เหยง 16
|
|
« ตอบ #9400 เมื่อ: 22 สิงหาคม 2556, 16:16:58 » |
|
ช่วงสายๆจนถึงอาหารเที่ยง ต้อนรับเจ้าหน้าที่จากสถานทูตอเมริกัน ซึ่งบินมาจากกรุงวอชิงตัน เพื่อสำรวจตลาดข้าวสาลีของประเทศไทย, คุณ Teresa McKeivier เธอเป็นนักเศรษฐศาสตร์ Agricultural Economist/Wheat Indudtry & Sector Analsis Divition, USDA
|
|
|
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #9403 เมื่อ: 22 สิงหาคม 2556, 20:55:39 » |
|
อ่านแล้ว....พี่ของเรา-พี่บวร วงศ์สินอุดม แห่ง PTTGC มีเรื่องยาวเป็นแน่ ??โต๊ะเจรจา ปตท.-ประมงเรือเล็กล้มเหลว หลังผู้บริหารใหญ่พีทีทีจีซีไม่ร่วมวง22 สิงหาคม 2556 18:33 น. ระยอง - โต๊ะเจรจรา ปตท.-ประมงเรือเล็ก การเยียวยาหลังเกิดเหตุน้ำมันรั่วไหลลงทะเลล้มเหลว หลังผู้บริหารใหญ่เบี้ยวไม่ร่วมวงเจรจา วันนี้ (22 ส.ค.) ที่บริเวณวัดปากน้ำ ต.ปากน้ำ อ.เมืองระยอง กลุ่มประมงพื้นบ้านเรือเล็ก จ.ระยอง ประมาณ 600 คนนำโดยนายจตุรัส เอี่ยมวรนิรันดร์ นายกสมาคมประมงพื้นบ้านเรือเล็ก จ.ระยอง ได้รวมตัวประท้วงหลังนั่งรอผู้บริหารของบริษัทพีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือพีทีทีจีซี นำโดยนายบวร วงษ์สินอุดม กรรมการผู้จัดการใหญ่ ที่นัดหมายไว้ว่าจะมาร่วมโต๊ะเจรจากันในวันนี้ แต่กลับไม่ได้เดินทางมา ท่ามกลางเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายนายรวมทั้งเจ้าหน้าที่ชุดปราบจราจล นำโดย พ.ต.อ.สมนึก บุรมิ รอง ผบก.ภ.จว.ระยอง ที่มารักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 19 สิงหาคมที่ผ่านมาโดยกลุ่มประมงได้ยื่นข้อเสนอ 3 ข้อ 1.ความเสียหายเฉพาะหน้าของชาวบ้านบริษัท พีทีทีจีซี จะต้องทบทวนหลักเกณฑ์การจ่ายค่าเยียวยาใหม่ โดยพิจารณาข้อมูลรายชื่อและค่าเสียหายที่เครือข่ายได้รับผลกระทบ 2.เรื่องผลกระทบระยะยาวขอให้บริษัทฯ จัดตั้งกองทุนเพื่อติดตามบำบัดฟื้นฟูสภาพแวดล้อมและสังคม เพื่อเป็นหลักประกันในเบื้องต้นว่า ทางบริษัทฯ จะไม่หลีกหนีความรับผิดชอบในผลเสียหายที่ตนเป็นต้นเหตุ โดยคณะกรรมการกองทุนดังกล่าวจะให้มีตัวแทนฝ่ายประชาชนร่วมเป็นกรรมการในสัดส่วนไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่ง 3.บริษัทฯ ต้องเสนอแผนมาตรการป้องกันเหตุที่จะเกิดขึ้นในอนาคต และนำเสนอแผนต่อสาธารณะให้ประชาชนสามารถตรวจสอบแผนป้องกันได้ พร้อมทั้งนำแผนไปสู่การปฏิบัติเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง ; ต่อมานายวริทธ์ นามวงษ์ รองกรรมการผู้จัดการบริษัท พีทีทีจีซี จำกัด พร้อมผู้บริหารอีก 2 คนนั่งรถตู้ของตำรวจภูธรจังหวัดระยองเดินทางเข้ามาที่วัดปากน้ำ ท่ามกลางเจ้าหน้าที่คุ้มกันจำนวนหลายคน พร้อมเข้านั่งโต๊ะการเจรจาร่วมกับ นายจตุรัส เอี่ยมวรนิรันดร์ นายกสมาคมประมงฯ และประธานกลุ่มประมง แต่เนื่องจากนายบวร วงษ์สินอุดม กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีทีจีซี ไม่มาร่วมเจรจาตามที่ได้ตกลงกันไว้ ด้านนายวริทธ์ นามวงษ์ กล่าวว่า การที่ตนมาในครั้งนี้จะมาเจรจาในหลักการ แต่ถ้าจะมีการตกลงตามที่กลุ่มประมงยื่นข้อเสนอไว้ 3 ข้อนั้นขอให้กลุ่มประมงตั้งตัวแทนมา 5 คนโดยทางฝ่ายพีทีทีจีซี ก็จะส่งตัวแทนมา 5 คนเช่นกัน แล้วมานั่งโต๊ะเจรจากันตามที่เสนอมา 3 ข้อดังกล่าวที่ห้องประชุมกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางกลุ่มประมงต้องการให้นายบวร มานั่งโต๊ะเจรจากันที่วัดปากน้ำตามที่ได้ตกลงกันไว้ โดยทางกลุ่มประมงอ้างว่า ต้องการให้สมาชิกเครือข่ายฯ ได้รับฟัง ทางฝ่าย ปตท.ก็ไม่ยอม ยืนยันให้ส่งตัวแทนไปคุยที่ห้องประชุมกองบังคับการตำรวจภูธร จังหวัดระยอง ในที่สุดก็ล้มเลิกการเจรจา นายวริทธ์ นามวงษ์ พร้อมผู้บริหารอีก 2 คนก็ลุกเดินออกจากวัดปากน้ำท่ามกลางการคุ้มกันอย่างเข้มงวด แล้วขึ้นรถตู้ตำรวจรีบออกไปจากวัดปากน้ำทันที ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การที่นายบวร วงษ์สินอุดม กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีทีจีซี จำกัด ไม่ยอมมาร่วมเจรจากับกลุ่มประมงครั้งนี้ สร้างความไม่พอใจให้กลุ่มประมงจึงรวมตัวกันเดินทางไปชุมนุมต่อที่บริเวณหน้าบริษัท พีทีทีจีซี จำกัด ถนนไอ 8 นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด อ.เมืองระยอง จาก http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrView.asp?NewsID=9560000105091
|
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #9404 เมื่อ: 23 สิงหาคม 2556, 08:55:11 » |
|
ฝนยังตกมากและหนัก อีก 1-2 วันในภาคเหนือ ภาคอีสาน รวมทั้ง กทม.และปริมณฑล โดยมีฝนร้อยละ 80 พยากรณ์อากาศ ประจำวันศุกร์ที่ 23 สิงหาคม 2556 ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น. ร่องมรสุมยังคงพาดผ่านภาคเหนือ และตอนบนของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีฝนหนาแน่น และมีฝนตกหนักบางแห่ง ในระยะ 1-2 วันนี้ สำหรับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ทำให้ภาคกลาง และภาคตะวันออก มีฝนเพิ่มขึ้น ส่วนบริเวณทะเลอันดามัน และอ่าวไทยตอนบน จะมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือไว้ด้วย อนึ่ง พายุโซนร้อน “จ่ามี” (TRAMI) บริเวณมณฑลฟูเจี้ยน ประเทศจีน ได้อ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชันแล้ว ขอให้ผู้ที่จะเดินทางไปบริเวณดังกล่าวตรวจสอบสภาพอากาศก่อนออกเดินทางด้วย โดยพายุนี้ไม่มีผลกระทบต่อประเทศไทย พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้. ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา น่าน ตาก และเพชรบูรณ์ อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-31 องศาเซลเซียส ลมแปรปรวน ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดเลย หนองคาย บึงกาฬ หนองบัวลำภู อุดรธานี สกลนคร และนครพนม อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-31 องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดกาญจนบุรี และราชบุรี อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดนครนายก จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และสุราษฎร์ธานี อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดระนอง พังงา และภูเก็ต อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีเมฆเป็นส่วนมาก โอกาสมีฝนตก ร้อยละ 80 อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
|
|
|
|
เริง2520
|
|
« ตอบ #9405 เมื่อ: 23 สิงหาคม 2556, 19:22:41 » |
|
มาอ่านย้อนหลังครับ
|
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #9406 เมื่อ: 23 สิงหาคม 2556, 20:04:42 » |
|
น้องเริง
กลับมาแล้วหรือ ??
|
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #9407 เมื่อ: 24 สิงหาคม 2556, 08:29:24 » |
|
ประจำวันที่ 24 สิงหาคม 2556 ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น. มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ทำให้ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตกมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีฝนลดลง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามัน และอ่าวไทยตอนบนสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณดังกล่าวเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ และเรือเล็กในทะเลอันดามันควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้ไว้ด้วย
พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้. ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน ตาก และเพชรบูรณ์ อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดหนองคาย และบึงกาฬ อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัด นครสวรรค์ อุทัยธานี กาญจนบุรี และราชบุรี อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดจันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ และชุมพร อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดระนอง และพังงา อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีเมฆเป็นส่วนมาก โอกาสมีฝนตก ร้อยละ 60 ส่วนมากในระหว่างบ่ายถึงค่ำ อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
|
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #9408 เมื่อ: 24 สิงหาคม 2556, 17:50:56 » |
|
ว่าด้วยเศรษฐกิจของประเทศไทยสักนิด.....ผอ.กรุงเทพโพลล์ ชี้เศรษฐกิจไทยถดถอยตามวัฎจักร ไม่ใช่หดตัว-นำไปสู่วิกฤต วันที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2556 เวลา 13:05:00 น. นายกิตติศักดิ์ พรหมรัตน์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ หรือ กรุงเทพโพลล์ แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับประเด็นเศรษฐกิจที่มีการถกเถียงกันว่า "เศรษฐกิจปัจจุบันถดถอย หรือไม่ถดถอย" โดยระบุว่า ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจกันก่อนว่า เศรษฐกิจถดถอยกับวิกฤติเศรษฐกิจเป็นคนละเรื่องกัน แต่ถ้าหากเศรษฐกิจถดถอยกินเวลานานเราอาจมองเป็นวิกฤติเศรษฐกิจก็ว่าได้ การถดถอยทางเศรษฐกิจ (Recession) หรือเรียกภาษาชาวบ้านว่าเศรษฐกิจขาลง ส่วนด้านตรงข้ามของเศรษฐกิจช่วงนี้คือ เศรษฐกิจขยายตัว (Recovery) หรือเรียกว่าเศรษฐกิจขาขึ้น ซึ่งภาวะเศรษฐกิจทั้งสองด้านนี้นักเศรษฐศาสตร์เรียกรวมว่าวัฎจักรเศรษฐกิจ (Economic Cycle)
ทีนี้มาดูผลสำรวจความคิดเห็นนักเศรษฐศาสตร์จากองค์กรชั้นนำ 32 แห่ง จำนวน 62 คน ที่กรุงเทพโพลล์สำรวจเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาโดยเมื่อถามว่า "สถานะเศรษฐกิจในปัจจุบันและที่จะเกิดขึ้นในระยะข้างหน้าท่านคิดว่าเศรษฐกิจไทยกำลังอยู่ในช่วงใดของวัฏจักรเศรษฐกิจ" พบว่า ส่วนใหญ่ร้อยละ 63 เห็นว่า เศรษฐกิจไทยอยู่ในช่วงถดถอย รองลงมาร้อยละ 13 เห็นว่า อยู่ในช่วงขยายตัว ร้อยละ 8 เห็นว่าอยู่ในช่วงรุ่งเรือง (Peak) และร้อยละ 3 เห็นว่าอยู่ในช่วงตกต่ำ (Trough) ส่วนร้อยละ 13 ขอไม่ลงความเห็น
ในส่วนข้อมูลสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือที่เราเรียกกันว่า สภาพัฒน์ฯ นั้น อยากให้ดูข้อมูล 2 ส่วนประกอบกันไป คือ อัตราการขยายตัวจีดีพีที่แท้จริง (real term) กับอัตราการขยายตัวของจีดีพีที่ปรับเอาปัจจัยฤดูกาลออก (การขยายตัวเศรษฐกิจในแต่ละปีส่วนหนึ่งจะขึ้นลงตามฤดูกาลยกตัวอย่างเช่น การส่งออกข้าวในแต่ละเดือนจะมีจำนวนที่แตกต่างกันคือช่วงหลักฤดูเก็บเกี่ยวก็จะมีการส่งออกข้าวมากแต่ช่วงที่กำลังเพาะปลูกก็จะมีการส่งออกข้าวน้อย ดังนั้น จึงใช้วิธีการทางสถิติปรับเอาปัจจัยฤดูกาลออก) ทั้งนี้ นับจากวิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ในปี 2009 ที่ทำให้จีดีพีในปีนั้นติดลบ 3 ไตรมาสรวด แต่หลังจากนั้นเศรษฐกิจไทยก็มีการขยายตัวมาตลอดและมาติดลบอีกครั้งในไตรมาส 4 ปี 2011 ซึ่งเป็นปีที่เกิดน้ำท่วมใหญ่ แต่เศรษฐกิจก็ยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่องหลังจากนั้น แม้กระทั่งไตรมาสล่าสุดก็ยังคงขยายตัวร้อยละ 2.8 ขณะที่จีดีพีปรับฤดูกาลโดยปกติในแต่ละปีจะมีการขยายตัวติดลบแค่ 1 ไตรมาส (ยกเว้นปีที่ถูกน้ำท่วมใหญ่) หรือไม่มีเลย แต่ในปีนี้จีดีพีปรับฤดูกาลมีการติดลบติดต่อกัน 2 ไตรมาสรวดซึ่งแตกต่างจากรูปแบบของการขยายตัวในปีก่อนๆ อีกทั้ง ลักษณะการเติบโตของจีดีพีมีแนวโน้มลดลงนับจากปี 2010
ดังนั้น จึงสามารถสรุปได้ว่า (1) เศรษฐกิจไทยอยู่ในภาวะถดถอยในลักษณะชะลอตัวไม่ใช่หดตัว (2) การถดถอยที่เกิดขึ้นเป็นเพียงการถดถอยตามวัฎจักรเศรษฐกิจไม่ใช่การถดถอยที่จะนำไปสู่วิกฤติเศรษฐกิจ (3) การถดถอยที่เกิดขึ้นจะกินเวลาสั้นหรือยาวข้อมูลจีดีพีในไตรมาส 3 ของปีนี้น่าจะบอกได้ http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1377323877&grpid=&catid=05&subcatid=0501
|
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #9409 เมื่อ: 24 สิงหาคม 2556, 21:20:11 » |
|
ฟัง"คุณเปลว สีเงิน" ว่าไว้ในไทยโพสต์ครับ........... จำนำข้าวเปลือกไปแล้ว จำนำมันสำปะหลังไปแล้ว กำลังตามมาคือ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์, ยางพาราและปาล์มน้ำมัน ที่เดือดปุดๆ อยู่ที่สุราษฎร์ธานี!!'ด้วยสัญญาณแห่งกาลมรณะ' เปลว สีเงิน24 August 2556 - 00:00 เอ้า...รู้ไว้เป็น "มรณานุสติ" กันหน่อย ฐานะการคลังของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ขณะนี้ "ตูดขาด" ดุลเงินสดกว่า ๔ แสนล้านบาท พอๆ กับที่ผลาญไปกับรับจำนำข้าวเลี้ยงมอด นี่ถ้ายังซื้อนาฬิกาติดผนังสภาฯ เรือนละ ๗๕,๐๐๐ ซื้อเก้าอี้ตัวละ ๖๕,๐๐๐ โต๊ะตัวละ ๓๕๐,๐๐๐ ให้ ส.ส.นั่ง นายกฯ ยังทัวร์ยกแก๊งเป็นรายเดือน และบูรณาการโกงต้นน้ำ-กลางน้ำ-ปลายน้ำกันอยู่อย่างนี้ "อาร์เจนตินาโมเดล" จะมาเร็วกว่าที่คาด! "ต้มยำกุ้ง" ไปเมื่อ ๑๕ ปีที่แล้ว ยังไม่เข็ด และตอนนี้ สัญญาณเศรษฐกิจ "ขาลง" มาพร้อมกันทุกขา ก็ยังไม่สำนึกกัน ปกปิดอาการ ชาวบ้านยังเริงร่า ก็เอาเถอะ ผมไม่ได้แช่ง แต่จะบอกว่า "ต้มยำปู" มันมาแน่! ถึงรัฐมนตรีคลัง "นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง" จะบอกว่า ตอนนี้ไม่ถึงขั้นเศรษฐกิจถดถอยอย่างที่เรียกกัน เป็นแค่เศรษฐกิจชะลอตัว ๒ ไตรมาสติดต่อกันเท่านั้น ก็สุดแต่ท่านจะเรียกเถอะ จะถดถอย จะชะลอตัว หรือจะฟู่ฟ่า เชิญไวต์ลายตามสบาย! ผมจะรอฟังตอนสิ้นไตรมาส ๓ เมื่อเรือสินค้ามีแต่จอดแช่ และการท่องเที่ยวมีแต่สิ่งกระทบดังเป็นอยู่ขณะนี้ แล้ว GDP มันจะเพิ่มหรือลดลงอีกขนาดไหน? สินค้าเกษตรที่เป็น "พระเอก" ของไทยมาตลอด เวลานี้ แต่ละตัวมีแต่ทรุด โดยเฉพาะข้าวที่กลายเป็นสินค้า "แดนสนธยา" ในทันทีที่รัฐบาลแย่งเอกชนมาเป็นพ่อค้าผูกขาดเสียเอง เราก็เสียตลาดข้าวไปเกือบทั้งหมด เงินแผ่นดินนับแสนๆ ล้านถูกผลาญไป ในขณะเดียวกัน เงินขายข้าวที่เคยไหลเข้าประเทศ ก็หายหด! เหมือนทุกข์ซ้ำ กรรมซัด วิบัติเป็น ปาล์มน้ำมัน และยางพาราที่ยุยงส่งเสริมให้ปลูกกันไปทั่วทุกภาคของประเทศ ตั้งแต่ยิ่งลักษณ์เป็นรัฐบาล น้ำยางน่ะ...มันมี แต่น้ำยายิ่งลักษณ์ไม่มี มีอย่างเดียว เอะอะก็สั่ง "กองทัพตำรวจ" ลุย! เมื่อวาน (๒๓ ส.ค.๕๖) เลยเกิดสงครามย่อยขึ้น ระหว่างตำรวจกับกลุ่มเกษตรกรชาวสวนยางและปาล์มน้ำมันที่นครศรีธรรมราช ทุบตีกันเลือดสาดไปทั้งสองฝ่าย เห็นแล้วก็อนาถใจ ส่งเสริมให้เขาปลูก ครั้นปลูกแล้วขายไม่ได้ ชุมนุมเรียกร้องให้รัฐบาลช่วย ก็ช่วยเหมือนกัน..... ช่วยตะลุบตุ๊บตั๊บน่ะ! ชาวนาก็แล้ว ชาวสวนก็แล้ว ชาวไร่ก็ไม่ต่างกัน วานซืน เห็นชาวไร่ข้าวโพดที่ตากฟ้า นครสวรรค์เป็นพันๆ คน รวมตัวตะโกนบ้าง โบกมือหย็อยๆ บ้าง เขียนข้อความลงผืนผ้าบ้าง ร้องตะโกนฝากไปกับลม-กับแล้งถึงยิ่งลักษณ์ หักข้าวโพด น้ำตาร่วง เหนื่อยยากสายตัวแทบขาด เหลือโลละ ๖ บาท ขายก็ขาดทุน บากหน้ามาริมถนนตะโกนเรียกหา คนที่เคยให้สัญญาตอนหาเสียง.... "พี่น้องค้า...เราจะทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของพ่อแม่พี่น้องดีขึ้น สินค้าเกษตรของพ่อแม่พี่น้องขายได้ราคา เรามีกองทุนหมู่บ้าน มีบัตรเกษตรกร เราจะกระชากค่าครองชีพมันลงมา เบนซินลดทันทีลิตรละ ๗ บาท เอามั้ยค้าาาา..พ่อแม่พี่น้องค้าาาา!" วันนั้นเป็นแบบนี้ แต่วันนี้ หมาซักตัว ตัวผู้ก็ได้ ตัวเมียก็ได้ ขี้เรื้อนก็ได้...แม่งหายหัวหมด! สรุปตอนนี้ สินค้าเกือบทุกตัว ไม่ว่าสินค้าเกษตรพืชไร่ หรือสินค้าประมง ทั้งขายไม่ได้ และที่ได้ก็ต้องขายขาดทุน โดยเฉพาะข้าว "สินค้าหลัก" สัญลักษณ์ประเทศ หนี้สินชาวบ้านเริ่มอีนุงตุงนัง กู้หน้ามาโปะหลัง ชักตรงกลางมากระเสือกกระสน สินค้าผลิตก็ขายไม่ออก ชาวบ้านรายได้ก็ฝืด แต่ค่าครองชีพกลับพุ่งพรวด ค่าน้ำขึ้น ค่าไฟขึ้น ค่าทางด่วนขึ้น ค่ารถขึ้น ค้าแก๊สขึ้น ค่าก๋วยเตี๋ยว-ค่าข้าวแกงขึ้น กระทั่งค่าไข่ก็ยังขึ้น ไอ้ปริญญาตรีสตาร์ท ๑๕,๐๐๐ ค่าแรง ๓๐๐ ไม่มีความหมาย ทั้งด้านจะได้จริงหรือไม่ และทั้งด้านได้มาก็ไม่คุ้มกับที่ราคาสินค้ามันหนีขึ้นไป สรุปแล้ว รัฐบาลนี้มันทำอะไรของมันบ้าง (วะ) ที่คุยว่าจะเข้ามาแก้ปัญหาปากท้อง สงสัยจะเป็นปัญหาปากท้องพวกมันเอง มากกว่าปากท้องประชาชน? เข้ามาปีแรก โชติช่วงชัชวาล ก็เพราะเกาะผลงานที่รัฐบาลประชาธิปัตย์ทำไว้เริ่มให้ดอก-ให้ผล ที่ตัวเองทำ ก็มีที่ล้วงควักเงินแผ่นดินไปแจกจ่ายเป็นประชานิยมบ้าง เป็นค่าจ้าง "เผาบ้าน-เผาเมือง" ให้ตัวเองมาเสวยอำนาจบ้าง ไอ้งานที่เป็นการปูพื้นฐานธุรกิจอาชีพยั่งยืนให้ชาวบ้าน ไหนล่ะ...อาชีพ "แดงทั้งแผ่นดิน" ละกระมัง? อาศัยเกาะแรงเหวี่ยง "เศรษฐกิจรอบ" จากส่งออกที่มีออเดอร์ค้างอยู่เท่านั้น พอครบปีก็หมดบุญเก่า การใช้ประชานิยมกระตุ้นเศรษฐกิจก็เริ่มกินตัวเอง ผู้อำนวยการ สศค. "นายสมชัย สัจจพงษ์" ออกมาบอกแล้วไง...วันนี้ รัฐบาลขาดดุลเงินสดกว่า ๔ แสนล้านบาท! แต่ไม่ต้องตกใจ กู้มาโปะให้ชาวบ้านใช้หนี้แทนได้ มันแค่เหมือนมีอาการมะเร็ง ยังไม่ถึงขั้นมะเร็ง เพราะยังเก็บภาษีได้ตามเป้า อีกทั้งฐานะการคลังในภาพรวมยังไม่ง่อนแง่น ถูไถมีให้ผลาญได้อยู่! แต่ถ้าเจอ ๓.๕ แสนล้าน กับ ๒.๑ ล้านล้าน กับเงินผลาญซื้อข้าวมาเน่าปี ๕๖/๕๗ อีกซัก ๓ แสนล้าน คราวนี้ไม่แน่....มะเร็งขั้นที่ ๑ มีโอกาสถามหา ถามว่า รัฐบาลเพื่อไทย โดย "ทักษิณคิด-ยิ่งลักษณ์ทำ" นี่ก็...เข้าปีที่ ๒ แล้ว มีบ้างมั้ย...ด้วยนโยบายตัวเอง บริหารประเทศเกิดอานิสงส์เป็นรายได้เข้าประเทศ? เห็นมีแต่ล้วงควักเงินแผ่นดินไปประชานิยม ไปปรนเปรอขบวนการ ไปสร้างหนี้ผูกพัน ไปล้างผลาญด้วยครหาระงม "โกงไม่เป็นไร ได้แล้วเอามาแบ่งกัน" และอีกอย่าง ใช้ทุกอย่างบนความเป็นรัฐไทย ช่วยให้อาชญากรทักษิณอยู่เหนือไทย-เหนือกฎหมาย และเหนือคนไทยทุกคน! เรื่องข้าวน่ะ.... เมื่อข้าวล้มเหลว เท่ากับประเทศล้มเหลว! ชาวนา ๒-๓ ล้านคนอยู่สุข แต่คนอีกกว่า ๔๐-๕๐ ล้านคนอยู่ทุกข์ เพราะเรื่องข้าว นั่นไม่ใช่ความสำเร็จของโครงการรับจำนำข้าวทุกเม็ดเกวียนละ ๑๕,๐๐๐ แต่ยัดห่ากันเองเกวียนละ ๓,๐๐๐-๔,๐๐๐ โดยเอาชาวนามาบังหน้า ประสาซื่ออย่างดีก็ได้กันแค่เกวียนละ ๑๑,๐๐๐-๑๒,๐๐๐ บาท ริค้าข้าวเอง ผลเป็นไง...รวยเฉพาะคน แต่จนกระจาย ต้องจ่ายค่าโกดัง ซ้ำขายไม่ได้ เก็บไว้ร่วม ๒ ปี ประมูลขายถูกก็ยังไม่มีใครมาประมูล ต้องไปบีบโรงสีให้ช่วยซื้อเป็นการระบายบ้าง เอาไปทำข้าวถุงขายเองบ้าง ขายให้หน่วยงานรัฐด้วยกันบ้าง เรื่องขายต่างประเทศ ไม่ต้องมาโม้ให้เหม็นขี้ฟัน ทั้งตลาด ทั้งเครดิต ทั้งคุณภาพ ทั้งชื่อเสียง จากข่าวฉาวโฉ่ไปทั่วโลก มันป่นปี้ยี่ยำไปหมดแล้ว ๒๐-๓๐ ล้านตันรอเน่า อย่าหวังรอขาย ไม่มีใครมาซื้อหรอก ส่วนข้าวใหม่ ไปถามไอ้เปี๊ยกมันดู เวียนเอาไปขายกันแต่แรกแล้ว! ทำเป็นไม่พอใจ เปิดประมูลแล้วบริษัทค้าข้าวใหญ่ๆทำไมจึงไม่มาร่วมประมูล ก็จะให้เขามาประมูลเอาไปทำอะไร ข้าวการเมืองที่ปนเปทั้ง ชนิด-ขนาด-คุณภาพ เพราะชาวนาเร่งปลูก เร่งเกี่ยวเอาปริมาณมาจำนำเพื่อรับหมื่นห้า ที่เขามีลูกค้าต้องหาข้าวส่ง หลายบริษัทไปตั้งบริษัทอยู่ในเขมรบ้าง ลาวบ้าง เวียดนามบ้าง คัดซื้อข้าวคุณภาพที่นั่นส่งให้ลูกค้า ก็ไม่ใช่ไทยไม่สนับสนุนไทย แต่ข้าวไทย "ทักษิณริ-ยิ่งลักษณ์ยำ" แต่ผู้เดียวไงล่ะ! ได้ยินรัฐมนตรีเม็ดทองแดงทักษิณเพ้อ จะให้ต่างประเทศมาซื้อตรง โธ่...เวรกรรม ฝรั่ง-ต่างชาติมันงั่งเนอะ ไม่รู้เลยว่า เป็นข้าวค้างปี ข้าวโละขาย ถ้าขายไม่ได้ต่อจากนี้ มีทางเดียว...เผามันไปเลยครับ...พี่น้องผมรับผิดชอบเอง! แล้วเขาจะมาซื้อไปเพื่ออะไร หรือซื้อข้าว ๑ ตัน แถมปู ๑ ตัว? สภาพข้าวของบริษัทรัฐบาลทักษิณคิด-ยิ่งลักษณ์ทำ ไม่ต้องพูดเรื่องราคาว่าขายเท่าทุนหรือขาดทุน ต้องพูดว่า ทำอย่างไรให้ภูเขาข้าวตามโกดัง อ.ต.ก.-อคส.สลายหายไป จะได้เอาพื้นที่ว่างมาเก็บข้าวจำนำรอบใหม่ ก็จะบอกไว้ ราคาข้าวไทยในตลาดต่างประเทศ ถึงโละขาย ราคาก็ยังแพงกว่าข้าวเวียดนาม ข้าวปากีสถาน ข้าวอินเดีย ข้าวจีน เป็นเท่าตัว และอย่าเจ็บหัวใจกันนะ โปรดรู้ไว้ ตอนนี้ประเทศจีนอนุญาตให้นำเข้า "ข้าวเขมร" แล้ว เพราะคุณภาพดี และราคาถูกกว่า ดีใจมั้ยค้าาาาา พ่อแม่พี่น้อง!? http://www.thaipost.net/news/240813/78292
|
|
|
|
เอมอร 2515
Cmadong พันธุ์แท้
ออฟไลน์
รุ่น: rcu 2515
คณะ: รัฐศาสตร์(นิติศาสตร์)
กระทู้: 4,562
|
|
« ตอบ #9410 เมื่อ: 25 สิงหาคม 2556, 00:33:53 » |
|
สวัสดีค่ะน้องเหยง มาไล่ตามอ่านก่อนค่ะ
|
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #9411 เมื่อ: 25 สิงหาคม 2556, 08:06:33 » |
|
สวัสดีครับ พี่'อร
อ่านไป เงินในกระเป๋าของเรายุบไปด้วย เงินในตลาดเหือดแห้ง หาที่มา-ที่ไปไม่เจอ กำลังซื้อหายไปหมด ช่วงนี้ต้องออมมากขึ้นครับ สินค้าเกษตรมีราคาไม่ดีหลายตัว รวมทั้งข้าวเปลือก ข้าวโพด ตามมาด้วยยางพาราและปาล์มน้ำมัน รัฐบาลเริ่มแขยงกับสินค้าเกษตรแล้ว หลังเปลี่ยนตัว รมต.พาณิชย์ ประมูลข้าวสาร 3 แสนตัน พ่อค้าภายในเข้าประมูล 3 หมื่นตัน จากเดิมที่ขอเข้าประมูล แต่ถูกปฎิเสธว่า จะเปิดประมูล G-to-G ให้รัฐบาลจีน 8 ล้านตัน แต่ไม่พบการนำข้าวสารของรัฐบาลลงเรือไปจีนแม้แต่เมล็ดเดียว แถมจีนออกมาบอกว่า ปีนี้ซื้อข้าวสารนำเข้า 3.4 ล้านตัน โดย 3 ล้านตันซื้อเวียตนามไปแล้ว คงเหลือ 4 แสนตันที่จะพิจารณานำเข้า แต่ก็ยังมีของเวียตนามเสนอเข้าไปขายอีก เลย งง งง อยู่ว่า ที่เปิดประมูล 8 ล้านตันให้จีนนั้น ส่งไปจีนที่ไหน?? !! ??
ส่วนยางพาราและปาล์มน้ำมัน ประท้วงครั้งแรกเกิดในภาคใต้ รัฐบาลเลยไม่ใยดี เพราะไม่ใช่ถิ่นของรัฐบาลและพรรคร่วม เรื่องจึงยาวดังที่เห็นครับ
|
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #9412 เมื่อ: 25 สิงหาคม 2556, 08:14:54 » |
|
ฝนในภาคเหนือ ภาคอีสาน ลดลงในวันนี้ แต่ภาคตะวันออกและภาคใต้จะเพิ่มขึ้นพยากรณ์อากาศ ประจำวันเสาร์ที่ 25 สิงหาคม 2556 ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น. มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ทำให้ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตกมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีฝนลดลง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามัน และอ่าวไทยตอนบนสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณดังกล่าวเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ และเรือเล็กในทะเลอันดามันควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้ไว้ด้วย พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้. ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน ตาก และเพชรบูรณ์ อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-31 องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดหนองคาย บึงกาฬ สุรินทร์ และอุบลราชธานี อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดราชบุรีกาญจนบุรี นครสวรรค์ พระนครศรีอยุธยา และสระบุรี อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และสุราษฏร์ธานี อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดระนอง พังงา และภูเก็ต อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีเมฆเป็นส่วนมาก โอกาสมีฝนตก ร้อยละ 60 ส่วนมากในระหว่างบ่ายถึงค่ำ อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
|
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #9413 เมื่อ: 25 สิงหาคม 2556, 10:42:12 » |
|
แพงยกแผงทั้งหมู-เนื้อ-ปลา-ไข่ ตลาดปากน้ำโพราคาพุ่ง แม่ค้าบ่นถ้วนหน้า24 สิงหาคม 2556 17:14 น. นครสวรรค์- ข้าวของเครื่องใช้ เนื้อสัตว์ เนื้อปลา ยันไข่ไก่ ในตลาดเมืองปากน้ำโพพาเหรดขึ้นราคากันยกแผง ทำพ่อค้าแม่ขายบ่นอุบ ยอดขายลดถ้วนหน้า ขณะที่ผักสดกลับราคาตก แถมคนขายยังต้องแบกค่าจ้าง 300 บาท/วันซ้ำอีก จนบางวันถึงกับขาดทุน ขณะที่รัฐบาลพรรคเพื่อไทย ได้ประกาศปรับราคาแก๊ส LPG ภาคครัวเรือน ขึ้นเดือนละ .50 บาท ตั้งแต่ 1 ก.ย.56 นี้ ไม่รวมค่าเอฟทีก็จะปรับขึ้นในช่วงปลายปีอีก 6-7 สตางค์ต่อหน่วย แต่ข้าวของเครื่องใช้ รวมถึงเนื้อสัตว์ เช่น เนื้อหมู ตามตลาดต่างๆ ในตลาดนครสวรรค์ต่างปรับราคาสูงขึ้นจากเดิมทุกชนิดแล้ว ซึ่งจากการสำรวจในตลาดสดศรีนคร อ.เมืองนครสวรรค์ พบว่า เนื้อสัตว์ต่างๆ มีราคาแพงขึ้นจากเดิมมาก โดยเฉพาะเนื้อหมูจากกิโลกรัมละ 130 บาท ปัจจุบันขายกันที่กิโลกรัมละ 140-150 บาทแล้ว นางสุพรรณี เทียนวรรณ เจ้าของร้านหมูยิ้มตลาดสดศรีนคร เผยว่า สาเหตุที่ต้องปรับราคาเนื้อหมูขึ้นเนื่องจากหมูที่รับมามีราคาแพงมากกว่าเดิม ลูกค้าต่างพากันบ่นในเรื่องราคาเนื้อหมูที่ปรับสูงขึ้นตั้งแต่ช่วงสารทจีน จนถึงขณะนี้ยังไม่มีทีท่าว่าหมู่จะราคาลดลง ทำให้ลูกค้ามาจับจ่ายใช้สอยลดปริมาณลง การซื้อขายก็ไม่คล่องตัวนักเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีที่แล้ว ล่าสุด ตนต้องลดปริมาณการสั่งซื้อเนื้อหมูลง ขณะที่ปลาก็มีการปรับราคาสูงขึ้นจากเดิมเดิม กก.ละ 30-50 บาท เช่น ปลาช่อนจากเดิม กก.ละ 100 บาท ปรับขึ้นเป็น กก.ละ 150-160 บาท คาดว่าราคาจะปรับสูงขึ้นอีก โดยนางสายทอง คำสอน เจ้าของร้านปลาร้านแม่จำปีตลาดสดศรีนคร บอกว่า เนื่องจากอาหารที่ใช้เลี้ยงปลาปรับราคาสูงขึ้นตามราคาน้ำมัน พ่อค้าคนกลางจึงขอขึ้นราคาขายปลาจนต้องปรับราคาขายขึ้นไม่ต่างจากเนื้อหมู ด้านนางละไม เครือจิโน เจ้าของร้านกษิดิศ ฟาร์ม ร้านขายไข่รายใหญ่ในตลาดสดศรีนคร เผยว่า ราคาไข่ปัจจุบันราคาแพงกว่าช่วงน้ำท่วมปี 2554 ที่ถือได้ว่ามีราคาสูงที่สุดแล้ว ล่าสุด ลูกค้าที่เคยซื้อ 10 ฟอง ก็ลดปริมาณลงเหลือ 5 ฟอง หรือไม่จากที่ซื้อฟองใหญ่ ไข่ไก่เบอร์ 0 หรือเบอร์ 1 ก็เปลี่ยนมาเป็น ไข่ไก่เบอร์ 2 และ เบอร์ 3 แทน อย่างไรก็ตาม ในส่วนของผักสด นอกจากจะไม่มีการปรับราคาขึ้นแล้วยังมีราคาตกต่ำลงด้วย โดยนางสำรวย เสริมแสง ร้านอ้อรวยจำหน่ายผักสดตลาดศรีนคร เผยว่า ผักที่รับมามีราคาถูกลง เนื่องจากผักมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น ได้กำไรไม่มากนัก และต้องมาจ้างคนงานอีกวันละ 300 บาท เพื่อให้ตรงกับนโยบายค่าแรงขั้นต่ำของรัฐบาลทำให้เกิดผลกระทบมาก จึงส่งผลต่อยอดขายบางวันถึงกับขาดทุน
จาก http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrView.asp?NewsID=9560000105936
|
|
|
|
swsm
Cmadong Member
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
@@ ยาหยี @@
ออฟไลน์
รุ่น: Rcu2523
คณะ: Comm Arts
กระทู้: 28,369
|
|
« ตอบ #9414 เมื่อ: 25 สิงหาคม 2556, 11:28:15 » |
|
ฝนตกหนักทุกวันเลยค่ะ .. เมื่อวันก่อนรับลูกเสร็จแล้ว แวะไปซื้อราดหน้ายอดผักร้านนายมะ ที่ราชวัตร ใส่ถุงกลับมาจะทานที่บ้าน ราชวัตรห่างจากบ้ายเพียงแค่ 1 สี่แยกไฟแดง ระยะทางไม่เกิน 2 กม. ใช้เวลาเดินทางเกือบ ชม.
ลูกบอก .. ถ้าฝนไม่ตก หนูจะขอเดินกลับบ้านเอง เพราะเสียเวลาทำการบ้านเหลือเกิน
|
.. don't play with me, cos I know how to play it too .. may be better than you do ..
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #9415 เมื่อ: 25 สิงหาคม 2556, 16:29:38 » |
|
น้องหยี
อุปสรรคมาจากรถยนต์ที่เพิ่มขึ้นในโครงการรถคันแรก และบริการรถสาธารณะวางใจไม่ได้ !! ตามด้วย ผู้ว่า กทม. ยังไม่อาจแก้ไขปัญหาอมตะนิรันดร์กาล "น้ำท่วม-รถติด" ได้สักที ??
|
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #9416 เมื่อ: 25 สิงหาคม 2556, 16:31:43 » |
|
จำนวนคนอ่านล่าสุด 391 คน วันที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2556 เวลา 09:05 น. ข่าวสดออนไลน์ จับสัญญาณศก.ครึ่งปีหลัง แค่ชะลอหรือสู่โหมดถดถอยข่าวสด เศรษฐกิจเป็นทอล์กออฟเดอะทาวน์ เมื่อสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ แถลงตัวเลขเศรษฐกิจไทยไตรมาส 2/2556 หดตัวลง 0.3% เทียบกับไตรมาส 1/2556 หากดูย้อนหลังไปในไตรมาส 1/2556 เทียบกับไตรมาส 4/2555 ปรากฏว่าเศรษฐกิจไทยหดตัวติดลบ 1.7%
นี่เป็นสัญญาณว่า เศรษฐกิจไทยกำลังจะเข้าสู่ภาวะถดถอย...หรือกำลังเผชิญอยู่ในภาวะถดถอยอย่างเต็มตัว?
นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) อธิบายว่า หากเศรษฐกิจอยู่ในภาวะติดลบต่อเนื่องเมื่อเทียบแบบไตรมาสต่อไตรมาสติดต่อกัน 2 ไตรมาส จะเรียกว่า "ถดถอย" แต่ภาวะที่เกิดขึ้นเรียกว่า "ภาวะถดถอยทางเทคนิค" เพราะเศรษฐกิจไทยไตรมาส 2/2556 ที่ติดลบ 0.3% เทียบกับไตรมาส 1/2556 ที่ก็ติดลบ 1.7% อยู่แล้ว ถือเป็นการเปรียบเทียบกับไตรมาส 4/2555 ที่อยู่ในภาวะไม่ปกติ
เนื่องจากไตรมาส 4/2555 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนคือ ไตรมาส 4/2554 นั้นได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วมจึงเป็นธรรมดาที่ไตรมาส 4/2555 ที่ผ่านการฟื้นฟูและกระตุ้นเป็นกรณีพิเศษ จึงเป็นอานิสงส์ให้เศรษฐกิจไตรมาส 4/2555 ขยายตัวสูงมากเมื่อนำไตรมาส 1/2556 ที่หมดแรงกระตุ้นเทียบกับไตรมาส 4/2555 เศรษฐกิจไทยจึงติดลบ และยังส่งผลกระทบให้ไตรมาส 2/2556 ติดลบตามไปด้วย
สอดคล้องกับ นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ผู้ช่วย ผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ ที่บอกว่าต้องยอมรับกรณีเศรษฐกิจติดลบต่อเนื่อง 2 ไตรมาส เข้าข่าย "เศรษฐกิจถดถอย" แต่หากพิจารณาลึกลงไปในรายละเอียด จะเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นคือ การถดถอยเกิดจากคนถูกเร่งให้ดึงกำลังซื้อล่วงหน้าออกมาใช้จ่ายในโครงการรถยนต์คันแรกมากเกินไปเมื่อแรงกระตุ้นหมดลง ในไตรมาส 1 และ 2 ของปีนี้จึงแผ่วลงตามกำลังซื้อที่ลดลง
โครงการรถยนต์คันแรก นับเป็นปัจจัยพิเศษที่ไม่เกี่ยวข้องกับปัจจัยฤดูกาล เมื่อสิ้นสุดโครงการและปรับปัจจัยฤดูกาลออกแล้ว จึงเห็นการหดตัวในไตรมาส 1 และ 2 แต่ยืนยันไม่เป็นภาวะถดถอย เพราะจะเห็นว่าไตรมาส 1/2556 เศรษฐกิจติดลบ 1.7% ขณะที่ไตรมาส 2/2556 กระเตื้องขึ้นเป็นติดลบเพียง 0.3%
"ลักษณะของเศรษฐกิจไทยไม่ใช่ถดถอย เป็นอาการเหยียบเบรก โอกาสที่จะดิ่งลงเหวหรือกู่ไม่กลับนั้นจึงไม่มี ซึ่งเศรษฐกิจไทยไตรมาส 3-4 ของ ปีนี้อาจเติบโตไม่ดีมาก แต่ก็ไม่แย่แน่นอน ยกเว้นถ้าติดลบ 1-2% ต่อเนื่อง ซึ่งส่วนตัวเชื่อว่าเมื่อเวลาผ่านไประดับหนึ่ง คนใช้หนี้และปรับตัวได้ มีเงินเหลือจากการใช้หนี้แล้ว ก็จะกลับมาใช้จ่ายเหมือนเดิม"
นายกอบศักดิ์กล่าวอีกว่า ส่วนหนึ่งมองว่าที่ผ่านมารัฐบาลไม่สร้างความเชื่อมั่น จูงใจให้ภาคเอกชนลงทุน โดยเฉพาะโครงการลงทุนขนาดใหญ่ของภาครัฐ ที่น่าจะทำให้เห็นเป็นรูปเป็นร่างสัก 2-3 โครงการ ให้ภาคเอกชนเชื่อมั่นว่ารัฐบาลสามารถทำได้และลงมือทำแล้ว การลงทุนภาคเอกชนก็จะตามมา
นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า มั่นใจว่าในปีนี้เศรษฐกิจไทยจะโตได้ 4% ตามเป้า ส่งออกโตได้ในระดับ 3-4% ถือเป็นระดับใช้ได้ อย่างไรก็ตามหากเทียบเป็นรายไตรมาสที่ปรับลดลง 2 ไตรมาสติดต่อกันไปตีความว่าเศรษฐกิจถดถอยนั้น อยากให้เข้าใจว่าไตรมาสสุดท้ายของปี 2555 นั้นเศรษฐกิจไทยเติบโตมากถึง 19% เพราะอุตสาหกรรมเร่งผลิตสินค้าหลังน้ำท่วมใหญ่จึงสูงแบบก้าวกระโดด
ส่วนไตรมาส 2 ปกติต่ำอยู่แล้ว ยิ่งมีเหตุการณ์หยุด ส่งก๊าซธรรมชาติจากพม่า 10 กว่าวันทำให้อุตสาหกรรมต้องหยุดผลิต แต่เชื่อว่าไตรมาส 3 จะดีขึ้น และครึ่งปีหลังขยายตัวดีกว่าครึ่งปีแรกอย่างแน่นอน ในส่วนรัฐบาลคงต้องเร่งเบิกจ่ายงบประมาณค้างท่อ 1.7 แสนล้านบาท การเร่งรัดให้ใช้จ่ายงบลงทุนในงบประมาณปี 2557 อีก 1.2 แสนล้านบาท น่าจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงที่เหลือของปีได้ระดับหนึ่ง
สำหรับการวิจารณ์ว่าเศรษฐกิจไทยเข้าสู่ภาวะถดถอยโดยเฉพาะบีบีซี มองว่าไม่เข้าใจประเทศไทย และมองแบบผิวเผิน ซึ่งการที่เศรษฐกิจไทยปีนี้จะโตได้ในระดับ 4%นั้น ไม่ถือว่าเป็นสิ่งที่เลวร้าย ยิ่งช่วงนี้บาทอ่อนน่าจะช่วยให้การส่งออกปรับตัวดีขึ้น
ขณะที่ นายบัณฑูร ล่ำซำ ประธานกรรมการ ธนาคารกสิกรไทย บอกว่า เศรษฐกิจไทยปีนี้ยอมรับว่าค่อนข้างน่าเป็นห่วง มีโอกาสที่อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) จะเติบโตได้ต่ำกว่า 4% เนื่องจากกระบวนการบริหารมีความล่าช้า โดยเฉพาะ พ.ร.บ.ลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 2 ล้านล้านบาท ที่ยังไม่มีความชัดเจน ส่งผลให้เศรษฐกิจไทยมีความจำเป็นต้องพึ่งพาการลงทุนจากภาคเอกชนเป็นหลัก ซึ่งนักลงทุนยังมีความเชื่อมั่นในไทยแม้จะมีความวุ่นวายทางการเมือง
"รัฐบาลจะต้องเร่งชี้แจง ให้เกิดความกระจ่าง เพื่อให้ทุกอย่างสามารถดำเนินการไปได้ ให้การลงทุนเกิดขึ้น ไม่เช่นนั้นเศรษฐกิจไทยคงแย่ แต่ในเรื่องของการลงทุนภาคเอกชนแม้จะมีการเมืองเกิดขึ้น แต่เชื่อว่านักลงทุนเข้าใจ เพราะที่ผ่านมาบ้านเราก็มีเหตุการณ์เกิดขึ้นมาโดยตลอด แต่คงบอกไม่ได้ว่าครั้งนี้จะจบอย่างไร"
ส่วนด้านค้าปลีก นายฉัตรชัย ตวงรัตนพันธ์ ที่ปรึกษาสมาคมผู้ค้าปลีกไทย กล่าวว่า ภาวะเศรษฐกิจไทยในช่วงไตรมาส 3 และ 4 ที่เหลือของปีนี้ คงไม่มีอะไรเลวร้ายไปกว่านี้แล้ว คาดการณ์ว่าจะอยู่ในลักษณะทรงตัวถ้ารัฐบาลไม่มีมาตรการที่ออกมากระตุ้น อย่างเร่งด่วนเชื่อว่าตัวเลขจีดีพีของเศรษฐกิจไทยปีนี้น่าจะอยู่ที่ 3.8-4.0% ตามที่ สศช.ประมาณการ สะท้อนให้เห็นว่าผู้บริโภคมีกำลังซื้อลดลงชัดเจน และไม่เห็นรัฐบาลมีอะไรที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งการกระตุ้นในด้านการคลังก็ต้องรองบประมาณปี 2557 และจะสามารถเบิกจ่ายใช้ได้จริงราวๆ ม.ค.ปีหน้า
ส่วนเรื่องลดดอกเบี้ยซึ่งเป็นนโยบายการเงินก็ไม่สามารถทำได้ เนื่องจากหนี้สินภาคครัวเรือนอยู่ในอัตราที่สูง ในขณะที่เมกะโปรเจ็กต์ ทั้งโครงการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท และโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ 2 ล้านล้านบาท แม้ผ่านมติสภา ก็ไม่สามารถลงทุนได้ภายในปีนี้
สิ่งที่อยากเสนอแนะรัฐบาล คือ การลดภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวต) ในกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคบางรายการที่จำเป็นต่อการใช้ชีวิตประจำวันลงจาก 7% ให้เหลือ 3-4% จะทำให้ราคาสินค้าลดลง ประชาชนจะมีเงินเพิ่มและมีอำนาจในการใช้จ่ายเพิ่มขึ้น แม้ว่าแนวทางดังกล่าวจะทำให้รัฐมี รายได้ลดลง แต่จะช่วยแบ่งภาระของประชาชนได้ดี
ปิดท้ายด้วย นายสมชาย พรรัตนเจริญ นายกสมาคมการค้าส่ง-ปลีกไทย กล่าวว่า มองว่าในไตรมาส 3-4 ของปีนี้คาดว่าเศรษฐกิจของไทยน่าจะปรับตัวดีขึ้นเนื่องจากเป็นช่วงปลายปีที่ใกล้ช่วงเทศกาลปีใหม่ มีการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น อย่างไรก็ตามต้องจับตาดูว่าภาครัฐจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างไรเนื่องจากที่ผ่านมาตั้งแต่ต้นปีไทยประสบปัญหาค่าเงินบาทแข็งค่าส่งผลให้การส่งออกลดลงต่อเนื่องจนต้องเร่งหามาตรการมา กระตุ้นซึ่งยังไม่ค่อยได้ผลนัก
ดังนั้นต่อไปภาครัฐจะต้องหันมากระตุ้นเศรษฐกิจรากหญ้า พึ่งพาเศรษฐกิจภายในประเทศให้มากขึ้น ทำให้ประชาชนระดับกลางและล่างมีรายได้เพิ่มมากขึ้น รายจ่ายลดลงมีเงินจับจ่ายได้มากขึ้นเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจได้อย่างยั่งยืน
นี่คือนานาทรรศนะต่อวิกฤตเศรษฐกิจของไทยว่าจะเข้าข่ายถดถอยหรือแค่ชะลอตัวคงต้องจับตาดูอย่างใกล้ชิดอย่ากะพริบตาโดยเด็ดขาด http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNM056TTVOalV5T0E9PQ==§ionid=
|
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #9417 เมื่อ: 26 สิงหาคม 2556, 07:31:06 » |
|
ฝนลดลงจากวันอาทิตย์ แต่ก็ยังมีฝนอยู่จากหย่อมความกดอากาศต่ำในประเทศเวียตนามปกคลุมภาคเหนือ ภาคอีสาน โดยรวมทุกภาคมีฝนเฉลี่ยร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ พยากรณ์อากาศ ประจำวันจันทร์ที่ 26 สิงหาคม 2556 ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น. มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย เริ่มมีกำลังอ่อนลง ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมประเทศเวียดนามตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนยังคงมีฝนตกต่อไป ส่วนภาคใต้จะมีฝนลดลง
พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้. ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน ตาก และเพชรบูรณ์ อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-31 องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดหนองคาย บึงกาฬ สุรินทร์ และอุบลราชธานี อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัด ราชบุรี กาญจนบุรี นครสวรรค์ พระนครศรีอยุธยา และสระบุรี อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และสุราษฏร์ธานี อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดระนอง พังงา และภูเก็ต อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีเมฆเป็นส่วนมาก โอกาสมีฝนตก ร้อยละ 40 ส่วนมากในระหว่างบ่ายถึงค่ำ อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
|
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #9418 เมื่อ: 26 สิงหาคม 2556, 17:52:50 » |
|
|
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #9419 เมื่อ: 27 สิงหาคม 2556, 09:58:42 » |
|
ฝนยังตกลดลง แต่ภาคเหนือ ภาคอีสาน ยังคงมีฝนมากเช่นเมื่อวานนี้พยากรณ์อากาศ ประจำวันอังคารที่ 27 สิงหาคม 2556 ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น. ร่องมรสุมกำลังอ่อนพาดผ่านบริเวณภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนเข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนยังคงมีฝนตกต่อไปและมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือด้านตะวันออก พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้. ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดเชียงราย ตาก และเพชรบูรณ์ อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-31 องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดหนองคาย บึงกาฬ นครพนม สกลนคร มุกดาหาร ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัด ราชบุรีกาญจนบุรี นครสวรรค์ พระนครศรีอยุธยา และสระบุรี อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว จันทบุรีและตราด อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรี สุราษฏร์ธานี นครศรีธรรมราชและสงขลา อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดระนอง พังงา และภูเก็ต อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีเมฆเป็นส่วนมาก โอกาสมีฝนตก ร้อยละ 40 ส่วนมากในระหว่างบ่ายถึงค่ำ อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
|
|
|
|
หนุน'21
Global Moderator
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
ซีมะโด่ง'จุฬาฯ ที่มาของผม
ออฟไลน์
คณะ: "ครุศาสตร์"
กระทู้: 26,927
|
|
« ตอบ #9420 เมื่อ: 27 สิงหาคม 2556, 15:43:56 » |
|
สวัสดีครับพี่เหยงและพี่น้องทุกท่่าน เข้ามาตามอ่านข่าวคราวที่พี่รวบรวมไว้
ช้ำใจกับการทำงานของรัฐบาลเวรกรรมจริงๆครับ
ขอบคุณพี่เหยงครับ
|
“สิ่งที่ล้ำค่าที่สุดในใต้หล้า ทั้งมิใช่ชื่อเสียง และไม่ใช่ทรัพย์ศฤงคาร หากแต่เป็นน้ำใจระหว่างคน ท่านหากได้มา พึงทะนุถนอมไว้ อย่าได้สร้างความผิดหวังต่อตนเองและผู้อื่น.” “วีรบุรุษสำราญ” “โกวเล้ง”
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #9421 เมื่อ: 28 สิงหาคม 2556, 22:26:36 » |
|
หนุน และทุกท่านครับ
วันนี้ไปทำธุระที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยามาครับ เลยไม่มีเวลาเข้าเว็ป ต้องขอยกไปวันพรุ่งนี้ครับ
|
|
|
|
เริง2520
|
|
« ตอบ #9422 เมื่อ: 28 สิงหาคม 2556, 22:36:19 » |
|
รอได้ครับ
|
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #9423 เมื่อ: 29 สิงหาคม 2556, 16:19:13 » |
|
วันนี้ฝนลดลง พายุโซนร้อน "กองเรย์" พัดผ่านประเทศฟิลิปปินส์และไม่มีผลกระทบต่อประเทศไทยพยากรณ์อากาศ ประจำวันพฤหัสบดีที่ 29 สิงหาคม 2556 ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 10:00 น. มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ทำให้บริเวณประเทศไทยยังคงมีฝนตกใกล้เคียงกับ 1-2 วันที่ผ่านมา ส่วนบริเวณภาคตะวันออกและภาคใต้ฝั่งตะวันตกจะมีฝนตกหนักได้บางแห่ง สำหรับ ในช่วงวันที่ 30 สิงหาคม - 1 กันยายน 2556 ร่องมรสุมจะพาดผ่านภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนเพิ่มมากขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง อนึ่ง เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (29 ส.ค. 56) พายุโซนร้อน “กองเรย” (KONG-REY) มีศูนย์กลางอยู่ทางตอนเหนือของเกาะไต้หวัน และคาดว่าจะเคลื่อนตัวไปทางประเทศญี่ปุ่นต่อไป ขอให้ผู้ที่จะเดินทางไปบริเวณดังกล่าวตรวจสอบสภาพอากาศก่อนออกเดินทางด้วย สำหรับพายุนี้ไม่มีผลกระทบต่อประเทศไทย
พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 12:00 วันนี้ ถึง 12:00 วันพรุ่งนี้. ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงราย เชียงใหม่ พะเยา น่าน ตาก และเพชรบูรณ์ อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดหนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี กาญจนบุรี และราชบุรี อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดจันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดตรัง และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีเมฆเป็นส่วนมาก โอกาสมีฝนตก ร้อยละ 40 ส่วนมากในช่วงบ่ายถึงค่ำ อุณหภูมิต่ำสุด 26-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. [/b]
|
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #9424 เมื่อ: 29 สิงหาคม 2556, 20:56:44 » |
|
วันนี้้จังหวัดนครสวรรค์ โดย อบจ.นครสวรรค์ และ อบต.นครสวรรค์ตก จัดงาน "ตามรอย 11 ทศวรรษ เสด็จประพาสต้น" ณ บริเวณท่าน้ำวัดเขื่อนแดง ตำบลนครสวรรค์ตก
|
|
|
|
|