22 พฤศจิกายน 2567, 15:45:11
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: [1] 2 3 ... 21  ทั้งหมด   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: = = ซีมะโด่งทัวร์อุบลราชธานี ลาวใต้ วันเข้าพรรษา 53 = =  (อ่าน 206363 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« เมื่อ: 03 กรกฎาคม 2553, 11:01:51 »

สืบเนื่องจาก ปี 2553 นี้ ซีมะโด่งทัวร์ยังไม่มีการจัดการท่องเที่ยวขึ้นมาเลย แม้ต้นปีที่ผ่านมา จะมีการจัดทัวร์ไปดูบอลประเพณี จุฬา-ธรรมศาสตร์ ที่โรงไฟฟ้าบางปะกง ตามด้วยการไปเยี่ยมผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรีและคุณอ้อมทิพย์ นิเทศน์และ RCU2516 ที่สวนสัตว์เปิดเขาเขียว มาแล้วก็ตาม

ได้มีการเตรียมจัดทัวร์ขึ้น โดยใช้วันหยุดยาวซึ่งมีเหลืออยู่อีก 2 ช่วงคือ
หนึ่ง-วันหยุดช่วงเทศกาลเข้าพรรษา และ
สอง-วันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม

ในที่สุด ก็ได้ช่วงวันหยุดเทศกาลเข้าพรรษา (23 - 28 กรกฎาคม 2553) ดังมีรายการทัวร์ดังต่อไปนี้



GOLDEN LIVE TRAVEL
บริษัท โกลเด้นไลท์ทราเวล จำกัด
Tel 02-539-6651 [Auto], Fax 02-539-6652
E-mail: goldenlive@msn.com WEBSITE: http://www.goldenlive.net 

ทัวร์ VIP ราคาโดนๆ
 
   
        พักโรงแรมสองสไตล์ อิงแอบธรรมชาติที่แสนบริสุทธิ์
                     DELUXE TOUR
เยือนลาวตอนใต้ สัมผัสไนแองการ่าแห่งเอเชีย

อุบล – ช่องเม็ก – ปากเซ – ปราสาทหินวัดพู – หลี่ผี – น้ำตกคอนพะเพ็ง
เดินทางโดย รถโค๊ชปรับอากาศ VIP 02 ชั้น 08 ล้อ
5 วัน 2 คืน

กำหนดการเดินทาง ออกเดินทาง 23 – 27 กรกฎาคม 2553

วันแรก    กรุงเทพ – อุบลราชธานี เย็น วันศุกร์ที่ 23 กรกฎาคม 2553

17.00 น. คณะพร้อมกัน ณ จุดนัดพบ หอพักนิสิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย(ตรงข้าม รร.เตรียมอุดม ถนนพญาไท) เจ้าหน้าที่บริษัทฯ คอยให้การต้อนรับ
18.00 น. พร้อมออกเดินทางสู่ จ.อุบลราชธานี โดยรถโค๊ชปรับอากาศ VIP 2 ชั้น, บริการอาหารกล่องบนรถ(1) ระหว่างการเดินทาง-อิสระ พักผ่อนบนรถ

วันที่สอง  อุบลราชธานี – ช่องเม็ก – ปากเซ – ปราสาทหินวัดพู วันเสาร์ที่ 24 กรกฎาคม 2553

06.00 น. คณะเดินทางถึง จ.อุบลราชธานี บริการอาหารเช้า(2) ณ ห้องอาหาร (ร้านสามชัย สาขาหน้าจวนผู้ว่าฯ) พร้อมอิสระกับภาระกิจส่วนตัวตามอัธยาศัย
หลังอาหารเช้า มำท่านเดินทางสู่ด่านชายแดนช่องเม็ก-วังเต่า ผ่านพิธีการตรวจเอกสารที่ช่องเม็ก ขณะรอตรวจเอกสาร ท่านสามารถชมบรรยากาศโดยรอบ จับจ่ายซื้อสินค้าปลอดภาษีได้
10.30 น.  ออกเดินทางสู่เมืองปากเซ (45 ก.ม.) ข้ามแม่น้ำโขงที่สะพานมิตรภาพลาว-ไทย ตางเข้าสู่ปากเซ ศูนย์กลางแขวงจำปาสัก
11.30 น.  เข้าที่พัก โรงแรม จำปาสัก พาเลซ หรือเทียบเท่า

12.30 น.  รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร(3)
13.30 น.  เดินทางต่ออีก 38 ก.ม. ลงแพขนานยนต์ที่บ้านม่วง ข้ามกลับไปยังเมืองจำปาสัก (นครเก่า) ขึ้นรถยนต์ต่อไป 12 ก.ม. เพื่อที่จะเข้าชมประสาทวัดพู นำท่านชมเสาหลักเมืองของนครจำปาสักที่พระมหากษัตริย์ไทยเป็นผุ้ประกอบพิธีวางเสาหลักเมือง แวะชมวังเก่าของเจ้าบุญอุ้มและเจ้าบุญอ้อม ผู้ครองนครจำปาสัก ซึ่งเป็นเจ้าเมืองคนสุดท้าย ชมพิพิธภัณฑ์ที่เก็บหลักศิลาจารึกซึ่งบันทึกด้วยอักษรปันละวะและวัตถุโบราณที่เก่าแก่กว่าสมัยเจนละ หลังจากนั้นนำท่านชมปราสาทวัดพู โดยเดินผ่านทางเสานางเรียงซึ่งมียอดเขาที่มีชื่อจารึกในสมัยอดีตว่า “มหาลึงคบรรพต” ท่านจะได้ชมศาสนสถานของขอมที่เก่าแก่ที่สุดและงดงามกว่าประสาทหินใดๆ ในบริเวณที่ราบสูงและนครวัดนครธม รวมทั้งภาพแกะสลักนางอัปสรที่งดงามและสมบูรณ์ซึ่ง สมเด็จพระเทพฯ และสมเด็จพระพี่นางเธอกัลยานิวัฒนา ก็ได้เคยเสด็จ ณ สถานที่แห่งนี้ ท่านจะได้ชมแท่งหินขนาดใหญ่ที่ใช้บูชายันต์ด้วยคนเป็นๆ ในอดีตตามลัทธิความเชื่อถือ ซี่งปัจจุบันก็ยังใช้อยู่ น้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์ที่เชื่อกันว่าไหลซึมลงมาจากยอดลึงคบรรพต ชมปราสาทหินทรายสีขาวที่ข้างในเก็บศิวลึงค์ไว้ ปัจจุบันเปลี่ยนเป็นพระพุทธรูปและเก็บสมบัติโบราณในสมัยก่อนพระเจ้าชัยวรมันที่ 1 เก็บภาพและความทรงจำที่งดงามแล้วเดินทางกลับตามเส้นทางเดิมไปยังปากเซ
17.00 น.  นำท่านเข้าสู่ที่พัก อิสระพักผ่อนตามอัธยาศัย
19.00 น.  รับประทานอาหารค่ำ ณ ร้านอาหาร(4)

วันที่สาม  ปากเซ – หลี่ผี – คอนพะเพ็ง    วันอาทิตย์ที่ 25 กรกฎาคม 2553

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม(5)
07.30 น.  ออกเดินทางตามเส้นทางหมายเลข 13 ใต้ (135 ก.ม.) สู่ท่าเรือบ้านท่าม่วง นำท่านลงเรือหางยาว ล่องมหานทีสีทันดอน ลัดเลาะไปตามเกาะแก่งต่างๆ สู่น้ำตกหลี่ผี เรือจอดเทียบท่าเกาะดอนเหลด ขึ้นรถ 5 แถว
ท่านจะได้ชมชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้าน แลวะชม “ซากหัวรถจักรไอน้ำและสะพานรถไฟ” ของจักรวรรดินิยมฝรั่งเศสที่ยังหลงเหลืออยู่ที่นี่ จากนั้นชมความยิ่งใหญ่ของแก่งหินที่แม่น้ำโขงไหลผ่าน (น้ำตกหลี่ผีหรือน้ำตกสมพะมิต) เก็บภาพประทับใจแล้วเดินทางกลับ เพื่อมุ่งหน้าสู่น้ำตกคอนพะเพ็ง
11.30 น.  เดินทางถึง “น้ำตกคอนพะเพ็ง” ซึ่งได้รับสมญานามว่าเป็น ไนแองการ่าแห่งเอเชีย ลำน้ำโขงที่บริเวณนี้กว้างกว่า 8 กิโลเมตร มีโขดหินเป็นเกาะแก่งลดหลั่นเป็นชั้นๆ ทำให้เกิดเป็นน้ำตกขนาดใหญ่ที่มีกระแสน้ำตกเชี่ยวแรง เป็นฟองฝอยละอองน้ำฟุ้งกระจายทั่วไปเป็นที่น่าตื่นตาตื่นใจเป็นอย่างยิ่ง เพราะนึกไม่ถึงว่าในลาวเพียงใกล้ๆ แค่นี้ ก็มีสิ่งมหัศจรรย์ที่ไม่ต้องนั่งเครื่องบินไปดูแล้ว ความสูงชันและความแรงกระหน่ำของน้ำตกเป็นเครื่องช่วยให้เรือบรบของฝรั่งเศสไม่สามารถล่องตามลำน้ำโขงขึ้นไปตีประเทศจีนได้ในอดีต ท่านจะมีโอกาสสัมผัสกับธรรมชาติที่บริสุทธิ์อย่างมากและชมต้นมณีโครตซึ่งมีต้นเดียวในอีสานใต้

เที่ยง       รับประทานอาหารกลางวัน ณ ศาลาริมคอนพะเพ็ง(6)
15.30 น.  เดินทางกลับสู่เมืองปากเซ
17.30 น.  นำท่านเข้าสู่ที่พัก โรงแรมบัคอีตู้ หรือเทียบเท่า รีสอร์ทท่ามกลางธรรมชาติริมน้ำตก สัมผัสอากาศที่เย็นสบาย
19.30 น.  รับประทานอาคารค่ำ(7) หลังอาหารพักผ่อนตามอัธยาศัย

วันที่สี่       ปากเซ – ตาดเยือง – ตาดผาส้วม – ช่องเม็ก – อุบลราชธานี  วันจันทร์ที่ 26 กรกฎาคม 2553

เช้า     รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม(8 )  พร้อมเช็คเอาท์
08.00 น.  นั่งรถชมเมืองปากเซยามเช้า แวะช๊อปปิ้งที่ตลาดดาวเรือง เลือกซื้อสินค้าพื้นเมือง อาทิ เครื่องเงิน สินค้าหัตถกรรม เป็นต้น
09.00 น.  ออกเดินทางสู่น้ำตก ตาดเยือง (40 ก.ม.) จุดเด่นน่าชมอยู่ที่สายน้ำสีขาวที่ไหลออกมาตามหน้าผากระทบโขดหินแตกเป็นละอองสีขาวตัดกับสีดำเข้มของโขดหิน ท่ามกลางบรรยากาศอันร่มรื่นและเป็นส่วนตัว นักท่องเที่ยวสามารถชมความงามของน้ำตกได้อย่างใกล้ชิด
11.00 น.  ออกเดินทางสู่(35 ก.ม.) ระหว่างทางจะผ่าน"ภูปาเจียง" ซึ่งเป็นตำนานวรรณกรรมรักอมตะ “นางมะโรง ท้าวบาเจียง”
12.00 น.  ถึงบาเจียงรีสอร์ท หรือน้ำตกผาส้วม แวะรับประทานอาหารกลางวัน(9) ท่ามกลางบรรยากาศอันร่มรื่นพร้อมชมความงามของน้ำตกและชมชีวิตความเป็นอยู่ของชาวเขา
15.30 น.  ถึงด่านวังเต่า – ช่องเม็ก แวะซื้อสินค้าปลอดภาษีที่ด่านช่องเม็ก
หลังผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองแล้ว นำท่านเดินทางสู่จังหวัดอุบลราชธานี แวะซื้อสินค้าขึ้นชื่อของอุบลราชธานี เช่น หมูยอ เค็มหมากนัด และอื่นๆ อีกมากมาย
บริการอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร(10) หลังอาหารนำท่านเดินทางกลับสู่กรุงเทพมหานคร

วันที่ห้า    กรุงเทพฯ   เช้า วันอังคารที่ 27 กรกฎาคม 2553

05.00 น.   คณะเดินทางถึงกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจ


รายการพิเศษ.....คืนกำไรสู่ลูกค้า

อัตราค่าบริการ
ผู้ใหญ่                                                                             ราคาท่านละ 5900 บาท
เด็ก (เด็กต่ำกว่า 12 ปี พักกับผู้ใหญ่ 2 ท่าน ไม่มีเตียงเสริม)    ราคาท่านละ 4900 บาท
พักเดี่ยว                                                                           เพิ่มท่านละ  2500 บาท

อัตรานี้รวม
1.   ค่ารถปรับอากาศ VIP 2 ชั้น 8 ล้อ
2.   ค่าโรงแรมที่พัก 2 คืน
3.   ค่าอาหารตามรายการที่ระบุ
4.   ค่าเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวตามรายการ
5.   ค่าทำเอกสารผ่านแดน
6.   ค่ามัคคุเทศน์ท้องถิ่นคอยบริการท่านอย่างใกล้ชิด
7.   ค่าประกันภัยในการเดินทาง วงเงินท่านละ 200,000 บาท/100,000 บาท (เงื่อนไขตามกรมธรรม์)

อัตราค่าบริการนี้ไม่รวม
1.   ค่าใช้จ่ายส่วนตัวต่างๆ นอกรายการ อาทิ ค่าโทรศัพท์ ค่าซักรีด และค่าเครื่องดื่มในห้องพัก
2.   ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% ค่าภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3% ในกรณีต้องการใบเสร็จ
3.   ค่าทิปไกด์และคนขับรถ (แล้วแต่ความพึงพอใจ)
4.   ค่าทิปพนักงานยกกระเป๋าในโรงแรม

สิ่งที่ต้องเตรียมเพิ่มไป
1.   ยาประจำตัว อาทิ ยาแก้เบาหวาน ความดันโลหิต ยาปฏิชีวนะเฉพาะตัว ยาอื่นๆในกรณีมีโรคประจำตัว ฯลฯ
2.   อุปกรณ์กันฝน(ตามสมควร) เนื่องจากอยู่ในช่วงฤดูฝนแล้ว
        เพิ่้มเติม- ขอให้ทุกท่านเตรียมกางเกงขาสั้นไปเพิ่มเติม เนื่องจากในวันที่สองของการอยู่ที่ สปป.ลาว จะต้องลงเรือ ลงแพ เที่ยวชมน้ำตก เกาะแก่งต่างๆ การใส่กางเกงขาสั้นจะสะดวกกว่าการใส่กระโปรง หรือกางเกงขายาวครับ
3.    เงินที่จะเตรียมไปใช้จ่ายใน สปป.ลาว นั้น ไม่ต้องแลกเงินกีบ โปรดนำเงินบาทไทยชนิดใบย่อยไปมากๆ เช่น ธนบัตรฉบับราคา 20 และ 100 บาท

เพื่อให้การเดินทางเป็นไปได้ด้วยความรวดเร็ว ทุกท่านอาจเตรียมชุดสำรอง ตลอดจนยาสีฟันและอื่นๆ สำหรับเข้าห้องน้ำ ในวันแรกที่ไปถึง เพื่อไม่ต้องไปรื้อกระเป๋าเดินทางจากที่เก็บในตัวรถ จนเกิดความล่าช้าขึ้นได้

อ่านรายละเอียดที่เหมือนกัน แต่ชมภาพเพิ่มเติมที่เว็ปของบริษัทที่ ;
http://www.goldenlive.net/index.php?option=com_content&view=article&id=262%3Aloas0001&catid=54%3Alaos&Itemid=91&lang=th
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #1 เมื่อ: 03 กรกฎาคม 2553, 11:06:05 »

ข่าวนี้มีอยู่ใน"ห้องคุยกับเหยง 16 - พิเชษฐ์ เชื่อมวราศาสตร์.." หน้าที่ 5 แล้วครับ แต่ขอ copy มาไว้ด้วย


มาอัพเดทการไป "ทัวร์ อุบลราชธานี และลาวใต้" ครับ

เรื่องที่ 1 ขอให้ทุกท่านเตรียมกางเกงขาสั้นเพิ่มไปมากหน่อยครับ เนื่องจากในวันที่สอง คือวันอาทิตย์ที่ 25 กรกฎาคม ซึ่งจะเป็นวันที่ไปเที่ยวน้ำตกหลี่ผี และคอนพะเพ็ง และวันจันทร์ที่ 26 กรกฎาคม ไปเที่ยวน้ำตกตาดเยือง และตาดผาส้วม ซึ่งต้องมีการลงเพ ลงเรือ เพื่อท่องตามเกาะแก่ง จะไม่สะดวกสำหรับท่านที่ชอบนุ่งกระโปรง หรือกางเกงขายาว และอาจต้องนำชุดสำรองติดตัวไปเปลี่ยนด้วย ในกรณีที่ท่านถูกฝนหรือสายธารจากน้ำตก จนตัวเปียก

เรื่องที่ 2 เงินที่จะเตรียมไปใช้ใน สปป.ลาว ได้รับแจ้งจากพี่หลิวว่า เงินบาทไทยสามารถใช้ในในประเทศลาวครับ ไม่ต้องแลกเงินกีบของลาว เพียงแต่ต้องมีธนบัตรไทยใบย่อยๆ ไปมากสักหน่อย เช่น ฉบับละ 20, 100 บาท ส่วนธนบัตร ฉบับละ 1,000 บาท จะหาแลกได้ยากหรือใช้ของได้แต่แม่ค้าฝั่งลาวจะทอนเงินกีบให้ เนื่องจากหาเงินบาททอนให้ไม่ได้ หรือไม่ทอนเงินบาทไทยให้นั่นเอง

เรื่องที่ 3 จะมีคนในคณะทัวร์ของเรา 6 ท่านแจ้งความจำนงว่า จะเดินทางล่วงหน้าด้วยการบินไปนอนรอคณะใหญ่ของเราที่อุบลราชธานี และขากลับจาก สปป.ลาว จะแยกตัวจากคณะของเราเพื่ออยู่ต่อที่อุบลราชธานี เพื่อชมงานบุญบั้งไฟและแห่เทียนเข้าพรรษา และบินกลับ กทม. เมื่อเสร็จสิ้นการชมงาน ซึ่งเบื้องต้นทราบว่ามี คุณถาวร วศ16-คุณญาณนิศา ครุ18, คุณเปี๊ยก-สุภา อักษร18 การบินไทย, ดร.คณางค์ ครุ18, คุณธวัช หลี วศ17 และคุณต้อย-ทัศนีย์ มาลา อักษร16 จากจังหวัดกระบี่
ซึ่งทุกท่านได้รับทราบแล้วครับว่า ไม่ว่าจะนั่งเครื่องบินไปและนั่งเครื่องบินกลับ(ด้วยเงินตัวเอง) เพื่อรอขึ้นรถที่อุบลราชธานี ค่าทัวร์ครั้งนี้จ่าย 5,900 บาทเต็มครับ 5 5 5 5

เรื่องที่ 4 มาย้ำเรื่องเดิมครับ คือ รถทัวร์ 3 เพลา 6 ล้อ ยาง 8 เส้น ของบริษัทโกลเด้นไลท์ทราเวลจำกัด คันนี้จะพาคณะของเราออกเดินทางจากหอพักนิสิตจุฬาฯ เลยข้ามไปใน สปป.ลาว และนำคณะของเรากลับประเทศไทยและส่งเราเมื่อสิ้นสุดการเดินทางที่หอพักนิสิตจุึฬาฯในเช้าวันอังคารที่ 27 กรกฎาคม 53
             เพื่อความสะดวกและรวดเร็ว สำหรับท่านที่จะต้องทำกิจวัตรประจำวัน เมื่อเดินทางไปถึงอุบลราชธานี หรือตลอดเวลาที่อยู่บนรถไปท่องเที่ยวและวันกลับ ขอได้โปรดมีกระเป๋าเล็กสำรองสัมภาระที่จำเป็น เช่น แปรง-ยาสีฟัน ครีมล้างหน้า ผ้าเช็ดหน้าขนาดเล็ก รวมทั้งชุดที่จะผลัดเปลี่ยนไว้ เพราะการเรียกขอกระเป๋าใบใหญ่จากรถ จะเป็นภาระและเสียเวลารื้อค้น รวมทั้งเก็บเข้าที่เมื่อเสร็จสิ้นภาระกิจส่วนตัวครับ

วันนี้คงมีข่าวมาแจ้งให้ทราบเท่านี้ครับ
ส่วนรายชื่อผู้ร่วมเดินทางนั้น ขอเวลาอีกสักนิดครับ เนื่องจากพี่หลิวบอกว่า ยังมีอีก 2-3 ท่านที่ได้บอกจองที่สำหรับเดินทางครั้งนี้ แต่ยังไม่ได้ติดต่อกลับไปหาพี่หลิว ทำให้รายชื่อยังไม่นิ่งครับ ส่วนห้องพักที่ สปป.ลาว จองได้รวม 22 ห้องครับ
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #2 เมื่อ: 03 กรกฎาคม 2553, 11:06:46 »

ข่าวดีสำหรับคณะทัวร์ที่จะแยกตัวพักโรงแรม หลังกลับจาก สปป.ลาว เพื่อดูเทศกาลแห่เทียนพรรษาที่อุบลราชธานีต่อครับ

เชิญเที่ยวสัมผัสกลิ่นไอแห่เทียนภูมิปัญญาเมืองอุบลฯ
25 มิย. 2553 19:55 น.

นายวิชิต ชาตไพสิฐ รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี เปิดเผยถึงการจัดงานประเพณีแห่เทียนพรรษาจังหวัดอุบลราชธานี ประจำปี 2553 ซึ่งปีนี้ใช้ชื่องาน “ฮุ่งเฮืองเมืองธรรม งามล้ำเทียนพรรษา ภูมิปัญญาชาวอุบลฯ ” ว่าอุบลราชธานีพร้อมแล้ว และยังคงยึดมั่นแนวคิดที่เกิดจากการหล่อหลอมรวมใจของชาวอุบลราชธานีผสมผสานจิตวิญญาณและงานพุทธศิลป์ ซึ่งเป็นมนต์เสน่ห์ที่นักท่องเที่ยว ผู้มาเยือนสามารถสัมผัสได้ที่อุบลราชธานี ตลอดเดือนกรกฎาคมนี้ โดยมีแนวคิดการดำเนินกิจกรรมดังนี้

1-10 กรกฎาคม 2553 แนวคิด“พบศิลปิน พบจินตนาการ” ชมประติมากรรรมเทียนนานาชาติ ครั้งที่ 5 เป็นการร่วมและสร้างสรรค์งานประติมากรรมเทียนจากศิลปิน 10 ประเทศ ประกอบด้วย จีน สเปน โปแลนด์ อิตาลี บัลแกเรีย เยอรมันนี ตรุกรี รัสเซีย ญี่ปุ่นและไทย ภายใต้แนวคิด “ท่องเที่ยวกับเทียน ท่องธรรมกับไทย” กิจกรรมเยี่ยมชมชุมชนช่างเทียนของคุ้มวัดต่าง ๆ และเยี่ยมชมผ้างามที่บ้านคำปุน พร้อมชมผลงานเทียนที่แกะสลักแล้วจากฝีมือช่างเทียนนานาชาติ ต่อมา 10-18 กรกฎาคม 2553 แนวคิด “พลังเยาวชนเพาะกล้าสามัคคี” เป็นการแสดงศิลปะทางอีสาน และเยี่ยมเยือนชุมชนคุ้มวัดต่าง ๆ ชมความก้าวหน้าของการประดิษฐ์ตกแต่งเทียนพรรษาของชุมชน สำหรับ 19-27 กรกฎาคม 2553 แนวคิด “สืบสานภูมิปัญญา สืบหามูนมัง” การสร้างสรรค์ศิลปะของเยาวชนจากอาร์ตแคมป์และศิลปินลุ่มน้ำโขงโดยการนำเสนอศิลปะจากเทียนร่วมกับศิลปะร่วมสมัย เยี่ยมชม ตลาดนัดโบราณ ในหัวข้อ “วิถีธรรม วิถีเทียน” ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติอุบลราชธานี

ช่วงสุดท้าย 24-31 กรกฎาคม 2553 ด้วยแนวคิด “สร้างสุขด้วยปัญญา ชมเทียนพรรษาเมืองอุบล” ชมงานพุทธศิลป์ต้นแบบที่เป็นตำนานเทียนพรรษา วันที่ 26- 27 กรกฎาคม 2553 ชมขบวนแห่เทียนพรรษายามราตรีประกอบแสงสี ณ บริเวณถนนอุปราช วัดศรีอุบลรัตนาราม และเช้าวันเสาร์ที่ 27 กรกฎาคม 2553 ชมขบวนแห่เทียนพรรษาที่สะท้อนความเป็นพุทธศิลป์และมรดกทางวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์หนึ่งเดียวในโลก และชื่นชมเทียนพรรษาที่ชนะการประกวดบริเวณถนนเขื่อนธานีจนถึงวันที่ 31 กรกฎาคมนี้ นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมที่น่าสนใจมากมาย เช่น การหลอมเทียนหลอมรวมใจ พิธีอัญเชิญเทียนพรรษาพระราชทานและผ้าอาบน้ำฝนพระราชทานทางชลมารค การแสดงมหาดุริยางค์วงใหญ่1,000 คน การแสดงโขนชุดใหญ่รามราชจักรีนักแสดงจากกรมศิลปากร กิจกรรมเยือนชุมชน ชมวัฒนธรรมตกแต่งต้นเทียน นิทรรศการภาพถ่าย “ฮูปงามยามเทียน” การประกวดสาวงามเทียนพรรษา การเสวนาวิชาการ และ การจำหน่ายผลิตภัณฑ์ชุมชน

http://breakingnews.nationchannel.com/read.php?newsid=455193
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #3 เมื่อ: 03 กรกฎาคม 2553, 11:09:14 »

เช่นกันข้อความนี้ก็มีอยู่แล้วครับ ที่ http://www.cmadong.com/board/index.php/topic,5699.msg395140.html

ข่าวเพิ่มเติม สำหรับคณะซีมะโด่งทัวร์ อุบลราชธานี-ลาวใต้ ครับ

พี่หลิว แจ้งให้ทราบว่า

เนื่องจากชาวคณะเราเดินทางไปเต็มกรุ๊ป ทางบริษัทผู้จัดจึงได้มีหมวกให้ทั้งกรุ๊ป และจัดการอาหารให้เป็นอย่างดี

ชาวคณะจึงไม่ต้องเตรียมหมวกไปใส่นะครับ แต่อย่างไรก็ตาม การไปทัวร์ช่วงหน้าฝน คงต้องระวังการเป็นหวัดด้วย

การเตรียมเสื้อผ้าไปเผื่อผลัดเปลี่ยน รวมทั้งเตรียมเสื้อกันฝนไปใช้ในยามจำเป็น จึงเป็นเรื่องที่น่าทำครับ
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #4 เมื่อ: 03 กรกฎาคม 2553, 11:34:30 »

ขอเพิ่มเติมครับ

1.จะมีผู้เดินทางไปรอที่จังหวัดอุบลราชธานี ด้วยการบินไปก่อนหนึ่งคืน คือ คุณถาวร วศ16-คุณศิวาพร ครุ18 โชติชื่น, คุณเปี๊ยก-สุภา อักษร18, ดร.คัคคณางค์ ครุ18, คุณธวัช วศ17-คุณทัศนีย อักษร16 โดยจะรอขึ้นรถทัวร์ที่ร้านอาหารสามชัย ตรงข้ามจวนผู้ว่าฯอุบล ในช่วงเช้ามืด

2.ขากลับ จะมีหลายท่านเช่นกัน ลงรถทัวร์ที่อุบลราชธานี เพื่อเที่ยวงานแห่เทียนเข้าพรรษาโดยพักที่โรงแรมในเมืองอุบลฯ ซึ่งยังไม่ได้รายชื่อที่แน่นอนทั้งหมด แต่เบื้องต้นประกอบด้วย พี่สิงห์-มานพ กลับดี วศ13, คุณถาวร วศ16-คุณศิวาพร ครุ18, คุณเปี๊ยก-สุภา อักษา18, ดร.คัคคณางค์ ครุ18
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #5 เมื่อ: 03 กรกฎาคม 2553, 11:41:43 »

ภาพจากโปสเตอร์ที่ได้รับผ่าน e-mail ครับ


      บันทึกการเข้า
Preecha2510
Cmadong Member
Full Member
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2510
กระทู้: 788

« ตอบ #6 เมื่อ: 03 กรกฎาคม 2553, 13:57:28 »



     สวัสดีครับเหยง   

                         -ขอรบกวนเหยงช่วยหารายชื่อสมาชิกทัวร์ cmadong ที่จะเดินทางไปเที่ยวลาวใต้ครั้งนี้มาลงในเว็บ

                           เพื่อทราบทั่วกันด้วย  (ได้ข่าวว่าพี่ปิ้งไปเที่ยวในทัวร์นี้ด้วยกัน+ประกบกับหลิวแล้วคิดว่าคงได้มีเรื่อง

                           ให้หัวเราะกันได้ตลอด)

                     

                           
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #7 เมื่อ: 03 กรกฎาคม 2553, 14:06:09 »

สวัสดีครับ พี่แก้ว

ผมติดต่อกับพี่หลิว ไปเมื่อวันอังคารที่ 29 มิ.ย. แล้วครับ โดยพี่หลิวกำลังให้ทัวร์จัดพิมพ์รายชื่ออยู่

และบอกว่า หากเสร็จแล้วจะให้ทัวร์แฟกซ์ให้ผม เพื่อโพสต์ลงเว็ปนี้

หากพี่แก้ว ได้พบกับพี่หลิว ขอความกรุณาช่วยย้ำกับพี่หลิวอีกทีด้วยครับ

ผมจะตามรายชื่อกับพี่หลิว ในวันอังคารหน้านี้ หรือหากได้มาก่อน จะรีบดำเนินการให้ครับ
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #8 เมื่อ: 05 กรกฎาคม 2553, 16:03:43 »

รายชื่อผู้ร่วมเดินทางไปกับคณะซีมะโด่งทัวร์อุบลราชธานี ลาวใต้ วันที่ 23 - 27 กรกฎาคม 2553 รวม 44 ท่าน มีรายชื่อดังนี้

  1. พล ต ต เกียรติพงษ์ มีเพียร
  2. คุณนิภา มีเพียร

  3. คูณสุรศักดิ์ เพชรวิสัย
  4. คุณปรีชา จุฬาพรศิริ

  5. คุณประทาน ป้อมจักรศิลป์
  6. คุณสิริวรรณ ป้อมจักรศิลป์

  7. คุณชวลิต ธรรมวิจิตร
  8. คุณพูนสุข ธรรมวิจิตร

  9. คุณกุศล อิศดุลย์
10. คุณมานพ กลับดี

11. คุณสมเกียรติ จิตรพรหมพันธุ์
12. คุณปียบุตร ศานติพงศ์

13. คุณพิเชษฐ์ เชื่อมวราศาสตร์
14. คุณพูนสุข โตชนาการ

15. คุณคัดนางค์ มณีศรี
16. คุณสุภา ศรีพันธุ์พงศ์

17. คุณศิริชัย ตั้งสุขสมบูรณ์
18. คุณสรรเสริญ สุขพอดี

19. คุณธวัช ดีไชยเศรษฐ์
20. คุณทัศนีย์ ดีไชยเศรษฐ์

21. คุณถาวร โชติชื่น
22. คุณณานิศา โชติชื่น

23. อาจารย์พินิจ เพิ่มพงศ์พันธ์
24. คุณจันทร์แจ่ม เพิ่มพงศ์พันธ์

25. คุณสมนาม ตันสมพงษ์
26. คุณธีระ ตันสมพงษ์

27. คุณศิริพรรณ อรัญนาค
28. คุณกัลยา ฤกษ์ศุภสมพล

29. คุณโสภณ สิกขโกศล
30. คุณกนกวรรณ สิกขโกศล

31. คุณอรุณศรี ถนอมเกียรติ
32. คุณพิสมัย เติมพิทยาไพสิฐ

33. คุณอัจฉรา ชารี
34. คุณจันทิมา ไทรงาม

35. คุณจรงทิพย์ สัตโกวิท
36. คุณพรพิลาศ แสนอาจหาญ

37. คุณสิริพร พุ่มแก้ว
38. คุณพิมลรัตน์ นีติวัฒนพงษ์

39. คุณเมธาพันธ์ ชาลีกุล
40. คุณประไพ ชาลีกุล

41. คุณจรัสชัย นีติวัฒนพงษ์
42. คุณสมชาย เสรีรัตน์

43. คุณพูลศรี Algaier
44. คุณฉันทนา รวมเมฆ

หมายเหตุ นอกจากเป็นรายชื่อของคณะผู้ร่วมเดินทางแล้ว ยังเป็นการจับคู่เพื่อพักในห้องพักขณะเดินทางด้วยครับ
      บันทึกการเข้า
too_ploenpit
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2514
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 7,778

เว็บไซต์
« ตอบ #9 เมื่อ: 05 กรกฎาคม 2553, 19:13:52 »

...รุ่น 14 หายไปไหนหมดอ่ะ...
...พอดีพี่ตู่ไปมาแล้วค่ะ...
...ไปกับหมอโอภาสและแววตา...หลายปีมาแล้วค่ะ...
...ครั้งที่ 2 ก็ไปกับทัวร์ของ ร.พ....
...เสียดายเนอะ...ไม่งั้นจะขอไปด้วย...
...น้ำตกตาดผาส้วมและคอนพะเพ็งไม่ต้องนั่งเรือค่ะ...
...คอนพะเพ็งต้องเดินไกลหน่อยค่ะ...คือรถจอดไกลจากน้ำตก...
...จอดตรงร้านอาหารเลย...ในโปรแกรมบอกว่าทานอาหารเที่ยงที่ศาลาริมน้ำตก...
...แสดงว่าน้ำอาหารไปเองใช่มั้ยคะ...
...ร้านอาหารของคอนพะเพ็งเลยอยู่ไกลจากน้ำตกค่ะ...
...เดินพอเมื่อยประมาณ 200 เมตรได้ค่ะ...
      บันทึกการเข้า

i love pink, you are pink = i love you
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #10 เมื่อ: 05 กรกฎาคม 2553, 20:26:53 »

สวัสดีครับ พี่ตู่

รุ่น 14 หลายๆคน ไปกันมาก่อนหน้านี้แล้ว เช่น พี่อี๊ด-สุภานี บช. เห็นบอกว่าเพิ่งไปมาเช่นกัน

ครั้งนี้รุ่น 14 ก็มีพี่หลิว-สุรศักดิ์, พี่ทาน-ประทาน, พี่ตั้ง-ศิริชัย เภสัชทั้งสามคนเลยครับ

พี่ตู่มีเกล็ดอะไรดีๆ ช่วยเล่าให้ฟังหน่อยครับ รวมทั้งสิ่งที่ต้องระมัดระวังด้วย และอะไรน่าซื้อครับ
      บันทึกการเข้า
อ้อย 14
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,055

« ตอบ #11 เมื่อ: 06 กรกฎาคม 2553, 08:22:36 »

อ้างถึง
ข้อความของ too_ploenpit เมื่อ 05 กรกฎาคม 2553, 19:13:52
...รุ่น 14 หายไปไหนหมดอ่ะ...
...พอดีพี่ตู่ไปมาแล้วค่ะ...
...ไปกับหมอโอภาสและแววตา...หลายปีมาแล้วค่ะ...
...ครั้งที่ 2 ก็ไปกับทัวร์ของ ร.พ....
...เสียดายเนอะ...ไม่งั้นจะขอไปด้วย...
...น้ำตกตาดผาส้วมและคอนพะเพ็งไม่ต้องนั่งเรือค่ะ...
...คอนพะเพ็งต้องเดินไกลหน่อยค่ะ...คือรถจอดไกลจากน้ำตก...
...จอดตรงร้านอาหารเลย...ในโปรแกรมบอกว่าทานอาหารเที่ยงที่ศาลาริมน้ำตก...
...แสดงว่าน้ำอาหารไปเองใช่มั้ยคะ...
...ร้านอาหารของคอนพะเพ็งเลยอยู่ไกลจากน้ำตกค่ะ...
...เดินพอเมื่อยประมาณ 200 เมตรได้ค่ะ...

คุณนายตู่

             วันแม่เดือนหน้า 14 กลุ่มย่อยจะไปลุยสงขลา กับ ดร.กุล สักสี่ห้าวัน  ข่าวว่า ซีมะโด่งใต้ เช่น  พี่ตั๊ก(วีระ) จะมาดูแลพวกเราสัก 1 มื้อ คงสนุกแน่  เอาไว้กลับมา จะลงรูปนะจ๊ะ...
      บันทึกการเข้า
too_ploenpit
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2514
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 7,778

เว็บไซต์
« ตอบ #12 เมื่อ: 06 กรกฎาคม 2553, 17:02:42 »

...สวัสดีค่ะ...น้องเหยง16...
...ที่ช่องเม็คก็มีดิวตี้ฟรีจ้ะ...ติดใจอะไรก็ซื้อไปเลย...เช่น...กระเป๋าก๊อป...อาจต่อราคาได้นิดหน่อย...
...ถ้าคนชอบต้นไม้...ก็มีกล้วยไม้ป่าราคาถูกๆ...ตอนพี่ไปเห็นหน่า14 ซื้อกลับมาเยอะเลย...
...แล้วก็มีลูกสำรองขายเยอะแยะ...ราคาถูกมาก...พี่ก็ซื้อมาเหมือนกันแต่ทำไม่เป็น...ผลสุดท้าย...ทิ้งค่ะ...
...ปราสาทวัดพูต้องนั่งแพไป...รถเก๋งคันเล็กๆลงแพได้...
...แต่ถ้ารถบัสคันใหญ่ๆต้องเปลี่ยนไปนั่งรถตู้หรือสองแถวแทนค่ะ...
...ปราสาทวัดพูถ้าไปตอนดอกลั่นทมออก...จะสวยมากๆค่ะ...โรแมนติค...
...ตอนขึ้นปราสาทก็ชันหน่อย...ควรใส่รองเท้าผ้าใบหรือรัดสนนะจ๊ะ...
...น้ำตกหลี่ผีต้องนั่งเรือไปไกลพอสมควรค่ะ...เรือหางยาว...แล้วไปต่อรถพ่วง...
...เป็นน้ำตกที่ชมได้อย่างเดียวเล่นไม่ได้แบบคอนพะเพ็ง...แต่คอนพะเพ็งถ้าน้ำน้อยๆก็พอลงไปไต่เกาะแก่งได้...
...ลาวใต้ถ้าไปตอนหน้าร้อนก็จะร้อนมากๆค่ะ...ถ้ามีฝนตกนิดหน่อยอากาศจะเย็นๆก็โรแมนติคไปอีกแบบค่ะ...
...ตอนพี่ตู่ไป...ได้ไปเที่ยวไร่กาแฟด้วยตอนบ่ายๆ...มีกาแฟให้ชิมฟรี...
...ตอนค่ำๆพอทานอาหารเย็นเสร็จแล้ว...ก็เดินเที่ยวชมเมืองปากเซ...ซื้อหาผลไม้ราคาถูก...
...แต่บางทีก็มาจากเมืองไทยค่ะ...ประทับใจคืออากาศมันเย็นๆแล้วก็เป็นต่างประเทศ...
...เผลอๆคิดไปว่าเดินอยู่แถวคาเมรอนไฮแลนด์...เพียงแต่ว่ามันเงียบหน่อยเท่านั้นค่ะ...
...แค่นี้ก่อนนะเหยง...แล้วพี่จะเข้ามาใหม่จ้ะ...
      บันทึกการเข้า

i love pink, you are pink = i love you
too_ploenpit
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2514
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 7,778

เว็บไซต์
« ตอบ #13 เมื่อ: 06 กรกฎาคม 2553, 17:11:37 »

...อ้อย...ไปวันไหนน่ะ...
...ฝากความคิดถึงไปยังพิกุลด้วย...อ้อ...พี่ตั๊กด้วยจ้ะ...
...พี่ตั๊กคุยสนุกมากๆ...หัวเราะกันขำกลิ้งเลย...รับรอง...
...ต้นเดือนสิงหา...ตู่มีโปรแกรมไปภูเก็ต...
...แต่คงอยู่เที่ยวบนเกาะ...เพราะได้ข่าวว่ามรสุมกำลังเข้านี่...
...ไปเที่ยวไหนดีคะ...คนภูเก็ตแนะนำที...
...แบบว่าตามหมอไป...หมอจัดสังสรรค์พวกแพทย์ค่ะ...
อ้างถึง
ข้อความของ อ้อย 14 เมื่อ 06 กรกฎาคม 2553, 08:22:36
อ้างถึง
ข้อความของ too_ploenpit เมื่อ 05 กรกฎาคม 2553, 19:13:52
...รุ่น 14 หายไปไหนหมดอ่ะ...
...พอดีพี่ตู่ไปมาแล้วค่ะ...
...ไปกับหมอโอภาสและแววตา...หลายปีมาแล้วค่ะ...
...ครั้งที่ 2 ก็ไปกับทัวร์ของ ร.พ....
...เสียดายเนอะ...ไม่งั้นจะขอไปด้วย...
...น้ำตกตาดผาส้วมและคอนพะเพ็งไม่ต้องนั่งเรือค่ะ...
...คอนพะเพ็งต้องเดินไกลหน่อยค่ะ...คือรถจอดไกลจากน้ำตก...
...จอดตรงร้านอาหารเลย...ในโปรแกรมบอกว่าทานอาหารเที่ยงที่ศาลาริมน้ำตก...
...แสดงว่าน้ำอาหารไปเองใช่มั้ยคะ...
...ร้านอาหารของคอนพะเพ็งเลยอยู่ไกลจากน้ำตกค่ะ...
...เดินพอเมื่อยประมาณ 200 เมตรได้ค่ะ...

คุณนายตู่

             วันแม่เดือนหน้า 14 กลุ่มย่อยจะไปลุยสงขลา กับ ดร.กุล สักสี่ห้าวัน  ข่าวว่า ซีมะโด่งใต้ เช่น  พี่ตั๊ก(วีระ) จะมาดูแลพวกเราสัก 1 มื้อ คงสนุกแน่  เอาไว้กลับมา จะลงรูปนะจ๊ะ...
      บันทึกการเข้า

i love pink, you are pink = i love you
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #14 เมื่อ: 08 กรกฎาคม 2553, 09:34:08 »

มาอัพเดทข้อมูลของพี่ตู่ครับ

ขออีก......

-มีที่ไหนเล่นน้ำได้บ้าง ?

-มีของอื่นน่าซื้ออีกไหมครับ ?

-มีคนเพิ่งไปเวียงจันทร์กลับมาบอกว่า ขณะนี้ร้อนมาก น้ำขวดแพงเหลือเกิน รวมทั้งอาหารด้วย (เขาเหมารถตู้ไปกันเอง)
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #15 เมื่อ: 08 กรกฎาคม 2553, 10:03:42 »

สำหรับชาวหอที่จะไปชม "นางลอย" ในวันที่ 23 ซึ่งคณะทัวร์ออกเดินทางครับ

โปรดเกล้าฯนร.ศิลปาชีพรุ่นใหม่ นศ.นาฏศิลป์ฝากฝีมือโขน"นางลอย"



จากการที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ จัดการแสดงโขนต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี โดยปีนี้จัดให้มีการแสดงโขนชุด "นางลอย" พร้อมกันนี้ยังทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้คนรุ่นใหม่ได้มีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมของชาติอีกด้วย

ม.ล.ปิยาภัสร์ ภิรมย์ภักดี รองผู้อำนวยการผลิต เปิดเผยว่า ตามที่ทราบกันว่า สมเด็จ พระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงห่วงใยว่า ศิลปวัฒนธรรมประจำชาติจะสูญหายไปตามกาลเวลา จึงทรงมีพระราชเสาวนีย์ให้ คนรุ่นใหม่มีส่วนร่วมในการแสดง โขนชุดนางลอย ในครั้งนี้ ให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็น ไปได้ เริ่มตั้งแต่การคัด เลือกนักแสดงตัวเอกรุ่นใหม่เป็นครั้งแรก ซึ่งผู้เข้ารับการคัดเลือก ล้วนเป็นนักเรียน นัก ศึกษาจากวิทยาลัยนาฏศิลป์ และสถาบันอุดมศึกษาทั่วประเทศ

ม.ล.ปิยาภัสร์กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ยังทรงมีพระราชเสาวนีย์ให้นักเรียน นักศึกษารุ่นใหม่มาฝึกฝีมือด้านต่างๆ ภายใต้การดูแลของอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญ อาทิ นักเรียนศิลปาชีพในสวนจิตรลดา มาช่วยปักผ้าสำหรับชุดตัวละครเอก นักเรียนศิลปาชีพเกาะเกิด จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวกะเหรี่ยงมาช่วยประดิษฐ์ อุปกรณ์การแสดง ส่วนการวาดและการจัดสร้างฉาก เป็น ฝีมือของคณาจารย์และนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ วิทยาเขตเพาะช่าง ซึ่งได้จัดสร้างขึ้นด้วยการศึกษาค้นคว้าตามวิธีการแบบเก่าตามจารีตแบบแผนการแสดงโขนหลวงของกรมมหรสพ เพื่อเป็นการสืบสานงานช่าง พร้อมกันนี้ยังได้เพิ่มเทคนิคสมัยใหม่ที่ไม่ทำลายจารีตเดิม อย่างการใช้เวทีหมุน

หรือการชักรอกตัวแสดง เพื่อเพิ่มอรรถรสในการชมอีกด้วย ซึ่งขณะนี้ฉากและอุปกรณ์ ประกอบฉากทั้งหมดได้จัดทำเสร็จไปกว่า 70% แล้ว เหลือเพียงเก็บรายละเอียดเท่านั้น

สำหรับการแสดงโขนชุดนางลอยนี้ จะจัดแสดงทั้งหมด 7 รอบ ที่หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย โดยรอบประชาชนมีวันที่ 23 ก.ค. เวลา 19.30 น. วันที่ 24 และ 25 ก.ค. มี 2 รอบ เวลา 14.00 น. และ 19.30 น. รอบนักเรียนในวันที่ 26 ก.ค. เวลา 10.00 น. และ 15.00 น. ซื้อบัตรเข้าชมได้ที่เคาน์เตอร์ไทยทิคเก็ต เมเจอร์ ทุกสาขา โทร.0-2262-3546 และศูนย์วัฒนธรรม แห่งประเทศไทย โทร.0-224 7-0028 ในราคา 400/600/ 800/1,000 บาท และราคาพิเศษ 100 บาทสำหรับนักเรียน.

 
http://www.thairath.co.th/content/life/94394
      บันทึกการเข้า
too_ploenpit
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2514
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 7,778

เว็บไซต์
« ตอบ #16 เมื่อ: 08 กรกฎาคม 2553, 14:01:24 »

อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 08 กรกฎาคม 2553, 09:34:08
มาอัพเดทข้อมูลของพี่ตู่ครับ

ขออีก......

-มีที่ไหนเล่นน้ำได้บ้าง ?

-มีของอื่นน่าซื้ออีกไหมครับ ?

-มีคนเพิ่งไปเวียงจันทร์กลับมาบอกว่า ขณะนี้ร้อนมาก น้ำขวดแพงเหลือเกิน รวมทั้งอาหารด้วย (เขาเหมารถตู้ไปกันเอง)

...ที่ตาดผาส้วมมีน้ำตกอยู่อีกแห่งนึง...ฃื่ออะไรพี่ก็จำไม่ได้ค่ะ...ตาดเหมือนกัน...
...อยู่ตรงใกล้ๆทางเข้า...พอเล่นน้ำได้ค่ะ...พี่เห็นคนเล่นกันเยอะแยะ...
...เค้าบอกเป็นของแถม...สำหรับพี่มันก็สวยดีนะ...ความกว้างของน้ำตกก็เยอะ...
...แล้วก็ไม่ลึกมาก...
...ส่วนตาดผาส้วมอยู่ติดกับภัตตาคารค่ะ...อาหารอร่อยค่ะแล้วก็เติมได้ด้วย...
...มีลูกสำรองน้ำกะทิใส่น้ำแข็งอร่อยมาก...อย่าลืมทานกันนะคะ...
...ที่ลาวมีของป่าให้ซื้อ...เช่น เนื้อเก้ง...จะมีแขวนขายตามริมถนนค่ะ...
...ขายเป็นพวงๆ...7 พวงร้อย...หรือยังไงนี่แหล่ะ...
...เห็นพวกพยาบาลเค้าซื้อมาย่างหรือทอดกินก็อร่อยดีค่ะ...
...มีทั้งแบบดิบและสุกค่ะ...เลือกซื้อกันตามสบาย...
...ที่ตลาดดาวเรืองมีผ้าไหมและผ้าฝ้ายขายเยอะมากค่ะ...
...ราคาก็ไม่แพงด้วย...อีกทั้งยังมี ไม้แกะสลัก...งานชิ้นเล็กๆแต่ดูแล้วยังสู้ที่บ้านถวายไม่ได้ค่ะ...
...เครื่องเงินก็มีค่ะ...พวกกระเป๋า, เข็มขัด, สร้อย, ตุ้มหู...คล้ายๆแถวโรงเกลืออ่ะค่ะ...
...พี่ตู่ซื้อผ้าซิ่นลาวมา 2-3 ผืนยังพับเก็บใส่ตู้ไว้เลย...ยังไม่เคยเอามาใส่เลยค่ะ...
      บันทึกการเข้า

i love pink, you are pink = i love you
too_ploenpit
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2514
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 7,778

เว็บไซต์
« ตอบ #17 เมื่อ: 08 กรกฎาคม 2553, 14:05:42 »

...อ้อ...ตอนพี่ไปโค้กกระป๋องละ 20 บาทค่ะ...
...สงสัยนำมาจากเมืองไทยหล่ะ...
...อย่างอื่นถูกหมดยกเว้นโค้กค่ะ...แต่ความจริงตามสถานที่ท่องเที่ยวบ้านเราก็ 20 บาทเหมือนกันค่ะ...
...ยังไงก็ยังถูกกว่าที่ญี่ปุ่นเยอะเลย...ที่ญี่ปุ่น 120 เยน...ก็ประมาณ 44 บาทค่ะ...
      บันทึกการเข้า

i love pink, you are pink = i love you
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #18 เมื่อ: 09 กรกฎาคม 2553, 08:22:44 »

พี่ตู่ครับ

แล้วถ้าช่วงนี้ น้ำโขงค่อนข้างน้อย เราจะได้เห็นน้ำตกที่คอนพะเพ็งหรือครับ ??
      บันทึกการเข้า
pusadee sitthiphong
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

คณะ: พาณิชยศาสตร์และการบัญชี
กระทู้: 4,689

« ตอบ #19 เมื่อ: 09 กรกฎาคม 2553, 08:58:03 »

น่าอิจฉาคนไปเที่ยวนะ
เราต้องฝึกไท้จี๋
ไม่ฝึกเดี๋ยวอาจารย์ดุเอา 555
      บันทึกการเข้า

pom shi 2516
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #20 เมื่อ: 09 กรกฎาคม 2553, 20:47:01 »

อย่าอิจฉา..โปรดระวัง

อยู่ดีๆ มี e-mail ส่ง power point ไปให้ พร้อมบอกให้หมั่นฝึก เพื่อสุภาพ

นี่ยังไม่ได้ forward ให้ใครเลย กลัวพรรคพวก....เอา!! ??
      บันทึกการเข้า
too_ploenpit
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2514
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 7,778

เว็บไซต์
« ตอบ #21 เมื่อ: 12 กรกฎาคม 2553, 17:52:05 »

อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 09 กรกฎาคม 2553, 08:22:44
พี่ตู่ครับ

แล้วถ้าช่วงนี้ น้ำโขงค่อนข้างน้อย เราจะได้เห็นน้ำตกที่คอนพะเพ็งหรือครับ ??
...พี่ก็ได้ข่าวเหมือนกันจ้ะว่าตั้งแต่จีนเปิดเขื่อนอันใหม่...น้ำโขงบ้านเราแห้งไปเยอะเลย...
...ไม่แน่ใจว่ามีผลกับคอนพะเพ็งหรือเปล่า...
...แต่ตอนนี้หน้าฝนนี่...ยังไงพี่ตู่ก็ขอเอาใจช่วยให้พวกเราได้เห็นความสวยงามของคอนพะเพ็งค่ะ...
...แต่ถ้าน้ำแห้งจริงๆ...อาจจะได้เล่นน้ำที่คอนพะเพ็งนะ...หรือเดินไต่เกาะแก่งเล่นค่ะ...
...ถ้าได้พักที่จำปาสักพาเลซ...โรงแรมสวยมากค่ะเพราะเป็นวังเก่า...
...แต่ก่อนนี้เป็นท้องพระโรง...แล้วนำมากั้นซอยเป็นห้องพัก...
...แต่ละห้องกว้างขวางมาก...ถ้านอน 2 คนแล้วรู้สึกเวิ้งว้างยังไงพิกล...
...แต่พี่ตู่ลองแล้ว...ไม่มีอะไรค่ะ...เค้าบอกว่าเสียงที่เราได้ยินเป็นเสียงสะท้อน...
...พอห้องนึงมีเสียงก็จะดังไปถึงห้องอื่นด้วย...
...ระเบียงทางเดินก่อนจะเข้าห้องพักบางขั้นถ้าไม่เปิดไฟบางทีก็จะดูทึมๆค่ะ...

      บันทึกการเข้า

i love pink, you are pink = i love you
too_ploenpit
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2514
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 7,778

เว็บไซต์
« ตอบ #22 เมื่อ: 12 กรกฎาคม 2553, 17:55:00 »

...ที่ชั้นล่างของโรงแรมจำปาสักพาเลซมีผ้าไหมให้เลือกซื้อกันด้วยค่ะ...
...ถ้าไม่ได้พักที่นี่...ก็แวะไปเที่ยวได้...
      บันทึกการเข้า

i love pink, you are pink = i love you
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #23 เมื่อ: 12 กรกฎาคม 2553, 20:04:00 »

ข้อมูลสำหรับ RCU ซึ่งจะอยู่ดูการแห่เทียนเข้าพรรษาที่จังหวัดอุบลราชธานี ในวันถัดจากการกลับจากลาวใต้แล้ว

"ซื้อตัว" ทำลายหรือเผยแพร่? งานแห่เทียนพรรษาอุบล
12 กรกฎาคม 2553 17:18 น.

 

       วันเข้าพรรษาในปีนี้ใกล้จะเวียนครบอีกวาระหนึ่งแล้ว โดยในปีนี้ตรงกับวันที่ 27 ก.ค.53 และเช่นเคยเมื่อถึงช่วงเทศกาลเข้าพรรษา เทศกาลงานใหญ่ก็หนีไม่พ้นประเพณีแห่เทียนพรรษา ซึ่งเป็นที่ทราบโดยทั่วกันว่า จังหวัดที่มีชื่อเสียงเรื่องของประเพณีแห่เทียนพรรษาที่ยิ่งใหญ่ตระการตาสวยงามนั้น คือ จ.อุบลราชธานี ซึ่งกล่าวได้ว่าเป็นเจ้าตำรับเรื่องการแกะสลักเทียนพรรษาที่ยากจะหาเมืองใดเทียบได้
      
       การแห่เทียนพรรษา เป็นเสมือนเทศกาลท่องเที่ยวที่ดึงดูดความสนใจของผู้คนและสร้างเม็ดเงินให้ชาวอุบล ได้คึกคัก และเป็นการประกาศศักดาของบรรดาช่างมากฝีมือในการแกะสลักเทียนพรรษา ที่ใช้โอกาสนี้ประลองฝีมือกัน
      
       อย่างไรก็ตามพบว่าในช่วงปีหลังๆมานี้ นอกเหนือจากที่อุบลแล้ว ยังมีอีกหลายจังหวัดที่พยายามส่งเสริมและผลักดันประเพณีแห่เทียนพรรษาออกสู่สายตาประชาชนมากขึ้น ทั้ง นครราชสีมา สุพรรณบุรี บุรีรัมย์ สุรินทร์ จนเกิดปัญหาการแย่งตัวช่างทำเทียนขึ้น ยิ่งช่างที่มีฝีมือฉมัง เจ้าภาพจ่ายค่าตัวกันชนิดทุ่มไม่อั้น ทำให้หลายคนตั้งคำถามว่า การซื้อตัวช่างทำเทียน เป็นการเผยแพร่ฝีมือศิลปะการทำเทียนแห่งเมืองอุบลให้แพร่หลาย หรือเป็นการทำลายรากงานแห่เทียนอุบลที่เดิมทำเป็นพุทธบูชาให้กลายเป็นธุรกิจงานแห่เทียนไป

 
 
       ย้อนปูมแห่เทียน
      
       ในอดีตก่อนสมัย พลตรีพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงสรรพสิทธิประสงค์ ข้าหลวงต่างพระองค์ สำเร็จราชการมณฑลลาวกาว(อีสาน) ในรัชกาลที่ 5 ชาวอุบลไม่มีการหล่อเทียน แห่เทียนเช่นปัจจุบัน
      
       ชาวอุบลจะใช้วิธีการพันเทียนรอบศีรษะไปถวายพระเพื่อจำพรรษา มีการหาน้ำมันไปถวายพระสงฆ์ และหาเครื่องไทยทานและผ้าอาบน้ำฝนไปถวายพระเท่านั้นครั้นในสมัยกรมหลวงสรรพสิทธิประสงค์ ได้เป็นผู้สำเร็จราชการที่เมืองอุบล คราวหนึ่งมีการแห่บั้งไฟที่ วัดกลาง มีคนไปดูมาก มีการตีกันในกระบวนแห่จนถึงแก่ความตาย จึงให้เลิกการแห่บั้งไฟ เปลี่ยนมาเป็นการแห่เทียนพรรษา
      
       การแห่เทียนพรรษาในสมัยก่อนไม่ได้ใหญ่โตเช่นในปัจจุบัน เพียงแต่ชาวบ้านร่วมกันบริจาคเทียนแล้วนำเทียนมาติดกันกับลำไม้ไผ่ที่เตรียมไว้ทบรอยต่อ หาเสร็จแล้วนำต้นเทียนไปมัดติดกับปิ๊บน้ำมันก๊าด และจะแห่ไปถวายวัดมีการฟ้อนรำด้วยความสนุกสนาน
      
       การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญอีกครั้งหนึ่งเกิดขึ้นเมื่อ งานประเพณีแห่เทียนพรรษาจังหวัดอุบลราชธานีได้รับการส่งเสริมจากทางจังหวัดมากขึ้นตามลำดับ จนถึงปี พ.ศ.2520 การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยได้ให้การสนับสนุนเป็นงานประเพณีระดับชาติ โดยมีการประชาสัมพันธ์มีชื่อเสียงโด่งดังในระดับประเทศ จนปัจจุบันมีการประกวดต้นเทียนพรรษา 3 ประเภท คือ ประเภทติดพิมพ์ ประเภทแกะสลัก ประเภทมัดรวมติดลาย (เทียนโบราณ)

 

 
       วิถีคนทำเทียน
      
       เมื่อมีโอกาสได้พูดคุยกับช่างทำเทียนมากฝีมืออย่าง แก้ว อาจหาญ หรือ ลุงแก้วของชาวบ้าน มรรคทายกและช่างแกะสลักเทียนมือฉกาจแห่งวัดบูรพาเล่าให้ฟังว่า แท้จริงแล้วแนวคิดในการทำเทียนของวัดต่างๆในอุบลนั้นที่เหมือนกัน คือ ต้องเป็นเรื่องเกี่ยวกับศาสนา พุทธประวัติ เนื่องจากอุบลวัดเยอะการแข่นขันของช่างทำเทียนในงานแห่เทียนพรรษามักจะดุเดือดเสมอ
      
       "แม้ว่าเราจะทำให้วัดบูรพาเป็นหลัก แต่ก็มีวัดอื่นจากอำเภอรอบนอกมาจ้างบ้าง เพราะเขาก็อยากได้รางวัลเมือนกัน เราก็จะเลี่ยงโดยสลับประเภทกัน เช่นถ้าวัดบูรพาเราทำขนาดใหญ่อยู่ เราก็ทำให้ที่อื่นขนาดกลาง"ลุงแก้ว เล่าถึงการแข่งขันในการประกวดที่ฝีมือมาจากช่างคนเดียวกันให้ฟัง
      
       ลุงแก้วยอมรับว่า แต่ละวัดอยากจะทำให้ต้นเทียนออกมาสวยและยิ่งใหญ่ จะได้ไม่เสียหน้าของวัดและช่าง แต่สิ่งที่ขาดก็คืองบประมาณ ที่ต้นเทียนขนาดใหญ่ต้นหนึ่งต้องใช้ต้นทุนให้การทำถึง 400,000 บาท แต่งบประมาณที่ได้จากเทศบาลจริงๆอยู่ที่ 80,000 บาทเท่านั้น
      
       "การทำเทียนพรรษาสมัยก่อนกับสมัยนี้ต่างกัน เพราะแต่ก่อนเราไม่ได้ทำกันยิ่งใหญ่ ทำเป็นพุทธบูชา แต่เดี๋ยวนี้มีการประกวดแข่งขันกันมีรางวัลมันก็ต้องทำกันใหญ่โตมโหฬาร"ลุงแก้วเล่า
      
       เมื่อต้องใช้เงินในการยังชีพ และอาชีพคือการทำเทียนพรรษาช่วงเวลานี้ จึงดูเหมือนเป็นช่วงที่ช่างเทียนทุกคนจะมีรายได้เข้ามาจุนเจือครอบครัวบ้าง ทางลุงแก้วเองในปีนี้นอกจากจะทำเทียนให้วัดบูรพาซึ่งเป็นวัดบ้านเกิดแล้ว ยังได้ทำให้วัดที่จังหวัดสุพรรณบุรีด้วย
      
       ลุงแก้วเปิดเผยว่าการทำเทียนพรรษาในจังหวัดอื่นนอกจากอุบล สำหรับลุงแก้วปีนี้เป็นปีที่ 2 และคิดว่าเป็นการดีที่ทำเทียนต่างบ้านเกิด เพราะเป็นการเผยแพร่ บางคนอาจจะกลัวว่าทำเทียนให้ที่อื่นแล้วจะลืมอุบล แต่ลุงแก้วไม่กลัว
      
       "มุมมองผมคิดว่าเป็นการไปเผยแพร่ให้ต่างถิ่นได้เข้าใจความเป็นมาของเทียนพรรษา เดี๋ยวนี้ทุกจังหวัดใครก็เน้นเรื่องการท่องเที่ยวใครก็อยากให้คนบ้านเที่ยวเพื่อหารายได้ไปเสริมให้แต่ละจังหวัดของตัวเอง จังหวัดไหนจะมีศักยภาพมีทุน มีความสามารถจ้างช่างไปทำให้ ก็เรียกนักท่องเที่ยวไปจังหวัดตัวเอง
      
       เรื่องผลกระทบที่ว่าจะส่งถึงการแห่เทียนพรรษาของอุบลมันก็แล้วแต่มุมมอง ผมว่าไปทำให้ต่างถิ่นมันยิ่งดีเพราะว่าไปในนามของคนอุบลอย่างไปสุพรรณบุรี เราเห็นชัดเลย 10 อำเภอ แต่มีเทียน 9 ต้น เป็นคนอุบลทำหมด มีเพียงต้นเดียวที่เป็นช่างจากนครราชสีมา คิดว่าก็คงมีคนคิดเรื่องนี้เป็นธรรมดา แต่อย่าลืมว่าปากท้องมันเป็นเรื่องสำคัญทุกวันนี้ แล้วช่างจะมารอทำอยู่ที่จังหวัดอุบลจังหวัดเดียวได้อย่างไร"

 
 
 
       ลุงแก้วแสดงความคิดเห็น พร้อมเล่าเสริมว่า เวลาทำเทียนพรรษที่อุบลเราทำเพื่อรักษาประเพณี ทีนี้เมื่อไปทำจังวัดอื่นเราก็มองว่าไปรับจ้างหารายได้มาเลี้ยงครอบครัว อย่างที่สุพรรณบุรีราคาอยู่ที่ต้นละ 550,000 บาท ก็พอได้ใช่ส่งลูกเรียนหนังสือ บางคนก็ลูกเรียนสองคนสามคน เศรษฐกิจก็เป็นแบบนี้
      
       ในส่วนของรูปแบบก็แล้วแต่ผู้ว่าจ้างเป็นคนกำหนด แต่ก็มีบางแห่งเหมือนกันที่ให้เราเป็นคนกำหนด บางแห่งก็แล้วแต่จะคุยกับ เป็นช่างอุบลเหมือนมาแข่งกันนอกบ้าน เราก็ให้สิทธิ์ผู้ว่าจ้างว่าจะให้เครดิตชื่อเราหรือไม่ แต่ตอนโฆษณาส่วนใหญ่ก็บอกว่าเป็นช่างจากอุบลราชธานี เพราะซื้อเราขายได้
      
       ทางด้าน วิชิต บุญจริง ช่างแกะสลักเทียนพรรษา เจ้าของร้านดาราศิลป์ ร้านที่รับทำเทียนพรรษาโดยเฉพาะ เป็นอีกหนึ่งช่างเทียนขั้นเทพของอุบล ด้วยประสบการณ์การทำเทียนพรรษามากว่า 30 ปี
      
       วิชิต บอกว่าเขาหลงเสน่ห์ของเทียนมาตั้งแต่เด็ก และมองว่าคนจะแกะเทียนทำเทียนได้สวยต้องรู้เสน่ห์ของเทียนเสียก่อน เสน่ห์ของเทียนสำหรับวิชิต คือ อยู่ที่ความมุ่งมั่นศรัทธา ส่วนตัวแล้ววิชิตมองเรื่องการที่ช่างเทียนหลายๆคนหันไปทำเทียนให้จังหวัดอื่นมากขึ้นว่า มันคืออาชีพ จะว่าช่างแต่ละคนไม่ได้ เพราะมันเพื่อความอยู่รอด
      
       อย่างที่สุพรรณบุรีเขาให้เงินดี หลักแสน แต่ที่อุบลแค่หลักหมื่น แล้วช่างที่เขาลงไปทำเขาก็ไม่ได้ลงไปทำเต็มตัวเท่าไหร่ ทำเป็นระบบน็อคดาวน์แล้วไปประกอบวันเดียวก็เสร็จ แต่ถ้าจะมองว่าทิ้งอุบลไหม ไม่มีใครทิ้งแน่นอน
      
       "เปรียบเทียบโคราชกับอุบล งานโคราชฟอร์มจะใหญ่เอาใหญ่ไว้ก่อน แต่ถ้าเป็นลายเอกลักษณ์จริงๆมาเปรียบเทียบกับอุบลมันคนละเรื่อง คนละอย่าง ความละเอียดความแตกต่างงานโคราชเน้นงานโฟมเยอะ ส่วนมากจะใช้โฟมปาดก่อนแล้วเอาเค้าโครงเทเทียนแปะๆ แต่สำหรับช่างอุบลมันต้องหล่อ หล่อแล้วมันต้องมีการแกะสลักที่ไม่เหมือนใคร เน้นลวดลายเยอะ" วิชิต เปรียบเทียบงานเทียนระหว่างสองจังหวัด
      
       ทั้งยังบอกว่าไม่กลัวเรื่องการลอกเลียนแบบ เพราะงานศิลปะแบบนี้ ไม่ใช่ว่าไปทำให้ดูกันครั้งสองครั้งแล้วจะเป็นเลย อย่างน้อยๆก็ต้องฝึกปรือกันเป็น10ๆปีขึ้นไป

 
 
       ช่างสมัยก่อนจะปล่อยให้วิชาตายไปกับตัว แต่สมัยนี้คนเราถ้าตายไปแล้ว การสืบทอดให้แก่เด็กหรือคนรุ่นหลังเขายังจะพูดและกล่าวขานถึงเรามากกว่า ดีกว่าที่จะเอาวิชาที่เรามีเก็บไว้กับตัว ตายไปก็ไม่
      
       ได้สืบทอดให้กับใครมันก็ไม่ได้ประโยชน์ ไม่ว่าลูกหลานหรือใครก็ได้ที่มีใจรักในงานด้านนี้ สำหรับตนก็พร้อมกให้เรียนรู้ให้วิชาได้พร้อมทั้งกล่าวทิ้งท้ายไว้ว่า อุบลราชธานี เรื่องเทียนยังไงก็ยังเป็นที่หนึ่งอยู่พันเปอร์เซนต์ การไปที่อื่นมันก็เป็นการเผยแพร่ในคนอื่นรู้ว่างานแห่เทียนเข้าพรรษา อย่างไรก็ต้องมาที่อุบล ความตื่นตาตื่นใจกับลวดลาย ขบวนแห่เทียนก็ต้องที่อุบลเท่านั้น
      
       ฤาเพียงเศษวัฒนธรรม
      
       ดูเหมือนว่ามุมมองของช่างทำเทียนจะแตกต่างไปจากความคิดเห็นของ รศ.ศรีศักร วัลลิโภดม นักโบราณคดีและนักมานุษยวิทยาชั้นแนวหน้าของประเทศไทยและอาเซียน ที่มองปรากฏการณ์การแห่เทียนพรรษาในปัจจุบัน รวมทั้งการที่มีการการดึงตัวช่างทำเทียนจากอุบลไปทำให้ท้องถิ่นอื่นว่า เวลาแห่เทียนเข้าพรรษาถ้าให้ถูก คือ ต้องแห่เข้าวัด แต่เพราะมันคือการท่องเที่ยว อย่างที่อุบลก็เข้าทุ่งศรีเมืองเป็นการประกวดประชันกัน
      
       "เทียนเข้าพรรษาต้องทำกันง่ายๆเป็นพุทธบูชา คนแก่คนเฒ่าไปไหว้พระไปฟังเทศน์ แต่เมื่อแห่ไปประกวดที่ทุ่งศรีเมือง มันคือการท่องเที่ยว แล้วเอาเศษวัฒนธรรมมาประกอบเป็นพิธีกรรมใหญ่ขึ้นมาเป็นไฮไลท์ให้กับการท่องเที่ยว แล้วมันกลืนวัฒนธรรมตัวเอง เริ่มระบาดไปทุกจังหวัดต่างเมือง โดยที่ไม่รู้ว่าวัฒนธรรมมันมีความหมายว่า คือ การสร้างความมั่นคงทางจิตใจ แต่มันทำเพื่อการท่องเที่ยวเพื่อให้ได้เงิน"รศ.ศรีศักรกล่าวแสดงความคิดเห็น

 
 
       สิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้มันเป็นความบ้าทางวัตถุ ไม่ได้มองสิ่งที่เป็นวัฒนธรรมทางจิตใจ เอาวัตถุแพร่ไปเพื่อการท่องเที่ยว บ้านเมืองถึงได้พังแบบนี้ ถ้าชาวบ้านจะหันจากอุบลไปทำเทียนที่อื่นก็โทษชาวบ้านไม่ได้ เพราะมันกลายเป็นเรื่องธุรกิจ เลอะเทอะไม่ได้มีประโยชน์อะไร ซึ่งไม่เคยมีในสังคมไทยมาแต่ก่อนนี้ ต้องโทษการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย โทษจังหวัด ที่มุ่งหวังจะเอารายได้จากการท่องเที่ยวเพียงอย่างเดียว
      
       "เหมือนแฟรนไชส์หากินในกลุ่มนั้นเท่านั้นเอง แล้วมันทำลายศิลปวัฒนธรรมของตัวเอง ใครที่มองว่าการทำเทียนพรรษาให้ที่อื่นเป็นการอนุรักษ์ ถามหน่อยอนุรักษ์อะไร ศิลปะอะไร คือมันแข่งขันกันจนไม่ได้เรื่อง ถ้าจะทำก็ต้องทำด้วยศรัทธา จุดถวายวัดได้ มันเป็นยุคของความเสื่อมโทรมทางศาสนาและศิลปวัฒนธรรมของบ้านเมืองไทย"รศ.ศรีศักร แสดงทัศนะ
      
       เทียนเข้าพรรษาที่แห่ในพิธีกรรมของแต่ละวัด แต่ละท้องถิ่น เป็นงานวิทยานิพนธ์ที่อยู่ในชุมชนบ้านใกล้เรือนเคียงก็มาพบปะกัน มาเชื่อมความสัมพันธ์กันให้รู้ว่าเป็นพวกเดียวกันอยู่ถิ่นเดียวกัน แล้วก็มีความร่มรื่นทางจิตใจ ทำเพื่อสร้างความสมานฉันท์สามัคคีในท้องถิ่นให้ในท้องถิ่นมีการมาเข้าวัด สร้างสำนึกร่วมกัน ปลูกฝังการอยู่ร่วมกันทางสังคม แต่นี่เราลืมรากเหง้าทางวัฒนธรรมของเรา
      
       อย่างไรก็ตาม รศ.ศรีศักร ก็มองว่ายังไม่สายเกินแก้ที่จะหันมาจดจำรากวัฒนธรรมที่เป็นจริง ไม่ใช่เอาแต่แก่งแย่งแม้กะรทั่งตัวช่างทำเทียนแบบนี้ โดยเราต้องฟื้นฟูจากใกล้ตัวเราเอง นอกจากความสนุกสนาน ต้องมีการอบรมทางศาสนาศีลธรรม คนในท้องถิ่นถ้ารักรากเหง้าของตัวเอง ต้องปรับเปลี่ยนแนวคิดพฤติกรรมเสียใหม่
      
       เมื่อนั้นต่อให้มีอีกสิบจังหวัดที่ลอกเลียนจัดงานประเพณีแห่เทียนเข้าพรรษา คนอุบลก็จะไม่สะท้านสะเทือนใดๆเพราะรากฐานทางประเพณีและวัฒนธรรมเข้มแข็ง.

 
 
 
จาก http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrView.asp?NewsID=9530000095903
 
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #24 เมื่อ: 12 กรกฎาคม 2553, 20:07:53 »

อ้างถึง
ข้อความของ too_ploenpit เมื่อ 12 กรกฎาคม 2553, 17:55:00
...ที่ชั้นล่างของโรงแรมจำปาสักพาเลซมีผ้าไหมให้เลือกซื้อกันด้วยค่ะ...
...ถ้าไม่ได้พักที่นี่...ก็แวะไปเที่ยวได้...


มีเวลาจะแว๊ป ไปชมเป็นขวัญตาครับ
      บันทึกการเข้า
  หน้า: [1] 2 3 ... 21  ทั้งหมด   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

สมาคมนิสิตเก่าหอพักนิสิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มวลสมาชิกสมาคม คณาจารย์ และนิสิตเก่าทุกคน ขอน้อมเกล้าถวายความอาลัย  พระผู้เสด็จสู่สวรรคาลัย ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ <;))))><