23 พฤศจิกายน 2567, 07:34:00
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: 1 ... 115 116 [117] 118 119 ... 681   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: คุย กับ คุณมานพ กลับดี อดีตประธานชมรม ๓ สมัย  (อ่าน 3552988 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 24 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #2900 เมื่อ: 22 สิงหาคม 2554, 16:49:02 »

scrollขึ้นไปอ่านอีกรอบ
เอ๊ะ,รึพี่ทูจะทำให้พี่ช้ำใจ?
หรือพี่ป๋องจะกวนใจพี่ให้แหนงหน่าย?
ฮืม....
ต้องสองท่านนี้แหละ!
..
..
ไม่ไช่หนิงกะพี่กุแน่ๆหนิงรับประกัน!
เพราะท่านพี่กุ และน้องหนิ๊ง รู้รักษาตัวรอดเป็นยอดดี
พอเค้าจะชกกันทีไร...

หลบปลีกวิเวกทุกที!
..
..

      บันทึกการเข้า


khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #2901 เมื่อ: 22 สิงหาคม 2554, 17:03:57 »

พี่สิงห์จะไปไหนคะ?
ไปปลีกวิเวก?
ที่ไหนพี่?
เดี๋ยวหนิงส่งซิ้กให้สาวๆทราบ
ตามเบอร์พี่นะคะ...ทีนี้ล่ะโทรกันตรึม!

รึพี่จะไปซุ่ม?
แอบ?
โถ่พี่ ยังกะแอบ/หลบง่ายๆงั้นแหละ
ผู้คน,น้องนุ่ง,ได้ถามหา กระจองอกระจอแง

เป็นที่รักก็เงี๊ยะ!
..
..
เดี๋ยวหนูฟ้องพี่รุ่ง.
      บันทึกการเข้า


khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #2902 เมื่อ: 23 สิงหาคม 2554, 19:07:26 »

พี่สิงห์ขา,
ใจเย็นๆค่ะ..อย่าเพิ่งงอนน้องๆ

น้องๆของพี่เค้าอยากทำอะไรให้จ๊าบสด
เพื่อความใหม่แลทันสมัยให้คุณประโยชน์
กับทุกฝ่ายคะพี่ เค้าต้องการลอง เมื่อลอง
จะได้รู้...และการลองนี้ต้องอาศัยความกล้า
ความตั้งใจ แลอาจเป็นความสิ้นเปลืองสูญเสีย
ซึ่งเป็นเรื่องปกติของทุกmissionนี่พี่ ไม่ได้มีเจตนา
จะเป็นการค้านเสียงผู้ใหญ่ พวกเค้ารักเคารพพี่
ต้องการให้พี่อยู่ข้างๆพวกเค้า ชมการทำงานของพวกเค้า
ให้กำลังใจพวกเค้าเมื่อมีอะไรผิดพลาดที่ต้องการการแก้ไข
ด้วยผู้มีประสบการณ์มากกว่าอย่างเช่นพี่
พวกเค้าจะขาดพี่สิงห์ได้ยังงัยกัน?


หนิงส่งเมล์ฉบับนี้ผ่านเครื่องตอบอัตโนมัติ
จะได้ชิ่งทันหากพรายกระซิบบอกผิด!
วิชาวูดูหนูไม่เคยเข้ารกเข้าพงนะ.
แม่นจับวางคะ
after the motto... เรื่องของเขา เราจะเกี่ยว!
(ประโยคข้างบนคุ้นๆว่าไปแผลงมาจากกระทู้พี่ทูค่ะ)



พี่สิงห์ไม่ยุ่งไม่ได้นะคะ..ต้องยุ่งด้วยเป็นหลายเท่าเลยล่ะ
ม่ายงั้นอภิมหาโปรเจคนี้ก็ไม่ไปถึงไหน...ทีนี้ขาๆเกาะขอบจอ
อย่างหนูจะมีอะไรให้สนใจขบคิดล่ะคะ จริงมั้ยพี?

ว่าแต่,
ใครทำให้พี่ขุบวิบหนิงยังหาตัวไม่เจอ!
เจอเมื่อไหร่...จะให้ซดนมแกะ 4 %จากออสเตรีย
รับรองคะ...เลี่ยนสุดๆ...ผะอืดผะอม...ไร้รส ไร้กลิ่น
bläääääääää blääääääääเป็นแกะภูเขาเลยค่ะ
      บันทึกการเข้า


suriya2513
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,457

« ตอบ #2903 เมื่อ: 23 สิงหาคม 2554, 23:11:22 »

หนุงหนิงกล่าวถูกต้องแล้วครับ
"ถ้าไม่เข้าหาทุกข์ มัวแต่วิ่งหนีทุกข์ ก็ไม่มีทางชนะทุกข์หรอกครับ สิงห์ มานพ"
      บันทึกการเข้า

[โบราณคดี]จุดกำเนิดเริ่มต้นของ cmadong.com by : มานพ กลับดี  คลิ๊ก->
khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #2904 เมื่อ: 23 สิงหาคม 2554, 23:26:34 »

แล้วตกลงว่า...
ใครว่าพี่สิงห์คะ?

พี่รุ่ง?

(เอาแล้ว เอาแล้ว..เริ่มฟาดงวง ฟาดงาแล้ว
น้องรอนเชียร์ใคร?วางเลย! พี่เชียร์พี่กุ!
กินรวบทุกนัด...)
      บันทึกการเข้า


Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #2905 เมื่อ: 24 สิงหาคม 2554, 06:17:02 »

สังคมชาวซีมะโด่ง ควรจะเป็นสังคมที่ต้องให้อภัย ไม่เอาชนะกันและควรเคารพความคิดเห็น ซึ่งกันและกัน

สวัสดีครับ ชาวซีมะโด่ง ที่รักทุกท่าน

              ผมต้องกราบขออภัยพี่-เพื่อน-น้องๆ ชาวซีมะโด่ง ที่รักทุกท่าน ที่ทำให้ทุกท่านตั้งคำถาม เกิดอะไรขึ้นกับผม ผมโกรธใคร ไม่พอใจใคร มีเรื่องอะไร?  เปล่าเลยครับ ไม่ได้โกรธ  ไม่ได้น้อยใจ แต่เพราะเผลอขาดสติตกอยู่ในใต้ความคิดแวบ (เมื่อประสพกับสิ่งที่ไม่ชอบ คือผมรู้ว่า "คนทุกคนต้องคิดเข้าข้างตนเอง เป็นหลัก ใครที่มีความคิดต่างจากเรา ผิดเสมอ นี่คือความจริงแห่งจิต" เมื่อผม ได้รับคำทักท้วง ว่าโพสต์ข้อความทำไม ไม่ควรโพสต์ ไม่ควรแสดงความคิดเห็น (ผมคิดผมมีสิทธิที่จะกระทำ มีความรับผิดชอบทางกฏหมายถ้าข้อความนั้นไม่ถูกต้อง )) คือความคิดภายใต้โมหะ ที่ยังหลงเหลืออยู่ในตัวผมที่ผมยังไม่สามารถข้ามมันไปได้ ถ้าผมยังตกอยู่ในอารมณ์นี้ การพัฒนาจิตมันก็ย่ำอยู่กับที่เท่านั้น และอาจจะถอยหลังหนัก ถึงแม้เราจะรู้อะไรดีๆ มามากทางจิตก็ตาม นี่ละความคิดภายใต้โมหะ "พญามาร" ที่แท้จริงสำหรับผม

              ขอแจ้งให้ทราบคือ ตามข้อความที่ผมลบไปแล้ว ว่าต้องลบ ลบเพราะ เป็นความคิดแวบที่ไม่ควรกระทำ เพราะมีคนถามผมว่า ผมโพสต์ทำไม ผมแสดงความคิดเห็นแบบนั้นทำไม มันไม่สมควร พูดง่ายๆ ผมผิดที่โพสต์ข้อความนั้น เมื่อเขาหาว่า ผมผิดไม่ควรทำอย่างนั้น ผมก็คิด ผิดก็ผิดเราไม่อยากทะเราะกับใครทั้งสิ้น คนอื่นเราสั่งไม่ได้ แต่เราสั่งตัวเราได้ ก็ยอมรับผิด หนีห่างจากทุกข์นั้นเสีย ผมก็เลยลบ อยากหนีห่างสังคม ไม่อยากรับทราบเรื่องใน ชมรมฯ ทั้งสิ้น ไม่ต้องเอาเรื่องในชมรมฯ มาบอกผม อยากทำอะไรก็ทำไป ผมไม่รับทราบ เพราะสำหรับผมมันผ่านเป็นอดีตไปแล้ว เป็นเรื่องของคนรุ่นใหม่ ที่จะรับผิดชอบ ผมบอกหลายครั้งแล้ว แต่ก็ไม่วายที่จะมาดึงผมให้เข้าไป ผมจึงมีความคิดภายใต้โมหะ อยากหนีให้ไกลจากเรื่องพวกนี้  คือละทิ้งเสีย

                วันนี้ผมนั่งเจริญสติ ซึ่งสองวันที่ผ่านมา ผมเอาเวลาที่เข้าเวบมานั่งเจริญสติอย่างมาก วันนี้จิตมันก็คิดทบทวนสิ่งที่ ดร.สุริยา เตือน สิ่งที่คุณสมชาย บอก สิ่งที่จิตเราคิด เราพยายามตัดไม่คิด มันก็ยังมาเป็นมารต่อเราอีกในเรื่องนี้ เราก็ผ่านมันไม่ได้ พัฒนาจิตไม่ได้  ความคิดที่ให้อภัย จึงแวบขึ้นมาในความคิด  จึงยอมละทิ้งศีล ข้อมุสา คือโกหกตัวเอง ยอมเสียสัตย์ ต้องให้อภัย ต่อตนเอง และผู้อื่น ถึงแม้เราจะรู้เรื่องความคิดของคน รู้ว่าเราไม่ผิด อย่าไปทำตามที่จิตตัวเองต้องการ ต้องยังอยู่ในสังคม ต้องเอาชนะทนแรงต้านต่างๆ ให้ได้ เราหนีไปไกลแสนไกลก็หนีไม่พ้น เพราะความคิดมันไม่มีตัวตน มันเกาะติดไปกับเราตลอด บางครั้งอาจจะสงบ แต่ก็เป็นการสงบชั่วครั้งชั่วคราว ไม่ถาวร เราหนีไม่พ้น  สู้เอาชนะมันด้วยความเพียร อดทน คือเอาชนะจิตตนเองซึ่งๆ หน้าดีกว่า  จึงขอกลับมาทำหน้าที่อย่างเดิม ซึ่งหลายท่านบอกว่า มีประโยชน์ ผมเป็นคนไร้สัจจะได้ครับ ถ้ามันมีประโยชน์

                 เรื่องการตั้งสมาคมที่ผมโพสต์ไปนั้น ผมโพสต์ตามความจริง ที่เกิดขึ้นในอดีต และได้บอกคุณวัฒนาไปแล้ว เพราะคุณวัฒนาต้องการ ทราบ ผมไม่มีเจตนาใดๆ ทั้งสิ้นแฝงเร้น หรือต่อต้านการตั้งสมาคม  คือผมไม่มีอะไรจะเขียนบางครั้งต้องอาศัยข้อมูล ปัจจุบัน เมื่อคุณวัฒนาถาม ผมก็มาเล่าสู่กันฝังเท่านั้น(เคยเขียนมาครั้งหนึ่งให้คุณเหยงทราบ) กรรมการชมรมฯ จะทำอะไรก็เรื่องของกรรมการ  ผมบอกหลายครั้งแล้วว่าผมไม่ยุ่งทำไป ไม่ต้องบอกผม และผมไม่อยากเข้าไปเกี่ยวข้องทั้งสิ้น พ้นวาระไปแล้ว เป็นอดีต ผมอยากอยู่อย่างสมถะ พอเพียง และไม่ทำให้ใครเดือดร้อนจากผม

                 วันนี้ผมต้องไปครอบฟันตอน 08:45 น. ที่คณะทันตแพทย์ ขอชี้แจงเท่านั้ ครับ

                 ขอย้ำเรื่องของกรรมการชมรมฯ อย่ามาบอกผมเลย  ผมไม่ยุ่งทั้งสิ้น  ไม่ขอรับทราบ (เพราะไม่อยากรับผิดชอบ) เป็นเรื่องของคนรุ่นใหม่ เป็นอดีตสำหรับผม

                 สวัสดีตอนเช้าครับ                


คนจะคิดเข้าข้างตนเอง และคิดว่าตนเองถูกเสมอ นี่คือความคิดภายใต้โมหะ ยิ่งผู้สูงอายุเป็นมากๆ ครับ

ให้อภัย เคารพความคิดเห็นผู้อื่น เป็นสิ่งสมควรอย่างยิ่ง

ไม่ใช่เราถูก ผู้อื่นผิดเสมอ (ความคิด) มันก็ตีกันเท่านั้น

ตามที่เราเห็นอยู่ ตามที่เราเห็นอยู่ ในสังคมไทยทุกวันนี้

      บันทึกการเข้า
KUSON
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,125

« ตอบ #2906 เมื่อ: 24 สิงหาคม 2554, 09:29:55 »

น้องหนิงครับ
พี่รุ่งเขาเป็นเพื่อนพี่
เป็นคนดีและรักพี่สิงห์มาก
พี่สิงห์ไม่โกรธรุ่งเด็ดขาด
ส่วนรูปที่รัสเซ๊ญพี่ถ่ายไม่ค่อยสวย
ดูจากที่เขาโฆษณาสวยกว่าครับ
      บันทึกการเข้า
suriya2513
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,457

« ตอบ #2907 เมื่อ: 24 สิงหาคม 2554, 09:51:03 »

ก็รู้สึกดีใจในเช้าวันนี้ ที่สิงห์ มานพ กลับมา และให้ความสำคัญในเรื่องการให้อภัย
เพราะอย่างไรเสีย เราก็เป็นส่วนหนึ่งของสังคมที่เราใกล้ชิด และเคยมีส่วนร่วม จะหนีห่างไปก็คงไม่ได้
อย่างเช่นเหตุการณ์ที่เราเห็นเขาทำกันในสภาฯ สองวันนี้ เราก็คงทำได้แค่ทน และทำใจเท่านั้น
      บันทึกการเข้า

[โบราณคดี]จุดกำเนิดเริ่มต้นของ cmadong.com by : มานพ กลับดี  คลิ๊ก->
khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #2908 เมื่อ: 24 สิงหาคม 2554, 18:07:41 »

อ้างถึง
ข้อความของ Manop  Klabdee เมื่อ 24 สิงหาคม 2554, 06:17:02
สังคมชาวซีมะโด่ง ควรจะเป็นสังคมที่ต้องให้อภัย ไม่เอาชนะกันและควรเคารพความคิดเห็น ซึ่งกันและกัน

สวัสดีครับ ชาวซีมะโด่ง ที่รักทุกท่าน

              ผมต้องกราบขออภัยพี่-เพื่อน-น้องๆ ชาวซีมะโด่ง ที่รักทุกท่าน ที่ทำให้ทุกท่านตั้งคำถาม เกิดอะไรขึ้นกับผม ผมโกรธใคร ไม่พอใจใคร มีเรื่องอะไร?  เปล่าเลยครับ ไม่ได้โกรธ  ไม่ได้น้อยใจ แต่เพราะเผลอขาดสติตกอยู่ในใต้ความคิดแวบ (เมื่อประสพกับสิ่งที่ไม่ชอบ คือผมรู้ว่า "คนทุกคนต้องคิดเข้าข้างตนเอง เป็นหลัก ใครที่มีความคิดต่างจากเรา ผิดเสมอ นี่คือความจริงแห่งจิต" เมื่อผม ได้รับคำทักท้วง ว่าโพสต์ข้อความทำไม ไม่ควรโพสต์ ไม่ควรแสดงความคิดเห็น (ผมคิดผมมีสิทธิที่จะกระทำ มีความรับผิดชอบทางกฏหมายถ้าข้อความนั้นไม่ถูกต้อง )) คือความคิดภายใต้โมหะ ที่ยังหลงเหลืออยู่ในตัวผมที่ผมยังไม่สามารถข้ามมันไปได้ ถ้าผมยังตกอยู่ในอารมณ์นี้ การพัฒนาจิตมันก็ย่ำอยู่กับที่เท่านั้น และอาจจะถอยหลังหนัก ถึงแม้เราจะรู้อะไรดีๆ มามากทางจิตก็ตาม นี่ละความคิดภายใต้โมหะ "พญามาร" ที่แท้จริงสำหรับผม
              สวัสดีตอนเช้าครับ               


[/size][/b][/center]

พี่สิงห์,
หนิงเสียดายคะ!
..
เสียดายว่ามาอ่านcommentพี่ไม่ทัน
จริงๆแล้วพี่ไม่น่าลบเลย!
เพราะนั่นเป็นความคิดเห็นของพี่...
ที่ไม่ได้ไปดึงไปเกี่ยวกะการทำงาน
อะไรของใคร...ยังงี้ใครจะกล้าเขียนอะไร
กลัวคนนั้น เกรงใจคนนี้ สุดท้ายอึ้งๆอ้ำๆ
พะงุมพะงำ ไม่กล้าไปหมด คนเก่ง กะคนกล้า
บางทีเป็นคนละเรื่องกัน...และน่ารำคาญ!

พี่เขียนก็ทิ้งไว้ที่นี่แหละ ทำไมต้องลบด้วย.
หนิงถูกเตือนให้ลบ ยังบอก"พี่ลบเองดิ..หนิงไม่ลบ!"
พี่นึกออกมั้ยคะ ว่าจะเป็นยังไง หากใครเริ่ม
มาบอกให้พี่ปิดกั้นในสิ่งที่พี่เห็น พี่คิด
ที่หนิงเคารพคือการกล้าคิด กล้าเชื่อของพี่ต่างหาก
และนับถือมากขึ้นเมื่อกล้าเขียนด้วย..

จะต้องตามไประวังอย่างอื่น ที่คนอื่นอาจรู้สึก
ก็ไม่ต้องทำไรกัน ทำไม่ได้คะพี่จิตมนุษย์ยอกย้อน
ไม่ได้ดั่งใจหรอกคะ.

พี่สิงห์ยังมองเห็นจิตในขณะนั้นว่าคิดเห็นยังไง
จะมีอะไรไปหุ้มเสริมก็ไช่จะร้ายแรงทีคะ
ก็โทสะโมหะ มาแล้วไป ความคิดความเชื่อ
ไช่จะเปลี่ยนที

พูดแล้วของขึ้น
ยิ่งร้อนๆอยู่คะ





ได้ชกกันมั่ง.
      บันทึกการเข้า


khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #2909 เมื่อ: 24 สิงหาคม 2554, 18:13:55 »

ไม่ได้รำคาญพี่สิงห์
หนิงรำคาญคนเก่งแต่อุบ
อมภูมิ...ไม่กล้า กลัวเสียฟอร์ม
กลัวเสียหน้า กลัวนั่น กลัวนี่
แต่ไม่กลัวและกล้ามากๆที่จะ
ห้ามนั่น ห้ามนี่ ห้ามโน่น
..
..
ช่วยด้วย!
หนู้ติดนิสัยกระแทกแดกดัน
ตีวัวกระทบคราดมาจากใครนี่
..
..
นั่นไม่ไช่หนิงคะพี่สิงห์
เครื่องanswer machineดิ
ร้อนฉึ่ง..
เลยบร้าาาไปแล้ว
      บันทึกการเข้า


khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #2910 เมื่อ: 24 สิงหาคม 2554, 18:20:27 »

อ้างถึง
ข้อความของ KUSON เมื่อ 24 สิงหาคม 2554, 09:29:55
น้องหนิงครับ
พี่รุ่งเขาเป็นเพื่อนพี่
เป็นคนดีและรักพี่สิงห์มาก
พี่สิงห์ไม่โกรธรุ่งเด็ดขาด
ส่วนรูปที่รัสเซ๊ญพี่ถ่ายไม่ค่อยสวย
ดูจากที่เขาโฆษณาสวยกว่าครับ

ที่ไหนคะพี่?
ขอชื่อมาก่อน
ที่เหลือหนิงตามเอง

ที่ขอน่ะ จะดูพี่ต่างหาก
ภาพวิว ภาพเมือง เป็นส่วนประกอบ
คะ.
      บันทึกการเข้า


khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #2911 เมื่อ: 24 สิงหาคม 2554, 18:35:44 »

 
อ้างถึง   
ขอแจ้งให้ทราบคือ ตามข้อความที่ผมลบไปแล้ว ว่าต้องลบ ลบเพราะ เป็นความคิดแวบที่ไม่ควรกระทำ เพราะมีคนถามผมว่า ผมโพสต์ทำไม ผมแสดงความคิดเห็นแบบนั้นทำไม มันไม่สมควร พูดง่ายๆ ผมผิดที่โพสต์ข้อความนั้น เมื่อเขาหาว่า ผมผิดไม่ควรทำอย่างนั้น ผมก็คิด ผิดก็ผิดเราไม่อยากทะเราะกับใครทั้งสิ้น คนอื่นเราสั่งไม่ได้ แต่เราสั่งตัวเราได้ ก็ยอมรับผิด หนีห่างจากทุกข์นั้นเสีย ผมก็เลยลบ อยากหนีห่างสังคม ไม่อยากรับทราบเรื่องใน ชมรมฯ ทั้งสิ้น ไม่ต้องเอาเรื่องในชมรมฯ มาบอกผม อยากทำอะไรก็ทำไป ผมไม่รับทราบ เพราะสำหรับผมมันผ่านเป็นอดีตไปแล้ว เป็นเรื่องของคนรุ่นใหม่ ที่จะรับผิดชอบ ผมบอกหลายครั้งแล้ว แต่ก็ไม่วายที่จะมาดึงผมให้เข้าไป ผมจึงมีความคิดภายใต้โมหะ อยากหนีให้ไกลจากเรื่องพวกนี้  คือละทิ้งเสีย

                วันนี้ผมนั่งเจริญสติ ซึ่งสองวันที่ผ่านมา ผมเอาเวลาที่เข้าเวบมานั่งเจริญสติอย่างมาก วันนี้จิตมันก็คิดทบทวนสิ่งที่ ดร.สุริยา เตือน สิ่งที่คุณสมชาย บอก สิ่งที่จิตเราคิด เราพยายามตัดไม่คิด มันก็ยังมาเป็นมารต่อเราอีกในเรื่องนี้ เราก็ผ่านมันไม่ได้ พัฒนาจิตไม่ได้  ความคิดที่ให้อภัย จึงแวบขึ้นมาในความคิด  จึงยอมละทิ้งศีล ข้อมุสา คือโกหกตัวเอง ยอมเสียสัตย์ ต้องให้อภัย ต่อตนเอง และผู้อื่น ถึงแม้เราจะรู้เรื่องความคิดของคน รู้ว่าเราไม่ผิด อย่าไปทำตามที่จิตตัวเองต้องการ ต้องยังอยู่ในสังคม ต้องเอาชนะทนแรงต้านต่างๆ ให้ได้ เราหนีไปไกลแสนไกลก็หนีไม่พ้น เพราะความคิดมันไม่มีตัวตน มันเกาะติดไปกับเราตลอด บางครั้งอาจจะสงบ แต่ก็เป็นการสงบชั่วครั้งชั่วคราว ไม่ถาวร เราหนีไม่พ้น  สู้เอาชนะมันด้วยความเพียร อดทน คือเอาชนะจิตตนเองซึ่งๆ หน้าดีกว่า  จึงขอกลับมาทำหน้าที่อย่างเดิม ซึ่งหลายท่านบอกว่า มีประโยชน์ ผมเป็นคนไร้สัจจะได้ครับ ถ้ามันมีประโยชน์

                 เรื่องการตั้งสมาคมที่ผมโพสต์ไปนั้น ผมโพสต์ตามความจริง ที่เกิดขึ้นในอดีต และได้บอกคุณวัฒนาไปแล้ว เพราะคุณวัฒนาต้องการ ทราบ ผมไม่มีเจตนาใดๆ ทั้งสิ้นแฝงเร้น หรือต่อต้านการตั้งสมาคม  คือผมไม่มีอะไรจะเขียนบางครั้งต้องอาศัยข้อมูล ปัจจุบัน เมื่อคุณวัฒนาถาม ผมก็มาเล่าสู่กันฝังเท่านั้น(เคยเขียนมาครั้งหนึ่งให้คุณเหยงทราบ) กรรมการชมรมฯ จะทำอะไรก็เรื่องของกรรมการ  ผมบอกหลายครั้งแล้วว่าผมไม่ยุ่งทำไป ไม่ต้องบอกผม และผมไม่อยากเข้าไปเกี่ยวข้องทั้งสิ้น พ้นวาระไปแล้ว เป็นอดีต ผมอยากอยู่อย่างสมถะ พอเพียง และไม่ทำให้ใครเดือดร้อนจากผม




ฮั่นแน่!
หาเจอแล้ว
4 ท่าน
หล่อๆทั้งนั้น
มะ มารับนวม
ชกกันเลย
น้ำหนักไม่เกี่ยง
ที่เกี่ยงน่ะ.....รุ่น.
      บันทึกการเข้า


Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #2912 เมื่อ: 24 สิงหาคม 2554, 21:03:00 »

สวัสดีครับ คุณน้องหนุ๋งหนิ๋ง ที่รัก

             อย่าไปหาเรื่องเลยครับ เป็นอันว่าพี่สิงห์ไม่สามารถเขียนอะไรที่ไปขัดใจกรรมการชมรมฯ หรือแนวทางการทำงาน บางท่านได้ มันไม่สมควรและพี่สิงห์ขอเป็นผู้แพ้เสมอ เพราะสั่งตัวเองสั่งได้ ไม่มีใครห้าม แต่คนอื่นนั้นอยากเพราะคนย่อมคิดว่าตัวเองทำถูกเสมอ โดยอ้างเหตุผลต่างๆ นาๆมาเป็นข้ออ้างในการตัดสินใจเข้าข้างตนเอง

             พี่สิงห์เพียงนำสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีตมาเล่าให้ท่านประธานชมรมฯ ทราบเพราะเขาต้องการรู้จึงโทรศัพท์มาถาม เป็นข้อมูลและเขาก็เข้าใจแล้ว เพียงแต่มีบางท่านมาบอกว่า พี่สิงห์ไม่สมควรโพสต์ข้อความนั้นลงในเวบ และแสดงความคิดเห็น ที่แสดงนั้นพี่สิงห์ยินดีเสียด้วยที่จะตั้งเป็นสมาคม ถ้ามีคนทำงาน และพร้อมตามที่ได้บอกท่านประธานชมรมฯ ไปแล้ว เมื่อเขาไม่พอใจอยากให้ลบ เราก็ลบออกได้ เขาบอกว่าพี่สิงห์ไม่ควรแสดงความคิดเห็น เราก็ยอมรับผิดเสีย ผมยอมรับผิดเสมอไม่ขอเอาชนะใครด้วยการเถียง เพราะไม่มีประโยชน์ใดๆ สำหรับผมในการเป็นผู้ชนะ มีแต่ทุกข์ทั้งนั้น  ห่างๆไว้ดีปัญหาจะได้น้อยๆ  อยากอยู่แบบไม่รับข่าวสารเช่นทุกวันนี้ ยังไม่รู้ใครได้เป็น สส. และรัฐมนตรีเลย ครับ

             มันเป็นอดีตไปแล้วหนุ๋งหนิ๋ง  อย่าไปขุดคุ้ยเลย  ถือว่ามันเป็นมารอย่างหนึ่งที่เราต้องผจญกับจิตของเรา

             ฟันซี่เดียวที่พี่สิงห์ไปทำมาทั้งหมดหกครั้ง ตอนนี้หมดไป 21,000 บาทแล้ว ยังต้องไปทำครอบฟันต่อในวันที่ 27 กันยายน เสียอีกประมาณหมื่นกว่าบาท ไม่แปลกใจเลยทำไมคนถอนฟันทิ้งและใส่ฟันปลอม เพราะมันถูกกว่า ครับ  อย่าลืมทะนุถนอมฟันกันหน่อยนะครับ ค่ารักษาฟันมันแพงมากๆ ครับ

             พรุ่งนี้พี่สิงห์ต้องไปร่วมงานไว้อาลัยคุณ John Skinner เพื่อนต่างวัยย์ที่โบสถ์ ถนนคอนแวนบ่ายสองหรือบ่ายสองโมงครึ่ง ทางลูกคงเผาศพแล้วนำกระดุกไปฝั่งที่สุสานตระกูลที่อังกฤษข้างแม่ ตามที่ได้สั่งไว้ครับ หลังจากนั้นจึงเดินทางไปนครศรีธรรมราช Boarding 17:30 น. ครับ

             ขอบคุณที่เป็นห่วงครับ

             ราตรีสวัสดิ์
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #2913 เมื่อ: 24 สิงหาคม 2554, 21:16:52 »

เรียน ดร.กุศล

                เรื่องเที่ยวที่จะต้องเสียสตางค์ผมคงไม่ไปอีกแล้ว พอแล้ว ความอยากมันไม่มีเท่าไร? ในการเที่ยว ยกเว้นต้องไปตามหน้าที่เช่น ไปกับทาง SIW ที่เขาจะพาลูกค้าไปอังกฤษหรืออิตาลีในกลางเดือนพฤศจิกายน

                สำหรับอินเดียนั้นไปเพื่อรำลึกถึงพระพุทธเจ้า และไปปฏิบัติธรรมในตัว คงไปเพราะถ้าแก่กว่านี้คงไม่ไปแล้ว ตอนนี้ยังไปได้จึงอยากไป และรับปากคุณดิเรก  ไว้ว่าจะไปอินเดียด้วยกัน ตอนนี้ทาง ดร.พระมหาสุเทพ ยังไม่มีโปรแกรมออกมาช่วงเดือนกุมภาพันธ์และมีนาคม เนื่องจากทางสายการบินยังไม่แจ้งเวลาในการเดินทาง จึงจัดโปรแกรมไม่ได้ แต่ได้เรียนคุณนิตย์ไปแล้ว ว่าผม ดร.กุศล คุณดิเรกและลุกน้อง อาจมีราเมศวร์และภรรยา สมทบ เมื่อมีโปรแกรมออกมาแล้วเขาจะรีบส่งมาให้ครับ  อยากไปช่วงที่ไม่หนาวมาก เป็นช่วงมาฆะบูชา และอยากไปถ้ำลอลาอาจันต้าด้วย

                 ช่วงนั้นทำตัวให้ว่างไว้

                  ราตรีสวัสดิ์
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #2914 เมื่อ: 24 สิงหาคม 2554, 21:23:18 »

สวัสดีค่ะ คุณน้อง Nok15

ราตรีสวัสดิ์ครับ
      บันทึกการเข้า
khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #2915 เมื่อ: 24 สิงหาคม 2554, 21:29:28 »

พี่สิงห์หนิงก็ลืมถามเรื่องฟันค่ะ!
ตกลงว่าครอบ...ต้องถอนรากฟันทิ้ง
ไช่มั้ยคะ?
เค้าว่าฟันเป็นสิ่งแสดงฐานะของคนคะ!
ว๊ายยย ต้องอธิบายเพิ่มอีกหน่อย
เดี๋ยวพี่สิงห์เกิดไปครอบฟันเป็นทองทั้งซี่
ฮ้ายยยยยย.....uglyค่ะ
(พูดไม่อายถึงทองจะแพงก็เหอะ)


ที่โน่นก็แพงคะพี่สิงห์
หลายอย่างต้องควักกระเป๋าจ่ายด้วย
คนเค้าก็เขียม ก็ประหยัดกัน
แต่เรื่องนี้ดูจะยอมๆจ่ายกันโดยดี
ผู้มีอายุ ยิ้มที ดูดีสดใสแม้ย่นยับไปทั้งหน้า
มองอีกที เค้ามีอะไรดึงดูด..
อ้าาาไช่,ที่ฟันคะ!

พี่สิงห์ครอบเสร็จแล้ว จ่ายเรียบร้อย
ก็เริ่มความคุ้มทุนได้เลยคะ
ยิ้มค่ะพี่ ยิ้มเท่านั้น ที่เป็นภาษาของกาย
ที่สะท้อนส่งตรงมาจากข้างใน..
มีฟันเป็นตัว...represent!
      บันทึกการเข้า


khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #2916 เมื่อ: 25 สิงหาคม 2554, 05:24:04 »

พี่สิงห์คะ,
เพราะพี่สิงห์ไม่ให้ขุดคุ้ย,
เพราะพี่สิงห์ว่าตัวเองผิด,
เพราะพี่สิงห์ไม่ได้มีพญามารมาบงการจิตขณะเขียน,
เพราะพี่รีบลบ รีบมากๆ,
เพราะพี่ไม่อยากทะเลาะกับใคร,
เพราะพี่ดร.สุริยาเตือน,
เพราะพี่สมชายเตือน,
เพราะไม่อยากให้พี่หนีไปไกลแสนไกล,
เพราะพี่สิงห์ยังทำประโยชน์ได้และมีประโยชน์,
..
..
แล้วตกลงหนิงจะว่าอะไรล่ะเนี่ย?
ก็งง พี่พาให้หลง ไปนั่น ไปนี่......
ไม่เข้าจุดซักที
..
..
จุดไหน?
จุดที่ว่าพี่สิงห์เขียนอะไรแล้วลบเหรอ?
หลายคนเผลอๆยังไม่ได้อ่าน..รวมทั้งหนิงด้วย!
..
..
แต่เพราะกวามที่หนูดื้อเป็นนิสัย,
เมื่ออยากรู้ ก็เริ่มอยากเห็น
เห็นไม่พอ sheก็เริ่มอยากคลำ
คลำแล้วเริ่มบีบ...ฮ้ายยยยย
หนุงหนิงนี่ อะไรไม่รู้ ..ทาเลิ่ง!
..
..
เลยแอบไปขุดมาล่ะ
สมบัติหนูนะ...ใครอย่าลบ
ม่ายงั้นโกรธ...จัด!
..
..


เขียนหน้า 116,วันที่ 19 สิงหา
เฮ้อ,รอดตัวไป หนูไม่อยู่...
ปีนเขาอยู่ออสเตรีย!
เมื่อไม่รู้ ก็ไม่มีอะไรต้องกังวล

ไหน,พี่ว่าอะไร?


      บันทึกการเข้า


Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #2917 เมื่อ: 25 สิงหาคม 2554, 11:19:08 »

สวัสดีค่ะ คุณน้องหนุ๋งหนิ๋ง ที่รัก

                       เธอคงอ่านแล้ว และเนื้อหาไม่มีอะไรเลย เป็นเรื่องอดีตของชมรมฯ คุณนันทิกา  ยังบอกพี่สิงห์ว่าอ่านแล้ว เป็นข้อมูลแสดงทั้งสองด้านให้ได้รับทราบ ไม่เห็นมีอะไรเสียหายเลย ซึ่งมันก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ นอกจากจิตคนบางคนเท่านั้นที่อ่านแล้วปล่อยให้จิตตัวเองคิดปรุงแต่งไปต่างๆ นาๆ พอปรุงแต่งเสร็จ มีความคิดเข้าข้างตนเองอยู่เป็นทุนอยู่แล้ว   จึงมองเป็นสิ่งที่ต้องห้ามขึ้นมา  พี่สิงห์ก็เลยต้องยอมรับว่าผิดที่โพสต์ให้ทราบ  และลบทิ้งเมื่อเห็นว่าไม่สมควร เพราะไม่อยากมีเรื่องกับใครทั้งนั้น และไม่อยากหาเรื่องใส่ตัว เป็นผู้แพ้สบายใจครับ  อย่าไปสนใจมันเลย  พี่สิงห์ได้บทเรียนมหาศาลในการฝึกจิต  ตอนนี้จิตเป็นปกติแล้ว เมื่อเช้าตื่นตีสี่มานั่งเจริญสติแล้วขับรถไปซ้อมกอล์ฟตอนตีห้า ถึงสนามหกโมงเช้าด้วยใจที่เป็นปกติ ดีมากครับ ผลคือ วงสวิงแน่น เข้าที่เข้าทางดีมาก มีความมั่นใจในการเล่น และกลับถึงบ้านสิบโมงเช้า

                        หลานไก่ฟ้าซ้อมเทนนิสไปถึงไหนแล้ว  ระวังกล้ามเนื้อเป็นมัดๆ มันจะไม่สวย  ต้องให้ว่ายน้ำมากๆ 

                        ถ้าทาง SIW พาพี่สิงห์ไปอิตาลี เราไปเจอกันไหม?  ราวๆ กลางเดือนพฤศจิกายน ต้นหน้าหนาวของยุโรป ครับ

                        สวัสดีค่ะ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #2918 เมื่อ: 25 สิงหาคม 2554, 11:36:31 »

รู้พุทธสาวก อรหันต์ เอตทัคคะ ลำดับที่ ๖

พระกาฬุทายีเถระ

เอตทัคคะในทางผู้นำตระกูลให้เลื่อมใส


                พระกาฬุทายี เป็นบุตรของมหาอำมาตย์ในกรุงกบิลพัสดุ์ และเป็นสหชาติอีกคนหนึ่งที่เกิดพร้อมกันกับเจ้าชายสิทธัตถราชกุมาร เดิมท่านชื่อว่า “อุทายี” แต่เพราะท่านมีผิวดำ คนทั่วไปจึงเรียกท่านว่า “กาฬุทายี” เมื่ออยู่ในวัยเด็กก็เป็นพระสหายเล่นกันมากับเจ้าชายสิทธัตถะ เมื่อเจริญเติบโตแล้ว ได้ถวายตัวเป็นมหาดเล็กติดตามเจ้าชายสิทธัตถะ นับว่าเป็นผู้มีความสนิทสนมคุ้นเคยกับพระมหาบุรุษเป็นอย่างมากครั้นเมื่อเจ้าชายสิทธัตถะเสด็จออกบรรพชาแล้ว พระเจ้าสุทโธทนะ พระบิดา คอยติดตามสดับรับฟังข่าวตลอดเวลา ครั้นได้ทราบว่าพระราชโอรสของพระองค์บำเพ็ญความเพียรทุกขกิริยาเป็นเวลา ๖ พรรษา นั้น บัดนี้ ได้บรรลุอมตธรรม สำเร็จพระสัมมาสัมโพธิญาณ สมดังคำพยากรณ์ของท่านอสิตดาบสและพราหมณ์ทั้ง ๘ คนแล้ว เสด็จเที่ยวประกาศพระธรรมคำสอนของพระองค์ตามคามนิคมต่าง ๆ ขณะนี้ประทับอยู่ ณ พระเวฬุวันมหาวิหารใกล้เมืองราชคฤห์

                  พระพุทธบิดา ทรงตั้งพระทัยคอยอยู่ว่า เมื่อไรหนอ พระพุทธองค์จะเสด็จมาสู่พระนครกบิลพัสดุ์ ครั้งไม่มีข่าวว่าจะเสด็จมาเลย ก็เกิดความเล่าร้อนพระทัยปรารถนาจะได้ทอดพระเนตรเห็นสมเด็จพระบรมศาสดาโดยเร็ว จึงได้จัดส่งอำมาตย์พร้อมด้วย บริวาร ๑,๐๐๐ คน ให้ไปกราบทูลอาราธนาเสด็จมายังพระนครกบิลพัสดุ์แต่อำมาตย์และบริวารเหล่านั้น เมื่อเดินทางไปถึงกรุงราชคฤห์แล้ว รีบตรงไปยังพระเวฬุวันมหาวิหารโดยเร็ว ขณะนั้น พระพุทธองค์กำลังทรงแสดงพระธรรมเทศนา อยู่ในท่ามกลางพุทธบริษัท คณะอำมาตย์จึงหยุดคอยโอกาสที่จะกราบทูลอาราธนา และขณะที่รอคอยอยู่นั้นก็ได้สดับพระธรรมเทศนาไปด้วย เมื่อจบพระธรรมเทศนาลง อำมาตย์และบริวารได้บรรลุพระอรหัตผลด้วยกันทั้งหมดแล้วกราบทูลขอบรรพชาอุปสมบท พระพุทธองค์ประทานด้วยเอหิภิกขุอุปสัมปทาเมื่ออุปสมบทแล้ว ทั้งอำมาตย์และบริวารก็สงบเสงี่ยมอยู่ตามสมณวิสัย จึงมิได้กราบทูลอาราธนาพระบรมศาสดา ตามภารกิจที่พระเจ้าสุทโธทนะทรงมอบหมายมาฝ่ายพระเจ้าสุทโธทนะ คอยสดับข่าวอยู่ด้วยความกระวนกระวายพระทัย เมื่อข่าวเงียบหายไป อีกทั้งอำมาตย์ก็มิได้กลับมากราบทูลให้ทรงทราบและพระบรมศาสดาก็มิได้เสด็จมา จึงส่งอำมาตย์พร้อมด้วยบริวารอีกเท่าเดิม ชุดใหม่ให้ไปกราบทูลอาราธนา แต่อำมาตย์ชุดนี้เมื่อไปถึงได้ฟังพระธรรมเทศนาได้บรรลุพระอรหัตผลทั้งหมด กราบทูลขอบรรพชาอุปสมบทเหมือนคณะแรก ซึ่งเป็นธรรมดาว่า พระอริยเจ้าทั้งหลายตั้งแต่ได้บรรลุพระอรหัตผลแล้ว ย่อมสังวรสำรวมอยู่ในอริยภูมิ จึงมิได้กราบทูลข่าวสารของพระพุทธบิดาทำให้พระเจ้าสุทโธทนะ ต้องส่งอำมาตย์ไปโดยทำนองนี้ถึง ๙ ครั้ง ในที่สุดทรงพิจารณาเห็นว่า กาฬุทายีอำมาตย์ คงจะช่วยให้สำเร็จสมพระประสงค์ได้เพราะเป็นอำมาตย์ผู้ใหญ่เป็นพระสหายเล่นฝุ่นกันมา เมื่อครั้งยังทรงพระเยาว์ เป็นที่สนิทสนมแห่งพระบรมศาสดา จึงส่งไปพร้อมด้วยบริเวณจำนวนเท่าเดิม กาฬุทายีอำมาตย์ รับสนองพระราชโองการว่า จะพยายามกราบทูลสมเด็จพระบรมศาสดา ให้เสด็จมาสู่พระนครกบิลพัสดุ์ให้สมพระราชประสงค์ให้จงได้ และได้กราบทูลเพื่อขอบรรพชาอุปสมบทในพุทธศาสนา ในโอกาสนี้ด้วย เมื่อได้รับอนุญาตแล้วจึงออกเดินทางพร้อมด้วยบริวาร ถึงกรุงราชคฤห์ แล้วเข้าไปเฝ้าพระพุทธองค์ ณ พระเวฬุวันมหาวิหาร พระพุทธองค์ทรงแสดงธรรมโปรดจนได้บรรลุเป็นพระอรหันต์แล้ว ประทานอุปสมบทเป็นพระภิกษุในพุทธศาสนาด้วยกันทั้งสิ้น

               เมื่อ พระกาฬุทายี บวชแล้วได้ ๘ วัน ก็สิ้นเหมันตฤดู ย่างเข้าสู่ฤดูคิมหันต์ ถึงวันเพ็ญเดือน ๔ พอดี ท่านคิดว่า.....“พรุ่งนี้ ก็ย่างเข้าสู่ฤดูร้อน บรรดากสิกรชาวนาทั้งหลาย ก็จะเกี่ยวข้าวกันแล้วเสร็จ หนทางที่จะเสด็จสู่กบิลพัสดุ์ ก็จะสะดวกสบาย ดอกไม้นานาพรรณก็เกลื่อนกล่นพื้นพสุธา พฤกษาชาติใหญ่น้อยที่ขึ้นอยู่ริมทาง ก็ให้ร่มเงาเย็นสบายนับว่าเป็นเวลาอันสมควรที่พระบรมศาสดาจะเสด็จไปสู่กรุงกบิลพัสดุ์ เพื่อสงเคราะห์พระประยูรญาติในบัดนี้” พระกาฬุทายี จึงเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้ายังที่ประทับกราบทูลสรรเสริญหนทางเสด็จว่า:-“พระพุทธเจ้าข้า หนทางไปสู่กรุงกบิลพัสดุ์บุรี เป็นวิถีทางสะดวกสบายตลอดสาย ยามเมื่อแสงแดดแผดกล้า ก็มีร่มไม้ได้พักอาศัยเป็นที่หลบร้อนตลอดระยะทาง ๖๐ โยชน์ หากพระองค์จะทรงบำเพ็ญปรหิตประโยชน์เสด็จโปรดพระประยูรญาติยังกบิลพัสดุ์นคร ก็จะเป็นที่สำราญพระวรกาย ไม่ต้องรีบร้อนแม้แต่พระสาวกที่ติดตามก็จะไม่ลำบากด้วยน้ำและกระยาหารด้วยตามระยะทาง มีโคจรคามเป็นที่ภิกขาจารตลอดสาย” “อนึ่ง พระพุทธบิดา ก็มีพระทัยมุ่งหมายใคร่จะได้ทอดพระเนตร พระองค์พร้อมด้วยภิกษุสงฆ์ทั้งปวง หากพระองค์จะทรงพระกรุณาเสด็จไปโปรดให้สมมโนรถของพระชนกนาถตลอดพระประยูรญาติษากยวงศ์ และประดิษฐานพระพุทธศาสนาลงที่กบิลพัสดุ์บุรี ก็จะเป็นเกียรติเป็นศรีแก่พระพุทธศาสนา นำมาซึ่งคุณประโยชน์สุขแก่ปวงมหาชน เพื่อทรงโปรดพระชนกนาถ และพระประยูรญาติให้ปีติยินดี ในคราวครั้งนี้เถิด”

              สมเด็จพระบรมศาสดา ทรงสดับสุนทรกถาที่พระกาฬุทายี กราบทูลพรรณารวม ๖๔ คาถา ก็ทรงอนุโมทนาสาธุการทรงรับอารธนาตามคำกราบทูลของท่านแล้ว ตรัสสั่งให้ท่านไปแจ้งข่าวแก่พระสงฆ์สาวกทั้งหลาย ให้ตระเตรียมการเดินทางไกล ณ กาลบัดนี้

•   แจ้งข่าวพระบรมศาสดาเสด็จ

               พระกาฬุทายีเถระ แจ้งข่าวให้พระสงฆ์ทั้งปวงทราบ ตามพระบัญชาบรรดาพระสงฆ์เหล่านั้น ก็พากันตระเตรียมบาตร จีวร และบริขารอื่น ๆ เป็นที่เรียบร้อยแล้วกราบทูลให้ทรงทราบ สมเด็จพระบรมศาสดาเสด็จพุทธดำเนินพร้อมด้วยพระสงฆ์ ๒๐,๐๐๐ รูป เป็นบริวารเสด็จจากรุงราชคฤห์สู่กรุงกบิลพัสดุ์โดยมิได้รีบร้อน เดินทางได้วันละโยชน์ (๑๖ กม.) เป็นเวลา ๖๐ วันพอดีส่วน พระกาฬุทายีเถระ คิดว่า “เราควรจะไปแจ้งข่าวให้สมเด็จพระเจ้าสุทโธทนะทรงทราบการเสด็จมาของพระบรมศาสดา” จึงล่วงหน้ามาแจ้งข่าวเป็นระยะ ๆ ทุก ๆ วันพระเจ้าสุทโธทนะ ได้ถวายภัตตาหารแก่พระเถระแล้ว บรรจุพระกระยาหารอีกส่วนหนึ่ง ให้พระเถระนำไปถวายพระพุทธองค์ เป็นประจำทุกครั้งที่พระเถระมาแจ้งข่าวฝ่ายพระประยูรญาติ ทั้งฝ่ายศากยะและฝ่ายโกลิยะ ได้ทราบข่าวว่าพระองค์กำลังเสด็จมาสู่พระนครกบิลพัสดุ์ ก็ปีติโสมนัสเบิกบานอย่างยิ่ง และได้ประชุมปรึกษาหารือตกลงเห็นพ้องต้องกันว่า อุทยานของพระนิโครธศากยราชกุมารนั้น เป็นรมณียสถานสมควรเป็นที่ประทับของพระบรมศาสดาจึงร่วมกันสร้างพระคันธกุฎี และเสนาสนะที่พักสำหรับภิกษุสงฆ์ลงในที่นั้นถวายเป็นพระอารามในพระพุทธศาสนาชื่อว่า “นิโครธาราม”

               ด้วยเหตุที่ พระกาฬุทายี เป็นทั้งราชทูตของพระเจ้าสุทโธทนะ ไปกราบทูลอาราธนาพระบรมศาสดา และเป็นสมณทูตพยายามไปแจ้งข่าวสารการเสด็จมาของพระผู้มีพระภาคต่อพระประยูรญาติเป็นประจำ จนพระประยูรญาติเกิดศรัทธาเลื่อมใสสร้างพระอารามถวายไว้ในพุทธศาสนา นับว่าท่านได้ทำคุณแก่พระประยูรญาติศากยวงศ์ และแก่พระศาสนาอย่างอเนกอนันต์ พระพุทธองค์จึงทรงตั้งท่านในตำแหน่งเอตทัคคะ เป็นผู้เลิศกว่าภิกษุทั้งหลายในฝ่าย ผู้นำตระกูลให้เลื่อมใสท่าน พระกาฬุทายีเถระ ดำรงอายุสังขารช่วยกิจการพระพุทธศาสนาพอสมควรแก่กาลเวลาแล้ว ก็ดับขันธปรินิพพาน
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #2919 เมื่อ: 25 สิงหาคม 2554, 20:36:53 »

อ้างถึง
ข้อความของ khesorn mueller เมื่อ 24 สิงหาคม 2554, 18:35:44
 
อ้างถึง   
ขอแจ้งให้ทราบคือ ตามข้อความที่ผมลบไปแล้ว ว่าต้องลบ ลบเพราะ เป็นความคิดแวบที่ไม่ควรกระทำ เพราะมีคนถามผมว่า ผมโพสต์ทำไม ผมแสดงความคิดเห็นแบบนั้นทำไม มันไม่สมควร พูดง่ายๆ ผมผิดที่โพสต์ข้อความนั้น เมื่อเขาหาว่า ผมผิดไม่ควรทำอย่างนั้น ผมก็คิด ผิดก็ผิดเราไม่อยากทะเราะกับใครทั้งสิ้น คนอื่นเราสั่งไม่ได้ แต่เราสั่งตัวเราได้ ก็ยอมรับผิด หนีห่างจากทุกข์นั้นเสีย ผมก็เลยลบ อยากหนีห่างสังคม ไม่อยากรับทราบเรื่องใน ชมรมฯ ทั้งสิ้น ไม่ต้องเอาเรื่องในชมรมฯ มาบอกผม อยากทำอะไรก็ทำไป ผมไม่รับทราบ เพราะสำหรับผมมันผ่านเป็นอดีตไปแล้ว เป็นเรื่องของคนรุ่นใหม่ ที่จะรับผิดชอบ ผมบอกหลายครั้งแล้ว แต่ก็ไม่วายที่จะมาดึงผมให้เข้าไป ผมจึงมีความคิดภายใต้โมหะ อยากหนีให้ไกลจากเรื่องพวกนี้  คือละทิ้งเสีย

                วันนี้ผมนั่งเจริญสติ ซึ่งสองวันที่ผ่านมา ผมเอาเวลาที่เข้าเวบมานั่งเจริญสติอย่างมาก วันนี้จิตมันก็คิดทบทวนสิ่งที่ ดร.สุริยา เตือน สิ่งที่คุณสมชาย บอก สิ่งที่จิตเราคิด เราพยายามตัดไม่คิด มันก็ยังมาเป็นมารต่อเราอีกในเรื่องนี้ เราก็ผ่านมันไม่ได้ พัฒนาจิตไม่ได้  ความคิดที่ให้อภัย จึงแวบขึ้นมาในความคิด  จึงยอมละทิ้งศีล ข้อมุสา คือโกหกตัวเอง ยอมเสียสัตย์ ต้องให้อภัย ต่อตนเอง และผู้อื่น ถึงแม้เราจะรู้เรื่องความคิดของคน รู้ว่าเราไม่ผิด อย่าไปทำตามที่จิตตัวเองต้องการ ต้องยังอยู่ในสังคม ต้องเอาชนะทนแรงต้านต่างๆ ให้ได้ เราหนีไปไกลแสนไกลก็หนีไม่พ้น เพราะความคิดมันไม่มีตัวตน มันเกาะติดไปกับเราตลอด บางครั้งอาจจะสงบ แต่ก็เป็นการสงบชั่วครั้งชั่วคราว ไม่ถาวร เราหนีไม่พ้น  สู้เอาชนะมันด้วยความเพียร อดทน คือเอาชนะจิตตนเองซึ่งๆ หน้าดีกว่า  จึงขอกลับมาทำหน้าที่อย่างเดิม ซึ่งหลายท่านบอกว่า มีประโยชน์ ผมเป็นคนไร้สัจจะได้ครับ ถ้ามันมีประโยชน์

                 เรื่องการตั้งสมาคมที่ผมโพสต์ไปนั้น ผมโพสต์ตามความจริง ที่เกิดขึ้นในอดีต และได้บอกคุณวัฒนาไปแล้ว เพราะคุณวัฒนาต้องการ ทราบ ผมไม่มีเจตนาใดๆ ทั้งสิ้นแฝงเร้น หรือต่อต้านการตั้งสมาคม  คือผมไม่มีอะไรจะเขียนบางครั้งต้องอาศัยข้อมูล ปัจจุบัน เมื่อคุณวัฒนาถาม ผมก็มาเล่าสู่กันฝังเท่านั้น(เคยเขียนมาครั้งหนึ่งให้คุณเหยงทราบ) กรรมการชมรมฯ จะทำอะไรก็เรื่องของกรรมการ  ผมบอกหลายครั้งแล้วว่าผมไม่ยุ่งทำไป ไม่ต้องบอกผม และผมไม่อยากเข้าไปเกี่ยวข้องทั้งสิ้น พ้นวาระไปแล้ว เป็นอดีต ผมอยากอยู่อย่างสมถะ พอเพียง และไม่ทำให้ใครเดือดร้อนจากผม




ฮั่นแน่!
หาเจอแล้ว
4 ท่าน
หล่อๆทั้งนั้น
มะ มารับนวม
ชกกันเลย
น้ำหนักไม่เกี่ยง
ที่เกี่ยงน่ะ.....รุ่น.


พี่สิงห์ครับ

เหตุการณ์ผ่านไปแล้ว ให้มันเลยตามเลยไปครับ
ตามที่พี่ว่า ผ่านยุดที่ต้องรับผิดชอบไปแล้วครับ
 


      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #2920 เมื่อ: 25 สิงหาคม 2554, 20:39:49 »

อุตุนิยมวิทยาเตือน ภาคอีสานและภาคใต้ฝั่งอันดามัน ฝนตกหนัก น้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก

กรมอุตุนิยมวิทยา
ประกาศเตือนภัย "ฝนตกหนักและคลื่นลมแรง " ฉบับที่ 1 ลงวันที่ 25 สิงหาคม 2554
ร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังค่อนข้างแรง ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้น โดยในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ฝั่งตะวันตกมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัยตามที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านบริเวณจังหวัดเลย ชัยภูมิ หนองบัวลำภู นครราชสีมา ขอนแก่น ระนอง พังงา และภูเก็ต ระมัดระวังอันตรายจากภาวะฝนตกหนักที่ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากในระยะนี้ไว้ด้วย
       ประกาศ ณ วันที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2554 ออกประกาศ เวลา 16.30 น.

      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #2921 เมื่อ: 25 สิงหาคม 2554, 20:58:16 »

CHRIST CHURCH BANGKOK

In loving memory of

John Skinner

25th  August 2011









สวัสดีครับ ชาวซีมะโด่ง ที่รักทุกท่าน

              วันนี้บ่ายผมได้ไปงานศพของศาสนาคริสต์ เพื่อรำลึกถึง คุณ John Skinner เพื่อนต่างวัยย์ชาวอังกฤษที่ได้ตีกอล์ฟกันมานานมากกว่าห้าปี จนจำไม่ได้ ทุกวันอาทิตย์ ภายหลังจากตีกอล์ฟเสร็จพวกเราห้าคนจะไปหาอาหารที่อร่อย ไม่แพง โดยเฉพาะที่แพกำนัน คุณ John ชอบมากเป็นร้านอาหารแพเก่าๆอยู่กลางสระน้ำ ใกล้สนามกอล์ฟ President (ขนาดพี่ๆ น้องๆ คุณ John มาเยี่ยม คุณ John จะพามารับประทานอาหารที่นี่) ลมพัดเย็นๆ สบาย ฟังเพลงเก่าๆยุค ๖๐-๗๐ ปี อาหารที่คุณ John คือ แพนงเนื้อ ไข่เจียว ทอดมันกุ้ง  ปลาดุกฟู ปลาช่อนนึ่งผักเต้าเจี้ยว กุ้งพล่า ตัมข่าไก่  ต้มยำกุ้ง และเนื้อแดดเดียว ทุกครั้ง คุณ John จะนำไวน์มาหนึ่งขวดส่วนมากเป็นไวน์ขาว ขระรับประทานอาหารพวกเราจะคุยกันสนุกสนาน และคุณ John จะมีเรื่องโจ๊ค มาเล่าให้ฟังเสมอ แต่ต่อไปนี้ไม่มีอีกแล้ว เป็นอดีตไปแล้ว

               งานวันนี้ผมไปถึงโบสถ์บ่ายโมง หลวงพ่อจะให้แขกที่มาในงานไปรอในห้องรับรอง มีอาหารว่าง น้ำผลไม้ กาแฟ ชา ไว้บริการ พอได้เวลาบ่ายสองโมงตรงทางเจ้าภาพคือน้องๆ ลูก หลาน คุณ John และหลวงพ่อได้เข้ามาเชิญแขกให้ไปร่วมพิธีในโบสถ์ แขกทั้งหมดเป็นคนในบริษัท ชิโนทัย จำกัด(มหาชน) โดยมีคุณชวรัตน์ ชาญวีรกุล และคุณอนุทิน  ชาญวีรกุล นำทีม คนนอกคงมีพรรคพวกเก่าๆที่เคยทำงานที่ชิโนทัยกับคุณ John และพวกผมห้าคน คือผม คุณวิชัย คุณสุดสาคร คุณพอล และแคคดดี้คุณ John มาร่วมงานประมาณ ๘๐ ท่าน

                ในงานเมื่อเริ่มพิธี ห้ามถ่ายภาพ ห้ามคุย ปิดโทรศัท์มือถือ หลวงพ่อได้กล่าวนำพิธีซึ่งจะมีหนังสือคู่มือแจก สวด หลังจากนั้นได้มีการกล่าวสดุดี โดยเริ่มที่น้องสาว คือ ดร.จีน แนนซี่ลูกสาว น้องสาวจากออสเตเรีย ลูกชาวที่เป็นบาทหลวง และคุณชวรัตน์ คุณ John เคยทำงานที่อินเดีย  อาฟริกา บรูไน ออสเตเรีย สิงค์โปร์ มาเลเซีย ไทย ทำงานอยู่กับชิโนทัย ๔๕ ปี ทางคุณ แนนซี่ได้ขอบคุณนีลที่คอยดูแลคุณ John จนวาระสุดท้าย ขอบคุณพวกเราที่ตีกอล์ฟ เป็นเพื่อนที่ดีกับพ่อเขา และอื่นๆอีกมาก ผมยอมรับว่าคุณชวรัตน์  กล่าวสุนทรพจน์เป็นภาษาอังกฤษ ได้คล่องแคล่วดีมากกว่าเวลาพูดในสภา เสียอีก  พิธรใช้เวลาหนึ่งชั่วโมง แบบง่ายๆ หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ก็นำร่างคุณ John ไปขึ้นรถตู้เพื่อรอเวลานำไปเผาที่วัดคลองเตยนอก และนำเถ้าไปอังกฤษไปฝังข้างแม่ ตามที่คุณ John ได้สั่งไว้

                คุณJohn ผ่าเปลี่ยนลิ้นหัวใจสองลิ้น บายพาสหลอดเลือดหนึ่งเส้น ใช้เวลาผ่าตัดแปดชั่วโมง หลังผ่าตัดได้หนึ่งวันพูดได้ขอกลับบ้านโดยดึงสายช่วยชีวิตออก จนพยาบาลต้องมัดกับเตียง ต่อมามีน้ำในปอด ปอดติดเชื้อในกระแสโลหิต ไตวายต้องฟอกไตไปหนึ่งครั้ง แต่เสียชีวิตเพราะไตวาย ที่โรงพยาบาลกรุงเทพ

                 ภายหลังเสร็จพิธีบาทหลวงได้นำเจ้าภาพ และแขกมาที่ห้องรับรองจัดเลี้ยง ผมได้ไปจับมือพูดแสดงความเสียใจ และแนะนำตัวต่อ ดร.จีน แนนซี่ ลูกชาว น้องๆของคุณ John ซึ่งคุณ John เคยได้เล่าเรื่องพวกเราให้น้องๆ ลูกๆ หลานๆ ฟังเสมอว่ายังมีเพื่อที่ดีเสมอคอยดูแลไม่ต้องเป็นห่วง ผมได้ไปคุญกับแคตทารีน และซูซาน่า หลานสาว ซึ่งผมเคยไปกินข้าวด้วย เดี๋ยวนี้จบมหาวิทยาลัย และสวยขึ้นกว่าเดิม ซูซาน่าร้องให้ตลอดเวลาเพราะเป็นหลานที่คุณ John รักมาก

                 ก่อนกลับผมได้ไปบอกคุณ John รถตู้ขอกลับก่อนเพราะต้องไปสนามบินดอนเมืองให้ทันเพื่อเดินทางไปนครศรีธรรมราช  ตกลงพวกเราลงมติกันว่า จะต้องตีกอล์ฟกันต่อไปทุกวันอาทิตย์ และไปกินข้าวที่แพกำนันต่อ เพื่อรำลึกถึงคุณ John ฝรั่งชาวอังกฤษที่นิสัยดีมากๆ ได้สอนผมทางด้านโยธาไว้มาก ครับ

                 อาลัยถึง คุณ John Skinner เพื่อนต่างวัยย์ที่แสนดี

                 ราตรีสวัสดิ์ทุกท่านครับ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #2922 เมื่อ: 25 สิงหาคม 2554, 21:05:24 »

สวัสดีครับ คุณเหยง

              ขอบคุณมาก ๆ สำหรับข้อมูล

              บ้านพี่สาวที่อำเภออินทร์บุรีน้ำถึงบรรไดแล้ว ส่วนที่สิงห์บุรี ยังเหลือตลิ่งอีกหนึ่งเมตร ครับ

              ราตรีสวัสดิ์
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #2923 เมื่อ: 25 สิงหาคม 2554, 21:08:06 »


ราตรีสวัสดิ์ทุกท่านครับ
      บันทึกการเข้า
khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #2924 เมื่อ: 25 สิงหาคม 2554, 21:17:56 »

พี่สิงห์,
หนิงเชื่อว่าคุณJohnเพื่อนพี่รับรู้ได้แน่ๆ
ว่าการจากไปของเค้าไม่ได้จากถาวร
เค้ายังอยู่ในทุกกิจกรรมที่พี่และกลุ่มกระทำร่วมกัน.

การสูญเสียเพื่อนร่วมอุดมการณ์เป็นความเศร้าเหงา
ที่หนิงเชื่อว่าพี่จะผ่านข้ามความรู้สึกคิดถึงอาลัยหา
ไปได้เมื่อได้ปฏิบัติกิจกรรมต่อไปอย่างต่อเนื่อง..
เพราะนั่นคือสิ่งที่คุณ Johnเพื่อนพี่คาดหวังจะให้เป็นแน่ๆ
หนิงแน่ใจ.
      บันทึกการเข้า


  หน้า: 1 ... 115 116 [117] 118 119 ... 681   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

สมาคมนิสิตเก่าหอพักนิสิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มวลสมาชิกสมาคม คณาจารย์ และนิสิตเก่าทุกคน ขอน้อมเกล้าถวายความอาลัย  พระผู้เสด็จสู่สวรรคาลัย ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ <;))))><