คุยกับ เหยง 16 - พิเชษฐ์ เชื่อมฯ-เตรียมฉลอง 100 ปี หอซีมะโด่ง จุฬาฯ

[เหยง 16]

เอานิทานจากไทยรัฐมาเล่าให้ฟังครับ......


ความฝันของมหาเศรษฐี

เรื่องเล่า เรื่องความฝันของมหาเศรษฐี ต่อไปนี้ เป็นเรื่องหนึ่ง ในหนังสือในหีบหนังสือพระราชวังจิ่งหยวนกง มีหลักฐานว่า หงอิ้งหมิง คนสมัยราชวงศ์หมิง เป็นผู้เขียน

ในสมัยราชวงศ์โจว มีมหาเศรษฐี ชื่ออิ่นสื้อ ตระกูลดั้งเดิมเขาร่ำรวย แต่เขาก็ยังขยันหมั่นเพียรเพิ่มพูนทรัพย์สิน จ้างคนงานไว้มากมาย ทำไร่ไถนา และก่อสร้างคฤหาสน์ใหญ่โต

ทำงานตั้งแต่ลืมตาจนกระทั่งพลบค่ำ เขารู้สึกตัวเองเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าแสนสาหัส ขณะเอนหลังลงบนที่นอน

และ ทันทีที่หลับ อิ่นสื้อก็ฝัน...เขาฝันว่าตัวเองเป็นคนใช้ทำงานหัวปักหัวปําตั้งแต่เช้ายัน ค่ำ เหน็ดเหนื่อยกายแล้ว ใจก็ยังทุกข์เพราะต้องทนการทุบตีด่าจากคนเป็นนายจ้าง

เขาฝันเป็นคนใช้ ทำงานสารพัดอย่างไปทั้งคืน...จนรุ่งเช้า เขาก็ตื่น

คราวนี้ เขาจึงเริ่มรู้สึกตัวว่า เป็นเศรษฐี มีเกียรติยศศักดิ์ศรี มีคนรับใช้มากมายคอยทำให้ทุกอย่างตามแต่เขาจะสั่ง

ใน จำนวนคนใช้มากมาย อิ่นสื้อมีคนใช้ผู้เฒ่าอยู่คนหนึ่ง ผู้เฒ่าคนนี้เป็นคนใช้ของเขามาตั้งแต่หนุ่มจนแก่ ทำงานได้ทุกอย่าง ผลงานออกมาดี อิ่นสื้อก็ยิ่งเพิ่มงานให้

“เราเคยคิดว่า ทำงานเก่งแล้วงานจะน้อยลง แต่ยิ่งทำงานก็ยิ่งมากขึ้น”

คราวใดที่รู้สึกอ่อนเปลี้ยเพลียแรง ผู้เฒ่าก็มักรำพึง

ผู้เฒ่าทำงานหนักจนถึงเวลานอน...และทันทีที่เขาหลับ...เขาก็ฝัน...เขาฝันว่า เป็นฮ่องเต้ผู้ยิ่งใหญ่ ไม่เพียงราษฎรในอาณาจักรจะเคารพยกย่อง อ๋องต่างแคว้นและราษฎรต่างแคว้นก็ยังรุมนับถือ

เพื่อรักษาอำนาจไว้ ต่อไป ฮ่องเต้ก็ต้องจัดงานเลี้ยงเอาใจแขกผู้มีเกียรติ ไม่ว่างเว้นแต่ละวัน ชื่อเสียงเขายิ่งเลื่องลือ คนไกลที่นับถือก็ยิ่งเพิ่มจำนวน

ขณะฮ่องเต้ปลื้มเปรมในเกียรติยศยิ่งใหญ่ บนบัลลังก์ ทันใดนั้น เสียงไก่ขัน ก็ดังขึ้น

ความฝันอันแสนบรรเจิด...ของเขาก็มีอันสิ้นสุดลง...เขาลืมตาตื่น เหนื่อยยากตรากตรำ กับหน้าที่คนใช้ผู้เฒ่าคนเก่า ทำงานให้เจ้านายคนเก่า

ระหว่างชีวิตจริงที่เหนื่อยยาก กับความฝันที่แสนสุข...คนใช้ผู้เฒ่า ก็พบสัจธรรม

เขาเล่าเรื่องนี้ให้เพื่อนๆฟัง...ชีวิตคนเราก็แค่ 100 ปี ชั่วชีวิตนี้ ข้าจะต้องการอะไร มากไปกว่านี้อีกเล่า

หง อิ้งหมิง เล่าเรื่องนี้แล้ว ก็สรุปเป็นคำสอน...ยามเมื่อถึงฤดูใบไม้ผลิ อากาศก็อบอุ่น มวลหมู่บุปผชาติก็เบ่งบานสวยสล้าง เหล่าสกุณาส่งเสียงร้องเจื้อยแจ้ว

สุภาพชนเมื่อมีโอกาสเงยหน้าอ้าปาก กินอิ่มสวมอุ่น ไม่ทุกข์ร้อน กลับไม่คิดที่จะเผยความรู้ กระทำความดีแล้วไซร้

แม้จะมีอายุยืนถึงร้อยปี ก็เหมือนยังมิได้ถือกำเนิดมา แม้สักวันเดียว
สรุป คำสอนแล้ว หงอิ้งหมิง ก็เล่าเรื่องอิ่นสื้อ ต่อ เมื่อเขาเริ่ม รู้ตัวเองว่า ชีวิตนี้มีแต่ความวิตกกังวลเพราะห่วงเรื่องทำมาหาเงินทั้งหลับตื่น...เขาก็ ลดปริมาณงานลง

กับคนงาน เขาก็เริ่มผ่อนคลาย ไม่เข้มงวดกวดขันเอาเป็นเอาตาย เหมือนก่อน เรื่องเงินทองที่จ้องแต่ “หาได้” อย่างเดียว ก็เริ่มเปลี่ยนแปลง เป็นรู้จักให้คนที่สมควรให้

ทำเช่นนี้พักใหญ่ อิ่นสื้อก็รู้สึกตัวเอง ความทุกข์เริ่มน้อยลง ความสุขก็เริ่มเพิ่มขึ้น

ตอนนอนหลับ จากที่เคยฝันแต่เป็นคนใช้ ความฝันเขาก็เริ่มเปลี่ยนแปลงไป หลายครั้งเขาฝันว่าเขาเป็นฮ่องเต้...

ชีวิตจริงของคนที่เป็นฮ่องเต้...เป็นสุขทั้งในยามตื่นยามหลับนั้น...ในโลกนี้มีน้อยคนนัก...

เท่าที่เห็นๆกัน...ร่ำรวยแต่ในยามตื่น พอยามหลับก็เหมือนอิ่นสื้อ ฝันร้าย...ฝันว่าจะถูกผู้คนเดินขบวนสาปแช่ง ลืมตาตื่นก็เผลอเก็บเสื้อผ้ายัดใส่กระเป๋า เตรียมหาลู่ทางหนี

น่าสงสารมหาเศรษฐีพวกนี้ เสียจริงๆ.
 
กิเลน ประลองเชิง
ไทยรัฐออนไลน์
•   โดย กิเลน ประลองเชิง
•   26 พฤศจิกายน 2556, 05:00 น.



http://www.thairath.co.th/column/pol/chuckthong/385113

[เหยง 16]

		อ้างถึง			ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 25 พฤศจิกายน 2556, 22:39:24
	บันทึกไว้ก่อน จะมาขยายความในภายหลังครับ (เรื่องข้าว ไม่ใช่เรื่องนายกฯ ปู นะครับ) ป้อง"ปู"รับมือชำแหละจำนำข้าว ยรรยงเย้ยเรื่องเก่าเล่าใหม่ ชาวนาแห่ขายใบประทวน เศรษฐกิจ26 November 2556 - 00:00   "ปู" ชิ่งม็อบล้อม มุดเข้า "พาณิชย์" ซักซ้อมรับมืออภิปรายข้าวฉาว "ยรรยง" ออกโรงป้อง นายกฯ ไม่เกี่ยวทุจริต ตอบข้อครหาได้ เย้ยฝ่ายค้านคงงัดเรื่องเก่ามาเล่าใหม่ พ่อค้า 8 รายเสนอซื้อข้าวผ่านเอเฟต 1.3 แสนตัน แฉชาวนาแห่ขายใบประทวน หลังรอเงินจาก  ธ.ก.ส.ไม่ไหว     เมื่อเวลาประมาณ 13.30 น. วันที่ 25 พ.ย. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ได้ออกจากทำเนียบรัฐบาล เพื่อไปยังกระทรวงพาณิชย์ และประชุมร่วมกับ นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์, นายยรรยง พวงราช รมช.พาณิชย์ และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.พาณิชย์ เนื่องจากที่ทำเนียบฯ มีผู้ชุมนุมอยู่หลายจุด โดยหัวข้อหนึ่งที่ได้มีการหารือ คือ การเตรียมข้อมูลโครงการรับจำนำและการระบายข้าว รับมือกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่จะมีขึ้นในวันที่ 26-27 พ.ย.นี้     นายยรรยงเปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ได้เตรียมข้อมูลอภิปรายไม่ไว้วางใจให้กับนายกฯ แล้วทุกเรื่อง ทั้งเรื่องสินค้าเกษตร การดูแลค่าครองชีพ และโครงการรับจำนำ โดยเฉพาะโครงการรับจำนำ มีความมั่นใจว่าฝ่ายค้านไม่มีประเด็นอะไรใหม่ คงจะมั่วและเอาความเก่ามาเล่าใหม่ กล่าวหาในเรื่องเดิมๆ ที่จะโยงเข้าเรื่องการทุจริตและบริหารงานไร้ประสิทธิภาพ ซึ่งมั่นใจว่านายกฯ ชี้แจงได้     “ฝ่ายค้านจะมากล่าวหาว่านายกฯ ทุจริตไม่ได้ เพราะนายกฯ ไม่เกี่ยว นายกฯ ดูระดับนโยบาย และกำกับดูแลนโยบายให้เป็นไปตามที่ได้แถลงต่อรัฐสภา ซึ่งก็คือการช่วยเหลือเกษตรกรให้มีรายได้ ส่วนขั้นตอนการรับจำนำ การระบาย ก็มีคณะอนุกรรมการภายใต้ กขช. (คณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ) เป็นผู้ดูแลอีกทีหนึ่ง ซึ่งมีการแบ่งความรับผิดชอบชัดเจน” นายยรรยงกล่าว     นายยรรยงยืนยันว่า ไม่มีความกังวลต่อการอภิปรายครั้งนี้ เพราะฝ่ายค้านคงจะพูดเรื่องเดิม เช่น เรื่องการขายข้าวในรูปรัฐบาลต่อรัฐบาล (จีทูจี) ว่ามีการทุจริตมาก หรือขายจีทูจีผี ซึ่งที่ผ่านมาได้ชี้แจงไปแล้วว่า ได้ขายจีทูจีจริง มีผู้ซื้อมาซื้อข้าวจีทูจีจริง และมีการขายจีทูจีให้กับหลายประเทศ     นายยรรยงกล่าวหลังเป็นประธานโครงการประมูลสินค้าเกษตรในสต็อกของรัฐบาล โดยอิงราคาซื้อขายล่วงหน้าในตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย (เอเฟต) ปริมาณรวม 1.31 แสนตัน ใน 5 จังหวัด 12 คลัง จำนวน 65 ส่วน แบ่งเป็นข้าวขาว 5% ปริมาณ 1.144 แสนตัน ใน จ.นครสวรรค์ สระบุรี สพรรณบุรี ข้าวหอมมะลิ 100% ชั้น 2 จำนวน 1.74 หมื่นตัน ใน จ.สุรินทร์ บุรีรัมย์ มีเอกชนมาเสนอซื้อจำนวน 8 ราย กำหนดส่งมอบตั้งแต่เดือน ม.ค.-มี.ค.2557     โดยเสนอซื้อข้าวขาว 5% รวม 7 บริษัท ได้แก่ บริษัท ข้าวเจริญ จำกัด, บริษัท พิจิตรโรงสีร่วมเจริญ 2 ไรซ์ จำกัด, หจก. โรงสีอรุณพัฒนา, บริษัท ร่วมเจริญพัฒนาการค้าข้าว จำกัด,  บริษัท พงษ์ลาภ จำกัด, หจก.โรงสีไฟเจริญทรัพย์ และบริษัท ข้าวแสนดี จำกัด เสนอราคาส่วนต่างลดลง ตั้งแต่ กก.ละ 1.80-3.6 บาท ส่วนข้าวหอมมะลิ 100% มี 1 ราย คือ บริษัท เจียเม้ง จำกัด เสนอส่วนต่างลดลงตั้งแต่ กก.ละ 7-9 บาท     ว่าที่ ร.อ.จิตร์ ศิรธรานนท์ ประธานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจพื้นที่ภาคกลาง สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ขณะนี้ได้รับรายงานว่ามีชาวนาในภาคกลางเริ่มทยอยนำใบประทวนจากโครงการรับจำนำข้าวฤดูกาลผลิต 2556/57 ไปจำนำหรือไปขายให้กับผู้ประกอบการโรงสี หรือเจ้าแม่เงินกู้นอกระบบ ในราคาตันละ 8,000-9,000 บาท เนื่องจากยังไม่ได้รับเงินจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ทั้งที่นำข้าวไปจำนำตามขั้นตอนปกติ ดังนั้น ต้องการให้รัฐบาลเร่งกลไกที่เกี่ยวข้องจ่ายเงินให้ชาวนาเพื่อลดความเดือดร้อน. http://www.thaipost.net/news/261113/82600

จำนวนคนอ่านล่าสุด 11881 คน
วันที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 เวลา 00:01 น.  ข่าวสดออนไลน์

"จำนำข้าว" ยิ่งเลอะ

ทวี มีเงิน

บรรยากาศการเมืองที่เข้มข้นได้กลบหลายๆ สิ่งหลายๆ อย่างที่รัฐบาลกำลังเดินหน้า เฉพาะอย่างยิ่งโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลที่ยังเดินหน้าแบบขมุกขมัวและทุลักทุเล ที่บอกว่าขมุกขมัวเพราะจนป่านนี้รัฐบาลยังไม่บอกประชาชนในฐานะเจ้าของเงินที่เสียภาษี ว่าใช้ไปเท่าไหร่ ขาดทุนเท่าไหร่ ได้แต่อ้างโน่นอ้างนี่แบบคลุมเครือ แต่ไม่เคยมีหลักฐานยืนยันชัดเจน

แต่ความมาแตกว่าโครงการรับจำนำข้าวฤดูการผลิตปี 2556/57 ดำเนินไปอย่างทุลักทุเลเพราะธ.ก.ส. ออกมายอมรับว่า "ถังแตก" มีสภาพคล่องอยู่แค่ 2 หมื่นล้านบาท แต่ชาวนาเอา ใบประทวนมาขึ้นเงิน 3 หมื่นล้านบาท ทยอยจ่ายได้เพียง 3 พันล้านบาทเท่านั้น

นั่นแปลว่าชาวนาที่เอาข้าวมาจำนำต้องรออย่างน้อย 1-2 เดือนถึงจะได้เงิน ล่าสุดรัฐบาลก็เตรียมกู้เพิ่มอีก 7.5 หมื่นล้านบาท เพื่อมาเสริมสภาพคล่อง

แม้ล่าสุดกระทรวงพาณิชย์จะโชว์พาวด้วยการเซ็นสัญญาขายข้าวให้กับบริษัทเบจิน เกรท นอร์ทเทิร์นไวลด์เดอร์เนส ไรซ์ อินดัสตรี้ของจีนจำนวน 1.2 ล้านตัน รวมกับที่รัฐบาลจีนเคยมีความช่วยเหลือก่อนหน้านี้ จะซื้อข้าวจากเอกชนไทยปีละ 2 แสนตันเป็นเวลา 5 ปีรวม 1 ล้านตัน และข้าวที่ขายผ่านรัฐต่อรัฐ หรือจีทูจี อีก 1 ล้านตัน ถ้าเป็นจริงเท่ากับไทยจะขายข้าวให้จีนราวๆ 3.2 ล้านตัน

แต่สิ่งที่ "นิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล" รมว.พาณิชย์ ไม่ได้เปิดเผยว่าข้าวที่ขายให้จีนหมาดๆ นั้นขายในราคาเท่าไหร่ จะได้รู้ว่างานนี้กำไรหรือขาดทุนมากน้อยแค่ไหน

ปกติการขายลักษณะนี้จะเป็นราคามิตรภาพ แต่แหล่งข่าวกระทรวงพาณิชย์แอบกระซิบว่า "ข้าวที่ขายเที่ยวนี้ขาดทุนบาน"

ที่ผ่านมากระทรวงพาณิชย์มีปัญหาระบายไปตลาดต่างประเทศไม่ได้ เพราะราคาสูงกว่าตลาดโลกจึงต้องหันมาระบายภายในประเทศ ทำกันทุกทาง ไม่ว่าจะขายข้าวถูกๆ มาทำข้าวถุงธงฟ้า ข้าวถุงโชห่วยช่วยชาติ แต่ก็ล้มเหลวแถมมีทุจริตติดปลายนวม

ล่าสุดมีกระแสข่าวว่าสำนักงานเลขาธิการ ครม.และกระทรวงพาณิชย์ทำหนังสือขอให้กระทรวงและองค์กรที่อยู่ในสังกัดกระทรวงต่างๆ ช่วยซื้อข้าวสารในโครงการของรัฐบาล ทราบมาว่าบางหน่วยงานต้องเจียดงบฯ พีอาร์ 5 ล้านบาท บางแห่ง 10 ล้านหรือมากกว่านั้นตามศักยภาพมาช่วยซื้อไปเป็นสวัสดิการพนักงานหรือไปบริจาค บางแห่งถือเป็นโครงการ "ซีเอสอาร์" ขององค์กร



ระบายข้าวที่ค้างสต๊อกเป็น 17 ล้านตันด้วยวิธีง่ายๆ อย่างนี้นี่เอง โครงการรับจำนำข้าวชักจะยิ่งเลอะไปทุกวัน

http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNNE5UTTVOREF3Tnc9PQ==&sectionid=

[เหยง 16]

ข่าวล่าสุด และเป็นจริง

กรณีให้โรงสีจับคู่กับผู้ส่งออก โดยให้โรงสีแปรรูป "ข้าวเปลือก"เป็น "ข้าวสาร" ส่งให้ผู้ส่งออกเลย
เพื่อลดภาระค่านำข้าวสารฝากเข้าเก็บในโกดังนั้น

ผลการดำเนินงาน มีปํยหา ผู้ส่งออกเริ่มเข้มงวดกับ "ข้าวสาร" ที่โรงสีทำการสีแปรรูปส่งไปลงเรือ
เนื่องจาก "ข้าวสาร" ที่ส่งไป ไม่ได้มาตรฐาน เรื่องนี้กำลังเกิดขึ้นที่ท่าเรือแถบพระประแดง
รถยนต์บรรทุกที่นำ "ข้าวสาร" ไปส่งให้ จอดรอกันนับร้อยพ่วงทีเดียว ครับ

[เหยง 16]

เรื่องนี้ต้องฟังเอาไว้บ้างเช่นกัน....??

จำนวนคนอ่านล่าสุด 1197 คน
วันที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 เวลา 18:30 น.  ข่าวสดออนไลน์
"บลูมเบิร์ก" ชี้ไทยประท้วงไม่เลิก เท่ากับฆ่าตัวตายทางศก. เสียโอกาสเป็นศูนย์กลางอาเซียน


* บลูมเบิร์กมองไทย

 เมื่อวันที่ 26 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวิลเลี่ยม เพเซก ผู้สื่อข่าวและคอลัมนิสต์ประจำสำนักข่าวบลูมเบิร์ก สื่อธุรกิจชื่อดังระดับโลก เขียนบทวิเคราะห์เรื่อง “The Folly of Thailand′s Endless Protests” (ความเขลาจากการประท้วงอันไร้จุดสิ้นสุดของประเทศไทย) เผยแพร่ไปทั่วโลก มีเนื้อหาโดยสรุประบุว่า ม็อบราชดำเนินกว่า 100,000 คนที่ออกมาแสดงพลังเพื่อต้องการขับไล่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีไทย ให้ลงจากตำแหน่ง แม้จะต้านอย่างไรก็ไม่สามารถสู้กับผู้ชุมนุมฝ่ายต่อต้านรัฐบาลในปี 2553 หรือนปช. ซึ่งออกมาปกป้อง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีผู้ร่ำรวยที่ถูกทำรัฐประหารไปเมื่อปี 2549 และลี้ภัยไปอยู่ต่างประเทศในปี 2551 แต่กระนั้นน.ส.ยิ่งลักษณ์ยังพยายามทุกวิถีทางเพื่อช่วยเหลือพี่ชายกลับบ้าน ท่ามกลางผู้ชุมนุมที่ผลัดเปลี่ยนกันขึ้นมาต้านรัฐบาล ทั้งเสื้อแดงและเสื้อเหลือง คนดีและคนเลว แต่ดูเหมือนจะเป็นปัจจัยกัดกร่อนทำให้ไทยฆ่าตัวตายทางเศรษฐกิจ

* ชี้ต้องยึดเลือกตั้ง

 นายเพเซก ระบุต่อไปว่า ไทยควรมีระบบเลือกตั้งและปล่อยให้ผู้ที่ได้รับเลือกบริหารประเทศไป เพราะอย่างไรเสียผู้นำที่มาจากระบบเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยก็เป็นผู้ได้รับมอบอำนาจแท้จริงจากประชาชน สิ่งที่พลเมืองต้องการคือหลักความเสมอภาค หลักนิติธรรม และหลักการโปร่งใส ตรวจสอบได้ หากเป็นประชาธิปไตยจะต้องมีทางให้ดำเนินต่อไป แต่ตอนนี้ประเทศไทย ยังคงวนเวียนติดอยู่ในกับดักของการทำลายตัวเอง คือความขัดแย้งกันภายใน และกลุ่มผู้ชุมนุมเองกลับเป็นปัจจัยกระตุ้นการทำลายเศรษฐกิจของประเทศ ไม่ว่าจะเป็นการยึดสนามบิน ยึดสถานที่ราชการ หรือเหตุปะทะกลางเมืองจนทำให้มีผู้เสียชีวิตไปกว่า 90 ราย 

* มีศักยภาพเป็น‘ฮับอาเซียน’

 คอลัมนิสต์ชื่อดังของบลูมเบิร์ก ชี้ว่า ไทยจำเป็นต้องเร่งพัฒนาสาธารณูปโภคพื้นฐาน ทั้งถนน สะพาน ทางรถไฟ เพื่อรองรับกับการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่กำลังเฟื่องฟูในภูมิภาคเอเชีย ไทยมีศักยภาพที่จะเป็นศูนย์กลางสำคัญในการเดินทางระหว่างจีน อินเดีย สหรัฐ เพื่อเชื่อมเข้ากับอีก 9 ประเทศสมาชิกอาเซียน และสิ่งนี้ย่อมสำเร็จอย่างแน่นอนเพียงแค่คนไทยเลิกเชื่อว่าการประท้วงที่ไม่สิ้นสุดนี้จะนำพาประเทศไปสู่ทางออกได้”

http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNNE5UUTJOVFU1T1E9PQ==&sectionid=

[เหยง 16]

		อ้างถึง			ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 25 พฤศจิกายน 2556, 22:02:29
	อ้างถึง ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 24 พฤศจิกายน 2556, 21:42:18 อ้างถึง ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 23 พฤศจิกายน 2556, 21:59:22 อ้างถึง ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 22 พฤศจิกายน 2556, 22:18:20 อ้างถึง ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 21 พฤศจิกายน 2556, 23:05:56 เริ่มใหม่วันนี้ 23.05 น. วันพฤหัสบดีที่ 21 พ.ย. เพื่อนของเราวันนี้ เพื่อนของเราวันนี้ทั้งหมด: 32 (แสดงตัว: 25, ซ่อนตัว: 7) เหยง 16, kumpolcomcai, nok15, swsm, somdej15, Manop Klabdee, Khun28, naneba, ประทาน14, Leam, Lawyervat, Pete15, khesorn mueller, หนุน'21, asas55, churaipatara, สมชาย17, เริง2520, nok20, songkeat2515, อ้อย17, ติ๋ม จันทร์ฉาย, TuktaSRIKACHA, ผู้ดูแล, surasak12345678 วันเสาร์ที่ 22 พ.ย. เวลา 22.15 น. เพื่อนของเราวันนี้ เพื่อนของเราวันนี้ ทั้งหมด: 28 (แสดงตัว: 20, ซ่อนตัว: khesorn mueller, เหยง 16, swsm, ประทาน14, Pete15, Manop Klabdee, nok15, kailoharjun, Lamai, churaipatara, หนุ่ม2524, maew2524, เริง2520, หนุน'21, kumpolcomcai, สมชาย17, Angy20, ตี้ถาปัด, จิรัฎฐ์, Khun28            22.00 น. วันเสาร์ที่ 23 พ.ย. พี่น้องเยี่ยมชมในรอบ24ชั่วโมง ทั้งหมด: 25 เพื่อนของเราวันนี้ ทั้งหมด: 25 (แสดงตัว: 18, ซ่อนตัว: 7) เหยง 16, khesorn mueller, too_ploenpit, maew2524, Manop Klabdee, พธู ๒๕๒๔, ดร.มนตรี, surasak12345678, ภาณุ ปาตานี, naneba, หนุน'21, Pete15, ทราย 16, เริง2520, pusadee sitthiphong, มีนา, Lawyervat, roong15, สมชาย17, nok15, kumpolcomcai, จิรัฎฐ์, suriya2513, swsm, TuktaSRIKACHA 21.45 น. วันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย. ครับ พี่น้องเยี่ยมชมในรอบ24ชั่วโมง ทั้งหมด: 23 เพื่อนของเราวันนี้ เหยง 16, swsm, Manop Klabdee, เริง2520, ทราย 16, surasak12345678, pornchaiketlek, pusadee sitthiphong, maew2524, roong15, too_ploenpit, หนุน'21, ตี้ถาปัด, พธู ๒๕๒๔, Pete15, suriya2513, nok15, จิรัฎฐ์, kumpolcomcai, ภาณุ ปาตานี, มีนา, naneba, khesorn mueller  หากนับแต่เฉพาะที่โชว์ตัวตนมี ทั้งหมด: 23 เหยง 16, swsm, Manop Klabdee, เริง2520, surasak12345678, pornchaiketlek, maew2524, หนุน'21, ตี้ถาปัด, Pete15, nok15, จิรัฎฐ์, kumpolcomcai, ภาณุ ปาตานี  เวลา 22.00 น.ของวันจันทร์ที่ 25 พ.ย. ครับ ทั้งหมด: 24 (แสดงตัว: 20, ซ่อนตัว: 6) พี่น้องเยี่ยมชมในรอบ24ชั่วโมง ทั้งหมด: 26 เพื่อนของเราวันนี้ khesorn mueller, เหยง 16, Pete15, เริง2520, หนุน'21, swsm, Manop Klabdee, pornchaiketlek, พธู ๒๕๒๔, จุ๊ง2522, อ้อย17, มีนา, ทราย 16, churaipatara, จ๋า 15, roong15, too_ploenpit, fonode, เย่อ-ซีมะโด่ง70, suriya2513, tang16, kumpolcomcai, maew2524, จิรัฎฐ์, ประทาน14, pusadee sitthiphong

เวลา 22.15 น. วันอังคารที่ 26 พ.ย. 56

พี่น้องเยี่ยมชมในรอบ24ชั่วโมง ทั้งหมด: 27 เพื่อนของเราวันนี้
เหยง 16, khesorn mueller, มีนา, roong15, Pooh20, too_ploenpit, swsm, Pete15, lek_adisorn, knickboard, จิรัฎฐ์, nok15, Leam, kumpolcomcai, หนุน'21, Manop Klabdee, pornchaiketlek, pusadee sitthiphong, เริง2520, ประทาน14, ทราย 16, churaipatara, อ้อย17, Khun28, songkeat2515, จ๋า 15, ภาณุ ปาตานี 

[เหยง 16]

ตอนบนของประเทศอากาศจะเริ่มหนาวเย็นลงอีกครั้ง ส่วนภาคใต้ก็จะมีฝนชุกหนาแน่นขึ้นด้วยเช่นกัน


จุดที่พายุไซโคลนเลฮอร์ อยู่ในมหาสมุทรอินเดีย


หย่อมความกดอากาศต่ำ ที่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศอินโดนีเซีย มาเลเซีย, และอีกลูกคือ LOW ด้านทิสเหนือของออสเตรเลีย


แนวทางเดินของพายุไซโคลนเลฮอร์ จะพัดเข้าฝั่งประเทสอินเดีย ในวันที่ 28 นี้

พยากรณ์อากาศ ประจำวันพุธที่ 27 พฤศจิกายน 2556
ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 10:00 น.  บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงอีกระลอกหนึ่งได้แผ่ลงมาปกคลุมประเทศจีนตอนใต้แล้ว คาดว่าจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมถึงประเทศไทยในวันพรุ่งนี้ (28 พ.ย. 56) ทำให้ในช่วงวันที่ 28-30 พฤศจิกายน 2556 ประเทศไทยจะมีอากาศหนาวเย็นลง โดยอุณหภูมิจะลดลง 3-5 องศาเซลเซียส กับมีลมแรง และมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทย และภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้นด้วย ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มมากขึ้น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งส่วนคลื่นลมในอ่าวไทยจะมีกำลังแรง ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร เรือเล็กในอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดชุมพรลงไปควรงดออกจากฝั่งในช่วงนี้
อนึ่ง พายุไซโคลน “เลฮาร์” (LEHAR) บริเวณอ่าวเบงกอล จะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณประเทศอินเดียตอนกลางในวันพรุ่งนี้ (28 พ.ย. 56) โดยพายุนี้ไม่มีผลกระทบต่อประเทศไทย
 
พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 12:00 วันนี้ ถึง 12:00 วันพรุ่งนี้. 

ภาคเหนือ  อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา น่าน และตาก
อุณหภูมิต่ำสุด 20-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-32 องศาเซลเซียส
สำหรับบริเวณยอดดอย อากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 11-15 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.
 
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ  อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิต่ำสุด 18-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส
สำหรับบริเวณยอดภู อากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 9-13 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
 
ภาคกลาง  อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า
โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค
อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศาเซลเซียส
สำหรับบริเวณเทือกเขา อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 18-23 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
 
ภาคตะวันออก  อากาศเย็นทางตอนบนของภาคกับมีหมอกบางในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ
ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดระยอง จันทบุรี และตราด
อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศาเซลเซียส
สำหรับบริเวณเทือกเขา อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 18-23 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
 
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีเมฆมากกับมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส
อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
อ่าวไทยตอนบน ตั้งแต่จังหวัดชุมพรขึ้นมา ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
อ่าวไทยตอนล่าง ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไป ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
 
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีเมฆเป็นส่วนมากกับมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล
อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร
 
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีเมฆบางส่วน โอกาสมีฝนตก ร้อยละ 20
อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
 
 

[เหยง 16]

		อ้างถึง			ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 26 พฤศจิกายน 2556, 21:40:03
	ข่าวล่าสุด และเป็นจริง กรณีให้โรงสีจับคู่กับผู้ส่งออก โดยให้โรงสีแปรรูป "ข้าวเปลือก"เป็น "ข้าวสาร" ส่งให้ผู้ส่งออกเลย เพื่อลดภาระค่านำข้าวสารฝากเข้าเก็บในโกดังนั้น ผลการดำเนินงาน มีปํยหา ผู้ส่งออกเริ่มเข้มงวดกับ "ข้าวสาร" ที่โรงสีทำการสีแปรรูปส่งไปลงเรือ เนื่องจาก "ข้าวสาร" ที่ส่งไป ไม่ได้มาตรฐาน เรื่องนี้กำลังเกิดขึ้นที่ท่าเรือแถบพระประแดง รถยนต์บรรทุกที่นำ "ข้าวสาร" ไปส่งให้ จอดรอกันนับร้อยพ่วงทีเดียว ครับ

ข่าวล่า:
รัฐบาลจะส่งมอบข้าวสาร 5,000 ตันช่วยฟิลิปปินส์จากภัยพายุระดับ 5 ไฮเยี่ยน
แต่องค์การค้าข้าวของฟิลิปปินส์ซื้อข้าว 500,000 ตันจากเวียตนาม โดยราคาถูกกว่าของไทย $12.5 ต่อตัน

[เหยง 16]

จำนวนคนอ่านล่าสุด 1250 คน
วันที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 เวลา 14:57 น.  ข่าวสดออนไลน์
สงครามโลกครั้งที่ 2 ฉบับลงสี เรื่องจริง ยิ่งกว่าในหนัง

<a href="http://www.youtube.com/watch?v=_fuWrdSdlRs" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=_fuWrdSdlRs</a>

เว็บกระปุก : คลิป ย้อนรอยตำนาน การต่อสู้ทางอากาศ สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ฉบับลงสี สุดยอดครับ สงครามโลกครั้งที่ 2 เรื่องจริง ยิ่งกว่าในหนังเยอะเลย คลิปนี้เป็นฟุตเทจ การต่อสู้ทางอากาศ ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ของจริง ชีวิตจริงมาให้ชมกันครับ ดูแล้วอึ้งกันเลยทีเดียว สงครามจริงๆ ยิ่งกว่าในหนังเยอะเลย ลองไปชม

http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNNE5UVXpPVEV5T1E9PQ==&sectionid=

[เหยง 16]

		อ้างถึง			ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 26 พฤศจิกายน 2556, 22:18:54
	อ้างถึง ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 25 พฤศจิกายน 2556, 22:02:29 อ้างถึง ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 24 พฤศจิกายน 2556, 21:42:18 อ้างถึง ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 23 พฤศจิกายน 2556, 21:59:22 อ้างถึง ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 22 พฤศจิกายน 2556, 22:18:20 อ้างถึง ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 21 พฤศจิกายน 2556, 23:05:56 เริ่มใหม่วันนี้ 23.05 น. วันพฤหัสบดีที่ 21 พ.ย. เพื่อนของเราวันนี้ เพื่อนของเราวันนี้ทั้งหมด: 32 (แสดงตัว: 25, ซ่อนตัว: 7) เหยง 16, kumpolcomcai, nok15, swsm, somdej15, Manop Klabdee, Khun28, naneba, ประทาน14, Leam, Lawyervat, Pete15, khesorn mueller, หนุน'21, asas55, churaipatara, สมชาย17, เริง2520, nok20, songkeat2515, อ้อย17, ติ๋ม จันทร์ฉาย, TuktaSRIKACHA, ผู้ดูแล, surasak12345678 วันเสาร์ที่ 22 พ.ย. เวลา 22.15 น. เพื่อนของเราวันนี้ เพื่อนของเราวันนี้ ทั้งหมด: 28 (แสดงตัว: 20, ซ่อนตัว: khesorn mueller, เหยง 16, swsm, ประทาน14, Pete15, Manop Klabdee, nok15, kailoharjun, Lamai, churaipatara, หนุ่ม2524, maew2524, เริง2520, หนุน'21, kumpolcomcai, สมชาย17, Angy20, ตี้ถาปัด, จิรัฎฐ์, Khun28            22.00 น. วันเสาร์ที่ 23 พ.ย. พี่น้องเยี่ยมชมในรอบ24ชั่วโมง ทั้งหมด: 25 เพื่อนของเราวันนี้ ทั้งหมด: 25 (แสดงตัว: 18, ซ่อนตัว: 7) เหยง 16, khesorn mueller, too_ploenpit, maew2524, Manop Klabdee, พธู ๒๕๒๔, ดร.มนตรี, surasak12345678, ภาณุ ปาตานี, naneba, หนุน'21, Pete15, ทราย 16, เริง2520, pusadee sitthiphong, มีนา, Lawyervat, roong15, สมชาย17, nok15, kumpolcomcai, จิรัฎฐ์, suriya2513, swsm, TuktaSRIKACHA 21.45 น. วันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย. ครับ พี่น้องเยี่ยมชมในรอบ24ชั่วโมง ทั้งหมด: 23 เพื่อนของเราวันนี้ เหยง 16, swsm, Manop Klabdee, เริง2520, ทราย 16, surasak12345678, pornchaiketlek, pusadee sitthiphong, maew2524, roong15, too_ploenpit, หนุน'21, ตี้ถาปัด, พธู ๒๕๒๔, Pete15, suriya2513, nok15, จิรัฎฐ์, kumpolcomcai, ภาณุ ปาตานี, มีนา, naneba, khesorn mueller  หากนับแต่เฉพาะที่โชว์ตัวตนมี ทั้งหมด: 23 เหยง 16, swsm, Manop Klabdee, เริง2520, surasak12345678, pornchaiketlek, maew2524, หนุน'21, ตี้ถาปัด, Pete15, nok15, จิรัฎฐ์, kumpolcomcai, ภาณุ ปาตานี  เวลา 22.00 น.ของวันจันทร์ที่ 25 พ.ย. ครับ ทั้งหมด: 24 (แสดงตัว: 20, ซ่อนตัว: 6) พี่น้องเยี่ยมชมในรอบ24ชั่วโมง ทั้งหมด: 26 เพื่อนของเราวันนี้ khesorn mueller, เหยง 16, Pete15, เริง2520, หนุน'21, swsm, Manop Klabdee, pornchaiketlek, พธู ๒๕๒๔, จุ๊ง2522, อ้อย17, มีนา, ทราย 16, churaipatara, จ๋า 15, roong15, too_ploenpit, fonode, เย่อ-ซีมะโด่ง70, suriya2513, tang16, kumpolcomcai, maew2524, จิรัฎฐ์, ประทาน14, pusadee sitthiphong    เวลา 22.15 น. วันอังคารที่ 26 พ.ย. 56 พี่น้องเยี่ยมชมในรอบ24ชั่วโมง ทั้งหมด: 27 เพื่อนของเราวันนี้ เหยง 16, khesorn mueller, มีนา, roong15, Pooh20, too_ploenpit, swsm, Pete15, lek_adisorn, knickboard, จิรัฎฐ์, nok15, Leam, kumpolcomcai, หนุน'21, Manop Klabdee, pornchaiketlek, pusadee sitthiphong, เริง2520, ประทาน14, ทราย 16, churaipatara, อ้อย17, Khun28, songkeat2515, จ๋า 15, ภาณุ ปาตานี

22.10 น. วันพุธที่ 27 พ.ย. ครับ

พี่น้องเยี่ยมชมในรอบ24ชั่วโมง ทั้งหมด: 28 เพื่อนของเราวันนี้
เหยง 16, swsm, Pete15, พธู ๒๕๒๔, khesorn mueller, เริง2520, somdej15, Manop Klabdee, too_ploenpit, ทราย 16, หนุน'21, nok15, kumpolcomcai, มีนา, Khun28, churaipatara, สมชาย17, จิรัฎฐ์, pornchaiketlek, meaw13, surasak12345678, pusadee sitthiphong, roong15, wannee, อ้อย17, naneba, Pooh20, lek_adisorn 

[เหยง 16]

อากาศในตอนบนของประเทศหนาวเย็นเพิ่มขึ้น บวกกับลมที่พัดแรง จะทำให้อุณหภูมิลดลงไปอีก
พื้นที่สูงโดยเฉพาะคนชรา เด็ก เด็กอ่อน ต้องใช้ผ้าห่ม เครื่องกันหนาว
ภาคใต้ ฝนเพิ่มขึ้น คลื่นสูง ลมแรง ชาวเรือ นักท่องเที่ยวทางทะเลต้องระมัดระวัง

พยากรณ์อากาศ ประจำวันที่ 28 พฤศจิกายน 2556
ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา
"อากาศหนาวเย็น ฝนตกหนัก และคลื่นลมแรง"
ฉบับที่ 2 ลงวันที่ 28 พฤศจิกายน 2556

ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น.  บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนแล้ว และจะแผ่เสริมลงมาอย่างต่อเนื่องจนถึงวันที่ 3 ธันวาคม 2556 ทำให้บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก จะมีอากาศหนาวเย็นลง อุณหภูมิลดลง 5-7 องศาเซลเซียส กับมีลมแรง โดยในบางพื้นที่ของจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา น่าน ลำพูน ลำปาง เลย หนองบัวลำภู หนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี สกลนคร และนครพนม จะมีอากาศหนาว และอุณหภูมิต่ำกว่า 16 องศาเซลเซียส ขอให้ประชาชนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากอากาศที่เปลี่ยนแปลงไว้ด้วย
สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับในช่วงวันที่ 2-3 ธันวาคม 2556 จะมีหย่อมความกดอากาศต่ำจากทะเลจีนใต้ตอนล่างเคลื่อนเข้าปกคลุมประเทศมาเลเซีย และภาคใต้ตอนล่าง ทำให้ภาคใต้บริเวณจังหวัดสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส จะมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระมัดระวังอันตรายและผลกระทบจากฝนตกหนัก ส่วนบริเวณอ่าวไทยจะมีคลื่นสูง 2-3 เมตร เรือเล็กในอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดชุมพรลงไปควรงดออกจากฝั่งในช่วงดังกล่าว
 
พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.

ภาคเหนือ  อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศาเซลเซียส โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ
ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัด แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา น่าน และตาก
อุณหภูมิต่ำสุด 19-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส
สำหรับบริเวณยอดดอย อากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 11-15 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.
 
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิต่ำสุด 18-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส
สำหรับบริเวณยอดภู อากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 9-13 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
 
ภาคกลาง  อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศาเซลเซียส
โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค
อุณหภูมิต่ำสุด 22-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส
สำหรับบริเวณเทือกเขา อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 18-23 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
 
ภาคตะวันออก  อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศาเซลเซียส
โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ บริเวณจังหวัดจันทบุรี และตราด
อุณหภูมิต่ำสุด 22-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส
สำหรับบริเวณเทือกเขา อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 18-23 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
 
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีเมฆมากกับมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่
และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส
อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-32 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. อ่าวไทยตอนบน ตั้งแต่จังหวัดชุมพรขึ้นมา ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
อ่าวไทยตอนล่าง ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไป ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
 
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)  มีเมฆเป็นส่วนมากกับมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล
อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร
 
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล  มีเมฆบางส่วน กับมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
 

[เหยง 16]

กิจกรรมที่นครสวรรค์ เมื่อเช้านี้ เรียบง่ายและไม่มีปัญหาแทรกซ้อนครับ..

มวลชนนครสวรรค์พรึบ! เข้าศาลากลาง มอบนกหวีดให้ผู้ว่าฯ เป่า
28 พฤศจิกายน 2556 12:14 น.

       นครสวรรค์ - ประชาชนชาวนครสวรรค์กว่า 3 พันคนเดินขบวนไปศาลากลางจังหวัด แต่ไม่ต้องการปิดล้อม ผู้ว่าฯ ยืนรอต้อนรับพร้อมกับเป่านกหวีดให้กำลังใจผู้ชุมนุม
      
       วันนี้ (28 พ.ย.) เวลา 09.00 น. นายสุพัฒน์ ทบอุต แกนนำกลุ่มไม่เอา พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ได้นัดมวลชนกว่า 3,000 คน รวมตัวกันบริเวณหน้าอุทยานสวรรค์ เพื่อเดินขบวนไปยังศาลากลางจังหวัดนครสวรรค์ ไปพบนายชัยโรจน์ มีแดง ผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์ โดยการเดินขบวนในครั้งนี้ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรให้ความสะดวกตลอดเส้นทางจนถึงบริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดนครสวรรค์ มวลชนในขบวนต่างพากันเป่านกหวีดตลอดเส้นทางที่เดินไปยังศาลากลาง

       ต่อมาเวลา 10.00 น. ขบวนได้เดินมาถึงบริเวณหน้าศาลากลางจังหวัด พบว่าประตูทางเข้าได้ถูกปิด และ พล.ต.ต.สืบก์ศักดิ์ ชวาลวิวัฒน์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรจังหวัดนครสวรรค์ ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดความคุมฝูงชนของ ภ.จว.นว.จำนวน 300 นายมายืนปิดอยู่หลังประตูทางเข้าทางกลุ่มได้เข้าไปเจรจากับเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบบริเวณดังกล่าวว่ากลุ่มพวกตนเองมาอย่างสันติไม่คิดจะปิดล้อมศาลากลางจังหวัดแต่อย่างใด
      
       หลังจากเจรจาตำรวจได้เปิดประตูให้มวลชนเข้าไป โดยมีนายชัยโรจน์ มีแดง ผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์ ยืนรอกลุ่มผู้ชุมนุมอยู่บริเวณด้านหน้าอาคารศาลากลางจังหวัดฯ โดยมีตัวแทนของกลุ่มได้เดินเข้าไปมอบนกหวีดและช่อดอกไม้ให้แก่ผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์

       โดยนายชัยโรจน์ได้กล่าวให้กำลังใจกลุ่มผู้ชุมนุม พร้อมกับได้เป่านกหวีด 3 ครั้ง และผู้ว่าราชการจังหวัดได้มอบน้ำขวดจำนวนหนึ่งให้กับแกนนำด้วย และได้ขอตัวเข้าประชุมประจำเดือนต่อ เนื่องจากวันนี้เป็นวันประชุมประจำเดือนของจังหวัดนครสวรรค์พอดี จึงอยู่นานไม่ได้ ส่วนกลุ่มผู้ชุมนุมได้ขอรับประทานอาหารกลางวันบริเวณด้านหน้าอาคารก่อนแล้วถึงจะแยกย้ายกลับ

 
 
จาก http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrView.asp?NewsID=9560000147626
 

[เหยง 16]

8 สาวสวย "จุฬาคฑากร รุ่น 7 Limited Edition"
28 พฤศจิกายน 2556 11:51 น.

       หลังจากที่ผ่านการประกวด "จุฬาคฑากร รุ่น 7 Limited Edition" ไปเป็นที่เรียบร้อย เราก็ได้สาวสวยน่ารักสดใส ทั้ง 8 คน มาทำหน้าที่ถือคทาเดินนำขบวน พาเหรดของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในงานฟุตบอลประเพณีจุฬา-ธรรมศาสตร์ ครั้งที่ 70 ที่กำลังจะเกิดขึ้นในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2557 นี้
       
       แต่ก่อนที่เราจะไปรู้จักจุฬาคฑากร รุ่นที่ 7 เราลองมาฟังประวัติคราวๆ ของตำแหน่ง จุฬาคฑากร กันก่อนดีกว่า ... ย้อนกลับไปในช่วงวิกฤตการณ์ทางการเมือง 14 ตุลาคม พ.ศ.2516 ทำให้ต้องมีการงดจัด งานฟุตบอลประเพณีจุฬา ธรรมศาสตร์ ไปหลายปี และ ดรัมเมเยอร์ของมหาวิทยาลัยทั้งสองก็หายไปกระทั่งปี 2550 มี นิสิตคณะนิติศาสตร์ คนหนึ่ง ซึ่งมีหน้าที่กำกับดูแลขบวน พาเหรดจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ใน งานฟุตบอลประเพณีจุฬา ธรรมศาสตร์ ครั้งที่ 64 ได้มีแนวคิดที่จะสร้างวัฒนธรรมการคัดเลือกนิสิตจุฬาฯ เพื่อทำหน้าที่ ดรัมเมเยอร์เดินนำขบวน พาเหรดจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย อีกครั้ง และเพื่อให้ นิสิตจุฬาฯ ในยุคปัจจุบัน
       
       สำหรับผู้ที่ทำหน้าที่เดินนำขบวนพาเหรดของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยในงานฟุตบอลประเพณีจุฬา-ธรรมศาสตร์ ครั้งที่ 70 ประจำปี 2557 ได้แก่
       
       1. นางสาวธนัญญา ศิรินิ่มนวลกุล (ป๊อป) คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี ปี 1
       
       2. นางสาวณัชชารีย์ กิจวิริยะ (บุ๊ค) คณะวิศวกรรมศาสตร์ ปี 3
       
       3. นางสาวชลธิชา เที่ยงธรรม (จีจี้) คณะรัฐศาสตร์ ปี 1
       
       4. นางสาวศานติ์ขวัญ กาญจนมุกดา (ฟรังก์) คณะรัฐศาสตร์ ปี 2
       
       5. นางสาววรันธร เปานิล (อิ๊งค์) คณะศิลปกรรมศาสตร์ ปี 2
       
       6. นางสาวกฤติยา วุฒิหิรัญปรีดา (มายด์) คณะนิติศาสตร์ ปี 3
       
       7. นางสาวณัฐวิภา สังฆกิจ (นุ่น) คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ปี 2
       
       8. นางสาววรินทร์ลดา ปิยะวิรัทธิ์ (ไหยหยา) คณะนิเทศศาสตร์ ปี 2
       
       ขอบคุณภาพจาก https://www.facebook.com/chulakatakorn.fc
ชมภาพจุฬาคธากรได้ที่........
http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrView.asp?NewsID=9560000146424
 

[เหยง 16]

"พายุเลฮาร์"พัดถล่มอินเดีย เร่งอพยพ ปชช.นับหมื่น
28 พฤศจิกายน 2556 16:36 น.

 
       พายุไซโคลนกำลังแรงเลฮาร์ เคลื่อนตัวไปทางตะวันออกเฉียงใต้ของอินเดียวานนี้ ทำให้ต้องอพยพชาวบ้านนับหมื่นคนออกจากพื้นที่ ไซโคลนเลฮาร์พัดด้วยแรงลมสูงสุด 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าจะขึ้นฝั่งที่รัฐอานธรประเทศในค่ำวันนี้ และอาจทำให้เกิดคลื่นสูงถึง 1 เมตร
        เจ้าหน้าที่ควบคุมภัยพิบัติท้องถิ่นอินเดีย กล่าวว่าหน่วยกู้ภัยกว่า 1,000 คน ได้รับคำสั่งให้เข้าช่วยเหลือในพื้นที่น้ำท่วม ขณะอพยพประชาชนประมาณ 27,000 คน
        ด้านสถานีอุตุนิยมวิทยาอินเดีย ระบุว่า ไซโคลนลูกนี้มีกำลังแรงมากพร้อมเตือนว่าอาจทำให้เกิดความเสียหายร้ายแรง รวมถึงไฟดับ กระทบต่อการคมนาคม และพืชไร่เสียหาย แต่ยังน้อยกว่าไซโคลนไพลิน ซึ่งพัดกระหน่ำพื้นที่ทางตอนเหนือเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งมีผู้เสียชีวิต 18 คน และก่อความเสียหายรุนแรง
 
จาก http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrView.asp?NewsID=9560000147806

ภาพจาก JTWC ครับ




 

[เหยง 16]

ขอบคุณทุกท่านที่เข้าในห้องนี้

จนมีการอ่านกระทู้ได้ 550,000 ครั้งพอดี



 

[เหยง 16]

พายุไซโคลน"เลฮอร์หรือเลฮาร์ Lehar" พัฒนาจากหย่อมความกดอากาศต่ำในทะเลจีนใต้ มีชื่อเดิมเรียกเป็นพายุลูกที่ 5 หรือ TC 05B เมื่อวันที่ 23 พ.ย. หลังข้ามไปลงทะเลอันดามันแล้ว ส่งผลให้จังหวัดภาคใต้ และประเทศมาเลเซียจมน้ำอักโขอยู่หลายวัน





พรุ่งนี้ พายุจะลดความเร็วศูนย์กลางลง ขณะขึ้นฝั่งประเทศอินเดีย เป็นพายุโซนร้อน ดีเปรสชั่น และหย่อมความกดอากาศต่ำ และสลายตัวไป พร้อมกับฝนที่ตกลงในแผ่นดินอินเดียอีก 2-3 วัน





ถือว่าพายุนี้เป็นลูกที่สอง ที่กำเนิดจากหย่อมความกดอากาศต่ำในทะเลจีนใต้
เมื่อข้ามฝั่งสู่ทะเลอันดามัน แล้วแปรสภาพความรุนแรงเพิ่มขึ้นเป็นพายุไซโคลนในปีนี้



พายุลูกที่ 30 นำหน้าซุปเปอร์ไต้ฝุ่นไห่เยี่ยน ในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน ที่ผ่านมา
ซึ่งนึกว่าจะสลายตัวในประเทศไทย
แต่ผิดคาด ไปจบที่ประเทศอินเดีย ด้วยการเดินทางกว่า 4,000 ก.ม.

[เหยง 16]

สวัสดีในเช้าวันศุกร์ที่ 29 พ.ย. วันทำงานวันสุดท้ายของเดือนนี้

ฟ้าเปิด อากาศไม่เย็นหรือหนาวจนเกินไปครับ

สำหรับท่านที่จะเดินทางออกต่างจังหวัด โปรดตรวจสภาพรถยนต์ ให้สามารถขับผ่านหมอกหนาในตอนเช้าและค่ำ

ท่านที่ไปร่วมกับม๊อบ อย่าลืมเตรียมผ้าห่มบางๆ หรือหมวกเพื่อใส่กันน้ำค้าง ในยามค่ำคืน

ถ้าจะให้ดี เตรียมยาแก้ไข้ แก้หวัด แก้ท้องเสีย รวมทั้งยาแก้แพ้ติดตัวไปด้วย

[เหยง 16]

หย่อมความกดอากาศต่ำจากมาเลเซียเคลื่อนเข้าสู่ภาคใต้ของไทย อ่าวไทยฝนตกหนักในหลายพื้นที่ ชาวบ้าน ชาวเรือ ต้องระมัดระวัง รวมไปถึงฝั่งอันดามันที่หย่อมความกดอากาศต่ำจะเคลื่อนผ่านไป เพื่อลงสู่มหาสมุทรอินเดีย

ส่วนภาคเหนือ ภาคอีสานตอนบน อากาศหนาวเย็นมากขึ้น บวกกับลมพัดแรง เด็ก คนชรา ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ

พยากรณ์อากาศ ประจำวันศุกร์ที่ 29 พฤศจิกายน 2556
ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น.  บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทย และ
จะแผ่เสริมลงมาอย่างต่อเนื่องจนถึงวันที่ 3 ธันวาคม 2556 ทำให้บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก มีอากาศหนาวเย็นลง โดยอุณหภูมิจะลดลง 5-7 องศาเซลเซียส กับมีลมแรง ในขณะที่บางพื้นที่ของจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา น่าน ลำพูน ลำปาง เลย หนองบัวลำภู หนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี สกลนคร และนครพนม จะมีอากาศหนาวและอุณหภูมิต่ำกว่า 16 องศาเซลเซียส ขอให้ประชาชนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากอากาศที่เปลี่ยนแปลงไว้ด้วย

สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับในช่วงวันที่ 2-3 ธันวาคม 2556 จะมีหย่อมความกดอากาศต่ำจากทะเลจีนใต้ตอนล่างเคลื่อนเข้าปกคลุมประเทศมาเลเซีย และภาคใต้ตอนล่าง ทำให้ภาคใต้บริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส มีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระมัดระวังอันตรายและผลกระทบจากฝนตกหนัก ส่วนในช่วงวันที่ 29 พฤศจิกายน
ถึง 3 ธันวาคม บริเวณอ่าวไทยตอนล่างจะมีคลื่นสูง 2-4 เมตร เรือเล็กในอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดชุมพรลงไปควรงดออกจากฝั่งในช่วงดังกล่าว

 
พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.

ภาคเหนือ  อากาศเย็นถึงหนาวกับมีหมอกในตอนเช้า และลมแรง อุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศาเซลเซียส โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง
 ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา น่าน และตาก
อุณหภูมิต่ำสุด 16-21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส
สำหรับบริเวณยอดดอย อากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 11-15 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. 

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ  อากาศเย็นถึงหนาวกับมีหมอกบางในตอนเช้า และลมแรง
อุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิต่ำสุด 16-18 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-32 องศาเซลเซียส
สำหรับบริเวณยอดภู อากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 9-13 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. 

ภาคกลาง  อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า และลมแรง อุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิต่ำสุด 20-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส
สำหรับบริเวณเทือกเขา อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 18-23 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. 

ภาคตะวันออก  อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า และลมแรง อุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส
สำหรับบริเวณเทือกเขา อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 18-23 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร 

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีเมฆมากกับมีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่
บริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส
อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-32 องศาเซลเซียส
อ่าวไทยตอนบน ตั้งแต่จังหวัดชุมพรขึ้นมา
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
อ่าวไทยตอนล่าง ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไป
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-45 กม./ชม.ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2-4 เมตร 

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)  มีเมฆเป็นส่วนมากกับมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล
อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-32 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง1-2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร 

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล  มีเมฆบางส่วน กับมีหมอกบางในตอนเช้า และลมแรง
อุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. 

[เหยง 16]

ภาพแสดงหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง (บริเวณที่มีเมฆมาก) ปกคลุมประเทศมาเลเซียอยู่ และอาจต้องจับตาดูเช่นกันว่า หากผ่านภาคใต้ของประเทศไทยไปลงทะเลอันดามันแล้ว ยังจะมีแรงพัฒนาต่อเป็นพายุไซโคลนอีกลูกหรือไม่ ??



ส่วนพายุไซโคลนเลฮาร์ Lehar (TC 05B) ขึ้นฝั่งประเทศอินเดียตั้งแต่เมื่อวานนี้แล้ว

[Manop Klabdee]

สวัสดีครับ คุณเหยง

               โปรดอุเบกขาเสียเถิด

               มีเพียง พี่สิงห์ คุณประทาน คุณเหยง คุณน้องหนุ๋งหนิ๋ง  คุณเริง๒๐ และ ป๋าทู

               เท่านั้นแล้วตอนนี้

               สวัสดี

[เหยง 16]

พี่สิงห์ครับ


ที่ผมทำเพื่อจะกระตุ้นให้ชาวหอที่เข้าเ้ว็ปมา ได้ทราบว่า ใครกำลังเข้ามา? รุ่นเดียวกันหรือไม่?
หรือรู้จักกันหรือเปล่า? จะทำให้เว็ปนี้กลับมาสนุกสนานแบบเดิมๆ เช่นเมื่อเริ่มก่อตั้ง !!

[เหยง 16]

ข้อมูล ณ 15.25 น.ของวันนี้ครับ

วันนี้ออนไลน์มากที่สุด: 102. ออนไลน์มากที่สุด: 248 (17 ตุลาคม 2556, 22:57:26)

เพื่อนของเราวันนี้ ทั้งหมด: 18 (แสดงตัว: 14, ซ่อนตัว: 4)
เหยง 16, churaipatara, songkeat2515, จ๋า 15, PRAPAS99, Manop Klabdee, nofasnk, หนุน'21, Pete15, kumpolcomcai, อ้อย17, สมชาย17, khesorn mueller, swsm

ผมจึงอยากให้ผู้ที่ซ่อนตัวออกมาช่วยเรียกเพื่อนๆ เข้าเว็ปครับ

[เหยง 16]

เทียบสหรัฐฯ-ไทย ฝ่ายบริหารขัดตุลาการ
 

ประเด็นการเมืองในไทยช่วงนี้ คงหนีไม่พ้น เรื่องการแก้รัฐธรรมนูญในปมที่มาของสมาชิกวุฒิสภา ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยออกมาแล้วว่าขัดต่อรัฐธรรมนูญ ซึ่งเรื่องลักษณะนี้ ไม่ได้เกิดขึ้นแค่ในเมืองไทยเท่านั้น เพราะแม้แต่ประเทศมหาอำนาจ ที่ทั่วโลกยอมรับว่าเป็นต้นแบบของระบอบประชาธิบไตยมากที่สุด อย่างสหรัฐอเมริกาเอง ก็ประสบเหตุการณ์คล้าย ๆ กัน หลังมีการผ่านกฎหมายรับรองการแต่งตั้งผู้พิพากษา ซึ่งอยู่ในฝ่ายตุลาการ

วัน พฤหัสบดีที่ผ่านมาวุฒิสภาสหรัฐฯ ผ่านกฎหมายเปลี่ยนแปลงระเบียบการประชุม เรื่องการรับรองการแต่งตั้งผู้พิพากษาจาก ประธานาธิบดี โดยลดจำนวนเสียงของสมาชิกวุฒิสภา หรือ สภาสูง จาก 60 เสียง เหลือเพียง 50 เสียง แต่ไม่รวมการแต่งตั้งผู้พิพากษาศาลรัฐธรรมนูญ ที่ยังคงจำเป็นต้องใช้ทั้งหมด 60 เสียง
 

และ ไม่กี่วันหลังการเปลี่ยนแปลง วุฒิสมาชิกได้รับรองการแต่งตั้งนาง แพทริเซีย มิลเล็ท เป็นผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ของรัฐวอชิงตันดีซี ด้วยคะแนนเสียง 55 ต่อ 45 หากเทียบให้เห็นชัดยิ่งขึ้นจะพบว่าแต่เดิมตามรัฐธรรมนูญของสหรัฐฯ ฝ่ายตุลาการ ซึ่งประกอบด้วย ศาลชั้นต้น ศาลอุทรณ์ และศาลฎีกา

ศาล ฎีกามีอำนาจที่จะล้มเลิกกฎหมายใด ๆ และการปฏิบัติการของฝ่ายบริหาร หลังจากวินิจฉัยแล้วว่าขัดต่อรัฐธรรมนูญ ส่วนการแต่งตั้งผู้พิพากษา ศาลฎีกา นั้น ประธานาธิบดีจะเป็นผู้เสนอชื่อและวุฒิสภาเป็นผู้ให้การรับรอง โดยศาลสูงของสหพันธ์ มีผู้พิพากษาทั้งหมด 9 คน ซึ่งดำรงตำแหน่งได้ โดยไม่มีการกำหนดวาระ

ขณะที่นาย บารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ออกมาแถลงสนับสนุนการแก้ไขกฎหมายนี้ แต่นาย มิทช์ แม็คคอเนล ผู้นำเสียงข้างน้อยในวุฒิสภาจากพรรครีพับลิกันโต้กลับว่า ประธานาธิบดีโอบามา กำลังจะพึ่งอำนาจตุลาการในการผ่านกฎหมาย โดยใช้การแต่งตั้งเป็นเครื่องมือ เนื่องจากพรรครีพับลิกัน ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับรัฐบาล คุมเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร
 

ด้าน นักวิเคราะห์การเมือง มองว่า การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ ถือเป็นดาบสองคม เพราะแม้กฎหมายจะช่วยให้ลดอำนาจของพรรครีพับลิกันได้ แต่หากพรรครีพับลิกัน ชนะการเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดี และมีเสียงในวุฒิสภาเกินครึ่งหนึ่ง ก็จะทำให้สามารถผ่านกฎหมายและการแต่งตั้งต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้นในอนาคตเช่นกัน

นอก จากนี้จะทำให้กฎหมาย ที่ต้องผ่านมติจากสภาล่าง ซึ่งยังคงค้างอยู่หลายฉบับ เช่น กฎหมายตรวจคนเข้าเมือง กฎหมายควบคุมการปล่อยแก๊ส กฎหมายการเงิน อาจไม่ได้รับการสนับสนุนจากรีพับลิกัน

ขณะเดียวกันยังเป็นการสะท้อน ให้ เห็น ถึงความไร้เสถียรภาพ ในการร่วมมือกันของทั้งสองพรรค และแสดงถึงความแตกแยกที่เพิ่มมากขึ้นในการเมืองของสหรัฐฯ
 
ตัวอย่าง ที่เห็นได้ชัดที่สุดก็คือ การผลักดันกฎหมายประกันสุขภาพของประธานาธิบดีโอบามา หรือ โอบามาแคร์ ที่ไม่ได้รับการยอมรับจากเสียงส่วนน้อย จนเกือบจะทำให้รัฐบาลกลาง ล้มละลายเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์
 

สหรัฐ อเมริกา มีระบอบการปกครองในแบบสหพันธรัฐ ที่มีการแบ่งแยกอำนาจออกเป็น 3 ฝ่าย ตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ โดยแต่ละฝ่าย จะได้รับเลือกมาในลักษณะที่แตกต่างกัน เพื่อให้มีการตรวจสอบและถ่วงดุลอำนาจซึ่งกันและกัน
 
โดยฝ่าย บริหาร มีประธานาธิบดี เป็นประมุขและเป็นหัวหน้ารัฐบาล ได้รับเลือกจากการเลือกตั้งทั่วไป ร่วมกับรองประธานาธิบดีทุก 4 ปี ในวันอังคารแรก หลังวันจันทร์แรกของเดือนพฤศจิกายน ซึ่งตามกฎหมายรัฐธรรมนูญสหรัฐฯ ผู้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี ต้องมาจากการเลือกตั้ง ผ่านคณะผู้เลือกตั้ง 538 คน ดำรงตำแหน่งไม่เกิน 2 สมัย สมัยละ 4 ปี มีอำนาจเป็นผู้ร่างรัฐบัญญัติต่อรัฐสภา และทำหน้าที่เป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผู้ทำสนธิสัญญาต่าง ๆ ตลอดจนแต่งตั้งผู้พิพากษาเอกอัครราชทูต และตำแหน่งต่าง ๆ ของฝ่ายบริหารตั้งแต่ระดับรองผู้ช่วยรัฐมนตรีขึ้นไป
ส่วน ฝ่ายนิติบัญญัติ ประกอบด้วย 2 สภา คือ วุฒิสภา มีสมาชิกจากแต่ละมลรัฐ มลรัฐละ 2 คน รวมเป็น 100 คน ดำรงตำแหน่งสมัยละ 6 ปี โดยสมาชิกจำนวน 1 ใน 3 ครบวาระทุก 2 ปี โดยวุฒิสภา มีอำนาจให้ความเห็นชอบ หรือไม่เห็นชอบต่อบุคคลที่ประธานาธิบดีเสนอขอแต่งตั้ง รวมทั้งคณะรัฐมนตรี และให้สัตยาบันสนธิสัญญา รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ เป็นผู้ดำรงตำแหน่งประธานวุฒิสภา โดยตำแหน่ง ซึ่งคนปัจจุบัน คือนาย โจเซฟ โรบิเน็ท ไบเด็น ผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภา คือ นาย แฮรี่ รีด ส่วนผู้นำเสียงข้างน้อย คือ นาย มิทช์ แม็คคอเนล
 
 
ขณะ ที่ สภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐฯ มีสมาชิก 435 คน แบ่งตามสัดส่วนของประชากรในมลรัฐ คือ ประชากร 575,000 คน ต่อ สมาชิก 1 คน ดำรงตำแหน่งสมัยละ 2 ปี
ด้านฝ่ายตุลาการ ประกอบด้วย ศาลชั้นต้น ศาลอุทรณ์ และศาลฎีกา โดยศาลฎีกา มีอำนาจที่จะล้มเลิกกฎหมายใด ๆ และการปฏิบัติการของฝ่ายบริหารที่ได้วินิจฉัยแล้วว่าขัดต่อรัฐธรรมนูญ ในการแต่งตั้งผู้พิพากษาศาลฎีกานั้น ประธานาธิบดี จะเป็นผู้เสนอชื่อและวุฒิสภาเป็นผู้ให้การรับรอง โดยศาลสูงของสหพันธ์ มีผู้พิพากษาทั้งหมด 9 คน ซึ่งตำรงตำแหน่งได้ โดยไม่มีการกำหนดวาระ.
ไทยรัฐออนไลน์
•   โดย ไทยรัฐออนไลน์
•   22 พฤศจิกายน 2556, 17:00 น.

ชมภาพเพิ่มเติมที่ ไยรัฐออนไลน์.............
http://www.thairath.co.th/content/oversea/384634

[เหยง 16]

อีกสักครู่จะออกไปงานครับ....

[เหยง 16]

สวัสดีครับ

กลับจากงานไทยฮีโน่ไนท์แทงกิ้วเดย์แล้วครับ
วันนี้บริษัทขายรถยนต์บรรทุกได้ถึง 46 คัน มูลค่ากว่าหนึ่งร้อยห้าสิบล้านบาททีเดียว
มีคนสั่งจองสูงสุดรายเดียว 6 คัน มูลค่ากว่า 20 ล้านบาท

[เหยง 16]

สวัสดีครับในเช้าวันเสาร์

ฟ้าเปิด แดดออกดีจัง อากาศไม่หนาวเย็นเท่าใดนัก เหมาะกับการทำกิจกรรมร่วมกับครอบครัว
แต่เช้าต้องเปิดประตูบ้านให้คุณแม่บ้านและลูกสาว ไปตักบาตรพระที่ตลาดปากน้ำโพ
พร้อมจ่ายตลาดนำหมู ผัก ปลาทู กลับบ้านสำหรับสต๊อกไว้กินยาวๆ เพื่อประหยัดน้ำมันรถ