23 พฤศจิกายน 2567, 00:03:46
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: 1 ... 134 135 [136] 137 138 ... 681   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: คุย กับ คุณมานพ กลับดี อดีตประธานชมรม ๓ สมัย  (อ่าน 3548845 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 23 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #3375 เมื่อ: 09 ตุลาคม 2554, 17:36:59 »

อ้างถึง
ข้อความของ Manop  Klabdee เมื่อ 09 ตุลาคม 2554, 13:43:37
อย่าลืมแสดงมุทิตาจิตต์แด่

พี่ทองอู่  จักรสิงห์

พี่ผู้อาวุโสของชมรมฯ

วันอาทิตย์ที่ ๙  ตุลาคม เวลา ๑๘: ๐๐ น. ณ ภัตตาคารสวนกุหลาบ ซอยอารีย์

ฝากความระลึกถึงพี่ทองอู่ จักรสิงห์ ด้วยครับ
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #3376 เมื่อ: 09 ตุลาคม 2554, 19:49:56 »

กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศช่วงวันที่ 9-12 ตุลาคม 2554 ณ เวลา 16.00 น.
ร่องมรสุมกำลังค่อนข้างแรงพาดผ่านภาคกลางตอนล่าง ภาคตะวันออกและภาคใต้ตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงในทะเลจีนใต้ตอนกลาง ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณภาคกลางตอนล่างและภาคตะวันออกมีฝนตกชุกหนาแน่นกับมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณจังหวัดกาญจนบุรี ราชบุรี นครปฐม สมุทรสงคราม กรุงเทพมหานครรวมทั้งปริมณฑล ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด และเพชรบุรี ระวังอันตรายจากฝนที่ตกหนักในระยะ 3-4 วันนี้ สำหรับทะเลอันดามัน มีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือระมัดระวังในการเดินเรือไว้ด้วย   
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #3377 เมื่อ: 09 ตุลาคม 2554, 20:51:17 »

สิ่งแวดล้อม-คุ้มครองผู้บริโภค

วิเคราะห์ปัญหาน้ำท่วม(ผิดปกติ)แบบวิทยาศาสตร์
วันอาทิตย์ ที่ 09 ตุลาคม 2554 เวลา 0:00 น

ฝนตกหนัก น้ำไหลแรง กินเวลานาน ปรากฏการณ์นี้ไม่ใช่อุทกภัยแบบเดิมที่ประเทศไทยเคยเจอเมื่ออดีต  อีกทั้งผลกระทบที่ทวีความรุนแรงไม่ว่าทั้งด้านจิตใจ พืชสวนไร่นาเสียหายนับหมื่นไร่ แม้จะรู้อยู่ว่าเป็นภัยธรรมชาติแต่ในเชิงวิทยาศาสาตร์สามารถให้ความกระจ่างได้ว่าน้ำท่วมและความรุนแรงขณะนี้ก่อตัวมาได้อย่างไร
   
 ศ.ดร.ธนวัฒน์ จารุพงษ์สกุล อาจารย์ประจำวิชาธรณี  คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย วิเคราะห์ถึงสถานการณ์น้ำท่วมในครั้งนี้ว่า ย้อนไปเมื่อปีที่แล้ว สภาพการแปรปรวนของภูมิอากาศแบบผกผัน ก่อให้เกิดสภาพฝนไม่ตกต้องตามฤดูกาล รูปแบบฝนตกได้เปลี่ยนไปจากอดีตอย่างมาก กล่าวคือ จะตกครั้งละมาก ๆ บางครั้งฝนตกมาครั้งหนึ่งมากกว่าฝนตกเฉลี่ยทั้งปีเสียด้วยซ้ำไป บางที่มีฝนตกเป็นเวลาหลายวันต่อเนื่อง แต่บางครั้งฝนก็ทิ้งช่วงเป็นเวลานาน ๆ หรือบางพื้นที่ไม่น่าจะมีฝนตกในบางช่วงเวลากลับมีฝนตกหนักแบบไม่ลืมหูลืมตาทำให้เกิดปัญหาน้ำท่วม  อย่างเช่น น้ำท่วมพื้นที่ปากช่อง ในปี พ.ศ.2553 หรือน้ำท่วมภาคใต้เมื่อเดือน มีนาคม พ.ศ. 2554 เป็นต้น
   
จากการศึกษาแบบจำลองทางคอมพิวเตอร์ของหน่วยงานด้านกรมอุตุนิยมวิทยาชั้นนำของโลก พบว่าในอนาคตสภาพความแปรปรวนของภูมิอากาศจะมีความถี่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งคงก่อให้เกิดปัญหาภัยแล้ง น้ำท่วม พายุโซนร้อน พายุฤดูร้อน แผ่นดินถล่ม ไฟป่าและหลุมยุบเกิดขึ้นกับประเทศไทยเพิ่มมากขึ้นหลายเท่าตัว ส่งผลให้การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำทั้งระบบทำได้ยากขึ้น โดยเฉพาะการแก้ปัญหาน้ำท่วมของประเทศไทยขณะนี้ ยิ่งแก้ไขก็ยิ่งเหมือนไปเพิ่มความรุนแรงมากขึ้นให้กับพื้นที่ท้ายน้ำอยู่เสมอและยังสร้างความขัดแย้งมากขึ้นในสังคม ทั้งประชาชนที่มีระบบป้องกันและไม่มีระบบป้องกัน ชุมชนเมืองและชุมชนภาคเกษตรกร เป็นต้น
   
ความแปรปรวนของภูมิอากาศที่เกิดขึ้นในปีนี้เกิดขึ้นเร็วและรุนแรงเหนือความคาดหมายจากเดิมเมื่อกลางปี พ.ศ. 2553 ที่พบว่าปรากฏการณ์ ลานินญ่ากระหน่ำประเทศไทยส่งผลให้เกิดปัญหาน้ำท่วมหนักทั้งภาคอีสาน เหนือ กลาง และที่หนักที่สุดคือภาคใต้ แต่จากการศึกษาเรื่องพายุที่มีจุดก่อกำเนิดในทะเลจีนใต้กับปรากฏการณ์ลานินญ่าของปี พ.ศ. 2554 พบว่ามีข้อมูลบ่งชี้ว่า สถานการณ์น้ำท่วมของภาคใต้จากนี้ไป 2-4 เดือน (ต.ค 54-ม.ค. 55 )น่าเป็นห่วงมาก มีแนวโน้มสูงที่ภาคใต้และอำเภอหาดใหญ่จะเผชิญกับฝนตกหนักจากลานินญ่า เหมือนในปี พ.ศ. 2518, 2531, 2543 และอาจจะมีพายุพัดถล่มเหมือนในปี พ.ศ. 2505 ที่แหลมตะลุมพุก ปี พ.ศ. 2532 พายุเกย์ที่ จ.ชุมพร และเมื่อปลายปี พ.ศ. 2553 รวมทั้งเรื่องแผ่นดินถล่มก็เป็นสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นได้และอาจจะเป็น “มหากาพย์อุทกภัย ปี พ.ศ. 2554” ของภาคใต้อีกปีหนึ่ง
   
 อ.ธนวัฒน์ กล่าวอีกว่า ฝนที่ตกแรงและถี่ขึ้น ส่วนหนึ่งเพราะรูปแบบการก่อตัวของลานินญ่าเปลี่ยนจากทุก 4.6 ปี เหลือ 3 ปี รวมทั้งปรากฏการณ์เอลนินโญ่ที่เปลี่ยนไป จาก 3 ปีต่อครั้งเวียนรอบมาเหลือ 1.6 ปีต่อครั้ง ประกอบกับการก่อตัวของพายุในทะเลจีนใต้จากเดิมก่อตัวในแถบทะเลลึกแต่ปัจจุบันก่อตัวในแถบชายฝั่ง จากสถิติเมื่อปีที่ผ่านมาพบพายุที่ก่อตัวในแถบชายฝั่ง 11 ลูก พายุเหล่านี้เข้ามาเติมปริมาณน้ำฝนเป็นข้อบ่งชี้ได้ว่าในอนาคตเราจะต้องเผชิญกับอุบัติภัยน้ำท่วมถี่และบ่อยขึ้น แต่ถ้าเทียบระหว่างประเทศแล้วประเทศไทยถือว่าโชดดีที่จะเจอแต่หาง ๆ ของพายุเพราะมีประเทศที่รับช่วงหัวไปเต็ม ๆ แล้วคือ ฟิลิปปินส์ เวียดนาม แต่ช่วงเปลี่ยนฤดูจากฝนเป็นหนาวในเดือนตุลาคมนี้ภาคใต้จะได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ประกอบอิทธิพลของลานินญ่า เชื่อว่าเหตุการณ์เหล่านี้จะทำให้ภาคใต้เกิดน้ำท่วมหนักเหมือนเมื่อครั้งอดีต
   
กรุงเทพฯเคยประสบปัญหาน้ำท่วมรุนแรงสุดเมื่ออดีตคือปี 2518 มีหลักฐานภาพถ่ายชาวบ้านพายเรืออยู่ในย่านสนามหลวง และครั้งใหญ่ล่าสุดในปี 2538 ปีนั้นอยู่ในปรากฏการณ์เอลนินโญ่ แต่หลังจากนั้นกรุงเทพฯเริ่มคลี่คลายจากปัญหาน้ำท่วมส่วนหนึ่งเพราะกทม.ได้เริ่มสร้างเขื่อนริมน้ำเจ้าพระยา แต่กลับกลายเป็นว่าประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ภาคกลาง เช่น อ่างทอง สิงห์บุรี ชัยนาทต้องเจอปัญหาน้ำท่วมหนักขึ้น ในประเด็นนี้ อ.ธนวัฒน์ บอกว่าการสร้างเขื่อนกั้นน้ำไม่ได้เป็นวิธีป้องกันน้ำท่วมทั้งระบบ จะส่งผลให้น้ำไปท่วมที่ใดที่หนึ่งแทน ยกตัวอย่างเช่น วิทยาลัยเทคนิคนครสวรรค์น้ำท่วมอย่างรวดเร็วภายใน 3 ชั่วโมง ผลจากต่างคนต่างสร้างเขื่อนริมน้ำเมื่อ กทม. ทำเขื่อนกั้นจังหวัดไหนที่มีงบประมาณก็ทำบ้าง ส่วนประเด็นเขื่อนกักเก็บน้ำ เป็นอีกประเด็นที่ไม่ได้เป็นตัวช่วยแก้ไขปัญหาน้ำท่วม สังเกตว่าในปีนี้พื้นที่แนวเขตการก่อสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้นกลับไม่เจอปัญหาน้ำท่วมรุนแรงทั้งที่ปีนี้มีปริมาณฝนมาก
   
“ปัจจุบันเขื่อนเก็บน้ำที่สร้างมาตั้งแต่ปี 2500 หรือ 50 ปีที่ผ่านมามีตะกอนดินจมอยู่ใต้เขื่อน 40-50 เปอร์เซ็นต์ เป็นเพราะมีการบุกรุกป่าเพิ่มขึ้น แผ่นดินถล่ม แต่การกักเก็บน้ำยังใช้ตัวเลขเดิม อีกทั้งเขื่อนยังก่อให้เกิดพลังงานศักย์ น้ำที่ปล่อยลงมาจากที่สูงเมื่อไหลออกมาจึงมีความแรงเป็นพลังสึนามิน้อย ๆ จะสังเกตว่าทำไมน้ำท่วมปีนี้น้ำจึงแรง เรือล่ม เพราะน้ำมีพลังงานศักย์” นักวิชาการคนเดิมระบุ
   
อย่างไรก็ตาม ดร.ธวัฒน์ให้ข้อเสนอแนะแผนเร่งด่วนสำหรับการรับมือการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมว่า ควรปรับระบบเตือนภัยให้ทันเวลา เร่งวางแผนแม่บทการจัดการน้ำเพื่อวางแผนด้านการเกษตรในพื้นที่ลุ่มน้ำต้องมีประกาศแจ้งให้เก็บเกี่ยวพืชผลทางการเกษตรก่อน สำหรับกรุงเทพมหานครเสนอว่าควรมีแผนระยะยาวในการสร้างเส้นทางด่วนระบายน้ำ นอกจากนี้ควรมีมาตรการทางภาษีจัดเก็บภาษีสำหรับคนที่ไม่ประสบภัยน้ำท่วมเพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยอีกทั้ง ในพื้นที่รับน้ำต้องปล่อยไว้ห้ามก่อตั้งชุมชน หรือการใช้ภาษีทางอ้อมเช่นปัจจุบันโรงงานในพื้นที่บางบาลเกิดขึ้นจำนวนมาก เพราะราคาที่ดินถูกเนื่องจากเป็นพื้นที่รับน้ำ ลักษณะนี้ควรออกมาตรการทางภาษีอุตสาหกรรมที่ไปตั้งอยู่ในพื้นที่รับน้ำต้องเสียภาษี 10 เท่า 
   
แผนระยะยาวอีกด้านกรุงเทพมหานครควรหยุดการเจริญเติบโตของเมืองไว้แค่นี้แต่ไปพัฒนาเมืองบริวาร อาทิ ราชบุรี สุพรรณบุรี สระบุรี เป็นต้น โดยภาครัฐต้องสร้างระบบขนส่งเพื่อรองรับการเดินทางไว้ควบคู่กัน.


http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryID=522&contentID=168375
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #3378 เมื่อ: 09 ตุลาคม 2554, 21:59:50 »

พี่สิงห์
คำปราศรัยของนายกรัฐมนตรี หลังข่าวสองทุ่มของวันนี้ เอาไว้เป็นข้อมูลครับ


นายกฯแถลงเตือนคนกรุง บริเวณนอกแนวคันกั้นน้ำ บริเวณริมเจ้าพระยาเป็นกลุ่มเสี่ยง เตรียมขนย้าย
วันที่ 09 ตุลาคม พ.ศ. 2554 เวลา 21:00:00 น

วันที่ 9 ต.ค. เมื่อเวลา 20.30 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้แถลงข่าวผ่าน โทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ  เรื่อง วิกฤตการณ์อุทกภัยของประเทศที่กระจายอยู่ทั่วทุกภูมิภาค   โดยย้ำว่า ขอให้ประชาชนไม่ต้องตระหนกตกใจหรือหวาดหวั่นกับข่าวลือต่างๆ ที่เกิดขึ้น  และสาระสำคัญของคำแถลงมีดังนี้

ดิฉันต้องขออภัยพี่น้องประชาชนที่รบกวนเวลาของท่านในช่วงนี้เพื่อชี้แจงสถานการณ์ความคืบหน้าเกี่ยวกับสถานการณ์น้ำท่วมบ่อยครั้งนับตั้งแต่เมื่อวันศุกร์เป็นต้นมา ที่ดิฉันได้รายงานพี่น้องประชาชนถึงที่มาของปัญหาน้ำท่วมที่เกิดจากพายุโซนร้อนหลายลูกตั้งแต่เดือนกรกฎาคม ซึ่งรัฐบาลได้ดำเนินการมาตรการต่างๆ ทุกด้านที่มีอยู่ เพื่อเข้าจัดการกับปัญหาในพื้นที่ ทั้งการเร่งผลักดันน้ำลงสู่ทะเล ระดมความช่วยเหลือจากทุกหน่วยงาน โดยเฉพาะกำลังทหาร ตำรวจ พลเรือน และการรับบริจาคเงินและสิ่งของ เมื่อวานนี้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) ขึ้นที่ท่าอากาศยานดอนเมือง โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายทั้งทหาร ตำรวจ พลเรือน และภาคประชาชน สื่อมวลชนทุกสาขามาทำงานเพื่อแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง

แต่เนื่องจากในปีนี้ปริมาณน้ำฝนมากเกินภาวะปกติจึงทำให้เกิดมวลน้ำมากเกินที่เขื่อน แม่น้ำ คลองระบายน้ำจะรับได้สำหรับสถานการณ์ปัจจุบัน ได้รับรายงานจากอธิบดีกรมชลประทานว่า ปริมาณฝนที่ตกในพื้นที่ภาคเหนือและภาคกลางตอนบนเริ่มมีแนวโน้มลดน้อยลง ทำให้สามารถคาดการณ์ได้ว่าปริมาณน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาจะยังคงสูงอีกไม่มากนัก โดยคาดการณ์ว่าจะมีระดับน้ำสูงสุดที่จังหวัดนครสวรรค์ในช่วงวันที่ 12- 13 ตุลาคม 2554 ประมาณ 4,800 - 4,900 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จะทรงตัวอยู่ประมาณ1 สัปดาห์ แล้วจะเริ่มลดลงอย่างช้าๆ

ทั้งนี้ระดับน้ำในลำน้ำเฉพาะแม่น้ำเจ้าพระยาจะสูงขึ้นจากปัจจุบันทุกจุดประมาณโดยเฉลี่ยไม่เกิน 20 เซนติเมตร ขอให้ผู้เกี่ยวข้องติดตามสถานการณ์น้ำและเฝ้าระวังเสริมคันกั้นน้ำให้มั่นคงเพื่อรองรับปริมาณน้ำที่จะเพิ่มขึ้นด้วย

สำหรับพื้นที่ที่ต้องเฝ้าระวังอาจได้รับผลกระทบเกิดปัญหาน้ำท่วมเพิ่มขึ้นในระยะต่อไปได้แก่บริเวณฝั่งซ้ายของแม่น้ำเจ้าพระยาตั้งแต่บริเวณอำเภออุทัย อำเภอบางปะอิน อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นพื้นที่ที่น้ำจากแม่น้ำป่าสักและแม่น้ำเจ้าพระยาจากจังหวัดพระนครศรีอยุธยาที่จะไหลต่อเนื่องลงมา ขอให้พี่น้องประชาชนติดตามข้อมูลข่าวสารการแจ้งเตือนภัยจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดต่อไป

ในส่วนการเตรียมการความพร้อมป้องกันน้ำท่วมพื้นที่กรุงเทพมหานคร ด้านตะวันตกมีสถานีสูบน้ำ 188 แห่ง ประตูระบายน้ำ 214 แห่ง ด้านนี้ทางกรุงเทพมหานครจะเร่งเตรียมรับน้ำพร้อมที่จะระบายได้ ส่วนบริเวณด้านตะวันออกตอนใต้ของ กทม. บริเวณสุวรรณภูมิ เมื่อมีน้ำเข้ามาจะใช้คลอง 5 แห่ง คือ คลองหนองงูเห่า คลองบางโฉลง คลองพระองค์เจ้าไชยานุชิต คลองจระเข้ใหญ่คลองลาดกระบัง เพื่อรับน้ำออกสู่ทะเล โดยตอนล่างจะมีสถานีสูบน้ำ 8 แห่ง ทำหน้าที่ผลักน้ำที่เข้ามาทั้งหมดลงสู่ทะเลซึ่งทั้งหมดนี้ได้สั่งให้มีการเตรียมการให้ขุดลอกคลองดังกล่าวให้แล้วเสร็จจากเดิมที่จะดำเนินการแล้วเสร็จประมาณ 1 เดือน แต่ดิฉันขอให้เร่งดำเนินการภายใน 7 - 10 วัน โดยระดมสรรพกำลัง ทั้งทหาร และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องมาดำเนินการ และได้ให้มีการเตรียมความพร้อมของเครื่องสูบน้ำทั้ง 8 แห่ง ไว้รองรับ เรียบร้อยแล้ว

สำหรับพี่น้องที่อาศัยในกรุงเทพมหานคร บริเวณนอกแนวคันกั้นน้ำ และบริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยาถือว่าเป็นกลุ่มเสี่ยง ขอให้พี่น้องประชาชนที่พักอาศัยบริเวณดังกล่าวเตรียมตัวขนย้ายทรัพย์สินมีค่า สิ่งของที่จำเป็นออกนอกพื้นที่ และให้เฝ้าติดตามสถานการณ์จาก ศปภ. เป็นระยะๆ

ดิฉันขอรายงานความคืบหน้า และเรื่องที่ได้สั่งการให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ดังนี้

เรื่องที่หนึ่ง ผลการแก้ไขสถานการณ์และการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ผ่านมาเมื่อวานได้สั่งให้มีการระดมทรัพยากรทุกอย่างที่มีอยู่ เพื่อป้องกัน น้ำท่วมในเขตเศรษฐกิจของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี และนนทบุรี นอกจากนี้ ยังได้ให้ความช่วยเหลือเพื่อป้องกันชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน ซึ่งได้โทรศัพท์ผ่านศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ หมายเลข 1111 กด 5 Call Center ของผู้ให้บริการโทรศัพท์แต่ละค่าย เช่น AIS DTAC TRUE และสายด่วน 191 ซึ่งมีผู้ร้องเรียนเข้ามาเป็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่เป็นเรื่องการสอบถามข้อมูลเป็นส่วนใหญ่ เช่น สอบถามเส้นทาง 21,331 เรื่อง สอบถามสถานการณ์น้ำท่วม 6,563 เรื่อง ประชาชนที่ร้องขอการช่วยเหลือ 6,012 เรื่อง ซึ่งรัฐบาลได้ส่งให้ผู้เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการให้ความช่วยเหลือโดยเร่งด่วนแล้ว ทั้งนี้รัฐบาลอยากขอความร่วมมือจากสถานีวิทยุโทรทัศน์ทั้งภาครัฐและเอกชน ตลอดจนเคเบิ้ลทีวี เครือข่ายสังคมออนไลน์ SocialMedia ช่วยเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารจาก ศปภ. ต่อไปด้วย

เรื่องที่สอง การปรับแผนและมาตรการทำงานของ ศปภ. ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในวันนี้
ประเด็นที่หนึ่ง ได้ให้มีการตรวจสอบพื้นที่น้ำท่วมให้ความชัดเจนมากยิ่งขึ้น ซึ่งถ้าสามารถป้องกันได้ให้หาวิธีการป้องกันเต็มที่ โดยสามารถร้องขอการสนับสนุนจาก ศปภ. ได้ตลอดเวลาโดยได้แบ่งประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่สามารถป้องกันได้ และกลุ่มที่ไม่สามารถป้องกันได้ โดยกลุ่มที่ไม่สามารถป้องกันไม่ให้น้ำท่วมได้ เนื่องจากเป็นเหตุสุดวิสัย ก็ขอให้พี่น้องประชาชนอพยพจากพื้นที่ไปพักที่สถานที่ทางราชการจัดให้ ซึ่งทางฝ่ายประชาสัมพันธ์จะได้แจ้งให้ประชาชนทราบว่ามีที่ใดบ้าง เช่น จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จะใช้ที่ศาลากลางจังหวัด หรือที่บริเวณมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต

ประเด็นที่สอง ได้มอบหมายให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ระดมสรรพกำลังจากทุกภาคส่วน เข้าไปป้องกันน้ำท่วมนิคมอุตสาหกรรมโรจนะ และนิคมอุตสาหกรรมอื่นให้ได้ หากได้รับความเสียหายจะทำให้เกิดผลกระทบต่อเศรษฐกิจอย่างรุนแรง สำหรับนิคมอุตสาหกรรมโรจนะนั้น ขณะนี้ได้รับรายงานเมื่อบ่ายวันนี้ว่า โรงงานที่จมน้ำคือบริเวณเฟส 1 ซึ่งอยู่ระหว่างการกู้ให้กลับคืนสู่สภาวะปกติ ส่วนเฟส 2 และ 3 จากการตรวจสอบพบว่าไม่มีปัญหาน้ำท่วมแต่อย่างใด

ประเด็นที่สาม ได้กำหนดให้มีเจ้าภาพหลักในการเข้าช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ทุกจังหวัดขณะนี้ โดยเฉพาะจังหวัดกลุ่มเสี่ยงทั้ง 10 จังหวัด โดยมอบหมายให้กองทัพบกเข้าดูแลรับผิดชอบในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ลพบุรี และนครสวรรค์ ส่วนจังหวัดที่มีน้ำท่วมอื่นอีก 7 จังหวัดมอบให้ผู้ว่าราชการจังหวัดและผู้บัญชาการตำรวจภูธรจังหวัด และศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ 191 สำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นผู้ดำเนินการ

ในช่วงนี้ ดิฉันมีความจำเป็นต้องรายงานการแก้ไขปัญหา และการให้ความช่วยเหลือให้พี่น้องประชาชนทราบ ขอให้พี่น้องประชาชนไม่ต้องตระหนกตกใจหรือหวาดหวั่นกับข่าวลือต่างๆ ที่เกิดขึ้น รัฐบาลจะชี้แจงให้พี่น้องประชาชนทราบผ่าน ศปภ. เป็นระยะๆ และขณะนี้รัฐบาลได้รับทราบและเข้าใจปัญหาจากทุกภาคส่วนเป็นอย่างดี และจะได้ประมวลมากำหนดเป็นมาตรการเยียวยาและฟื้นฟูพี่น้องประชาชนและผู้ประกอบการที่ประสบอุทกภัยต่อไป รวมถึงการแก้ไขปัญหาฟื้นฟูในระยะยาว แม้ว่าจะมีค่าใช้จ่ายในการลงทุนสูง แต่เป็นสิ่งที่รัฐบาลจะต้องทำเพื่อมิให้มีผลกระทบในระยะยาวต่อไป สุดท้ายนี้ ดิฉันขอขอบคุณพี่น้องประชาชนชาวไทยที่ร่วมมือกันให้ความช่วยเหลือและให้กำลังใจซึ่งกันและกันในสภาวะที่พี่น้องประชาชนบางส่วนกำลังเผชิญกับความลำบาก

ดิฉันเชื่อมั่นว่าหากเรามีความสามัคคีกัน ร่วมมือร่วมใจกันเช่นนี้ เราจะสามารถฝ่าฟันวิกฤตครั้งนี้ไปได้
 


http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1318169304&grpid=00&catid=&subcatid=
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #3379 เมื่อ: 10 ตุลาคม 2554, 05:51:13 »

สวัสดีครับ คุณหมอสำเริง

                       ขอบพระคุณมากครับ  จริงๆแนวทางแก้ปัญหาน้ำท้วมนั้น ผมเคยเสนอไว้ จำนวนมากซึ่งต้องทำพร้อมๆ กันในหลายๆด้าน แต่ปัญหาก็คือ สิ่งก่อสร้างต่างๆ มันเป็นอุปสรรคขวางทางน้ำเป็นส่วนใหญ่ จึงไม่สามารถทำลายมันได้ จึงต้องหยิบยกการขุดเจ้าพระยาสองมาเสนอเพิ่มเข้าไป ว่ามันจำเป็นที่จะต้องมีแล้วเพราะเราไม่สามารถเก็บน้ำเอาไว้ตามแก้มลิงธรรมชาติได้ เพราะคะแนนเสียงจากประชาชนสำคัญสำหรับนักการเมือง

                        สำหรับฝายโครงการย่อยๆ ผมก็เห็นด้วยครับ แต่จากการที่ผมทำงานกับกรมชลประทาน อบต. มามาก โครงการขุดฝายเล็กๆ นั้นจะกินเงินกันมากประมาณ 30% เป็นอย่างน้อย โดยนักการเมืองท้องถิ่นผู้มีอิทธิพล และกรมชลประทานเองข้าราชการในนั้นตั้งบริษัทมาบังหน้ารับประมูลเหมาไปหมดแบบขอราคากลางเลยที่เดียว โดยมีวิธีการ 108 วิธีในการประมูลและคอรัปชั่น กรมชลประทานเป็นกรมที่มีการคอรัปชั่นมากที่สุดในประเทศไทย แม้กระทั่งคนขับรถขุดยังเอาน้ำมันไปขาย ครับ บางโครงการเล็กๆ ไม่สร้างเลยด้วยซ้ำ โดยไปหาบิลค่าวัสดุมาแทน แต่ไม่ก่อสร้างก็มีแยะ ผมเจอมาแล้ว เป็นกรมเสือหิวในทุกระดับ ครับ ระยะหลังจึงมีโครงการพระราชดำริ ผ่านกรมชลประทานน้อยลง เพราะความมัวหมองด้านคอรัปชั่นครับ

                         สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #3380 เมื่อ: 10 ตุลาคม 2554, 06:14:44 »

สวัสดีครับ ชาวซีมะโด่ง ที่รักทุกท่าน
                        
                       วันที่ ๙ ตุลาคม เป็นวันคล้ายวันเกิดพี่ทองอู่  จักรสิงห์ ครบ ๗ รอบ ๘๔ ปีครับ พวกเราน้องๆซีมะโด่งร่วมแรงร่วมใจกันเป็นเจ้าภาพทุกคน จัดงานแสดงมุฑิตาจิตแด่พี่ทองอู่ พี่ทองอู่  บอกว่าวันนี้มีความสุขมากๆ ทำให้นึกถึงบรรยากาศเก่าๆ ที่พวกเรามาประชุม จัดงานวันคืนสู่เหย้า ได้ไปท่องเที่ยวด้วยกันตามต่างจังหวัดและประเทศลาว เป็นสุขจริงๆ ที่สามารถอยู่มาจนครบ ๘๔ ปีได้  สูตรลับที่ทำให้สุขภาพแข็งแรงคือ พี่ทองอู่ ยืนแกว่งแขนทั้งสองข้างทุกวัน วันละ 1,200 ครั้ง ครับ ปัจจุบันสุขภาพพี่ทองอู่ หูรับเสียงได้น้อยมาก ยกเว้นวันนี้ลูกสาวบอกว่า จิตคุณพ่อแจ่มใส หูที่เคยตึงฟังไม่รู้เรื่อง กลับมาทำงานเกือบปกตอสามารถคุย ฟังกับพวกเราได้ดังพี่ทองอู่คนเดิมครับ

                       ผมไปถึงร้าน ห้าโมงสี่สิบห้านาที ปรากฏว่าพี่ทองอู่ พี่กาญจนา และพวกเรามากันยี่สิบกว่าคนแล้ว ผมจึงขอเปลี่ยนห้องให้ใหญ่ขึ้น ปรากฏว่าวันนี้พวกเรามากันสี่สิบกว่าท่าน จนกล้องไม่สามารถถ่ายภาพหมู่ได้ต้องแบ่งออกเป็นสามช่วง โดยมีคุณบวร วงศ์สินอุดม มาเป็นคนสุดท้าย (ยังดีกว่าไม่มาครับ) และที่สำคัญอดีตประธานชมรม ท่านแรก พี่ละออ  บุญสา  อุตส่าห์เดินทางมาจากสุราษฎร์ธานี เพื่อมาร่วมงานพี่ทองอู่ครับ

                        ภาพส่วนใหญ่ที่สวยๆ ต้องรอคุณอดิสร นำมาลงครับ ที่ช่วยเป็นตากล้องให้วันนี้ ต้องขอบพระคุณอดิสร เป็นอย่างมากด้วยครับ

                        เชิญชมภาพไปก่อนครับ





























      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #3381 เมื่อ: 10 ตุลาคม 2554, 06:44:12 »

                        สำหรับพิธีการนั้น ผมได้มอบหมายให้ รศ.แก้ว  เป็นโฆษก โดยมีผม และคุณวัฒนา ประธานชมรมฯ เป็นผู้กำกับ เริ่มต้นด้วยการเป่าเทียนทีเค็ก ซึ่งลูกสาวพี่ทองอู่บอกว่า เค้กสวยมากๆ ต้องขอบคุณ คุณน้องเจี๊ยบ ครับ หลังจากนั้น พี่กาญจนาในฐานะพี่อาวุโสสูงสุด และเพื่อนบ้านพี่ทองอู่ และเป็นคนสั่งจองอาหาร และห้อง เป็นผู้กล่าวอวยพรพี่อู่ โดยพี่กาญจนาได้เล่าเรื่องตั้งแต่สมัยพี่ทองอู่เป็นประธานหอพัก พี่กาญจนาเป็นน้องใหม่หอหญิง ครับ พี่กาญจนาได้มอบของความเป็นอาหารสุขภาพจากชมรมซีมะโด่ง จากนั้นท่านอาจารย์เผ่า-อาจารย์แจ่มใส มอบกระเช้ารังนก พี่พงษ์  จิรโสภณมอบของที่ระลึกในฐานะเพื่อนร่วมห้องเวลาจัดซีมะโด่งทัวร์ต้องนอนกับพี่ทองอู่ ท่านอาจารย์สุพพัดดา ได้กล่าวอวยพรพี่ทองอู่ ตามด้วยพี่ละออบุญสา  และท่าน สว.ตาก พี่ชรินทร์  หาญสืบสาย และน้องๆ ได้เข้ามอบพวกมาลัยให้แก่พี่ทองอู่
                        เชิญชมภาพครับ











































      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #3382 เมื่อ: 10 ตุลาคม 2554, 08:12:09 »

                       ภายหลังจากมีการมอบของทีระล฿กแด่พี่ทองอู่ แล้ว ได้มีการร้องเพลงหอพัก เริ่มด้วยเพลงซีมะโด่ง โดยมีพี่งพงษ์และคุณเจี๊ยบ ร่วมรำวง พี่ทองอู่ได้ร้องเพลง "ในฝัน" หลังจากนั้นได้เดินทักทายกัน และพี่ทองอู่ได้มอบของที่ระลึกเป็น เครื่องคิดเลขแบบห้อยคอ น่ารักเหมาะกับการใช้งาน และพี่ทองอู่ได้ อ่านกลอนที่เพื่อนร่วมรุ่น คือพันเอก(พืเศษ) เชวง อายุเท่าพี่อู่ เป็นชาวหอ ได้เขียนมาให้ และเจ้าตัวคือพี่เชวงได้มาร่วมงานด้วยการแต่งตัวที่เท่ห์มากๆ มีรสนิยม ได้ขับเสภา อวยพรให้พี่ทองอู่ และได้ร่วมร้องเพลงกับพี่ทองอู่อีกหลายเพลง

                       วันนี้พี่ทองอู่  มีความสุขในท่ามกลางชาวซีมะโด่ง ที่สุด งานจบเมื่อเวลา สามทุ่ม ด้วยการพี่ทองอู่ ร้องเพลง "ถอนสมอ" และเพลง "มหาจุฬาลงกรณ์" เป็นการปิดงาน ในวันนี้ ผม-อาจารย์เผ่า ได้บอกพี่ทองอู่ว่า ไว้พบกัน ๙ ตุลาคม ปีหน้า ครับ

                        ผมเองต้องขอกราบขอบพระคุณทั้งผู้ที่มาร่วมงาน และผู้ที่ส่งกำลังใจไปให้พี่ทองอู่ อย่างคุณเหยง  พี่กาญจนา คุณเจี๊ยบ อาจารย์เผ่า คุณอดิสร  ดรงพิกุล ที่นำโรตีแสนอร่อยมาเลี้ยง คุณน้องใหม่ ที่ไปส่งอาจารย์สุพพัดา (ขามาอาจารย์นั่งรถเครื่องออกจาก หมู่บ้าน  นั่ง Taxi มาขึ้นรถไฟฟ้า และนั่ง Tuk ๆ เข้ามาที่ร้าน) และ........ ครับ

                       สวัสดี


















งานปิดแล้ว แต่ยังคุญกันไม่เสร็จ ไม่ยอมกลับบ้าน



อดีตประธานชมรมซีมะโด่ง ที่มาร่วมงาน ขาดพี่เปรม บ้านน้ำท้วม พี่สมบุญ พี่เรียม คุรอ๋าและสคุณสุรชัย
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #3383 เมื่อ: 10 ตุลาคม 2554, 08:30:46 »

สวัสดีครับ ชาวซีมะโด่ง และแขกผู้มีเกียรติ ที่รักทุกท่าน ครับ

                       งานจัดเลี้ยงแสดงมุฑิตาจิต พี่ทองอู่  จักรสิงห์  พี่ผู้อาวุโส ของชมรมฯ ผ่านไปแล้วเป็นอดีต ที่น่าจดจำยิ่งครับ  ในงานเลี้ยงนั้นมีหลายท่านบ้านถูกน้ำท้วมไปเรียบร้อยหมดแล้ว รวมทั้งบ้านพี่จุก คุรพันธ์แสง และอีกหลายท่าน

                       วันนี้เราต้องกลับมาอยู่ปัจจุบันเผชิญกับความจริง คือโอกาสที่น้ำจะท้วมบ้าน และกรุงเทพฯ มหานคร ยังมีความเสี่ยงสูงมาก ถึงแม้ท่านนายำจะยืนยัน  ผมก็ไม่เชื่อ เพราะท่านยังไม่ได้แก้ปัญหาที่ต้นเหตุ ท่านแก้แต่ปลายเหตุ เพราะท่านไม่มีประสพการณ์น้ำท้วมเลย  บ้านท่านไม่เคยถูกน้ำท้วม ท่านจึงไม่ลงลึกอะไรเลย คุณบรรหาร  กรมชลประทาน ยังคงปล่อยน้ำออกมากจากเขื่อนในปรัมาณที่มากทุกๆ วัน ลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา ยังไม่ยอมระบายน้ำไปทุ่งตะวันตก ทุ่งตะวันออกของสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาที่เป็นแก้มลิงตามธรรมชาติ  ยังไม่ยอมปล่อยน้ำไปลงทะเลโดยผ่านทางจังหวัดสุพรรณบุรีในปริมาณที่มากเหมือนเดิม

                        ดังนั้นชาวนครสวรรค์  ชัยนาท อุทัยธานี ที่อยู่เหนือเขื้อนเจ้าพระยา ระดับน้ำยังคงเพิ่มสูงขึ้นตลอดเวลา จนเขตเศรษฐกิจในเขตเทศบาล ไม่สามารถจะเอาน้ำอยู่ได้แล้ว รวมทั้งถนนต่างๆ ที่ประชาชนได้อาสัยหลับนอน มีที่จอดรถ ก็ค่อยๆ จมน้ำไปทีละสายๆ เพราะรัฐบาลไม่แก้การปล่อยน้ำที่ต้นเหตุ แก้แต่ปลายเหตุ

                        ส่วนประชาชนที่อยู่ใต้เขื่อนเจ้าพระยา สองฝั่งของแม่น้ำ ได้แก่ สิงห์บุรี  ลพบุรี(บางส่วน) สระบุรี(บางส่วน) อ่างทอง อยธยา ปทุมธานี นนทบุรี กทม. รวมทั้งเขตนิคมอุตสาหกรรมต่าง ๆ ต้องจมอยู่ในน้ำเพิ่มขึ้น  ระดับน้ำไม่ลดลงเลย จนไม่มีที่อาศัย  ที่จอดรถ  รถจมอยู่ในน้ำ เพราะท่านนายก ท่านไม่ยอมแก้ที่ต้นเหตุ ปล่อยเลยตามเลย ในเขตนิคมอุตสาหกรรมเสียหายเป็นแสนล้าน แน่นอน ผมไม่รู้ท่านนายก กำลังคิดอะไร หรือว่า ท่านคิดไม่เป็น  ทำงานไม่เป็น  จึงปล่อยให้คุณบรรหาร  อธิบดีกรมชลประทาน  จัดการเรื่องน้ำแบบนี้ ครับ ความเดือดร้อนจึงเกิดขึ้นทุกหย่อมหญ้า เป็นความทรงจำที่จะต้องจดจำเป็นอุทาหรณ์ ครับ

                        สวัสดีครับ อย่าลืม "ได้เห็นสักแต่ว่าเห็น  ได้ยินสักแต่ได้ยิน ได้ดทกลิ่นสักแต่ว่าดมกลิ่น ได้ลิ้มรสสักแต่ว่าลิ้มรส ได้สัมผัสสักแต่ว่าสัมผัส ไม่ยินดียินร้ายในสิ่งที่รับรู้ได้จากการสัมผัส มีจิตอยู่กับกาย-ใจ คือจิตอยู่ที่อิริยาบถหลัก และอิริยาบถย่อย จนเป็นสมาธิ  จิตท่านจะผ่องใส  ไร้ทุกข์ ครับ"      

                         สำหรับข้อมูลปริมาณน้ำ ระดับน้ำที่จุดวัดน้ำ ของกรมชลประทาน ต้องรอประมาณ 10:00 น. ครับเพราะพนักงานของกรมชลประทานมาทำงาน 09:00 น. เปิดเข้าไปตอนนี้คือ ติดต่อไม่ได้  อดใจรอหน่อยนะครับ แต่ผมเดิาเอาเอง ปริมาณน้ำที่นครสวรรค์ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ระดับน้ำที่อุทัยธานี  ชัยนาท สิงห์บุรี  อ่างทอง อยุธยา ปทุมธานี  กทม. ยั่งคงเพิ่มขึ้นแน่นอน แต่ปริมาณไม่มาก คืออยู่ในประมาร 10% เพราะถ้ามากกว่านี้ กรุงเทพฯ จมน้ำหมดแล้ว ครับ
 
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #3384 เมื่อ: 10 ตุลาคม 2554, 10:16:02 »


สรุป สถานการณ์น้ำประจำวัน

      - เขื่อมภูมิพล ปริมาณน้ำในอ่าง 99% ไหลเข้า 93.75 ระบายออก 93.33 ระบายออกลดลงจากเมื่อวาน 5.25 ล้านลูกบาศก์เมตร

      - เขื่อนสิริกิติ์ ปริมาณน้ำในอ่าง 98% ไหลเข้า 37.12 ระบายออก 49.08 ระบายออกลดลงจากเมื่อวาน 5.97 ล้านลูกบาศก์เมตร

      - เขื่อนแควน้อย ปริมาณน้ำในอ่าง 100% ไหลเข้า 15.13 ระบายออก 21.60 ล้านลูกบาศก์เมตร ระบายออกเท่าเมื่อวาน

      - เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ปริมาณน้ำในอ่าง 131% ไหลเข้า 67.62 ระบายออก 73.47 ระบายออกลดลงจากเมื่อวาน 4.33 ล้านลูกบาศก์เมตร
     
      - เขื่อนเจ้าพระยา ระดับน้ำหน้าเขื่อน 17.85 m. เพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน 0.01m. ปริมาณน้ำระบายออก 3,640 เพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน 3.00 ล้านลูกบาศกืเมตร

      - เขื่อนพระรามหก ระดับน้ำหน้าเขื่อน 11.51 m. ลดลงจากเมื่อวาน 0.07 m. ปริมาณน้ำระบายออก 1,246 ลดลงจากเมื่อวาน 61.9 ล้านลูกบาศก์เมตร

ปริมาณน้ำไหลผ่าน จังหวัดต่างๆ หน่วยเป็น ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที

        - นครสวรรค์    วันนี้  4,650   เมื่อวาน   4,650  ระบายออกเท่าเดิม

        - อุทัยธานี      วันนี้    707    เมื่อวาน     703   ระบายออกลดลง 4

        - สิงห์บุรี        วันนี้  2,875    เมื่อวาน   2,860  ระบายออกมากขึ้น 15

        - อ่างทอง      วันนี้  2,652    เมื่อวาน   2,648  ระบายออกเพิ่มขึ้น 4

        - อยุธยา        วันนี้  1,494    เมื่อวาน   1,491  ระบายออกมากขึ้น 3

        - บางไทร      วันนี้  3,288     เมื่อวาน   3,323  ระบายออกลดลง 35

        - ระดับน้ำ ที่จังหวัดปทุมธานี วันนี้ 3.45 m. เมื่อวาน 3.45 m. ระดับน้ำเท่าเดิม



            สรุปโดยภาพรวม
 
                    - ปรามาณน้ำยังใกล้เคียงเมื่อวานนี้ไม่เปลี่ยนแปลง จังหวัดเหนือเขื่อน ระดับน้ำยังคงเพิ่มสูงอย่างต่อเนื่อง อยู่

                    - จังหวัดใต้เขื่อน เช่น สิงห์บุรี อ่างทอง อยุธยา ยังคงเพิ่มขึ้น อย่างต่อเนื่อง

                    - จังหวัดปทุมธานี  นนทบุรี กทม. การแผ่กระจายของพื้นที่น้ำท้วมกว้างขึ้นเรื่อยๆ และสูงขึ้นเรื่อย อย่างต่อเนื่อง

                    - ชาว กทม. ควรเก็บสิ่งของหนีน้ำได้แล้ว และหาทางป้องกันน้ำท้วมเอาไว้ก่อนครับ อย่าลืม;jkตัวใครตัวมัน ไม่มีใครช่วยได้ยามคับขัน อย่าไปหวังว่ารัฐบาลท่านจะช่วย หรือท่านบอกน้ำไม่ท้วม กทม. อย่าไปเชื่อ เพราะท่านแก้แต่ปัญหาปลายเหตุ  ไม่ได้แก้ที่ต้นเหตุ คือการระบายน้ำเข้าทุ่งตะวันตก ตะวันออก ของแม่น้ำเจ้าพระยาเพื่อพักน้ำไว้ในแก้มลิงธรรมชาติ และระบายน้ำออกไปทางสุพรรณบุรีให้มากขึ้นเพื่อไปลงทะเล ไม่ได้ทำ ดังนั้น น้ำยังคงอยู่ในลำแม่น้ำเจ้าพระยา ต่อไป มุ่งเข้าสู่ กทม. เร็ว แรง นานวัน ขึ้น ครับ

                      สวัสดี     
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #3385 เมื่อ: 10 ตุลาคม 2554, 10:26:55 »

พี่สิงห์

ล่าสุด น้ำทะลักเข้า"ตลาดบ่อนไก่" สูงกว่า 50 ซ.ม. และเป็นที่ตั้งของ รพ.สวรรค์ประชารักษ์
ขณะนี้กำลังอุดพนังกั้นน้ำที่พังอีกครั้งหนึ่งครับ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #3386 เมื่อ: 10 ตุลาคม 2554, 10:29:57 »

ข่าวด่วน !!

                     อาจารย์ถาวร  โชติชื่น รายงานข่าวด่วนมาว่า ทางช่องเจ็ดสีรายงานสดว่า "กำแพงกั้นน้ำของเทศบาลนครสวรรค์พัง  น้ำทะลักเข้าเขตเทศบาล เขตเศรษฐกิจ ตัวเมือง"

                     ทำไม? มันจึงพัง  เนื่องจากคันกั้นน้ำที่ทำนั้น กระทำตอนที่น้ำท้วม ไม่ได้เตรียมการณ์มาก่อน โดยใช้วิธีถมทับด้วยหินคลุก เป็นส่วนใหญ๋ ปัญหาของหินคลุกที่มาทำกั้นน้ำนั้น พอทิ้งไว้นานๆ เป็นเดือนเช่นที่นครสวรรค์ น้ำหนักของหินคลุก (หินเล็กๆไม่เกินหนึ่งนิ้ว ผสมกับดินฝุ่น) เมื่อน้ำซึมผ่านได้ น้ำหนักจะเท่ากับน้ำ จึงไม่สามารถรับแรงดันจากน้ำที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ประกอบกับบางส่วนที่ทำด้วยกระสอบทราย ถมแต่ความสูง  ไม่มีระเบียบเพราะไม่มีเวลา เสริมแต่ทางสูง ไม่ได้เสริมฐาน จึงไม่สามารถรับแรงดันจากน้ำที่สูงขึ้นและความเร็วของน้ำได้ นานวันจึงต้องพังลง

                     ที่อยุธยา  อ่างทอง หรือแม้แต่ที่ตามนิคมอุตสาหกรรม ต่างๆ ที่ถมคันกั้นน้ำด้วยดิน นั้น มันทนน้ำไม่ได้นาน ท่านต้องทราบ ท่านต้องเสริมความหนาไห้มากไว้ อย่างน้อยกว้างมากกว่าความสูง สามเท่าเป็นอย่างน้อย จึงจะพออยู่ได้ครับ





ฐานของกระสอบทรายต้องกว้างมากกว่าความสูงสามเท่าครับ


                     ลืมบอกไป อาจารย์ถาวร  โชติชื่น  ได้ขอบคุณผม ที่ช่วยเป็นธุระจัดงานแสดงมุฑิตาจิตต์ ให้กับพี่ทองอู่  จักรสิงห์  ทำให้พี่ทองอู่  มีความสุขในท้ามกลางชาวซีมะโด่งอีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่ท่านปลีกตัว เงา ซึม  ไม่ติดต่อกับใครมานานเป็นปี นับแต่ที่ท่านเสียภรรยาคู่ทุกข์ไป กลับมามีชีวิตที่สุขกว่าเดิม เป็นพี่ทองอู่ คนเดิมอีกครั้งหนึ่ง

                      ผมก็ทำไปตามหน้าที่ ที่ผมสามารถกระทำได้สำหรับพวกเรา ชาวซีมะโด่ง ครับ
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #3387 เมื่อ: 10 ตุลาคม 2554, 10:36:51 »

พี่สิงห์

ส่วนใหญ่ทำแบบที่ว่าไม่ได้ เำพราะพื้นที่ไม่พอวางกระสอบทราย

อัพเดท
น้ำเข้าตรง"ตลาดบ่อนไก่" เลยตึกเงินทุนเจ้าพระยา ไปประมาณ 500 เมตร ระดับน้ำสูงขึ้น 50 ซ.ม.แล้วครับ
บริเวณนี้คือ ที่ทำการไปรษณีย์นครสวรรค์ วัดโพธาราาม โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ ที่มุ่งสู่อาคารเทศบาล
หากไม่รู้จัก ก็ต้องบอกว่า ตรงร้านข้ามต้มนายเจือ ตลาดวัดโพธิ์ครับ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #3388 เมื่อ: 10 ตุลาคม 2554, 10:40:37 »

                        ขอบคุณมากครับ คุณเหยง

                         อย่าลืมน้ำยังคงสูงขึ้น น้ำมันเชื่อเพลิงกำลังเหลือน้อยลง  กักตุนเอาไว้บ้าง รวมทั้งอาหารด้วยครับ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #3389 เมื่อ: 10 ตุลาคม 2554, 10:42:58 »

อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 10 ตุลาคม 2554, 10:36:51
พี่สิงห์

ส่วนใหญ่ทำแบบที่ว่าไม่ได้ เำพราะพื้นที่ไม่พอวางกระสอบทราย

อัพเดท
น้ำเข้าตรง"ตลาดบ่อนไก่" เลยตึกเงินทุนเจ้าพระยา ไปประมาณ 500 เมตร ระดับน้ำสูงขึ้น 50 ซ.ม.แล้วครับ
บริเวณนี้คือ ที่ทำการไปรษณีย์นครสวรรค์ วัดโพธาราาม โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ ที่มุ่งสู่อาคารเทศบาล
หากไม่รู้จัก ก็ต้องบอกว่า ตรงร้านข้ามต้มนายเจือ ตลาดวัดโพธิ์ครับ

                    กรณีที่ไม่มีพื้นที่มาก ท่านต้องใช้น้ำหนัก เช่นก้อนหินขนาด 5 - 12 นิ้ว หรือแท่งคอนกรีตเข้าเสริมครับ
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #3390 เมื่อ: 10 ตุลาคม 2554, 11:02:45 »

ดูข่าวออนไลน์ น้ำท่วมจังหวัดนครสวรรค์ครับ

http://www.uptogu.com/red/index1.html
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #3391 เมื่อ: 10 ตุลาคม 2554, 12:08:12 »

                      น้องสาวโทรศัพท์ มาจากสิงห์บุรี กลัวว่าเขื่อนของสิงห์บุรีจะรับไม่ไหว ผมก็เลยต้องอธิบายว่า มันต่างกัน เพราะของสิงห์บุรีเป็นเขื่อนคอนกรีตอย่างดี แข็งแรงไม่พัง แต่นครสวรรค์มันใช้หินคลุก กระสอบทรายที่กระทำตอนน้ำท้วมความแข็งแรงมันต่างกัน ทางโรงพยาบาลสิงห์บุรีสบายใจได้ เขื่อนสิงห์บุรีไม่เป็นอย่างนครสวรรค์แน่นอน แต่ระวังน้ำล้นเขื่อน ต้องสูบออกเอาชนะน้ำทะเข้าให้ได้ และไม่จำเป็นต้องแห้ง เพราะถ้าแห็งแรงดันน้ำจะมาก ให้มีน้ำขังเอาไว้ แต่ยังไม่เสียหาย ครับ

                       จะเห็นว่าปัจจุบันถนนสายหลักที่ติดต่อระหว่างจังหวัดนั้นมีน้ำท้วมตลอดหมดแล้ว ครับ ผมยังยืนยันตามความคิดเดิมคงผม
                       
                       ขอวิงวอนท่านบรรหาร  ศิลปอาชา  อธอบดีกรมชลประทาน และท่านนายกรัฐมนตรี ที่ไม่มีความรู้เลย  อย่าทิฏฐิเลยครับ ฟังกันบ้าง ถนนก็ไม่มีให้อยู่แล้ว บ้านก็จมหมดแล้ว โรงงานอุตสาหกรรม เขตเศรษฐกิจ ก็ฉิบหายไปเรื่อยๆทะยอยตามมาทุกพื้นที่ ขอความกรุณาปล่อยน้ำลงทุ่งตะวันออก งดการปิดกั้นประตูระบายน้ำบางโฉมศรี  ปล่อยน้ำเข้าทุ่งตะวันตก ซึ่งมีน้ำเพียง 20% ปล่อยน้ำลงทุ่งสุพรรณบุรี และลงทะเลให้มากกว่านี้ กระทำสามอย่างทันที ระดับน้ำจะลดลงโดยพลัน ความลำบากจะลดน้อยลง ยังมีถนนให้อาศัย ครับ

                       นครสวรรค์ย้ายคนไข้ออกจากโรงพยาบลสวรรค์ประชารักษ์แล้ว เพราะน้ำทะลักเข้ามาแล้ว อดลำบาก เพราะความต่างระดับมันสูงน้ำมีความเร้ว แรงดัน รพอบตาเดียวเท่านั้น มันก็คือซึนามิย่อยๆ นั่นเอง ครับ

                       สวัสดี 
      บันทึกการเข้า
lek_adisorn
Hero Cmadong Member
***

ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,595

« ตอบ #3392 เมื่อ: 10 ตุลาคม 2554, 12:09:57 »

สวัสดีครับพี่สิงห์ พี่เหยง และชาวซีมะโด่งครับ ขอนำรูปงานเลี้ยงพี่ทองอู่มานำเสนอครับ







































      บันทึกการเข้า
lek_adisorn
Hero Cmadong Member
***

ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,595

« ตอบ #3393 เมื่อ: 10 ตุลาคม 2554, 12:12:36 »









      บันทึกการเข้า
lek_adisorn
Hero Cmadong Member
***

ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,595

« ตอบ #3394 เมื่อ: 10 ตุลาคม 2554, 12:13:40 »

      บันทึกการเข้า
lek_adisorn
Hero Cmadong Member
***

ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,595

« ตอบ #3395 เมื่อ: 10 ตุลาคม 2554, 12:15:03 »

      บันทึกการเข้า
lek_adisorn
Hero Cmadong Member
***

ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,595

« ตอบ #3396 เมื่อ: 10 ตุลาคม 2554, 12:16:04 »

      บันทึกการเข้า
lek_adisorn
Hero Cmadong Member
***

ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,595

« ตอบ #3397 เมื่อ: 10 ตุลาคม 2554, 12:16:47 »

      บันทึกการเข้า
lek_adisorn
Hero Cmadong Member
***

ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,595

« ตอบ #3398 เมื่อ: 10 ตุลาคม 2554, 12:17:29 »

      บันทึกการเข้า
lek_adisorn
Hero Cmadong Member
***

ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,595

« ตอบ #3399 เมื่อ: 10 ตุลาคม 2554, 12:18:07 »

      บันทึกการเข้า
  หน้า: 1 ... 134 135 [136] 137 138 ... 681   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

ทำไมหอพักนิสิตจุฬาจึงเป็นดินแดนมหัศจรรย์            " ไม่ได้เป็นแค่หอให้นอนพัก  แต่เป็นบ้านอบอุ่นรักให้อาศัย  ไม่เป็นแค่ที่ซุกหัวยามหลบภัย  แต่สร้างใจให้เข้มแข็งแกร่งการงาน"  <))))><