20 กันยายน 2567, 22:25:55
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: 1 ... 141 142 [143] 144 145 ... 681   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: คุย กับ คุณมานพ กลับดี อดีตประธานชมรม ๓ สมัย  (อ่าน 3459180 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 26 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #3550 เมื่อ: 16 ตุลาคม 2554, 14:38:25 »

พี่สิงห์

ฟ้าเมื่อเวลาก่อนเที่ยง และมีฝนตกลงมาในระดับปานกลางครับ เล่นเอาต้องเปิดปั๊มทุกตัวสู้อยู่สองชั่วโมง
เพื่อกำจัดน้ำฝนส่วนนี้ครับ

      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #3551 เมื่อ: 16 ตุลาคม 2554, 14:53:59 »

ภาพจากดาวเทียม ณ เวลา 18.00 น. เมื่อวานนี้ครับ

มีกลุ่มเมฆปกคลุมเอเชียอาคเนย์ (เวียตนาม ลาว เขมร ไทย พม่า) ซึ่งน่าจะเป็นกลุ่มเมฆที่เกิดจากอิทธิพลของ "บันยัน"




      บันทึกการเข้า
เอมอร 2515
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu 2515
คณะ: รัฐศาสตร์(นิติศาสตร์)
กระทู้: 4,562

« ตอบ #3552 เมื่อ: 16 ตุลาคม 2554, 15:12:43 »

มาเกาะติดสถานการณ์น้ำค่ะ พี่สิงห์
ขอบคุณข้อมูลค่ะ น้องเหยง
พี่สิงห์ น้ำขึ้นมาวันละเซนต์ค่ะ
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #3553 เมื่อ: 16 ตุลาคม 2554, 19:24:23 »

พี่สิงห์ พี่'อร

อ่านคำสัมภาษณ์ครูฝรั่งที่นครสวรรค์ครับ


ครูฝรั่ง “เมืองปากน้ำโพ” เล่าวิกฤตอุทกภัย-ขวัญกำลังใจคนไทย ผ่าน BBC
16 ตุลาคม 2554 17:37 น.

                               

        บีบีซี/ASTVผู้จัดการออนไลน์ - ทหารและอาสาสมัครชาวไทยกำลังพยายามสุดกำลัง เพื่อยับยั้งวิกฤตอุทกภัยครั้งเลวร้ายที่สุดของประเทศในรอบหลายสิบปี และป้องกันไม่ให้มวลน้ำก้อนใหญ่ทะลักเข้ากรุงเทพฯ นครหลวงแห่งสยามเมืองยิ้ม
      
       เจ้าหน้าที่เร่งระบายน้ำในลำคลองสายต่างๆ เพื่อรองรับน้ำปริมาณมหาศาล โดยทั่วทั้งกรุงเทพฯ เต็มไปด้วยกระสอบทรายที่วางซ้อนกันเป็นพนังกั้นน้ำ
      
       ทั้งนี้ นิโคลา กูร์นีย์ ครูสอนภาษาอังกฤษ ที่จังหวัดนครสวรรค์ บรรยายสถานการณ์อุทกภัยครั้งใหญ่ในเมืองปากน้ำโพผ่านทางบีบีซี โดยเล่าถึงวิกฤตน้ำท่วมในตัวเมือง และขวัญกำลังใจของชาวนครสวรรค์ที่ชาวต่างชาติคนนี้ได้สัมผัส
      
       “สถานการณ์ที่นครสวรรค์แย่มาก ... เมืองจมอยู่ใต้น้ำลึกหลายเมตร คนก็พูดกันว่าอีกเป็นเดือน กว่าน้ำจะลดลง”
      
       “โรงเรียน วิทยาลัย สถานสงเคราะห์เด็กกำพร้า วัด หรือโรงยิม ทุกแห่งที่น้ำท่วมไม่ถึงล้วนกลายเป็นศูนย์อพยพผู้ประสบภัย ขณะที่เรากำลังตั้งตารอให้ระดับน้ำลดลง”
      
       “ตอนแรก ดูเหมือนเราจะรอดพ้นสภาพน้ำท่วมเลวร้ายไปได้ เพราะทางจังหวัดสร้างแนวป้องกันน้ำท่วม แต่ดันมีอุบัติเหตุเกิดขึ้น เรือรับจ้างแล่นชนพนังกั้นน้ำ ทำให้น้ำทะลักเข้าตัวเมือง ล่าสุด ระดับน้ำสูงเกินกว่า 2 เมตรแล้ว”
      
       “ฉันพักอยู่ในวัดที่ฉันสอนภาษาอังกฤษให้เณร ที่นี่มีผู้อพยประมาณ 1,300 คน หลายคนต้องสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่าง”
      
       “โชคยังดี สองสามวันที่ผ่านมา เรามีน้ำประปาใส่ถังไว้ให้ทุกๆ คนได้ล้างเนื้อล้างตัว ชาวบ้านจะมาตักน้ำจากบ่อที่วัดนี้”
      
       ส่วนสถานการณ์ด้านอารมณ์ของผู้ประสบภัย นิโคลา กูร์นีย์ ระบุว่า ผู้อพยพส่วนมากปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ได้ดี และมีจิตอาสาออกไปช่วยคนอื่น ทั้งที่ตัวเองแทบสิ้นเนื้อประดาตัวจากอุทกภัยครั้งนี้
      
       “ฉันเคยได้ยินมาเหมือนกันว่ามีคนถูกไฟช็อตเสียชีวิต 2 คน บ้านของพวกเขาถูกน้ำท่วม แต่กลับไม่มีการตัดกระแสไฟ”
      
       “บรรยากาศที่นี่แปลกมาก ทุกคนรับมือกับเรื่องที่เกิดขึ้นได้ดี ฉันเคยคิดว่าคงมีคนนั่งร้องไห้อยู่ริมถนน แต่ดูเหมือนทุกคนสามารถรับมือกับสถานการณ์ได้ดีเยี่ยม”
      
       “คนที่สินเนื้อประดาตัวก็ยังอาสาออกไปช่วยคนอื่นๆ แจกอาหาร เติมกระสอบทราย แจกยา”
      
       “แต่สถานการณ์มันลำบากเหลือเกิน ฉันไม่เคยตกอยู่ในสภาพสิ้นหวังอย่างนี้มาก่อน … เราทำได้แค่เพียงคุยกันถึงเรื่องที่เกิดขึ้น”
      
       นิโคลา กูร์นีย์ กล่าวทิ้งท้ายไว้ว่า “เรายังมีอินเทอร์เน็ตและมือถือใช้ ทำให้เราสามารถติดต่อกับครอบครัวที่บ้านได้ ซึ่งมันช่างแตกต่างราวกับอยู่กันคนละโลกเลยทีเดียว”


จาก http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrView.asp?NewsID=9540000131942
 

      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #3554 เมื่อ: 16 ตุลาคม 2554, 19:31:11 »

สรุปสถานการณ์น้ำและการแก้ไขในพื้นที่กรุงเทพฯ (16 ต.ค.54)


                     กทม.เผยสถานการณ์น้ำยังไม่วิกฤติ ปริมาณน้ำที่เพิ่มขึ้นเกิดจากน้ำฝนไม่ใช่น้ำเหนือ ห่วงพื้นที่ด้านตะวันออกเสี่ยงน้ำท่วม เหตุกรมชลไม่ปิดประตูระบายน้ำคลอง 1 เร่งประสานกองทัพอากาศสร้างแนวคันกั้นน้ำ พร้อมขอบริจาคอุปกรณ์สร้างแนวคันกั้นน้ำเพิ่มเติม เตรียมรับมือน้ำหนุนช่วงปลายเดือน
แม่น้ำเจ้าพระยาระดับน้ำลดลง วันนี้น้ำไหลเข้ากรุงเทพฯ ผ่านแม่น้ำเจ้าพระยา 3,821 ลบ.ม./วินาที ขณะที่น้ำทะเลหนุนสูงสุดเวลา 09.17 น. ระดับ 1.11 เมตร เมื่อ 09.45 น. วัดระดับน้ำที่ปากคลองตลาดได้ 2.07 เมตร ลดลงจากวานนี้ 8 ซม. และยังต่ำกว่าแนวป้องกันริมเจ้าพระยา 73 ซม. ฝนตกหนักเมื่อคืนวานทำให้น้ำในคลองสูงขึ้น แต่คลองหลักยังเป็นปกติ

                       ฝนตกหนักเมื่อคืนวานทำให้น้ำในคลองสูงขึ้น แต่คลองหลักยังเป็นปกติ / มีฝนตกหนักวัดได้สูงสุดที่เขตธนบุรี 154.5 มม. ส่งผลให้ระดับน้ำในคลองในพื้นที่ ได้แก่ คลองบางพรหม คลองบางเชือกหนัง คลองบางแวก คลองภาษีเจริญ และคลองทวีวัฒนา มีระดับสูงขึ้น แต่ยังอยู่ในเกณฑ์ปกติ เช่นเดียวกับคลองสายหลักอื่นๆ ทั่วกรุงเทพฯ ส่วนพื้นที่อื่น ๆ ซึ่งมีน้ำท่วมขังได้เร่งสูบน้ำแห้งตั้งแต่เมื่อคืนนี้แล้ว

บริเวณตอนเหนือของกรุงเทพฯ (ดอนเมือง สายไหม คลองหนึ่ง หลักหก และรังสิต)

            กทม.ประสานกรมชลประทาน เพื่อขอให้ปิดประตูระบายน้ำคลอง 1 เพื่อป้องกันน้ำไม่ให้ไหลเข้าพื้นที่สายไหม ดอนเมือง และอาจแพร่กระจายไปยังกรุงเทพฯด้านตะวันออก ในพื้นที่คลองสามวา หนองจอก มีนบุรี และลาดกระบัง ซึ่งมีปัญหาน้ำท่วมอยู่แล้ว ขณะเดียวกันได้ร่วมมือกับหน่วยทหารพัฒนาจัดสร้างคันกั้นน้ำ และวางกระสอบทราย บริเวณคลองหกวาสายล่าง ยาว 6 กม.

ด้านฝั่งตะวันออกของกรุงเทพฯ

           - ระดับน้ำในคลองด้านตะวันออก (คลองแสนแสบ คลองประเวศน์บุรีรมย์ คลอง 13 คลองหลวงแพ่ง) มีระดับสูง แต่ไม่เพิ่มจากวานนี้ เจ้าหน้าที่ตรวจสอบเฝ้าระวังตลอด 24 ชม.

           - ประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ใน 4 พื้นที่เขต (คลองสามวา มีนบุรี หนองจอก และลาดกระบัง) ทางสำนักงานเขตได้เร่งเข้าไปช่วยเหลือ โดยจัดรถทหารและรถ ขสมก. รับ-ส่งประชาชน พร้อมเสริมคันดิน และติดตั้งเครื่องสูบน้ำ เพื่อเร่งระบายน้ำ รวมทั้งวางกระสอบทราย และสร้างสะพานไม้เป็นทางเดินเพิ่มเติม

ด้านฝั่งตะวันตกของกรุงเทพฯ (เขตทวีวัฒนา)

             ระดับในคลองมหาสวัสดิ์ มีระดับสูง 1.95 ม.รทก. ซึ่งต่ำกว่าคันกั้นน้ำ 85 ซม. จัดเจ้าหน้าทึ่ตรวจสอบความแข็งแรงของแนวกระสอบทรายชุมชนวัดปุรณาวาส ริมคลอง โดยเมื่อวานนี้ได้ร่วมกับกองทัพเรืออุดรอยรั่วแนวคันกระสอบทรายบริเวณริมคลองทวีวัฒนา มหาสวัสดิ์ เขตทวีวัฒนา พร้อมเฝ้าระวังตลอด 24 ชม

กทม. ขอความร่วมมือประชาชน

           - เชิญชวนประชาชนร่วมบริจาคทราย กระสอบทราย ไม้ หรือจะเป็นเงินช่วยเหลือก็ได้ เพื่จัดทำแนวป้องกันน้ำท่วม

           - ในวันพรุ่งนี้ (17 ต.ค.54) เวลา 13.00 น.ได้ขอความร่วมมือจากอาสาสมัครร่วมกรอกทรายใส่กระสอบที่ศูนย์ก่อสร้างและบูรณะถนน 4 ซึ่งอยู่ติดกับโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ บางแค
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #3555 เมื่อ: 16 ตุลาคม 2554, 19:41:55 »

เพลงของเจินเจิน...ที่ต้องใช้ในยามนี้ครับ

<a href="http://www.youtube.com/watch?v=rUvnsjBLDDk" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=rUvnsjBLDDk</a>

http://www.youtube.com/watch?v=rUvnsjBLDDk&feature=related
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #3556 เมื่อ: 16 ตุลาคม 2554, 20:08:07 »

เพลงที่เข้ากับบรรยากาศในขณะนี้อีกเพลงครับ......

<a href="http://www.youtube.com/watch?v=4ewMX5hD6VI" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=4ewMX5hD6VI</a>

http://www.youtube.com/watch?v=4ewMX5hD6VI&feature=related
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #3557 เมื่อ: 16 ตุลาคม 2554, 20:16:37 »

ลักษณะน้ำท้วม นิคมอุตสาหกรรม "ซึนามิเงียบ" !!!

                       เนื่องจากนิคมอุตสาหกรรม มีเนื้อที่บริเวณกว้างมาก และทิศเหนือ นั้นจะกว้างมาก และเป็นกำแพงขวางทางน้ำ โดยตรง และปกติน้ำไม่เคยท้วมสูงขนาดนี้ ดังนั้นคันกั้นน้ำที่ทำกันจะเป็นการถมด้วยดินกว้างไม่เกิน 3.00-6.00 m. และจะสูงประมาณ 1.50-2.00 m. (คาดเดาเอา) แต่น้ำครั้งนี้มหาศาลมาก ระดับน้ำสูง  3.00 - 4.00 m.  ดังนั้นถ้าจะเสริมคันดินให้ต้านน้ำได้ ต้องมีฐานมากกว่า 9.00 m. โดยประมาณ แต่เท่าที่เห็นทาง TV คันกั้นน้ำได้แต่สูง ไม่กว้าง และทำขณะน้ำท้วม ความแน่นของดินจึงไม่มี

                        น้ำมาช้าก็จริงแต่มาอย่างต่อเนื่อง เมื่อมาเจอคันกั้นน้ำของนิคมอุตสาหกรรมที่ขวางหน้า และค่อนข้างตั้งฉากกับแนวทิศทางน้ำ  น้ำไม่สามารถกระจายไปทางขวา ทางซ้ายได้ เพราะมันยันกัน น้ำก็จะค่อยๆ เพิ่มสูงขึ้นๆๆ ไปเรื่อยๆ จนถึงระดับที่แรงดันน้ำมีค่ามากกว่าแรงต้านจากคันกั้นน้ำ หรือ ระดับน้ำสูงกว่าคันกั้นน้ำ ผลคือน้ำจะเจาะเป็นช่องได้ น้ำมีความต่างระดับสูง ปริมาณมาก ช่องที่ชำรุดจะมีกระแสน้ำแรงมาก ขยายวงกว้างขึ้นโดยทันที ความแรงของน้ำ ไม่สามารถอุดได้ทัน ในที่สุดน้ำก็ทำลายกำแพงให้กว้าง จนน้ำเข้ายึดพื้นที่ได้ทั้งหมด
 
                        พฤติกรรมน้ำท้วมมันเป็นแบบขั้นบันได หมายความว่าอะไรขวงหน้ามันจะชลอตัวสูงขึ้นจนพ้นระดับนั้นมันก็ข้ามเลยไป เจอแนวคันกั้นน้ำใหม่ก็ยื้อกันสะสมระดับน้ำจนสูงกว่าก็ข้ามไป แบบนี้เรื่อยๆ ทั้งๆปริมาณน้ำมีมากกว่าเดิมนิดหน่อยแต่มีกำลังหนุนตลอดต่อเนื่อง เมื่อเจอกำแพงขวางจะสะสมระดับสูงขึ้นแล้วข้ามไป เป็นวัฏจักรแบบนี้ไปเรื่อยๆ  ถ้าเราจะสู้กับมัน ต้องตัดตอนกำลังหนุนให้ลดน้อยลง เราถึงจะชนะ

                        จะเห็นว่าน้ำที่ทำลายอยุธยาเขตตัวเมือง  นิคมอุตสาหกรรมโรจนะ  นิคมไฮเทค  นิคมบางปะอิน  เป็นน้ำมวลเดียวกัน แต่มันมีกำลังหนุนจากภาคเหนือจากการปล่อยน้ำออกจากเขื่อนเจ้าพระยา พระรามหก และยังมีกำลังจาก เขื่อนภูมิพล แควน้อย สิริกิต์ ป่าสัก ส่งกำลังมาตลอดที่ผ่านมา ดังนั้นกองทัพหน้าถึงแม้จะตายคือลงทะเลไป แต่กำลังหนุนมามาก อะไรก็ขวางไม่อยู่  เราจึงเห็นภาพกำแพงคันน้ำที่เตรียมไว้ดีแล้วก่อนน้ำมา จึงค่อยๆพังลง ๆ เมื่อเวลาผ่านไป เพราะกำลังกองหนุนของน้ำมันไม่มีการตัดตอนส่งมาอย่างต่อเนื่อง ดังจะเห็นได้ระดับน้ำที่ปทุมธานีไม่ลดลงเลยขณะนี้ทั้งที่ผ่านมาเกือบสองอาทิตย์ เพิ่มตลอด คันกั้นน้ำที่ทำขึ้นจึงพังหมดแล้วขณะนี้

                        ขณะนี้น้ำมวลก้อนใหญ่นี้ กำลังโจมตีผ่านบางประตูน้ำพระอินทร์  ธรรมศาสตร์  คลองหลวง ม.รังสิต ที่ทำคันกั้นน้ำไว้อย่างดี ก็ผ่านมาได้ตลอดเพราะกำลังหนุนต่อเนื่อง ตอนนี้น้ำมวลนี้กำลังล้อมนิคม นวนคร ผมเชื่อว่าถ้ากำลังหนุนยังต่อเนื่องอย่างนี้ นิคมอุตสาหกรรมนวนคร ต้านไม่อยู่หรอกครับ คงยื้อกันประมาณหนึ่งอาทิตย์  ทางแก้คือนอกจากเพิ่มระดับคันกั้นน้ำให้สูงขึ้นแล้วต้องขยายฐานคันกั้นน้ำให้กว้าง และที่สำคัญที่สุดต้องเจาะทางน้ำทำเป็นคลองผ่านนิคมให้น้ำมีทางไหลผ่าน ถ้าทำได้ทัน หรือหาทางระบายน้ำออกไปด้านข้างทั้งสองทางให้ได้ อย่าไปกักมัน ยันมันเอาไว้ เอาไม่อยู่หรอกครับ เพราะกำลังหนุนมันมีมาอย่างต่อเนื่อง

                        จำเอาไว้อย่าไปต้านน้ำ อย่าคิดว่าจะเอาชนะมันได้ ต้องหาทางให้น้ำผ่าน โดยการเปิดทางให้มันผ่าน หรือระบายไปด้านข้างให้มากพอ หรือตัดกำลังหนุน  แต่ปัจจุบันเราไม่ได้ตัดกำลังหนุน เราไม่ให้มันผ่าน ได้แต่ทำคันกั้นน้ำ  มันจึงสู้น้ำไม่ได้เลย ครับ

                         กรุงเทพฯ แนวคันกั้นน้ำทางทิศเหนือ เสริมคันกั้นน้ำอย่างเดียวไม่พอพื้นที่มันกว้าง คงยันกันได้สองอาทิตย์ เราต้องหาทางให้น้ำผ่าน โดยการผันน้ำไปทางตะวันออกให้มากที่สุด เพราะทางตะวันตกมันมีน้ำจากเจ้าพระยายัน ต้องหาทางให้น้ำผ่านไปทางตะวันออกให้มากที่สุด ทำได้ กรุงเทพมหานครจะปลอดภัย แต่ถ้าไปยันมันไว้ กักมันไว้ น้ำจะท้วมกรุงเทพฯแน่นอน

                         ทางรอดสุดท้าย คือ ต้องตัดกำลังบำรุงคือ หยุดปล่อยน้ำออกจากเขื่อน  ผันน้ำไปเก็บไว้ในทุ่งตะวันตกที่ยังว่าง จะทำให้กำลังหนุนขาดความต่อเนื่อง ไปสักระยะ น้ำก็จะลงทะเล กลับมาใหม่พิษสงจะเหลือน้อยลง คันกั้นน้ำเอาชนะได้  ยิ่งระบายลงสุพรรณบุรีออกทะเลไปทางนั้น จะตัดกำลังบำรุงไปได้มากๆๆๆ จนกำลังสำรองลดลง น้ำก็หมดพิษสง

                          อย่าลืมตอนนี้เรากำลังสู้กับ "ซึนามิเงียบ" ช้าแต่หนักแน่น รุนแรงเท่ากับ ซึนามิ ที่โจมตีทันทีโดยไม่รู้ตัว ด้วยปริมาณมวลน้ำมหาศาล

                          ราตรีสวัสด์ทุกท่านครับ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #3558 เมื่อ: 16 ตุลาคม 2554, 20:51:13 »

สวัสดีค่ะ คุณน้องหมี ที่รัก

                       พี่สิงห์คิดถึง เธอหายหน้าไปเลย

                        พี่สิงห์มีข่าวดีจะแจ้งให้ทราบว่า หลานสาวแพรว(วาทินี  บรรจง) ผลสอบออกมาได้เกรด 4.00 แผนกปฐมวัยย์หลักสูตรมหาบัญฑิตย์รุ่นนี้ ได้เกรด 4.00 สองคน คือแพรวกับ นิสิตปฐมวัยย์ที่ได้เกียรตินิยมในระดับปริญญาตรีอีกท่านหนึ่ง

                       หัวหน้าแผนกวิชาปฐมวัยย์ได้ให้แพรว ทำวิทยานิพนธ์ เกี่ยวกับ การออกแบบห้องเรียน อาคารเรียน สิ่งแวดล้อม เพื่อให้เกิดสุนทรีย์ภาพแก่เด็กเป็นการพัฒนาการเด็กปฐมวัยย์ หัวข้อพี่สิงห์จำไม่ได้ อาจารย์บอกว่า หัวข้อนี้ทางแผนกวิชาปฐมวัยย์ ครุศาสตร์ จุฬาฯ ยังไม่เคยมีใครทำเลย เพราะว่าอาจารย์เห็นว่าแพรวจบทางด้านสถาปัตย์ จึงอยากให้ทำวิทยานิพนธ์นี้ และแพรว ก็ได้อาจารย์ที่ปรึกษาเรียบร้อยแล้ว

                       เธอมีความเห็นอย่างไรบ้าง  เธอสบายดีไหม?

                       สวัสดี
      บันทึกการเข้า
suriya2513
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,457

« ตอบ #3559 เมื่อ: 16 ตุลาคม 2554, 21:19:58 »

ไม่ควรผันน้ำไปด้านสุพรรณบุรี เพราะกำลังจะทำนาครั้งที่สาม ควรปล่อยให้ทำไป
เราจะได้พอมีข้าวส่งออกกันบ้าง เพื่อเอาเงินมาช่วยพวกที่เสียหายเนื่องจากน้ำท่วม
(ทราบว่าเป็นนาข้าวหอมมะลิราคาดีซะด้วยน่ะนา)
      บันทึกการเข้า

[โบราณคดี]จุดกำเนิดเริ่มต้นของ cmadong.com by : มานพ กลับดี  คลิ๊ก->
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #3560 เมื่อ: 16 ตุลาคม 2554, 21:34:57 »

พี่ป็อง

นาที่สุพรรณบุรีไม่ใช่ข้าวหอมมะลิครับ
ข้าวหอมมะลิหลักต้องปลูกพื้นอิสาน และจพเรียกว่า"ข้าวหอมมะลิ"
ข้าวหอมมะลิจังหวัดอื่นจะไม่เรียกข้าวหอมมะลิจะเรียก "ข้าวหอมมะลิจังหวัด" หรือ "ข้าวหอมจังหวัด"ครับ
เนื่องจากกลิ่นหอมไม่ทนนานและเมล็ดมีความแตกต่างกับข้าวหอมมะลิตัวจริง
      บันทึกการเข้า
suriya2513
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,457

« ตอบ #3561 เมื่อ: 16 ตุลาคม 2554, 22:01:16 »

ขอบคุณครับคุณพิเชษฐ์ สำหรับความรู้ใหม่
      บันทึกการเข้า

[โบราณคดี]จุดกำเนิดเริ่มต้นของ cmadong.com by : มานพ กลับดี  คลิ๊ก->
เอมอร 2515
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu 2515
คณะ: รัฐศาสตร์(นิติศาสตร์)
กระทู้: 4,562

« ตอบ #3562 เมื่อ: 16 ตุลาคม 2554, 22:09:46 »

สวัสดีค่ะ พี่สิงห์
มาตามข่าวน้ำท่วมภาคดึกค่ะ
      บันทึกการเข้า
ดร.มนตรี
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,540

« ตอบ #3563 เมื่อ: 16 ตุลาคม 2554, 22:14:25 »

อ้างถึง
ข้อความของ suriya2513 เมื่อ 16 ตุลาคม 2554, 21:19:58
ไม่ควรผันน้ำไปด้านสุพรรณบุรี เพราะกำลังจะทำนาครั้งที่สาม ควรปล่อยให้ทำไป
เราจะได้พอมีข้าวส่งออกกันบ้าง เพื่อเอาเงินมาช่วยพวกที่เสียหายเนื่องจากน้ำท่วม
(ทราบว่าเป็นนาข้าวหอมมะลิราคาดีซะด้วยน่ะนา)


อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 16 ตุลาคม 2554, 21:34:57
พี่ป็อง

นาที่สุพรรณบุรีไม่ใช่ข้าวหอมมะลิครับ
ข้าวหอมมะลิหลักต้องปลูกพื้นอิสาน และจพเรียกว่า"ข้าวหอมมะลิ"
ข้าวหอมมะลิจังหวัดอื่นจะไม่เรียกข้าวหอมมะลิจะเรียก "ข้าวหอมมะลิจังหวัด" หรือ "ข้าวหอมจังหวัด"ครับ
เนื่องจากกลิ่นหอมไม่ทนนานและเมล็ดมีความแตกต่างกับข้าวหอมมะลิตัวจริง



อ้างถึง
ข้อความของ suriya2513 เมื่อ 16 ตุลาคม 2554, 22:01:16
ขอบคุณครับคุณพิเชษฐ์ สำหรับความรู้ใหม่

โชคดีที่ผม ยึดหลัก กาลมสูตร 10 ตาม พี่สิงห์  หลั่นล้า
      บันทึกการเข้า
ดร.มนตรี
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,540

« ตอบ #3564 เมื่อ: 16 ตุลาคม 2554, 22:25:40 »

ปล.

แต่สุพรรณปลูกข้าวได้ปีละ  2- 3 ครั้ง นี่เป็นเรื่องจริง นะครับ ...

หรือ เฉลี่ย ก็ 2 ปี 5 ครั้ง
      บันทึกการเข้า
suriya2513
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,457

« ตอบ #3565 เมื่อ: 16 ตุลาคม 2554, 22:46:51 »

อ้างถึง
ข้อความของ ดร.มนตรี เมื่อ 16 ตุลาคม 2554, 22:25:40
ปล.

แต่สุพรรณปลูกข้าวได้ปีละ  2- 3 ครั้ง นี่เป็นเรื่องจริง นะครับ ...

หรือ เฉลี่ย ก็ 2 ปี 5 ครั้ง

อยากกด Like จริงๆ เลยครับ ดร.มนตรี ที่หลงมาเป็นเหยื่อให้พี่ป๋องจนได้
      บันทึกการเข้า

[โบราณคดี]จุดกำเนิดเริ่มต้นของ cmadong.com by : มานพ กลับดี  คลิ๊ก->
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #3566 เมื่อ: 16 ตุลาคม 2554, 22:56:37 »

อ้างถึง
ข้อความของ Manop  Klabdee เมื่อ 16 ตุลาคม 2554, 19:31:11
สรุปสถานการณ์น้ำและการแก้ไขในพื้นที่กรุงเทพฯ (16 ต.ค.54)


                     กทม.เผยสถานการณ์น้ำยังไม่วิกฤติ ปริมาณน้ำที่เพิ่มขึ้นเกิดจากน้ำฝนไม่ใช่น้ำเหนือ ห่วงพื้นที่ด้านตะวันออกเสี่ยงน้ำท่วม เหตุกรมชลไม่ปิดประตูระบายน้ำคลอง 1 เร่งประสานกองทัพอากาศสร้างแนวคันกั้นน้ำ พร้อมขอบริจาคอุปกรณ์สร้างแนวคันกั้นน้ำเพิ่มเติม เตรียมรับมือน้ำหนุนช่วงปลายเดือน
แม่น้ำเจ้าพระยาระดับน้ำลดลง วันนี้น้ำไหลเข้ากรุงเทพฯ ผ่านแม่น้ำเจ้าพระยา 3,821 ลบ.ม./วินาที ขณะที่น้ำทะเลหนุนสูงสุดเวลา 09.17 น. ระดับ 1.11 เมตร เมื่อ 09.45 น. วัดระดับน้ำที่ปากคลองตลาดได้ 2.07 เมตร ลดลงจากวานนี้ 8 ซม. และยังต่ำกว่าแนวป้องกันริมเจ้าพระยา 73 ซม. ฝนตกหนักเมื่อคืนวานทำให้น้ำในคลองสูงขึ้น แต่คลองหลักยังเป็นปกติ

                       ฝนตกหนักเมื่อคืนวานทำให้น้ำในคลองสูงขึ้น แต่คลองหลักยังเป็นปกติ / มีฝนตกหนักวัดได้สูงสุดที่เขตธนบุรี 154.5 มม. ส่งผลให้ระดับน้ำในคลองในพื้นที่ ได้แก่ คลองบางพรหม คลองบางเชือกหนัง คลองบางแวก คลองภาษีเจริญ และคลองทวีวัฒนา มีระดับสูงขึ้น แต่ยังอยู่ในเกณฑ์ปกติ เช่นเดียวกับคลองสายหลักอื่นๆ ทั่วกรุงเทพฯ ส่วนพื้นที่อื่น ๆ ซึ่งมีน้ำท่วมขังได้เร่งสูบน้ำแห้งตั้งแต่เมื่อคืนนี้แล้ว

บริเวณตอนเหนือของกรุงเทพฯ (ดอนเมือง สายไหม คลองหนึ่ง หลักหก และรังสิต)

            กทม.ประสานกรมชลประทาน เพื่อขอให้ปิดประตูระบายน้ำคลอง 1 เพื่อป้องกันน้ำไม่ให้ไหลเข้าพื้นที่สายไหม ดอนเมือง และอาจแพร่กระจายไปยังกรุงเทพฯด้านตะวันออก ในพื้นที่คลองสามวา หนองจอก มีนบุรี และลาดกระบัง ซึ่งมีปัญหาน้ำท่วมอยู่แล้ว ขณะเดียวกันได้ร่วมมือกับหน่วยทหารพัฒนาจัดสร้างคันกั้นน้ำ และวางกระสอบทราย บริเวณคลองหกวาสายล่าง ยาว 6 กม.

ด้านฝั่งตะวันออกของกรุงเทพฯ

           - ระดับน้ำในคลองด้านตะวันออก (คลองแสนแสบ คลองประเวศน์บุรีรมย์ คลอง 13 คลองหลวงแพ่ง) มีระดับสูง แต่ไม่เพิ่มจากวานนี้ เจ้าหน้าที่ตรวจสอบเฝ้าระวังตลอด 24 ชม.

           - ประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ใน 4 พื้นที่เขต (คลองสามวา มีนบุรี หนองจอก และลาดกระบัง) ทางสำนักงานเขตได้เร่งเข้าไปช่วยเหลือ โดยจัดรถทหารและรถ ขสมก. รับ-ส่งประชาชน พร้อมเสริมคันดิน และติดตั้งเครื่องสูบน้ำ เพื่อเร่งระบายน้ำ รวมทั้งวางกระสอบทราย และสร้างสะพานไม้เป็นทางเดินเพิ่มเติม

ด้านฝั่งตะวันตกของกรุงเทพฯ (เขตทวีวัฒนา)

             ระดับในคลองมหาสวัสดิ์ มีระดับสูง 1.95 ม.รทก. ซึ่งต่ำกว่าคันกั้นน้ำ 85 ซม. จัดเจ้าหน้าทึ่ตรวจสอบความแข็งแรงของแนวกระสอบทรายชุมชนวัดปุรณาวาส ริมคลอง โดยเมื่อวานนี้ได้ร่วมกับกองทัพเรืออุดรอยรั่วแนวคันกระสอบทรายบริเวณริมคลองทวีวัฒนา มหาสวัสดิ์ เขตทวีวัฒนา พร้อมเฝ้าระวังตลอด 24 ชม

กทม. ขอความร่วมมือประชาชน

           - เชิญชวนประชาชนร่วมบริจาคทราย กระสอบทราย ไม้ หรือจะเป็นเงินช่วยเหลือก็ได้ เพื่จัดทำแนวป้องกันน้ำท่วม

           - ในวันพรุ่งนี้ (17 ต.ค.54) เวลา 13.00 น.ได้ขอความร่วมมือจากอาสาสมัครร่วมกรอกทรายใส่กระสอบที่ศูนย์ก่อสร้างและบูรณะถนน 4 ซึ่งอยู่ติดกับโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ บางแค


พี่สิงห์ครับ

ถ้า ตลาดไท นิคมอุตฯ นวนคร ไม่รอด แสดงว่า การแถลงข่าวของ รมต.เกษตร โกหกคำโต
ติดตามดูไม่เกินพรุ่งนี้เย็นก็คงจะทราบผผลครับ
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #3567 เมื่อ: 16 ตุลาคม 2554, 22:58:55 »

อ้างถึง
ข้อความของ suriya2513 เมื่อ 16 ตุลาคม 2554, 22:46:51
อ้างถึง
ข้อความของ ดร.มนตรี เมื่อ 16 ตุลาคม 2554, 22:25:40
ปล.

แต่สุพรรณปลูกข้าวได้ปีละ  2- 3 ครั้ง นี่เป็นเรื่องจริง นะครับ ...

หรือ เฉลี่ย ก็ 2 ปี 5 ครั้ง

อยากกด Like จริงๆ เลยครับ ดร.มนตรี ที่หลงมาเป็นเหยื่อให้พี่ป๋องจนได้

ผมขอยืนยันเองครับว่าเป็นเรื่องจริง
ชาวสุพรรณฯ ส่วนหนึ่งปลูกข้าวเพื่อเป็นเมล็ดพันธุ์ ออกขายไปทั่วประเทศ
โดยเฉพาะที่อำเภอเดิมบางนางบวช และเลยไปถึงอำเภอหันคาของจังหวัดชัยนาท
      บันทึกการเข้า
ดร.มนตรี
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,540

« ตอบ #3568 เมื่อ: 16 ตุลาคม 2554, 23:00:47 »

อ้างถึง
ข้อความของ suriya2513 เมื่อ 16 ตุลาคม 2554, 22:46:51
อ้างถึง
ข้อความของ ดร.มนตรี เมื่อ 16 ตุลาคม 2554, 22:25:40
ปล.

แต่สุพรรณปลูกข้าวได้ปีละ  2- 3 ครั้ง นี่เป็นเรื่องจริง นะครับ ...

หรือ เฉลี่ย ก็ 2 ปี 5 ครั้ง

อยากกด Like จริงๆ เลยครับ ดร.มนตรี ที่หลงมาเป็นเหยื่อให้พี่ป๋องจนได้

ต้องเพิ่มคำว่า ... อันโอชะ ...  ครับพี่


ปล.


ด้วยความเคารพครับพี่ป๋อง พี่สิงห์ พี่เหยง และพี่ๆ ทุกท่าน
  sorry
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #3569 เมื่อ: 17 ตุลาคม 2554, 06:59:58 »

                      ที่สุพรรรบุรี นั้นทางกระทรวงเกษตรฯ ได้พัฒนาข้าวหอมมะลิขึ้นมาเพื่อใช้ปลูกในพื้นที่ภาคกลาง จะมีชื่อเรียกว่า "สพรรณบุรี ๑" ปัจจุบันได้วิจัยและพัฒนาขึ้นมาอีกชนิดหนึงคือ "สุพรรณบุรี ๒" จะเห็นได้ว่าพื้นที่ภาคกลางจะปลูกข้าวพันธ์ สุพรรณบุรี ๑ และ ๒ กันมากโดยเฉพาะนาดำ ครับ เพราะขายได้ราคา
                      ส่วนพันธ์พื้นเมืองสำหรับข้าวเมล็ดยาวเช่น ๗รวง  หลวงแจก ข้าวเหลือง  ข้าวเหลืองปลาทิว ๓รวง ที่นิยมปลูกในสมัยผมเป็นเด็กนักเรียนบ้านนอกที่ช่วยแม่แบกกระสอบข้าว หรือข้าวเมล็ดสั้นที่ปลูกในที่นาลุ่มมากๆ คือ พวงแก้ว ข้างพวง กะโหลก นั้นขายไม่ได้ราคา สมัยก่อนจะขายเป็นข้าวนึ่ง ส่งขายต่างประเทศ เพราะคนไทยไม่กิน นอกเสียจากชาวนาที่เขาไม่มีทางเลือกคือที่มันลุ่ม น้ำท้วมระดับ 2.5-4.00  เมตร ก็ต้องปลุกข้าวพันธ์นี้และเอาไว้กินด้วย เช่นทุ่งโพฉ้าย บ้านหมี ลุ่มมาก สมัยนั้นผมเคยไปเห็นบ้านที่ปลูกแล้วตกใจเพราะใต้ถุนสูงมากกว่า 4.00 เมตร เพราะน้ำมันท้วมสูงแบบนั้นครับ 
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #3570 เมื่อ: 17 ตุลาคม 2554, 07:01:52 »

เมื่อเช้านี้ ฝนตกหนักมากที่นครสวรรค์ครับ ชั่วโมงเศษ ตั้งแต่ตีห้า เติมน้ำให้มากทีเดียวครับ

ภาพจากดาวเทียม มีหย่อมความกดอากาศต่ำในฝั่งอันดามันระหว่าง พม่า กับ อินเดีย
ซึ่งไม่น่าจะมีผลกระทบต่อประเทศไทย


      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #3571 เมื่อ: 17 ตุลาคม 2554, 08:02:02 »

มวลน้ำก้อนใหญ่อยู่ไหนกันแน่  เจ้า "ซึนามิเงียบ" ของผม !!!

                       เมื่อวานตอนเที่ยงที่ทุกท่านดู TV ฟังข่าวทางวิทยุนั้น ท่านอธิบดีกรมชลประทาน ท่านบอกว่ามวลน้ำก้อนใหญ่ได้ลงทะเลไปแล้วตั้งแต่เวลา 09:00 น. ของวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (ถ้าผมจำไม่ผิด)

                       แต่ในความเห็นของผมเจ้า "ซึนามิเงียบ" (ผมตั้งชื่อของผมเองครับ เพราะไม่มีใครตั้งให้) มันเริ่มต้นอาระวาดตั้งแต่เมื่อไร? ลองมาทบทวนกันครับ

                      - น้ำเริ่มท้วมมานั้น ต้องไปทบทวนในเวบที่ผมเริ่มเขียน มันท้วมมาก่อนหนึ่งอาทิตย์ที่ผม จะกลับบ้านไปเยี่ยมพี่สาว เอายาและเงินไปทิ้งไว้ให้ใช้ระหว่างน้ำท้วม ตอนนั้นไม่มีอะไร เป็นปกติเหตุการน้ำท้วมธรรมดาเช่นทุกปี ไม่มีใครคาดคิดทั้งนั้น รวมทั้งคุณบรรหาร ท่านอธิบดีกรมชลประทาน และผู้ว่า กทม. มีเพียงผมคนเดียว ที่ป่าวประกาศให้ระวังไปทั่ว แต่ไม่มีใครสนใจครับ

                      - หลังจากนั้นระดับน้ำขึ้นรวดเร็วมากเพียงอาทิตย์เดียว ด้วยความแรง มีความเร็ว ปริมาณมาก มีกองหนุนจากน้ำเหนือที่ปล่อยมาจากเขื่อนจำนวนมาก ทำให้ระดับน้ำท้วมอำเภออินทร์บุรีเร็วมาก นี่คือ จุดกำเหนิดของเจ้า "ซึนามิเงียบ" ที่ผมตั้งชื่อให้ มันอาระวาดสิ่งที่ขวางหน้ามัน คือพื้นที่อำเภออินทร์บุรีทั้งอำเภอฝั่งตะวันออกและเรื่อยมาจนถึงอำเภอเมือง อำเภอพรหมบุรี ของจังหวัดสิงห์บุรี ผลเป็นอย่างไรหรือ?

                        ผลคือ คอสะพานเชียงราก ประตูระบายน้ำไทรงาม และประตูระบายน้ำบางโฉมศรีพังพินาศ เป็นผลให้น้ำจำนวนมหาศาลไหลทะลักเข้าไปในพื้นที่แก้มลิงฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นผลให้ท่าวุ้งบ้านหมี่ อำเภอเมือง ของจังหวัดลพบุรี จมน้ำระดับ 3.00 เมตรทันที อยู่ประมาณหนึ่งอาทิตย์ ท่านนายกเห็นว่าชาวลพบุรีลำบากมากจึงสั่งให้กองทัพบกทำการปิดประตูระบายน้ำบางโฉมศรี(เป็นคำสั่งที่ผิดต่ออยุธยา นิคมอุตสาหกรรม) ทหารใช้เวลาอยู่สองอาทิตย์สามารถชะลอน้ำได้ 80% ท่านคงจำได้ นายกเทศมนตรีสิงห์บุรีออก TV บอกว่าชะลอน้ำประตูระบายน้ำบางโฉมศรีได้ น้ำจะกลับมาอยู่ในลำน้ำเจ้าพระยาดังเดิม เพราะน้ำไม่มีที่ไป กลัวจะรักษาเขตเศรษฐกิจ สิงห์บุรี อ่างทอง อยุธยาเอาไว้ไม่ได้

                       - ผลที่ตามมาคือ อยุธยาน้ำเริ่มล้นคันกั้นน้ำ ต้องเสริมอย่างหนักให้สูง ช่วงนี้เอง กรมชลประทาน การไฟฟ้าฝ่ายผลิต บอกว่าน้ำเต็มทุกเขื่อนจึงต้องปล่อยน้ำทาง ทางน้ำล้นจากเขื่อนภูมิพล สิริกิตื์ แควน้อย ป่าสักพระรามหก ประกอบกับมีพายุพัดผ่าน น้ำท้วมเชียงใหม่ น้ำท้วมภาคเหนือหลายจังหวัด

                       - เจ้า "ซึนามิเงียบ" ของผมได้กำลังเสริมจากเขื่อนในปริมาณที่มาก ได้กำลังเสริมจากการชะลอน้ำของประตูระบายน้ำบางโฉมศรีกลับมา ได้กำลังเสริมที่เขื่อนป่าสักปล่อยมาจำนวนมหาศาล และฝน

                       - วันพฤหัสบดีที่ 6ตุลาคม ผมผ่านบางปะหันเช้ามืด ระดับน้ำพอเปียกถนน แต่เที่ยงสูงถึงหนึ่งเมตร เจ้า "ซึนามิเงียบ" มีกำลังมหาศาลได้ถล่มอยุธยาตัวเมืองเรียบพนาสูญ ทุกคันกั้นน้ำพังหมด ประชาชนไร้ที่อยู่อาศัยทันทีเพียงเวลาไม่ถึง ๑๒ ชั่วโมง ระดับน้ำสูงมากกว่า 3.00 เมตร ขณะนั้นนิคมอุตสาหกรรมต่างๆเริ่มเสริมคันกั้นน้ำให้สูงกว่าเดิม รัฐบาลเพิ่งเริมตระหนักความจริงแล้ว ตืนตัว แต่ไม่ได้แก้ที่ต้นเหตุ ครับ

                        - เจ้า "ซึนามิเงียบ" หลังจากทำลายอยุธยาเมืองเก่าเสร็จก็เข้าโจมตีนิคมอุตสาหกรรมโรจนะ ที่เสริมคันกั้นน้ำอย่างดีเอาไว้รอ แล้ว เพียงเวลาไม่ถึง ๑๒ ชั่วโมง ทุกอย่างในนิคมอุตสาหกรรมโรจนะก็จมอยู่ใต้น้ำหมดทันที เจ้า "ซึนามิเงียบ" ของผมยังได้รับกำลังเสริมอย่างต่อเนื่องตลอดเวลาและมีปริมาณมากด้วยอย่างต่อเนื่องไม่ขาดสาย เพราะความเขลาของท่านบรรหาร  ศิลปอาชา  และท่านอธิบดีกรมชลประทาน  ที่ไม่ยอมผันน้ำไปออกทะเลที่สุพรรณบุรี และแก้มลิงฝั่วงตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยาเขตติดต่อสุพรรณบุรี ตามที่ผมขอร้อง บนบานศาลกล่าว ต่าง ๆ นาๆ สร้างทิฏฐิให้ท่านโกรธผม จะได้ทำตาม แต่ท่านใจแข็งวางอุเบกขา ไม่ทำ ปล่อยน้ำอยู่ในเจ้าพระยา โดยท่องคาถา บอกประชาชนว่า จะสามารถควบคุมสถานการณ์น้ำได้ อย่าตื่นกลัว

                        - ผลจากการที่ไม่ตัดกำลังส่งบำรุง ตามที่ผมขอร้อง เจ้า "ซึนามิเงียบ"ของผม จึงมีกำลังเพิ่มทุกวินาที มากกกว่ากำลังที่เสียไปในพื้นที่น้ำท้วมและลงทะเล จึงเข้าทำลายนิคมอุตสาหกรรมไฮเทค ที่เตรียมการไว้อย่างดีกว่านิคมอุตสาหกรรมโรจนะ สามารถโจมตีได้ภายใน ๒๔ ชั่วโมงก็สามารถเอาชนะได้ หลังจากนั้นก็มาโจมตีนิคมอุตสาหกรรมบางปะอินได้สำเร็จ โดยง่ายดายด้วยกำลังหนุนที่มหาศาล ณ เวลานั้น

                        - จะเห็นว่าเพียงหนึ่งอาทิตย์เท่านั้น เจ้า "ซึนามิเงียบ" ของผม ได้ทำลาย อยุธยา  นิคมอุตสาหกรรมโรจนะเฟส ๑-๒ ไฮเทค และบางปะอิน ให้จมอยู่ในน้ำหมด ต่อจากนั้นก็เริ่มเข้าโจมตีพื้นที่ปทุมธานี ที่เตรียมการณ์ไว้อย่างดี และก็ชนะได้ทุกจุดเพียงเวลาสี่วันเท่านั้น

                        - เมื่อวานนี้เจ้า "ซึนามิเงียบ" ของผม ได้จมพื้นที่ประตูน้ำพระอินทร์ เข้ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์รังสิต มหาวิทยาลัยกรุงเทพฯ น้ำล้นท้วมถนนสายเอเซียทั้งหมดตั้งแต่บางปะหันลงมา ท้วมถนนพหลโยธินทั้งหมดตั้งแต่วังน้อยลงมา เห็นแต่น้ำเจิ่งนองเต็มพื้นที่ แล้วท่านอธิบดีกรมชลประทานบอกว่า มวลน้ำก้อนใหญ่ได้ลงทะเลไปแล้วเมื่อเวลา 09:00 น. นั้น มันอะไรกันแน่ ครับ

                        - สำหรับเมื่อคืนนี้ นั้น เช้านี้ผมไม่ได้ดู TV เช้านี้จึงยังไม่ทราบ แต่เข้าใจว่า เจ้า "ซึนามิเงียบ" ของผม คงอาระวาด ตลาดไท นิคมอุตสาหกรรมนวนคร สนามกอล์ฟไพน์เฮิส รังสิต คลองหลวง เพราะเห็นภาพน้ำล้นถนนพหลโยธินหน้าธรรมศาสตร์และม.กรุงเทพฯ

                          แต่อาจจะเป็นข่าวดีที่จะสามารถลดกำลังเจ้า "ซึนามิเงียบ"ของผม ได้ คือ น้ำล้นถนนพหลโยธินข้ามฝั่งไปนั้น จะเป็นทุ่งกว้างของรังสิต ถึงนครนายก พื้นที่จะสามารถจะรับน้ำจำนวนมากเป็นแก้มลิงธรรมชาติ เป็นการตัดกำลังบำรุงได้ระยะหนึ่ง แต่บ้านในพื้นที่นั้นเป็นชั้นเดียวจำนวนมาก จะไม่มีที่อยู่อาศัย เกิดจลาจล หนีน้ำกันจ้าระหวั่น เพราะไม่เคยเจอน้ำท้วม ไม่เหมือนคนบ้านนอก เพราะเป็นสังคมเมือง
  
                          ช่วงนี้ ถ้าอธิบดีกรมชลประทาน ไม่โง่เขา และมีปัญญามาก จะต้องรีบดำเนินการตัดกำลังส่งบำรุงช่วงสองทันที คือผันน้ำไปสุพรรณบุรี และลงทุ่งตะวันตกทันที เจ้า "ซึนามิเงียบ" จะขาดกำลังส่งบำรุงทันที ตัดห่วงโซ่กำลัง คือมันต้องใช้กำลัง(สะสมน้ำจำนวณมหาศาล) ลงทุ่งรังสิต ต้องรอกำลังเสริม ในการก่อต่อสะสมน้ำไปเรื่อยๆ เรามีโอกาสเอาชนะได้คือ หยุดกำลังเสริม แล้ว เรายังสามารถระบายน้ำลงทะเลได้จำนวนมาก การสะสมของเจ้า "ซึนามิเงียบ" ต้องใช้เวลา และน้ำจำนวนมากมาเสริม เราตัดกำลังช่วงนี้ได้ เราจะชนะ คือน้ำไม่ท้วมนิคมอุตสาหกรรมนวนคร และ กทม.
                           แต่ถ้าท่านดึงดันบอกว่า สามารถควบคุมสถานการณ์น้ำได้ แปลว่าท่านประเมินเจ้า "ซึนามิเงียบ" ของผม ผิดแน่ๆ  ถ้าเราไม่ตัดกำลังเสริม เจ้า "ซึนามิเงียบ" กำลังรวบรวมพล สะสมพลังงานศักย์ พร้อมที่จะโจมตีนิคมอุตสาหกรรมนวนคร  รังสิต  ดอนเมือง และกรุงเทพมหานคร ให้ราบพนาสูญได้ครับ

                           ท่านอธิบดีกรมชลประทาน อาจจะแย้งว่า ยังมีคลองรังสิต-นครนายก กั้นเอาไว้สามารถผันน้ำไปทางนครนายกได้ ยิ่งเป็นคำตอบที่ผิดใหญ่เลย เพราะ ปัจจุบันน้ำในคลองนี้เกือบล้นแล้ว และที่สำคัญหมู่บ้านจัดสรรค์จำนวนมากอยู่บริเวณนี้ คนเป็นล้านจะไปอยู่ที่ไหน โกลาหลแน่นอน ครับ

                           อย่าลืมเจ้า "ซึนามิเงียบ" ของผม มันมีกำลังมหาศาล เพราะท่านไม่ได้ตัดกำลังบำรุง ระดับน้ำที่นครสวรรค์เพียงแค่ทรง และเติมทุกวัน ป่าสักยังระบายอยู่เกือบเท่าเดิม เจ้า "ซึนามิเงียบ" ของผม มีกำลังหนุ๋นแน่นอน แต่ขอเวลาสะสมสักสาม-สี่วัน ก็จะสามารถมีกำลังพร้อมที่จะทำลายคลองรังสิต - นครนายกได้ และโจมตีดอนเมือง กรุงเทพมหานครเป็นด่านสุดท้าย

                           ก่อนที่จะไปทักทายชาวพระประแดง และลงไปนอนสงบนิ่งอยู่ในอ่าวไทย หัวเราะฉลองชัยชนะของตัวเอง ที่ไม่มีใครสามารถหยุดเจ้า "ซึนามิเงียบ" ได้ ด้วยประเมินกำลังเจ้า "ซึนามิเงียบ" ของผม "ผิด" คิดว่ามันยังอ่อนหัด

                           สวัสดียามเช้าครับ


      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #3572 เมื่อ: 17 ตุลาคม 2554, 09:02:02 »

พยากรณ์อากาศของวันนี้..........

กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์ลักษณะอากาศระบุภาคกลาง—ตะวันออกมีฝนตกมากที่สุดหลังร่องมรสุมพาดผ่าน เตือนระวังน้ำป่าหลากหลายจังหวัด

วันนี้ (17 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04.00 น. ว่า ร่องมรสุมพาดผ่านภาคกลางตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนเกือบทั่วไปและมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณจังหวัดบุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี สระแก้ว ระยอง จันทบุรี และตราด ระวังอันตรายจากสภาวะฝนที่ตกหนักอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลากได้ในระยะนี้  อนึ่ง ความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจากประเทศจีนปกคลุมภาคตะวันออก เฉียงเหนือแล้วและจะเข้าปกคลุมภาคเหนือต่อไป ลักษณะเช่นนี้จะทำให้บริเวณภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างมีฝนฟ้าคะนองในระยะแรก หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศา

                  พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.

ภาคเหนือ  มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดอุตรดิตถ์ สุโขทัย กำแพงเพชร พิษณุโลก พิจิตร แพร่ และน่าน อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศา อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศา ลมเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ  มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดชัยภูมิ กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด ยโสธร นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศา อุณหภูมิสูงสุด 29-31 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.   

ภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดอุทัยธานี สิงห์บุรี อ่างทอง สระบุรี และพระนครศรีอยุธยา อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศา อุณหภูมิสูงสุด 30-31 องศา ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออก  มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดนครนายก สระแก้ว ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 1 เมตร บริเวณฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ภาคใต้ฝั่งตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ และชุมพร อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ภาคใต้ฝั่งตะวันตก  มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดระนอง และพังงา อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศา อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล  มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศา ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-30 กม./ชม.


http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryID=562&contentID=170211
      บันทึกการเข้า
supanee
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 605

« ตอบ #3573 เมื่อ: 17 ตุลาคม 2554, 09:32:33 »

พี่สิงห์
แถวบางเลนน้ำท่วมนานแล้ว อยากทราบว่า นครชัยศรีจะเป็นอย่างไรคะ
ถ้าผันน้ำเข้าสุพรรณได้ น้ำก็จะมากขึ้นกว่าปัจจุบันในแม่น้ำสุพรรณลงมาถึงนครชัยศรีใช่ไหมคะ
ท่าทางม.สวนขวัญจะไม่รอดแล้ว อยากรบกวนชวนพี่สิงห์ไปดูคันกั้นน้ำที่ทำไว้จัง ว่าเพียงพอแล้วหรือยัง
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #3574 เมื่อ: 17 ตุลาคม 2554, 09:40:47 »

ข่าวเมื่อวานนี้ครับ บอกสภาพของอำเภอนครชัยศรีได้.........

น้ำคลองบางแก้วทะลักท่วมนครชัยศรี จ.นครปฐม สูงกว่า 50 ซม.
วันที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2554 เวลา 08:29:00 น.
 

วันที่ 16ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าสถานการณ์น้ำท่วม ที่บริเวณวัดท่าตำหนัก อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม หลังถูกใช้เป็นศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย น้ำจากคลองบางแก้วได้เอ่อล้นเข้าท่วมบริเวณวัดและบ้านเรือนของประชาชนที่อยู่ริมฝั่งคลองทั้ง 2 ด้าน สูงกว่า 50 ซม. แม้จะนำกระสอบทรายมากั้นแล้วก็ตาม แต่ไม่สามารถกั้นน้ำที่มีปริมาณเพิ่มสูงขึ้นได้ อย่างไรก็ตาม ที่กุฏิพระวินัยสังวร เจ้าอาวาสวัดท่าตำหนัก น้ำได้เอ่อท่วมจนไม่สามารถจำวัดได้ ก่อนจะช่วยกันขนย้ายสิ่งของออกมา เช่นเดียวกับชาวบ้านที่อพยพมาอยู่ที่ศูนย์ ก็ได้รับความเดือดร้อนตามไปด้วย
 
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1318728897&grpid=03&catid=&subcatid=
      บันทึกการเข้า
  หน้า: 1 ... 141 142 [143] 144 145 ... 681   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

สมาคมนิสิตเก่าหอพักนิสิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มวลสมาชิกสมาคม คณาจารย์ และนิสิตเก่าทุกคน ขอน้อมเกล้าถวายความอาลัย  พระผู้เสด็จสู่สวรรคาลัย ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ <;))))><