สวัสดียามเช้าครับ ชาวเวบที่รัก ทุกท่าน
วันนี้ผมอยู่บ้านที่กรุงเทพฯ มีนัดกับทาง SIW จัดการแข่งขันกอล์ฟเชื่อมความสัมพันธ์กับลูกค้าของ SIW ช่วงบ่ายถึงค่ำ ครับ
เช้านี้ผมตื่นตีห้ามานั่งเจริญสติได้ครึ่งชั่วโมง จิตกระสับกระส่ายเพราะโดนมารส่งลูกสาวมาผจญอย่างหนัก สองสามวันมาแล้ว ได้แต่เตือนตัวเอง เราก้าวมาไกลแล้ว อย่ากลับไปมักมากเหมือนเดิม ต้องตัดให้ขาด โดยใช้วิธีกำจัดมาร คือ ตัดที่ต้นเหตุ มันคิดปุ๊ป ตัดปั๊ป คือไม่ปรุงแต่งต่อ หรือให้มีสติไม่ตกเป็นทาษของมันหรือหลงอยู่ในความคิดตัวเอง ก็ได้ผล แต่มารมาบ่อยมากครับ เลยนึกถึง "ศีล ๕" เพื่อเตือนตัวเอง และอยากให้พวกเราปฏิบัติครับ อานิสสงส์ก็ตามที่หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ท่านสอนเอาไว้ ตามที่ผมได้คัดลอกมาลง ลองดูดูนะครับ
หรือตามที่พระพุทธเจ้าท่านทรงสอนไว่ในพระไตรปิฎก ครับ
สำหรับผู้ที่ยังไม่ได้ฝึกจิต ก็ไปหาพระ อาราธนาศีล พระท่านก็จะให้รับศิล เป็นเพียงวิธีการ ที่จะทำให้เราเกรงกลัวต่อบาป และจะรักษาศีลเอาไว้ได้ แต่ถ้าท่านฝึกจิตมาพอสมควรแล้ว ไม่ต้องมีพิธีอะไรมาก ตั้งใจเท่านั้นเพียงพอต่อการที่จะรักษาศีล ๕ เอาไว้ให้ได้ครับ
ศิล ๕ นั้นข้อที่อยากมากคือ "มุสา" ถ้าใครรักษาได้ อานิสงส์จะเกิดกับตัวเราอย่างมาก ผมเองต้องพยายามอย่างหนัก จึงจะรักษาเอาไว้ได้ ส่วนข้ออื่นๆ นั้นรักษาได้สบายมากครับ ลองดูนะครับ การรักษาศีล ๕ ไม่เสียหายอะไรต่อเราเลย แถมเป็นมงคลต่อชีวิตเราด้วยครับ
สวัสดี
ผู้ตกนรก
“ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ! บุคคลผุ้ประกอบด้วยธรรม ๕ อย่าง ย่อมตกนรกเหมือนถูกนำตัวไปวางไว้
ธรรม ๕ อย่าง คือ:-
๑. เป็นผู้มักฆ่าสัตว์
๒. เป็นผู้มักลักทรัพย์
๓. เป็นผู้มักประพฤติผิดในกาม
๔. เป็นผู้มักพูดปด
๕. เป็นผู้มักตั้งอยู่ในความประมาท ด้วยการดื่มน้ำเมาคือสุราและเมรัย”
“ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ! บุคคลผุ้ประกอบด้วยธรรม ๕ อย่างเหล่านี้แล ย่อมตกนรกเหมือนถูกนำตัวไปวางไว้”
ผู้ขึ้นสวรรค์
“ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ! บุคคลผุ้ประกอบด้วยธรรม ๕ อย่าง ย่อมขึ้นสวรรค์ เหมือนถูกนำตัวไปวางไว้
ธรรม ๕ อย่าง คือ:-
๑. ผู้เว้นจากการฆ่าสัตว์
๒. ผู้เว้นจากการลักทรัพย์
๓. ผู้เว้นจากการประพฤติผิดในกาม
๔. ผู้เว้นจากการพูดปด
๕. ผู้เว้นจากการตั้งอยู่ในความประมาท ด้วยการดื่มน้ำเมาคือสุราและเมรัย”
“ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ! บุคคลผุ้ประกอบด้วยธรรม ๕ อย่างเหล่านี้แล ย่อมขึ้นสวรรค์ เหมือนถูกนำตัวไปวางไว้”
หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
อานิสงส์ของการรักษาศีล ๕
คำว่า “ศีล” ได้แก่สภาพเช่นไร
ศีลอย่างแท้จริง เป็นไปด้วยความมีสติ รู้สิ่งที่ควรหรือไม่ควร ระวังการระบายออกทางทวารทั้งสาม คอยบังคับกาย วาจา ใจ ให้เป็นไปในขอบเขตของศีล ที่เป็นสภาพปกติ
ศีลที่เกิดจากการรักษามีสภาพปกติ ไม่คะนองทาง กาย วาจา ใจ ให้เป็นที่เกลียด นอกจากความปกติงดงามทางกายวาจา ใจ ของผู้มีศีลว่า เป็นศีล เป็นธรรม
เราควรรักษาศีล
๑. สิ่งมีชีวิต เป็นสิ่งที่มีคุณค่า จึงไม่ควรเบียดเบียนข่มเหง และทำลายคุณค่าแห่งความเป็นอยู่ของเขาให้ตกไป
๒. สิ่งของ ของใคร ใครก็รักและสงวน ไม่ควรทำลาย แกล้ง ลัก ปล้น จี้ เป็นต้น อันเป็นการทำลายสมบัติและทำลายจิตใจกัน
๓. ลูก หลาน สามี ภรรยา ใครๆ ก็รักสงวนอย่างยิ่ง ไม่ปราถนาให้ใครมาอาจเอื่อมล่วงเกิน เป็นการทำลายจิตใจของผู้อื่นอย่างหนัก และเป็นบาปไม่มีประมาณ
๔. มุสา การโกหกพกลม เป็นสิ่งทำลายความเชื่อถือของผู้อื่นให้ขาดสะบั้นลงอย่างไม่มีดี แม้แต่สัตว์เดรัจฉาน เขาก็ไม่พอใจคำหลอกลวง จึงไม่ควรโกหกหลอกลวงให้ผู้อื่นเสียหาย
๕. สุรายาเสพติด เป็นของมึนเมาและให้โทษ ดื่มเข้าไปย่อมทำให้คนดีๆ กลายเป็นคนบ้าได้ ลดคุณค่าโดยลำดับ ผู้ต้องการเป็นคนดี มีสติปกครองตัว อย่างมนุษย์ จึงไม่ควรดื่มสุรา เครื่องทำลายสุขภาพทางร่างกายและใจอย่างยิ่ง เป็นการทำลายตัวเอง และผู้อื่นไปด้วยในขณะเดียวกัน
อานิสสงส์ของศีล ๕ เมื่อรักษาได้
๑. ทำให้อายุยืน ปราศจากโรคภัยเบียดเบียน จิตผ่องใส
๒. ทรัพย์สมบัติที่อยู่ในความปกครอง มีความปลอดภัย จากโจรผู้ร้ายมาราวี เบียดเบียนทำลาย
๓. ระหว่างลูก หลาน สามี ภริยา อยู่ด้วยกันเป็นผาสุก ไม่มีผู้คอยล่วงล้ำกล่ำกลาย ต่างครองกันอยู่ด้วยความเป็นสุข
๔. พูดอะไรมีผู้เคารพเชื่อถือ คำพูดมีเสนีห์ เป็นที่จับใจไพเราะด้วยสัตย์ ด้วยศีล
๕. เป็นผู้มีสติปัญญาดี และเฉลียวฉลาด ไม่หลงหน้า หลงหลัง จับโน่นชนนี่ เหมือนคนบ้าคนบอหามิติไม่ได้
ผู้มีศีล
เป็นผู้ปลูกและส่งเสริมสุขบนหัวใจคนและสัตว์ทั่วโลก ให้มีแต่ความอบอุ่นใจ ไม่เป็นที่ระแวงสงสัย
ผู้ไม่มีศีล
เป็นผู้ทำลายหัวใจคนและสัตว์ ให้ได้ความทุกข์เดือดร้อนทุกหย่อมหญ้า
ศีล
เป็นที่พึ่งเบื้องต้น
เป็นมารดาของกัลยาณธรรมทั้งหลาย
เป็นประมุขของธรรมทั้งปวง
เพราะฉะนั้น.....ควรชำระศีลให้บริสุทธิ์