Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์
รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644
|
|
« ตอบ #5975 เมื่อ: 19 เมษายน 2555, 08:13:04 » |
|
สวัสดีค่ะ คุณน้องทราย ที่รัก
มันก็จริงของเธอ "สิ่งที่เห็น...อาจไม่ใช่สิ่งที่เป็น..." มันเป็นความจริงเสมอ เพราะบางคนนั้น จิตคิดไปอย่าง แต่การกระทำของตัวเองตรงกันข้ามเลย
"น้อยคนนักที่กระทำตามที่จิตตนเองคิดและมีความรู้สึกตัวด้วย(สติ)" จึงมีแต่ความว่างเปล่า ! มองสิ่งรอบตัวมีแต่ความสวยงาม สงบ เป็นธรรมชาติ เพราะไม่ได้เป็นคิดในสิ่งที่รับรู้เหล่านั้นเลยเพียงแต่รับทราบเท่านั้น"
บางคนเสแส้งเป็นที่หนึ่งในสายตาคนภายนอก แต่ตัวเองก็รู้ว่าไม่จริงใจ ใจกลับคิดไปในทางตรงกันข้าม พวกนี้ต้องพึงระวังให้ดี ถ้าเป็นลูกน้องตัวเอง จงระวัง จะโดนเลื่อยเก้าอี้ ! ไม่รู้ตัว
ต่างๆ นา อีกมาก พฤติกรรม สันดานของคน นี่ละเจตสิกที่แท้จริง
ดังนั้นพึงสำเนียกไว้เสมอว่า "จิตของคนทุกคน จะคิดเข้าข้างตนเองเสมอ โดยหาเหตุ-ผลมาประกอบให้เป็นเช่นนั้น และจิตคนนั้นคิดไม่เหมือนกัน เมื่อเห็นแจ้งแล้ว ก็จงจำไว้ว่า จิตคนนั้นมันเป็นเช่นนี้เอง อย่าไปยึดมั่นกับมันเลย ปล่อยมันไป เพราะมันเป็นเช่นนั้นเอง ควาทุกข์ก็ไม่เกิดกับเราเพราะเรา ไม่คิดปรุงแต่งตาม"
สวัสดีค่ะ
|
|
|
|
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์
รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644
|
|
« ตอบ #5976 เมื่อ: 19 เมษายน 2555, 08:24:57 » |
|
สวัสดีครับ ป๋าพธู
หัวใจค่อยแช่มชื่น ขึ้นบ้าง ที่ยังมีคนตามอ่าน
ส่วนใหญ่พี่สิงห์ จะคิดเสมอว่า สิ่งที่เอามาเขียนนั้น เป็นการสอนตัวเอง เป็นหลัก เพื่อให้ไม่ประมาท และเพื่อให้ตัวเองรู้ จนติดเป็นหนึ่งเดียวกับตัวเอง มันจะได้รูสึกตัว หรือพี่สิงห์ขอใช้คำว่า ทำให้จิตมันตื่นอยู่เสมอ เพราะถ้าจิตมันตื่นขึ้นแล้ว เราจะมีความรู้สึกตัว มีปัญญา ไม่หลงไปกระทำตามที่จิตตัวเองคิด ไม่กระทำในอกุศลกรรมต่างๆ
มีอยู่เรื่องหนึ่ง มีคนมาปรึกษาแต่เขาไม่กล้าบอกความจริง แต่เราก็รู้ได้ว่า เขากำลังไม่ชอบหน้าภรรยา อยากจะย่าภรรยา เพราะเห็นหน้าภรรยาแล้วทุกข์ ไม่มีความสบายใจเลย แต่เขาก็ไม่กล้าบอกตรงๆ
สำหรับผมนั้น การที่จะบอกให้คนย่าล้างกันนั้น ถือว่ามันเป็นบาป ยิ่งมีลูกด้วยกันแล้วไม่สมควรอย่างยิ่ง ผมก้เลยแนะนำไปว่า ไหนๆ ผมก้ได้สอนปฏิบัติธรรมให้มากแล้ว อะไรๆ ก็สอนไปมากแล้ว ลองเสียเวลาปฏิบัติธรรมให้ต่อเนื่องสักระยะหนึ่งก่อน จนจิตมันตื่น แล้วจะได้คำตอบที่แท้จริง สมควร ว่าจะทำอย่างไรดีกับภรรยาของเรา
มันเป็นความจริงครับ เขาสามารถจะเห็นจิตของเขาได้ และสามารถหาคำตอบให้ตัวเองได้ ในทางที่ถุกที่ควร เมื่อจิตมันตื่น คือมีปัญญา มีความรู้สึกตัว(สติ) มากขึ้น ผมไม่ได้แนะนำเกินเลยทั้งสิ้น มันสามารถค้นพบได้ด้วยตัวเอง เพราะผมก็สามารถค้นคำตอบนั้นได้แล้วด้วยการมีสตินี่ละ
สวัสดี
|
|
|
|
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์
รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644
|
|
« ตอบ #5977 เมื่อ: 19 เมษายน 2555, 08:36:12 » |
|
ความกลัว
ความกลัวย่อมเกิดขึ้นและดำรงอยู่
ด้วยความนึกคิด ที่ไม่รู้จริง
เราจะเอาชนะความกลัว
ด้วยการพยายามไม่กลัวนั้นหาได้ไม่
เมื่อความกลัวเกิดขึ้นแล้ว
จงกล้าที่จะค้นให้พบว่าทำไม
ความกลัวเป็นเรื่องเกินความเป็นจริง
เมื่ออยู่กับความเป็นจริงเฉพาะหน้า
ก็ยังไม่มีอะไรต้องกลัว
จงกล้าที่จะเผชิญหน้ากับความกลัว
ความปรารถนาที่จะพ้นความกลัว
เป็นหนทางโน้มเอียงสู่ชีวิตนิรันดร์
“เมื่อเราไม่รู้จริง สิ่งที่เรากลัว ก็คือตัวเราเอง”
สมัยที่พระพุทธองค์ บรรพชาใหม่ๆ อยู่ในป่าคนเดียวกลางคืน มีเสียงต่างๆ เกิดขึ้นจนทำให้พระพุทธองค์กลัวสุดขีด แต่พระพุทธองค์ มีสติได้ตั้งปณิธานขึ้นว่า "ถึงแม้เราจะเกิดความกลัวขึ้นในจิต เราจะไม่ไปไหนทั้งสิ้น ถ้าเรายังไม่สามารถหาสาเหตุในสิ่งนั้นที่ทำให้พระองค์กลัว"
ผมเองปัจจุบันก็กลัว เพราะมันเป็นอารมณ์ที่เกิดขึ้นกับตัวเรา เราบังคับไม่ได้มันเป็นธรรมชาติของจิต แต่ผมจะนึกถึงปณิธาน ของพระพุทธองค์นั้นมาเป็นแบบอย่าง ทำให้ใจสู้เพื่อค้นหาความจริงให้ได้ ความกลัวก็จะคลายไป เพราะมันเป็นเรื่องของจิตเราปรุงแต่งไปเองทั้งนั้น สวัสดี
|
|
|
|
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์
รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644
|
|
« ตอบ #5978 เมื่อ: 19 เมษายน 2555, 19:36:08 » |
|
สวัสดีครับ ชาวซีมะโด่ง ที่รักทุกท่าน
ผมอยู่ที่นครศรีธรรมราชครับ
อยู่ กทม. อากาศร้อนจัด แดดจ้า มาอยู่นครศรีธรรมราช ท้องฟ้ามีเมฆมาก ฝนตกในทะเล โดยพัดมาทางเขาหลวง พอเจออากาศเปลี่ยนแบบนี้ แย่เหมือนกัน ต้องปรับตัวยอมรับสภาพ
วันนี้ทางพนักงานห้องฟิตเนสของโรงแรมมาปรึกษา ขอให้ผมสอนชิกงวันพฤหัสบดี และวันศุกร์สอนโยคะ เพราะมีคนต้องการเรียนมาก และทางฟิตเนสต้องการจัดเป็นกิจกรรมดูแลสุขภาพช่วง 18:00 - 19:00 น. ผมก็ตอบว่ายินดีที่จะเป็นคนสอนให้ ส่วนวันอื่นๆ ที่ผมไม่ได้มานั้น จะเป็นกิจกรรมเต้นแอโรบิก แต่ยังหาคนสอนไม่ได้ สำหรับผมนั้นสอนให้ฟรีๆ เพื่อความสุขตนเองที่ได้สอน
พรุ่งนี้ทางโรงแรมทวินโลตัสจัดรดน้ำท่านประธานฯ และมีการแจกเงิน ๕๐๐ บาท แด่ผู้สูงอายุที่มีอายุมากกว่า ๖๐ ปีทุกคนและเป็นชาวปากพนัง พร้อมทั้งเลี้ยงอาหารกล่อง เป็นกิจกรรมที่จัดมาอย่างต่อเนื่องทุกปี
โรงแรมได้เปิด Fusion Pub ขึ้นมาใหม่ภายหลังปรับปรุงเสร็จเรียบร้อยแล้ว ได้ข่าวว่ามีสาวมานั่งดริ้ง ด้วย ซึ่งสาวพวกนี้หลบภัยมาจากภูเก็ต ผมคงไม่มีโอกาสเข้าไปใช้บริการ ปัจจุบันอยู่แต่ในห้อง และห้องฟิตเนส ชั้น 3 เท่านั้น
สวัสดีครับ
|
|
|
|
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์
รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644
|
|
« ตอบ #5979 เมื่อ: 19 เมษายน 2555, 19:38:32 » |
|
วันที่ ๒๙ เมษายน ดร.สุริยา ทำบุญเพลอุทิศส่วนกุศลให้คุณพ่อ-คุณแม่ ที่วัดทับทัน อุทัยธานี
ใครจะไปบ้างครับ !
|
|
|
|
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์
รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644
|
|
« ตอบ #5980 เมื่อ: 19 เมษายน 2555, 19:44:25 » |
|
คาถาแก้ความกลัว ใช้คาถาง่ายๆ คือสวดมนต์ทำวัตรเย็นก่อนนอน พร้อมทั้งอุทิศส่วนกุศล แผ่เมตตา
กระทำเพียงเท่านี้ ความกลัวที่นอนต่างสถานที่ จะหายไป และหลับสบาย
ราตรีสวัสดิ์ทุกท่านครับ
|
|
|
|
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์
รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644
|
|
« ตอบ #5981 เมื่อ: 20 เมษายน 2555, 11:07:50 » |
|
สวัสดีครับ ชาวซีมะโด่ง ที่รักทุกท่าน
เช้านี้ผมได้รับเชิญจากคุณจักรพรรดิ์ ลีเลิศพันธุ์ กรรมการผู้จัดการโรงแรมทวินโลตัส ให้เข้าร่วมเป็นเกียรติในงานแจกเงินแด่ผู้สูงอายุชาวอำเภอปากพนัง ประจำปี โดยมี ดร.สุนันทา ลีเลิศพันธุ์ (คุณแม่) ประธานโรงแรมทวินโลตัส และท่านผู้ว่าวิโรจน์ ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นประธาน พิธีเริ่มขึ้นเมื่อเวลา 09:00 น.
ปีนี้มีผู้สูงอายุมาร่วมงาน ประมาณ ๕๐๐๐-๖๐๐๐ คน ผู้สูงอายุแต่ละคนจะได้รับเงิน ๕๐๐ บาท สบู่-ยาสีฟันดอกบัวคู่ และข้าวหนึ่งกล่อง ทุกคน เป็นกิจกรรมดีๆ ที่ทาง ดร.บุญกิจ ลีเลิสพันธุ์ ผู้ก่อตั้งโรงแรมทวินโลตัส ได้เป็นผู้ริเริ่มจัดมาทุกปี เนื่องในเทศกาลสงกรานต์ของจังหวัดนครศรีธรรมราช
เป็นกิจกรรมที่ดี คืนกำไรสู่สังคม สร้างสิ่งดีๆ ให้สังคมผู้สูงอายุ นับวันจะถูกลืม (ขอยืมคำของท่านผู้ว่าวิโรจน์)
ปีหน้า คุณจักรพรรดิ์ ลีเลิสพันธุ์ บอกว่าจะเพิ่มทุนการศึกษาให้กับเด็กนักเรียน ผู้ยากไร้ชาวปากพนัง อีกจำนวนหนึ่ง
เชิญชมภาพครับ
|
|
|
|
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์
รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644
|
|
« ตอบ #5982 เมื่อ: 20 เมษายน 2555, 13:55:31 » |
|
คนกับสัตว์
ไม่มีสัตว์ชนิดใดฉลาดกว่าคน
แต่แปลกไหมที่หมาไม่กลัวผี
ไม่มีสัตว์ชนิดใดที่มีความรู้มากกว่าคน
แต่แปลกหนอที่นกไม่เคยบ้า
สัตว์ทั้งหลายไม่กลัวในสิ่งที่มองไม่เห็น
และไม่กลัวในสิ่งที่มิได้เผชิญอยู่เฉพาะหน้า
แปลกแต่จริง คนเรากลับกลัวสิ่งที่ยังไม่เคยเกิดขึ้น
และกลัวมากขึ้นต่อสิ่งที่ตัวเองก็ไม่เคยประสบ
สัตวแทั้งหลายต่างก็รักชีวิต แต่มันไม่กลัวตาย
แปลกนักที่คนมักกลัวความตาย แต่ไม่รักชีวิต
เช่นนี้
คนทั้งหลายเอาสิ่งใดกัน
มาดูถูกสรรพสัตว์ว่าโง่เขลา ต่ำต้อย
|
|
|
|
|
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์
รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644
|
|
« ตอบ #5984 เมื่อ: 21 เมษายน 2555, 13:20:14 » |
|
สวัสดีค่ะ คุณน้องป้อม(ผุสดี) ที่รัก
วันที่ ๓๐ เมษายน พี่สิงห์ ไปเชียงใหม่ นอนที่โรงแรม The Park หนึ่งคืน กลางวันไปทำงานที่ PPS จอมทอง
วันที่ ๑ พฤษภาคม เดินทางไปเชียงราย วันที่ ๑ - ๓ พฤษภาคม อยู่เชียงราย ไปทำงานที่ แม่จัน พาพรรคพวกที่สุรินทร์ไปดูโรงงาน และตีกอล์ฟที่สนามสันติบุรี ไปพบคุณพัชรีที่แม่อาย อาจจะเลยไปพบคุณนา ที่เชียงคำ ถ้ามีเวลาพอ กำลังจัดโปรแกรมกับทางคุณสุธี พนักงาน SIW อยู่
สวัสดีค่ะ
|
|
|
|
pusadee sitthiphong
|
|
« ตอบ #5985 เมื่อ: 21 เมษายน 2555, 13:34:41 » |
|
ตอนเย็น 30 ไปกินข้าวฟังเพลงเพราะๆที่ the sister ใกล้ the park ไม๊คะ
|
pom shi 2516
|
|
|
ทราย 16
|
|
« ตอบ #5986 เมื่อ: 21 เมษายน 2555, 13:45:27 » |
|
กินเผื่อด้วยน่ะป้อม อยากกินน้ำพริกหนุ่ม ข้าวเหนียว ....
|
|
|
|
pusadee sitthiphong
|
|
« ตอบ #5987 เมื่อ: 21 เมษายน 2555, 17:05:07 » |
|
มันน่าจะมีออเดิฟเมืองนิ แต่ถ้าวันไหนได้กินจะกินเผื่อนะ แล้วอย่ามาหาว่านู๋น้ำหนักเกินหล่ะ ทำเพื่อเพื่อนฝูงท้างน๊าน (พี่สิงห์ก็จะหาว่า เราพยายามหาเหตุผลเข้าข้างตัวเองอีกแล้วนะเนี่ย 555)
|
pom shi 2516
|
|
|
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์
รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644
|
|
« ตอบ #5988 เมื่อ: 21 เมษายน 2555, 20:42:15 » |
|
สวัสดีค่ะ คุณน้องป้อม ที่รัก
ขอบคุณมากที่สามารถเข้าใจจิตมนุษย์ได้ แสดงว่าที่พี่สิงห์บ่นไปนั้นได้ผล อย่างน้อยมันก็เป็นเครื่องเตือนใจไว้ก็ยังดี ดีกว่าทำตามจิตตนเองเสมอ ลองหาเวลาดูจิตตนเอง แล้วจะรู้อะไรดีๆ ครับ
พี่สิงห์เอง ลืมไปแล้วเรื่องร้องเพลงคาราโอเกะ ขอห่างไกลดีกว่า หาร้านใหม่ได้ไหม ?
ว่าจะโทรศัพท์ไปหา คุณอ้อมทิพย์ และคุณน้องจุ๋ม เพราะมันหน้าจะเป็นปีกว่าแล้ว ครับ แต่มีข้อแม้ พี่สิงห์ต้องเป็นผู้จ่ายสตางค์ ส่วนพวกเธอและครอบครัวถือว่ามาให้เห็นหน้า เพราะคิดถึง แบบพี่หมอหาญพูด นั้นถูกเสมอ ครับ
ราตรีสวัสดิ์ทุกท่านครับ
|
|
|
|
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์
รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644
|
|
« ตอบ #5989 เมื่อ: 21 เมษายน 2555, 20:44:44 » |
|
เธอจะไปด้วยก็ได้ เรียนเชิญ ช่วงนี้ปิดเทอมแล้ว
|
|
|
|
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์
รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644
|
|
« ตอบ #5990 เมื่อ: 23 เมษายน 2555, 08:04:09 » |
|
สวัสดียามเช้าครับ ชาวซีมะโด่ง ที่รักทุกท่าน
เมื่อวานสี่โมงเย็นได้มีโอกาสไปเดินที่สวนรถไฟ สวนโมกข์ กรุงเทพฯ เป็นครั้งแรก งงครับ ! เพราะไม่เคยไปมาก่อน คนแน่นมาก ที่จอดรถมีไม่เพียงพอ แต่เป็นอะไรๆ ที่ดี ดีกว่าเป็นสนามกอล์ฟแบบเมื่อก่อน ที่จะเป็นสถานที่จำเพาะเฉพาะนักกอล์ฟ เท่านั้น ซึ่งก็มีปริมาณไม่มาก เป็นสถานที่ผู้มีเงินเล่นพนัน ดื่มสุรา เล่นไผ่ ต่างๆ อีกมาก ไม่น่าภิรมย์เลย เมื่อเปรียบเทียบกับปัจจุบัน
เมื่อได้เอามาเป็นสวนสาธารณะ ได้เห็นครอบครัว เอาเสื่อมาปูนั่งพักผ่อน รับประทานอาหารร่วมกัน ออกกำลังกาย ขี่จักรยาน มีกลุ่มปฏิบัติธรรม ต่างๆ นาๆ อีกมาก และมีคนจำนวนมากมาใช้บริการเพื่อสุขภาพที่ดี เป็นสิ่งที่ดีมากครับ
สนามกอล์ฟในเมื่องเช่น สนามกอล์ฟกรมชลประทาน สนามกอล์ฟทหารบาก สนามกอล์ฟทหารอากาศ หน้าที่จะแปลงมาเป็นสวนสาธารณะ ให้ประชาชนได้ใช้บริการแบบสวนสาธารณะรถไฟ ครับ มันจะดีด้วยประการทั้งปวง สว่นสนามกอล์ฟก็ให้ไปอยู่นอกเมือง หรือพื้นที่ที่ไม่ก่อประโยชน์ ซึ่งผู้ที่เล่นกอล์ฟมีสตางค์เพียงพอที่จะไปเล่นได้อยู่แล้ว
ผมมีนัดกับคุณสุนทร ที่ไปผ่ามะเร็งต่อมลูกหมากทิ้งมาแล้ว คุณหมอบรรจบ แห่งบาวารีสอนมาให้ฝึกจิต ออกกำลังกาย คุณสุนทร ยังไม่เชื่อ กระทำบ้าง ไม่กระทำบ้าง ดีที่ยังเดินทุกเช้า ผมเลยนัดเพื่อไปสอนรำมวยจีน โยคะ ปฏิบัติธรรมทางจิต คุยกันตั้งแต่สี่โมงเย็นถึงทุ่มครึ่ง ครับ ทำให้คุณสุนทร ได้เข้าใจชิกง โยคะ มากขึ้น และวิธีที่คุณหมอบรรจบ ให้ปฏิบัติธรรมตามแบบหลวงพ่อเทียน แต่คุณสุนทร ไม่เชื่อ ผมเลยไปย้ำเตือนให้กระทำตามนั้นอีกแรงหนึ่ง ทำให้คุณสุนทร ได้ตาสว่างขึ้นแล้ว
ผมคงต้องสละเวลาไปสอนทั้งชิกง โยคะ การปฏิบัติธรรม และตอบคำถาม บรรยายเพื่อให้ครอบครัวเขากลับมามีความสุขอีกครั้งหนึ่ง ทุกเย็นวันอาทิตย์ที่สวนรถไฟ ชาวซีมะโด่ง ท่านใดจะมาร่วมวงกับผมยินดีครับ บรรยากาศดีด้วย ไม่ต้องอายใครทั้งสิ้น และทุกคนมองเป็นตาเดียวด้วยความสนใจที่อยากมาร่วมวงออกกำลังกายกับผมสองคน แต่ไม่รู้จะทำอย่างไร !
คราวหลังผมจะเอาป้ายไปติดเชิญชวนทุกคนมารำชิกง โยคะ ทุกเย็นวันอาทิตย์ พร้อมทั้งสิ่งที่จะต้องเตรียมคือ อาสนะปูออกกำลังกาย มันเป็นอะไรที่ทำให้ผมทำแล้วมีความสุขที่ได้ทำ ก็อยากจะทำตามจิตมันคิด แต่เป็นประโยชน์ส่วนรวม ครับ
สำหรับเรื่องครอบครัวคุณสุนทร ที่หมดความสุขนั้นต้องให้เวลา ผมได้บอกแนวทางไปแล้ว และจะเล่าให้ทุกท่านได้รับทราบ เพราะว่าเป็นปัญหาโลกแตก ที่พึงเกิดขึ้นกับครอบครัวใดครอบครัวหนึ่งเสมอ แล้วเราจะหาทางออกอย่างไรดี ที่จะนำความสุขของครอบครัวคืนมา
เชิญติดตาม
สวัสดีครับ
|
|
|
|
ทราย 16
|
|
« ตอบ #5991 เมื่อ: 23 เมษายน 2555, 08:07:05 » |
|
ข้อย บ่มีปิดเทอมอ่ะค่ะ ขอให้พี่ทั่นสนุกสนานและเดินทางปลอดภัยน่ะค่ะ
|
|
|
|
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์
รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644
|
|
« ตอบ #5992 เมื่อ: 23 เมษายน 2555, 08:27:21 » |
|
ปัญหาโลกแตก ! ภรรยาคุณสุนทร ได้ไปเป็นลูกศิษย์ของหลวงพ่อเกษม โดยนำสิ่งที่หลวงพ่อสอนนั้น มาบังคับให้สามี ลูกๆ ปฏิบัติตาม ทั้งๆ ที่สามี ลูกๆ รู้ว่าสิ่งที่แม่ ภรรยา บังคับให้ทำนั้น มันไม่หน้าที่จะถูกต้อง เลยทำให้คนในครอบครัวรู้สึกอึดอัด หมดความสุข ที่จะต้องไปกระทำรับรู้ในสิ่งที่ตนไม่ชอบ แต่ก็ต้องจำยอมเพราะถ้าไม่ทำตาม จะมีแต่ทุกข์เสียงว่ากล่าวตักเจือน ดู จนหน้ารำคาญ จะทำอย่างไรดีในเมื่องต้องนอนเตียงเดียวกัน อยู่บ้านเดียวกัน และตอนนี้ภรรยาคุณสุนทร ได้เกษียรอายุเพื่อที่จะปฏิบัติธรรมกับหลวงพ่อ และกำลังไปปลุกบ้านอยู่กับหลวงพ่อ ?
คำถามที่คุณสุนทร ถามผม
๑. หลวงพ่อเกษม และลูกศิษย์ ท่านบอกว่า หลวงพ่อเป็นพระอรหันต์ เห็นนรก เห็นสวรรค์ มาแล้ว
๒. เมื่อรู้แนวทางหลวงพ่อแบบนั้น เราควรจะส่งเสริม(ทำบุญ) ด้วยไหม
๓. พระพุทธเจ้าสอนให้ทำบุญแบบไหน การทำบุญแบบหลวงพ่อเกษม(ตามที่เล่าให้ฟัง) สมควรไหม
๔. การทำบุญแบบหลวงพ่อเกษม นั้นถูกต้องไหม เวรกรรมมีจริงไหม ทำบุญให้กันได้ไหม
๕. การที่หลวงพ่อไม่รับเงิน รับทองนั้น เป็นคุณสมบัติที่ทำให้เป็นพระอรหันต์ พระรับเงินได้ไหม การที่หลวงพ่อเอามือกวาดอาหารที่ญาติโยมเอามาถวายสังฆทานทิ้ง เพราะมันไม่ถุกต้องตามแนวทางของหลวงพ่อ การใช้วาจาที่หยาบโลนของหลวงพ่อ และการกระทำของหลวงพ่อที่โดนชาวบ้านฟ้องศาลที่ไปลบหลู่พระพุทธชินราชจนแพ้ และสั่งให้ศึก นั้น เป็นพระอรหันต์ หรือ
๖. ผมจะต้องนอนเตียงเดียวกับภรรยา กินข้าวด้วยกัน ต้องพิจารณา ปฏิบัติตามแนวทางหลวงพ่อเกษม ผมจะทำอย่างไรดี จะอยู่กันได้ไหม และอยู่อย่างไรให้มีความสุขดังเดิม
และอีกหลายข้อที่ผมลืมไปแล้ว จะเห็นได้ว่า มันเป็นปัญหาโลกแตกจริงๆ สำหรับครอบครัวที่ สามี หรือภรรยา ไปปฏิบัติธรรมมาแล้ว และเอามาบังคับให้คนที่บ้านต้องปฏิบัติและเห็นตามนั้น มันสมควรแล้วหรือ มันผิดหรือถูกหลักศาสนาพุทธที่พระพุทธองค์ทรงสอนแล้วหรือ ?
ผมได้ตอบทุกคำถาม โดยอ้างอิงพุทธพจน์ พระสุตันปิฎก เป็นหลัก ให้คุณสุนทรคิด ว่าใช่หรือไม่ และบอกแนวทางปฏิบัติไปให้ โดยเน้นว่า อะไรที่ทำให้สังคมแตกแยก ไม่ใช่พุทธศาสนาแน่นอน มีแต่พวกตู่คำสอนของพระพุทธองค์ โดยเฉพาะพระสงฆ์ที่มีคนนับถือนี่ละเป็นพวกที่ตู่คำสอนของพระพุทธองค์มากที่สุดในสมัยนี้ คนก็หลงเชื่อสิ่งที่ผิดๆ เป็นผู้ทำลายศาสนาพุทธ ตามที่พระพุทธองค์ได้พยากรเอาไว้ให้แล้ว
มันน่าสนใจหรือไม่ครับ น่าติดตามหรือไม่ ถ้าไม่น่าสนใจก็บอก ผมจะได้ไม่ต้องเสียเวลามาเขียนครับ
สวัสดี ดร.สุริยา ลองตอบแทนผมที !
|
|
|
|
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์
รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644
|
|
« ตอบ #5993 เมื่อ: 23 เมษายน 2555, 09:08:55 » |
|
แม่ของฉัน กับเจ้านายของฉันใครสาคัญกว่ากัน
นำมาจากเวปบอร์ดแห่งหนึ่งครับ ทุกวัน ฉันต้องตื่นเช้า เข้างานแปดโมง วันนี้..ก็เหมือนเคย แต่เมื่อคืนฉันทำงานจนดึก ตื่นสาย.. อารมณ์ตอนนั้น โมโหตัวเองมาก ที่ลืมตั้งนาฟิกาปลุก (โดนเจ้านายด่าแน่ๆ )
แม่มาเคาะประตูห้อง .... “ ตื่นหรือยังลูก หกโมงแล้ว “
ฉันหงุดหงิดมาก ...........
โธ่ !! แล้วทำไมแม่ไม่ปลุกหนูให้เร็วกว่านี้เนี่ย..
หนูไปทำงานไม่ทันแล้ว วันนี้..มีประชุมด้วย < BR>
“ แม่ทำข้าวต้มให้หนูอยู่ เมื่อคืนเห็นนอนดึกอยากให้กินอะไรร้อนๆหน่อย
“ ........ แม่ไม่ต้องมาพูดเลย ไม่กง ไม่กินมันแล้ว
.....แม่จับแขนฉันเบาๆก่อนเดินออกจากห้อง อาบน้ำ แต่งตัวเสร็จ ลงมาข้างล่าง แม่นั่งรออยู่ที่โต๊ะกินข้าว
“ กินข้าวต้มกับแม่ก่อนนะลูกนะ แม่รอหนูอยู่ “
หนูไม่กิน พูดโดยไม่มองหน้าแม่ เดินออกมาจากบ้านทันที
ถึงที่ทำงาน
“ ไม่รู้หรืองัย ว่าวันนี้มีประชุม แล้วรายงานอยู่ไหน “
ยกมือไหว้ .. ขอโทษค่ะพี่ ....รีบส่งรายงานให้อย่างอ่อนน้อมถ่อมตน
“ พี่เลื่อนประชุมไปเป็น 10 โมงนะ เดี๋ยวช่วยไปหาอะไรให้พี่กินหน่อยสิ
“ ... ได้ค่ะพี่ ...
วิ่งเข้าห้องครัว หยิบโจ๊กกึ่งสำเร็จรูป รีบ รีบ รีบ เติมน้ำร้อน ... ว๊า !! น้ำร้อนลวกมือ
มาแล้วค่ะพี่ โจ๊กร้อนๆเลยค่ะ....
ออกจากห้องประชุมเกือบเที่ยง แม่โทรมาจากบ้าน
“ เมื่อเช้า.. หนูวางผ้าเช็ดหน้าไว้ตรงไหนลูก แม่หาในตะกร้าไม่เจอ จะเอาไปซักน่ะ “
หาไม่เจอก็ไม่ต้องซักหรอก หนูจำไม่ได้ คงโยนไว้ที่ไหนน่ะแหละ เมื่อเช้าหนูรีบ .......
“ ไม่เป็นไรลูก แล้วเย็นนี้..กลับกี่โมง มากินข้าวกับแม่นะ”
ยังไม่รู้หรอกแม่ ว่างานเสร็จเมื่อไหร่ ยังงัย..แม่กินไปก่อนเลยแล้วกัน ไม่ต้องรอ .....
วางหูโทรศัพท์ ก้มหน้า ก้มตาทำงาน เอาใจเจ้านาย ....
“เอ!! พี่วางบัญชีรายชื่อลูกค้าทิ้งไว้แถวนี้มั่งรึเปล่า ไม่รู้ไปลืมไว้ที่ไหน หาไม่เจอ..
ไม่เป็นไรค่ะพี่ เดี๋ยวหนูช่วยหา พี่ลงไปทานข้าวเถอะค่ะเที่ยงกว่าแล้วนะคะ
.... หา หา หา หาเท่าไหร่ก็ไม่เจอ
โธ่..พี่ขา ก็พี่มาทำหล่นไว้ใต้เก้าอี้ในห้องประชุมนี่นา
โอย !! เที่ยงครึ่งแล้ว ลงไปกินข้าวไม่ทันแน่ๆ
ไม่เป็นไร..บะหมี่ซักห่อพออิ่มก็แล้วกัน
....พี่คะ เจอแล้วนะคะ พี่ทำหล่น ไว้ที่ห้องประชุมค่ะ
“ อ่าว..เหรอ “ รับเอกสารคืน ไม่มีแม้แต่ขอบใจสักคำ
แต่ฉันกลับปลื้ม ที่ทำให้เจ้านายพอใจได้ ใกล้เลิกงานแล้ว.. รีบกลับบ้านไปนอนดีกว่า
“ ชวยแก้งานตรงนี้ให้พี่หน่อยนะ เสร็จแล้ววางไว้บนโต๊ะพี่เลย พี่กลับก่อนล่ะ
ว่าแต่ว่า เราน่ะมีธุระอะไรรึเปล่า คงต้องกลับช้านิดนึงนะวันนี้ “
... ยิ้มรับ.. ไม่มีธุระอะไรค่ะพี่ เดี๋ยวหนูพิมพ์ให้เลยค่ะ
โทรหาเจ้านายตอนเกือบทุ่ม .. พี่ขา หนูแก้ไข และตรวจทานเรียบร้อยแล้วค่ะ หนูวางไว้บนโต๊ะนะคะ
“ กลับดึกจังลูก จะอาบน้ำก่อน หรือ กินข้าวก่อนล่ะ ?? “
....เงียบไม่มีเสียงตอบ ไม่มีรอยยิ้ม . ..
“ มา มา แม่ช่วย “ แม่ รวบของจากมือฉันไปวางบนโต๊ะ ... หนูเหนื่อยมากเลยแม่ หนูอยากพักผ่อน กำลังจะเดินขึ้นห้อง ...
ฮัลโหล..สวัสดีค่ะ..เจ้านายเหรอคะมีอะไรรึเปล่าคะ ...
เออ !! ไม่ยุ่งค่ะ เดี๋ยวหนูจัดการให้เลยค่ะ กุลี กุจอ เปิดคอมพิวเตอร์
...เจ้านายคะ เรียบร้อยแล้วค่ะ
แม่..หายไปไหน ในครัวไม่มี ห้องนอนไม่มี
. . . แม่นั่งอยู่หลังบ้านเหงา ๆ คนเดียว . . .
แม่แอบร้องไห้ ... เพราะฉันสินะ ฉันทำให้แม่ต้องร้องไห้ แม่..ดูแลฉันมาทั้งชีวิต เป็นห่วงฉัน รักฉันมากกว่าใครๆ
แต่..ฉันตอบแทนได้สาสมเหลือเกิน ฉันเริ่มทบทวน... เจ้านายคนที่ให้เงินเดือนฉัน กับ แม่คนที่ให้ความเป็นคนแก่ฉันเพื่อประจบสอพลอเจ้านาย ฉันทำร้ายผู้ให้กำเนิดได้เพียงนี้เลยหรือ..
แม่ ...หนูขอโทษ
ใคร เคยเป็นแบบฉันบ้าง .............................................................
ใน ชั่วชีวิตของคุณ คุณอาจจะเปลี่ยนงานหลายๆ ครั้ง คุณอาจจะมีเจ้านายนับไม่ถ้วน แต่ตลอดชีวิตของคุณ.....คุณมีแม่มีเพียงคนเดียวครับ คนเดียวจริงๆ ทาดีกับท่านไว้เถอะครับ อย่าทาให้ท่านต้องร้องไห้เพราะการกระทาของคุณเลย....คุณอาจจะรักท่านน้อยลง ทุกๆ วัน แต่ท่านไม่เคยรักคุณลดลงเลย ตรงกันข้ามท่านกลับรักและเป็นห่วงคุณมากขึ้นทุกๆ วัน....
|
|
|
|
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์
รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644
|
|
« ตอบ #5994 เมื่อ: 23 เมษายน 2555, 20:49:30 » |
|
สวัสดียามค่ำ ครับ ชาวซีมะโด่ง ที่รักทุกท่าน
วันนี้ผมไปตีกอล์ฟกับพี่พงษ์ศักดิ์ ประธาน PSTC พร้อมด้วย คุณดิเรก MD ของ PSTC และคุณทรงศักดิ์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาดของ SIW ที่สนามกอล์ฟราชคราม และเย็นได้ไปรับประทานอาหารริมแม่น้ำเจ้าพระยา ไปรับประทานปลาและกุ้งแม่น้ำ ที่อยุธยา มาครับ เนื่องจากลูกๆ ของพี่กุ้ง(ผู้ล่วงลับ) พอเจอหน้าผมก็จะพยายามให้ผมชวนพ่อ(พี่พงษ์ศักดิ์) ไปตีกอล์ฟ เพื่อให้พี่พงษ์ศักดิ์ ได้มีอะไรทำ ไม่ต้องอยู่บ้าน พออยู่บ้านก็จะคิดถึงแต่พี่กุ้ง เพราะว่าถ้าไปกับผมนั้นทุกคนสบายใจ และพี่พงษ์ศักดิ์ ก็อยากไปตีกอล์ฟกับผม ผมเลยต้องแบ่งเวลาไปตีกอล์ฟกับพี่พงษ์ศักดิ์ ทุกอาทิตย์ ครับ
สงสัย ดร.สุริยา งานมากเลยไม่มาตอบคำถามของคุณสุนทร ที่ถามผม และผมตอบไปแล้วให้ทราบและปฏิบัติ เพื่อให้ครอบครัวได้กลับมาสุขอีกครั้ง
พรุ่งนี้ผมก็ยังต้องไปตีกอล์ฟกับพี่พงษ์ศักดิ์ อีกหนึ่งวัน โดยมีคุณผลินเมธ เป็นเจ้าภาพที่สนามกอล์ฟริเวอเดล ปทุมธานี เวลาบ่ายครับ ผมเองถือว่าเป็นการเตรียมความพร้อมให้กับตัวเองไปด้วย เพราะวันที่ ๑๕-๑๘ พฤษภาคม มีรายการแข่งขันกอล์ฟอาชีพ ของสมาคมกอล์ฟอาชีพผู้อาวุโสไทย ที่สนามบลูวัลไฟล์ กาญจนบุรี จึงต้องซ้อมให้มากเข้าไว้
ราตรีสวัสดิ์ทุกท่านครับ
|
|
|
|
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์
รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644
|
|
« ตอบ #5995 เมื่อ: 24 เมษายน 2555, 07:52:41 » |
|
สวัสดียามเช้าครับ ชาวซีมะโด่ง ที่รักทุกท่าน
เช้านี้ผมก็ยังตื่นเช้าขึ้นมาหุงข้าว เดินไปซื้อกับข้าว และใส่บาตรเณร ที่หน้าบ้านเป็นประจำวัน ทุกครั้งที่อยู่บ้าน วันนี้ เมื่อวาน มีเณร มาบิณฑบาตร ๓ องค์ เป็นเณรในโครงการบวชเณรภาคฤดูร้อน หรือช่วงปิดเทอม ของวัดลาดพร้าว ครับเพื่อให้เด็กนักเรียนรอบๆ วัดลาดพร้าวได้ ใกล้ชิดวัด ห่างไกลสิ่งยั่วยุต่างๆ เพื่อจะได้เป็นคนดีของประเทสไทยต่อไปในอนาคต
วันนี้ ๐๙:๐๐ น. ผมมีนัดที่ SIW มีลูกค้าทางจังหวัดสุรินทร์ มาพบผม
บ่ายไปตีกอล์ฟกับพี่พงษ์ศักดิ์ จะทำให้พี่พงษ์ศักดิ์ผ่อนคลาย ห่างไกลบ้าน จะได้มีอะไรทำ ไม่คิดถึงพี่กุ้ง ซึ่งไม่ดีเลยเพราะจะทำให้จิตเกิดการปรุงแต่ง ไม่หยุดและอาจจบด้วยการเป็นมะเร็ง เช่นเดียวกับพี่กุ้งได้ ซึ่งผมเห็นมาหลายคู่แล้ว จึงไม่ปราถนาให้พี่พงษ์ศักดิ์ เป็นเช่นนั้น
และเมื่อวานคุณก้อย ลูกสาวคนเดียวของพี่พงษ์ศักดิ์ และเป็นลูกสาวคนเล็กโทรศัพท์มา ผมจึงขอร้องคุณก้อย ไปว่า อย่าลืม เธอต้องคอยดูแลพ่อในทุกเรื่อง เพราะสมัยแม่เธออยู่นั้น แม่ทำให่พ่อ เธอต้องทำหน้าที่แทนแม่ แม่ที่จากไปจะได้สบายใจ อย่าหวังพึ่งพี่ชายทั้งสองและพี่สะไภ้ จะช่วยดูแลเลย เธอดูแลพ่อ เป็นดีที่สุด และหางานให้พ่อทำด้วยการให้พ่อไปรับ-ส่ง หลานๆ ไปโรงเรียนแทนเธอ จะทำให้ตา-หลานมีความผูกพันธ์กัน และจะเป็นผลดีต่อพ่อเธออย่างมาก อย่าลืมนะ ยกเว้นเรื่องเดียว ห้ามบ่นแบบแม่เท่านั้น
ผมก็ทำได้เท่านี้ ครับ สำหรับครอบครัวที่อุปการะผม ให้งานทำ ให้เงินเดือนผม และมีความผูกพันธ์กันพอสมควร ทั้งครอบครัว
อย่าลืมนะครับ การรักษากาย วาจา ใจ ของเราให้เป็นปกติอยู่เสมอนั้น จะทำให้เรามีแต่สุข สงบ อย่าไปสนใจบุคคลอื่นมาดูแลแทนเราเลย สู้เรารักษา ดูแลของเรานี่ละ เพราะคนอื่นดูแลเราไม่ได้ สังคมรอบข้างจะมีแต่สงบ
ใครทำอะไร ที่เราไม่ชอบใจ ก็จงปล่อยเขาไป อย่าไปคิดตามทั้งสิ้น คอยสำรวมกาย วาจา ใจ ของเราอยู่เป็นนิจ นี่เป็นหนทางแห่งพระพุทธองค์ที่ทรงสอนให้ปฏิบัติ
สวัสดีครับ
|
|
|
|
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์
รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644
|
|
« ตอบ #5996 เมื่อ: 24 เมษายน 2555, 07:55:22 » |
|
บันทึกสุดท้ายของ ดร.อภิวัฒน์ วัฒนางกูร
จากนิตยสารรายเดือน จีเอ็ม ฉบับเดือน พฤษภาคม 2549 หนา232- 233 1)ตอนที่ผมไปเรียนตอตางประเทศ เราจะกลัวไปหมดทุกเรื่อง แตคุณแม เขียนจดหมายมาสอนผมวา อยากลัวในสิ่งที่มองไมเห็น เพราะถาเราไปตั้งทากลัวเสียกอน มันก็จะไม เกิดสติปใญญาที่จะไปแกไข ปใญหา สูเราทำตัวสบาย ๆ แลวแกไขปใญหาไปตามธรรมชาติจะดีกวา 2)คนไทยเราเรียนปริญญาโทเพราะคิดวาเรียน ๆ ไปเถอะ เราแยกเอา การเรียนรูและชีวิตออกจาก กัน เชื่อแตวาพอจบการศึกษาแลวคอยใชชีวิต แตในตางประเทศการ เรียนรูเป็นการกระทำที่ตอเนื่อง มันเป็นสิ่งที่เคียงคูกับการใชชีวิต 3)คุณพอ-คุณแมผมเป็นคนที่เชื่อมั่นในการศึกษา การศึกษาเป็นสิ่งที่ไม สามารถมีใครขโมยไปได การ ศึกษาเป็นทรัพยแสินที่ตอเนื่อง คุณพอ-คุณแมจึงพยายามทุกวิถีทางให ผมมีการศึกษาที่ดี ยอมขายที่นาเพื่อ ใหสามารถสงเสียผมไปเรียนได ทุกครั้งที่เห็นเด็กไมสนใจการเรียน ผมจะ รูสึกเศราใจมาก ๆ หากมี โอกาสไดทำบุญ ผมจะเลือกทำบุญกับโอกาสทางการศึกษาของเด็ก 4)การที่คนเราจะมองหาจุดมุงหมายของชีวิตใหเจอ มันเกิดขึ้นตาง รูปแบบกัน ตองถามตัวเองวาอะไร Page 30 of 247 คือสิ่งที่เราอยากจะทำที่สุดในชีวิตกันแน ผมเชื่อวาทุกคนตองหาใหเจอ ไมชาก็เร็ว เราจะไดมีพลังขับ เคลื่อนใหไปถึงจุดมุงหมาย 5)ผมคร่ำเครงกับการเรียนเพราะเป็นสิ่งที่เราไปอยูตรงนั้นเพื่อที่จะทำมัน เราไมไดไปอเมริกาเพื่อ ทองเที่ยว เราไปเพื่อศึกษา อยาลืมวาผมทำงานไปดวย เพราะฉะนั้นผม ไมไดพลาดโอกาสที่จะเรียนรู ชีวิตในอีกแบบหนึ่ง ในขณะเดียวกันผมก็ไมพลาดโอกาสที่จะเปิดหูเปิดตา ไปทองเที่ยว ผมคิดวาชีวิตผม คอนขางจะรอบดาน ไดศึ่กษาทั้งวิชาการและทำงานแบบผูใชแรงงาน 6)มองยอนหลับไป ผมจะเลือกเงินหรือชีวิตเหรอ? ก็ผมนี่ไง ผมเป็น ตัวอยางของคนที่มุงหนาหาเงิน เพราะวาผมมีแผนการในชีวิตมากมายที่ตองสรางสมเอาไวเพื่อครอบครัว มันไมถึงกับลืมใชชีวิตหรอก แตไมคอยไดมีโอกาสใชชีวิตมากกวา ที่สุดแลวมันก็นำพาซึ่งความ เจ็บปุวย ที่สุดแลวผมก็หาเงินตามจุด มุงหมายไดไมมากเทาที่ควร เราบอกวาเราจะทำงานสัก 20 ปี แตวา โอกาสของเรามีแค 10 ปี เพราะหลังจากที่ตรากตรำทำงานมาหนัก รางกายบอกวามันทำไดแคนี้ เพราะฉะนั้นก็ลงเอยดวยการที่ ไปไมถึงฝใ่งฝใน 7)ถายอนเวลากลับไปได ผมคงเลือกทั้งเงินและชีวิต เพราะวาเราปฏิเสธ ไมไดวาเงินก็ยังเป็นสิ่งที่ หลอเลี้ยงชีวิต แตวามันไมใชสรณะ ผมเลือกที่จะกระจายการทำงาน กระจายความทุมเทนั้นออกไป Page 31 of 247 เพื่อใหสามารถทำงานไดนานมากขึ้น และตัวผมเองสามารถที่จะมีชีวิตอยู ตอไปไดนาน ๆ 8)ความทรงจำที่มีคามากสำหรับผม มักเกิดขึ้นในชวงเวลาเล็ก ๆ ที่ผม อยูกับตัวเอง 9)ผมเคยเขียนการแดเล็ก ๆ ใหภรรยา สรุปความไดวา เวลาที่คนสองคน เดินไปบนชายหาด ตอนที่เรา หันกลับมามองก็จะเห็นเป็นรอยเทาเล็ก ๆ 2 คู เดินไปเดินมา ทำไมเรา จึงเห็นรอยเทาเหลืออยูแคคู เดียวละ อีกคนหนึ่งหายไปไหนหรือ คำตอบคือไมมีใครหายไปไหนหรอก แตอีกคนกำลังอุมอีกคนหนึ่งเอา ไว ผมหมายถึงตัวผมอุมเขาอยู เป็นคำมั่นสัญญาวาผมจะดูแลเขาไป จนกวาชีวิตจะหาไม 10)ครั้งหนึ่งที่ผมฟใงดุริยมนตราซึ่งเป็นเสียงสวดมนตแที่ประกอบไปกับ ดนตรี ผมฟใงแลวผมรองไหมาก แลว กอกกับตัวเองวาถาชีวิตผมจะหาไมจริง ๆ ดวยอาการเจ็บปุวยนี้ ผม อยากจะบอกคุณพอกับคุณแมวา ผม ไดคุณพอกับคุณแมที่ประเสริฐที่สุด ไมใชแคเลี้ยงดูสั่งสอนใหแนวทาง ชีวิตในยามที่ผมปกติดีอยู แตในยาม เจ็บปุวยคุณพอ-คุณแมไมเคยหาง มาหาผมที่โรงพยาบาลทุกวัน อยาก ใหทานไดรูวาผมมีคุณพอ-คุณแมที่ผม ไมสามารถเรียกรองหาไดดีกวานี้จากที่ไหน 11)ในความเป็นพอ ผมใหคะแนนความพยายามมากกวาผลสัมฤทธิ์ที่ เกิดขึ้น ผมคิดวาคะแนนความ Page 32 of 247 พยายามของผมที่80 มันไมเต็มรอยหรอกครับเพราะมีขอจำกัดเรื่องเวลา แตลูก ๆ มีแกนกลางคือเขามี แมที่ดี เพราะฉะนั้นลูก ๆ จะไมเคยรูสึกวาขาดพอ เพราะวาแมทดแทนได หมด แมไมใชเพียงแคคนที่ พยายามรักษาความสมดุลในครอบครัว แตเขาเป็นศูนยแกลางของ จักรวาลในครอบครัวเรา นี่ไมใชการ ถอมตน แตเป็นการพูดในความรูสึกที่แทจริง เขาเป็นดวงใจของเราทุก คน ใหกลับกัน ผมไมเชื่อดวย ซ้ำวาผมทำได เพราะวาผมอาจจะถนัดเรื่องจัดหามากกวาการดูแล ใคร อยากไดอะไรผมจะหามาให ขอแคใหรูเถอะไมตองเอยปากหรอกผมจะไปหามาให 12)ชีวิตผมไมมีอะไรนอกจากบริษัท เจเอสแอลและครอบครัว ผมมีแคนี้ ผมไมมีอยางอื่นอีกแลว 13)การเป็นพอเป็นเรื่องของธรรมชาติ ไมตองใชอะไรเป็นพิเศษ ไป มากกวาความรักทั้งหมด ผมเคย เซ็นหนังสือใหลูกวา”สำหรับนองเพชร ดวยความรักทั้งหมดในหัวใจพอ” ถาคุณรักลูก คุณก็พรอมที่จะทำทุก อยางกับเขา และตรงนี้ตางหากที่เพิ่มเติมมาดวยสติปใญญา พรอมจะ ทำทุกอยางเพื่อที่จะมีเวลาอยูดวย กัน เรียนรูถึงความตองการและความฝในของเขา แตบางครั้งลูกก็ไมได อยากอยูกับเราเสมอไป เขา อาจจะมีธุระอื่น ฉะนั้นความรักและความเขาใจจะตองมาเป็นอันดับตน เลย เราตองพยายามหาหน ทางละมุนละไมที่จะโอบแขนของเขาเขาไปอยูในชีวิตของเขาใหได Page 33 of 247 14)ผมไมขอเปรียบเทียบชีวิตการเป็นพิธีกรของผมกับคนอื่น ๆ ตอนที่ ทำรายการจันทรแกะพริบใหม ๆ ผม จบดอกเตอรแมา มันยิ่งสรางความคาดหวังวาจะทำอะไรดี ๆ ไดอีกเยอะ ตองศึกษาหาความรูเยอะ อานประวัติของแขกรับเชิญมาลวงหนาซึ่งจะทำใหเราไมรูสึกหางไกลจาก เขา รายการจันทรแกะพริบเป็น งานที่ยาก ผมใชเวลากวา ๒ ปีจึงจะหาตัวเองพบ ตองยอมรับอยางหนึ่ง วาการเป็นพิธีกรมันคือการ แสดง ในเมื่อมันคือกาแสดง อะไรละคือบุคลิกภาพจริง ๆของเรา เวลาที่ เราขอคำแนะนำจากใคร 10 คน เราจะไดคำตอบ 10 อยาง เพราะฉะนั้นผมเลยคิดวาที่สุดแลวผมเชื่อ ตัวเองอีกวา ผมไมใชคน ถามจาบจวงหรืออยากใหเฮฮากวานี้ ผมวาไมใชผม ผมเป็นคนที่ใหเกียรติ คน เป็นคนที่มีบุคลิกพูดงาย ๆ วานุมนิ่มบางทีมันเป็นจุดออน แตเราตองพัฒนาใหเป็นจุดแข็งใหได เอา ความออนโยนมาเป็นเสนหแ เอาความนุมนิ่มมาเป็นวิธีการถามคำถามทำใหเกิดความอบอุนขึ้น 15)ครั้งแรกที่ผมสัมภาษณแ ทอดดแ ทองดี เขาบอกวายูรูไหม วาการที่ยืน อยูดวยกันบนเวที มันมีไออุนของ คนที่อยูใกลกัน เขาไมรูสึกอบอุนแบบนี้กับใครเทาที่ยืนอยูใกลผม ผมมี ความรูสึกวานั่นแหละคือการที่เรา หาตัวเองเจอ ธรรมชาติของผมคือเป็นผูชายที่อบอุนนั่นเอง 16)ทุกวันนี้ผมดูทีวีไดไมนาน เพราะวาเสียงมันดังเกินไป รายการ โทรทัศนแนาจะมีความนุมนวลแลวคอย ทะยานขึ้นไปถึงความตื่นเตน แตทุกวันนี้มันมีแตความเปรี้ยงปราง อาจ เป็นเพราะวาการแขงขันมันสูง Page 34 of 247 พิธีกรตองขุดมุกมาใชเพื่อใหไดชื่อวาสามารถสรางเสียงฮาไดตลอดเวลา ซึ่งผมคงสอบตกในกรณีนี้ แต ผมเชื่อวาความแพรวพราวมันมีไดหลายลักษณะ เชนยิงคำถามแพรว พราวก็ได หรือบางทีเขาตอบอะไร มา เราอาจจะแสดงความคิดเห็นอะไรกลับไป เป็นความแพรวพราวตรง นี้ก็ได ไมจำเป็นตองมีมุก ตลอดเวลา 17)การเป็นพิธีกรคือโอาสที่ไดเรียนรูชีวิตของคน ไดแบบเรียนชีวิตโดยไม ตองซื้อหามา เป็น ประสบการณแล้ำคาที่ไมมีอะไรทดแทนได ผมเรียนรูชีวิตของชีวิตของ ผูอื่น ผมไดคนพบวาชีวิตไมมีความแน นอน เราตองใชชีวิตอยางระมัดระวัง ชีวิตเป็นสิ่งที่มีคาและในยามที่เรา ยังมีลมหายใจอยู เรานาจะ ไดใชโอกาสนั้นทำความดี เป็นสิ่งที่เราจะทิ้งไวในโลกนี้ มันเป็นมรดกของ มนุษยชาติอยางหนึ่งและคนอื่น อาจจะเรียนรูไดในภายหลัง 18)การมีชีวิตอยูเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญมาก เราทำใหหวงชีวิตเป็นอะไรก็ได เป็นหนึ่งชีวิตที่เต็มไปดวยคุณคา หรือเราทำหนึ่งชีวิตของเราใหเป็นหนึ่งชีวิตที่สรางความทุกขแใจใหกับใคร สักคนหนึ่งไปตลอดชีวิตก็ได ความยิ่งใหญของชีวิตอยูที่วาเราจะเลือกใชชีวิตอยางไร 19)ผมไมรูวาจำนวนของคนที่เห็นแกตัวบนโลกนี้มีเทาไหร แตผมวา ความเห็นแกตัวมันเกิดขึ้นไดกับทุก ๆ คนแหละ มันคือการชั่งน้ำหนักในสิ่งที่เราจะทำ จริง ๆ แลวก็คง เหมือนกับที่เขาพูดกันวา ไมตองเป็น Page 35 of 247 คนดีเทาไหรหรอก ขอแคเป็นคนเลวนอยที่สุดก็พอแลว 20)ความกตัญโูรูคุณคนเป็นสิ่งที่ผมยึดถือเป็นหลักประจำใจ คนเราถา ไมรูจักรูพระคุณคน มันทำใหเรา หลงลืมไปวาเรามีชีวิตอยูทุกวันไดเพราะอะไร คนที่เขาใหเรามาบางทีเขา ไมไดจดจำเพราะมั่นเป็น การใหที่แทจริง แตการที่เราไดรับนั้นหมายถึงการไดสวนบุญที่ดีมา มัน เปลี่ยนชีวิตเรามากเพียงพอที่ เราควรจะจดจำวาเรามาถึงฝใ่งฝในนี้ไดอางไร มีใครบางที่ชวยพยุงเรา ขณะ ที่เราวายน้ำขามมหาสมุทรมา การระลึกถึงพระคุณของคนเป็นสิ่งที่ มนุษยแประเสริฐเขาทำกัน 21)คนที่เป็นผูให ในชีวิตผมมีมากและผมไมมีวันที่จะลืมไดเลย ภรรยาผม เขาไมเคยนึกถึงตัวเองเลย เขานึกถึงแตวาทำอยางไรสามีเขาจึงจะหาย ผมเรียนเรื่องธรรมชาติ บำบัด ผมรูสึกเอาเองวาผมรับ พลังดี ๆ จากธรรมชาติมาเยอะ เรียนรูที่จะรับพลังธรรมชาติจากตนไม ใบหญา ผมรับรูถึงความ ปรารถนาดี ความหวังดีของคนจำนวนมาก คนเหลานี้เป็นคนที่ผมไมมี วันลืมไปจากชีวิตนี้ แลวก็ขอเจอ กันทุกชาติไป ผมคิดวาถาผมจะหาย ก็ไดดวยพลังรักที่เขามีตอผม 22)ทุกวันนี้ผมมองทุกอยางดวยสายตาเป็นกลางมากขึ้น ผมมองวาถา มันจะเป็นความรูสึกที่สุด ผมก็จะไม ดีใจจนเกินเหตุ หรือถามันจะทุกขแนัก ผมก็จะไมทุกขแมาก ผมจะอยูตรง กลางดวยความหวังวา วันของ Page 36 of 247 เราจะตองมาถึง เราไดฟใงเรื่องมหัศจรรยแที่เกิดขึ้นกับคนหลายคนที่เป็น มะเร็ง ใจผมก็อยากใหสิ่งนี้เกิด ขึ้นกับผมบาง เมื่อไหรปฏิหาริยแจะเกิดขึ้นกับผมสักที ผมทอแทบาง แต ผมไมยอมแพพาย ทำไมยังเจ็บปวด เศรา ทุกขเวทนาอยูเรื่อย แตผมปฏิเสธ ที่จะตายไปกับโรคนี้ 23)ผมเสียใจอยูตลอดมาที่มีเวลาใหกับครอบครัวนอยเกินไป อยากบอก ลูกวา ถาพอเลือกได พอคงอยู บานใหมากกวานี้
|
|
|
|
อ้อย17
|
|
« ตอบ #5997 เมื่อ: 24 เมษายน 2555, 08:12:07 » |
|
พี่สิงห์คะ...
ทำไมเรื่องอ.อภิวัฒน์ สระมันเป็นสี่เหลี่ยมหมดเลยคะ..อ่านยากกกมากกกกค่ะ
|
|
|
|
Dtoy16
Hero Cmadong Member
ออฟไลน์
รุ่น: rcu2516
คณะ: อักษรศาสตร์
กระทู้: 1,424
|
|
« ตอบ #5998 เมื่อ: 24 เมษายน 2555, 09:51:21 » |
|
เป็นเหมือนปริศนาธรรมน่ะน้องอ้อย พี่สิงห์ค่ะ พอนึกถึงคำนี้(ปริศนาธรรม)และสวนรถไฟ สวนโมกข์ ต้อยเองก็เพิ่ง ไปเป็นครั้งแรกได้ยินแต่ชื่อ พอลูกสาวชวนไปรู้จักแนวทางปฎิบัติของท่านติช นัท ก็นัดให้ไปเจอที่นั้น ความที่รู้คร่าวๆว่าอยู่โซนสวนรถไฟพอเห็นป้ายก็เดินเข้าไป ถามคนทำสวน พอชี้ทาง เดินไปเจอสนามเทนนิส ถามอีก ถามหนุ่มเด็กว่า สวนโมกข์อยู่ไหน หนุ่มใหญ่ตอบแทนว่า "เดินตรงไปอย่างเดียว แต่ ถ้ายังมีกิเลสอยู่ก็หาไม่เจอหรอก" เอ้อ ตอบกวนดีจริง 5 ชั่วโมงที่นั่นก็ได้ฝึกสติเป็นหลักมีธรรมะบรรยายศีลห้า ที่ชอบสุดคงเป็น กิจกรรม นอนอย่างมีสติค่ะเพราะหลับสนิทเลยค่ะ
|
|
|
|
อ้อย17
|
|
« ตอบ #5999 เมื่อ: 24 เมษายน 2555, 15:41:28 » |
|
พี่ต้อยคะ... น่าอิจฉาจริง มีลูกสาวน่ารัก พาแม่ไปปฏิบัติธรรมด้วย อ้อยยังไม่เคยไปเลยนะสวนโมกข์กรุงเทพฯน่ะ..ใกล้เกลือกินด่างแท้ๆเลย...ฮือฮือ......
|
|
|
|
|