02 กรกฎาคม 2567, 11:59:39
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: 1 ... 182 183 [184] 185 186 ... 681   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: คุย กับ คุณมานพ กลับดี อดีตประธานชมรม ๓ สมัย  (อ่าน 3341096 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 22 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
pusadee sitthiphong
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

คณะ: พาณิชยศาสตร์และการบัญชี
กระทู้: 4,689

« ตอบ #4575 เมื่อ: 07 ธันวาคม 2554, 21:12:01 »

อ้างถึง
ข้อความของ Manop  Klabdee เมื่อ 07 ธันวาคม 2554, 20:44:35
อ้างถึง
ข้อความของ pusadee sitthiphong เมื่อ 07 ธันวาคม 2554, 20:29:50
พี่ป๋องคะ ราเมศวร เป็นไงมั่ง ไม่ยอมอพยพเลย

สวัสดีค่ะ คุณน้องป้อมที่รัก

            เธอสบายดีหรือเปล่า ไปเที่ยวงานพืชสวนมาหรือยัง ครับ พี่สิงห์ว่าจะไปเดือนมกราคม ครับ

            สวัสดี


สวัสดีค่ะ
ตัวเองสบายดีค่ะ แต่คุณสามีไม่ค่อยสบาย ตกกะไดบ้านแขนซ้ายหักค่ะ สาเหตุจากจะขึ้นไปปิดบันไดขึ้นบ้านเพื่อเปิดแอร์ ประตูหลุดมือเสียหลักตกลงมา 7-8 ขั้น โชคดีไม่เอาหัวลงและก้นกระแทกพื้น เขาว่าถ้าเป็น 2 อย่างนั่นต้องแย่แน่ๆเลย คุณหมอเลยผ่าตัดเอาเหล็กดามให้ แล้วให้เหล็กอยู่ด้วยไปตลอดชีวิตไม่ผ่าออกเพราะอายุมากแล้ว
กลางวันนี้ไปเดินเที่ยวในม.แม่โจ้กับอ้อมมาค่ะ อ้อมเลี้ยงไอติมชาคริต เอาปฏิทินหอเราไปให้อ้อมและฝากให้น้องว่านด้วย อ้อมก็สบายดีค่ะ ถามถึงพี่สิงห์อยู่ ว่าข่าวว่าบ้านพี่สิงห์น้ำท่วม
พืชสวนโลกยังไม่ได้ไปค่ะ น้องแจงน้องไมน้องกรรณะก็ชวนไปตอนเอาเสื้อกับปฏิทินมาให้ แต่ป้อมไม่ว่างต้องอยู่โรงพยาบาล คนอื่นเขาว่าเหมือนๆคราวที่แล้ว ถ้าไปก่อนเปิดงานก็จะไม่ได้ดูครบถ้วน รายการแสดงก็ไม่มี พี่อี๊ดสุภาณีก็อยากไปดูก่อนค่ะ ป้อมยังไม่ได้คุยกับพี่เขาเลย
      บันทึกการเข้า

pom shi 2516
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #4576 เมื่อ: 08 ธันวาคม 2554, 11:20:50 »


สวัสดีครับ ชาวซีมะโด่ง ที่รักทุกท่าน

              เรียนเชิญทุกท่านไปร่วมงานศพ คุณพ่อ ของ ดร.กุศล  อิสดุลย์ ที่วัดพระศรีมหาธาตุฯ บางเขน ศาลาธนาคารทหารไทย (ศาลา ๑)

              วันพฤหัสบดีที่ ๘ ธันวาคม
                               มีพิธีรดน้ำศพ เวลา ๑๘:๓๐ น. ณ ศาลาธนาคารทหารไทย
                               สวดพระอภิธรรม เวลา ๑๙:๐๐ น.  ณ ศาลาธนาคารทหารไทย(เฉพาะ วันนี้)

              วันศุกร์ที่ ๙ ธันวาคม
                               สวดพระอภิธรรม เวลา ๑๘:๓๐ น.  ณ ศาลาธนาคารทหารไทย

              วันเสาร์ที่ ๑๐ ธันวาคม
                               งดการสวดพระอภิธรรม (ทางวัดปิด วันรัฐธรรมนูญ)

              วันอาทิตย์ที่ ๑๑ ธันวาคม
                               ชมรมนิสิตเก่าหอพักนิสิต จุฬาฯ เป็นเจ้าภาพ เรียนเชิญชาวซีมะโด่งทุกท่านไปร่วมไว้อาลัย ครับ
                               สวดพระอภิธรรม เวลา ๑๘:๓๐ น.


               วันจันทร์ที่ ๑๒ ธันวาคม
                              ๑๐:๐๐ น. มีพิธีทำบุญอุทิศส่วนกุศลถวายภัตตาหารเพล พระสวดบังสุกุล
                              ๑๓:๐๐ น. พระราชทานเพลิงศพ

                              จึงแจ้งมาให้ทราบ และ ดร.กุศล เรียนเชิญทุกท่าน ครับ

                              สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #4577 เมื่อ: 08 ธันวาคม 2554, 11:35:53 »


                
                - ขอแสดงความเสียใจกับ ดร.กุศล  อิสดุลย์ ที่ต้องสูญเสียคุณพ่อไป แบบไม่มีวันกลับ

                - ผมไม่อยากโทษ รพ.กลาง กทม. ที่ไม่ยอมให้ คุณพ่อ ของ ดร.กุศล  พักรักษาตัว ด้วยข้ออ้างที่ว่าน้ำท้วม  คนไข้แยะ ยังมีผู้ที่เดือดร้อนกว่า และอย่าเป็นคนเห็นแก่ตัวในสภาวะน้ำท้วมวิกฤต (หัวหน้าพยาบาล พูด กับพี่สาว ดร.กุศล เพื่อให้เอาพ่ออกจากโรงพยาบาลให้ได้ จนต้องพาท่านไปอยู่ที่โรงพยาบาลพานทอง ชลบุรี)

                - คุณพ่อ ดร.กุศล  ไปพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลพานทอง ชลบุรี ตั้งแต่ช่วงน้ำท้วม กทม. ต้องให้อาหารทางสายยาง  ช่วยตัวเองไม่ได้

                - วันนี้ผมต้องเดินทางไปนครศรีธรรมราช Boarding 14:15 น. แต่ผมอยากจะไปรดน้ำศพคุณพ่อ ของดร.กุศล  ทาง Nok Air ไม่ยอมเปลี่ยนตั๋วโดยสารให้ เพราะไม่มีกฏบอกไว้ ผมจึงต้องทิ้งตั๋วใบนั้น และซื้อใหม่ไปนครศรีธรรมราชวันศุกร์ แทนครับ

                - วันนี้ถ้าทุกท่านว่าง เรียนเชิญไปรดน้ำศพ และฟังพระสวดพระอภิธรรม คุณพ่อ ดร.กุศล ด้วยกันครับ

                  สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #4578 เมื่อ: 08 ธันวาคม 2554, 12:28:04 »


การพลัดพรากจากสิ่งที่รักเป็นทุกข์
             
               การพลัดพรากจากสิ่งที่เป็นที่รัก เป็นทุกข์ เป็นทุกข์ข้อที่เจ็ดที่พระพุทธองค์ทรงสั่งสอน ให้พุทธศาสนิกชนพึงกำหนดรู้เกี่ยวกับทุกข์ (ทุกข์คือ ความไม่สะบายกาย ความไม่สะบายใจ) และหมั่นพิจารณากำหนดไว้ในจิตเสมอ จะได้รู้เท่าทันจิต และอยู่ด้วยความไม่ประมาท

                ทุกข์ นั้น พระพุทธองค์ทรงแสดงไว้ มีสาเหตุมาจาก

                       ๑. การเกิด ก็เป็นทุกข์
                       ๒. การแก่ หรือเจริญวัยขึ้นไปจนแก่เฒ่า ก็เป็นทุกข์
                       ๓. การเจ็บไข้ได้ป่วย เป็นโรค ก็เป็นทุกข์
                       ๔. การตายก็เป็นทุกข์
                       ๕. ปราถนาสิ่งใด ไม่ได้สิ่งนั้น ก็เป็นทุกข์
                       ๖. ประสพกับสิ่งที่ไม่รัก ไม่ชอบ ก็เป็นทุกข์
                       ๗. พลัดพรากจากสิ่งที่รักที่ชอบ ก็เป็นทุกข์

                พระพุทธองค์ทรงสอนให้เรารู้เท่าทันทุกข์ทั้ง ๗ ประการนี้ เพื่อว่าตัวของเราจะได้ไม่ตกเป็นทุกข์เสียเอง โดยไม่รู้ตัว เมื่อเราพิจารณาอยู่เนื่องๆ เราจะอยู่ด้วยความไม่ประมาท และทุกข์ที่เราประสพนั้น จะไม่ทำให้เราเกิดทุกข์ ขอเพียงเรามีสติ-สัมปะชัญญะ เท่านั้น เราจะพ้นทุกข์นั้นด้วยปัญญาของเราเอง

                ร่างกายมนุษย์นั้น พระพุทธองค์ทรงสอนว่า ประกอบไปด้วย รูปและนาม

                รูป นั้น ประกอบไปด้วย ธาตุดิน ธาตุลม ธาตุน้ำ และธาตุไฟ มาประชุมพร้อมกันเป็นร่างกายที่มีรูปร่างหน้าตาอย่างนี้ ที่สมมติว่าเรียกมนุษย์

                นาม นั้น คือส่วนประกอบของมนุษย์ที่ไม่มีตัวไม่มีตน เป็นเรื่องของการรับรู้ รู้สึกได้ คิด นึก ตรึก ตรอง ประกอบไปด้วย เวทนา(รู้สึก) สัญญา (จำได้หมายรู้) สังขาร(คิด นึก) วิญญาณ (รับรู้หรือสัมผัสได้ทางอายตนะ ๖ คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ)

                รูปหรือร่างกายมนุษย์นั้น พระพุทธองค์ท่านให้คิดเสมือนว่าเต็มไปด้วย "โรค" คือ โรคทางกายที่เกิดขึ้น และจิตที่คิดแต่หาทุกข์มาใส่ตนอยู่เสมอ คือความไม่สะบายกาย ความไม่สะบายใจ เมื่อเราคิดว่ามันมีแต่โรค จะทำให้เราไม่ไปยึดมั่นว่านี่ตัวเรา นี่ของๆเรา เมื่อเราไม่ยึดมั่นจิตเราจะสามารถคลายความกำหนัด คือความอยากมี-อยากเป็น จะเบาบางลงๆ ไปเรือยๆ จดหมดไปเอง

                นอกจากนี้คนเราเมื่อเกิดเป็นมนุษย์แล้ว ต้องยึดหลัก มรรค ๘ หรือก็คือ ศีล สมาธิ ปัญญา นั่นเอง ในการดำรงชีวิตเอาไว้ให้มั่น จะทำให้เราอยู่ในสังคมโลก อย่างผาสุขต่อตัวเราเอง ครอบครัว และเพื่อนในสังคม ในทางตรงกันข้ามถ้าเราไม่ยึดมรรค ๘ หรือศีล สมาธิ ปัญญา เราจะไม่มีมิตรสหาย ครอบครัว ตัวเราเอง สังคมรอบข้าง จะมีแต่ทุกข์เกิดขึ้น สังคมเดือดร้อน พอตายไปไม่มีใครมาเหลียวแล ปล่อยให้เป็นไปอย่างซากสัตว์เดรฉาร ที่เราพบเห็นตามข้างถนน

                ในทางตรงกันข้ามยามมีชีวิต ดำรงตนอยู่ด้วย ศีล  สมาธิ  ปัญญา หรือ มรรค มีองค์ ๘ จะมีแต่ความผาสุข เจริญในทุกสิ่ง บุตร-หลานก็สุขมีหน้าที่การงารดำรงชีวิตอยู่ใน มรรค ๘ ตายไปก็มีคนมาระลึกถึงเสมอ ถึงกุศล ความดี ความประพฤติของบุตร ที่ผู้ตายได้กระทำเอาไว้
              
                มรรคองค์ ๘ ประกอบด้วย

                  - สัมมาทิฏฐิ                 มีความเห็นชอบตามอริยสัจ ๔
                  - สัมมากังกัปปะ            มีความคิดชอบ
                  - สัมมาวาจามะ             มีวาจาชอบ
                  - สัมมากัมมันตะ            มีการกระทำชอบ
                  - สัมมาอาชีวะ              มีอาชีพและประกอบอาชีพชอบ
                  - สัมมาวายามะ             มีความเพียรชอบ
                  - สัมมาสติ                   มีความรู้สึกตัวอยู่เป็นนิจ
                  - สัมมาสมาธิ                มีความตั้งใจมั่นชอบ
          

                คุณพ่อ ของ ดร.กุศล  รับราชการอยู่กรมป่าไม้ จนเกษียรอายุราชการ ท่านทำงานด้วยความสุจริต สั่งสอน อบรม ลูกๆ ส่งให้เรียนหนังสิอ จนลูกๆได้ดีทุกคน ท่านจากไปด้วยดี ตอนน้ำท้วม กทม. ท่านรู้ว่าลูกๆ จะลำบาก ท่านก็มีชีวิตอยู่ต่อไปเพื่อลูกๆ แต่พอน้ำลดลงแล้ว ท่านก็จากไปด้วยอาการสงบ สมควรแก่อัตภาพที่สักวันจะต้องจากไป

            ท่านเป็นคนมีบุญ ที่ลูกๆไม่เคยทอดทิ้ง มีความอบอุ่น และ ท่านก็ภูมิใจในตัวลูกๆของท่านทุกคน (ท่านเล่าให้ผมฟัง ด้วยความภูมิใจ ผมเองเคยอุ้มท่านลงจากเตียงมาขึ้นรถเข็น เมื่อกลางปีที่ผ่านมา) ขอให้ดวงวิญญาณของท่านจากไปด้วยจิตที่สงบไปสู่สรวงสวรรค์ เทอญ

                ผมจึงขอเรียนเชิญทุกท่านไปร่วมไว้อาลัยคุณพ่อของ ดร.กุศล  ด้วยกันครับ และพิจารณาว่า สักวันหนึ่งข้างหน้า เราก็จะประสพอย่างนี้ ไม่ช้าก็เร็ว

                ทุกคนที่เกิดมาต้องตายไม่ช้าก็เร็ว ดังนั้นเพื่อความไม่ประมาท ขอให้ประกอบแต่กรรมดี รักษามรรค ๘ ตลอดอายุไข ก็ได้ชื่อว่าอยู่อย่างไม่ประมาท เกิดมาไม่เสียชาติเกิด ครับ
              
                สวัสดี
    


สังขารทั้งหลาย  เป็นอนิจจัง

สังขารทั้งหลาย     เป็นทุกข์

ธรรมทั้งหลาย    เป็นอนัตตา

ท่านทั้งหลายพึงพิจารณา เห็นตามนี้ จิตของท่านจะคลายกำหนัด และพ้นทุกข์ หรือทุกน้อยลง
      บันทึกการเข้า
อ้อย 14
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,055

« ตอบ #4579 เมื่อ: 08 ธันวาคม 2554, 12:45:07 »


 emo30:sorry:ฝากแสดงความเสียใจกับกุศลด้วยนะคะ วันที่ 12 คาดว่าจะไปร่วมงานที่วัดค่ะ..!!
      บันทึกการเข้า
suriya2513
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,457

« ตอบ #4580 เมื่อ: 08 ธันวาคม 2554, 12:56:45 »

อ้างถึง
ข้อความของ pusadee sitthiphong เมื่อ 07 ธันวาคม 2554, 20:29:50
พี่ป๋องคะ ราเมศวร เป็นไงมั่ง ไม่ยอมอพยพเลย
น้ำที่บริษัทแห้ง พร้อมทำการซ่อมบำรุงได้แล้ว แต่ถนนโดยรอบยังต้องใช้เรือเช่าครับ
      บันทึกการเข้า

[โบราณคดี]จุดกำเนิดเริ่มต้นของ cmadong.com by : มานพ กลับดี  คลิ๊ก->
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #4581 เมื่อ: 08 ธันวาคม 2554, 14:37:59 »

วันพฤหัสบดี ที่ 8 ธันวาคม 2554 เวลา 14.32 น.
 สถานการณ์น้ำวันนี้
 สถานการณ์น้ำ ประจำวันที่ 8 ธันวาคม 2554 (เวลา 08.00 น.)


น้ำเหนือ
 - ระดับน้ำเจ้าพระยาที่ อ.บางไทร 2.24 ม.รทก. (ลดลงจากเมื่อวาน 5 ซม.)
 
น้ำทะเลหนุนสูง
 - วันนี้เวลา 07.30 น. ระดับ +0.96 ม. และเวลา 15.14 น. ระดับ +0.96 ม.

ระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาตรวจวัดที่ปากคลองตลาด
 - ระดับน้ำสูงสุด เมื่อวานนี้ เวลา 14.00 น. ระดับ +1.40 ม.รทก. (ต่ำกว่าคันกั้นน้ำ 140 ซม.)
 - ระดับน้ำสูงสุด เช้าวันนี้ เวลา 07.00 น. ระดับ +1.52 ม.รทก. (ต่ำกว่าคันกั้นน้ำ 128 ซม.)
 - คาดการณ์จากกรมอุทกศาสตร์ วันนี้ เวลา 17.30 น. ระดับ +1.50 ม.รทก.
 
น้ำทุ่ง
 - พื้นที่ดอนเมือง (24 ชม.ที่ผ่านมา) ระดับน้ำลดลง 8 ซม.
 - ระดับน้ำคลองหกวาสายล่าง ที่ประตูระบายน้ำคลองสอง (24 ชม.ที่ผ่านมา) ระดับน้ำลดลง 7 ซม.
 - ฝั่งธนบุรี ระดับน้ำคลองมหาสวัสดิ์ ที่ประตูระบายน้ำคลองทวีวัฒนา (24 ชม.ที่ผ่านมา) ระดับน้ำลดลง 6 ซม.
 
ภาพรวมสถานการณ์ใน กทม. (24 ชั่วโมงที่ผ่านมา) โดยทั่วไปสถานการณ์ดีขึ้นตามลำดับ

 พื้นที่ฝั่งพระนคร ยังคงมีปัญหาน้ำท่วมขังบางส่วน ในพื้นที่เขตดอนเมือง หลักสี่ สายไหม บางเขน คันนายาว คลองสามวา มีนบุรี
 - คลองเปรมประชากร ระดับน้ำลดลง 5 ซม.
 - คลองบางเขน ระดับน้ำลดลง 3-5 ซม.
 - คลองลาดพร้าว ระดับน้ำลดลง 2-4 ซม.
 - คลองแสนแสบ ระดับน้ำลดลง 2-5 ซม.
 - คลองประเวศน์บุรีรมย์ ระดับน้ำลดลง 1-2 ซม.
 
พื้นที่ฝั่งธนบุรี ยังคงมีปัญหาน้ำท่วมขัง ในพื้นที่เขต ทวีวัฒนา หนองแขม บางแค
 - คลองต่าง ๆ โดยทั่วไป ระดับน้ำลดลง 2-3 ซม.
 
สำนักการระบายน้ำ กรุงเทพมหานคร ได้ดำเนินการเร่งระบายน้ำ และกู้พื้นที่หมู่บ้าน ชุมชน ถนนสายหลัก ในพื้นที่ต่าง ๆ
 - ถนนพหลโยธิน ซอยแอนเน็กซ์ ขณะนี้น้ำแห้งเป็นปกติแล้ว
 - ถนนบรมราชชนนี ช่วงพุทธมณฑลสาย 2-3 (อยู่ระหว่างดำเนินการ)
 - หมู่บ้านเศรษฐกิจ เขตบางแค (อยู่ระหว่างดำเนินการ)
 
ปริมาณขยะทำลายสถิติสูงสุดที่ 12,463 ตัน

วันพฤหัสบดีที่ 08 ธันวาคม 2011 เวลา 12:12 น. กองประชาสัมพันธ์ กทม.



                 (8 ธ.ค.54) ณ ศาลาว่าการกทม. (เสาชิงช้า): ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมติดตามสถานการณ์น้ำและการแก้ไขในพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยวันนี้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาตรวจวัดที่ปากคลองตลาด เมื่อเวลา 07.30 น. วัดได้ที่ระดับ 1.50 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ซึ่งสถานการณ์น้ำทั่วไปดีขึ้นตามลำดับ คลองในพื้นที่ส่วนใหญ่ระดับน้ำลดลงอย่างชัดเจน ส่วนการกู้ถนนบรมราชชนนี ช่วงบุญถาวรถึงคลองทวีวัฒนาฝั่งขาออกจะแล้วเสร็จในวันนี้ ส่วนขาเข้าคาดใช้เวลาประมาณ 1 – 2 วันในการดำเนินการให้สามารถสัญจรไปมาได้ตามปกติ
 
                 ในส่วนของการจัดเก็บขยะวานนี้ (7 ธ.ค.) ทำสถิติสูงสุด รวม 12,463 ตัน คิดเป็นร้อยละ 146.62 ของปริมาณขยะในสถาวะปกติ คือ 8,500 ตัน ซึ่งวันนี้ทาง กทม.จะยังคงระดมกำลังจากทุกภาคส่วนร่วมกันเก็บขยะบริเวณถนนสรงประภา เขตดอนเมือง อย่างต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมกันนี้ ยังได้รับการสนับสนุนรถบรรทุกขยะจากจังหวัดนครปฐมเข้ามาเสริมกำลังด้วย
 
 
                                                   ------------------------------------
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #4582 เมื่อ: 08 ธันวาคม 2554, 18:09:10 »

พี่สิงห์

ตรวจดูทีครับว่า กยน. เป็นอย่างไร  หรือเป็นแค่ "กางเกงยีน"??


เปิดพิมพ์เขียว กยน. แผนแก้ ′มหาอุทกภัย′
วันที่ 08 ธันวาคม พ.ศ. 2554 เวลา 10:30:22 น.
 
 
ที่มา - แนวทางการดำเนินการของคณะอนุกรรมการวางระบบการบริหารจัดการน้ำระยะเร่งด่วนของคณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อวางระบบการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ (กยน.) ที่มีนายปีติพงษ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา กรรมการ กยน. เป็นประธาน ซึ่งมีการนำเสนอให้ที่ประชุม กยน.ชุดใหญ่พิจารณา เมื่อวันที่ 6 ธันวาคมที่ผ่านมา



จากปัญหาอุทกภัยปี 2554 ที่เกิดขึ้นเป็นบริเวณกว้าง จึงจำเป็นต้องจัดทำแผนการบริหาร จัดการน้ำในระยะเร่งด่วนเพื่อแก้ไขปัญหาวิกฤตน้ำของประเทศที่อาจจะเกิดขึ้นในฤดูฝนหน้า เพื่อสร้างความเชื่อมั่น ฟื้นความเชื่อถือ สร้างความมั่นใจให้ประชาชน เกษตรกร ภาคธุรกิจ และนักลงทุนใน นิคมอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบตลอดจนสร้างความมั่นคงของประเทศจากวิกฤตอุทกภัย โดยมีหลักการดังนี้

1.ลดระดับความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากน้ำท่วมปี 2554 กรณีที่ปริมาณน้ำปี 2555 มีปริมาณมาก จะต้องไม่เกิดปัญหาอุทกภัยเช่นในปี 2554 และหากเกิดปัญหาอุทกภัยจะต้องลดผลกระทบจากอุทกภัยต่อเศรษฐกิจและสังคมให้น้อยที่สุด

2.ปรับปรุงการบริหารจัดการเขื่อนหลัก โดยบริหารจัดการน้ำในอ่างเก็บน้ำสำคัญๆ จะพิจารณาให้ครอบคลุมทั้งด้านการชลประทาน การป้องกัน และบรรเทาอุทกภัย

3.ปรับปรุงอาคารบังคับน้ำชลประทาน คันกั้นน้ำ เพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำให้สามารถป้องกันน้ำท่วม และเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำ เพื่อให้สามารถจัดการน้ำตามแผนที่วางไว้

4.ชดเชยให้กับพื้นที่รับน้ำเกษตรกรรม การผันน้ำเข้าพื้นที่เกษตรกรรมในกรณีน้ำหลากเพื่อหน่วงน้ำและลดผลกระทบที่เกิดจากน้ำท่วม ผลกระทบและความเสียหายในพื้นที่ดังกล่าว ต้องมีแนวทางในการเสริมสร้างความเข้าใจ ความยอมรับ และชดเชยความเสียหายให้ประชาชนในพื้นที่ รวมทั้งให้ประชาชนในพื้นที่มั่นใจว่าจะไม่ต้องรับภาระฝ่ายเดียว


หมายเหตุ - สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์(กษ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วท.) กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสาร (ทก.) กรุงเทพมหานคร (กทม.) สำนักงานคณะกรรมการ พัฒนาระบบราชการ (กพร.) สำนักงบประมาณ (สงป.) กระทรวงการคลัง (กค.) คณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อการฟื้นฟูและสร้างอนาคตประเทศ (กยอ.)

5.ปรับปรุงกลไกในการบริหารจัดการภัยจากน้ำท่วม โดยพัฒนาระบบข้อมูลการพยากรณ์ การเตือนภัย ที่น่าเชื่อถือ และมีเอกภาพ รวมทั้งองค์การในการบริหารจัดการในภาวะวิกฤต เพื่อสามารถบริหารจัดการน้ำได้อย่างมีเอกภาพและมีประสิทธิ ภาพ

6.จัดทำแผนการแก้ปัญหาอุทกภัยเฉพาะพื้นที่ที่มีความสำคัญเพราะแต่ละพื้นที่มีสภาพพื้นที่ ปัญหา และผลกระทบที่เกิดขึ้นแตกต่างกัน จึงต้องมีแผนเฉพาะพื้นที่ที่มีความเหมาะสมกับพื้นที่นั้นๆ เช่น พื้นที่ชุมชน เมืองหลัก ธุรกิจ และอุตสาหกรรม เป็นต้น

แนวทางการบริหารจัดการน้ำระยะเร่งด่วน ที่สำคัญมีดังนี้

1.การดำเนินการด้านวิศวกรรม

1.1 ปรับแผนการบริหารน้ำในเขื่อนสำคัญ โดยการปรับปรุง Rute Curve สะท้อนความสำคัญของการป้องกันน้ำท่วม โดยหน่วยงานรับผิดชอบ คือ กรมชลประทาน การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย และกรมอุตุนิยมวิทยา ฯลฯ ร่วมกับคณะอนุกรรม การติดตามและวิเคราะห์แนวโน้มสถานการณ์น้ำ ให้ดำเนินการอย่างมีประสิทธิภาพ

1.2 กำหนดพื้นที่รับน้ำนอง ตั้งแต่เขื่อนหลัก ในภาคเหนือ ตลอดจนสองฝั่งของลุ่มน้ำเจ้าพระยา รวมทั้งกรุงเทพมหานคร-ปริมณฑล โดยกำหนดพื้นที่รับน้ำนองตามธรรมชาติและที่ก่อสร้างขึ้น พร้อมจัดทำแผนการผันน้ำลงสู่พื้นที่รับน้ำนอง การจ่ายค่าชดเชยความเสียหาย รวมทั้งสร้างความเข้าใจความยอมรับกับประชาชนในพื้นที่โดยกระทรวงมหาดไทย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ร่วมรับผิดชอบ

1.3 ซ่อมแซมอาคารบังคับน้ำให้มีประสิทธิภาพ โดยปรับปรุง ซ่อมแซมและก่อสร้างอาคารชลประ ทาน โดยกรมชลประทาน กรมโยธาธิการและผังเมือง กรุงเทพมหานคร และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ร่วมรับผิดชอบ

1.4 เสริมคันกั้นน้ำตามแนวพระราชดำริ โดยการปรับปรุง ซ่อมแซม ก่อสร้างคันกั้นน้ำ ให้เป็นคันกั้นน้ำถาวร โดยกรมชลประทาน กรุงเทพ มหานคร และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ร่วมรับผิดชอบ

1.5 ปรับปรุงคูคลอง และทำความสะอาดทางน้ำสาธารณะ โดยการขุดลอก คูคลองและท่อระบายน้ำ รวมทั้งกำจัดวัชพืชที่ขวางทางน้ำไหลซึ่งต้องศึกษาขอบเขตและข้อจำกัดของข้อกฎหมายที่อยู่ในความดูแลของหน่วยงานต่างๆ และดำเนินการร่วมกันอย่างบูรณาการ โดยกรมชลประทานกรุงเทพมหา นคร และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ร่วมรับผิดชอบ

1.6 สำรวจขีดความสามารถการระบายน้ำของกรุงเทพมหานคร และประสิทธิภาพการระบายน้ำ โดยการใช้ระบบท่อระบายน้ำ คลองระบายน้ำ อุโมงค์ระบายน้ำ ปั๊มน้ำ และระบบระบายน้ำใหญ่ที่มีอยู่ โดยกรุงเทพมหานคร รับผิดชอบ



2.การบริหารจัดการภัยจากน้ำท่วม เพื่อใช้เป็นแนวทางปฏิบัติของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและประชาชน เมื่อเกิดภาวะฉุกเฉินจากอุทกภัย ประกอบด้วย

2.1 สร้างระบบเตือนภัยที่มีเอกภาพ มีประสิทธิ ภาพ สามารถให้ข้อมูลอย่างต่อเนื่องและประชาชนมีส่วนร่วม เพื่อประโยชน์ในการเตือนภัยจากน้ำท่วมซึ่งจะต้องมีเอกภาพ ปัจจุบันมีหน่วยงานที่มีข้อมูลระบบเตือนภัย ได้แก่ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กรุงเทพ มหานคร และศูนย์เตือนภัยพิบัตแห่งชาติ ฯลฯ เพื่อประมวลผลด้วยความถูกต้อง เชื่อถือได้ และมีประสิทธิภาพในการเตือนภัยสาธารณชนอย่างทันเวลา ทั้งนี้ ควรมอบหมายให้ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติเป็นหน่วย งานหลักในการแจ้งเตือนภัยต่อประชาชน รวมทั้งสร้างความเข้าใจกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง และพิจารณาความจำเป็นของการจัดตั้งศูนย์ข้อมูลน้ำแห่งชาติ เพื่อเป็นแหล่งข้อมูลที่ใช้สนับสนุนในการเตือนภัย

2.2 จัดให้มีกลไกการบริหารจัดการอาคารบังคับน้ำเมื่อเกิดวิกฤต ในการบริหารจัดการน้ำในแหล่งต่างๆ ทั้งที่ถูกสร้างขึ้นและแหล่งน้ำธรรมชาติเครื่องมือที่ใช้ควบคุมระดับน้ำและปริมาณน้ำ คือ อาคารบังคับน้ำต่างๆ ได้แก่ เขื่อน ประตูระบายน้ำ ฝาย อย่างไรก็ดี อาคารบังคับน้ำต่างๆ อยู่ภายใต้การดูแลของหลายหน่วยงาน ประกอบด้วย สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี สำนักงานเลขาธิการนายกรัฐมนตรี สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย กรม ชลประทาน กรุงเทพมหานคร องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เป็นต้น ซึ่งจำเป็นต้องมีกลไกที่มีอำนาจเต็มในการสั่งการและบริหารจัดการน้ำอย่างครอบคลุมในทุกมิติ ซึ่งรวมถึงการศึกษาแนวทางการแก้ไขปัญหาและการบรรเทาผลกระทบอันเนื่องมาจากวิกฤตน้ำ ซึ่งจะทำให้มีการบูรณาการการทำงานอย่างมีเอกภาพ มอบหมายให้กรมชลประทานเป็นหน่วยงานหลักดำเนินงาน

2.3 จัดทำแผนลดความเสียหายเฉพาะพื้นที่ ได้แก่ ชุมชน พื้นที่นิคมอุตสาหกรรมที่สำคัญ เขตชุมชนหนาแน่น กรุงเทพมหานครชั้นใน เพื่อให้เกิดแผนการทำงานอย่างเป็นระบบ ตั้งแต่การให้ข้อมูลข่าวสาร การแจ้งเตือน การอพยพ การเตรียมพื้นที่รองรับ การจัดระบบขนส่ง ระบบสาธารณูปโภคฉุกเฉิน และการเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ให้เร็วที่สุด โดยจัดตั้งคณะทำงานเพื่อดำเนินการตามความเหมาะสม

2.4 จัดตั้งองค์กรบริหารจัดการน้ำเป็นการเร่งด่วน เพื่ออำนวยการและสั่งการในภาวะฉุกเฉิน กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเพื่อให้เกิดเอกภาพในการแก้ปัญหาอุทกภัยระยะเร่งด่วน ตามแผนการบริหารจัดการกับน้ำท่วม ตั้งแต่แจ้งเตือนภัย การบริหารจัดการอาคารระบายน้ำ การดำเนินการตามแผนลดความเสี่ยงเฉพาะพื้นที่

โดยมอบหมายสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ และอนุกรรมการวางระบบการบริหารจัดการน้ำระยะเร่งด่วน เป็นหน่วยงานหลักดำเนินงาน

(มติชนรายวัน ฉบับวันที่ 8 ธันวาคม 2554 หน้า2)

 
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1323314458&grpid=01&catid=&subcatid=
      บันทึกการเข้า
khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #4583 เมื่อ: 08 ธันวาคม 2554, 19:03:01 »

อ้างถึง
ข้อความของ Manop  Klabdee เมื่อ 07 ธันวาคม 2554, 20:35:13
สวัสดีค่ะ คุณน้องหนุ๋งหนิ๋ง ที่รัก

            ...
            ...
            อาจจะเลยไปปฏิบัติธรรมที่วัดป่าสุคะโต จนถึงสิ้นปีไปเลย แต่ยังไม่แน่เพราะอากาศที่วัดป่าสุคะโต หนาวมาก ระดับไม่เกิน ๑๐ องศา ในเวลากลางคืน และที่พักเป็นศาลาวัด ไม่มีกำแพง ต้องเอาชนะจิตตัวเองเป็นอย่างมาก เพราะมันหนาวจนนอนไม่หลับ ครับ

             สวัสดีค่ะ


พี่สิงห์คะ,
อ่านเสร็จ สมองตอบทันใดฉับไวเหมือนโกหก
ว่า:งั้นต้องนั่งวิปัสนาใกล้ๆสาวคะ จะได้อุ่น!

ดีนะคะ,แค่คิดในหัว ขืนพูดดังๆ ได้โดนตึ๊บ
ดูดู๋ เค้าจาไปปฏิบัติ(ทำ)ธรรม..ยังจะมาทำเล่น
นะหนุงหนิง.
      บันทึกการเข้า


ทราย 16
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,838

« ตอบ #4584 เมื่อ: 08 ธันวาคม 2554, 20:08:50 »

อ้างถึง
ข้อความของ Manop  Klabdee เมื่อ 08 ธันวาคม 2554, 12:28:04
                คุณพ่อ ของ ดร.กุศล  รับราชการอยู่กรมป่าไม้ จนเกษียรอายุราชการ ท่านทำงานด้วยความสุจริต สั่งสอน อบรม ลูกๆ ส่งให้เรียนหนังสิอ จนลูกๆได้ดีทุกคน ท่านจากไปด้วยดี ตอนน้ำท้วม กทม. ท่านรู้ว่าลูกๆ จะลำบาก ท่านก็มีชีวิตอยู่ต่อไปเพื่อลูกๆ แต่พอน้ำลดลงแล้ว ท่านก็จากไปด้วยอาการสงบ สมควรแก่อัตภาพที่สักวันจะต้องจากไป
            ท่านเป็นคนมีบุญ ที่ลูกๆไม่เคยทอดทิ้ง มีความอบอุ่น และ ท่านก็ภูมิใจในตัวลูกๆของท่านทุกคน (ท่านเล่าให้ผมฟัง ด้วยความภูมิใจ ผมเองเคยอุ้มท่านลงจากเตียงมาขึ้นรถเข็น เมื่อกลางปีที่ผ่านมา) ขอให้ดวงวิญญาณของท่านจากไปด้วยจิตที่สงบไปสู่สรวงสวรรค์ เทอญ
                ผมจึงขอเรียนเชิญทุกท่านไปร่วมไว้อาลัยคุณพ่อของ ดร.กุศล  ด้วยกันครับ และพิจารณาว่า สักวันหนึ่งข้างหน้า เราก็จะประสพอย่างนี้ ไม่ช้าก็เร็ว
                ทุกคนที่เกิดมาต้องตายไม่ช้าก็เร็ว ดังนั้นเพื่อความไม่ประมาท ขอให้ประกอบแต่กรรมดี รักษามรรค ๘ ตลอดอายุไข ก็ได้ชื่อว่าอยู่อย่างไม่ประมาท เกิดมาไม่เสียชาติเกิด ครับ               
                สวัสดี
    [/size] [/color]

สังขารทั้งหลาย  เป็นอนิจจัง
สังขารทั้งหลาย     เป็นทุกข์
ธรรมทั้งหลาย    เป็นอนัตตา

ท่านทั้งหลายพึงพิจารณา เห็นตามนี้ จิตของท่านจะคลายกำหนัด และพ้นทุกข์ หรือทุกน้อยลง
ขอแสดงความเสียใจกะพี่ ดร.กุศลด้วยค่ะ
ทราย 16
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #4585 เมื่อ: 08 ธันวาคม 2554, 21:34:36 »



สังขารทั้งหลาย ไม่เที่ยง ย่อมเกิด แก่ เจ็บ และตาย ไปตามธรรมดา
เราควรอยู่ด้วยความไม่ประมาท

ขอแก้ไข
คุณพ่อบัญญัติ ทำงานกรมที่ดิน ตำแหน่งสุดท้ายก่อนเกษียรราชการ คือ ผู้ช่วยที่ดินจังหวัดสงขรา ท่านไม่ได้จบปริญญาตรี










สวัสดีครับ ชาวซีมะโด่ง ที่รักทุกท่าน

              - ก่อนอื่นต้องขอขอบพระคุณ พล.ต.ต.ศาสตราจารย์ ดร. เกียรติพงศ์  มีเพียร (พี่ปิ้ง) ที่ให้เกียรติมาร่วมงานศพ คุณพ่อ ของ ดร.กุศล  ในวันนี้

              - พี่ปิ้ง บอกว่าคิดถึงผม  ผมเองก็คิดถึงพี่ปิ้ง และดีใจมากที่ได้พบ เป็นอย่างยิ่ง

              - พี่ปิ้ง บอกว่า สิงห์ เราหน้าที่จะจัดซีมะโด่งทัวร์ กันอีกอย่างน้อยปีละครั้ง เรายังพอมีกำลัง(แรง) ควรรีบจัด เพราะถ้าเรา ไม่ไหวแล้ว มันก็คือไม่ไหว  เพราะนึกถึงภาพ บรรยากาศเก่าๆ ของซีมะโด่งทัวร์  ครับผมก็อยากจะจัดเหมือนกันครับพี่ปิ้ง

                ราตรีสวัสดิ์ทุกท่านครับ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #4586 เมื่อ: 09 ธันวาคม 2554, 07:51:33 »


สวัสดียามเช้าครับ ชาวซีมะโด่ง ที่รักทุกท่าน

              เช้านี้เป็นอีกวันหนึ่งที่ผมอยู่บ้าน เพราะต้องเดินทางไปนครศรีธรรมราช Boarding 12:20 น. โดย 1-2-go เพราะเมื่อวานไม่ได้ไปกับ Nok Air ดังนั้น เช้านี้ ได้ตื่นขึ้นมานั่งปฏิบัติธรรมเช้ามืดที่บ้าน หุงข้าวเตรียมใส่บาตรพระ-เณร พิเศษในการหุงข้าววันนี้คือ จะมีข้าวสี่อย่าง ผสมกันคือ ข้าวขาวหอมมะลิ ข้าวกล้องแดงนานาพันธุ์ ข้าวกล้องชาวเขา และข้างกล้องดำชาวเขา ที่พี่โส(ข้างบ้าน)ซื้อมาจากเชียงใหม่มาฝาก ตั้งหม้อข้าวเสร็จก็อาบน้ำ ให้ร่างกายสะอาด แต่งตัว ออกไปเดินจงกรมออกกำลังกายที่หน้าบ้าน ได้เวลาพอสมควรก็เดินไปตลาดหลังการบินไทยไปซื้อกับข้าวมาใส่บาตรและเอาไว้กินเป็นมื้อเช้า กับข้าวที่ซื้อ มีแกงส้ม แกงคั้วสัปรดกับหอยและผัดวุ้นเส้น กับข้าวใส่บาตร มีข้าว แกงคั้วสัปปะรดกับหอย อาหารสำเร็จ และน้ำ วันนี้หลวงพ่อวัดลาดพร้าวไม่ได้มา มีเฌรมาแทน ครับ

              ขณะรอเณร ได้คุยกับพี่โสว่า คนเราพออายุมากๆ แล้ว ควรปฏิบัติธรรม เข้าวัด สาเหตุเพราะ มีเวลามาก ไม่มีงานทำ ว่างมากจะทำให้จิตไม่มีอะไรยึดเกาะ ถ้าปฏิบัติธรรม จิตมีที่ยึดเกาะ จะสามารถปล่อยว่างได้มาก ทำให้การมีชีวิตในช่วงสุดท้ายของอายุขัย สะดวก สะบายขึ้น แต่ถ้าไม่ได้ปฏิบัติธรรม ปล่อยวางไม่ได้ ยังยึดติดกับสิ่งที่เคยได้รับและพอใจ ตัณหาจะยิ่งมาก และพอไม่ได้อย่างสิ่งที่ปราถนา ก็มีแต่ทุกข์ โดยเฉพาะคนรอบข้าง ต้องทนอยู่อย่างไม่มีความสุข ถ้ายิ่งปากร้ายด้วยแล้วเสร็จเลย ลูกหลานหนีหมด ไม่มีใครดูแลตอนแก่ชรา ซึ่งเราจะเห็นได้โดยทั่วไป ท่านอยากเป็นอย่างนั้นหรือ? มันมีแต่ทุกข์ เราก็ทุกข์ ลูก-หลาน คนดุแลก็ทุกข์ ครับ

              พี่โสบอกว่า ช่วงน้ำท้วมไปอยู่เชียงใหม่กับคุณหมอต้น(ลูก) กินผักสดทุกวันตามที่ผมแนะนำ น้ำหนักลดลงไปสองกิโล เลย ผมก็บอกว่า พี่โส ไปเชียงใหม่คราวนี้ ลองกินผักให้มากขึ้น ให้หลากหลายชนิด กินพอที่เราจะมีชีวิตอยู่ จะทำให้จิตใจ ร่างกาย ดีขึ้นกว่าเดิมแน่นอน และถ้าจะให้ดี ให้รางวัลชีวิตด้วยการไปเข้าคอสที่โรงพยาบาลจอมทอง จะดีมาก ได้ทั้งบุญและร่างกายดีขึ้น (พี่โส เป็นโรคอ้วน ข้อเข่าเสื่อม น้ำหนักตัวมาก) ครับ

              เดือนนี้อากาศกทม.เย็น ทุกท่านต้องระวังเรื่องสุขภาพ ใส่เสื้อผ้าหนาๆ ให้ร่างกายอบอุ่นเข้าไว้นะครับ จะได้ไม่แพ้อากาศ หรือป่วยเป็นไข้หวัด ครับ

              สวัสดีครับ อย่าลืม ทำจิตให้ผ่องใส อยู่กับอิริยาบถ หลักและอิริยาบถย่อยในการกระทำ รักษาจิตไม่ให้คิดนอกอิริยาบถ จิตท่านจะผ่องใสเองครับ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #4587 เมื่อ: 09 ธันวาคม 2554, 07:56:37 »


รู้ประวัติพุทธสาวก อรหันต์ เอตทัคคะ

ลำดับที่ ๔๐

พระสาคตเถระ

เอตทัคคะในทางผู้ชำนาญเตโชสมาบัติ

                 พระสาคตะ เกิดในวรรณะพราหมณ์ ในเมืองสาวัตถี เมื่อเจริญเติบโตขึ้นมาได้ฟัง   พระธรรมเทศนาจากพระบรมศาสดา แล้วเกิดศรัทธาเลื่อมใส กราบทูลขอบรรพชาอุปสมบทในพระพุทธศาสนา เมื่อบวชแล้วได้บำเพ็ญสมาณธรรมจนได้บรรลุสมาบัติ ๘ ฝึกฝนจนมีความชำนาญในองค์ฌานนั้น ที่ท่านมีความชำนาญเป็นพิเศษก็คือการเข้าเตโชสมาบัติ

           • แสดงฤทธิ์ช่วยชาวบ้าน

                   สมัยหนึ่ง พระบรมศาสดา เสด็จจาริกไปตามคามนิคมและชนบทต่าง ๆ พระสาคตะได้ตามเสด็จไปด้วย พระพุทธองค์เสด็จถึงท่าเรืออัมพะ ซึ่งอยู่ที่หมู่บ้านภัททวติกะ ใกล้พระนครโกสัมพี แคว้นเจตี ในบริเวณใกล้ ๆ ท่าเรือนั้น มีอาศรมฤาษีชฏิลตั้งอยู่ และชฏิลนั้นนับถือบูชาพญานาคชื่อว่าอัมพติฏฐกะ ซึ่งเป็นสัตว์มีพิษและมีฤทธิ์อำนาจมากกว่าพญานาคทั่วไป สามารถบันดาลให้ดินฟ้าอากาศเป็นไปตามต้องการได้ ทำให้ชาวบ้านเดือดร้อนเพราะฝนไม่ตกต้องตามฤดูกาล อันเป็นผลมาจากการบันดาลของพญานาคนั้น

                   พระสาคตเถระ ทราบความเดือดร้อนของชาวบ้าน เกิดความสงสารจึงได้ช่วยเหลือ ด้วยการเข้าไปในโรงไฟที่พญานาคอาศัยอยู่ นั่งขัดสมาธิอธิษฐานจิตในที่ไม่ไกลจากพญานาค ทำให้พญานาคโกรธแล้วพ่นควันพิษใส่ท่าน ท่านก็เข้าเตโชสมาบัติให้เกิดควันไฟใส่พญานาค บันดาลให้เกิดความเจ็บปวดแก่พญานาคทั้งพระเถระและพญานาคได้แสดงอิทธิฤทธิ์เข้าต่อสู้กันหลายประการ จนในที่สุดพญานาคก็สิ้นฤทธิ์ไม่สามารถจะทำอะไรพระเถระได้ แต่กลับถูกพระเถระกระทำจนได้รับความเจ็บปวดบอบช้ำ และในที่สุดก็เลิกละการกลั่นแกล้งให้ประชาชนเดือดร้อนฝนตกต้องตามฤดูกาล ชาวบ้านทำไร่ทำนาได้ดี มีความสุขกายสุขใจ และไม่ลืมที่จะระลึกถึงคุณของพระเถระที่ให้การช่วยเหลือ ข่าวสารการที่พระสาคตเถระปราบพญานาค ได้ร่ำลือกันไปทั่วทั้งเมืองเมื่อพระพุทธองค์ประทับอยู่ ณ ภัททวติกาคาม ตามสมควรแก่พระอัธยาศัยแล้วพระพุทธองค์เสด็จไปยังพระนครโกสัมพีและพระสาคตเถระ ก็ตามเสด็จไปด้วยชาวเมืองโกสัมพี ได้ถวายการต้อนรับพระบรมศาสดา อย่างสมพระเกียรติและในส่วนของพระสาคตเถระ ชาวประชาพากันคิดว่า จะถวายสิ่งของที่พระเถระชอบที่สุดและหายากที่สุด ในขณะที่เที่ยวปรึกษากันอยู่ว่าจะถวายสิ่งใดดีนั้น พระฉัพพัคคีย์ ได้แนะนำแก่ชาวเมืองว่า “สิ่งที่พระภิกษุชอบที่สุดและหายากที่สุดก็คือ สุราอ่อน ๆ ที่มีสีแดงเหมือนเท้านกพิราบ”

         • พระเถระเมาเหล้า

               เช้าวันรุ่งขึ้น พระสาคตเถระเข้าไปบิณฑบาตในเมืองโกสัมพี ชาวเมืองทั้งหลายต่างพากันถวายสุราให้ท่านดื่ม ขณะนั้นยังไม่มีพุทธบัญญัติห้ามภิกษุดื่มสุรา พระเถระจึงดื่มสุราที่ชาวเมืองถวายแห่งละนิดละหน่อย เพื่อเป็นการรักษาศรัทธาของชาวเมือง ปรากฏว่ากว่าที่ พระเถระจะเดินบิณฑบาตตลอดหมู่บ้านก็ทำเอาท่านมึนเมาจนหมดสติล้มลงที่ประตูเมือง พระบรมศาสดา เสด็จมาพบท่านนอนสลบหมดสติอยู่อย่างนั้น จึงรับสั่งให้ภิกษุช่วยกันนำท่านกลับที่พัก เมื่อท่านบรรเทาความเมากลับได้สติแล้วพระพุทธองค์ทรงติเตียนในการกระทำของท่าน และทรงบัญญัติพระวินัยห้ามภิกษุดื่มสุราตั้งแต่บัดนั้น ด้วยพระดำรัสว่า “สุราเมรยปาเน ปาจิตฺติยํ แปลว่า (ภิกษุ) เป็นอาบัติปาจิตตีย์ เพราะดื่มสุราและเมรัย” ครั้นรุ่งขึ้น พระเถระมีสติสัมปชัญญะสมบูรณ์ตามปกติแล้ว รู้สึกสลดใจต่อการกระทำของตน จึงเข้าเฝ้าพระบรมศาสดา กราบทูลขอให้พระพุทธองค์ทรงงดโทษให้แล้ว กราบทูลลาปลีกตัวจากหมู่คณะแสวงหาที่สงบสงัด บำเพ็ญวิปัสสนากรรมฐาน ไม่นานนักก็ได้บรรลุพระอรหัตผล เป็นพระอเสขบุคคลในพระพุทธศาสนา

                เมื่อท่านสำเร็จเป็นพระอรหันต์แล้ว สมัยหนึ่ง พระบรมศาสดาประทับอยู่ ณ ภูเขาคิชฌกูฏ และในขณะนั้น พระสาคตเถระได้ทำหน้าที่เป็นพุทธอุปัฏฐาก ได้มีชาวแคว้นอังคะจำนวนมาก เดินทางมาเพื่อเข้าเฝ้าพระบรมศาสดา ท่านได้แสดงอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ ดำดินลงไปแล้วโผล่ขึ้นที่ตรงพระพักตร์ของพระผู้มีพระภาค ซึ่งชาวอังคะทั้งหลายก็เห็นด้วยสายตาของตนเองโดยตลอด

                พระพุทธองค์ทรงทราบด้วยพระฌาณว่า ชาวแคว้นอังคะเหล่านั้นยังไม่มีศรัทธาในพระพุทธศาสนาอย่างทั่วถึงและมั่นคง จึงรับสั่งให้พระสาคตเถระแสดงปาฏิหาริย์ ต่อไปอีก ด้วยการแสดงการยืน เดิน นั่ง และนอนบนอากาศ ซึ่งพระเถระก็ได้แสดงอย่างชำนิชำนาญ และจบลงด้วยการทำให้เกิดควันไฟออกจากกายของท่าน

          • ทรงยกย่องพระเถระในตำแหน่งเอตทัคคะ

               ชาวแคว้นอังคะ ทั้งหลายต่างก็อัศจรรย์ใจในความสามารถของพระเถระ คิดตรงกันว่า “ขนาดพระเถระผู้เป็นสาวก ยังมีความสามารถถึงเพียงนี้ แล้วพระบรมศาสดาผู้เป็นบรมครู จะมีความสามารถถึงเพียงไหน” แล้วพากันกราบถวายบังคมด้วยความเคารพอย่างยิ่ง พระพุทธองค์ ทรงแสดงพระธรรมเทศนาอนุปุพพิกาถา และอริยสัจ ๔ ให้ทุกคน ณ ที่นั้น ดำรงอยู่ในโสดาปัตติผลโดยทั่วกัน

                ลำดับนั้นพระบรมศาสดา จึงทรงประกาศยกย่องพระสาคตเถระ ในตำแหน่งเอตทัคคะ เป็นผู้เลิศกว่าภิกษุทั้งหลาย ในทาง ผู้ชำนาญเตโชสมาบัติ

               ท่านดำรงอายุสังขาร ช่วยกิจการพระศาสนาสมควรแก่กาลเวลาแล้ว และอยู่จวบจนสิ้นอายุขัย ก็ดับขันธปรินิพพาน
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #4588 เมื่อ: 09 ธันวาคม 2554, 08:16:08 »

สวัสดีครับ คุณเหยง และชาวซีมะโด่ง ที่รักทุกท่าน

              ผมอ่านดูแล้วมันเป็นเพียงเศษกระดาษแผ่นหนึ่ง ที่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น แบบท่องออกมาจากนักวิชาการ ข้าราชการประจำและนักการเมือง ที่ทำให้ดูแล้วเหมาะสม ถูกต้อง ได้ทำงานให้ประชาชนเห็นแล้ว มีผลงานการเตรียมตัว

              ถึงแม้จะเป็นเศษกระดาษ มันก็ยังดีกว่าไม่ได้ทำอะไรเลย

              ผมอยากเห็น ผลในทางปฏิบัติ มากกว่า ว่า ท่านลงมือทำอะไรให้มันเกิดขึ้น จริงๆ ใคร หน่วยงานไหน รับผิดชอบดำเนินการ ทำอะไร อย่างไร จะเสร็จเมื่อไร มีงบประมาณในการดำเนินงานเท่าไร และข้อสุดท้ายประชาชนเอาหรือไม่เอา(เห็นด้วยหรือไม่) ในส่ิงที่จะกระทำนั้น อย่าลืม ประชาชนที่มีความรู้ยังมีอีกมาก แต่ไม่มีโอกาส อย่าบังคับกันเลย มันล้าสมัยแล้ว ถ้าดื้อดึงคนก็จะไม่ปฏิบัติตามกฏหมายมากขึ้น

              สิ่งที่ผมอยากเห็นเวลานี้ คือ การสืบสวนสาธารณา หาสาเหตุที่แท้จริง ว่ามหาอุทกภัยที่ผ่านมานั้น เกิดขึ้นได้อย่างไร กรมชลประทาน หรือผู้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบดำเนินการไปอย่างไร  ที่ถูกต้องและประวัติการดำเนินการที่ผ่านมาเคยปฏิบัติไว้อย่างไร ทำไมจึงไม่ทำตามนั้น เราต้องหาความจริงให้ได้ อย่าละเลยเด็ดขาด เพราะ พระพุทธองค์ทรงสอนว่า ธรรมเกิดจากเหตุเป็นปัจจัยทั้งสิ้น ถ้าเหตุดับ ปัจจัยที่ตามมาจะไม่เกิด

              เมื่อเราทราบสาเหตุที่แท้จริงแล้ว เราก็กระทำตรงกันข้ามกับเหตุที่เกิด มหาอุทกภัยก็ไม่บังเกิดขึ้น ถ้าเราไม่ทำความจริงให้ปรากฏ น้ำก็ยังจะท้วมแบบนี้ทุกปี ไม่มียกเว้น ขึ้นอยู่ว่าจะมากหรือน้อย  อย่าทำแบบคนไทย คือ หยวนๆ ยอมๆ อโหสิกรรม กันไป มันไม่ถูกต้อง ต้องทำความจริงให้ปรากฏ ว่ามาจากเหตุปัจจัยที่แท้จริงอะไรบ้าง เราจะสามารถแก้ไขได้ ต้องไม่ไว้หน้าใครทั้งสิ้น มันไม่เกี่ยวกับการหาคนผิดมาลงโทษ เราต้องการทราบความจริงเพื่อ แก้ไขไม่ให้มันเกิดขึ้นซ้ำซากอีกต่างหาก

              ผมขอปวารนาตัวเอง เป็นผู้สอบสวนสาธารณะคนหนึ่ง ถ้าเข้าแต่งตั้งให้เป็นผู้ดำเนินการ ครับ

              สวัสดี
      บันทึกการเข้า
เอมอร 2515
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu 2515
คณะ: รัฐศาสตร์(นิติศาสตร์)
กระทู้: 4,562

« ตอบ #4589 เมื่อ: 09 ธันวาคม 2554, 09:07:46 »

อ้างถึง
ข้อความของ pusadee sitthiphong เมื่อ 07 ธันวาคม 2554, 21:12:01
อ้างถึง
ข้อความของ Manop  Klabdee เมื่อ 07 ธันวาคม 2554, 20:44:35
อ้างถึง
ข้อความของ pusadee sitthiphong เมื่อ 07 ธันวาคม 2554, 20:29:50
พี่ป๋องคะ ราเมศวร เป็นไงมั่ง ไม่ยอมอพยพเลย

สวัสดีค่ะ คุณน้องป้อมที่รัก

            เธอสบายดีหรือเปล่า ไปเที่ยวงานพืชสวนมาหรือยัง ครับ พี่สิงห์ว่าจะไปเดือนมกราคม ครับ

            สวัสดี


สวัสดีค่ะ
ตัวเองสบายดีค่ะ แต่คุณสามีไม่ค่อยสบาย ตกกะไดบ้านแขนซ้ายหักค่ะ สาเหตุจากจะขึ้นไปปิดบันไดขึ้นบ้านเพื่อเปิดแอร์ ประตูหลุดมือเสียหลักตกลงมา 7-8 ขั้น โชคดีไม่เอาหัวลงและก้นกระแทกพื้น เขาว่าถ้าเป็น 2 อย่างนั่นต้องแย่แน่ๆเลย คุณหมอเลยผ่าตัดเอาเหล็กดามให้ แล้วให้เหล็กอยู่ด้วยไปตลอดชีวิตไม่ผ่าออกเพราะอายุมากแล้ว
กลางวันนี้ไปเดินเที่ยวในม.แม่โจ้กับอ้อมมาค่ะ อ้อมเลี้ยงไอติมชาคริต เอาปฏิทินหอเราไปให้อ้อมและฝากให้น้องว่านด้วย อ้อมก็สบายดีค่ะ ถามถึงพี่สิงห์อยู่ ว่าข่าวว่าบ้านพี่สิงห์น้ำท่วม
พืชสวนโลกยังไม่ได้ไปค่ะ น้องแจงน้องไมน้องกรรณะก็ชวนไปตอนเอาเสื้อกับปฏิทินมาให้ แต่ป้อมไม่ว่างต้องอยู่โรงพยาบาล คนอื่นเขาว่าเหมือนๆคราวที่แล้ว ถ้าไปก่อนเปิดงานก็จะไม่ได้ดูครบถ้วน รายการแสดงก็ไม่มี พี่อี๊ดสุภาณีก็อยากไปดูก่อนค่ะ ป้อมยังไม่ได้คุยกับพี่เขาเลย

สวัสดีค่ะ น้องป้อม
 ส่งกำลังใจมานะคะ
 หากแขนหักคงใช้งานไม่ได้ดีแน่
 คนข้างเคียง เป็นกำลังที่ดี แทนค่ะ
      บันทึกการเข้า
เอมอร 2515
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu 2515
คณะ: รัฐศาสตร์(นิติศาสตร์)
กระทู้: 4,562

« ตอบ #4590 เมื่อ: 09 ธันวาคม 2554, 09:08:34 »

สวัสดี ตอนสายๆค่ะ พี่สิงห์
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #4591 เมื่อ: 09 ธันวาคม 2554, 09:12:49 »


ขอความช่วยเหลือด่วน!
                 
                 ตอนนี้แม่เริ่มมีแผละที่หลัง จากการนอนมาก น้องสาวได้รับคำแนะนำจาก คุณสิริชัย(ตั้ง) ให้ซื้อแผ่นเจลใสๆ มารองนอน และน้องสาวได้สั่งซื้อจากคุณสิริชัย ไปแล้ว แต่สิริชัย บอกว่า ของไม่มีตอนนี้

                 ดังนั้น ใครทราบว่าจะซื้อแผ่นเจลใส สำหรับให้ผู้ป่วยนอน ได้ที่ไหน กรุณาแจ้งมาที่นี่ จักขอบพระคุณยิ่ง ผมจะได้ไปซื้อหาเอาไปให้แม่นอน ครับ

                 สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #4592 เมื่อ: 09 ธันวาคม 2554, 09:15:04 »

อ้างถึง
ข้อความของ เอมอร 2515 เมื่อ 09 ธันวาคม 2554, 09:08:34
สวัสดี ตอนสายๆค่ะ พี่สิงห์
สวัสดีค่ะ คุณน้องเอมอร ที่รัก

            บ้านเธอเรียบร้อย เข้าไปอยู่ ได้หรือยัง เป็นห่วงครับ

            สวัสดี
      บันทึกการเข้า
KUSON
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,125

« ตอบ #4593 เมื่อ: 09 ธันวาคม 2554, 11:36:40 »

กุศลขอขอบคุณทุกๆท่าน
ที่กรุณาให้กำลังใจ และส่งข้อความมาณ.ที่นี้ครับ
      บันทึกการเข้า
pusadee sitthiphong
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

คณะ: พาณิชยศาสตร์และการบัญชี
กระทู้: 4,689

« ตอบ #4594 เมื่อ: 09 ธันวาคม 2554, 13:11:22 »

อ้างถึง
ข้อความของ เอมอร 2515 เมื่อ 09 ธันวาคม 2554, 09:07:46
อ้างถึง
ข้อความของ pusadee sitthiphong เมื่อ 07 ธันวาคม 2554, 21:12:01
อ้างถึง
ข้อความของ Manop  Klabdee เมื่อ 07 ธันวาคม 2554, 20:44:35
อ้างถึง
ข้อความของ pusadee sitthiphong เมื่อ 07 ธันวาคม 2554, 20:29:50
พี่ป๋องคะ ราเมศวร เป็นไงมั่ง ไม่ยอมอพยพเลย

สวัสดีค่ะ คุณน้องป้อมที่รัก

            เธอสบายดีหรือเปล่า ไปเที่ยวงานพืชสวนมาหรือยัง ครับ พี่สิงห์ว่าจะไปเดือนมกราคม ครับ

            สวัสดี


สวัสดีค่ะ
ตัวเองสบายดีค่ะ แต่คุณสามีไม่ค่อยสบาย ตกกะไดบ้านแขนซ้ายหักค่ะ สาเหตุจากจะขึ้นไปปิดบันไดขึ้นบ้านเพื่อเปิดแอร์ ประตูหลุดมือเสียหลักตกลงมา 7-8 ขั้น โชคดีไม่เอาหัวลงและก้นกระแทกพื้น เขาว่าถ้าเป็น 2 อย่างนั่นต้องแย่แน่ๆเลย คุณหมอเลยผ่าตัดเอาเหล็กดามให้ แล้วให้เหล็กอยู่ด้วยไปตลอดชีวิตไม่ผ่าออกเพราะอายุมากแล้ว
กลางวันนี้ไปเดินเที่ยวในม.แม่โจ้กับอ้อมมาค่ะ อ้อมเลี้ยงไอติมชาคริต เอาปฏิทินหอเราไปให้อ้อมและฝากให้น้องว่านด้วย อ้อมก็สบายดีค่ะ ถามถึงพี่สิงห์อยู่ ว่าข่าวว่าบ้านพี่สิงห์น้ำท่วม
พืชสวนโลกยังไม่ได้ไปค่ะ น้องแจงน้องไมน้องกรรณะก็ชวนไปตอนเอาเสื้อกับปฏิทินมาให้ แต่ป้อมไม่ว่างต้องอยู่โรงพยาบาล คนอื่นเขาว่าเหมือนๆคราวที่แล้ว ถ้าไปก่อนเปิดงานก็จะไม่ได้ดูครบถ้วน รายการแสดงก็ไม่มี พี่อี๊ดสุภาณีก็อยากไปดูก่อนค่ะ ป้อมยังไม่ได้คุยกับพี่เขาเลย

สวัสดีค่ะ น้องป้อม
 ส่งกำลังใจมานะคะ
 หากแขนหักคงใช้งานไม่ได้ดีแน่
 คนข้างเคียง เป็นกำลังที่ดี แทนค่ะ
สวัสดีค่ะพี่อร ขอบพระคุณที่เป็นกำลังใจค่ะ
ตอนนี้หนูทำงานเป็นคนขับรถ ต้องรับส่งผู้ป่วยไปโน่นมานี่ค่ะ คุณหมอบอกว่าห้ามยกของหนักเกิน 2 กก.ไปอีกซัก 3 เดือนค่ะ
      บันทึกการเข้า

pom shi 2516
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #4595 เมื่อ: 09 ธันวาคม 2554, 15:26:16 »

พี่สิงห์

ผมเคยซื้อ ที่ร้านขายยาตรงข้าม รพ.ราชวิถี น่าจะมีขายทุกร้าน
มีทั้งแบบเป็นผ้า แบบสูบลมซึ่งพัดเก็บใส่กล่องและเคลื่อนย้ายได้ง่าย
จะใช้แบบไหน ลองโทรกลับไปถามความต้องการของคนใช้
ราคามีแตกต่างครับ ต่ำพันขึ้นไป
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #4596 เมื่อ: 09 ธันวาคม 2554, 19:47:34 »

อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 09 ธันวาคม 2554, 15:26:16
พี่สิงห์

ผมเคยซื้อ ที่ร้านขายยาตรงข้าม รพ.ราชวิถี น่าจะมีขายทุกร้าน
มีทั้งแบบเป็นผ้า แบบสูบลมซึ่งพัดเก็บใส่กล่องและเคลื่อนย้ายได้ง่าย
จะใช้แบบไหน ลองโทรกลับไปถามความต้องการของคนใช้
ราคามีแตกต่างครับ ต่ำพันขึ้นไป

             
                 - ขอบพระคุณมากครับ คุณเหยง

                 - ผมอยู่นครศรีธรรมราช ฝนตกทั้งวัน แต่ไม่หนักมาก ไม่เห็นพระอาทิตย์เลย วันนี้เย็นผมเลยเดินออกกำลังกายที่ห้องฟิตเนส โยคะ รำชิกง และซาวน่า ครับ

                 - ตอนที่ 1-2-go ลง เครื่องบินส่ายไปมาเหมือนกัน เนื่องจากลมแรง นั่งเครื่อง MD รุ่นเก่ามันก็อย่างนี้ บินไม่นิ่ง ยิ่งเวลาเจาะเมฆลงมาแล้วสั่นทั้งลำ นอกจากนี้รู้สึกว่าอัดอากาศมากคือมีแรงดันมาก นี่ก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ประชาชนทั่วไปไม่บิน 1-2-go ครับ

                 - วันเสาร์เย็น ผมกลับ กทม. Boarding 15:55 น. โดย Nok Air

                   สวัสดีครับ
      บันทึกการเข้า
khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #4597 เมื่อ: 10 ธันวาคม 2554, 00:54:25 »

อ้างถึง
ข้อความของ Manop  Klabdee เมื่อ 09 ธันวาคม 2554, 09:12:49

ขอความช่วยเหลือด่วน!
                 
                 ตอนนี้แม่เริ่มมีแผละที่หลัง จากการนอนมาก น้องสาวได้รับคำแนะนำจาก คุณสิริชัย(ตั้ง) ให้ซื้อแผ่นเจลใสๆ มารองนอน และน้องสาวได้สั่งซื้อจากคุณสิริชัย ไปแล้ว แต่สิริชัย บอกว่า ของไม่มีตอนนี้

                 ดังนั้น ใครทราบว่าจะซื้อแผ่นเจลใส สำหรับให้ผู้ป่วยนอน ได้ที่ไหน กรุณาแจ้งมาที่นี่ จักขอบพระคุณยิ่ง ผมจะได้ไปซื้อหาเอาไปให้แม่นอน ครับ

                 สวัสดี



พี่สิงห์คะ เค้าเรียกอะไรคะ?
clickหาในเวบเยอรมันระวิง
ไม่เห็นมีคะ มีแต่ที่รองนอน
ที่ทำเป็นแผ่นๆคล้ายผ้าอนามัย
มีประสิทธิภาพในการดูดซึมซับ
เปลี่ยนความชื้นและของเหลว
ให้เป็นเจลค่ะ.
      บันทึกการเข้า


khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #4598 เมื่อ: 10 ธันวาคม 2554, 01:00:33 »

คล้ายๆแบบนี้คะ
ที่เค้าใช้รองให้ผู้ป่วย
เพื่อไม่ให้แผลเปื่อยจาก
ความชื้น

60x60 cm.




http://inkosafe.shop-011.de/inkosafe-p1526h57s144-ABENA-ABRI-SOFT-CLAS.html?sid=c59f9813af92ca7cdfed48555e6601bb
      บันทึกการเข้า


khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #4599 เมื่อ: 10 ธันวาคม 2554, 01:13:21 »

หาแบบเจล พบแต่ที่คลุมไปบนที่นอน
นุ่มๆ ทำด้วยเจล...


แต่แบบรองเตียงให้ผู้สูงอายุ/ผู้ป่วย
เค้าใช้แบบนี้คะ..กำลังซับสูงมาก
คือเปลี่ยนสภาพเป็นเจลคะ ผิวผู้ป่วยแห้ง.

เป็นpack ละ 300 แผ่นค่ะ
(1กล่อง 6 ถุง @ 50 pcs. = 300 pcs.)
กำลังซึมซับรับได้ 420 ml.




http://inkosafe.shop-011.de/inkosafe-p501h57s125-ATTENDS-Cover-Dri-5-.html
      บันทึกการเข้า


  หน้า: 1 ... 182 183 [184] 185 186 ... 681   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

ทำไมหอพักนิสิตจุฬาจึงเป็นดินแดนมหัศจรรย์            " ไม่ได้เป็นแค่หอให้นอนพัก  แต่เป็นบ้านอบอุ่นรักให้อาศัย  ไม่เป็นแค่ที่ซุกหัวยามหลบภัย  แต่สร้างใจให้เข้มแข็งแกร่งการงาน"  <))))><