26 พฤศจิกายน 2567, 14:45:18
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: 1 ... 322 323 [324] 325 326 ... 681   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: คุย กับ คุณมานพ กลับดี อดีตประธานชมรม ๓ สมัย  (อ่าน 3581519 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 12 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #8075 เมื่อ: 16 มกราคม 2556, 20:46:58 »

อ้างถึง
ข้อความของ too_ploenpit เมื่อ 16 มกราคม 2556, 10:54:24
อ้างถึง
ข้อความของ Manop  Klabdee เมื่อ 15 มกราคม 2556, 20:51:30
สวัสดีครับ ชาวซีมะโด่ง และแขกผู้มาเยือน ที่รักทุท่าน

                                  วันนี้พี่สิงห์ นอนที่ขวัญเรือนรีสอร์ท  ในตัวเมืองโคราช  สามารถไปเดินที่สวนสาธารณะออกกำลังกายยามเช้าได้

                                   อากาศที่โคราชเย็นมาก ถึงจะหนาว  พอทนได้ถึงแม้ว่าไม่ได้เอาเสื้อกันหนาวมา

                                   วันนี้ตอนค่ำได้มีโอกาสไปเดินที่ The Mall โคราช เป็นครั้งแรก  ไปเดินดู Computer เห็น Samsung ultra slim  window 8 น่าใช้มาก ราคาก็ไม่แพง แต่เกรงว่าจะใช้อยาก เพราะไม่คุ้นเคย  อาจารย์รุ่งศักดิ์  ดร.สุริยา  ว่าไง ช่วยบอกให้ทราบด้วย มันไม่มีเม้าท์ เป็นระบบสัมผัส

                                    ได้เวลาสวดมนต์ทำวัตรเย็นก่อนนอนแล้วครับ

                                     ราตรีสวัสดิ์

...สวัสดีค่ะ...พี่สิงห์...

...แล้วแกแล็คซี่รุ่นใหม่ที่พี่ใช้อยู่...ไม่ดีเหรอคะ...

...กำลังคิดจะซื้ออยู่พอดีค่ะ...


สวัสดีค่ะ คุณน้องตู่ ที่รัก

                         พี่สิงห์ ไม่กล้าฟันธง เพราะ Ipad ก็ไม่เคยใช้  Samsung ก็ใช้ไม่มาก เพราะพี่สิงห์  ไม่ใช่คนท่อง net  มีไว้เพื่อให้เพื่อนฝูงติดต่อ  ส่งงานมาให้ตรวจสอบแล้วส่งกลับไป

                         เธออย่าลืม พี่สิงห์ รับศีล ๘ หนังละคร เพลง น้ำหอม ดูไม่ได้  net  ก็ไปท่องแบบ ดร.สุริยา  ที่ชอบเข้าไป www.youngsize.com ก็ทำไม่ได้  ได้แต่เข้าไปอ่านหนังสือ ไปฟังธรรมหลวงพ่อปราโมทย์  เพื่อเอามาเปรียบเทียบตัวเองว่าถูกต้องหรือไม่  มันจึงใช้ประโยชน์ไม่เต็มที่  แต่มันก็ใช้ได้ดี ครับ

                         อะไรที่เคยใช้มาก่อน มาก็จะดีใช้ต่อเนื่องได้เลย

                         อย่าง Computer พี่สิงห์ ต้องซื้อใหม่ Samsung น่าสนใจมาก  ราคาก็ถูก เบา window 8  แต่คนที่เขาจะซื้อให้เขาบอกว่าเคยใช้อย่างไรเอาแบบเดิมดีกว่า มันจะได้ต่อเนื่อง ก็เลยต้องเป็น Toshiba Portege Z930-2006 window 7 น้ำหนักเบาเริ่มต้นที่ 1.12 kg window 8 มันไม่คุ้นไม่เอาดีกว่า เป็นต้น

                         สวัสดีค่ะ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #8076 เมื่อ: 16 มกราคม 2556, 20:59:49 »

สวัสดีครับ ชาวซีมะโด่ง และแขกผู้มีเกียรติ ที่รักทุกท่าน

                               วันนี้ยุ่ง ๆ หลายเรื่อง เลยไม่ได้เข้ามาทักทายทุกท่าน  ต้องขออภัยด้วย

                               พรุ่งนี้เช้าจะมีพระมาบิณฑบาตรที่หน้าบ้าน ๑๓ องค์รวมพระพุทธ เนื่องในเทศกาลปีใหม่ รับอาหารแห้ง เพื่อเอาไปทำกิจกรรมของวัดลาดพร้าว ต่อไป

                               ดังนั้น เมื่อเย็นได้ไปเตรียมซื้ออาหารแห้งเอาไว้ใสบาตรเรียบร้อยแล้ว  วันนี้ร้าน family mart อาหารแห้งขายดีเป็นพิเศษ ครับ  ท่านจะบิณฑบาตรไปจนถึงตลาดลุงเพิ่ม เพื่อให้พนักงานการบินไทยได้ใส่บาตร ท่านมหาวัดลาดพร้าว ท่านแจกใบปลิวให้ทราบล่วงหน้าก่อนแล้ว  ผมในฐานะอุบาสก ท่านหนึ่งที่มีศรัทธาในพุทธศาสนาของพระพุทธเจ้า ก็ต้องมีส่วนร่วมในครั้งนี้ด้วยครับ

                                เมื่อเย็นที่ผ่านมา พี่ตุ๊บอกว่า  ช่วยเรียนอาจารย์เผ่า  ให้ด้วย คุณแป้ว  ภรรยาพี่อรุณ วศ. ๐๖ และเป็นชาวหอ  จะสร้างโบสถ์ ที่สระบุรีเป็นโบสถ์กลางน้ำ  ยังไม่ได้ออกแบบเลย  ขอให้เป็นธุระเรียนให้อาจารย์เผ่า  ช่วยออกแบบให้ด้วย  จักขอบพระคุณมาก  ผมก็จะไปบอกอาจารย์เผ่า  ช่วยออกแบบทางสถาปัตให้  ส่วนคำนวณโครงสร้าง คงต้องทำเอาเอง เพราะ ดร.สุริยา  ไม่ว่าง  ก็ดีเหมือนกันครับ ช่วยวัดไม่เสียหายอะไร

                                 ได้เวลาสวดมนต์ทำวัตรเย็นแล้วครับ

                                 ราตรีสวัสดิ์ทุกท่านครับ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #8077 เมื่อ: 16 มกราคม 2556, 21:06:19 »


                            มีอยู่หนึ่งเรื่องที่ลืมบอกทุกท่านให้ทราบ

                             ทางท่านอธิการบดี จุฬาฯ ได้ทำหนังสือเชิญให้ผมไปประชุมกับท่านเรื่องการสร้างหอพักหลังใหม่ที่กำลังดำเนินการอยู่ อยากจะให้ทางพี่เก่าได้มีส่วนร่วม  เมื่อวานนี้  พอดีผมอยู่ที่โคราช  จึงเรียนให้ทางเลขาท่านอธิการบดีทราบ และขอให้เป็นคุณราเมศวร์  ในฐานะ นายกสมาคมไปประชุมแทน และรับเรื่องมาพิจารณา  ว่าสมาคมและพี่เก่าจะทำอะไรได้บ้าง  เอาไงเอากัน  ผมไปไม่ทันจริง ๆ

                             เอาไว้เป็นเรื่องของสมาคมดีกว่า

                             ก็เรียนให้ทราบทั่วกัน

                             สวัสดี
      บันทึกการเข้า
suriya2513
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,457

« ตอบ #8078 เมื่อ: 16 มกราคม 2556, 22:02:58 »

ถ้าเลยเดือนมีนาคม 2556 ไปแล้วผมว่างแน่นอนครับ อาจารย์มานพ
      บันทึกการเข้า

[โบราณคดี]จุดกำเนิดเริ่มต้นของ cmadong.com by : มานพ กลับดี  คลิ๊ก->
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #8079 เมื่อ: 17 มกราคม 2556, 05:58:39 »

อ้างถึง
ข้อความของ suriya2513 เมื่อ 16 มกราคม 2556, 22:02:58
ถ้าเลยเดือนมีนาคม 2556 ไปแล้วผมว่างแน่นอนครับ อาจารย์มานพ

                     ขออนุโมทนา
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #8080 เมื่อ: 17 มกราคม 2556, 06:45:28 »


                               เชิญรับประทานอาหารเช้าด้วยกันครับ

                               เมื่อวานผู้จัดการฝ่ายขาย PSTC เอาสะเดามาให้หนึ่งถุง

                               ดังนั้น อาหารเช้าของผม คือสะเดารวก กับน้ำผริกเผา  ข้าวกล้อง และผัดหัวฉ่ายโป้

                               เป็นข่้าว และกับข้าวที่เหลือจากเมื่่อวันจันทร์ที่ซื้อเอาไว้ให้หลานสาว

                                ตอนนี้สะเดา กำลังออกดอก แตกใบอ่อน จึงต้องรับประทาน ตาม)ฤดูกาล

                                สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #8081 เมื่อ: 17 มกราคม 2556, 07:22:49 »












เรียนเชิญทุกท่าน อนุโมทนาบุญร่วมกันครับ เช้านี้
 
วันนี้ ท่านพระมหา วัดลาดพร้าว นำภิกษุมาบิณบาตร อาหารแห้ง-ปัจจัย เนื่องในเทศกาลปีใหม่

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #8082 เมื่อ: 17 มกราคม 2556, 11:29:31 »



                             
                               เชิญทุกท่านรับประทานอาหารกลางวัน กับผมครับ

                               สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #8083 เมื่อ: 17 มกราคม 2556, 16:38:11 »

สวัสดีครับ ชาวซีมะโด่ง ที่รักทุกท่าน

                                  วันนี้เวลา 18:00 เป็นต้นไป ทางท่านอธิการบดี จุฬาฯ ได้เรียนเชิญซีมะโด่ง ประชุม เพื่อปรึกษาหารือเรื่องการสร้างหอพัก หลังใหม่ที่กำลังดำเนินการอยู่  ถ้าให้สมาคมเป็นตัวแทนเกรงว่าจะลำบาก

                                    ผมต้องไปแล้วครับ
     
                                   สวัสดี
      บันทึกการเข้า
too_ploenpit
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2514
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 7,778

เว็บไซต์
« ตอบ #8084 เมื่อ: 17 มกราคม 2556, 19:22:32 »

อ้างถึง
ข้อความของ Manop  Klabdee เมื่อ 17 มกราคม 2556, 07:22:49











เรียนเชิญทุกท่าน อนุโมทนาบุญร่วมกันครับ เช้านี้
 
วันนี้ ท่านพระมหา วัดลาดพร้าว นำภิกษุมาบิณบาตร อาหารแห้ง-ปัจจัย เนื่องในเทศกาลปีใหม่

สวัสดี
อนุโมทนาบุญค่ะ...พี่สิงห์
      บันทึกการเข้า

i love pink, you are pink = i love you
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #8085 เมื่อ: 17 มกราคม 2556, 20:46:39 »















                                                                    ศาสตราจารย์นายแพทย์ภิรมย์  อธิการบดี  จุฬาฯ



                                                สิ้นเคราะห์ไปที  ที่คุณบวร  รับหน้าที่เป็นประธานผู้ก่อการ ระดมเงินสร้างหอพัก 300 ล้าน



สวัสดีครับ ชาวซีมะโด่ง  ที่รักทุกท่าน

                                   พี่สิงห์  เพิ่งกลับจากการไปประชุมกับทางท่านอธิการบดี  จุฬาฯ  ที่ท่านขอปรึกษา  ขอให้ทางศิษย์เก่าหอพัก  ช่วยเป็นธุระในการหาเงินทุนอีก 300 ล้านบาท  มาสร้างหอพักที่กำลังดำเนินการอยู่

                                    ในที่ประชุมเสนอให้คุณบวร  วงศ์สินอุดม เป็นประธานผู้ก่อการ ระดมเงินทุน เพื่อจัดตั้งคณะกรรมการ จัดการหาเงินทุนดังกล่าว

                                     พี่สิงห์  ไม่มีความสามารถ  ที่จะทำได้  ขอให้คุณบวร  รับหน้าที่ดีที่สุด

                                     ใครต้องการมีส่วนร่วมในการสร้างหอพัก  หรือช่วยกันหาเงิน 300 ล้านบาท  ก็ขอเรียนเชิญมาประชุม ในวันที่ 28 มกราคม เวลา 18:00 น. ที่ห้องประชุมหอพัก ครับ

                                       ผมทำได้เพียงเท่านี้ คือแจ้งให้ทราบ   

                                       วันนี้ก็ได้บริจาคสมทบทุนกับ ดร.สุริยา  ในการจัดซื้อโต๊ะ ในนามน้องใหม่ 2513  จำนวน 5000 บาท

                                       ราตรีสวัสดิ์ครับ
      บันทึกการเข้า
suriya2513
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,457

« ตอบ #8086 เมื่อ: 17 มกราคม 2556, 23:14:57 »

ขอบคุณมากสำหรับค่าโต๊ะโรงอาหาร 5,000 บาทจากอาจารย์มานพ
ได้จากเพื่อนหอฯ หญิง 2513 มาแล้ว  14,000.- รวมกับของอาจารย์มานพเป็น 19,000.-
ขาดอยู่อีก 8,000.- พนัสตา อยู่ไหน มาหารสองกับ ป๋อง สุริยา ซะดีๆ
      บันทึกการเข้า

[โบราณคดี]จุดกำเนิดเริ่มต้นของ cmadong.com by : มานพ กลับดี  คลิ๊ก->
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #8087 เมื่อ: 18 มกราคม 2556, 05:55:00 »



สวัสดียามเช้าครับ ชาวซีมะโด่ง และแขกผู้มาเยือนที่รัก

                        หุงข้าวแล้ว กำลังจะอาบน้ำ ไปซื้อกับข้าวใส่บาตรพระที่หน้าบ้าน

                        เช้านี้หลังจากใส่บาตรพระต้องรีบเดินทางไปสนามบินดอนเมืองทันที

                       ทุกท่านทำจิตให้ขาวรอบ ละจากโลกของความคิด มาอยู่ในโลกของความรู้สึกตัว

                         กายเคลื่อนไหว-หยุดก็รู้ตัว ยืน เดิน นั่ง นอน หายใจก็รู้สึกตัว

                          จิตคิดก็รู้ตัว  จิตมีอารมณ์ก็รู้สึกตัว

                          ความสุขที่แท้จริงมีอยู่ กำลังรอท่านอยู่  ถ้าไม่มีจริงคงไม่มีหนทางไปถึง  แต่ยากสักหน่อย ต้องมีวิริยะและศรัทธาแรงกล้าจริง ๆ

                          สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #8088 เมื่อ: 18 มกราคม 2556, 08:52:00 »

 
                                     พี่สิงห์ อยู่สนามบินดอนเมือง รอขึ้นเครื่องไปนครศรีธรรมราช

                                     โลกแห่งการมีสติสมบูรณ์  มีอยู่จริง  ถึงแม้ขณะนี้ผมยังไปไม่ถึงก็ตาม

                                     โลกของการมีความรู้สึกตัวเป็นส่วนใหญ่  มีอยู่จริง 

                                      ถึงแม้จะต้องใช้วิริยะ และศรัทธาในพุทธศาสนาเป็นอย่างมาก ก็คุ้มกับสิ่งที่ได้รับ

                                       การปรุงแต่งที่น้อยลง  เพราะทราบในความเป็นจริงของจิตคน  มันปล่อยวางขอมันเอง หรืออย่างน้อยมันเป็นเครื่องมือที่จะมาเตือนเรา ให้รู้ตัว ไม่ให้หลงอยู่ในโลกของความคิดได้  มันก็เป็นสุขอย่างหนึ่ง ที่มีอยู่จริง

                                        การรู้จักพอเพียง ก็เป็นส่วนหนึ่งของผลจากการปฏิบัติธรรม  การที่ผมไม่รับเป็นประธานผู้ก่อการหาเงินทุนนั้น  ไม่ใช่ว่าผมทำไม่ได้  แต่สิ่งที่จะตามมาคือ  ผมจะทำให้หลายๆ ท่านเดือดร้อนที่จะมาช่วยผมทำงานต่างหาก ซึ่งผมไม่ต้องการแบบนั้น

                                         ต้องขึ้นเครื่องแล้วครับ

                                         สวัสดี
      บันทึกการเข้า
too_ploenpit
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2514
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 7,778

เว็บไซต์
« ตอบ #8089 เมื่อ: 18 มกราคม 2556, 10:48:07 »


...สวัสดีค่ะ...พี่สิงห์...

...เดินทางอีกแล้วนะคะ...
      บันทึกการเข้า

i love pink, you are pink = i love you
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #8090 เมื่อ: 18 มกราคม 2556, 13:10:47 »

อ้างถึง
ข้อความของ too_ploenpit เมื่อ 18 มกราคม 2556, 10:48:07

...สวัสดีค่ะ...พี่สิงห์...

...เดินทางอีกแล้วนะคะ...


สวัสดีค่ะ คุณน้องตู่ ที่รัก

                        การเดินทางเป็นเรื่องปกติสำหรับพี่สิงห์  มันจำเป็น ต้องปรับตัวให้ได้ ทุกเรื่อง

                        ที่นครศรีธรรมราช  อากาศขมุกขมัว พะอืดพะอมอย่างไรพิกล  ต้องระวังสุขภาพ

                        เธอไม่ช่วยสร้างหอพักบ้างหรือ  ตามแต่ศรัทธา  เท่าที่จะทำได้

                         สวัสดี
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #8091 เมื่อ: 18 มกราคม 2556, 13:23:12 »

อ้างถึง
ข้อความของ Manop  Klabdee เมื่อ 29 ธันวาคม 2555, 15:25:56
คุณเหยงช่วยด้วย

                      ผู้ช่วยเลขารัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย  เป็นสส.พรรคเพื่อไทย  พกพาอาวุธปืนขึ้นเครื่องบิน Nok Air  ไม่มีใบอนุญาติพกพา อาวุธปืน  กำลังใช้บัติเบ่งขอนำปืนขึ้นเครื่องบินครับ

                      คนแบบนี้ ไม่รักษากฏหมายเลย  ทำผิดเสียเอง  เศร้าชะมัด

                      ผมก็ต้องไปเที่ยวบินนี้ด้วย  ความปลอดภัยอยู่ที่ไหน

                      ดร.สุริยา  คงหาว่าผมไม่ปล่อยวาง  มันคนละเรื่องกัน

                      กำลังรอขึ้นเครื่องที่ นครศรีธรรมราช ครับ

                      สวัสดี


พี่สิงห์

ผมมาตอบช้าไปหลายวันทีเดียว
เรื่องมีอาวุธปืนและต้องการนำขึ้นเครื่องบิน
เขาพอจะอนุโลมกันได้บ้าง (เฉพาะประเทศไทย) แต่ปืนต้องมีทะเบียนครับ ต้องแสดงเอกสารให้ดูด้วย
โดยมอบปืน (ที่ถอดแม๊กกาซีนออกหรือเอาลูกปืนออกจากโม่แล้ว) ให้เจ้าหน้าที่ของสายการบิน
ซึ่งจะถูกนำไปเก็บไว้ที่ห้องนักบินและส่งคืนให้เมื่อลงจากเครื่องแล้ว


ผมเชื่อว่า สส.ท่านนี้เอาศักดิ์ศรีเข้าว่า รวมทั้งไปในถิ่นของประชาธิปัตย์ จึงกลัว ??
หากเป็นผู้ช่วยเลขาฯ รมต.มหาดไทยจริงและรู้กฎหมาย ก็ขอใบอนุญาตพกพาได้ที่แผนกล้อเลื่อน
ซึ่งรับผิดชอบการออกใบอนุญาตพกพาอาวุธปืน สังกัดสำนักปลัดกระทรวงมหาดไทยอยู่แล้ว

ข้อจดจำ: ศาลมักลงโทษโดยไม่รอลงอาญากับบุคคลผู้พกพาอาวุธปืนที่ไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน (ปืนเถื่อน)
เข้าไปในชุมชน หมู่บ้าน ที่สาธารณะ หรือในงานนักขัตฤกษ์ เนื่องจากปืนมีสภาพที่เป็นอาวุธอันตรายร้ายแรง
ทำให้เสียชีวิต หรือบาดเจ็บสาหัสได้ โดยเฉพาะอาวุธปืนเถื่อนที่ไม่อาจสามารถติดตามได้
ส่วนปืนที่มีทะเบียนอาจได้รับการลดหย่อนโทษ หากมีความจำเป็นเร่งด่วนเป็นกรณีไปครับ
(แต่หากปืนเถื่อนเป็นอาวุธสงครามหรือวัตถุระเบิด โทษจะเพิ่มขึ้นตามสภาพของปืน หรือเป็นลูกระเบิด)

ล่าสุด วันที่ผมไปทำธุระที่ศาลพระนครศรีอยุธยา มีคดีที่ศาลอ่านคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ภาค 1 คดีหนึ่งด้วย
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 ลงโทษจำเลยวัยรุ่น (และเป็นลูกคนรวย) 2 นาย ฐานพกพาอาวุธปืนซึ่งไม่ได้ขออนุญาตจากนายทะเบียนไปในทางสาธารณะ ชุมชน หมู่บ้าน โดยไม่มีเหตุอันสมควร และไม่มีเหตุบรรเทาโทษ ศาลปรับลดหย่อนโทษให้ฐานรับสารภาพ โดยมีโทษปรับและจำคุก 9 เดือนและไม่รอลงอาญา ปืนของกลางให้ริบ เนื่องจากปืนมีสภาพเป็นอาวุธร้ายแรง
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #8092 เมื่อ: 18 มกราคม 2556, 13:35:33 »

สวัสดีครับคุณเหยง

                     กรณีที่ผมบอกนัั้น  ผมฟ้องได้ไหม  เพราะปืนไม่มีใบอนุญาติพกพา

                     ตำรวจที่เอาปืนมาขอนำขึ้นเครื่องจะผิดไหม  เป็นเจ้าหน้าที่รักษากฏหมายด้วย

                      สวัสดี
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #8093 เมื่อ: 18 มกราคม 2556, 13:55:20 »

พี่สิงห์

ปืนของ ส.ส.ไม่มีใบอนุญาตพกพา แต่น่าจะเป็นปืนที่มีทะเบียน
หากเขาอ้างความจำเป็น อย่างที่บอกไปคือ เข้าไปในพื้นที่ที่ไม่สงบ (อาจอ้างตำรวจติดตามนั่นแหละเป็นพยาน)
โทษก็จะบรรเทาหายไป

อีกประการที่ถามว่า จะฟ้องเองได้ไหม
น่าจะไม่ได้ครับ เพราะพี่ไม่ใช่เจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา
และไม่ใช่ผู้เสียหายตามกฎหมาย

ความจริงหากเขาไปถึงจุดที่ตรวจตั๋วเพื่อขึ้นเครื่อง แล้วบอกเจ้าหน้าที่ขอฝากอาวุธปืนพร้อมแสดงฐานะ ปัญหาก็ไม่เกิด
เชื่อว่า เขาเจตนาพกขึ้นเครื่องและโดนเครื่องสะแกนเจอ จึงเป็นเรื่องขึ้น
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #8094 เมื่อ: 18 มกราคม 2556, 14:05:01 »

ดร.สุริยา  อาจารย์รุ่งศักดิ์

                       ไม่มี computer ใช้งานนี่ไม่มีอะไรทำเลย  อยู่เฉย ๆ  จริง ๆ

                       ชีวิตคนนี่ต้องพึ่ง เทคโนโลยี่  มันดีหรือไม่ดี  ไม่รู้

                        ตกลงต้องยอมซื้อ  i7  window 7 Z930-2006 ซึ่งในเมืองไทยมีสิบเครื่อง อยู่ต่างจังหวัด  คนซื้อน้อย Toshiba  จึงไม่สั่งมาขายมาก  จะรอก็นาน

                        จะไปสอนหนังสือเชียงใหม่ ยังไม่ได้ทบทวนใดๆ ทั้งสิ้น
                     
                         สวัสดี
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #8095 เมื่อ: 18 มกราคม 2556, 17:01:44 »

มาต่อครับ

พี่สิงห์

บุคคลประเภทนี้ อยู่ได้ด้วยอำนาจ
หมดอำนาจ ก็หมดคนติดตาม สิ่งที่ทำไว้ก็ไม่อาจทำไปได้อีก
ผช.เลขาฯ เมื่อไม่มีอำนาจ ก็คงไม่ลงไปนครศรีฯ อีก
เพราะที่ลงไปได้ เนื่องจากเบิกค่าใช้จ่ายได้ มีคนคอยรับ
หมดบารมี ก็หมดทุกอย่างครับ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #8096 เมื่อ: 18 มกราคม 2556, 19:31:21 »

สวัสดีครับ ชาวซีมะโด่ง และแขกผู้มาเยือน ที่รักทุกท่าน

                       เข้าใจว่าพรุ่งนี้เป็นวันพระ ผมขอนำพระสูตร ที่สาม ที่พระพุทธองค์ทรงสอน ชฎิล สามพี่น้องและสาวก ๑๐๐๐ รูป จนสำเร็จเป็นพระอรหันต์

                       พวกเราในฐานะพุทธศาสนิกชน  พึงทราบ ถ้าท่านพิจารณาแบบโยนิโสมนสิการ ก็จะพบความจริงด้วยตัวท่านเองว่า

                       ตา  หู  จมูก  ลิ้น  กาย  ใจ รูป เสียง  กลิ่น  รส  สัมผัสทางกาย  สัมผัสทางใจ  ล้วนเป็นของร้อน  ไม่น่ายินดีเลย  ร้อนเพราะไฟคือ ราคะ เพราะไฟคือโทสะ เพราะไฟคือโมหะ ร้อนเพราะความเกิด เพราะความแก่ และเพราะความตาย ร้อนเพราะความโศก เพราะความรำพัน เพราะทุกข์กาย เพราะทุกข์ใจ เพราะความคับแค้น

                       ดังนั้น อายตนะ ๑๒ ไม่ควรยึดมั่นเลย  เพราะความยึดมั่นใน อายตนะ ๑๒ จึงมีแต่ทุกข์ร่ำไป

                       สวัสดี


อาทิตตปริยายสูตร

                      ครั้นพระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ ตำบลอุรุเวลา ตามพระพุทธาภิรมย์แล้ว ได้เสด็จจาริกไปโดยมรรคา อันจะไปสู่ตำบาลคยาสีสะ พร้อมด้วยภิกษุสงฆ์หมู่ใหญ่ ๑๐๐๐ รูป ล้วนเป็นปุราณชฏิล

                      ได้ยินว่า พระองค์ประทับอยู่ที่ตำบลคยาสีสะ ใกล้แม่น้ำคยานั้น พร้อมด้วยภิกษุ ๑๐๐๐ รูป

                     ณ ที่นั้น พระผู้มีพระภาค รับสั่งกะภิกษุทั้งหลายว่าดังนี้ -

                     "ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สิ่งทั้งปวงเป็นของร้อน ก็อะไรเล่าชื่อว่า สิ่งทั้งปวงเป็นของร้อน ?

                      ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย จักษุเป็นของร้อน รูปทั้งหลายเป็นของร้อน วิญญาณอาศัยจักษุเป็นของร้อน สัมผัสอาศัยจักษุเป็นของร้อน ความเสวยอารมณ์เป็นสุขเป็นทุกข์ หรือมิใช่สุขมิใช่ทุกข์ ที่เกิดขึ้นเพราะจักษุสัมผัสเป็นปัจจัย แม้นั้นก็เป็นของร้อน ร้อนเพราะอะไร ? เรากล่าวว่า

                      ร้อนเพราะไฟคือ ราคะ เพราะไฟคือโทสะ เพราะไฟคือโมหะ ร้อนเพราะความเกิด เพราะความแก่ และเพราะความตาย ร้อนเพราะความโศก เพราะความรำพัน เพราะทุกข์กาย เพราะทุกข์ใจ เพราะความคับแค้น

                       โสตเป็นของร้อน เสียงทั้งหลายเป็นของร้อน...............

                       ฆานะเป็นของร้อน กลิ่นทั้งหลายเป็นของร้อน...............

                       ชิวหาเป็นของร้อน รสทั้งหลายเป็นของร้อน ..............

                       กายเป็นของร้อน โผฏฐัพพะทั้งหลายเป็นของร้อน

                       มนะเป็นของร้อน ธรรมทั้งหลายเป็นของร้อน วิญญาณอาศัยมนะเป็นของร้อน สัมผัสอาศัยมนะเป็นของร้อน ความเสวยอารมณ์เป็นสุขเป็นทุกข์ หรือมิใช่สุขมิใช่ทุกข์ ที่เกิดขึ้นเพราะในสัมผัสเป็นปัจจัย แม้นั้นก็เป็นของร้อน ร้อนเพราะอะไร ? เรากล่าวว่า

                       ร้อนเพราะไฟคือราคะ ร้อนเพราะไฟคือโทสะ ร้อนเพราะไฟคือโมหะ ร้อนเพราะความเกิด เพราะความแก่และความตาย ร้อนเพราะความโศก เพราะความรำพัน เพราะทุกข์กาย เพราะทุกข์ใจ เพราะความคับแค้น

                       ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อริยสาวกผู้ได้ฟังแล้ว เห็นอยู่อย่างนั้น ย่อมเบื่อหน่ายแม้ในจักษุ ย่อมเบื่อหน่าย แม้ในรูปทั้งหลาย ย่อมเบื่อหน่าย แม้ในวิญญาณอาศัยจักษุ ย่อมเบื่อหน่ายแม้ในสัมผัสอาศัยจักษุ ย่อมเบื่อหน่าย  แม้ในความเสวยอารมณ์ ที่เป็นสุขเป็นทุกข์ หรือมิใช่สุขมิใช่ทุกข์ ที่เกิดขึ้นเพราะจักษุสัมผัสเป็นปัจจัย

                       ย่อมเบื่อหน่ายแม้ในโสต ย่อมเบื่อหน่าย แม้ในเสียงทั้งหลาย ...............

                       ย่อมเบื่อหน่ายแม้ในฆานะ ย่อมเบื่อหน่าย แม้ในกลิ่นทั้งหลาย .................

                       ย่อมเบื่อหน่ายแม้ในชิวหา ย่อมเบื่อหน่าย แม้ในรสทั้งหลาย ............

                       ย่อมเบื่อหน่ายแม้ในกาย ย่อมเบื่อหน่าย แม้ในโผฏฐัพพะทั้งหลาย ...............

                       ย่อมเบื่อหน่ายแม้ในมนะ ย่อมเบื่อหน่าย แม้ในธรรมทั้งหลาย ย่อมเบื่อหน่าย แม้ในวิญญาณอาศัยมนะ ย่อมเบื่อหน่าย แม้ในสัมผัสอาศัยมนะ ย่อมเบื่อหน่าย แม้ในความเสวยอารมณ์ ที่เป็นสุขที่เป็นทุกข์ หรือมิใช่ทุกข์มิใช่สุข ที่เกิดขึ้นเพราะมโนสัมผัสเป็นปัจจัย

                       เมื่อเบื่อหน่ายย่อมสิ้นกำหนัด เพราะสิ้นกำหนัดจิตก็พ้น เมื่อจิตพ้นแล้ว ก็รู้ว่าพ้นแล้ว อริยสาวกนั้นทราบชัดว่า ชาติสิ้นแล้ว พรหมจรรย์ได้อยู่จบแล้ว กิจที่ควรทำได้ทำเสร็จแล้ว กิจอื่นอีกเพื่อความเป็นอย่างนี้ไม่มี"

                       ก็แล เมื่อพระผู้มีพระภาค ตรัสไวยากรณ์ภาษิตนี้อยู่ จิตของภิกษุ ๑๐๐๐ รูปนั้น พ้นแล้วจากอาสวะทั้งหลาย เพราะไม่ถือมั่น.


อาทิตตปริยายสูตร ๔/๕๙

      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #8097 เมื่อ: 18 มกราคม 2556, 19:43:28 »

สรุป

อนันตลักขรสูตร ไม่ควรยึดมั่นใน "รูป-นาม"

อาทิตตปริยายสูตร ไม่ควรยึดมั่นใน "อายตนะ"
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #8098 เมื่อ: 19 มกราคม 2556, 08:21:30 »



คุณบวร  บอกว่าการจัดประกวดพระสามารถหาเงินได้เป็น สิบล้าน
ผมก็อยากรับอาสาจัด  และสามารถกระทำได้ด้วย  
แต่มันติดขัดด้วยข้อห้ามทางพุทธศาสนา ที่ไปส่งเสริมให้คนหลงงมงายเพิ่มมากขึ้น
ขอพุทธศาสนิกชน อันได้แก่ ดร.สุริยา  อาจารย์รุ่งศักดิ์ และอาจารย์ถาวร พิจารณาหาทางออกให้ด้วย

สวัสดียามเช้าครับ ชาวซีมะโด่ง แขกผู้มีเกียรติ ที่รักทุกท่าน

                          อากาศยามเช้าที่นครศรีธรรมราช ไม่แจ่มใส  ไม่เห็นแสงสีเงินสีทองจับท้องฟ้า มีเมฆคลึ้มขะมุกขะมัว ฝนไม่ตก แต่ก็สามารถออกกำลังกาย เดินจงกรม  รำชิกง และฝึกโยคะได้ครับ

                          อาหารเช้าของผมก็ยึดหลักข้าวต้มกล้อง กับผักสดเป็นหลัก วันนี้ผักหมดเหลือเพียงหนึ่งถุงที่ทางผู้รับผิดชอบไม่คิดสตางค์ แต่ก็เพียงพอสำหรับผมที่จะเอาไปรับประทานเป็นอาหารกลางวันกับน้ำพริกแมงดา ที่ซื้อมาจากวัดอัมพวัน  สิงห์บุรี ครับ

                          วันนี้เป็นวันพระ ก็ขอนำธรรมะที่สอดคล้องกับ อาทิตตปริยายสูตร ไม่ควรยึดมั่นใน "อายตนะ" มานำเสนอทุกท่านได้พิจารณาเห็นจริงตามนั้น เพื่อให้จิตมันคลายความกำหนัด ไม่ยินดี ยินร้าย ละความพอใจ ละความไม่พอใจ ในอายตนะ นั้นเสียได้  ความยึดมั่นในอายตนะ ก็จะหมดไปจากจิตของท่านได้ หรือบันเทาเบาบางลง  ความสุขที่แท้จริงก็จะเกิดขึ้นในจิตของท่าน

                           เรามาทบทวนกรรมฐานของเณรที่สอนพระใบลานกันครับเช้านี้

                           สามเณรสอนพระใบลานว่า " ถ้าเราจะจับสัตว์ที่หนีไปซ่อนตัวอยู่ในอุโมงค์ทั้งหกให้ได้นั้น เราต้องปิดอุโมงค์ทั้งห้า เหลือไว้อุโมงค์ที่หก แล้วเดินเข้าไปในอุโมงค์ที่หก ก็จะจับสัตว์นั้นได้"

                            อุโมงค์ทั้งหกนั้นก็คือ อายตนะ ๖ นั่นเอง ที่ประกอบไปด้วย ตา หู  จมูก  ลิ้น  กาย  และใจ  ที่เป็นต้นเหตุแห่งทุกข์ สุข  ไม่ทุกข์ไม่สุข์ ทั้งมวล เพราะเปรียบเสมือนประตูรับความรับรู้ทั้งหมดคือ "วิญญาณ" อันได้แก่ ตาเห็นรูป  หูได้ยินเสียง  จมูกได้ดมกลิ่น  ลิ้นได้รับรส  กายได้สัมผัส  ใจได้นึกคิด(สัมผัสทางใจ)

                            พระพุทธองค์ทรงสอนว่า ตาเป็นของร้อน  หูเป็นของร้อน  จมูกเป็นของร้อน  ลิ้นเป็นของร้อน  กายเป็นของร้อน และใจเป็นของร้อน

                            ร้อนเพราะไฟที่เกิดจากความโลภ  ร้อนเพราะไฟที่เกิดจากความโกรธ  ร้อนเพราะไฟที่เกิดจากความหลง เนื่องจากเมื่อสัมผัส และรับรู้แล้ว ก็เกิดความพอใจ  ความไม่พอใจ คือเกิดตัณหานั่นเอง  จึงไม่น่ายินดีเลย เพราะไฟมันร้อน ไม่มีใครอยากจับไฟ หรือถูกไฟลวกเอาฉันใดฉันนั้น ความโลภ  ความโกรธ  ความหลง ก็ไม่มีใครต้องการสัมผัสมันทั้งสิ้น

                             ดังนั้น เราต้องปิดทวารทางตา  หู  จมูก  ลิ้น  กาย ด้วยการ เห็นสักแต่ว่าเห็น  ได้ยินสักแต่ว่าได้ยิน  ได้กลิ่นสักแต่ว่าได้กลิ่น  ได้ลิ้มรสสักแต่ว่าได้ลิ้มรส  ได้สัมผัสสักแต่ว่าได้สัมผัส เปิดเข้าไปทางอุโมงค์ที่หก คือปล่อยใจนึกคิด เราคอยดูสิ่งที่ใจมันคิด

                             ใจมันคิดเราก็รู้ อารมณ์เกิดขึ้นกับใจเราก็รู้ มีความระลึกได้ที่กายเราก็รู้  มันจะเห็นความจริง  จนกระทั่งจิตมันยอมรับเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ ทุกสิ่งเกิดขึ้นเป็นธรรมดา และดับลงไปเป็นธรรมดา  โดยเฉพาะความทุกข์  ความสุข เกิดขึ้นเพียงชั่วครู่ชั่วยาม แล้วก็ดับไปเป็นธรรมดา ไม่มีอะไรยั่งยืนเลย ยิ่งถ้าเป็นความคิดด้วยแล้ว เกิดขึ้นแล้วดับไปด้วยตัวของมันเองเร็วมาก ถ้าเราไม่ปรุงแต่งตาม ธรรมชาติมันเป็นอย่างนั้น แม้กระทั่งตัวสติ(ความระลึกได้ที่กาย ลมหายใจ) และอารมณ์ มันด็เกิดขึ้น  ตั้งอยู่ และดับไปในเวลาอันรวดเร็ว บังคับไม่ได้เลย เมื่อเราเห็นความจริงอันนี้ได้

                              จิตมันละความพอใจ  ละความไม่พอใจ ลงเสียได้ มันจะปล่อยวางลง ๆ ๆ ความยึดมั่นในความหลงผิดว่ามีตัวมีตนจะน้อยลง ๆ ๆ จนหมดไปได้ในที่สุด

                              ลองพิจารณาดูนะครับ ตา หู  จมูก  ลิ้น  กาย  ใจ เป็นของร้อน  ร้อนเพราะไฟโมหะ  ร้อนเพราะไฟโลภะ ร้อนเพราะไฟโกรธะ ไม่น่ายินดีเลย  ไม่น่าพอใจเลย  เราอย่าไปหลง ไปยึดติด และยินดีเลย ควรละเสีย

                              สวัสดีครับ
      บันทึกการเข้า
pusadee sitthiphong
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

คณะ: พาณิชยศาสตร์และการบัญชี
กระทู้: 4,689

« ตอบ #8099 เมื่อ: 19 มกราคม 2556, 10:59:36 »

พี่สิงห์ตะ
น้องๆบอกว่า โอเค 22 ก็ 22 ค่ะ
      บันทึกการเข้า

pom shi 2516
  หน้า: 1 ... 322 323 [324] 325 326 ... 681   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

ทำไมหอพักนิสิตจุฬาจึงเป็นดินแดนมหัศจรรย์            " ไม่ได้เป็นแค่หอให้นอนพัก  แต่เป็นบ้านอบอุ่นรักให้อาศัย  ไม่เป็นแค่ที่ซุกหัวยามหลบภัย  แต่สร้างใจให้เข้มแข็งแกร่งการงาน"  <))))><