คุยกับ เหยง 16 - พิเชษฐ์ เชื่อมฯ-เตรียมฉลอง 100 ปี หอซีมะโด่ง จุฬาฯ

[เหยง 16]

“เนพาร์ตัก” ลดระดับเป็นโซนร้อนซัดถล่มจีน คร่าชีวิต 10 ศพ สูญหายอีกนับสิบ
โดย MGR Online   
12 กรกฎาคม 2559 02:31 น. (แก้ไขล่าสุด 12 กรกฎาคม 2559 09:09 น.) 
 




“เนพาร์ตัก” ลดระดับเป็นโซนร้อนซัดถล่มจีน คร่าชีวิต 10 ศพ สูญหายอีกนับสิบ   
 
 
        เอเอฟพี - พายุโซนร้อนเนพาร์ตัก ค่าชีวิตผู้คนในจีน 10 ศพ และอีก 11 รายยังสูญหาย ตามรายงานของสื่อมวลชนแห่งรัฐในวันจันทร์ (11 ก.ค.) หลังจากมันถล่มไต้หวันด้วยลมและฝนระดับไต้ฝุ่นช่วงปลายสัปดาห์ที่แล้ว
       
        ซูเปอร์ไต้ฝุ่นเนพาร์ตัก ทำความโกลาหลสู่ไต้หวันเมื่อวันศุกร์ (8 ก.ค.) คร่าชีวิตผู้คน 3 ศพ และบาดเจ็บกว่า 300 ราย ทำให้ประชาชนมากกว่า 15,000 คนต้องหลบหนีออกจากบ้านเรือน ขณะที่พื้นที่บางส่วนของเกาะต้องเผชิญกับลมแรงที่สุดในรอบกว่า 1 ศตวรรษ
       
        ไต้ฝุ่นลูกนี้ได้อ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อนตอนที่มันขึ้นฝั่งมณฑลฝูเจี้ยนในวันเสาร์ (9 ก.ค.) แต่ก็ยังก่อหายนะร้ายแรง ด้วยภาพถ่ายต่างๆ พบเห็นรถยนต์หลายคันหงายท้อง อาคารเสียหาย และเมืองเต็มไปด้วยโคลนสีน้ำตาล
       
        สำนักงานข่าวซินหวารายงานโดยอ้างกระทรวงกิจการพลเรือนระบุว่า จนถึงช่วงค่ำวันอาทิตย์ (10 ก.ค.) มีพลเรือนมากกว่า 200,00 คน ของเมืองต่างๆ ในแผ่นดินใหญ่ที่ต้องย้ายถิ่นที่อยู่ชั่วคราวและอีกบ้านเรือนราว 1,900 หลังถูกทำลาย
       
        ซินหวารายงานด้วยว่า จนถึงเวลา 17.00 น.(ตามเวลาท้องถิ่น) มีผู้เสียชีวิต 10 รายและสูญหาย 11 คน ขณะที่ความเสียหายทางเศรษฐกิจแตะระดับ 2.2 พันล้านหยวน (330 ล้านดอลลาร์สหรัฐ)
       
        ประชาชนหลายแสนคนในฝูเจี้ยนไม่มีไฟฟ้าใช้ สนามบิน 5 แห่งปิดทำการและขบวนรถไฟความเร็วสูงหลายร้อยเที่ยวต้องยกเลิก
 
http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9590000069203

[เหยง 16]

ผ่านไป 20 วันเศษ พายุไต้ฝุ่นลูกใหม่ก็มาเยี่ยมฮ่องกง และแผ่นดินใหญ่อีกครั้งหนึ่ง

“ไต้ฝุ่นนิดา” จ่อถล่มฮ่องกง ประกาศเตือนภัยระดับ 8 ยกเลิกเที่ยวบินนับร้อย 
โดย MGR Online   
1 สิงหาคม 2559 18:38 น. 

“ไต้ฝุ่นนิดา” จ่อถล่มฮ่องกง ประกาศเตือนภัยระดับ 8 ยกเลิกเที่ยวบินนับร้อย   
“นิดา” พายุโซนร้อนที่พัดผ่านพื้นที่ทางตอนเหนือของฟิลิปปินส์เมื่อวานนี้ ได้ทวีความรุนแรงขึ้นเป็นพายุไต้ฝุ่น และเดินทางมุ่งหน้าไปทางฮ่องกง (ภาพคิวคิว สื่อจีน)
 
 
        เซาท์ไชน่า มอร์นิ่งโพสต์ สื่อจีนรายงาน (1 ส.ค.) พายุไต้ฝุ่นนิดาจ่อพัดถล่มฮ่องกง สนามบินยกเลิกเที่ยวบินวุ่น
       
        “นิดา” พายุโซนร้อนที่พัดผ่านพื้นที่ทางตอนเหนือของฟิลิปปินส์เมื่อวานนี้ ได้ทวีความรุนแรงขึ้นเป็นพายุไต้ฝุ่น ซึ่งมีความเร็วลมราว 150 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และได้เดินทางมุ่งหน้าไปทางฮ่องกง โดยคาดว่าจะทำให้เกิดฝนตกอย่างหนักในช่วงเย็นวันจันทร์ (1 ส.ค.)
       
        ช่วงเที่ยงวันจันทร์ (1 ส.ค.) สถานีอุตุนิยมวิทยาของฮ่องกง (Hong Kong Observatory) ได้ออกประกาศเตือนภัยพายุหมุนเขตร้อนระดับ 3 จากระดับการเตือนภัยทั้งหมด 10 ระดับ และเตรียมยกระดับการเตือนภัยเป็นระดับ 8 ในช่วงเย็นวันเดียวกัน ซึ่งการเตือนภัยเป็นระดับ 8 นี้หมายความว่า พายุอาจมีความเร็วตั้งแต่ 63 - 117 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเท่ากับความเร็วลมในทะเล และอาจรุนแรงสูงสุดได้ถึง 180 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
       
        นาย Shum Chi-tai เจ้าหน้าที่สถานีอุตุนิยมวิทยาฯระบุว่า ไต้ฝุ่นนิดาจะโหมกระหน่ำอย่างหนักหลังพระอาทิตย์ตกดิน ซึ่งอาจทำให้เกิดเหตุน้ำท่วมในบางพื้นที่ นอกจากนี้ หากไต้ฝุ่นนิด้าเข้าถล่มฮ่องกงหรือพื้นที่ใกล้เคียงเข้าอย่างจัง โดยเฉพาะถ้าพายุพัดเข้าถล่มในจังหวะที่ระดับน้ำทะเลขึ้นสูงในช่วงเช้าวันอังคาร (2 ส.ค.) ก็อาจทำให้สถานการณ์ยิ่งเลวร้ายขึ้นไปอีก
       
        ความรุนแรงของไต้ฝุ่นนิดาทำให้รัฐบาลท้องถิ่นฮ่องกงได้สั่งปิดโรงเรียนอนุบาลทุกแห่ง นอกจากนี้ พายุไต้ฝุ่นยังส่งผลกระทบต่อท่าอากาศยานฮ่องกง จนทำให้ต้องยกเลิกเที่ยวบินที่มีกำหนดการเดินทางในวันจันทร์ (1 ส.ค.) จำนวน 89 เที่ยว และเลื่อนเที่ยวบินซึ่งมีกำหนดการเดินทางในวันอังคาร (2 ส.ค.) จำนวน 35 เที่ยว
       
        สารการบินคาเธย์ แปซิฟิก (Cathay Pacific) และสายการบินดรากอนแอร์ (Dragonair)ได้ประกาศเลื่อนเที่ยวบินทุกเที่ยว ที่มีกำหนดการเดินทางตั้งแต่เวลา 10 โมงเช้าของวันจันทร์ (1 ส.ค.) ไปจนถึง บ่ายสองโมงของวันอังคาร (2 ส.ค.) โดยสายการบินได้แนะนำให้ผู้โดยสารคอยติดตามประกาศจากทางสายการบิน และยกเลิกการเดินที่ไม่จำเป็น ทั้งนี้ สายการบินจะยกเว้นค่าธรรมเนียมการเลื่อนหรือยกเลิกเที่ยวบิน สำหรับเที่ยวบินที่มีกำหนดการเดินทางระหว่างวันจันทร์ (1 ส.ค.) ถึง วันพุธ (3 ส.ค.)
       
        รายงานระบุว่า เมืองก่วงโจว และเมืองเซินเจิ้น ในมณฑลกว่างตง ได้ยกระดับการเตือนภัยพายุไต้ฝุ่นเป็นระดับสีเหลือง ซึ่งร้ายแรงเป็นลำดับที่สามใน 4 ชั้นรหัสสี (สีแดง สีส้ม สีเหลืองและสีฟ้าตามลำดับ) โดยท่าอากาศยานนานาชาติไป๋หยุนในเมืองก่วงโจว ได้ประกาศยกเลิกเที่ยวบิน ซึ่งมีกำหนดการเดินทางในวันจันทร์ตั้งแต่ช่วงสายไปจนถึงช่วงเย็น จำนวน 53 เที่ยว เนื่องจากสภาพอากาศที่เลวร้าย
       
        ทางด้านเมืองจางโจว เมืองเฉวียนโจว และเมืองซย่าเหมินในมณฑลฝูเจี้ยน ก็ได้สั่งปิดสถานที่ท่องเที่ยวริมทะเลหลายแห่ง และได้อพยพประชาชนที่พักอาศัยใกล้ทะเล และชาวบ้านที่ทำงานในบริเวณทะเลราว 3,000 คน

 
http://manager.co.th/China/ViewNews.aspx?NewsID=9590000076255

[Manop Klabdee]

สวัสดีครับ คุณเหยง

แวะมาเยี่ยมครับ

สวัสดี

[เหยง 16]

สวัสดีครัยพี่สิงห์

[เหยง 16]

อิทธิพลไต้ฝุ่น “มิริแน-นิดา” ทำเวียดนามเสียหายกว่า $300 ล้าน
โดย MGR Online   
9 สิงหาคม 2559 16:15 น. (แก้ไขล่าสุด 10 สิงหาคม 2559 08:23 น.) 


ซินหวา - พายุไต้ฝุ่น 2 ลูกแรกที่พัดถล่มเวียดนามในปี 2559 สร้างความเสียหายเป็นมูลค่ามากกว่า 6.7 ล้านล้านด่ง (ราว 300 ล้านดอลลาร์) ตามการเปิดเผยของกระทรวงเกษตรและการพัฒนาชนบท (MARD) ในวันนี้ (9)
       
        ไต้ฝุ่นมิริแน และไต้ฝุ่นนิดา พัดถล่มเวียดนามในปลายเดือน ก.ค. และต้นเดือน ส.ค. ตามลำดับ อิทธิพลของพายุทั้ง 2 ลูก ทำให้มีผู้เสียชีวิต 20 คน สูญหาย และได้รับบาดเจ็บอีก 82 คน ตามรายงานของสำนักข่าวเวียดนามที่อ้างคำกล่าวของกระทรวง
       
        ไต้ฝุ่นมิริแน ทำให้น้ำท่วมพื้นที่เกษตรเกือบ 1.6 ล้านไร่ ในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ เสาไฟฟ้ามากกว่า 31,000 ต้น ล้มพังเสียหาย เกิดไฟฟ้าดับในหลายพื้นที่ สร้างความเสียหายให้แก่ภาคส่วนไฟฟ้าราว 17 ล้านดอลลาร์
       
        รองนายกรัฐมนตรีจีง ดิ่ง ยวุ๋ง กล่าวว่า สาเหตุหลักของความเสียหายที่มีมูลค่ามหาศาลนี้เนื่องจากความบกพร่องของการพยากรณ์อากาศ
       
        จังหวัดนิงบิ่ง ทางภาคเหนือของประเทศ เป็นหนึ่งในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากอิทธิพลของไต้ฝุ่นมิริแนอย่างหนัก แต่กลับไม่ได้รับการแจ้งเข้าร่วมการประชุมฉุกเฉินพื้นที่ชายฝั่งภาคเหนือ 12 แห่ง ที่ศูนย์พยากรณ์อากาศคาดการณ์ว่าไต้ฝุ่นจะพัดถล่ม
       
        รัฐมนตรีกระทรวงเกษตรและการพัฒนาชนบท กล่าวว่า การพยากรณ์ภัยพิบัติจำเป็นต้องได้รับการปรับปรุง ทั้งในส่วนของอุปกรณ์ รวมทั้งการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ ขณะเดียวกัน ความร่วมมือระหว่างประเทศควรเสริมให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อให้การพยากรณ์อากาศเชื่อถือได้มากกว่านี้.

http://manager.co.th/IndoChina/ViewNews.aspx?NewsID=9590000079218

[เหยง 16]

ไม่อยู่บ้าน 2 วันครับ
กลับนครปฐมไปร่วมวันแม่ครับ

[เหยง 16]

ดูแล้วสภาวะอากาศใน 2-3 วันนี้ไม่ดีเท่าที่ควร


                                กรมอุตุนิยมวิทยารายงานสภาพอากาศ ประจำวันที่ 13 สิงหาคม 2559   

ลักษณะอากาศทั่วไป พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้นกับมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักรวมทั้งฝนที่ตกสะสมไว้ด้วย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 2-4 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กที่มีขนาดต่ำกว่า 2 วา ควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่ 13-16 ส.ค.ไว้ด้วย ส่วนกรุงเทพมหานครและปริมณฑลมีฝนฟ้าคะนองเพิ่มขึ้นกับมีฝนตกหนักบางแห่งส่วนมากในช่วงระหว่างบ่ายถึงค่ำ

ลักษณะสำคัญทางอุตุนิยมวิทยา ลักษณะสำคัญทางอุตุนิยมวิทยา ร่องมรสุมพาดผ่านประเทศเมียนมา ภาคเหนือตอนบน และประเทศลาว เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยมีกำลังแรง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้น สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนจะมีกำลังแรงขึ้น

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.

ภาคเหนือ มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่
 และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัด เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา น่าน แพร่
 ลำพูน ลำปาง อุตรดิตถ์ และเพชรบูรณ์
 อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส
 ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่
 และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัด เลย หนองบัวลำภู อุดรธานี หนองคาย
 บึงกาฬ นครพนม สกลนคร มุกดาหาร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี
 อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส
 ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคกลาง มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่
 ส่วนมากบริเวณจังหวัดราชบุรี กาญจนบุรี  สุพรรณบุรี อุทัยธานี นครสวรรค์ และพระนครศรีอยุธยา
 อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศาเซลเซียส
 ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออก มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่
 และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง  บริเวณจังหวัดจันทบุรี และตราด
 อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-35 องศาเซลเซียส
 ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม.
 ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่
 ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์  ชุมพร สุราษฏร์ธานี และนครศรีธรรมราช
 อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส
 ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม/ชม.
 ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่
 และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง
 บริเวณจังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล
 อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส
 ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-40 กม/ชม.
 ทะเลมีคลื่นสูง 2-4 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีเมฆเป็นส่วนมากในตอนเช้า
 และมีฝนฟ้าคะนองกับมีฝนตกหนักบางแห่งส่วนมากในช่วงระหว่างบ่ายถึงค่ำ
 อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส
 ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

[Manop Klabdee]

สวัสดีครับ คุณเหยง

พี่สิงห์  โดนใส่กุญแจ เป็นครั้งที่ ๒ แล้ว โดยไม่มีใครแจ้งความผิดให้ทราบ

ถ้าพี่สิงห์  ทำผิด ล่วงเกินใคร หรือไม่พอใจในสิ่งที่โพสต์  กรุณาแจ้งให้ทราบ  จะได้ปรับปรุงตนเอง หรือ ไม่เข้าไปโพสต์อีกเลย

ขอบคุณมาก

สวัสดี

[เหยง 16]

พี่สิงห์

เกิดอะไรขึ้น
เดี่ยวผมเข้าไปดูครับ

[เหยง 16]

พายุ “เตี้ยนหมู่” ถล่มทิ้งท้าย ทำเวียดนามดับ 9 ราย สร้างความเสียหายอีกหลายล้านดอลลาร์
22 สิงหาคม 2559 14:43 น. (แก้ไขล่าสุด 22 สิงหาคม 2559 15:23 น.)

แถ่งเนียน - เกิดเหตุน้ำท่วมหนักในหลายจังหวัดทางภาคเหนือของเวียดนาม เนื่องจากอิทธิพลของพายุเตี้ยนหมู่ ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 9 คน และสูญหายอีก 3 คน บ้านเรือน และพื้นที่เพาะปลูกจมน้ำเสียหาย
       
        ฝนที่ตกหนักอย่างต่อเนื่องในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ทำให้น้ำท่วมในหลายพื้นที่ในที่ราบสูงภาคเหนือ ที่ระดับน้ำท่วมสูงถึง 1.8 เมตร
       
        แหล่งข่าวจากคณะกรรมการเพื่อการค้นหาและกู้ภัย กล่าวว่า น้ำท่วมฉับพลัน ดินถล่ม และบ้านเรือนพังเสียหาย ทำให้ประชาชนเสียชีวิต 9 คน ในคืนวันเสาร์ (20) ในจังหวัดทางภาคเหนือที่ประกอบด้วย จ.ลาวกาย จ.ฝูเถาะ และ จ.เอียนบ่าย แห่งละ 2 คน และ จ.ฮวาบิ่ง จ.เซินลา และ จ.วิงฟุ้ก แห่งละ 1 คน รายงานระบุว่า ผู้ประสบเหตุมีอายุระหว่าง 14-72 ปี ขณะเดียวกัน มีผู้สูญหายใน จ.ลาวกาย 2 คน และ จ.บั๊กซาง อีก 1 คน
       
        จ.เอียนบ่าย เป็นพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุดตามการประเมินของเจ้าหน้าที่ โดยอิทธิพลของพายุสร้างความเสียหายต่อบ้านเรือนมากกว่า 2,500 หลัง และเรือกสวนไร่นามากกว่า 7,500 ไร่ คิดเป็นมูลค่าราว 4.55 ล้านดอลลาร์ ครอบครัวชาวเวียดนามราว 1,000 ครอบครัว ต้องอพยพไปยังพื้นที่ปลอดภัย ตามการรายงานของสำนักข่าวเวียดนาม
       
        ส่วนในจังหวัดใกล้เคียงนั้น บ้านเรือนหลายร้อยหลัง และพื้นที่ทางการเกษตรหลายร้อยไร่ยังได้รับความเสียหายเช่นกัน โดยความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อถนน บ้านเรือน และพื้นที่เพาะปลูกของ จ.ลาวกาย อยู่ที่ประมาณ 2.7 ล้านดอลลาร์
       
        ยังมีคำเตือนเกี่ยวกับน้ำท่วม และดินถล่มที่อาจเกิดขึ้นอีกใน จ.บั๊กกัน จ.เดียนเบียน จ.ฮว่าบิ่ง จ.ลายเจิว จ.ลาวกาย จ.เซินลา จ.ท้ายเหวียน จ.เตวียนกวาง จ.เอียนบ่าย รวมทั้ง จ.เหงะอาน และ จ.แท็งฮว้า ในภาคกลางตอนเหนือ
       
        พายุเตี้ยนหมู่ เป็นพายุลูกที่ 3 ที่ขึ้นฝั่งพัดถล่มเวียดนามในปีนี้ ก่อนหน้านี้ เมื่อเดือน ก.ค. เวียดนามต้องรับมือต่อพายุมิริแน และพายุนิดา ในต้นเดือน ส.ค. ที่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ภาคเหนือของเวียดนาม และทำให้มีผู้เสียชีวิตไปทั้งหมด 7 ราย.

http://manager.co.th/IndoChina/ViewNews.aspx?NewsID=9590000083951

[เหยง 16]

สวัสดี ชาวหอ และทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมครับ

[เหยง 16]

ญี่ปุ่นผวา ไต้ฝุ่นทำ “กำแพงน้ำแข็ง” กั้นรังสีที่โรงไฟฟ้าฟูกุชิมะละลาย
โดย MGR Online   
3 กันยายน 2559 07:40 น. 


ญี่ปุ่นผวา ไต้ฝุ่นทำ “กำแพงน้ำแข็ง” กั้นรังสีที่โรงไฟฟ้าฟูกุชิมะละลาย   
 
        พายุไต้ฝุ่นที่พัดถล่มภาคเหนือของญี่ปุ่นทำให้กำแพงน้ำแข็งที่โรงไฟฟ้าฟูกุชิมะละลาย น้ำปนเปื้อนรังสีไหลลงสู่ทะเล ขณะที่จังหวัดอิวะเตะยังคงเสียหายหนัก โดยคาดว่าจะมีผู้เสียชีวิตเพิ่มเติมอีก
       
        ชาวบ้านในเมืองอิวะอิซุมิ จังหวัดอิวะเตะ ทำสัญลักษณ์เป็นตัวอักษร SOS บนหลังคาบ้านเพื่อขอความช่วยเหลือ ที่ต้องติดค้างอยู่ในบ้านที่ถูกตัดขาดเพราะน้ำท่วมและดินถล่มหลังจากพายุไต้ฝุ่นพัดถล่มเมื่อ 2วันก่อน
       
        คาดว่ายังมีชาวบ้านราว 1,100 คนยังคงติดค้างอยู่ในเมืองอิวะอิซุมิที่เสียหายยับเยิน ถนนถูกตัดขาดเนื่องจากเหตุน้ำท่วมและดินถล่ม ระบบโทรศัพท์ยังใช้งานไม่ได้ และไม่มีน้ำดื่มน้ำใช้เพียงพอ


ญี่ปุ่นผวา ไต้ฝุ่นทำ “กำแพงน้ำแข็ง” กั้นรังสีที่โรงไฟฟ้าฟูกุชิมะละลาย   
 

        ไต้ฝุ่นไลออนร็อก หรือไต้ฝุ่นหมายเลข 10 ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 14คน ส่วนใหญ่อยู่ในจังหวัดอิวะเตะ และเกาะฮอกไกโด และยังมีผู้สูญหายอีก 9 คน ทำให้คาดว่าจำนวนผู้เสียชีวิตจะเพิ่มขึ้นอีก
       
        นายคาซึมิ ดะเตะ นายกเทศมนตรีเมืองอิวะอิซุมิ ถูกวิจารณ์อย่างหนักที่ไม่ออกคำเตือนให้ชาวบ้านอพยพไปยังพื้นที่ปลอดภัย จนทำให้มีผู้ประสบภัยจำนวนมาก โดยเขาได้ออกมาขอโทษ พร้อมทั้งอ้างว่า “ประเมินสถานการณ์ในแง่ดีเกินไป” ผู้ที่ติดค้างส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุที่อาศัยอยู่เพียงลำพัง ทำให้ไม่สามารถหนีน้ำที่ไหลบ่าเข้าถล่มได้ทันเวลา


ญี่ปุ่นผวา ไต้ฝุ่นทำ “กำแพงน้ำแข็ง” กั้นรังสีที่โรงไฟฟ้าฟูกุชิมะละลาย   
 
 
        “กำแพงน้ำแข็ง” ที่โรงไฟฟ้าฟูกุชิมะละลาย
       
        ฝนที่ตกหนักจากผลของพายุไต้ฝุ่นยังทำให้ “กำแพงน้ำแข็ง” ที่ใช้กั้นน้ำปนเปื้อนรังสีที่โรงไฟฟ้าฟุกุชิมะ หมายเลข 1 เกิดละลายบางส่วน และทำให้น้ำปนเปื้อนรังสีไหลลงสู่ทะเล
       
        โรงไฟฟ้าฟุกุชิมะ หมายเลข 1 ถูกปิดตายหลังจากได้รับความเสียหายหนักจากเหตุแผ่นดินไหวและคลื่นสึนามิถล่ม แต่บริษัทผลิตไฟฟ้าโตเกียวยังคงต้องสกัดกั้นน้ำปนเปื้อนรังสีที่ไหลออกจากเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ที่หลอมละลาย
       
        เจ้าหน้าที่ประเมินว่า หากฝนตกปริมาณวันละ 15 ซม.จะทำให้ระดับน้ำบาดาลเพิ่มขึ้น และน้ำปนเปื้อนรังสีมีโอกาสรั่วไหลลงสู่ทะเล หากแต่พายุไต้ฝุ่นที่เพิ่งพัดถล่ม ทำให้มีฝนตกมากถึง 20 ซม.
       
        บริษัทผลิตไฟฟ้าโตเกียวยอมรับว่า พายุไต้ฝุ่นที่พัดถล่ม 2 ลูกต่อเนื่องทำให้กำแพงน้ำแข็งบางส่วนละลาย เนื่องจากอุณหภูมิและระดับน้ำบาดาลที่สูงขึ้น โดยขณะนี้ทางบริษัทผลิตไฟฟ้าโตเกียวกำลังเร่งใช้สารเคมีเพื่อแช่แข็งกำแพงน้ำแข็ง และสกัดกั้นการรั่วไหลของน้ำปนเปื้อนกัมมันตภาพรังสี.

 
http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9590000088330


 
       
 
 

[เหยง 16]

ไต้ฝุ่นซัดญี่ปุ่นเสียหายหนักกว่าที่คาด อิวาเตะ, ฮอกไกโด จมบาดาล 
โดย MGR Online   
2 กันยายน 2559 07:55 น. (แก้ไขล่าสุด 2 กันยายน 2559 15:04 น.) 


ไต้ฝุ่นซัดญี่ปุ่นเสียหายหนักกว่าที่คาด อิวาเตะ, ฮอกไกโด จมบาดาล   
 
 
        พายุไต้ฝุ่นไลออนร็อก สร้างความเสียหายอย่างมากกับจังหวัดอิวาเตะ และ ฮอกไกโด มีผู้เสียชีวิต 11 ราย และยังติดค้างอยู่ในบ้านเรือนอีกกว่า 1,600 คน ขณะที่ชาวบ้านวิจารณ์รัฐบาลท้องถิ่นที่ไม่ออกคำสั่งอพยพ จนทำให้มีผู้ประสบภัยจำนวนมาก
       
        ไต้ฝุ่นไลออนร็อก หรือที่ในประเทศญี่ปุ่น เรียกว่า ไต่ฝุ่นหมายเลข 10 สร้างความเสียหายอย่างกว้างขวางทั่วพื้นที่ตอนเหนือของญี่ปุ่น โดยเฉพาะจังหวัดอิวาเตะ และ ฮอกไกโด โดยเฉพาะเมืองอิวะอิซุมิ จังหวัดอิวาเตะ มีสภาพยับเยินหลังจากถูกพายุพัดถล่มและน้ำท่วมไหลบ้านเรือนจนพังพินาศ


ไต้ฝุ่นซัดญี่ปุ่นเสียหายหนักกว่าที่คาด อิวาเตะ, ฮอกไกโด จมบาดาล   
 
 
        เมืองอิวะอิซุมิ เป็นพื้นที่ซึ่งเสียหายหนักที่สุด มีผู้ได้รับการยืนยันว่าเสียชีวิตแล้ว 11 ราย เหตุที่น่าเสียใจมากที่สุด คือ สถานดูแลผู้สูงอายุแห่งหนึ่งถูกคลื่นโคลนที่เอ่อล้น ไหลบ่าเข้าท่วมทำให้คนชรา 9 คนเสียชีวิตที่นี่ และเจ้าหน้าที่กู้ภัยยังคงค้นหาชาย 3 คนที่หายไปในช่วงที่สะพานถูกกระแสน้ำในแม่น้ำไหลบ่าซัดไป

 
        จนถึงขณะนี้ชาวบ้านราว 1,600 คน ยังคงถูกตัดขาดจากภายนอก เนื่องจากไต้ฝุ่นพัดกระหน่ำทำให้ถนนหลายสายใช้การไม่ได้ บริการโทรศัพท์ก็ยังใช้การไม่ได้ในพื้นที่ส่วนใหญ่ ภายในเมืองเต็มไปด้วยซากปรักหักพังของบ้านเรือน และดินโคลนจากน้ำท่วม ชาวบ้านเดือดร้อนหนัก เพราะไม่มีที่พัก และไม่มีน้ำดื่มน้ำใช้
       
        เจ้าหน้าที่กำลังเร่งซ่อมแซมถนนหลายสายเพื่อช่วยเหลือชาวบ้านที่ติดค้างในพื้นที่ พร้อมทั้งส่งเฮลิคอปเตอร์นำสิ่งของบรรเทาทุกข์ไปแจกจ่าย และรับชาวบ้านสูงอายุไปไว้ยังที่ปลอดภัย

 
ไต้ฝุ่นซัดญี่ปุ่นเสียหายหนักกว่าที่คาด อิวาเตะ, ฮอกไกโด จมบาดาล   
    
                      https://youtu.be/EHbpG5A7FPU
ไต้ฝุ่นซัดญี่ปุ่นเสียหายหนักกว่าที่คาด อิวาเตะ, ฮอกไกโด จมบาดาล   
 
 
        รัฐบาลท้องถิ่งไม่สั่งอพยพ จนกลายเป็นโศกนาฏกรรม
       
        นายคาซึมิ ดะเตะ นายกเทศมนตรีเมืองอิวะอิซุมิ ถูกวิจารณ์อย่างหนักที่ไม่ออกคำเตือนให้ชาวบ้านอพยพไปยังพื้นที่ปลอดภัย จนทำให้มีผู้ประสบภัยจำนวนมาก โดยเขาได้ออกมาขอโทษ พร้อมทั้งอย่างว่า “ประเมินสถานการณ์ในแง่ดีเกินไป”
       
        รัฐบาลท้องถิ่นเมืองอิวะอิซุมิ ระบุว่า ผู้ที่ติดค้างส่วนใหญ่มากกว่าครึ่งหนึ่งเป็นผู้สูงอายุที่อาศัยอยู่เพียงลำพัง ทำให้ไม่สามารถหนีน้ำที่ไหลบ่าเข้าถล่มได้ทันเวลา

http://manager.co.th/Japan/ViewNews.aspx?NewsID=9590000088044
 

[เหยง 16]

ข่าวพายุดีเปรสชั่น ในวันที่ 13 -15 กันยายน 2559 ซึ่งมีผลต่อประเทศไทยทั้งประเทศ(ยกเว้นภาคใต้) เป็นครั้งแรก พายุลูกนี้เป็นพายุลูกที่ 19 ของฤดูมรสุมปี 2559

“พายุดีเปรสชันทะเลจีนใต้” จ่อไทย เตือน 13-15 ก.ย. “เหนือ-อีสาน-กลาง-ตะวันออก” ฝนตกหนัก 
โดย MGR Online   
12 กันยายน 2559 08:36 น. (แก้ไขล่าสุด 12 กันยายน 2559 09:23 น.) 

ขอบคุณภาพและข้อมูลจากกรมอุตุนิยมวิทยา

MGR Online ภาคกลาง - กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศเตือน “พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้” ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองดานัง ประเทศเวียดนาม กำลังเคลื่อนตัวทางทิศทางทิศตะวันตกค่อนไปทางเหนือ คาดมีแนวโน้มเคลื่อนเข้าปกคลุมประเทศไทยช่วง 13-15 ก.ย.นี้ ลักษณะเช่นนี้ส่งผลให้บริเวณประเทศไทยมีฝนตกเป็นบริเวณกว้าง และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคกลาง และภาคตะวันออก
       
        เช้าวันนี้ (12 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยา ได้พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ตั้งแต่เวลา 06.00 วันนี้ ถึง 06.00 วันพรุ่งนี้ (13 ก.ย.) บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก มีฝนเพิ่มขึ้น กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ในบริเวณจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย พะเยา แพร่ น่าน อุตรดิตถ์ พิษณุโลก เพชรบูรณ์ เลย ร้อยเอ็ด ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ ปราจีนบุรี ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด สำหรับกรุงเทพมหานคร และปริมณฑลมีโอกาสฝนตก และมีฝนตกหนักบางแห่งในช่วงระหว่างเย็นถึงค่ำ
       
        อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้มีศูนย์กลางอยู่ห่างประมาณ 670 กิโลเมตร ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองดานัง ประเทศเวียดนาม หรือที่ละติจูด 13.0 องศาเหนือ ลองจิจูด 113.5 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 55 กม./ชม. และกำลังเคลื่อนตัวทางทิศทางทิศตะวันตกค่อนไปทางเหนืออย่างช้าๆ คาดว่ามีแนวโน้มจะเคลื่อนเข้าปกคลุมประเทศไทย ในช่วงวันที่ 13-15 กันยายน 2559 นี้ ลักษณะเช่นนี้ส่งผลให้บริเวณประเทศไทยมีฝนตกเป็นบริเวณกว้าง และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนัก กับฝนที่ตกสะสมไว้ด้วย และติดตามข่าวพยากรณ์อากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิดต่อไป
       
        ลักษณะสำคัญทางอุตุนิยมวิทยา ร่องมรสุมพาดผ่านประเทศเมียนมา ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่วนมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคเหนือกับภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก จะมีฝนเพิ่มขึ้น กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง
       
        พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06.00 วันนี้ ถึง 06.00 วันพรุ่งนี้
       
        ภาคเหนือ - มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา แพร่ น่าน อุตรดิตถ์ สุโขทัย พิษณุโลก เพชรบูรณ์ และตาก อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส
       
        ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ - มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดเลย มุกดาหาร ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ และสุรินทร์ อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส
       
        ภาคกลาง - มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท ลพบุรี และราชบุรี อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศาเซลเซียส
       
        ภาคตะวันออก - มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส
       
        ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) - มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส
       
        ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) - มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ บริเวณจังหวัดระนอง พังงา และภูเก็ต อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส
       
        กรุงเทพมหานครและปริมณฑล - มีโอกาสเกิดฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 80 และมีฝนตกหนักบางแห่ง ในช่วงระหว่างเย็นถึงค่ำ อุณหภูมิต่ำสุด 26-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส
 

http://manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9590000091497

[เหยง 16]

ภาพกราฟฟิคจาก JTWC จากหน่วยงานทหารเรืองสหรัฐ

[เหยง 16]

ภาพจากเวียตนาม

[เหยง 16]

ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา ฉบับที่ 6 ออกเมื่อ 11 .00 น.ของวันนี้ (12 กันยายน 2559)

[เหยง 16]

ตามภาพที่ปรากฎ จากซ้ายไปขวา

[เหยง 16]

ไต้หวันอัมพาตหลัง'เมอรันตี'เฉียดผ่าน คาด'ไต้ฝุ่นแรงสุดในโลก'เข้าถล่มจีนพรุ่งนี้
โดย MGR Online   
14 กันยายน 2559 21:12 น. (แก้ไขล่าสุด 14 กันยายน 2559 21:16 น.) 

เอเจนซีส์ – พื้นที่บางส่วนของไต้หวันกลายเป็นอัมพาตในวันพุธ (14 ก.ย.) หลังซูเปอร์ไต้ฝุ่น“เมอรันตี” เคลื่อนเฉียดผ่านทางใต้สุดของเกาะพร้อมลมที่มีความแรงที่สุดในรอบ 21 ปี โดยเชื่อกันว่ามันเป็นพายุลูกที่มีฤทธิ์เดชรุนแรงที่สุดของโลกในปีนี้ ทั้งนี้พบผู้ได้รับบาดเจ็บ 9 คนแล้ว และพายุระดับ 5 ลูกนี้กำลังมุ่งหน้าสู่จีนแผ่นดินใหญ่ คาดขึ้นฝั่งแถวๆ มณฑลกว่างตง (กวางตุ้ง) ติดต่อกับมณฑลฝูเจี้ยน (ฮกเกี้ยน) ในวันพฤหัสบดี (15)
       
         แม้เมอรันตีไม่ได้พัดขึ้นฝั่งไต้หวัน แต่นำลมกรรโชกแรงและพายุฝนถล่มด้านตะวันออกและใต้ของเกาะแห่งนี้อย่างหนัก
       
         รายงานระบุว่า เมื่อถึงเวลา 17.00 น. วันพุธ (14) ตามเวลาไทย เมอรันตีอยู่ห่างไปทางทิศตะวันตก-ตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะเผิงหู ที่อยู่นอกชายฝั่งเกาะไต้หวัน 60 กิโลเมตร โดยมีความเร็วลม 227 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
       
         สำนักงานภูมิอากาศกลางของไต้หวันระบุว่า สถานีสังเกตการณ์เหิงชุนบันทึกความแรงลมของพายุลูกนี้เมื่อช่วงเช้าวันพุธ ซึ่งปรากฏว่าเป็นสถิติสูงสุดในรอบ 120 ปี
       
         เซี่ย เป่ยหยุน เจ้าหน้าที่สำนักงานภูมิอากาศกลางไต้หวันระบุว่า เมอรันตีจะส่งผลกระทบต่อไต้หวันรุนแรงที่สุดในวันพุธ โดยถือเป็นไต้ฝุ่นรุนแรงที่สุดซึ่งไต้หวันเคยเผชิญในรอบ 21 ปี เมื่อวัดจากความเร็วลมใกล้ศูนย์กลาง
       
         เขาระบุด้วยว่า พายุไต้ฝุ่นลูกนี้ซึ่งมีความรุนแรงระดับ 5 ถือเป็นพายุที่มีความรุนแรงที่สุดในโลกเท่าที่ผ่านมาของปีนี้


เรือลากจูงหลายลำ (ซ้าย) พยายามพยุงเรือสินค้า “วายเอ็ม วินด์” เอาไว้ หลังจากสมอเรือของเรือสินค้าลำนี้หักสะบั้น ขณะจอดอยู่ในท่าเรือเมืองเกาสง ทางภาคใต้ของเกาะไต้หวัน เมื่อซูเปอร์ไต้ฝุ่น “เมอรันตี” พัดเฉียดๆ ตอนใต้ของไต้หวันในวันพุธ (14 ก.ย.) 

 
       
       ตู้คอนเทนเนอร์ตกกระจายในบริเวณย่านสินค้าของท่าเรือเมืองเกาสง เมืองท่าสำคัญทางภาคใต้ของไต้หวัน ขณะที่ซูเปอร์ไต้ฝุ่น “เมอรันตี” เคลื่อนผ่านใกล้ๆ เมื่อวันพุธ (14 ก.ย.) 
 
 
        ขณะเดียวกัน ศูนย์ปฏิบัติการเหตุฉุกเฉินกลางของไต้หวันรายงานว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 9 คน และซูเปอร์ไต้ฝุ่นลูกนี้ยังทำให้ประชาชนกว่า 330,000 ครัวเรือนไม่มีไฟฟ้าใช้
       
         รายงานระบุว่า เซาธ์เทิร์น เกนติ้ง ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวชื่อดัง ถูกกระหน่ำพังจากลมและอุทกภัย
       
         ชาวบ้านในท่าเรือประมงแห่งหนึ่งในอำเภอไท่ถง ตื่นขึ้นมาโดยพบว่าประภาคารเล็กๆ แห่งหนึ่งได้สูญหายไป เชื่อว่าคงถูกลมรุนแรงพัดปลิวไปตกในทะเล ขณะที่คลื่นสูงเกือบ 10 เมตรพัดกระหน่ำใส่ชายฝั่งบริเวณนั้น
       
         ในบางพื้นที่ทางภาคใต้ของเกาะ รถบรรทุกหลายคันถูกลมพัดพลิกคว่ำ เสาไฟฟ้าและต้นไม้ล้มระเนระนาด
       
         ที่เมืองเกาสง เมืองท่าใหญ่ทางภาคใต้ของไต้หวัน สมอเรือของเรือสินค้าอย่างน้อย 10 ลำหักสะบั้น โดยที่ลำหนึ่งเป็นเรือขนาด 140,000 ตันซึ่งกระแทกเข้ากับเครนยกสินค้า 2 คัน นอกจากนั้นตู้คอนเทนเนอร์จำนวนมากซึ่งกองสูงอยู่ในย่านสินค้าของท่าเรือ ก็ถูกลมพัดพลิกคว่ำและตกลงมาเกลื่อนพื้น
       
         โรงเรียนและสถานประกอบการธุรกิจในเทศมณฑลทางตะวันออกและใต้ส่วนใหญ่ปิดทำการ
       
         การเดินทางหยุดชะงัก เที่ยวบินทั้งภายในและระหว่างประเทศกว่า 300 เที่ยวถูกระงับ เช่นเดียวกับรถไฟสายเลียบชายฝั่งด้านตะวันออก รวมถึงเรือเฟอร์รีไปยังเกาะเล็กๆ และเมืองชายฝั่งของจีน ทั้งหมดนี้คาดว่า จะส่งกระทบอย่างมากต่อประชาชนที่เตรียมออกเดินทางท่องเที่ยวในเทศกาลวันหยุดยาวช่วงกลางฤดูใบไม้ร่วงที่จะเริ่มต้นในวันพฤหัสบดี (15)
       
         หน่วยยามฝั่งไต้หวันยังสั่งยกเลิกพิธีปล่อยเรือใหม่ 2 ลำในเกาสง ขณะที่งานแสดงสินค้าทางทะเลและทหารในเมืองนี้ต้องเลื่อนออกไปเช่นเดียวกัน
       
         ทั้งนี้ คาดว่า เมอรันตีจะนำฝน 800 มิลลิเมตรไปตกในบริเวณเทือกเขาของไต้หวัน ซึ่งอาจทำให้เกิดดินถล่มตามมา
       
         อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่เผยว่า อพยพประชาชนเกือบ 1,500 คนออกจากพื้นที่เสี่ยงแล้ว โดยครึ่งหนึ่งอพยพไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราว

 
        เรือสินค้า “โอเรียนทอล เบรสส์” เป็นอีกลำหนึ่งซึ่งสมอเรือหักสะบั้นขณะจอดอยู่ที่ท่าเรือเมืองเกาสงเมื่อวันพุธ (14 ก.ย.) และต้องให้เรือลากจูงหลายลำช่วยกันเข้าพยุง สืบเนื่องจากฤทธิ์เดชของซูเปอร์ไต้ฝุ่น “เมอรันตี” 
 
 
เสาไฟฟ้าล้มระเนระนาดบนถนนในอำเภอผิงถง ขณะที่ซูเปอร์ไต้ฝุ่น “เมอรันตี” เคลื่อนผ่านใกล้ตอนใต้ของเกาะไต้หวันในวันพุธ (14 ก.ย.) 
 
 
        ล่าสุด เมอรันตีเคลื่อนตัวไปทางตะวันตกเฉียงเหนือเข้าสู่ช่องแคบไต้หวันด้วยความเร็วลม 18 กิโลเมตรต่อชั่วโมง กระนั้น ช่วงปลายสัปดาห์นี้ไต้หวันอาจต้องเผชิญพายุ “มาลากัส” ที่ขณะนี้ก่อตัวอยู่ทางตะวันออกของฟิลิปปินส์
       
         เซี่ยระบุว่า มาลากัสอาจเคลื่อนเข้าใกล้ไต้หวันมากที่สุดในวันศุกร์และเสาร์ (16-17) แต่ไม่มีแนวโน้มเคลื่อนเข้าฝั่งแต่อย่างใด
       
         เมื่อเดือนกรกฏาคม มีผู้เสียชีวิต 3 คนและบาดเจ็บนับร้อยในไต้หวันจากพายุเนพาร์ตัก
       
         สำหรับไต้ฝุ่นที่รุนแรงที่สุดที่ถล่มเกาะมังกรน้อยคือ ไต้ฝุ่น “มรกต” ในปี 2009 ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 600 คน โดย 400 คนในจำนวนนี้ถูกฝังใต้โคลนจากฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก
       
         ขณะเดียวกัน สื่อของทางการจีนคาดว่า เมอรันตีจะขึ้นฝั่งที่บริเวณมณฑลกวางตุ้งติดต่อกับฮกเกี้ยน ทางใต้ของประเทศในวันพฤหัสบดี ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้สั่งยกเลิกการให้บริการรถไฟ และเตรียมการอพยพประชาชนแล้ว ทา
        การกวางตุ้งยังสั่งให้เรือประมงกลับเข้าฝั่ง
       
         ไชน่า นิวส์ เซอร์วิสระบุว่า เมอรันตีอาจเป็นไต้ฝุ่นที่รุนแรงที่สุดที่จะเข้าสู่พื้นที่ดังกล่าวนับจากปี 1969
 
 
 
http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9590000092737
 

[เหยง 16]

InPics : สุดระทึก! “ซูเปอร์ไต้ฝุ่นเมอรันตี” พัดโบอิ้ง 757 บนลานจอดเกือบพุ่งชนทะลุตึกกลางสนามบินเซี่ยเหมิน! ยอดดับเพิ่ม 7 สะพานไม้สมัยราชวงศ์ซ่ง อายุ 871 ปี ถล่ม

เอพี/เอเอฟพี/MGR ออนไลน์ - ซูเปอร์ไต้ฝุ่นเมอรันตี (Meranti) ทำให้เครื่องบินที่จอดอยู่ในโรงเก็บเครื่องบินในสนามบินเมืองเซี่ยเหมินถูกพัดระเนระนาด และพบว่าเครื่องบินโบอิ้ง 757 บนลานจอดที่มีภาพถ่ายยืนยันถูกฤทธิ์กระแสซูเปอร์พายุพาลอยไกลเกือบชนทะลุตึกของสนามบินในเมื่อวานนี้ (15 ก.ย) ในขณะที่ยอดเสียชีวิตในจีนล่าสุดอยู่ที่ 7 ราย และสะพานเก่าแก่สมัยราชวงศ์ซ่งอายุ 871 ปี ในเขตหย่งชุนของจีนเกิดถล่ม ล่าสุดพายุลูกนี้ได้อ่อนกำลังกลายเป็นพายุดีเปรสชันในวันศุกร์ (16) แล้ว
       
        เดลีเมล์ สื่ออังกฤษรายงานเมื่อวานนี้ (15 ก.ย.) ว่า เครื่องบินโบอิ้งที่จอดอยู่ในบริเวณลานจอดเครื่องบินของท่าอากาศยานนานาชาติเมืองเซี่ยเหมิน มณฑลฝูเจี้ยน เกือบจะพุ่งเข้าชนทะลุอาคารแห่งหนึ่งของสนามบินเพราะฤทธิของพายุซูเปอร์ไต้ฝุ่นเมอรันตี (Meranti) ซึ่งชายคนหนึ่งที่อ้างตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ประจำท่าอากาศยานนานาชาติเซี่ยเหมิน เกาฉี ได้เปิดเผยพร้อมภาพถ่ายยืนยันเหตุการณ์
       
        โดยพยานรายนี้กล่าวว่า ในขณะเกิดเหตุเขากำลังอยู่ที่บริษัทวิศวกรรมอากาศยาน Taikoo Xiamen ตั้งอยู่ภายในท่าอากาศยานแห่งนี้ ชายผู้นี้ที่ใช้ชื่อยูสเซอร์เนมบนเว็บไซต์ชื่อดังของจีน “Weibo” ว่า 'Ah Ka pursuing his dreams' ได้เล่าเหตุการณ์ โดยกล่าวว่าเครื่องบินโบอิ้ง 757 และเครื่องบินโบอิ้ง 767 จำนวน 2 ลำที่จอดอยู่บนลานจอดของสนามบินถูกฤทธิ์ไต้ฝุ่นเมอรันตีพัดจนปลิว
       
        จากภาพถ่ายของพยานรายนี้พบว่า เครื่องบินโบอิ้ง 757 เกือบชนทะลุเข้ากับตัวอาคารหลังหนึ่งของสนามบิน โดยตัวเครื่องถูกพัดลอยไปจนปลิวติดชนรั้วกั้นต้นไม้ และบริเวณด้านล่างของตัวเครื่องได้รับความเสียหาย ในขณะที่ประตูของโรงเก็บเครื่องบินที่มีเครื่องบินโบอิ้ง 737 จำนวน 2 ลำจอดเพื่อรอการซ่อมแซมนั้น ถูกพายุปลิวพัดขาด และเกือบพุ่งชนเข้ากับตัวของเครื่องบินที่จอดบริเวณด้านใน โดยยูสเซอร์ 'Ah Ka pursuing his dreams' กล่าวด้วยเสียงงุนงงว่า “ไม่เคยมีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นมาก่อน พายุลูกนี้ช่างน่ากลัวมาก”
       
        ทั้งนี้ จากการรายงานของเว็บไซต์แหล่งข้อมูลการบินพลเรือนจีน (Civil Aviation Resource Net of China) ระบุว่า สนามบินเมืองเซี่ยเหมิน สำนักงานสายการบินเซี่ยเหมินแอร์ไลน์ส และบริษัทวิศวกรรมอากาศยาน Taikoo Xiamen ถูกพายุซูเปอร์ไต้ฝุ่นเมอรันตีพัดเข้า เดลีเมล์รายงาน
       
        ด้านเอเอฟพี และเอพี รายงานล่าสุดถึงสถานการณ์ซูเปอร์พายุไต้ฝุ่นเมอรันตีในวันนี้ (16 ก.ย.) พบว่าตัวเลขผู้เสียชีวิตหรือสูญหายในจีนเพิ่มอย่างน้อย 16 คน ส่วนตัวเลขผู้เสียชีวิตในไต้หวันยังคงที่ 1 คน ในขณะที่สะพานเก่าแก่ของจีนได้รับความเสียหาย
       
        สำนักข่าวซินหวาของจีนระบุว่า ซูเปอรพายุไต้ฝุ่นเมอรันตีถือเป็นพายุที่ร้ายแรงที่สุดในรอบปีนี้ ซึ่งเป็นการพัดเข้าถล่มมณฑลฝูเจี้ยนครั้งร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของเมืองนับตั้งแต่ปี 1949 และภายในเช้าวันวันศุกร์ (16 ก.ย.) ทำให้มีผู้เสียชีวิตในจีนไปแล้ว 7 ราย ในขณะที่มีผู้สูญหายอีก 9 ราย และมีประชาชนชาวจีนต้องถูกอพยพหนีภัยพายุจำนวน 330,000 คน
       
        เอเอฟพีรายงานเพิ่มเติมว่า ก่อนหน้านี้เมอรันตีได้อยู่บริเวณปลายสุดทางใต้สุดของไต้หวัน และเมื่อขึ้นฝั่งจีนส่งผลทำให้เกิดแผ่นดินถล่มในเมืองเซี่ยเหมินในช่วงเช้าวันพฤหัสบดี (15) ด้วยกำลังความเร็วลม 170 กม./ชม. ทำให้เกิดฝนตกอย่างหนักไปทั่วทั้งมณฑลฝูเจี้ยนทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ
       
        และน้ำท่วมฉับพลันที่เกิดขึ้นหลังจากฝนตกหนักทำให้สะพานไม้เก่าแก่ที่ถูกขึ้นเป็นมรดกชาติอายุราว 871 ปีในเขตหย่งชุนเกิดหักพัง โดยสื่อเอเจนซีส์รายงานว่า พบว่าสะพานแห่งนี้ถูกสร้างมาตั้งแต่ในสมัยราชวงศ์ซ่ง และสามารถผ่านสถานการณ์เลวร้ายได้มาโดยตลอด นอกจากนี้เอพีรายงานเพิ่มเติมต่อว่า มีบ้านเรือนในจีนอีก 1,600 หลังได้รับความเสียหายจากฝีมือพายุไต้ฝุ่นเมอรันตี โดยภาพข่าวจากสถานีโทรทัศน์ทางการจีนแสดงให้เห็นถึงสายไฟฟ้าที่ขาด รวมไปถึงรถยนต์จำนวนมากได้รับความเสียหายบนท้องถนนในเมืองเซี่ยเหมิน
       
        เอเอฟพีรายงานเพิ่มเติมว่า และยังพบว่าบ้านเรือนจำนวน 3.2 ล้านหลังคาเรือนต้องอยู่โดยไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้ รวมไปถึงการให้บริการน้ำประปาของชาวเมืองเซี่ยเหมินในหลายพื้นที่ต้องหยุดชะงักบางส่วน
       
        ในขณะที่สื่อไต้หวันรายงานว่า ยังมีพื้นที่บางส่วนของเกาะไต้หวันยังจมอยู่ใต้น้ำ หลังจากที่เข้าทำลายและสร้างความเสียหายทั้งในไต้หวันและจีน เอเอฟพีรายงานว่าพายุไต้ฝุ่นลูกนี้ได้อ่อนกำลังและกลายเป็นพายุดีเปรสชั่นในวันศุกร์ (16 ก.ย.)
 

http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9590000093513

[เหยง 16]

                                       พยากรณ์อากาศประจำวันอังคารที่ 20 กันยายน 2559
ลักษณะอากาศทั่วไป  ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน มีฝนลดลง ส่วนบริเวณภาคกลาง และภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างมีฝนตกเพิ่มมากขึ้น กับมีฝนตกหนักบางแห่งและมีฝนตกหนักมากบางแห่งบริเวณจังหวัดชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ราชบุรี สมุทรสงคราม สุพรรณบุรี กาญจนบุรี อุทัยธานี ชัยนาท นครสวรรค์ ลพบุรี สระบุรี พระนครศรีอยุธยา และนครปฐม ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง เรือเล็กบริเวณดังกล่าวควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้ไว้ด้วย ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระมัดระวังอันตรายของฝนสะสมและฝนตกหนักในระยะนี้ไว้ด้วย
สำหรับกรุงเทพมหานครและปริมณฑลมีโอกาสเกิดฝนฟ้าคะนองกับมีฝนตกหนักบางแห่งในช่วงระหว่างบ่ายถึงค่ำ
 
ลักษณะสำคัญทางอุตุนิยมวิทยา  มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ในขณะที่บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางได้แผ่ลิ่มลงมาปกคลุมภาคเหนือตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ร่องมรสุมมีกำลังแรงขึ้นและได้เคลื่อนลงมาพาดผ่านภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง 

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้. 

ภาคเหนือ มีเมฆเป็นส่วนมาก โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดสุโขทัย พิษณุโลก เพชรบูรณ์ พิจิตร กำแพงเพชร และตาก
อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
 
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ  มีเมฆเป็นส่วนมาก โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
บริเวณจังหวัดชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี
อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศาเซลเซียส
ตอนบนของภาค: ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ตอนล่างของภาค: ลมแปรปรวน ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
 
ภาคกลาง  มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง
บริเวณจังหวัดราชบุรี กาญจนบุรี อุทัยธานี ชัยนาท นครสวรรค์ ลพบุรี สระบุรี
พระนครศรีอยุธยา และนครปฐม
อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส
ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
 
ภาคตะวันออก  มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
บริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา จันทบุรี และตราด
อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
 
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)  มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฏร์ธานี และนครศรีธรรมราช
อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส
ตั้งแต่จังหวัดชุมพรขึ้นมา: ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม/ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ตั้งแต่จังหวัดสุราษฏร์ธานีลงไป: ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม/ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร
 
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)  มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต และกระบี่
อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส
ตั้งแต่จังหวัดภูเก็ตขึ้นมา: ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-40 กม/ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 3 เมตร
ตั้งแต่จังหวัดกระบี่ลงไป: ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม/ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
 
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล  มีโอกาสเกิดฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 80 กับมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนมากในระหว่างบ่ายถึงค่ำ
อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส
ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-30 กม./ชม. 

[เหยง 16]

[เหยง 16]

ไต้ฝุ่น "มาลาคัส" ทำภาคใต้ญี่ปุ่นน้ำท่วม-เที่ยวบินถูกยกเลิก 

20 กันยายน 2559 13:17 น. 
 
ไต้ฝุ่น มาลาคัส ทำภาคใต้ญี่ปุ่นน้ำท่วม-เที่ยวบินถูกยกเลิก   
 
        เอเอฟพี - พายุไต้ฝุ่นกำลังแรงลูกหนึ่งเคลื่อนเข้าสู่ภาคใต้ของญี่ปุ่นในวันนี้ (20) ทำให้เกิดฝนตกหนักในภูมิภาคนี้จนชุมชนบางส่วนถูกน้ำท่วมและหลายเที่ยวบินถูกยกเลิก
       
        ไต้ฝุ่นมาลาคัสทำให้เกิดดินถล่มในเกาะหลักคิวชูทางตอนใต้สุดไม่นานหลังเวลาเที่ยงคืนตามเวลาท้องถิ่น ( 22.00 น. ตามเวลาประเทศไทย) โดยมีความเร็วลม 180 กิโลเมตรต่อชั่วโทง กรมอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่น ระบุ
       
        ภาพจากสถานีวิทยุและโทรทัศน์สาธารณะเอ็นเอชเคเผยให้เห็นบ้านเรือน รถยนต์ และนาข้าวถูกน้ำสีขุ่นท่วมเจิ่งนองในจังหวัดมิยาซากิซึ่งมีฝนตกมากเป็นประวัติการณ์ถึง 578 มิลลิเมตรในเมืองๆ เดียวภายในระยะเวลาเพียง 24 ชั่วโมงเท่านั้น
       
        ผู้หญิงในช่วงวัย 30 ปีรายหนึ่งได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยเมื่อลมแรงพัดหน้าต่างบ้านเธอพังเสียหายและคน 6 คนได้รับการช่วยเหลือออกมาด้วยเรือจากบ้านของพวกเขาที่ถูกน้ำท่วม แต่ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสหรือเสียชีวิต
       
        เอ็นเอชเครายงานว่า เที่ยวบิน 106 เที่ยวถูกยกเลิกเนื่องจากกระแสลมแรง ในขณะที่ไต้ฝุ่นลูกนี้เคลื่อนไปทางตะวันออกเฉียงเหนือสู่กรุงโตเกียว และเจ้าหน้าที่เตือนให้หลีกเลี่ยงทะเลหลวง ระวังดินถล่ม และน้ำท่วมเพิ่มเติม
       
        เมื่อช่วงก่อนหน้าในเดือนนี้มีคนอย่างน้อย 17 คนเสียชีวิตเมื่อไต้ฝุ่นไลออนร็อคเคลื่อนเข้าสู่ประเทศนี้ซึ่งเผชิญกับพายุลูกใหญ่เป็นประจำ
       
        ก่อนหน้าไลออร็อค ไต้ฝุ่น 2 ลูกคร่าชีวิตคนอย่างน้อย 2 คนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของแดนอาทิตย์อุทัย
       
        เมื่อปี 2013 ไต้ฝุ่นกำลังแรกลูกหนึ่งที่ทำให้เกิดดินถล่มครั้งใหญ่บนเกาะโอชิมะคร่าชีวิตคน 40 คน ในขณะที่ไต้ฝุ่นเมื่อปี 2011 ทำให้มีผู้เสียชีวิต 82 ตน
 

http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9590000094641

[เหยง 16]

ตลอดสัปดาห์ที่แล้วจนถึงเมื่อวานนี้ ฝนตกหนักทุกวัน โดนตกเป็นสองขยักคือ ตกในช่วงตีสามของเวลากลางคืน ถึง เช้นวันรุ่งขึ้น จากนั้นจะตกในช่วงบ่ายของวันนั้นอีก 1 รอบ อาจยาวไปถึงค่ำ จนทุกพื้นที่เกิดอุทกภัย มีน้ำท่วมขังในทุกพื้นที่ ต้นไม้ล้ม สะพานขาดหลางแห่ง รวมทั้งพังไปเลยก็มี บ้านเสียหาย รถจมน้ำ โดยเฉพาะคอนโดฯ ที่สร้างลานจอดรถไว้ใต้ตึก

[เหยง 16]

พายุลูกที่ 20 ของปีนี้ เมกิ MEGI ก่อตัวมาหลายวัน และยังไม่ยอมสลายตัว

ไต้ฝุ่นเมกีพายุลูกที่ 3 ใน 2 สัปดาห์จ่อถล่มไต้หวัน

Tuesday, September 27, 2016 - 00:00

ไต้หวันอพยพนักท่องเที่ยวหลายพันคนจากเกาะท่องเที่ยวและเตรียมศูนย์พักพิงเกือบ 100 แห่ง เพื่อรับมือไต้ฝุ่นลูกที่ 3 ในรอบ 2 สัปดาห์

ชายฝั่งตะวันออกของไต้หวันยังคงมีร่องรอยความเสียหายจากซูเปอร์ไต้ฝุ่นเมอรันตีที่ขึ้นฝั่งไต้หวันเมื่อต้นเดือนนี้ซึ่งเป็นพายุรุนแรงที่สุดในรอบ 21 ปีที่เข้าถล่มไต้หวัน ตามมาด้วยไต้ฝุ่นมาลากัส และไต้ฝุ่นลูกล่าสุดคือเมกี ที่ขณะนี้ทำให้เกิดลมแรงและคลื่นสูงบริเวณชายฝั่งแล้ว สำนักอุตุนิยมวิทยากลางไต้หวันคาดพายุลูกนี้จะขึ้นฝั่งตะวันออกของประเทศในวันอังคาร และจะมีฝนตกหนักปริมาณเกือบ 1 เมตรในบางพื้นที่ตลอด 3 วัน

ทางการสั่งหยุดเดินเรือเฟอร์รีไปยังเกาะท่องเที่ยว 2 แห่ง คือ กรีนไอส์แลนด์และออร์คิดไอส์แลนด์เมื่อวันจันทร์และสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาอพยพนักท่องเที่ยวมากกว่า 3,700 คนออกจากเกาะทั้งสองแห่ง และทหารกว่า 35,000 นายเตรียมพร้อมเพื่อออกช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากพายุลูกนี้และเปิดศูนย์พักพิง 92 แห่งทั่วประเทศ

เมื่อเวลา 07.15 น.ตามเวลามาตรฐานสากล หรือ 14.15 น.ตามเวลาในไทย ไต้ฝุ่นลูกนี้เคลื่อนไปทางทิศตะวันตกด้วยความเร็วลม 191 กิโลเมตร/ชั่วโมง อยู่ห่างจากมณฑลฮัวเหลียนของไต้หวัน 530 กิโลเมตร
 

Credit: Thaipost.net