนเมืองของผมกั้นบริเวณโดยรอบ และสูบน้ำออกจนแห้งผากแล้ว ชาวบ้านกำลังเข้าไปทำบิ๊กคลีนนิ่งอีเว้นท์กันอยู่ ทั้งหมู่บ้าน ยกเว้นผมเพราะไม่รู้จะลุยคลองวิภาวดีเข้าไปถึงหน้าหมู่บ้านได้ไง
|
[โบราณคดี]จุดกำเนิดเริ่มต้นของ cmadong.com by : มานพ กลับดี คลิ๊ก->
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #4361 เมื่อ: 23 พฤศจิกายน 2554, 18:52:02 » |
|
พี่ป๋อง
แนว Big bag ถนนพหลโยธินหน้า คปอ.(กรมควบคุมและปฏิบัติการทางอากาศ) ถูกรื้อหมดแล้วในช่วง 12.00-15.00 น. มีผลต่อหมู่บ้านอยู่เจริญ หรือไม่ครับ ?? เห็นว่า ระดับน้ำเพิ่้มสูงขึ้นในฝั่งตรงข้าม 20-30 ซ.ม. และทหารอากาศต้องเสริมแนวกระสอบทราย หลัง Big bag ล้มหมด
|
|
|
|
suriya2513
|
|
« ตอบ #4362 เมื่อ: 23 พฤศจิกายน 2554, 19:20:20 » |
|
อยู่เจริญ อยู่บนถนนวิภาวดี ไม่เกี่ยวกับฝั่งพหลโยธินหรอกครับ แต่ไม่สบายใจตรงที่ ตอนนี้ผมไปขออาศัยอยู่ที่โฮมออฟฟิสของปี๊ด รองรัตน์ โชคชัย 4 ซึ่งรอบที่แล้วน้ำไม่ท่วมเลยแม้แต่มิลเดียว ถ้าการรื้อกระสอบทรายที่ คปอ. ทำให้น้ำล้นมาท่วมที่นี่ก็ต้องเรียกผมว่าตัวนำโชคละครับ
|
[โบราณคดี]จุดกำเนิดเริ่มต้นของ cmadong.com by : มานพ กลับดี คลิ๊ก->
|
|
|
suriya2513
|
|
« ตอบ #4363 เมื่อ: 23 พฤศจิกายน 2554, 19:22:54 » |
|
ตอนเข้ากรุงเทพฯเมื่อบ่ายวันนี้ผมอยู่ในเหตุการณ์กับเขาด้วย และได้ถูกผู้ประท้วงใช้เป็นตัวประกันอยู่บนทางด่วนยกระดับเก็บเงินดอนเมืองพอดี
|
[โบราณคดี]จุดกำเนิดเริ่มต้นของ cmadong.com by : มานพ กลับดี คลิ๊ก->
|
|
|
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์
รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644
|
|
« ตอบ #4364 เมื่อ: 23 พฤศจิกายน 2554, 20:51:46 » |
|
สวัสดียามค่ำ ชาวซีมะโด่ง ที่รักทุกท่าน
บ่ายวันนี้ผมไปตีกอล์ฟกับคุณดิเรก และพนักงานของ PSTC อีกสามท่านครับ ที่สนามนารายณ์ฮิล จังหวัดลพบุรี ลมแรงมากอากาศเริ่มเย็น แต่ไม่มีนักกอล์ฟมาเล่นกอล์ฟเลย ทั้งสนามวันนี้มีเพียง ๔๐ คนเท่านั้นครับ ทั้งๆที่เป็นวัน Sport Day ลดค่ากรีนฟรีพิเศษ และเป็นหน้า ฤดูตีกอล์ฟแล้ว นักกอล์ฟเกาหลีก็ยังไม่มาเลยครับ คงเป็นเพราะน้ำท้วม อะไรๆ จึงไม่ดีไปหมดครับปีนี้
สำหรับข่าวน้ำท้วม ผมไม่ได้ตามเลย สถานพการณ์คงเหมือนเมื่อวานครับ
ราตรีสวัสดิ์ทุกท่านครับ
|
|
|
|
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์
รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644
|
|
« ตอบ #4365 เมื่อ: 23 พฤศจิกายน 2554, 21:00:15 » |
|
สวัสดีครับ คุณเหยง ดร.สุริยา
เป็นข่าวร้ายจริงๆ ที่มีการรื้อกระสอบทราย Big Bag คงทำให้น้ำที่ทหารอากาศ สะพานใหม่ บางเขน เกษตร กลับมีระดับเพิ่มขึ้นอีกแน่นอน ครับ เพราะมีน้ำค้างอยู่พอสมควร ก้หวังว่า กทม. คงสูบน้ำทิ้งได้ที่คลองบางเขน และบางบัว ครับ คงไม่รุนแรงมาก
ดีใจด้วยที่หมู่บ้านอยู่เจริญ ของ ดร.สุริยา ทำคันสูบน้ำออก เพราะรอ กทม.ไม่ไหวอีกนานแน่นอน
สวัสดี
|
|
|
|
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์
รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644
|
|
« ตอบ #4366 เมื่อ: 23 พฤศจิกายน 2554, 21:09:53 » |
|
|
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #4367 เมื่อ: 23 พฤศจิกายน 2554, 21:35:38 » |
|
พี่สิงห์ครับ
หากอยากจะถ่ายรูปเพื่อส่งประกอบ เพื่อแสดงความเสียหาย รวมทั้งอยากจะแจ้งความเพื่อแสดงตนและจดแจ้งความเสียหาย ก็สามารถทำได้ด้วยครับ ไม่มีใครห้าม
ผมถ่ายภาพส่งประกอบไป 18 ภาพรวม 9 หน้า เพื่อแสดงให้เห็นถึงความเสียหาย จะได้หมดข้อสงสัย และใช้ยกขึ้นเป็นการหารือ-อ้างอิง ได้ด้วยครับ
ส่วนเรื่องสถานการณ์ ผมว่าค่อยๆปล่อยให้มันผ่านไปก็แล้วกัน น้ำกำลังจะใกล้อ่าวไทยเข้าไปทุกทีแล้ว นั่นคือสถานที่ที่มันต้องการจะไป
|
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #4368 เมื่อ: 24 พฤศจิกายน 2554, 14:02:27 » |
|
ทอล์กออฟเดอะทาวน์..ปล้นปริศนา กัลยา ยืนยงกระจกไร้เงา24 พฤศจิกายน 2554 - 00:00 จากเหตุการณ์ "ทอล์กออฟเดอะทาวน์" ปล้นสนั่นเมือง คนร้ายบุกปล้นบ้านนายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ปลัดคมนาคม ย่านวังทองหลาง เมื่อวันที่ 12 พ.ย.ที่ผ่านมา และได้สร้างความฮือฮา เมื่อกลุ่มโจรได้แจ้งกับแม่บ้านของนายสุพจน์ว่า “เจ้านายให้มาเอาของที่เจ้านายเธอเอาไป” หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจตามจับตัวคนร้ายมาได้ 2 คน ยิ่งสร้างความสนใจให้กับผู้คนในสังคมเป็นอย่างมาก คดีนี้ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผบ.ตร. สั่งการให้ พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา รอง ผบ.ตร. ลงมาคุมคดี ในเวลาต่อมาสามารถจับกุมคนร้ายได้ 2 ราย คือ นายสิงห์ทอง หรือไก่ ใจชื่นชม อายุ 44 ปี และนายเสาร์แก้ว หรือแก้ว นามวงค์ อายุ 59 ปี ให้การรับสารภาพและซัดทอดเพื่อนร่วมแก๊งอีก 4 คน ประกอบด้วย นายวีระศักดิ์ หรือโก้ เชื่อลี อายุ 36 ปี หัวหน้าแก๊ง, นายพงษ์ศักดิ์ นามวงค์ อายุ 35 ปี ลูกชายของนายเสาร์แก้ว, นายสมบูรณ์ ริยะเทน อายุ 40 ปี และนายคำนวณ เมฆน้อย อายุ 38 ปี โดยนายสิงห์ทอง หรือไก่ สารภาพว่า ได้เงินไปจำนวน 200 ล้านบาท และอ้างว่าภายในบ้านยังมีเงินเหลืออีก 700-1,000 ล้านบาท ที่ขนออกมาไม่ไหว เบื้องต้นตำรวจพบข้อมูลว่าการปล้นดังกล่าวเป็นใบสั่งของ เสธ.สนามม้า ลูกพี่ของไอ้โก้ ตามข่าวที่เสนอไปแล้ว จากนั้นนายสุพจน์ให้สัมภาษณ์ถึงคำให้การของคนร้ายปล้นบ้านที่ระบุว่า ได้เงินไปกว่า 200 ล้านบาท และยังมีเงินเหลือในบ้านอีก 700-1,000 ล้านบาท ว่า ไม่เป็นความจริง มองว่าเป็นเรื่องของการ ”ดิสเครดิต” กันมากกว่า ต้องดูตามข้อเท็จจริงก่อน ซึ่งเงินที่คนร้ายได้ไปเป็นเงินสินสอดและเงินรับไหว้ของลูกสาว ไม่สามารถตอบได้ว่ามีจำนวนเท่าไหร่ เพราะยังไม่ได้นับ แต่นำเงินมารวมกันไว้เท่านั้น ขอปฏิเสธว่าไม่มีเงินส่วนตัวอย่างแน่นอน "ผมจะไม่เก็บเงินส่วนตัวไว้ที่บ้าน ต้องมาดูว่าเงินจำนวนพันล้านจะต้องเก็บอย่างไร แล้วเงิน 200 ล้านมีที่ไหน เอามาพูดกัน หากเป็นแบงก์พันปึกละ 1,000 ใบ ก็ตั้ง 200 ปึกจะเก็บยังไง หากดูตามข้อเท็จจริงคนที่มาบอกว่าเอาเงินไป 200 ล้าน และเอาไปไม่หมด หากมีจริงทำไมจะเอาไปไม่ได้ ผมก็ไม่รู้จะพูดอย่างไร" นั่นคือคำบอกจากปากนายสุพจน์ ส่วนที่มีกระแสข่าวลือว่า เงินจำนวนมากอาจเกี่ยวข้องกับโครงการในกระทรวงคมนาคมนั้น นายสุพจน์ปฏิเสธว่า ที่ผ่านมาได้รับหน้าที่ประธานคณะกรรมการการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) และการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนกรุงเทพ (รฟม.) แต่ไม่เคยเข้าไปสั่งการใดๆ และไม่เคยติดต่อกับบริษัทเอกชนโดยตรง เพราะการจะอนุมัติโครงการนั้นมีขั้นตอนกระบวนการ ต้องผ่านความเห็นชอบจากคณะทำงานก่อนจะเสนอให้คณะกรรมการอนุมัติเท่านั้น แต่ที่ทำให้ช็อก!!! กันอีกดอก คืออดีตเลขาฯ นายสุพจน์ ดอดพาลูกชายเข้ามอบตัวกับตำรวจ หลังจากนั้น ผบ.ตร.ได้นำไปสอบปากคำร่วมกับชุดสืบสวนใช้เวลานานกว่า 6 ชั่วโมง เจ้าตัวเครียดหนักถึงกับเกือบช็อก ต้องตามหมอมาให้น้ำเกลือ พร้อมทั้งปฏิเสธว่าไม่มีเอี่ยวปล้นบ้านปลัดเจ้านายเก่าแม่ โดยอ้างผู้ต้องหาที่จับได้แล้วมาถามข้อมูลฐานะทางบ้านของเหยื่อเท่านั้น ทว่าแนวทางการสืบสวนเชื่อว่าอยู่เบื้องหลังจริง มีปมแค้นแทนแม่หลังโดนบีบพ้นตำแหน่ง ขณะที่ทีมนครบาลตามยึดเงินของกลางคืนแล้ว 16 ล้านบาท เพื่อนร่วมก๊วนอีกคนยัน “ไอ้โก้” บอกเอง ก่อนลงมือในบ้านผู้เสียหายมีเงิน 165 ล้านบาท สำหรับประวัตินายสุพจน์ อายุ 58 ปี เกิดเมื่อ 27 กุมภาพันธ์ 2496 จบการศึกษาปริญญาตรีวิศวกรรมศาสตร์ (โยธา) จากสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี เริ่มทำงานในปี 2520 เป็นเจ้าหน้าที่แรงงาน 3 กรมแรงงาน กระทรวงมหาดไทย ปี 2521 เป็นนายช่างโยธา 3 กรมชลประทาน ปี 2521-2541 ต่อมาย้ายข้ามไปกระทรวงคมนาคม เป็นวิศวกรออกแบบทาง กรมทางหลวง ระดับ 3-8 กองสำรวจและออกแบบ กรมทางหลวง และได้รับแต่งตั้งให้เป็นอธิบดีกรมทางหลวงเมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2551 การศึกษา โรงเรียนจิระศาสตร์วิทยา, โรงเรียนเซนต์จอห์น, วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) รุ่นที่ 45, นักบริหารระดับสูง นบส.1 รุ่นที่ 36 (ก.พ.), หลักสูตรผู้บริหารเทคโนโลยีสารสนเทศระดับสูง รุ่นที่ 16, วิศวกรรมศาสตรบัณฑิต สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ตำแหน่งอื่นในปัจจุบัน ประธานกรรมการ รฟม. ลาออกแล้ว, กรรมการ ร.ฟ.ท., กรรมการบริษัท ขนส่ง จำกัด (บ.ข.ส.), กรรมการการเคหะแห่งชาติ (กคช), และกรรมการผังเมือง ประสบการณ์การทำงาน เคยดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมทางหลวง (ทล.), อธิบดีกรมทางหลวงชนบท (ทช.), ผู้ตรวจราชการกระทรวงคมนาคม (ระดับ 10), รองอธิบดี (นักบริหาร 9) กรมทางหลวงชนบน, ผู้ช่วยปลัดกระทรวงคมนาคม (นักบริหาร 9), คณะกรรมการการท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย (ทอท.) คงต้องจับตาดูกันต่อไปว่า คดีนี้ใครคือ "ไอ้โม่ง". http://www.thaipost.net/news/241111/48589
|
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #4369 เมื่อ: 24 พฤศจิกายน 2554, 16:17:05 » |
|
สส. คนถามกระทู้ อยู่พรรคเพื่อไทย รองนายกฯ ตอบแบบสบายใจ แต่คนถูกพาดพิงซึ่งเป็น สส. ไม่ตอบโต้ ขอกลับไปตั้งหลัก จะตอบพรุ่งนี้ ?? “เฉลิม” สับแหลกปล้นบ้านปลัดคมนาคม วันพฤหัสบดี ที่ 24 พฤศจิกายน 2554 เวลา 14:00 น “เฉลิม”แจงกระทู้สภาปล้นบ้าน“ปลัดคมนาคม” ฟันธงเงินทุจริตโครงการรถไฟฟ้าฯ “โสภณ”พล่านชี้แจง
ที่รัฐสภา เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 24 พ.ย. นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม ทั้งนี้มีการพิจารณากระทู้ถามสดของนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย เรื่องการปล้นบ้านนายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ปลัดกระทรวงคมนาคม ช่วยราชการสำนักนายกรัฐมนตรี โดยถามนายกรัฐมนตรี ว่ากรณีปล้นบ้านปลัดคมนาคม แทนที่ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี จะทุกข์ร้อนเร่งดำเนินการ แต่กลับเงียบทั้งๆที่เป็นกรณีที่สะเทือนวงการราชการไทยเป็นอย่างมาก ซึ่งตนอยากถามว่าร.ต.อ.เฉลิมในฐานะรับผิดชอบสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) จะรับผิดชอบอย่างไร จะเอาเงินคืนมาได้มากน้อยเพียงใด ร.ต.อ.เฉลิม ตอบกระทู้สดแทนนายกรัฐมนตรีพร้อมนำแผ่นชาร์ตมาแสดงภาพประกอบว่า คดีนี้เป็นคดีแปลกไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ที่เจ้าทรัพย์ระบุว่าถูกปล้นแค่ 5 ล้านบาท แต่ตำรวจตามจับคนร้ายและยึดทรัพย์กลับมาได้แล้ว 17.8 ล้านบาท จากบทความในนสพ.ฉบับหนึ่งระบุว่า เรื่องนี้มีต้นเหตุมาจาก “เจ๊ตุ๋ย” ทะเลาะกับ “เจ๊ติ๋ม” แต่ตนทราบว่า มี “น้องแนท”เข้ามาเกี่ยวข้องอีกคนหนึ่ง ขณะนี้ตำรวจจับคนร้ายได้ 7 คน มอบตัว 1 เป็น 8 คน จากทั้งหมด 11 คน ยึดทรัพย์ได้ 17.8 ล้านบาท โดยมีนายโก้ได้หนีไปลาวพร้อมเงินของกลาง 100 ล้านบาท งานนี้เขาสั่งให้ปล้น แล้วเอาเงินไปให้ มีสาเหตุมาจากโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง สีน้ำเงิน สีแดง ซึ่งมีการคอรัปชั่น 7-8 % เรื่องนี้ตนเคยอภิปรายในสภามาแล้ว แต่ถูกประท้วง ซึ่งก็ชัดเจนว่า ไจก้าได้ยกเลิกสัญญาไปแล้ว ซึ่งมีบริษัทรับเหมาก่อสร้างที่เกี่ยวข้อง แต่ไม่ขอบอกว่า เป็นของใคร ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวต่อไปว่า ยืนยันว่า รัฐบาลจะจับตัวคนร้ายให้ได้ พาดพิงถึงใครเอาหมด วันนี้ได้ข่าวว่า นักการเมืองที่ทุจริตกลัวตำรวจค้นบ้าน แต่ขอให้ตำรวจทำด้วยความระมัดระวัง เพราะกลัวจะถูกมองว่า เป็นการเอาคืน เรื่องนี้ผู้ต้องหาให้การชัดว่า เกิดจากความแค้น รัฐบาลจะรับผิดชอบการจับกุมสอบสวน ไม่ลูบหน้าประจมูก นักการเมืองคนไหนมีส่วนร่วม ก็จะไม่ละเว้น แม้นักการเมืองจะไม่ได้เป็นการปล้น แต่การรับของโจรก็มีความผิด นายพิเชษฐ์ ถามต่อว่า นายสุพจน์เติบใหญ่ในรัฐบาลอภิสิทธิ์ มีพรรคภูมิใจไทยรับผิดชอบกระทรวงคมนาคม กระทรวงนี้เป็นกระทรวงทองคำฝังเพชร การที่คนร้ายบอกว่า น่าจะมีเงินเกินพันล้าน เป็นการปล้นระดับฮอลิวู้ด มีคนร้ายมากกว่า 10 คน อยากรู้ว่า จริงหรือไม่ที่บอกว่า การปล้นครั้งนี้เป็นการปล้นสั่งสอน ถ้าไม่เป็นการปล้นสั่งสอน ก็เป็นการทวงเงินคืน ตนทราบว่า เป็นเพราะทำมาหากินแล้วไม่แบ่งให้กิ๊ก กิ๊กก็เลยทะเลาะกัน ทำแบบนี้เสียหายวงราชการทั้งประเทศ ถ้าเป็นตำรวจต้องออกราชการไว้ก่อน ดังนั้นถ้ามีการพาดพิงหรือสืบสวนว่า นายสุพจน์มีผลประโยชน์ที่กว้างขวางออกไปจะดำเนินการทางวินัยกับนายสุพจน์อย่างไร ร.ต.อ.เฉลิม ตอบว่า พฤติกรรมมีเงินแล้วชี้แจงไม่ได้ บอกว่าเป็นเงินสินสอด ถือว่าผิดปกติ ย้ายมาสำนักนายกรัฐมนตรียังถือว่าน้อยไป แต่ทำอะไรไม่ได้เพราะตนไม่ได้กำกับดูแล เรื่องคนตายเขายังสืบจากศพ ดังนั้นเรื่องนี้ต้องสืบจากเงิน ขอให้ดูพลาสติกที่คาดเงินจะรู้ว่า เบิกมาเมื่อไร ธนาคารอะไร บัญชีใคร มีสาเหตุการเบิกเพื่ออะไร เรื่องนี้การปล้นมีการวางแผน มีข้อมูลอินไซด์ รู้หมดว่า ปลัดฯไม่อยู่ไปงานแต่งงานลูก และเขาก็ไม่อยากให้เป็นเรื่อง ได้บอกนายตำรวจที่เป็นเพื่อนสนิท ตำรวจคนนั้นก็ตกใจ ก็รีบว.บอกต่อกันทันที ทำให้สื่อมวลชนทราบ ทราบว่าเงินส่วนหนึ่งที่ยึดคืนมาได้ เงินบางปึกมีการเบิกมาจากธนาคารที่ จ.อุดรธานี เป็นบริษัทก่อสร้างแถวนั้น มันฮั้วประมูล มันอิทธิพล ประมูลทีไรได้ทุกที เพราะมีการจ่ายใต้โต๊ะ จึงเป็นที่มาของความลำบากของตำรวจ นายพิเชษฐ์ถามว่า สังคมสงสัยทำไมเสนาบดีมีเงินมากมายมหาศาล ปล้นแล้วขนไปไม่หมด อยากทราบว่า พรรคภูมิใจไทยจะว่าอย่างไร เมื่อปลัดฯมีพันล้าน แล้วนายโสภณ ซารัมย์จะมีเท่าไร เป็นหมื่นล้านหรือไม่ ทำให้นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ลุกขึ้นประท้วงที่พาดพิงมาถึงพรรค พร้อมกับขอให้ถอนคำพูดในส่วนที่พาดพิงถึงนายโสภณ ซึ่งนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานในที่ประชุมก็ขอให้นายพิเชษฐ์ถอนคำพูด ซึ่งนายพิเชษฐ์ก็ยอมถอนคำพูด พร้อมกับถามต่อว่า หากมีการสอบสวนพาดพิงไปถึงนักการเมือง ร.ต.อ.เฉลิมจะยืนยันได้หรือไม่ว่า ไม่กลัวอิทธิพล เพื่อประเทศจะได้หลุดพ้นจากวงจรอุบาทว์นี้ ร.ต.อ.เฉลิมตอบว่า ขอเรียกร้องนายโก้ที่หนีไปลาว ซึ่งเป็นคนอุดรฯ ภรรยาเป็นคนเวียดนาม ขอให้ติดต่อมามอบตัว แล้วจะรอดชีวิต ไม่ใช่เพราะตำรวจตามฆ่า แต่เพราะคนที่สั่งให้ไปปล้น กำลังตามล่า ขอให้มอบตัว ถ้าไม่มั่นใจ ตนจะไปเดินทางไปรับด้วยตัวเอง มันเอาแน่ เพราะแหล่งข่าวจากการสืบสวนสอบสวนที่เปิดเผยไม่ได้ เป็นความลับทางราชการอธิบายไว้หมดว่า พาดพิงใครบ้าง และพูดถึง โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง สีน้ำเงิน สีแดง สีเขียว ว่า มีการจ่ายกันกี่เปอร์เซ็นต์ ทั้งหมดมันเจ็บปวดเจ็บแค้น จึงเป็นที่มาของการปล้น ไม่ใช่การปล้นธรรมดา ไม่ได้ประทุษร้าย ไม่ประสงค์ต่อทรัพย์ แต่มีสิ่งซ่อนเร้นในหัวใจคือ การหักกันไปมา ยืนยันว่า จะดำเนินการเรื่องนี้อย่างเต็มที่
ขณะนี้สั่งให้ตำรวจส่งข้อมูลให้ ปปง. และ ป.ป.ช. ปลัดฯต้องโดนแน่เพราะแจ้งทรัพย์สินเท็จ ผิดประมวลกฎหมายอาญา วันนี้เกรงใจกันไม่ได้ ยืนยันว่า ไม่กลัวใคร เพราะตอนเป็นฝ่ายค้านก็ยังอภิปรายรัฐบาลได้ มาวันนี้เป็นรัฐบาลก็ต้องทำตามหน้าที่ ยิ่งไม่กลัวใคร ขอให้สบายใจได้ ถ้าจะตั้งกระทู้ต้องถามว่า "สมมติว่า ปลัดมีเท่านี้ รัฐมนตรีมีเท่าไร แล้วลูกพี่รมต.มีเท่าไร" จึงจะไม่ถูกประท้วง เพราะไม่ได้บอกว่าใครทุจริต เป็นเพียงการอุปมาอุปมัย ขณะนี้มันมีหมู่บ้านแห่งหนึ่งในประเทศอังกฤษ มีนักการเมืองไทยซื้อเป็นแถว แต่ไม่ขอลงลึก โดยเอาเงินคดโกงทุจริตไปซื้อทั้งนั้น บ้านใหญ่โต ซึ่งตรงนี้ไม่ใช่ข้อมูลตำรวจ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า สำหรับข้อมูลของตำรวจมีเพียงกระเป๋า 1-2 กระเป๋า ส่วนข้อมูลตนพบว่า นายสมบูรณ์ยกกระเป๋าพลาสติก มีซิปตรงกลาง 2 ใบ ราคาใบละ 40 บาท ใส่ท้ายรถกระบะ ซึ่งตนได้จากวงจรปิดเล็กๆ ตนจะส่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะไม่มีในสำนวน ต่อมานายวีระศักดิ์ หรือนายโก้ ก็ยกกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ยี่ห้อหลุยส์วิคตอง แบบมีล้อเลื่อน 1 ใบ ใส่ท้ายรถกระบะ ซึ่งกระเป๋าหลุยส์ฯ ชาวบ้านคงไม่รู้จัก ต้องเป็นพวกไฮโซ มีความนิยม หรือเป็นคนรวยก็เอาเงินใส่กระเป๋ามาจากบริษัทรับเหมาต่างๆ แต่ยังไม่ทันถ่ายเทเงิน และต่อมานายวีระศักดิ์ก็ยกถุงปุ๋ยใส่เงินสด 3 ใบ จากที่เตรียมไว้ 17 ใบ ใส่ท้ายกระบะรถยนต์ สุดท้ายนายเสาร์แก้วยกกล่องกระดาษมีเลข 15 กล่อง ใส่กระบะรถยนต์
พฤติกรรมเช่นนี้ คนเป็นนักสืบจะรู้ว่า เขาให้เงินสดต้องหากล่องมาใส่เพื่อเคลื่อนย้ายง่าย แต่ลักษณะอย่างนี้ เขาให้มาอย่างไรก็เก็บอย่างนั้น ยืนยันว่า งานนี้รัฐบาลไม่ปล่อย การถามกระทู้สดคร้งนี้ ใครจะว่าเป็นการเตี๊ยมกันก็ไม่เป็นไร เพราะจู่ๆ จะไปทำเอง ก็จะหาว่า ล้างแค้น ท่านต้องรู้ว่า รัฐบาลชุดที่แล้วเป็นรัฐบาลผสม ใครอยู่ตรงไหนก็ใหญ่ แต่รัฐบาลชุดนี้ไม่มี อะไรก็ต้องเป็นคาบิเนต ยืนยันจะให้ข้อมูล ปปง. ป.ป.ช. ถ้าอดีตนายกรัฐมนตรี สนใจก็จะไปหาท่านอภิสิทธิ์ เพราะเราเป็นแฟนกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันพรุ่งนี้ (25 พ.ย.) นายโสภณ ซารัมย์ ส.ส.บุรีรัมย์ พรรคภูมิใจไทย อดีต รมว.คมนาคม จะเปิดแถลงข่าวพร้อมโชว์เอกสารหลักฐาน ข้อเท็จจริง ในเวลา 10.00 น. ที่รัฐสภา. http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryID=8&contentID=177816
|
|
|
|
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์
รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644
|
|
« ตอบ #4370 เมื่อ: 24 พฤศจิกายน 2554, 16:35:08 » |
|
สวัสดีครับ ชาวซีมะโด่ง ที่รักทุกท่าน
วันนี้ผมขับรถมาทางอำเภออุทัย อยุธยา ระดับน้ำลดลงมากเกือบปกติ ยกเว้นน้ำทุ่งที่ยังหาเจ้าภาพในการระบายลงแม่น้ำเจ้าพระยาไม่ได้ครับ สงสัยต้องรอให้ปิดถนนสายเอเซีย เพื่อเรียกร้อง รัฐบาลท่านจึงจะดำเนินการ จนเป็นแฟชั่นไปแล้วครับ ผมไม่ว่าอะไรประชาชน เพราะเขาเดือดร้อนจริงๆ อยากให้น้ำแห้งเต็มแก่แล้วครับ ส่วนความเสียหายไม่ต้องพูดถึงกันมันมีอยู่แล้วครับ ขอเพียงอย่าเอาความเสียหายของประชาชนผู้เดือดร้อน มาหากินกันเป็นพอครับ
ผมอยู่กรุงเทพฯ เย็นนี้ต้องไปงานศพแม่พรรคพวกที่วัดธาตุทอง ครับ
สวัสดี
|
|
|
|
khesorn mueller
|
|
« ตอบ #4371 เมื่อ: 24 พฤศจิกายน 2554, 17:16:49 » |
|
พี่สิงห์คะ, หนิงหาข่าวน้ำท่วมก็ไม่มี มีแต่...ข่าวก่นด่ารัฐบาล! ก่นด่านายก..มากมาย ความไม่พึงพอใจดูจะมากมาย
นี่ขนาดกำลัง"together ,we can"กันนะคะ สงสัย,ทำความสะอาดไป ด่าไป! ขอให้สะอาดๆเร็วไวคะเมืองฟ้าอมรของเรา.
(ทรายและถุงทราย,ใครมีหน้าที่เก็บคะ? ขยะคงจมหู...ทีนี้ล่ะได้เกี่ยงกันอีก)
|
|
|
|
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์
รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644
|
|
« ตอบ #4372 เมื่อ: 24 พฤศจิกายน 2554, 20:59:50 » |
|
สวัสดีค่ะ คุณน้องหนุ๋งหนิ๋ง ที่รัก
- ถุงทราย นั้นยังไม่มีเจ้าภาพครับ ถ้าพี่สิงห์เป็นผู้ว่า กทม. จะให้ทางผู้อำนวยการเขต นำรถบรรทุกไปเก็บจากประชาชน ครับ มันมากจริงๆ และทรายนั้นก็ไม่สามารถเอาไปทำก่อสร้างได้ เพราะถุงทรายจมน้ำนาน น้ำสกปรกมาก ในทรายก็สกปรกเกินกว่าจะนำไปใช้งานก่อสร้างได้ นอกจากเอาไว้ปีหน้าหรือเอาไปถมที่ครับ
- การทำความสะอาดตรอก ซอย ก็ยังหาเจ้าภาพไม่ได้ กทม. ท่านยังไม่ดำเนินการอะไรครับ ท่านทำเแพาะสายหลักเท่านั้น
- แน่นอนตอนนี้มีแต่ประชาชนด่ารัฐบาล เพราะน้ำท้วมมาเป็นเดือน น้ำเหม็น สกปรก เงินหมด ของยังชีพก็หมด และไม่มีคำตอบว่าน้ำจะแห้งเมื่อไร บรรดา "น้ำเหลือเดน" ที่ท้วมขังอยู่ ต้องรอสูบทิ้ง ยังหาเจ้าภาพไม่ได้ รัฐบาลท่านต้องรอให้ประชาชนปิดถนน ถึงจะมาดำเนินการ ครับ นี่ละรัฐบาลไทย ท่านนายกไม่ต้องพูดถึง ดร.สุริยา เป็นนายกยังดีเสียกว่าอีกครับ
- ตอนนี้กลุ่ม NGO ก็ฟ้องศาลปกครอง ไม่ให้กู้ถนน สายสุพรรณบุรี-บางบัวทอง ของท่านบรรหารสิลปอาชา เพราะไม่คุ้มค่า ชาวบ้านเดือดร้อน เพราะน้ำจะท้วมนาน มันก็น่าเห็นใจ ปล่อยไปเป็นธรรมชาติของมันดีกว่า ครับ รอให้มันแห้งพร้อมกับบ้านประชาชน ดีกว่า ยังมีทางอื่นไปสุพรรณบุรีได้ อย่าไปกู้มันเลย อีกเพียงเดือนเดียวครับ
สวัสดีค่ะ
|
|
|
|
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์
รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644
|
|
« ตอบ #4373 เมื่อ: 24 พฤศจิกายน 2554, 21:06:34 » |
|
ข่าวดี ข่าวด่วน! ชาวซีมะโด่งท่านใดที่น้ำท้วมบ้าน และน้ำได้แห้งแล้ว ยังไม่ได้ทำความสะอาดบ้าน โปรดแจ้งอาจารย์เผ่า สุวรรณศักดิ์ศรี ศิลปินแห่งชาติ ทางอาจารย์เผ่า จะจัดนิสิตอาสาสมัคร และแม่บ้านของหอพัก กับเครื่องมือทำความสะอาด เครื่องฉีดยาฆ่าเชื้อ จากชมรมฯ ไปบริการล้างบ้านให้ท่านฟรี ขอเพียงให้ท่านแจ้งมายังกระทู้นี้ ที่นี่พร้อมทั้งเบอร์โทรศัพท์ติดต่อกลับ ผมจะช่วยประสานกับทางอาจารย์เผ่าให้ครับ
เช่น บ้านอาจารย์ถาวร ดร.สุริยา คุณน้องเอมอร เป็นต้น อย่าลืมท่านทำไม่ไหวหรอกครับ ต้องหาคนมาช่วยทำความสะอาดครับ
สวัสดี
|
|
|
|
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์
รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644
|
|
« ตอบ #4374 เมื่อ: 24 พฤศจิกายน 2554, 21:11:51 » |
|
หลังเปิดประตูระบายน้ำคลองขุนศรีฯ คลองควาย คลองซอย 1 เมตร มีน้ำเข้าพื้นที่ทวีวัฒนา 2 ซม.เฝ้าระวังต่อเนื่อง
วันพฤหัสบดีที่ 24 พฤศจิกายน 2011 เวลา 11:38 น. กองประชาสัมพันธ์ กทม. (24 พ.ย.54) ที่ศาลาว่าการกทม. เวลา 11.00 น. : ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร แถลงสถานการณ์น้ำประจำวัน รวมถึงความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหากรุงเทพฯ ว่า ภายหลังจากกทม.เปิดประตูระบายน้ำ 3 แห่ง ได้แก่ ประตูระบายน้ำคลองขุนศรีบุรีรักษ์ คลองควาย และคลองซอย เป็น 1 เมตร ทำให้ระดับน้ำด้านในประตูระบายน้ำและพื้นที่เขตทวีวัฒนาสูงขึ้น 2 ซม. อย่างไรก็ตาม กทม.จะยังไม่ด่วนสรุปต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดยจะประเมินผลกระทบอย่างต่อเนื่องภายใน 48 ชั่วโมงนับแต่มีการเปิดประตูระบายน้ำ ส่วนการรื้อกระสอบทรายยักษ์ หรือ บิ๊กแบ็ค ที่แยกคปอ.ดอนเมือง นั้น ยังไม่มีผลกระทบต่อพื้นที่โดยรวม อย่างไรก็ตาม กทม.จะเร่งสูบน้ำในพื้นที่กรุงเทพฯ ตอนเหนือ เขตดอนเมือง หลักสี่ สายไหม คลองหกวาสายล่าง ให้เร็วที่สุด
ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวด้วยว่า ในช่วงบ่ายวันนี้ ตนเองจะเดินทางเข้าพบนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ณ ทำเนียบรัฐบาล พร้อมทั้งนำข้อเสนอในการบริหารจัดการน้ำต่อนายกรัฐมนตรี ซึ่งจะแจ้งให้ทราบในภายหลัง
สำหรับสถานการณ์น้ำโดยทั่วไปดีขึ้นตามลำดับ โดยในวันนี้ระดับน้ำทะเลหนุนไปแล้วเมื่อเวลา 06.45 น. ที่ระดับ 2.17 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง และระดับน้ำที่ อ.บางไทร 3.36 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ระดับน้ำในคลองรังสิตประยูรศักดิ์ 2.98 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ส่วนระดับน้ำโดยภาพรวมทั้งบริเวณดอนเมือง คลองหกวาสายล่างที่ประตูระบายน้ำคลองสอง และคลองสายหลักมีแนวโน้มลดลง ประมาณ 1-3 ซม. ซึ่งนับเป็นสัญญาณที่ดีว่าสถานการณ์กำลังจะคลี่คลาย ส่วนคลองมหาสวัสดิ์ระดับน้ำทรงตัว
ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวถึงการจัดการขยะในพื้นที่กรุงเทพฯ ว่า โดยรวมสามารถจัดเก็บได้ 9,544 ตัน เก็บได้สูงกว่าในสภาวะปกติกว่า 1,000 ตัน ส่วน 25 เขตน้ำท่วมขัง จัดเก็บขยะได้มากขึ้นเป็น 4,540 ตัน จากวานนี้ 4,313 ตัน ซึ่งในเขตดอนเมือง หนองแขม และบางแค จัดเก็บได้ประมาณร้อยละ 60 เนื่องจากระดับน้ำในพื้นที่ยังท่วมสูง คาดว่าในสัปดาห์จะจัดเก็บได้มากขึ้น พร้อมกันนี้ กทม.จะระดมเขตที่ไม่ใช่พื้นที่ประสบภัยเข้าไปช่วยจัดเก็บขยะในพื้นที่น้ำท่วมด้วย เพื่อไม่ให้มีขยะตกค้าง
|
|
|
|
|