30 มิถุนายน 2567, 13:12:03
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: 1 ... 177 178 [179] 180 181 ... 681   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: คุย กับ คุณมานพ กลับดี อดีตประธานชมรม ๓ สมัย  (อ่าน 3334683 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 6 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #4450 เมื่อ: 29 พฤศจิกายน 2554, 16:51:19 »

อ้างถึง
ข้อความของ phraisohn เมื่อ 29 พฤศจิกายน 2554, 16:44:34
แวะมาทันพี่สิงห์พอดีเลย สวัสดียามเย็นครับพี่สิงห์

              สวัสดีครับ คุณน้องไพรสนต์ แห่ง young designer
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #4451 เมื่อ: 29 พฤศจิกายน 2554, 16:55:00 »

รู้ประวัติพุทธสาวก อรหันต์ เอตทัคคะ

ลำดับที่ ๓๒

พระนันทกเถระ

เอตทัคคะในทางผู้ให้โอวาทภิกษุณี


               พระนันทกเถระ เกิดในตระกูลพราหมณ์ เมืองสาวัตถี เมื่อเจริญวัยเติบโตขึ้นมาได้มีโอกาสไปฟังพระธรรมเทศนาจากพระบรมศาสดาแล้ว เกิดศรัทธาเลื่อมใส กราบทูลขออุปสมบทในพระพุทธศาสนา ตั้งใจบำเพ็ญเพียรเจริญสมณธรรม ได้สำเร็จเป็นพระอรหันต์ท่านก็เป็นอีกรูปหนึ่ง ที่มีความชำนาญเป็นพิเศษในการระลึกชาติในอดีตของตนเองและสัตว์อื่น ๆ ได้ นอกจากนี้ท่านยังมีความเชี่ยวชาญในการแสดงธรรมแก่พุทธบริษัททั้ง ๔ สามารถชี้แจงยกอุปมาอุปไมยอธิบาย จนทำให้ผู้ฟังเข้าใจแจ่มแจ้งท่านเคยแสดงธรรมแก่ภิกษุณี จำนวนถึง ๕๐๐ รูป จนได้บรรลุพระอรหัตผล ณวัดราชการาม ซึ่งเป็นวัดที่พระเจ้าปเสนทิโกศล สร้างถวายตั้งอยู่ทางทิศใต้ของเมืองสาวัตถี แคว้นโกศล ซึ่งในครั้งนั้นขณะที่พระบรมศาสดาประทับอยู่ ณ พระเชตะวันมหาวิหาร พระมหาปชาบดีเถรี ได้พาภิกษุณีประมาณ ๕๐๐ รูป มาเข้าเฝ้าพระบรมศาสดา เพื่อรับฟังพระธรรมเทศนาและพระพุทธองค์ได้ทรงมอบหมายให้พระภิกษุณีเหล่านั้น และในบรรดาภิกษุสาวกเหล่านั้น ก็มีพระนันทกะรวมอยู่ด้วย

             • หลีกเลี่ยงแสดงธรรมแก่ภิกษุณี

               พระสาวกรูปอื่น ๆ เมื่อถึงวาระของตนก็ไปแสดงธรรมตามหน้าที่ด้วยดีทุกองค์ แต่พอถึงวาระพระนันทกะ ท่านไม่ไปแสดงธรรมเอง แต่ให้พระภิกษุรูปอื่นไปแสดงธรรมแทนเหตุที่เป็นเช่นนี้ เพราะท่านระลึกชาติในอดีตได้ว่า “ภิกษุณีเหล่านั้น ในอดีตชาติเคยเป็นบาทจาริกา ข้ารับใช้ของท่านมาก่อน” ดังนั้น ท่านจึงเกรงว่า “ถ้าพระภิกษุพุทธสาวกรูปอื่นที่สามารถระลึกชาติในอดีตได้ทราบความแล้วอาจจะตำหนิท่านว่า ยังมีความผูกพันกับภิกษุณีเหล่านั้นอยู่ก็ได้” เรื่องนี้ทรงทราบถึงพระบรมศาสดาจึงทรงมีพระบัญชารับสั่งด้วยพระองค์เองให้พระนันทกะ ไปแสดงธรรมแก่นางภิกษุณีเหล่านั้น ท่านไม่อาจจะขัดพระบัญชาได้ จึงต้องไปเมื่อถึงสาระของตนท่านแสดงธรรมว่าด้วยเรื่องอายตนะภายใน คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ และอายตนะภายนอก คือ รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ ธรรมารมณ์เมื่ออายตนะภายนอกสัมผัสกันแล้ว ทำให้เกิดเวทนา ถ้าชอบใจก็เกิดสุขเวทนา ถ้าไม่ชอบใจก็เกิดทุกขเวทนา ถ้าไม่เกิดความรู้สึกชอบใจหรือไม่ชอบใจก็เป็นอุเบกขาเวทนา ท่านได้ชี้แจงให้เห็นว่าสิ่งเหล่านั้น ไม่เที่ยงแท้ ย่อมผันแปรเปลี่ยนไป ไม่มีตัวตนที่ควรจะยึดถือได้

               ท่านพระนันทกะ ได้แสดงธรรมแก่ภิกษุณีเหล่านั้นในวันแรก ภิกษุณีทั้งหลาย ได้บรรลุเป็นพระโสดาบัน พากันชื่นชมโสมนัสยินดีในธรรมกถาของท่าน พระบรมศาสดาทราบความนั้นแล้ว จึงรับสั่งให้ท่านไปแสดงธรรมอีกเป็นครั้งที่สอง ซึ่งท่านก็ได้แสดงในเรื่องเดียวกัน เมื่อจบลงแล้วนางภิกษุณีเหล่านั้น ได้บรรลุเป็นพระอรหันต์ด้วยกันทั้งหมด ด้วยอานิสงส์ที่สามารถควบคุมจิตให้สงบจากความรักความผูกพันในอดีตชาติได้

               ด้วยเหตุนี้ พระบรมศาสดาจึงทรงยกย่องท่านในตำแหน่งเอตทัคคะเป็นผู้เลิศกว่าภิกษุทั้งหลาย ในทางผู้ให้โอวาทภิกษุณี

                ท่านดำรงอายุสังขาร สมควรแก่กาลเวลาแล้วก็ดับขันธปรินิพพาน
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #4452 เมื่อ: 29 พฤศจิกายน 2554, 17:04:08 »


              - จะเห็นว่าจุดน้ำท้วมขัง ยังอยู่พื้นที่ด้านเหนือของกทม.ทั้งหมด คือทุ่งสีกัน  ดอนเมือง สายไหม สามวา รามอินทรา มีนบุรี หนองจอก

                - ถนนสุวินทวงศ์ รถเล้กสามารถวั่งได้แล้วทั้งขาไปและขากลับ ผมสามารถจะไปตีกอล์ฟที่สนาม President ได้แล้ว

                - วันนี้ผมขับรถบนดอนเมืองโทลเวย์ สามารถมองเห็น Ruanway สนามบินดอนเมืองโผล่น้ำบางส่วนแล้วครับ เป็นข่าวที่ดีครับ

                  สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #4453 เมื่อ: 29 พฤศจิกายน 2554, 17:09:26 »


                สำหรับฝั่งธนบุรี นั้น ทาง กทม. สามารถรักษาระดับน้ำในถนนพระรามที่ ๒ ให้รถเล้กสามารถวิ่งได้ และวันนี้ระดับน้ำที่ถนนเพชรเกษม รถเล้กวิ่งได้แล้ว ทำให้ถนนที่ไปสายใต้ยังสามารถใช้ได้ตลอดไปครับ

                สำหรับถนนพระบรมราชชนนี ยังต้องรออีกสอง-สามอาทิตย์ หรือปีใหม่ครับ ยังมีน้ำท้วมขังรถเล็กไม่สามารถผ่านได้ อยู่หลายช่วง

                ส่วนแถวพุทธมณฑล นั้น ระดับน้ำยังเหลือเป็นเมตร คงต้องอีกสอง-สามอาทิตย์ หรือปีใหม่โน่นครับ รวมถึงทางบางบัวทองด้วย เพราะน้ำเหล่านี้ไม่มีที่ไปครับ ต้องรอให้ กทม. ศปภ. รัฐบาลมาสูบทิ้ง ครับ

                สวัสดี

            
      บันทึกการเข้า
suriya2513
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,457

« ตอบ #4454 เมื่อ: 29 พฤศจิกายน 2554, 18:55:31 »

เขากำลังล้างบ้านผมอยู่ครับ
หลานข้างบ้านที่ผมบังคับให้เขาเอารถเข้ามาจอดในบ้านผม 1 คัน
(ไม่ให้ไปเกะกะชาวบ้านร้านถนน เพราะเทาวน์เฮาส์ผมจอดได้สองคัน)
หลานเลยจัดการให้ครับ เป็นการตอบแทนบุญคุณบ้าง
วันนี้ถ้าผมนั่งเรือไปขึ้น-ล่องไปตามคลองวิภาวดีรังสิต จนถึงที่หน้าหมู่บ้าน
แล้วเดินเท้าเข้าไปตามถนนหมู่บ้าน ก็นอนพักอาศัยที่บ้านได้เลย
มันติดตรงที่ว่าผมยังหาเรือไม่ได้เนี่ยครับ
(ทราบว่าเสี่ยมิ๊งค์มีติดท้ายรถอยู่หนึ่งลำ)
      บันทึกการเข้า

[โบราณคดี]จุดกำเนิดเริ่มต้นของ cmadong.com by : มานพ กลับดี  คลิ๊ก->
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #4455 เมื่อ: 29 พฤศจิกายน 2554, 20:19:41 »

อ้างถึง
ข้อความของ suriya2513 เมื่อ 29 พฤศจิกายน 2554, 18:55:31
เขากำลังล้างบ้านผมอยู่ครับ
หลานข้างบ้านที่ผมบังคับให้เขาเอารถเข้ามาจอดในบ้านผม 1 คัน
(ไม่ให้ไปเกะกะชาวบ้านร้านถนน เพราะเทาวน์เฮาส์ผมจอดได้สองคัน)
หลานเลยจัดการให้ครับ เป็นการตอบแทนบุญคุณบ้าง
วันนี้ถ้าผมนั่งเรือไปขึ้น-ล่องไปตามคลองวิภาวดีรังสิต จนถึงที่หน้าหมู่บ้าน
แล้วเดินเท้าเข้าไปตามถนนหมู่บ้าน ก็นอนพักอาศัยที่บ้านได้เลย
มันติดตรงที่ว่าผมยังหาเรือไม่ได้เนี่ยครับ
(ทราบว่าเสี่ยมิ๊งค์มีติดท้ายรถอยู่หนึ่งลำ)

              เกิดเป็น ดร.สุริยา  สบายไปเสียทุกอย่าง เปรียบเสมือนพระอนุรุธเถระ พระสีวลีเถระ มีเทวดามาคอยช่วยเหลือตลอด ดร.สุริยา ก็เช่นกัน มีคนคอยทำอะไรๆ ให้ทุกอย่าง ยกเว้นอย่างเดียว เขาหาเมียมาให้ก็ไม่เอา

                ความคืบหน้าของคู่กรณีระหว่าง ดร.สุริยา VS อาจารย์ถาวร

                บ้าน ดร.สุริยา ในหมู่บ้านน้ำแห้ง แต่ทางเข้าบ้านไม่ได้ เพราะถนนวิภาวดีรังสิตยังเป็นคลองสูงเป็นเมตร

                บ้านอาจารย์ถาวร ถนนหน้าหมู่บ้านแห้งแล้ว แต่น้ำในหมู่บ้านยังมีอยู่ ๔๐ ซม. น้ำในบ้านแห้งแล้ว ยกเว้นห้องล่างยังมีน้ำขังนิดหน่อย ทางหมู่บ้านกำลังจะเร่งสูบน้ำออก

                ตอนนี้ถือว่ายังสูสีกันอยู่ครับ

                ใครที่ต้องการช่วยอาจารย์ถาวร  ทำความสะอาดบ้าน เตรียมตัวได้แล้วครับ อาจารย์ถาวร ต้องการคนช่วยเช่น ขัดผนัง ล้างพื้น ฉีดโอโซน  พ่นคลอรีน เป็นต้น ครับ

                สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #4456 เมื่อ: 29 พฤศจิกายน 2554, 20:23:13 »

ผู้ว่าฯสุขุมพันธุ์ ลงพื้นที่ให้กำลังใจประชาชนหมู่บ้านเศรษฐกิจ

วันอังคารที่ 29 พฤศจิกายน 2011 เวลา 19:16 น.


                (29 พ.ย.54) ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม พร้อมทั้งให้กำลังใจและมอบถุงยังชีพ น้ำดื่ม และยาเวชภัณฑ์ ให้แก่ประชาชนที่ประสบภัย บริเวณหมู่บ้านเศรษฐกิจ เขตบางแค

                ซึ่งขณะนี้ระดับน้ำในพื้นที่ดังกล่าวสูงประมาณ 50 ซม. โดยยังมีประชาชนจำนวนมากอาศัยอยู่ในหมู่บ้าน เนื่องจากเป็นห่วงบ้านและทรัพย์สิน ทั้งนี้กรุงเทพมหานครจะเร่งสูบน้ำลงสู่คลองทวีวัฒนาและคลองราชมนตรี รวมถึงติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพิ่มเติม เพื่อระบายน้ำออกจากพื้นที่ให้เร็วที่สุด ซึ่งคาดว่าประมาณ 2 สัปดาห์ ระดับน้ำจะลดลงเข้าสู่ภาวะปกติ อย่างไรก็ตามกรุงเทพมหานครขอให้ประชาชนทุกคนมีความอดทน นอกจากนี้ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครได้มอบถุงยังชีพให้ประชาชนในหมู่บ้านดังกล่าวอีกจำนวน 500 ถุง จากเงินส่วนตัวของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ในส่วนของเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัย จำนวน 5,000 บาทต่อครัวเรือนนั้น กรุงเทพมหานครได้สั่งการให้ลดขั้นตอนต่างๆ เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชน และจะเร่งดำเนินการจ่ายเงินให้กับผู้ประสบภัยโดยเร็วที่สุด


                                                                  -----------------------------
 
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #4457 เมื่อ: 30 พฤศจิกายน 2554, 08:05:20 »

สวัสดียามเช้าครับ ชาวซีมะโด่ง ที่รักทุกท่าน

              วันนี้ ก็เป็นเหมือนทุกวันที่ระยะหลังผมอยู่บ้านต้องปฏิบัติอยู่เป็นนิจ เป็นมัตตันยุตา คือมีความสม่ำเสมอในการกระทำ คือ ตื่นมานั่งเจริญสติ เช้ามืด หุงข้าวเตรียมใส่บาตรพระ-เณร อาบน้ำชำระร่างกายให้บริสุทธิ์ เดินจงกรมออกกำลังกายที่หน้าบ้าน เดินไปซื้อกับข้าวที่ตลาดลุงเพิ่ม มาใส่บาตรและเป็นอาหารเช้า เจ็ดโมงพระหรือเณร ท่านก็มาบิณฑบาตร พอกระทำเป็นประจำ จิตมันก็อยากให้กระทำตลอดไป เพราะเป็นสิ่งที่ดี ที่เราสามารถกระทำได้

               ขณะรอพระก็จะนำข้อธรรมที่ทราบ มาเล่าสู่กันฟังกับพี่โส เช่นวันนี้ ผมบอกพี่โสว่า เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ผมไปทำงานที่ PSTC สระบุรี คุณมานพ หัวหน้าแผนกวิศวกรรม ได้ตั้งคำถามกับผมว่า "อาจารย์ หลวงพ่อที่วัด ท่านบอกกับผมว่า การเจริญอิทธิบาท ๔ อยู่เป็นนิจ จะทำให้อายุยืน จริงไหม? ครับ" ผมก็ตอบว่า "มันก็จริง ถ้าบุคคลใดเจริญ(พิจารณา - ประพฤติตาม - ปฏิบัติตาม) อยู่เป็นนิจในอิทธิบาท ๔ จะทำให้อายุยืน แต่ยังมีอย่างอื่นประกอบอีก เพราะ "อิทธิบาท ๔" นั้นเป็นธรรมที่จะเป็นเครื่องมือให้ประสพความสำเร็จในการกระทำทุกสิ่งของเราไม่เว้นเลย

               แต่การที่คนเราจะมีอายุยืนได้นั้น ต้องประกอบไปด้วยการปฏิบัติตนอย่างน้อย คือ

               - ต้องดูแลเรื่องอาหารการกิน ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายจริงๆ ในปริมาณพอดี และได้คุณค่าทางอาหารครบ

               - ต้องมีการออกกำลังกายตามวัย ให้เหมาะสม สม่ำเสมอ อยู่เป็นนิจ

               - ต้องทำจิตให้ผ่องใส ไม่ปรุงแต่ง คือ ไม่คิดมาก ไม่กังวล ไม่ปล่อยใจร่องลอยนอกอิริยาบถหลัก-ย่อย

               การที่เราจะปฏิบัติตนให้อายุยืน ต้องปฏิบัติทั้งสามสิ่งที่กล่าวมาข้างต้นให้สม่ำเสมออยู่เป็นนิจ การจะปฏิบัติให้ได้ตามนั้น บุคคลนั้นต้องนำอิทธิบาท ๔ มาใช้อย่างมาก เพราะมันไม่ง่ายเลยในการจะกระทำทั้งสามสิ่งนั้นให้สำฤทธิ์ผล คือ

               - ฉันทะ ก่อนอื่น บุคคลนั้น ต้องมีใจรัก เป็นสัมมาทิฏฐิ คือ มีความดำริชอบที่อยากอายุยืนก็ต้องปฏิบัติทั้งสามสิ่งนั้น เมื่อมีความเห็นชอบดังนี้ บุคคลนั้นก็จะมีใจรักที่จะกระทำด้วยความเต็มใจ ที่จะต้องกระทำ

               - วิริยะ เมื่อเราดำริชอบแล้ว ก็ต้องลงมือกระทำ ด้วยความอดทน พากเพียร เอาชนะจิตใจตัวเองให้ได้ ซึ่งอยากมาก แต่ก็สามารถกระทำได้

               - จิตตะ เราต้องมีจิตตั้งมั่นในการที่จะปฏิบัติ ทั้งสามประการนั้น โดยจิตไม่หวั่นไหว ทั้งสิ้น เมื่อเจอกับความท้อแท้ของจิตตัวเอง

               - วิมังสา ต้องใช้ปัญญา เพราะในการกระทำนั้น จะมีอุปสรรค เกิดขึ้นนานาชนิด แต่สิ่งที่จะเอาชนะอุปสรรคได้นั้น ต้องใช้ปัญญาพิจารณา ผิด-ถูก ตามเหตุ-ปัจจัย เราก็สามารถจะเอาชนะอุปรรคนั้นไปได้ โดยเฉพาะการที่จะเอาชนะจิตตนเอง

               เมื่อผมตอบดังนี้ คุณมานพ  ก็ยอมรับว่าจริงตามที่อาจารย์มานพ ได้ธิบาย ขยายความให้ทราบ

               พี่โส  ก็ยกมือไหว้พระ อนุโมทนา ในสิ่งที่ได้ยินได้ฟัง เช้านี้ครับ

               วันนี้เณรมาบิญฑบาตรแทนหลวงพ่อครับ

               รู้สึกว่า วัดลาดพร้าวจะมีการปฏิบัติธรรมที่วัด ตั้งแต่วันที่ ๑-๖ ธันวาคม  ท่านใดสนใจเรียนเชิญ แต่สำหรับผม ปฏิบัติอยู่แล้ว ๒๔ ชั่วโมง ที่บ้าน และการทำงาน

               สวัสดีครับ
      บันทึกการเข้า
เอมอร 2515
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu 2515
คณะ: รัฐศาสตร์(นิติศาสตร์)
กระทู้: 4,562

« ตอบ #4458 เมื่อ: 30 พฤศจิกายน 2554, 08:17:30 »

สวัสดีค่ะ พี่สิงห์
 ไม่ได้เข้ามาคุยกับพี่เสียนาน
เข้ามาสวัสดีค่ะ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #4459 เมื่อ: 30 พฤศจิกายน 2554, 08:33:02 »

อ้างถึง
ข้อความของ เอมอร 2515 เมื่อ 30 พฤศจิกายน 2554, 08:17:30
สวัสดีค่ะ พี่สิงห์
 ไม่ได้เข้ามาคุยกับพี่เสียนาน
เข้ามาสวัสดีค่ะ
สวัสดีค่ะ คุณน้องเอมอร ทีรัก

            เช้านี้เป็นเช้าที่ดีสำหรับพี่สิงห์ ที่เห็นเธอเข้ามา

            ขอต้อนรับครับ

            แสดงว่า บ้านเธอน้ำแห้งแล้ว และจิตเป็นปกติแล้วกับมหาน้ำท้วมที่ผ่านมา คงได้รับความเดือดร้อนพอสมควร เช่นเดียวกับพี่สิงห์ และท่านอื่นๆ มันเป็นอดีตไปแล้ว ลืมมันไปเลยครับ ความโชคดี ความสุข จะตามมาครับ

            สวัสดีค่ะ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #4460 เมื่อ: 30 พฤศจิกายน 2554, 08:35:57 »

สวัสดีค่ะ คุณน้องเอมอร ที่รัก

            ถ้าต้องการความช่วยเหลือในเรื่องทำความสะอาดบ้าน พวกเรามีจิตอาสา ที่จะไปช่วยหลายท่านด้วยกันเช่น อาจารย์เผ่า คุณมิ้ง ดร.มนตรี และอีกหลายท่านที่ไม่ได้เอ่ยนามครับ ขอให้บอกมาเลย ครับ

            สวัสดี
      บันทึกการเข้า
เอมอร 2515
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu 2515
คณะ: รัฐศาสตร์(นิติศาสตร์)
กระทู้: 4,562

« ตอบ #4461 เมื่อ: 30 พฤศจิกายน 2554, 08:53:43 »

อ้างถึง
ข้อความของ Manop  Klabdee เมื่อ 30 พฤศจิกายน 2554, 08:33:02
อ้างถึง
ข้อความของ เอมอร 2515 เมื่อ 30 พฤศจิกายน 2554, 08:17:30
สวัสดีค่ะ พี่สิงห์
 ไม่ได้เข้ามาคุยกับพี่เสียนาน
เข้ามาสวัสดีค่ะ
สวัสดีค่ะ คุณน้องเอมอร ทีรัก

            เช้านี้เป็นเช้าที่ดีสำหรับพี่สิงห์ ที่เห็นเธอเข้ามา

            ขอต้อนรับครับ

            แสดงว่า บ้านเธอน้ำแห้งแล้ว และจิตเป็นปกติแล้วกับมหาน้ำท้วมที่ผ่านมา คงได้รับความเดือดร้อนพอสมควร เช่นเดียวกับพี่สิงห์ และท่านอื่นๆ มันเป็นอดีตไปแล้ว ลืมมันไปเลยครับ ความโชคดี ความสุข จะตามมาครับ

            สวัสดีค่ะ

พี่สิงห์คะ
 น้ำในบ้านยังอยู่ที่เอวค่ะ  จากคราบน้ำที่เห็นในบ้าน ประมาณคางค่ะ
 แถมเข้าบ้านไม่ได้ เพราะประตูไม้พองเปิดไม่ออก
 เข้าไปดู ไปเอาของไม่ได้ค่ะ
 แถมรัฐบาลบอกว่า ฝั่งตะวันตก คงจะลดหลังวันที่ 10  ค่ะ
แต่ที่ยังดี คือว่า แม้ลำบากเรื่อง บ้าน เรื่องสอบของลุก ทรัพย์สินเสียหาย
และต้องเตรียมค่าซ่อมแซมอีกมากๆ
 ก็ยังมีเงินเดือน มีที่อื่นให้อยุ่อาศัย ก็ยังไม่ลำบากนัก  มีคนที่ลำบากมากกว่ามาก
 ก็ถือว่ายังโชคดี
 เพิ่งกลับมาทำงาน ค่ะ ตอนไปอยุ่ชลบุรี ไม่มีคอมฯค่ะ ยังไม่ได้อ่านกระทู้ของพี่สิงห์เลยค่ะ
 ไล่อ่านตามหลังก่อนนะคะ ยังไม่ทราบว่าพี่สิงห์เป็นอย่างไรบ้าง
 หวังว่า เดือนที่ผ่านมาพี่คงสบายดี
      บันทึกการเข้า
เอมอร 2515
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu 2515
คณะ: รัฐศาสตร์(นิติศาสตร์)
กระทู้: 4,562

« ตอบ #4462 เมื่อ: 30 พฤศจิกายน 2554, 08:56:07 »

อ้างถึง
ข้อความของ Manop  Klabdee เมื่อ 30 พฤศจิกายน 2554, 08:35:57
สวัสดีค่ะ คุณน้องเอมอร ที่รัก

            ถ้าต้องการความช่วยเหลือในเรื่องทำความสะอาดบ้าน พวกเรามีจิตอาสา ที่จะไปช่วยหลายท่านด้วยกันเช่น อาจารย์เผ่า คุณมิ้ง ดร.มนตรี และอีกหลายท่านที่ไม่ได้เอ่ยนามครับ ขอให้บอกมาเลย ครับ

            สวัสดี

ขอบคุณมากๆเลยค่ะ
 คงต้องอีกหลายวัน กว่าจะเข้าไปทำความสะอาดได้ค่ะ
ขอบคุณกลุ่มจิตอาสาของชาวซีมะโด่งทุกคนค่ะ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #4463 เมื่อ: 30 พฤศจิกายน 2554, 09:06:35 »

สวัสดีครับ ชาวซีมะโด่ง ที่รักทุกท่าน

              มีอีกเรื่องที่อยากจะเล่าให้ฟังเช้านี้ คือ คุณมานพ  ผู้จัดการแผนกวิศวกรรม PSTC เป็นนักปฏิบัติธรรม บวชที่วัดพระธรรมกาย เพื่อศึกษา-ปฏิบัติธรรม ตามโครงการของวัดพระธรรมกาย มาหนึ่งเดือน เวลานั่งปฏิบัติธรรม เห็นแต่ภาพอย่างโน้น อย่างนี้ และเมื่อศึกออกมาก็มาปฏิบัติธรรมที่วัดบึง สระบุรีต่อ เป็นปีต่อเนื่อง และเริ่มต้นพร้อมๆ กับผม ปฏิบัติธรรม เมื่อรู้ความจริงในสิ่งที่พระพุทธองค์สอน แต่คนละแนวทาง แต่ผมก็สามารถตอบคำถามเขาทุกคำถามโดยเขาสามารถยอมรับได้ และยอมรับว่ามันเป็นเช่นนั้น เขาจะถามผม เสมอในข้อสงสัย และสิ่งที่พบ เมื่อผมไปสระบุรี

             ผมเองก็ตอบแบบในสิ่งที่ตนได้พบ ผมมีแต่ความปกติของจิต ที่สงบ ปรุงแต่งน้อย ไม่พบอะไรที่มันนอกเหนือธรรมชาติเลย ส่วนคุณมานพ นั้น ตั้งแต่ปฏิบัติธรรม มานั้น จิตไม่อยู่กับในสิ่งที่กระทำเลย ทำงานใจลอย ลืม กระทำไม่สำเร็จตามที่ได้รับปากไว้ อยู่เป็นนิจ  จนคุณดิเรก กรรมการผู้จัดการ PSTC ต้องเตือนหลายครั้งแล้ว ผมเองก็บอกว่าเราปฏิบัติธรรมนั้น เป็นสิ่งที่ดี แต่อย่าลืมพระพุทธองค์ ทรงย้ำว่า ต้องสำรายกาย วาจา และใจ อยู่เป็นนิจ และปฏิบัติตาม ไตรสิกขา คือ ศีล  สมาธิ  ปัญญา ต้องทำงานด้วยความมีสติ รู้สึกตัว มันจะต้องทำงานได้ดีขึ้นประสพความสำเร็จมากกว่าเดิม สำหรับนักปฏิบัติธรรม ไม่ใช่ทำงานแย่ลง มันไม่ถูกต้อง แสดงว่าเราปล่อยจิตร่องลอยไป ไม่อยู่ในสิ่งที่กระทำ มันผิดทางของพระพุทธองค์แล้ว และบกพร่องเรื่องศีล ๕ เพราะรับปากใครไว้ ทำไม่ได้ ลืมกระทำ มันผิดต่อผู้อื่น และตนเอง ขอให้กลับมาทำให้ถูกทางเสีย ยังไม่สาย

             ก็เรียนให้ทุกท่านได้ทราบเพิ่มเติม ครับ เช้านี้

             สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #4464 เมื่อ: 30 พฤศจิกายน 2554, 09:15:19 »

อ้างถึง
ข้อความของ เอมอร 2515 เมื่อ 30 พฤศจิกายน 2554, 08:53:43
อ้างถึง
ข้อความของ Manop  Klabdee เมื่อ 30 พฤศจิกายน 2554, 08:33:02
อ้างถึง
ข้อความของ เอมอร 2515 เมื่อ 30 พฤศจิกายน 2554, 08:17:30
สวัสดีค่ะ พี่สิงห์
 ไม่ได้เข้ามาคุยกับพี่เสียนาน
เข้ามาสวัสดีค่ะ
สวัสดีค่ะ คุณน้องเอมอร ทีรัก

            เช้านี้เป็นเช้าที่ดีสำหรับพี่สิงห์ ที่เห็นเธอเข้ามา

            ขอต้อนรับครับ

            แสดงว่า บ้านเธอน้ำแห้งแล้ว และจิตเป็นปกติแล้วกับมหาน้ำท้วมที่ผ่านมา คงได้รับความเดือดร้อนพอสมควร เช่นเดียวกับพี่สิงห์ และท่านอื่นๆ มันเป็นอดีตไปแล้ว ลืมมันไปเลยครับ ความโชคดี ความสุข จะตามมาครับ

            สวัสดีค่ะ

พี่สิงห์คะ
 น้ำในบ้านยังอยู่ที่เอวค่ะ  จากคราบน้ำที่เห็นในบ้าน ประมาณคางค่ะ
 แถมเข้าบ้านไม่ได้ เพราะประตูไม้พองเปิดไม่ออก
 เข้าไปดู ไปเอาของไม่ได้ค่ะ
 แถมรัฐบาลบอกว่า ฝั่งตะวันตก คงจะลดหลังวันที่ 10  ค่ะ
แต่ที่ยังดี คือว่า แม้ลำบากเรื่อง บ้าน เรื่องสอบของลุก ทรัพย์สินเสียหาย
และต้องเตรียมค่าซ่อมแซมอีกมากๆ
 ก็ยังมีเงินเดือน มีที่อื่นให้อยุ่อาศัย ก็ยังไม่ลำบากนัก  มีคนที่ลำบากมากกว่ามาก
 ก็ถือว่ายังโชคดี
 เพิ่งกลับมาทำงาน ค่ะ ตอนไปอยุ่ชลบุรี ไม่มีคอมฯค่ะ ยังไม่ได้อ่านกระทู้ของพี่สิงห์เลยค่ะ
 ไล่อ่านตามหลังก่อนนะคะ ยังไม่ทราบว่าพี่สิงห์เป็นอย่างไรบ้าง
 หวังว่า เดือนที่ผ่านมาพี่คงสบายดี

สวัสดีค่ะ คุณน้องเอมอร ที่รัก

            พี่สิงหืก็หวังว่าเช้านี้ ศาลปกครอง คงจะมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว ไม่ให้กู้ถนน 304 เพราะจะทำให้ประชาชนเหนือน้ำเดือดร้อน เพราะน้ำไม่มีทางไป

            นนทบุรี ระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่งมาก จริงๆ น้ำต้องลดลงแล้ว แต่บังเอิญน้ำที่ไปทางบางบัวทอง ไปแล้วไม่มีที่ไปต่อ โดนกักไม่ให้ไปทาง ฝั่งธนบุรีอีก มีทางเดียวคือ ต้องให้ ศปภ. ไประดมสูบกลับมาลงคูคลอง และลงแม่น้ำเจ้าพระยา  คงใช้เวลามากกว่า ๑๐ วันแน่นอน ครับ แต่ขอให้เร็วๆ ก็แล้วกัน

            สำหรับพี่สิงห์ขนาดท้วมไม่นาน ตู้ไม้อัดเสีย ประตูสองบานบวมปิดไม่ได้ เก้าอี้รับแขกเสีย ปั้มน้ำ เครื่องซักผ้าชำรุด  มันเป็นของกายทั้งสิ้น หามาใหม่ได้ หรือไม่มีมันเราก็อยู่ได้ครับ

            สำหรับบ้านเธอ คงต้องซ่อมมากหน่อย และต้องทาสีใหม่ แต่มันจะหนักตรงขัดผนังบ้านและพื้นนี่ละครับ หนักจริงๆ ครับ ต้องหาคนช่วยทำเองไม่ได้แน่นอน ครับ

            สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #4465 เมื่อ: 30 พฤศจิกายน 2554, 11:20:12 »


                วันพุธที่ ๓๐ พฤศจิกายน ระดับน้ำที่ปทุมธานี อยู่ต่ำกว่าตลิ่ง ๔ ซม. และที่ปากเกล็ด นนทบุรี ระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่ง ๔๘ ซม. มันบอกอะไรให้เราบ้าง ครับ

                 - มันบอกว่าน้ำทุ่งต่างๆ ที่เห็นกระจายเต็มหมดนั้น กำลังไหลลงคู คลอง และไหลกลับมาลงในแม่น้ำเจ้าพระยา อย่างช้าๆ อาจจะไม่ทันใจท่าน เพราะธรรมชาติมันย่อมมีอุปสรรคเสมอ

                - น้ำที่อยู่รังสิต ในคลองรังสิต ดอนเมือง จะไหลลงคูคลอง และถ้าเปิดประตูจุฬาลงกรณ์ น้ำจากคลองรังสิตจะไหลลงแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นการระบายน้ำตามธรรมชาติที่ไม่ต้องเสียเงินและยังรวดเร็วด้วย ถ้าไม่มีอะไรไปปิดกั้นมันเช่น Big Bag ต้องรื้อออกให้หมดเดี๋ยวนี้ ครับ

                - น้ำทางบางบัวทอง หรือที่ต่างๆ ที่ไม่ไกลจากแม่น้ำเจ้าพระยามากนัก และมีคู คลองต่อเนื่อง น้ำก็จะไหลกลับมาลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา บ้านท่านน้ำก็จะแห้งเร็ว แต่อุปสรรค คือ ถนน กระสอบทราย ต่างๆๆ จะเป็นตัวขวางทางน้ำ ต้องหาคนมาดำเนินการเอาออกให้หมด ควรจะเป็นหน้าที่ของรัฐบาล ครับ ถ้าท่านคิดได้

                - ถ้าเป็นดังนี้อีกไม่เกินสองอาทิตย์ น้ำหน้าที่จะแห้งเป็นปกติ ยกเว้นน้ำที่ไหลไปไกลๆ และระดับต่ำกว่า คู คลอง ที่เชื่อมต่อกับแม่น้ำเจ้าพระยา ต้องให้ กทม. ศปภ. รัฐฐาลท่านจัดการสูบออก  ถ้ารัฐบาลท่านไม่ทำ ท่านก็จงรวมตัวกันชุมนุมประท้วงปิดถนน ก็แล้วกัน รัฐบาลท่านก็จะมาจัดการให้ครับ ถ้าท่านไม่ชุมนุม รัฐบาลท่านคิดว่าท่านไม่เดือดร้อน ทนๆ กันไปเดี๋ยวน้ำมันก็แห้งเองตามธรรมชาติของมันเพียงแต่ ต้องใช้เวลามากหน่อย ครับ

                - ดังนั้น ข่าวน้ำท้วมช่วงนี้ จึงมีแต่ประชาชน ชุมนุม หรือด่า กทม. ด่ารัฐบาล เหน็บแหนมรัฐบาล ทาง TV ให้เห็นอยู่ทุกช่องครับ เพราะรัฐบาลท่านไม่ทำอะไรเลยจริงๆ ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของข้าราชการประจำที่รับผิดชอบ  ส่วนข้าราชการนั้น ไม่มีงบประมาณ  ไม่มีเครื่องมือ เพียงพอต่อความต้องการของประชาชนจำนวนมาก ย่อมทำได้เพียงวงจำกัดเท่านั้น มันก็หน้าเห็นใจครับ

                  สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #4466 เมื่อ: 30 พฤศจิกายน 2554, 11:25:00 »

วันพุธ ที่ 30 พฤศจิกายน 2554 เวลา 11.21 น.
 สถานการณ์น้ำวันนี้
 สถานการณ์น้ำ ประจำวันที่ 30 พฤศจิกายน 2554 (เวลา 09.00 น.)


น้ำเหนือ
 - ระดับน้ำเจ้าพระยาที่ อ.บางไทร 3.00 ม.รทก. (ลดลงจากเมื่อวาน 6 ซม.)
 
น้ำทะเลหนุนสูง
 - วันนี้เวลา 12.13 น. ระดับ +1.25 ม.รทก. และเวลา 20.21 น. ระดับ +0.94 ม.
 - วันพรุ่งนี้เวลา 12.40 น. ระดับ +1.17 ม.รทก. และเวลา 21.02 น. ระดับ +0.80 ม.

ระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาตรวจวัดที่ปากคลองตลาด
 - ระดับน้ำสูงสุด เช้าวานนี้ เวลา 10.00 น. ระดับ +2.20 ม.รทก. (ต่ำกว่าคันกั้นน้ำ 60 ซม.)
 - ระดับน้ำสูงสุด เย็นวานนี้ เวลา 19.45 น. ระดับ +1.84 ม.รทก. (ต่ำกว่าคันกั้นน้ำ 96 ซม. )
 - ระดับน้ำ เช้าวันนี้ เวลา 09.00 น. ระดับ +1.80 ม.รทก. (ต่ำกว่าคันกั้นน้ำ 100 ซม. น้ำกำลังขึ้น )
 - คาดการณ์จากกรมอุทกศาสตร์ วันนี้ เวลา 12.13 น. ระดับ +2.07 ม.รทก.
 
น้ำทุ่ง
 - พื้นที่ดอนเมือง (24 ชม.ที่ผ่านมา) ระดับน้ำลดลง 5 ซม.
 - ระดับน้ำคลองหกวาสายล่าง ที่ประตูระบายน้ำคลองสอง (24 ชม.ที่ผ่านมา) ระดับน้ำลดลง 5 ซม.
 - ฝั่งธนบุรี ระดับน้ำคลองมหาสวัสดิ์ ที่ประตูระบายน้ำคลองทวีวัฒนา (24 ชม.ที่ผ่านมา) ระดับน้ำลดลง 3 ซม.
 
ภาพรวมสถานการณ์ใน กทม. (24 ชั่วโมงที่ผ่านมา)
 
พื้นที่ฝั่งพระนคร ยังคงมีปัญหาน้ำท่วมขัง ในพื้นที่เขตดอนเมือง หลักสี่ สายไหม บางเขน ลาดพร้าว คันนายาว มีนบุรี คลองสามวา
 - คลองเปรมประชากร ระดับน้ำลดลง 4-6 ซม. แต่ช่วงดอนเมืองระดับน้ำยังสูง
 - คลองบางเขน ระดับน้ำลดลง 4-6 ซม.
 - คลองลาดพร้าว ระดับน้ำลดลง 2-3 ซม.
 - คลองบางซื่อ ระดับน้ำลดลง 2-4 ซม.
 - คลองแสนแสบ ระดับน้ำลดลง 1-3 ซม.
 - คลองประเวศน์บุรีรมย์ ระดับน้ำทรงตัว

 พื้นที่ฝั่งธนบุรี ยังคงมีปัญหาน้ำท่วมขัง ในพื้นที่เขต ทวีวัฒนา ตลิ่งชัน หนองแขม บางแค ภาษีเจริญ
 - คลองต่าง ๆ โดยทั่วไป ระดับน้ำลดลง 1-2 ซม.

      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #4467 เมื่อ: 30 พฤศจิกายน 2554, 11:36:02 »

                สำหรับทุกท่าน ที่น้ำยังท้วมขังอยู่ เดือนธันวาคม เป็นเดือนแห่งความสุข ที่มีวันหยุดหลายวัน และปีใหม่ ท่านก็คงไม่สามารถจะไปพักผ่อนหรือท่องเที่ยวได้เหมือนกับคนอื่นๆ ที่บ้านน้ำไม่ท้วม ท่านอย่าเสียใจไปเลย เรายังมีชีวิต มีครอบครัว ที่จะหาโอกาสไปพักผ่อนทีหลังได้ เพราะทุกสิ่งมันเป็น "สิ่งสมมติ" ทั้งสิ้น อย่าไปยึดติดกับมันเลย และมันผ่านเป็นอดีตไปแล้ว ควรที่จะลืมมันถ้ามันไม่ก่อประโยชน์ต่อเรา

                ทุกวันนี้ที่สังคมมันวุ่นวาย วิวาทกัน ส่วนใหญ่เป็นเพราะ ไปยึดติดกับอดีตที่มันผ่านไปแล้ว แต่ยังไปโหยหามัน และอยากให้กลับเวลาไปตั้งต้นใหม่ มันจึงมีแต่ความขัดแย้งร่ำไปไม่มีที่สิ้นสุด หาข้อยุติไม่ได้ ยิ่งไปคิดเข้าข้างตนเอง โดยยกเหตุผลตามความคิดเห็นของตนเข้าไปอีก มีแต่ความวุ่นวายไม่จบไม่สิ้นทั้งนั้น

                ดังนั้น อดีต อย่าไปโหยหามัน เพราะมันผ่านไปแล้ว อยู่กับปัจจุบัน อยู่ในวิหารธรรม เป็น "มหาสุญญตา" นี่ละความสุขที่แท้จริง ๆ ครับ ท่านสามารถหามันได้ ด้วยตัวของท่านเอง จากการสร้างความรู้สึกตัวตลอดเวลา คือมีสติ นี่ละครับ

                สวัสดั
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #4468 เมื่อ: 30 พฤศจิกายน 2554, 11:46:08 »

รู้ประวัติพุทธสาวก อรหันต์ เอตทัคคะ

ลำดับที่ ๓๓

พระกังขาเรวตเถระ

เอตทัคคะในทางผู้เพ่งด้วยฌาณ


                 พระกังขาเรวตะ เป็นบุตรเศรษฐี ในเมืองสาวัตถี เดิมชื่อว่า “เรวตะ” เป็นผู้มีศรัทธาในพระพุทธศาสนาเป็นพื้นฐานอยู่แล้ว ทั้ง ๆ ที่ยังมิเคยเข้าวัดฟังเทศน์ฟังธรรมกถามาก่อนเลย คงเป็นด้วยอุปนิสัยวาสนาบารมีเก่าส่งเสริม

               • แอบนั่งฟังธรรมท้ายสุด

               ต่อมาได้เห็นอุบาสกอุบาสิกาทั้งหลาย ถือดอกไม้ธูปเทียน เครื่องสักการะและของหอมไปยังพระเชตวันมหาวิหาร จึงติดตามไปด้วยแล้วนั่งอยู่ท้ายสุด หมู่พุทธบริษัท เพราะตนเองเป็นผู้ใหม่ รอเวลาที่พระบรมศาสดาจะทรงแสดงพระธรรมเทศนาโดยปกติธรรมดาของพระผู้มีพระภาค ทุกครั้งก่อนที่พระองค์จะแสดงธรรม จะทรงพิจารณาตรวจดูอุปนิสัยของพุทธบริษัทที่ประชุมกัน ณ ที่นั้นว่าผู้ใดมีบุญวาสนาบารมีสั่งสมบารมี ซึ่งพอจะเป็นปัจจัยส่งผลให้บรรลุคุณธรรมพิเศษบ้างหรือไม่ และพิจารณาว่าธรรมหมวดไหนเหมาะสมแก่ฟังนั้น ๆ เมื่อทรงพิจารณาไปโดยรอบ ก็ทอดพระเนตรเห็นเรวตมาณพ เข้าสู่ข่ายคือ พระญาณของพระองค์ ว่าเป็นผู้มีอุปนิสัยบารมีสั่งสมมาดีแต่อดีตชาติ สามารถจะบรรลุมรรคผลได้ จึงทรงแสดงพระธรรมเทศนาอนุปุพพิกถา เพื่อขัดเกล่าอุปนิสัยให้สะอาดหมดจดปราศจากความยินดีในกามคุณที่เคยบริโภคใช้สอยมาก่อน

          ใจความในอนุปุพพิกถา ถือถ้อยคำที่กล่าวไปโดยลำดับ ๕ ประการ คือ
                ๑. ทานกถา กล่าวถึงอานิสงส์ของการบริจาคทาน
                ๒. สีลกถา กล่าวถึงการรักษากายวาจาให้เรียบร้อย
                ๓. สัคคกถา กล่าวถึงเรื่องสวรรค์อันอุดมด้วยทิพยสมบัติ
                ๔. กามาทีนวกถา กล่าวถึงโทษแห่งกามคุณ ๕ ว่าเป็นเหตุนำทุกข์มาให้
                ๕. เนกขัมมานิสังสกถา กล่าวถึงอานิสงส์ของการออกบวชว่า เป็นอุบายที่จะให้บรรลุพระนิพพานอันเป็นบรมสุข
 
                 เมื่อจบพระธรรมเทศนา เรวตมาณพก็เกิดศรัทธาแก่กล้ายิ่งขึ้น จึงกราบทูลขออุปสมบทในพุทธศาสนา พระพุทธองค์ประทานให้ตามประสงค์ ครั้นได้อุปสมบทแล้ว ท่านได้ศึกษาพระกรรมฐานจากพระบรมศาสดาแล้วปลีกตัวอยู่ในสถานที่อันสงบสงัด อุตสาห์บำเพ็ญเพียรพระกรรมฐานจนได้บรรลุโลกิยฌาน แล้วทำฌานที่ได้แล้วนั้น ให้เป็นพื้นฐานในการเจริญวิปัสสนา ไม่ช้านักท่านก็ได้สำเร็จเป็นพระอรหันต์ สิ้นอาสวกิเลส เป็นพระอเสขบุคคลในพระพุทธศาสนา

               • เหตุที่ได้นามว่ากังขาเรวตะ

                  พระเรวตะนั้น ภายหลังจากที่ได้อุปสมบทแล้ว ขณะที่ท่านยังเป็นปุถุชนยังมิได้บรรลุพระอรหัตผล เมื่อท่านได้รับกัปปิยวัตถุสิ่งของเครื่องใช้ สิ่งใด ๆ มาแล้ว ท่านมักจะคิดกังขาคือสงสัยก่อนเสมอว่า ของสิ่งนี้เป็นของถูกต้องพุทธบัญญัติ สมควรแก่บรรพชิตที่จะใช้สอยหรือไม่ (กัปปิยะ= เป็นของควร, อกัปปิยะ = เป็นของไม่ควร) เมื่อท่านพิจารณาอย่างรอบคอบแล้วว่าเป็นของที่บรรพชิตบริโภคใช้สอยได้ไม่ผิดพระวินัย ท่านจึงใช้สอยของสิ่งนั้น ด้วยความที่ท่านเป็นผู้มักสงสัยอยู่เป็นประจำ จนเป็นที่ทราบกันทั่วไปในหมู่พระภิกษุทั้งหลาย ดังนั้น คำว่า “กังขา” จึงถูกเรียกรวมกับชื่อเดิมของท่านว่า “กังขาเรวตะ หมายถึง พระเราวตะผู้ชอบสงสัย” แม้ว่าภายหลังท่านได้บรรลุพระอรหัตผล สิ้นกิเลสอันเป็นเหตุแห่งวิจิกิจฉา คือความลังเล สงสัยแล้วก็ตาม นามว่ากังขาเรวตะ ก็ยังเป็นที่เรียกขานของเพื่อนสหธรรมิกอยู่ตลอดไป
 
              • ได้รับยกย่องในตำแหน่งเอตทัคคะ

                   พระกังขาเรวตะ เป็นผู้มีความชำนาญในฌานสมาบัติ ทั้งที่เป็นโลกิยะ และโลกุตระ แม้กระทั่งฌานสมาบัติอันเป็นพุทธวิสัย คือ ฌานสมาบัติที่พระพุทธเจ้าทั้งหลายเท่านั้นจะพึงเจริญ มิได้ทั่วไปแก่พระสาวกทั้งหลาย ด้วยว่า ความสุขอันเกิดจากฌานสมาบัตินั้น ไม่มีโลกิยสุขใด ๆ ในโลกจะเทียบเท่าได้เลย เรียกว่า “สันติสุข คือ สุขที่เกิดจากความสงบ” ส่วนสุขอันเป็นโลกีย์นั้นต้องพึ่งพิงอิงอาศัยอามิสต่าง ๆ อันได้แก่ บุคคล สัตว์ สิ่งของ เป็นต้น เข้ามาช่วยให้เกิดความสุข และความสุขแบบโลกีย์นี้ เป็นสิ่งที่ไม่เที่ยงแท้แน่นอน เพราะเมื่อยามที่ยังมีอยู่ ก็รู้สึกเป็นสุข แต่เมื่อยามสิ่งของเหล่านั้นอันตรธานหรือชำรุดเสียหายไปก็จะเป็นเหตุให้เกิดทุกข์ แต่ความสุขอันเกิดจากฌานสมาบัตินั้นเป็นสุขที่เที่ยงแท้แน่นอน ไม่เปลี่ยนแปลง เพราะเป็นสุขที่เกิดจากความไม่มีทุกข์

                 ด้วยเหตุดังกล่าวมานี้ พระบรมศาสดา จึงทรงยกย่องท่านในตำแหน่งเอตทัคคะ เป็นผู้เลิศกว่าภิกษุทั้งหลาย ในทาง ผู้เพ่งด้วยฌาน, ผู้ยินดีในฌานสมาบัติ

                 ท่านดำรงอายุสังขาร ช่วยกิจการพระศาสนาสมควรแก่กาลเวลาแล้วก็ดับขันธปรินิพพาน
      บันทึกการเข้า
phraisohn
บักสน
Administrator
Cmadong ชั้นเซียน
*****


บักสนแคมโบ้
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu89 (ปี 2549)
คณะ: วิทยาศาสตร์
กระทู้: 9,557

เว็บไซต์
« ตอบ #4469 เมื่อ: 30 พฤศจิกายน 2554, 11:57:43 »

สวัสดีตอนเที่ยงครับพี่สิงห์ ผมมีเรื่องราวมาเล่าให้ฟังครับ

ตอนนี้ผมกำลังจะเป็น Producer ผลิตรายการ Internet TV เพื่อการศึกษาครับ
ชื่อรายการ Growing UP ครับผม


รายการนี้จะเป็นรายการเชิงลึก อารมณ์เหมือนแนะแนวน้องๆที่กำลังจะเข้าศึกษาต่อในระดับสูงขึ้นไปว่า
หนูอยากเรียนอะไร คาดหวังอะไรจากคณะนี้ แล้วก็จะพาไปดูว่าน้องที่เรียนจริงๆแล้ว มันได้ตอบโจทย์สิ่งที่
น้องๆม.ปลาย ฝันไว้หรือเปล่า จากนั้น จะพาไปรู้จักวัยทำงาน ที่จบไปแล้ว ว่าพอจบไปได้ทำงานอะไร สิ่งที่เรียน
นำมาใช้มากน้อยแค่ไหน ตอบโจทย์การทำงานหรือไม่ Growing UP จะนำเสนอให้ได้ชมกัน ^^

และนี่คือทีมงาน Growing UP ครับผม




นอกจากนี้ อาจารย์คณะวิศวกรรมศาสตร์ ภาควิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ ได้เชิญผมร่วมเขียนหนังสือกับท่านครับ
เป้นหนังสือแนะนำวีดีโอที่พูดเพื่อสร้างแรงบันดาลใจเกี่ยวกับ TED ครับ ไอเดียคือ "Ideas worth spreading" ครับ
TED คืองานสัมนาที่มีการพูดให้แนวคิดต่างๆดีมาก ไอเดียเจ๋งๆหลายอย่างก็มาจากการฟังสัมนาที่งาน TED ครับ
ซึ่งหลายประเทศได้จัดขึ้น ที่เมืองไทยก็จัดไปก่อนน้ำท่วมนี่เองครับชื่อว่า TEDxBangkok
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #4470 เมื่อ: 30 พฤศจิกายน 2554, 12:19:16 »

สวัสดี คุณน้องไพรสนต์

                พี่สิงห์ ขอแสดงความยินดี ด้วย ที่มีการงานก้าวหน้า ได้กระทำในสิ่งที่มีความชำนาญพิเศษ ที่น้อยคนนัก อยากที่จะมีโอกาส และได้กระทำ แต่ก็ไม่มีโอกาส ครับ
           
                 สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #4471 เมื่อ: 30 พฤศจิกายน 2554, 19:53:07 »

กทม.เปิดประตูระบายน้ำ 4 แห่งเพิ่มหลังสถานการณ์น้ำเจ้าพระยาไม่น่าห่วง

วันพุธที่ 30 พฤศจิกายน 2011 เวลา 12:20 น. กองประชาสัมพันธ์กทม.


               (30 พ.ย.54) ที่ศาลาว่าการกทม. เวลา 12.00 น. : ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร แถลงสถานการณ์น้ำและการแก้ไขปัญหากรุงเทพฯ ว่า ขณะนี้สถานการณ์น้ำทั่วไปในพื้นที่กรุงเทพฯ เริ่มคลี่คลายตามลำดับ  และในวันนี้ระดับน้ำทะเลหนุนสูงที่ระดับ 1.25 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณปากคลองตลาด สูง 2.07 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง  จากที่คาดการณ์ว่าระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาในช่วงปลายเดือน พ.ย. จะหนุนสูงสุดเช่นเดียวกับเมื่อเดือน ต.ค.54 และส่งผลต่อพื้นที่ต่างๆ และการระบายน้ำของกรุงเทพฯ ขณะเดียวกันระดับน้ำในคลองสำคัญๆ เช่น คลองรังสิต ระดับน้ำลดลง 22 ซม. จากเดิม 3.03 เมตร เหลือ 2.81 เมตร ซึ่งทำให้หลายพื้นที่กรุงเทพฯ ไม่น่าห่วง
 
                ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวด้วยว่า จากนี้ กทม.จะเริ่มปรับประตูระบายน้ำสำคัญด้านกรุงเทพฯ เหนือ และกรุงเทพฯ ตะวันออก ได้แก่ ปตร.คลองพระยาสุเรนทร์ ซี่งในวันนี้เวลาประมาณตี 2 มีประชาชนจ.ปทุมธานีได้ลดระดับประตูระบายน้ำคลองพระยาสุเรนทร์จากที่ปรับไว้ที่ระดับ 1.50 เมตร เป็น 1 เมตร ดังเดิม แต่เนื่องจากสถานการณ์น้ำที่ดีขึ้นเรื่อยๆ ทำให้กทม.จะปรับประตูระบายน้ำคลองพระยาสุเรนทร์ให้เป็น 1.30 เมตร และจะติดตามสถานการณ์ทุก 24 ชั่วโมง ซึ่งคาดว่าจากนี้ไปจะไม่มีความจำเป็นที่จะลดระดับประตูระบายน้ำลง เนื่องจากระดับน้ำในแม่น้ำเจ้พาระยาไม่สูงอย่างที่คาดการณ์
 
                นอกจากนี้ กทม.จะเปิด ประตูระบายน้ำอีก 3 แห่ง ได้แก่ ประตูระบายน้ำคลองสามวา จากเดิม 80 ซม. เป็น 90 ซม. เพื่อระบายน้ำจ.ปทุมธานี บริเวณคลองหกว่าสายล่างลงสู่คลองแสนแสบเพื่อส่งต่อไปยังอุโมงค์ยักษ์ที่สถานีสูบน้ำพระโขนง อีกทั้งเปิดประตูระบายน้ำคลองลำบึงขวาง จากเดิม 1 เมตร เป็น 1.20 เมตร เพื่อระบายน้ำจากลำลูกกกา บริเวณคลองหกวาสายล่าง และคลอง 8-12 สู่คลองประเวศบุรีรมย์และลงสู่อุโมงค์ยักษ์ และเปิดประตูระบายน้ำลาดกระบัง จากเดิม 1 เมตร เป็น 1.20 เมตร เพื่อระบายน้ำจากลำลูกกา บริเวณคลองหกวาสายล่าง และคลอง 7-12 ผ่านคลองประเวศบุรีรมย์สู่อุโมงค์ยักษ์ โดยจะประเมินสถานกาณ์ 24 ชั่วโมง หากไม่กระทบต่อพื้นที่จะเปิดเพิ่มตามลำดับ
 
                ทั้งนี้ ผู้ว่าฯ กทม.กล่าวขอบคุณ พล.ต.อ. ประชา พรหมนอก ผู้อำนวยการศปภ. และ ศปภ. ที่สนับสนุนจุดยืนและการทำงานของกทม. ด้วยดีเสมอมา พร้อมทั้งเจรจาการเปิดประตูระบายน้ำคลองพระยาสุเรนทร์ที่ระดับ 1 เมตรดังเดิมก่อนที่จะมีการปรับเพิ่มตามความเหมาะสม
                                                                       ----------------
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #4472 เมื่อ: 30 พฤศจิกายน 2554, 19:55:27 »

กทม. เร่งระบายน้ำในพื้นที่หลักสี่และดอนเมืองลดลงต่อเนื่อง

วันพุธที่ 30 พฤศจิกายน 2011 เวลา 18:30 น.


                 (30 พ.ย. 54) เวลา 15.00 น. : ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมคณะลงพื้นที่ตรวจสถานการณ์น้ำท่วมและให้กำลังใจประชาชนที่ประสบเหตุอุทกภัยในชุมชนบริเวณซอยแจ้งวัฒนะ 14 เขตหลักสี่ ต่อเชื่อมเข้าสู่ซอยโกสุมรวมใจ เขตดอนเมือง ซึ่งขณะนี้ระดับน้ำบนผิวถนนลดลงประมาณ 60 – 80 ซม. แล้วแต่ยังมีน้ำท่วมขังสูงประมาณ 30 ซม. ซึ่งกรุงเทพมหานครโดยสำนักงานเขตหลักสี่ได้ร่วมกับกองทัพบกจัดสร้างสะพานไม้ชั่วคราวเพื่อเพิ่มความสะดวกให้ประชาชนในการสัญจร จากนั้นได้ตรวจการระบายน้ำของสถานีสูบน้ำและประตูระบายน้ำคลองตาอูฐ ตอนคลองเปรมประชากร

                 ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ขณะนี้ระดับในพื้นที่ลดลงค่อนข้างเยอะ แต่ก็ยังมีน้ำท่วมขังในหลายพื้นที่และมีประชาชนได้รับความเดือดร้อนเป็นจำนวนมาก กรุงเทพมหานครได้เร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่อย่างต่อเนื่องเพื่อให้กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว ช่วงที่น้ำท่วมสูงส่งผลให้ระบบควบคุมการระบายน้ำและเครื่องสูบน้ำบริเวณสถานีสูบน้ำและประตูระบายน้ำคลองตาอูฐเสียหาย ทั้งนี้ กรุงเทพมหานครได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำแทนเครื่องเก่าแล้วและมีการเปิดเครื่องระบายน้ำต่อเนื่อง อีกทั้งกำลังดำเนินการติดตั้งระบบควบคุมใหม่ให้แล้วเสร็จโดยเร็วเพื่อให้สามารถระบายน้ำได้อย่างเต็มที่ สำหรับสถานีสูบน้ำและประตูระบายน้ำคลองตาอูฐจะระบายน้ำลงสู่คลองเปรมประชากร แต่ยังพบปัญหาอยู่บ้างเนื่องจากระดับน้ำในคลองเปรมประชากรยังสูงอยู่ทำให้การระบายน้ำทำได้ลำบาก โดยจะประสานไปยัง ศปภ. ขอเครื่องสูบน้ำมาติดตั้งเพิ่มเพื่อให้การระบายน้ำในพื้นที่ดังกล่าวสามารถทำได้ดีและรวดเร็วขึ้น

                สำหรับกรณีมีการเรียกร้องให้กรุงเทพมหานครเปิดประตูระบายน้ำคลองพระยาสุเรนทร์ที่ระดับ 1.50 ม. นั้น ขอยืนยันว่ายังไม่สามารถทำได้ แต่ขณะนี้กรุงเทพมหานครได้ปรับระดับประตูระบายน้ำจากความสูง 1 ม. เป็น 1.30 ม. แล้ว และจะมีการประเมินสถานการณ์ทุก 24 ชม. หากไม่มีผลกระทบใดๆ ก็จะปรับระดับประตูระบายน้ำเพิ่มขึ้น
 
                นอกจากนี้ ได้สั่งการให้สำนักงานเขตที่ประสบปัญหาอุทกภัยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งจัดเก็บขยะในพื้นที่ให้ได้มากที่สุดก่อนถึงวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในวันที่ 5 ธ.ค. 54 ซึ่งเหลือเวลาอีกประมาณ 4 วันเท่านั้น
 
                                                                            --------------------
      บันทึกการเข้า
ทราย 16
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,838

« ตอบ #4473 เมื่อ: 30 พฤศจิกายน 2554, 22:11:43 »

อ้างถึง
ข้อความของ phraisohn เมื่อ 30 พฤศจิกายน 2554, 11:57:43
สวัสดีตอนเที่ยงครับพี่สิงห์ ผมมีเรื่องราวมาเล่าให้ฟังครับ
ตอนนี้ผมกำลังจะเป็น Producer ผลิตรายการ Internet TV เพื่อการศึกษาครับ
ชื่อรายการ Growing UP ครับผม

รายการนี้จะเป็นรายการเชิงลึก อารมณ์เหมือนแนะแนวน้องๆที่กำลังจะเข้าศึกษาต่อในระดับสูงขึ้นไปว่า
หนูอยากเรียนอะไร คาดหวังอะไรจากคณะนี้ แล้วก็จะพาไปดูว่าน้องที่เรียนจริงๆแล้ว มันได้ตอบโจทย์สิ่งที่
น้องๆม.ปลาย ฝันไว้หรือเปล่า จากนั้น จะพาไปรู้จักวัยทำงาน ที่จบไปแล้ว ว่าพอจบไปได้ทำงานอะไร สิ่งที่เรียน
นำมาใช้มากน้อยแค่ไหน ตอบโจทย์การทำงานหรือไม่ Growing UP จะนำเสนอให้ได้ชมกัน ^^
และนี่คือทีมงาน Growing UP ครับผม

นอกจากนี้ อาจารย์คณะวิศวกรรมศาสตร์ ภาควิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ ได้เชิญผมร่วมเขียนหนังสือกับท่านครับ
เป้นหนังสือแนะนำวีดีโอที่พูดเพื่อสร้างแรงบันดาลใจเกี่ยวกับ TED ครับ ไอเดียคือ "Ideas worth spreading" ครับ
TED คืองานสัมนาที่มีการพูดให้แนวคิดต่างๆดีมาก ไอเดียเจ๋งๆหลายอย่างก็มาจากการฟังสัมนาที่งาน TED ครับ
ซึ่งหลายประเทศได้จัดขึ้น ที่เมืองไทยก็จัดไปก่อนน้ำท่วมนี่เองครับชื่อว่า TEDxBangkok
ยินดีกับทีมงาน Growing UP ด้วยค่ะ
On air เมื่อไหร่ค่ะน้องสน
พี่ทราย
      บันทึกการเข้า
ดร.มนตรี
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,540

« ตอบ #4474 เมื่อ: 01 ธันวาคม 2554, 09:36:58 »

สวัสดีครับพี่สิงห์ ...


เมื่อสักครู่ ผมโทรหารือกับ พี่หมอตุ่น เพื่อเตรียมการจะเข้าไปลงแขก ทำความสะอาดบ้านพี่สิงห์กัน ... โดยร่วมกับทีมงานของชมรมฯ


 ... เนื่องจากตอนนี้ทราบว่าพี่สิงห์อยู่ที่ สิงห์บุรี ... จึง อยากทราบวัน- เวลา ที่พีสิงห์สะดวก สำหรับการเข้าไปทำความสะอาดบ้านที่วิภา 22 ครับ


ไม่แน่ใจว่า ถ้าเป็นวันเสาร์ี่ที่ 10 ธันวาคม นี้ พี่สิงห์ สะดวกหรือไม่ ครับ ...
      บันทึกการเข้า
  หน้า: 1 ... 177 178 [179] 180 181 ... 681   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

ทำไมหอพักนิสิตจุฬาจึงเป็นดินแดนมหัศจรรย์            " ไม่ได้เป็นแค่หอให้นอนพัก  แต่เป็นบ้านอบอุ่นรักให้อาศัย  ไม่เป็นแค่ที่ซุกหัวยามหลบภัย  แต่สร้างใจให้เข้มแข็งแกร่งการงาน"  <))))><