คุยกับ เหยง 16 - พิเชษฐ์ เชื่อมฯ-เตรียมฉลอง 100 ปี หอซีมะโด่ง จุฬาฯ

[เหยง 16]

เปิดมาก็เจอแล้วครับ หลายเรื่องทีเดียว..............??

1.หอการค้าฯ หวั่นจำนำข้าวเหลว แนะ 3 ทางแก้ด่วน

หอการค้าฯ หวั่นจำนำข้าวเหลว แบะ 3 มาตรการแก้ด่วน ยอมรับไม่มั่นใจมาตรการปรับลดจำนำข้าวเหลือ 12,000 บาท/ตัน จี้ควรเร่งระบายข้าวออกก่อนมีปัญหา...

http://www.thairath.co.th/content/eco/352232

2.ชาวนากาญจน์โวยถูกรัฐบาล “ปู” หลอก ปธ.โรงสีข้าวฯ เผยชาวนา 3 จังหวัดโดนเต็มๆ

กาญจนบุรี - ชาวนาเมืองกาญจนบุรีโวยถูกรัฐบาล “ยิ่งลักษณ์” หลอก วอนทบทวนมติ กขช.เหตุปรับลดราคาจำนำข้าวจากตันละ 15,000 บาทต่อต้น เหลือ 12,000 บาทต่อตัน แนะให้แก้ปัญหาให้ถูกจุด ด้าน ปธ.โรงสีข้าวฯ เผยเห็นใจชาวนา 3 จังหวัดโดนเต็มๆ ส่วนโรงสีไร้ปัญหาขึ้นอยู่กับรัฐบาลให้นโยบาย

http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9560000074334

3.ชาวนากรุงเก่าครวญลดราคาจำนำข้าวทำไปก็ไม่คุ้มทุน นายกฯ ชาวนานัดแถลงพรุ่งนี้

พระนครศรีอยุธยา - นายกสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทยนัดแถลงพรุ่งนี้ หลังรัฐบาลปรับลดราคารับจำนำข้าวเปลือกนาปรังปี 56 จาก 15,000 บาทต่อตัน เหลือ 12,000 บาทต่อตัน ชี้รับไม่ได้ทำให้ชาวนาได้รับผลกระทบ ไม่คุ้มทุน ขณะที่ชาวนาอยุธยาโวยค่าแรงก็ไม่คุ้ม มีแต่เสมอตัว หากตัดความชื้นออกก็คงไม่เหลืออะไร

http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9560000074320

4.ชาวนาอ่างทองโวยลดราคาจำนำข้าว ทำให้ต้องทำนาฟรี ตัวแทนชาวนาเตรียมแสดงพลังค้าน

อ่างทอง - ชาวนาอ่างทอง โวย กขช.มีมติให้ปรับลดราคารับจำนำข้าวเปลือกข้าวนาปรังจาก 15,000 บาทต่อตัน ลงเหลือ 12,000 บาทต่อตัน ทำให้ชาวนาต้องแบกรับต้นทุนขึ้น ทำให้ชาวนาต้องทำนาฟรี ด้านโรงสีอ่างทอง บอกไร้ผลกระทบ หลังมติ กขช.ลดราคาจำนำข้าวนาปรัง ชี้ชาวนาจะได้รับผลกระทบเต็มๆ ขณะที่ตัวแทนชาวนาเตรียมแสดงพลังคัดค้านลดจำนำข้าว ระบุแก้ปัญหาไม่ถูกจุด แต่ต้นเหตุ คือ การทุจริต

[เหยง 16]

สุดฮา! "หนูไม่รู้" เวอร์ชั่น "จำนำข้าว"
19 มิถุนายน 2556 19:10 น.


       กลายเป็นที่พูดถึงกันเป็นอย่างมากทีเดียวสำหรับการทำหน้าที่ของนักข่าวสายกระทรวงพาณิชย์ที่ได้ทำการซักถามไปยังนายบุญทรง รมว.พาณิชย์ และนายณัฐวุฒิ รมช.พาณิชย์ ถึงตัวเลขเกี่ยวกับงบประมาณที่ใช้ไปกับโครงการจำนำข้าวของรัฐบาลโดยที่ทั้งสองไม่สามารถตอบคำถามใดๆ ได้
      
        ทั้งนี้นอกจากการแชร์คลิปที่เผยให้เห็นกิริยาอาการที่เรียกว่า "ไปไม่เป็น" ของทั้งคู่แล้ว ล่าสุดในโลกออนไลน์ก็ได้มีการนำเอาประเด็นที่ว่านี้มาดัดแปลงทำเป็นมิวสิควิดีโอเพลงที่มีชื่อว่า "หนูไม่รู้ v จำนำข้าว" ออกมาโดย DRZO อีกด้วย
        
        สำหรับเนื้อหาของเพลงทาง DRZO ได้ดัดแปลงมาจากเพลง "หนูไม่รู้" แต่งโดยครู "ลพ บุรีรัตน์" ซึ่ง'เป็นหนึ่งในเพลงที่สร้างชื่อให้กับราชานีลูกทุ่งไทย "พุ่มพวง ดวงจันทร์" ขณะที่ภาพในมิวสิควิดีโอนั้นเป็นเวอร์ชั่นที่ขับร้องโดยนักแสดงสาว "เปาวลี พรพิมล" จากหนังเรื่อง "พุ่มพวง" พร้อมกับได้มีการโพสต์ผ่านเว็บไซต์ยูทูบจากผู้ที่ใช้ชื่อว่า Aken01 และได้มีผู้เข้าไปแสดงความเห็นชื่นชมกันมากมาย
      
        โดยนอกจากเพลงนี้แล้ว ที่เว็บไซต์ https://www.youtube.com/user/Aken01?feature=watch ทางผู้ที่ใช้ชื่อว่า DRZO ยังได้นำเอาเพลงอื่นๆ มาดัดแปลงพร้อมใส่เนื้อหาที่มาจากข่าวสารทั้งการเมืองและสังคมเข้าไปอีกหลายเพลง อาทิ เพลง "รักต้องเปิด (แน่นอก)" ของศิลปิน "3.2.1" ที่มีเนื้อหาว่าถึงกรณีที่รัฐบาลมีมติจะยุบโรงเรียนขนาดเล็ก รวมถึงเพลง "เส้นทางลูกผู้ชาย" ของนักร้องดัง "เสก โลโซ" ที่เนื้อหาย้อนกลับไปให้เจ้าตัวได้คิดว่าการที่เขาต้องถูกหลายคนวิพากษ์ไปในทางลบจนต้องระบายออกมาเป็นเพลงนี้นั้นมันเป็นเพราะอะไร...
      

<a href="http://www.youtube.com/watch?v=Wsshkhh6Auw" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=Wsshkhh6Auw</a>  

     
     
       Devil Resonate
       DRZO หนูไม่รู้ v จำนำข้าว
       ขอโทษที โทษที โทษที แต่โรงสีเขามาเรียกร้อง
       ขอโทษทีเกือบจะขัดปรองดอง เขาบอกน้องว่าให้สืบความจริง
       ก็หนูไม่รู้ ว่ามีแพลน(PLAN) รับข้าวแพงสุดเมพขิงๆ
       หนูไม่รู้ จริงๆ ว่าเขารอฉกกินของหลวง
      
       ขอโทษที โทษที โทษที ที่ต้องย้ำว่าโดนหลอกลวง
       ขอโทษทีที่ไปถกพรรคหวง ถ้าไม่ท้วงเจ๊งแน่ๆ บ้านเรา
       ก็หนูไม่รู้ กำไรมี เห็นขาดทุนหนูก็เลยซักเขา
       หนูไม่รู้ข้าวของเรา เขาบอกเขาช่วยหนูคนเดียว
       ก็หนูไม่รู้ ก็แพลนดี ไม่ขาดทุนหนูก็เลยเลือกเขา
       หนูไม่รู้เพราะหูเบา เขาบอกเขาช่วยหนูคนเดียว
      
       (ซ้ำ ทั้งหมด)
      
       หนูไม่รู้เพราะหูเบา ขออย่าเผาข้าวหนูเลยเชียว
     
      
http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrView.asp?NewsID=9560000074341
 

[เหยง 16]

ฝนเริ่มมากขึ้นตั้งแต่วันนี้ ในอัตราร้อยละ 60-70 ของพื้นที่
จากหย่อมความกดอากาศต่ำในทะเลจีนใต้ตอนกลางแรงขึ้นปะทะกับลมมรสุมที่พัดแรงขึ้นจากทะเลอันดามัน
ส่งผลให้คลื่นในทะเลอันดามันสูงกว่า 2-4 เมตร
ส่วน พายุโซนร้อน"หลี่ผี" มุ่งหน้าสู่ประเทศญี่ปุ่น ไม่มีผลกระทบต่อประเทศไทย

พยากรณ์อากาศ ประจำวันพฤหัสบดีที่ 20 มิถุนายน 2556
ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 10:00 น.  มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงอยู่บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนเพิ่มมากขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดตราด และระนอง จึงขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักในระยะนี้ สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูง 2-4 เมตร ส่วนชายฝั่งภาคตะวันออกมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณดังกล่าวเพิ่มความระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือ และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งต่อไปอีกจนถึงวันที่ 23 มิถุนายน 2556 ไว้ด้วย
อนึ่ง พายุโซนร้อน “หลี่ผี” (Leepi) ทางด้านตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะไต้หวันมีแนวโน้มเคลื่อนตัวไปทางประเทศญี่ปุ่น ซึ่งพายุนี้ไม่มีผลกระทบต่อประเทศไทย สำหรับผู้ที่จะเดินทางไปญี่ปุ่นควรตรวจสอบสภาพอากาศก่อนออกเดินทางด้วย
 
พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 12:00 วันนี้ ถึง 12:00 วันพรุ่งนี้.

ภาคเหนือ  มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงราย เชียงใหม่ พะเยา น่าน
ตาก กำแพงเพชร พิษณุโลก และเพชรบูรณ์
อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
 
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ  มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่
ส่วนมากทางตอนบนของภาค บริเวณจังหวัดหนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี
สกลนคร นครพนม มุกดาหาร ขอนแก่น และกาฬสินธุ์
อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
 
ภาคกลาง  มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัด
นครสวรรค์ อุทัยธานี กาญจนบุรี สุพรรณบุรี และราชบุรี
อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
 
ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่
และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดตราด
อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-40 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร
เว้นแต่บริเวณจังหวัดชลบุรี และระยองมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
 
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)  มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ส่วนมากบริเวณ
จังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฏร์ธานี และนครศรธรรมราช
อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งมีคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร
 
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่
และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดระนอง
อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-45 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง 2-4 เมตร
 
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ ส่วนมากในระหว่างบ่ายถึงค่ำ
โดยกลุ่มฝนจะเคลื่อนจากทางด้านตะวันตกไปทางตะวันออก
อุณหภูมิต่ำสุด 26-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-35 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.

[เริง2520]

ฝนมา เย็นขึ้น อากาศดีมากๆ

[หนุน'21]

สวัสดีครับพี่เหยงและสมาชิกทุกท่าน
เข้ามาตามข่าวครับ ขอบคุณครับ

 

[เหยง 16]

น้องเริง หนุน

คราวนี้เป็นพายุครั้งแรกของปีแล้วครับ ที่พัดเข้าฝั่งจีน-เวียตนาม-ไต้หวัน 
หลัง "หลี่ผี" พัดไปเข้าประเทศญี่ปุ่นเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา

พยากรณ์อากาศ ประจำวันศุกร์ที่ 21 มิถุนายน 2556
ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา
"พายุดีเปรสชัน"
ฉบับที่ 1 ลงวันที่ 21 มิถุนายน 2556



ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น.  เมื่อเวลา 01.00 น.วันนี้ (21 มิ.ย. 56) หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงในทะเลจีนใต้ตอนบนได้ทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุดีเปรสชันแล้ว และเมื่อเวลา 04.00 น.วันนี้ (21 มิ.ย. 56) มีศูนย์กลางอยู่ที่ละติจูด 17.5 องศาเหนือ ลองกิจูด 117.5 องศาตะวันออก โดยมีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลาง ประมาณ 55 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุนี้กำลังเคลื่อนที่ทางเหนืออย่างช้าๆ คาดว่าจะขึ้นฝั่งบริเวณประเทศจีนตอนใต้ในช่วงวันที่ 22-23 มิถุนายน 2556 ซึ่งพายุนี้ไม่มีผลกระทบโดยตรงต่อประเทศไทย
สำหรับ มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ด้านตะวันตกของภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบนมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่งในระยะนี้ สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ส่วนชายฝั่งภาคตะวันออกมีคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณดังกล่าวเพิ่มความระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือ และเรือเล็กในทะเลอันดามันตอนบนควรงดออกจากฝั่งต่อไปอีกจนถึงวันที่ 23 มิถุนายน 2556 ไว้ด้วย
 
พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.

ภาคเหนือ  มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงราย เชียงใหม่ พะเยา น่าน
ตาก กำแพงเพชร พิษณุโลก และเพชรบูรณ์
อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
 
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ  มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่
และมีฝนตกหนักบางแห่งทางตอนบนของภาคบริเวณจังหวัดหนองคาย
บึงกาฬ อุดรธานี สกลนคร นครพนม มุกดาหาร และกาฬสินธุ์
อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
 
ภาคกลาง  มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ส่วนมากบริเวณจังหวัด
นครสวรรค์ อุทัยธานี กาญจนบุรี และราชบุรี
อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
 
ภาคตะวันออก  มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่
และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดตราด
อุณหภูมิต่ำสุด 26-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร
 
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และสุราษฏร์ธานี
อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งมีคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร
 
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่
และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดระนอง
อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-45 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร
 
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล  มีฝนฟ้าคะนองส่วนมากในระหว่างบ่ายถึงค่ำกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่
โดยกลุ่มฝนจะเคลื่อนจากทางด้านตะวันตกไปทางตะวันออก
อุณหภูมิต่ำสุด 26-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
 

[เหยง 16]

สวัสดีในช่วงบ่ายครับ

พรุ่งนี้มูลนิธิศุภศิริวัตร ร่วมกับคณะเภสัศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ร่วมกันสร้างอโรคยาศาลา (โรงพยาบาลแผนโบราณ) อาคารแปดเหลี่ยม กว้าง 24 x 26 ม. สูง 8 ม.
โดยบนหลังคาจะประดิษฐานพระซึ่งจะเททองหล่อพระนาคปรกองค์ใหญ่ สูง 30 ม. ไว้
เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองในโอกาสที่พระเจ้าอยู่หัวมีพระชนมายุครบ 84 พรรษา
และฉลองครบรอบ 100 ปี ของคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

อาคารอโรคยาศาลา ถูกออกแบบเป็นสถานบริการทางแพทย์แผนไทย
ตามกฎ ระเบียบ และมาตรฐานกระทรวงสาธารณสุข
เพื่อใช้รักษาโรคด้วยวิชาแพทย์แผนไทยและดูแลสุขภาพแบบองค์รวม
เพื่อการรักษาผู้ป่วยที่สิ้นหวังจากการรักษาด้วยการแพทย์แผนปัจจุบัน และเพื่อผู้ป่วยที่ยากไร้ทั่วไป

สถานที่ก่อสร้างคือ วัดบุดดา ต.บางกระบือ อ.เมือง จ.สิงห์บุรี

พรุ่งนี้จะมีพิธีวางศิลาฤกษ์เพื่อเริ่มก่อสร้างอาคารอโรคยาศาลา และเททองหล่อพระนาคปรก
โดย ฯพณฯ นพ.เกษม วัฒนชัย องคมนตรี

[เหยง 16]

[เหยง 16]

[เหยง 16]

[เหยง 16]

[เหยง 16]

จุฬาฯแถลงโต้ อุเทนฯบอกตีความผิด-บิดเบือน กรณีขอคืนที่ดิน อ้างเป็นพระราชประสงค์ ร.6
วันที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2556 เวลา 16:30:21 น.


จากกรณีที่กลุ่มนักศึกษาของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย กว่า 500 คน  รวมตัวมาประท้วงบริเวณริมถนนด้านหน้าประตูทางเข้าจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย  ฝั่งสำนักงานอธิการบดี เพื่อทวงถามกรณีที่ถูกทางจุฬาฯยืนยันว่าจะขอเวนคืนที่ดินของทางมหาวิทยาลัย พร้อมทั้งยื่นหนังสือทวงกรรมสิทธิ์ที่ดินพระราชทานตามพระประสงค์ของพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยในหนังสือดังกล่าวมีรายละเอียดคือ


เรื่อง  ขอให้โอนกรรมสิทธิ์ที่ดินคืนให้แก่โรงเรียนช่างก่อสร้างอุเทนถวาย
เรียนอธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

เดิมโรงเรียนช่างก่อสร้างอุเทนถวายได้ก่อกำเนิดขึ้นจากพระราชประสงค์ของพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่6 เพื่อที่จะสืบทอดพระกระแสของพระราชดำริ ของสมเด็จพระบรมชนกนาถ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 ที่ทรงห่วงใยในศิลปะการช่างของไทยจะถูกอิทธิพลของศิลปะ วัฒนธรรมชาติตะวันตกที่แพร่หลายเข้ามาครอบงำ อาจถึงคราวเสื่อมสูญได้ โดยเฉพาะวิชาช่างก่อสร้างซึ่งในปี พ.ศ.2461 สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าจุฑาธุชธราดิลก กรมขุนเพ็ชรบูรณ์อินทราชัย ทรงเป็นผู้รับสนองพระราชปณิธานโดยขณะดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการโรงเรียนเพาะช่างได้ทรงนำผลกำไรจากงานการค้าของโรงเรียนเพาะช่างมาสร้างโรงเรียนเพาะช่าง ขึ้นที่เชิงสะพานอุเทนถวาย ถนนพญาไท แต่พระองค์ได้สิ้นพระชนม์ลงเสียก่อน

ต่อมาเมื่อวันที่  9 มกราคม 2466 พระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯพระราชทานเงินจำนวน 10,000 บาท ให้ไปจัดสร้างโรงเรียนเพาะช่าง ทรงพระราชอุทิศพระราชทานแด่ สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าจุฑาธุชธราดิลก กรมขุนเพ็ชร์บูรณ์อินทราชัย  ซึ่งกระทรวงวังได้จ่ายเงินจำนวนดังกล่าวให้ขุนหิรณการโกศิต รับไปแต่วันที่ 16 มกราคม นี้แล้ว

จากนั้น เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2475 เจ้าพระยาธรรมศักดิ์มนตรี เสนาบดี กระทรวงศึกษาธิการได้สานต่อพระราชปณิธานที่จะจัดตั้งโรงเรียนช่างก่อสร้างขึ้น เพื่อเป็นโรงเรียนฝึกหัดวิชาชีพต่อไป โดยได้ตั้งโรงเรียนวิสามัญศึกษาขึ้นที่ โรงงานของโรงเรียนเพาะช่าง ถนนพญาไท เชิงสะพานอุเทนถวาย ให้ชื่อว่า “โรงเรียนช่างก่อสร้างอุเทนถวาย” และขึ้นแขวงวิสามัญ กับให้มีกรรมการจัดการโรงเรียนขึ้นคณะหนึ่งด้วย ซึ่งได้เปิดทำการเรียนการสอนอยู่จนถึงปัจจุบัน นับเป็นเวลายาวนานถึง 81 ปี

ดังนั้นจึงเห็นได้ว่า โรงเรียนช่างก่อสร้างอุเทนถวายนี้ เป็นสถาบันการศึกษาที่พระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชทานที่ดินและพระราชทานเงินในการสร้างโรงเรียนขึ้นมา ทั้งก่อนหน้าที่ จะมีการออกพระราชบัญญัติโอนกรรมสิทธิ์ ที่ดินอันเป็นทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ตำบลปทุมวัน อำเภอปทุมวัน จังหวัดพระนคร ให้จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พุทธศักราช 2482 แต่โดยที่การออกพระราชบัญญัติฯดังกล่าวได้รวมที่ดินพระราชทานของโรงเรียนช่างก่อสร้างอุเทนถวายอยู่กับที่ดินของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยด้วยซึ่งหากการออกพระราชบัญญัติฯของจุฬาฯ มีเจตนาที่ต้องการจะรวมที่ดินพระราชทานของโรงเรียนช่างก่อสร้างอุเทนถวายเป็นของจุฬาฯ ด้วยแล้ว ย่อมถือว่า จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยกระทำการโดยไม่ชอบด้วย กฏหมาย ไม่มีอำนาจหรือนอกเหนืออำนาจหน้าที่ ไม่ถูกต้องตามกฏหมายหรือตามรูปแบบขั้นตอน ไม่สุจริต มีลักษณะเป็นการเลือกปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรมหรือเป็นการใช้ดุลพินิจโดยมิชอบต่อโรงเรียนก่อสร้างอุเทนถวายอย่างแน่แท้

บัดนี้โรงเรียนช่างก่อสร้างอุเทนถวายมีความประสงค์ที่จะรับโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินดังกล่าวจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเพื่อให้เป็นไปตามพระราชประสงค์ของพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งพระราชดำรัส พระราชดำรัส พระราชประสงค์ของพระมหากษัตริย์ นั้นล้วนมีผลเป็นกฏหมาย ดังคำที่กล่าวว่า

“พระบรมราชานุภาพ ของพระเจ้าแผ่นดิน กรุงสยามนี้ไม่ได้ปรากฏในกฏหมายอันหนึ่งอันใด ด้วยเหตุที่ถือว่าเป็นที่ล้นพ้น ไม่มีข้อสั่งอันใดจะเป็นผู้บังคับขัดขวางได้”

จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณาดำเนินการ ผลเป็นประการใดโปรดแจ้งให้ทราบด้วยเพื่อจักได้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ต่อไป

ขอแสดงความนับถือ
นายลิขิตจิตประวัติ
นายกสโมสรนักศึกษาวิทยาเขตอุเทนถวาย 
ลงนามแทนนักศึกษาอุเทนถวายทั้งหมด

...

ล่าสุดทางจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้ออกแถลงการณ์ตอบโต้ โดยข้อชี้แจงแบ่งออกเป็น ห้าประเด็น มีใจความสำคัญคือนศ.อุเทนถวายมีความเข้าใจทางประวัติศาสตร์ รวมถึงได้มีการนำหลักฐานทางประวัติศาสตร์เกี่ยวกับสิทธิที่ดินผืนดังกล่าวมาตีความอย่างคลาดเคลื่อนไปจากความเป็นจริงมากพร้อมทั้งได้นำเสนอข้อคิดเห็นที่โต้แย้งกับการตีความดังกล่าวโดยมีรายละเอียดดังนี้
 

เรื่อง “ไขข้อข้องใจกรณีจดหมายจากสโมสรนักศึกษา มทร. ตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย เรื่อง ขอให้จุฬาฯ โอนกรรมสิทธิ์ที่ดินคืนให้แก่โรงเรียนช่างก่อสร้างอุเทนถวาย”

สืบเนื่องจากสโมสรนักศึกษามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออกวิทยาเขตอุเทนถวาย ได้ยื่นจดหมาย ลงวันที่ 15 มีนาคม 2556 ถึงอธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เรื่องขอให้โอนกรรมสิทธิ์ที่ดินคืนให้แก่โรงเรียนช่างก่อสร้างอุเทนถวาย
   
ทั้งนี้ เนื้อความของจดหมาย ดังกล่าวมีการกล่าวอ้างข้อมูลที่มีความคลาดเคลื่อนไปจากความเป็นจริง ซึ่งอาจก่อให้เกิดการเข้าใจผิดในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับกรณีที่ดินของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ทางมหาวิทยาลัยจึงขอชี้แจงข้อเท็จจริงดังต่อไปนี้

ประเด็นที่หนึ่ง  ในจดหมายได้กล่าวอ้างว่า โรงเรียนช่างก่อสร้างอุเทนถวายได้ก่อกำเนิดขึ้นจากพระราชประสงค์ของพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัวที่จะสืบทอดพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวซึ่งทรงห่วงใยในศิลปะการช่างของไทยว่าจะถูกตะวันตกเข้าครอบงำซึ่งทางประวัติศาสตร์ พระราชดำริดังกล่าวนั้นเป็นที่มาของการก่อตั้ง “โรงเรียนเพาะช่าง” บนถนนตรีเพชร  ในปี 2456 มิใช่ที่มาของ “โรงเรียนช่างก่อสร้างอุเทนถวาย” ซึ่งได้ถือกำเนิดขึ้นมาในปี 2475 หรือ19 ปีหลังจากก่อตั้งโรงเรียนเพาะช่าง

ประเด็นที่สอง ในจดหมายมีการกล่าวอ้างว่าพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัวพระราชทานที่ดินแก่โรงเรียนก่อสร้างอุเทนถวายก่อน พ.ร.บ.โอนกรรมสิทธิ์ที่ดินให้แก่จุฬาฯ ในปี 2482 โดยอ้างอิง หนังสือหอรัษฎากรพิพัฒน์และหนังสือกระทรวงวังนั้น พบว่ามีการตีความเอกสารดังกล่าวคลาดเคลื่อนเนื่องจากข้อความในเอกสารอ้างอิงทั้ง 2 ฉบับ ปรากฏแต่เพียงว่าเป็นการพระราชทานเงินเพื่อสร้าง “โรงเรียนนักเรียนเพาะช่าง” มิได้มีความหมายไปถึงสิทธิในที่ดินแต่อย่างใด

ประเด็นที่สาม  การกล่าวอ้างว่าที่ดินช่างก่อสร้างอุเทนถวายเช่าอยู่ไม่เคยเป็นส่วนหนึ่งของจุฬาฯ มาก่อนปี 2482 นั้น เมื่อพิจารณาหลักฐานทางประวัติศาสตร์ ได้แก่ ประกาศกระแสพระบรมราชโองการบรรจุในศิลาพระฤกษ์โรงเรียนข้าราชการพลเรือน ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว 2458 ซึ่งมีการระบุเขตที่ดินของโรงเรียนข้าราชการพลเรือน ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว 2458 ซึ่งมีการระบุเขตที่ดินของโรงเรียนข้าราชการพลเรือนฯ ซึ่งต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็นจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยไว้อย่างชัดเจนว่า ทิศเหนือจรดถนนสระปทุม ทิศใต้จรดถนนหัวลำโพง ทิศตะวันออกจรดถนนสนามม้า และทิศตะวันตกจดคลองสวนหลวง ดังนั้นจึงครอบคลุมพื้นที่ที่โรงเรียนช่างก่อสร้างอุเทนถวายตั้งอยู่อย่างแน่นอน

ประเด็นที่สี่ การอ้างอิงคำสั่งกระทรวงธรรมการ เรื่องตั้งโรงเรียนวิสามัญศึกษาช่างก่อสร้างนั้น เอกสารดังกล่าวกล่าวถึงที่ตั้งของโรงเรียนเท่านั้นมิได้มีการระบุเรื่องการมอบกรรมสิทธิ์ที่ดินเพราะอยู่นอกเหนืออำนาจเสนาบดีจึงไม่ใช่เอกสารเกี่ยวกับสิทธิที่ดินแต่อย่างใด

ประเด็นที่ห้า  การตราพระราชบัญญัติโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินอันเป็นทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ตำบลปทุมวัน อำเภอปทุมวัน จังหวัดพระนคร ให้จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พุทธศักราช 2482 ซึ่งส่งผลทางกฏหมายให้มหาวิทยาลัยมีสิทธิ์โดยชอบธรรมในการถือกรรมสิทธิ์และมีอำนาจจัดการที่ดินผืนดังกล่าวอย่างถูกต้อง ซึ่งการตราพระราชบัญญัติดังกล่าว นับเป็นการสืบสานพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว ผู้ทรงสถาปนาจุฬาฯ ซึ่งทรงมีพระประสงค์จะให้มหาวิทยาลัยแห่งนี้ เป็นทั้งพระบรมราชานุสาวรีย์ เชิดชูพระเกียรติยศพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็น “มหาวิทยาลัยสง่าพระนคร” และเป็นสถาบันการศึกษาของชนชาวสยาม

จะเห็นได้ว่า เนื้อหาในจดหมายเปิดผนึกดังกล่าวเป็นการตีความเอกสารที่คลาดเคลื่อน เนื่องจากข้อเท็จจริงนั้น ที่ดินที่ทางอุเทนถวายเช่าอยู่เป็นกรรมสิทธิ์ของจุฬาฯ อย่างถูกต้องสมบูรณ์ตามกฏหมายและหลักฐานทางประวัติศาสตร์  อีกทั้งกรณีที่มีการกล่าวอ้างว่ามหาวิทยาลัยจะคืนพื้นที่ มทร.ตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวายเช่าอยู่นี้ เพื่อไปทำเชิงพาณิชย์นั้นทางมหาวิทยาลัยก็ได้มีการชี้แจงไปแล้วว่า พื้นที่ดังกล่าวจะได้รับการพิจารณาภายใต้ “โครงการศูนย์นวัตกรรมงานสร้างสรรค์เพื่อชุมชน” ซึ่งเป็นการขยายพื้นที่การศึกษาของมหาวิทยาลัย รวมทั้งเป็นการสร้างศูนย์รวมด้านการวิจัยที่จะให้เป็นประโยชน์อันมหาศาลต่อเศรษฐกิจของประเทศและต่อสังคมไทยโดยรวม

จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยจึงขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายเคารพกฏหมายและคำตัดสินของ“คณะกรรมการพิจารณาชี้ขาดการยุติการดำเนินคดีแพ่งของส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง (กยพ.)” ซึ่งเป็นหน่วยงานรัฐที่มีหน้าที่โดยตรงในการยุติการดำเนินคดีแพ่งระหว่างส่วนราชการ ที่ได้พิจารณาเรื่องนี้อย่างรอบคอบและรอบด้าน โดยมีมติให้อุเทนถวายขนย้ายและส่งมอบพื้นที่คืนให้กับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นับตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2549

ทั้งนี้ คณะรัฐมนตรีได้มีมติรับทราบผลการตัดสินชี้ขาดของกยพ. เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2553
   
นอกจากนี้ การยื่นถวายฎีกาของตัวแทนฝ่ายอุเทนถวาย ยังได้รับหนังสือตอบกลับจากทางสำนักราชเลขาธิการแจ้งให้เป็นไปตามคำวินิจฉัยชี้ขาดของ กยพ. เมื่อวันที่ 4 กุมพาพันธ์ 2554 ซึ่งถือเป็นการยุติ

อย่างไรก็ดี ทางจุฬาฯก็มิได้เร่งให้อุเทนถวายย้ายออกจากพื้นที่ในขณะนี้แต่อย่างใด จุฬาฯสนับสนุนมติของ กยพ.ที่ขอให้กระทรวงศึกษาธิการจัดหาสถานที่และงบประมาณให้กับอุเทนถวายเพื่อการนี้ต่อไป

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1371805018&grpid=01&catid=&subcatid=

[เหยง 16]

พายุลูกใหม่มีชื่อเรียกแล้วว่า เบบินคา Bebinca และพัฒนาจากดีเปรสชั่นเป็นพายุโซนร้อน
ยังอยู่ในทะเล มุ่งหน้าขึ้นฝั่งประเทศจีน, เวียตนามและลาวเหนือ ผ่านเกาะไหหลำ

พยากรณ์อากาศ ประจำวันเสาร์ที่ 22 มิถุนายน 2556
ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา
"พายุ “เบบินคา” (BEBINCA) "
ฉบับที่ 5 ลงวันที่ 22 มิถุนายน 2556

ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น.  เมื่อเวลา 04.00 น. วันนี้ (22 มิ.ย. 56) พายุโซนร้อน “เบบินคา” (BEBINCA) บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน มีศูนย์กลางห่างประมาณ 200 กิโลเมตร ทางตะวันออกของเกาะไหหลำ ประเทศจีน หรือที่ ละติจูด 19.5 องศาเหนือ ลองจิจูด 112.3 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลาง ประมาณ 65 กม./ชม. และกำลังเคลื่อนที่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือด้วยความเร็วประมาณ 18 กม./ชม. คาดว่า พายุนี้จะเคลื่อนผ่านเกาะไหหลำ และขึ้นฝั่งบริเวณประเทศจีนตอนใต้ในคืนนี้ ต่อจากนั้นจะอ่อนกำลังลง โดยอิทธิพลของพายุนี้ทำให้ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้นในระยะ 2-3 วันนี้
มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามันตอนบน ประเทศไทย และอ่าวไทย ทำให้ด้านตะวันตกของภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบนมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่งในระยะนี้ สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ส่วนชายฝั่งภาคตะวันออกมีคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณดังกล่าวเพิ่มความระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือ และเรือเล็กในทะเลอันดามันตอนบนควรงดออกจากฝั่งต่อไปอีกจนถึงวันที่ 23 มิถุนายน 2556 ไว้ด้วย
 
พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.

ภาคเหนือ  มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงราย เชียงใหม่ พะเยา น่าน อุตรดิตถ์ ตาก กำแพงเพชร พิษณุโลก และเพชรบูรณ์
อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
 
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ  มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
บริเวณจังหวัดหนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี สกลนคร นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ และ อุบลราชธานี
อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
 
ภาคกลาง  มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่
และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดกาญจนบุรี และราชบุรี
อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
 
ภาคตะวันออก  มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่
และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดจันทบุรี และตราด
อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร
 
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)  มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และสุราษฏร์ธานี
อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งมีคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร
 
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)  มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดระนอง พังงา และภูเก็ต
อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-40 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร
 
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล  มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่
โดยกลุ่มฝนจะเคลื่อนจากทางด้านตะวันตกไปทางตะวันออก
อุณหภูมิต่ำสุด 26-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
 

[เหยง 16]

อีกสักครู่จะออกเดินทางไปวัดบุดดา ต.บางกระบื้อ อ.เมือง สิงห์บุรีครับ

กลับค่ำๆ

[เริง2520]

ครับผม
รอชมภาพเนาะ

[เริง2520]

พี่เหยงมาเข้าเว้ปแล้วนี่

[เหยง 16]

น้องเริง


กลับมาแล้วครับ
114 ก.ม. ใช้เวลาขับรถกลับเกือบ 2 ชั่วโมง ฝนตกหนักมาก
ขอรีไซส์ภาพก่อนครับ

[เริง2520]

ดึกแล้ว พักก่อนเนาะ

[เหยง 16]

พายุโซนร้อน"เบบินคา" วิ่งเป็นรูปตัวเอส S ผ่านเกาะไหหลำเข้าสู่เวียตนามตอนเหนือ
ฝนตกน้อยลงในภาคใต้ทั้งสองฝั่ง

พยากรณ์อากาศ ประจำวันอาทิตย์ที่ 23 มิถุนายน 2556
ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 10:00 น.  เมื่อเวลา 07.00 น. วันนี้ (23 มิ.ย. 56) พายุโซนร้อน “เบบินคา” (BEBINCA) มีศูนย์กลางบริเวณ
อ่าวตังเกี๋ยห่างจากกรุงฮานอย ประเทศเวียดนามประมาณ 220 กิโลเมตรหรือที่ ละติจูด 19.4 องศาเหนือ ลองจิจูด 107.2 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลาง ประมาณ 65 กม./ชม. และกำลังเคลื่อนที่ทางทิศตะวันตก
ค่อนทางเหนือเล็กน้อยด้วยความเร็วประมาณ 18 กม./ชม. คาดว่า พายุนี้จะขึ้นฝั่งระหว่างบริเวณประเทศจีนตอนใต้และเวียดนามตอนบนในคืนวันนี้(23 มิ.ย. 56) ต่อจากนั้นจะอ่อนกำลังลง โดยอิทธิพลของพายุนี้ทำให้ภาคเหนือ และ
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนของประเทศไทยมีฝนตกหนักถึงหนักมากในระยะ 2-3 วันนี้
มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามันตอนบน ประเทศไทย และอ่าวไทย ทำให้ด้านตะวันตกของภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบนมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่งในระยะนี้ สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ส่วนชายฝั่งภาคตะวันออกมีคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณดังกล่าวเพิ่มความระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือ และเรือเล็กในทะเลอันดามันตอนบนควรงดออกจากฝั่งต่อไปอีกจนถึงวันที่ 23 มิถุนายน 2556 ไว้ด้วย
 
พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 12:00 วันนี้ ถึง 12:00 วันพรุ่งนี้.

ภาคเหนือ  มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
บริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงราย เชียงใหม่ พะเยา น่าน อุตรดิตถ์ ตาก กำแพงเพชร พิษณุโลก และเพชรบูรณ์
อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.  

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 80 ของพื้นที่
และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง บริเวณจังหวัดหนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี สกลนคร นครพนม
มุกดาหาร อำนาจเจริญ และ อุบลราชธานี
อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-32 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
 
ภาคกลาง  มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่
และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดกาญจนบุรี และราชบุรี
อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
 
ภาคตะวันออก  มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่
และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดจันทบุรี และตราด
อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร  

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)  มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และสุราษฏร์ธานี
อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งมีคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร
 
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)  มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่
และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดระนอง และพังงา
อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-40 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร  

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล  มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่
โดยกลุ่มฝนจะเคลื่อนจากทางด้านตะวันตกไปทางตะวันออก
อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.  
 

[เหยง 16]

เวียดนามรับมือ “เบบิงกา” พายุโซนร้อนเข้าอ่าวฮาลองวันอาทิตย์นี้
23 มิถุนายน 2556 03:35 น.


 
       .
       ASTVผู้จัดการออนไลน์ - เกิดพายุลมแรง และฝนตกหนักในหลายจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือเวียดนามวันเสาร์นี้ ในขณะที่พายุเบบิงกา (Bebinca) พัดเข้าสู่เกาะไหหลำของจีนที่อยู่ห่างออกไปหลายร้อยกิโลเมตร และคาดว่าจะพัดขึ้นฝั่งในบริเวณรอยต่อชายแดนจีน-เวียดนามในบ่ายวันอาทิตย์ 23 มิ.ย.นี้ และจะอ่อนกำลังลงอย่างรวดเร็ว
       
       ศูนย์อุตุนิยมวิทยาและอุทกศาสตร์กลางในกรุงฮานอย ได้ออกคำแถลงค่ำวันเสาร์ที่ผ่านมา เตือนประชาชนท้องถิ่นต่างๆ เตรียมรับมือกับฝนที่จะตกหนักในช่วง 2-3 วันข้างหน้า และถึงแม้ว่าหลายสำนักจะพยากรณ์ว่า พายุจะพัดขึ้นเหนือเข้าสู่แผ่นดินใหญ่จีน แต่ยังมีโอกาสที่จะพัดออกทิศตะวันตก หรือตะวันตกเฉียงเหนือเข้าเวียดนามเต็มกำลัง
       
       เกิดฝนตกหนักที่สุดในเขตอ่าวฮาลอง จ.กว๋างนีง ในวันเสาร์นี้ รวมทั้งนครหายฝ่อง ที่อยู่ติดกัน ศูนย์อุตุนิยมวิทยาฯ กล่าวว่า กรุงฮานอย เมืองหลวงกำลังจะได้รับอิทธิพลจากพายุโซนร้อนลูกนี้ซึ่งจะเสริมกำลังให้แก่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ทำให้เกิดฝนตกหนักตั้งแต่เขตที่ราบปากแม่น้ำแดง ลงไปจนถึง จ.ห่าตี๋ง ในภาคกลางตอนบน กับ จ.ซยาลาย ในเขตที่ราบภาคกลางของประเทศ ไปจนถึงวันจันทร์
       
       กำลังจะเกิดฝนตกหนักวัดได้ 150-250 มิลลิเมตร ในภาคเหนือตอนล่าง ตั้งแต่ จ.ห่านาม ถายบิ่ง นามดีง ไปจนถึง จ.นีงบี่ง ส่วนกรุงฮานอย กับจังหวัดปริมณฑลคาดว่าจะวัดน้ำฝนได้ 100-150 มม. ศูนย์อุตุนิยมวิทยาฯ กล่าว
       
       ในขณะเดียวกัน พายุกำลังทำให้เกิดคลื่นลมแรงในอ่าวตังเกี๋ย ทางการจังหวัดต่างๆ โดยรอบได้สั่งเรือประมงราว 17,700 ลำ ห้ามออกจากฝั่ง ขณะที่ยังมีอีก 68 ลำ พร้อมลูกเรือราว 800 คน กำลังหาปลาอยู่ในทะเลรอบๆ หมู่เกาะพาราเซล สำนักข่าวอานนีงทูโดรายงานในเว็บไซต์
       
       พายุเบบิงกา ที่ตั้งชื่อโดยทางการเขตพิเศษมาเก๊า เป็นลูกที่ 2 ที่ก่อตัวขึ้นในทะเลจีนใต้ในปี้นี้
       
       ก่อตัวเป็นดีเปรสชันวันที่ 20 มิ.ย.ที่ผ่านมา ในทะเลทางตะวันออกเฉียงเหนือหมู่เกาะฟิลิปปินส์ และทวีความเร็วขึ้นเป็นพายุโซนร้อน ในวันที่ 21 คาดว่าจะเคลื่อนตัวผ่านเกาะไหหลำในคืนวันเสาร์ ก่อนอ่อนตัวลงเป็นดีเปรสชัน
       
       แต่เบกิงกา กำลังจะปั่นตัวเองขึ้นอีกครั้งหนึ่งเป็นพายุโซนร้อน ขณะพัดขึ้นฝั่งในเขตรอยต่อชายแดนจีน-เวียดนาม ตอนบ่ายวันอาทิตย์นี้ และคาดว่าจะอ่อนตัวลงอย่างรวดเร็วเป็นดีเปรสชันอีกครั้ง แต่สำหรับเวียดนามมีประสบการณ์มากพอที่ทำให้มองในแง่ร้ายยิ่งกว่านั้นและเตรียมตัวตั้งรับ
       
       ศูนย์อุตุนิยมวิทยาและอุทกศาสตร์กลางในกรุงฮานอย กล่าวว่า ปีนี้อาจจะมีไต้ฝุ่นพัดเข้า “ทะเลตะวันออก” ถึง 13 ลูกซึ่งมากกว่าทุกๆ ปี และจะมี 5-6 ลูกที่พัดขึ้นฝั่งเวียดนาม.
       .

จาก http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrView.asp?NewsID=9560000075854
 

[เหยง 16]

ข่าวดี..ในวันหยุดวันนี้.......

วันที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2556 เวลา 00:01 น.  ข่าวสดออนไลน์
"เศรษฐกิจไทย"ก็มีข่าวดี
ทวี มีเงิน

เสาร์ สบายๆ ฉบับนี้มาดูข่าวดีๆ ให้ชื่นใจหลังจากที่หายใจไม่ทั่วท้องเมื่อ "มูดี้ส์อินเวสเตอร์ เซอร์วิส" ออกบทวิเคราะห์เป็นห่วงโครงการรับจำนำข้าวจะทำให้ความน่าเชื่อถือของไทยน้อย ลง

ถัดมาไม่กี่วันก็มีข่าวดีให้ชื่นใจเมื่อ "ไอเอ็มเอฟ" ออกรายงานประเมินเศรษฐกิจไทยปี 2556 ระบุว่าเศรษฐกิจไทยมีความสามารถในการปรับตัว เพื่อรองรับความเสี่ยงต่างๆ ได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นวิกฤตการณ์การเงินโลก ปัญหาห่วงโซ่อุปทานหยุดชะงักจากเหตุการณ์สึนามิถล่มญี่ปุ่น จนถึงน้ำท่วมใหญ่ เมื่อปี 2554

ยังระบุอีกว่า เศรษฐกิจไทยแม้จะมีสัญญาณชะลอตัวในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ แต่คาดว่าในปี 2556 จะขยายตัวได้ 4.75% และในปี 2557 ได้ 5.25% โดยมีแรงขับเคลื่อนจาก ภาคเอกชนที่ขยายตัวในเกณฑ์ดี และการเร่งใช้จ่ายภาครัฐแต่ยังมีปัจจัยเสี่ยงจากภายนอก

ด้านการ เมืองมีเสถียรภาพมากขึ้นส่งผลดีต่อความน่าเชื่อของนักลงทุน ส่วนความผันผวนของเงินทุนเคลื่อนย้ายและหนี้สินครัวเรือนจะเป็น "ความเสี่ยงเพิ่ม" ในระยะต่อไป ไอเอ็มเอฟสนับสนุนความตั้งใจของไทยที่จะรักษากรอบวินัยการคลัง โดยกำหนดสัดส่วนหนี้สาธารณะไม่เกิน 50% ของจีดีพี และงบประมาณสมดุลในปี 2560 การผ่อนคลายนโยบายการเงินของแบงก์ชาติก็จะช่วยสนับสนุนเศรษฐกิจไทยให้ขยาย ตัวอย่างต่อเนื่อง

ถือว่าไอเอ็มเอฟมองเศรษฐกิจไทยค่อนข้างบวก แต่ก็ยัง ทิ้งท้ายว่าเมื่อเศรษฐกิจไทยขยายตัวอย่างต่อเนื่องเป็นโอกาสดีที่ภาครัฐทยอย ลดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจลง

นอกจากนี้ "ดีเอชแอล" บริษัทรับส่งสินค้ายักษ์ใหญ่ของโลกได้ทำ "ดัชนีการเชื่อมโยงระดับโลกครั้งที่ 2" ไทยขยับจากอันดับที่ 20 มาอยู่ที่ 15 เหนือกว่าไต้หวันและมาเลเซีย

แสดงว่าประเทศไทยเชื่อมโยงกับโลกภายนอกได้อย่างดี

ล่าสุด "ไอเอ็มดี" ซึ่งเป็นสถาบันจัดอันดับขีดความสามารถประเทศต่างๆ 60 ประเทศทั่วโลก ได้จัดอันดับของไทยในปี 2556 ให้อยู่ในอันดับที่ 27 จากเดิมอันดับที่ 30 ตัวชี้วัดที่ดีขึ้นจากเดิมมากมีทั้งหมด 4 กลุ่ม คือสมรรถนะทางเศรษฐกิจ ประสิทธิภาพของรัฐบาล ประสิทธิภาพของธุรกิจ และโครงสร้างพื้นฐาน

อย่างไรก็ตามหากเทียบกับกลุ่มประเทศอาเซียน ไทยยังตามหลังสิงคโปร์และมาเลเซีย แต่ยังดีกว่าฟิลิปปินส์และอินโดนีเซีย

วันหยุดพักผ่อนมีข่าวดีๆ เข้ามาคงได้หายเครียดกันบ้าง

http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNM01UZ3lOelExTnc9PQ==&sectionid=   
 
   
 

[เริง2520]

กิจกรรมของคณเภสัชฯ เมื่อวานเป็นอย่างไรบ้าง

และวันนี้นครศรีฯไม่มีฝนตก

[เหยง 16]

น้องเริง

ไปเดินที่อุทยานสวรรค์มา
มีกิจกรรมองหน้ากากขาว ซึ่งมีผู้สนใจติดตามพอสมควรทีเดียว

[เหยง 16]

		อ้างถึง			ข้อความของ เริง2520 เมื่อ 23 มิถุนายน 2556, 17:49:51
	กิจกรรมของคณเภสัชฯ เมื่อวานเป็นอย่างไรบ้าง และวันนี้นครศรีฯไม่มีฝนตก

น้องเริง

นครสวรรค์ฝนก็ไม่ตก
แต่คาดว่าพรุ่งนี้เป็นต้นไป ภาคเหนือ อีสาน จะได้รับอิทธิพลของพายุครับ

[เหยง 16]

ขอน้อมส่งดวงวิญญานของพี่เปรมประจักร์ โปตะวนิช สู่สวรรค์ชั้นฟ้า
ในวันฌาปนกิจ (วันนี้)

<a href="http://www.youtube.com/watch?v=KeNV0N9Py88" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=KeNV0N9Py88</a>