02 กรกฎาคม 2567, 05:26:15
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: 1 ... 247 248 [249] 250 251 ... 681   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: คุย กับ คุณมานพ กลับดี อดีตประธานชมรม ๓ สมัย  (อ่าน 3340357 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 29 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #6200 เมื่อ: 25 พฤษภาคม 2555, 20:08:35 »

สวัสดีครับ ชาวซีมะโด่ง ที่รักทุกท่าน

                                   เย็นนี้ที่ผ่านมา มีสาวๆ จากธนาคารเกียรตินาคิน นครศรีธรรมราช มาเรียนโยคะ สอง ท่านด้วยกันครับ เมื่อมาเรียนก็สอนครับ และสอนแบบเป็นกันเอง  สอนเสร็จก็ให้ถาม ในสิ่งที่อยากถาม  ผมก็สอนเรื่องการกิน  การนอน และการถ่ายอุจจาระให้เป็นเวลา เพราะมันสำคัญต่อสุขภาพ  อาทิตย์ จะสอนชิกงวันพฤหัสบดี  วันศุกร์สอนโยคะ

                                    แสดงว่าผมดักทางถูกที่ ดร.สุริยา  จะไม่ไปดู Lady Gaga

                                    เมื่อเย็นที่ผ่านมา  ผมไม่ได้ดูรายการที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จส่วนพระองค์ไปทุ่งมะขามหย่อม เพราะมัวไปนั่งเจริญสติ และสอนโยคะ ได้แต่ดูตอนภาพข่าวสองทุ่มแทน

                                    วันนี้พายุลมแรงจริงๆ ที่นครศรีธรรมราช

                                    ราตรีสวัสดิ์ทุกท่านครับ
      บันทึกการเข้า
พธู ๒๕๒๔
Administrator
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ซื่อต่อนายไม่หน่ายมิตรใกล้ชิดลูกน้องคุ้มครองชาวBan
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 64
คณะ: niti
กระทู้: 7,842

เว็บไซต์
« ตอบ #6201 เมื่อ: 25 พฤษภาคม 2555, 20:22:34 »

อ้างถึง
ข้อความของ Manop  Klabdee เมื่อ 25 พฤษภาคม 2555, 20:01:20
อ้างถึง
ข้อความของ พธู ๒๕๒๔ เมื่อ 25 พฤษภาคม 2555, 18:03:47
ท่านที่จะไปร่วมงานฌาปนกิจศพคุณแม่วิไลวรรณ แซ่ชื้อ  มารดาของพี่แววตา นิลยนิมิตร มีรถตู้ออกจาหหอพักนิสิตวันอาทิตย์ ติดต่อจองที่นั่ง ที่ พี่เจี๊ยบ 16 โทร.08-1612-4375 กับพี่โด่ง16 โทร.08-1826-5921
สวัสดีครับ คุณพธู

                            พี่สิงห์ ส่งหนังสือให้แล้วนะครับ

                             อยากทราบเวลารถออก ครับจากหอพักครับ

                             สวัสดี

ขอบพระคุณพี่มากครับ
รถตู้ออกเที่ยงครับแต่ต้องโทรบอกพี่โด่ง16ก่อนจองที่ แล้วมีรถพี่มิ้งค์อีกคันด้วยครับโทรหาพี่มิ้ง17หรือพี่หลิว14ก็ได้ครับ
      บันทึกการเข้า

เว้นชั่ว ประพฤติชอบประกอบแต่สิ่งดีงาม ทำจิตใจให้ผ่องแผ้ว
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #6202 เมื่อ: 25 พฤษภาคม 2555, 20:26:15 »

 


 






 
                         

                                เมื่อเวลา 16.44 น. วันที่ 25 พ.ค. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินออกจากที่ประทับชั้น16 อาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลศิริราช โดยรถเข็นพระที่นั่ง พร้อมสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี  เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่งจากโรงพยาบาลศิริราชเพื่อไปสักการะพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระสุริโยทัย ทุ่งมะขามหย่อง ต.บ้านใหม่ อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นการส่วนพระองค์ ในการนี้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ รศ.นพ.ประดิษฐ์ ปัญจวีณิน ผอ.โรงพยาบาลศิริราชปิยมหาราชการุณย์ เป็นผู้ถวายการเข็นรถพระที่นั่ง พร้อม ศ.คลินิก นพ.อุดม คชินทร คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ม.มหิดล และคณะแพทย์พยาบาล ตามเสด็จฯ  ในการนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอยู่ในฉลองพระองค์ชุดกองทัพไทย
      บันทึกการเข้า
khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #6203 เมื่อ: 25 พฤษภาคม 2555, 20:53:21 »

พี่สิงห์คะ
ข่าวนี้แจ้งล่วงหน้าเมื่อ 22 พค. ที่ผ่านมา
ทำให้หนิงรื้อค้นพระประวัติสมเด็จพระศรีสุริโยทัย
มาอ่านจากวิกี้ไทย...คลิ้กต่ออ่านไปไหนถึงไหน
เป็นสมเด็จพระ...อะไรนะคะพี่สิงห์ ที่แปลว่ายาย
พระมาตุจฉาเจ้า? เป็นสมเด็จยายของสมเด็จพระนเรศวร
มหาราช...ที่หนิงสนใจคือเรื่องพระพี่นางของสมเด็จพระ
นเรศวร ..พระสุพรรณกัลยาที่ถูกส่งไปเป็นตัวประกันที่
กรุงหงสาวดี ไปเป็นมเหสีองค์ที่4 เล็กสุดอ่อนเยาว์สุดๆ
ของพระเจ้าบุเรงนอง..ยินว่าพระเจ้าบุเรงนองโปรดปรานเป็นที่ยิ่ง!

แต่ที่เศร้าใจคือกรณีที่พระนางสิ้นพระชนม์
อายุ39-40 เองคะ หนีก็ไม่ได้ กลับบ้านกลับเมืองก็ไม่ได้
..
..
อ่านมาหลายวันแล้วก็ยังติดอยู่ในสมองคะพี่สิงห์

http://m.thairath.co.th/content/region/262567


      บันทึกการเข้า


Khun28
Full Member
**


ดูกายเห็นจิต ดูคิดเห็นธรรม
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: RCU2528
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์
กระทู้: 784

« ตอบ #6204 เมื่อ: 26 พฤษภาคม 2555, 06:19:51 »

อ้างถึง
ข้อความของ Manop  Klabdee เมื่อ 24 พฤษภาคม 2555, 19:42:43
สวัสดีครับ ชาวซีมะโด่ง ที่รักทุกท่าน

                                  อย่าลืมใครมีเวลาว่าง ขอเรียนเชิญไปร่วมไว้อาลัยที่คุณแววตา  ต้องสูญเสีย คุณแม่ไปครับ  พระพุทธองค์ทรงสอนว่า การเกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นเรื่องที่ทุกคนจะต้องประสบ ไม่ช้าก็เร็ว และความพลัดพรากจากสิ่งที่รักมันเป็นทุกข์ แต่ขอให้พิจารณาว่า มันจะต้องบังเกิดขึ้นถ้าเกิดความโศกเศร้าก็ให้เรากระทำความดี ไม่ให้เสียทีที่เราเกิดมาเป็นลูกของท่าน และท่านเองก็สอนให้เราเป็นคนดี  เพียงแค่นี้ก็หายเศร้าแล้วครับ

                                  วันนี้ผมได้ส่งหนังสือไปให้ท่านขุน และป๋าทู เรียบร้อยแล้วอีกไม่เกินสามวัน คงจะได้รับ ครับ

                                  วันนี้อีกเช่นกัน เป็นวันแรกที่ผมสอน ชิกง โยคะ ให้กับสมาชิกฟิตเนสเซนเตอร์ และแขกของโรงแรมทวินโลตัส  ปรากฏว่า ทุกคนเพิ่งทราบข่าว เลยมีสุภาพบุรุษ มาเรียนเพียงหนึ่งคน  แต่พรุ่งนี้คงมีสาวๆ มาเรียนหลายท่าน เพราะได้นัดกันไว้แล้ว และมีคนมาสอบถามเรื่อยๆ ที่จะมาเรียน ทั้งตอนเย็นและยามเช้า ครับ

                                  วันนี้อาจารย์พินิจ  ได้โทรศัพท์มาแจ้งข่าว เรื่องคุณแม่ของคุณแววตา  ท่านอาจารย์กลัวผมจะไม่ทราบ ! มาทราบก็เมื่อถึงนครศรีธรรมราชแล้ว ก็ต้องเลยตามเลยครับ เอาไว้ไปวันฌาปนกิจเลย ดีที่สุดสำหรับผม

                                  ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป  ตั้งใจจะถือศีล ๘ ไปเรื่อยๆ เพื่อเอาชนะจิตตนเอง และเนื่องในเทศกาลวิสาขะบูชา และพุทธศาสนามีอายุครบ ๒๖๐๐ ปี เพื่อรำลึกถึงพระพุทธองค์ พระธรรม พระอริยสงฆ์ และเพื่อตัวเอง  จะพยายามทำตัวแบบพระสงฆ์ คือรักษากาย  วาจา  ใจ  ให้บริสุทธิ์ ขาวรอบในศีล เพียงแต่ไม่ได้ห่มผ้าเหลืองเท่านั้น  ก็ยังไม่รู้จะทำได้หรือไม่  แต่จะพยายามกระทำ เพื่อให้จิตตัวเองอยู่ในกรอบ  อะไรๆ ที่มันเกินจำเป็นก็ตัดทิ้งไป  อยู่อย่างง่ายๆ ครับ

                                  ผมใช้  net โรงแรมฟรีครั้งละ ๓๐ นาที ครับ

                                  ค่ำนี้ราตรีสวัสดิ์ทุกท่านครับ


ผมได้รับเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ช่วงบ่ายเมื่อวานครับ
ขอบคุณมากครับ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #6205 เมื่อ: 26 พฤษภาคม 2555, 07:24:21 »

อ้างถึง
ข้อความของ khesorn mueller เมื่อ 25 พฤษภาคม 2555, 20:53:21
พี่สิงห์คะ
ข่าวนี้แจ้งล่วงหน้าเมื่อ 22 พค. ที่ผ่านมา
ทำให้หนิงรื้อค้นพระประวัติสมเด็จพระศรีสุริโยทัย
มาอ่านจากวิกี้ไทย...คลิ้กต่ออ่านไปไหนถึงไหน
เป็นสมเด็จพระ...อะไรนะคะพี่สิงห์ ที่แปลว่ายาย
พระมาตุจฉาเจ้า? เป็นสมเด็จยายของสมเด็จพระนเรศวร
มหาราช...ที่หนิงสนใจคือเรื่องพระพี่นางของสมเด็จพระ
นเรศวร ..พระสุพรรณกัลยาที่ถูกส่งไปเป็นตัวประกันที่
กรุงหงสาวดี ไปเป็นมเหสีองค์ที่4 เล็กสุดอ่อนเยาว์สุดๆ
ของพระเจ้าบุเรงนอง..ยินว่าพระเจ้าบุเรงนองโปรดปรานเป็นที่ยิ่ง!

แต่ที่เศร้าใจคือกรณีที่พระนางสิ้นพระชนม์
อายุ39-40 เองคะ หนีก็ไม่ได้ กลับบ้านกลับเมืองก็ไม่ได้
..
..
อ่านมาหลายวันแล้วก็ยังติดอยู่ในสมองคะพี่สิงห์

http://m.thairath.co.th/content/region/262567



สวัสดีค่ะ คุณน้องหนุ๋งหนิ๋ง ที่รัก

                             พระสุพรรณกัลยา มันก็เป็นเพียงประวัติศาสตร์ชาติไทย ตอนเสียกรุงศรีอยุธยา ที่พวกเราต้องเรียนรู้ ระลึกถึงท่าน และนำมาแก้ไขเหตุการณ์บ้านเมือง ณ ปัจจุบัน เท่านั้น รู้แล้วก็ลืม มันก็เท่านั้น ครับ

                             อย่าไปแห่ตามว่าศักดิ์สิทธิ์ ขอนั่น ขอนี้ จากท่านได้  มันไม่ใช่ทางตามที่พระพุทธองค์ทรงสอน ครับ

                             สวัสดียามเช้าครับ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #6206 เมื่อ: 26 พฤษภาคม 2555, 07:51:59 »

สวัสดีครับ ชาวซีมะโด่ง ที่รักทุกท่าน

                                  เมื่อเช้ามืดที่ผ่านมา ผมได้นั่งเจริญสติ อยู่บนห้องพัก และมานั่งต่อที่ลานเอนกประสงค์ชั้น ๓ ได้ทบทวนข้อปฏิบัติ ให้รู้อยู่กับการเคลื่อนมือ  หยุดมือ เป็นจังหวะๆ เป็นสมาธิ(จิตไม่คิดนอกทาง) ไปสักพักใหญ่ๆ จนลืมเวลา

                                  ได้ทบทวนปรมัตต์ธรรม ๔ ที่ประกอบไปด้วย รูป  จิต  เจตสิก และนิพพาน  ความหมายจริงๆ ตามพระไตรปิฎก ว่าอย่างไรนั้น มันก็เรื่องของพระไตรปิฎก ที่ได้มีการจดบันทึกไว้เป็นคัมภีร์  จำไม่ได้

                                  แต่สิ่งที่ทบทวนคือ รูป คือร่างกายของเราที่ประกอบไปด้วยธาตุทั้ง ๔ คือ ดิน(ของแข็ง)  น้ำ(ของเหลว)  ลม(อากาศ) และไฟ(ความร้อน) และประกอบไปด้วยอวัยวะ ๓๒ ประกอบ นี่คือรูปร่างของมนุษย์ตามที่เราเข้าใจกันได้  รูปนั้น มีแก่  เจ็บ และตาย แต่เราสามารถประคองหรือป้องกัน มันให้มีอายุยืนนาน  ไม่เจ็บป่วยมากนักได้ ด้วยการรู้จักประมาณในเรื่องอาหาร การออกกำลังกาย  การพักผ่อนที่เพียงพอ และมีจิตที่ผ่องใส  ถ้าเรากระทำได้ รูปก็จะคงอยู่ได้นาน ปัจจัยหลักของรูปคืออาหาร  ซึ่งอาหารนั้นก่อทั้งคุณและโทษ  ทุกท่านทราบกันดีแล้ว ผมเพียงยกเอามาย้ำเตือนตัวเอง และปลงเวลาจะรับประทานอาหาร เพื่อให้รู้จักประมาณในการกินเท่านั้น

                                  จิต คืออารมณ์ หรือความรู้สึกได้ของรูป  ไม่มีตัวตน  บังคับบัญชาเหนือมันไม่ได้  ดังนั้นอะไรก็ตามที่เราบังคับมันไม่ได้ ก็ให้พิจารณาว่ามันไม่มีตัว ไม่มีตน ที่เราจะไปยึดถือมัน  อย่าไปยึดมั่นถือมั่น

                                  เจตสิก คือการรู้อารมณ์ ความรู้สึกของอารมณ์ หรือพฤติกรรมของอารมณ์ หรือจิต นั่นเอง เราก็ไม่สามารถบังคับอยู่เหนือมันได้ เจตสิกมันจึงเป็นนาม คือไม่มีตัวไม่มีตน ประกอบไปด้วย เวทนา(รับรู้อารมณ์ว่าสุข ทุกข์ เฉยๆ ......อีกมาก) สัญญา (ความจำได้หมายรู้ที่เก็บไว้ในหน่วยความจำในสมองของรูป) สังขาร(ความคิดปรุงแต่งต่าง ๆ จากสัญญา เวทนา และวิญญาณ(การรับรู้จากอายตนะ คือตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ แต่วิญญาณไม่ใช่เป็นดวงวิญญาณ และก็ไม่ใช่เป็นเจตสิก))  ตัวเจตสิกนี่ละเป็นตัวก่อทุกข์ คือความไม่สบายกาย  ความไม่สบายใจ มีอาการณ์ ต่างๆ ประมาณว่า 64 อารมณ์

                                  นิพพาน คือการดับไปแห่งอารมณ์หรือจิตที่ไม่กลับมากำเริบอีก แต่ยังประสบกับอารมณ์ แต่มีจิตอยู่เหนืออารมณ์นั้น

                                  ได้ทบทวนเพื่อเป็นหลักให้จิตเกาะ เพราะจิตมมนุษย์นั้น มันคิดตลอดเวลา เราจึงต้องเลือกเฟ้นธรรม ตามธัมมวิจยะ เอามาศึกษาให้จิตมันเกาะเวลาเจริญสติ ให้มันรู้ แต่อย่าไปแช่อยู่ในความคิด จนไม่รู้ตัว อยู่ในความสงบ และอุเบกขา

                                  เช้านี้ไม่มีใครมาเรียนชิกง  โยคะ  ตามที่ตั้งใจสอนเลย มีเพียงคุณดลนภา  มาวิ่งประจำเท่านั้น

                                  ผมเลยฝึกชิกง  โยคะ ของผม แล้วลงไปรับประทานอาหารเช้า เป็นข้าวต้มกล้อง ผักสด และก็ได้พิจารณาก่อนรับประทาน

                                  อย่าลืมสำรวมอินทรี(กาย วาจา ใจ) ให้เป็นปกติ เห็นสักแต่ว่าเห็น  ได้ยินสักแต่ว่าได้ยิน  ได้กลิ่นสักแต่ว่าได้กลิ่น  ได้ลิ้มรสสักแต่ว่าได้ลิ้มรส  ได้สัมผัสสักแต่ว่าได้สัมผัส  อย่าปล่อยใจร่องลอยนึกคิดนอกอิริยาบถ ของตนเอง เพียงเท่านี้ครับ

                                  สวัสดี

      บันทึกการเข้า
suriya2513
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,457

« ตอบ #6207 เมื่อ: 26 พฤษภาคม 2555, 09:22:04 »

      บันทึกการเข้า

[โบราณคดี]จุดกำเนิดเริ่มต้นของ cmadong.com by : มานพ กลับดี  คลิ๊ก->
อ้อย17
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,908

« ตอบ #6208 เมื่อ: 26 พฤษภาคม 2555, 09:27:09 »

อ้างถึง
ข้อความของ suriya2513 เมื่อ 26 พฤษภาคม 2555, 09:22:04

         ขอบคุณค่ะ พี่ป๋อง............อ่านแล้วทะลุเลย
    จะพยายามทำตามให้ได้..จะได้แค่ไหน ไม่รู้ค่ะ...
    มันชอบติดอยู่ที่เป็น some body นี่แหละค่ะ
   โอกาสจะมีปัญญาอาจติดลบค่ะ....เฮ้ออออ................
      บันทึกการเข้า
suriya2513
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,457

« ตอบ #6209 เมื่อ: 26 พฤษภาคม 2555, 09:36:05 »

รบกวนญาติโยม ขอแถมอีกหนึ่งนะครับ


Q : สำหรับคนทำงานที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์มากๆ จนบางครั้งเป็นฟุ้งซ่านไป งานประเภทนี้จะทำให้เกิดอารมณ์ ทำให้จิตไม่สงบ สมควรที่มุ่งเน้นงานประเภทนี้ต่อไปหรือไม่ ?


A : โดย..พระอาจารย์ มิตซูโอะ คเวสโก

เราต้องพัฒนาเป็นสุขภาพใจที่ดีก่อน เมื่อเราทำอาชีพมาทางด้านนี้ ก็เพราะเหตุปัจจัยที่จะมาทางนี้ เรื่องจิตใจที่ไม่สงบ..มันอยู่ที่ตัวจิต

อย่าคิดว่าอาชีพอื่นจะสงบสบาย ชาวนา คนขับรถก็ฟุ้งซ่านได้ในทุกระดับ ถึงแม้ พระ เณร อุบาสก อุบาสิกา คนที่กินดีอยู่ดี ฐานะดี ทุกอย่างสมบูรณ์ แต่พูดถึงจิตใจแล้วก็ยังฟุ้งซ่านเป็นส่วนใหญ่ ยังน้อยใจ เสียใจ ขี้โกรธ ขี้กลัว

เพราะฉะนั้น จึงต้องแก้ปัญหาโดยการทำสุขภาพใจให้ดีก่อน...

เมื่อคิดก็คิดให้เต็มที่..

เมื่อหยุดคิดก็หยุดคิดให้ได้..

ฝึกจิตอยู่อย่างนั้น ปล่อยวาง..

ไม่ต้องคิดถึงอดีตที่ผ่านไปแล้ว..

ไม่ต้องคิดถึงอนาคตที่ยังมาไม่ถึง..

อยู่กับปัจจุบัน..

เมื่อมีเหตุที่จะต้องคิด ไม่ว่าคิดถึงอดีต หรืออนาคต
ให้คิดด้วยสติปัญญา ในอาการสงบ เรียกว่ามีสติอยู่ในปัจจุบันเหมือนกัน

ฝึกจิต ฝึกนิสัย ให้เป็นคนเอาใจใส่ ปฏิบัติหน้าที่ในปัจจุบันให้ดีที่สุดอยู่เสมอ
ด้วยใจดี ใจเมตตา ใจกล้าหาญ และอดทน


      บันทึกการเข้า

[โบราณคดี]จุดกำเนิดเริ่มต้นของ cmadong.com by : มานพ กลับดี  คลิ๊ก->
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #6210 เมื่อ: 26 พฤษภาคม 2555, 10:33:19 »

 
                          ขออนุโมทนา

                             ภาษามนุษย์นั้น เป็นภาษาสมมติ จะพูดอย่างไร? จะเขียนอย่างไร? ได้ทั้งนั้น ขึ้นอยู่กับ ภูมิของผู้พูด  ผู้เขียน ว่ามาอย่างไร? จากการปฏิบัติจริง หรือฟังมา หรืออ่าน หรือ คิด  แต่จะให้สำเร็จนั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง

                             แต่ในทางปฏิบัตินั้น มันมีปัจจัยหลายอย่าง โดยเฉพาะ ปัจจัย ๔ และความรับผิดชอบในหน้าที่ เป็นภาระที่เป็นบ่อเกิดของอารมณ์ปรุงแต่ง

                             การบวช จึงเป็นทางออกที่ดีที่สุด  ถ้าต้องการไปให้สุดหนทางธรรม

                             สวัสดี
      บันทึกการเข้า
khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #6211 เมื่อ: 26 พฤษภาคม 2555, 17:21:52 »

อ้างถึง
ข้อความของ Manop  Klabdee เมื่อ 26 พฤษภาคม 2555, 07:24:21
สวัสดีค่ะ คุณน้องหนุ๋งหนิ๋ง ที่รัก

                             พระสุพรรณกัลยา มันก็เป็นเพียงประวัติศาสตร์ชาติไทย ตอนเสียกรุงศรีอยุธยา ที่พวกเราต้องเรียนรู้ ระลึกถึงท่าน และนำมาแก้ไขเหตุการณ์บ้านเมือง ณ ปัจจุบัน เท่านั้น รู้แล้วก็ลืม มันก็เท่านั้น ครับ

                             อย่าไปแห่ตามว่าศักดิ์สิทธิ์ ขอนั่น ขอนี้ จากท่านได้  มันไม่ใช่ทางตามที่พระพุทธองค์ทรงสอน ครับ

                             สวัสดียามเช้าครับ


พี่สิงห์คะ
หนิงไม่เชื่อในเรื่องแบบนี้คะ
(อย่าไปแห่ตามว่าศักดิ์สิทธิ์ ขอนั่น ขอนี้ จากท่านได้  )
ที่สนใจคืออ่านจากการเขียน
ประวัติศาสตร์ของฝั่งพม่าค่ะ!
ฝั่งไทย ถูกสอนให้เรียนอยู่แล้ว
ไปอ่านจากฝั่งขะโน้น..อ้าว!
สมัยเด็กๆเขาให้เรียนว่าพระพี่นาง
ของสมเด็จพระนเรศวรต้องไปเป็นตัวประกัน
....แล้วไงต่อ ไม่เห็นบอก!
มาอ่านตอนโต,แถมเลือกอ่านได้ เอ๋า,
เขาต้องไปเป็นเมีย เอ๊ย,พระมเหสีรอง
องค์ที่ 4 นี่(อีกเป็นร้อยไม่นับ)

คนโรแมนติกแบบหนิงอ่านสนุกแน่ๆ
เพราะหมายถึงมีความรักไคร่เสน่หา
แอบแฝงอยู่ด้วยในกุศโลบายทางการเมืองใดๆ
แม้เมื่อ500ปีก่อนก็เถอะ!ฝั่งขะโน้นบอกว่า
พระสุพรรณกัลยาอยู่อย่างเกษมสำราญ
มีข้าราชบริพารส่วนพระองค์ มีวังตำหนัก
แต่เฉพาะช่วงที่พระเจ้าบุเรงนองยังพระชีพ
ซึ่งพระองค์ก็ใช่จะอยู่ค้ำฟ้า...กษัตริย์ใหม่
นันทบุเรง...นิสัยยิ่งไม่ค่อยดีอยู่..
ต้องนึกภาพ นึกบรรยากาศตอนนั้นให้ได้คะ
ว่าเชลยชั้นสูงอย่างพระสุพรรณกัลยาจะเป็นยังไงต่อ

น่าสงสารคะ.
      บันทึกการเข้า


khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #6212 เมื่อ: 26 พฤษภาคม 2555, 17:41:40 »

อ้างถึง
ข้อความของ Manop  Klabdee เมื่อ 26 พฤษภาคม 2555, 10:33:19
 
                          ขออนุโมทนา

                             ภาษามนุษย์นั้น เป็นภาษาสมมติ จะพูดอย่างไร? จะเขียนอย่างไร? ได้ทั้งนั้น ขึ้นอยู่กับ ภูมิของผู้พูด  ผู้เขียน ว่ามาอย่างไร? จากการปฏิบัติจริง หรือฟังมา หรืออ่าน หรือ คิด  แต่จะให้สำเร็จนั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง

                             แต่ในทางปฏิบัตินั้น มันมีปัจจัยหลายอย่าง โดยเฉพาะ ปัจจัย ๔ และความรับผิดชอบในหน้าที่ เป็นภาระที่เป็นบ่อเกิดของอารมณ์ปรุงแต่ง

                             การบวช จึงเป็นทางออกที่ดีที่สุด  ถ้าต้องการไปให้สุดหนทางธรรม                             สวัสดี


พี่สิงห์
แล้วถ้าไม่บวชได้มั้ยคะ?
บวชแล้วจะปลอดรอดจากเครื่องปรุงแต่ง
จริงเหรอคะ?

หนิงว่าจิตพี่ก็จิตเดิม
จะเปลี่ยนก็แต่จากอยู่บ้าน-->ไปอยู่วัด
แต่วัดก็ไม่ปลอดจากคนๆที่อยู่บ้านพากัน
ไปเข้าวัด...เค้าพาอะไรๆที่ปรุงแต่ง
ไปมากมายที่วัด? เค้านำอาหาร เครื่องคาวหวาน
เค้านำเงินทองข้าวของเครื่องใช้ไปถวายวัด
เค้าๆอยากสร้าง อยากทำ สิ่งต่างๆเพื่อลดกิเลศ
(ขนาดกิเลส sheยังเขียนไม่ถูก แล้วจะเข้าวัดไงล่ะนี่!)
ของเค้า ลดการเหนียวหนึบหนับ เค้าอยากให้
เค้าๆไม่สามารถละจากวัดได้ ไม่งั้นเค้ากลัวไม่ได้บุญ..

พี่สิงห์อยู่ที่วัด(สมมติค่ะ)ยังต้องล้อมรอบด้วยเครื่องปรุงจิต
เพราะพี่ไม่ได้แยกตัวไปisolateคนเดียว ไม่พบ ไม่พูด
ไม่สมาคม ไม่สุงสิง ไม่อินัง ไม่ขังขอบ..
ใครว่าที่วัดปลอดจากเรื่องต่างๆ?
ปลอดจากอีกแบบ เพื่อไปผจญกับอีกแบบ อีกรูปลักษณ์?


ฮืมมมม
ขอหนิงขบคิดก่อนคะพี่สิงห์
หนิงจะไปเที่ยวAustria 1สัปดาห์คะ
เดี๋ยวมา,พี่อย่าเพิ่งบวช!
      บันทึกการเข้า


Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #6213 เมื่อ: 27 พฤษภาคม 2555, 19:02:45 »

อ้างถึง
ข้อความของ khesorn mueller เมื่อ 26 พฤษภาคม 2555, 17:41:40
อ้างถึง
ข้อความของ Manop  Klabdee เมื่อ 26 พฤษภาคม 2555, 10:33:19
 
                          ขออนุโมทนา

                             ภาษามนุษย์นั้น เป็นภาษาสมมติ จะพูดอย่างไร? จะเขียนอย่างไร? ได้ทั้งนั้น ขึ้นอยู่กับ ภูมิของผู้พูด  ผู้เขียน ว่ามาอย่างไร? จากการปฏิบัติจริง หรือฟังมา หรืออ่าน หรือ คิด  แต่จะให้สำเร็จนั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง

                             แต่ในทางปฏิบัตินั้น มันมีปัจจัยหลายอย่าง โดยเฉพาะ ปัจจัย ๔ และความรับผิดชอบในหน้าที่ เป็นภาระที่เป็นบ่อเกิดของอารมณ์ปรุงแต่ง

                             การบวช จึงเป็นทางออกที่ดีที่สุด  ถ้าต้องการไปให้สุดหนทางธรรม                             สวัสดี


พี่สิงห์
แล้วถ้าไม่บวชได้มั้ยคะ?
บวชแล้วจะปลอดรอดจากเครื่องปรุงแต่ง
จริงเหรอคะ?

หนิงว่าจิตพี่ก็จิตเดิม
จะเปลี่ยนก็แต่จากอยู่บ้าน-->ไปอยู่วัด
แต่วัดก็ไม่ปลอดจากคนๆที่อยู่บ้านพากัน
ไปเข้าวัด...เค้าพาอะไรๆที่ปรุงแต่ง
ไปมากมายที่วัด? เค้านำอาหาร เครื่องคาวหวาน
เค้านำเงินทองข้าวของเครื่องใช้ไปถวายวัด
เค้าๆอยากสร้าง อยากทำ สิ่งต่างๆเพื่อลดกิเลศ
(ขนาดกิเลส sheยังเขียนไม่ถูก แล้วจะเข้าวัดไงล่ะนี่!)
ของเค้า ลดการเหนียวหนึบหนับ เค้าอยากให้
เค้าๆไม่สามารถละจากวัดได้ ไม่งั้นเค้ากลัวไม่ได้บุญ..

พี่สิงห์อยู่ที่วัด(สมมติค่ะ)ยังต้องล้อมรอบด้วยเครื่องปรุงจิต
เพราะพี่ไม่ได้แยกตัวไปisolateคนเดียว ไม่พบ ไม่พูด
ไม่สมาคม ไม่สุงสิง ไม่อินัง ไม่ขังขอบ..
ใครว่าที่วัดปลอดจากเรื่องต่างๆ?
ปลอดจากอีกแบบ เพื่อไปผจญกับอีกแบบ อีกรูปลักษณ์?


ฮืมมมม
ขอหนิงขบคิดก่อนคะพี่สิงห์
หนิงจะไปเที่ยวAustria 1สัปดาห์คะ
เดี๋ยวมา,พี่อย่าเพิ่งบวช!

               
                           การบวชทำให้ปัจจัย ๔ ไม่เป็นธุระมาก คือพึ่งข้าวชาวบ้าน และสอนชาวบ้านเป็นการตอบแทน ไม่ให้เสียข้าวสุก  มีเวลาปฏิบัติธรรม  ทำจิตให้ปล่อยวาง  ไม่ยึดติดในวัตถุที่เธอกล่าวทั้งหมด

                            สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #6214 เมื่อ: 27 พฤษภาคม 2555, 19:15:51 »

อาลัยรักคุณแม่วิไลวรรณ  แซ่ชื้อ

คุณแม่ของคุณแววตา  นิลยนิมิตร


 






















สวัสดีครับ ชาวซีมะโด่ง ที่รักทุกท่าน

                              วันนี้บ่ายผมไปร่วมงานฌาปนกิจศพ คุณแม่วิไลวรรณ  แซ่ชื้อ ซึ่งเป็นคุณแม่ของคุณแววตา  นิลยนิมิตร และแม่ยายของพี่หมอโอภาส   นิลยนิมิตร

                              ผมไปถึงวัดบ่ายสามโมงตรง ในเวลาไล่เรี่ยกันก็มีพวกเราชาวซีมะโด่งทะยอยมาร่วมงาน ตามที่เห็นในภาพ

                              งานนี้ไม่รับซอง คุณแม่สั่งเอาไว้ ขอให้มาระลึกถึงกันเฉยๆ  ใครจะทำบุญเรียนเชิญใส่กล่องของโรงพยาบาลแทน คุณแววตา บอกกับพี่สิงห์

                              ท่าน รศ.พินิจ  เพิ่มพงษ์พันธ์  ได้รับเกียรติจากทางเจ้าภาพ ให้เป็นประธานฝ่ายฆาราวาส ในการทอดผ้าไตรมหาบังสกุล และวางไฟฌาปนกิจศพ

                              บรรยากาศ อบอุ่น เรียบง่ายดีครับ  เชิญรับชใภาพ

                             สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #6215 เมื่อ: 27 พฤษภาคม 2555, 19:36:05 »























อ่านประวัติ คุณแม่วิไลวรรณ  แซ่ชื้อ และอ่านทำนองเสนาะ



น้ำมะพร้าวสำหรับล้างหน้าศพ



อาหารสำหรับขอขมา เจ้าที่เจ้าทาง



นี่คือ ที่นอนสุดท้ายของมนุษย์ที่เกิดมา หนีไม่พ้น เอาอะไรติดตัวไปไม่ได้เลย นอกจากความดีที่ได้กระทำเอาไว้



หลวงพ่อ ก็มีแทปเลตใช้ ดีกว่าผมอีก
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #6216 เมื่อ: 27 พฤษภาคม 2555, 20:00:00 »









รศ.พินิจ   เพิ่มพงษ์พันธ์

ประธานในพิธี

วางผ้าไตรมหาบังสกุลหน้าหีบศพ และ จุดไฟฌาปนกิจศพ















พระ สวดพระอภิธรรม ๗ คำภีร์



ขอบคุณ  คุณอดิสร  ที่ทำหน้าที่ ด้วยใจรัก มิต้องขอร้องแต่อย่างใด



หนีไม่พ้น ต้องคุยกัน



เป็นหน้าที่ของลูกหลาน

















กราบ คุณแม่วิไลวรรณ  แซีชื้อ  เป็นครั้งสุดท้าย





คุณแววตา-หมอโอภาส  นิลยนิมตร

ขอขอบคุณ ชาวซีมะโด่งทุกท่าน ที่ไปร่วมฟังพระสวดพระอภิธรรม และฌาปนกิจศพ

คุณแม่วิไลวรรณ  แซ่ชื้อ

มาณ ที่นี้


                      รูปใครไม่มี ผมต้องกราบขออภัยด้วยครับ เพราะไม่ใช่มืออาชีพ

                      ผ่านไปอีกวันหนึ่ง สำหรับกิจกรรมของผม

                      ไปร่วมงานฌาปนกิจศพ  ต้องเอาผู้วายชนม์ เป็นครูสอนตัวเรา  

                       หรือเมื่อท่านชมภาพงานศพ ท่านก็สามารถเอามาเป็นครูสอนตัวเรา ได้เช่นกัน

                       อย่าลืม !


                      สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #6217 เมื่อ: 28 พฤษภาคม 2555, 12:46:21 »



พี่พงษ์  จิระโสภณ



พี่จุ๊ก (ชัยวัฒน์)


                           ควันหลงจากคอนเสริท Lady Gaga ที่ผ่านมา ปรากฏว่า หนุ่มใหญ่พี่พงษ์ และพี่จุ๊ก ได้ชวนกันไปดูคอนเสริท ที่สนามมังคลาฯ หัวหมาก

                          ดร. กุศล  บอกว่า ทั้งสองท่านได้เตรียมกล้องส่องทางไกล เอาไปด้วย เอาไว้ส่องดูเวลา Lady Gaga เปลี่ยนชุด  จะได้เห็น........

                          โปรดสังเกตุ  ทั้งสองท่านย้อมผมดำสนิท ทั้งคู่ ครับ

      บันทึกการเข้า
KUSON
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,125

« ตอบ #6218 เมื่อ: 28 พฤษภาคม 2555, 13:07:23 »

ข่าวด่วน
ทั้งสองท่าน ต่างคนต่างไป ต่างก็ใส่แว่นตาดำเพื่อว่าจะได้ไม่มีใครจำได้
ความมาแตกอีตอนอวดมาอวดกันเองว่าใครใด้ตั๋วชิดขอบเวทีกว่ากัน คิกๆๆๆ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #6219 เมื่อ: 28 พฤษภาคม 2555, 20:03:57 »


สวัสดีครับ ชาวซีมะโด่ง ที่รักทุกท่าน

                               วันนี้หลังจากใส่บาตรพระตอนเช้าที่หน้าบ้านแล้ว ผมได้เดินทางไปสิงห์บุรีไปเยี่ยมแม่ และเอาแผ่น CD หลวงพ่อเทียน หลวงพ่อคำเขียน หลวงพ่อพระไพศาล เอาไปให้คนดูแลแม่เปิดให้แม่ฟัง จำนวนสิบกว่าแผ่นครับ

                               แผลที่หลังของแม่ ขยายกว้าง แต่เนื้องอกขึ้น คือไม่เป็นเนื้อตาย ตอนนี้แม่สามารถนั่งรถเข็นได้  ผมจึงให้คนดูแล พาแม่นั่งรถเข็นไปตากแดดยามเช้า เพราะผิวหนังแม่เปื่อยตามสภาพ ต้องให้แสงแดดจากธรรมชาติช่วยอีกแรงหนึ่ง

                               อาทิตย์หน้าเป็นวันพระใหญ่ วันวิสาขะบูชา  ผมตั้งใจจะพาแม่ไปทำบุญที่วัดพระนอน  เพื่อเปลี่ยนบรรยากาศ  

                               ตอนเที่ยงได้แวะไปที่โรงงาน PSTC เพื่อไปสั่งการให้ทดลองผลิตแบบสำหรับหล่อชิ้นส่วนคอนกรีต คือผนังสำเร็จรูป โดยให้ทำแบบหล่อแบบ Battery Molds โดยเริ่มต้นจากแบบหล่อที่ง่ายๆ ไปก่อน คอ่ยๆ พัฒนาขึ้นมา โครงการนี้กะว่า ๓-๔ เดือน เราสามารถพัฒนาหล่อผนังสำเร็จรูปแนวตั้งได้ สำเร็จครับ

                               จะช้าจะเร็วก็ต้องทดลองแล้วละ เพราะความต้องการมีมาก และมีคนเอางานมาให้พัฒนาขึ้นมาให้ได้ (ดร.ณรงค์ บังคับให้ทำ)  จึงต้องดำเนินการ ครับ

                               สวัสดี และราตรีสวัสดิ์ทุกท่านครับ



 
เห็นสภาพน้ำในเขื่อนและระดับน้ำต่างๆ ในแม่น้ำแต่ละจังหวัดแล้วสังเวชใจยิ่ง
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #6220 เมื่อ: 29 พฤษภาคม 2555, 12:19:56 »

สวัสดีครับ ชาวซีมะโด่ง ที่รักทุกท่าน

                               วันนี้ผมมาเที่ยง พอดี ไม่มีสาเหตุใดทั้งสิ้น เพราะหลานสาวยังไม่ได้เปิด Fiwi internet ผมจึงเข้ามาไม่ได้   เช้านี้ผมก็ยังตื่นขึ้นมาปฏิบิตธรรมเจริญสติเช้ามืด หุงข้าวใส่บาตรพระ ที่หน้าบ้านเป็นปกติ ทุกครั้งที่อยู่บ้าน  และวันนี้ผมได้ถวายหนังสือ "กาลานุกรม" ให้พระท่านไปด้วยครับ

                               อยู่บ้านช่วงเช้าไม่มีอะไรทำ ก็ซักผ้าห่ม ผ้าปูที่นอน  ปลอกหมอน  ทำ Detox  และปฏิบัติธรรมเจริญสติ  เป็นการฆ่าเวลาให้ผ่านไป และฟังธรรมะ จาก CD หลวงพ่อคำเขียน  สุวณฺโณ  เป็นการทบทวนตัวเอง เพราะหลวงพ่อคำเขีียน  ท่านบรรยายธรรมะเวาลเช้ามืด ให้ผู้ปฏิบัติธรรม ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพวกข้าราชการที่ทำงานโรงพยาบาล จะเป็นพยาบาลและหมอ เป็นส่วนใหญ่ ที่วัดป่าสุคะโต  จังหวัดชัยภูมิ

                                ผมเองอยากเห็นทุกท่านมีสุขภาพกาย-ใจที่ดี และประสบความสำเร็จในการทำงานและมีครอบครัวที่อบอุ่น  จึงพยายามหารอะไร ๆ ที่คิดว่าเป็นประโยชน์มานำเสนอให้ท่านทราบ อาจจะถูกใจ หรือไม่ถูกใจท่าน ก็ต้องขออภัยด้วยครับ

                                บางวันมันก็ไม่รู้จะเขียนอะไรเหมือนกัน

                                อีกหกวันจะถึงวันวิสาขะบุชา ที่พุทธศาสนามีอายุครบ ๒๖๐๐ ปี ที่เขาเรียกว่า พุทธยันตี  เดิมทีผมตั้งใจจะไปปฏิบัติธรรมตามวัดสายหลวงพ่อเทียน คือวัดทับมิ่งขวัญ หรือวัดป่าสุคะโต  แต่ก็ยังอยากอยู่ใกล้แม่  จึงขอเลือกพาแม่ไปทำบุญที่วัดพระนอน จะดีกว่า เพราะแม่ยังสามารถรับรู้ได้  และปฏิบัติธรรม อยู่กับบ้านนี่ละ ถึงกิเลสมันจะมากก็ดีเหมือนกัน เอาชนะมันให้ได้ ที่ไหนๆ ก็ปฏิบัติธรรมได้  คิดเสียอย่างนี้

                                วันเสาร์ที่จะถึงนี้ ทางนครศรีธรรมราช ได้นิมนต์พระจาก ๑๔ จังหวัดภาคใต้ จำนวน ๑๒๕๐๐ รูป มาบิณฑบาตร ถนนที่ผ่านหน้าวัดพระธาตุ และมีการประชาสัมพันธ์ ให้ประชาชนมาใส่บาตรอาหารแห้ง กันยกใหญ่  ผมเองก็จะไปร่วมงาน และจะเก็บภาพมาฝากท่านด้วย  ดร.กุศล  จะฝากใส่บาตรด้วยก็ได้  จะจัดให้

                                ผมเองเน้นเสมอว่า ถ้าเราอยากให้รอบตัวเรา  สังคมเราดี  ไม่ต้องทำอะไรมาก ทำตัวของเราเองให้เป็นแบบอย่างที่ดี ด้วยการสำรวมกาย  วาจา  ใจ  ให้เป็นปกติเสมอ รวมทั้งรักษาศีล ๕ ให้มั่น มันจะดีขึ้นเอง  อย่างน้อยตัวเราก็ห่างไกลทุกข์ ครับ

                                 ผมเองยังมีหน้าที่ในการทำงานที่ต้องกระทำ และนำหลักธรรมของพระพุทธองค์มาใช้ทำงาน สอนคนทำงานเป็นปกติประจำ  ธรรมะกับการทำงานมันเสริมกันในตัว ให้เราประสบความสำเร็จได้  เพียงแต่ใช้ให้เป็นเท่านั้น  โดยเฉพาะต้องมีสติ  รู้สึกตัวในการทำงาน และกิจวัตรประจำวันของตัวเรา ครับ

                                 ผมอยากให้ทุกท่านเอาไปใช้ในการทำงาน และกิจวัตรประจำวันของท่าน เช่นเดียวกันครับ

                                 สวัสดี
      บันทึกการเข้า
suriya2513
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,457

« ตอบ #6221 เมื่อ: 29 พฤษภาคม 2555, 13:47:05 »

<a href="http://www.youtube.com/watch?v=iE80b6xbmvs" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=iE80b6xbmvs</a>

อยากถามอุบาสกสิงห์ ว่า ท่าทางที่แสดงในคลิปข้างบนนี้
สามารถที่จะดัดแปลงมาเป็นการสร้างจังหวะกายเพื่อฝึกสมาธิได้หรือไม่ อย่างไร
      บันทึกการเข้า

[โบราณคดี]จุดกำเนิดเริ่มต้นของ cmadong.com by : มานพ กลับดี  คลิ๊ก->
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #6222 เมื่อ: 29 พฤษภาคม 2555, 16:58:32 »

 
                              ต้องขอขอบคุณ ดร.สุริยา เป็นอย่างมาก ที่เอาท่าบริหารมือ มาโพสค์ เพราะมีประโยชน์มาก เนื่องจากปัจจุบันพบว่าโรคนิ้วมือล๊อก พบมากขึ้นเรื่อยๆ ครับ สำหรับผู้สูงอายุ

                                ถ้าเรามีท่าบริหารที่ถูกต้องที่แนะนำโดยคุณหมอ และง่ายต่อการกระทำ ไม่ต้องคิดมาก ทำเลยครับ ว่างเป็นทำ ๆ

                                สำหรับคำถามที่ ดร.สุริยา ถามนั้น ไม่ต้องดูคลิปก็ตอบได้เลยว่า อะไรที่เรามีการเคลื่อนไหวร่างกาย หรือมีอะไรมากระทบตัวเช่นลมพัด เสื้อที่ใส่ไหว และเรารู้สึกตัว เป็นการปฏิบัติธรรมทั้งสิ้น ขอให้เรารู้สึกตัวเข้าไว้  ถูกต้องตามที่พระพุทธองค์ ทรงสั่งสอน แต่โดยมากคนตกอยู่ภายใต้ความคิด จะไม่รู้สึกตัว(สติ) เพราะมัวแต่คิด

                                อย่าลืมการใช้ความคิด  ไม่มีทางบรรลุธรรมเด็ดขาด

                                จะบรรลุธรรมได้  ต้องไม่คิด แต่มีความรู้สึกตัวหรือสติ ตลอดเวลาที่เราเคลื่อนไหวอวัยยวะของร่างการ หรือลมหายใจของเรา ก็ให้รู้ตัว เข้าไว้ เพราะเมื่อรู้มันจะไม่คิด

                                ภายหลังจากได้ดูคลิปแล้ว  รู้สึกว่าชอบใจ ดีมาก เอามาใช้ปฏิบัติธรรม ได้เลยครับ ได้ทั้งจิต และร่างกายที่นิ้วมือไม่ล๊อก

                                 เวลาผมนั่งเครื่องบิน ผมไม่สามารถยกมือสร้างสิบสี่จังหวะได้  เพราะจะกลายเป็นตัวตลกไป  ผมจะใช้วิธีกำมือ เหยียดมือ ที่วางอยู่บนเข่าทั้งสอง มันก็เกือบเหมือนท่าของคุณหมอ บางครั้งเหมื่อยก็ตั้งสันมือสลับกับคว่ำมือ สลับมือซ้าย-ขวา  บางครั้งเหมื่อยก็ยกส้นเท้า หรือปลายเท้าสร้างจังหวะแทน เพราะทำอย่างนี้แล้ว ไม่เป็นตัวตลก เวลาผมนั่งรถคนอื่น หรืออยู่บนรถไฟฟ้า  จะใช้วิธีที่กล่าวมาทั้งสิ้น  แต่ถ้านั่งรถที่เขามารับและเป็นลูกน้องตัวเอง เรานั่งจะใช้สร้างจังหวะ ๑๔ จังหวะแทน

                                 แต่ถ้าขับนถ  จะพยายามสร้างความรู้สึกตัวที่เท้าเหยีบคันเร่ง หรือเบรค มือจับพวกมาลัย  ถ้าง่วงก็เอามือเคาะที่พวงมาลัยให้รู้สึกตัวแต่อย่าหลงเข้าไปในความคิดเดี๋ยวหลับ และมองไปข้างหน้า(ถนน) อย่างมีสติ ตั้งใจ เห็น ผ่าน ลืม อย่าเพ่ง  อย่าเผลอ พยายามสร้างความรู้สึกตัวแบบนี้ให้เคยชิน  หรือเปิดฟังธรรมะ แต่อย่าไปคิดตาม ฟัง ลืม ฟัง ลืม อยู่อย่างนี้มันก็ไม่เผลอเข้าไปในความคิด เพราะคนที่ขับรถหลับในนั้น มันเผลอหลงเข้าไปในความคิด เกิดภวังค์ หลับในทันที

                                เคล็ดลับในการสร้างจังหวะมือ หรือเท้า คือ ทำอย่างช้าๆ ยกหรือเหยียดแต่ละครั้งให้หยุดและรู้สึกตัว  ลืม อย่าทำเร็ว เพราะทำเร็วจะหลงไปในความคิดได้ง่าย ยิ่งหลับตาอยู่ด้วย จะหลับเลย  ต้องให้รู้อยู่เสมอ จะไม่หลับ และไม่คิด

                               เป็นอันว่า ผมได้ท่าปฏิบัติธรรมใหม่ ที่มีประโยชน์ป้องกันนิ้วลีอก ไว้ใช้ปฏิบัติเวลานั่งรถ และนั่งเครื่องบิน ใหม่แล้วครับ

                               แต่ถ้าจะปฏิบัติธรรม จริงๆ ต้องสร้างจังหวะ ๑๔ จังหวะของหลวงพ่อเทียน  ดีที่สุด  เพราะท่าสั้นๆ ง่ายๆ นั้นจิตมันจะเผลอหลงเข้าไปในความคิดได้ง่ายๆ มันก็ไม่เกิดตัวรู้ ครับ

                               ขอบคุณมากที่แนะนำ

                               สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #6223 เมื่อ: 29 พฤษภาคม 2555, 17:17:56 »

                             
                              ข้อสำคัญที่เป็นคุณสมบัติของนักปฏิบัติธรรม คือ

                              ถึงแม้ท่านจะมีความรู้สึกตัว  จิตตื่นแล้ว ก็ตาม แต่ถ้าท่าน ไม่รักษาอินทรีย์ หรือรักษา กาย  วาจา  ใจ ของท่านให้เป็นปกติ  หรืออยู่ในศีล ๕ แล้ว ท่านก็ขาดคุณสมบัติของผุ้ที่จะบรรลุธรรมไป  ไม่มีทางหลุดพ้นได้

                              คุณสมบัติของนักปฏิบัติธรรม คือ ต้องมีสัมมัปปทาน ๔ ตามโพธิปักขิยะธรรม ๓๗ ประการ คือ ประกอบด้วย ทำกุศลที่ยังไม่เกิด ให้เกิดขึ้น หนึ่ง ทำอกุศลที่ยังไม่เกิด ไม่ให้เกิดขึ้น หนึ่ง ทำอกุศลที่เกิดขึ้นแล้ว ให้หมดไป หนึ่ง และทำกุศลที่เกิดขึ้นแล้วให้ยิ่งๆ ขึ้นไป

                               แต่ในความเป็นจริง เมื่อจิตท่าตื่นล่วงภาวะเดิม แล้ว จิตท่านจะละอกุศลไปเอง จะมีแต่ทำกุศลเพิ่มยิ่งขึ้น

                               สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #6224 เมื่อ: 29 พฤษภาคม 2555, 17:30:49 »







                           ผมเกือบลืมเลยเรื่องนี้ ทั้งๆ ที่ตั้งใจเอาไว้แล้วแต่เพราะละเลยข่าวสาร

                           ขอเรียนเชิญทุกท่าน รักษาศีล ๘  แต่งชุดขาว เพื่อเป็นพุทธบูชา เตือนพวกเราชาวพุทธ อย่าละเลยคำสอนของพระพุทะองค์ ด้วยการแต่งชุดขาว  รักษาศีล ๘ ปฏิบัติธรรม ในช่วงดังกล่าว เป็นตัวอย่างที่ดีครับ

                           ชุดขาวราคาไม่แพงครับ ผมเองยังชอบเลย  ผมได้รับเสื้อมาสองตัวจาก คูฮงฮวด สุรินทร์ เลยได้โอกาสใส่เลยครับ

                           สวัสดี
      บันทึกการเข้า
  หน้า: 1 ... 247 248 [249] 250 251 ... 681   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

ทำไมหอพักนิสิตจุฬาจึงเป็นดินแดนมหัศจรรย์            " ไม่ได้เป็นแค่หอให้นอนพัก  แต่เป็นบ้านอบอุ่นรักให้อาศัย  ไม่เป็นแค่ที่ซุกหัวยามหลบภัย  แต่สร้างใจให้เข้มแข็งแกร่งการงาน"  <))))><