23 พฤศจิกายน 2567, 04:56:04
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: 1 ... 385 386 [387] 388 389 ... 472   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: คุยกับ เหยง 16 - พิเชษฐ์ เชื่อมฯ-เตรียมฉลอง 100 ปี หอซีมะโด่ง จุฬาฯ  (อ่าน 2591962 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 27 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #9650 เมื่อ: 03 ตุลาคม 2556, 21:33:45 »

วันนี้อากาศร้อนอบอ้าวครับ หลังจากช่วงเช้ามีฝนตกเล็กน้อยถึง 08.30 น. จากนั้นแดดออกตลอดทั้งวัน
อากาศร้อนอบอ้าวเพราะเมฆมาก
วันที่ 5 ต.ค. จะเริ่มเข้าสู่ฤดูกินเจ จนถึงวันที่ 13 ต.ค.นี้
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #9651 เมื่อ: 03 ตุลาคม 2556, 21:42:20 »

บางมุมของ “พระสังฆราช” ที่ชาวพุทธยังไม่รู้
2 ตุลาคม 2556 21:11 น.


       วันนี้ (3 ตุลาคม) เป็นวันที่เหล่าพุทธศาสนิกชนชาวไทย ล้วนปลาบปลื้มปีติเป็นล้นพ้น เนื่องด้วยสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช ทรงเจริญพระชันษา 100 ปี พระองค์ทรงได้รับพระราชทานสถาปนาเป็นสมเด็จพระสังฆราช ในราชทินนามที่สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เมื่อวันที่ 21 เม.ย. 2532 นับเป็นสมเด็จพระสังฆราชพระองค์ที่ 19 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์
       
       ด้วยพระองค์ทรงมีพระเมตตาต่อพุทธศาสนิกชนไทยเป็นล้นพ้น ทรงประกอบศาสนกิจเป็นคุณประโยชน์เอนกอนันต์ มิเพียงแต่ชาวพุทธในประเทศไทยเท่านั้น แต่ยังทรงแผ่พระเมตตาบารมีไปทั่วโลก พระองค์ท่านจึงได้รับการยกย่องจากทั้งชาวพุทธในประเทศไทยและในต่างประเทศ
       
       พระประวัติชีวิตและผลงานของพระองค์ จึงมีผู้นำมาเขียนเผยแพร่อยู่มากมาย แต่ก็ยังมีบางมุมในพระประวัติ ที่เชื่อว่าชาวพุทธหลายคนยังอาจจะไม่เคยรับทราบมาก่อน โอกาสนี้ กองบรรณาธิการ เอเอสทีวี ผู้จัดการรายวัน ได้รับความกรุณาจาก พระ ดร.อนิลมาน ศากยะ ผู้ช่วยเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช ได้เมตตาเล่าถึงพระประวัติส่วนพระองค์ ที่สะท้อนถึงพระจริยวัตรอันงดงาม มีคุณค่าแก่ชาวพุทธ ให้ได้ยึดถือเป็นแบบอย่างสืบเนื่องต่อไป
       
       อนึ่ง พระ ดร.อนิลมาน ศากยะ เป็นชาวเนปาล สมเด็จพระสังฆราชทรงรับอุปถัมภ์ตั้งแต่เป็นสามเณรอายุ 14 ปี ทรงสั่งสอนหลักธรรม และส่งเสริมให้เรียนรู้จนจบปริญญาเอก จากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ ประเทศอังกฤษ ด้วยพระ ดร.อนิลมาน รับใช้สมเด็จพระสังฆราชมาตั้งแต่ยังเป็นเด็กจนเจริญวัยในปัจจุบัน จึงเป็นท่านหนึ่งที่ทราบถึงพระประวัติส่วนพระองค์ทุกเรื่องได้เป็นอย่างดี
       
       พระจริยวัตรประจำวัน
       
       พระ ดร.อนิลมาน เล่าว่า สมเด็จพระสังฆราชทรงตื่นบรรทมทุกเช้าเวลา 03.30 น. จากนั้นจะทรงนั่งสวดมนต์ภาวนาไปจนถึงเวลา 05.00 น. บทสวดมนต์ที่พระองค์ท่องประจำ มีตั้งแต่สวดพระปาติโมกข์ ท่องพระสูตรและพระคาถาต่างๆ
       
      “ถ้าวันไหนมีกิจกรรมเยอะๆ จะต้องทำ พระองค์จะรับสั่งกับอาตมาว่า...วันนี้สวดยังไม่จบคอร์สเลย...เพราะทรงพระอารมณ์ดี”
       
       หลังจากสวดมนต์เสร็จ พระองค์จะทรงนั่งสมาธิเพื่อฝึกจิตให้นิ่งและมั่นคง ต่อไปจนถึง เวลา06.00 น. จากนั้นจึงเสด็จออกจากพระตำหนัก เพื่อรับแขกที่มาเข้าเฝ้าหรือเสด็จบิณฑบาต แม้ตอนที่พระองค์เป็นพระสังฆราชก็ยังเสด็จออกบิณฑบาตเป็นประจำ
       
        “พระสังฆราชทรงพระเมตตามาก หลังจากบิณฑบาตกลับมาทรงเห็นเณรน้อยหลายรูป ที่ไม่ค่อยมีใครใส่บาตร ส่วนพระองค์ของเต็มบาตรเพราะมีประชาชนมาถวายกันเยอะ พระองค์จะทรงแบ่งอาหารจากบาตรให้แก่เณรด้วย หรือบางทีพระรอบกุฏิที่ไม่ออกบิณฑบาต พระองค์ทรงกลัวว่าพระเหล่านั้นจะไม่มีอาหารฉัน ก็จะทรงแบ่งอาหารในบาตรให้ พร้อมพูดติดตลกว่า แทนที่ลูกศิษย์จะเลี้ยงอุปัชฌาย์ กลายเป็นอุปัชฌาย์เลี้ยงลูกศิษย์แทน”
       
       ในทุกๆ วัน จะมีทั้งแขก ผู้มีชื่อเสียงและเหล่าพุทธศาสนิกชน มาเข้าเฝ้าสมเด็จพระสังฆราชเป็นจำนวนมาก พระองค์ทรงอนุญาตให้เข้าเฝ้าตั้งแต่ 07.00 น. เป็นต้นไป จนถึง 09.30น. จึงจะเสวยพระกระยาหาร โดยเสวยมื้อเดียวมาตลอด
       
       พระ ดร.อนิลมาน เล่าว่า แขกที่มาเข้าเฝ้าพระองค์ บางวันมีจำนวนมากจนบางครั้งขณะที่พระองค์ทรงเสวยก็ยังมีมาเข้าเฝ้า
       
       “วันหนึ่งสมเด็จพระเทพฯ เสด็จมา ทอดพระเนตรเห็นมีแขกมาเข้าเฝ้า ขณะที่ สมเด็จพระสังฆราชกำลังเสวย สมเด็จพระเทพฯ ทรงเขียนป้ายบอกว่า ห้ามเข้าเฝ้าจนกว่าจะเสวยเสร็จ...เพราะทรงเห็นว่า พระองค์มีเวลาเสวยเพียงวันละมื้อเท่านั้น”
       
       สมเด็จพระสังฆราชจะบรรทมอีกทีประมาณ 1 ชั่วโมงหลังเสวยเสร็จ เมื่อตื่นบรรทมแล้วถ้ามีงานนิมนต์ก็จะเสด็จไป หรือถ้าเป็นช่วงเข้าพรรษา พระองค์จะเสด็จไปสอนพระใหม่ แต่ถ้าไม่ได้เสด็จไปไหน พระองค์จะใช้เวลาตลอดช่วงบ่าย ค้นคว้าตำรา ทรงอ่านหนังสือหรือทรงพระนิพนธ์
       
       ช่วงเวลา 16.00-18.00 น. ทรงเปิดพระตำหนักให้ญาติโยมได้เข้าเฝ้าอีกครั้ง จากนั้นถ้ามีเวลาเหลือ จะทรง
       ค้นคว้าและทรงพระนิพนธ์งาน หรือทรงเตรียมงานสำหรับวันต่อไป
       
       สมเด็จพระสังฆราชจะเข้าบรรทมทุกวันในเวลา 21.00 น. โดยก่อนบรรทมจะสวดมนต์เจริญภาวนาอีกครั้ง
       
       ทรงเป็นนักสื่อสารมวลชน
       
       หลายคนอาจจะไม่เคยทราบว่า สมเด็จพระสังฆราชเคยเป็น “นักจัดรายการวิทยุ” ด้วย โดย พระ ดร.อนิลมาน เล่าว่า ครั้งหนึ่งสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี หรือ สมเด็จย่า ทรงเคยขอให้สมเด็จพระสังฆราชจัดรายการวิทยุ ที่สถานี อส. เกี่ยวกับเรื่องธรรมะเมื่อปี 2510 เป็นต้นมา
       
       “พระองค์จะทรงเขียนบทวิทยุเอง เป็นบทสั้นๆ ประมาณ 10 นาที แล้วทรงอ่านอัดเทปเพื่อนำไปเปิดในรายการ ครั้งหนึ่งสมเด็จย่าทรงให้พระองค์ทรงเขียนเรื่องธรรมะสำหรับผู้ใหญ่ เพื่อนำไปออกอากาศ พระองค์จึงทำบทวิทยุเรื่อง “การบริหารจิตสำหรับผู้ใหญ่” โดยทำเป็นตอนๆ และในช่วงท้าย พระองค์กทรงนิพนธ์เรื่องจิตตนครขึ้นมา”
       
       นอกจากนี้ พระ ดร.อนิลมาลยังเปิดเผยว่า สมเด็จพระสังฆราชทางเป็นคนทันสมัยมาก เพราะครั้งหนึ่งพระองค์เคยเป็นคอลัมนิสต์เขียนบทความลงใน “ศรีสัปดาห์” ซึ่งเป็นนิตยสารของผู้หญิง
       
       ทรงเป็นกวีเอก
       
       อีกเรื่องหนึ่งที่น้อยคนนักจะรู้ว่า สมเด็จพระสังฆราชทรงเป็นกวีที่เก่งมาก ทรงแต่งโคลง ฉันท์ กาพย์ กลอนทุกประเภท ทั้งภาษาบาลีและภาษาไทยได้อย่างสละสลวย โดยเฉพาะ วันคล้ายวันพระราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระสังฆราชทรงพระนิพนธ์กลอนถวายทุกปี
       
       เมื่อสมัยที่ทรงผนวชเป็นพระใหม่ สมเด็จพระสังฆราชเดินทางมายังกรุงเทพฯ เพื่อศึกษาพระปริยัติธรรมที่วัดบวรนิเวศวิหาร พระองค์ทรงสอบได้นักธรรมชั้นตรีได้เมื่อ พ.ศ. 2472 และทรงสอบได้นักธรรมชั้นโท และเปรียญธรรม 3 ประโยค ในปี พ.ศ. 2473
       
       แต่ครั้นสอบเปรียญธรรม 4 ประโยค ผลปรากฏว่า ทรงสอบตกทั้งๆ ที่ทรงตั้งพระทัยมาก ทำให้ทรงรู้สึกท้อแท้มาก พระ ดร.อนิลมาน เล่าว่า ทรงระบายความรู้สึกผิดหวังออกมาเป็นกลอน หลังจากนั้น พระองค์ก็ทรงใช้ความผิดหวังเป็นพลังกลับไปสอบใหม่จนจบเปรียญ 9
       
       รับสั่งได้ถึง 4 ภาษา
       
       พุทธศานิกชนมักจะเห็นว่า เหล่าแขกที่มาเข้าเฝ้าสมเด็จพระสังฆราชนั้น มีทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติมากมาย คำถามคือ สมเด็จพระสังฆราชทรงรับสั่งภาษาอังกฤษได้หรือไม่ เรื่องนี้ พระ ดร.อนิลมาน ได้เล่าว่า พระองค์มีพระปรีชามาก ทรงฝึกหัดภาษาต่างประเทศด้วยพระองค์เอง จนสามารถรับสั่งอย่างคล่องแคล่ว และทรงเขียนได้ 4 ภาษาคือ ภาษาอังกฤษ, ฝรั่งเศส, เยอรมัน และ จีน นอกจากนี้ ตัวอักษรที่ทรงอ่านและเขียนได้คล่องคืออักษรขอมโบราณ อักษรพม่า อักษรสิงหล และอักษรเทวนาครี
       
       พระนิพนธ์อันทรงคุณ
       
       พระ ดร.อนิลมาน เล่าว่า สมเด็จพระสังฆราชทรงนิพนธ์เรื่องต่างๆ ไว้เป็นอันมาก ทั้งที่เป็นตำรา พระธรรมเทศนา นิยายทั่วไป โดยพระนิพนธ์ล่าสุดเรื่อง “จิตตนคร” โดย พระธีรโพธิ ภิกขุ ได้จัดพิมพ์เป็นหนังสือภาพในชื่อ “จิตรกรรมเล่าเรื่องจิตตนคร” เพื่อฉลองพระชันษา 100 ปี
       
       “พระนิพนธ์มีมหาศาลมากที่กำลังจัดพิมพ์ขณะนี้ มีถึง 32 ซีรีย์ แต่ละเล่มหนาถึง 500หน้า ซึ่งเป็นธรรมะทุกระดับ”
       
       ครั้งหนึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงสดับฟังเทปของสมเด็จพระสังฆราชเรื่อง “สัมมาทิฏฐิ” ซึ่งเป็นธรรมะที่ลึกซึ้ง และทรงสนพระทัยมากจนขอประทานอนุญาตสมเด็จพระสังฆราช เพื่อพิมพ์ถวาย โดยในหลวงทรงพิสูจน์อักษรด้วยพระองค์เอง
       
       ส่ง”พระธรรมทูต”เผยแผ่ศาสนา
       
       สมเด็จพระสังฆราชทรงทันสมัยและมีวิสัยทัศน์ในเรื่องพระศาสนาอย่างกว้างไกล ปัจจุบันเราจะเห็นว่า มีพระไทยและวัดไทยที่ไปเผยแผ่พระพุทธทั่วโลก อันเนื่องมาจากพระดำริที่มองการณ์ไกลของพระองค์นั่นเอง
       
       เมื่อปี พ.ศ.2509 สมเด็จพระสังฆราชเป็นพระองค์แรก ที่ทรงดำริที่จะเผยแผ่พระพุทธศาสนาไปยังต่างประเทศ พระองค์จึงทรงเป็นประธานกรรมการอำนวยการ ฝึกอบรมพระธรรมทูตในต่างประเทศ
       
       “ตอนนั้นพระองค์ท่านทรงริเริ่มฝึกพระธรรมทูต โดยเลือกจากพระเณรให้ฝึกพูดภาษาอังกฤษก่อน จากนั้นก็ฝึกให้ใช้ชีวิตที่เปลี่ยนตามสภาพแวดล้อมได้ เพื่อง่ายต่อการส่งไปเผยแพร่ศาสนายังวัดในต่างประเทศ”
       
       จากพระธรรมทูตองค์แรกเมื่อปี 2509 จนถึงปัจจุบัน มีพระธรรมทูตที่ไปเผยแผ่พระพุทธศาสนา และสร้างวัดทั่วโลกถึง 200 แห่ง และในโอกาสฉลองพระชันษา 100 ปี เหล่าพระธรรมทูตก็ได้กลับมาที่วัดบวรฯ เพื่อสัมมนาตรวจสอบจิตวิญญาณแห่งพระธรรมทูตครั้งใหญ่ร่วมกัน
       
       เนื่องในวโรกาสที่ใต้ฝ่าพระบาทเจริญพระชนมายุ 100 พรรษา กองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ เอเอสทีวี ผู้จัดการรายวัน ขอตั้งจิตอธิษฐาน ขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัย และอำนาจพระกุศลบารมี ที่ใต้ฝ่าพระบาททรงกระทำบำเพ็ญมา จงอภิบาลรักษาใต้ฝ่าพระบาทให้เสด็จสถิตเป็นบุญยฐานและประทีปธรรมของปวงพุทธบริษัทตลอดไป
       
       ข่าวโดยทีมข่าว Celeb-Online
       
       

 
จาก http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrView.asp?NewsID=9560000124143
 
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #9652 เมื่อ: 04 ตุลาคม 2556, 09:26:00 »


ฝนมากขึ้นในภาคกลาง ภาคตะวันออก กทม.และปริมณฑล ถึงร้อยละ 80 ของพื้นที่

พยากรณ์อากาศ ประจำวันศุกร์ที่ 4 ตุลาคม 2556
ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น.  ร่องมรสุมกำลังค่อนข้างแรงจะยังคงพาดผ่านภาคกลางตอนล่าง ภาคใต้ตอนบน และภาคตะวันออก อย่างต่อเนื่องจนถึงวันที่ 5 ตุลาคม 2556 ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคกลางตอนล่าง ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีฝนหนาแน่นและมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณจังหวัดลพบุรี สระบุรี พระนครศรีอยุธยา กาญจนบุรี สุพรรณบุรี ราชบุรี กรุงเทพมหานครรวมทั้งปริมณฑล นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด เพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักในช่วงวันที่ 4-5 ตุลาคม 2556 ไว้ด้วย
อนึ่ง พายุโซนร้อน “ฟิโทว์” (FITOW) บริเวณมหาสมุทรแปซิฟิก กำลังเคลื่อนตัวทางทิศเหนือเช้าใกล้เกาะโอกินาว่า ประเทศญี่ปุ่น โดยพายุนี้ไม่มีผลกระทบต่อประเทศไทย
 
พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.

ภาคเหนือ  มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัด
ตาก สุโขทัย พิษณุโลก กำแพงเพชร พิจิตร และเพชรบูรณ์

อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
 
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ  มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัด
เลย ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี

อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
 
ภาคกลาง  มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 80 ของพื้นที่และมีฝนตกหนักบางแห่ง
บริเวณจังหวัดลพบุรี สระบุรี พระนครศรีอยุธยา กาญจนบุรี สุพรรณบุรี และราชบุรี

อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส
ลมแปรปรวน ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
 
ภาคตะวันออก  มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
บริเวณจังหวัดนครนายก ฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี สระแก้ว ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด

อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-31 องศาเซลเซียส
ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
 
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)  มีเมฆมากกับมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่
และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดเพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์

อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
 
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีเมฆมากกับมีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 80 ของพื้นที่
และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดระนอง พังงา และภูเก็ต

อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-32 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
 
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล  มีเมฆมาก โอกาสมีฝนตก ร้อยละ 80 และมีฝนตกหนักบางแห่ง
อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-31 องศาเซลเซียส
ลมแปรปรวน ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
 
 
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #9653 เมื่อ: 04 ตุลาคม 2556, 17:15:45 »

นครสวรรค์แดดดีตั้งแต่เช้าครับ แต่เมฆมาก อากาศจึงร้อนอบอ้าว
วันนี้หมอกลงจังหวัดภาคเหนือ แสดงว่าอากาศเย็นจากประเทศจีนเริ่มไหลลงมาแล้ว
คาดว่ากลางเดือนนี้ ประเทศไทยจะเริ่มเข้าสู่ฤดูหนาวครับ
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #9654 เมื่อ: 04 ตุลาคม 2556, 19:30:23 »

วันนี้ได้มีโอกาสโทรหา พ.ต.อ.ราชันย์ อินทร์สิงห์ รัฐ & RCU 2516 ซึ่งเพิ่่งเกษียณชีวิตราชการ
จากตำแหน่ง ผกก.สภ.หนองบัว บกจ.นครสวรรค์มาได้ 4 วัน อย่างงดงาม-หมดจน
สอบถามได้ความว่ายังทำกิจกรรมเฉพาะสังคม และชาวจุฬาฯ อยู่
โดยมีบ้านพักอยู่ในจังหวัดนครสวรรค์ครับ


เกษียณแล้วอย่าหาภาระใส่ตัว
updated: 03 ต.ค. 2556 เวลา 13:50:04 น.

ประชาชาติธุรกิจออนไลน์

คอลัมน์ โลกสองวัย : โดย บางกอกเกี้ยน

จาก 20 ปีแรกของชีวิต คนเรามักอยู่กับการเรียน รวมไปถึงการเรียนรู้เรื่องการทำงาน บางคนทำงานไปเรียนไป บางคนทำงานกระทั่งเริ่มมีฐานะดี จึงไปเริ่มเรียนเมื่ออายุ 20 ปีต่อมา

หลังจากผ่านพ้นวัย "ทีนเอจ" เข้าสู่วัย 20 ปี เราผ่านชีวิตจากการเรียน หากไม่เรียนวิชารักษาดินแดน อายุ 20 ปีจะต้องเข้ารับการคัดเลือกทหาร และอาจเข้าบวชในบวรพุทธศาสนา สำหรับผู้ชาย ส่วนผู้หญิง นอกจากอาจเรียนต่อ อาจทำงาน อาจต้องเตรียมตัวมีครอบครัว มีลูก

เมื่อพ้น 40 ปีไปแล้ว เวลา 20 ปีต่อจากนั้นจนถึง 60 ปี ต้องเตรียมตัวรอรับการเป็นผู้สูงอายุ

กระนั้นเมื่ออายุ 55 ปี บริษัทเอกชนจะเริ่มให้พนักงาน ลูกจ้างออกจากงานก่อนกำหนด ด้วยเหตุผลบางประการ เช่นบริษัทที่เริ่มให้ออกจากงานก่อนกำหนดแรกๆ น่าจะเป็นบริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือปัจจุบันใช้ชื่อ SCG ซึ่งก่อตั้งมาได้ครบ 100 ปี ปีนี้

เหตุผลคือ บริษัทปูนซิเมนต์ก่อตั้งมานาน มีพนักงานที่แบ่งออกเป็นสองส่วน คือส่วนของการปฏิบัติงาน กับส่วนของการบริหารงาน

ทั้งสองส่วนงาน มีเงินเดือนและค่าตอบแทนเขยิบขึ้นไปทุกปี ด้วยเหตุที่บริษัทปูนซิเมนต์บริหารงานแบบฝรั่ง คือการเข้างานเช้า และต้องตรงต่อเวลา หากไปสายเพียงนาทีสองนาที จะมีผลต่อการพิจารณาความดีความชอบ ขณะที่ส่วนงานปฏิบัติมีภาระงานไม่ค่อยเปลี่ยนแปลง แต่เงินเดือนและค่าตอบแทนสูงขึ้นทุกปี เมื่ออายุมากขึ้น เงินเดือนและค่าตอบแทนสูงขึ้น แต่ภาระงานใกล้เคียงกับเดิม

ดังนั้น การจัดจ้างพนักงานใหม่ที่มีอายุน้อยกว่า มีเงินเดือนและค่าตอบแทนน้อยกว่า จึงคุ้มกับการที่จะว่าจ้างพนักงานผู้ที่มีอายุ 55 ปีออกจากงานด้วยการจ่ายเงินเดือนให้ตามเวลาที่เหลืออีก 5 ปี แล้วนำอัตราเงินเดือนนั้นมาว่าจ้างพนักงานใหม่จากเงินเดือนของพนักงานคนเดิมได้พนักงานคนใหม่ 3 คน เป็นต้น

หรืออาจจะว่าจ้างพนักงานสายบริหารซึ่งเป็นผู้มีความรู้ความสามารถด้านวิศวกรเพิ่งสำเร็จจากมหาวิทยาลัยทั้งยังมีเกียรตินิยมติดมาด้วยคุ้มค่ากว่าเป็นไหนๆ

แต่เมื่อบุคลากรนั้นยังอยู่ถึง 60 ปี เป็นอันว่าจบชีวิตในหน้าที่การงานนั้น

ผู้ใหญ่ในกระทรวงศึกษาธิการคนหนึ่ง ให้ข้อคิดสำหรับผู้ที่เกษียณราชการกับข้าพเจ้า (ผู้เขียน) เพื่อเป็นอุทาหรณ์ในวันที่ต้องเกษียณจากงานด้วยข้อคิดบางประการ

ผู้ใหญ่ท่านนั้นบอกว่า เมื่ออายุ 60 ปีขึ้นไปแล้ว จงใช้ชีวิตให้สะดวก ลุกนั่งสบาย อย่าได้ไปสร้างภาระให้กับตัวเองและลูกหลานอีกต่อไป อาทิ การไม่ทำ 4 อย่าง คือ

1.อย่าไปทำไร่ ทำนา ทำสวน หรือจะทำก็เป็นเพียงสวนครัว หรือปลูกไม้ดอกไม้ใบไว้ดูเล่นก็พอ สาเหตุเพราะจะเหนื่อยเปล่า ทั้งหากเพิ่งเริ่มต้น กว่าจะได้ดอกได้ผลก็ต้องใช้เวลาหลายปี

2.หากเป็นครูอาจารย์ อย่าทำงานกับลูกศิษย์ เพราะลูกศิษย์จะสอนอาจารย์ได้ เช่นเดียวกับลูกน้อง เขามีความคิดความอ่านที่เกินสมัยไปกว่าเราแล้ว

3.อย่าเลี้ยงหลาน แม้ว่าคนไทยมักบอกว่าอายุ 60 ปีแล้ว อยู่บ้านเลี้ยงหลานดีกว่า เพราะจะทำให้หลานเสียคน ด้วยปู่ย่าตายายมักตามใจหลาน แต่พ่อแม่เขาอาจไม่เห็นด้วยก็ได้

เรื่องนี้มีเรื่องเล่าว่าปู่ย่ามักตามใจหลาน เมื่อเห็นพ่อแม่ตีลูก ก็มักจะห้าม อาจถูกพ่อแม่หลานต่อว่ากลับก็ได้ว่าทำไม ลูกของผม ของหนู จะตีไม่ได้ ได้ยินดังนั้น ปู่ย่าก็ฟาดเข้าให้กับลูกของตัวเอง อ้าว พ่อมาตีผม ตีหนูทำไม ปู่ย่าตอบว่า ทำไมจะตีไม่ได้ ก็เอ็งเป็นลูกของข้าไง

4.อย่ามีเมียน้อย ความข้อนี้สำหรับชายสูงอายุเท่านั้น เพราะถึงวันนั้นจะหาเรี่ยวแรงมาจากที่ไหน

ส่วนเมื่อมีเงินแล้วอย่าซื้อของสองสิ่งนี้ คือ เครื่องบิน เรือยอชต์ และอย่าคิดแต่งงานใหม่ เพราะราคาแพง และมีค่าใช้จ่ายในการดูแลสูง ควรใช้วิธีเช่า หรือหาชั่วคราวคุ้มกว่า

เป็นอันว่า ผู้ชายอายุ 60 ปีแล้ว ใช้ชีวิตให้มีความสุขจะดีกว่า ส่วนผู้หญิงก็ตามแต่จะคิดนะครับ


ที่มา : นสพ.มติชน

http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1380782471

      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #9655 เมื่อ: 04 ตุลาคม 2556, 19:33:13 »

ได้บอกกับ อดีต ผกก.ไปถึงงานจุฬาฯ 2516 ในปีนี้ที่จะจัดในวันศุกร์ที่ 22 พฤศจิกายน 2556

และงานคืนสู่เหย้าชาวหอ ในวันอาทิตย์ที่ 25 มกราคม 2557 โดยงานจัดในบริเวณหอชาย

ซึ่ง ผกก. ยินดีไปร่วมงานที่ 2 งานและอยากพบเพื่อนๆ เพราะงานตำรวจห่างพื้นที่ไม่ค่อยจะได้

เกษียณแล้ว จึงมีเวลาว่างพอจะพบเพื่อนๆได้
      บันทึกการเข้า
หนุน'21
Global Moderator
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
*****


ซีมะโด่ง'จุฬาฯ ที่มาของผม
ออฟไลน์ ออฟไลน์

คณะ: "ครุศาสตร์"
กระทู้: 26,927

« ตอบ #9656 เมื่อ: 05 ตุลาคม 2556, 10:49:56 »


สวัสดีสายๆวันเสาร์ครับพี่เหยง
กทม. วันนี้ ท้องฟ้าครึ้มเมฆเต็ม
แม้กระนั้น แม่บ้านก็ยังชวนไปพันธ์ทิพย์
ไป update เทคโนโลยี ... ตามนั้นเลยครับ...


 เหนื่อย หลั่นล้า รักนะ
      บันทึกการเข้า

“สิ่งที่ล้ำค่าที่สุดในใต้หล้า ทั้งมิใช่ชื่อเสียง และไม่ใช่ทรัพย์ศฤงคาร หากแต่เป็นน้ำใจระหว่างคน ท่านหากได้มา พึงทะนุถนอมไว้
อย่าได้สร้างความผิดหวังต่อตนเองและผู้อื่น.” “วีรบุรุษสำราญ” “โกวเล้ง”
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #9657 เมื่อ: 05 ตุลาคม 2556, 12:17:37 »

หนุน


ฝนตามไปตกที่ กทม.และปริมณฑลแน่นอน
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #9658 เมื่อ: 05 ตุลาคม 2556, 12:56:17 »

หย่อมความกดอากาศต่ำจากเวียตนามมาถึงเขมร บวกร่องมรสุมตะวันตกเฉียงใต้
ทำให้ประทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้นในภาคกลางตอนล่สง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน กทม.และปริมาณฑล
ช่วงนี้ไม่มีพายุก่อตัวในทะเลจีนใต้ครับ

(จะมีก็แต่พายุใหญ่อยู่ในสภาฯ ถนนอู่ทองใน ที่ถาโถมกันด้วยน้ำลายแบบไม่มีหยุดมียั้ง โปรดหลีกหนีบริเวณนี้)
  บรึ๋ยยย  เหนื่อย
พยากรณ์อากาศ ประจำวันเสาร์ที่ 5 ตุลาคม 2556
ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา
"ฝนตกหนักบริเวณภาคกลางตอนล่าง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน และคลื่นลมแรงบริเวณอ่าวไทยตอนบน"

ฉบับที่ 5 ลงวันที่ 05 ตุลาคม 2556

ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 10:00 น.  หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงที่ปกคลุมบริเวณประเทศกัมพูชาได้เคลื่อนเข้ามาปกคลุมบริเวณอ่าวไทยตอนบนแล้ว ประกอบกับร่องมรสุมยังคงพาดผ่านภาคใต้ตอนบน และภาคตะวันออก ลักษณะเช่นนี้
ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนตกชุกหนาแน่นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณ
จังหวัด ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ และชุมพร ระวังอันตรายจาก
ฝนตกหนักในช่วงวันที่ 5-7 ตุลาคม 2556 ไว้ด้วย
สำหรับคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนบนจะมีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กที่มีขนาดความยาวน้อยกว่า 10 เมตร หรือ 5 วา ควรงดออกจากฝั่งในช่วง
วันที่ 5-8 ตุลาคม 2556
 
พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 12:00 วันนี้ ถึง 12:00 วันพรุ่งนี้. 

ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดน่าน อุตรดิตถ์
พิษณุโลก ตาก กำแพงเพชร พิจิตร และเพชรบูรณ์

อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส ณหภูมิสูงสุด 29-31 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม. 

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ  มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดมุกดาหาร
อำนาจเจริญ ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี

อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-33 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
 
ภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่
และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดลพบุรี สระบุรี พระนครศรีอยุธยา และราชบุรี

อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศาเซลเซียส
ลมแปรปรวน ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
 
ภาคตะวันออก  มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
บริเวณจังหวัดนครนายก สระแก้ว ฉะเชิงเทรา จันทบุรี ตราด

อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส
ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
 
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)  มีเมฆมากกับมีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่
และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดเพชรบุรี

อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
 
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีเมฆมากกับมีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่
และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดระนอง ตรัง และสตูล

อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-33 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร 

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล  มีเมฆมาก โอกาสมีฝนตก ร้อยละ 80 และมีฝนตกหนักบางแห่ง
อุณหภูมิต่ำสุด 26-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-32 องศาเซลเซียส
ลมแปรปรวน ความเร็ว 10-30 กม./ชม. 
 
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #9659 เมื่อ: 05 ตุลาคม 2556, 13:33:28 »

ข้อมูลจากห้องพี่สิงห์ครับ.....






      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #9660 เมื่อ: 05 ตุลาคม 2556, 13:51:54 »

วันนี้ หมอตุ่น โทรถึงผมตอนเช้า ช่วง 07.26 น.
คณะของนายกสมาคมหอฯ คือ คุณราเมศวร์, พี่ปรีดา วศ.06, พี่สัมพันธ์ ภู่ไพบูลย์, พี่จุก และหมอกำพล
กำลังจะออกเดินทางขึ้นเหนือ เพื่อเยี่ยมชาวหอซีมะโด่งเพื่อ present โครงการรินน้ำใจให้หอจุฬาฯ
และอาจแวะกลางทางเพื่อทานข้าว โดยใช้เส้นทางนครสวรรค์-พิษณุโลก ไปเชียงใหม่
แต่เนื่องจากไม่ได้นัดหมายล่วงหน้า เนื่องจากผมติดไปรับบริการแพทย์แผนไทย 13.00 น.ตรง
ซึ่งต้องจองไว้ล่วงหน้าในวันราชการทำการ ยกเลิกก็โดนต่อว่า (เพราะเขาขาดรายได้ไปโดยปริยาย)
จึงไม่สามารถรับรองคณะที่จะผ่านเส้นทางนี้ได้ ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ แต่ขอรับช่วงเย็นวันจันทร์ที่จะถึง หากเป็นไปได้

จึงมีข้อเสนอแนะครับว่า....อยากให้ประสานก่อนล่วงหน้าสัก 3-4 วัน
เพื่อให้ซีมะโด่งมีเวลาสับหลีกให้ลงตัว ยิ่งวันเสาร์-อาทิตย์ยิ่งต้องดูให้ดีครับ
เพราะบางท่านจะไม่อยู่ในพื้นที่ ด้วยหลายๆสาเหตุ เช่น ไปดูแลบุตรที่เรียนใน กทม. หรือ มหา'ลัยในจังหวัดอื่น
รวมทั้งการติดตามซีมะโด่งท่านอื่นๆ มาร่วมรับรองในช่วงทานข้าวทั้งเที่ยงและเย็น
เพราะทานข้าวกันน้อยคน ไม่บันเทิงและอาจไม่ได้สาระหรือข่าวสารพอเพียง

จังหวัดกำแพงเพชร มี รอง ผวจ. วัชรินทร์ ทองสกุล รัฐ & RCU 2516 เป็นรอง ผวจ.อยู่ที่นั่นครับ
โดยจังหวัดกำแพงเพชร สมาคมนิสิตเก่าจุฬาฯ แข็งแรงพอตัวทีเดียว
เบอร์ติดต่อ รอง ผวจ.วัชรินทร์ อาจจะต้องขอจากคุณหมอเสียดครับ
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #9661 เมื่อ: 05 ตุลาคม 2556, 18:24:35 »

มาอีกลูก! “ไต้ฝุ่นฟิโทว์” จ่อถล่ม “ไต้หวัน-จีน” โอกินาวาไฟดับแล้วกว่า 200 ครัวเรือน-ยกเลิกเที่ยวบินนับสิบ
5 ตุลาคม 2556 15:56 น.



ไต้ฝุ่นฟิโทว์ (Fitow) จากภาพถ่ายดาวเทียมในวันที่ 5 ตุลาคม 

       เอเอฟพี – ไต้ฝุ่น “ฟิโทว์” (Fitow) ซึ่งก่อตัวขึ้นกลางมหาสมุทรแปซิฟิกคาดว่าจะซัดถล่มหมู่เกาะโอกินาวาทางตอนใต้ของญี่ปุ่นภายในวันนี้(5) โดยล่าสุดมีบ้านเรือนได้รับผลกระทบจากไฟฟ้าดับอย่างน้อย 200 ครัวเรือน ขณะที่สายการบินต่างๆ ประกาศยกเลิกเที่ยวบินไปยังโอกินาวาแล้ว
       
       ญี่ปุ่น, ไต้หวัน และจีน ต่างเตรียมแผนรับมือไต้ฝุ่นอันทรงพลังลูกใหม่ที่จะเคลื่อนเข้าสู่ชายฝั่งในอีกไม่กี่ชั่วโมง โดยสำนักงานอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่นได้ประกาศเตือนลมกรรโชกแรงและฝนตกหนัก และมีแนวโน้มที่จะเกิดพายุหมุนในบางพื้นที่ เพียง 2 สัปดาห์หลังจากไต้ฝุ่นอุซางิ (Usagi) ซัดถล่มภูมิภาคนี้
       
       เมื่อเวลา 13.00 น. ( 12.00 น. ตามเวลาในไทย) ไต้ฝุ่นฟิโทว์มีศูนย์กลางอยู่ห่างจากเมืองนาฮา เมืองเอกของจังหวัดโอกินาวาไปทางตะวันตกเฉียงใต้ราวๆ 200 กิโลเมตร และกำลังเคลื่อนตัวไปทางตะวันตกเฉียงเหนืออย่างช้าๆ
       
       สายการบินเจแปนแอร์ไลน์ส, ออล นิปปอน แอร์เวย์ส และสายการบินต้นทุนต่ำ พีช เอเวียชัน ได้ประกาศยกเลิกเที่ยวบินไป-กลับเมืองนาฮา ขณะที่สายการบินดรากอนแอร์ของฮ่องกงก็ยกเลิกเที่ยวบินไปยังจังหวัดโอกินาวาของญี่ปุ่นแล้วเช่นกัน
       
       บริษัท โอกินาวา อิเล็กทริก เพาเวอร์ ซึ่งดูแลการจ่ายกระแสไฟฟ้าในจังหวัดโอกินาวาทั้งหมด แถลงว่า อิทธิพลของไต้ฝุ่นฟิโทว์ส่งผลให้บ้านเรือนประชาชนราว 200 ครัวเรือนเกิดไฟดับ โดยกระแสลมแรงบวกกับฝนที่ตกหนักทำให้การซ่อมแซมระบบไฟฟ้าเป็นไปด้วยความยากลำบาก
       
       ไต้ฝุ่นฟิโทว์ ซึ่งได้นามตามชื่อดอกไม้ชนิดหนึ่งในภาษาไมโครนีเซีย กำลังมุ่งหน้าสู่เกาะไต้หวัน โดยคาดว่าจะเคลื่อนผ่านตอนเหนือของเกาะในวันพรุ่งนี้(6)
       
       สำนักงานพยากรณ์อากาศกลางแห่งไต้หวัน ระบุว่า ไต้ฝุ่นลูกนี้ยังคงทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ โดยมีความเร็วลมที่ศูนย์กลางราว 137 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
       
       “ไต้ฝุ่นฟิโทว์ยังมีกำลังแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และจะทำให้เกิดฝนตกหนักบริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไต้หวัน โดยเฉพาะที่กรุงไทเปและเมืองนิวไทเป คาดว่าอิทธิพลจากพายุลูกนี้จะรุนแรงที่สุดในช่วงเช้าวันอาทิตย์” สำนักงานพยากรณ์อากาศกลางไต้หวัน ระบุ
       
       ทางการจีนก็ได้แจ้งเตือนประชาชนให้เตรียมพร้อมรับอิทธิพลของไต้ฝุ่นฟิโทว์ ซึ่งคาดว่าจะพัดเข้าสู่ชายฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ของจีนในช่วงเย็นวันอาทิตย์(6) โดยสำนักอุตุนิยมแห่งชาติจีนได้ประกาศเตือนภัยระดับสีส้ม และเตือนว่าจะเกิดฝนตกหนักในทั้งมณฑลเจ้อเจียงและมณฑลฝูเจี้ยน ตามรายงานของสำนักข่าวซินหวา
       
       ไต้ฝุ่นอุซางิซึ่งซัดถล่มตอนใต้ของจีนเมื่อเดือนที่แล้ว ทำให้มีผู้เสียชีวิตไปถึง 25 ราย การคมนาคมขนส่งกลายเป็นอัมพาต และมีผู้โดยสารตกค้างอยู่ที่สนามบินฮ่องกงนับหมื่นๆคน

 
จาก http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrView.asp?NewsID=9560000125290
 
      บันทึกการเข้า
เริง2520
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 6,341

« ตอบ #9662 เมื่อ: 05 ตุลาคม 2556, 20:30:11 »

มากันถี่จัง
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #9663 เมื่อ: 06 ตุลาคม 2556, 07:54:40 »

น้องเริง

พายุน่าจะใกล้หมดแล้ว ปีนี้มาถึง 22 ลูกแล้ว แต่ประเทศไทยไม่ถูกหวยเต็มๆ สักลูกเลย
หย่อมความกดอากาศสูงหรือลมหนาวจากจีนเริ่มเข้ามาแล้วครับ
5-11 ต.ค. ดูแล้วจะมีฝนเพียงการปะทะกันระหว่างหย่อมความกดอากาศสูงกับต่ำเท่านั้น
จากนั้นหากยังมีความกดอากาศสูงเข้ามาต่อเนื่องประเทสไทยคงเริ่มเข้าสู่ฤดูหนาวอย่างเต็มรูปแบบ
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #9664 เมื่อ: 06 ตุลาคม 2556, 08:04:30 »

มีฝนในภาคตะวันออก และภาคใต้ทั้งสองฝั่งถึงร้อยละ 80 ของพื้นที่
ลมหนาวจากจีนมาเยือนภาคเหนือจนถึงวันที่ 11 ตุลาคมนี้แล้ว
พายุผ่านไปถึง 22 ลูกแล้ว แต่ประเทศไทยไม่ได้รับฝนเต็มๆ ใส่เขื่อนไว้เลย โดยเฉพาะเขื่อนหลักในภาคเหนือ
น้ำท่วมเพราะไปกั้นทางน้ำ และไม่แก้ไขหลังน้ำท่วมใหญ่ในปี 2554
แบบเจ็บแล้ว ไม่รู้จักจำ ชอบเจ็บอยู่เรื่อยๆ เพราะข้าราชการขี้เกียจและประเด็นหลักคือเบิกงบได้
ตามสุภาษิตว่า "ซื่อกินไม่หมด คดกินไม่นาน เงินหลวงกินตั้งนานไม่มีวันหมด" นั่นเอง!!!! ??


พยากรณ์อากาศ ประจำวันอาทิตย์ที่ 6 ตุลาคม 2556
ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น.  บริเวณความกดอากาศสูงอีกละลอกหนึ่งจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนในช่วงวันที่ 7-11 ตุลาคม 2556 ทำให้บริเวณดังกล่าวอุณหภูมิจะลดลง 2-5 องศาและอากาศเริ่มเย็นในตอนเช้า
หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงที่ปกคลุมบริเวณอ่าวไทยตอนบนได้เลื่อนลงอ่าวไทยตอนกลางแล้ว ประกอบกับร่องมรสุมยังคงพาดผ่านภาคใต้ตอนบน และภาคตะวันออก ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวยังคงมีฝนตกชุกและมีฝนตกหนักบางพื้นที่
สำหรับคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนบนจะมีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 3 เมตรบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กที่มีขนาดความยาวน้อยกว่า 10 เมตร หรือ 5 วา ควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่ 6-8 ตุลาคม 2556 นี้
 
พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้. 

ภาคเหนือ อากาศเย็นในตอนเช้ากับมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน ตาก และเชียงใหม่

อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-31 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
 
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ  อากาศเย็นในตอนเช้ากับมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่
ส่วนมากทางตอนล่างของภาค

อุณหภูมิต่ำสุด 22-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. 

ภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ บริเวณจังหวัดกาญจนบุรี สุพรรณบุรี และราชบุรี
อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม. 

ภาคตะวันออก  มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
บริเวณจังหวัดฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด

อุณหภูมิต่ำสุด 23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30 องศาเซลเซียส
ลมแปรปรวน ความเร็ว 20-40 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร 

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)  มีเมฆมากกับมีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 80 ของพื้นที่
และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ และชุมพร

อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งทะเลมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร 

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)  มีเมฆมากกับมีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 80 ของพื้นที่
และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต และกระบี่

อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-31 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร 

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล  มีเมฆมาก โอกาสมีฝนตก ร้อยละ 40
อุณหภูมิต่ำสุด 22-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-31 องศาเซลเซียส
ลมแปรปรวน ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
 
      บันทึกการเข้า
ดร.มนตรี
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,540

« ตอบ #9665 เมื่อ: 06 ตุลาคม 2556, 08:20:45 »

มาสวัสดีครับพี่่เหยง  และติดตามอ่าน ครับ ^_^

---------------------------------------------------------------

20 กันยายน 2556  ...  กลับมาเยือนบ้านเรา... เสาหลักของแผ่นดิน    รักนะ











      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #9666 เมื่อ: 06 ตุลาคม 2556, 08:40:37 »

สวัสดี น้อง ดร. มนตรี


ยินดีที่ได้มีโอกาสไปร่วมงานที่จุฬาฯ
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #9667 เมื่อ: 06 ตุลาคม 2556, 11:42:23 »

สวัสดีครับทุกท่าน

วันนี้ 6 ตุลาคม 2556 เป็นเวลา 37 ปีถัดจาก 6 ตุลาคม 2519
ในวันที่ 6 ตุลาคม 2519 ผมข้ามไปอยู่ที่หอเจ้าจอม ซึ่งขณะนั้นหมอบุญเลิศ ภูริยากร พ. 2516
ไปเป็นซีเนียร์เฝ้าหอนั้น เกิดกรณี 6 ตุลาคมขึ้นที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ก่อนจะไปหอเจ้าจอม พบว่า ชะนะ ครองรักษา เภสัช 2516 ซึ่งอยู่หอตึก (ปัจจุบันเป็นที่สร้างหอหลังใหม่)
กำลังรวมรวบเพื่อนๆ ที่ออกจากมหา'ลัย ไปรวมตัวอยู่ที่หอ เพื่อทบทวนสถานการณ์
หลังจากวันนั้น ทราบว่า ชะนะ พร้อมเพื่อนๆ ไปหลีกหนีเข้าป่าไปสร้างอุดมการณ์ประชาธิปไตยต่อในป่า

จากนั้นผมต้องเดินทางกลับบ้านเนื่องจากคุณแม่ที่บ้านโทรตามให้กลับ
เมื่อกลับไปจึงทราบว่า สมควร ศิริจิตรจินดา วท 2516 ถูกจับตัวที่ธรรมศาสตร์
และส่งไปควบคุมตัวที่ รร.พลตำรวจ จังหวัดชลบุรี

ประมาณวันที่ 10 ตุลาคม ผมกลับมาที่หอชายพร้อมแต๋ง-วัฒนา โอภานนท์อมตะ วท 2516 อีกครั้งหนึ่ง
ท่านอาจารย์ประยูร ร่มโพธิ์ จึงบอกให้ไปอยู่ดูแลหอเจ้าจอมกับ แต๋ง-วัฒนา
เราจึงย้ายของที่จำเป็นไป อาทิ หม้อหุงข้าว เตาไฟฟ้า ฯ
ที่นั่นมี อจ.พินิจ เพิ่มพงษ์พันธ์ ในฐานะผู้ช่วยอนุสาสกเป็นผู้ดูแล พร้อมพี่บวร วงศ์สินอุดม วศ.2515
ซึ่งจบแล้ว แต่ทำโทต่อและอยู่หอเจ้าจอมในฐานะผู้ช่วย
 
เราพบว่ามี จนท.ตำรวจ เข้าไปตรวจสอบ หลายชุด
เราต้องคอยถือกุญแจห้องทั้งหมด เพื่ออำนวยความสะดวกกับ จนท.เหล่านั้น
จนท.ตำรวจขอค้นห้องรุ่นน้องชื่อ วิรัตน์ เตริ่น รัฐศาสตร์ (จำปีเข้าไม่ได้ชัดว่า 17 หรือ 18)
เมื่อบ่อยครั้งเข้า เราจึงมีวิธีการกำจัดปัญหานี้
ด้วยการเปิดห้องทุกห้องเท่าที่ทำได้ หยิบหนังสือที่ว่าเป็นซ้ายเท่าที่เห็น
อาทิ สรรนิพนธ์ของเหมา เจอ ตุง ใส่เข่ง ไปเผาหลังหอเจ้าจอม ให้มันหมดเรื่อง หมดราวไป
เพื่อปิดเรื่องกล่าวร้าย-ให้โทษบรรดานิสิตนักศึกษาจากผู้นำยึดอำนาจในเวลานั้นไปซะที ??

ขณะที่เราเผาหนังสือหลังหอ, เราก็พบว่า บ้านเมืองเรายังมีเรื่องแปลกอีกเรื่องหนึ่งที่มีลักษณะตรงกันข้ามคือ
นิสิน นักศึกษา ในสมัยนั้น ค้นหา เรียกร้องประชาธิปไตยกัน จนเกิดเรื่อง 14 ตุลา และ 6 ตุลา ในที่สุดนั้น
มีนักศึกษาอีกกลุ่มหนึ่งคือ นักศึกษามหาวิทยาลัยวิชาการศึกษา พลศึกษา ซึ่งเรียนอยู่ที่กรมพละศึกษา
หรือที่สนามศุภชลาศรัย นั่นเอง ไม่ได้อินบรรยากาศประชาธิปไตยไว้เลย
ประกาศปิดการเรียน การสอน จากกรณี 6 ตุลา
ทำให้พวกเขา พวกเธอ หยุดเรียน แต่นั่งพรอดรักกับเป็นคู่ๆ อย่างมีความสุข
พวกเราก็แอบดูได้ ดูดี ตลอดเวลาที่เผาหนังสือเป็นสิบๆ เข่งทีเดียว
และเป็นเวลาหลายวันกว่าหนังสือเหล่านั้นจะไหม้จนหมด ควันขึ้นจากกองหนังสือตลอดเวลา
แต่ด้วยกำแพงรั้วที่สูง ทำให้ควันไฟเหล่านั้น ไม่ไปกระทบบรรยาการแห่งความรักของหนุม-สาว มศว.พลศึกษาเลย
(ที่เอ่ยมานี้ ไม่ได้ให้ร้าย หรือเอาความชอบใดๆ นะครับ พูดไปตามที่เห็นด้วยตาจริงๆ)

สถานการณ์ซ้ำเติมด้วยฝนตก น้ำท่วม ซึ่งมีผลต่อจุฬาฯและหอเจ้าจอม อยู่หลายวัยจนน้ำลด
เรามาทราบในภายหลังเหตุการณ์คลี่คลายไปหลายปีว่า
วิรัตน์ เตริ่น เดินทางออกนอกประเทศ โดยไปเรียนต่อที่ฝรั่งเศส และแสดงเจตนาอยากกลับมาเมืองไทย
ซึ่งปัจจุบัน ยังไม่ทราบความคืบหน้าในเรื่องนี้ ??

ชะนะ ครองรักษา เดินทางต่อไปเรียนแพทย์ฝังเข็ม ที่มหาวิทยาลัยแพทย์ทหารกรุงปักกิ่ง
และกลับมาใช้ชีวิตต่อในประเทศไทย จนถึงปัจจุบันนี้ และร่วมกิจกรรมกับ RCU 2516 อย่างต่อเนื่อง

พี่จีระนันท์ พิตรปรีชา เภสัช 2515 และดาวจุฬาปี 2515 (ก่อนคุณติ๋ม- จันทร์ฉาย สิงหนายก  1 ปี)
เข้าป่าและใช้ชีวิตร่วมกันคุณเสกสรร ผู้นำนักศึกษาจากธรรมศาสตร์
และออกจากป่าในหลายปีต่อมาที่อำเภอลานสัก อุทัยธานี ในสมัยที่พลเอกสายหยุด เกิดผล เป็น ผบ.สส.

เล่าให้ฟังเพื่อกันลืมครับ!! ??

      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #9668 เมื่อ: 06 ตุลาคม 2556, 14:07:43 »

ไม่เชื่อ ก็ต้องเชื่อครับ...
พื้นที่ภัยแล้ง ประสบภัยน้ำท่วม ??!!!


วันที่ 06 ตุลาคม พ.ศ. 2556 เวลา 12:01 น.  ข่าวสดออนไลน์
มึน!ลำปางพื้นที่ภัยแล้ง-น้ำป่าทะลักสะพานขาด

      เมื่อเวลาประมาณ 02.00 น. วันที่ 6 ต.ค. ผู้สื่อข่าว ข่าวสด รายงานว่า เกิดฝนตกหนักในพื้นที่ ต.บ้านเอื้อม อ.เมือง จ.ลำปาง นานกว่า 3 ชั่วโมง จนถึงเวลา 05.00 น. ทำให้ลำห้วยที่ไหลผ่านมาจากภูเขาสูงในพื้นที่ คือ ห้วยแม่ต๋ำ และห้วยแม่จรูญ ไหลลงมาทะลักเข้าท่วมพื้นที่ ต.บ้านเอื้อมเป็นบริเวณกว้าง สร้างความเดือนร้อนไปทั่วในพื้นที่ โดยเฉพาะบริเวณสะพาน ข้ามหมู่บ้านระหว่างบ้านเอื้อม หมู่ 1 และบ้านผึ้ง หมู่ 9 ต.บ้านเอื้อม น้ำป่าที่ทะลักไหลกัดเซาะคอสะพานพังทลายไปหนึ่งแห่ง จนรถและคนไม่สามารถผ่านไปมาได้ นอกจากนี้ถนนสายดังกล่าวที่แยกออกไประหว่างจะไปบ้านแม่ต๋ำ หมู่ 6 ก็ถูกน้ำป่าเอ่อทะลัก ท่วมสูงกว่า 50 เซนติเมตร ยาวกว่า 1 กิโลเมตร จนไม่สามารถสัญจรไปมาได้ ทำให้ชาวบ้านที่จะข้ามไปมาหากันใช้เส้นทางนี้เข้าไปยังตัวเมืองลำปาง ต้องใช้เส้นทางเลี่ยงไกลกว่า 5 กิโลเมตร

     หลังเกิดเหตุ นายสุวิทย์ เล็กคำแหง นายอำเภอเมืองลำปาง พร้อมด้วย นายสุข โกษสืบ กำนันตำบลบ้านเอื้อม และผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ได้ออกตรวจสอบความเสียหายที่เกิดขึ้น เพื่อที่จะให้การช่วยเหลือ พร้อมกับเข้าเยี่ยมให้กำลังใจชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ ว่าทางการจะเร่งเข้ามาช่วยเหลือทันที

     ด้านชาวบ้านในพื้นที่ กล่าวว่า รอบนี้น้ำป่ามาโดยไม่ทันตั้งตัว ทั้งที่พื้นที่แห่งนี้ประสบปัญหาภัยแล้งอย่างหนัก และอยู่ระหว่างยื่นเรื่องประกาศพื้นที่ภัยแล้ง แต่จู่ๆเกิดฝนตกหนักและน้ำป่าไหลหลาก ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้ กระทบอย่างหนักในรอบ 30 ปีเลยทีเดียว เนื่องจากว่าระดับน้ำทะลักเข้าท่วมสูงกว่า 1.50 เมตร ทำให้ไม่สามารถขนย้ายทรัพย์สินภายในบ้าน สัตว์เลี้ยง และอื่นๆ ได้ทัน ทำให้ได้รับความเสียหายและสูญหายไปกับกระแสน้ำ เนื่องจากเกิดตอนเช้ามืด แม้ผู้นำชุมชนจะประกาศทางเครื่องขยายเสียงแล้วก็ตาม

     ล่าสุดหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งท้องถิ่น ฝ่ายปกครองอำเภอ เจ้าหน้าที่ ปภ.ลำปาง ศูนย์ ปภ.เขต 10 ลำปาง กำลังพลทหารจากมณฑลทหารบกที่ 32 ค่ายสุรศักดิ์มนตรี ได้เข้าไปช่วยเหลือพื้นฟูชาวบ้านอย่างเร่งด่วนแล้ว ส่วนความเสียหายเบื้องต้นพบว่า มีพื้นที่ได้รับผลกระทบสองอำเภอ คือ อ.เมือง 1 ตำบล คือ ต.บ้านเอื้อม 6 หมู่บ้าน  และ อ.ห้างฉัตร 1 ตำบล คือ ต.วอแก้ว 2 หมู่บ้าน


http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNNE1UQXpOVGMxTVE9PQ==&subcatid=
      บันทึกการเข้า
หนุน'21
Global Moderator
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
*****


ซีมะโด่ง'จุฬาฯ ที่มาของผม
ออฟไลน์ ออฟไลน์

คณะ: "ครุศาสตร์"
กระทู้: 26,927

« ตอบ #9669 เมื่อ: 07 ตุลาคม 2556, 07:55:44 »

อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 06 ตุลาคม 2556, 11:42:23
สวัสดีครับทุกท่าน

วันนี้ 6 ตุลาคม 2556 เป็นเวลา 37 ปีถัดจาก 6 ตุลาคม 2519
ในวันที่ 6 ตุลาคม 2519 ผมข้ามไปอยู่ที่หอเจ้าจอม ซึ่งขณะนั้นหมอบุญเลิศ ภูริยากร พ. 2516
ไปเป็นซีเนียร์เฝ้าหอนั้น เกิดกรณี 6 ตุลาคมขึ้นที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ก่อนจะไปหอเจ้าจอม พบว่า ชะนะ ครองรักษา เภสัช 2516 ซึ่งอยู่หอตึก (ปัจจุบันเป็นที่สร้างหอหลังใหม่)
กำลังรวมรวบเพื่อนๆ ที่ออกจากมหา'ลัย ไปรวมตัวอยู่ที่หอ เพื่อทบทวนสถานการณ์
หลังจากวันนั้น ทราบว่า ชะนะ พร้อมเพื่อนๆ ไปหลีกหนีเข้าป่าไปสร้างอุดมการณ์ประชาธิปไตยต่อในป่า

จากนั้นผมต้องเดินทางกลับบ้านเนื่องจากคุณแม่ที่บ้านโทรตามให้กลับ
เมื่อกลับไปจึงทราบว่า สมควร ศิริจิตรจินดา วท 2516 ถูกจับตัวที่ธรรมศาสตร์
และส่งไปควบคุมตัวที่ รร.พลตำรวจ จังหวัดชลบุรี

ประมาณวันที่ 10 ตุลาคม ผมกลับมาที่หอชายพร้อมแต๋ง-วัฒนา โอภานนท์อมตะ วท 2516 อีกครั้งหนึ่ง
ท่านอาจารย์ประยูร ร่มโพธิ์ จึงบอกให้ไปอยู่ดูแลหอเจ้าจอมกับ แต๋ง-วัฒนา
เราจึงย้ายของที่จำเป็นไป อาทิ หม้อหุงข้าว เตาไฟฟ้า ฯ
ที่นั่นมี อจ.พินิจ เพิ่มพงษ์พันธ์ ในฐานะผู้ช่วยอนุสาสกเป็นผู้ดูแล พร้อมพี่บวร วงศ์สินอุดม วศ.2515
ซึ่งจบแล้ว แต่ทำโทต่อและอยู่หอเจ้าจอมในฐานะผู้ช่วย
 
เราพบว่ามี จนท.ตำรวจ เข้าไปตรวจสอบ หลายชุด
เราต้องคอยถือกุญแจห้องทั้งหมด เพื่ออำนวยความสะดวกกับ จนท.เหล่านั้น
จนท.ตำรวจขอค้นห้องรุ่นน้องชื่อ วิรัตน์ เตริ่น รัฐศาสตร์ (จำปีเข้าไม่ได้ชัดว่า 17 หรือ 18)
เมื่อบ่อยครั้งเข้า เราจึงมีวิธีการกำจัดปัญหานี้
ด้วยการเปิดห้องทุกห้องเท่าที่ทำได้ หยิบหนังสือที่ว่าเป็นซ้ายเท่าที่เห็น
อาทิ สรรนิพนธ์ของเหมา เจอ ตุง ใส่เข่ง ไปเผาหลังหอเจ้าจอม ให้มันหมดเรื่อง หมดราวไป
เพื่อปิดเรื่องกล่าวร้าย-ให้โทษบรรดานิสิตนักศึกษาจากผู้นำยึดอำนาจในเวลานั้นไปซะที ??

ขณะที่เราเผาหนังสือหลังหอ, เราก็พบว่า บ้านเมืองเรายังมีเรื่องแปลกอีกเรื่องหนึ่งที่มีลักษณะตรงกันข้ามคือ
นิสิน นักศึกษา ในสมัยนั้น ค้นหา เรียกร้องประชาธิปไตยกัน จนเกิดเรื่อง 14 ตุลา และ 6 ตุลา ในที่สุดนั้น
มีนักศึกษาอีกกลุ่มหนึ่งคือ นักศึกษามหาวิทยาลัยวิชาการศึกษา พลศึกษา ซึ่งเรียนอยู่ที่กรมพละศึกษา
หรือที่สนามศุภชลาศรัย นั่นเอง ไม่ได้อินบรรยากาศประชาธิปไตยไว้เลย
ประกาศปิดการเรียน การสอน จากกรณี 6 ตุลา
ทำให้พวกเขา พวกเธอ หยุดเรียน แต่นั่งพรอดรักกับเป็นคู่ๆ อย่างมีความสุข
พวกเราก็แอบดูได้ ดูดี ตลอดเวลาที่เผาหนังสือเป็นสิบๆ เข่งทีเดียว
และเป็นเวลาหลายวันกว่าหนังสือเหล่านั้นจะไหม้จนหมด ควันขึ้นจากกองหนังสือตลอดเวลา
แต่ด้วยกำแพงรั้วที่สูง ทำให้ควันไฟเหล่านั้น ไม่ไปกระทบบรรยาการแห่งความรักของหนุม-สาว มศว.พลศึกษาเลย
(ที่เอ่ยมานี้ ไม่ได้ให้ร้าย หรือเอาความชอบใดๆ นะครับ พูดไปตามที่เห็นด้วยตาจริงๆ)

สถานการณ์ซ้ำเติมด้วยฝนตก น้ำท่วม ซึ่งมีผลต่อจุฬาฯและหอเจ้าจอม อยู่หลายวัยจนน้ำลด
เรามาทราบในภายหลังเหตุการณ์คลี่คลายไปหลายปีว่า
วิรัตน์ เตริ่น เดินทางออกนอกประเทศ โดยไปเรียนต่อที่ฝรั่งเศส และแสดงเจตนาอยากกลับมาเมืองไทย
ซึ่งปัจจุบัน ยังไม่ทราบความคืบหน้าในเรื่องนี้ ??

ชะนะ ครองรักษา เดินทางต่อไปเรียนแพทย์ฝังเข็ม ที่มหาวิทยาลัยแพทย์ทหารกรุงปักกิ่ง
และกลับมาใช้ชีวิตต่อในประเทศไทย จนถึงปัจจุบันนี้ และร่วมกิจกรรมกับ RCU 2516 อย่างต่อเนื่อง

พี่จีระนันท์ พิตรปรีชา เภสัช 2515 และดาวจุฬาปี 2515 (ก่อนคุณติ๋ม- จันทร์ฉาย สิงหนายก  1 ปี)
เข้าป่าและใช้ชีวิตร่วมกันคุณเสกสรร ผู้นำนักศึกษาจากธรรมศาสตร์
และออกจากป่าในหลายปีต่อมาที่อำเภอลานสัก อุทัยธานี ในสมัยที่พลเอกสายหยุด เกิดผล เป็น ผบ.สส.

เล่าให้ฟังเพื่อกันลืมครับ!! ??



 ชอบนะ ชอบนะ ชอบนะ

ชอบอ่านนะครับพี่เหยง
ขอบคุณที่เล่าให้น้องๆฟัง...



 รักนะ
      บันทึกการเข้า

“สิ่งที่ล้ำค่าที่สุดในใต้หล้า ทั้งมิใช่ชื่อเสียง และไม่ใช่ทรัพย์ศฤงคาร หากแต่เป็นน้ำใจระหว่างคน ท่านหากได้มา พึงทะนุถนอมไว้
อย่าได้สร้างความผิดหวังต่อตนเองและผู้อื่น.” “วีรบุรุษสำราญ” “โกวเล้ง”
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #9670 เมื่อ: 07 ตุลาคม 2556, 08:03:45 »

หนุน

พี่มีความภูมิใจในตัวท่านอาจารย์ประยูร ร่มโพธิ์ เป็นอย่างมาก
ทำหน้าที่แทนอนุสาสก (ศ.มรว.ชนาญวัติ เทวกุล) ได้อย่างดีเยี่ยม
14 ตุลา 2516 และ 6 ตุลา 2519 หอจุฬาฯไม่ได้รับผลกระทบใดๆ เลย
ท่านปกครองนิสิต จนแทบจะรู้เลยว่า ใครเป็นใคร ช่วยงานท่าน ช่วยงานจุฬาฯ ได้ ใคร?? ช่วยไม่ได้ !!
พี่เชื่อว่า พวกเราเอง ได้รับงาน หรือช่วยงานหอ งานจุฬาฯ จนมีประสบการเพิ่มขึ้นเหนือคนนอกหอ
ทั้งเรื่องการประสานกำลังคน การเตรียมงาน ดังเช่นที่ สนจ. หรือจุฬาฯมาใช้บริการจากชาวหอเป็นประจำ
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #9671 เมื่อ: 07 ตุลาคม 2556, 08:04:01 »

ฝนยังตกหนาแน่นในภาคตะวันออก ภาคใต้ทั้งสองฝั่ง กทม.และปริมณฑล รวมทั้งภาคกลางตอนล่าง

พยากรณ์อากาศ ประจำวันจันทร์ที่ 7 ตุลาคม 2556
ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น.  หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงที่ปกคลุมบริเวณทะเลอ่าวไทยได้เคลื่อนขึ้นฝั่งประจวบคีรีขันธ์แล้ว ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยมีกำลังแรง ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนตกชุกหนาแน่นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณจังหวัดระยอง จันทบุรี ตราด เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร ระนอง พังงา และภูเก็ต ระวังอันตรายจากฝนตกหนักในช่วงวันที่ 7-8 ตุลาคม 2556 ไว้ด้วย
สำหรับคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กที่มีขนาดความยาวน้อยกว่า 10 เมตร หรือ 5 วา ควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่ 7-9 ตุลาคม 2556
อนึ่ง บริเวณความกดอากาศสูงอีกละลอกหนึ่งจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ในช่วงวันที่ 7-11 ตุลาคม 2556 ทำให้บริเวณดังกล่าวอุณหภูมิลดลงและมีอากาศเย็นในตอนเช้า โดยเริ่มจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือก่อน
 
พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.

ภาคเหนือ อากาศเย็นในตอนเช้ากับมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน ตาก เชียงใหม่ และเชียงราย

อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
 
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ  อากาศเย็นในตอนเช้า โดยอุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศา กับมี
ฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค

อุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
 
ภาคกลาง  มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่
บริเวณจังหวัดกาญจนบุรี สุพรรณบุรี และราชบุรี

อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
 
ภาคตะวันออก  มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
บริเวณจังหวัดระยอง จันทบุรี และตราด

อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-31 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 20-40 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร
 
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)  มีเมฆมากกับมีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตก
หนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ และชุมพร

อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-34 องศาเซลเซียส
ตั้งแต่ประจวบคีรีขันธ์ขึ้นมา ลมเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ตั้งแต่จังหวัดชุมพรลงไป ลมตะวันตก ความเร็ว 20-40 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร
 
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)  มีเมฆมากกับมีฝนฟ้าคะนองทั่วไป ร้อยละ 90 ของพื้นที่
และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณจังหวัดระนอง พังงา และภูเก็ต

อุณหภูมิต่ำสุด 22-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27-30 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
 
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล  มีเมฆมาก โอกาสมีฝนตก ร้อยละ 80
อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-31 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #9672 เมื่อ: 07 ตุลาคม 2556, 16:35:50 »

หมอตุ่น เพิ่งโทรมาเมื่อสักครู่ครับว่า
คณะที่ไปเยี่ยมพี่น้องชาวหอ-ชาวจุฬาฯ ในภาคเหนือ กำลงักลับถึงอำเภอเถิน
จะขอแวะทานข้าวมื้อเย็นที่นครสวรรค์
ผมแจ้งไปว่า มีเวลาว่าง ให้ไปที่ภัตตาคารโกยี หน้าอุทยานสวรรค์ ดังเช่นที่เคยมา
โดยคณะเหลือ 3 รายคือ พี่สัมพันธ์ พี่จุก และหมอตุ่น
ส่วนนายกฯราเมศวร์ บินกลับ, พี่ปรีดายังอยู่ที่เชียงใหม่ครับ
โดยขอให้คณะเมื่อเดินทางถึงบ้านสลกบาตร อ.ขาณุ ช่วยโทรบอก
จะได้ไปรับที่ภัตตาคารโกยีครับ
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #9673 เมื่อ: 07 ตุลาคม 2556, 17:10:47 »

หมอตุ่น


ตามรุ่นใกล้ๆ ให้ได้แล้ว 2 คนครับ รอโทรคอนเฟิร์มเท่านั้น
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #9674 เมื่อ: 07 ตุลาคม 2556, 18:30:24 »

หมอตุ่น


โทรแจ้งว่าอีกเกือบๆ 40 กม.จะถึงนครสวรรคืแล้วครับ
ขออนุญาตออกไปต้อนรับทีมสมาคมฯ ที่ขึ้นเหนือก่อนนะครับ
โดยมีน้องณรงกร-ขวัญใจ คมวีระวงศ์ RCU 2524 ร่วมต้อนรับด้วย
      บันทึกการเข้า
  หน้า: 1 ... 385 386 [387] 388 389 ... 472   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

สมาคมนิสิตเก่าหอพักนิสิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มวลสมาชิกสมาคม คณาจารย์ และนิสิตเก่าทุกคน ขอน้อมเกล้าถวายความอาลัย  พระผู้เสด็จสู่สวรรคาลัย ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ <;))))><