คุย กับ คุณมานพ กลับดี อดีตประธานชมรม ๓ สมัย

[Manop Klabdee]

วันที่ ๑ - ๑๔ ธันวาคม ๒๕๕๗
พี่สิงห์ ไปสาธยายพระไตรปิฎก ที่ต้นพระศรรีมหาโพธิ์ 
พุทธคยา  ประเทศอินเดีย



วันนี้เป็นวันครบรอบ วันเกิดขึ้นของ www.cmadong.com

พี่สิงห์ ในฐานะอดีตประธานชมรมนิสิตเก่าหอพักนิสิต จุฬาฯ ที่ได้อนุมัติให้มีเวปไซต์ของพวกเราชาวซีมะโด่งขึ้น เพื่อให้ทันยุคทันสมัยในขณะนั้น ที่ internet เข้ามามีบทบาทอย่างมากในการสื่อสารถึงกันได้จากต่างถิ่น แดนไกล ให้มาอยู่ใกล้กัน

ปัจจุบัน ถึงแม้โลกของการสื่อสาร online จะเปลี่ยนไปในการติดต่อให้ง่ายขึ้นกว่าเดิม แต่ www.cmadong.com ก็ยังมีความสำคัญ ยังมีประโยชน์อยู่

พี่สิงห์  ขอขอบคุณ ดร.สุริยา-คุณวัฒนา-คุณปิยะ-คุณไผ่แก้ว ที่ทำให้ www.camadong.com เกิดขึ้น

พี่สิงห์ ขอขอบคุณ  คุณสนธยา  ที่ช่วยดูแล www.cmadong.com ให้ตลอดมา

พี่สิงห์  ขอขอบคุณน้อง ๆ (ยังจำชื่อ หน้าตาได้ แต่กลัวไม่ถ้วนทั่ว เช่นเต้ pooky เป็นต้น จึงไม่ได้ออกนาม ต้องขออภัย) ที่ช่วยประคับประคอง www.cmadong.com มาตั้งแต่เริ่มต้น จนสามารถเดินอยู่ได้อย่างมั่นคง

พี่สิงห์  ขอขอบคุณ ผู้ดูแล www.cmadong.com ทุกท่าน ที่ทำให้ เวปของเรายังคงอยู่

พี่สิงห์  ขอขอบคุณชาวซีมะโด่ง ทุกท่าน ที่เข้ามาใช้บริการ

และพี่สิงห์  ขอขอบคุณ คุณน้องหนุ๋งหนิ๋ง  ที่ยังยืนยงอยู่กับ www.cmadong.com

เย็นนี้ พี่สิงห์  คงไปร่วมงานไม่ได้ เพราะไม่รู้จัก "ร้านญีญวน" พระรามห้า

พี่สิงห์  ไม่มีอะไรจะตอบแทนทุกท่าน ที่ช่วยกันดูแล www.cmadong.com นอกจากธรรมของพระพุทธองค์ และขอกล่าวคำว่า "ขอบพระคุณ-ขอบใจ" ทุกท่านครับ ที่มีเมตตา ต่อ www.cmadong.com

สวัสดี

[Manop Klabdee]

ปฏิจจสมุปบาท นี้ ไม่มีสัตว์  บุคคล  ตัวตน  เรา  เขา !

มีเพียง "รูป - นาม" กับ "สภาวะธรรม" เท่านั้น ?

ความหมายของคำว่า สัตว์  บุคคล  ตัวตน  เรา  เขา นั้น แสดงความหมายของความเป็นตัวตน เป็นอัตตา

ส่วนสภาวะของรูป-นาม นั้นในปฏิจจสมุปบาท เป็นอนัตตา เพราะรูปที่เห็นนั้น มันไม่เที่ยง มันแปรเปลี่ยนไปตามกาลเวลา และบังคัับบัญชาไม่ได้ รูปจึงเป็นอนัตตา

และเมื่อท่านเจริญสติ-สร้างความรู้สึกตัว แยกสติมาเป็นผู้ดู ท่านก็จะเห็นรูป มันแยกออกจากนาม(ในความรู้สึก) ความรู้สึกนี้เป็นปรมัตถ์ธรรม เป็นสภาวะธรรมมีการเกิดขึ้น ตั้งอยู่ดับไป ในรูปตลอดเวลา เช่นเดียวกับนาม หรือจิต ที่มีสภาวะอารมณ์มากระทบตลอดเวลา คือเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป เช่นเดียวกับความคิด เกิดขึ้น ตั้งอยู่ดับไป สติก็เช่นเดียวกัน เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป เพราะรูป-นาม เป็นอนัตตา

แต่ถ้ารูป เป็นสัตว์  บุคคล ตัวตน เรา เขา มันจะเป็นบัญัติ ไม่มีสภาวะธรรม เพราะมันเป็นอัตตา  เมื่อเราไปยึดถือว่ารูป-นาม เป็นสัตว์  บุคคล ตัวตน เรา เขา  มันจึงมีตัญหา เวทนา ผัสสะ .... อวิชชา เกิดกองทุกข์ เกิดภพ เกิดชาติ เวียนว่ายตายเกิดอยู่ในวัฏฏะสงสารไม่สิ้นสุด

ท่านต้องเจริญสติให้เห็นความจริงอันนี้้ให้ได้ว่า รูป-นามนั้น ไม่เที่ยง เป็นอนััตตา ไม่ใช่สัตว์ บุคคล ตัวตน เรา เขา ความยึดมั่นถือมั่นก็จะคลายลง หรือมีวาสนาหมดลงก็เป็นไปได้

ก็ขอทำความเข้าใจแบบนี้ เพื่อให้ง่ายต่อการเรียนรู้ และผลของการเจริญสติ  มันไม่ง่ายอย่างคิด ต้องอาศัยความเพียร เพราะมันต้องอยู่ในมรรค ๘ เกิดองค์มรรรค ครบทุกองค์  แต่ก็เป็นไปได้ ครับ

สวัสดี

[Manop Klabdee]

"รูป-นาม" ไม่ใช่สัตว์ บุคคล ตัวตน เรา เขา เป็นเพียง "รูป" ที่ประกอบขึ้นด้วยมหาภูตธาตุทั้ง ๔ อันได้แก่ ธาตุดิน  ธาตุน้ำ  ธาตุลม และะธาตุไฟ ที่มาประชุมกันด้วยเหตุ-ปัจจัยทางธรรมชาติ และมีจิต(ธรรมชาติของการรู้อารมณ์) เป็นนาม ไม่มีตัวตนมีแต่ความรู้สึก รู้แจ้งในอารมณ์ มาอาศัยในรูป และคอยคิด บงการให้กระทำทางกาย-วาจา

เพราะการหลงไปยึดถือว่า รูป-นาม นั้น เป็นสัตว์ บุคคล ตัวตน เรา เขา เป็นปัจจัย จึงมีแต่ตัณหา เวทนา สัมผัส สฬายตนะ ...อวิชชา ตามมา

รูปธรรม-นามธรรม เกิดขึ้นด้วยเหต-ปัจจัยจาก ผัสสะของสฬายตนะ

รูปธรรม คือ คือสภาวะความรู้สึกที่เกิดจากผัสสะมากระทบกาย จึงเกิดการรู้แจ้งอารมณ์ทางกายเช่น รู้สึกว่าเย็น ร้อน อ่อน แข็ง ไหว ๆ เวทนา เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา เกิด-ดับ เกิด-ดับ เพราะเป็นความรู้สึกเป็นปรมัตถ์ธรรม รูปธรรมนั้น จึงเป็นนาม ไม่ใช่รูป เพราะถ้าเป็นรูป มันจะเป็นสมมติบัญญัติ มีตัวตน และรูปเป็นอัตตา

นาม นั้น ไม่มีตัวตนประกอบด้วย เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ

นามธรรม นั้น คือสภาวะความรู้สึกในเวทา  สัญญา  สังขาร วิญญาณ

เจตสิก คือ เครื่องประกอบจิต เป็นผลจากผัสสะของสฬายตนะ รวม ๆ แลัว คือสภาวะธรรมของความโลภ  ความโกรธ  ความหลง...

ดังนั้น ในการปฏิบัติธรรมเจริญสตินั้น มีความรู้สึกหรือระลึกได้ในรูป-นาม คือรู้ ในสภาวะของรูปธรรม-นามธรรม นั้นให้เป็นปัจจุบัน เพียงแต่รู้  รู้เฉย ๆ การรู้ในสภาวะรูปธรรม-นามธรรมนั้น เป็นวิปัสสนาปัญญา  รู้ซื่อ ๆ รู้ตรง ๆ ในสภาวะของรูปธรรม-นามธรรม นั้น

สวัสดี

[Manop Klabdee]

อย่าปล่อยให้หลงอยู่ในความคิด มาเป็นปีศาจ คอยลากจูง  ชี้นำ บงการ ชีวิตของท่านเลย เพราะปีศาจ ก็คือ ปีศาจ  ย่อมชักนำท่านไปในทางอกุศล ทั้งสิ้น

จงเปลี่ยนปีศาจ หรือการหลงอยู่ในความคิดนั้น มาเป็นสติ - ความรู้สึกตัว เถิด

ใครมีสติ-ความรู้สึกตัว เป็นผู้นำทาง จะมีแต่ความสงบสุข และ พ้นทุกข์ และเป็นหนทางถึงซึ่ง พระนิพพาน ได้

สวัสดี

[Manop Klabdee]

สวัสดีครับ ชาวซีมะโด่ง และแขกผู้มาเยือน ที่รักทุกท่าน

วันนี้ อยู่บ้าน และพาพนักงานที่นครศรีธรรมราช มาสระบุรีมาหาซื้อ hoist และเหล็ก I-beam เอาไปทำโรงงานเพิ่ม

คงถึงบ้านค่ำ ๆ เพราะต้องไปส่งเขาที่สนามบินดอนเมือง

วันเสาร์-อาทิตย์ มีกิจที่ต้องไปทอดกฐิน ที่สิงห์บุรี ที่วัดพระนอน ในวันเสาร์  ส่วนวันอาทิตย์ ทอดกฐินที่วัดบึงฬัทธิวัน ท่าหลวง สระบุรีกับ PSTC

วันจันทร์-อังคาร มีรายการแข่งขันกอล์ฟอาชีพ Super Senior Tour ที่สนามวินเซอร์ ส่วน Senior ไม่ได้แข่งเพราะเวลาตรงกัน ถึงไปแข่ง ก็แบกน้ำหนักเขามาก สู้แข่งอายุใกล้กันดีกว่ายังสู้ได้สบาย ถึงจะซ้อมน้อยก็ตาม แต่มีแข่งขันทำให้ ร่างกายแข็งแรง ได้ซ้อม ตอนนี้เปลี่ยนตัวนายกสมาคมใหม่ คงมีรายการแข่งขันมากกว่าเดิมมาก ตามที่ได้หาเสียงเอาไว้  ดีครับ

สระบุรี แดดจ้าร้อนมาก

สวัสดี

[Manop Klabdee]

คนเราร่ำไรรำพัน ทุกข์ใจ ไปกับอดีตที่ผ่านพ้นไปแล้ว

คนเราวิตกกังวล  ทุกข์ใจ ไปกับสิ่งที่ยังมาไม่ถึง

คนเราไม่มีสติกับปัจจุบันเลยว่า ณ เวลานี้ ขณะนี้กายของเรากำลังทำอะไร  อยู่ในอิริยาบถไหน  ใจกำลังคิดอะไร ไม่รู้เลยและ
หลงไปกับความคิด ไหลไปกับความคิด

การอยู่กับสติ-รู้สึกตัว มันจะหนีห่างออกมาจากความคิดได้ เห็นความคิด เห็นทุกอารมณ์ที่เกิดขึ้นกับจิต

ราตรีสวัสดิ์ทุกท่านครับ

[สมชาย17]

อ่าน 2 ท่อนแรก ก็ โดนใจเลยครับ

ทุกข์กับอดีต. วิตกกังวลกับ อนาคต ที่ยังมาไม่ถึง

ถูกทุกอย่างครับ พี่สิงห์

แต่จะทำอย่างไร. ถึงจะหยุดคิดทั้งเรื่อง ทุกข์ในอดีตอาจต่อเนื่องถึงปัจจุบัน และหยุดวิตกกังวลกับเหตุที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ เช่นบ่ายนี้ หรือพรุ่งนี้  ซึ่งเรื่องที่คิดวิตกเกิดขึ้นแน่ๆ.

[Manop Klabdee]

		อ้างถึง			ข้อความของ สมชาย17 เมื่อ 17 ตุลาคม 2557, 11:35:52
	อ่าน 2 ท่อนแรก ก็ โดนใจเลยครับ ทุกข์กับอดีต. วิตกกังวลกับ อนาคต ที่ยังมาไม่ถึง ถูกทุกอย่างครับ พี่สิงห์ แต่จะทำอย่างไร. ถึงจะหยุดคิดทั้งเรื่อง ทุกข์ในอดีตอาจต่อเนื่องถึงปัจจุบัน และหยุดวิตกกังวลกับเหตุที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ เช่นบ่ายนี้ หรือพรุ่งนี้  ซึ่งเรื่องที่คิดวิตกเกิดขึ้นแน่ๆ.

สวัสดีครับ คุณสมชาย

ขอบคุณมาก

มันก็ต้องภาวนา ปฏิบัติธรรมเจริญสติ หรือสอนจิต ฝึกจิต ให้มันอยู่กับฐานทั้ง ๔ กาย  เวทนา  จิต  ธรรม นี่อย่างไร เพราะเมื่อจิตมันผูกกับฐานทั้ง ๔ มันจะค่อย ๆ จำฐาน หรือกรรมฐาน (สภาวะธรรม อารมณ์ ความคิด ความรู้สึกตัว) เมื่อแบ่งแยกได้แล้ว ก็เอาความรู้สึกตัวมาเกาะที่กาย ที่เป็นของหยาบนี่ละ  ฝึกมากเข้า ๆ ด้วยความเพียร มันเกิดขึ้นของมันเอง เพราะจะอยู่กับความรู้สึกตัว หนีห่างจากความคิด มันง่าย ๆ อย่างนี้้ แต่มันยากเพราะต้องเอาชนะจิตตนเอง  ซึ่งจิตมันจะไม่ยอม

คุณสมชาย หาทรัพย์ภายนอก มามากเกินพอแล้ว  ควรหาอริยทรัพย์ได้แล้ว ลองหาเวลาสักหนึ่งอาทิตย์ ทั้งสองคน ไปวัดป่าสุคะโต  ตัดจากโลกที่เราอยู่ชั่วคราว ไปเอาอริยทรัพย์  แล้วจะรู้เองว่า จะละการวิตกกังวลไปในอนาคตได้้ จะละความร่ำไรรำพันในสิ่งที่ผ่านมาแล้วได้ จะละออกจากความคิดได้  จะรู้วิธีอยู่กับปัจจุบัน  ไปให้หลวงพ่อพระไพศาล  วิสาโล  ท่านขัดเกลาให้

ก็แนะนำได้เท่านี้ ขึ้นอยู่กับตัวของคุณสมชายเอง  บอกให้ได้  แต่ทำแทนให้ไม่ได้  ต้องทำเอาเองครับ

สวัสดี

[Manop Klabdee]

สวัสดีครับ ชาวซีมะโด่ง และแขกผู้มาเยือน ที่รักทุกท่าน

วันนี้ ได้ไปทอดกฐินสามัคคีของวัดพระนอน โดยมี พี่มรกต-สมจิตต์  กลับดี เป็นประธาน ร่วมกับลูก ๆ

ส่วนตัวไม่ได้แจกซองกฐินให้ใครเลย เพราะถ้าแจกซองกฐินไป ก็ต้องรับซองกฐินกลับมามากกว่าเดิมอีก

ได้ตั้งใจทำบุญทอดกฐินครั้งนี้ไป 30,000 บาท

ข้อสังเกตุ ปีนี้พืชผลการเกษตร ราคาไม่ดี  น้ำก็ไม่มีทำนาปี ปีนี้ที่ผ่านมา ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ไม่เคยถึงครึ่งแม่น้ำเลย

ดังนั้น แล้งหน้าลำบากแน่ ๆ ชาวนาไทยจะเอาอะไรกิน  รัฐบาล คสช. ต้องระวังปัญหานี้้ รับมือให้ทันการ เพราะจะโดนโจมตีจากฝ่ายตรงข้ามได้

ผลคือ ชาวบ้านทั่วไปมาทำบุญน้อย และใส่ซองกฐินน้อยไปตาม ๆ กัน  ผู้ที่เป็นมนุษย์เงินเดือน บำนาญก็ทำบุญน้อยลง คือไม่มา

เป็นสัญญาน ที่ไม่ดีเลย  แสดงว่ารายรับของประชาชนแย่ มีรายจ่ายมากกว่ารายรับ เพราะปกติชาวบ้านจะมาทำบุญทอดกฐินจำนวนมาก เพราะปีหนึ่งมีครั้งเดียวและถือเป็นงานบุญใหญ่ประจำปีของวัด

พรุ่งนี้ ต้องไปทอดกฐินกับ PSTC ที่ท่าลาน สระบุรี ครับ

สวัสดี

[Manop Klabdee]

สวัสดีครับ ชาวซีมะโด่ง และแขกผู้มาเยือน ที่รักทุกท่าน

วันนี้ วันอาทิตย์ เป็นวันครอบครัว

หลายท่านคงไปทอดกฐิน ตามต่างจังหวัด

วันนี้ พี่สิงห์  อยู่บ้านไม่ได้ไปทอดกฐินที่ สระบุรีกับพนักงาน PSTC เพราะอยู่ กทม. อายุมากการขับรถไกล ๆ มันลำบาก พนักงาน PSTC เขาก็เลยอนุเคราะห์ บอกว่า อาจารย์ไม่ต้องไปก็ได้

เช้าวันนี้ได้ไปเดินออกกำลังกายตีกอล์ฟยามเช้าที่สนาม President สุวินทวงศ์ เพื่อเตรียมตัวแข่งขันกอล์ฟ Super Senior Tour วันที่ 20-21 ตุลาคม ชิงเงินรางวัลรวม 500,000 บาท ที่สนามวินเซอร์

ร่างกายมีปัญหาขาซ้าย ยันไม่ค่อยอยู่ มีปัญหาเส้นเอ็น ที่เกิดจากการซ้อมน้อย มันไม่หมุนไหล่  ก็พยายามเป็นผู้ดู ไม่เป็นผู้เล่น เล่นให้สนุก มีกิจกรรมทำ ไปวันหนึ่ง ๆ ชีวิตมันก็อย่างนี้

วันที่ 27- 30 มีรายการ ไปพบพรรคพวกตามต่างจังหวัด เดินทางไกล เหนือสุด อิสาน ใต้ เพื่อไปแนะนำพรรคพวกให้ซื้อเครื่องจักรของ Prensoland ในการผลิต พื้น ผนัง และเสาเข็ม ราคาไม่แพง พา Enric ชาวเสปญ ไป ก็พูดกันพอได้ ไม่ลึกซึ้งอะไรมากในภาษาอังกฤษ สำหรัยพี่สิงห์  ที่สอบได้ F ตอนปีหนึ่ง  ก็ต้องพาไปพบลูกค้า หวังว่าคงจะขายได้ สาม-สี่เครื่อง เพราะคุณภาพดีมาก ราคาไม่แพง ใช้คนน้อยในการทำงาน และการซ้อมบำรุงน้อยมาก ๆ เหมาะกับการลงทุนยิ่ง

สวัสดี

[Manop Klabdee]

อะไร อะไร มันก็ไม่เที่ยง โดยเฉพาะ ความคิด และจิตของคน

ความยึดมั่นถือมั่นว่าเป็นเรา เป็นตัวตนของเรา เราเป็นนั่น-นั่นเป็นของเรา  นี่ละรวมทั้งความหลงอยู่ในความคิด มันจึงเป็นเช่นนั้น "บุคคลที่หายสาบสูญ" ทั้ง ๆ ที่อยู่ กิน นอน อาบน้ำ มาด้วยกันมากกว่า ๒๐ ปี แต่มันก็เป็นไปได้ นี่ละทิฏฐิของมนุษย์ และหลงอยู่ในความคิด

เราเองก็ลืมมันไปเหมือนกัน

สวัสดี

[Manop Klabdee]

เวลาผ่านไปรวดเร็วมาก

เหลือเวลาอีกไม่มากแล้ว

[Manop Klabdee]

ไม่รู้จะบรรยายอย่างไร?

ให้ภาพมันบรรยายให้ก็แล้วกัน

[Manop Klabdee]

ไอ้พวกนี้มันประสพความสำเร็จในหน้าที่การงานกันได้อย่างไร?

น่าคิด นะ!

เพราะการฝึกปรือสมองอยู่เป็นประจำ ที่ต้องจดจำไผ่ทุกตัวที่ทิ้งให้เห็น ใครทิ้งไผ่ใบไหน เขาควรมีอะไรในมือ เขาวางแผนอย่างไร  เราวางแผนอย่างไรที่จะเอาชนะเขา นี่หรือคือสิ่งที่ได้เอาไปใช้ในภายภาคหน้า แต่สังคมท่านว่ามันไม่ดี เป็นอบายมุข

[Manop Klabdee]

วันนี้เป็นวันที่ครอบครัว "ทัศนียานนท์" มีความสุขที่สุด วันหนึ่ง

[Manop Klabdee]

ปัจจุบัน อาจารย์ รศ.พินิจ  ชราลงไปมาก เป็นไปตามธรรมชาติ

[Manop Klabdee]

ตา-ยาย  คู่นี้ก็ปลดเกษียร  แล้ว!

กาลเวลามันเป็นเช่นนี้

คนเรามีความสุขตอนเรียนหนังสือ และ

ปลดเกษียร ก็มีแต่ทุกข์ทั้งกาย-ใจ  อยู่ที่การวางใจของเราให้เป็น

[Manop Klabdee]

ไม่ช้า ไม่นาน เราก็จะต้องเป็นเช่นนี้ !

เอาอะไรไปไม่ได้เลย นอกจาก กรรมดี กรรมไม่ดี ที่เคยได้กระทำเอาไว้ในโลกมนุษย์  

ญาติ ลูก หลาน เขาเตรียมโลงให้เราเท่านี้เอง จริง ๆ

แล้วทำไมเราไม่หาอริยทรัพย์ให้จิตของเราล่ะ มันจะได้ติดตัวไปภพหน้า และ

เราเตรียมความพร้อมให้ใจเราหรือยัง เมื่อวันนั้นมาถึง ?

[pusadee sitthiphong]

		อ้างถึง			ข้อความของ Manop  Klabdee เมื่อ 21 ตุลาคม 2557, 16:13:30
	ตา-ยาย  คู่นี้ก็ปลดเกษียร  แล้ว! กาลเวลามันเป็นเช่นนี้ คนเรามีความสุขตอนเรียนหนังสือ และ ปลดเกษียร ก็มีแต่ทุกข์ทั้งกาย-ใจ  อยู่ที่การวางใจของเราให้เป็น

อารายพี่สิงห์ หนูยังไม่เกษียณนะ เหลืออีกตั้งสามร้อยกว่าวัน แล้วไปเอารูปนี้ที่ไหนมาคะ

[ติ๋ม จันทร์ฉาย]

เหมือนพี่สิงห์มาเตือนว่า เหลือเวลาสะสมความดีอีกไม่นาน ต้องไม่ประมาท

[nok15]

มาเยี่ยมพี่สิงห์เกือบทุกวัน. แต่ไม่ได้เปิดประตูมาทักทาย

วันนี้แวะมาทักทายค่ะ. "สวัสดีค่ะพี่สิงห์"

[suriya2513]

ขอบคุณสิงห์ มานพ ที่เอาภาพความหลังครั้งกระโน้นของพวกเรามาบันทึกไว้
พวกเราเหลือเวลาอีกไม่มากแล้วจริงๆ หรือ ?
ถ้าผมตายอายุ 80 ผมก็เหลือเวลาอีกตั้ง 17 ปีเชียวนา
! เฮ้ย 17 ปีเองนี่หว่า ไปงานคืนสู่เหย้าชาวหอได้อีก 8 ครั้งเอง

[Manop Klabdee]

ดร.สุริยา  จะอยู่ ๘๐ ปี จริงหรือ ?

สวัสดีครับ ชาวซีมะโด่ง และแขกผู้มาเยือน ที่รักทุกท่าน

การอยู่อย่างไม่ประมาท คือการปฏิบัติตาม มรรคมีองค์ ๘

การอยู่อย่างไม่ประมาทคือ การมีสติ-สัมปชัญญะ ใช้ปัญญาในการดำรงชีวิต และ
- เพียรทำกุศลที่ยังไม่เกิด ให้เกิดขึ้น
- เพียรละอกุศลที่ยังไม่เกิดขึ้น ไม่ให้เกิดขึ้น
- เพียรละอกุศลที่เกิดขึ้นแล้ว ให้หมดไป
- เพียรทำกุศลที่เกิดขึ้นแล้วให้ยิ่ง ๆ ขึ้นไป

การใช้ปัญญาในการดำรงชีวิตคือ ให้ยึดหลักอริยสัจจ ๔
- สิ่งที่เกิดขึ้นนั้น ท่านให้รู้
- ทุกสิ่ง(ธรรมทั้งหลาย)ที่ประสพนั้น ล้วนเกิดจากเหตุ-ปัจจัย(สมุทัย) ท่านให้ละ
- ต้องหาสาเหตุ-ปัจจัยแห่งการเกิดนั้นให้พบ และแก้ที่เหตุ-ปัจจัย(ดับที่เหตุ-นิโรธ) ท่านให้ทำให้แจ้ง
- วิธีปฏิบัติเพื่อเอาชนะทุกสิ่ง(ธรรมทั้งหลาย)นั้น คือการปฏิบัติตามมรรคมีองค์ ๘ ท่านให้เจริญ

จะเห็นว่า การดำรงค์ชีวิตของเราอย่างไม่ประมาทนั้น ต้องยึดหลักอริยสัจ ๔ ให้มันเกิดขึ้นโดยอัตโนมัติ ซึ่งเป็นผลมาจากการเจริญสติ จนค้นพบหลักความจริงในอริยสัจ ๔  เห็นตามจริงในอริยสัจ ๔ นั้น และปฏิบัติตามมรรคมีองค์ ๘ เท่านั่นที่ แก้ปัญหาได้ทั้งหมด ท่านจะพบความจริงได้ เห็นธรรมนี้ด้วยตัวท่านเอง แล้วท่านก็จะเอาชนะจิตตนเองได้ ไม่หลง ไม่ไหลไปกับความคิด

จะเห็นว้าทุกสิ่งมาลงที่ สติปัฏฐาน ๔ มรรคจะเกิดครบทุกองค์  ความเป็นพระจะบังเกิดขึ้นในจิตของท่าน  ท่านจะรู้ได้ด้วยตนเอง

วันนี้ พี่สิงห์  ทำงานอยู่ที่โรงงานบ้านแพ้ว ครับ

สวัสดี

[pusadee sitthiphong]

		อ้างถึง			ข้อความของ ติ๋ม จันทร์ฉาย เมื่อ 21 ตุลาคม 2557, 23:03:15
	เหมือนพี่สิงห์มาเตือนว่า เหลือเวลาสะสมความดีอีกไม่นาน ต้องไม่ประมาท

พยายามหัดวางและพอเพียงอยู่ค่ะติ๋ม

[ติ๋ม จันทร์ฉาย]

ป้อมขา
ติ๋มเข้าใจค่ะป้อมว่า ยากมากๆสำหรับผู้ที่ยังทำงาน และโดยเฉพาะการเริ่มต้นทำ project ใหม่ๆ เกือบจะเป็นไปยากที่จะวางไปหมด คงต้องค่อยเป็นค่อยไป แบบประยุกต์ใช้พุทธวจนกับการทำงาน คงต้องวางทุกอย่างที่ยังไม่ได้อยู่กับเราในปัจจุบัน จัดการสิ่งที่อยู่ตรงหน้า (ปัจจุบัน) อย่างมีสติและศีล ไม่แบกสิ่งที่ผ่านไปแล้ว ไม่พะวงสิ่งที่ยังไม่มา

ต้องค่อยๆฝึกค่ะ ติ๋มเขียนได้ ทำได้ไหมนั้นขึ้นกับความมุ่งมั่นปฏิบัติ ป้อมจะมีเรื่องท้าทายกว่าคนอยู่บ้านอย่างติ๋มมากนักค่ะ

		อ้างถึง			ข้อความของ pusadee sitthiphong เมื่อ 22 ตุลาคม 2557, 16:41:23
	อ้างถึง ข้อความของ ติ๋ม จันทร์ฉาย เมื่อ 21 ตุลาคม 2557, 23:03:15 เหมือนพี่สิงห์มาเตือนว่า เหลือเวลาสะสมความดีอีกไม่นาน ต้องไม่ประมาท พยายามหัดวางและพอเพียงอยู่ค่ะติ๋ม